• ทำเล : ตั้งอยู่ทำเลพหลโยธิน ใกล้แยกเกษตรฯ เข้า-ออกถนนหลัก 3 สาย พหลโยธิน เกษตรนวมินทร์ และเสนานิคม มีตัวเลือกในการเดินทางไปใช้ รถไฟฟ้าสถานีเสนานิคม ได้
  • รูปแบบโครงการ : มีเพียง 13 หลัง ได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย เป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดเล็ก เน้นความปลอดภัย หน้าบ้านทุกหลังติดสวนส่วนกลาง บรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่อาศัย
  • การออกแบบบ้าน : บ้านสไตล์ Modern Classic เน้นความโปร่งโล่ง โถงสูง Double Volume ได้ลิฟต์ สระว่ายน้ำ และที่จอดรถใต้ดินแบบส่วนตัว จัดเต็มระบบ Fully Home Automation ในบ้านทุกหลัง

ข้อมูลโครงการ

One Atelier Private Residence Phaholyothin (วัน แอททีเลียร์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ พหลโยธิน) ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565

 ชื่อโครงการ   One Atelier Private Residence Phaholyothin (วัน แอททีเลียร์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ พหลโยธิน)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท แกรนด์ ทรีนีตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
 SEGMENT CLASS   LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   พหลโยธิน ซอย 34 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร
 ที่ดิน   1-2-35 ไร่
 จำนวนยูนิต    จำนวน 13 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • ATINA (Type A) ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น ที่ดิน 29.6-46.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 457 – 600 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์  1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 29.9 ล้านบาท
  • BIANCA (Type B) ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น ที่ดิน 22-33.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 346 – 394 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
  • CORINA (Type C) บ้านแฝด 4.5 ชั้น ที่ดิน 43.6-47 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 515 – 542 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 4 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท (Sold Out)

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.7 เมตร / Double Volume 5 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      N/A
 เริ่มก่อสร้าง   Q2/2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   Q4/2565
 เว็บไซต์โครงการ   www.grandtrinity.com/one-atelier-private-residence-phaholyothin/
 โทร   061-165-0550
 Call Center   061-165-0550

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.836709, 100.589058
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ

โครงการ One Atelier Private Residence พหลโยธิน ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน ซอย 34 ไม่ไกลจากแยก ม.เกษตรฯ หรือสามารถเข้าจากถนนเกษตร-นวมิทร์ หรือจะขับไปถนนเสนานิคม ถนนลาดปลาเค้า ไปลาดพร้าว-วังหิน ,โชคชัย4 ก็ได้เช่นกัน การเดินทางจากโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองโดยใช้ถนนพหลโยธินไปจตุจักร มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ฯ และสยาม หรือใช้ถนนรัชดาภิเษกไปออกพระรามเก้า ไปรัชดา อโศก RCA เอกมัย ทองหล่อ หรือจะออกนอกเมืองก็ใช้ถนนพหลโยธินไปสะพานใหม่ และรังสิต หรือไปออกวิภาวดีรังสิตขึ้นทางด่วนก็ได้ ถ้าจะไปทางแคราย รัตนาธิเบศร์ สะดวกมากเลี้ยวออกจากซอยประเสริฐมนูกิจ วิ่งตรงไปงามวงศ์วานได้เลย หรือถ้าใช้ถนนประเสริฐมนูกิจ เกษตร-นวมินทร์ ก็สามารถไปโซนรามอินทราได้

ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ ถ้าในระยะใกล้ไม่เกิน 1 กิโลเมตรถือว่าหาได้ไม่ยาก มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาเก็ตขนาดเล็ก ตลาดศรีเสนา เป็นตลาดสดในพื้นที่แถวนี้ หรือไป Home Village Kaset ก็เป็นแหล่งรวมร้านอาหารเจ้าอร่อย ที่อยู่ตรงข้าม ม.เกษตรศาสตร์ แต่หากมองที่ไกลออกไปหน่อยก็เรียกได้ว่ามีครบหมด ทั้งแหล่งอาหาร แหล่ง Shopping โรงพยาบาล และสถานศึกษา ตามแนวถนนพหลโยธินตึกแถวด้านหน้าจะเป็นร้านต่างๆที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายผลไม้ คลีนิก ธนาคาร ตลาดบางเขน เป็นต้น ถ้าต้องการช้อปปิ้งเดินห้างก็มีเมเจอร์รัชโยธิน, Tesco Lotus, เซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์ ก็ถือว่าอยู่ไม่ไกลจากโครงการ

ในส่วนของการเดินทางนอกเหนือจากการใช้รถยนต์หรือรถโดยสารเพื่อมายังโครงการแล้ว การเดินทางด้วยระบบขนส่งอย่าง รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ก็จะมาช่วยเรื่องรถติดและสร้างความสะดวกในการเดินทางได้ สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีเสนานิคม จะอยู่ที่ปากซอยพหลโยธิน ซอย 34 รวมระยะทางจากโครงการถึงสถานีประมาณ 1.7 km.

เริ่มการเดินทางไปโครงการในวันนี้โดยใช้เส้นทางจากถนนงามวงศ์วานแล้วมาเลี้ยวขวาที่สี่แยกเกษตร เพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน จากนั้นวิ่งตรงมาผ่านสถานีรถไฟฟ้าเสนานิคม แล้วมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน 34  วิ่งตรงเข้ามาจากปากซอยประมาณ 1.7 กม. โครงการจะอยู่เกือบสุดซอยพหลโยธิน 34 ที่ตั้งโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายชื่อ ทางเข้า-ออกโครงการ มองเห็นได้ชัดเจน

Image 1/6
ใช้เส้นทางจากถนนงามวงศ์วานแล้วมาเลี้ยวขวาที่สี่แยกเกษตร เพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน

ใช้เส้นทางจากถนนงามวงศ์วานแล้วมาเลี้ยวขวาที่สี่แยกเกษตร เพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน

สำนักงานขายโครงการจะตั้งอยู่ภายในพื้นที่โครงการ สามารถแวะเข้าไปเยี่ยมชมและสอบถามข้อมูลของโครงการได้ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

  • ทิศเหนือ ติดกับ ที่ว่าง เลยถัดไปเป็นอาคารพักอาศัย 6 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ซอยพหลโยธิน 34 และบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยย่อยและอาคาร 3 ชั้น

โดยภาพรวมจะเห็นว่าบริเวณโดยรอบโครงการ One Atelier Private Residence พหลโยธิน สิ่งปลูกสร้างรอบๆโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่ ส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ และพื้นที่ว่าง ทางทิศเหนือของโครงการจะมีอาคารพักอาศัยสูง 6 ชั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด มีที่ว่างขนาดใหญ่คั่นอยู่ พื้นที่โดยรอบ ไม่มีแหล่งเสื่อมโทรม ไม่มีโรงงานหรือแหล่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะ บรรยากาศโดยรวมเป็นชุมชนพักอาศัยค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย

Image 1/4
บริเวณด้านหน้าโครงการทางฝั่งทิศใต้จะติดกับซอยพหลโยธิน 34 และบ้านพักอาศัย

บริเวณด้านหน้าโครงการทางฝั่งทิศใต้จะติดกับซอยพหลโยธิน 34 และบ้านพักอาศัย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดอมรพันธ์ 2 km.
  • Tops Supermarket เกษตร 2.8 km.
  • Major รัชโยธิน 3 km.
  • Central ลาดพร้าว 4.5 km.
  • Union Mall 5.5 km.
  • The Mall งามวงศ์วาน 5.7 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.เปาโล (เกษตร) 1.7 km.
  • รพ.วิภาวดี 3.4 km.
  • รพ.นนทเวช 5.8 km.

โรงเรียน

  • ม.ศรีปทุม 3.8 km.
  • ม.เกษตรศาสตร์ 4 km.
  • โรงเรียน หอวัง 4.1 km.
  • โรงเรียน นานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ 4.4 km.

สถานที่อื่นๆ

  • BTS เสนานิคม 1.7 km.
  • ทางพิเศษศรีรัช ด่านบางซื่อ 7 km.
  • สนามบินนานาชาติดอนเมือง 15 km.

รายละเอียดโครงการ

One Atelier Private Residence เป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 13 ยูนิต โดยภายในโครงการจะมีทางเข้าออกร่วมกันอยู่จุดเดียว มีแบบบ้านอยู่ 3 แบบ เป็นบ้านแฝด-ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น บนแปลงที่ดินโครงการ 1-2-35 ไร่ จัดเป็นโครงการที่อาศัยขนาดเล็ก จำนวนยูนิตไม่มากเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย และสามารถดูแลจัดการโครงการและเรื่องความปลอดภัยได้ง่าย อีกทั้งการวางผังบ้านจะอยู่ในแนวทิศเหนือใต้ ทำให้หน้าบ้านไม่ปะทะแสงแดดในช่วงเช้าและบ่ายโดยตรง เป็นทิศที่มีลมพัดผ่านรับลมตลอดปี

สิ่งที่น่าสนใจของโครงการในการวางผังคือการออกแบบวางผังให้บ้านอยู่สองฝั่งของพื้นที่โครงการแต่ละหลังเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ตรงกลางที่จัดเป็นพื้นที่สวนและที่นั่งพักผ่อนได้อย่างใกล้ชิด ที่เห็นได้ชัดเจนที่แตกต่างจากโครงการทั่วไป คือแนวคิดการย้ายพื้นที่สำหรับจอดรถไปไว้ในชั้นใต้ดินแทน ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ชั้น 1 ของตัวบ้าน และวางระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมดจึงสามารถใช้พื้นที่ในชั้น 1 ได้อย่างเต็มที่ และทำให้บรรยากาศหน้าบ้านสวยงามเป็นระเบียบมากขึ้น รวมไปถึงบรรยากาศภาพรวมของโครงการด้วยเพราะจะไม่มีรถวิ่งผ่านไปมาและไม่มีสายไฟฟ้าที่หน้าบ้านเลย

สำหรับชั้นจอดรถจะอยู่ชั้น Basement หรือชั้นใต้ดินจะ Fix ตำแหน่งที่จอดไว้ให้บ้านแต่หลังเป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน โดยตำแหน่งของพื้นที่จอดรถจะตรงกับตำแหน่งของตัวบ้านพอดี ดังนั้นเมื่อเราจอดรถเสร็จจะสามารถเข้าสู่พื้นที่ของตัวบ้านได้เลย และทางโครงการได้มีการวางระบบระบายน้ำไว้เป็นอย่างดี หมดกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมในชั้นนี้ โดยมีมาตรการและการออกแบบระบบป้องกันน้ำท่วม ไว้ดังนี้

  • ระดับถนนบริเวณหน้าและทางเข้าโครงการจะสูงกว่าระดับถนนปกติ
  • ระบบป้องกันน้ำดันย้อนจากท่อระบายน้ำเข้าโครงการ
  • ระบบ่อรองรับน้ำใต้ดินมากกว่า 36 คิว
  • ระบบเครื่องสูบน้ำ ทำงานอัตโนมัติได้ทันที
  • ระบบปั้นไฟฟ้าสำรอง เพื่อให้เครื่องสูบน้ำทำงานได้เสมอ
  • จัดเตรียมบังเกอร์พิเศษ ติดตั้งบริเวณทางเข้าเพื่อป้องกันน้ำท่วม

เริ่มจากด้านหน้าทางเข้า-ออกของโครงการจะมีป้ายชื่อโครงการและมองเห็นได้ชัดเจน มีการแบ่งช่องการใช้งานตามเส้นทางของผู้ใช้งานไว้สองฝั่ง มีป้อม รปภ. อยู่ทางด้านข้าง ติดตั้งระบบบันทึกทะเบียนรถ สำหรับลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้สะดวก และมีกล้อง CCTV คอยบันทึกไว้

บริเวณทางเข้า-ออก ของรถยนต์ จะมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่อีกชั้นหนึ่ง เพื่อความปลอดภัย ระบบในการเข้า-ออกโครงการจะเป็น Easy Pass เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทางด้านข้างจะมีประตูบานเปิดไว้ สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ได้ใช้รถ สามารถเข้า-ออกผ่านประตูนี้ได้ง่ายขึ้น โดยจะมีอุปกรณ์ VDO Door Phone ไว้ให้ผู้มาติดต่อ สามารถติดต่อบ้านแต่ละหลังได้

สำหรับทางลงไปชั้นจอดรถ Basement หรือชั้นใต้ดินจะกำหนดความสูงของรถไว้ที่ไม่เกิน 2.2 m.

เมื่อเข้ามาในพื้นที่โครงการจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางพื้นที่ประมาณ 520 ตร.ม. ที่อยู่ตรงกลางก่อนขนาบด้วยบ้านไว้ 2 ฝั่ง ลูกบ้านสามารถเดินออกมาใช้งานได้ง่าย

โดยสวนส่วนกลางจะจัดไว้ให้เลือกใช้งานได้ เช่น Relax Pavilion ตรงกลางสวน , Co-creative Green Space (Courtyard Garden)

โดยรอบของสวนส่วนกลางจะเป็นแนวทางเดินตกแต่งได้บรรยากาศสไตล์ Modern Classic แนวทางเดินจะเชื่อมต่อกับประตูทางเข้าของบ้านแต่ละบ้าน

พื้นที่ภายในสวนถือว่าจัดมาให้เลือกใช้งานได้หลากหลายมีทั้งที่เป็นสนามหญ้าแบบเปิดโล่งให้มาทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ หรือจะเลือกนั่งพักผ่อนตาม Pavilion ที่โครงการเตรียมไว้ให้ก็ได้

บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างร่มรื่นทีเดียว เพราะเน้นการปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ทั้ง 2 ฝั่งของสวน นอกจากได้ร่มเงาแล้วยังช่วยบังสายตาของบ้านฝั่งตรงข้ามได้ด้วย

ชั้นจอดรถ Basement หรือชั้นใต้ดินจะแบ่งช่องจอดของลูกบ้านแต่ละหลังไว้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย โดยมีถนนตรงกลางและช่องจอดของแต่ละบ้านอยู่ 2 ฝั่ง

ที่จอดรถของแต่ละบ้านจะติดตั้งอุปกรณ์ Motion Senser Linghting ไว้ไฟจะเปิดเมื่อมีการใช้งานบริเวณนี้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนส่วนกลาง 520 ตร.ม.
  • Relax Pavilion ตรงกลางสวน
  • Co-creative Green Space (Courtyard Garden)
  • ที่จอดรถชั้นใต้ดินส่วนตัวในบ้านทุกหลัง พร้อม EV Charger
  • ระบบ Home Automation ในบ้านทุกหลัง
  • ระบบ CCTV รอบโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.95 เมตร
  • เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง

แบบบ้าน

โครงการนี้มีรูปแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ แบ่งเป็นบ้านแฝด 1 แบบ และทาวน์โฮม 2 แบบ จำนวน 13 ยูนิต (บ้านแฝด 2 ยูนิต , ทาวน์โฮม 11 ยูนิต) ได้แก่

  • ATINA (Type A) ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น ที่ดิน 29.6-46.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 457 – 600 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์  1 ห้องแม่บ้าน
  • BIANCA (Type B) ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น ที่ดิน 22-33.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 346 – 394 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ 1 ห้องแม่บ้าน
  • CORINA (Type C) บ้านแฝด 4.5 ชั้น ที่ดิน 43.6-47 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 515 – 542 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 4 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ 1 ห้องแม่บ้าน

โครงการขายแบบ Fully Fitted เป็นบ้านเปล่า เราต้องมาซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเอง พื้นชั้น 1 และ Basement เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนชั้นอื่นๆ เป็นพื้นไม้ Engineer wood ทั้งหมด ได้ห้องน้ำสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในเหมือนในบ้านตัวอย่าง มีลิฟต์โดยสาร 1 ตำแหน่ง เครื่องปรับอากาศ และระบบ Fully Home Automation ในบ้านทุกหลัง

รูปแบบบ้านในโครงการจะเป็นบ้านแฝด 4.5 ชั้น และ ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น สไตล์ Modern Classic มีเอกลักษณ์เน้นความเรียบหรู ดูทันสมัย คุมโทนด้วยวัสดุโทนสีขาว เทาและดำที่ลงตัวได้กลิ่นอายยุคคลาสสิค เน้นความเป็นส่วนตัวเพียง 13 ยูนิต สามารถเดินจากสวนหน้าบ้านเข้ามาในบ้านได้โดยตรง ได้ทัศนียภาพที่ดีมุมมองจากในบ้านสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวได้อย่างใกล้ชิด ช่วยเพิ่มความร่มรื่นในการอยู่อาศัย

ตัวบ้านทุกแบบจะเน้นพื้นที่ใช้สอยเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ ตอบโจทย์บ้านที่มีผู้สูงอายุเพราะมีลิฟต์โดยสารภายในบ้านสามารถขึ้น-ลงไปชั้นบนได้ง่ายและปลอดภัย พื้นที่ใช้สอยเน้นปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่าย แต่ยังคงใช้งานได้เป็นส่วนตัว ภายในตัวบ้านเน้นความโปร่งโล่งด้วยโถงสูงในชั้น 1 ของตัวบ้าน  ส่วน Service ต่างๆจัดแบ่งโซนไว้เป็นสัดส่วนดีไว้ที่ชั้น Basement ของตัวบ้าน แม้แต่ตำแหน่งที่ตั้ง Condensing units ของเครื่องปรับอากาศ ก็มีที่วางที่ไม่เกะกะสายตา มิดชิดแต่ก็เข้าไปบำรุงรักษาได้ง่าย ไม่รบกวนพื้นที่ใช้งานอื่นๆ

ATINA (Type A) ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น ที่ดิน 29.6-46.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 457 – 600 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์  1 ห้องแม่บ้าน และสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า

ชั้น Basement หรือชั้นใต้ดิน ตำแหน่งของพื้นที่จอดรถจะตรงกับตำแหน่งของตัวบ้านพอดี ดังนั้นเมื่อเราจอดรถเสร็จจะสามารถเข้าสู่พื้นที่ของตัวบ้านได้เลย บ้านหลังนี้จะมีพื้นที่จอดรถ 3 คัน และ Superbike 1 คัน ถัดเข้ามาจะเป็นส่วน Service ของตัวบ้านการแยกโซนแบบนี้ช่วยแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนพื้นที่ใช้งานในชั้นบนของเจ้าของบ้าน มีลิฟต์โดยสารและบันไดเชื่อมต่อมาใช้งานในส่วนนี้ได้สะดวก

ชั้น 1 เมื่อเข้ามาในบริเวณบ้านโดยรอบทางโครงการจะมีจัดสวนไว้ให้ ด้านหน้ามีพื้นที่ชานระเบียงให้เรานั่งพักผ่อนหน้าบ้านของตนเองได้ เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอโถง Foyer ของตัวบ้าน บ้านชั้น 1 พื้นที่ทั้งหมดจะเน้นความโปร่งโล่งแบบ Double Volume ใช้กระจกขนาดใหญ่ สามารถจัดเป็นส่วนรับแขก นั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และเตรียมพื้นที่ครัวแบบ Pantry  ไว้ให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง มีห้องน้ำแบบ Powder room ให้พร้อมใช้งาน

ชั้น Mezzanine หรือชั้นลอยของตัวบ้าน จะเจอกับส่วน Multi Purpose Area สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่น เป็นพื้นที่ Family Area ของครอบครัว กรณีมีแขกมาบ้านใช้งานห้องรับแขกชั้นล่างอยู่ สมาชิกคนอื่นๆก็สามารถมานั่งพักผ่อนตรงนี้ได้ หรือจะปรับเป็นห้องทำงาน ห้องอเนกประสงค์ก็ได้เช่นกัน และมองลงมาเห็นพื้นที่ชั้น 1 ของตัวบ้านได้

ชั้น 2 เป็นชั้นพักอาศัยเน้นไปที่ห้องนอนทั้งหมดแบ่งเป็น 2 ห้องนอนตำแหน่งอยู่ทางด้านหน้าและทางด้านหลังของชั้นนี้ ทุกห้องจะได้ห้องน้ำในตัวใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้น และชั้นนี้จะมีพื้นที่ Meditation Area ให้เราจัดเป็นมุมห้องพระ หรือใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้

ชั้น 3 เป็นชั้นของห้อง Master Bedroom พื้นที่ค่อนข้างกว้างเพราะใช้พื้นที่ทั้งชั้น สามารถแบ่งเป็นส่วน Walk in closet และมีห้องน้ำในตัวใช้งานได้เป็นส่วนตัว ในชั้นนี้จะมีระเบียงเพิ่มมาให้นั่งพักผ่อนได้

ชั้น Rooftop หรือชั้นดาดฟ้า จะอยู่ด้านบนสุดของตัวบ้านมีลิฟต์โดยสารขึ้นไปถึง จัดพื้นที่เป็นสระว่ายน้ำพร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อน โดยจะมีเฉพาะในแบบบ้าน Type นี้เท่านั้น

วันนี้เราจะมารีวิวบ้าน ATINA (Type A) ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น ซึ่งหลังนี้จะเป็นบ้านแปลงมุมที่มีพื้นที่ทางด้านข้างของตัวบ้านเพิ่มเข้ามา และจะมีพื้นที่ด้านหลังบ้านแตกต่างจากบ้านแปลงมาตรฐาน

เริ่มจากทางด้านหน้าของตัวบ้านจะเห็นถึงความแตกต่างจากบ้านทั่วไป โดยจะไม่มีลานจอดรถอยู่หน้าบ้านแล้วค่ะ เพราะที่จอดรถจะย้ายไปอยู่ในชั้นใต้ดินแทน ทำให้บรรยากาศหน้าบ้านเปลี่ยนไป จากแนวทางเดินและสวนส่วนกลางสามารถเดินเข้าบ้านได้เลย

หน้าบ้านจะมีประตูบานเปิดและแนวระเบียงปลูกต้นไม้เพื่อแบ่งอาณาเขตของแต่ละบ้าน เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ชานระเบียงทำเป็นที่นั่งให้เรามานั่งพักผ่อนหน้าบ้านได้

เดินอ้อมมาทางด้านข้างของตัวบ้าน เนื่องจากบ้านตัวอย่างที่รีวิวเป็นบ้านแปลงมุมจึงมีพื้นที่ด้านข้างแบบนี้โดยทางโครงการจะปูพื้นแนวทางเดินและปลูกต้นไม้ข้างแนวรั้วไว้ให้สวยงาม

พื้นที่ด้านหลังของตัวบ้านทำเป็นพื้นที่สวนแบบส่วนตัว ให้เรามาใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนหรือใช้เป็นลานเอนกประสงค์ได้

จากสวนหลังบ้านจะมีบันไดเดินลงไปส่วน Service ของตัวบ้านในชั้นใต้ดินได้

บ้านในโครงการจะมีบันไดหนีไฟอยู่ทางด้านหลังของตัวบ้านตามกฎหมายกำหนดนะคะ โดยทางโครงการจะมีกรอบบังสายตาสีดำปิดเอาไว้เพื่อความสวยงามเรียบร้อย

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับส่วนโถงต้อนรับ Foyer ของตัวบ้านก่อน การมีโถงทางด้านหน้าลักษณะนี้จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เปิดประตูมาจะไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ด้านในได้ทันทีจะมีโถงต้อนรับตรงนี้บังสายตาไว้ให้ก่อน บริเวณนี้สามารถวางตู้เก็บของทำเป็นที่วางรองเท้าได้ค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร ห้องนี้จะอยู่ด้านหน้าสุดของตัวบ้าน สามารถวางชุดโซฟาชุดใหญ่ บริเวณนี้จะเป็น Double Volume มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 5 m. จึงได้ความโปร่งโล่งเป็นพิเศษ ปูพื้นชั้นล่างทั้งหมดด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

จัดพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นสำหรับพักผ่อนดูทีวี มีชั้นวางของและตกแต่งผนังแบบ Built in สำหรับวางของและแขวนทีวี สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ

มีหน้าต่างสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดานเปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกและมุมมองแบบเปิดกว้างได้ดี บานหน้าต่างเป็นกรอบอลูมิเนียมพร้อมกระจกเขียวใสตัดแสง จาก Tostem  ช่วยสะท้อนและกรองแสงเข้ามาด้านในบ้าน และใช้ระบบ Smart Roller Shutter เพื่อเปิด-ปิดม่าน

ถัดมาเป็นส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้ไม่อึดอัด มีพื้นเหลือโดยรอบใช้งานได้สะดวก

มาที่ส่วนครัวเปิดจัดพื้นที่เป็นลักษณะของ Pantry และแบบเคาน์เตอร์ ใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารตำแหน่งอยู่ใกล้กับส่วนทานอาหารใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี

ถ้าจัดตามแบบบ้านตัวอย่างจะมีระยะให้วางเคาน์เตอร์แบบ Island เดินรอบใช้งานเป็นโต๊ะนั่งทานอาหารได้อีกด้วย พื้นที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว

ด้านในสุดของตัวบ้านชั้น 1 จะมีห้องน้ำให้ 1 ห้องสำหรับใช้งานในชั้นนี้

ห้องน้ำในชั้นล่างจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าจาก Kohler ภายในห้องน้ำในส่วนของพื้นและผนังจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด

ถัดมาทางด้านข้างของตัวบ้านจะเป็นโถงบันไดและลิฟต์โดยสาร โดยบริเวณนี้จะติดตั้งอุปกรณ์ Motion Senser Linghting ไว้ตรงบันไดทุกชั้น ไฟจะเปิดให้เองเมื่อมีการเดินใช้งานบันได

ภายในบ้านจะมีลิฟต์โดยสารภายในบ้าน จาก Schindier เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน ช่วยให้ผู้สูงอายุหรือผู้นั่งรถเข็นสามารถไปในชั้นอื่นๆของบ้านได้เช่นกัน ติดกับลิฟต์จะเป็น VDO Door Phone สำหรับให้ Visitor ที่มาหาลูกบ้านในโครงการติดต่อบ้านที่มาหา  หากลูกบ้านกดรับแขกลูกบ้านก็สามารถเข้ามาภายในพื้นที่โครงการได้

มาที่บันไดเพื่อขึ้นไปชั้น 2 ของตัวบ้านกันต่อค่ะ บันไดมีความกว้าง 75 cm. โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวลูกตั้งและลูกนอนด้วยไม้จริง บันไดจะมีราวจับให้ตลอดแนวทางของบันไดไปจนถึงชั้นบนของตัวบ้าน และติดตั้งอุปกรณ์ Motion Senser Linghting ไว้ตรงบันไดทุกชั้น ไฟจะเปิดเมื่อมีการใช้งานบันได

ชั้น Basement หรือชั้นใต้ดิน ตำแหน่งของพื้นที่จอดรถและส่วน Service ของตัวบ้านการแยกโซนแบบนี้ช่วยแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนพื้นที่ใช้งานในชั้นบนของเจ้าของบ้าน มีลิฟต์โดยสารและบันไดเชื่อมต่อมาใช้งานในส่วนนี้ได้สะดวก

ที่ชั้นใต้ดินตำแหน่งของพื้นที่จอดรถจะตรงกับตำแหน่งของตัวบ้านพอดี ดังนั้นเมื่อเราจอดรถเสร็จจะสามารถเข้าสู่พื้นที่ของตัวบ้านได้เลย บ้านหลังนี้จะมีพื้นที่จอดรถ 3 คัน และ Superbike 1 คัน มีระยะความกว้างของที่จอดวัดจากผนัง 2 ฝั่ง ประมาณ 6.7 m. สามารถจดรถไซด์ใหญ่ได้สบายๆ และทางโครงการได้เตรียมจุด EV Charger ของ Schneider เตรียมไว้ให้

จะมีประตูเปิดเข้า-ออกจากตัวบ้านด้านในโดยจะมี Digital Door Lock ของ Kaadas สามารถทำงานได้ 5 ระบบ ได้แก่ กดรหัส / สแกนนิ้วมือ / สแกนใบหน้า / Key Card / กุญแจ ส่วนทางด้านข้างจะมีห้องเก็บของสำหรับเก็บอุปกรณ์ของใช้ต่างๆได้

เข้ามาด้านในจะแบ่งโซนการใช้งานเป็นห้องต่างๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมดสามารถทำงานความสะอาดได้ง่ายเหมาะกับการทำงานของโซน Service

มาที่ห้องซักรีด เมื่อวางชุดตู้และอุปกรณ์ต่างๆจะมีพื้นที่ใช้งานประมาณ 0.92 x 2.3 m. ถือว่าใช้งานได้สะดวก โดยทางโครงการจะเดินระบบท่อและปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า และใช้กับอุปกรณไฟฟ้าต่างๆได้

มาที่ส่วนครัวไทยพื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานสามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย จัดชุดครัวแบบชิดผนังทั้งสองฝั่งภายในครัว เหลือพื้นที่ตรงกลางสามารถใช้งานได้สะดวก และมีหน้าต่างให้เปิดระบายอาศ กลิ่นควันจากการประกอบอาหารได้ค่ะ

ถัดมาจะเป็นส่วนของ Maid มีห้องนอนแม่บ้าน 1 ห้องและห้องน้ำแม่บ้าน 1 ห้อง

เมื่อเปิดมาจากส่วน Service ของตัวบ้านจะเป็นลานซักล้าง และพื้นที่ตั้งปั้มน้ำ ถังสำรองน้ำของตัวบ้าน และยังเป็นบริเวณขึ้น-ลงบันไดหนีไฟฉุกเฉินทางด้านหลังของตัวบ้าน

กลับเข้ามาในตัวบ้านกันต่อค่ะ มาที่ชั้น Mezzanine หรือชั้นลอยของตัวบ้าน เริ่มจากบริเวณโถงบันไดจะเชื่อมต่อกับลิฟต์โดยสารของตัวบ้านสามารถลือกใช้งานได้ตามความสะดวก ที่ชานพักบันไดจะมีประตูทางออกหนีไฟไว้ทุกชั้นตามข้อกำหนดของกฎหมาย

ชั้น Mezzanine หรือชั้นลอยของตัวบ้าน จะเจอกับส่วน Multi Purpose Area สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือเป็นพื้นที่ Family Area ของครอบครัว กรณีมีแขกมาบ้านใช้งานห้องรับแขกชั้นล่างอยู่ สมาชิกคนอื่นๆก็สามารถมานั่งพักผ่อนตรงนี้ได้ ชั้นนี้จะปูพื้นด้วย Engineer wood ทั้งหมด ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 m.

จากชั้น Mezzanine หรือชั้นลอย สามารถมองลงมาเห็นพื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่น รับแขกในชั้นล่างได้

ขึ้นมาที่ ชั้น 2 เป็นชั้นพักอาศัยเน้นไปที่ห้องนอนทั้งหมดแบ่งเป็น 2 ห้อง

โดยชั้นนี้จะมีพื้นที่ Meditation Area อยู่บริเวณด้านหน้าของห้องนอน ให้เราจัดเป็นมุมห้องพระ หรือใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้

มาที่ห้องนอนห้องแรกในพื้นที่ชั้น 2 อยู่ทางฝั่งทางด้านหน้าของตัวบ้าน จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต King Size และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 2.7 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด ในชั้นนี้พื้นภายในห้องจะปูด้วยพื้นไม้ Engineer wood ทั้งหมด

พื้นที่ระยะระหว่างเตียงถึงผนังอีกฝั่งสามารถทำชุด Built in เป็นชั้นวางทีวีและวางของต่างๆ หรือจะวางชุดที่นั่งพักผ่อนภายในห้องได้

พื้นที่ด้านในของตัวห้องอีกฝั่งจะแบ่งพื้นที่ทำเป็นส่วน Walk in closet สามารถทำโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าไว้ให้ใช้งานได้เป็นสัดส่วนดี

อีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นห้องน้ำใช้งานได้เป็นส่วนตัว ภายในห้องน้ำผนังและพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน มีอ่างล้างหน้า พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์อื่นๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก

ชุดอ่างล้างหน้า ชุดเคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างหน้า และอุปกรณ์ก๊อกน้ำของ Kohler มีพื้นที่ทางด้านข้างอ่างให้วางเครื่องใช้และอุปกรณ์ในห้องน้ำได้ และมีชุดตู้ด้านล่างให้เก็บของเพิ่มเติมได้

ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ของKohler พร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระ ของKohler ติดไว้ที่ผนังด้านหลังหยิบใช้งานได้สะดวก

อีกฝั่งของห้องน้ำจัดพื้นที่เป็นส่วนอาบน้ำมีประตูบานเปิดกระจก Tempered Glass แบ่งโซนการใช้งานไว้ให้เรียบร้อย และได้ความโปร่งโล่งจากหน้าต่าง

พื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 1.95 x 1.14 m. ค่อนข้างกว้างสามารถยืนอาบได้สะดวก  และติดตั้งอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower ของ Kohler เตรียมไว้ให้

ฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสี มีหน้าต่างและพัดลมดูดอากาศให้เพื่อใช้เปิดระบายอากาศและให้ไฟแบบ Downlight

มาที่ห้องนอนอีกห้องในชั้นนี้ ตำแหน่งห้องจะอยู่ทางด้านในของตัวบ้าน จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต King Size และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 2.7 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด

มีระยะระหว่างเตียงถึงผนังอีกฝั่งสามารถทำชุด Built in เป็นชั้นวางทีวีและวางของต่างๆ หรือจะวางชุดที่นั่งพักผ่อนภายในห้องได้เช่นกัน

อีกฝั่งของตัวห้องสามารถตั้งชุดโต๊ะเครื่องแป้งและชุดตู้เสื้อผ้าได้ ตำแหน่งจะอยู่ใกล้กับทางเข้าห้องน้ำทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องกัน

ภายในห้องน้ำผนังและพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน มีอ่างล้างหน้า พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์อื่นๆให้มาครบ

ชุดอ่างล้างหน้า ชุดเคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างหน้า และอุปกรณ์ก๊อกน้ำของ Kohler มีพื้นที่รอบๆอ่างให้วางเครื่องใช้และอุปกรณ์ในห้องน้ำได้ และมีชุดตู้ด้านล่างให้เก็บของเพิ่มเติมได้

ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ของKohler พร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระ ของ Kohler ติดไว้ที่ผนังด้านหลังหยิบใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 1.35 x 0.88 m. ค่อนข้างกว้างสามารถยืนอาบได้สะดวก และติดตั้งอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower ของ Kohler เตรียมไว้ให้ ผนังด้านข้างทำเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ

ส่วนฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสี มีพัดลมดูดอากาศให้เพื่อใช้เปิดระบายอากาศและให้ไฟแบบ Downlight

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ของตัวบ้าน ชั้นนี้จะเป็นของห้อง Master Bedroom พื้นที่ค่อนข้างกว้างเพราะใช้พื้นที่ทั้งชั้น พื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก ตำแหน่งของห้องอยู่ด้านหน้าตัวบ้าน มีหน้าต่างกระจกตัดแสงบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติเห็นวิวจากภายนอกแบบมุมกว้างได้ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 2.7 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด

พื้นที่ระยะระหว่างเตียงถึงผนังอีกฝั่งสามารถทำชุด Built in เป็นชั้นวางทีวีและวางของต่างๆ หรือจะวางชุดที่นั่งพักผ่อนภายในห้องได้

จากห้องนอนจะมีประตูกระจกเปิดออกมาที่ระเบียงทางด้านข้างของตัวบ้านได้ ระเบียงที่เพิ่มมาให้นั่งพักผ่อนได้

พื้นที่ด้านในของตัวห้องอีกฝั่งสามารถแบ่งพื้นที่ทำเป็นส่วน Walk-in closet เชื่อมต่อเนื่องไปห้องน้ำของห้องนอนที่อยู่ด้านใน

ภายในส่วน Walk in closet มีพื้นที่สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้าได้เต็มแนวผนังและมีพื้นที่สำหรับทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก

มาที่ห้องน้ำของMaster Bedroom ภายในห้องน้ำในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด และมีการตกแต่งด้วยโมเสกได้เหมือนในบ้านตัวอย่าง มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน มีอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้พร้อมกัน 1-2 คน ได้เลย

ชุดอ่างล้างหน้ามีให้ 2 อ่างแบบ His & Her พร้อมอุปกรณ์ก๊อกน้ำของ Kohler ด้านล่างทำเป็นชุดตู้สำหรับเก็บของต่างๆ ติดตั้งปลั๊กไฟแบบกันน้ำไว้พร้อมใช้งาน ส่วนอ่างอาบน้ำจะเป็นอ่างแบบลอยตัว พร้อมชุดอุปกรณ์อาบน้ำสีทอง จาก Kohler  ได้เหมือนในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

อีกฝั่งของห้องน้ำจัดพื้นที่เป็นเป็นส่วนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์มีประตูบานเปิดฉากประตูกระจก Tempered Glass แบ่งโซนการใช้งานไว้ให้เรียบร้อย ทำให้สามารถใช้งานห้องน้ำได้พร้อมๆกัน 2 คนได้ ติดตั้งชุดโถสุขภัณฑ์ของ Kohler พร้อมสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระไว้ที่ผนังด้านข้างในระยะที่หยิบใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 0.97 x 1.4 m. สามารถยืนอาบได้สะดวก และติดตั้งอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower ของ Kohler เตรียมไว้ให้ ผนังด้านข้างทำเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ

ชั้น Rooftop หรือชั้นดาดฟ้า จะอยู่ด้านบนสุดของตัวบ้านมีลิฟต์โดยสารขึ้นไปถึง จัดพื้นที่เป็นสระว่ายน้ำพร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อน โดยจะมีเฉพาะในแบบบ้านทาวน์โฮม Type นี้เท่านั้น

ในส่วนของสระว่ายน้ำสกิมเมอร์ ระบบเกลือ มีขนาดอยู่ที่ 7.35 x 3 m. พร้อมระบบ Jacuzzi ให้เรามาว่ายน้ำแช่ตัวพักผ่อนกันได้  โดยจะมีแนวกำแพงช่วยบังสายตาทำให้เราใช้งานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

BIANCA (Type B) ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น ที่ดิน 22-33.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 346 – 394 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ 1 ห้องแม่บ้าน

แบบห้อง

ราคา

One Atelier Private Residence พหลโยธิน ราคา ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565

  • ATINA (Type A) ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น ที่ดิน 29.6-46.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 457 – 600 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 29.9 ล้านบาท
  • BIANCA (Type B) ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น ที่ดิน 22-33.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 346 – 394 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
  • CORINA (Type C) บ้านแฝด 4.5 ชั้น ที่ดิน 43.6-47 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 515 – 541 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท (Sold Out)
  • Promotion : ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 2,000,000 บาท* คลิก https://grandtrinity.com/one-atelier-private-residence-phaholyothin/
  • จอง 200,000 บาท
  • ทำสัญญา 500,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์ 600,000 บาท (2 งวด)
  • ค่าส่วนกลาง 190 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ One Atelier Private Residence พหลโยธิน เป็นโครงการบ้านพักอาศัยใจกลางเมืองย่านพหลโยธิน ใกล้แยกเกษตรฯ โดยตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 34 จุดเด่นของทำเลที่ตั้งคือ สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้ถึง 3 ถนนหลัก ได้แก่ พหลโยธิน เกษตรนวมินทร์ และเสนานิคม อีกทั้งมีตัวเลือกในการเดินทางไปใช้ BTS สถานีเสนานิคม ได้ในกรณีต้องการเข้าเมืองโดยไม่ใช้รถ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ ถ้าเป็นระยะใกล้ภายในซอยถือว่ามีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อพื้นฐานค่อนข้างครบ ออกมาโดยรอบก็มีห้างค้าปลีก ห้างใหญ่ ให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย และเป็นทำเลอยู่อาศัยเพราะโครงการตั้งอยู่ในซอยเข้ามาในย่านชุมชนส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยโดยรอบ จึงค่อนข้างเงียบสงบไม่วุ่นวาย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ประตูหน้าโครงการเข้า-ออกเป็นประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า ใช้ระบบ Easy Pass Access พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV ในโครงการ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ส่วนที่ตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Motion Sensor , Digital Door lock และ VDO Door Phone ทุกหลัง

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการจัดสรรขนาดเล็กที่เน้นความเป็นส่วนตัวมีเพียง 13 ยูนิต ทำให้ภาพรวมของโครงการจึงดูแลจัดการง่าย บ้านทุกหลังหน้าบ้านจะอยู่ติดสวนส่วนกลาง ที่น่าสนใจคือแนวคิดการย้ายพื้นที่จอดรถไปไว้ในชั้นใต้ดินแทน ซึ่งหาได้ยากมากๆสำหรับโครงการบ้านทั่วไป ทำให้สามารถใช้พื้นที่ในชั้น 1 ได้อย่างเต็มที่ และทำให้บรรยากาศของโครงการและหน้าบ้านน่าอยู่อาศัย

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : การออกแบบตัวบ้านมีให้เลือกทั้งรูปแบบบ้านแฝด และทาวน์โฮม ทุกแบบเน้นพื้นที่ใช้สอย บ้านสไตล์ Modern Classic ที่ปรับการใช้งานได้ง่าย เน้นความโปร่งโล่งโถงสูง Double Volume 5 เมตร เพิ่มมุมมองในการอยู่อาศัย ด้วยหน้าต่างกระจกสูง ได้สระว่ายน้ำแบบส่วนตัว มีลิฟต์ในบ้านใช้งานสะดวก รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุได้ ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัวใช้งานเป็นส่วนตัว ส่วน Service จัดแบ่งโซนไว้เป็นสัดส่วนดีไว้ที่ชั้นใต้ดิน ที่จอดรถใต้ดินตรงกับตำแหน่งของบ้านแต่ละหลัง ที่จอดให้พื้นที่มาค่อนข้างกว้างตอบโจทย์กลุ่มผู้ซื้อในระดับนี้ที่อาจมีรถใช้งานหลายคัน และสามารถเดินจากสวนเข้ามาในบ้านได้โดยตรงทุกหลัง

วัสดุ : ภายในบ้านเน้นเลือกใช้ของที่เหมาะกับการใช้งานในแต่ละส่วน พื้นชั้น 1 – Basement ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนชั้นอื่นๆ เป็นพื้นไม้ Engineer wood ทั้งหมด ได้ห้องน้ำสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในเหมือนในบ้านตัวอย่างของ Kohler มีลิฟต์โดยสาร 1 ตำแหน่ง เครื่องปรับอากาศ และระบบ Fully Home Automation ในบ้านทุกหลัง และมี EV Charger ที่โรงจอดรถ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บ้านทุกหลังหน้าบ้านจะอยู่ติดสวนส่วนกลางลูกบ้านสามารถเดินออกมาใช้งานได้ง่าย ได้วิวสวนแบบเต็มๆทุกหลัง ภายในโครงการจะลงสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมด บรรยากาศในโครงการสวยงามและร่มรื่น

สาธารณูปโภค : ประตูเข้า-ออกโครงการ พร้อมระบบควบคุมการเข้า-ออก แบบรั้วเลื่อนไฟฟ้า สายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งโครงการบรรยากาศดูเรียบร้อยดี ชั้นใต้ดินมีระบบป้องกันน้ำท่วม แบ่งช่องจอดรถของลูกบ้านแต่ละหลังไว้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 25 – 35 ล้านบาท, 14 พฤศจิกายน 2565

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ทำเลพหลโยธิน ใกล้แยกเกษตรฯ เข้า-ออกถนนหลัก 3 สาย ไปใช้รถไฟฟ้า BTS ได้
  • ความปลอดภัย 8/10 – รูปแบบโครงการปิด ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมย , Digital Door Lock และ VDO Door Phone
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ออกแบบพื้นที่ภายในดี เน้นพื้นที่ใช้สอย โถงสูงโปร่งโล่ง ใช้งานเป็นส่วนตัว
  • วัสดุ 8/10 – วัสดุที่เลือกใช้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่ ได้ระบบ Fully Home Automation
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – พื้นที่สีเขียวออกแบบได้ดี เข้าถึงใช้งานง่าย
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ที่จอดรถชั้นใต้ดิน ระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน
  • 8.05 / 10.00 

One Atelier Private Residence พหลโยธิน เหมาะกับใคร

โครงการ One Atelier Private Residence พหลโยธิน เหมาะกับคนที่มองหาบ้านในเมืองทำเลพหลโยธิน ย่านเกษตรฯ ที่เดินทางสะดวก มีตัวเลือกไปใช้ BTS เข้าเมืองง่าย มองหาบ้านดีไซน์สวย เน้นพื้นที่ใช้สอย โปร่งโล่งน่าอยู่ ได้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการอยู่อาศัย มีงบเริ่มต้นที่ 25-35 ล้านบาท ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc