รีวิวฉบับที่ 325 … บุราสิริ เกาะแก้ว เป็นโครงการบ้านเดี่ยวโครงการแรกที่แสนสิริมาเปิดที่ภูเก็ต ซึ่งบริเวณที่ตั้งของโครงการนี้ อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนนานาชาติชื่อดังประจำจังหวัดอย่าง British International School Phuket หรือที่หลายๆคนจะรู้จักกันในชื่อเดิมคือ โรงเรียนนานาชาติดัลลิช (Dulwich International College) ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต
Fact @ 23 March 2013
- บุราสิริ เกาะแก้ว (ภูเก็ต)
- Sansiri Public Company Limited
- Segment การตลาด 5.9 – 10 ล้านบาท
- เนื้อที่โครงการประมาณ 38 ไร่ ทั้งหมด 156 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- พื้นที่ใช้สอย 149 และ 178 ตารางเมตร
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 52 – 70 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท (Q1/2013)
- www.sansiri.com
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
บุราสิริ เกาะแก้ว ตั้งอยู่ในซอยดัลลิช (ชื่อไม่เป็นทางการ) บนถนนเทพกระษัตรี (ฝั่งขาออก) ซึ่งเป็นถนนสายหลักทางฝั่งตะวันออกของภูเก็ต ในซอยเดียวกันนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง “ดัลลิช (Dulwich)” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อซอย ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น British International School Phuket แล้ว
หลายๆคนที่ไม่คุ้นเคยกับแผนที่เมืองภูเก็ตก็อาจจะนึกไม่ออกว่าโครงการมันตั้งอยู่ตรงไหนกันแน่ ก็มาดูรูปข้างบนนี้ละกันนะครับ ถนนเทพกระษัตรี ก็คือถนนหมายเลข 402 ที่ตัดตั้งแต่จุดบนสุดของจังหวัดบริเวณสะพานสารสินที่ข้ามมาจากพังงา ผ่านสนามบิน ผ่านอำเภอถลาง และแยกมาทางทิศตะวันออก มาที่ตัวเมืองภูเก็ตนี่แหละครับ ซึ่งโครงการบุราสิริ เกาะแก้ว ก็จะตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้เหมือนกัน ซึ่งถ้าดูจากแผนที่ก็จะเห็นว่าอยู่ตรงกลางระหว่างสนามบิน กับตัวเมืองภูเก็ต แต่จะค่อนมาทางตัวเมืองมากกว่า
ระยะทางจากโครงการไปยังสนามบินประมาณ 24 กิโลเมตร ซึ่งก็ถือว่าไม่ไกลนัก เพราะรถไม่ได้ติดแบบกรุงเทพ รถใช้ความเร็วได้ค่อนข้างดี
ส่วนการเข้าเมือง ถ้าเราเอาห้างเซ็นทรัลเป็นหลัก ใช้เส้นบายพาสเข้าเมืองระยะทางประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเมืองภูเก็ตนั้น ปริมาณรถก็ไม่น้อยนะ ช่วงเวลาเร่งด่วนรถก็ติดได้เหมือนกัน แถมไฟแดงเยอะด้วย เส้นบายพาส (ถนนเฉลิมพระเกียรติ) ไม่ได้วิ่งผ่านตัวเมืองก็จะวิ่งง่ายหน่อย เพราะถนนกว้างกว่า แต่ระยะทางก็พอๆกัน
มาดูเรื่องทางเข้าออกของโครงการกันบ้าง โดยปกติแล้วเราจะสามารถเข้าโครงการได้ 2 ทาง โดยเลี้ยวเข้าทางซอยดัลลิช (สีฟ้า) หรือทางซอยห่านฝรั่ง (สีชมพู) ซึ่งซอยดัลลิชดูจะเป็นซอยที่คนนิยมใช้และรู้จักกันดีมากกว่า และถนนยังกว้างกว่าด้วย โครงการจะอยู่เข้าไปในซอยประมาณ 1.5-2 กม. ตรงข้ามกับโรงเรียนนานาชาติ British International (BIS) ตามรูปครับ
พาไปดูทำเลโครงการ เริ่มจากถนนเทพกระษัตรี ฝั่งขาออก ครับ มุ่งหน้าไปทางสนามบิน
พอถึง 3 แยกนี้เลี้ยวซ้ายจะเข้าถนนบายพาส แต่ให้เราตรงไปครับ ตรงนี้ก็อยู่ใกล้ปากซอยทางเข้าโครงการแล้ว
มุ่งหน้าไปทางสนามบินต่อไปเจอป้ายเขียนว่าอีกประมาณ 24 กม.ถึงสนามบิน ก็ให้ชิดซ้ายไว้
มีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าโรงเรียนนานาชาติ บริติช
ถ้า มาจากฝั่งขาเข้าเมือง สังเกตป้ายอันนี้ก็ได้ครับ ง่ายๆว่าอยู่ซอยเดียวกับโรงเรียน
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลย ปากซอยมี ลาบลุงอ้วน ยโสธร 1 😛
พอเข้าซอยมาแถวๆปากซอยก็จะหน้าตาประมาณนี้ มีป้อมรปภ. อยู่ 1 จุด (ไม่ใช่ของแสนสิรินะ)
ด้านขวาของป้อมยามนี้ จะมีโครงการบ้านเดี่ยว The Indy เป็นจุดสังเกต (ว่าเข้าถูกซอย)
ขับตรงผ่านเข้าไปเลย
ขับผ่านสะพานข้ามคลองจุดนึง
ทางซ้ายมือจะผ่าน The Phuket Paradise (น่าจะเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณรอบๆนี้)
วิวทิวทัศน์ ธรรมชาติบริเวณนี้ เราจะมองเห็นภูเขาอยู่เป็นแนวยาวเลย ทางทิศตะวันตก เนื่องจากเกาะภูเก็ตมีสภาพเป็นภูเขาถึงประมาณ 70% ของพื้นที่ ซึ่งจะวางตัวเหนือจรดใต้ ตลอดแนวของจังหวัด
สภาพที่ดินโดยรอบดูแล้วน่าจะได้รับการดูแลอยู่ตลอด ไม่ได้มีหญ้าขึ้นรกๆ เห็นเป็นทุ่งโล่งๆ มีต้นไม้ใหญ่เรียงรายไปเรื่อย
ขับตรงต่อไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอป้อมรปภ.อีกจุดหนึ่ง ตรงนี้จะมีไม้กระดกกั้นด้วย พอถึงแยกนี้เราก็จะเลี้ยวขวา
เลี้ยวขวามาปุ๊บ เราก็จะเจอกับป้ายโรงเรียน BIS
ขอนอกเส้นทางนิดนึงนะ ตรงนี้ถ้าหากเราขับตรงต่อไป เราจะไปเข้าถนนกระทู้-นาเกาะ ตามแผนที่ข้างล่างนี้
ถนนกระทู้-นาเกาะ เป็นถนนที่ตัดผ่านตัวภูเขา ซึ่งเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่เราสามารถใช้เพื่อไปเข้าตัวเมืองภูเก็ตได้เช่นเดียวกัน โดยผ่านไปทางโรงเรียนบ้านกระทู้ ผ่านสนามกอล์ฟ Red Mountain ระยะทางจะสั้นกว่าถนนหลักนิดหน่อย แต่ทางนี้รถจะติดน้อยกว่า ชาวบ้านแถวๆนี้ก็ใช้กัน แต่ขอเสียของถนนเส้นนี้คือ วิ่งตอนกลางคืนคงจะลำบากพอสมควร เพราะเป็นเส้นที่ไม่มีไฟส่องถนน วิ่งกลางวันจะสะดวกกว่า แต่ก็เป็นอีกเส้นทางที่น่าจะได้ใช้เหมือนกัน
กลับมาบนถนนเส้นเดิม เราเลี้ยวขวามาแล้ว เราก็จะมองเห็นโรงเรียน BIS อยู่ข้างๆเลย ใหญ่โตดีจริง บอกก่อนนะครับว่าที่นี่เป็นโรงเรียนประจำ ดังนั้นการมีบ้านอยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนลูกอาจจะไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไร 🙂
ภาพโรงเรียน BIS ทางอากาศจาก Google นะครับ พ่อแม่ของนักเรียนโรงเรียนนี้คงจะไม่ธรรมดาเหมือนกันนะครับ แหม่ โรงเรียนสวยเชียว
ขับตรงเข้าไปตามทาง
มองย้อนกลับไปก็จะเห็นภูเขาเป็นวิวแบบนี้
พอถึงแนวต้นไม้แบบนี้เราก็ใกล้จะถึงโครงการแล้วครับ ต้องยอมรับจริงๆว่าถนนเส้นนี้เค้าดูแลดีมาก ต้นไม้ทุกต้นฟอร์มสวยหมดเลย
แล้วเราก็จะเจอป้ายโครงการอยู่ทางด้านขวา เราก็เลี้ยวเข้าไปเลย
เจาะลึกตัวโครงการ
มาดูเนื้อโครงการกันบ้าง บุราสิริ เกาะแก้วนี้ ขนาดที่ดินใหญ่ประมาณ 38 ไร่ ครับ และจำนวนยูนิตทั้งหมด 156 ยูนิต ซึ่งถือว่าไม่ได้แออัดอะไร อยู่ในระดับมาตรฐานของบ้านราคา 5.9 – 10 ล้านบาท ที่ดินแต่ละแปลงย่อยมีตั้งแต่ขนาด 52 ตารางวา ไปจนถึงประมาณ 70 ตารางวา อยู่ใน Range ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน
ที่ดินจะวางตัวในแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ราวๆ 20 กว่าองศา แบบนี้ ทางเข้าโครงการอยู่ทางทิศตะวันตก และบ้านแต่ละหลังก็จะวางตัวเฉียงๆตามแนวที่ดินแบบนี้ครับ
ประตูทางเข้าและป้อมรปภ.หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ ที่นี่จะเป็นระบบ Double-Gate Security ซึ่งจะมีประตูรั้ว 1 ชั้น และกั้นด้วยไม้กระดกอีก 1 ชั้นซึ่งจะต้องใช้ Access Card ในการผ่านเข้าออก เพิ่มความปลอดภัยเป็นสองระดับ
ภาพไซต์งานก่อสร้างจริงๆครับ กำลังลงเข็มกันอยู่ (มี.ค. 56) วิวที่เห็นอยู่นี้จะเป็นวิวทางทิศใต้ ซึ่งภูเขานั้นจะเป็นแนวยาวมาจนถึงทิศตะวันตกเลย แต่ถ้าใครอยากได้วิวเต็มๆ ทิศใต้จะเห็นชัดที่สุด
ตำแหน่งของสโมสรตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ ถัดจากทางเข้า เข้ามาเล็กน้อย ถนนด้านหน้าตรงทางเข้านี้กว้าง 16.50 ถนน Main กว้าง 10 เมตร และซอยย่อยกว้าง 8 เมตร
ภาพจำลองของสโมสรครับ ทำออกมาแนว Modern จ๋ามาก ตัวอาคารเป็นสี่เหลี่ยม ใช้กระจกรอบด้าน ของจริงจะใช้วัสดุเป็นพวก สัจจะวัสดุ อาทิ ปูนเปลือย อิฐเปลือยต่างๆด้วย ข้างในสโมสรเป็นฟิตเนส ที่อยู่ติดกันก็จะเป็นสระว่ายน้ำ ซึ่ง Look and Feel ก็จำลองมาให้ดูตามภาพข้างบนนี้
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สโมสรส่วนกลาง
- สวนสาธารณะ ที่มี Strip Park ที่เชื่อมต่อมาจาก Clubhouse
- สระว่ายน้ำ
- ห้องออกกำลังกาย
- ระบบ CCTV
- ประตูรั้ว 2 ชั้น (Double-Gate Security) และ Card Access
PRODUCT WALKTHROUGH
แบบบ้านของโครงการมีอยู่เพียง 2 แบบเท่านั้นคือ บุรารตา 149 ตร.ม. และ บุราบุลกิต 171 ตร.ม. ทั้งสองแบบมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ทั้งหมด ขายเป็นบ้านเปล่านะครับ
แบบแรกข้างบนนี้คือแบบ 149 ตร.ม. ชั้นล่างมีห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร มีแพนทรี่ด้านนอก และกั้นห้องครัวแยกออกไป ซึ่งห้องครัวจะเชื่อมต่อกับลานซักล้างด้านหลังบ้าน นอกจากนี้ก็จะมีห้องน้ำอยู่ชั้นล่างอีก 1 ห้อง อยู่ติดกับประตูลานจอดรถ ซึ่งใช้อาบน้ำได้ด้วย
ชั้นสองไม่มีอะไรมาก มี Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว มีระเบียงด้วย และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ใช้ห้องน้ำร่วมกัน ที่เป็นห้องน้ำแยก
สำหรับหลัง 171 ตร.ม. ชั้นล่าง เพิ่มขนาดส่วน Living Area และ Dining ขึ้นมา และมีส่วนเฉลียงที่อยู่ติดกับส่วนรับประทานอาหาร เพื่อเชื่อมพื้นที่สวนด้านข้างกับส่วน Indoor เข้าด้วยกัน ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆก็คล้ายๆเดิม แต่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามสัดส่วน
ชั้นสองส่วนที่เพิ่มขึ้นมาหลักๆคือส่วน Family Room ที่เป็นห้องนั่งเล่นบนชั้นสอง และอยู่ติดกับระเบียงด้วย ห้องนอน Master Bedroom ไม่มีระเบียงแล้ว แต่ยังมีห้องน้ำในตัวตามปกติ ห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลางเหมือนเดิม
บ้านที่ตัวอย่างที่ผมจะพาไปดูชื่อ บุราบุลกิต ขนาด 178 ตร.ม. นะครับ ความจริงที่สำนักงานขายเขามีให้ดูสองหลังเลย แต่หลังเล็กตอนที่ผมไปดูมันยังไม่เรียบร้อย ก็เลยเอามาให้ดูได้แค่หลังเดียวนะครับ :> ที่นี่ขายเป็นบ้านเปล่านะครับ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆเค้าจัดไว้ให้ดูเฉยๆ
ตัวบ้านหน้าตาแบบนี้ ทำออกมาแนว Modern กึ่งๆ Contemporary นิดหน่อย
มุมนี้ยืนอยู่หน้าบ้านมองไปเห็นหลังข้างๆเรียงกันก็จะประมาณนี้ แต่อย่าลืมว่าตรงนี้เป็นบ้านตัวอย่าง ไม่มีรั้วกั้นนะ
ด้านซ้ายของบ้าน
ระเบียงชั้นสอง ตรงนี้เชื่อมกับ Family Room
หน้าต่างของ Master Bedroom อยู่หน้าบ้าน
หลังคา
ด้านขวาของตัวบ้าน มีหน้าต่างอยู่หลายจุดเพื่อเพิ่มปริมาณแสงธรรมชาติที่ส่องเข้าตัวบ้าน
ลานจอดรถ จอดรถได้ 2 คัน คันใหญ่ก็จอดได้ ไม่เบียดกัน
ประตูเข้าบ้านจากทางที่จอดรถเป็นประตูทึบ
ช่องแสงบริเวณนี้จะส่องเข้าไปบริเวณใต้บันได ให้ใต้บันไดสว่าง
ทางเข้าบ้านตรงห้องรับแขกเป็นประตูกระจก แต่ไม่ใช่บานใหญ่บานเดียว แต่เป็นกระจกบานเล็กประกอบกัน ตรงทางเข้านี้มีชานพักหน้าบ้านและมีการก่อที่นั่งเล่นหน้าบ้านไว้ด้วย
มือจับบานประตูกระจก ด้านในจะเป็นหูจับใหญ่หน่อย แต่ข้างนอกจะเป็นแบบนี้เพื่อความปลอดภัย
เข้ามาในบ้าน ส่วนแรกที่เจอก็จะเป็นห้องรับแขกแบบนี้ ด้านขวาเป็นชั้นวางทีวี ลึกเข้าไปเป็นจุดรับประทานอาหาร แพนทรี่ และครัว เดี๋ยวจะพาเข้าไปดู
พื้นชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ขนาด 60×60 ซม. ทั้งหมด
ที่นั่งรับแขก จัดโซฟาตัว L พร้อมโต๊ะกลาง ได้สบายๆ มีที่วางอาร์มแชร์ได้อีก 1-2 ตัว อย่างที่เห็น
ดูอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นชั้นวางทีวีที่จัดมาให้ดู มีชั้นวางของด้านบน พื้นถึงเพดานที่ 2.7o เมตรนะครับ
ต่อจากห้องรับแขกเป็นส่วนรับประทานอาหาร
ถ้ายืนอยู่ที่ครัวมองมาก็จะเห็นแบบนี้
ส่วนรับประทานอาหาร จัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้แบบ 6 ที่นั่งไว้ให้ดู ความจริงถ้าเราไม่ได้วางอาร์มแชร์ที่อยู่ทางซ้ายของรูป เราจะจัดเป็นโต๊ะกลม 8 ที่นั่งก็ได้ แล้วแต่ชอบ ส่วนรับประทานอาหารนี้ก็จะติดกับผนังกระจกด้านหนึ่งเปิดออกไปด้านนอกได้ และหน้าต่างอีกด้านหนึ่ง รับแสงธรรมชาติสองด้าน รับวิวได้สองด้าน เพื่อให้ดูไม่อึดอัด
เฉลียงด้านข้างของตัวบ้าน ที่อยู่ติดกับส่วนรับประทานอาหาร เปิดออกมาก็จะมีชานพักเท้าแบบนี้ เชื่อมต่อกับสวนด้านข้าง
ถัดเขามาก่อนจะถึงครัวก็จะมีแพนทรี่ครัวเปิด สำหรับชงกาแฟ ปิ้งขนมปัง ฯลฯ แพนทรี่อันนี้ไม่ได้ให้นะครับ จัดให้ดูเฉยๆ
พื้นที่วางตู้เย็น ใส่ตู้เย็นแบบ Double Door ได้
ผนังตรงนี้เจาะช่องรับแสงไว้ด้วย มีบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้
ถัดมาเป็นส่วนครัวปิด สำหรับทำอาหารจริงๆจังๆอยู่ด้านใน
พื้นที่ครัวตรงนี้เค้า Build มาให้เลย ได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L แบบนี้ เป็นครัวปูน ท้อปครัวเป็นหินแกรนิต หน้าบานลามิเนต มือจับแสตนเลส
ผนังส่วนที่ติดกับอ่างล้างจาน เจาะช่องหน้าต่างไว้ด้วยสำหรับการระบายอากาศโดยไม่ต้องเปิดประตูครัว
เตาแก้สของ Teka แบบ 2 หัว
อ่างล้างจานแบบมีที่พักภาชนะ
หัวก็อกของ VRH ตามมาตรฐานโครงการทั่วไปของแสนสิริ
พื้นครัวเป็นเหมือนกับพื้นส่วนอื่นของชั้นล่าง คือแกรนิโต้ 60×60 ซม.
เคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบก่อปูน ด้านในปูกระเบื้องเอาไว้ด้วย เพื่อง่ายต่อการเช็ดล้าง ทำความสะอาด
ใต้อ่างล้างมือปูกระเบื้องรอบด้านเลย
ประตูในครัวอยู่ติดกับลานซักล้าง
ลานซักล้างด้านนอก หน้าตาประมาณนี้ อันนี้อาจจะดูยังไม่เรียบร้อยนะครับ เพราะวันที่ไปดูบ้านตัวอย่าง เค้ายังจัดสำนักงานขายกันอยู่เลย
กลับเข้ามาในบ้าน ไปดูที่บันไดบ้าง ด้านขวาเป็นประตูเปิดเข้ามาจากทางที่จอดรถ
ใต้บันไดทำเป็นห้องน้ำ มีช่องแสงที่ผนัง ทำให้ทางเดินใต้บันไดตรงนี้ไม่อับทึบ
เนื่องจากมีห้องน้ำใต้บันได ถ้าไม่ลดระดับก็จะไม่ได้ระยะศีรษะ ตรงนี้จึงต้องมี Step อยู่ 2 ขั้น ดังนั้นต้องระวังเรื่องการสะดุดหกล้มให้ดีนะครับ
ห้องเก็บของใต้บันได มีบานปิดเรียบร้อยดี
เข้ามาดูในห้องน้ำชั้นล่าง ห้องนี้เป็น 3 ฟังก์ชั่นนะครับ ใช้อาบน้ำได้ด้วย พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.
มีการลดระดับพื้นห้องน้ำไว้เรียบร้อยดี
อ่างล้างมือของ Mogen แบบสำเร็จรูป มีช่องเก็บของข้างใต้
ก็อกน้ำของ VRH และชั้นวางอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในห้องน้ำ ท้อปเป็นหินแท้นะครับ
โถสุขภัณฑ์ของ Mogen ติดสายฉีดชำระ และที่วางกระดาษชำระไว้ด้านข้าง
ที่วางกระดาษชำระ ความจริงติดตรงนี้ไม่ค่อยเวิร์ค เพราะเอื้อมหยิบลำบาก น่าจะติดไว้ด้านข้างดีกว่านะ
มีชั้นวางหนังสือ สำหรับพวกที่ชอบเอาอะไรเข้าไปอ่านในห้องน้ำเวลาทำธุระ หรือไม่เดี๋ยวนี้ก็เอาไว้วางมือถือ สำหรับพวกชอบเอาเกมเข้าไปเล่น แต่วางทิ้งไว้ในห้องน้ำตลอดเวลาแบบนี้ไม่ดีนะ มันชื้น
ส่วนของ Shower แบบเข้ามุม มีเจาะช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำไว้ให้ แต่ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะ
หัวก็อกของ VRH ดูธรรมดาไปนิดนึงนะ
ก็อกน้ำสำหรับต่อสายยางได้
ห้องน้ำใต้บันได มีช่องหน้าต่างสำหรับระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติเช่นเดียวกัน
ชั้นล่างจบแล้ว ขึ้นไปดูชั้นสองกันบ้าง เริ่มตั้งแต่บันได
ราวบันได มีเฟรมเป็นสเตนเลสพ่นสีขาว และราวจับเป็นไม้
พื้นบันไดเป็นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ไม่ใช่โครงเปล่าๆ ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป (ไม่ใช่ไม้จริง)
ขึ้นมาที่ชั้นสอง สังเกตที่ชานพักบันไดตรงกลาง จะเป็นชานพักสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ไม่มี Step สามเหลี่ยม มีช่องรับแสงตรงโถงบันได
ขึ้นมาที่ชั้นสอง ก็จะเป็นห้อง Family Room ตรงกลางก่อน และมีทางเดินแจกเข้าห้องนอนต่างๆต่อไป พื้นชั้นบนจะเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. อ้อ ลืมบอกไปว่าบ้านหลังนี้ติด Wallpaper ให้ด้วยนะครับ แต่ไม่ใช่สีที่เราเห็นนี้ คงต้องเช็คกับโครงการอีกทีว่าติด Wall สีอะไร
Family Room ชั้นบนพื้นที่วางโซฟาได้สบายๆ มีพื้นที่วางโต๊ะกลาง ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัว
ตรงข้ามโซฟาจัดชั้นวางทีวีเอาไว้แบบนี้ ความจริงถ้าไม่มีกรอบรูป และโคมไฟตรงนั้น จะเอาทีวีใหญ่ขนาด 60-70 นิ้วก็วางได้สบาย ระยะดูทีวีเหลือเฟือ ประตูข้างๆเป็นประตูเข้า Master Bedroom แต่เดี๋ยวเราค่อยมาดูกัน
พื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ด้านหน้าบ้าน ติดกับระเบียงชั้น 2
วิวจากระเบียงชั้นสอง ที่เห็นตรงนี้คือถนนบริเวณทางเข้าโครงการ
พื้นระเบียงด้านนอก ปูกระเบื้องสีขาว
เข้ามาดูส่วนอื่นของชั้น 2 กันต่อ ซ้าย-ขวาจะเป็นทางเข้าห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ตรงกลางจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน
เข้ามาดูห้องน้ำก่อน วัสดุอุปกรณ์ต่างๆได้ตามที่เห็น ยกเว้น Prop ตกแต่ง
ห้องน้ำวาง Shower Box พื้นที่เป็นสี่เหลี่ยม อยู่ด้านใน ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำ ซึ่งก็ควรจะซื้อมาติดซะ เพื่อแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้ชัดเจน มีช่องหน้าต่างรับแสงตามนี้
อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ของ Mogen เหมือนกับชั้นล่าง
พื้นและผนัง ปูกระเบื้องสีขาว ขนาด 30×30 ซม.
ห้องน้ำติดกระจกบานใหญ่ ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีนี้ ให้แบบนี้เลย
ถัดเข้ามาดูห้องนอนแรกก่อน ห้องนี้แต่งมาให้ดูเป็นห้องลูกสาว ของจริงเป็นห้องเปล่านะครับ วางเตียง 5 ฟุตแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะข้างเตียงได้สองฝั่งแบบนี้ มีหน้าต่างรับแสงทั้งสองด้าน
พื้นที่วางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานเล็กๆ
พื้นที่ปลายเตียงวางตู้แบบนี้ได้ (หนาประมาณ 30 ซม.) หรือจะเป็นชุดตู้วางทีวีก็ได้เช่นกัน ยังมีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านได้โดยไม่ลำบาก
ถัดมาอีกห้อง เป็นห้องลูกชาย ห้องนี้จะพื้นที่เล็กกว่าอีกห้องหนึ่ง แต่ก็จัดเตียง 3.5 ฟุตแบบนี้ได้ มีหน้าต่างรับแสงสองด้านเหมือนกัน ห้องนี้เค้าจัดไว้สวยใช้ได้ทีเดียว
ตู้เสื้อผ้าขนาดนี้ ความจริงก็คงไม่พอแหละนะ
ถ้าเราไม่วางโต๊ะข้างเตียงแบบนี้ เราจะจัดเป็นเตียง 5 ฟุตแล้วให้ชิดผนังก็ได้นะ มีพื้นที่อยู่
พื้นที่ปลายเตียงก็ยังมีพื้นที่วางของแบบนี้ได้ ก็ยังเดินผ่านได้เหมือนกัน
ต่อมา เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่ Master Bedroom ห้องนี้จัดฟังก์ชั่นมาครบ วางเตียง 6 ฟุตได้ มีโต๊ะข้างเตียงสองข้าง เมื่อวางชั้นวางของที่ปลายเตียงเข้าไปแล้ว ยังมีพื้นที่เหลือให้เดินไปเดินมาได้อีกสบายๆ
ด้านข้าง ถัดจากโต๊ะข้างเตียง วางโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมกระจกบานใหญ่ได้ ความจริงจะวางเป็นโต๊ะทำงานที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยก็ได้ แล้วบางคนก็อาจจะ Build ตู้เก็บของด้านบนอีก
ถัดจากประตูทางเข้า ทางด้านขวาจะเป็น Walk-in Closet ก่อนจะถึงห้องน้ำ
Walk-in Closet อันนี้จัดพื้นที่มาเป็นตัว L ขนาดนี้ความจริงเล็กไปหน่อย ใส่คนเดียวก็เต็มแล้ว ถ้าอยู่สองคน คงจะได้วางตู้เสื้อผ้าเพิ่มในห้องอีกแน่นอนเลย
ต่อจากตู้เสื้อผ้าก็จะเป็นห้องน้ำของ Master Bedroom ซึ่งจัดมาเหมือนกับห้องน้ำอีกห้องหนึ่งของชั้นสองเลย พื้นที่ก็พอๆกัน
แตกต่างไปที่วัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำ ตรงลวดลายของ Top หิน และกระเบื้องโมเสกที่ใช้
ลายกระเบื้องปูผนังก็จะเปลี่ยนใหม่ มีลายขึ้นมาหน่อย และใช้เป็นขนาด 30×60 ซม.
พื้นกระเบื้องห้องน้ำใช้เป็นขนาด 60×60ซม. แทน
รายละเอียดเงื่อนไขการขาย (รออัพเดทเพิ่มเติมนะครับ)
- บ้านแบบ บุรารตา จอง 30,000 บาท ทำสัญญา 70,000 บาท
- บ้านแบบ บุราบุลกิต จอง 50,000 บาท ทำสัญญา 100,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางวาต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนเลยครับว่า โครงการบุราสิริ เกาะแก้วนี้ ไม่ใช่โครงการที่ออกแบบมาในลักษณะบ้านพักตากอากาศ แต่เป็นโครงการบ้านที่อยู่อาศัย ที่ออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยระยะยาว เหมาะสำหรับคนที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ในภูเก็ตเป็นเวลานานๆ หรือที่มาเปิดธุรกิจอยู่ในภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งแนวคิด และการออกแบบต่างๆ จะเน้นไปในการใช้อยู่อาศัยจริง ไม่ใช่เป็นครั้งคราวแบบโครงการบ้านพักตากอากาศโครงการอื่นๆ ที่จะมีแนวคิดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
พูดถึงทำเลของ บุราสิริ เกาะแก้ว โครงการนี้ตั้งอยู่ติดกับโรงเรียน British International ซึ่งพื้นที่โดยรอบมีการดูแลไว้อย่างดี ทำให้โครงการได้อานิสงส์ไปด้วย โดยรอบโครงการก็จะมีลักษณะเป็นภูเขาและป่าไม้โอบล้อมตัวโครงการอยู่ ซึ่งก็ทำให้ได้ทัศนียภาพที่สวยงามทีเดียว แต่ถ้าเป็นคนที่หวังจะหาโครงการในภูเก็ตที่อยู่ใกล้หาด ติดทะเล ก็คงต้องผิดหวังนะครับ เพราะโครงการนี้ไม่ได้อยู่ใกล้ทะเลเลย
การเดินทางด้วยรถยนต์ ด้วยความที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นจุดกึ่งกลางของเกาะภูเก็ต และอยู่ใกล้กับถนนบายพาส ซึ่งก็ทำให้การเดินทางเข้าเมืองทำได้ค่อนข้างสะดวก และในขณะเดียวกันก็ยังไปสนามบินได้ไม่ยากด้วย เพราะไม่ต้องวิ่งผ่านตัวเมืองออกมา แต่ด้วยความที่เกาะภูเก็ตมีลักษณะเป็นภูเขาอยู่ตรงกลาง การจะข้ามไปฝั่งตะวันตกของจังหวัดอาจจะทำได้ยากขึ้นมาหน่อยเพราะต้องวิ่งข้ามเขา แต่โดยรวมถือว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ยังสะดวกอยู่
การเข้า-ออกโครงการทำได้ไม่ซับซ้อน แต่ก็อยู่เข้ามาในซอยลึกเกือบ 2 กิโลเมตร ผ่านถนนทุ่งโล่งๆที่ไม่มีอะไรเลย และถ้าเป็นคนที่ไม่มีรถก็คงลำบากน่าดู เพราะโครงการไม่ได้มี Shuttle Service อะไรให้ ไปไหนมาไหนก็คงต้องใช้รถทั้งนั้น แต่คิดว่าคนที่มาอยู่ที่นี่น่าจะมีรถกันทุกคนอยู่แล้วเป็นปกติ
สำหรับความเจริญอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ไม่มีร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ ถ้าจะหาของกินก็ต้องออกมาที่ถนนใหญ่เลย จึงจะพบกับร้านค้าต่างๆครับ หรือถ้าจะซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ก็อาจจะต้องเข้าตัวเมืองไปเลย ซึ่งก็จะอยู่ห่างไปราวๆ 10 กิโลนิดๆ ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้ลำบากมากนะครับสำหรับโครงการต่างจังหวัดแบบนี้
การออกแบบโครงการทำออกมาได้โอเค 38 ไร่ กับบ้านเดี่ยว 158 ยูนิต ก็ถือว่าไม่หลวมหรือแน่นเกินไป ตามมาตรฐานของโครงการระดับราคาเดียวกัน ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบ Double-Gate Security ท่ีต้องใช้ Card Access ด้วย ส่วนที่เหลือก็ตามมาตรฐานโครงการทั่วไป ป้อมรปภ., ไม้กระดก, CCTV ฯลฯ
แบบบ้านจัดออกมาได้ค่อนข้างลงตัว การใช้พื้นที่ได้ฟังก์ชั่นค่อนข้างครบ เน้นการใช้กระจกเยอะเปิดให้บ้านดูโปร่ง มีช่องรับแสง รับลม ระบายอากาศหลายจุด แต่แน่นอนว่าก็นำเอาความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านด้วย ซึ่งตรงนี้แนะนำอย่างมากให้ติดฟิล์มกรองแสงด้วย หรือไม่ก็ต้องปลูกต้นไม้ใหญ่ ให้ขึ้นมาบังแนวกระจกจะได้ไม่ร้อนนัก ห้องน้ำทุกห้องมีหน้าต่างระบายอากาศหมด รวมถึงห้องน้ำที่อยู่ใต้บันไดด้วย ซึ่งถือเป็นข้อดีเลย
วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ได้ดีเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้ด้อยอะไร พื้นลามิเนต 8 มม. กระเบื้องแกรนิโต้ กระจกเขียวตัดแสง ส่วนครัวทำมาค่อนข้างดีที่เป็นครัวปูน ปูกระเบื้องภายในให้ด้วย ทนทานแข็งแรง ใช้งานได้จริง ทำความสะอาดง่าย แต่ห้องน้ำน่าจะติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย และวัสดุหัวก็อกอะไรก็ดูไม่พรีเมียมเท่าไหร่นัก
สาธารณูปโภคของที่นี่สโมสรออกแบบมาได้เก๋ไก๋สวยงามดี ต้องรอดูว่าของจริงจะเหมือนอย่างที่เห็นในภาพจำลองแค่ไหน มีฟิตเนส สระว่ายน้ำแยกสระเด็ก และสวนหย่อมแบบ Strip Park ที่เชื่อมมาจาก Club House ก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรมากเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่คนภูเก็ตครับ ซึ่งผมก็คงจะไม่ได้มีความรู้ในด้านทำเลของภูเก็ตได้ดีเท่ากับหลายๆคนที่เคยอยู่ภูเก็ตมาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น หากใครมีข้อแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ อยากจะขอให้มาช่วยแชร์กันใน Comment ได้เลยครับ เพื่อมาร่วมกันแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในภูเก็ตให้ผู้อ่านคนอื่นๆรวมถึงทีมงานให้ทราบด้วยครับ 🙂
Judgement
สำหรับโครงการต่างจังหวัดแบบนี้ ทางเว็บไซต์ไม่ขอให้คะแนนนะครับ
BOTTOM LINE
บุราสิริ เกาะแก้ว เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับ ครอบครัวขนาดเล็ก ที่กำลังมองหาบ้านในภูเก็ต เอาไว้สำหรับอยู่อาศัยในระยะยาว และมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ประโยชน์ ในงบประมาณ 6-10 ล้านบาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ