รีวิวฉบับที่ 2837 เปิดตัวโครงการ Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) บ้านแฝดและทาวน์โฮม 3.5 ชั้น ทำเลใกล้ MRT สายสีเหลืองเพียง 800 เมตรและไม่ไกลจาก BTS สายสีเขียว นอกจากนี้จากโครงการยังไปโรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่ง ผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้สบายๆ สำหรับ Highlights ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย

  • ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย : โครงการห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีแบริ่งเพียง 800 เมตร ลูกบ้านเดินทางไปใช้งานรถไฟฟ้าได้ไม่ยากเลยค่ะ และยังไม่ไกลจาก BTS แบริ่งมากนัก ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง
  • ห่างจากถนนหลักอย่างศรีนครินทร์ประมาณ 750 เมตร :  จึงสามารถเข้าถึงโครงการได้ง่าย เมื่อเทียบกับโครงการใหม่ๆสมัยนี้ที่อิงมาทางถนนศรีนครินทร์ มักจะอยู่ในซอย ห่างจากถนนหลักหลายกิโลเมตร โครงการนี้ถือว่าเดินทางได้สะดวมากๆเลย
  • ใกล้โรงเรียนนานาชาติชื่อดังมากมาย : ในระยะ 2-3 กิโลเมตรจากโครงการ มีสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติด้วย เช่น โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา , Thai-Singapore International School , Bangkok Patana School และ Montessori Academy Bangkok International School  ผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้สบายๆ
  • ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว : มีเพื่อนบ้านเพียง 33 ยูนิตเท่านั้น
  • บ้านทุกหลังอยู่ติดถนนหลักของโครงการ : ทำให้เข้าออกโครงการได้สะดวก
  • ได้พื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยว : พร้อมมีพื้นที่ดาดฟ้าให้ใช้งาน

ข้อมูลโครงการ

Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง)  ณ วันที่ 6 มีนาคม 2568

 ชื่อโครงการ   Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท เวลติ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
 SEGMENT CLASS   HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ซอยแบริ่ง 39 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
 ที่ดิน 4-0-02 ไร่
 จำนวนยูนิต 33 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Mezzo ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พร้อมดาดฟ้า ที่ดินเริ่มต้น 26.70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 286 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท
  • Soprano บ้านแฝด 3.5 ชั้น พร้อมดาดฟ้า ที่ดินเริ่มต้น 42.17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 385 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 22.5 ล้านบาท

 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2567
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2568
 เว็บไซต์โครงการ  คลิกที่นี่
 โทร   098-616-9822

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlight

  • ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย : โครงการห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีแบริ่งเพียง 800 เมตร ลูกบ้านเดินทางไปใช้งานรถไฟฟ้าได้ไม่ยากเลยค่ะ และยังไม่ไกลจาก BTS แบริ่งมากนัก ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง
  • ห่างจากถนนหลักอย่างศรีนครินทร์ประมาณ 750 เมตร :  จึงสามารถเข้าถึงโครงการได้ง่าย เมื่อเทียบกับโครงการใหม่ๆสมัยนี้ที่อิงมาทางถนนศรีนครินทร์ มักจะอยู่ในซอย ห่างจากถนนหลักหลายกิโลเมตร
  • ใกล้โรงเรียนนานาชาติชื่อดังมากมาย : ในระยะ 2-3 กิโลเมตรจากโครงการ มีสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติด้วย เช่น โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา , Thai-Singapore International School , Bangkok Patana School และ Montessori Academy Bangkok International School  ผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้สบายๆ

พิกัด Google Maps : 13.648948791677734, 100.63414264617414
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) ค่ะ

ทำเลของโครงการ Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ เพราะโครงการจัดสรรใหม่ๆ ที่อยู่ห่างจากถนนศรีนครินทร์ไม่ถึง 1 กิโลเมตร ถือว่าหาได้ยากมากๆ หากเป็นโครงการที่ห่างจากถนนศรีนครินทร์ 1-2 กิโลเมตร มักจะมีราคาเริ่มต้นที่สูงประมาณ 20 ล้านกลางๆขึ้นไป หรือโครงการที่มีราคาใกล้เคียงกัน มักจะอยู่ในซอยลึกตั้งแต่ 3 กิโลเมตรเป็นต้นไป

แต่โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 39 หรือหลายคนอาจเรียกกันว่าซอยลาซาล 52 ซึ่งห่างจากถนนศรีนครินทร์เพียง 750 เมตรเท่านั้นเอง จึงถือว่าเป็น Rare Item มากๆเลย บริเวณปากซอยจะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ประปราย ส่วนภายในซอยจะมีโครงการจัดสรรและอาคารพักอาศัยอยู่บ้าง ทำให้ซอยนี้มีคนเข้า-ออกตลอดเวลา จึงไม่เปลี่ยวมากนักค่ะ

รอบๆโครงการมีความอุดมสมบูรณ์รายล้อมอยู่มากมายทีเดียว โดยใกล้ที่สุดจะเป็นกลุ่มของซูเปอร์มาเก็ต ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนศรีนครินทร์ มีทั้งบิ๊กซี , แม็คโคร , ฟู้ดแลนด์ และยังมี Community mall อย่างลาซาล อเวนิวและแจส เออเบิร์น ลูกบ้านสามารถออกมาหาของกินของใช้ได้ไม่ยาก ส่วนใครชอบช้อปปิ้งตามห้าง จะต้องออกไปฝั่งถนนบางนา-ตราด ซึ่งจะมีห้างใหญ่ๆมากมาย ทั้งเซ็นทรัล บางนา , เมกาบางนา รวมถึง เดอะ ฟอเรสเทียส์ , บางกอก มอลล์ ที่มีแพลนจะมาเปิดในอนาคตอีกด้วย ยิ่งทำให้ทำเลตรงนี้เข้าถึงแหล่งความอุดมสมบูรณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ลูกบ้านจึงออกมาจับจ่ายใช้สอย หรือ Hang Out ได้สะดวกมากขึ้น

อีกหนึ่งความน่าสนใจของทำเลนี้คือใกล้กับสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติด้วย จากโครงการประมาณ 2-3 กิโลเมตร มีทั้งโรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา , Thai-Singapore International School , Bangkok Patana School และ Montessori Academy Bangkok International School ทำให้ผู้ปกครองที่มีลูกเรียนในโซนนี้สามารถไปรับ-ส่งลูกได้ไม่ยาก แทบจะไม่เสียเวลาเดินทางเลยนะ

จากโครงการสามารถเข้า-ออกได้ถึง 3 เส้นทาง ทางแรกคือเข้าจากถนนแบริ่ง ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมไปยังถนนสุขุมวิท ใครที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองไปโซนสุขุมวิทตอนปลาย , สำโรง หรือไปใช้รถไฟฟ้า BTS ใช้ถนนเส้นนี้จะสะดวกที่สุด ส่วนทางเข้า-ออกที่สองคือซอยศรีด่าน 21 ซึ่งจะอยู่ติดกับถนนเส้นหลักอย่างถนนศรีนครินทร์ เหมาะกับคนที่ต้องการเดินทางไปยังโซนซีคอนสแควร์​ ศรีนครินทร์ , บางกะปิ ส่วนทางเข้า-ออกสุดท้ายคือฝั่งถนนลาซาล ที่สามารถใช้ลัดเลาะเวลารถติด ไปยังถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ได้ค่ะ การที่มีการเข้า-ออกหลายทางแบบนี้ ทำให้ลูกบ้านมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น ถ้าวันไหนถนนเส้นใดเส้นหนึ่งรถติด ก็สามารถเลี่ยงไปใช้ถนนเส้นอื่นได้ไม่ยาก

Image 1/3
สำหรับคนที่ต้องการไปโซนสุขุมวิท , พระราม 4 , พระราม 9 สามารถใช้ทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งเข้าเมือง ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.9 km.

สำหรับคนที่ต้องการไปโซนสุขุมวิท , พระราม 4 , พระราม 9 สามารถใช้ทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งเข้าเมือง ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.9 km.

นอกจากโครงการ Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) จะมีทางเข้า-ออกหลายทางแล้ว ยังไม่ไกลจากทางด่วนต่างๆอีกด้วย ลูกบ้านสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ไม่ยากเลยค่ะ ไม่ว่าจะต้องการเดินทางเข้าเมืองไปโซนพระราม 4 , พระราม 9 ก็สามารถใช้ทางด่วนเฉลิมมหานครได้ในระยะ 6.9 กิโลเมตร ส่วนคนที่ต้องการเดินทางไปชลบุรี , ฉะเชิงเทรา ก็สามารถใช้ทางด่านบูรพาวิถีฝั่งออกนอกเมืองไปชลบุรี ที่ห่างจากโครงการประมาณ 4.6 กิโลเมตร นอกจากนี้ใกล้ๆกับโครงการยังมีทางด่วนกาญจนาภิเษกที่อยู่ห่างออกไป 6.8 กิโลเมตรสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปโซนบางปู , บางขุนเทียน

ข้อดีของโครงการ Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) คือใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีแบริ่งเพียง 800 เมตรเท่านั้น ลูกบ้านสามารถใช้เดินทางไปศรีนครินทร์ , บางกะปิและลาดพร้าวได้ แบบไม่ต้องเสียเวลารถติด หรือใครที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวก็สามารถไปเปลี่ยนสายได้ที่สถานีสำโรง

Image 1/7
บรรยากาศทางเดินจากซอยโครงการไป MRT

บรรยากาศทางเดินจากซอยโครงการไป MRT

การเดินทางจากโครงการไป MRT ช่วงแรกเราต้องเดินออกจากซอย ซึ่งจะไม่มีทางเดินเท้าหรือฟุตบาทให้ เราต้องระมัดระวังเรื่องรถดีๆนะ จากนั้นเมื่อออกมาถึงถนนใหญ่ จะเริ่มเดินได้สะดวกขึ้นค่ะ เพราะมีฟุตบาทแยกไว้ชัดเจน และมีขนาดกว้างพอสมควร ตลอดทางเดินริมถนนใหญ่จะมีรถผ่านไปมาตลอดจึงไม่รู้สึกเปลี่ยว โครงการอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟฟ้านะ เราจึงต้องข้ามทางม้าลาย แต่ด้วยความที่ถนนเส้นนี้ให้รถที่เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด เราจึงต้องคอยมองรถดีๆก่อนข้ามถนน

อย่างไรก็ตามเรามองว่าระยะทางไปโครงการถือว่าไกลกว่าที่เราจะเดินได้สะดวก แนะนำให้สมาชิกที่บ้านขับรถไปส่งหรือเรียก Grab จะดีกว่าค่ะ สำหรับขากลับเข้าบ้านอาจจะสะดวกกว่าเล็กน้อย เพราะหน้าสถานี MRT มีพี่วินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่

ส่วนรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวสถานีแบริ่งอยู่ห่างจากโครงการมาประมาณ 5 กิโลเมตร แม้ว่าจะไม่ใกล้มากนัก แต่เราสามารถนัดแนะกับสมาชิกในบ้านให้ไปรับ-ส่งหรือเรียก Grab ได้นะ

เราจึงมองว่าโครงการนี้เหมาะกับคน 3 กลุ่ม ดังนี้ อันดับแรกเลยคือคนที่ทำงานในละแวกนี้ ทำงานโซนศรีนครินทร์ , เทพารักษ์ , บางนา หรือมีลูกหลานเรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติโซนนี้ กลุ่มที่สองคือคนที่ทำงานในเมืองโซนสุขุมวิทตอนปลาย เช่น อ่อนนุช , พระโขนง  กลุ่มที่สามคือคนที่ทำงานโซนต่างจังหวัดที่ใกล้เคียง เช่น ฉะเชิงเทรา ซึ่งใช้ทางด่วนบูรพาวิถีเดินทางไปได้

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) ส่วนใหญ่เป็นโครงการบ้านจัดสรร 2 ชั้น , อู่ซ่อมรถ , สำนักงานกับโกดัง และที่ดินว่างเปล่าที่เรามองว่ามีโอกาสพัฒนาไปเป็นโครงการจัดสรรได้อีก มีบรรยากาศที่สงบเหมาะกับการอยู่อาศัย

  • ทิศเหนือ ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา
  • ทิศตะวันออก ติดกับ อู่ซ่อมรถ , สำนักงานกับโกดัง , อาคารพักอาศัย 9 ชั้นและที่ว่างรอการพัฒนา
  • ทิศใต้ ติดกับ โครงการบ้านจัดสรร 2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา

Image 1/2
บรรยากาศหน้าโครงการ

บรรยากาศหน้าโครงการ

ด้านหน้าโครงการเป็นอู่ซ่อมรถ และในซอยโครงการมีอาคารสำนักงานกับโกดัง และโครงการจัดสรร 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • บิ๊กซี ศรีนครินทร์ ~ 2.3 km.
  • แม็คโคร ศรีนครินทร์ ~ 2.3 km.
  • ลาซาลอเวนิว ~ 2.6 km.
  • เซ็นทรัล บางนา ~ 4.6 km.
  • ไบเทค ~ 5.8 km.
  • บางกอก มอลล์ ~ 6.0 km.
  • ทรู ดิจิตอล ปาร์ค ~ 7.3 km.
  • คลาวด์ 11 ~ 8.2 km.
  • เมกาบางนา ~ 9.5 km.
  • เดอะ ฟอเรสเทียส์ ~ 10.2 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลศิครินทร์  ~ 2.6 km.
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์ ~ 4.5 km.
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 5.1 km.
  • โรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท ~ 7.5 km.
  • โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ~ 10.4 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา~ 1.5 km.
  • โรงเรียนลาซาลกรุงเทพ ~ 1.6 km.
  • Thai-Singapore International School ~ 2.7 km.
  • Bangkok Patana School ~ 2.7 km.
  • Montessori Academy Bangkok International School ~ 3.5 km.
  • St. Andrews International School ~ 5.7 km.
  • International Community School ~ 5.0 km.
  • Raffles International College Bangkok ~ 6.0 km.
  • Berkeley International School ~ 6.1 km.

การเดินทาง

  • MRT ศรีแบริ่ง ~ 800 m.
  • BTS แบริ่ง ~ 5.2 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว : มีเพื่อนบ้านเพียง 33 ยูนิตเท่านั้น
  • บ้านทุกหลังอยู่ติดถนนหลักของโครงการ : ทำให้เข้า-ออกโครงการได้สะดวก
  • บ้านทุกหลังหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ : ซึ่งเป็นทิศทางของลมธรรมชาติ เจ้าของบ้านสามารถเปิดรับลมได้ดี

Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) เป็นโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด 3.5 ชั้น บนที่ดินประมาณ 4-0-02 ไร่ ทั้งหมด 33 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการระดับเดียวกัน โครงการนี้ถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลยค่ะ  ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว จากการวางผังของโครงการ เรามองว่าน่าสนใจทีเดียว แบ่งออกเป็นประเด็นได้ดังนี้

  • ส่วนกลางอยู่โซนด้านหน้าโครงการ ช่วยเป็น Buffer กันเสียงรถยนต์จากซอยหน้าโครงการ ไม่ให้มารบกวนลูกบ้านมากนัก
  • บ้านทุกหลังอยู่ติดถนนหลักของโครงการ ทำให้เข้า-ออกโครงการได้สะดวก
  • บ้านในโซนกรอบสีแดง อยู่ใกล้สวนและ Clubhouse ทำให้มาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้สะดวกที่สุด
  • บ้านทุกหลังหันไปทางทิศเหนือ-ใต้  บ้านที่หันไปทางทิศเหนือ ไม่โดนแดดโดยตรง ทำให้เย็นสบาย ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้จะได้รับลมพัดผ่านอยู่เสมอ ทำให้ไม่ร้อนอบอ้าว

Image 1/3
บรรยากาศซุ้มประตูโครงการ

บรรยากาศซุ้มประตูโครงการ

ซุ้มประตูโครงการอยู่ลึกเข้าไปจากถนนสาธารณะเล็กน้อย ทำให้มีพื้นที่สำหรับจอดเข้าคิวได้ ในช่วงเวลาที่คนเข้า-ออกโครงการเยอะค่ะ ตัวซุ้มประตูโครงการมีชายคาคลุมตลอดแนว ช่วยบังแดดฝนให้ผู้ที่มาติดต่อ ส่วนประตูทางเข้าโครงการแยกฝั่งเข้า-ออกได้อย่างชัดเจน โดยที่ลูกบ้านจะใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียนในการเข้า-ออกโครงการ ส่วนแขกที่มาเยี่ยมเยือนต้องแลกบัตรก่อนนะคะ

Image 1/5
บรรยากาศสวนส่วนกลาง

บรรยากาศสวนส่วนกลาง

สวนส่วนกลางของโครงการอยู่ข้างๆซุ้มประตูโครงการ แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็เพียงพอต่อการรองรับลูกบ้าน 33 ยูนิต ภายในสวนมีมุมพักผ่อน เหมาะกับการมานัดพบปะเพื่อนบ้านพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือนั่งอ่านหนังสือชิลๆ มีมุมที่จัดเป็นสนามเด็กเล่น ที่ตัวพื้นปูด้วยหญ้า ทำให้เวลาน้องๆหนูๆวิ่งหกล้ม ก็ไม่เจ็บมากนัก นอกจากนี้ยังมี Jogging Track ไว้ให้ลูกบ้านมาวิ่งออกกำลังกายเบาๆได้ พอให้เหงื่อซึมๆได้ด้วยค่ะ

ส่วน Clubhouse อยู่ข้างๆกับซุ้มประตูโครงการ ฝั่งตรงข้ามกับสวนส่วนกลาง ด้านหน้าจะไม่มีที่จอดรถนะ เพราะโครงการมียูนิตไม่เยอะ ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานส่วนกลางได้ไม่ยาก ส่วนทางเข้า- ออก Clubhouse มีเพียงทางเดียวเท่านั้น คือฝั่งด้านหน้าที่เราเห็นอยู่นี่เอง

ฟังก์ชันแรกที่เราจะเจอคือ Lobby ของโครงการ ลูกบ้านสามารถนัดแขกมาพบปะพูดคุยกันได้ กรณีไม่สะดวกให้แขกเข้าบ้าน หรือมานั่งทำงานอ่านหนังสือเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศก็ได้ค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศสระว่ายน้ำส่วนกลาง

บรรยากาศสระว่ายน้ำส่วนกลาง

ด้านหลังอาคาร Clubhouse มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 3 x 12.5 เมตร พอให้คนว่ายน้ำออกกำลังกายได้บ้าง แยกโซนสระว่ายน้ำสำหรับเด็กไว้ให้ แม้ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง แต่ก็มีร่มเงาของอาคาร Clubhouse และต้นไม้ปกคลุมไว้ ทำให้สามารถมาใช้งานไปแทบตลอดวันเลยค่ะ

ข้างๆสระว่ายน้ำมีมุมพักผ่อนในร่ม ที่ลูกบ้านสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจได้

บริเวณใกล้กับห้องน้ำมี ห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิงไว้ให้เรียบร้อย

Image 1/2
ห้องน้ำส่วนกลางของโครงการ

ห้องน้ำส่วนกลางของโครงการ

ภายในห้องน้ำส่วนกลาง มีครบทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำ นอกจากนี้ยังมี Locker สำหรับเก็บอุปกรณ์ส่วนตัวเวลาไปใช้งานส่วนกลาง

ในส่วนของ Fitness และ Meeting Room จะอยู่บนชั้น 2 ซึ่งต้องขึ้นบันไดไปนะคะ

บริเวณชั้น 2 จะมีพื้นที่ส่วนกลางแบ่งออกเป็น 2 ห้องคือ Fitness และ Meeting Room

ห้องแรกคือ Meeting Room ที่ลูกบ้านสามารถจองมาประชุม หรือนักเรียน นักศึกษามาทำงานกลุ่ม ติวหนังสือร่วมกันก็ได้

Image 1/3
บรรยากาศห้องฟิสเน บรรยากาศห้องฟิตเนสต

บรรยากาศห้องฟิสเน บรรยากาศห้องฟิตเนสต

ส่วนห้องฟิตเนสมีขนาดใหญ่พอสมควรค่ะ ซึ่งเวลาเรามาออกกำลังกายจะสามารถมองเห็นทั้งวิวสระว่ายน้ำและวิวสวน ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น แต่น่าเสียดายที่โครงการยังไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกาย เราเลยเอารูป Perspective มาให้ทุกคนดูประกอบแทนไปก่อนนะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 3.0×12.5 เมตร ลึก 1.1 เมตร
  • แบ่งสระเด็กลึกขนาด 2.8 x 3.6 เมตร ลึก 0.5 เมตร
  • ห้องออกกำลังกายขนาด 45 ตารางเมตรใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
  • Co-Working Space
  • Lobby
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 283.18 ตร.ม.
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 16 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร รั้วข้างบ้าน/แบ่งแปลง สูง 2.5 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 10 เมตร
  • เข้าออกโครงการด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบกั้นไม้กระดก
  • เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ

แบบบ้าน

Highlight

  • ได้พื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยว พร้อมมีพื้นที่ดาดฟ้าให้ใช้งาน
  • ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ใช้งานได้สะดวก พร้อมระเบียงให้เดินออกไปสูดอากาศ
  • มีระบบ Home Automation ควบคุมได้ทั้งการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆในบ้าน , การเปิด – ปิดไฟ , แอร์  , กล้องวงจรปิด

บ้านในโครงการ Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) เป็นโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด 3 ชั้นครึ่ง ที่มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 286-385 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าได้พื้นที่ใช้สอยเทียบเท่ากับบ้านเดี่ยวเลย ในราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท  รองรับครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิก 3-4 คน ตัวบ้านออกแบบมาในรูปแบบ Modern Contemporary Style เน้นโทนเทาเข้ม – เบจ ดูเรียบง่ายและทันสมัยในเวลาเดียวกัน โครงการมีแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบดังนี้

  • Mezzo ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พร้อมดาดฟ้า ที่ดินเริ่มต้น 26.70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 286 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท
  • Soprano บ้านแฝด 3.5 ชั้น พร้อมดาดฟ้า ที่ดินเริ่มต้น 42.17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 385 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 22.5 ล้านบาท

สรุปวัสดุภายในบ้าน

  • โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐมวลเบา
  • หลังคา Flat Slab
  • ผนังฉาบเรียบทาสี
  • ที่จอดรถลงเสาเข็มลึกประมาณ 22 เมตร ถึงเเนวเขตที่ดิน
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องขนาด 0.60×0.60 m. ของ THAI SOUNG
  • พื้นชั้น 2 , 3 : SPC สีTEAK หนา 5.5 mm. ของ ROYAL THAI
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางอัดประสานทำสี
  • Mezzo : แอร์ห้องนอน Master Bedroom ชั้น 2 แบบ Wall Type ขนาด 24,000 BTU จำนวน 1 เครื่อง (DAIKIN)
  • Soprano : แอร์ห้องนอน Master Bedroom ชั้น 2 แบบ Wall Type ขนาด 36,000 BTU จำนวน 1 เครื่อง (DAIKIN)
  • สายไฟรองรับ EV Charger  1 เครื่อง
  • Home Automation มี Door sensor 1 จุด และมี Controller รองรับการเพิ่มระบบในภายหลัง
  • CCTV ระบบ WIFI ภายในบ้าน 3 ตัว
  • สุขภัณฑ์ American Standard
  • Master Bedroom ได้อ่างอาบน้ำจาก American Standard
  • ระบบไฟ 3 เฟส 50(150)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


Soprano

บ้านแฝด 3.5 ชั้น พร้อมดาดฟ้า ที่ดินเริ่มต้น 42.17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 385 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

Image 1/5
แปลนชั้น 1

แปลนชั้น 1

ชั้น 1 : บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คันแบบพอดีๆ แบบไม่มีชายคาคลุม แนะนำให้ต่อเติมชายคาเพื่อบังแดดบังฝน ส่วนทางเข้า-ออกบ้านหลักๆจะมี 2 ทาง ทางแรกคือประตูหลักบริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน ซึ่งประตูนี้จะเข้าถึงพื้นที่นั่งเล่น ได้รวดเร็วที่สุด ส่วนประตูรองคือประตูบริเวณห้องครัวด้านหลังบ้าน เชื่อมต่อไปยังพื้นที่สวนด้านหลังบ้าน แต่บ้านหลังนี้ออกแบบให้หน้าต่างชั้นหนึ่งเป็นบานเลื่อนเต็มบานสูงตั้งแต่พื้นไปถึงฝ้า ใหญ่เท่ากับประตูเลย ทำให้เราสามารถเดินผ่านเข้า-ออกบ้านได้หลายจุดเลยค่ะ

ฟังก์ชันแรกของบ้านคือพื้นที่นั่งเล่นแบบ Double Volume ที่ทำให้บ้านดูโอ่อ่าและโปร่งโล่ง ชั้นหนึ่งจัดผังแบบ Open Plan เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหารและครัวเปิดเข้าด้วยกัน ช่วยให้การใช้งานต่อเนื่องมากขึ้น

ชั้นลอย : เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ แต่เรามองว่าสามารถกั้นเป็นห้องเพิ่มเติมได้ ใช้เป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเล็กได้ เพราะมีห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก

ชั้น 2 : เป็น Master Bedroom ทั้งชั้น มีขนาดใหญ่พอจะแบ่งเป็นโซนนั่งเล่น , โซนพักผ่อนและ Walk-in Closet

ชั้น 3 : เป็นพื้นที่พักผ่อนของสมาชิกในครอบครัว ประกอบไปด้วยห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก โดยแบ่งเป็นห้องฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านจะได้แสงสว่างมากกว่า เหมาะกับคนที่ชอบตื่นเช้า ส่วนห้องนอนฝั่งหลังบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะอยู่ห่างจากสายตาเพื่อนบ้าน

ชั้นดาดฟ้า : มีพื้นที่ว่าง สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจ หรือทำเป็นสวนได้

พื้นที่จอดรถมีความกว้างประมาณ 7.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 3 คันแบบพอดีๆ โดยไม่มีชายคาคลุม ถ้าใครเลือกบ้านที่หันไปทางทิศเหนือ จะได้ร่มเงาจากตัวบ้านช่วยบังแดด ในช่วงกลางวันที่แดดจัดๆได้บ้าง แต่ยังไงเราก็แนะนำให้ต่อเติมชายคานะ เพื่อใช้บังทั้งแดด , ลม , ฝนได้เลย โครงการลงเสาเข็มบริเวณที่จอดให้เท่าตัวบ้าน ถึงแนวเขตที่ดินเลย พื้นที่จอดรถจึงทรุดได้ยากทีเดียว ส่วนตัวพื้นปูด้วย Stamp Concrete สีเทาเข้ม ดูเข้ากับตัวบ้านดีค่ะ

สำหรับบ้านแฝดโครงการจะติดตั้งประตูรั้วเหล็กรางเลื่อนอัตโนมัติไว้ให้ เจ้าของบ้านไม่ต้องเสียเวลามาเปิด-ปิดเองเวลาเอารถเข้าบ้าน และยังเป็นการประหยัดพื้นที่ด้วย เพราะรางเลื่อนประตูเป็นแบบโค้งแนบไปกับรั้วบ้าน

บริเวณที่จอดรถ โครงการเตรียมระบบไว้ให้เพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger 1 เครื่อง และยังให้กล้องวงจรปิดมา 1 ตัว เราสามารถดูผ่านมือถือได้ด้วยนะ

พื้นด้านหลังบริเวณที่จอดรถจะยกระดับขึ้นเล็กน้อย ช่วยกันฝุ่นและน้ำไหลย้อน บริเวณชานตรงนี้มีความกว้างประมาณ 1.35 เมตร ซึ่งตลอดแนวชานจะมีชายคลุม ช่วยบังแดดฝนได้บ้าง นอกจากนี้ยังเป็นแนวกันไม่ให้เราถอยรถชิดกำแพงบ้านมากเกินไป จะได้ขนของจากหลังรถได้สะดวก บริเวณใกล้ๆกับประตูทางเข้ามีตู้เก็บของขนาดประมาณ 2 x 1 เมตร ใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวน , อุปกรณ์ล้างรถได้

Image 1/3
ประตูหลักเป็นประตูบานเปิดเดี่ยว

ประตูหลักเป็นประตูบานเปิดเดี่ยว

สำหรับ Main Gate หน้าบ้านมีการยกระดับจากชานหน้าบ้าน เพื่อกันเศษฝุ่น และกันน้ำไหลย้อนกลับ ส่วนตัวประตูเป็นประตูไม้บานเปิดมีความกว้างประมาณ 0.8 เมตร พร้อมติดตั้ง Door Sensor ติดไว้ให้ 1 จุด คอยแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิด-ปิดเพื่อเสริมความปลอดภัยในแก่ลูกบ้าน

Image 1/3
พื้นที่นั่งเล่นภายในบ้าน

พื้นที่นั่งเล่นภายในบ้าน

เมื่อเข้ามาในบ้านเราจะเจอกับ Common Area ที่รวมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหาร และครัวเปิดไว้ด้วยกัน ตัวพื้นปูด้วยกระเบื้องสีขาวขนาด 0.6 x 0.6 เมตร ดูสบายตาดีนะ

เรามาเริ่มกันทีละฟังก์ชันกันเลยดีกว่า โซนแรกที่เราเห็นคือพื้นที่นั่งเล่นแบบ Double Volume สูงประมาณ 5.9 เมตร และมีช่องเปิดขนาดใหญ่สูงตั้งแต่ พื้นจนเกือบถึงฝ้า รับแสงทั้ง 3 ฝั่ง ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ดูโปร่งและโล่งยิ่งขึ้นไปอีก พื้นที่ตรงนี้สามารถวางโซฟารูปตัว L 3-4 ที่นั่ง , อาร์มแชร์พร้อมโต๊ะกลางได้ ส่วนระยะดูทีวีอยู่ที่ 4.15 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 65-70 นิ้ว เพื่อการรับชมที่ชัดเจน

Image 1/3
ประตูบานเลื่อน 3 ตอน บริเวณหน้าบ้าน

ประตูบานเลื่อน 3 ตอน บริเวณหน้าบ้าน

ข้างๆที่พื้นที่นั่งเล่น มีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ เวลาเราจัดงานเลี้ยงเล็กๆในบ้านแล้วต้องการใช้พื้นที่ indoor และ Outdoor ก็สามารถเปิดเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่จอดรถได้ ประตูตรงนี้สามารถเปิดได้กว้างที่สุด 2.75 เมตร ทำให้เราสามารถขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆผ่านทางเข้า-ออกนี้ได้ค่ะ แต่ที่เราชอบคือโครงการนี้ใช้บานประตูหน้าต่างอลูมิเนียมของ Tostem ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแรง คงทนอยู่แล้ว เวลาจับประตูจะรู้สึกได้ถึงความหนักแน่น

Image 1/2
ประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับสวน

ประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับสวน

พื้นที่นั่งเล่นอยู่ติดกับสวนข้างบ้าน สามารถเดินออกมาใช้งานได้สบายๆ ตัวประตูเป็นบานเลื่อนเข้า-ออกได้สะดวก เปิดรับลมระบายอากาศได้

พื้นที่ข้างบ้านมีความกว้างประมาณ 2 เมตร สำหรับคนที่ชอบปลูกต้นไม้ จะทำเป็นสวนหย่อมก็ได้นะคะ หรือใครชอบว่ายน้ำออกกำลัง ก็สามารถทำเป็นสระว่ายน้ำ ยาว 10-15 เมตรได้เลย

บริเวณพื้นที่นั่งเล่น โครงการจะติดตั้งกล้องวงจรปิดให้อีก 1 ตัว โดยหันไปทางประตูบ้าน ทำให้เราสามารถเช็คได้ว่ามีใครเข้า-ออกบ้านเวลากี่โมงบ้าง

ใกล้กับทางขึ้นไปชั้น 2 มี  Control Panel เอาไว้ใช้ควบคุม การเปิด – ปิดไฟ , แอร์ , และกล้องวงจรปิด หรือจะควบคุมผ่านมือถือก็ได้นะ

Image 1/3
พื้นที่รับประทานอาหาร

พื้นที่รับประทานอาหาร

ส่วนรับประทานอาหาร รองรับโต๊ะขนาด 6 ที่นั่ง นั่งได้สบายๆ ไม่อึดอัด มีพื้นเหลือรอบโต๊ะให้เดินผ่านไปมาได้สะดวก มองออกไปเห็นสวนข้างบ้าน เราสามารถเปิดประตูไปรับลมหรือนั่งพักผ่อนได้ด้วย นอกจากนี้พื้นที่รับประทานอาหารยังเชื่อมต่อกับครัวเปิด เราสามารถเตรียมอาหาร เสิร์ฟอาหารได้สะดวก ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง

Image 1/2
ประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับสวน

ประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับสวน

ประตูที่เชื่อมต่อกับสวนบริเวณนี้จะเป็นประตูบานเลื่อนที่เปิดได้กว้างพอๆกับประตูหน้าบ้านเลย สามารถขนของชิ้นใหญ่ๆเข้า-ออกได้ เช่นโต๊ะ เก้าอี้ หรือเตาปิ้งเวลาจัดงานเลี้ยง

Image 1/2
พื้นที่สวนหลังบ้าน

พื้นที่สวนหลังบ้าน

ด้านหลังบ้านมีพื้นที่สำหรับจัดเป็นสวนได้ สามารถมาใช้เป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจ หรือนั่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟ ชิลๆได้นะ

อีกฝั่งหนึ่งของพื้นที่รับประทานอาหารก็ติดกับประตู สามารถเปิดออกไปใช้งานสวนข้างบ้านได้เช่นเดียวกัน

สำหรับพื้นที่ครัวตรงนี้เป็นแบบเปิด เหมาะกับการเตรียมอาหาร , อบขนม เราสามารถ Built-in เคาน์เตอร์และ Island ตรงกลาง เพื่อให้ทำอาหารได้สะดวก

ด้านหลังครัวสามารถเปิดออกมายังสวนด้านหลังบ้านได้ เรามองว่าเหมาะกับการทำเป็นพื้นที่ซักล้าง แต่โครงการไม่ได้ลงเสาเข็มตรงนี้ไว้ให้ หากต้องการต่อเติม แนะนำให้ปรึกษาวิศวกรอีกทีนะคะ

Image 1/3
Powder Room

Powder Room

ห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room ไม่มีส่วนอาบน้ำ จะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ ที่มี Panel ควบคุมมาให้ด้วย เราชอบที่สุขภัณฑ์เป็นระบบอัติโนมัตินะ ดูใช้น่าใช้งาน เป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าของบ้านดี นอกจากนี้ยังมีอ่างล้างหน้าพร้อมช่องเก็บของใต้อ่างล้างหน้า สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ เช่น  กระดาษทิชชู่

Image 1/2

บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นบันไดรูปตัว L มีขนาดกว้างประมาณ 1.1 เมตร พอให้คนเดินสวนกันได้ โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านมาตรฐานที่ส่งมอบให้ลูกค้าจะได้วัสดุปิดผิวเป็นไม้ยางอัดประสานทำสีนะคะ ที่เราชอบคือโครงการนี้ทำลูกตั้งบันไดมาแค่ 16.5 ซม. เท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับโครงการอื่นที่เคยเจอมักจะทำสูงประมาณ 18-20 ซม. ทำให้เราเดินได้สบายเป็นพิเศษ ไม่เหนื่อยมากนักเวลาต้องขึ้น-ลงบันไดค่ะ

ชั้นลอย

Image 1/2
พื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นลอย

พื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นลอย

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 เราจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดประมาณ 4.25 x 2.85 เมตร ตรงราวกันตกในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นราวกันตกเหล็กสีดำนะคะ หากใครต้องการให้เป็นสัดส่วน แนะนำให้ทำเป็นฉากกั้นกระจก เพื่อให้ดูโปร่ง และถ้าติดแอร์ก็จะช่วยกันไม่ให้แอร์ไหลออกไปโซนอื่นๆ ส่วนตัวพื้นปูด้วย SPC หนา 5.5 มม. ปูลายก้างปลาแบบนี้ทำให้บ้านดูหรูหราขึ้นมาอีกระดับ

พื้นที่ตรงนี้เรามองว่าเหมาะกับการจัดเป็นห้องทำงาน เพราะเป็นโซนที่แยกจากฟังก์ชันอื่นๆอย่างชัดเจน ช่วยให้เราโฟกัสกับงานได้ดี หรือจัดเป็นห้องที่ทำกิจกรรมนานๆได้ เช่น ห้องเล่นเกมส์ ห้องดูหนังเพราะภายในห้องมีห้องน้ำในตัว ใช้งานได้สะดวก

จากพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นลอย สามารถมองเห็นพื้นที่นั่งเล่นด้านล่างด้วย เวลามีแขกมาเยือนที่บ้าน เราก็สามารถเห็นจากชั้นนี้ได้เลย

Image 1/5
ห้องน้ำของชั้นลอย

ห้องน้ำของชั้นลอย

ห้องน้ำชั้นลอยอยู่ติดกับพื้นที่อเนกประสงค์ ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน โครงการให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมช่องเก็บของด้านล่าง และกระจกเงาบานใหญ่ นอกจากนี้ยังให้ชุดสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบครัน  พื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 1.1 x 1.05 เมตร พอที่จะหมุนตัวอาบน้ำได้ ใช้งานได้สะดวก

Image 1/2
บันไดขึ้นไปชั้น 2

บันไดขึ้นไปชั้น 2

สำหรับบันไดขึ้นไปชั้น 2 และชั้นอื่นๆจะแตกต่างจากบันไดชั้น 1 เล็กน้อยคือ ตัวบันไดจะเป็นรูปตัว U ได้ชานพักบันไดแบบเต็มผืนพร้อมราวจับบันไดตลอดแนว ทำให้ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัย

ชั้น 2

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 เราจะเจอกับโถงเล็กๆ หน้าห้อง Master Bedroom ทำให้มีระยะห่างจากบันไดที่ปลอดภัย

Image 1/4
Master Bedroom

Master Bedroom

ห้อง Master Bedroom มีขนาดกว้างมาก สามารถแบ่งออกเป็นโซนพักผ่อนและโซนนั่งเล่นได้ค่ะ โดยที่พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมอาร์มแชร์ มีระยะดูทีวีประมาณ 4.15 เมตรเหมาะกับการใช้ทีวี 65-70 นิ้ว ส่วนพื้นที่พักผ่อนวางเตียง 6 ฟุตได้แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงให้เดินได้สบายๆ นอกจากนี้ปลายเตียงยังมีพื้นที่จัดเป็นมุมทำงานได้ด้วย

ภายในห้องจะมีช่องแสงขนาดใหญ่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน ใครที่ไม่ชอบตื่นเช้าๆ แนะนำให้ติดม่านแบบ  Blackout หรือสลับเอาโซนพักผ่อนมาไว้ด้านใน และเอาโซนนั่งเล่นไปติดหน้าต่างก็ได้ค่ะ

Image 1/3
ประตูเชื่อมต่อไปยังระเบียง

ประตูเชื่อมต่อไปยังระเบียง

ระเบียงมีขนาดประมาณ 3.15 x 2.15 เมตร กว้างมากพอจะจัดเป็นมุมพักผ่อนจิบชากาแฟแบบ Semi-Oudoor บริเวณนี้มีชายคาคลุมทำให้ไม่ร้อน ออกมาใช้งานได้ตลอดเวลา หรือใครชอบปลูกต้นไม้จะทำเป็นสวนหย่อมก็ได้นะ

Image 1/2
พื้นที่ Walk-in Closet

พื้นที่ Walk-in Closet

Master Bedroom กว้างพอที่จะทำ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำ เพื่อให้การใช้งานต่อเนื่อง เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นแนวยาวรูปตัว L เหมาะกับสายแฟชั่น มีเสื้อผ้าเยอะๆ

Image 1/5
บรรยากาศภายในห้อง Master Bathroom

บรรยากาศภายในห้อง Master Bathroom

ภายในมีการแบ่งโซนเปียกแห้งเป็นสัดส่วนชัดเจน ได้สุขภัณฑ์จาก American Standard ครบเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง แต่ที่แตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆ คือได้อ่างอาบน้ำและ Rain Shower เพิ่มเข้ามาด้วย

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9 x 1.35 เมตร สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สบายๆ เราชอบที่ภายในส่วนอาบน้ำมีที่นั่งมาให้ ทำให้เราไม่ต้องยื่นอาบน้ำให้เมื่อยขาเลย

ชั้น 3

โถงชั้น 3 มีขนาดพอๆกับโถงชั้น 2 เลยค่ะ ทำให้เราเดินขึ้น-ลงบันไดได้อย่างปลอดภัย

Image 1/3
ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1 อยู่ด้านหลังบ้าน จะได้ความเป็นส่วนตัวและความสงบมากกว่าห้องนอนหน้าบ้าน ตัวห้องมีขนาดใหญ่พอที่จะวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ หรือใครมีลูกเล็ก จะทำเป็นเตียง 2 ชั้นเหมือนในบ้านตัวอย่างก็ดูเก๋ดีนะ

ข้างห้องมีระเบียงสามารถเปิดออกไปรับลมได้

ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.1 x 3.4 เมตร เหมาะกับการจัดเป็นสวนกระถาง สร้างบรรยากาศที่ดีให้ตัวบ้าน

บริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่จัดเป็นมุมแต่งตัวเล็กๆ ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวต่อได้เลย

Image 1/7
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1

ห้องน้ำภายในห้องนอนจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาและชั้นวางของมาให้ครบ แต่ในบ้านมาตรฐานจะไม่มีตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้าให้นะ  ส่วนพื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 1 x 1.6 เมตร  และยังมีที่นั่งอาบน้ำมาให้ ใช้งานได้สะดวก

สำหรับห้องนอนรอง 2 จะใหญ่กว่าห้องนอนรอง 1 เล็กน้อย มีพื้นที่โถงก่อนเข้าถึงพื้นที่พักผ่อน สามารถวางของสะสม หรือกระเป๋า , accessories ที่เราต้องใช้ประจำก่อนออกจากห้องได้นะ

Image 1/3
ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2 กว้างพอจะวางเตียง 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่รอบเตียงให้เดินผ่านไปมาได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือจัดเป็นมุมทำงานด้วยนะ หากใครชอบดูทีวีก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวน เพื่อประหยัดพื้นที่ ห้องนี้อยู่ฝั่งหน้าบ้าน ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเต็มๆ ใครที่ชอบตื่นสายๆ กลัวแสงแยงตาช่วงเช้า แนะนำให้ติดม่านแบบทึบแสงนะ

Image 1/2
ประตูเชื่อมต่อไปพื้นที่ระเบียง

ประตูเชื่อมต่อไปพื้นที่ระเบียง

ระเบียงของห้องนี้มีขนาดพอๆกับระเบียงของห้องนอนรอง 1 เลย แต่ด้วยความที่ห้องอยู่หน้าบ้านจึงมีอากาศถ่ายเทและได้แสงธรรมชาติมากกว่า ทำให้เหมาะกับการจัดเป็นมุมพักผ่อน จิบกาแฟ

Image 1/7
ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2

ห้องน้ำภายในห้องนอนจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน มีการวางผังและใช้ชุดสุขภัณฑ์ต่างๆ เหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 เพียงแต่แตกต่างตรงที่พื้นที่ส่วนแห้งกว้างกว่า ทำให้ใช้งานได้สะดวกกว่า

ชั้นดาดฟ้า

ชั้นดาดฟ้ามีโถงรองรับก่อนจะออกไปด้านนอก

ประตูชั้นดาดฟ้าเป็นประตูเหล็กกันไฟ สามารถล็อกได้ 2 ชั้น เพื่อเสริมความปลอดภัยให้ตัวบ้าน

Image 1/2
พื้นที่อเนกประสงค์ชั้นดาดฟ้า

พื้นที่อเนกประสงค์ชั้นดาดฟ้า

สำหรับบ้านแฝด โครงการจะทำชายคาคลุมพื้นที่อเนกประสงค์ไว้ให้แบบนี้เลยค่ะ ทำให้ออกมาใช้งานได้ตลอดเวลา เหมาะกับการทำเป็นสวนย่อม หรือพื้นที่พักผ่อน ไว้จัดปาร์ตี้เล็กๆ กับเพื่อนๆ


Mezzo

ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พร้อมดาดฟ้า ที่ดินเริ่มต้น 26.70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 286 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

Image 1/5
แปลนชั้น 1

แปลนชั้น 1

จริงๆแล้วทาวน์โฮมของโครงการนี้ มีการจัดผังคล้ายกับแบบบ้านแฝดเลยค่ะ แต่ด้วยระยะหน้ากว้างของบ้านลดลง จึงทำให้ขนาดของแต่ละฟังก์ชันเล็กลงไปบ้าง

ชั้น 1 : บริเวณหน้าบ้านจอดรถได้ 2 คันแบบไม่มีชายคาคลุม หากไม่อยากให้รถตากแดดฝน แนะนำให้ต่อเติมชายคาออกมา ส่วนทางเข้า-ออก แบ่งออกเป็น 2 ทางเช่นกัน คือทางเข้าหลักด้านหน้าบ้าน และประตูรองด้านหลังบ้านเชื่อมต่อกับสวนหลังบ้าน ฟังก์ชันภายในบ้านจัดมาแบบ Open Plan เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นหน้าบ้าน พื้นที่รับประทานอาหารและครัวเปิดด้านหลังบ้าน

ชั้นลอย : เป็นพื้นที่อเนกประสงค์พร้อมห้องน้ำในตัว เรามองว่าสามารถกั้นเป็นห้องทำงาน ห้องซ้อมดนตรี ห้องเล่นเกมส์ได้

ชั้น 2 : เป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก

ชั้น 3 : เป็นชั้นพักผ่อนสำหรับสมาชิกภายในบ้าน แบ่งเป็นห้องนอนรอง 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก เหมาะกับคนที่อายุไม่เยอะนัก ยังเดินขึ้น-ลงชั้น 1-3 ได้สะดวก

ชั้นดาดฟ้า : เป็นพื้นที่โล่งสามารถจัดเป็นมุมพักผ่อน หรือจัดสวนเล็กๆได้

Image 1/3
พื้นที่จอดรถ

พื้นที่จอดรถ

ที่จอดรถมีความกว้าง 4.9 เมตร จอดรถ 2 คันได้พอดีๆ บริเวณที่จอดรถรองรับการติดตั้ง EV Charger สำหรับบ้านที่ใช้รถไฟฟ้า พร้อมกับ CCTV ที่เราสามารถดูผ่าน มือถือได้ นอกจากนี้บริเวณที่จอดจะมีตู้เก็บของให้ 1 จุด สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์กีฬา

ประตูหลักทางเข้าบ้านยกระดับจากชานบ้านเล็กน้อย เพื่อกันฝุ่นและน้ำไหลย้อน บริเวณประตูมีหลังคาคลุม ป้องกันแดดและฝนได้ ส่วนตัวประตูหลักเป็นประตูเปิดคู่ ที่กว้างประมาณ 0.8 เมตร พอให้เราขนของเข้า-ออกได้

Image 1/2
พื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่น

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหาร โดยบริเวณพื้นที่นั่งเล่นมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 5.9 เมตร ให้ความรู้สึกความโปร่งโล่งเป็นพิเศษ

สามารถวางโซฟาได้ 3-4 ที่นั่ง พร้อมอาร์มเเชร์ 1 ตัว รองรับสมาชิกในบ้าน 3-4 คนได้สบายๆ  ส่วนระยะดูทีวีประมาณ 2.8 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวี 50 นิ้วเพื่อความคมชัดค่ะ

Image 1/2
พื้นที่รับประทานอาหารและครัวเปิด

พื้นที่รับประทานอาหารและครัวเปิด

พื้นที่รับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะกินข้าว 4-6 ที่นั่งได้ ถ้าวางชิดกำแพงด้านหลังจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ค่ะ ใกล้ๆกันเป็นครัวเปิด ที่มีพื้นที่พอจะ Built-in เคาน์เตอร์เป็นแนวยาวพร้อม Island ทำให้เราประกอบอาหารได้สะดวกขึ้น

Image 1/2
ประตูเชื่อมต่อกับสวนหลังบ้าน

ประตูเชื่อมต่อกับสวนหลังบ้าน

ประตูหลังบ้านเป็นประตูบานเลื่อน สามารถเปิดกว้างขนของชิ้นใหญ่ๆเข้า-ออกได้

Image 1/2
พื้นที่สวนหย่อมหลังบ้าน

พื้นที่สวนหย่อมหลังบ้าน

พื้นที่สวนมีขนาดใหญ่ทีเดียว เหมาะกับคนที่ชอบทำสวนปลูกต้นไม้

Image 1/3
Powder Room

Powder Room

สำหรับ  Powder Room มีการวางผังและให้ชุดสุขภัณฑ์มาเหมือนกับบ้านแฝดเลยค่ะ เพียงแต่เปลี่ยนสีของเคาน์เตอร์เป็นสีขาว ทำให้ห้องดูสว่างมากกว่า และยังชอบที่เป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัตินะคะ

บันไดขึ้นชั้นลอย เป็นรูปตัว L มีชานพัก 1 จุด ทำให้คนที่เดินขึ้น-ลงบันไดบ้านไม่เหนื่อยมากนัก

ชั้นลอย 

พื้นที่อเนกประสงค์ของชั้นลอยจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง แนะนำให้ทำฉากกั้นแบบบ้านตัวอย่าง เพื่อให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น พื้นที่นี้ถูกแยกออกมาจากโซนอื่นๆของบ้าน  จึงไม่ถูกรบกวน เหมาะกับการทำเป็นห้องทำงานเลย

Image 1/4
ห้องน้ำชั้นลอย

ห้องน้ำชั้นลอย

ห้องน้ำชั้นลอย มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งได้อย่างชัดเจน และมีชุดสุขภัณฑ์มาให้อย่างครบครัน พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ  1 x 1.1 เมตร ทำให้เราหมุนตัวอาบน้ำได้สบายๆ

บันไดขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นรูปตัว U มีชานพักบ้านแบบเต็มผืน ขึ้น-ลงบ้านสะดวก

ชั้น 2

Image 1/4
Master Bedroom

Master Bedroom

Master Bedroom มีขนาดใหญ่พอจะแบ่งเป็น 2 โซน คือโซนพักผ่อนและโซนนั่งเล่น โดยโซนนั่งเล่นสามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้ มีระยะดูทีวีประมาณ 2.15 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวี 50 นิ้ว ส่วนโซนพักผ่อนสามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอีกเป็นเมตร ปลายเตียงมีประตูสามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงได้ด้วย

หน้าห้องน้ำมีพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet ได้ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ฝั่งเก็บเสื้อผ้าได้เยอะ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งตรงกลาง ตอบโจทย์สาย Fashionista

Image 1/8
Master Bathroom

Master Bathroom

Master Bathroom ได้ชุดสุขภัณฑ์มาครบครันเหมือนบ้านแฝดเลย แล้วยังมีการวางผังออกมาเหมือนกันอีกด้วย ต่างกันแค่สีเคาน์เตอร์เท่านั้น ห้องน้ำของทาวน์โฮมจะเน้นเป็นโทนสีขาว เพื่อให้ห้องน้ำดูกว้างและสว่าง

ชั้น 3

ห้องนอนรอง 1 เป็นห้องแรกที่เจอเมื่อขึ้นบันไดมา สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ พร้อมมีทางเดินโดยรอบได้สบาย ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีเพิ่มเติมได้

ปลายเตียงมีประตูเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงด้านหลังบ้าน ซึ่งมีขนาดประมาณ 1.55  x 0.85 เมตร พอให้เราเดินออกมาสูดอากาศ หรือรับลมได้ค่ะ ชั้นนี้อยู่สูงกว่าบ้านที่อยู่ติดกันของโครงการข้างๆ ทำให้เราได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

หน้าห้องน้ำมีมุมให้ทำเป็น Walk-in Closet เล็กๆ ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เราสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำได้เลย

Image 1/5
ห้องน้ำในห้องนอนรอง

ห้องน้ำในห้องนอนรอง

ตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ใกล้ประตูทางเข้าห้อง ภายในห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ให้ครบครัน ส่วนอาบมีขนาดประมาณ 0.85 x 0.9 เมตร ถือว่าหมุนตัวอาบน้ำ ใช้งานได้สะดวกเลย

Image 1/2
ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2 มีขนาดใหญ่พอจะวางเตียง 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ข้างเตียง ให้ทำเป็นมุมพักผ่อน วางอาร์มแชร์ได้ 1 ตัว ตัวห้องอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ได้รับแสงธรรมชาติเต็มๆ หากใครไม่ชอบแสงแดดยามเช้า เพราะกลัวจะแยงตา แนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านแบบ Blackout นะ

หน้าห้องน้ำมีพื้นที่ทำเป็นมุมแต่งตัวเล็กๆ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ฝั่งพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ติดริมหน้าต่าง ได้รับแสงธรรมชาติช่วยให้แต่งหน้าทำผมได้ง่ายขึ้น

Image 1/2
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2

ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุดของห้อง  ภายในห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ให้ครบครัน ส่วนอาบมีขนาดประมาณ 1.6 x 1 เมตร ถือว่าหมุนตัวอาบน้ำ ใช้งานได้สะดวกเลย

ชั้นดาดฟ้า

ชั้นดาดฟ้ามีโถงรองรับก่อนออกไปด้านนอก ตัวประตูได้เป็นประตูเหล็ก ล็อกได้ 2 ชั้นเหมือนของบ้านแฝดเลย

สำหรับพื้นที่ชั้นดาดฟ้าของทาวน์โฮม เหมาะกับการทำเป็นมุมพักผ่อน หรือสวนหย่อม เหมาะกับการมาใช้งานช่วงเวลาเย็นๆ เพื่อไม่ให้ร้อนเกินไป เพราะโครงการไม่ได้ทำชายคาไว้ให้ ถ้าใครต้องการทำเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่สามารถมาใช้งานได้ตลอดเวลา แนะนำให้ต่อเติมหลังคานะ

ราคา

Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) ราคา ณ วันที่ 6 มีนาคม 2568

  • Mezzo ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พร้อมดาดฟ้า ที่ดินเริ่มต้น 26.70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 286 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท
  • Soprano บ้านแฝด 3.5 ชั้น พร้อมดาดฟ้า ที่ดินเริ่มต้น 42.17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 385 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 22.5 ล้านบาท
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 100,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 39 ซึ่งสามารถเข้า-ออกโครงการได้ 3 ทาง คือจากซอยแบริ่ง 39 , ซอยศรีด่าน 21 และซอยลาซาล 52 สามารถเดินทางไปได้ทั้งถนนศรีนครินทร์ , ถนนสุขุมวิทและถนนลาซาล ลูกบ้านจึงมีทางเลือกในเรื่องของเส้นทางที่หลากหลาย จากโครงการสามารถเข้าถึงแหล่งความอุดมสมบูรณ์ได้ไม่ยาก เพราะในช่วง 2-4 กิโลเมตรมีทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆอย่างเซ็นทรัลบางนา รวมถึงซูเปอร์มาเก็ตต่างๆ และยังใกล้กับโรงเรียนชื่อดังอีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา , Thai-Singapore International School , Bangkok Patana School ทำให้ผู้ปกครองไปรับ-ส่งได้ง่ายๆ

โครงการอยู่ไม่ไกลจากทางด่วน ทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร , ทางด่วนบูรพาวิถีและทางด่วนกาญจนาภิเษก ช่วยให้เดินทางไปโซนต่างๆของเมืองรวมถึงออกต่างจังหวัดได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือทำเลของโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีแบริ่ง เพียง 800 เมตร ซึ่งหาได้ยากมากๆค่ะ เหมือนได้อยู่บ้านในทำเลคอนโดเลย ลูกบ้านจึงมีอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง สามารถเดินทางไปโซนศรีนครินทร์ , บางกะปิได้ไม่ยาก

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการนี้ถือว่ามีระดับความปลอดภัยตามมาตรฐานโครงการทั่วไป เข้า-ออกโครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียนพร้อมติดตั้ง CCTV  บริเวณ Main Gate และจุดต่างๆในโครงการทั้งหมด 16 จุด ส่วนตัวบ้านมีการติดตั้ง Door sensor ไว้ให้ มีการแจ้งเตือนเวลามีคนเปิด-ปิดประตูบ้านค่ะ

การออกแบบโครงการ : มีจำนวนเพียง 33 ยูนิต ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น้อยสำหรับโซนนี้ ลูกบ้านได้อยู่ในสังคมระดับเดียวกัน การวางผังโครงการให้บ้านทุกหลังอยู่ติดถนนหลักของโครงการ ทำให้เข้า-ออกจากบ้านง่าย  โครงการจัดวางอาคารส่วนกลางอยู่ด้านหน้าโครงการ ช่วยเป็น Buffer กันฝุ่นควันและเสียงรถยนต์จากถนนให้เข้าถึงโซนพักกอาศัยได้น้อยลง

การออกแบบตัวบ้าน : บ้านออกแบบมาใน Modern Contemporary Style ดูเรียบง่าย มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบทาวน์โฮมและบ้านแฝด ที่ได้พื้นที่ใช้สอยภายในเทียบเท่ากับบ้านเดี่ยวเลยนะ มีฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2-3 ที่จอดรถ ทุกห้องนอนมีทั้งห้องน้ำและระเบียงส่วนตัว ทำให้สมาชิกในบ้านไม่ต้องมาใช้ร่วมกัน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และมีฟังก์ชันที่เราไม่ค่อยเห็นจากโครงการอื่นๆคือ โครงการเตรียมพื้นที่พักผ่อนบนชั้นดาดฟ้าไว้ให้ด้วย ลูกบ้านได้ชมวิวมุมสูงแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ของตัวเอง นอกจากนี้บ้านทุกหลังยังหันไปทางทิศเหนือ-ใต้เป็นทิศรับลมพอดีทำให้บ้านมีลมพัดผ่าน เย็นสบาย

วัสดุ : ตัวบ้านใช้โครงสร้างแบบ Conventional รองรับการต่อเติมในอนาคต ที่จอดรถลงเสาเข็มไว้ให้ 22 เมตรถึงแนวเขตที่ดินเลย โครงการเลือกใช้วัสดุบางอย่างได้ดี เช่น บานประตูหน้าต่างจาก Tostem ขึ้นชื่อในความคงทน แข็งแรง ส่วนวัสดุอื่นๆให้มาตามมาตรฐานบ้านราคานี้

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : สวนส่วนกลางอยู่ด้านหน้าโครงการ มีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่ก็มีต้นไม้ใหญ่สร้างความร่มรื่นได้ และมีจุดพักผ่อนให้แก่ลูกบ้านนั่งชมบรรยากาศสวนส่วนกลาง

สาธารณูปโภค : โครงการจัด Facility ต่างๆมาให้แบบครบตามมาตรฐาน มี Clubhouse บริเวณหน้าโครงการ แต่ละ Facility มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็เพียงพอต่อการรองรับลูกบ้าน 33 ยูนิต ไม่ว่าจะเป็นห้องฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 14-23 ล้านบาท, 6 มีนาคม 2568

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – เข้าออกจากถนนหลักได้ 3 ทาง ใกล้ MRT 800 เมตร
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – สแกนป้ายทะเบียน , CCTV ทั้งโครงการ , ตัวบ้านมี Door Sensor
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – จัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วน แยกโซนการใช้งานดี
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้  โครงสร้างรองรับการต่อเติมในอนาคต
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – มีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็เพียงพอสำหรับลูกบ้าน
  • สาธารณูปโภค 7/10 – ฟังก์ชันหลักๆครบครันทั้ง ฟิตเนส, Lobby และสระว่ายน้ำ
  • 8.05 / 10.00 

Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) เหมาะกับใคร

โครงการ Vimarno Sukhumvit – Bearing (วิมาโน่ สุขุมวิท-แบริ่ง) เหมาะกับครอบครัวที่กำลังมองหาบ้านใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ไม่เกิน 1 กิโลเมตร และมี BTS สายสีเขียวเป็นทางเลือกให้ใช้งาน ใกล้โรงเรียนนานาชาติ จากโครงการวิ่งเข้าถนนศรีนครินทร์ , ถนนสุขุมวิทและถนนลาซาลได้ สะดวกต่อการเดินทางไปโซนสุขุมวิท , ศรีนครินทร์ , เทพารักษ์หรือออกไปนอกเมือง เช่น โซนชลบุรี  ชอบโครงการที่เป็นส่วนตัวยูนิตน้อย ต้องการบ้านแบบ Conventional สามารถทุบต่อเติมได้ มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเยอะ พื้นที่สวนน้อยหน่อย ไม่เป็นไร เหมาะกับครอบครัวพ่อแม่ลูก 3-4 คน ขึ้นลงบันได 3 ชั้นได้สะดวก มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 13.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 97,300 บาท


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่