รีวิวฉบับที่ 489 … Zerene กัลปพฤกษ์ (ซีรีน กัลปพฤกษ์) บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern ที่รวมเอาความเรียบง่ายและหรูหราไว้ด้วยกัน โครงการอยู่บนถนนกัลปพฤกษ์ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมเข้าสู่ถนนสาทรได้สะดวกมาก และยังมีทางเชื่อมไปถนนสายหลักสำคัญๆของฝั่งธนบุรีด้วย โครงการนี้มียูนิตเพียงแค่ 62 ยูนิตเท่านั้นทำให้มีความสงบเป็นส่วนตัวสูงแต่ก็มี Facility ให้ครบตามมาตรฐาน โครงการนี้มีการจองแล้วประมาณ 30% โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 4 December 2013
- Zerene Kanlapaphruek (ซีรีน กัลปพฤกษ์)
- บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน)
- Segment การตลาด 9.4 – 13.2 ล้านบาท
- เนื้อที่โครงการ 16-0-96.7 ไร่
- เฟส 1 : 38 ยูนิต เฟส 2 : 24 ยูนิต รวมทั้งโครงการ 62 ยูนิต
- แบบ Z1 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 229 ตารางเมตร
- แบบ Z2 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 255 ตารางเมตร
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 60 – 80 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 9.4 ล้านบาท
- คาดว่าแล้วเสร็จ กลางปี 57
- http://www.prinsiri.com/th/zerene-k/index.html
- Tel : 1753
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.684252,100.416336
แผนที่จากโครงการ
แผนที่จริง
ภาพรวมของโครงการ Zerene กัลปพฤกษ์ อยู่ในเขตกรุงเทพแต่เป็นฝั่งกรุงธนบุรี อยู่ในเขตบางแคบน ถนนกลัปพฤกษ์ ซึ่งเป็นถนนที่สร้างมาได้ประมาณ 10 ปีถนนเส้นนี้เป็นการเพิ่มจุดเชื่อมต่อไปยังสะพานสาทรเพื่อข้ามจากฝั่งธนบุรีไปยังฝั่งพระนคร โดยที่รถทุกคันไม่ต้องใช้เส้นเพชรเกษม หรือ ตากสิน แถมยังช่วยลดปริมาณรถยนต์ที่จะเข้าสู่วงเวียนใหญ่ด้วย พื้นที่บริเวณนี้มีการพัฒนาไปมาก มีโครงการที่อยู่อาศัยมากมาย ทั้งหมู่บ้าน, ทาวน์เฮาส์ และ คอนโด แถมถนนเส้นนี้ยังสามารถวิ่งตรงเข้าเส้นสาทรได้สะดวกมาก โดยถนนเส้นนี้(กัลปพฤกษ์)จะเชื่อมกับถนนที่สร้างมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันอย่างราชพฤกษ์ที่ใช้เดินทางไปยัง ถนนนครอินทร์ และ รัตนธิเบศน์ได้ นอกจากนี้ทำเลนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญอื่นๆได้อีกหลายเส้นทาง ช่วยให้มีตัวเลือกเวลาจะเลี่ยงรถติดได้ เช่น ถ้าอยากจะไปสวยจตุจักร หรือกรุงเทพโซนบางซื่อ ก็ไม่ต้องวิ่งผ่านสะพานสาทรก็ได้สามารถเลี่ยงไปใช้ถนนราชพฤกษ์, ถนนจรัญสนิทวงศ์ ข้ามสะพานพระราม 7 หรือ ถนนบรมราชชนนีข้ามสะพานพระราม 8 ได้ ทางด่วนก็มีให้เลือก 2 เส้นทางคือ ทางด่วนเฉลิมมหานคร บนถนนพระราม 2 หรือ ทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรม บนถนนกาญจนาภิเษก ถ้าอยากจะไป Mega บางนะ ก็ทำได้ไม่ยากใช้ทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรมไปได้ลงใกล้ๆเลยเส้นทางอาจจะดูไกลแต่รถจะไม่ติดมากทำให้ใช้เวลาไม่เยอะ แต่ปัญหาหลักของถนนพี่น้องคู่นี้(กัลปฤกษ์ และ ราชพฤกษ์)คือ รถติดมากในช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนเวลาอื่นๆก็แล้วแต่จังหวะ เสาร์-อาทิตย์ บางทีก็ติดไม่แพ้วันทำงานเลย ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเป็นถนนที่เชื่อมต่อได้หลายเส้นทางทำให้มีผู้คนมาใช้ถนนเส้นนี้ในการเข้าเมือง หรือใช้เป็นทางเชื่อมไปถนนอื่นได้
ข้อจสำคัณสำหรับโครงการในบริเวณนี้คือการเดินทางจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการใช้รถมากกว่า การไปไหนมาไหนในบริเวณนี้โดยพึ่งพารถสาธารณะเป็นยังไม่ค่อยสะดวกนัก ไม่เหมือนกับถนนหลักอื่นๆที่มีทั้งรถเมล์หลายสาย รถกระป๋อง(ซูบารุ) รถสองแถว หรือรถไฟฟ้า แต่ในอนาคตหากรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็น MRT สายสีน้ำเงิน บนถนนเพชรเกษม หรือ BTS สายสีลม บนถนนราชพฤกษ์ สร้างเสร็จเมื่อไหร่คาดว่าการจราจรคงจะโล่งขึ้นบ้างและผู้คนที่อาศัยอยู่บนเส้นนี้ก็จะเดินทางโดยรถสาธารณะได้สะดวกขึ้น คงมีรถวิ่งวนบนเส้นนี้เชื่อมกับเส้นอื่นๆเพิ่มเติม
ความอุดมสมบูรณ์ในบริเวณนี้มีค่อนข้างมาก ที่ติดกับโครงการเลยจะเป็นโครงการ สำเพ็ง 2 ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ แต่ก็ต้องรอลุ้นว่าหากสร้างเสร็จแล้วจะส่งผลกระทบต่อโครงการมากน้อยแค่ไหนแต่ที่แน่ๆรถน่าจะติดมากขึ้น อาหารการกินมีให้เลือกเยอะพอสมควรแถมมีหลายประเภทตั้งแต่อาหารจานเดียวจนกระทั่งเป็นภัตตาคาร ระดับราคาก็มีหลายระดับด้วยเช่นกัน ร้านค้าก็มาเปิดกันเยอะมีทั้งขายแบบจริงจังหรือขายด้วยเป็น Stock เก็บของด้วย ห้างสรรพสินค้าที่ให้เลือกเดินก็มี The Mall บางแค, Seacon บางแค, The Mall ท่าพระ และ Central พระราม 2 วัน ส่วน Hyper Market ที่อยู่ใกล้ๆก็จะมี Tesco Lotus กัลปพฤกษ์, Makro บางบอน, Big C บางบอน หรือหากอยากเดิน Shopping ยังมี Community Mall บนเส้นราชพฤษ์ และยังมีร้านอาหารอีกเยอะเลยครับกระจายตัวอยู่บนเส้นราชพฤกษ์
การเดินทางเริ่มจากสะพานสาทรแล้วเข้าถนนกัลปพฤกษ์ แล้วไปกลับรถใต้สะพานข้ามคลองบนถนนกาญจนาภิเษก แต่การกลับรถบนเส้นนี้เป็นแค่การกลับรถชั่วคราวเพราะว่ากำลังมีการเพิ่มจุดกลับรถตรงสุดถนนกัลปพฤษ์-กาญจนาภิเษก ทำให้ไม่ต้องวิ่งอ้อมไปอีกไกลครับ แต่ตอนที่เข้าเยี่ยมชมโครงการการก่อสร้างยังไม่เสร็จเลยต้องใช้เส้นทางนี้ไปก่อน
เริ่มกันที่สะพานสาทร เมื่อข้ามแยกสุรศักดิ์มาแล้วก็ชิดขวาวิ่งตามทางยาวๆเลยครับ
ตอนลงสะพานให้ชิดขวาเพื่อเข้าถนนตากสิน ถ้าชิดซ้ายจะไปถนนเจริญนคร
สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีแรกที่เจอของฝั่งธนบุรีคือ สถานีกรุงธนบุรี
ต่อมาสถานีที่ 2 คือสถานีวงเวียนใหญ่
เมื่อผ่านสถานีวงเวียนใหญ่มาแล้วให้ชิดขวาขึ้นสะพานข้ามถนนตากสิน
เมื่อลงสะพานมาแล้วจะเจอกับสถานี โพธินิมิตร
เลยสถานีมาจะเจอกับสะพานข้ามถนนรัชดา-ท่าพระให้ชิดขวา
สถานีตลาดพลู จะเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับรถโดยสารด่วนพิเศษ สายสาทร-ราชพฤกษ์
เมื่อผ่านสถานี วุฒากาศแล้วให้ชิดขวาอย่างเดียว เพราะถ้าชิดซ้ายจะไป ถนนเพชรเกษม หรือ ถนนราชพฤกษ์ และในช่วงเวลาเร่งด่วนทางแยกที่จะไปถนนเพชรเกษมจะรถติดมากครับ
ถนนกัลปพฤกษ์มีขนาด 2 เลนและมีไหล่ทางอีกประมาณเกือบ 1 เลนซึ่งบริเวณที่มีร้านอาหารอยู่ก็จะมีรถมาจอดอยู่ริมถนนมากมาย
สะพานข้ามแยกบนถนนเส้นนี้มี 2 สะพานครับสะพานแรกเป็นการข้ามซอยกำนันแม้น
เมื่อขับตรงมาเรื่อยๆจะเจอสะพานที่ 2 คือสะพานข้ามถนนบางแค
ลงสะพานมาได้ไม่ไกลก็จะเจอกับทางเข้าโคงการอยู่ขวามือ แต่เราต้องไปกลับรถใต้สะพานที่จะเข้าสู่ถนนกาญจนา
ถ้าชิดขวาจะเป็นสะพานเข้าสู่ถนนกาญจนาไปบางบัวทอง และถนนเพชรเกษม หรือถ้าจะไป The Mall บางแคก็ไปทางนี้ได้ครับ จะเข้าโครงการให้ชิดซ้าย
บริเวณนี้คือจุดกลับรถที่กำลังก่อสร้างอยู่คาดว่าจะเสร็จประมาณเดือน ม.ค. 57 ครับตอนนี้ถ้าใครจะมาโครงการให้ชิดขวาขึ้นสะพานไปถนนกาญจนาภิเษกแล้วกลับรถอีกทีครับ
เมื่อกลับรถมาแล้วสิ่งแรกที่เจอคือสำเพ็ง 2 เป็นแนวยาวเลยครับ
เลยสำเพ็ง 2 มาได้ไม่ไกลก็จะเจอกับทางเข้าโครงการ
ถนนทางเข้าโครงการกว้าง 9 เมตรเป็นถนนสาธารณะและเป็นภาระจำยอม แต่ตอนนี้มีการใช้งานเพียงแค่โครงการนี้เท่านั้นครับ
เข้าซอยมาได้ประมาณ 100 เมตรจะเจอประตูทางเข้าโครงการอยู่ซ้ายมือ
เจาะลึกตัวโครงการ
ตัวโครงการจะอยู่ในซอยนะครับไม่ได้อยู่ติดถนนกัลปพฤกษ์เลย ถนนทางเข้าโครงการเป็นพื้นที่ภาระจำยอมกว้าง 9 เมตรระยะทางจากปากซอยถึงหน้าประตูโครงการ 100 เมตร.พื้นที่รอบๆโครงการยังคงเป็นพื้นที่ทางการเกษตรอยู่ยกเว้นด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นโครงการสำเพ็ง 2
ที่ดินของโครงการแบ่งออกเป็น 2 เฟส 1 มี 38 ยูนิตเฟส 2 มี 24 ยูนิตโดยเฟสแรกจะมีช่วงแคบของที่ดินอยู่ทำให้ถนนบริเวณนั้นกว้างประมาณ 8 เมตร ด้านหลังโครงการติดกับคลองเล็กๆชื่อว่าหนองใหญ่
ปากทางเข้าโครงการจะมีซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่มีทั้งทางเข้าของรถยนต์และคนแยกกัน
ป้อมยามตกแต่งด้วยโทนสีเดียวกับตัวโครงการและมีหลังคาเป็นระแนงล้อไปกับกำแพงด้านข้างของประตูทางเข้า
การเข้าโครงการนี้เป็นระบบ Key Card แต่จะสะดวกกว่าทั่วไปนิดหน่อยตรงที่ตัวจับสัญญาณทำงานในระยะไกล ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องวุ่นวายกับการหยิบบัตรมาแตะตัวจับสัญญาณ แค่ขับรถเข้ามาใกล้ๆประตูของโครงการก็จะเปิดออกทันที เวลาฝนตกก็ไม่ต้องเปิดหน้าต่างมาให้เปียกฝนเลยครับ
ป้ายระเบียบการเข้า-ออกโครงการ
กล้อง CCTV ที่ป้อมยามมี 2 จุดคือส่องไปยังคนขับและส่องป้ายทะเบียน
กล้องที่ส่องป้ายทะเบียนจะติดตั้งอยู่ใกล้ๆโครงเหล็กประตูทางเข้าและมีตัวจับสัญญาณของประตูอัตโนมัติ ถ้ามีอะไรมาขวางประตูก็จะไม่ยังไม่ปิดครับ
ประตูทางเข้าโครงการเป็นแบบเลื่อนอัตโนมัติ
ด้านข้างซุ้มประตูจะมีการตกแต่งด้วยระแนง และ หญ้าเทียมเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับยูนิตที่ติดกับทางเข้าและได้ความสวยงามอีกด้วย
ถนนภายในโครงการกว้างประมาณ 13 เมตรแบบรั้วถึงรั้วหรือถ้าตัดทางเท้าออกจะเหลือประมาณ 10 เมตร
พื้นโครงการเป็นถนนคอนกรีตตกแต่งด้วยหินปูถนน มีลวดลายสวยงามเป็นโทนสีเข้ม การตกแต่งแบบนี้ช่วยให้ตัวโครงการดูน่าอยู่ขึ้นลักษณะของถนนดูเป็นมิตรกับคนเดินถนนมากกว่าถนนคอนกรีตเรียบๆ ช่วงโค้งที่มีฝาท่อตกมีการตกแต่งแบบเดียวกันดูกลมกลืนดีครับ ตรงนี้ถือว่าใส่ใจรายละเอียดของโครงการดี
รูปนี้ถ่ายย้อนกลับไปยังปากทางเข้าโครงการ จะเห็นว่าริมถนนมีการปลูกไม้ยืนต้นและไม้พุ่มไว้ด้วยซึ่งตามซอยต่างๆในโครงการจะมีการปลูกไว้เหมือนกัน
รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรด้านที่ติดกับสำเพ็ง 2 จะเพิ่มระแนงอีก 2 เมตรเป็น 5 เมตร ตัวอาคารพาณิชย์ของสำเพ็ง 2 สูง 4 ชั้น
ตัว Club House จะอยู่ค่อนมาทางด้านหน้าของโครงการบ้านที่อยู่ด้านในเฟส 2 อาจจะต้องเดินไกลหน่อย และที่จอดรถหน้า Club House ก็มีไม่มากเป็นการจอดเทียบด้านข้างมากกว่า เพราะถ้าจอดแบบรถกระบะในรูปทางเดินรถจะเหลือแค่เลนเดียว
Club House จะเป็นอาคาร 2 ชั้นแต่ส่วนที่เป็น Lobby จะเป็นชั้นเดียวแต่หลังคาสูงตกแต่งแนว Modern เรียบหรู ตัวอาคารเน้นความโปร่งสบายจึงใช้ผนังเป็นบานกระจกเต็มพื้นที่ สระว่ายน้ำเป็นแบบน้ำล้นอยู่ด้านหน้า ส่วน Fitness อยู่ที่ขั้น 2 และช่วงปลายแหลมของพื้นที่นี้มีศาลาและสวนให้นั่งพักผ่อน
พื้นสวนมีการเล่นระดับเล็กน้อยเป็นทรายล้าง มี Model ตัวหนังสือโครงการให้ด้วย
พื้นที่รอบๆ Club House มีการเล่นกับ Pattern ของพื้นด้วย และมีการทำทางลาดไว้เข้าไปยัง Club House ด้วยจุดนี้ถือว่าเอาใจใส่ลูกบ้านดีครับเพราะลูกบ้านที่จะมาอยู่ในลักษณะของโครงการแบบนี้จะมีครอบครัวแล้วและอาจมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุอยู่ในครอบครัวด้วย การทำทางลาดช่วยให้ลูกหลานพาคุณปู่คุณย่าหรืออาก๋งอาม่ามานั่งพักผ่อนได้ด้วยดูหลานๆเล่นน้ำไปเพลินๆ
ทางเข้าด้านข้าง
พื้นเฉลียงด้านหน้า Lobby จะเป็นพื้นไม้ทั้งหมดยาวไปจนถึงตัว Deck ริมสระน้ำด้วย
หันมาอีกด้านจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8 x 16 เมตรแบ่งโซนเด็กลึก 0.8 เมตรและโซนผู้ใหญ่ลึก 1.5 เมตร ชั้น 2 เป็น Fitness
ส่วนที่เป็นน้ำล้นด้านข้างจะตกแต่งด้วยหินสีดำ
กระเบื้องที่ปูสระว่ายน้ำดูธรรมดาไปหน่อยครับ
บันไดทางขึ้นจากสระว่ายน้ำ
พื้นที่ไว้ล้างตัวจะอยู่ด้านข้างเฉลียง เป็นแบบ Rain Shower
Deck ข้างสระว่ายน้ำมีโต๊ะให้นั่งพักผ่อน
ถ้าเดินไปสุดทางจะเป็นศาลาและสวน
ตอนนี้โครงการยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อยดีนะครับกำลังจัดสวนอยู่แต่เท่าที่ดูถ้าผ่านไปสัก 3 ปีน่าจะร่มรื่นพอควร
รอบๆสระจะมีทางเดินให้สำหรับคนที่ไม่ต้องการเดินขึ้นมาบนสระว่ายน้ำ
มุมมองกลับไปยัง Lobby
มุมจากศาลาไปยังสระว่ายน้ำสุดทางที่เห็นคือสระว่ายน้ำครับ
ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง และมีตู้เก็บของ Built-in มาให้ประมาณ 10 ช่อง
ชั้นวางของด้านในตู้แบ่งเป็น 2 ช่อง
ภายในห้องน้ำมีกระจกบานใหญ่มาให้และ Top เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิต
ผนังกั้นระหว่างห้องเป็นผนังสำเร็จรูป
มาต่อส่วนของ Lobby กันบ้าง
ด้านใน Lobby มีการตกแต่งอย่างสวยงามโดนเน้นวัสดุโทนสีอ่อนกับวัสดุไม้ ที่ใช้ทำฝ้าเพดานและกำแพงด้านใน
การตกแต่งฝ้าเพดาน
มีโซฟามาให้ประมาณ 3 ชุด
โต๊ะกลางมีลักษณะเหมือนขอนไม้มาติดกันดูเก๋ดีครับ
มุมนี้ถ่ายจากบันไดทางขึ้นไปยัง Fitness จะเห็นว่าการใช้กระจกเต็มบานทำให้พื้นที่ดูโปร่งมาก ความร้อนจากแสงแดดจะเข้ามาเยอะหน่อยแต่ดีที่โครงการวาง Club House ให้รับแดดเช้าส่วนแดดบ่ายจะมีกำแพงและระแนงกั้นไว้ให้
ประตูทางเข้า Lobby อีกทางจากด้านหน้าโครงการ
บันไดทางขึ้นมีการตกแต่งด้วยไฟที่พื้นบันไดครับ
ผนังด้านข้างมีการทำ Logo โครงการไว้ด้วยดูหรูหราดี
ขึ้นจากบันไดมาจะเจอโถงชั้น 2 ด้านขวาเป็นห้อง Fitness ด้านซ้ายเป็นสำนักงานนิติบุคคล
ห้องสำหรับนิติบุคคล
ห้อง Fitness พื้นเป็นไม้ลามิเนต มีเครื่องเล่นประมาณ 10 เครื่องครับตอนนี้ยังไม่มีของมาลงให้ดูนะครับว่าเป็นอะไรบ้าง
วิวที่เห็นจากห้อง Fitness
วิวจากอีกด้านครับ
ด้านขวาที่เห็นเป็นระแนงไว้บังแดดด้านทิศตะวันตก และบานกระจกด้านนี้เป็นบานประตูเลื่อนคู่ไว้เปิดระบายอากาศ มีแอร์มาให้นะครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะรอบๆ Club House
- สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8 x 16 เมตรแบ่งโซนเด็กและผู้ใหญ่
- ระบบ CCTV 32 ตัวรอบโครงการ
- Fitness มีเครื่องเล่นประมาณ 10 เครื่อง
- ประตูทางเข้าโครงการเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วย Key Card สัญญาณระยะไกล
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร ฝั่งที่ติดกับสำเพ็ง 2 สูง 5 เมตร
- Lobby หลังคาสูง
Product Walkthrough
แบบบ้านของโครงการนี้มีแค่ 2 แบบ ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกันจะแตกต่างกันตรงขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่านั้นส่วน Function การใช้งานหลักๆจะเหมือนกันหมดครับ บ้านตัวอย่างมีให้ดู 3 หลังโดย 2 หลังจะเป็นแบบ Z1 และอีกหลังเป็นของ Z2 สำหรับแบบนี้ผมได้ถ่ายรูปบ้านเปล่ามาเทียบให้ดูด้วยครับ มาเริ่มที่หลังแรกกันเลยครับ
แบบ Z1 ชั้นล่าง การออกแบบ้านโครงการนี้จะขยับตัวบ้านไปชิดด้านนึงของที่ดินเพื่อเพิ่มพื้นที่สวนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และตัวบ้านมีลักษณะเป็นตัว L ทำให้เกิด Court อยู่ด้านนึงของตัวบ้าน ทุกห้องจะได้ประโยชน์จากวิวสวนด้วย
แบบ Z1 ชั้นบน ห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวด้วยช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องที่ติดกับสวนจะได้วิวที่ดีกว่าอีกด้าน
บ้านตัวอย่างของแบบ Z1 มีให้ดู 2 หลังครับมาดูหลังแรกกัน ประตูรั้วของบ้านในโครงการนี้จะเป็นตะแกรงเหล็กทำสีน้ำตาลและมีการปลูกต้นโมกไว้ที่รั้ว ทางเข้ามี 2 ช่องสำหรับรถยนต์และคน
ประตูรั้วสูง 1.8 เมตร ??
มือจับหลอนประตูรั้วเป็นแบบก้านโยก
กริ่งหน้าบ้านแบบธรรมดาทั่วๆไป
ทางเข้าบ้านมี 3 ทางคือประตูหน้า, ประตูด้านหลังบริเวณห้องครัว และประตูจากสวนด้านข้างของบ้าน ด้านหน้ามีการปูทางเดินรอบบ้านได้
พื้นเฉลียงหน้าบ้านเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60
พื้นที่จอดรถเป็นทรายล้างและมีร่องน้ำโรยด้วยหินแม่น้ำ
รอบๆบ้านจะมีการจัดสวนให้แบบมาตรฐาน
ที่กำแพงหน้าด้านส่วนนึงจะถูกตกแต่งด้วยหินที่มี Texture ตามสีของแบบบ้าน Z1 จะใช้โทนสีภายนอกเป็นสีเทาส่วน Z2 จะใช้โทนสีน้ำตาล
มีการปูหินเป็นทางเดินให้ตลอดจนถึงสวนด้านข้างและมีลงไม้พุ่มให้เยอะแน่นเลย
ในบ้านตัวอย่างจะมีบ่อน้ำอยู่แต่ของจริงไม่มีครับ
เมื่อหันไปด้านข้างจะเจอกับประตูและหน้าต่างบานใหญ่ครับ
หน้าตาโคมไฟติดผนังรอบๆบ้าน
ม้านั่งริมสวนก็ไม่มีให้นะครับ
มองกลับไปยังหน้าบ้านะเห็นระเบียงห้องนอนชั้น 2และห้องอเนกประสงค์
มองไปยังหลังบ้าน สุดทางเดินเฉลียงที่เป็นไม้ก็มีทางเดินหินต่อเนื่องไปยังอีกด้านของบ้าน
ด้านที่แคบที่สุดของบ้านจะเป็นพื้นที่ไว้วางแทงค์เก็บน้ำและปั๊มน้ำ ซึ่งทางโครงการก็แถมมาให้ด้วย
ถัดมาอีกด้านจะเป็นทางเข้าห้องครัว ส่วนประตูที่อยู่ใกล้ๆแทงค์เก็บน้ำเป็นประตูของแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้าน
กำแพงด้านนอกของที่จอดรถมีก๊อกน้ำสำหรับรถน้ำต้นไม้และล้างรถ
ประตูหน้าบ้านเป็นแบบอัตโนมัติทุกหลังครับ
ที่กำแพงประตูจะมีไฟสัญญาณของประตูรั้วมาให้ด้วย
ที่ทิ้งขยะมีฝาปิด Stainless มาให้ดูเรียบร้อย
ช่องใส่ก็มีขนาดใหญ่มากครับด้านหน้ามีประตูไว้สำหรับเวลาคนมาเก็บขยะไม่ต้องเข้ามาในบ้าน
ขนาดที่จอดรถ สำหรับรถขนาด B-Segment จอดได้สบายๆครับ ถ้าจอด 2 คันประตูรถที่หันเข้าหากันจะเปิดได้ไม่สุดครับ แต่อีกด้านจะเปิดได้สุดเลย
พื้นที่ด้านหน้าเดินผ่านได้สบาย
พื้นที่ด้านหลังก็ยังเหลืออีกเยอะครับ
ต่อไปมาดูในบ้านกันบ้างห้องแรกจะเป็นห้องรับแขก ส่วนถัดไปคือโซนโต๊ะอาหาร ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตรทั้งชั้นล่างและชั้นบน
กระจกบานใหญ่จากห้องนั่งเล่นกับโซนโต๊ะอาหารช่วยให้เห็นวิวของสวนได้อย่างชัดเจน
ไฟแบบ Down Light มีให้ 8 ดวงสำหรับโซนนี้
มุมมองกลับมายังหน้าบ้าน
มุมมองจากหน้าต่างสวนไปยังบริเวณห้องครัว
มุมจากหน้าทานอาหรไปทางสวน ถ้าแต่งสวนให้ร่มรื่นและดูดีจะช่วยให้บรรยากาศของห้องทานอาหารดูดีขึ้นมากครับ ส่วนด้านข้างจะเหลือที่ให้แต่งสวนได้ไม่มาก
ประตูทางเข้าบ้านมีขนาดประมาณ 1.1 x 2.2 เมตร ห้องน้ำจะอยู่ด้านหน้าติดกับห้องนอนที่อยู่ชั้นล่าง การวางห้องน้ำแบบนี้ช่วยให้โซนห้องทานอาหารดูน่าใช้งานมากกว่าที่แบบบ้านที่เอาห้องน้ำไว้ใกล้ๆครัว และข้อดีอีกข้อคือ ผู้สูงอายุที่อยู่ชั้นล่างสามารถเข้าถึงห้องน้ำได้ไม่ยากไม่ต้องเดินไกลด้วย
กลอนประตูแบบมือจับก้านโยกจริงๆ
โถงทางขึ้นบันไดจะมีหน้าต่างไว้รับแสง
สวิทช์ไฟและปลั๊กไฟทั้งหมดใช้ของ Bticino
วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องพอสเลน ขนาด 60×60 ซม.
ห้องน้ำมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องหลายแบบดูสวยงามดีครับ โดยเน้นโทนสีดำตัดกับกำแพงสีอ่อนทั้ง 2 ด้าน ใช้กระเบื้องทรงสี่่เหลี่ยมผืนผ้าช่วยนำสายตาไปยังผนังห้องน้ำด้านในสุด
กระเบื้องสีขาวาสลับสีดเข้มตรงกลางห้องนั้นมี Texture ที่ไม่เรียบนะครับ
ชุดอ่างล้างหน้าใช้ของ Kohler และมีตู้ Built-in ด้านล่างมาให้ กระจกติดผนังมีขนาดใหญ่กำลังดี
ลิ้นชักของตู้ใต้อ่างติด Soft Close และแผ่นกันลื่นมาให้ด้วย
หัวก๊อกน้ำใช้ของ VRH
บริเวณอ่างมีปลั๊กไฟกันน้ำอยู่ด้านข้าง
มือจับบานประตูตู้ติดเป็นอลูมิเนียมโปรไฟล์จับได้ถนัดดีครับ
ชุดโถสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ Kohler เช่นกันและแบบที่ให้มาสวยดีครับ
ที่แขวนกระดาษทิชชู่ของ VRH ติดอยู่ด้านกำแพงด้านหลังอันนี้ต้องเอี้ยวตัวเยอะหน่อยเวลาจะใช้งาน
สายชำระใช้ของ VRH
ราวแขวนผ้าเช็ดตัว
พื้นห้องน้ำลดระดับลงมา 2 ครั้งครั้งละประมาณ 4 ซม. และโซนอาบน้ำไม่มีฉากกั้นมาให้
ฝักบัวอาบน้ำมีมาให้ 1 ชุด
ด้านข้างของฝักบัวมีงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำร้อนติดตั้งมารอไว้ให้แล้ว
มีก๊อกซักล้างด้านล่างใต้ชุดฝักบัวให้อีกจุด
ด้านหลังของโซนอาบน้ำมีหน้าต่างหละชั้นวางของเล็กๆให้ซึ่งไม่น่าจะเพียงพอ
มีไฟส่องสว่างแบบ Down Light ให้ 2 จุดและมีพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วย ไฟซ่อนฝ้าก็ทำมาให้นะครับ
ห้องแรกซ้ายมือจะเป็นห้องนอนของชั้นล่าง เตียงที่เห็นขนาด 5 ฟุตครับ
ด้านที่เห็นวิวจะเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเดี่ยว
หน้าต่างด้านหน้าบ้านเป็นบานเปิดเดี่ยว
หน้าต่างจะเป็นล็อคแบบ 2 ชั้น
มีตัวล็อคตรงกลางเพิ่มมาให้ด้วย
วิวที่ได้จะประมาณนี้ครับ
ไฟ Down Light มีมาให้ 4 ดวง
คิ้วบัวซ่อนรางม่าน บ้านจริงไม่มีให้นะครับ
มาดูห้องครัวบ้าง บานประตูเป็นบานกระจก
หน้าตากลอนประตูเป็นแบบมือจับก้านโยก
แนวขอบประตูของห้องครัวจะติดสักหลาดกันแมลงไว้ให้ นอกจากนี้ยังช่วยกันกลิ่นเวลาทำอาหารด้วย
ตรงประตูนี้จะติดสัญญาณกันขโมยไว้ให้
พื้นของห้องครัวจะลดระดับลงมา 10 ซม. วัสดุเป็นกระเบื้องเซรามิค 30 x 30 ซม.
เคาน์เตอร์ครัวที่ทำมาให้เป็นแบบครัวไทย Top เป็นหินแกรนิตแท้ส่วนตัวโครงสร้างเป็นก่ออิฐฉาบปูน
ช่องใส่ตู้เย็นด้านข้างจะอยู่ตรงประตูพอดี ขนาดตู้เย็นที่เห็นคือ 13.1 คิวบิกฟุต หรือ 370.4 ลิตร
ในห้องครัวจะมีประตูปิดอีกชั้นและมีหน้าต่างบานเกร็ดให้ 2 บาน ด้านซ้ายเป็นอ่างล้างจานและช่องวางเครื่องซักผ้า
โคมไฟเป็นแบบซาลาเปามีมาให้ 2 ดวง
เคาน์เตอร์อ่างล้างจานไม่มีตู้ Built-in มาให้เหมือนกับเคาน์เตอร์ครัว
ก๊อกอ่างล้างจานใช้ของ VRH ตัวอ่างเป็นแบบ 1 หลุมและมีที่พักจานมาให้
ขนาดเครื่องซักผ้าที่เห็นคือ 8 KG. มีงานระบบเตรียมมาให้พร้อม
พื้นระเบียงจากห้องครัวจะลดระดับลงไปอีกประมาณ 7 ซม.
บริเวณทางขึ้นชั้น 2 จะเป็นห้องเก็บของมีประตูปิดมิดชิด
ห้องเก็บของใต้บันได
สัญญาณกันขโมยจะติดอยู่ข้างๆห้องเก็บของ ระบบสัญญาณกันขโมยจะมีการทำงาน 2 แบบคือ จับการเคลื่อนไหวตามประตูหน้าต่างและ การสั่นเทือนของประตูทางเข้าหลัก 2 ทาง และระบบสามารถแจ้งเตือนไปยังมือถือของลูกบ้านได้ด้วยถือว่าสะดวกมากๆ
บันไดกว้างประมาณ 1 เมตรและมีราวบันไดให้ทั้ง 2 ช่วง และมีหน้าต่างบานใหญ่มาให้ด้วย
ราวบันไดเป็นไม้ยางพาราทำสีธรรมชาติกับโครงเหล็กสีขาว
ตัวบันไดเป็นไม้ยางพาราจ๊อยท์
รอยต่อของราวจับจะไม่ต่อเนื่องกันนะครับ
ขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นโถงกลาง ทางโครงการไม่ได้กั้นห้องไว้
ห้องนั่งเล่นโถงกลางในบ้านตัวอย่างทำ Built-in ยกพื้นสูงขึ้นมาและซ่อนไฟด้านล่าง มีหน้าต่างบานใหญ่เห็นวิวสวนด้านข้าง
วิวจากห้องนั่งเล่นครับ
จากหน้าต่างนี้จะเห็นระเบียงห้องนอนใหญ่ด้วย
ฝ้าใต้หลังคาเป็นแบบกันนกเข้าไปทำรังและมีรูไว้ระบายอากาศ
ขึ้นมาจากบันไดฝั่งขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่มีห้องน้ำในตัว
ไฟส่องสว่างโถงกลางมีมาให้ 2 ดวง
ตู้เมนไฟของบ้านอยู่หน้าห้องนอนเล็กบริเวณทางขึ้น-ลงบันไดพอดี
ห้องนอนเล็กสามารถใส่เตียงขนาด 5-6 ฟุตได้แล้วมีที่เหลือเดินรอบๆ เตียงได้สบาย แต่ในบ้านตัวอย่างเป็นขนาด 5 ฟุต
ระยะเหลือข้างเตียง
ในห้องมีหน้าต่าง 2 จุดเป็นบานกระจกเลื่อนเดี่ยว
ในห้องตัวอย่างด้านนึงจะทำเป็น Built-in ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
ตู้เสื้อผ้าถ้าทำเต็มความสูงฝ้าเพดานจะใส่ได้เยอะมากครับ
ชั้นวางทีวีปลายเตียงเหลือที่ไม่ค่อยเยอะถ้าแขวนทีวีติดผนังไว้จะดีกว่า
ห้องน้ำในห้องนอนเล็กจะคล้ายๆกับห้องน้ำชั้นล่างครับแต่ลวดลายของกระเบื้องที่ใช้จะต่างกันห้องนี้กำแพงจะเป็นโทนดำทั้งหมด
ลายกระเบื้องปูผนัง
กระเบื้องที่ใช้ในห้องนี้เป็นกระเบื้องพอสเลนขนาด 60 x 60 ซม. มีงานระบบสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้พร้อมเช่นกัน
ฝาท่อระบายน้ำเป็นสแตนเลส 4 เหลี่ยมธรรมดา
พื้นลดระดับลงมา2 ครั้งๆ ละประมาณ 4 ซม.
ห้องน้ำห้องนี้ไม่มีพัดลมดูดอากาศมาให้ แต่จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้แทน
ฝ้าซ่อนไฟทำมาให้เช่นกัน
มาดูห้องนอนเล็กอีกห้องบ้างประตูห้องจะตรงกันพอดีๆ
ห้องนอนเล็กห้องนี้จะมีขนาดเล็กกว่าห้องเมื่อกี้อยู่นิดนึง แต่ห้องน้ำมีขนาดใหญ่กว่า เตียงที่เห็นเป็นขนาด 3.5 ฟุตห้องนี้ถ้าใส่ 5 ฟุตยังพอได้แต่ถ้าเป็น 6 ฟุตจะแน่นไปหน่อย
Built-in ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ด้านข้างของเตียง เมื่อเปิดประตูตู้แล้วยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะถ้าวางเตียงขนาด 5 ฟุตน่าจะพอดีๆ
ประตูห้องน้ำจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องเลย
การจัดวางชั้นวางทีวีพร้อมโต๊ะทำงาน
ห้องน้ำของห้องนี้ก็ใช้กระเบื้องอีกแบบครับโทนสีใช้แบ่งโซนเปียกกับโซนแห้งอย่างชัดเจน ฉากกั้นที่เห็นของจริงไม่มีมาให้นะครับ??
ลายกระเบื้องโซนแห้งครับ
กระเบื้องโซนเปียกจะเป็นโทนสว่าง ไม่มีพัดลมดูดอากาศมาให้เช่นกันมีแต่หน้าต่างบานกระทุ้งมาให้
ชุดอ่างล้างมือเหมือนกันเป๊ะๆครับ
พื้นก็ลดระดับแบบเดียวกัน
ต่อมาเป็นห้องนอนใหญ่ รูปนี้ถ่ายจากหน้าห้องนอนเล็ก
รอยต่อระหว่างพื้นห้องเป็นมีธรณีสำเร็จรูปกันฝุ่นและแมลงมาให้ พื้นชั้น 2 ทั้งหมดเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 12 มม. ถ้าให้เป็นพื้นไม้ Engineering Wood จะเหมาะสมกับราคากว่านี้
ห้องนอนใหญ่นอกจากจะมีพื้นที่ใหญ่กว่าห้องอื่นๆแล้วยังมีระเบียงเพิ่มมากให้ด้วยซึ่งจะได้วิวสวนด้านข้างพอดี
พื้นที่รอบเตียงมีเหลือเฟือครับ
กำแพงส่วนที่เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับระเบียงจะเป็นบานกระจกทั้งหน้าต่างและประตู
พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคลายไม้ ราวกันตกเป็นเหล็กทำสีเทาเข้ม
พื้นระเบียงลดระดับลงมาประมาณ 7 ซม.
ขอบระเบียงจะเซาะร่องทำเป็นรางน้ำให้ไหลลงสวนด้านข้าง
วิวที่ได้ประมาณนี้ครับ
ประตูกระจกบานเลื่อนสลับคู่มีตัวกันกระแทกติดอยู่กับบานประตูเลย
ด้านหน้าห้องน้ำจะเป็น W.I.C. (Walk-in Closet) ครับ
ห้องตัวอย่างจะทำ Built-in ตู้เก็บเสื้อผ้าเต็มพื้นที่พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
ถ้าอยากได้ตู้เสื้อผ้าเยอะกว่านี้ก็สามารถย้ายโต๊ะเครื่องแป้งออกมาอีกหน่อยก็ได้เพราะพื้นที่ข้างเตียงยังเหลืออีกเยอะ
มุมมองจากหน้าห้องน้ำไปยังระเบียง
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะใช้ชุดอ่างล้างหน้าเหมือกนกับห้องอื่นๆ แต่มี Low Wall ยาวตลอดแนวอ่างล้างหน้าไปจนถึงโถสุขภัณฑ์เพิ่มมาให้สำหรับวางของใช้ต่างๆ
ตู้ใต้อ่างล้างหน้าเป็นแบบเปิดนะครับไม่เหมือนอันอื่นๆที่เป็นแบบลิ้นชักเลื่อน
ไฟซ่อนฝ้าเพดานมีมาให้เช่นเดียวกัน
ชุดโถสุขภัณฑ์ก็ใช้แบบเดียวกันและไม่มีพัดลมดูดอากาศมาให้มีบานกระจกมาให้แทน
สิ่งที่แตกต่างคือชุดฝักบัวอาบน้ำจะมี Rain Shower มาให้และมีฉากกระจกกั้น
บานประตูเป็นแบบเปิดเข้าและมี Door Stop ติดที่กำแพงด้านข้าง
พื้นลดระดับ 2 ครั้งโซนแห้งลดลงมาประมาณ 8 ซม.โซนเปียกลดลงมาประมาณ 4 ซม.
กระเบื้องในห้องนี้เป็นโทนสีสว่างทั้งพื้นและผนัง ซึ่งก็ไม่เหมือนกับห้องอื่นๆ สรุปแล้วห้องน้ำของโครงการนี้ปูกระเบื้องที่ลายไม่ซ้ำกันเลยครับ ทำให้บรรยากาศในการใช้งานแตกต่างกัน
มาดูบ้านตัวอย่างแบบ Z1 อีกหลังครับสิ่งที่ต่างกันคือแบบบ้านจะกลับด้านกันครับ และการตกแต่งก็จะเป็นคนละแบบเอามาให้ดูเป็น Idea ครับ ห้องนั่งเล่นใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีเข้ม
บันไดอยู่ฝั่งซ้ายแทน
ถ่ายจากด้านในห้องไปยังหน้าบ้าน
ห้องนี้มีการทำ Built-in Pantry ครัวเพิ่มขึ้นมานอกจากครัวไทย
ครัวไทยมีการทำตู้ Built-in มาให้ดูเป็น Idea ครับ การวางตู้เย็นของบ้านแบบนี้การใช้งานจะไม่สะดวกเท่าบ้านหลังแรกเพราะบานเปิดตู้เย็นจะอยู่ด้านซ้าย
มีการติดมุ้งลวดทั้งหลังให้ดูด้วย
ห้องนอนชั้นล่างสามารถแปลงเป็นห้องทำงานได้
โถงบันไดติดโคมไฟแชนเดอร์เรีย
ห้องนั่งเล่นชั้นบนไม่มีการยกพื้นแต่เพิ่มลูกเล่นที่ Wallpaper แทน
ห้องนอนเล็กห้องแรก
ชั้นวางทีวีแบบเต็มผนังครับ
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบลอยตัวไม่ใช่ Built-in ดังนั้นจะเสียพื้นที่เก็บเสื้อผ้าไปพอสมควร
ห้องนอนอีกห้องแต่งด้วยโทนสีขาว
การตกแต่งผนังด้วย Wallpaper มีลวดลายทำให้บรรยากาศห้องเปลี่ยนไปมากครับถ้าใครสนใจอยากเปลี่ยนบรรยากาศห้องก็ลองเปลี่ยน Wallpaper ที่กำแพงสักด้านนึงก็ได้ครับ
ชุดตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว
ห้องนอนใหญ่ตกแต่งด้วยโทนสีดำ-น้ำตาล
W.I.C. มีลานเลื่อนกั้นเพิ่มขึ้นมา
ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in เข้ามุม
ใส่โต๊ะเครื่องแป้งที่กำแพงอีกด้านได้แต่ถ้านั่งที่โต๊ะจะเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านแค่นิดเดียวนะครับ
แบบ Z2 ชั้นล่าง มีลักษณะการใช้งานเหมือนกับแบบ Z1 เลยแตกต่างกันแค่พื้นที่การใช้งานที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น
แบบ Z 2 ชั้นบน ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่มีอ่างอาบน้ำเพิ่มขึ้นมา
ลักษณะภายนอกของบ้านเหมือนกับแบบ Z1 แต่โทนสีที่ใช้จะเป็นโทนสีน้ำตาล
พื้นที่จอดรถมีขนาดใหญ่กว่า Z1 อยู่นิดนึง
การวางผังห้องก็เหมือนกันเป๊ะๆ ครับห้องแรกที่เจอเป็นห้องนั่งเล่น
พื้นที่ห้องนอนเล็กชั้นล่างจะเท่ากัน ส่วนที่ขยายเพิ่มขึ้นมาคือพื้นที่ส่วนกลางของบ้านเช่นห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร
การตกแต่งภายในห้องนอน
ห้องน้ำก็ตกแต่งไม่เหมือนกับแบบ Z1 ครับกระเบื้องจะเป็นอีกลาย
ลายของกระเบื้องที่ใช้ครับ
ชุดสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็แบบเดียวกับบ้าน Z1
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาเมื่อมีพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้นคือสามารถทำ Built-in Pantry ได้อีกชุดซึ่งทำเป็นขนาดใหญ่อย่างในรูปได้เลยครับ
ทำเป็นเคาน์เตอร์ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีกเยอะเลยครับ
ส่วนครัวไทยมีขนาดใหญ่ขึ้นตามมาด้วย ลองดูที่อ่างล้างจานจะเห็นว่ามีพื้นที่ข้างอ่างเหลืออีกเยอะครับ
ช่องวางตู้เย็นก็สามารถทำชั้นวางของเพิ่มขึ้นได้อีก
บริเวณบันไดจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาเหมือนกันแต่ไม่ใช่ตัวบันไดนะครับเป็นส่วนของห้องเก็บของ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นชั้น 2 มีเนื้อที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน วางเฟอร์นิเจอร์ได้มากขึ้น
ห้องนอนเล็กมีพื้นที่ใหญ่ขึ้นเลยสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นสัดส่วน
มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะมากขึ้น
ส่วนที่เป็นตู้เสื้อผ้า Built-in มีขนาดเท่าๆกัน
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ มีพื้นที่พอให้ใส่โต๊ะทำงาน หรือตู้เก็บของได้มากขึ้น
ห้องน้ำใช้ชุดสุขภัณฑ์เดียวกันแต่กระเบื้องปูผนังจะไม่เหมือนกัน
ลายกระเบื้องปูผนัง
ห้องนอนเล็กอีกห้องจะมีมุมแปลกๆอยู่บ้างตรงช่วงปลายเตียง
เพราะถ้าทำ Built-in เต็มแนวกำแพงจะเหลือพื้นที่ปลายเตียงเล็กมาก
เหลือแค่พอเดินได้คนเดียวถ้าใครตัวใหญ่หน่อยจะอึกอักครับ ดังนั้นก่อนทำ Built-in ควรดูระยะปลายเตียงให้ดี
ตู้เสื้อผ้าในห้องนี้จะเป็นแบบเข้ามุมพอดี
ห้องน้ำใช้ชุดสุขภัณฑ์เดียวกัน
ห้องนอนใหญ่ส่วนที่เป็นระเบียงยังคงสัดส่วนเดิมไว้
สวนมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย บ่อน้ำยังคงไม่มีมาให้นะครับ
ระยะห่างจากบ้านอีกหลังที่มีสวนชนกันจะดูไกลกันดีครับ แต่อีกด้านจะใกล้หน่อยเพราะตัวบ้านจะหันชนกันไม่ใช่สวน
พื้นที่ห้องนอนจะใหญ่ขึ้นทำให้พื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะกว่าแบบ Z1 ถึงแม้จะทำตู้ Built-inแล้วแต่พื้นที่ปลายเตียงก็ยังโล่งอยู่
ตู้เสื้อผ้าสามารถเพิ่มได้เป็น 3 ตู้
ห้องน้ำจะพิเศษกว่าแบบ Z1 ตรงที่มีอ่างอาบน้ำเพิ่มมาให้
โซนอาบน้ำจะมีผนังปูนกั้นมาให้ส่วนนึง ของจริงจะไม่มีกระจกกั้นมาให้ครับ
ผนังโซนอาบน้ำปูกระเบื้องลายไม้
ชุดสุขภัณฑ์อ่างล้างหน้าก็เป็นแบบเดียวกัน
ชุดโถสุขภัณฑ์ก็เป็นแบบเดียวกันครับมี Low Wall ให้วางของนิดหน่อย
สรุปแล้วแบบบ้านทั้ง 2 แบบมีลักษณะการใช้งานเหมือนๆกัน ส่วนใครอยากได้บ้านที่มีขนาดใหญ่หน่อยก็เลือกแบบ Z2 ครับ
สุดท้ายจะพาไปดูบ้านเปล่าของแบบ Z2 ครับ ชั้นล่างมาโล่งๆแบบนี้ครับ
สวนด้านข้างจะไม่มีบ่อน้ำ
ห้องนอนชั้นล่าง
ห้องน้ำชั้นล่าง
ไฟซ่อนฝ้าเพดานยังมีมาให้ครับ
โซนทานอาหาร
มองกลับไปยังหน้าบ้าน
ครัวไทย
ห้องนั่งเล่น ชั้น 2
มองไปยังห้องนอนเล็ก
ห้องนอนเล็ก
บานประตูห้องน้ำเป็นแบบทึบไม่มีร่องระบายอากาศ
ห้องนอนเล็กอีกห้อง
ห้องน้ำ
ห้องนอนใหญ่ ไฟซ่อนฝ้าเพดานมีมาให้ด้วย
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
Price vs Performance
- แบบ Z1 แปลง 53 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 229 ตารางเมตร 60 ตารางวา ราคา 9.4 ล้านบาท
- แบบ Z1 แปลง 58 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 229 ตารางเมตร 64 ตารางวา ราคา 10 ล้านบาท
- แบบ Z2 แปลง 24 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่จอดรถ 255 ตารางเมตร 75.5 ตารางวา ราคา 12.4 ล้านบาท
- แบบ Z2 แปลง 2 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่จอดรถ 255 ตารางเมตร 70 ตารางวา ราคา 13.2 ล้านบาท
- จอง 100,000 บาท
- ทำสัญญา 500,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าธรรมเนียมในการโอน ผู้ซื้อและผู้ขาย ชำระฝ่ายละครึ่ง
- ราคานี้ไม่รวมค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า และ มิเตอร์ประปา
- ทำสัญญาหลังจองภายใน 7 วัน
- แอร์ทั้งหลัง 6 เครื่อง
- จัดสวนมาตรฐานให้รอบบ้าน (ไม่มีบ่อน้ำ)
- เครื่องทำน้ำร้อน (เฉพาะแบบ Z2)
- ประตูรีโมท
- ระบบสัญญาณกันขโมย
- เคาน์เตอร์ครัวไทย
- ปั๊มน้ำ
- ถังเก็บน้ำบนดิน
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของโครงการนี้เป็นทำเลที่อยู่บนถนนเกิดใหม่(ประมาณ 10 ปี) แต่การเจริญเติบโตของพื้นที่นี้ถือว่าค่อนข้างเร็วเพราะพื้นที่ตลอดแนวถูกพัฒนาไปเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหลายประเภทมีตั้งแต่ บ้าน, ทาวน์เฮาส์ และ คอนโด รวมไปถึงพื้นที่ในซอยต่างๆที่มาเชื่อมยังถนนเส้นนี้ก็ถูกพัฒนาไปมาก ถนนเส้นนี้มีการเจริญเติบโตเร็วเพราะเป็นถนนที่เชื่อมเข้าสู่ถนน สาทร โดยตรง ทำให้คนที่จะข้ามสะพานสาทรไม่ต้องวิ่งไปติดกันที่วงเวียนใหญ่ ห้างร้านต่างๆก็มาเปิดบริการกันเยอะรวมทั้งโครงการใหญ่ๆอย่าง สำเพ็ง 2 ที่อยู่ติดกับโครงการเลย แต่ก็ต้องรอลุ้นหน่อยว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างกับโครงการบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถติด, เสียงดัง หรือ ความปลอดภัย
ความอุดมสมบูรณ์มีมากครับเพราะละแวกนี้เริ่มเป็นชุมชนที่มีการอยู่อาศัยกันหนาแน่น ทำให้มีร้านอาหารต่างๆมาเปิดพอสมควรมีหลายประเภทตั้งแต่ เป็นเต้นท์, ตึกแถว ไปจน ภัตตาคาร หากอยากเดิน shopping ก็ขับรถไปยังเส้นราชพฤกษ์เลยครับมี The Circle และร้านอาหารอีกอื้อเลย พวก Hyper Market ก็อยู่ไม่ไกลอยู่บนถนนเส้นนี้เลย หรือถ้าจะไปเดินห้างอันนี้มีให้เลือกเยอะเลยครับ The Mall บางแค, Seacon บางแค, The Mall ท่าพระ และ Central พระราม 2 ทั้งหมดอยู่ในระยะ 5 – 10 กม.
การเดินทางด้วยรถนรต์ถือว่าสะดวกดีครับ มาดูข้อดีของถนนเส้นนี้กันก่อน ข้อดีคือมีจุดเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักต่างๆมากมาย สามารถเอาไว้ใช้เลี่ยงรถติดเวลาจะเข้าเมืองได้ เช่นอยากจะไปสวนจตุจักร ก็ไม่ต้องวิ่งผ่านเส้นสาทรผ่ารถติดกลางเมือง สามารถใช้เส้นทางถนนราชพฤกษ์>ถนนบรมราชชนนี>สะพานกรุงธน(ซังฮี้)>สามเสน>สวนจตุจักรได้ หรือถ้าจะไปพระราม 4 ก็ลัดเลาะซอยต่างๆไปออกถนนพระราม 2 แล้วขึ้นทางด่วนก็ได้ หรือถ้าจะไปเที่ยว Mega บางนาก็ไปขึ้นทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรมเอารถจะติดน้อยกว่าทางด่วนเฉลิมมหานครแต่มีรถใหญ่วิ่งเยอะ ทีนี้มาดูข้อเสียกันบ้างข้อเสียหลักๆก็คงหนีไม่พ้นเรื่องรถติดครับเพราะว่าถนนเส้นนี้เชื่อมไปยังหลายเส้นทางและสะดวกมากในการไปถนนสาทรทำให้ผู้คนบริเวณนี้เลี่ยงมาใช้ถนนนี้กันมาก โดยเฉพาะช่วงนี้ถนนเพชรเกษมมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ด้วยทำให้รถติดมากคนก็เลยหนีมาใช้เส้นนี้กันเยอะ ช่วงที่ติดมากๆก็เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนครับ ส่วนช่วงเวลาอื่นก็แล้วแต่จังหวะครับ ข้อเสียอีกเรื่องคือจุดกลับรถที่ไกลมากแต่ปัญหานี้กำลังจะหมดไปครับเพราะทาง กทม. ได้วางแผนและดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมจุดกลับรถรวมทั้งการขยายถนนอีกด้วย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถค่อนข้างลำบากครับเพราะรถสาธารณะที่วิ่งผ่านมีไม่มากแถมส่วนมากเป็นรถที่วิ่งวนในท้องที่ละแวกนี้เท่านั้น หากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินเสร็จคงเดินทางได้สะดวกขึ้นมาก เพราะจะมีรถที่วิ่งจากเส้นนี้ไปยังถนนเพชรเกษมเพิ่มมากขึ้นอีกเยอะ จะไปขึ้น สถานีบางแค หรือไปขึ้น สถานีบางหว้า ก็ได้แล้วแต่ความสะดวก
วัสดุของโครงการนี้ให้มาแบบกลางๆค่อนไปทางดี ชั้นล่างเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ในห้องน้ำก็ใช้เหมือนกันครับแต่ห้องน้ำมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องที่มีสีสันและลวดลายต่างกันซึ่งทำออกมาได้ดูดีมีราคา มีการใช้กระเบื้องที่มีพื้นผิวขรุขระมาตัดกับผิวเรียบทำให้ดูสวยงามมากขึ้น ส่วนพื้นชั้น 2 ยังคงเป็นพื้นไม้ Laminate หนา 12 มม.ซึ่งจากราคาควรจะเป็นพื้นไม้ Engineering Wood หรือดีกว่านี้ สุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler และอุปกรณ์เป็นของ VRH ส่วนครัวน่าจะมี Build-in หน้าบานมาให้เพราะให้แต่เคาน์เตอร์ปูนฉาบเรียบ Top หินแกรนิตแท้
โครงการนี้จะเน้นแนวคิดเรียบง่ายสไตล์ Modern ทั้งโตัวโครงการและตัวบ้านซึ่งทำออกมาได้สวยดูทันสมัย Club House ทำออกมาได้หรูหราอลังการสวยทั้งกลางวันและกลางคืน ตัวอาคารเน้นฝ้าเพดานสูงและกำแพงเป็นบานกระจกเต็มพื้นที่ทำให้ดูโปร่งสบาย ส่วนผังมีจุดที่ดูแปลกสักหน่อยคือช่วงถนนภายในโครงการที่เป็นมุมแหลมมาชนกันทำให้ถนนช่วงนั้นแคบกว่าช่วงอื่นๆของโครงการ แบบบ้านเน้นพื้นที่ส่วนกลางให้มีขนาดใหญ่ทั้งห้องนั่งเล่นห้องทานอาหารและส่วนครัว ฝ้าเพดานสูง 2.75 ทั้ง 2 ชั้นบวกกับการใช้บานกระจกที่ค่อนข้างใหญ่ทำให้ทำให้บ้านดูโปร่งสบายมากๆครับ มีห้องนอนที่ชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุและห้องนอนที่ชั้น 2 มีห้องน้ำในตัวให้ทุกห้องช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตัวบ้านจะถูกขยับให้อยู่ชิดเขตที่ดินด้านนึงทำให้มีพื้นที่สวนมากขึ้นและน่าใช้งาน
Facility ของโครงการถือว่าจัดมาให้เยอะถ้าเทียบกับจำนวนของยูนิตในโครงการที่มีเพียงแค่ 62 ยูนิต สระว่ายน้ำมีขนาด 8 x 16 โซนผู้ใหญ่ลึก 1.5 ม. โซนเด็กลึก 0.8 ม. พร้อม Deckขนาดใหญ่สำหรับพักผ่อน หรือจะไปนั่งพักผ่อนที่ศาลาด้านข้างก็ได้เพราะพื้นที่บริเวณนี้มีการจัดสวนไว้ให้ด้วย เรื่องความปลอดภัยก็หายห่วงครับเพราะรั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรส่วนด้านที่ติดกับสำเพ็ง 2 จะมีระแนงไม้เพิ่มขึ้นอีก 2 เมตรเป็น 5 เมตร ภายในบ้านมีระบบกันขโมยที่สามารถแจ้งเตือนไปยังมือถือของลูกบ้านได้ กล้องวงจรปิดติดรอบโครงการ 30 ตัว??หรือเฉลี่ยประมาณ 2 หลังต่อกล้อง 1 ตัวและลูกบ้านสามารถดูภาพผ่านมือถือได้ด้วย
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 9.4 – 13.2 ล้านบาท, 4 December 2013
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – มีเส้นทางให้เลือกเยอะ มีทางลัดไปทางด่วนพระราม2ได้ เข้าถนนสาทรได้ง่าย แต่รถติดมากไปหน่อย
- ความปลอดภัย 8.75/10 – ทางเข้าเป็นประตูเลื่อนอัตโนมัติระบบ Key Card สัญญาณระยะไกล, CCTV 32 ตัวดูผ่านมือถือได้, สัญญาณกันขโมยทุกหลังสามารถแจ้งเตือนเข้ามือถือได้, ประตูรั้วบ้านระบบอัตโนมัติ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – แบบลงตัวดูทันสมัยและเรียบง่าย ความหนาแน่นต่ำ
- วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐานของราคาระดับนี้ถ้าครัวมีตู้ Built-in มาให้ด้วยจะได้คะแนนเยอะกว่านี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – โครงการไม่ใหญ่ทำให้พื้นที่สีเขียวมีน้อย แต่ก็พยายามใส่พื้นที่สีเขียวให้ตามถนนตลอดโครงการ
- สาธารณูปโภค 8.25/10 – มีสระว่ายน้ำและ Fitness ให้ตามมาตรฐานและทำออกมาน่าใช้งาน ความหนาแน่นต่ำเพราะจำนวนยูนิตไม่เยอะ
- 8.01 / 10.00
BOTTOM LINE
Zerene กัลปพฤกษ์ เป็นโครงการสำหรับคนที่ต้องการบ้านเดียวในย่านฝั่งธนและอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก ชอบตกแต่งสวนและต้นไม้ เป็นครอบครัวขนาดกลางหรือมีสมาชิกเป็นผู้สูงอายุ มีงบประมาณประมาณ 9.4 – 13.2 ล้านบาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧