รีวิวฉบับที่ 1877 …  Venue พระราม 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก เดินทางสะดวกเชื่อมต่อกับถนนศรีนครินทร์ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ได้ มีส่วนกลางให้ใช้ครบครันพร้อม Double Gate และมีระบบ ระบบ Magnetic , Shock Sensor ให้ทุกหลัง แบบบ้านมีให้เลือก 3 ขนาด ออกแบบโดยการเน้นพื้นที่ใช้สอย 3-4 ห้องนอนและได้ความโปร่งโล่งจากหน้าต่างบานใหญ่ ในราคาเริ่มต้น 6-10 ล้านบาทค่ะ 

Fact @ 4 June 2019

  • Venue Rama 9 (เวนิว พระราม 9)
  • บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนกาญจนาภิเษกตะวันออก เขตสะพานสูง
  • เนื้อที่โครงการ 34-0-24 ไร่ จำนวน 143 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
  • แบบบ้าน HAZEL พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 50.3 ตร.วา  3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, Living Area, Dining Area, Kitchen, 2 ที่จอดรถ
  • แบบบ้าน ROWAN พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 50.3 ตร.วา 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, Living Area, Dining Area, Kitchen, Family Area, 2 ที่จอดรถ
  • แบบบ้าน WILLOW พื้นที่ใช้สอย 234 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.วา  4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, Foyer, Living Area, Dining Area, Kitchen, Family Area, 2 ที่จอดรถ
  • เพดานสูง 2.60 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 6 – 10 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ n/a บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : ก.พ. 2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : เม.ย. 2563
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1749
  • โทร : 063-197-4666

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.757184, 100.703038
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ VENUE พระราม 9 ตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ช่วงที่ใกล้กับถนนศรีนครินทร์–ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ใช้เส้นทางเชื่อมต่อกับถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ได้ง่าย ถนนเส้นนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เป็นถนนขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างอยู่คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นปีหน้าค่ะ ปัจจุบันได้มีการเปิดใช้แล้วบางส่วนการจราจรยังไม่หนาแน่นนัก สามารถขับรถจากโครงการไปยังรามคำแหงได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถ้าถนนเส้นกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่นี้สร้างเสร็จทั้งเส้น จะทำให้สามารถเดินทางไปยังถนนศรีนครินทร์และถนนรามคำแหงได้สะดวกมากๆเลยค่ะ

นอกจากนั้นทำเลนี้ยังสามารถเข้ามอเตอร์เวย์ได้ง่าย ซึ่งเป็นทางเข้าเมืองไปยังย่านพระราม9 ที่เป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงานชื่อดังและเต็มไปด้วยศูนย์การค้า และใช้เส้นทางออกไปยังชลบุรีได้สะดวก เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่แถวพระราม9 หรือต้องเดินทางไปยังชลบุรีบ่อยๆ จากโครงการยังสามารถไปยังถนนร่มเกล้าที่เป็นถนนเชื่อมต่อกับมีนบุรีไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ ซึ่งจากโครงการไปสนามบินในเวลาไม่เร่งด่วน 15 นาทีก็ถึงทางเข้า Gate แล้วค่ะ ส่วนทางด่วนที่อยู่ใกล้ๆเลยก็คือทางด่วนวงเเหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก (ทางด่วนวงเเหวนกาญจาภิเษก) ที่ใช้เส้นทางไปยังโซนบางนาได้อีกด้วย

ทำเลนี้จะเหมาะกับการเดินทางด้วยรถยนต์มากกว่า ส่วนถ้าใครต้องเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ก็สามารถทำได้โดยการเรียกรถผ่าน Application เนื่องจากตอนนี้จะยังไม่มีรถประจำทางผ่านหน้าโครงการ อีกหนึ่งตัวเลือกคือมีสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ๆคือ Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้างและสถานีลาดกระบังค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์จะอยู่ในระยะที่ต้องใช้รถส่วนใหญ่ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างเงียบสงบ จะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์สำหรับหาของกินแบ่งเป็น 4 โซนใกล้ๆ โซนแรกที่ใกล้ที่สุดจะอยู่บน ถนนพัฒนาชนบท 3 จะมีร้านอาหารประเภทร้านสเต็ก, ร้านบะหมี่หมูแดง, ข้าวมันไก่, ร้านอาหารอีสานหลายร้าน และตลาดขนาดไม่ใหญ่อยู่ 2 จุด มีร้านสะดวกซื้ออยู่บ้าง เช่น 7-Eleven (ในซอยนี้มีถึง 3 แห่ง) และ Tesco Lotus Express เป็นต้น ในปัจจุบันมีร้านค้าเข้ามาเปิดมากขึ้นเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาดูการแสดงที่ Vanessa Cabaret เป็นจำนวนมาก แต่ของกินแถวนี้ก็ยังมีไม่มากนัก

ส่วนใหญ่คนแถวนี้จึงมักไปโซนเคหะร่มเกล้ากันค่ะ แถวเคหะร่มเกล้าจะมีตลาดสดขนาดใหญ่คือตลาดเกรียงไกร และเลยไปหน่อยก็จะเจอกับ Big C Market ตรงนี้มีธนาคารหลายสาขา และร้านอาหารอย่าง KFC, Pizza Hut, สเต็กลุงใหญ่ อยู่ด้วยค่ะ ระหว่างเส้นทางก็มีร้านอาหารอยู่ประปรายตลอดทั้งเส้น มีสวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สามารถมาวิ่งออกกำลังกายได้ไม่ไกลจากโครงการเลย ถัดไปสองข้างทางจะมีร้านบุฟเฟ่ต์ประเภทชาบู ปิ้งย่างราคาไม่แพงอยู่หลายร้านเลย วิ่งที่สวนเสร็จแล้วก็แวะทานก็ได้เลย ส่วนโซนที่สามเป็นโซนถนนร่มเกล้า ซึ่งตลอด 2 ข้างทางก็มีร้านอาหาร เช่น Burger King, วราภรณ์ซาลาเปา, หมูกะทะ เป็นต้น และมีตลาดเปิดใหม่อย่าง Runway 3119 เป็นตลาดนัดเครื่องบินค่ะ ตลาดนัดรถไฟเราคงคุ้นชินกันแล้วลองแวะมาตลาดเครื่องบินที่อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิกันบ้าง อีกโซนถ้าขับรถออกมาหน่อยบริเวณถนนรามคำแหงก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร Community mall อย่าง The Paseo Town รามคำแหง สัมมากรเพลส มี ท็อปส์ มาร์เก็ต สุขาภิบาล3 , Golden Place และ Makro ให้จับจ่ายใช้สอยกันค่ะ 

นอกจากเรื่องของกินแล้ว แถวนี้ยังมีสถานศึกษาอย่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า, โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า อยู่บริเวณถนนร่มเกล้า ถ้าเลยไปหน่อยก็จะถึงสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง หรือถ้าไปยังโซนฝั่งกรุงเทพกรีฑาก็จะมีโรงเรียนนานาชาติ Heathfield , Brighton college  และเป็นทางไปยังมหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วย เรื่องของสุขภาพในทำเลนี้สามารถไปยังโรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 7 ได้สะดวกค่ะ

การเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นกันโดยมาจากทางพระราม9 มุ่งหน้าไปทางชลบุรีโดยใช้ถนนกรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่) และทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนกรุงเทพกรีฑา (ตัดใหม่) แล้วไปกลับรถหนึ่งที(มีจุดสังเกต 7-11 อยู่ทางซ้ายมือ) หลังจากนั้นก็กลับรถอีกทีวิ่งตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือค่ะ

เริ่มต้นการเดินทางที่ The Nine พระราม 9 โดยใช้เส้นทางมาจากพระราม 9 มุ่งหน้าไปทางถนนกรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่) หรือมอเตอร์เวย์

ขับตรงไปตลอดตามป้ายบอกทางถนนศรีนครินทร์-ชลบุรี แล้วจึงเริ่มเข้าสู่ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่)

สังเกตป้ายบอกทางออก ถนนกรุงเทพกรีฑา ให้เบี่ยงซ้ายออกเพื่อวิ่งต่อบนทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์

จากนั้นให้ขับตรงต่อไปตามทางเรื่อยๆ อีกประมาณ 6 กิโลเมตร

สังเกตป้ายบอกทางจุดกลับรถ ถนนร่มเกล้า ลาดกระบัง บริเวณหน้าเซเว่น ให้เตรียมตัวเบี่ยงขวาเพื่อกลับรถก่อนขึ้นสะพาน

กลับรถใต้สะพาน เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังถนนฝั่งตรงข้าม ซึ่งตรงนี้กำลังทำทางอยู่ผิวถนนอาจจะขรุขระเส้นทางไม่สะดวกเท่าที่ควร ในอนาคตเมื่อแล้วเสร็จทางจะดีขึ้นค่ะ

จากจุดกลับรถตรงนี้ ก็เบี่ยงซ้ายออกไปเล็กน้อยเข้าสู่ถนนคู่ขนานเลียบวงแหวนกาญจนาแล้วไปหาทางกลับรถเพื่อไปยังทางที่อยู่อีกฝั่งนึง  ตอนจะเบี่ยงซ้ายก็ระวังรถนิดหน่อยเพราะถนนนี้สามารถสวนทางกันได้นะคะ

พอหาทางกลับรถมาแล้วให้มุ่งหน้าตรงไปตามทางเรื่อยๆเลยค่ะ

ขับมาเรื่อยๆเราจะเจอกับถนนศรีนครินทร์–ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ที่กำลังมีการก่อสร้างกันอยู่วิ่งพาดผ่าน

จากแยกตรงมาอีกนิดหน่อยก็จะถึงกับโครงการ Venue พระราม9 แล้วค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

Venue พระราม 9 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดใหญ่ของ SC Asset ซึ่งประกอบด้วยโครงการ Verve พระราม 9 (ทาวน์โฮม 2 ชั้น) Venue พระราม 9 (บ้านเดี่ยว 2 ชั้น) และ Bangkok Boulevard พระราม9-2 (บ้านเดี่ยว 2 ชั้น) อยู่ด้วยกัน จากถนนใหญ่ทุกโครงการจะใช้ถนนภาระจำยอมเพื่อเข้ามายังโครงการของตัวเองร่วมกัน ซึ่งข้อดีของโครงการที่เป็น cluster หรือมีหลายๆโครงการอยู่รวมกันคือการมีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่สวยงาม ถนนภาระจำยอมจะมีการดูแลให้มีสภาพดีอยู่เสมอ แม้ว่าจะต้องมีการเสียค่าบำรุงรักษาถนนบ้าง และมีระบบรักษาความปลอดภัยมากกว่า 1 ชั้น อย่างโครงการนี้จะมีซุ้มประตูอยู่ติดถนนใหญ่ชั้นหนึ่งและก่อนเข้าตัวโครงการอีกชั้นหนึ่ง และอีกอย่างคือเรารู้เพื่อนบ้านหรือสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการเราล่วงหน้า ไม่ต้องไปลุ้นว่าใครหรืออะไรจะมาอยู่ข้างๆ โดยภาพรวมแล้วสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ  บรรยากาศเงียบสงบ มีแต่ละด้านของที่ดินติดกับ

  • ทิศเหนือ – ติดกับที่ดินเปล่าและชุมชนที่พักอาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันออก – ติดกับโครงการ Verve พระราม 9
  • ทิศใต้ – ติดกับโครงการ Bangkok Boulevard พระราม9-2
  • ทิศตะวันตก – ติดกับที่ดินเปล่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (ระยะทางรวมกลับรถ)

  • Heathfield International School –  5 กิโลเมตร
  • สัมมากรเพลส รามคำแหง – 5.3 กิโลเมตร
  • แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขารามคำแหง – 5.3กิโลเมตร
  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า – 6.1 กิโลเมตร
  • The Paseo Town รามคำแหง – 7.6 กิโลเมตร
  • ท็อปส์ มาร์เก็ต สุขาภิบาล3 – 8 กิโลเมตร
  • Golden Place สาขาสะพานสูง – 8.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลรามคำแหง – 9.7 กิโลเมตร
  • The Promanade – 11.7 กิโลเมตร
  • Brighton college International School – 12.4 กิโลเมตร
  • Fashion Island – 13 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ – 15.8 กิโลเมตร
  • The Nine – 18.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลพระราม 9 – 21.6 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

Venue พระราม 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2ชั้น จำนวน 143 หลัง ตั้งอยู่บนที่ดิน 34-0-24 ไร่ เมื่อเราขับรถเข้ามาจากถนนใหญ่พอถึงโครงการจะมีซุ้มประตูที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่อีก 1 จุดซึ่งพอเราเข้ามาในโครงการแล้วจะเจอกับ Clubhouse อยู่ด้านหน้าเลย สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับรองแขกหรือนัดเพื่อนๆมาหาโดยไม่ต้องเข้าไปด้านในส่วนพักอาศัยศัย สำหรับลูกบ้านถ้าอยากจะใช้พื้นที่ส่วนกลางก็ออกมาใช้ที่ Clubhouse ด้านหน้า ซึ่งจะอยู่ใกล้ความดูแลของนิติบุคคลและไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของส่วนพักอาศัยด้านในค่ะ ถัดเข้าไปจะเป็นถนนหลักตรงยาวๆ แบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่ง แต่ละซอยจะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่ไม่เกิน 8 หลังทำให้มีความเป็นส่วนตัวและบ้านทุกหลังมีการออกแบบวางผังให้หันไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่โดนแดดร้อนในตอนบ่าย ตรงช่วงกลางของโครงการจะมีสวนหย่อมอยู่อีกจุดหนึ่งให้ออกมาเดินเล่นพักผ่อนกัน ส่วนด้านหลังสุดจะเป็นพื้นที่ขายในอนาคตคือเฟสต่อๆไปของโครงการนั่นเองค่ะ

สำหรับ Concept ของโครงการนี้คือ “ออกแบบการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ” หรือ “Organic Living” ซึ่งโครงการจะเน้นพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ และมีการออกแบบตัวบ้านให้มีหน้าต่างบานใหญ่สามารถรับลมหรือชมสวน ถือเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่แบบ Indoor และ Outdoor เข้าด้วยกัน ส่วนสีที่ใช้ทาภายนอกบ้านจะเลือกเป็นสี Earth Tone และมีการลบเหลี่ยมมุมของเสาทำให้ตัวบ้านใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น พอเห็นภาพรวมคร่าวๆแล้วเราไปชมโครงการกันค่ะ

จากถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก เลี้ยวเข้ามาจะเจอกับซุ้มประตูนี้ก่อน ซึ่งจะมีป้อมยามและไม้กั้นกระดก ช่วยสกรีนคนที่จะเข้ามาในโครงการเป็นด่านแรก การออกแบบซุ้มดูทันสมัยดี ออกแบบเป็นโทนสีขาวทั้งหมด ตอนกลางคืนจะมีการเล่น Lighting ทำให้ซุ้มดูเด่นมากขึ้น

ภายในพื้นที่นี้ ปัจจุบันจะมีโครงการอยู่ทั้งหมด 3 โครงการได้แก่ Verve พระราม 9 , Venue พระราม 9  และ Bangkok Boulevard พระราม9-2 สังเกตได้จากป้ายด้านหน้า

ซุ้มประตูด้านหน้าจะมีรปภ.รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับลูกบ้านจะเข้าจากทางฝั่งซ้ายได้เลย ส่วนคนมาติดต่อเข้าช่องทางขวาเพื่อคุยกับพี่รปภ.เค้าก่อนค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัยด้านหน้าจะมีทั้งรั้วกั้นไม้กระดก และ CCTV เลย ซึ่งไม่ได้ติดเฉพาะหน้าโครงการเท่านั้นแต่เค้าติด  CCTV 52 จุดทั่วทั้งโครงการเลยค่ะ

ถัดจากซุ้มประตูจะเจอกับถนนภาระจำยอมที่ทั้ง 3 โครงการใช้ร่วมกัน สังเกตว่าทั้ง 2 ข้างทางเต็มจะไปด้วยพื้นที่สีเขียว ช่วยให้ความร่มรื่นและสบายตาก่อนเข้าไปยังด้านในโครงการ ถนนนี้ถือว่ามีการดูแลจากทางโครงการเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นข้อดีของโครงการในรูปแบบของ Cluster (มีโครงการจาก Developer เดียวกันอยู่รวมกันหลายๆโครงการ)

ข้างถนนทำเป็น Jogging Track และ Bike Lane มาให้ แยกส่วนจากทางเดินรถ ทำให้ลูกบ้านใช้งานได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่ารถจะเฉี่ยวชนค่ะ ระหว่างทางมีซุ้มเล็กๆเอาไว้กันแดด มาให้ด้วย ถ้ามีเก้าอี้หรือม้านั่งมาตั้งก็จะสามารถใช้นั่งเล่นพักผ่อนได้

ลองเดินดูการใช้พันธุ์ไม้ของที่นี่ค่อนข้างหลากหลายนะคะ มีทั้งไม้ใบและไม้ดอก ใช้โทนสีที่ตัดกันดูสวยงามดี

พอตรงเข้ามาจนสุดทางก็จะเจอวงเวียนที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ ด้านหลังจะเป็นโครงการทั้ง 3 โดยโครงการ Venue พระราม 9 จะอยู่ทางฝั่งซ้ายสุดค่ะ

ทางเข้าโครงการจะมีซุ้มประตูพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง บริเวณนี้ถ้าเป็นผู้มาติดต่อต้องแลกบัตรด้วยค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัยของซุ้มประตูนี้จะมีทั้งรปภ.รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ประตูเลื่อนที่ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Easy Pass Control  และมีการติดตั้ง CCTV เพื่อบันทึกภาพผู้ที่เข้า-ออกโครงการ

เรามาดูทางฝั่ง Clubhouse กันก่อนดีกว่า ถนนหลักของโครงการจะกว้าง 12-14 เมตร ส่วนถนนรองกว้าง 9 เมตร กว้างพอสำหรับรถสวนกันและจอดรับ-ส่ง เวลามาใช้งานที่ Clubhouse

Clubhouse จะมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องเด็กเล่นให้ใช้ โดยสำนักงานขายของโครงการก็จะอยู่บริเวณนี้ด้วยค่ะ

ห้องที่อยู่ข้างๆสระว่ายน้ำปัจจุบันเป็นสำนักงานขาย แต่ในอนาคตเมื่อโครงการขายหมดแล้วก็จะปรับเป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ลูกบ้านได้ใช้มานั่งพักผ่อนหรือทำงานกัน

บรรยากาศด้านค่ะ มองออกไปเห็นวิวสระพอดี ใช้สำหรับนัดรอเพื่อนหรือมานั่งเล่นรับแอร์เย็นๆได้นะ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ  ขนาด 15 x 6 เมตร รอบๆสระจัดเป็นสวน ต้องรอต้นไม้โตอีกนิดนึงค่ะจึงจะพอบังสระให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

มีม้านั่งพักผ่อนริมน้ำและที่อยู่ติดๆกันคือสระเด็กนะคะ มาเล่นได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ เลย

ด้านหลังสระจะเป็นทางเดินไปพื้นที่ล้างตัว

มุมอาบน้ำล้างตัวซ่อนอยู่ด้านหลัง เวลาใช้งานคนที่เดินผ่านไปมาก็จะไม่เห็น ช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

อีกฝั่งจะเป็นทางขึ้นไปที่ชั้น 2 และห้องน้ำ

ห้องน้ำแบ่งออกเป็นชาย-หญิงแยกกันชัดเจนนะคะ ไม่ต้องแย่งกันใช้

ภายในห้องน้ำมีให้ครบทั้ง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และอ่างล้างหน้า

อ่างล้างหน้ามีให้ 2 ชุดพร้อมกระจกส่องหน้าบานใหญ่

ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำมีการปูกระเบื้องมาให้โดยรอบ เหมาะกับการใช้งาน พอว่ายน้ำเสร็จก็สามารถอาบน้ำล้างตัวให้เรียบร้อยก่อนกลับบ้านได้

เราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อค่ะ

พอขึ้นมาเราก็จะเจอกับห้องฟิตเนสและห้องน้ำ แต่ก็แอบมองไปเห็นตู้สีชมพูทางฝั่งขวาว่ามันคืออะไร?

เจ้าตู้นี้คือ Smart Locker ที่ให้ส่งพัสดุและฝากของได้ เหมาะกับคนยุคใหม่ที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน เลิกงานดึก หรือกลุ่มคนที่ทำงาน Freelance ค่ะ

นอกจากห้องน้ำชั้นล่างแล้ว ชั้นบนก็ยังมีอีกแต่ไม่มีห้องอาบน้ำแล้วนะ สำหรับใครที่ใช้ห้องฟิตเนสและอยากเข้าห้องน้ำก็ไม่ต้องลงไปชั้น 1 ค่ะ

บรรยากาศคล้ายๆกับห้องน้ำชั้นล่างแต่จะไม่มีพื้นที่อาบน้ำ เป็นห้องน้ำ 2 ห้องแทน

ภายในห้องน้ำค่ะ ระยะการใช้งานต่างๆเหมาะสม ติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบครัน

ถัดมาเป็นห้องฟิตเนสซึ่งจะมีห้องเด็กเล่นรวมอยู่ด้วย เอาน้องๆหนูๆมาเล่นขณะที่เรากำลังออกกำลังกายได้เลย

สำหรับห้องฟิตเนสอุปกรณ์ต่างๆก็มีครบครันทั้งลู่วิ่งและเครื่องยกเวท มองออกไปจะเห็นวิวได้กว้างเพราะผนังเป็นกระจกแบบเข้ามุม

ห้องเด็กเล่นน่ารักดีนะ กั้นเป็นโซน ข้างในมีของเล่นมาให้ด้วย

ของเล่นมีครบครันเลย มีชุดครัวของเด็กกับเบาะนอนด้วย

พอลงจาก Clubhouse มาเราลองมาดูส่วนบ้านพักอาศัยกันบ้าง จะเห็นว่าแต่ละซอยย่อยมีจำนวนยูนิตไม่เยอะค่ะ มากสุดก็ประมาณ 8 หลังเท่านั้น

บ้านตัวอย่างที่วางเรียงๆกันค่ะ เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปชมนะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Clubhouse
  • Fitness
  • Kid’s club
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 15 x 6 เมตร แบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็ก
  • สวนส่วนกลาง 1-0-34.5 ไร่
  • Jogging Track (ภาระจำยอม)
  • Bike Lane (ภาระจำยอม)
  • กล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ 52 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.8 เมตร พร้อมเหล็กแหลมสูง 20 เซนติเมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12-14 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • ติดตั้งสัญญาณกันขโมยในตัวบ้านระบบ Magnetic และ Shock Censer
  • ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Easy Pass Control
  • ระบบประตู 2 ชั้น Double Gate
  • Security Guard ตลอด 24 ชม.


Product Walkthrough

บ้านในโครงการนี้เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น การตกแต่งภายนอกจะคล้ายๆกันทั้งหมด ใช้โทนสีแบบ Earth Tone และมีการลบมุมเสาให้การออกแบบบ้านดูไม่แข็งจนเกินไป ตัวบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่

  • แบบบ้าน HAZEL พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 50.3 ตร.วา  3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ
  • แบบบ้าน ROWAN พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 50.3 ตร.วา 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ , 2 ที่จอดรถ
  • แบบบ้าน WILLOW พื้นที่ใช้สอย 234 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.วา 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ,  2 ที่จอดรถ

มาดูบ้านแบบ HAZEL พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม.กันก่อน สำหรับโครงสร้างบ้านทั้งหมดของโครงการนี้จะเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน ผนังก่อด้วยอิฐมวลเบาซึ่งมีคุณสมบัติในการทนความร้อนได้ดี แข็งแรง และในทุบ เจาะต่อเติมได้

บ้านแบบ HAZEL นี้มีพื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. Type นี้เป็นแบบบ้านที่มีขนาดเล็กที่สุดเหมาะกับกลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก ด้านหน้าจอดรถได้ 2 คัน แต่ไม่มีทางเข้าจากที่จอดรถนะคะด้วยพื้นที่ที่จำกัด  ทางเข้าหลักจะอยู่ด้านหน้าบ้านแค่ทางเดียว เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร มีพื้นที่ให้ทำ Pantry เล็กๆเอาไว้เตรียมอาหารหรือเสิร์ฟอาหารหน้าห้องครัวได้ เนื่องจากตัวบ้านเป็นทรงสี่เหลี่ยมที่ไม่ลึกมากนัก และผนังส่วนใหญ่ก็มีหน้าต่างอยู่หลายบาน จึงทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้ดี ช่วยให้บ้านมีความโปร่งโล่ง และผนังด้านข้างบ้านจะมีประตูบานเลื่อนออกไปที่สวนได้อีกด้วย สำหรับครัวทางโครงการไม่ได้กั้นประตูมาให้แต่เนื่องจากตำแหน่งเป็นสัดส่วนดีอยู่แล้ว การจะกั้นประตูเพิ่มทำได้ไม่ยากเลย ด้านหลังก็มีลานซักล้างที่เชื่อมต่อกับครัว สามารถใช้งานได้สะดวกโดยไม่ต้องไปรบกวนส่วนอื่นๆในบ้าน ถ้ามีแม่บ้านก็จะเข้าจากทางหลังบ้านได้เลย ชั้นนี้จะมีห้องน้ำที่อาบน้ำได้  1 ห้อง ใช้เป็นห้องน้ำแขกหรือลงมาใช้ในเวลาเร่งด่วนได้ รวมๆแล้ววางผังได้ลงตัวดี

ชั้น 2 แบ่งได้เป็น 3 ห้องนอน ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำและมุม Walk-in Closet ในตัว มีระเบียงทางฝั่งหน้าบ้านให้ออกไปสูดอากาศ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องมีขนาดพอๆกัน วางเตียงและตู้เสื้อผ้าได้ครบแต่ห้องน้ำต้องออกมาใช้รวมกันข้างนอก ในเวลาเร่งด่วนก็สามารถลงไปใช้ห้องน้ำข้างล่างได้ ทั้ง 2 ห้องมีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ สำหรับครอบครัวไหนที่ต้องการห้องนอนแค่ 2 ห้อง อีกห้องอาจจะปรับเป็นห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นชั้นบนอีกห้องก็ได้ค่ะ

หน้าบ้านจอดรถได้ประมาณ 2 คัน ประตูรั้วบ้านเป็นแบบรางเลื่อนแบบโปร่ง วัสดุเป็นเหล็กสีดำ เลื่อนมาเก็บทางด้านข้างตามภาพ

หน้าบ้านจะมีช่องทิ้งขยะที่เราทิ้งจากในบ้านได้เลย พอถึงเวลาก็จะมีคนมาเก็บจากด้านนอกโดยไม่ต้องมารบกวนคนที่อยู่ในบ้าน

หน้าบ้านมีกริ่ง ไฟหน้าบ้าน และตู้จดหมายมาให้

ที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คันแบบอยู่ในร่ม ถ้าเราอยากได้ร่มเงาที่มากกว่านี้ก็สามารถต่อเติมหลังคาโรงรถได้ สำหรับที่จอดรถและลานซักล้างทางโครงการเค้าลงเสาเข็มมาให้แล้วค่ะ ซึ่งจะรองรับการต่อเติมได้ประมาณหนึ่งและช่วยกันเรื่องการทรุดตัวได้ด้วย

เดินอ้อมมาด้านหลังจะเจอแท้งค์น้ำ

พอเลี้ยวมาก็จะเจอกับลานซักล้างอยู่หลังบ้าน บริเวณนี้ถือว่าเป็นส่วน Service ของบ้านเลยค่ะ

พื้นที่ใช้สอยประมาณนี้สามารถใช้เป็นลานซักล้างหรือทำเป็นครัวไทยได้ สังเกตว่าเค้าไม่ปูกระเบื้องชิดตัวบ้านแต่จะมีการเว้นระยะและโรยกรวด ซึ่งการทำพื้นแบบนี้จะช่วยลดการทรุดของตัวบ้านได้เพราะพื้นไม่ได้เกาะอยู่กับโครงสร้างหลักของบ้าน บริเวณนี้ทางโครงการเค้าลงเสาเข็มมาให้ด้วยนะคะ

อ้อมมาอีกฝั่งหนึ่งจะเห็นช่องแสงจากประตูกระจกบานเลื่อน ที่สามารถเปิดออกมาที่สวนข้างบ้านได้ ถ้าเราจัดสวนบริเวณนี้สวยๆมองออกมาก็เห็นวิวเป็นพื้นที่สีเขียว ดูสบายตาดี

ทางเข้าของบ้าน Type นี้จะอยู่ที่ประตูหลักบานนี้เท่านั้น ด้านหน้าจะมีเฉลียงเล็กๆก่อนเข้าบ้าน สามารถใช้เป็นที่วางรองเท้าได้ ด้านข้างมีตู้เก็บของมาให้ โดยระดับพื้นของตัวบ้านจะยกสูงขึ้นมาจากที่ดินซึ่งจะช่วยกันฝุ่นและน้ำฝนได้พอสมควรเลย

ด้านข้างจะเป็นตู้เก็บของ ที่หน้าบานเป็นบานเกร็ดสีขาว สามารถเปิดออกมาเก็บของเล็กๆน้อยๆพวกไม้กวาด ไม้ถูพื้น เป็นต้น

หน้าประตูทางเข้าด้านหน้ามีติดตั้งตัวล็อคมาให้ตามแบบในภาพ

พร้อมกับตัวล็อคอีกชั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้าน

โครงการมีสัญญาณกันขโมยในตัวบ้านทั้งหลังด้วย ระบบ Magnetic & Shock Censor ซึ่งจะติดอยู่ตามประตู-หน้าต่าง ถ้ามีเหตุเกิดแล้วจะส่งสัญญาณเตือนไปยังศูนย์รักษาความปลอดภัยส่วนกลางทันที

เข้ามาในบ้านจะเจอกับพื้นที่โล่งๆก่อน ในบ้านตัวอย่างเค้าจัดออกมาเป็นห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร บริเวณนี้ค่อนข้างโปร่งเพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่จากบานประตูด้านข้างบ้าน โดยประตูหน้าต่างของโครงการนี้ทั้งหมดเป็นกรอบบานอลูมิเนียม กระจกสีเขียวตัดแสง สำหรับฝ้าเพดานมีความสูง 2.60 เมตร และทางโครงการก็มีติดตั้ง Wallpaper มาให้ทั้งหลัง สีออกครีมๆตามบ้านมาตรฐานค่ะ

มุมดูทีวีหน้าบ้านก็ได้ความโปร่งจากช่องแสงที่หน้าต่างเช่นเดียวกัน โดยระยะดูทีวีอยู่ที่ 3 เมตร สามารถวางทีวีได้ขนาดถึง 60″ เลยค่ะ

ถัดมาดูที่พื้นที่รับประทานอาหาร บริเวณนี้กว้างพอสมควรสามารถจัดชุดที่นั่งได้ประมาณ 4-5 ที่นั่ง และยังสามารถทำเคาน์เตอร์แบบ Pantry ได้อีกด้วย จากมุมนี้มองออกไปก็จะเห็นสวนข้างบ้านค่ะ

พื้นที่รับประทานอาหารจะเชื่อมต่อสวนข้างบ้าน เราสามารถทำเฉลียงแบบนี้แล้ววางชุดโต๊ะเก้าอี้ออกมานั่งเล่นพักผ่อนได้

อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านจะเป็นห้องครัว ห้องน้ำและบันไดทางขึ้นชั้น 2 เราจะเห็นว่าสามารถทำเป็น Pantry เล็กๆหน้าห้องครัวได้ แต่ครัวจะไม่มีประตูกั้นมาให้นะคะ ถ้าอยากได้เป็นครัวปิดก็สามารถกั้นเองได้ไม่ยาก

สำหรับห้องครัวทางโครงการไม่ได้ให้เคานเตอร์มานะคะ เป็นห้องโล่งๆเลย แต่จะเดินงานระบบต่างๆมาให้ครบครัน เราสามารถเลือก Built-in ครัวได้เองตามความชื่นชอบ

ห้องนี้มีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศด้วย ซึ่งจะสามารถช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องครัวได้

ส่วนประตูครัวได้เป็นบานทึบสีขาว ซึ่งถ้าเปิดออกไปจะเป็นลานซักล้างค่ะ

ปลั๊กและสวิตช์ใช้ของ Siemens ค่ะ

ห้องน้ำรวมที่ชั้นล่างตกแต่งด้วยโทนสีสว่าง แบ่งออกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน และมีช่องระบายอากาศมาให้ด้วย กระจกส่องหน้าเราจะได้หน้าตาแบบนี้เลยนะคะ

อ่างล้างหน้าได้เป็นทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard ค่ะ ด้านหลังมี Low Wall เอาไว้วางของใช้เล็กๆน้อยๆได้

โถสุขภัณฑ์ก็เป็นของ American Standard เช่นเดียวกัน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆมาให้ครบ

พื้นที่อาบน้ำมีหน้าต่างระบายอากาศด้วย แต่ไม่ได้กั้นฉากกั้นอาบน้ำมาให้ซึ่งเราสามารถหามาติดตั้งเองได้ไม่ยากค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.96 x 1.26 เมตร ถือว่าใหญ่กว่ามาตรฐาน อาบได้สบายๆค่ะ

ฝักบัวที่ทางโครงการให้มาจับได้ถนัดมือ

มาถึงบริเวณด้านข้างบันไดจะมีห้องเก็บของใต้บันไดอยู่ เราสามารถเอาของมาเก็บบริเวณนี้ได้และก่อนเข้าไปยังห้องเก็บของก็มีโถงเล็กๆให้เราได้วางชั้นวางของเพิ่มได้อีก

ห้องเก็บของพอเปิดออกมาถือว่ามีขนาดที่เก็บของได้พอสมควรเลย ภายในห้องมีไฟส่องสว่างและงานระบบไฟต่างๆก็จะถูกเก็บไว้ในนี้ด้วยค่ะ เป็นระเบียบเรียบร้อยดี

อันนี้คือแผงควบคุมระบบ Magnetic & Shock Censor ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ทุกหลัง

เราขึ้นไปดูชั้น 2 กันค่ะ สำหรับโครงสร้างบันไดจะเป็นเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ Joint

บริเวณโถงบันไดจะได้รับแสงสว่างจากหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้บรรยากาศโดยรวมไม่มืด ช่วยลดการใช้ไฟเวลากลางวันได้ค่ะ

พอเดินขึ้นบันไดมาจะผ่านชานพักทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่มีขนาดกว้างพอสมควร เดินขึ้นง่ายค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นจะเปลี่ยนเป็นลามิเนตลายไม้สีเดียวกับขั้นบันได

มองย้อนกลับไปจะเห็นว่าโถงบันไดได้ความสว่างจากบานหน้าต่างพอสมควรเลย เนื่องจากโถงตรงนี้ค่อนข้างสูง เราสามารถหาโคมไฟสวยๆมาแขวนตกแต่งได้นะคะ

พอขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับโถงเล็กๆก่อนจะแจกไปยังห้องต่างๆ โดยห้อง 2 ห้องทางฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอนเล็ก ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ทุกคนต้องมาใช้ด้วยกัน ส่วนห้องที่อยู่ทางฝั่งขวามือเป็น Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัวค่ะ

เดี๋ยวเราจะไปดูที่ห้องนอนใหญ่กันก่อนนะคะ

ห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียงได้แบบ King Size ในบ้านตัวอย่างเค้ามี Built-in ตกแต่งหัวเตียงเพิ่มเติมนะ แต่ของจริงเราจะมีหน้าต่างขนาบซ้ายขวาอยู่ ถ้าใครไม่อยากให้มีแสงจากหน้าต่างมาแยงตาเวลานอนก็สามารถหาม่านมาปิด หรือทำ Partition เหมอนในบ้านตัวอย่างได้ ฝ้าเพดานของชั้น 2 ก็ยังคงสูง 2.60 เมตร ห้องนี้มีระเบียงให้ออกไปยืดสูดอากาศได้ด้วย

ผนังบริเวณหัวเตียงมีการตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อปิดช่องแสงจากหน้าต่าง จริงๆจะต้องมีหน้าต่างขนาบซ้ายขวา ส่วนพื้นที่ข้างเตียงจะสามารถวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ปลายเตียงมีระยะจากเตียงถึงผนังประมาณ 0.80 เมตร พอจะวางตู้แขวนเล็กๆได้ ถ้าอยากประหยัดพื้นที่แนะนำให้แขวนทั้งหมดนะคะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.92 x 3 เมตร สามารถเอาเก้าอี้ออกไปนั่งเล่นสูดอากาศได้เลยค่ะ โดยวัสดุปูพื้นของระเบียงเป็นกระเบื้องเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ Outdoor ที่อาจจะมีฝนตกหรือมีฝุ่นเพราะสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย

อีกฝั่งของห้องจะเป็นห้องแต่งตัวและห้องน้ำอยู่คนละฝั่งกับห้องนอน ดึกๆถ้ามีใครนอนอยู่เราสามารถย่องมาเข้าห้องน้ำหรือแต่งตัวได้โดยที่ไม่รบกวนส่วนนอนพักผ่อนมากนัก แนะนำให้ทำประตูกั้นโซน Walk-in Closet เพิ่มจะช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

พื้นที่ Walk-in Closet ทำออกมาได้ประมาณนี้ วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ตลอดแนวผนังเป็นรูปตัว L สามารถดูเป็นไอเดียในการตกแต่งได้นะคะ

ห้องน้ำแบ่งออกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน แต่ต้องไปติดฉากกั้นอาบน้ำด้วยตัวเองนะ

สุขภัณฑ์ต่างๆได้ของ American Standard เช่นเดียวกับห้องก่อนหน้า

บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีช่องหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศด้วยค่ะ และผนังด้านข้างฝักบัวมีช่องสำหรับวางสบู่ แชมพูมาให้

พื้นที่อาบน้ำห้องนี้มีขนาด 1.65 x 0.90 เมตร อาบได้สบายๆมีการลดระดับกันน้ำไหลไปโดนส่วนอื่นๆให้เรียบร้อย

ต่อมาเราจะพาไปดูห้องน้ำที่ใช้รวมกันและห้องนอนอีก 2 ห้อง

ห้องน้ำการตกแต่งบรรยากาศและวัสดุคล้ายๆของเดิม มีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศเช่นเดียวกัน

สำหรับห้องนอนเล็กจะมีขนาดพอๆกัน ห้องนี้วางเตียงได้แบบ 3.5 ฟุตซึ่งพอดันเข้าไปที่ผนังจะทำให้มีระยะสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงได้ ห้องนี้มีหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งช่วยให้ลมได้พัดผ่านได้ดี

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงสามารถวางเป็นตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ

ห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งทางโครงการจัดเป็นห้องนั่งเล่น สำหรับใครที่ไม่อยากจัดเป็นห้องนอนก็สามารถตกแต่งแบบในบ้านตัวอย่างนี้ได้นะคะ  ห้องนี้มีหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งเช่นเดียวกัน

มาถึงแบบบ้าน ROWAN พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 50.3 ตร.วา 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ , 2 ที่จอดรถ เป็นบ้านขนาดกลาง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้นมาหน่อย มีการจัดฟังก์ชั่นต่างๆได้ลงตัวมากขึ้น

บ้านแบบ ROWAN พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม. จอดรถได้ 2 คันเท่าเดิมแต่เพิ่มเติมคือมีประตูทางเข้าจากที่จอดรถแล้ว เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น ชั้นล่างนอกจากห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร ยังสามารถจัดห้องอเนกประสงค์มาเพิ่มได้อีก 1 ห้อง จะทำเป็นห้องนอนแขกหรือห้องนอนผู้สูงอายุก็ได้เพราะอยู่ใกล้กับห้องน้ำและมีประตูทางออกไปที่ Terrace สามารถเข้าห้องได้ง่ายโดยไม่ต้องเดินผ่านห้องอื่นๆเลย ด้านในสุดเป็นครัวปิดที่กั้นเป็นสัดส่วน สำหรับครอบครัวไหนที่ชอบทำอาหาร ก็สามารถออกไปผัดได้ที่ครัวไทยด้านนอก โดยเราสามารถทำเคาน์เตอร์ครัวไทยบริเวณลานซักล้างที่อยู่ด้านหลังได้ค่ะ

ชั้นบนแบ่งเป็น 3 ห้องนอนเช่นเดิม ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำและWalk-in Closet ในตัว มีระเบียงที่เดินเชื่อมไปยังส่วน Family Area หรือพื้นที่นั่งเล่นซึ่งบ้าน Type นี้จะมีตรงนี้เพิ่มขึ้นมา ใช้เป็นส่วนพักผ่อนทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวอีก 1 จุด ห้องนอนเล็กแบ่งออกเป็น 2 ห้อง โดยขนาดห้องจะใหญ่ขึ้นมากว่าบ้านแบบแรกหน่อย แต่ห้องน้ำต้องใช้รวมกันเหมือนเดิมค่ะ

ในส่วนของบ้านตัวอย่างที่เข้าไปถ่าย ไม่ได้ทำรั้วประตูหน้าบ้านไว้ให้ เลยขออนุญาตไปถ่ายแปลงอื่นที่กำลังก่อสร้างพึ่งเสร็จไปนะ ซึ่งก็จะได้เป็นประตูรั้วเหล็กเลื่อน ประตูแบบนี้เอาไปติดพวกแบบมอเตอร์ไฟฟ้าได้ง่าย ถ้ามีงบหน่อยก็ยอมเพิ่มเถอะ จะได้ไม่ต้องลงมาตากแดดตากฝนเปิดปิดประตูค่ะ

บริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน โครงสร้างเป็นแบบ Slab on beam วัสดุพื้นที่ให้มาเป็นคอนกรีต ก่อนทางเข้าบ้านมีตู้เก็บของเล็กๆอยู่ และ Type นี้จะมีประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถแล้ว ซึ่งเวลาถือของหนักๆก็สามารถเอาเข้าบ้านจากประตูนี้ได้เลย

หันมาด้านข้างจะเป็นทางเดินไปประตูหน้าบ้าน ซึ่งจะเจอกับเฉลียงที่ค่อนข้างยาว สามารถใช้วางรองเท้าได้ บริเวณหน้าบ้านทางโครงการจะลงต้นไม้มาให้ตามภาพ

อ้อมมาด้านข้างบ้านจะเจอกับประตูที่สามารถเชื่อมออกมาบริเวณสวนได้

เดินมาจนถึงด้านหลังบ้านก็ยังคงมีบานประตูที่ให้มาแบบเต็มแบบ และสุดทางจะเป็นลานซักล้าง

ลานซักล้างหรือส่วน Service หลังบ้านจะต่อเนื่องกับห้องครัว ถ้าครอบครัวไหนชอบทำอาหารก็ยกเตาออกมาผัดทำเป็นครัวไทยบริเวณนี้ได้

อ้อมมาอีกฝั่งหนึ่งก็เป็นลานซักล้าง เอาไว้วางเครื่องซักผ้า + ตากผ้า ด้านหน้ามีผนังกั้นบังตาดูเป็นสัดส่วนดี

เรากลับมาที่หน้าบ้านจะเห็นว่าเฉลียงยาวครอบคลุมทั้งทางเข้าหน้าบ้านและห้องอเนกประสงค์เลย

บ้านมาตรฐานจะเป็นห้องโล่งๆต่อเนื่องกันไปเลย ส่วนบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร หน้าต่างบริเวณส่วนนี้ค่อนข้างเยอะทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาทำให้บ้านดูโปร่ง

มุมนี้จะได้แสงจากผนังทั้ง 2 ฝั่ง พื้นที่บริเวณนี้มีขนาดกว้างขวางพอสมควร สามารถวางโซฟาแบบ L-Shape ได้เลย สามารถนั่งดูทีวีไป ชมวิวไปด้วยได้

ถัดมาเป็นห้องรับประทานอาหารซึ่งจัดได้ประมาณ 6 ที่นั่ง + เคาน์เตอร์เตรียมอาหารด้านข้าง บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเลย ถือเป็นมุมที่ทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัวค่ะ

มุมนี้ในบ้านมาตรฐานจะเป็นกระจกแบบเข้ามุม ซึ่งห้องนี้ก็คือห้องอเนกประสงค์ที่มีระเบียงยาวมาเชื่อมกันที่ทางฝั่งหน้าบ้านนั่นเอง เหมาะกับการทำเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อน ห้องทำงาน หรือห้องนอนผู้สูงอายุค่ะ

ในบ้านตัวอย่างเค้าจัดเป็นห้องนั่งเล่น พักผ่อน ดูหนังซึ่งก็มีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ

เดินถัดมาจะเจอกับโถงยาวๆ ที่จะพาไปบริเวณห้องครัว ห้องน้ำและบันไดทางขึ้นชั้น 2

ห้องน้ำการตกแต่ง การเลือกใช้วัสดุและสุขภัณฑ์คล้ายกับห้องก่อนหน้าเลย จุดที่เราชอบคือมีช่องแสงมาให้เกือบทุกห้องซึ่งทำให้ภายในห้องน้ำมีการระบายอากาศที่ดี ไม่อับชื้นค่ะ

สุขภัณฑ์ของ American Standard แบบเดียวกับบ้านก่อนหน้า

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบครัน แต่ต้องหาฉากกั้นอาบน้ำมาติดเพิ่มเอง โดยจะเป็นกระจกนิรภัยหรือม่านพลาสติกสวยๆก็ได้ค่ะ

ประตูทางฝั่งซ้ายคือทางออกไปที่จอดรถ ซึ่งฝั่งตรงข้ามจะมีพื้นที่ให้ Built-in เป็นตู้สำหรับเก็บของ+วางกุญแจรถ กุญแจบ้านได้ ด้านในสุดคือห้องครัวซึ่งในบ้านมาตรฐานของจริงจะมีประตูมาให้ด้วยนะคะ

ครัวได้เป็นห้องโล่งๆที่เรามาออกแบบได้เอง โดยจะมีงานระบบติดตั้งมาให้ครบ มีช่องแสงระบายอากาศมาให้

พอเปิดประตูนี้ไปจะเป็นลานซักล้าง บริเวณนี้ถือป็นส่วน Service ของบ้าน ถ้าทำครัวแล้วมีกลิ่นก็สามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศได้นะ

บันไดทางขึ้นชั้น 2 วัสดุเหมือนกับบ้านก่อนหน้าค่ะ

บ้านแบบนี้ห้องเก็บของใต้บันไดจะมีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งด้านในห้องเก็บของมีการปูกระเบื้องและติดไฟส่องสว่างมาให้เรียบร้อย

เดินขึ้นมาจะเจอกับชานพักเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได้ตามเดิม

บริเวณโถงบันไดนี้ก็มีช่องแสงค่ะ เวลากลางวันแทบจะไม่ต้องเปิดไฟเลย พอขึ้นมาที่ชั้น 2 วัสดุพื้นก็จะเปลี่ยนมาเป็นลามิเนตนะคะ

บ้านหลังนี้ขึ้นมาจะเจอกับ Family Area ก่อน สามารถวางชุดโซฟาเอาไว้นั่งพักผ่อนได้

มาดูที่ห้องนอนใหญ่ บรรยากาศค่อยข้างโปร่งเพราะได้ช่องแสงรอบด้าน มีพื้นที่วางเตียงได้แบบ King Size

ประตูทางออกไปที่ระเบียงเป็นบานเลื่อน 3 ตอน ดูโปร่งดี

ราวกั้นตกที่โครงการให้จะเป็นกระจกเทมเปอร์นะคะ ซึ่งเวลาแตกมันจะแตกเป็นเกล็ดเล็ก ๆ คล้ายเม็ดข้าวโพดและไม่มีคมจึงเกิดอันตรายน้อย  ระเบียงจะยาวต่อเนื่องกันจนไปถึงห้อง Family Area เลยค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็น Walk-in Closet และ ห้องน้ำ บ้านมาตรฐานจะมีกั้นประตูมาให้ด้วย

ในบ้านมาตรฐานเราจะได้ประตูบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมแบบนี้นะคะ กั้นระหว่างห้องนอนกับ Walk-in Closet ทำให้พื้นที่มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ให้เรา Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ พออาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก

ภายในห้องน้ำบรรยากาศและการตกแต่งคล้ายๆกับห้องก่อนหน้า

มาดูห้องนอนเล็กกัน ห้องนี้จะมีมุมที่หนึ่งที่ยื่นออกไป เราสามารถวางเป็นเก้าอี้หรือโต๊ะทำงานได้ ถือเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องและได้ฟังก์ชั่นเพิ่มเข้ามาด้วย

ผนังบริเวณปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ทั้งแผงเลยค่ะ

ต่อคือห้องนอนอีกห้อง ในบ้านตัวอย่างจัดออกมาได้น่ารักทีเดียว ห้องนี้ก็มีหน้าต่างระบายอากาศถึง 2 ฝั่งค่ะ

สำหรับห้องน้ำที่ใช้รวมกันแบ่งออกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน พร้อมมีหน้าต่างระบายอากาศมาให้

แบบบ้าน WILLOW พื้นที่ใช้สอย 234 ตร.ม. เป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ เป็นบ้านหน้ากว้าง มีช่องแสงเยอะดังนั้นจึงรับแสงธรรมชาติได้ดี สังเกตจากรูปด้านหน้าบ้านจะมีระเบียงขนาดใหญ่ให้ออกมานั่งเล่นพักผ่อนได้

แบบบ้าน WILLOW พื้นที่ใช้สอย 234 ตร.ม. ผังจะมีความคล้ายบ้านแบบ Rowan เลย แต่จะต่างกันที่ขนาดของห้องแต่ละห้อง ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่า การจัดพื้นที่ใช้สอยลงตัวมากกว่า เช่นครัวทางโครงการจะกั้นเป็นครัวปิดมาให้แล้ว ถ้าใครชอบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะหน่อย ก็จะเหมาะกับบ้าน Type นี้ค่ะ

ส่วนชั้นบนก็เช่นกันแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำและ Walk -in Closet ในตัว และมีระเบียงให้ออกไปสูดอากาศ โดยระเบียงจะยาวเชื่อมไปถึง Family Area ที่อยู่ห้องข้างๆกันเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 4 June 2019

  • ราคาเริ่มต้น 6 – 10 ล้านบาท (รอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางโครงการ)
  • จองและทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 59 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : Venue พระราม 9 ตั้งอยู่ตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษกตะวันออก ใกล้กับถนนศรีนครินทร์–ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก โดยเชื่อมต่อกับถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (หรือเรียกอีกชื่องหนึ่งว่าถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) ปัจจุบันมีการเปิดใช้แล้วบางส่วนการจราจรยังไม่หนาแน่นนัก ถ้าถนนเส้นกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่นี้สร้างเสร็จทั้งเส้น จะทำให้สามารถเดินทางไปยังถนนศรีนครินทร์และถนนรามคำแหงได้สะดวกมากๆ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์จะมีบริเวณ ถนนพัฒนาชนบท 3  , เคหะร่มเกล้า , ถนนร่มเกล้า และบนถนนรามคำแหงก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร Community mall อย่าง The Paseo Town รามคำแหง สัมมากรเพลส มี ท็อปส์ มาร์เก็ต สุขาภิบาล3 , Golden Place และ Makro ให้จับจ่ายใช้สอยกันค่ะ นอกจากเรื่องของกินแล้ว แถวนี้ยังมีสถานศึกษาและโรงพยาบาล ถือว่าเป็นกำลังที่ครบครันค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ถือว่าให้ค่อนข้างดี มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบระบบประตู 2 ชั้น Double Gate ซึ่งบริเวณซุ้มประตูจะมีทั้ง Easy Pass และ CCTV เลย ซึ่งนอกจากจะมีติดอยู่บริเวณป้อมรปภ.แล้ว  CCTV ยังมีติดอยู่ 52 จุดทั่วทั้งโครงการเลยค่ะ อีกทั้งในตัวบ้านยังมี ระบบ Magnetic และ Shock Sensor มาให้ด้วย

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : ทำออกมาได้ดีทั้งการวางผังให้มีความเป็นส่วนตัว และบ้านอยู่ในทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่ร้อน ตัวบ้านเน้นวางผังให้ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ โดย Type ROWAN และ WILLOW จัดให้มีถึง 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และมีการเปิดช่องแสงจากหน้าต่างทำให้ได้แสงสว่างค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่บ้านแบบ Rowan จะมีห้อง Family Area เอาไว้ใช้พักผ่อนกันในครอบครัวด้วย

วัสดุ : ถือว่าให้มาดี โครงสร้างเป็นแบบก่ออิฐ ฉาบปูน แข็งแรงดี และเหมาะแก่การต่อเติม เจาะติดตั้งอะไรเพิ่มเติมได้ง่าย มี Wallpaper ให้ทั้งหลัง พร้อมแอร์ 3 ตัว (Promotion) พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ พื้นชั้นบนเป็นลามิเนต ส่วนห้องน้ำต่างๆเลือกกระเบื้องได้เหมาะสมกับการใช้งาน บ้านนี้มีส่วนของกระจกเยอะมากๆ ซึ่งมีผลต่อต้นทุนบ้านไม่น้อยค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : เนื่องจากโครงการมีแนวคิดการออกแบบใกล้ชิดธรรมชาติ จึงจัดพื้นที่สีเขียวมาให้ค่อนข้างเยอะตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าโครงการ และบริเวณกลางโครงการจะมีสวนส่วนกลางขนาด 1-0-34.5 ไร่ มาให้อีกหนึ่งจุด และยังมีสวนแทรกมาให้อยู่รอบๆโครงการ พื้นที่ส่วนกลางมีการเลือกพวกต้นไม้ต่างๆได้บรรยากาศสวยงามดี 

สาธารณูปโภค : ให้มาครบในส่วนที่ต้องใช้คือมี Clubhouse ที่มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและห้องเด็กเล่นให้ใช้ การวาง Clubhouse ไว้ด้านหน้า ลูกบ้านจะมาใช้รวมกันที่นี่โดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของส่วนพักอาศัยด้านใน การตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางดูสวยงาม น่าใช้งาน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 6 – 10 ล้านบาท, 4 June 2019

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 –  ติดถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก เดินทางสะดวก
  • ความปลอดภัย 8.25/10 – ระบบประตู 2 ชั้น Double Gate (รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน + Easy Pass) ,  ระบบ Magnetic & Shock Censor 
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – ออกแบบได้ลงตัว เน้นการใช้พื้นที่ใช้สอย ช่องแสงเยอะ 
  • วัสดุ 8/10 – วัสดุในบ้านได้ค่อนข้างสมกับราคา
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – มีพื้นที่สีเขียวมาให้เยอะพอสมควร  บรรยากาศดี 
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – ส่วนกลางครบ Clubhouse Fitness สระว่ายน้ำ ห้องเด็กเล่น 
  • 7.93 / 10.00 

BOTTOM LINE

Venue พระราม 9 เหมาะกับคนที่กำลังตามหาบ้านไม่ไกลจากตัวเมืองทั้งเส้นหลักอย่างพระราม 9 , กรุงเทพกรีฑา และร่มเกล้า เน้นเรื่องความปลอดภัย ชอบโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางครบครัน อยากได้ตัวบ้านที่มีความโปร่ง โล่ง ระเบียงกว้าง สามารถทุบต่อเติมได้ ซึ่งมีงบ 6 -10 ล้านบาท หรือกำลังผ่อนชำระต่อเดือนประมาณ 49,000 – 70,000 บาท/เดือน