รีวิว Centro พหลฯ – วิภาวดี 2 บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ ติดถนนพหลโยธิน ใกล้ Future Park รังสิต จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2227]

Centro Phahol – Vibhavadi 2 (เซนโทร พหลฯ – วิภาวดี 2) ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2564

พิกัด Google Maps : 14.003493, 100.615658
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Centro พหลฯ – วิภาวดี 2 ซึ่งมีทางเข้า-ออกหลักอยู่ติดถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า (ฝั่งเดียวกับฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านโซนรังสิต เน้นวิ่งเข้าเมืองเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี-รังสิต ใกล้ห้างสรรพสินค้า

Centro พหลฯ – วิภาวดี 2 โครงการบ้านเดี่ยวโซนรังสิต ฝั่งเดียวกับ Future Park รังสิต ซึ่งโซนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแนวราบ เนื่องจากเป็นทำเลที่ขยับออกมาจากตัวเมืองมาหน่อย แต่ได้บ้านเดี่ยวราคาไม่แพงมากนัก โดยถนนพหลโยธินจะวิ่งเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี-รังสิตเข้าตัวเมือง หรือเดินทางออกนอกเมืองไปอยุธยาก็ได้ค่ะ ซึ่งบนถนนเส้นนี้ก็ใช้เดินทางไปยังมหาลัยชื่อดังโซนนี้ เช่น ม.รังสิต, ม.กรุงเทพ รังสิต, ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เป็นต้น

ความอุดมสมบูรณ์เกาะกลุ่มบริเวณห้างฟิวเจอร์ รังสิต ที่มีทั้งเมเจอร์ โลตัส บิ๊กซี และในอนาคตคาดว่ากำลังจะมีห้าง Central มาเปิดอีกด้วยนะ โดยบริเวณนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง รวมถึงมีตลาดสดกระจายตัวอยู่ เนื่องจากเป็นทำเลที่มีชุมชนคนอยู่อาศัยกันเยอะ เรียกได้ว่าหายห่วงเรื่องกินได้เลยนะคะ

ส่วนเรื่องการเดินทาง นอกจากที่เราจะใช้ถนนพหลโยธินเข้า-ออกเมืองแล้ว ยังมีทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์ ที่สามารถใช้หลีกเลี่ยงรถติดในชั่วโมงเร่งด่วนได้ แต่มีค่าบริการค่อนข้างสูง และอีกตัวเลือกหนึ่งคือการเลือกใช้ถนนรังสิต-นครนายก ที่วิ่งไปฝั่งนครนายกเพื่อไปใช้วงแหวนกาญจนาฯก็ได้ หรือวิ่งกลับไปถนนรังสิต-ปทุมธานีเพื่อเข้าตัวเมืองปทุม เรียกว่าอยู่ใกล้แยกที่เดินทางได้หลากหลายดีทีเดียว

จุดที่น่าสนใจของโครงการนี้คือมีเส้นทางเข้าโครงการ 2 ทาง ได้แก่

• ทางเข้าหลักของโครงการ เป็นถนนส่วนบุคคลของทาง AP เข้าได้จาก ถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้าเมือง ซึ่งถนนตรงนี้จะมีป้อมรปภ.ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมต้นไม้ริมทาง และเกาะกลาง บรรยากาศร่มรื่นดี
• ทางเข้ารองจากถนนรังสิต-นครนายก ซึ่งตรงนี้เรามองว่าเป็นข้อดีของโครงการนะคะ เวลาที่เราไปเดินห้าง Future Park รังสิต เสร็จแล้ว เราสามารถวนรถกลับไปโครงการได้เลย(ดูจากแผนที่ด้านบน) ไม่ต้องเสียเวลากลับรถ ถ้าสั่งอาหารเดลิเวอรี่ก็ไม่น่าจะรอนานนะ อิอิ

เส้นทางการเดินทาง

วันนี้เราเริ่มจากถนนพหลโยธินผ่านตลาดสี่มุมเมือง > ผ่านโซนฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต > วิ่งยาวผ่าน Tesco Lotus, ไทวัสดุ > ตรงไปจนเจอจุดกลับรถก่อนถึงม.กรุงเทพ > หลังจากกลับรถมาแล้ว ให้เราขับรถตรงไปเรื่อยๆผ่านทางขึ้นโทลล์เวย์ > ให้เราเบี่ยงซ้ายตามป้ายรังสิต > ขับไปสักพักเราจะเห็นป้ายชื่อโครงการ AP ขนาดใหญ่ > เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

มาดูสภาพแวดล้อมของโครงการ Centro พหลฯ-วิภาวดี 2 เราจะเห็นว่าพื้นที่โครงการติดกับโครงการของ AP ไม่ก็ติดกับที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัยแนวราบ โดยจากถนนพหลโยธินขับเข้ามาโครงการประมาณ 750 เมตร ข้อดีคือเราได้ Double Gate มีคนดูแล 2 ชั้นตลอด 24 ชม. ที่ได้ความปลอดภัยมากขึ้น แต่ถนนด้านหน้าโครงการเป็นถนนสาธารณะที่อาจจะมีคนอื่นใช้ด้วยนะคะ ส่วนพื้นที่รอบๆโครงการ ดังนี้

• ทิศเหนือ ติดกับ ที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ
• ทิศใต้ ติดกับ พื้นที่โครงการของทาง AP ที่อยู่ในเวิ้งเดียวกัน
• ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนทางเข้าโครงการ(ถนนสาธารณะ)ที่เชื่อมไปถนนส่วนบุคคลได้

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

สถานศึกษา

• ม.กรุงเทพ ~ 7 km.
• ม.รังสิต ~ 8.2 km.
• รร.โชคชัย รังสิต ~ 8.3 km.
• รร.สายปัญญา รังสิต ~ 9.6 km.
• ม.ธรรมศาสตร์ ~ 13 km.
• รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต ~ 14.3 km.

ศูนย์การค้าและตลาด

• Future Park รังสิต ~ 2.1 km.
• Tesco Lotus รังสิต ~ 2.2 km.
• Zpell ~ 2.5 km.
• Major Cineplex รังสิต ~ 2.7 km.
• ตลาดรังสิต ~ 3 km.
• เซียร์ รังสิต ~ 6 km.
• ตลาดไท ~ 16 km.

สถานพยาบาล

• รพ.เปาโล รังสิต ~ 3.2 km.
• รพ.บางปะกอก รังสิต2 ~ 6 km.
• รพ.ปทุมเวช ~ 4.5 km.
• รพ.ธรรมศาสตร์ ~ 11 km.

Centro พหลฯ – วิภาวดี 2 ลักษณะที่ดินของโครงการจะเป็นแนวยาวเข้าไปข้างใน โดยจะแบ่งขายออกเป็นทั้งหมด 4 เฟส โดยปัจจุบัน Master Plan มีเฉพาะเฟส 1 เท่านั้นนะคะ ซึ่งคนที่อยู่เฟสด้านในมีระยะห่างจากซุ้มโครงการพอสมควรเลยค่ะ

สิ่งที่เราชอบในเฟสที่ 1 จะมีอยู่ 3 อย่างด้วยกันนะคะ อย่างแรกคือ “ความเป็นส่วนตัว” ด้วยลักษณะที่ดินเป็นแนวยาว ทำให้แบ่งถนนเป็น 2 เลน โดยแบ่งถนนหลักกว้าง 12 เมตร ทำให้บ้าน 2 ฝั่ง มีระยะห่างกันพอสมควร ส่วนถนนรองกว้าง 9 เมตร ติดกับรั้วโครงการ ที่ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม เราสามารถจอดรถหน้าบ้านได้สบายๆ

อย่างที่สองคือ “ตำแหน่งส่วนกลาง” ซึ่งเค้าก็จัดมาให้อยู่ทางด้านหน้าสุด และใช้งานร่วมกับซุ้มประตูทางเข้าตามแบบฉบับของ AP โดยจะช่วยทำหน้าที่เป็นโซนต้อนรับ ทำให้ซุ้มประตูดูอลังการมากยิ่งขึ้น แขกไปใครมาก็รองรับการใช้งานบริเวณนี้ได้เลย

และอย่างสุดท้ายคือ “ทิศของบ้าน” โดยทุกหลังจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่รับลมได้ค่อนข้างดี แดดก็ไม่ร้อนจนเกินไปอีกด้วยค่ะ โดยตัวโครงการเปิดตัวช่วงต้นปี 64 ที่ผ่านมานี้เอง ไปดูบรรยากาศของจริงกันค่ะ

เริ่มกันที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาคาร Clubhouse ที่อยู่ด้านบนนั่นเอง

บริเวณซุ้มประตูทางเข้าโครงการ มีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่มองเห็นชัดเจน

ทางเข้า-ออกเป็นประตูเหล็กเลื่อนไฟฟ้าแยกใช้งาน 2 ฝั่ง โดยกั้นด้วยป้อมรปภ.ตรงกลาง ที่อำนวยความสะดวกให้ทั้งลูกบ้านและผู้มาติดต่อได้ง่าย พื้นปูด้วยคอนกรีตแสตมป์

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยใช้ระบบ KATSAN ที่มีทั้งกล้อง CCTV และประตูเหล็กรางเลื่อน ที่เปิดประตูเข้าออกด้วยการสแกนทะเบียนรถ ดูปลอดภัย และใช้งานได้ง่าย เนื่องจากเราไม่ต้องเสียเวลาเปิดกระจกออกมาแตะบัตรค่ะ

โดยโครงการนี้ก็จะใช้ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN ที่เป็นมาตรฐานของ AP ทุกๆโครงการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ค่อนข้างดี เช่น เข้าออกด้วยการสแกนทะเบียนรถ กำหนดรถเข้าออกได้ล่วงหน้า หรือกรณีที่เราไม่สะดวกรับแขก ก็สามารถกดปฏิเสธผ่าน Application ได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้ามาในหมู่บ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวนะคะ

เข้ามาด้านในเจอถนนกว้างใหญ่ มีเกาะกลางปลูกต้นไม้ใหญ่ ที่คาดว่าถ้าต้นไม้โตเต็มวัยแล้วจะช่วยให้บรรยากาศภายในดูร่มรื่นมากยิ่งขึ้น

ภายในตั้งศาลพระภูมิมาให้แล้วเรียบร้อย ซึ่งมาพร้อมดีไซน์สวยงาม ทันสมัย กลมกลืนกับรูปแบบโครงการดีเลยนะคะ

เราต่อเนื่องไปดูอาคาร Clubhouse กันต่อ โดยตัวอาคารเชื่อมกับซุ้มประตูทางเข้า ดีไซน์เรียบง่าย โทนสีขาวเทา ที่รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นดี

ด้านหน้าสุดมีบันไดยก Step ให้เดินขึ้นไปด้านบนเล็กน้อย โดยฟังก์ชันแรกสุดที่เป็นห้องผนังกระจกก็คือพื้นที่ Co-Living

ภายในเป็นพื้นที่ Co-Living ซึ่งเป็นส่วนต้อนรับแขกที่มาหา หรือลูกบ้านเอาไว้นั่งเล่นในวันหยุดก็ได้ ซึ่งห้องนี้จะเชื่อมกับ Kid’s Room ด้วยนะ

ส่วนผนังกระจกสูงเต็มผนังมองออกไปเห็นทางเข้าของโครงการ แขกไปใครมาก็จะรับรู้ได้ตลอดเวลาเลย บรรยากาศภายในโปร่งโล่งทีเดียว

พื้นที่ Kid’s Room บรรยากาศอบอุ่น ที่พาเด็กๆมาจอยกันได้ในหมู่บ้าน ผนังเจาะทำมาเป็นมุมนั่งเล่น ส่วนตรงกลางมีโต๊ะเด็กพร้อมของเล่น และตุ๊กตาด้วยนะคะ

สระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool กลางแจ้งขนาด 16 x 7 เมตร ลึก 1.20 เมตร ที่รายล้อมด้วยต้นไม้สูงช่วยบังสายตาได้ระดับนึงค่ะ

สระว่ายน้ำระบบเกลือแบ่งเป็น 2 สระ ซึ่งสระเด็กแยกเอาไว้ด้านข้าง ทำให้สระใหญ่สามารถว่ายน้ำได้เต็มที่ นอกจากนี้บริเวณชายคาจะมีเก้าอี้ Day Bed มาวางเพิ่มให้นะคะ

สระเด็กขนาดประมาณ 6 x 4 เมตร ลึก 40 ซม. เวลาเด็กมาว่ายน้ำผู้ปกครองก็สามารถดูแลเด็กได้ง่าย ไม่ไกลสายตา

บริเวณด้านหลังอาคารมีทางเดินไปยังจุดชำระร่างกาย ที่มีฝักบัวมาให้ 2 อัน ใช้งานได้สะดวก พร้อมห้องน้ำแยกชาย-หญิง ที่อาบน้ำจากที่นี่ได้เลยค่ะ

เราพาเดินขึ้นไปดูฟังก์ชันชั้นที่ 2 กันต่อ ซึ่งชั้นบนเป็นพื้นที่เปิดโล่งอากาศถ่ายเทได้ดี มีที่นั่งเล่น Outdoor มาให้เปลี่ยนบรรยากาศ

ชั้นบนมีพื้นที่ Co-Working Space สำหรับนั่งทำงาน หรือจัดกิจกรรมสันทนาการ หรือเอาไว้พบปะเพื่อนบ้านกันเอง

เริ่มจากวางโต๊ะยาวมาให้สำหรับนั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือได้สะดวก พร้อมหน้าต่างสูงเต็มผนังบรรยากาศโปร่งโล่งทีเดียว

บริเวณนี้มีระเบียงขนาดใหญ่ที่เอาไว้นั่งเล่นรับลมชิวๆ มองออกไปเห็นพื้นที่สีเขียว

เราพาเดินไปดูห้อง Fitness ด้านบนกันต่อค่ะ

ห้อง Fitness วางเป็นแนวยาวเหนือซุ้มประตูทางเข้า ที่มีหน้าต่างรับแสง 2 ฝั่ง ภายในมีเครื่องเล่น Cardio และ Weight Training ครบครันค่ะ

ซึ่งจากมุมมองของเครื่องออกกำลังกาย เราสามารถมองเห็นบรรยากาศภายในโครงการ สระว่ายน้ำ รถเข้าออก ที่ดูใช้งานได้ทั่วถึงกันดี

ถนนหลักกว้าง 12 เมตร ที่เวลามีรถจอด 2 ฝั่ง รถก็ยังขับสวนทางกันได้สบายๆ นอกจากนี้ยังปลูกต้นไม้ใหญ่และปูพื้นหญ้ามาให้ 2 ฝั่ง ช่วยทำให้บรรยากาศร่มรื่น

ถนนรองกว้าง 9 เมตร บริเวณนี้จะไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามที่ได้ความเป็นส่วนตัวดี รถขับผ่านไปมาน้อย ซึ่งบริเวณรั้วจะปลูกต้นไม้ดูร่มรื่นทีเดียว เวลามีรถจอดหน้าบ้านรถก็ยังขับผ่านไปมาได้สะดวก นอกจากนี้ยังมี CCTV รอบโครงการถึง 32 จุด ที่ปลอดภัยดี

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
• สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 16 x 7 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็กลึกขนาด 6 x 4 เมตร ลึก 40 ซม.
• ห้องออกกำลังกาย
• Co-working Space
• Kid’s Room
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 756 ตร.วา
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 32 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
• Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
• ระบบ KATSAN ของ AP
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง

Centro พหลฯ – วิภาวดี 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวชั้นเดียว และ 2 ชั้น รวมทั้งสิ้น 249 ยูนิต โดยจะมีแบบบ้านทั้งหมดให้เลือก 6 แบบ ซึ่งในในรีวิวนี้มีบ้านตัวอย่างให้ดูกัน 1 แบบคือแบบที่ใหญ่ที่สุดคือ MERCI ก่อนที่จะเข้าไปดูบ้านตัวอย่าง เราขออธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างแบบบ้านหลังใหญ่สุดนี้กันก่อนนะคะ

• โครงสร้างบ้าน : ก่ออิฐมวลเบา ที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในได้ง่าย
• พื้นที่จอดรถ/พื้นที่ซักล้าง : เป็นโครงสร้าง Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้
• พื้นชั้นที่ 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. (ยกเว้นห้องนอนชั้นล่าง)
• พื้นชั้นที่ 2 : เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. + ห้องนอนชั้นล่าง
• ห้องครัว : ก่อเคาน์เตอร์ + ซิงค์ล้างจาน มาให้เป็นมาตรฐาน
• บันได : โครงสร้างเหล็ก

ภายในบ้านมีสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor บริเวณประตูหน้าต่างรอบบ้าน ประตูทางเข้าหลักติด Digital Door Lock ยี่ห้อ LifeSmart ส่วนภายในบ้านมีระบบ Home Automation ใช้ เปิด-ปิดแสงไฟ, เครื่องปรับอากาศ, ทีวี, กล้องวงจรปิด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกล้อง CCTV 1 จุด บริเวณโรงจอดรถ

ประเด็นที่น่าสนใจ

• แบบบ้าน : ออกแบบให้มีพื้นที่ Double Volume ภายในบ้านสูง 6.35 เมตร พร้อมความสูงพื้นถึงฝ้า 2.7 เมตร รายล้อมด้วยหน้าต่าง และประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหย่อมด้านนอก ทำให้การใช้งานดูต่อเนื่อง และโปร่งโล่งดี
• พื้นที่นั่งเล่น : ออกแบบให้มีถึง 3 จุด ที่ค่อนข้างยืดหยุ่นปรับการใช้งานได้ง่าย หน้าบ้านเป็นห้องรับแขก ส่วนด้านในเป็นห้องนั่งเล่นริมสวนหย่อม ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ถัดไปชั้นบนเป็น Family area ใช้งานเฉพาะสมาชิกภายในบ้านนะคะ
• ห้องนอน : ห้องนอนทุกห้อง+ห้องน้ำในตัว ที่ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงสามารถวางเตียง 5 ฟุต + Built-in ตู้บริเวณปลายเตียงได้กำลังดี
• ราคา : สำหรับบ้าน MERCI ลักษณะบ้านหน้ากว้าง ที่ได้ Layout เหมือนกับบ้านแบรนด์เดอะ ซิตี้ (แบรนด์สูงกว่า) แต่คุ้มค่าด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 8.9 ล้านบาท รวมถึงขนาดที่ดินมาตรฐานมากถึง 73 ตร.วา ที่ค่อนข้างคุ้มค่าทีเดียว

MERCI บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 73 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท

บ้านหลังนี้จะเป็น Type เดียวที่สามารถจอดรถได้ถึง 3 คันค่ะ ซึ่งเหมาะกับครอบครัวขนาดกลางที่มีรถหลายๆคัน เป็นลักษณะบ้านหน้ากว้างที่แสงส่องเข้ามาได้ทั่วถึง ที่ดิน 73 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 3 ที่จอดรถ

ชั้นที่ 1 – ทางเข้าบ้านหลักมีพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องนั่งเล่นรับแขกกั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน ที่มีหน้าต่างเข้ามุมหันออกพื้นที่จอดรถ โดยบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ Double Volume เชื่อมกับพื้นที่ชั้นบน บรรยากาศโปร่งโล่งดี ส่วนถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่แนวยาวที่ดูต่อเนื่องกันตั้งแต่พื้นที่นั่งเล่นริมสวนหย่อม + โต๊ะรับประทานอาหาร + ห้องครัวปิด ส่วนห้องนอนชั้นล่าง(หันออกหน้าบ้าน) + ห้องน้ำในตัว ที่น่าสนใจคือชั้นล่างมีเฉลียงมาให้ 2 จุด ที่ใช้งานแบบ Outdoor ได้

ชั้นที่ 2 – เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด มี 3 ห้องนอน + ห้องน้ำในตัว โดยชั้นบนมีพื้นที่ Family Area สำหรับสมาชิกในครอบครัว หรือปรับเป็นพื้นที่ทำงานก็ได้นะคะ ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องอยู่ติดหลังบ้าน ที่วางเตียงขนาดใหญ่ได้ ปิดท้ายด้วย Master Bedroom หันไปหน้าบ้านที่มี Walk in Closet + ห้องน้ำในตัวที่มีระเบียงสำหรับตากผ้าเพิ่มเติมได้นะ

เริ่มที่พื้นที่จอดรถสามารถจอดรถในร่มได้ 3 คัน ซึ่งเราวัดดูแล้วระยะเสาฝั่ง 2 ที่จอดรถกว้าง 5 เมตร ส่วนฝั่ง 1 ที่จอดรถกว้าง 2.6 เมตร ขนาดจอดรถได้กำลังดี ส่วนพื้นที่จอดรถของจริงเป็นคอนกรีตขัดเรียบ โครงสร้าง Slab on Ground หรือพื้นวางบนดิน

พื้นที่จอดรถมีการเว้นช่องรางระบายน้ำ ป้องกันพื้นดินทรุดตัวในอนาคต ที่จะได้ไม่กระทบกับโครงสร้างหลักของตัวบ้านนั่นเอง โดนตรงนี้จะมีกล้อง CCTV มาให้ 1 จุด รวมถึงมีหน้าต่างเข้ามุมเชื่อมต่อกับห้องรับแขกด้านในตัวบ้าน

บริเวณเสาบ้านมีตู้เก็บของมาให้เพิ่มเติม พื้นที่ภายในขนาด 60 x 40 ซม. ที่เก็บของได้เยอะเลย พร้อมช่องระบายความชื้นด้านในค่ะ

ประตูทางเข้าบ้านมี Step ยกขึ้นไปเล็กน้อย เอาไว้นั่งเปลี่ยนรองเท้าก่อนออกจากบ้าน ส่วนประตูบ้านเป็นบานเปิดคู่ ที่มีกระจกบาน Fixed ช่วยเพิ่มแสงให้กับพื้นที่ภายในบ้าน

ส่วนมือจับประตูติด Digital Door Lock ของ LifeSmart มาให้เป็นมาตรฐาน รองรับการใช้งานทั้งสแกนนิ้ว, พาสเวิร์ด, คีย์การ์ด, ตั้งพาสเวิดแบบ One Time ได้ เพื่อความสะดวกเวลามีแม่บ้านรายวันมาทำความสะอาดบ้าน รวมถึงเปิดประตูผ่าน App มือถือได้ด้วยนะ

ด้านข้างทางเข้าบ้านมีพื้นที่ให้เก็บของเพิ่มเติม ส่วนหน้าบ้านจะมีเครื่องทาบบัตรยี่ห้อ Soyal ที่เชื่อมต่อกับสัญญาณกั้นขโมย Magnetic Sensor ในบ้าน

โดยเครื่องทาบบัตร ทำหน้าที่เตือนเวลาไม่ได้ปิดประตูหน้าต่างภายในบ้าน ถ้ามีไฟสีเขียวแสดงว่าปิดหมดแล้ว ส่วนไฟสีแดงจะไม่สามารถเปิดประตูหน้าต่างภายในบ้านได้ กรณีมีคนเปิดประตูหน้าต่างจะมีเสียงดังรอบบ้านเลยนะคะ

เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ วางเป็นแนวยาวที่แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่ ซึ่งบริเวณนี้เหมือนเป็นโถงต้อนรับการแจกจ่ายไปยังฟังก์ชันต่างๆ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.7 เมตร ฝ้าเพดานติดไฟ LED Downlight มาให้แบบนี้เลย

ห้องนั่งเล่นหน้าบ้านเอาไว้ต้อนรับแขกไม่รบกวนส่วนพักอาศัย โดยบริเวณนี้บ้านจริงกั้นประตูมาให้เรียบร้อย ที่ได้ความสูงเกือบเต็มผนังแสงส่องเข้ามาได้เต็มที่

ห้องนั่งเล่นขนาด 3.4 x 3 เมตร ภายในมีหน้าต่างเข้ามุมหันออกพื้นที่จอดรถ และประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหย่อมรอบบ้าน ส่วนระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.65 เมตร ที่เลือกทีวีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 40″- 42″ กำลังดี

มีโถง Double Volume สูงประมาณ 6.35 เมตร เชื่อมต่อกับพื้นที่อเนกประสงค์ชั้น 2 ทำให้ดูต่อเนื่องกันดี บรรยากาศโปร่งโล่ง พร้อมวางแชนเดอเรียสวยๆได้เลยนะคะ

ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่ Common Area ยาวเกือบเท่าตัวบ้าน ที่รายล้อมด้วยหน้าต่างทำให้แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่ ซึ่งบริเวณนี้เราสามารถวางโต๊ะอาหารสำหรับ 6-8 ที่นั่งได้กำลังดี

พื้นที่นั่งเล่นอีกจุดริมหน้าต่างที่มองออกไปเห็นพื้นที่สวนหย่อมโซนหลังบ้าน พร้อมประตูเดินออกไปสูดอากาศด้านนอกเปลี่ยนบรรยากาศ

มองกลับไปเห็นพื้นที่นั่งเล่นต่อเนื่องกับโต๊ะรับประทานอาหารจนถึงห้องครัวเลยนะคะ

เรามาดูส่วนห้องครัวกันต่อค่ะ โดยด้านหน้าห้องครัวมีพื้นที่เหลือ Built-in เคาน์เตอร์ครัว แบบ Pantry เล็กๆ เอาไว้สำหรับทำเป็นบาร์เตรียมอาหารเบาๆได้นะ

บริเวณ Pantry ครัว เราสามารถ Built-in ชุดครัวเป็นรูปตัว L ติดกับช่องหน้าต่าง ระบายกลิ่นภายในได้ดี ด้านข้างมีตู้ Service และพื้นที่ว่างวางตู้เย็นเพิ่มเติมได้ด้วยนะคะ

ชุดครัวก่อปูนที่มีความแข็งแรง Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีดำ พร้อมซิงค์ล้างจานเป็นแบบหลุมเดี่ยวขนาด 40×40 ซม. ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถติดตั้งเพิ่มเติมเองได้นะ

พื้นที่ห้องครัวขนาด 2.3×1.83 เมตร ที่ยืนใช้งานหลายคนได้สบายๆค่ะ

ห้องครัวมีทางออกไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้าน โดยด้านบนประตูมีพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้ 1 ตัว

ส่วนลานซักล้างหลังบ้านเค้าจะเทพื้นคอนกรีตมาให้บางส่วน เป็นแบบ Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มหรือปูกระเบื้องมาให้พร้อมรั้วกันระหว่างบ้านสูง 1.5 ม.

ด้านหลังบ้านวางปั๊มขนาด 2,000 ลิตร และแทงค์น้ำ ที่วางเอาไว้บนดิน เพื่อให้ง่ายต่อการซ่อมแซมในอนาคตค่ะ

เราเดินมาดูห้องนอนชั้นล่าง + ห้องน้ำรับแขกที่ติดกับพื้นที่หน้าบ้านกันต่อค่ะ

ห้องน้ำรับแขกแบบ Powder room คือไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ ภายในมีกระจกเงาบานใหญ่ พร้อม Low Wall ด้านล่างกว้าง 10 ซม. ที่วางอุปกรณ์ห้องน้ำเพิ่มเติมได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างเปิดระบายความชื้นภายในห้องได้อีกด้วย

อ่างล้างหน้าขนาด 40×25 ซม. ส่วนด้านข้างมีโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American standard พร้อมที่ใส่กระดาษชำระ และสายฉีดชำระเรียบร้อย

ห้องนอนชั้นล่างเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. หันออกหน้าบ้าน ภายในมีหน้าต่าง 2 ฝั่ง และประตูบานเลื่อนเดินออกไปสวนหย่อมรอบบ้านได้ บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง

ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ มีเดินพื้นที่เหลือรอบเตียงเยอะ บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่เหลือเยอะ เราสามารถ Built-in ตู้เพิ่มเติมแบบห้องตัวอย่างได้

บริเวณด้านข้างเตียงมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะหัวเตียง + โต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้ ส่วนห้องนอนชั้นล่างมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวก

ห้องน้ำขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวก พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค 30×30 ซม. พร้อมหน้าต่างเปิดระบายความชื้นได้ดี

พื้นที่ห้องน้ำแยกส่วนเปียกแห้งด้วยการลดระดับพื้น ที่เราแนะนำให้ติดฉากกั้นเพิ่มเติม ป้องกันน้ำกระเด็นออกมาด้านนอกค่ะ

ภายในมีอ่างล่างหน้าและโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American standard เป็นมาตรฐาน

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.35 x 85 เมตร พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้ พร้อมชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำเป็นตำแหน่งที่หยิบจับได้สะดวก

บันไดของที่นี่เป็นโครงสร้างเหล็ก ทำให้เวลาเดินจะมีเสียงรบกวนเล็กน้อย ความกว้างของบันได 1 เมตร ลูกตั้ง 19 ซม. ลูกนอน 25 ซม. ที่เดินใช้งานกันสบายๆ นอกจากนี้ชานพักเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 3.6×2.7 เมตร ที่ไม่ต้องกลัวสะดุดล้มนะคะ

บริเวณชานพักมีแสงส่องเข้าได้ 2 ฝั่ง แสงส่องได้ทั่วถึง แต่ด้วยระยะที่สูงเรายังสามารถหา Chandelier หรือโคมไฟระย้าสวยๆมาติดตั้งเพิ่มได้อีก

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอโถงทางเดินที่ค่อนข้างกว้างประมาณ 2.2 เมตร ที่สามารถวางโซฟา + ตู้ Built-in เพิ่มเติมเหมือนบ้านตัวอย่างได้นะคะ

เดินถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ Family Area ขนาด 3.7 x 3.2 เมตร ที่ทำเป็นมุมนั่งเล่นเฉพาะคนในครอบครัว หรือทำเป็นพื้นที่ทำงานก็ได้แบบบ้านตัวอย่าง โดยบริเวณนี้รายล้อมด้วยหน้าต่าง แสงเข้าได้เต็มที่

เชื่อมต่อกับ Double Volume ที่มองลงไปเห็นห้องรับแขกชั้นล่าง ทำให้เห็นว่าใครมาบ้าน โดยไม่ต้องลงไปด้านล่างนะคะ

พื้นที่อเนกประสงค์เชื่อมต่อกับระเบียงภายนอก

ส่วนพื้นที่นี้จะเป็นระเบียงเพียงจุดเดียวของชั้น 2 ซึ่งโครงการเลือกที่จะออกแบบไว้นอกห้องนอนก็เป็นเพราะว่า เค้าต้องการเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องให้เยอะที่สุด และสิ่งที่เพิ่มมาคือ ช่องหน้าต่างจากห้องนอน Master Bedroom  เพิ่มแสงสว่างภายในห้อง

โดยระเบียงขนาด 3.9×1.27 เมตร ที่สามารถเอาโต๊ะเก้าอี้ออกมานั่งชิวๆ เปลี่ยนบรรยากาศด้านนอก ส่วนราวระเบียงเป็นกระจก Tempered Glass ที่มีความโปร่งโล่งและทันสมัย ทำให้ Take View ได้เต็มที่

มาดูกันที่ห้องนอนเล็กกันดูบ้างโดยตำแหน่งจะติดกับพื้นที่หลังบ้าน ที่ทั้ง 2 ห้องนอนนี้ มีขนาดเท่ากัน และห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวก

ห้องนอนเล็กขนาด 3.9×3.3 เมตร ที่วางเตียง 5 ฟุตได้กำลังดี พร้อมพื้นที่ปลายเตียงสามารถ Built-in ตู้เก็บของเพิ่มเติม โดยห้องนี้มีหน้าต่าง 2 ฝั่ง ที่แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่

สำหรับบ้านตัวอย่างวางเตียง 2 ชั้นมาให้ดูเป็นไอเดีย เนื่องจากความสูงพื้นถึงฝ้า 2.7 เมตร ทำให้สามารถจัดสเปซแบบนี้ได้สบายๆ

บริเวณปลายเตียง Built-in เป็นตู้แนวยาวแบบห้องตัวอย่างได้เลยนะคะ

ห้องน้ำติดหลังบ้านมีหน้าต่างบานกระทุ้ง ช่วยระบายความชื้นในห้องน้ำได้ดี ภายในมีการแบ่งเเยกส่วนเปียก-แห้ง ด้วยการลดระดับพื้น ที่ควรหาผ้าม่านหรือฉากกั้นเพิ่มเติมนะคะ

อ่างล้างหน้า + โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American Standard เช่นเดียวกันชั้นล่าง ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำ ที่ติดตั้งฝักบัว + ชั้นวางมาให้เรียบร้อย ส่วนพื้นเป็นมุมหักแบบนี้ ที่อาจจะหาฉากกั้นยากหน่อยนะคะ พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.10×0.80 เมตร ยืนใช้งาน 1 คนได้กำลังดี

ที่น่าสนใจของบ้านตัวอย่าง คือบริเวณกำแพงที่กั้นระหว่าง 2 ห้องนอนเล็ก ด้วยความที่โครงสร้างบ้านเป็นผนังก่ออิฐมวลเบา ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้แบบนี้เลย เป็นการเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันค่ะ

ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้องขนาดเท่ากับห้องที่แล้วเลย ที่โครงการจัดห้องนอนเด็กผู้หญิงมาให้ดูเป็นไอเดีย

ห้องนอนสีชมพูนุ่มฟู ส่วนบริเวณปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าหน้าตาแบบนี้ได้เลยนะคะ

ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกแห้งด้วยระดับพื้นเหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ ส่วนสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American Standard ทั้งหมด

มาดูที่ห้อง Master Bedroom กันต่อค่ะ ห้องนี้ตั้งอยู่ตำแหน่งหน้าบ้านภายในกว้างจัดฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วนดี โดยวางเตียง 6 ฟุต หรือ King Sizeได้สบายๆเลย + โต๊ะหัวเตียงเอาไว้วางของก่อนนอน ส่วนปลายเตียงและด้านข้างมีพื้นที่เหลือวางโซฟาเพิ่มเติมแบบนี้ได้เลยนะคะ

บริเวณปลายเตียงมีทางเดินไปห้องน้ำ ซึ่งบ้านตัวอย่างกั้นพื้นที่มาให้ดูเป็นสัดส่วน โดยหน้าห้องน้ำมีพื้นที่เหลือทำเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก

ด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ขนาด 3.8×2.2 เมตร ที่เราสามารถทำเป็นพื้นที่ Walk-in Closet โดยวางตู้เสื้อผ้าแนวยาว พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย

ห้องน้ำของ Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่มากกว่าห้องอื่นๆ ภายในมีการแยกส่วนเปียกเเห้งด้วยการลดระดับพื้นเช่นกัน แต่ที่น่าสนใจคือมีพื้นที่ระเบียง ทำให้แสงส่องเข้ามาได้เยอะเลย และดูสว่างมากทีเดียว

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำมีการ Upgrade ขึ้นมาเล็กน้อย โดยอ่างล้างหน้าจะมีตู้ด้านล่างเอาไว้เก็บของ ส่วนสุขภัณฑ์ใหญ่มากขึ้น ถัดมาพื้นที่อาบน้ำขนาดใหญ่ 1.64×0.84 เมตร ใช้งานได้สบายๆเลย

ภายในห้องน้ำมีประตูบานเลื่อนเปิดไปเป็นระเบียง ที่เอาไว้ตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้นะคะ

ชั้นที่ 2 จะมีตัวควบคุม Magnetic Sensor มาให้ โดยเชื่อมต่อกับตัวรับสัญญาณบริเวณประตูหน้าต่างทุกบานนะคะ

ภายในบ้านมีระบบ Home Automation ทุกหลัง ซึ่งตอนนี้มีเครื่อง Spot รับสัญญาณ 2 จุด ที่เราสามารถสั่งงานผ่านมือถือได้ อาทิ การควบคุมการเปิดปิดไฟ แอร์ ทีวี เป็นต้น ผ่าน App มือถือ ที่เราสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้ โดยอุปกรณ์ตัวนี้จะเป็นไฟ LED ภายในตัวมีสีให้เลือกมากกว่า 16 ล้านสี ซึ่งเราสามารถปรับสีสันด้วยควาต้องการ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

MEADOW บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่ดิน 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 122 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

“บ้านชั้นเดียว” เป็นบ้านที่มีฟังก์ชันภายในอยู่ชั้นเดียวกันหมด ซึ่งถ้าเราลองเอาแปลนบ้านมากางดูก็จะพบว่าจริงๆแล้วแปลนเหมือนคอนโดห้องใหญ่เลย ซึ่งก็มีฟังก์ชันครบเลย แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากคอนโดคือ เราจะมีที่จอดรถเป็นของตัวเอง มีพื้นที่รอบบ้านให้ปลูกต้นไม้ทำสวนได้ และยังได้ความเป็นส่วนตัวแยกจากเพื่อนบ้านมากขึ้นอีกด้วย 

ข้อดี : สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือเรื่อง “ราคา” ที่ถูกกว่าบ้านหลายชั้นพอสมควร ใช้ต้นทุนค่าก่อสร้างไม่มาก รวมถึงการที่ไม่มีบันไดต้องเดินขึ้น-ลงแบบนี้ จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือมีเด็กอาศัยอยู่ด้วย เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ดี แถมยังขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ก็ทำได้สะดวก แถมห้องนอนก็อยู่ติดสวนหย่อม ภายในห้องสว่าง และโปร่งโล่งอีกด้วยค่ะ

BRAVO-B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

ลักษณะบ้านตอนลึก ภายในเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ ชั้นล่างมีห้องนอนรองรับการใช้งานผู้สูงอายุ ที่ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ ส่วนห้องครัวปิดสามารถทำอาหารจริงจังเชื่อมต่อกับพื้นที่หลังบ้าน ส่วนชั้นที่ 2 เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด โดยเป็นลักษณะ 3 ห้องนอน + ห้องน้ำในตัว ที่ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

STARRY บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

ตัวบ้านเพิ่มห้องนอนชั้นล่างแยกออกไปด้านข้างมีหลังคายื่นออกมา ช่วยทำให้บ้านดูมีมิติมากขึ้น และยังคงได้ฟังก์ชันครบถ้วนเช่นเดิม เพียงแต่จะไม่มีประตูทางเข้าจากโรงจอดรถ ส่วนชั้นที่ 2 ห้องนอนเล็กจะไม่ได้มีห้องน้ำในตัว ต้องออกมาใช้งานร่วมกันด้านนอก ส่วนห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ Walk in closet เล็กลง ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ ที่อาจไม่ซีเรียสเรื่องความเป็นส่วนตัวมากนัก สามารถแชร์ฟังก์ชันบางอย่างร่วมกันได้ เน้นพื้นที่สวนหย่อมรอบบ้านขนาดใหญ่

MAGNITUDE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 67 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 2 ที่จอดรถ

บ้านหลังนี้มีทางเข้า-ออก 2 จุด คือโรงจอดรถและเฉลียงหน้าบ้าน ที่ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ที่เราชอบเลยคือพื้นที่รับประทานอาหาร ได้ช่องแสงขนาดใหญ่บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง ส่วนห้องนอนชั้นล่างจะอยู่ตำแหน่งใกล้กับห้องน้ำที่ใช้งานได้สะดวก ถัดขึ้นไปชัน 2 มีพื้นที่ Family area ให้สมาชิกในบ้านใช้งานได้เป็นส่วนตัว ห้อง Master Bedroom กินพื้นที่หน้าบ้านจนถึงหลังบ้าน แสงส่องเข้าได้เต็มที่ ทำให้ได้พื้นที่ Walk in Closet ขนาดใหญ่ ปิดท้ายด้วยห้องนอนเล็กที่ต้องเดินออกมาใช้ห้องน้ำร่วมกันด้านนอกนะ

LEGEND บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 71 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 2 ที่จอดรถ

บ้านหลังนี้ฟังก์ชันชั้นล่างเหมือนกับบ้านหลังที่แล้ว แต่ฟังก์ชันการใช้งานมีขนาดใหญ่มากขึ้น ส่วนชั้นบนมีการปรับพื้นที่ให้ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวใช้งานสะดวก และที่น่าสนใจคือห้อง Master Bedroom มีระเบียงส่วนตัว และภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำเพิ่มเติม เหมาะนอนแช่ตัวพักผ่อนชิวๆ คลายเครียดหลังจากการทำงานมาเหนื่อยๆนะคะ

Centro พหลฯ – วิภาวดี 2 ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2564

• BRAVO-B ที่ดินมาตรฐาน 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 5.39 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา n/a บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 55,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 31 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

Centro พหลฯ – วิภาวดี 2 ตั้งอยู่ในโซนรังสิต ทางเข้า-ออกติดถนนพหลโยธิน ใกล้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ รังสิต ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ทั้งเมเจอร์ โลตัส บิ๊กซี และในอนาคตคาดว่ากำลังจะมีห้าง Central มาเปิดอีกด้วยนะ รวมถึงมีตลาดต่างๆกระจายตัวอยู่ใช้งาน นอกจากนี้ตัวถนนพหลโยธินยังมีรถสาธารณะขับผ่านไปผ่านมาตลอดเวลา ใช้งานได้สะดวก ที่น่าสนใจอีกจุดคือเวลาเราไป Future Park รังสิต เสร็จแล้ว เราสามารถวนรถกลับไปโครงการได้เลย ไม่ต้องเสียเวลากลับรถอีกด้วย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ความปลอดภัยของโครงการค่อนข้างสูงเนื่องจากตั้งอยู่ในเวิ้งของ AP ที่ด้านหน้ามีถนนส่วนบุคคลเชื่อมมายังตัวโครงการ ทำให้ตรงนี้เราได้ Double Gate มีรปภ.ดูแลความปลอดภัยถึง 2 ชั้น ส่วนบริเวณซุ้มประตูทางเข้าโครงการก็เลือกใช้ระบบ KATSAN ที่เข้าออกด้วยทะเบียนรถ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมรปภ.ดูแลความปลอดภัย 24 ชม. + CCTV 32 จุดภายในโครงการ รวมถึงตัวบ้านก็มีติดตั้ง Magnetic Sensor มาให้ที่ประตูหน้าต่างทุกบาน

การออกแบบโครงการ :

พื้นที่โครงการ 58 ไร่ จำนวน 249 ยูนิต โดยวางผังเป็นแนวยาวตอนลึกเข้าไป มีทางเข้า-ออกจุดเดียว เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน พื้นที่ส่วนกลางเชื่อมกับซุ้มประตูด้านหน้า ทำให้บ้านในเฟสแรกเดินไปใช้งานได้ง่าย ส่วนบ้านโซนด้านหลังอาจจะต้องขับรถมาใช้งานแต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ที่น่าสนใจคือฝั่งที่หน้าบ้านหันเข้าหากัน จะได้ถนนหน้าบ้านกว้าง 12 เมตร ที่มีระยะห่างกันพอสมควร ส่วนหน้าบ้านอีกฝั่งหันไปทางรั้วโครงการ ที่ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

แบบบ้านมีให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยวชั้นเดียว และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีแบบบ้านให้เลือกค่อนข้างมากถึง 6 แบบ ตั้งแต่บ้านชั้นเดียว 122 ตร.ม. ไปจนบ้าน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอบ 173-262 ตร.ม. ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอย ทุกแบบมีฟังก์ชันให้มาครบครัน และพื้นที่แต่ละส่วนจัดว่ามีขนาดพอเหมาะกับการอยู่อาศัยได้ดี ไม่คับเเคบจนเกินไป สำหรับบ้าน 2 ชั้นออกแบบให้มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือเด็กเล่นให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

ขอพูดถึงบ้านตัวอย่าง แบบบ้าน MERCI หลังใหญ่ที่สุด พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.7 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูโปร่งโล่งดี จุดเด่นของบ้านนี้เลย คือพื้นที่จอดรถในร่มได้ถึง 3 คัน ภายในแบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนดี มีพื้นที่นั่งเล่นถึง 3 จุด โดยชั้นล่างมีห้องรับแขกแยกกับพื้นที่นั่งเล่นริมสวน แถมชั้นบนยังมีพื้นที่ Family area แยกใช้งานเฉพาะสมาชิกในครอบครัว ถัดไปมีห้องนอนชั้นล่างรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ ที่ไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ โดยห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก ส่วน Master Bedroom มี Walk in Closet เหมาะกับคนที่ชอบแตกต่างค่ะ

วัสดุ :

โครงสร้างแบบใช้อิฐมวลเบา พื้นที่จอดรถเเละซักล้างจะเป็นโครงสร้าง Slab on Ground เเยกโครงสร้างกับตัวบ้าน ป้องกันการทรุดตัวในอนาคต พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ห้องนอนเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังติด ห้องครัวมีก่อเคาน์เตอร์ให้แต่จะไม่มีหน้าบานมาให้ บันไดโครงสร้างเหล็กที่เวลาเดินจะมีเสียงรบกวนอยู่บ้าง ประตูและหน้าต่างยี่ห้อ Amigo หนาแน่นดี + กระจกสีเขียวตัดแสง ป้องกัน UV ได้ระดับนึง ปิดท้ายด้วยสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ยี่ห้อ American Standard ภายในบ้านทุกหลังมีระบบ Home Automation และ Magnetic Sensor มาให้เรียบร้อย

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

พื้นที่สีเขียวในโครงการจัดให้มาบริเวณด้านหน้าใกล้โซนคลับเฮาส์ (แต่ในอนาคตจะมีพื้นที่สวนหย่อมด้านในเพิ่มเติม) ส่วนริมรั้วโครงการมีพื้นที่สีเขียว บรรยากาศร่มรื่น พื้นที่หน้าบ้านจะปูพื้นสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่ให้สวยงาม ส่วนภายในบ้านก็ปูพื้นหญ้ามาให้รอบบ้าน พร้อมต้นไม้ใหญ่ในบ้าน 1 ต้น ทำให้มองไปทางไหนก็เจอแต่พื้นที่สีเขียว สบายตา

สาธารณูปโภค :

อาคาร Clubhouse เชื่อมต่อกับซุ้มประตูทางเข้า ที่ดูอลังการดี โดยที่นี่มีระบบ KATSAN พิเศษเฉพาะโครงการ AP ที่ทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายมากขึ้น ส่วน Facilities ก็ตำแหน่งและฟังก์ชันได้ดี เช่น สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่เพิ่มต้นไม้ใหญ่บังตาได้นิดหน่อย ติดๆกันมีห้องแอร์นั่งเล่นให้ผู้ปกครองมานั่งรอเด็กๆ แทนที่ต้องมานั่งร้อนตรง Day Bed ข้างสระ นอกจากนี้ยังมี Kid’s Room และ Co-working Space มาให้ใช้งานเพิ่มเติม ส่วนห้องออกกำลังกายอยู่ชั้นบนเหนือประตูทางเข้า ที่เราสามารถมองเห็นวิวมุมสูงของโครงการนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 8 ล้านบาท, 14 พฤษภาคม 2564

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.25/10 – โครงการติดถนนใหญ่พหลโยธิน ใกล้ทางด่วน และความอุดมสมบูรณ์สูงสุดของย่านนี้
• ความปลอดภัย 8/10 – ตั้งอยู่ในเวิ้ง AP ทำให้มี Double Gate ตรวจสอบความปลอดภัย 2 ชั้น ส่วนตัวโครงการมีประตูเลื่อน รปภ. CCTV 32 จุด พร้อมระบบ KATSAN
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – มีบ้านให้เลือกเยอะมากถึง 6 แบบ ตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันไป เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่
• วัสดุ 7.75/10 – ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยที่เยอะ มีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ถนนภายในกว้าง มีการปลูกต้นไม้ตลอดทาง หน้าบ้านปูพื้นหญ้า และต้นไม้ใหญ่ ส่วนริมรั้วจัด Landscape บรรยากาศร่มรื่น
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – พื้นที่ Club House เชื่อมต่อกับซุ้มประตูทางเข้าตามแบบฉบับ AP บรรยากาศน่าใช้งาน สวยงามดี ขนาดเหมาะสมกับจำนวนยูนิต
• 8.10 / 10.00

Centro พหลฯ – วิภาวดี 2 เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนมองหาบ้านเดี่ยวชั้นย่านรังสิต ติดถนนพหลโยธินเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ตั้งอยู่ในเวิ้ง AP ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Gate ทำเลใกล้ทางด่วน และความอุดมสมบูรณ์สูง ภายในมีส่วนกลางและพื้นที่สีเขียว ร่มรื่นดี โดยมีแบบบ้านให้เลือกถึง 6 แบบ ที่อยู่กันเป็นครอบครัวกลาง-ใหญ่ มีงบประมาณ 5-8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 35,000 – 56,000 บาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc