VARAROM SUKSAWAT 76 (วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76) บ้านสไตล์ English Classic 7-12 ล้าน สังคมส่วนตัว 134 ยูนิต ใกล้วงแหวนกาญจนาฯ จาก Q House [รีวิวฉบับที่ 2684]

VARAROM SUKSAWAT 76 (วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76) ณ วันที่ 8 มีนาคม 2567

พิกัด Google Maps : 13.612875, 100.519620
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ VARAROM SUKSAWAT 76 (วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76) ค่ะ

โครงการ VARAROM SUKSAWAT 76 (วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76) เป็นหนึ่งในกลุ่มโครงการบ้านเดี่ยวประชาอุทิศตอนปลาย ซึ่งย่านนี้ได้ต่อขยายความเจริญมาจากแถบประชาอุทิศ-ทุ่งครุ-บางมด ออกมายังโซนด้านล่างของถนนกาญจนาภิเษก สังเกตจาก 4 – 5 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีโครงการจัดสรรใหม่ๆเกิดขึ้นหลายโครงการ ซึ่งทำราคาให้หยิบจับง่ายกว่าในเวิ้งทุ่งครุ-บางมดที่มีราคาบ้านเดี่ยวมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป แลกกับการยอมขยับออกมานอกเมืองหน่อย ไกลจากจุดขึ้นทางด่วนเพิ่มสัก 20 นาทีค่ะ

ตัวช่วยในการเดินทางของโซนนี้ ได้แก่

• วงแหวนกาญจนาภิเษก : มีทางขึ้นวงแหวนอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 5.1 km. ใช้เชื่อมต่อรอบนอกกรุงเทพฯ อย่างโซนบางแค, บางนา, เทพารักษ์, ศรีนครินทร์
• วงแหวนอุตสาหกรรม : ทางขึ้นจะอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ห่างจากโครงการไป 7.9 km. ใช้เข้าเมืองไปทางพระราม 3 ได้สะดวก
• ทางพิเศษเฉลิมมหานคร : ทางขึ้นจะอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ห่างจากโครงการไป 9.6 km. ใช้เข้าเมืองไปทางพระราม 3, พระราม 4, คลองเตยได้

โครงการวรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76 สามารถเข้าออกได้จากถนนหลักสุขสวัสดิ์และประชาอุทิศ  สรุปทางเข้า-ออกได้ 3 เส้นทาง ดังนี้

• เส้นทางที่ 1 : จากซอยประชาอุทิศ 131 มีระยะประมาณ 950 m.
• เส้นทางที่ 2 : จากซอยสุขสวัสดิ์ 76 มีระยะประมาณ 2.9 km.
• เส้นทางที่ 3 : จากซอยสุขสวัสดิ์ 74 มีระยะประมาณ 3.3 km.

ประชาอุทิศตอนปลายเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งฝั่งสุขสวัสดิ์และประชาอุทิศเลยนะคะ  โซนนี้มีความเป็นชุมชนพักอาศัยเดิมที่มีตลาดและแหล่งช้อปปิ้งให้ซื้อของเข้าบ้านได้ตลอดเส้นทาง ทั้ง BigC Market, ร้านค้า, ร้านอาหารริมทางมากมาย มีเวิ้งอาหารชิคๆสวยๆที่น่าสนใจอย่าง Garden Town หรือถ้าเป็นตามซอยที่มีหมู่บ้านต่างๆ ก็มักจะมีตลาดอยู่ภายในซอยด้วย เป็นอีกย่านที่ความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างเพียบพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยเลยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมของโครงการ วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76 อยู่ติดถนนประชาอุทิศ 131 ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ในโซนนี้เป็นที่พักอาศัยแนวราบ จึงไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ส่งผลต่อการพักอาศัยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาดเศรษฐี ประชาอุทิศ ~ 900 m.
• ตลาดซุกโก้ย อีท ~ 1.2 km.
• Big C Foodplace ประชาอุทิศ 90 ~ 1.7 km.
• ตลาดประชาอุทิศ 90 ~ 2 km.
• Homepro สุขสวัสดิ์ ~ 6.8 km.
• BigC สุขสวัสดิ์ ~ 7 km.
• เซ็นทรัล พระราม 3 ~ 14.3 km.
• เซ็นทรัล พระราม 2 ~ 15 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลบางปะกอก 3 ~ 4.6 km.
• โรงพยาบาลบางปะกอก สมุทรปราการ ~ 5.4 km.
• โรงพยาบาลเปาโล พระประแดง ~ 5.5 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา ~ 3 km.
• โรงเรียนบูรณะศึกษา ~ 4 km.
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี ~ 6.5 km.
• โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี ~ 7.2 km.

แบรนด์ Vararom (วรารมย์) เป็นหนึ่งในแบรนด์บ้านเดี่ยวของ Q House ออกแบบมาในสไตล์ English Classic ตกแต่งหน้าตาอาคารและพื้นที่ส่วนกลางให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในหมู่บ้านยุโรป

จุดเด่นหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับโครงการ Vararom สุขสวัสดิ์ 76 คือ เพื่อนบ้านไม่เยอะ ได้สังคมส่วนตัวเพียง 134 ยูนิต ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ในโซนนี้มีจำนวนเพื่อนบ้าน 200-400 ยูนิตเลยนะคะ จึงเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญ ในเรื่องของความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยค่ะ

หากดูจาก Master Plan ประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 4 เรื่องด้วยกันค่ะ ประเด็นแรก คือ ตำแหน่งของอาคาร Clubhouse และสวนส่วนกลางจะอยู่ติดแนวรั้วด้านหน้า เสริมบรรยากาศทางเข้าให้ดูดี และเป็น Buffer Zone ให้กับบ้านพักอาศัยที่อยู่ถัดเข้ามาด้านใน ไม่ติดถนนหลัก

ประเด็นที่ 2 คือ “ทิศของบ้าน” บ้านส่วนใหญ่ในโครงการจะหันทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นหลัก ซึ่งบ้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ฝั่งหน้าบ้านจะโดนแดดในช่วงเช้าและร่มในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ฝั่งหน้าบ้านจะร่มในช่วงเช้าและโดนแดดในช่วงบ่าย การเลือกบ้านว่าหันทิศไหนดีจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น หากมีคนอยู่บ้านตลอดทั้งวัน และมักจะนั่งเล่นในห้องรับแขกตลอดช่วงบ่าย ก็เหมาะกับบ้านทิศวันออกเฉียงเหนือ เพราะห้องรับแขกที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านจะร่มในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นช่วงที่แดดแรงที่สุดของวัน

ประเด็นที่ 3 การวางผังถนนเป็น Loop ทำให้สามารถเข้าออกได้หลายทาง จะสะดวกกว่าผังแบบซอยตันที่ต้องเข้าออกทางเดียว แต่การวางผังแบบ Loop ก็ทำให้มีโอกาสที่รถยนต์จะผ่านไปมาหน้าบ้านบ่อยขึ้น เพราะจะมีทั้งเพื่อนบ้านในซอยเราเองและในซอยข้างเคียงที่ขับรถผ่านบ้านเราได้ค่ะ

ประเด็นที่ 4 บ้านที่มี Value มากกว่าโซนอื่นๆ เรามองว่าเป็นบ้านหน้าสวน (กรอบสีส้ม) เพราะได้วิวสวนและไม่มีบ้านฝั่งตรงข้ามนั่นเอง แต่ก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างจากสายตาของเพื่อนบ้านที่มาใช้ Facilities ส่วนกลางด้วยเหมือนกัน อีกโซนที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงคือโซนด้านในสุด ที่ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม (กรอบสีม่วง) 

ซุ้มประตูด้านหน้าโครงการโดดเด่นด้วยหลังคาทรงสูง ตามสไตล์ English Classic ซุ้มประตูออกแบบมาให้มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนในฝั่งขาเข้า รองรับแขกของลูกบ้านที่ต้องมีการติดต่อแลกบัตร

ประตูเข้าออกโครงการเป็นไม้กั้นกระดก มีการแยกเลนระหว่าง Visitor กับลูกบ้านทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกเพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน ลูกบ้านจึงสามารถขับรถผ่านได้สะดวก โดยไม้กั้นกระดกจะเปิดอัตโนมัติด้วยการสแกนป้ายทะเบียน (License Plate)

เข้ามาในโครงการโซนแรกจะเจอกับบ้านตัวอย่างทั้ง 4 แบบที่พร้อมให้เข้าชมได้ทั้งหมด และมีพื้นที่บริเวณ Clubhouse รวมทั้งสวนส่วนกลางที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ค่ะ

สวนส่วนกลาง

สวนของโครงการมีพื้นที่รวมประมาณ 1 ไร่ ออกแบบให้เป็นพื้นที่สวนกว้างๆ สำหรับวิ่งเล่น และมีทางเดิน-วิ่ง รอบสวนยาวประมาณ 200 m. ประกอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม ซึ่งโครงการจัดมุมนั่งเล่นไว้รองรับหลายจุด สิ่งที่เราชอบก็คือมีโคมไฟในสวนติดตั้งมาให้ตามแนวทางเดิน ดูแล้วน่าจะสามารถใช้งานจนเย็น-ค่ำได้

จากสวนส่วนกลางจะมีทางเดินเชื่อมกับ Clubhouse เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความเก๋ๆ ด้วยหลังคาทรงสูง ตามสไตล์ English Classic

รอบๆ Clubhouse จะมีที่จอดรถเตรียมไว้ให้ลูกบ้านประมาณ 4-5 คัน บ้านโซนด้านหลังที่ไม่สะดวกเดินมาก็สามารถขับรถมาจอดได้

Swimming Pool

สระว่ายน้ำจะมีทั้งโซนเด็กและโซนผู้ใหญ่ เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือขนาด 6×17 m. ลึก 1.2 m. ใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง แต่เหมาะกับการใช้งานในช่วงเย็นที่แดดร่มสักหน่อย ในส่วนของสระเด็กมีขนาด 2×6 m. และมีจุดล้างตัวด้านข้างสระ เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก

จุดเด่นของสระว่ายน้ำที่นี่คือ การดีไซน์สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ให้มองออกไปเห็นวิวสวนได้แบบต่อเนื่อง ซึ่งตัวสระเป็นระบบน้ำล้นก็จะมีเสียงเหมือนน้ำตกดังอยู่ตลอด ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้เหมาะกับการพักผ่อน

ข้างสระมีทางเดินเชื่อมไปยังฟังก์ชัน Indoor ต่างๆ ประกอบด้วย ห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำ, Fitness, Lobby และ Co-Working Space

ห้องน้ำ

ห้องน้ำจะหลบมุมเข้าไปด้านใน จึงได้ความเป็นส่วนตัวและดูมิดชิดขึ้น ภายในมีห้องสุขา ห้องอาบน้ำ และตู้ล็อคเกอร์ครบครัน

Fitness

ภายใน Fitness จะจัดวางเครื่องออกกำลังกายไว้ติดหน้าต่าง เพื่อให้รับวิวสระและสวนได้ บรรยากาศในห้องจึงดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด มีอุปกรณ์ครบครัน รองรับทั้งการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training

Lobby และ Co-Working Space

Lobby และ Co-Working Space เป็นฟังก์ชันที่รวมอยู่ในห้องเดียวกัน เป็นห้องแอร์ขนาดใหญ่ ภายในจัดชุดโซฟาไว้หลายชุด และมีโต๊ะทำงานไว้รองรับ ลูกบ้านสามารถมานั่งประชุมหรือนัดพบปะ คุยธุระต่างๆ โดยไม่ต้องพาเข้าบ้านก็ได้ และห้องนี้ก็จะได้วิวสระด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย

• Lobby
• Co-Working Space
• Fitness
• สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 6×17 m.
• สระว่ายน้ำเด็ก ขนาดประมาณ 2×6 m.

• Jogging Track ระยะประมาณ 200 m.

บ้านของโครงการ Vararom สุขสวัสดิ์ 76 ออกแบบมาในสไตล์ English Classic ใช้โทนสีขาว-ครีม-เทาเป็นหลัก และมี Gimmick เล็กๆน้อยๆ ช่วยเพิ่มกลิ่นอายยุโรป ได้แก่ หน้าต่างใต้หลังคา, ลูกฟักประตู-หน้าต่าง, หลังคาด้านหน้าเป็นทรงจั่ว โดยมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

• Lillian (ลิเลียน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 171 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท
• Willa (วิลลา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 53.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 211 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.39 ล้านบาท
• Devon (เดวอน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 61.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 9.79 ล้านบาท
• Alfreda (อัลเฟรดา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 72.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 278 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้านและห้องน้ำ
  – ราคาเริ่มต้น 12.59 ล้านบาท

สรุปโครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

• หลังคาด้านหน้าทรงจั่ว ด้านหลังปั้นหยา วัสดุกระเบื้อง C-PAC Monia
• โครงสร้าง (เฉพาะแบบ DEVON,ALFREDA) ก่ออิฐฉาบปูน ทุบต่อเติมได้ในอนาคต, เฉพาะแบบ LILLIAN,WILLA Precast
• ที่จอดรถลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน เฉพาะในชายคา เทพื้นด้วยคอนกรีต
• ลานซักล้างแบบ On Ground ปูพื้นด้วยคอนกรีต
• ประตูหน้าบ้าน ประตูบานสไลด์ วงกบอลูมิเนียมสีขาว พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสง
• พื้นชั้น 1 : SPC หนา 5 mm.
• พื้นชั้น 2 : ลามิเนต หนา 8 mm.
• Built-in ในครัว เคาน์เตอร์ครัวปูนพร้อมซิงค์ล้างจาน
• โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป
• สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ American Standard ทั้งหมด
• จุดติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นทุกห้องน้ำ เฉพาะห้องนอน Master แบบ ALFREDA ให้เป็นจุดติดตั้งระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น
• ฉากกั้นอาบน้ำ Tempered Glass
• กรอบประตูหน้าต่าง อลูมิเนียมยี่ห้อ Thai Aust

เทคโนโลยี

• Censor ตรวจจับความเคลื่อนไหวในโรงจอดรถ หากมีการเคลื่อนไหวไฟจะสว่าง
• Magnetic Sensor ที่ประตูและหน้าต่างชั้น 1
• Digital Door Lock ยี่ห้อ COLT
• IP Camera 1 จุด บริเวณโถงชั้น 1
• เดิน Service ไฟรองรับการติดตั้งประตูอัตโนมัติ (เฉพาะแบบ DEVON, ALFREDA)
• Q Health ระบบจัดการอากาศภายในบ้าน มีระบบเติมอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ตัวบ้าน
• ระบบไฟตัวบ้าน

• LILLIAN โหลดไฟ 1 เฟส (15/45)
• WILLA,DEVON,ALFREDA โหลดไฟ 1 เฟส (30/100) มี Junction รองรับ EV Charger

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่างแบบ Willa (วิลลา)

Willa เป็นแบบบ้านที่มียูนิตเยอะที่สุดในโครงการ จัดฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน ที่ดินเริ่มต้นมีขนาด 53.6 ตร.ว. มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 211 ตร.ม. รองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คนกำลังดี

ชั้น 1 – เป็น Common Area โปร่งโล่ง เชื่อมถึงกันทั้งพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหาร ครัวจะได้เป็นแบบครัวปิดทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม และมีห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ติดกับห้องน้ำ รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุด้วย หรือจะใช้เป็นห้องทำงานก็เหมาะกับยุค Work From Home ดีค่ะ

ชั้น 2 – แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอน 3 ห้อง โดยมี 1 Master Bedroom ขนาดใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว อีก 2 ห้องเป็นห้องนอนลูกๆ ที่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน

ประตูรั้วเป็นซี่เหล็กโปร่ง ทำให้บ้านไม่ดูทึบ คนภายนอกสามารถมองลอดเข้าไปในบ้านได้ หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เราสามารถออกแบบสวนรอบบ้านให้ช่วยบังสายตาเพิ่มเติมได้นะคะ

หน้าบ้านมีถังขยะและกล่องจดหมายมาให้เป็นมาตรฐาน จุดที่พิเศษกว่าหลายๆ โครงการคือ กล่องจดหมายมีขนาดใหญ่ สามารถเปิดใส่พัสดุขนาดเล็ก-กลางลงไปได้

ขนาดที่ดินรอบบ้านนั้นขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินของแต่ละแปลง เราสามารถเลือกขนาดแปลงที่ดินที่เหมาะกับเราได้ อย่างบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นบ้านที่มีที่ดินด้านหน้ายาวมาก ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีรถมากกว่า 3 คัน แต่ก็ทำให้บ้านมีราคาสูงขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ

พื้นที่สวนของบ้านมาตรฐานจะมีการปูหญ้าไว้ให้พร้อมต้นไม้ใหญ่บริเวณหน้าบ้าน 1 ต้น

พื้นที่จอดรถจะมีหลังคาบังแดดมาให้เพียงส่วนหนึ่ง มีความกว้าง 7.3 m. ลึก 2 m. จอดรถเรียงกันได้ 3 คัน ซึ่งในส่วนนี้ทางโครงการจะลงเสาเข็มความยาวเท่าตัวบ้านไว้ให้เลย จึงไม่ต้องกลัวทรุดแยกออกจากตัวบ้าน

พื้นในส่วนที่เกินจากตัวบ้านจะไม่ได้ลงเสาเข็ม เป็นการเทคอนกรีตแบบ On Ground หากใครอยากต่อเติมหลังคาออกมาให้บังแดดรถได้เต็มคันก็แนะนำให้ลงเสาเข็มเพิ่มเติมหรือปรึกษาวิศวกรดูนะคะ

ภายในที่จอดรถจะมีจุดรองรับการติดตั้ง EV Charger ไว้ให้ ระบบไฟเป็นแบบ 1 เฟส (30/100) และมี Censor ตรวจจับความเคลื่อนไหวมาให้ 1 จุด หากมีการเคลื่อนไหว เช่นถอยรถเข้าบ้านหรือเดินผ่านบริเวณนี้ ไฟหน้าบ้านจะสว่างขึ้นอัตโนมัติ

ประตูหลักหน้าบ้านจะอยู่ใต้ชายคา มีหลังคาช่วยบังแดดบังฝนให้ ทำให้สามารถเดินเชื่อมต่อจากที่จอดรถมาเข้าบ้านได้สะดวก

สเปกของประตูเป็นกระจกบานเลื่อน และมีการยกระดับพื้นบ้านขึ้นจากส่วนของเฉลียงเพื่อกันน้ำไหลย้อนเข้าบ้าน

บานประตูจะติดตั้ง Digital Door Lock ของ COLT มาให้ พร้อม Magnetic Sensor ที่ประตูและหน้าต่างชั้น 1

เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นอันดับแรก ดูโปร่งโล่งด้วยความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.8 เมตร ซึ่งก็ถือว่าสูงกว่าบ้านทั่วๆไป ทำให้สามารถติดตั้งแอร์ระบบฝังฝ้าเพดานหรือจะทำฝ้าหลุมเพื่อเพิ่มความสวยงามก็ได้

บ้านมาตรฐานจะได้ตามแบบในรูปด้านล่าง พื้นชั้น 1 ปูด้วยก SPC หนา 5 mm. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว และติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ไว้ให้

พื้นที่นั่งเล่นรองรับชุดโซฟาขนาดใหญ่ 3-4 ที่นั่งได้สบาย มีระยะดูทีวีประมาณ 4 m. จึงสามารถใช้ทีวีขนาด 100″ ได้เลย

ข้างโซฟามีพื้นที่อเนกประสงค์ จะใช้สำหรับติดตั้งชั้นวางของหรือตู้โชว์ได้

พื้นที่รับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นเลย รอบข้างดูโปร่งมากด้วยประตูกระจกและหน้าต่างบานใหญ่ทำให้เห็นวิวสวนรอบบ้าน และเปิดเชื่อมไปสวนได้ พื้นที่รับประทานอาหารรองรับโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งได้พอดีๆ

บริเวณพื้นที่ทานอาหารจะมีระบบจัดการอากาศภายในบ้าน Q Health ติดตั้งไว้ให้ เจ้าตัวนี้จะทำหน้าที่เติมอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ตัวบ้าน ตัวเครื่องจะติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน และมีการเดินท่อเข้ามายังห้องต่างๆ ภายในบ้านค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของบ้านเป็นพื้นที่ของห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำและห้องครัว

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดประมาณ 3.6 x 3.2 m. จะวางเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่ 5 ฟุตก็เพียงพอทั้งคู่ และยังเหลือพื้นที่เพียงพอสำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งด้วยค่ะ

บ้านตัวอย่างตกแต่งไว้เป็นห้องอเนกประสงค์ หากบ้านไหนที่ไม่ได้มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ก็อาจจะใช้เป็นมุมพิเศษของลูกๆ ใช้ทำการบ้าน นั่งเล่น นอนกลางวัน ได้สบาย ภายในห้องมีหน้าต่าง 2 ฝั่งสำหรับรับแสงและลมธรรมชาติ ซึ่งจะได้วิวสวนฝั่งหน้าบ้าน

ในส่วนของห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์ที่ได้จะเป็นแบบครบชุดเหมือนในบ้านตัวอย่างค่ะ ระดับพื้นจะแยกพื้นที่ส่วนเปียก/แห้งไว้เป็นสัดส่วน แต่ถ้าใช้อาบน้ำเป็นประจำก็แนะนำให้ติดฉากหรือม่านกั้นอาบน้ำเพิ่มนะคะ ดูๆ แล้วห้องน้ำนี้ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้สูงอายุที่ยังเดินเหินได้สะดวก หากต้องการห้องน้ำชั้นล่างที่ใหญ่ขึ้นแนะนำให้พิจารณาแบบ DEVON และ ALFREDA ดูนะคะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.8 x 0.8 m.

สุขภัณฑ์จาก American Standard มาพร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่

อ่างล้างหน้าเป็นแบบติดตั้งเข้ากับผนังของยี่ห้อ American Standard

ห้องครัวที่ให้มาเป็นครัวปิดมีประตูติดตั้งมาให้ ภายในมีหน้าต่างบานใหญ่ใช้เปิดระบายกลิ่นควันได้สะดวก

ภายในครัวจะมีเคาน์เตอร์ครัวปูนมาให้ตามแบบในรูปด้านล่าง พร้อมติดตั้งซิงค์ล้างจานและมีการลดระดับในส่วนของที่วางเตาแก๊สไว้ให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งเราสามารถไป Built-in หน้าบานตู้และติดตั้งตู้ลอยเพิ่มเติมได้ จะช่วยให้เก็บของได้เยอะขึ้น

ซิงค์ที่โครงการติดตั้งมาให้อยู่ในตำแหน่งที่ติดกับหน้าต่างเลย จึงเปิดระบายความชื้นได้ดี

ประตูหลังบ้านออกแบบมาให้มีช่องกระจกรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องครัว

ลานซักล้างหลังบ้านจะมีการปูเทพื้นคอนกรีตแบบ On Ground มีพื้นที่พอให้วางราวตากผ้าขนาดใหญ่ได้ แต่หากต้องการต่อเติมก็แนะนำให้ปรึกษาวิศวกรก่อนนะคะ ระดับของลานซักล้างจะต่ำกว่าตัวบ้านเพื่อกันน้ำไหลย้อนเข้าตัวบ้าน

อีกฟังก์ชันหนึ่งที่อยู่หลังบ้านคือห้องเก็บของ เป็นห้องใต้บันไดที่ใช้เก็บของชิ้นใหญ่อย่างอุปกรณ์ทำสวนได้สบายๆ

อีกมุมเก๋ๆ ในบ้านบนชั้น 1 ก็คือมุมใต้บันได ซึ่งโครงการตกแต่งไว้เป็นพื้นที่วางของตั้งโชว์ หรือเป็นมุมอเนกประสงค์สำหรับนั่งทำงานอดิเรกก็ได้ โดยพื้นที่มีขนาด 1 x 0.4 m.

ถัดมาที่บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงและเวลาเดินก็จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป มาพร้อมราวกันตกและมือจับยาวไปตลอดแนวบันได

บริเวณชานพักมีหน้าต่างรับแสงและเปิดระบายอากาศได้ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสว่าง โปร่งโล่งมากๆ หากใครต้องการติดตั้งโคมไฟระย้าบริเวณโถงบันไดก็สามารถทำได้

เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงกลางที่เชื่อมห้องนอนทั้ง 3 เข้าไว้ด้วยกัน ชั้นนี้ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 mm. ในส่วนของความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.9 m. สูงกว่าบ้านทั่วๆ ไป ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งขึ้น

ห้องนอนรอง 1 มีขนาด 3.7 x 3 m. หากจัดเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงเดี่ยวพร้อมตู้เสื้อผ้าได้ เพราะบ้านมาตรฐานจะได้เป็นห้องเปล่าตามแบบในรูปด้านล่าง

สำหรับบ้านตัวอย่างจัดฟังก์ชันเป็นห้องทำงาน ก็ดูเป็นกิจจะลักษณะดี ได้ความเป็นส่วนตัว เหมาะกับครอบครัวสมัยใหม่ที่นิยมมีลูกคนเดียว

ห้องนอนรอง 2 ห้องนี้จะเรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้เพราะมีพื้นที่ใช้สอยกว้างกว่าอีกห้องหนึ่ง และมีบานหน้าต่างขนาดใหญ่รับแสงธรรมชาติได้เยอะ แถมมีระเบียงขนาดใหญ่ด้วย

ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้โดยเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้วางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง และเพียงพอสำหรับโต๊ะเขียนหนังสือขนาดใหญ่ นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าครบครัน

ระเบียงมีความยาวมากขนาดประมาณ 0.8 x 3.6 m. เหมาะสำหรับคนที่อยากมีพื้นที่ Outdoor ให้ออกมาเดินเล่น, นั่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ หรือจะวางต้นไม้กระถางไปตลอดแนวระเบียงก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูร่มรื่นเพิ่มขึ้นให้กับตัวบ้านได้

ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 2 มีการแยกระดับพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งเพื่อให้ใช้งานได้สะดวก แต่ก็แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มอีกนิดจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำกระเด็น พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.7×1.4 m. ใช้งานได้พอดีๆ ด้านในสุดมีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้สำหรับเปิดระบายอากาศ

ปิดท้ายแบบบ้าน Willa ด้วย Master Bedroom ได้พื้นที่ยาวตลอดแนวตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงหลังบ้านเลย ทำให้ได้ช่องแสงยาวตลอดแนวห้อง

ภายในห้องนอนวางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงไว้สำหรับวางโต๊ะเขียนหนังสือหรือชั้นวางทีวีได้อีกนะคะ ข้างเตียงจะมีประตูกระจกบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียง เป็นกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องดูโปร่งมากๆ

ระเบียงมีขนาดใหญ่พอๆ กับห้องนอนรอง 2 เลยใช้งานได้เต็มที่

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่กว้างๆ หน้าห้องน้ำที่เตรียมไว้ให้จัดเป็น Walk-in Closet ซึ่งบริเวณนี้จะมีกระจกบานใหญ่ให้เปิดรับลมรับแสงธรรมชาติได้ จึงเหมาะจะจัดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ในโซนนี้เลย

พื้นที่สำหรับ Walk-in Closet เหมาะจะวางตู้เสื้อผ้าเป็นตัว L ตามแบบในบ้านตัวอย่างเพื่อให้ไม่บังหน้าต่างค่ะ ด้านในสุดเป็น Master Bathroom ที่อยู่ในห้องนอนจึงใช้งานได้สะดวก

Master Bathroom มีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆ เลยนะคะ ซึ่งสุขภัณฑ์ต่างๆ ก็มีจำนวนชิ้นที่มากกว่าห้องอื่นด้วยเช่นกัน

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นเดิม แต่เป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่น

อ่างล้างมือก็มีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำอื่นเช่นกัน

ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะมีฉากกั้นกระจกติดตั้งมาให้ เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก กันไม่ให้น้ำกระเด็นไปส่วนอื่น โดยมีขนาดพื้นที่ประมาณ 1.7 x 1 m. จึงหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก

Highlight ของห้องน้ำที่นี่ก็คือมีเฉลียงในตัว เป็นพื้นที่แบบ Semi Outdoor ให้วางราวตากผ้าเช็ดตัวในห้องน้ำได้ และประตูเฉลียงที่เป็นกระจกบานใหญ่ก็ช่วยรับแสงธรรมชาติและเปิดรับลมให้อากาศถ่ายเทได้ดี

เฉลียงมีขนาด 1.8 × 0.8 m. ถือว่ากว้างอยู่นะคะ วางราวตากผ้าเช็ดตัวได้เลย

บ้านตัวอย่างแบบ Devon (เดวอน)

หากใครที่ต้องการบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขึ้น มี Family Area 2 จุดทั้งชั้นบนและชั้นล่าง และต้องการให้ห้องนอนชั้นบนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง แนะนำให้ลองพิจารณาแบบ DEVON ดูค่ะ โดยแบบบ้านนี้จะมีขนาดที่ดินเริ่มต้น 61.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน ในราคาเริ่มต้น 9.79 ล้านบาท

อีกประเด็นหนึ่งที่แตกต่างคือแบบบ้าน DEVON จะก่อสร้างแบบ Conventional จึงสามารถทุบต่อเติมได้ในอนาคตค่ะ

ตัวบ้านจอดรถในร่มได้ 3 คัน กว้าง 7.4 m. และลึก 3.9 m. พื้นในส่วนที่มีหลังคาคลุมนี้จะลงเสาเข็มความยาวเท่าตัวบ้าน ส่วนที่เกินจากตัวบ้านจะไม่ได้ลงเสาเข็ม เป็นการเทคอนกรีตแบบ On Ground หากใครอยากต่อเติมหลังคาออกมาให้บังแดดรถได้เต็มคันก็แนะนำให้ลงเสาเข็มเพิ่มเติมหรือปรึกษาวิศวกรดูนะคะ

บริเวณที่จอดรถจะมีจุดสำหรับติดตั้ง EV Charger ระบบไฟ 1 เฟส (30/100) และ Censor ตรวจจับความเคลื่อนไหวมาให้ 1 จุด เช่นเดียวกับบ้านแบบแรกที่พาไปชมกัน

โครงการจะปูหญ้าไว้ให้เต็มพื้นที่สวน พร้อมต้นไม้ใหญ่บริเวณหน้าบ้าน 1 ต้น

ประตูหลักหน้าบ้านจะมีหลังคาช่วยบังแดดบังฝนให้ จึงสามารถเดินเชื่อมจากที่จอดรถเข้าบ้านได้สะดวก ข้างประตูจะมีพื้นที่สำหรับนั่งพักคอย นั่งใส่รองเท้าได้ด้วย

เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารเข้าด้วยกัน ทำให้พื้นที่ดูโปร่งโล่ง อีกทั้งยังมีช่องแสงเยอะ บ้านนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.6 เมตร ซึ่งเราสามารถตกแต่งให้คล้ายฝ้าหลุมตามแบบในบ้านตัวอย่างได้

Living Area สามารถวางโซฟาขนาด 3 – 5 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้แบบสบายๆ เราแนะนำให้ Built-in ชั้นวางทีวีเพิ่มตรงแนวเสา (บริเวณเส้นประ) เพื่อให้มีระยะดูทีวีประมาณ 4 เมตร ก็สามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่แบบ 100″ ได้แล้ว และจะช่วยให้บริเวณโต๊ะทำงานมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วยค่ะ

พื้นที่ด้านหลังชั้นวางทีวีจะกลายเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ใช้เป็นมุมตั้งโต๊ะทำงาน หรือใช้ทำงานอดิเรกได้ บริเวณนี้มีหน้าต่างเปิดให้เห็นสวนหน้าบ้านด้วย

พื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน วางโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่งได้ รอบข้างดูโปร่งมากด้วยประตูกระจกและหน้าต่างบานใหญ่ทำให้เห็นวิวสวนรอบบ้าน และสามารถมองเห็นทีวีได้

อีกฝั่งหนึ่งของบ้านเป็นพื้นที่ของห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำและห้องครัว

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดประมาณ 4×3 m. สามารถวางเตียงคู่ 5 ฟุตได้เพียงพอตามแบบในบ้านตัวอย่าง บรรยากาศในห้องดูโปร่งเพราะได้หน้าต่าง 2 ฝั่ง รับแสง-ลมธรรมชาติได้เต็มที่และได้วิวสวนรอบบ้านด้วย

ข้างเตียงสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ครบครัน

ห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์แบบครบชุดเหมือนในบ้านตัวอย่างใช้ยี่ห้อ American Standard เป็นหลัก

ภายในห้องแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ชัดเจนด้วยการลดระดับพื้นที่อาบน้ำ แต่ถ้าใช้อาบน้ำเป็นประจำก็แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มนะคะ

ห้องครัวที่ให้มาเป็นครัวปิดมีประตูติดตั้งมาให้ ภายในครัวจะมีเคาน์เตอร์ครัวปูนมาให้ตามแบบในรูปด้านล่าง พร้อมติดตั้งซิงค์ล้างจานไว้ให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งเราสามารถไป Built-in หน้าบานตู้และติดตั้งตู้ลอยเพิ่มเติมได้

ลานซักล้างหลังบ้านจะมีการเทพื้นคอนกรีตแบบ On Ground ไว้ให้ ซึ่งมีพื้นที่พอให้วางราวตากผ้าขนาดใหญ่ได้ แต่หากต้องการต่อเติมก็แนะนำให้ปรึกษาวิศวกรก่อนนะคะ ระดับของลานซักล้างจะต่ำกว่าตัวบ้านเพื่อกันน้ำไหลย้อนเข้าตัวบ้าน

อีกฟังก์ชันหนึ่งที่อยู่ด้านหลังบ้านคือห้องเก็บของใต้บันได เป็นห้องเก็บของขนาดใหญ่ ใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวน, ไม้กวาด, เครื่องตัดหญ้าต่างๆ ได้ครบถ้วน

อีกมุมเก๋ๆ ในบ้านบนชั้น 1 ก็คือพื้นที่ใต้บันได ซึ่งโครงการตกแต่งไว้เป็นโซนน้องแมว หรือจะใช้เป็นมุมอเนกประสงค์สำหรับนั่งทำงานอดิเรกก็ได้ โดยพื้นที่มีขนาด 1.1 x 1.7 m.

ถัดมาที่บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงและเวลาเดินก็จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป มาพร้อมราวกันตกและมือจับยาวไปตลอดแนวบันได

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมี Family Area ให้นั่งเล่นพักผ่อนได้อีกจุดหนึ่งก่อนแยกย้ายเข้าห้องนอน ในส่วนของฝ้าเพดานชั้น 2 สูง 2.7 m. ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 mm.

Family Area มีขนาด 2.1 x 2.1 m. ใช้เป็นมุมไหว้พระของบ้านก็ดูเหมาะนะคะ ซึ่งเราสามารถออกแบบการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์เลย

ห้องนอนลูกมีทั้งหมด 2 ห้อง ได้ห้องน้ำในตัวทั้งคู่ ขนาดพื้นที่ใช้สอยก็พอๆ กัน ต่างกันที่ห้องนอนรอง 2 จะมีระเบียงในตัวด้วยค่ะ

ภายในห้องนอนรอง 1 มีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางเตียง 5 ฟุตได้สบาย

พื้นที่ปลายเตียงมีขนาดใหญ่พอสำหรับวางโต๊ะเขียนหนังสือ หรือจะติดตั้งชั้นวางทีวีก็ยังได้

โซนหน้าห้องเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับการ Built-in ตู้เสื้อผ้า เพราะอยู่ติดกับห้องน้ำพอดี

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 มีขนาดและการจัดแปลนคล้ายกับห้องน้ำชั้นล่าง แยกระดับพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งเพื่อให้ใช้งานได้สะดวก แต่ก็แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มอีกนิดจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำกระเด็น

ถัดมาที่ห้องนอนรอง 2 มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนรอง 1 เล็กน้อย หรือจะเรียกว่าเป็นห้องของลูกคนโปรดก็ได้ ภายในห้องได้หน้าต่างบานใหญ่ดูโปร่งโล่ง รองรับการวางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุต ปลายเตียงยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเขียนหนังสือได้เพียงพอ

ระเบียงมีขนาดใหญ่มากนะคะ 1.7 x 4 m. เหมาะสำหรับคนที่อยากมีพื้นที่ Outdoor กว้างๆ วางโต๊ะ-เก้าอี้สนามเพื่อออกมานั่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศได้ หรือจะวางต้นไม้กระถางไปตลอดแนวระเบียงก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูร่มรื่นเพิ่มขึ้น

บริเวณหน้าห้องเป็นพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้า เพราะอยู่ติดกับห้องน้ำพอดี สามารถอาบน้ำแต่งตัวได้สะดวก

ภายในห้องน้ำออกแบบมาเหมือนในห้องนอนรองห้องแรก มีขนาดพอๆ กัน ได้สุขภัณฑ์ครบถ้วนเหมือนกัน แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มอีกนิดจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำกระเด็นค่ะ

ปิดท้ายด้วย Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่สุดในบ้าน จึงสามารถวางเตียง 6 – 7 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่รอบเตียงให้เดินผ่านได้สะดวก ปลายเตียงสามารถวางม้านั่งยาวได้อีกด้วยนะคะ

หากต้องการติดทีวีก็แนะนำให้เลือกที่มีขนาดใหญ่หน่อย 70-100″ ได้เลย เพื่อให้จอไม่เล็กไปสำหรับระยะนอนดูทีวี

ด้านข้างเตียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจก สำหรับเปิดออกไปใช้งานระเบียงได้

ระเบียงมีความยาวมากๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากมีพื้นที่ Outdoor ให้ออกมาเดินเล่น, นั่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ หรือจะวางต้นไม้กระถางไปตลอดแนวระเบียงก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูร่มรื่นขึ้น

ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้ทำงานอดิเรก, เป็นมุมเตียงนอนของสัตว์เลี้ยง, หรือจัดเป็นมุมโชว์ของสะสมสวยๆ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายขึ้นได้

ตำแหน่งของ Walk – in closet จะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำเลย จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้ง่าย บริเวณนี้จะมีกระจกบานใหญ่ให้เปิดรับลมรับแสงธรรมชาติได้ จึงเหมาะจะจัดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ในโซนนี้เลย จากแปลนห้องทำให้เราสามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าเต็มผนังฝั่งหนึ่งจึงเก็บเสื้อผ้าได้เยอะ

Master Bathroom มีขนาดใหญ่จัดฟังก์ชันมาครบครัน ห้องนี้มี Highlight เป็นพื้นที่เฉลียงให้ออกไปอาบน้ำแบบ Semi-Outdoor ได้ จุดที่ชอบที่สุดคือประตูกระจกบานใหญ่ให้สามารถเปิดถ่ายเทอากาศได้ดี ทำให้ห้องน้ำไม่อับชื้น

สุขภัณฑ์ต่างๆ ให้มาครบเหมือนเดิมและให้ของ American Standard เป็นหลัก

พื้นที่อาบน้ำจะมีทั้งแบบที่อยู่ภายในตัวบ้าน ตามแบบปกติที่เราคุ้นเคยกัน และมี Rain Shower บริเวณเฉลียงให้เปลี่ยนบรรยากาศได้อีกจุดหนึ่ง

พื้นที่อาบน้ำในตัวบ้านมีขนาด 0.8 x 1.7 m.

พื้นที่อาบน้ำบริเวณเฉลียงมีขนาดประมาณ 0.9 x 2.7 m. ใช้อาบน้ำ, วางราวตากผ้า หรือวางต้นไม้ตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นได้ค่ะ

บ้านตัวอย่างแบบ Lillian (ลิเลียน)

บ้านตัวอย่างแบบ Alfreda (อัลเฟรดา)

หากใครอยากชมบรรยากาศของแบบบ้าน Alfreda และ Lillian เพิ่มเติม สามารถรับชมได้ในรายการ คิด.เรื่อง.อยู่. ซึ่งกำลังจะ On Air ในวันเสาร์ที่ 16 มีนาคมนี้นะคะ

VARAROM SUKSAWAT 76 (วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76) ณ วันที่ 8 มีนาคม 2567

• Lillian (ลิเลียน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 171 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท
• Willa (วิลลา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 53.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 211 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.39 ล้านบาท
• Devon (เดวอน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 61.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 9.79 ล้านบาท
• Alfreda (อัลเฟรดา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 72.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 278 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้านและห้องน้ำ
  – ราคาเริ่มต้น 12.59 ล้านบาท

• ค่าจอง

• แบบ Lillian, Willa 20,000 บาท
• แบบ Devon, Alfreda 50,000 บาท

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

VARAROM SUKSAWAT 76 (วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76)  เป็นหนึ่งในกลุ่มโครงการบ้านเดี่ยวโซนประชาอุทิศตอนปลาย ซึ่งทำราคาให้หยิบจับง่ายกว่าในเวิ้งทุ่งครุ-บางมดที่มีราคาบ้านเดี่ยวมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป แลกกับการยอมขยับออกมานอกเมืองหน่อย ไกลจากจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครอีกนิด มาอิงวงแหวนกาญจนาภิเษกแทนซึ่งอยู่ใกล้โครงการประมาณ 5 km. เท่านั้น

จึงตอบโจทย์คนทำงานในโซนสุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ-พระประแดง เป็นหลักหรือคนที่ใช้วงแหวนกาญจนาฯ ในการเดินทางเป็นประจำ หรืออีกกลุ่มคือคนที่ทำงานในโซนพระราม 3 ที่สามารถใช้วงแหวนอุตสาหกรรมเชื่อมต่อไปได้ อีกทั้งโซนนี้จะมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งฝั่งสุขสวัสดิ์และประชาอุทิศเลยนะคะ มีตลาดและแหล่งช้อปปิ้งให้ซื้อของเข้าบ้านได้ตลอดเส้นทาง

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

โครงการมีมาตรฐานความปลอดภัยติดตั้งให้ทั้งในส่วนของตัวบ้านและภายในโครงการครบครัน เช่น ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 24 จุด, เข้าออกด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ (License Plate Recognition) และในตัวบ้านก็ติดตั้ง Magnetic Sensor, Digital Door Lock, IP Camera และ Censor ตรวจจับความเคลื่อนไหวในโรงจอดรถ เสียดายนิดเดียวที่ประตูโครงการเป็นแบบไม้กั้นกระดก ไม่ได้เป็นประตูล้อเลื่อนค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขนาดเล็ก จำนวนเพียง 134 ยูนิต ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ในโซนนี้มีจำนวนเพื่อนบ้าน 200-400 ยูนิตเลยนะคะ จึงเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับความสงบในการอยู่อาศัย ชอบโครงการที่มีเพื่อนบ้านไม่เยอะนัก และผังโครงการก็ออกแบบให้โซนพักอาศัยขยับเข้ามาอยู่ด้านในโครงการไม่ติดกับถนนหลัก ทำให้ได้ความเงียบสงบมากขึ้น

การออกแบบตัวบ้าน : มีแบบบ้านหลากหลายให้เลือกและมี Layout ให้เลือกเยอะ ช่วยให้ตอบโจทย์ฟังก์ชันที่เราอยากได้ และงบประมาณในใจได้ดียิ่งขึ้น แต่ละแบบบ้านจะมี Layout บ้านให้เลือกแตกต่างกันไป อย่างบ้าน 2 ไซส์เริ่มต้นอย่าง Lillian และ Willa จะเห็นว่าเป็นบ้านทรงตอนลึกที่มีโถงยาวไปถึงหลังบ้าน ข้อดีคือ เวลามีรถหรือคนผ่านไปมาหน้าบ้านมองเข้ามาก็จะไม่เห็นภายในพื้นที่บ้านมากนัก และพื้นที่โซนหลังบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วย

พอขยับขึ้นมาเป็นแบบบ้าน 2 ไซส์บน อย่าง Devon และ Alfreda จะกลายเป็นบ้านที่มีหน้ากว้าง ทำให้ตัวบ้านดูหลังใหญ่และโอ่อ่าขึ้น มีพื้นที่จอดรถและพื้นที่สีเขียวหน้าบ้านกว้างขึ้น ส่วนภายในบ้านก็จะดูโปร่งโล่งขึ้น เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่

จุดที่ชอบคือทั้ง 4 แบบของโครงการมีห้องนอนชั้นล่างรองรับทุกแบบบ้าน และขนาดของห้องนอนก็กว้างทุกห้องเลยค่ะ รองรับทั้งครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยและครอบครัวที่อยากมีห้องทำงานส่วนตัวด้วยเช่นกัน อีกจุดหนึ่งที่เป็น Gimmick คือ Master Bathroomในแบบบ้าน Willa, Devon และ Alfreda จะมีเฉลียงในตัว ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี ห้องน้ำไม่อับชื้น

วัสดุ :

วัสดุส่วนใหญ่ให้มาตามมาตรฐานของโครงการระดับนี้ และมีการอัพเกรดวัสดุบางอย่างที่ดีขึ้นเช่น เทคโนโลยี Q Health เป็นระบบจัดการอากาศภายในบ้าน ช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ตัวบ้าน เป็นต้น

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : สวนส่วนกลางของโครงการสร้างเสร็จพร้อมใช้งานแล้ว ซึ่งออกแบบมาในสไตล์ยุโรป เน้นสนามหญ้าโล่งๆ ให้วิ่งเล่น แต่ก็มีทางเดินใต้ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาอยู่บ้างเหมือนกันค่ะ

สาธารณูปโภค :

ส่วนกลางของโครงการจะได้มาครบครันตามมาตรฐานนะคะ มีอาคาร Clubhouse, สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space และ สวนส่วนกลาง ซึ่งแชร์กันใช้กับลูกบ้านไม่เยอะนัก 134 ยูนิตเท่านั้น เหมาะสมกับค่าส่วนกลางประมาณ 42 บาท/ตร.ว.

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 7-12 ล้านบาท, 8 มีนาคม 2567

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 76 เข้าออกได้ทั้งถนนสุขสวัสดิ์และประชาอุทิศ
• ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ. 24 ชั่วโมง, ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ, CCTV, ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – แบบสวย ฟังก์ชันครบ พื้นที่เหมาะสม น่าใช้งานทุกห้อง
• วัสดุ 8/10 – มาตรฐานของระดับนี้และมีเทคโนโลยี Q Health เพิ่มมาด้วย
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – โครงการเล็ก ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ยุโรป
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – ครบครัน แชร์กับเพื่อนบ้านไม่เยอะ
• 7.78 / 10.00

VARAROM SUKSAWAT 76 (วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76) เหมาะกับใคร

โครงการ VARAROM SUKSAWAT 76 (วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านในโซนประชาอุทิศตอนปลาย ทำงานในโซนสุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ-พระประแดง เป็นหลักหรือคนที่ใช้วงแหวนกาญจนาฯ ในการเดินทางเป็นประจำ หรืออีกกลุ่มคือคนที่ทำงานในโซนพระราม 3 ที่สามารถใช้วงแหวนอุตสาหกรรมเชื่อมต่อไปได้

เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ชอบบ้านที่มีห้องนอนเยอะๆ และมีขนาดใหญ่ทุกห้อง ชอบบ้านสไตล์ English Classic มีความโปร่งโล่งได้ช่องแสงบานใหญ่ ระเบียงกว้าง มีเทคโนโลยีช่วยจัดการอากาศภายในบ้าน บ้านของโครงการมีหลายขนาดจึงรองรับครอบครัวได้หลายขนาดตั้งแต่ครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูกคนเดียว ไปจนถึงลูก 2-3 คนและรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ในช่วงราคา 7-12 ล้านบาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 49,000 บาท/เดือน

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่