รีวิวฉบับที่ 2069 สวัสดีค่ะทุกคน ครั้งนี้เราไปรีวิวบ้านกันแถวเอกชัย-บางบอนกันนะคะ ซึ่งก็คือโครงการมัณฑนา วงแหวน-บางบอน บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินกว่า 100 ตร.วา มากับซีรีย์บ้านใหม่ มีเรือนรับรองแยกเพิ่มมา สามารถขยับขยายเป็นบ้านหลังรอง รองรับครอบครัวขยายได้ ในราคาเริ่ม 9.9 ล้านบาท
ข้อมูลโครงการ
22 April 2020
- Mantana Wongwan – Bangbon (มัณฑนา วงแหวน-บางบอน)
- บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน)
- HIGH – LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ถนนบางบอน 4 เขตบางบอน
- เนื้อที่โครงการ 91-3-65.8 ไร่ จำนวน 198 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ดินมาตรฐาน 103 ตร.วา ขึ้นไป
- Greater+ ที่ดิน 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 187 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท
- Amber+ ที่ดิน 110 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 199 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 11.3 ล้านบาท
- Continuo+ ที่ดิน 130.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 258 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 13.4 ล้านบาท
- Multiply+ ที่ดิน 119.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 19.3 ล้านบาท
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.652901, 100.373296
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการมัณฑนา วงแหวน-บางบอน ตั้งอยู่ในทำเล ย่านเอกชัย-บางบอน เป็นทำเลกรุงเทพฝั่งตะวันตกใกล้จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนจะถึงมหาชัยที่เป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมเล็กและใหญ่ค่อนข้างเยอะ ทำเลนี้จะขยับเข้ามาใกล้ตัวเมืองมากขึ้นหน่อย ได้สภาพแวดล้อมที่เป็นชุมชนที่พักอาศัย ไม่ใช่บรรยากาศในย่านอุตสาหกรรมมากนักเมื่อเทียบกับย่านมหาชัย บรรยากาศแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์เลย และดูจากการพัฒนาที่ดินต่างๆ แล้ว คิดว่าย่านนี้ก็คงจะมีการพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่องนะคะ ซึ่งถ้าเจาะเป็นโครงการบ้านพักอาศัยนั้น ส่วนใหญ่เราจะเห็นเป็นบ้านเดี่ยวที่ดิน 100 ตร.วาขึ้นไปอย่างตัวโครงการเอง ไปจนถึงทาวน์โฮมขนาดกะทัดรัด เพราะเป็นทำเลที่มีการอยู่อาศัยของคนหลายระดับด้วยกันตั้งแต่พนักงานโรงงาน ไปยังถึงเจ้าของกิจการโรงงานทั้งเล็กใหญ่ในย่านนี้เพื่อที่จะไปทำงานได้สะดวก ใกล้ๆ บ้าน ขับรถใช้เวลาไม่นาน รวมทั้งยังวิ่งเข้าพระราม 2 และขึ้นวงแหวนและทางด่วนเฉลิมมหานครได้ไม่ยากสำหรับการเข้าเมืองนะคะ
ถ้าพูดถึงเส้นทางการเดินทางของคนแถวนี้และทำเลโครงการ ส่วนใหญ่การใช้งานจะอิงไปที่ถนนเพชรเกษม, ถนนเอกชัย, ถนนพระราม 2และถนนกาญจนาภิเษก เดี๋ยวเราไล่กันไปที่ละเส้นทางกัน สำหรับถนนเพชรเกษมเป็นอีกเส้นทางที่หลายคนใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางสาทรได้นะคะ หรือนอกจากจะขับรถแล้วถนนเส้นนี้ก็มีรถไฟฟ้าให้ใช้งานกันด้วยค่ะ
สำหรับถนนเอกชัยก็คงไม่พ้นเป็นถนนหลักที่ใช้วิ่งไปทางสมุทรสาครนะ ส่วนใครจะใช้ถนนพระราม 2 นั้นแนะนำให้ออกจากโครงการมาแล้วกลับรถเพื่อทะลุออกพระราม 2 ซอย 100 จะค่อนข้างสะดวกค่ะ ถ้าทะลุมาจากทางนี้นอกจากจะไปห้างบนพระราม 2 ได้สะดวกแล้ว การใช้ทางด่วนกาญจนาภิเษกวิ่งต่อเข้าเมืองก็ง่ายเลยค่ะ
ซูมเข้ามาในทำเลใกล้ละแวกโครงการอีกหน่อย สำหรับถนนบางบอน 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ จัดเป็นถนนสายเล็กๆ เชื่อมระหว่างถนนเอกชัยและถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ ที่จะเชื่อมเข้าถนนบางบอน 3 และ 5 อีกที บรรยากาศภายในถนนบางบอน 4 นี้จะมีค่อนข้างเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน แต่ก็จะแลกกับความอุดมสมบูรณ์ที่น้อยกว่าถนนบางบอน 3 และ 5 ที่เป็นถนนขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยและเป็นถนนสายสำคัญที่สามารถไปทะลุออกถนนเพชรเกษมได้ จึงมีคนอยู่อาศัยเยอะ อุดมสมบูรณ์และคึกคักมากกว่านั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วก็ถือว่าอยู่ในย่านใกล้เคียงกัน ขับรถไปกินข้าวได้ง่ายไม่ได้ไกลค่ะ ถ้าใครไม่ชอบรถติดในซอย อยากได้บรรยากาศในซอยร่มรื่นหน่อยเราว่าซอยนี้น่าสนใจเลย
ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้หลักๆ เลยคือบนถนนบางบอน 3 และ 5 มีครบทุกอย่างทั้งร้านค้าร้านอาหาร โรงเรียน วิทยาลัย และ Hypermarket จัดว่าครบครันทีเดียวไม่ต้องเดินทางไปไกล นอกจากนี้พวกร้านค้า ร้านอาหารก็พอมีให้เห็นเรื่อยๆ บนถนนเอกชัยด้วย หรือจะเลยไปหน่อยขับรถเข้าถนนบางบอน 3 หรือ 5 ไปทะลุออกถนนเพชรเกษมที่มีห้างและ Hyper Market ครบครัน โดยรวมแล้วโครงการอยู่ในแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร
การเดินทางไปโครงการครั้งนี้เราเริ่มต้นกันที่บริเวณถนนกาญจนาภิเษก ช่วงก่อนเลี้ยวเข้าถนนเอกชัยค่ะ จากนั้นเราก็ขับตรงยาวๆ เลย สังเกตว่าผ่านจุดตัดกับถนนบางบอน 3 มาก่อน แล้วขับตรงไปอีกสักพัก เมื่อผ่านถนนบางบอน 4 ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วให้เตรียมกลับรถ จากนั้นเลี้ยวเข้าถนนบางบอน 4 ตรงยาวๆ ประมาณ 1.3 กม. ก็จะเห็นทางเข้าโครงการฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ
เริ่มต้นการเดินทางจากถนนกาญจนาภิเษก ช่วงที่กำลังเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเอกชัย มุ่งหน้าไปตามป้ายสมุทรสาคร
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
สถานศึกษา
- โรงเรียนสารสาสน์บางบอน ~4 กม.
- โรงเรียนกรพิทักษ์ ~5 กม.
- โรงเรียนเลิศหล้า ~9 กม.
ห้างสรรพสินค้า
- Central พระราม 2 ~11 กม.
- The Mall บางแค ~12 กม.
- Tesco Lotus พระราม 2 ~12 กม.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ~11 กม.
- โรงพยาบาลบางมด 3 ~15 กม.
รายละเอียดโครงการ
หลังจากรู้ตำแหน่งที่ตั้งโครงการและทำเล เรื่องการเดินทางครบจบกันไปแล้ว เรามาทำความรู้จักโครงการนี้กันต่อเลยนะคะ โครงการมัณฑนา วงแหวน-บางบอนนี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ดินรวมแล้วประมาณ 91 ไร่กว่าเลยทีเดียว จัดเป็นที่ดินขนาดใหญ่ใช้ได้เลยนะคะ และมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 198 ยูนิต ซึ่งแม้อยู่ยูนิตจะอยู่ขนาดกลางๆ ไม่ได้น้อยไม่ได้เยอะมากนัก แต่ด้วยแต่ละแปลงที่ดินมีขนาดกว่า 100 ตร.วา เลยทำให้ที่ดินรวมขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ ข้อดีของแต่แปลงที่มีขนาดที่ดินเยอะนั้น นอกจากแต่ละหลังจะได้ที่ดินไว้ต่อเติม หรือมีพื้นที่สวนให้เด็กๆ วิ่งเล่นกันได้แล้ว สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือเรื่องของความหนาแน่นน้อย นั่นเองค่ะ ความหมายของคำว่าหนาแน่นน้อยนี้หมายถึงว่า บ้านแต่ละหลังไม่ได้อยู่ติดกันมากจนเกินไป ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มมามากขึ้นไปด้วยนะคะ
เอาล่ะค่ะ…เดี๋ยวเราจะขอเริ่มอธิบายผัง Master กันก่อนทุกคนจะได้เห็นภาพรวมกันนะ เริ่มจากถนนบางบอน 4 มาที่ถนนของโครงการ ก่อนที่จะถึงซุ้มโครงการหรือป้อมรปภ.นั้นจะเป็นถนนภาระจำยอม ซึ่งต้องแชร์การใช้งานกับเพื่อนร่วมที่ดินข้างเคียงในอนาคตนะคะ
ส่วนที่เป็นของโครงการเลยจะนับตั้งแต่ซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามาเป็นต้นไป สังเกตว่าตำแหน่งของ Facilities ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบและ Club House จะอยู่บริเวณกลางๆ ของผัง เพื่อให้ลูกบ้านสามารถเข้าถึง Facilities ได้ง่ายมากขึ้น และถ้าพูดถึงขนาดของพื้นที่ส่วนกลางที่ให้แล้วรวมทั้งหมดประมาณกว่า 7.7 ไร่ ถ้าคิดเป็น % ก็จะอยู่ที่ประมาณกว่า 8.5% ซึ่งถือว่าให้มามากกว่ามาตรฐานจัดสรรทั่วไป สามารถพูดได้ว่าทางโครงการจัด Facilities มาให้เยอะเลย
เรามาดูบรรยากาศจริงกันเลยนะคะ เริ่มจากตรงถนนทางเข้าโครงการที่ติดกับถนนบางบอน 4 เราจะเห็นป้ายโครงการขนาดใหญ่เลย
เข้ามาในส่วนนี้คือส่วนที่เป็นถนนภาระจำยอมอยู่นะคะ แต่ทางโครงการก็ตกแต่งปลูกต้นไม้สร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นตั้งแต่ทางเข้าเรื่อยมาเลย ซึ่งจะเห็นว่าต้นจามจุรีขนาดใหญ่ รออีกไม่กี่ปีมุมตรงนี้เราน่าจะเห็นเป็นอุโมงค์ต้นไม้ได้แล้ว
จากนั้นเราจะเจอกับวงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ ตรงนี้ทางโครงการทำถนนกว้างมากดูแล้วโอ่อ่าทีเดียวค่ะ
เราตรงมาจนถึงซุ้มทางเข้าโครงการนะคะ ลักษณะจะเป็นซุ้มแบบ Freeform ดูโปร่ง มีการแบ่งทางเข้า-ออกเป็น 2 ทางและคั่นกลางด้วยป้อมรปภ.
ซึ่งแต่ละทางเข้าหรือทางออกจะย่อยทางแยกอีก 2 ทาง สำหรับลูกบ้านและ Visitor กรณีลูกบ้านก็สามารถใช้ Keycard Access ระยะไกล สแกนเข้าได้เลยค่ะ ลักษณะการใช้งานเหมือน Easy Pass บนทางด่วน ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรทุกครั้งในการเข้าโครงการนะคะ
และพิเศษในช่วง Covid-19 ทางโครงการมีการวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนที่จะเข้าสู่โครงการด้วยนะ
ถนนหลักภายในโครงการค่อนข้างกว้างทีเดียวนะคะ ระยะจะอยู่ที่ 16 ม. ซึ่งรอบข้างก็จะปลูกต้นจามจุรีขนาดใหญ่ ได้บรรยากาศเป็นอุโมงค์ต้นไม้สวยงามและร่มรื่นดีมาก
ขยับเข้ามาในส่วน Facilities สิ่งแรกที่เห็นคือทะเลสาบขนาดใหญ่ พูดได้เลยว่าใหญ่มากจริงๆ ค่ะ เราลองวัดจาก Google Satellite แล้วพื้นที่รวมทั้งทะเลสาบคร่าวๆ จะอยู่ที่ 2.4 ไร่เลยทีเดียวค่ะ ในทะเลสาบมีน้องปลาด้วยนะ เข้าใจว่าทางโครงการก็พยายามจะสร้างธรรมชาติให้เกิดขึ้นจริง เป็นระบบนิเวศน์ใหม่เลย
ซึ่งถ้าพูดถึงทะเลสาบเราว่าเป็นอีกหนึ่ง Identity ของ L&H อยู่นะคะ ไม่ว่าโครงการไหนก็มักจะมีการขุดทะเลสาบสร้างบรรยากาศ นอกจากได้เรื่องบรรยากาศแล้ว น้ำก็ช่วยลดอุณภูมิให้กับพื้นที่โดยรอบได้อีกทางหนึ่งเหมือนกัน
เดี๋ยวขอข้ามสะพานไปส่วนของสวนและ Jogging Track กันนะคะ
ข้ามมาแล้วเดี๋ยวเราพาเดินดูสวนกันค่ะ
นอกจากสวนแล้วทางโครงการก็มีสร้างฟังก์ชันการใช้งานไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นกลางแจ้งไว้ให้ และที่เห็นพื้นเป็นสีๆ นั้นก็คือพื้นยางที่มีความนุ่มพิเศษกว่าพื้นคอนกรีตทั่วไป เพื่อช่วยลดแรงกระแทกเวลาเด็กๆ เล่นแล้วสะดุดล้ม
ถัดมาดูบรรยากาศสวนและทางเดินใต้ร่มไม้ใหญ่ ตอนเราไปเดินช่วงเวลาเที่ยงๆ ร้อนมากจริงค่ะ แต่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเราว่าช่วยได้เยอะเลยนะ ซึ่งลองคิดว่าถ้าเรามาเดินช่วงเช้าๆ หรือเย็นๆ น่าจะชิลน่าดูค่ะ
ก่อนเข้าไปดู Club House กัน จะบอกว่าทุกทางเข้าส่วน Facilities การออกแบบนั้นจะใช้แบบ Universal Design คือการออกแบบที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย มีทางลาดไว้สำหรับผู้สูงอายุใช้ Wheel Chair ขึ้น-ลงได้ง่าย เป็นต้น
บริเวณ Club House แบ่งเป็น 2 อาคารนะคะ อาคารแรกเป็นอาคารต้อนรับมีห้องน้ำในตัว และอีกอาคารเป็นอาคารติดกับสระว่ายน้ำและด้านบนเป็นห้อง Fitness ค่ะ
สำหรับภายในอาคารต้อนรับปัจจุบันทางโครงการจัดให้เป็น Sale Gallery อยู่นะคะ ซึ่งในอนาคตก็จะเป็นพื้นที่ของลูกบ้านอยู่ดีค่ะ ภายในมีชุดที่นั่ง ชุดโซฟาเอาไว้สำหรับมานั่งเล่นหรือใช้รับรองแขกกันได้ค่ะ
ส่วนห้องน้ำก็จะมี Locker เอาไว้เก็บของได้ เวลาเราจะมาเล่นฟิตเนสหรือว่ายน้ำ
มุมอ่างล้างมือ
มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้ครบครัน โดยใช้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติด้วยนะคะ
สระว่ายน้ำที่นี่เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือ ขนาดของสระผู้ใหญ่อยู่ที่ 10 x 20 เมตร ถือว่าใหญ่พอตัว ใช้ว่ายออกกำลังกายได้ดีเลย
ด้านข้างมีมุมล้างตัวให้เรียบร้อยค่ะ
ส่วนใต้อาคาร Club House จัดให้เป็นมุม Day Bed อยู่ในร่มจะได้ไม่ร้อนไปนะคะ
มุมมองจาก Day Bed หันไปทางสระแล้วเชื่อมไปยังสวนและทะเลสาบ เป็นวิวสุดลูกหูลูกตาเลย ของจริงสวยทีเดียวค่ะ
ติดกับ Day Bed เป็นมุมสระว่ายน้ำเด็ก ขนาดอยู่ที่ 3.4 x 7 เมตร ลักษณะเป็นสระในร่มซึ่งเราว่าดีมากเลย เด็กๆ จะได้ไม่ร้อนและมาใช้งานได้ตลอดไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ช่วงเช้าหรือเย็นเท่านั้น
ขึ้นไปดูชั้น 2 ของ Club House กันต่อนะคะ
บริเวณด้านบนมีจัดมุม Semi-Outdoor พร้อมชุดโซฟาให้นั่งเล่นชมวิวทะเลสาปมุมสูงได้
และถัดมาก็จะเป็นห้อง Fitness ซึ่งมีเครื่องเล่นอยู่ประมาณ 5 เครื่องนะคะ แบ่งออกเป็นลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน Weight Trainning และมุมดัมเบล นับว่าเครื่องเล่นไม่เยอะมากนะ แต่ก็มีให้ครบค่ะ
หลังจากดู Facilities เสร็จแล้ว เรามาดูอีกสิ่งนึงที่เราค่อนข้างประทับใจคือถนนภายในโครงการนี้ สังเกตว่าด้านข้างมีเนื้อที่สวนและวางต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านให้ด้วย ดูร่มรื่นและช่วยบังสายตาจากเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามได้ ช่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัวไปโดยปริยายเลยนะคะ ส่วนขนาดความกว้างของถนนซอยแบบนี้จะอยู่ที่ 9 เมตรค่ะ
อันนี้เราถ่ายจากถนนรองอีกจุด ซึ่งจะเป็นถนนที่ตัดแนวด้านข้างบ้าน ฟุตบาทไม่ใหญ่เท่าถนนซอยฝั่งหน้าบ้าน แต่ก็จัดต้นไม้แบบจัดเต็มดูเขียวร่มรื่นดีค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ
- สระผู้ใหญ่ ขนาด 10 x 20 เมตร
- สระเด็ก ขนาด 3.4 x 7 เมตร
แบบบ้าน
พูดถึงการออกแบบบ้านแล้ว ในเชิงสถาปนิกอย่างเราคำถามแรกที่มักจะถามก็คงจะเป็นเรื่องคำถามเบสิก อย่าง ครอบครัวมีกี่คน, มีใครอยู่ด้วยกันบ้าง, คุณตาคุณยายอยู่ด้วยไหม, ลูกๆ จะแต่งงานขยายครอบครัวยัง… คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ทำให้เกิดฟังก์ชันการใช้จริงเพื่อตอบโจทย์คนอยู่จริงๆ นะคะ
ซึ่งหันกลับมาที่โครงการ มัณฑนา วงแหวน-บางบอน การตีโจทย์ของสถาปนิก L&H ก็ตีโจทย์ลูกบ้านและออกแบบกลับมาค่อนข้างชัดเจนทีเดียว คือ ทำมาเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่อยู่ได้หลายรุ่นและสามารถรองรับครอบครัวขยายในอนาคตได้ จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราจะค่อยๆ อธิบายกันไปค่ะ
เราขอยกตัวอย่างบ้านที่เป็นทางโครงการทำบ้านตัวอย่าง “Amber+” พื้นที่ใช้สอย 199 ตร.ม. ที่ดิน 110 ตร.วา ก่อนนะคะ แต่ไม่ว่าจะเป็น Type ไหนก็ตาม Theme การออกแบบจะเป็นแบบเดียวกัน ต่างที่ขนาดที่ดิน, พื้นที่ใช้สอย และจำนวนห้องเท่านั้นค่ะ
จุดที่น่าสนใจของการออกแบบบ้าน
- ที่ดินเริ่มต้น 100+ ตร.วา
ขนาดที่ดินจะเริ่ม 100+ ขึ้นไปนับเป็นขนาดที่ดินที่เรียกว่าค่อนข้างมากกว่าบ้านเดี่ยวทั่วไป (ที่มักเริ่มต้นกันที่ 50 ตร.วา) เนื่องจากผังเมืองในย่านนี้ระบุให้โครงการบ้านทำที่ดินเริ่ม 100 ตร.วาขึ้นไป ก็จะเห็นว่าโครงการข้างเคียงก็มีพื้นที่ดินประมาณเดียวกันค่ะ
ด้วยเนื้อที่เยอะจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยให้มีพื้นที่เพียงพอรองรับสมาชิกหลายคนได้
การออกแบบเลยมีการตัวบ้านแบ่งออกเป็น บ้านหลักและเรือนรับรองโดยเชื่อมตรงกลางระหว่าง 2 หลังนี้ด้วย Outdoor Relaxing Area
- เรือนรับรอง
ประเด็นความน่าสนใจอยู่ที่เรือนรับรอง 1 ชั้นนี้ ที่มีห้องน้ำในตัว หากใครสมาชิกในบ้านไม่มาก ก็ทำเป็นห้องอเนกประสงค์อย่าง ห้องนั่งเล่น ทำงาน Studio ต่างๆ หรือใครสายปาร์ตี้จะชวนก๊วนเพื่อนมาปาร์ตี้ก็ได้ ไม่รบกวนสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ ที่อยู่บ้านหลังหลักด้วย
สิ่งที่น่าสนใจของเรือนรับรองอีกอย่างคือ การออกแบบเพื่อเตรียมรองรับการต่อเติมในอนาคต ด้วยโครงการบ้านอย่างเสาเข็มและผนัง (เฉพาะเรือนรับรอง) ได้ออกแบบให้สามารถต่อเติมได้ทั้งขยายออก และสร้างขึ้นชั้น 2 ได้ด้วย ดังนั้นคิดในแง่ว่าถ้าลูกๆ จะแต่งงานขยายครอบครัวก็ยังสามารถให้สร้างต่อเติมส่วนนี้ได้แล้วอยู่ร่วมกันในรั้วบ้านเดียวกันได้
- Outdoor Relaxing Area
ฟังก์ชันนี้เป็นฟังก์ชัน Highlight ของแบบบ้านเลยก็ว่าได้ นอกจากจะทำเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านหลักและเรือนรับรองแล้ว การใช้งานก็ยังสามารถทำเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ BBQ ของครอบครัว หรือนั่งชมสวนหน้าบ้านต่างๆ
ซึ่งพื้นที่นี้สิ่งที่ทางโครงการให้มาเป็นมาตรฐานก็คือ พื้น หลังคา และการทำโครงสร้างที่เหมือนกับบ้านหลักเลย จึงสามารถรองรับการต่อเติมได้เช่นกัน โดยถ้าจะให้แนะนำสำหรับฟังก์ชัน Semi-Outdoor แบบนี้คือการติดตั้งบานประตูกระจกบานเลื่อนจะดีมาก เผื่อวันไหนอยากเปิดแอร์ก็ทำได้ วันไหนอากาศดีก็เปิดประตูรับลม รับอากาศได้
เรามาดูที่หน้าตาของบ้านกันบ้าง รูปแบบก็จะมาในสไตล์ Modern ด้วยโทนสีเทา-ขาว แต่ยังคงใช้หลังคาปั้นหยานะคะ ซึ่งสำหรับเราแล้วมองว่าเหมาะกับสภาพภูมิอากาศบ้านเรามากนะ เพราะช่วยเรื่องความร้อนจากหลังคา รวมไปถึงลดน้ำขังบนหลังคาได้เมื่อเทียบกับหลังคา Lean
เริ่มจากที่จอดรถหน้าบ้านทางโครงการแจ้งว่าจอดรถได้ประมาณ 3 คัน ซึ่งก็จะเป็นในร่ม 2 คัน และ Outdoor 1 คัน โดยพื้นที่ที่เราทำเส้นประสีเหลืองไว้จะเป็นพื้นที่ที่เสาเข็มยาวเท่ากับตัวบ้าน = เสาเข็มยาว หมายถึงว่าตรงส่วนนี้การทรุดตัวจะน้อยหรือแทบไม่ทรุดเลยนะคะ ดังนั้นก็น่าจะเหมาะกับการรับน้ำหนักรถมากที่สุดแล้ว แต่หากว่าเรามีรถมากกว่า 2 คัน ก็สามารถมาจอดด้านข้างได้ หรือจะจอดซ้อนด้านหลังก็ยังได้อยู่นะ ด้วยพื้นที่ที่มากพอ แต่โครงสร้างส่วนนี้จะเป็นเสาเข็มสั้นแล้ว นั่นหมายถึงว่า รับน้ำหนักได้เช่นกัน แต่ในระยะยาวจะมีการทรุดตัวบ้างเป็นเรื่องปกตินะ
ด้านข้างบ้านลึกเข้าไปหน่อย สำหรับบ้านมาตรฐานทางโครงการจะปูหญ้าแบบนี้ไว้ให้เลยนะคะ แต่ที่น่าสนใจสำหรับเราจากที่สังเกตลูกบ้านหลายหลังในโครงการนี้คือการต่อเติมพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นห้องแม่บ้าน… ถ้าย้อนกลับไปดูแปลนบ้านจะเห็นว่าบ้าน Type นี้ไม่ได้มีห้องแม่บ้านให้นะ ซึ่งถ้าใครมีแม่บ้านสามารถต่อเติมห้องเล็กๆ แยกมาได้เลย หรือบางคนใช้วิธีซื้อบ้าน Knock Down มาลง ต่อบ้านไม่กี่วันก็เสร็จ งบไม่แพงมาก ก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจ
ส่วนหลังบ้านนั้นเป็นบริเวณลานซักล้าง โดยตรงนี้มีพื้นที่ประมาณ 2.7 x 2.2. ม. นะคะ พูดถึงขนาดแล้วก็ถือว่าโอเคนะ แต่ถ้าใครอยากได้พื้นที่มากขึ้นก็ขยายได้อีกนะคะ สำหรับพื้นซักล้างจะได้เป็น Slab on Ground โดยมีเสาเข็มยาว 4 เมตรให้
เรามาต่อที่สวนหน้าบ้านอีกฝั่งนึงกัน
ด้วยความที่ขนาดที่ดินกว่า 100+ ตร.วา ทำให้พื้นที่หน้าบ้านสามารถจัดเป็นสวนขนาดพอสมควรได้สบายๆ เลยนะคะ ซึ่งบริเวณสวนทั้งหมดในบ้านทางโครงการจะปลูกให้เป็นมาตรฐานเลย ไม่ว่าจะเป็น ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และสนามหญ้า เป็น Identity ของทาง L&H อยู่แล้วที่มักจะมีสวนให้ และจัดสวนแบบจัดเต็มเสมอไม่ใช่แค่ปูหญ้าธรรมดา
ถัดมาที่เฉลียงทางเข้าบ้านหลัก ปกติแล้วการเข้าบ้านของเราจะมีอยู่ 2 ทางคือ ทางเข้าหน้าบ้านและทางเข้าจากที่จอดรถ แต่ที่รวมเป็นทางเข้าเดียวเลย ซึ่งถ้าพูดในเรื่องการใช้งานจริงเราว่าก็ไม่ได้ติดขัดอะไรค่ะ เราเข้าใจเองว่าเป็นการลดทางเข้าลงเพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านมากขึ้น (การเพิ่มทางเข้าทำให้ต้องเผื่อพื้นที่สำหรับทางเดินไปในตัวด้วย)
ประตูหน้าบ้านที่เดี๋ยวนี้จะเห็นหลายโครงการของ L&H ใช้ คือประตูจาก LIXIL ประตูนี้มีความน่าสนใจดีนะ อย่างแรกคือช่วยกันเสียงได้ น้ำหนักเบา ตำแหน่งมือจับและการใช้งาน เป็น Universal Design ใช้งานได้ง่าย
และสิ่งที่เราชอบเป็นพิเศษ รวมถึงยังไม่เคยเห็นเลยก็คือจะมีกลอนสำหรับ Construction หมายถึงมีกุญแจแยกสำหรับผู้รับเหมาที่ต้องเข้ามาก่อสร้าง ตกแต่งด้านในต่างๆ และเมื่อไหร่ที่กุญแจเปิด-ปิดปกติเริ่มใช้งานครั้งแรก (ซึ่งหมายถึงลูกบ้านเริ่มเข้ามาอยู่แล้ว) กุญแจสำหรับผู้รับเหมาจะใช้งานไม่ได้ทันที เป็นอีก Security ที่น่าสนใจ
เข้ามาภายในบ้านหลักจะเป็นโถงยาวเชื่อมจากหน้าบ้านถึงหลังบ้าน โดยแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นพื้นที่นั่งเล่น/รับแขก และลึกเข้าไปหน่อยเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร
พื้นที่บริเวณพื้นที่นั่งเล่นค่อนข้างโปร่งจะเห็นว่ามีชุดหน้าต่างใหญ่อยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังนะคะ ส่วนขนาดของพื้นที่ตรงนี้อยู่ที่ประมาณ 3.85 x 3.75 ม. วางโซฟา Bed ขนาดใหญ่ได้สบาย
ตรงข้ามของบ้านมาตรฐานจะเป็นผนังทึบขนาดใหญ่ซึ่งตั้งใจไว้ให้เป็นพื้นที่วางทีวี และสามารถ Built-in ชั้นวางของสูงไปถึงฝ้าเพดานได้เลย เลยทำให้เราสามารถเก็บของในแนวตั้งได้ค่อนข้างดี
ถัดมาที่บริเวณพื้นที่รับประทานอาหารตรงส่วนนี้ขนาดพื้นที่สามารถรองรับโต๊ะกินข้าว+เก้าอี้ได้ประมาณ 6 ที่นั่ง ด้านข้างมี Pantry เป็นเหมือนเคาน์เตอร์วางของเตรียมก่อนเสริฟอาหารต่างๆ
ถัดจากเคาน์เตอร์แล้วยังมีอีก 3 ห้องด้านใน เรียงจากซ้ายไปขวาคือ ห้องครัว, ห้องน้ำชั้น ล่าง และห้องนอนชั้นล่าง ตามลำดับค่ะ
สังเกตว่าทุกประตูห้องนอนประตูจะมีช่องไว้สำหรับระบายอากาศ ซึ่งทางโครงการเรียกว่า Air Post
เข้ามาในห้องชั้นล่าง ห้องนี้ปูด้วยพื้นลามิเนตหนา 12 มม. ออกแบบไว้สำหรับรองรับเป็นห้องนอนก็ดี หรือถ้าจะปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้เช่นกันนะคะ สำหรับห้องนี้เค้าจะไม่มีห้องน้ำในตัวแต่ก็ใกล้ห้องน้ำมากนะ เปิดประตูห้องมาก็เจอห้องน้ำแล้วค่ะ
ส่วนของขนาดห้องนี้อยู่ที่ราวๆ 3.8 x 3 ม. จริงๆ แล้วถ้าจะทำเป็นห้องนอนก็สามารถเลือกวางเตียง 5 ฟุตพร้อมชุดตู้เสื้อผ้า Built-in ได้นะคะ
มาดูห้องน้ำชั้นล่างที่อยู่ติดๆ กับห้องนอนกันต่อ ห้องน้ำนี้ไม่ใช่แค่ Powder Room (ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ) นะคะ แต่จัดพื้นที่อาบน้ำมาให้ครบเลย เรียกว่าใครนอนห้องชั้นล่างก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นลงบันไดไปใช้ในห้องข้างบนแล้ว เผื่อเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุได้ไปในตัว
ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นโซนเปียก-แห้ง โดยสุขภัณฑ์ของที่นี่จะให้เป็นยี่ห้อ American Standard ทั้งหมด ด้านหลังทำ Low Wall ไว้ให้สามารถวางของใช้ต่างๆ ได้
ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็กั้นฉากกั้นกระจกไว้ให้เรียบร้อยค่ะ
ด้านในบริเวณที่อาบน้ำสังเกตว่าจะมีทำที่นั่งให้เรานั่งอาบน้ำได้ด้วย
ส่วนด้านบนมีชั้นไว้เก็บของให้ และ Hand Shower จาก American Standard เช่นเดิม เราสังเกตว่าระดับของ Hand Shower จะต่ำกว่าปกติหน่อย คิดว่าเป็นระดับที่ตั้งใจให้คนนั่งอาบก็เอื้อมถึง ยืนก็หยิบง่ายค่ะ
สำหรับภายในครัวทางโครงการทำเคาน์เตอร์ครัวพร้อม Hood และ Sink ให้เป็นมาตรฐานในทุกหลังเลยนะคะ โดยสเป็คท็อปครัวเป็น หินแกรนิตแท้สีดำ บานเปิดและตู้ Built-in จาก Starmark
ถัดมาเดี๋ยวเราออกไปดู Outdoor Relaxing Area กันนะคะ ซึ่งตรงนี้การเชื่อมกับตัวบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกนะคะ ข้อดีคือเป็นการเพิ่มช่องแสงให้เข้าถึงตัวบ้านได้ดี และตัวเราเองก็ได้เห็นกิจกรรมของสมาชิกในบ้านจากบริเวณพื้นที่ด้านนอกด้วย ไม่รู้สึกว่าอยู่ไกลกัน
สำหรับ Outdoor Relaxing Area ที่ทางโครงการเรียกนั้น สำหรับความเห็นเราอยากจะปรับคำอีกสักหน่อยเป็น Semi-Outdoor แทน เพราะส่วนนี้มีหลังคากันแดดกันฝนให้เรียบร้อยนะคะ ถึงแม้จะไม่ใช่ห้องปิดก็ตาม
สิ่งที่เรามองว่าทางโครงการออกแบบมาได้น่าสนใจคือการทำโครงการพื้นที่ส่วนนี้เผื่อไว้สำหรับการต่อเติมไปเลย ลูกบ้านสามารถต่อเติมเป็นอีกห้องหนึ่ง เพิ่มพื้นที่การใช้งานได้
หลังจากที่ลองดูในโครงการสิ่งที่สังเกตได้ชัดมากเลยคือลูกบ้านแทบทุกหลังมักจะต่อเติมพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องปิด โดยการกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งเป็นไอเดียที่ดีเลยนะคะ ตามอากาศบ้านเราแม้จะอยู่ในร่มแต่อากาศก็อาจจะร้อนไป กั้นเป็นห้องปิดแล้วติดตั้งแอร์ก็ตอบโจทย์ และอีกอย่างถ้าอยากจะสูดอากาศ หรือชื่นชมสวนก็ทำได้แค่เปิดบานเลื่อนกระจกเท่านั้นเอง ง่ายเลยค่ะ เป็นไอเดียที่แนะนำเลย… ส่วนงบประมาณอันนี้ขอเป็นการคำนวณคร่าวๆ นะคะ ถ้าติดเป็นบานเลื่อนกระจกอลูมิเนียมจะอยู่ราวๆ 10,000 – 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับเกรดอลูมิเนียมและยี่ห้อด้วยนะคะ
ส่วนด้านหลังของพื้นที่ตรงนี้ เราสามารถต่อเติมเพิ่มเป็นพื้นที่ซักล้าง เตรียมอาหารด้านหลังเพิ่มเองได้ (ซึ่งส่วนนี้บ้านมาตรฐานไม่ได้ทำมาให้นะคะ แต่เราสามารถต่อเติมเพิ่มเองได้ โดยไม่ควรไปรบกวนกับเพื่อนบ้านฝั่งที่ติดกันนะ เช่น ไม่ทำเคาน์เตอร์ครัวติดกับรั้วที่เป็นรั้วใช้ร่วมกับเพื่อนบ้าน)
ถัดมาคือเรือนรับรอง ซึ่งทางเข้าหลักและทางเข้าเดียวคือการเข้าจาก Outdoor Relaxing Area โดยประตูเป็นรูปแบบประตูบานเลื่อนกระจก Full Height
เข้ามาด้านในรูปแบบจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ตรงกลาง ซึ่งเราจะจัดให้เป็นฟังก์ชันอะไรก็ได้นะคะ ไม่ติดว่าต้อง Fix ฟังก์ชัน ใครอยากทำเป็นห้องนอนก็ทำได้ หรือจะเป็น Studio นั่งทำงานก็ดีเช่นกันค่ะ โดยพื้นที่นี้จะอยู่ที่ประมาณ 3.7 x 4 ม.
ฝั่งตรงข้ามเป็นผนังเอาไว้ติดตั้งทีวีหรือ Built-in ชั้นวางของได้ ลึกไปอีกหน่อยในบ้านตัวอย่างทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์ให้ดู แต่ถ้าใครจะทำเป็นห้องนอน ฟังก์ชันตรงเคาน์เตอร์บาร์ก็สามารถทำ Walk-in Closet ได้ก่อนเข้าห้องน้ำด้านหลังทีวี
ภายในห้องน้ำได้ขนาดกำลังดีนะคะ และแยกส่วนเปียก-แห้งมาให้ ส่วนยี่ห้อและสเป็คก็จะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างในบ้านหลักค่ะ
เรากลับเข้ามาที่บ้านหลักกันอีกทีนะคะ ซึ่งก่อนจะขึ้นไปชั้น 2 เราอยากจะพูดถึงการคำนึงเรื่องการระบายอากาศ และเรื่องความร้อนภายในบ้านที่ L&H offer มาให้เป็นมาตรฐานในทุกหลังก่อน หนึ่งในนั้นคือ Air Intake
Air Intake หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นช่องระบายอากาศ ซึ่งก็เป็นอีกนวัตกรรมที่เป็นของ Land & Houses โดยเฉพาะ ตรงนี้ตอบโจทย์มากสำหรับใครที่ไม่ได้อยู่บ้านนานๆ เช่น บางโอกาสไปเที่ยวเป็นเดือน ก็สามารถเปิดช่อง Air Intake ไว้ให้ลม+อากาศได้ระบายเข้าภายในบ้าน ช่วยให้บ้านไม่อับ โดยไม่ต้องเปิดหน้าต่างไว้เลยค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้าน บันไดที่นี่จะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กและปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสานนะคะ
ปกติชานพักบันไดบ้านจะไม่ค่อยเห็นใครนำมาจัดฟังก์ชันอื่นๆ เสียเท่าไหร่นะ แต่ด้วยความที่ชานพักบันไดที่นี่ค่อนข้างกว้าง การจะปล่อยให้พื้นที่กว้างอย่างเดียวแต่ไม่ได้ใช้งานก็จะดูเปล่าประโยชน์ไป ดังนั้นทางโครงการเลยตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียว่าจริงๆ แล้วเราสามารถใช้พื้นที่เป็นพื้นที่นั่งทำงานมุมกะทัดรัดของเราได้ และตรงผนังก็จัดเป็นชั้นวางของ ชั้นโชว์ของสะสมตัวเองได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ทางโครงการก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยมากขึ้นด้วยนะคะ อย่างที่เป็นสิทธิบัตรของทาง Land & Houses เองเลยก็จะมี Airplus ระบบนี้เป็นระบบช่วยระบายอากาศและความร้อนภายในห้อง และปรับสมดุลอุณหภูมิที่เราต้องการได้
เช่น ห้องนอนที่ 1 เราต้องการอุณหภูมิห้องไม่เกิน 28 องศา เมื่อไหร่ที่ร้อนไประบบพัดลม (ที่มีติดตั้งไว้ให้เป็นมาตรฐานในห้องนอนทุกห้อง) จะพัดดูดอากาศในห้องออกไปด้านนอกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดอุณหภูมิภายใน และเมื่ออุณหภูมิเท่ากับ 28 องศาที่เราตั้งไว้ หรือต่ำกว่า พัดลมจะหยุดอัตโนมัติ นอกจากนี้การทำงานของระบบนี้ยังกินไฟฟ้าที่เราต้องจ่ายน้อยมาก เพราะหลักๆ แล้วจะใช้ไฟฟ้าผ่านพลังงาน Solar Cell ที่ทางโครงการให้มา
สำหรับบ้าน Type นี้ห้องนอนชั้น 2 จะมีเพียง 2 ห้องนอนนะคะ ซึ่งไม่ได้หมายถึงว่ามีแค่ 2 ห้องนอนคือน้อยนะ แต่การที่มีเพียง 2 ห้องนอน (จากปกติบ้านทั่วไปมักจัดให้ชั้น 2 มี 3 ห้องนอน) ทำให้แต่ละห้องนอนได้ขนาดใหญ่มากขึ้น และมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด
เราเลือกเข้ามาภายในห้องนอนรองก่อนนะคะ ห้องนี้ขนาดประมาณ 3.85 x 3.5 ม. วางเตียง 5 ฟุตกำลังดี
สังเกตที่หัวมุมห้องด้านบนมีช่องระบายอากาศอยู่ ซึ่งช่องนี้แหละค่ะที่เป็นช่องระบายอากาศ หนึ่งในระบบ Airplus
ส่วนปลายเตียงและด้านข้างของเตียงเป็นผนังทึบที่เราสามารถจัดฟังก์ชันเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ทำเป็นมุมโต๊ะแต่งตัว โต๊ะทำงาน
สำหรับห้องน้ำในห้องนอนนี้การจัดฟังก์ชันจะเหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆ แยกเปียก-แห้งและสเป็คสุขภัณฑ์แบบเดียวกันเลยค่ะ
สุดท้ายคือห้อง Master Bedroom ห้องนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ กินพื้นที่ตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านเลย และด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่รวมไปถึงช่องแสงเยอะด้วยเลยทำให้บรรยากาศห้องนี้ค่อนข้างโปร่งทีเดียวค่ะ
สำหรับบริเวณหน้าบ้านเฉพาะห้อง Master Bedroom นั้นจะได้ระเบียงกว้างออกมานั่งเล่น ชมบรรยากาศสวนได้ โดยราวกันตกที่ได้เป็นกระจก Temper ดูสวยงามดี
สิ่งที่เราถ่ายรูปมาให้ทุกคนสังเกตคือตำแหน่งต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านนี้ค่ะ ตอนแรกก่อนจะเข้ามาหน้าบ้านปกติเราต้องถ่ายรูปหน้าบ้านอยู่แล้ว พอถ่ายออกมาคือเห็นต้นไม้ใหญ่ต้นนี้บังแทบมิดหน้าบ้านหลังหลักเลย ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลเท่าไหร่นะคะ
จนขึ้นมาที่ระเบียงหน้าบ้านชั้น 2 ทำให้เข้าใจว่าตำแหน่งต้นไม้นี้ไม่ใช่แค่จะปลูกตำแหน่งไหนก็ได้นะ แต่เป็นตำแหน่งที่ออกแบบมาแล้วว่าให้บังสายตาจากเพื่อนฝั่งตรงข้ามได้แทบจะหมดเลยจริงๆ ทำให้เราอยากมาใช้ระเบียงมากขึ้น และไม่เสียความเป็นส่วนตัวด้วย จุดนี้เป็นอีกจุดที่เราค่อนข้างประทับใจเลยค่ะ
ถัดมาเป็นในส่วนพื้นที่เตียงนอนและด้านข้างเตียง ด้วยขนาดพื้นที่ใหญ่เราเลยสามารถแบ่งการใช้งานได้หลายส่วนทั้งที่เป็นพื้นที่เตียงนอน มีมุมโซฟานั่งเล่นได้ ตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี
ถัดมาอีกหน่อยมีมุมสำหรับ Walk-in Closet ซึ่งทางโครงการจะให้เป็นพื้นที่โล่งมานะคะ แต่เราสามารถกั้นพื้นที่ด้วยฉากกั้นกระจกแบบโครงการได้ เพื่อให้แต่ละฟังก์ชันดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น
เข้ามาภายในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom กันต่อค่ะ ห้องนี้การจัดฟังก์ชันเหมือนกับห้องน้ำในห้องอื่นๆ นะคะ แต่มีอัปเกรดสเป็ควัสดุเพิ่มขึ้นมา
ได้แก่โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก American Standard
และอ่างล้างมือที่ Custom Design เฉพาะโครงการของ Land and Houses เท่านั้น จาก American Standard เช่นกันค่ะ
บ้านตัวอย่างถัดมาจะเป็นแบบบ้าน Continuo+ ที่ดิน 130.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 258 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 13.4 ล้านบาท
สำหรับแบบบ้านนี้ขนาดพื้นที่ใช้สอยจะเยอะขึ้นมาจากแบบแรกที่เราพาไปดูนะคะ สังเกตว่าในบ้านหลังหลักชั้นล่างได้ห้องเก็บของ หรือห้องแม่บ้าน พร้อมห้องน้ำมาให้ และห้องนอนที่ 4 ก็มีห้องน้ำภายในห้องเลย และแยกห้องน้ำแขกชั้นล่างไว้ให้แทน
ส่วนชั้น 2 ของบ้านหลังหลักก็จะได้ห้องนอน 3 ห้องนอน เพิ่มขึ้นมาจาก Type ที่แล้วที่มี 2 ห้องนอน ก็จะสามารถรองรับสมาชิกในบ้านได้มากขึ้น ใครครอบครัวใหญ่หน่อยก็เลือกบ้านที่มีจำนวนห้องที่เหมาะสมกับสมาชิกในบ้านได้เลยค่ะ
ส่วนเรือนรับรองของหลังนี้พิเศษขึ้นมาตรงที่มีฟังก์ชันนั่งเล่นในบ้านด้วยเลย ทำให้ลักษณะการอยู่อาศัยจะคล้ายกับการอยู่ห้อง 1 Bedroom ของคอนโดเลยนะคะ
เริ่มต้นที่จอดรถกันเลย type นี้จอดรถได้ 3 คันเช่นกันค่ะ มี 2 คันในร่ม และ 1 คัน Outdoor โดยโครงสร้างพื้นทั้งหมดก็จะเหมือนกับบ้านแบบแรกเลยนะคะ ต่างกันที่พื้นที่เล็กน้อยเท่านั้นค่ะ
เราหันไปดูทางหน้าบ้านก็มีการจัดสวนให้เช่นเดียวกับทุกๆ หลัง เพียงแต่ลักษณะการจัด และต้นไม้ก็จะแตกต่างกันไป ไม่ได้เหมือนเป๊ะในทุกหลัง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของบ้าน รูปร่างที่ดิน ซึ่งทางโครงการจะดูความเหมาะสมให้นะคะ
ส่วนตรง Outdoor Relaxing Area และเรือนรับรองก็จะเป็นแนวทางการออกแบบคล้ายกันนะคะ แต่จะมีความต่างอยู่บ้างอย่างที่เราบอกไปข้างต้นซึ่งเดี๋ยวรายละเอียดภายในเป็นอย่างไรเราพาไปดูภายในบ้านกันต่อค่ะ
เริ่มจากภายในบ้านหลักกันก่อนเลย เข้ามาจะเป็นโถงกลางบ้าน ซึ่งลักษณะจะเป็นพื้นที่ยาวเลย เชื่อมตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน บริเวณนี้ดูโปร่งนะคะ สังเกตว่าได้ช่องแสงทั้งจากด้านขวามือของรูป – หน้าบ้าน – หลังบ้าน
ฟังก์ชันก็เรียงกันไปตามมาตรฐานคือ พื้นที่รับแขกและพื้นที่รับประทานอาหาร
มุมพื้นที่รับแขกมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 4.35 x 3.9 ม. ก็สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้โซฟาและโต๊ะกลางได้
ฝั่งตรงข้ามเป็นผนังโล่งที่ให้จัด Built-in ชั้นวางของและทีวีได้ และประตูที่เราเห็นก็คือทางเข้าห้องนอน 4 หรือห้องนอนด้านล่างนั่นเองค่ะ
สำหรับบ้าน Type นี้พิเศษขึ้นมาคือด้านหน้าสุดของบ้านจะมีมุมพื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มมาให้ด้วย ในบ้านมาตรฐานไม่ได้กั้นเป็นห้องนะคะ แต่ถ้าคุณผู้อ่านอยากจะเพิ่มเป็นห้องที่มิดชิดเป็นสัดส่วนก็สามารถทำได้เลย ขนาดของห้องนี้อยู่ที่ 3.35 x 2.10 ม. จัดเป็นห้องทำงานเป็นส่วนตัวดีเลยค่ะ ได้วิวสวนหน้าบ้านด้วย เวลาทำงานจ้องคอมนานๆ แล้วก็เงยหน้าพักสายตาชมสวนหน้าบ้านได้
ถัดมาที่พื้นที่รับประทานอาหาร บริเวณนี้เราวางโต๊ะกินข้าวได้ประมาณ 6-8 ที่นั่งสูงสุด กำลังดี
ย้อนกลับมาดูที่ห้องนอน 4 ซึ่งเป็นห้องนอนชั้นล่างห้องเดียวในบ้านหลังหลักนะคะ ห้องนี้ขนาดจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 x 3.4 ม. วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ
ถัดมาเป็นส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำในห้องนอน สำหรับโซนนี้ในบ้านมาตรฐานไม่ได้มีกั้นฉากกั้นให้นะคะ
การดีไซน์ห้องน้ำในห้องนี้มีความแตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆ อยู่คือเค้าวางอ่างล้างมือออกมาอยู่ด้านนอกห้องน้ำเลย ในแง่การใช้งานนั้นก็จะแตกต่างจากห้องน้ำทั่วไปด้วยเช่นกันนะคะ เรามองว่าอาจจะสะดวกสำหรับใครที่จะล้างมือ ล้างหน้า แปรงฟัน โดยไม่อยากจะต้องเปิดประตูเข้าห้องน้ำ แต่สิ่งที่ไม่เหมาะก็มีเหมือนกันเวลาล้างมือน้ำอาจจะกระเด็นได้ แล้วพื้นที่เป็นลามิเนตนั้นทนต่อความชื้นได้น้อยกว่ากระเบื้องนะคะ อันนี้ควรจะมีผ้าเช็ดเท้าไว้ซับน้ำด้วย
ส่วนภายในห้องน้ำก็แยกฟังก์ชันให้เหมือนกันกับห้องน้ำอื่นๆ พร้อมฉากกั้นกระจกเช่นเดิม
เราถัดมาดูโซน Service กันต่อนะคะ สำหรับโซน Service ที่เราหมายถึงก็จะเป็นโซนเช่น ครัว ห้องน้ำ ลานซักล้าง เป็นต้นค่ะ โดยครัวของบ้านนี้เค้าแยกออกเป็น 2 โซนด้วยกัน คือ โซน Pantry ซึ่งมุมนี้ทางโครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์และชั้นวางมาให้เลยนะคะ
ส่วนติดๆ กันเป็นห้องน้ำชั้น 1 ซึ่งจะเป็นลักษณะห้องน้ำแบบ Powder Room ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ เป็นห้องน้ำสำหรับต้อนรับแขกโดยเฉพาะค่ะ เพราะห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัวทั้งหมดเลย
อ่างล้างมือของห้องน้ำนี้จะพิเศษกว่าห้องน้ำห้องอื่นๆ อยู่ โดยได้เป็นอ่างล้างมือ Custom Design จาก American Standard โดยเฉพาะ และมีให้เฉพาะห้องนี้และห้อง Master Bedroom เท่านั้น
ตรงข้ามเป็นตำแหน่งสุขภัณฑ์ค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นมาตรฐานคือได้ตามบ้านตัวอย่างเลยค่ะ โครงการทำออกมาได้ดีและสวยทีเดียวนะคะ ท็อปเป็นหินแกรนิตดำ ซึ่งก็มีความทนทานและทนความชื้นดี พร้อมกับ Built-in บานเปิดและชั้นวางของด้านบน รวมๆ แล้วถ้าทางโครงการไม่ได้ให้มาค่าทำเคาน์เตอร์และวัสดุประเภทนี้ รวมไปถึง Hood ด้วยราคาค่อนข้างสูงอยู่นะคะ ประมาณหลักแสนเลย
มาที่ส่วนหลังบ้าน สำหรับ Type นี้ได้เคาน์เตอร์และอ่างล้างมือเพิ่มด้วยนะคะ
จากบ้านหลักเราออกมาที่ส่วน Outdoor Relaxing Area สำหรับส่วนนี้มีขนาดใหญ่กว่า Type ก่อนหน้าอยู่นะคะ แต่โครงสร้างหรือการตกแต่งจะเหมือนกันเลย
อันนี้เราถ่ายจากมุมโซฟาจะเห็นว่าวิวที่ได้คือเป็นวิวสวนหน้าบ้านเราเต็มๆ เลยค่ะ บรรยากาศดีทีเดียว
เข้ามาที่เรือนรับรอง ห้องแรกที่เราเจอจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ด้านหน้าบ้าน มุมนี้ค่อนข้างดีเลยได้วิวสวนจาก 3 ฝั่งเลยค่ะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นก็จะเป็นห้องนอน ซึ่งกั้นแยกด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
ภายในห้องนอนนี้ขนาดจะอยู่ที่ประมาณ 3.7 x 3.5 ม. กว้างทีเดียวนะคะ มุมเตียงก็วางไซส์ใหญ่ได้เลย 5-6 ฟุต
ปลายเตียงมีพื้นที่ให้จัดฟังก์ชันได้ และมีผนังไว้ให้ Built-in ชั้นวางเพื่อเก็บของต่างๆ ได้
ก่อนเข้าสู่ห้องน้ำก็มีมุมสำหรับทำ Walk-in Closet ด้วยค่ะ
ส่วนห้องน้ำในเรือนรับรองการจัดฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกันกับห้องอื่นๆ นะคะ แยกฟังก์ชันเปียก-แห้งให้เรียบร้อย
จากเรือนรับรองเราขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้านหลักกันต่อเลยนะคะ
มุมบันไดตรงนี้ทางโครงการทำออกมาให้ได้รับแสงธรรมชาติเต็มที่ แต่ตรงชานพักจะไม่ได้ใหญ่เท่ากับ Type ที่แล้วนะคะ ซึ่งเค้าไม่ได้เน้นพื้นที่ในส่วนนี้แต่ไปเน้นพื้นที่ตรงโถงทางเดินชั้น 2 แทน
บริเวณโถงทางเดินชั้น 2 มีมุมสำหรับให้เราจัดเป็นฟังก์ชันได้อยู่นะคะ สามารถจัดโต๊ะหมู่บูชาพระตรงนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ
สำหรับบ้านทุกหลังไม่ว่าจะเป็น Type ไหนก็จะได้ระบบ Airplus, Air Intake ทั้งหมดเลย
เรามาดูห้องนอนกันต่อเลยนะคะ ขอเริ่มจากห้องนอนที่ 3 ห้องนี้ขนาดจะอยู่ที่ 3.2 x 3.4 ม. จะจัดเตียงขนาด 5 ฟุตก็ได้กำลังดีนะคะ หรือจะจัดเตียงไซส์ 3.5 ฟุตก็จะมีพื้นที่ด้านข้างไว้ให้จัดเป็นโต๊ะทำการบ้านเด็กๆ หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้
สำหรับบ้าน Type นี้จะมีห้องน้ำในห้องนอนทั้งหมดเลยนะคะ การจัดฟังก์ชันก็เหมือนกันหมด รวมถึงสเป็คสุขภัณฑ์ด้วย
มาที่ห้องนอน 2 กันต่อห้องนี้ไซส์ใหญ่เหมือนเป็นอีกห้อง Master Bedroom เลย พื้นที่ค่อนข้างกว้าง จัดฟังก์ชันในห้องนี้ได้หลากหลายเลย ไม่ใช่แค่เตียงนอน โต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้าแค่นั้น แต่จะเพิ่มพวกมุมสะสมของ งานอดิเรกต่างๆ ก็ได้สบายๆ
ผนังปลายเตียงนี้เป็นผนังที่เราคิดว่าสามารถเพิ่มพื้นที่การเก็บของได้ดีมากๆ เลยค่ะ
และสุดท้ายก็จะเป็นภาพห้องน้ำในห้องนอนที่ 2 ไซส์จะใกล้เคียงของห้องนอนที่ 3 ที่เราพาไปดูกันมาก่อนหน้านี้
ปิดท้ายด้วยบรรยากาศใน Master Bedroom ที่แท้จริง ห้องนี้ยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงหลังบ้านกันไปเลย มีห้องน้ำในตัว ได้ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ รวมไปถึงระเบียงในตัวด้วยนะคะ
และด้วยความกว้างของห้องนอนนี้ตรงปลายเตียงสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาเผื่ออยากนั่งดูทีวีก็ทำได้ หรือจะนอนดูทีวีบนเตียงก็ได้เช่นกัน
ระเบียงหน้าบ้านของบ้าน Type นี้ค่อนข้างยาวเกือบเต็มหน้าบ้านเลยนะคะ ขนาดโดยรวมแล้วสามารถออกมาใช้พื้นที่กันได้ ไม่ว่าจะเป็นวางโต๊ะนั่งชิบกาแฟยามเช้าชิลๆ หรือจัดเป็นพื้นที่สวนกระถางชั้น 2 ริมระเบียงก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ
ถัดจากพื้นที่เตียงนอนแล้วก็จะเข้าสู่ Walk-in Closet ซึ่งด้วยพื้นที่แล้วเราสามารถ Built-in Walk-in Closet ได้ 2 ฝั่งเลยค่ะ
และสุดท้ายก็เป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ซึ่งทุกห้องนอนใหญ่สเป็คสุขภัณฑ์จะถูกอัปเกรดขึ้นมาตรงโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติและอ่างล้างมือแบบ Custom Design
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
21 APRIL 2020
- Greater+ ที่ดิน 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 187 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท
- Amber+ ที่ดิน 110 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 199 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 11.3 ล้านบาท
- Continuo+ ที่ดิน 130.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 258 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 13.4 ล้านบาท
- Multiply+ ที่ดิน 119.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 19.3 ล้านบาท
- จองและทำสัญญา n/a บาท
- ค่าส่วนกลาง 26 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้
า n/a ปี - ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่
ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ ง - ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการมัณฑนา วงแหวน-บางบอน บ้านเดี่ยวที่มีขนาดที่ดิน 100 ตร.วา ขึ้นไป บนทำเลถนนบางบอน 4 ถนนที่เชื่อมต่อกับถนนเอกชัย ซึ่งดูจากแบบบ้านและที่ดินแล้วเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่หรือครอบครัวที่วางแผนจะขยายในอนาคตแต่ยังอยากอยู่บ้านในรั้วเดียวกัน ทำเลนี้นับว่าอยู่ไม่ไกลจากแหล่งงานอย่างย่านเอกชัย ขับรถไปทำงานสะดวก แต่ได้บรรยากาศเหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้นท มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีทั้งโรงเรียน วิทยาลัย ร้านค้า ร้านอาหาร และอยู่ในย่านที่มีชุมชนหมู่บ้าน ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เป็นย่านอุตสาหกรรมมากนักเท่ากับย่านมหาชัยเลย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ความอุดมสมบูรณ์นั้นจะอยู่บนถนนบางบอน 3 และ 5 ที่อยู่ในระยะขับรถจากโครงการไปได้สบาย
สภาพแวดล้อมบนถนนบางบอน 4 นั้นเป็นถนนที่ค่อนข้างเงียบสงบ และเป็นถนนสายสั้นๆ ตัดกับถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ ไม่ได้คึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์เท่าถนนข้างเคียงอย่างบางบอน 3 และบางบอน 5 ที่มีสามารถทะลุไปออกถนนเพชรเกษมได้ ซึ่งทำเลบางบอน 4 นี้ก็จะแลกมากับความสงบ ไม่พลุกพล่าน และเหมาะกับคนที่เดินทางโดยอิงถนนเอกชัยมากกว่า เพื่อเดินทางไปออกนอกเมืองไปยังมหาชัยได้ง่าย รวมทั้งสามารถไปขึ้นทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานครบนถนนพระราม 2 เพื่อเข้าเมือง และวงแหวนรอบนอก(ถนนกาญจนาภิเษก) ไม่ไกลมากนัก
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : พูดถึงเรื่องความปลอดภัยในโครงการโดยรวมแล้วจัดมาให้เป็นมาตรฐานนะคะ เช่น ซุ้มรปภ.ติดตั้ง Keycard Access ระยะไกล ไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ พร้อมกับ CCTV
ส่วนตัวบ้านสิ่งที่ได้เป็นมาตรฐานคือสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic Sensor ทั้งหลัง ซึ่งก็ช่วยให้สบายใจในเรื่องความปลอดภัยได้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : สำหรับการออกแบบบ้านโครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของโครงการนี้เลยด้วยการออกแบบที่ตั้งใจทำมาตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ และเพื่อรองรับครอบครัวขยาย อย่างที่ดินบ้านกว่า 100 ตร.วาขึ้นไป มีการทำเรือนรับรองที่เราสามารถต่อเติมทั้งขยายด้านข้างหรือต่อชั้น 2 ขึ้นด้านบนก็ได้ เนื่องจากทางโครงการทำโครงสร้างไว้เผื่อต่อเติมเรียบร้อยแล้ว อันนี้เราว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ อีกฟังก์ชันนึงคือ Outdoor Relaxing Area ซึ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ไว้นั่งเล่นชมวิวสวนหน้าบ้าน เรียกว่าจริงๆ แล้วก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำหรับการรวมตัวทำกิจกรรมภายในบ้าน ทั้งนี้ลักษณะของพื้นที่นี้จะเป็นแบบ Outdoor แต่หากต้องการทำให้เป็นพื้นที่ Indoor ก็สามารถทำได้นะคะ ทางโครงการจัดโครงสร้างมาเผื่อสำหรับการต่อเติมกั้นเป็นห้องกระจกเพิ่มเป็นพื้นที่ภายในได้เลย
วัสดุ : สำหรับด้านวัสดุในบ้านโดยรวมแล้วเรามองว่าเป็นจุดเด่น จุดยืนของโครงการ Land and Houses นะคะ หลายอย่างเค้าคิดถึงความเป็นอยู่จริง ที่ต้องใช้จริงในการใช้ชีวิต เช่น มุ้งลวด ที่มีให้เลยโดยไม่ต้องมาติดตั้งเอง และยังมี Technology ที่นำเข้ามาเพิ่มความสบายในบ้านไม่ว่าจะเป็นระบบ Airplus, Air Intake เป็นต้น
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : พูดถึงเรื่องพื้นที่สีเขียวแล้วก็คงจะอดชมไม่ได้นะคะ เรื่องนี้ทางโครงการจัดเต็มมากจริงๆ บรรยากาศดูร่มรื่น โดยเฉพาะตรงถนนทางเข้าหลักที่ปลูกจามจุรีได้อารมณ์อุโมงค์ต้นไม้เลย เราคิดว่าคงถูกใจใครหลายคนในเรื่องนี้ รวมไปถึงการขุดทะเลสาบขนาดใหญ่ ก็นับเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในโครงการอื่นเท่าไหร่ และไม่ง่ายด้วย ก็ต้องชื่นชมในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
สาธารณูปโภค : ต้องเกริ่นก่อนว่าพื้นที่ส่วนกลางที่นี่นับพื้นที่แล้วร่วม 7.7 ไร่ ซึ่งคิดเป็น % ออกมาก็อยู่ที่ 8.5% กว่าๆ นับว่าสูงกว่ามาตรฐานโครงการจัดสรรทั่วไปอยู่นะคะ ส่วนของฟังก์ชันการใช้งานนั้นจะเอนไปที่เรื่องของพื้นที่สีเขียวและทะเลสาบเป็นหัวใจหลัก ส่วนสระว่ายน้ำและฟิตเนส รวมถึงห้องรับรองนั้นจัดมาให้โอเคเลย คือเทียบกับค่าส่วนกลาง 26 บาท/ตร.วา/เดือนแล้ว สิ่งที่ได้กับสิ่งที่จ่ายถือว่าถูกเลยนะคะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 10-20 ล้านบาท, 21 APRIL 2020
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – บนถนนบางบอน 4 ลึก 1.3 กม.
- ความปลอดภัย 8/10 – รปภ.หน้าโครงการ มี CCTV และ Magnatic Sensor ทุกหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – แบบทำออกมาได้ดี สำหรับครอบครัวใหญ่
- วัสดุ 8/10 – วัสดุให้มามาตรฐาน แต่มีการนำระบบการระบายอากาศต่างๆ เข้ามาช่วยให้อยู่สบายมากขึ้น
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9/10 – โครงการบรรยากาศดีมาก ร่มรื่น เน้นต้นไม้ใหญ่
- สาธารณูปโภค 9.5/10 – จัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้เกินมาตรฐาน น่าใช้งาน ด้วยค่าส่วนกลาง 26 บาท/ตร.วา/เดือน
- 7.95 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ มัณฑนา วงแหวน-บางบอน บ้านเดี่ยวบนที่ดินกว่า 100 ตร.วา ออกแบบมาเพื่อกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่โดยเฉพาะ หรือจะเป็นครอบครัวที่วางแผนจะมีการขยายในอนาคตแต่ไม่อยากแยกออกไปอยู่ไกล อยากอยู่ในรั้วบ้านเดียวกัน ก็สามารถต่อเติม ขยับขยายได้ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว แม้จะอยู่บ้านเดียวกันก็ตาม โครงการโดดเด่นเรื่องการสร้างบรรยากาศด้วยสวน ต้นไม้ขนาดใหญ่ และทะเลสาบ ทำให้ได้ความร่มรื่น และเหมาะกับเป็นพื้นที่การพักผ่อน ส่วนราคาจะเริ่มต้นแต่ละ Type อยู่ที่ 9.9-19.3 ล้านบาท
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving