รีวิวฉบับที่ 811 … สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปชมโฮมออฟฟิศแนวโมเดิร์นกัน โครงการนี้มีชื่อว่า WISE Ladprao 71 อ่านชื่อแล้วเหมือนจะอยู่ในซอยบนถนนลาดพร้าวใช่ไหมครับ? แต่จริงๆแล้วตัวโครงการนี้อยู่ติดถนนนาคนิวาส ซึ่งเป็นถนนที่ตัดจากเส้นเกษตร-นวมินทร์ มายังถนนสังคมสงเคราะห์ ซึ่งสามารถเข้าได้จากซอยลาดพร้าว 71 และบนถนนนาคนิวาสนี้ก็มีโครงการต่างๆมากมาย ทั้งทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ บ้านเดี่ยว คอนโด จนทำให้ซอยนี้กลายเป็นเขตชุมชนสำคัญขึ้น ตัวโครงการนั้นเป็นโครงการขนาดเล็กซึ่งทำออกมาแค่ 8 ยูนิตเท่านั้น เรียกว่า Private หน่อย เป็นโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น พร้อมที่จอดรถ 4 คัน และขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในบ้านให้เลย รายละเอียดจะเป็นอย่างไร อ่านได้ในรีวิวเลยครับ
Fact @ 4 April 2015
- WISE ladprao 71 (ไวซ์ ลาดพร้าว 71)
- บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด
- Segment : LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ลาดพร้าว
- เนื้อที่โครงการ 0-3-60 ไร่ จำนวน 8 ยูนิต
- โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร 3 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
- Type B พื้นที่ใช้สอย 382 ตร.ม. ที่ดินแปลงมาตรฐาน 33.60 ตร.วา
- ราคาเริ่มต้น 14.99 ล้านบาทหรือ 446,130 บาท/ตร.วา
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2557 ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จหมดแล้ว
- http://www.wise71.com
- สำนักงานขาย : 087-414-4040
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.818036,100.609499
แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวโครงการนั้นตั้งอยู่บนถนนนาคนิวาส เป็นถนนรองที่เชื่อมกับถนนหลักทั้ง 3 เส้นอย่าง ถนนลาดพร้าว ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา และถนนประเสริฐมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์) อยู่กึ่งกลางระหว่างซอยนาคนิวาส 57 กับ 59 ครับ
ที่ตั้งของโครงการตั้งอยู่บนถนนนาคนิวาส ซึ่งเป็นถนนรอง และเชื่อมต่อกับถนนหลักในบริเวณนั้นได้ทุกเส้นทาง ถ้ามาจากถนนลาดพร้าวก็ใช้ได้ทั้งเส้นทางซอยลาดพร้าว 71 วิ่งมาเจอถนนสังคมสงเคราะห์ แล้วเลี้ยวเข้าถนนนาคนิวาสเลย หรือถ้ามาทางโชคชัย 4 นั้นจะมีซอยทางเชื่อม(ซอยนาคนิวาส 27) มาโผล่ออกได้เลย หรือจะมาทางถนนเลียบทางด่วนรามอินทราก็เข้าได้จากถนนสังคมสงเคราะห์ หรือซอยนาคนิวาส 16(ซอยสหกรณ์ 1) ก็ง่ายนิดเดียว ถ้ามาจากถนนประเสริฐมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์) ให้เลี้ยวเข้ามาถนนสุคนธสวัสดิ์ซึ่งเป็นถนนเชื่อมติดกันกับถนนนาคนิวาสได้เลย
เนื่องจากบนถนนนาคนิวาสนี้ก็มีโครงการต่างๆมากมาย จนทำให้ซอยนี้กลายเป็นเขตชุมชนสำคัญขึ้น มีผู้คนอยู่อาศัยในบริเวณนี้มากมาย รวมถึงโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร โรงเรียน โรงพยาบาล และ Community Mall ใกล้ๆอย่าง Crystal Park, CDC, Tesco Lotus, Homepro และ The Walk อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทราอีกด้วย ถือว่าอุดมสมบูรณ์ครบครัน
รถสาธารณะบนเส้นนาคนิวาส นี่มีรถเมล์สาย 156 นะครับ ที่วิ่งมาจากบางกะปิผ่านบิ๊กซีลาดพร้าว แล้วเข้าซอยลาดพร้าว 71 มาเข้าถนนนาคนิวาส และไปถนนสุคนธสวัสดิ์ ไปออกถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา และมุ่งหน้าไปแฟชั่นไอส์แลนด์ครับ นอกจากนั้นบนนถนนเส้นนี้ยังมีรถกระป๊อวิ่งผ่านตลอดทั้งเส้นอีกด้วยครับ มีเยอะอยู่ หาง่ายไม่ต้องรอนานด้วย ตัวเลือกเสริมก็มีพี่วินตามริมปากซอยใกล้จุดคนพลุกพล่านเป็นช่วงๆ แท็กซี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับมีเพียบ
จากแผนที่ตำแหน่งของโครงการ อยู่ช่วงบริเวณซอยนาคนิวาส 57 และ 59 โดยทางเข้าถนนนาคนิวาสนั้นจะสามารถเข้าออกได้หลายทางอย่างที่บอกไว้ตอนต้น เลยจะมายกให้มาดู 6 เส้นทาง คือ
- ซอยลาดพร้าว 71 -> ถนนสังคมสงเคราะห์ (จากถนนใหญ่ลาดพร้าว)
- ถนนสังคมสงเคราะห์ (จากเลียบทางด่วนรามอินทรา)
- ซอยนาคนิวาส 16(ซอยสหกรณ์ 1) (จากเลียบทางด่วนรามอินทรา)
- ถนนสุคนธสวัสดิ์ (จากถนนประเสริฐมนูกิจ เกษตร-นวมินทร์)
- ถนนโชคชัย 4 -> ซอยนาคนิวาส 27 (จากถนนใหญ่ลาดพร้าว)
- ถนนโชคชัย 4 -> ถนนสังคมสงเคราะห์ (จากถนนใหญ่ลาดพร้าว)
1) ซอยลาดพร้าว 71 จากถนนใหญ่ลาดพร้าว เป็นระยะทาง 3.8 กิโลเมตร
2) ต่อมาเป็นเส้นที่เข้าจากเลียบทางด่วน เลี้ยวเข้าถนนสังคมสงเคราะห์ ในระยะทาง 3.2 กิโลเมตร
3) และอีกซอยหนึ่งจะเป็นนาคนิวาส 16 หรือเรียกว่าซอยสหกรณ์ 1 มาจากเลียบทางด่วนเช่นกัน
4) ทางเข้าจากถนนเกษตร-นวมินทร์ ผ่านถนนสุคนธสวัสดิ์ เข้ามา 2.6 กิโลเมตรครับ
5) ต่อมาถ้าเข้าจากโชคชัย 4 ไปเชื่อมกับซอยนาคนิวาส 27 ที่ 3.9 กิโลเมตร
6) สุดท้ายคือโชคชัย 4 แล้วเลี้ยวขวาซอยโชคชัย 4 ซอย 6 หรือถนนสังคมสงเคราะห์เป็นระยะทาง 4.6 กิโลเมตร
เส้นทางเดินทางที่ผมเลือกในวันนี้เป็นเส้นทางแรกนะครับ มาจากถนนลาดพร้าวมุ่งหน้าไปทางบางกะปิ ข้างหน้านั้นเป็นแยกรัชดา-ลาดพร้าว ตรงข้ามแยกไปเลย
ขับต่อมาอีกหน่อยจะเจอกับแยกภาวนา ซึ่งถ้าเลี้ยวซ้ายไปซอยลาดพร้าว 41 จะสามารถลัดเลาะไปถนนลาดพร้าววังหินได้
เลยแยกภาวนามานิดเดียวจะเจอกับตลาดสดทรัพย์จันผันทางซ้ายมือ
ถัดมาก็จะเจอกับแยกโชคชัย 4 ถ้าเราเข้าถนนโชคชัย 4 ไปก็สามารถไปโครงการได้เหมือนกัน ตามเส้นทางที่ 5 และ 6
ผ่านไปรษณีย์ลาดพร้าว
พอเลยไปรษณีย์ลาดพร้าวมานิดหน่อยแล้วจะเจอกับป้ายบอกทาง ให้เราเตรียมชิดซ้ายไว้เลย
ก่อนถึงแยกทางด่วนรามอินทรา ซ้ายมือก็จะเป็นซอยลาดพร้าว 71 เลี้ยวซ้ายไปเลย ไปทางเดียวกับสำนักงานเขตลาดพร้าว
พอเลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาดพร้าว 71 มาปุ๊ปก็จะเจอกับแก๊งค์พี่วินชุดใหญ่อยู่ตอนต้นซอยทางซ้ายมือ
ซอยลาดพร้าว 71 ถือเป็นถนนซอยที่ใหญ่ เป็นถนนคอนกรีต 6 เลน สามารถจอดข้างทางได้ซ้ายขวาเลย สภาพแวดล้อมก็จะมีพวกร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน อพาร์ทเมนท์ คอนโด อาคารพาณิชย์ เต็มไปหมด
ผ่านซ้ายมือเป็นคอนโด Dynasty ลาดพร้าว 71 ตรงนี้รถจะจอดริมทางเยอะหน่อยมาจากคนที่อยู่ในคอนโด
วิ่งมาจนสุดซอยลาดพร้าว 71 จะเจอกับสามแยก เข้าสู่ถนนสังคมสงเคราะห์ ถ้าเลี้ยวขวาจะไปออกถนนเลียบด่วนรามอินทรา ส่วนเราเลี้ยวซ้ายนะ
เลี้ยวซ้ายมานิดเดียวก็จะเจอกับป้ายบอกทางเตรียมเลี้ยวขวาไปถนนนาคนิวาส
ขับจากสามแยกมาประมาณแค่ 200 เมตร ก็เลี้ยวขวาเข้าถนนนาคนิวาสได้เลย
ถนนนาคนิวาสจัดเป็นถนนรอง มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก อยู่ที่ 4 เลน ภายในเป็นเขตชุมชนไปหมดแล้ว มีที่ทางทำเลและการค้าดี
ถ้าเราวิ่งมาจากทางสังคมสงเคราะห์มุ่งหน้าไปสามารถทะลุไปถึงเกษตร-นวมินทร์ได้เลยนะครับ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นฝั่งของซอยเลขคี่ ที่บางซอยสามารถไปทะลุกับถนนโชคชัย 4 ได้ ส่วนฝั่งขวามือเป็นซอยเลขคู่
ผ่านสำนักงานเขตลาดพร้าวทางขวามือครับ
ป้ายรถรถเมล์นี่มีเป็นระยะๆนะ อย่างที่บอกไปตอนต้นถนนเส้นนี้มีรถเมล์วิ่งแค่สายเดียวคือ 156 บางทีคงต้องรอนานหน่อย เท่าที่สังเกตที่ผ่านมาบนเส้นนี้มีธนาคารเกือบทุกเจ้าอยู่เหมือนกันนะครับ สะดวกต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ต้องไปในห้างก็ได้
บางช่วงจะเป็นอาคารพาณิชย์ ร้านค้า เต็มไปหมด มีให้เลือกเพียบ ร้านขายอุปกรณ์ ร้านทำฟัน ร้านขายยา ร้านทอง ร้านแว่น สารพัดเชียว
ตรงนี้ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นซอยนาคนิวาส 16 (ซอยสหกรณ์ 1) ซึ่งสามารถไปทะลุออกถนนเลียบทางด่วนได้
ถัดมาซ้ายมือผ่านตลาดนัด ปากซอยนาคนิวาส 33 เมื่อก่อนไม่มีเต็นท์บังแดดแบบนี้นะ ถ้าจำไม่ผิด คนมาหาของกินกันตอนเย็นเยอะพอสมควร
ภายในซอยเป็นแหล่งชุมชนอุดมสมบูรณ์ ค่อนข้างคึกคัก จากการที่สมัยก่อนมีหมู่บ้านมาเปิดมากมาย ย่านการค้าก็ตามเข้ามา ร้านสะดวกซื้อ, ธนาคาร, ตลาด, ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ มีครบครัน แต่ยังไม่มีห้างขนาดใหญ่นะครับ
ห้าง Hypermart ขนาดใหญ่จะอยู่ติดถนนเลียบทางด่วน แห่งแรกที่ไม่ไกลจากโครงการก็คือ Tesco Lotus ที่สามารถใช้ถนนสังคมสงเคราะห์ในการทะลุมาได้
ส่วนห้าง Lifestyle ใกล้ที่สุดคิดว่าน่าจะเป็น The Crystal Park ทะลุซอยนาคนิวาส 16 ออกไปได้ครับ
ผ่านร้านไอติมหม้อไฟ Tongue Fun ทางขวามือ ที่ติดกับซอยนาคนิวาส 27 ใครอยากมานั่งทานไอติมแล้วติดกันเป็นคาร์แคร์ด้วยนะ
ขับต่อมาอีกหน่อยเราจะเห็น I-ZEN คอนโดทางซ้ายมือ แสดงว่าใกล้จะถึงแล้ว ให้เราอยู่เลนซ้ายไว้เลยครับ
พอเลยซอยนาคนิวาส 57 ให้อยู่เลนซ้าย ชะลอไว้เลย ฝั่งตรงข้ามเป็นเต็นท์รถมือสองขนาดใหญ่ สังเกตได้ง่ายครับ เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ
ถึงทางเข้าโครงการแล้วครับผม
ป้ายโครงการ
ผมลองยืนตรงถนนตรงทางเข้าโครงการแล้วหันหน้าออกมองถนนนาคนิวาสไปทางขวานะครับ สภาพแวดล้อมรอบๆ จะประมาณนี้
มองตรงไปเป็นเต็นท์รถมือสองขนาดใหญ่ ชั้นเดียว หลังคาสูง
มองไปทางซ้ายครับ เป็นแนวอาคารพาณิชย์ร้านค้า
มาดูเรื่องวิวรอบๆโครงการกันบ้าง เริ่มจากทิศเหนือนะครับ จะติดกับแนวอาคารพาณิชย์ในซอยนาคนิวาส 59 ที่สูง 3 ชั้นมีชั้นลอยครับ ถัดมาทางทิศตะวันออกติดกับถนนนาคนิวาส ฝั่งตรงข้ามเป็นเต็นท์รถมือสองขนาดใหญ่เพิงหลังคาสูงชั้นเดียว บางส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นแนวอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ส่วนทางทิศใต้ติดกันในระยะประชิดจะเป็นบ้านและเพิงร้านค้าสูงแค่ชั้นเดียว ถัดไปจะเป็นซอยนาคนิวาส 57 ครับ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นแนวบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่ติดกับโต๊ะสนุ๊กสูงพอๆกับบ้าน สุดท้ายทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นวิวคอนโดเก่าสูง 8 ชั้นครับผม
**รูปแผนที่รอบโครงการนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Tesco Lotus รามอินทรา – 2.8 กม.
- The Crystal Park – 2.9 กม.
- Homepro – 3.1 กม.
- The Walk – 3.1 กม.
- รพ.เปลาโลสยาม – 3.2 กม.
- Nawamin City Avenue – 3.6 กม.
- CDC – 4.2 กม.
- Big C ลาดพร้าว – 4.3 กม.
- รพ.ลาดพร้าว – 5.8 กม.
เริ่มจากเรามาดู Master Plan ก่อน ที่ดินของโครงการเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีจำนวนบ้านแค่ 8 ยูนิต ผังดูง่ายๆ โดยมีถนนเส้นหลักตรงกลาง กว้าง 8 เมตร และวางแปลงบ้านเอาไว้สองฝั่ง ข้อเสียก็คือไม่มีที่กลับรถนะครับ ต้องกลับรถในพื้นที่บ้านเอา ถนนภายในโครงการเป็นทางภารจำยอมนะครับ ไม่มีการปิดกั้นใดๆ เพราะว่าตัวบ้านเป็นโฮมออฟฟิศซึ่งต้องมีลูกค้ามาติดต่องานบ่อยๆอยู่แล้ว ทำให้ความปลอกภัยลดลงไประดับนึง และที่โครงการเค้าไม่มีรปภ.ให้ก็เพราะว่า โครงการนี้ไม่มีการเก็บค่าส่วนกลางนะครับ แต่ไม่ต้องกลัวเรื่องการเก็บขยะนะครับทางโครงการเค้าแจ้งเรื่องไปยังเขตลาดพร้าว เรื่องให้เข้ามาดูแลการเก็บขยะภายในโครงการ โดยเราก็เสียค่าใช้จ่ายให้ทางเขตได้เลย
ภาพรวมของโครงการ ตัวอาคารหันหน้าเข้าหากัน มี 2 ยูนิตคือแปลง C1 และ C2 ที่หันหน้ามาทางถนนนาคนิวาส
ริมฟุตบาทด้านหน้าฝั่งซ้าย ปูด้วยอิฐบล็อคตัวหนอนแบบนี้ ทางเดินก็พอเดินได้ มีร่มไม้จากริมทางอยู่
อันนี้ฝั่งขวาครับ รั้วบางส่วนจะปลูกต้นไม้เป็นแนวพุ่มเอาไว้บังสายตาจากภายนอก จะเห็นว่ายูนิตที่อยู่ติดกับถนนนาคนิวาส จะมีประตูทางออกแบบเดินได้เลย
ถนนภายในโครงการเป็นถนนคอนกรีตกว้างประมาณ 8 เมตร ไม่มีช่องกลับรถให้นะครับ เวลาเข้าออกคงต้องกลับรถภายในบ้านตัวเอง หรือไม่ก็ต้องใช้ถอยออกเอา ส่วนของเสาไฟฟ้าจะอยู่ฝั่งขวามือนะครับ โยงตัดผ่านถนนหน้าโคงการเข้ามา
มุมถ่ายถ่ายไปหน้าบ้านของฝั่งซ้ายที่ไม่มีเสาไฟฟ้าครับ ทำให้เวลามองดูแล้วจะสะอาดตาแบบนี้
*เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการขนาดเล็ก เพียง 8 ยูนิต ไม่มี Facility และเก็บค่าส่วนกลางลูกบ้าน ดังนั้นรีวิวโครงการนี้จะไม่มีสรุปสิ่งอำนวยความสะดวกนะครับ
โครงการ WISE Ladprao 71 เป็นโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น จำนวน 8 ยูนิต ขนาดที่ดินแต่ละหลัง 32-41 ตร.วา มีบ้านทั้งหมด 3 Type แต่เนื่องจาก Type A กับ C ขายหมดไปแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 2 ยูนิตเท่านั้นก็คือ Type B เลยจะขอพูดถึง และพาไปดูแต่แบบนี้นะครับ
บ้านตัวอย่างที่พาไปดูเป็น Type B แปลง B3 เนื้อที่ดิน 33.60 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 382 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ จอดรถ 4 คันตัวอาคารหน้ากว้างประมาณ 8 เมตร ลึก 9 เมตร ส่วนของที่จอดรถกว้างประมาณ 5.4 เมตร บ้านขายแบบพร้อมตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ Build-In และเฟอร์นิเจอร์ลอย ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ ให้หมดยกเว้นพร็อพตกแต่งเล็กๆน้อยๆ มาเริ่มกันเลย
ชั้น 1 : เข้ามาในตัวบ้านฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนของที่จอดรถกว้าง 5.4 เมตร เปิดโล่ง จอดได้ 4 คัน พอดี ฝั่งขวาจะเป็นเฉลียงเปิดประตูเข้าไปในตัวบ้านจะเป็นห้องโถงก่อนขึ้นบันได มีห้องเก็บของเล็กๆอยู่ใต้บันได ด้านหลังห้องเก็บของ(ต้องเข้าจากที่จอดรถ) จะเป็นห้องเปล่า ติดกันเป็นห้องน้ำ แต่อ่างล้างมือ อยู่ด้านนอกห้องน้ำ พื้นที่รอบๆบ้านมีระยะเหลือห่างจากตัวอาคารประมาณ 60 cm.
ชั้น 2 : ขึ้นมาแล้วทางขวามือจะเป็นประตูเข้าสู่ห้องทำงาน ขนาดใหญ่ ด้านหน้าและด้านหลังของตัวบ้านมีกระจกรับแสงธรรมชาติ Floor to Ceiling ทำให้ห้องนี้ดูไม่อึดอัด ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร มีห้องน้ำในตัว ด้านหลังห้องน้ำเป็นห้องอเนกประสงค์
ชั้น 3 : เป็นพื้นที่โถงบันไดเล็กๆ ขวามือเป็นประตูทางเข้าห้อง Living Room ที่เชื่อมกับต่อกันโซนรับประทานอาหาร และครัวเปิด มีระเบียงด้านหน้าและด้านหลังทั้งสองด้านมีระเบียง ติดกับครัวเป็นห้องอเนกประสงค์เหมือนกับชั้นล่าง ตำแหน่งเดียวกัน
ชั้น 4 : ต่อมาชั้นนี้ขึ้นมาโถงทางเดินจะเป็นรูปตัว L ซึ่งชั้นนี้จะมีห้องนอน 2 ห้อง และมีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้องเลย แต่ในห้องนอนฝั่งด้านหลัง ติดกับห้องน้ำจะเป็นพื้นที่ส่วนของ Walk in clothes
ชั้น 5 : ชั้นสุดท้ายขึ้นมาโถงทางเดินจะเป็นรูปตัว L เหมือนกันกับชั้นล่าง ฝั่งด้านหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ เป็น Common Area อเนกประสงค์ที่สามารถใช้จัดสวนก็ได้ ชั้นนี้จะมีห้องนอนห้องเดียว มีระเบียงในตัว และตำแหน่งห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์เหมือนกับชั้นล่าง
ตัวยูนิตของโฮมออฟฟิสสูง 5 ชั้น ชั้นแรกสุดด้านล่างเป็นประตูโปร่งแบบบานพับ ที่ไม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากเท่ากับบ้านหรือทาว์โฮมทั่วไป ด้านในเป็นพื้นที่จอดรถ 4 คัน ส่วนประตูเล็ก ที่เป็นประตูแบบคนเดินเข้า-ออกทำจากไ้ม้แดง ด้านหน้ามีไฟติดผนังและบ้านเลขที่อยู่ ตัวประตูเป็นแบบมือจับไขกุญแจเข้าไปด้านใน มีหลังคากันแดดกันฝนให้ แต่ไม่ยื่นออกมาด้านนอก ในส่วนชั้นอื่นๆตั้งแต่ชั้น 2 ส่วน Facade แบ่งออกเป็น 3 แบบ
Facade แบบแรกคือกระจกตัดแสงสีออกเขียวๆ จะยื่นออกมาเท่ากับตัวโฮมออฟฟิศด้านหน้า หรือเว้นพื้นที่ระเบียงแล้วให้ประตูบานเลื่อนหลุบเข้าไปด้านในตามพื้นที่ใช้งานของห้อง อย่างบนชั้นที่ 2 จะมีระแนงเหล็กเรียงตัวแนวนอนบังสายตา เพราะว่าฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นห้องทำงานรวม สามารถใช้บังแดดได้ในช่วงบ่ายจนถึงบ่ายแก่ๆ แต่ไม่ได้มีความยาวยื่นออกมาจากตัวแท่งอลูมิเนียม ทำให้ใช้บังแดดจ้าๆในส่วนพื้นที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร ตัวแผงบังแดดติดอยู่กับโครงเหล็ก C-Beam ทาสีดำที่ไล่ขึ้นไปถึงสุดชั้น 5 และยื่นออกมาด้านข้างในระหว่างชั้นต่างๆ เพื่อเป็นตัวยึดจับของส่วนบังแดดและตกแต่ง Facade
Facade แบบที่สองบริเวณระเบียงที่จัดสวนของชั้น 2 – 4(ขวามือ) เป็นแบบหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ตัวกระจกตัดแสง มีพื้นที่ระเบียงด้านหน้าพร้อมกับราวกันตกแบบโปร่งแนวนอน แต่ชั้น 2 – 3 จะมีความแตกต่างที่ราวกันตกที่เป็นโครงเหล็กธรรมดา ตรงกลางคือกระจก Tempered กันชน
Facade แบบสุดท้ายคือส่วนหน้าของห้องน้ำ ที่ไม่สามารถติดกระจกได้เหมือนห้องอื่นๆ ผนังจึงเป็นแบบก่อปูนทาสีธรรมดา แต่ตกแต่งผนังด้านหน้าเป็นไม้แดง โทนสี และพื้นผิวคลุมโทนคล้ายกับประตูเล็กด้านหน้าคนเดินเข้า จากตำแหน่งจะเห็นได้ว่าห้องต่างๆ ไม่ได้แบ่งให้ตรงกันเป๊ะๆ แต่เหลือมๆกันตามขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่การใช้งาน แต่จะยึดระบบห้องน้ำให้มีส่วนที่อยู่ตรงกัน ส่วนหลังคาชั้น 5 ยื่นออกตรงกับส่วนหน้าของ Facade ช่วยเรื่องการบังแดดและองศาการสาดของฝนเฉพาะระเบียงชั้น 5 ไม่ค่อยส่งผลต่อชั้นอื่นๆ
เร่ิมจากประตูบ้านชั้นแรก ที่เป็นแบบพับเปิด 3 ตอน แบบนี้เปิด-ปิดลำบากนะ ถ้าใครไม่ชอบบานเปิดแบบนี้ แนะนำให้เปลี่ยนเป็นติดตั้งระบบเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติจะสะดวกและดูสวยงามมากกว่า
เข้ามาในส่วนของที่จอดรถ เป็นพื้นคอนกรีตขัดมัน พื้นที่บริเวณที่จอดรถกว้าง 5.4 เมตร ลึกประมาณ 9 เมตร จอดรถได้ 4 คัน แบบสบายๆ ไม่เกินตัวอาคาร
ไฟที่ให้มาส่วนของที่จอดรถเป็นโคมไฟดาวน์ไลท์แบบนี้ ให้มาเยอะดีนะ 6 จุด
พื้นที่ด้านข้างฝั่งที่จอดรถ เหลือระยะห่างประมาณ 60 cm. จนถึงกำแพง กำแพงเป็นแบบครึ่งทึบครึ่งโปรง เหล็กพ่นสีดำ สูง 1.6 เมตร มีก๊อกน้ำไว้ให้ 1 จุด
จากที่จอดรถมองไปทางด้านขวา จะเห็นบานประตู 2 บาน บานไม้ทางขวาจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ส่วนบานสีขาวเป็นห้องน้ำ ซ้ายมือส่วนของอ่างล้างมืออยู่ด้านนอก
เข้ามาในส่วนของห้องอเนกประสงค์ เปิดมามีหน้าต่างบานกระทุ้ง ขนาดไม่ใหญ่มาก พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. มีไฟให้ 2 จุด
ถัดมาทางห้องน้ำ มีหน้าต่างระบายอากาศเป็นบานกระทุ้งเปิดออกแบบนี้
เข้ามาในส่วนของห้องน้ำ จะแคบสักหน่อย เป็นห้องน้ำส่วนของผู้มาติดต่อชั่วคราว และแม่บ้าน เลยมีให้ใช้งานแค่นี้
ส่วนของอ่างล้างมือ ออกมาอยู่ด้านนอก
อ่างล้างมือและหัวก๊อกของ American Standard เทียบขนาดกับฝ่ามือให้ดู
กำแพงด้านหลังบ้านเป็นคอนกรีตทึบสูง 1.8 เมตร แต่โครงการวางกระถางและปลูกต้นไม้สูงกว่าแนวกำแพงประมาณ 2 เมตร
โครงการให้ถังสำรองน้ำและปั๊มน้ำมาให้
กำแพงด้านหลังบ้านแบบชัดๆ
มาดูประตูด้านบ้านฝั่งทางคนเดินเข้ากัน บานประตูเป็นบานไม้ ผนังด้านข้างกรุด้วยหินสลัก ฝั่งขวาสุดเป็นช่องเก็บขยะออกมาจากบ้าน
กริ่ง/ป้ายเลขที่บ้าน/มือจับ/ไฟกิ่งหน้าบ้าน
เข้ามาด้านในเป็นส่วนของเฉลียงด้านหน้าพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ หลังคาส่วนนี้เป็นโพลีคาร์บอเนต หรือเรียกอีกอย่างว่า วัสดุโปร่งแสง นั่นเอง มีไฟหน้าบ้านเป็นแบบหลอดนีออนกันน้ำติดอยู่ผนังฝั่งกำแพง
ถังขยะแบบเปิด-ปิด และถังดับเพลิง มาตรฐานทุกหลัง
ประตูเข้าบ้านเป็นบานไม้ มือจับเป็นแบบเขาควาย ซ้ายมือเป็นช่องรับแสงธรรมชาติ กระจกเป็นสีเขียวตัดแสง ด้านล่างเป็นกระจกบานปิดตาย ด้านบนเป็นหน้าต่างบานเปิดกระทุ้ง ตัววงกบเป็นอลูมิเนียมสีขาว
เข้ามาด้านใน ซ้ายมือเป็นช่องรับแสงธรรมชาติเหมือนกับด้านหน้า พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm.
ช่องเปิดบานกระทุ้งด้านบน
ด้านข้างบันไดเป็นห้องเก็บของเล็กๆแบบนี้ ไม่มีตัวล็อคนะ
ตัวพื้นของพันไดเป็นแบบเดียวกับพื้นโถงมีตัวจบเป็นกันลื่น ส่วนราวกันตกเป็นเหล็กพ่นสีดำ มือจับเป็นไม้เนื้อแข็ง(ไม้แดง)
ด้านบนของชานพักบันได มีไฟให้ 2 จุด
ขึ้นมาชั้น 2 พื้นเป็นแบบเดียวกัน
มองย้อนกลับไปที่ชานพักบันไดเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นรูปแบบชานพักบันไดที่ ผมมีวีดีโออธิบายประกอบจาก Mr.Oe และ Mr.Boom หัวข้อเรื่อง “การออกแบบบันไดในบ้าน”
โถงบันได จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนรับแสงส่องเข้ามา ขนาดค่อนข้างใหญ่ ด้านบนเพดานมีไฟให้ 2 จุดด้วยนะ การที่มีหน้าต่างรับแสงขนาดใหญ่มาให้มันก็เสียนะ แต่จะเสีย privacy บางส่วนไปเล็กน้อยเพราะฝั่งตรงข้ามจะมองเห็นภายในตัวบ้านเราเช่นกัน ส่วนทางขวามือจะเป็นประตูทางเข้าห้อง Working Area ตัวบานประตูเหมือนกับประตูทางเข้าบ้าน
บานกระจกบานเลื่อนออกจะเป็นแบบนี้ พื้นที่ระเบียงด้านนอกจัดลงกระถางต้นไม้ เอาไว้บังแนวสายได้บางส่วน และได้เห็นสีเขียวของต้นไม้
เข้ามาในห้อง Working Area เปิดมาจะเจอกับโต๊ะนั่งรองรับแขก และโต๊ะประชุม ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
มองไปทางขวา พื้นที่ของห้องนี้จัดเป็นห้องทำงานรวมไม่มีกั้นส่วนใด มีทั้งโต๊ะประชุม โต๊ะทำงานพนักงาน และโต๊ะหัวหน้าด้านหลังสุด ในส่วนนี้ถ้าอยากจะทำให้เป็นสัดส่วนเพิ่มความ Private ก็สามารถติดตั้งผนังกระจกเพิ่มเข้าไปได้นะ
ไฟเพดานที่ให้มาเป็นหลอดนีออนคู่แบบมีแผงสะท้อน ให้มาเยอะทีเดียว 10 จุด
มองไปทางฝั่งด้านหน้าบ้านเป็นหน้าต่างรับแสงงธรรมชาติได้เต็มที่ ช่วงฝั่งด้านล่างจะเป็นแบบปิดตายนะครับ ส่วนด้านบนจะเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน โครงการเค้าแถมผ้าม่านและมูลี่ตามที่เห็นเลยนะครับ ทั้งหลังเลย
หน้าต่างบานเลื่อนแบบชัดๆ ตัวมือจับเป็นแบบเซาะร่องและล็อคในตัว วงกบอลูมิเนียมขาว ด้านนอกของหน้าต่างเป็นแนวระแนงเหล็กที่เป็นส่วนของงาน Facade ด้านหน้า
ชุดโต๊ะนั่งประชุม และเก้าอี้ เราได้นะครับ โต๊ะวัสดุผิวเป็น High gloss
ส่วนของโต๊ะพนักงานได้เป็นแบบนี้ 4 ชุด ด้านหลังเป็นโต๊ะของหัวหน้า
ชุดตู้เก็บของ Build-In มีฟังก์ชั่งช่องวางของแบบนี้ ส่วนที่เป็นหน้าบานไม้ปิดสีดำ จะมีรูปแบบการเปิด-ปิดไม่เหมือนกัน
แบบแนวตั้ง จะเป็นแบบเปิดออกด้านข้าง ไม่มี soft close นะครับ แต่จะมีปุ่มยาง(จุดสีขาว) กันกระแทกแทน
แบบแนวนอน จะเป็นระบบโช๊คนะครับ เวลาปิดดึงลงได้เลยไม่ต้องกลัวกระแทก ช่องด้านขวาบนด้านในจะมีแผงสวิทช์ควบคุมไฟ
ด้านล่างจะเป็นแบบลิ้นชักเปิดปิดเข้าออกธรรมดา
ด้านหลังของโต๊ะทำงานหัวหน้าจะเป็นหน้าต่างบานรับแสงเต็มบานขนาดใหญ่ ผ้าม่านได้แบบนี้
ลองเปิดผ้าม่านให้ดูครับ รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ เป็นบานกระจกปิดตาย วิวด้านหลังฝั่งนี้จะเป็นเพิงร้านค้า และบ้านชั้นเดียวที่ติดกับซอยนาคนิวาส 57
หัวมองทางขวาบานประตูซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องน้ำ ส่วนบานไม้ขวามือจะเป็นห้องอเนกประสงค์
เข้ามาดูส่วนของห้องน้ำกันก่อน ห้องน้ำมีขนาดเล็กไว้ใช้ทำธุระทั่วไปเท่านั้น
ตัวพื้นห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 4 ซม. เวลาทำความสะอาดน้ำจะได้ไม่กระเด็นไปในห้อง
ส่วนของอ่างล้างมือ เคาน์เตอร์รอบๆอ่างจะเป็นหินสังเคราะห์ และชุดตู้ด้านล่างเป็นของ MOGEN ตัวสุขภัณฑ์และหัวก๊อกเป็นของ American Standard นะ
หันมามองทางซ้าย ด้านบนเป็นหน้าต่างระบายอากาศบานกระทุ้งขนาดเล็ก ก้มลงไปจะเป็นส่วนของช่องระบายน้ำ มีที่แขวนกระดาษชำระให้
ส่วนของห้องอเนกประสงค์ เข้ามาหน้าตาและตำแหน่งเหมือนกันกับชั้นล่าง
ที่เพิ่มมาก็จะมีหน้ากระจกต่างบานกระทุ้งรับแสงธรรมชาติมา
ไปต่อกันที่ชั้น 3 กันเลยครับ
ขึ้นมาที่ชั้น 3 แล้ว โถงทางเดินบริเวณบันได พื้นจะเปลี่ยนจากชั้น 2 ที่เป็นแกรนิตโต้กลายมาเป็นลามิเนตหนา 12 mm. แทน ส่วนบานหน้าต่างรับแสง จะเป็นบานเลื่อนขนาดเล็กกว่าเดิม มีผ้าม่านติดตั้งมาให้แล้ว ส่วนบานประตูทางขวามือเป็นกระจกบานเลื่อนสไลด์ พ่นทรายบางส่วน
มองออกไปด้านนอกหน้าต่าง โครงการเค้าลงกระถางต้นไม้ไว้ เหมือนกับชั้นล่าง ส่วนพื้นโรยด้วยหินประดับแบบนี้ พื้นระเบียงจริงๆปูด้วยกระเบื้องนะครับ
เข้ามาดูในส่วนของห้องกันบ้าง ห้องนี้จะเป็นห้องที่รวมทุกโซนเชื่อมถึงกัน ซ้ายมือเป็นส่วนของ Living Area ขวามือเป็น Dining Area และติดกันจะเป็นโซนครัวเปิด
มองไปทางฝั่งหน้าบ้าน มีห้องน้ำอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง ภายในห้องเราจะได้เฟอร์นิเจอร์ตามนี้เลยนะครับ ยกเว้นโคมไฟที่อยู่บนโต๊ะกลาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และพร็อพตกแต่งจุกจิกเท่านั้น
โครงการเค้าจัดวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งไว้ และก็ชุดตู้ชั้นวางทีวี ระยะดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร จัดทีวีสักประมาณ 50 นิ้วกำลังดีนะ จะได้ไม่ต้องเพ่ง
ฟีลเวลานั่งดูทีวีประมาณนี้ วอลเปเปอร์ด้านหลังก็ได้นะ
ชุดตู้วางของและหนังสือทางขวามือ กลายเป็นส่วนของกั้นโซน Area ไปในตัวระหว่าง Living และ Dining
มูลี่ชั้นนี้ที่ได้เป็นแบบมูลี่ไม้ เหมาะสำหรับอากาศที่มีแสงแดดจัดอย่างประเทศไทย ค่อนข้างจะแข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วน และ ทนต่อความร้อนสูง จึงเหมาะกับอากาศเมืองไทย ที่แม้จะโดนแดดจัดเป็นเวลานานๆ
ลองเปิดมูลี่ให้ดู ตัวหน้าต่างเป็น 3 ตอน บานขวาสุดจะเป็นแบบปิดตาย ส่วนบานกลางและซ้ายเป็นแบบบานเลื่อนเปิดปิด
เวลาเปิดจะเป็นแบบนี้นะครับ ส่วนของระเบียงด้านนอกราวกันตกจะเป็นกระจกนิรภัย ความสูง 1.1 เมตร
ตัวพื้นระเบียงจริงๆปูด้วยกระเบื้อง แต่โครงการเค้าตกแต่งเอาหินประดับมาโรย และลงต้นไม้ไว้ต้นเดียว ตัวพื้นจะลดระดับลงมาจากในห้องประมาณ 3 ซม. พื้นที่ระเบียงตรงนี้เอาจริงเราสามารถจัดเป็น vertical garden เล็กๆได้นะ แขวนตรงส่วนที่เป็นระแนงเหล็กบังสายตา น่าจะได้มุมสบายตา จากสีเขียวของต้นไม้ด้วย
ติดกับระเบียงหน้าบ้านจะเป็นห้องน้ำ เข้ามาดูข้างในกันบ้าง
ห้องน้ำห้องนี้ลดระดับงจากห้องโถงลงแค่ 2 ซม. น้อยไปหน่อยนะ
ชุดเคาน์เตอร์และตู้ของ MOGEN เหมือนเดิมเพียงแต่ขนาดใหญ่กว่าชั้นล่าง แต่ช่องของอ่างล้างมือเล็กกว่าเดิมแหะ เหลือพื้นที่ไว้ให้วางของจุกจิกแทน
ชุดสุขภัณฑ์เหมือนเดิม มีหน้าต่างระบายอากาศด้านบน
ไฟในห้องน้ำเป็นโคมไฟดาวน์ไลท์ มีให้ 2 ดวง
ถัดมาเป็น Dining Area นะ โครงการเค้าวางชุดโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งไว้ พื้นที่ยังค่อนข้างเหลือเยอะนะ ด้านข้างทางขวามีโต๊ะวางของกระจกให้อีกตัว ส่วนมูลี่เป็นไม้เหมือนกัน
ลองเปิดมูลี่ให้ดูเป็นประตูกระจกบานเลื่อoขนาดใหญ่แบบ floor to ceiling มีพื้นที่ระเบียงด้านนอก
พื้นที่ระเบียงขนาดกว้างกว่าฝั่งหน้าบ้านครับ แต่ราวกันตกไม่ได้เป็นกระจกนิรภัยนะ เป็นราวเหล็กโปร่งแทน
ติดกันจะเป็นโซนครัวเป็นแบบครัวเปิด พื้นบริเวณโซนครัวจะเปลี่ยนเป็นไวนิล (หรือกระเบื้องยางลายไม้นั่นเอง) ซึ่งทนความชื้นได้ดีกว่า ตรงนี้เราสามารถติดตั้งกระจกกั้นห้องเพิ่มเองได้ จะได้เป็นครัวปิดนะครับ กลิ่นอาหารและควันจะได้ไม่ไปรบกวนภายในห้อง
ฝั่งขวามือ จะเป็นชุดโต๊ะติดผนัง แบบ 2 ที่นั่ง ด้านบนเป็นชั้นวางของแบบยึดผนังตามนี้
ฝั่งตรงข้ามเป็นชุดครัว มีหน้ากระจกหน้าต่างระบายอากาศ มาดูฟังก์ชั่นการใช้งานกันดีกว่า
ชุดตู้ด้านบนลองเปิดออก เป็นแบบนี้ เหมือนเดิมนะไม่มี soft close แต่มีปุ่มยางกันกระแทกเวลาปิดแทน
ผนังด้านข้างเป็นปูนเปลือยเปล่าทาสี บริเวณนี้ผมแนะนำว่าควรจะติดกระจก หรือกระเบื้องโมเสคเพิ่มนะ เพราะช่วยในเรื่องเวลาทำอาหารแล้วคราบกระเด็นเลอะเทอะ มันสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และเพิ่มความสวยงามอีกด้วย อ้อ ตัว Top ครัวผิวปิดเป็นฟอร์ไมก้า
ชุดเตาไฟฟ้า และที่ดูดควัน ของ EVE
อ่างล้างจานขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีจุดที่วางของได้ฝั่งขวามือมาแทน
ชุดตู้ด้านล่างฟังก์ชั่นเป็นแบบนี้
ห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ตำแหน่งเดียวกับชั้น 2 เหมือนเดิม แตกต่างกันแค่พื้นจากแกรนิตโต้เป็นลามิเนต
ไฟเพดานภายในห้องเป็นโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด ให้มาเยอะ จัดเต็มดี
ขึ้นไปดูส่วนของชั้น 4 กัน
ก่อนจะขึ้นไปชั้นบน สังเกตเห็นว่าตัวพื้นของบันไดจะเปลี่ยนไป เป็นไม้สำเร็จรูปแทน เนื่องจากตั้งแต่ชั้น 4 จะเป็นส่วนของพักอาศัย
ขึ้นมาจะเจอเหมือนกันกับชั้น 2 แต่โถงทางเดินชั้นนี้จะเป็นตัว L
ด้านนอกหน้าต่างเหมือนกัน วางต้นไม้ไว้ 2 กระถาง
ประตูซ้ายมือบานแรกเป็นส่วนของห้องนอนฝั่งด้านหน้าบ้าน และด้านหลังเป็นฝั่งหลังบ้าน
มาดูห้องนอนฝั่งด้านหน้าบ้านกันก่อน
โครงการวางเตียงขนาด 3 ฟุตมาให้ ทำให้ระยะด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งเหลือเยอะ เดินได้ไม่เกะกะอึดอัด และสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองด้านอีกด้วย หัวเตียงติดวอลเปเปอร์ไว้ให้
ระยะจากปลายเตียงจนถึงผนังประมาณ 55 ซม.
ฝั่งด้านขวามือของเตียง Build เป็นชุดตู้เสื้อผ้า ติดกันด้านข้างเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่ที่ติดกระจกเงาไว้ให้
ลองเปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูข้างในเป็นประมาณนี้นะ
ประตูกระจกบานเลื่อน รับแสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้อง
ระเบียงรูปแบบเหมือนกับชั้นล่าง ฝั่งด้านหน้าบ้านเนี่ยราวกันตกจะเป็นกระจกนิรภัยนะ พื้นที่ระเบียงห้องนี้จะเล็กกว่าชั้นล่างหน่อย เพราะติดกับห้องน้ำที่มีส่วนอาบน้ำเพิ่มขึ้นมา
ถ่ายย้อนไปทางประตูเข้าห้องนอน ฝั่งขวามือ เป็นประตูห้องน้ำ
เข้ามาในห้องน้ำ ชุดอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์อยู่ขวามือ
เหมือนกับชั้นล่างครับ
ห้องน้ำมีส่วนของฝักบัว ที่วางสบู่ และก๊อกน้ำด่านล่าง มีจุดติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเตรียมไว้ให้แล้ว พื้นที่อาบน้ำ 0.9 x 1.2 เมตร ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมานะครับ แนะนำให้ติดเพิ่ม จะได้แยกส่วนชัดเจน ง่ายต่อการทำความสะอาด
ลองเทียบขนาดของฝักบัวกับฝ่ามือให้ดูครับ
มาดูห้องนอน Master Bedroom ฝั่งด้านหลังบ้าง โครงการวางเตียงแบบ Kingsize ไว้ให้ ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงรอบด้าน เหลือเฟือเลย ไม่อึดอัด หัวเตียงติดวอลเปเปอร์ไว้ให้
ฝั่งด้านขวาวางเป็นโต๊ะทำงานอ่านหนังสือเล็กๆไว้ให้แบบนี้
ระยะห่างจากปลายเตียงจนถึงประตูหน้าห้อง เหลือเยอะเหมือนกัน
ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ออกไปทางระเบียงด้านหลังบ้าน รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
ระเบียงเหมือนกับห้องด้านล่างตรงโซนทานอาหาร
มองไปทางประตูห้อง จะมีชุดชั้นวางทีวีเล็กๆมาให้แบบนี้ เอาจริงๆคงใช้งานได้ลำบากเพราะตำแหน่งวางทีวี มันเยื้องกับเตียงมากถึงแม้จะหันทีวีเอียงๆก็ตาม และด้วยระยะห่างขนาดนี้ถ้านอนดู คงต้องจัดทีวีไซส์ไม่ต่ำกว่า 60 นิ้ว ไม่งั้นต้องเพ่งกันน่าดู
ด้านหลังชั้นวางทีวีเป็นส่วนของห้องน้ำที่ติดกัน ทำเป็น walk in clothes
walk in clothes ชุดตู้จะได้แบบนี้เลยครับ และก็มีชุดโต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกเงาบานใหญ่มาให้ ติดกันทางซ้ายเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งรับแสงธรรมชาติ
ภายในห้องน้ำมีส่วนของพื้นที่อาบน้ำ แยกเป็นพื้นลดระดับลงมาประมาณ 2 ซม. พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.8 เมตร แต่ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมานะ ติดเพิ่มเองเลย
ชุดสุขภัณฑ์และก๊อกเหมือนเดิม มีราวแขวนผ้าขนหนูเพิ่มมาให้
ชุดฝักบัวและก๊อกน้ำเหมือนกัน
ขึ้นไปดูชั้นสุดท้าย ชั้น 5 กันครับ
พอขึ้นมาถึงชั้น 5 แล้ว พื้นจะกลับมาเป็นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เหมือนเดิม เหมือนกับชั้น 2
หันไปทางซ้ายมือเป็นพื้นที่โล่ง วางเก้าอี้เอาไว้แบบนี้ ส่วนของหน้าต่างรับแสงตรงนี้เป็นแบบบานกระจกปิดตายนะครับ ระเบียงต้องเดินอ้อมออกไปด้านนอกเอา
พื้นที่ระเบียงด้านนอกที่ต้องเดินอ้อมออกไป ใช้จัดเป็นสวนกระถาง จะลงต้นไม้เพิ่มก็ได้นะ มีที่เหลืออยู่
หันไปทางขวา บริเวณนี้จะเป้นส่วนของระเบียงนั่งเล่น มีกระจกเข้ามุมด้วย ทำให้ไม่ดูอึดอัด บานประตูที่เปิดออกไปเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเช่นกัน
ลองเปิดประตูให้ดูจะเห็นสีของกระจกชัดเจน เป็นสีเขียวตัดแสง
พื้นที่ระเบียงโครงการเค้าวางชุดโต๊ะนั่งเล่นแบบนี้ไว้ให้ พื้นจะปูด้วยกระเบื้องเคลือบ สีดำ ไซส์ 30 x 30 cm.
มุมนี้จัดเป็นสวนแขวนผนัง หรือสวนกล่องแบบนี้ได้
ไฟเพดานบริเวณนี้ให้มา 3 จุด กลางคืนโอเค น่าจะสว่างอยู่
มองย้อนออกไปทางฝั่งหน้าบ้านครับ ระเบียงกันตกจะเป็นเหล็ก เส้นแนวนอนโปร่งแทนนะครับ ไม่ใช่กระจกนิรภัย
กลับมาที่โถงทางเดิน ประตูซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องนอน บานตรงกลางเป็นห้องน้ำ ถ้าจะเข้าออกน้ำต้องเดินออกมานะ
ภายในส่วนของห้องนอน วางเตียงไซส์ 5 ฟุตไว้ให้ หัวเตียงติดวอลเปเปอร์ให้แบบนี้ ห้องนี้ขนาดจะไม่ใหญ่มาก มีหน้างต่างประตูระเบียงทั้งสองฝั่ง ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติแบบเต็มสตรีม และห้องจะดูโปร่งด้วย กลางวันไม่ต้องเปิดไฟอะไรเลย ข้อเสียที่สำคัญที่สุดของห้องนี้คือ.. กลางวันจะ ร้อนมากกก รับแดดเต็มที่ แถมอยู่ชั้นบนสุดอีก ต้องหาตัวช่วยพวกฟิล์มกันร้อนและม่านที่ปรับได้ครับ
ระยะของด้านข้างเตียงซ้ายขวา เหลือเยอะอยู่เหมือนกัน ฝั่งซ้ายประมาณ 80 cm. ฝั่งขวาประมาณ 70 cm. สามารถวางโต๊ะหัวเตียงเพิ่มได้
มองย้อนกลับไปทางประตูหน้าห้อง จะมีชุดตู้และโต๊ะ Build-In ไว้ให้
โต๊ะนั่งทำงาน อ่านหนังสือ มีฟัง์ชั่นเก็บของแบบนี้
ส่วนของตู้เสื้อผ้าลองเปิดให้ดู ก็เพียงพอสำหรับคนเดียวอยู่นะ ถ้าเป็นผู้ชาย
ด้านนอกระเบียงเหมือนกับชั้นล่างครับ
แต่ไฟที่ระเบียงชั้นนี้ไม่ได้เป็นโคมดาวน์ไลท์นะ จะเป็นแบบหลอดนีออนแทน
มุมนี้มองย้อนกลับไปทางด้านหน้าบ้านครับ ห้องนี้ช่างชิลซะจริงๆ มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ ดี๊ดีนะ
ออกมาดูห้องน้ำด้านนอกกันบ้าง ฟังก์ชั่นภายในห้องน้ำ และตำแหน่งทุกอย่างนี่เหมือนกันกับชั้น 4 เป๊ะ..
เหมือนกันๆ
และก็เหมือนกัน..
ออกมาจากห้องน้ำ ติดกันจะมีห้องอเนกประสงค์ที่เหมือนกับชั้น 2-3 ตำแหน่งเดียวกันนะ
ชุดอุปกรณ์ออกกำลังกายอันนี้ไม่ได้นะครับ โครงการเค้าวางมาเป็นพร็อพให้ดูเฉยๆ ใครสนใจจะทำเป็นห้องออกกำลังกายแบบนี้ก็ได้นะ
สวิทช์และปลั๊กไฟในบ้านเป็นของ Panasonic แบบนี้ทั้งหลังจ้า
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 4 April 2015
- Home Office Type B แปลง B3,B4 พื้นที่ใช้สอย 382 ตร.ม. ที่ดิน 33.60 ตร.วา ราคา 14.99 ล้านบาทหรือ 446,130 บาท/ตร.วา หรือ ตารางเมตรละ 39,240 บาท
- ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Build-In, เฟอร์ลอย, ผ้าม่าน, มูลี่, วอลเปเปอร์, ปั๊มน้ำ, ถังสำรองน้ำ และชุดครัว (ยกเว้นพร็อพและเครื่องใช้ไฟฟ้า)
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 200,000 บาท
- ไม่มีค่าส่วนกลาง
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลของโครงการ WISE Ladprao 71 นี้ตั้งอยู่บนถนนนาคนิวาส ติดถนนเลย อยู่ระหว่างซอย 57 กับ 59 ถนนนาคนิวาสเป็นถนนรอง และเชื่อมต่อกับถนนหลักในบริเวณนั้นได้ทุกเส้นทาง ถ้ามาจากถนนลาดพร้าวก็ใช้ได้ทั้งเส้นทางซอยลาดพร้าว 71 วิ่งมาเจอถนนสังคมสงเคราะห์ แล้วเลี้ยวเข้าถนนนาคนิวาสเลย หรือถ้ามาทางโชคชัย 4 นั้นจะมีซอยทางเชื่อม(ซอยนาคนิวาส 27) มาโผล่ออกได้เลย หรือจะมาทางถนนเลียบทางด่วนรามอินทราก็เข้าได้จากถนนสังคมสงเคราะห์ หรือซอยนาคนิวาส 16(ซอยสหกรณ์ 1) ก็ง่ายนิดเดียว ถ้ามาจากถนนประเสริฐมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์) ให้เลี้ยวเข้ามาถนนสุคนธสวัสดิ์ซึ่งเป็นถนนเชื่อมติดกันกับถนนนาคนิวาสได้เลย ส่วนห้างสรรพสินค้าในระยะประมาณไม่เกิน 5 กิโลเมตร ก็มีให้เลือกหลายอยู่เช่น Crystal Park, CDC, Tesco Lotus, Homepro, The Walk และ Nawamin City Avenue
บริเวณถนนนาคนิวาสนี้จัดเป็นทำเลที่อยู่ในช่วง Transition จากบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม กลายเป็นทำเลของคอนโดมิเนียมและโฮมออฟฟิศ ด้วยเพราะสาเหตุหลักๆเรื่องความกว้างของถนน 4 เลน และการเจริญเติบโตของชุมชนรอบข้างที่เป็นไปในทิศทางดีขึ้น พัฒนาจนพร้อมสมบูรณ์ โดยมีโปรเจคคอนโดมิเนียม และ Home Office มาเปิดโครงการเรื่อยๆ ทำให้อนาคตของทำเลนี้โครงการแนวราบเชิงที่อยู่อาศัยจะค่อยๆหายไป
ที่ผ่านมาและโครงการหมู่บ้านจัดสรรอื่นๆในช่วง 10 ปีนี้ ที่มีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนประชากรและยกระดับให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นเขตชุมชน แต่ด้วยราคาที่ดินที่แพงขึ้นและต้นทุนค่าก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น จากที่ผมสำรวจแบบไม่เป็นทาง บนนถนนนาคนิวาสนั้นราคาที่ดินที่ตั้งขายกันบางช่วงนี่ถึงตรว.ละแสนแล้ว ทำให้ราคาขายของบ้าน ที่เป็นแนวราบทั้งหมดจะค่อนข้างแพง ดูจากการบ้านกลางเมืองลาดพร้าว 71 ที่อยู่ไม่ไกลจากเราเป็น บริเวณซอยปากนาคนิวาส 34 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น เนื้อที่ 18 ตรว. ก็ราคาปาไป 5-7 ล้านแล้ว อย่างในปัจจุบัน ซึ่งถ้าถามว่าแพงไหม ก็ต้องตอบตรงๆว่าแพงขึ้นจากสมัยก่อนพอควร แต่ก็สะท้อนราคาปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ที่จะกลายเป็นทำเลคอนโดไปเสียหมด
วัสดุของโครงการ ถ้าเทียบกับราคาระดับนี้แล้วถือว่ามาตรฐานปกติ บางอย่างยังธรรมดาไปด้วย แต่ก็ยังดีที่โครงการเค้าขายแบบให้ทุกอย่างเลย ทั้งเฟอร์บิ้ว เฟอร์ลอย ผ้าม่าน มูลี่ โต๊ะ ตู้ วอลเปเปอร์ ยกเว้นพร็อพและเครื่องใช้ไฟฟ้า ยกกระเป๋ามาเข้าอยู่ได้เลย พื้นที่จอดรถเป็นคสล.ขัดมัน พื้นภายในจะเป็นกระเบื้อง 60 x 60 cm. , ลามิเนตหนา 12 mm. และกระเบื้องไวนิลลายไม้ พื้นบันไดมีทั้งกระเบื้องและเนื้อไม้สำเร็จรูป มีอุปกรณ์สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard, MOGEN ภายในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าให้ทุกห้องยกเว้น Master Bedroom เป็น Walk in Clothes ส่วนของความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1-4 สูง 2.5 เมตร และชั้น 5 สูง 2.7 เมตร
แบบบ้าน Type B ขนาด 382 ตารางเมตร การจัดฟังก์ชั่น นั้นทำออกมาได้ลงตัวแล้ว มีพื้นที่ในชั้นต่างๆให้ใช้สอยได้ดีครบถ้วน ยิ่งขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเสร็จแบบนี้ ทำให้ดูง่าย เห็นภาพของจริงที่ได้ ที่เหลืออาจะต่อเติมเพิ่มเล็กๆน้อยคงแล้วแต่เรา ยกตัวอย่างเช่นจะกั้นห้องกระจกเป็นสัดส่วนเพิ่มใน Working Area ที่ชั้น 2 หรือกั้นส่วนเป็นครัวปิดที่ชั้น 3 และติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้น 4-5 เพิ่ม ส่วนตัวผมเองชอบตรงระเบียงฝั่งด้านหน้าที่เป็นงาน Facade อาจจะมาประยุกต์ทำเป็น Vertical Garden เล็กๆได้ อยู่ที่สไตล์ความชอบแต่ละคน
เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมส์ขนาดเล็กจึงไม่มี Facility ส่วนกลางที่ต้องแชร์กันระหว่างลูกบ้าน ดังนั้นรีวิวโครงการนี้จะไม่มีสรุปสิ่งอำนวยความสะดวกนะครับ แต่ภายในบ้านจะมีกันขโมยแบบ Megnetic Sensor มาให้ลูกบ้านสามารถเลือกจุดติดได้เองตามประตูหน้าต่าง รวมทั้งหมด 10 จุด และจะมีกล้อง IP camera ให้ 1 จุด สามารถย้ายตำแหน่งได้ตามจุดของปลั๊กไฟครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ(โฮมออฟฟิศ) 15 ล้านบาท, 4 April 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – 8.0/10 – ทำเลโดยรวมดี สามารถเข้าออกได้หลายทาง ไม่ไกลจากแหล่งของกินของใช้ ใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน
- ความปลอดภัย – 6.75/10 – เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กจึงไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยส่วนรวมเหมือนหมู่บ้าน ภายในแต่ละหลังมีระบบรักษาความปลอดภัยภายใน Megnetic Sensor และ IP Camera
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – 7.75/10 – Facade มีลูกเล่นดี บางส่วนประยุกต์ใช้งานได้บ้างไม่ได้บ้าง ฟังก์ชั่นการใช้งานในบ้านทำออกมาได้ลงตัวดี
- วัสดุ – 8/10 – ใช้วัสดุมาตรฐานถ้าเทียบกับราคาระดับนี้ แต่ดีที่ให้เฟอร์นิเจอร์ Build-In, เฟอร์ลอย, มูลี่ ผ้าม่าน, วอลเวเปอร์ พร้อมเข้าอยู่ได้เลย
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – 6.5.0/10 – ด้วยขนาดของเนื้อที่ดินจำกัด และเป็นโครงการขนาดเล็ก เลยได้แต่ลงต้นไม้กระถางมาวางในบ้านเอา (ที่จอดรถ,ระเบียงทุกชั้น)
- สาธารณูปโภค – 0.0/10 – เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการโฮมออฟฟิศขนาดเล็กที่ไม่มี Facility และเก็บค่าส่วนกลางใดๆ ดังนั้นโครงการนี้จึงไม่มีคะแนนสาธารณูปโภคครับ
รวมคะแนน 6.60 / 9.00 (ไม่คิดสาธารณูปโภค) หรือเทียบได้ประมาณ 7.4/10
BOTTOM LINE
WISE Ladprao 71 เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านแบบโฮมออฟฟิศ อยู่อาศัยและทำงานไปในตัว เป็นโครงการที่มีขนาดเล็ก มีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่สนใจส่วนกลาง มีรถใช้ส่วนตัวเป็นหลัก แต่งบ้านมาแล้วหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่เลย และไม่ได้เน้นกิจการที่ต้องมีหน้าร้านสำหรับรับลูกค้าตลอดเวลา โครงการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณ 15 ล้านบาทหรือกำลังผ่อนต่อเดือน 110,000 บาทขึ้นไป
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/
