Vana Residence พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) โดย Product เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ระดับ LUXURY  ที่มีจำนวนยูนิตเพียง 69 ครอบครัวบนที่ดินกว่า 19 ไร่ ซึ่งตอนนี้ได้มีการเปิดเฟสใหม่ โครงการนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ

  • ทำเล – ติดถนนใหญ่ใกล้ห้างใหม่ Market Place กรุงเทพกรีฑาและโรงเรียนนานาชาติ  Brighton College Bangkok
  • บรรยากาศโครงการ – ร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ด้วยสวนหย่อมและต้นไม้รอบโครงการกว่า 300 ต้น ทัศนียภาพดี มีการเอาเสาไฟฟ้าลงดิน
  • มีความเป็นส่วนตัว – ด้วยจำนวนยูนิต 69 ครอบครัวและการวางผังให้มีบ้านเพียง 4 หลัง ต่อถนนย่อย
  • การออกแบบรองรับครอบครัวใหญ่ – ตัวบ้านถูกออกแบบให้รองรับการอยู่อาศัยของสมาชิกทุกช่วงอายุและครอบครัวขนาดใหญ่ จอดรถได้ถึง 4 คัน มีพื้นที่เปิดรับแสงและลมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เช่นตรงระเบียงชั้น 2 และ เฟสที่เปิดใหม่ มีแปลงที่ดินขนาดใหญ่สามารถจัดสวนหรือทำสระว่ายน้ำเพิ่มเติมได้

 

ข้อมูลโครงการ

Vana Residence Rama 9 – Srinakarin (วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์) ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2564

 ชื่อโครงการ   Vana Residence Rama 9 – Srinakarin (วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์)
 ชื่อผู้ประกอบการ   Asset Five Development ในเครือบริษัท Asset Five Group จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) เขต บางกะปิ
 ที่ดิน  19-3-53 ไร่
 จำนวนยูนิต  จำนวน 69 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • TYPE A บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 64-136 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 492 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 35-50 ล้านบาท
  • TYPE B บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 56-76 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 420 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 32-34 ล้านบาท ( ราคาพิเศษปิดเฟส )
  • TYPE C บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 53-68 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 28-31 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.80 – 3.10 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      150,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   มีนาคม ปี 2561
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2564
 เว็บไซต์โครงการ   http://vanaresidence.com/th/
 โทร   083-954-9499
 Call Center   N/A

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.749945, 100.669314
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Vana Residence พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ติด “ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า” ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ  Brighton College Bangkok และห้างใหม่อย่าง Market Place กรุงเทพกรีฑา โดยเมื่อพูดถึงทำเลนี้จัดว่าเป็นโซนฮอตฮิตของที่อยู่อาศัยแนวราบมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ตัดใหม่) ส่วนใหญ่เราจะเห็นบ้านที่อยู่ใน Segment Luxury – Super Luxury เกือบทั้งหมดเลย เนื่องจากทำเลนี้มีความสะดวกสบายใการเดินทางมากขึ้น เรียกว่าเป็นทำเลใหม่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาและมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากทีเดียว ทำเลนี้สามารถเข้ามอเตอร์เวย์ เพื่อไปยังถนนพระราม 9 หรือออกเมืองไปยังชลบุรีได้ง่าย หรือจะใช้ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เข้ารามคำแหงได้สะดวกมากๆเลยค่ะ ในพื้นที่เองก็จะมีความอุดมสมบูรณ์อยู่ในระดับหนึ่ง

จุดเด่นของโครงการในทำเลนี้นั่นก็คืออยู่ในย่านที่มีโรงเรียนนานาชาติอยู่หลายแห่ง พื้นที่รอบๆไม่ไกลจากโครงการยังมีโรงเรียนนานาชาติที่สำคัญถึง 3 แห่ง อย่าง Brighton College Bangkok , Wellington College international Bangkok และ Stamford International University ซึ่งตอบโจทย์กับกลุ่มครอบครัวระดับที่ซื้อบ้านระดับนี้

และเนื่องจากเป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ทำเลนี้มี Community Mall ค่อนข้างเยอะ ซึ่งบริเวณโครงการจะมี Market Place กรุงเทพกรีฑา มาเปิดอยู่ใกล้ๆสามารถซื้อของกินของใช้ก่อนกลับบ้านได้ สะดวกเลยทีเดียว  หรือจะเข้าไปในซอยกรุงเทพกรีฑาซอย 7 ซึ่งสามารถทะลุไปถนนรามคำแหงได้ ภายในซอยจะมี Max Value Kurve 7 และ Market Today นอกจากนั้นยังมี The Park และ Tesco Lotus ในบริเวณใกล้เคียง  แต่ถ้าอยากจะไปห้างใหญ่ขึ้นหน่อยบนเส้นพระราม 9 ก็จะมีห้าง The Nine Center พระราม 9 อีกด้วย

ส่วนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างบนถนนพัฒนาการ,ถนนรามคำแหง,ถนนลาดพร้าว และ ถนนพระราม 9 จะมีมหาวิทยาลัยอยู่หลายแห่งอย่าง ม.เกษมบัณฑิต, สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนบนถนนศรีนครินทร์จะเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางซะมากกว่า ถ้า ถ้าลงใต้ไปก็จะคึกคัก เพราะเชื่อมเข้ากับถนนเส้น บางนา,เทพารักษ์ และ สมุทรปราการ ที่มีศูนย์การค้าอย่างซีคอนสแควร์, พาราไดซ์พาร์ค และ ตลาดนัดรถไฟ-ศรีนครินทร์ รวมถึงใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ อย่าง สวนหลวงร.9

ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เป็นถนนขนาดใหญ่ถึง 6-8 เลนซึ่งมีความกว้างมาก ต้นและปลายสายจะเชื่อมต่อถนนศรีนครินทร์ไปยังถนนร่มเกล้าตามชื่อเลยค่ะ โดยจากโครงการจะเชื่อมต่อกับถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าสามารถวิ่งไปถนนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นถนนหลักที่ตัดกับถนนเส้นสำคัญหลายสาย ทั้ง ถนนพัฒนาการ, ถนนพระราม 9, ถนนหัวหมาก, ถนนรามคำแหง, และ ถนนลาดพร้าว การจราจรจะค่อนข้างติดขัดบริเวณถนนศรีนครินทร์,ถนนลาดพร้าว ยิ่งในปัจจุบันมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า Monorail สายสีเหลือง จึงทำให้เราจะยังคงเห็นรถติดหนักอยู่แบบนี้อีกอย่างน้อย 1-2 ปี แต่เมื่อโครงการรถไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรไปได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ

ทำเลถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลเมืองออกมาหน่อย แต่ก็สามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สะดวก ไม่ไกลจากทางด่วนมากนัก โดยสามารถขึ้นทางด่วนศรีรัช เพื่อเชื่อมเข้าตัวเมืองชั้นใน อย่างเช่น เอกมัย, อโศก, พระราม 9, ดินแดง อีกทั้งยังสามารถขึ้นทางด่วนกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ เพื่อออกไปยังย่านบางนา, มีนบุรี, สุวรรณภูมิ, ฉะเชิงเทรา และ ชลบุรี ได้ ทำให้สะดวกทั้งในการเข้าตัวเมืองชั้นใน และ ออกนอกตัวเมืองเลย

นอกจากนั้นยังมีซอยลัดเอาไว้หนีรถติดคือซอย กรุงเทพกรีฑา 7 ซึ่งสามารถใช้ไปออกถนนรามคำแหง , ซอยกรุงเทพกรีฑา 8 และ 20 สามารถใช้ลัดไปออกมอเตอร์เวย์ได้ สำหรับการเดินทางไปยังที่ต่างๆถ้ามีรถยนต์จะสะดวกกว่า ถ้าเป็นคนที่ทำงานหรือคุ้นชินกับละแวกนี้ ใช้ถนนศรีนครินทร์, พระราม 9 เข้าเมือง หรือ ใช้มอเตอร์เวย์ออกไปยังย่านบางนา, สุวรรณภูมิ และไปชลบุรีได้เลย

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นถนนตัดใหม่ทำให้รอบๆพื้นที่โครงการจะเป็นที่ดินเปล่าเป็นส่วนใหญ่  สลับๆกันมีจะมีโครงการบ้านแนวราบอื่นๆ กับบ้านที่ปลูกเอกอยู่บ้างประปราย และที่เห็นเด่นๆทางขวามือนั้นคือมีโรงเรียนนานาชาติ Brighton College Bangkok มาเสริมและรองรับเผื่อกลุ่มผู้ปกครองลูกบ้านทั้งหลายครัวเรือนในย่านนี้ และทางฝั่งซ้ายก่อนถึงโครงการจะมี Market Place กรุงเทพกรีฑา ห้างเปิดใหม่ใกล้ๆกับโครงการค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Market Today ~ 1.8 กิโลเมตร
  • Kurve7 ~ 2 กิโลเมตร
  • The Park Community Mall ~ 3.5 กิโลเมตร
  • London Street จาก Mk Group ~  5.6 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus พัฒนาการ ~  5.8 กิโลเมตร
  • The Nine พระราม 9  ~  6 กิโลเมตร
  • Max Value พัฒนาการ ~  6.4 กิโลเมตร
  • ซีคอนสแควร์ ~  11 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 4.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลวิภาราม  ~ 6.8 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนนานาชาติ Brighton College Bangkok~ 800 เมตร
  • Wellington International School ~ 3 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัย ABAC  ~ 6.6 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ~  6.6 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติ Stamford ~ 6.8 กิโลเมตร
  • Ascot International School ~ 7 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 8.4 กิโลเมตร
  • Shrewsbury City Campus ~ 12 กิโลเมตร

สถานีรถไฟฟ้า

  • สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก ~ 6.5 กิโลเมตร
  • สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link บ้านทับช้าง ~ 9.6 กิโลเมตร

สนามกอล์ฟและสวนสาธารณะ 

  • ยูนิโก้ แกรนด์ กอล์ฟ คอร์ส ~ 2.9 กิโลเมตร
  • สวนสาธารณะหมู่บ้านนักกีฬา ~ 5.4 กิโลเมตร
  • สวนปิยะภิรมย์ ~  5.4 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Vana Residence พระราม 9 – ศรีนครินทร์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ที่มีจำนวนยูนิตเพียง 69 ครอบครัวบนที่ดินกว่า 19 ไร่ ซึ่งถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากๆ โดยตัวบ้านถูกออกแบบให้รองรับครอบครัวขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ที่อยู่ร่วมกัน 3 Generations  มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ใช้ครบครัน นอกจากนั้น Concept ของโครงการยังเน้นพื้นที่สีเขียว ซึ่งเราจะเห็นได้จากสวนหย่อมและต้นไม้ในโครงการที่ร่มรื่นเขียวขจี ด้วยบ้านเพียง 4 หลัง ต่อถนนและต้นไม้รอบโครงการกว่า 300 ต้น โดยชื่อโครงการ “วนา” ก็แปลว่า “ป่า”  นั่นเอง

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปอัปเดตพื้นที่ส่วนกลางและบ้านตัวอย่างแบบใหม่ที่สร้างบนเฟสใหม่ ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาชมกันค่ะ

ภาพรวมของที่ดินโครงการ จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงยาวไปจนถึงด้านหลังที่ติดกับคลองบ้านม้าค่ะ มีที่ดินประมาณกว่า 19 ไร่ มีบ้านเพียง 69 ยูนิต โดยโครงการการแบ่ง Zoning เป็น 3 ส่วนหลักๆ ตามที่ใส่เอาไว้ใน Map คือ

  • Zone 1 ชื่อ Boulevard – เป็นโซนที่อยู่ด้านหน้าโครงการ เข้าออกสะดวกและมีบ้านที่หันเข้าหาถนนหลัก ไม่ติดกับใครเลยด้วยค่ะ โดยแบบบ้านจะมีบ้านทั้ง Type A B C
  • Zone 2 ชื่อ Clubhouse – อยู่บริเวณกลางโครงการเป็นโซนที่อยู่ใกล้ Clubhouse แบบบ้านจะมีแค่ Type B และ C เหมาะกับครอบครัวที่อยากได้บ้านขนาดใหญ่และชอบใช้ส่วนกลาง
  • Zone 3 ชื่อ Private Zone – เป็นเฟสสุดท้าย อยู่ด้านหลังโครงการ เป็นโซนที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง เฟสนี้แบบบ้านจะมีเฉพาะ Type A  โดยแปลงที่อยู่ติดถนนจะได้ที่ดินขนาดใหญ่ เหมาะกับครอบครัวที่อยากได้พื้นที่ดินเยอะขึ้นมาหน่อยและชอบความเป็นส่วนตัว ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมบ้านในเฟสนี้กันค่ะ

เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยโครงการนี้ทางเข้าจะเป็นแบบ RFID หรือ Easy pass ที่ข้างๆมีจุดป้อมรปภ.อยู่ และภายในจะมีรปภ.คอยวิ่งตรวจตรา พร้อมกับ CCTV ที่ถนนภายในโครงการและสุดท้ายคือกำแพงรั้วที่ออกแบบมาสูงพิเศษ โดยจะเป็นคอนกรีตสูง 3 เมตร + ต่อเติมกับไม้ระแนงเพิ่มอีก 3 เมตร แต่ว่าภายในตัวบ้านจะไม่ได้ติดระบบรักษาความปลอดภัยมาให้ เพราะต้องการให้ลูกบ้านเลือกติดระบบรักษาความปลอดภัยที่มันมีหลากหลายในตลาดตอนนี้ให้ถูกใจกับเจ้าของบ้านเอง

ตัวโครงการ วางผังบ้านหลักมีส่วนที่น่าสนใจอีกสองจุดคือ บ้านเกือบๆทั้งหมด หันหน้าบ้านและหลังบ้าน ไว้ทางทิศเหนือ-ใต้ค่ะ ดังนั้นจะไม่โดนแดดเข้าบ้านตรงๆ (จะมีเฉพาะบางแปลงพิเศษที่อยู่โซนหน้าสุดของโครงการเลยที่หันหน้าไปทางตะวันตก) และจุดที่สองคือในซอยย่อยแต่ละซอย จะวางบ้านพักอาศัยไว้เพียงซอยละ 4 ยูนิตเท่านั้น เพื่อได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดค่ะ เราไปชมบรรยากาศโครงการของจริงกันดีกว่า

เริ่มจากส่วนแรก ที่ดินของโครงการจะถมสูงขึ้นกว่าตัวถนนตัดใหม่อีกราวๆ 40 ซม. ตั้งแต่เข้าพื้นที่โครงการตัวพื้นจะปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ทั้งหมด เพื่อความสวยงาม ทางขวามือเป็น Signage ของโครงการที่ติดเอาไว้บนผนังที่กรุกระเบื้องลายหินอ่อนให้ดูเด่นๆหน่อย

ซุ้มทางเข้าออกโครงการจะออกแบบหน้าตาที่เน้นด้วยเส้นสายแนวตั้ง โดยจะใช้เป็นวัสดุอะลูมิเนียมสีทองออกน้ำตาลให้ความรู้สึกดูเข้มขรึมหน่อย และก็มีส่วนของหลังคาคลุมบังแดด บังฝนมาให้ด้วย ระบบการเข้าออกจะเป็นบานประตูรั้วอัตโนมัติ โดยใช้ระบบผ่านเป็น RFID หรือเป็นแบบทางด่วนช่อง Easy Pass นั่นเอง

ริมฟุตบาททางเดินด้านข้าง มีการแบ่งพื้นที่ทางเดินเป็นสัดส่วนไว้ด้วย โดยปูพื้นทางเดินระหว่างพื้นที่สีเขียวเป็นไม้พุ่มเตี้ย และก็ผนังของกำแพงส่วนบริเวณด้านหน้าโครงการ กรุผนังตกแต่งลายหิน Travertine แบบเดียวกับที่ป้ายด้านหน้าโครงการให้ดูสวยงาม

พอพ้นซุ้มรปภ.และประตูบานเลื่อนอัตโนมัติมาแล้ว จะเป็นส่วนของถนนเมนโครงการแรก ความกว้างประมาณ 10-12 เมตร สลับกันไปค่ะ มีการเอาเสาไฟฟ้าลงใต้ดินเพื่อความสวยงาม ทัศนียภาพต่างๆ อีกทั้งพวกระบบสายเคเบิล อย่าง fiber optic ก็อยู่ใต้ดินเช่นเดียวกัน

ในส่วนของถนนเส้นหลักภายในโครงการ ก็ยังเน้นสีเขียวของต้นไม้ โดยจะเน้นการวางเอาไว้ที่ริมรั้วกำแพงของโครงการ กับส่วนถนนหลักแบบที่เราเห็น ถือเป็นต้นไม้ที่สูงทีเดียว ประมาณความสูงชั้นที่ 2-3 ของตัวบ้าน

เข้ามาบริเวณกลางโครงการจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลาง ทางฝั่งขวาคือสวนหย่อมขนาดใหญ่

ภายในสวนหย่อมมีการจัดต้นไม้นานาพันธุ์ ทั้งไม้ต้นและไม้พุ่ม บรรยากาศร่มรื่น รวมถึงมีมุมพักผ่อนมาให้ด้วย

ติดกับสวนหย่อมเลยจะมีสนามเด็กเล่นบ้านต้นไม้ (Tree House)

บ้านต้นไม้ (Tree House) เป็นมุมให้เด็กๆมาเล่นสนุกกันโดยจะมีผาจำลองให้ปีนป่ายด้วย

Clubhouse ตั้งอยู่เป็นอาคาร 2 ชั้น ตกแต่ง Facade ด้วยลวดลายฉลุที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ โดยชั้นล่างประกอบไปด้วยห้อง Reception Area หรือห้องนั่งเล่นแบบอยู่ในห้องแอร์ และมีส่วนที่เป็น Semi Outdoor ที่เป็นพื้นที่สามารถนั่งเล่น และมี Pool Bed นอนอาบแดดริมสระน้ำได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ที่เป็นแบบ Semi Outdoor และสุดท้ายเป็นฟังก์ชันห้อง Fitness ออกกำลังกายหันไปทางสระว่ายน้ำ

ถนนบริเวณหน้า Clubhouse บรรยากาศร่มรื่น

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 6 x 25 เมตร (ไม่รวมโซนสระเด็กและน้ำตื้น ถ้ารวมจะเป็น 6 x 30 เมตร) เป็นแบบ Semi-Outdoor มีทั้งส่วนที่อยู่ในร่มและกลางแจ้ง ส่วนที่มีหลังคาคลุมเราสามารถมาว่ายน้ำได้โดยไม่ร้อน มีการปลูกพุ่มไม้ระดับกลางเอาไว้รอบพื้นที่สระ เพื่อต้องการสร้างความเป็นส่วนตัวเวลามาใช้งาน คนขับรถผ่านไปมามองไม่ให้ค่ะ

ชั้น 2 จะเป็นส่วนของฟิตเนสแต่เราจะพาไปชมห้องน้ำและ Reception Area ก่อน

ห้องน้ำมีให้ใช้แยกชายหญิง มีทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ

ห้อง Reception Area ที่สามารถมานั่งพักผ่อน หรือนัดพบเพื่อนๆได้

Image 1/2
Reception Area

Reception Area

ภายในห้องจะมีชุดโซฟาสำหรับรองรับกลุ่มครอบครัว และที่นั่งแบบที่มากันไม่กี่คน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงโล่งๆแบบ Semi Outdoor แต่จะมีส่วนของ Facade ที่เป็น Bio Wood ปิดบังสายตาเพื่อความเป็นส่วนตัวอยู่ (แต่แสงและลมยังพอลอดผ่านไปได้นะ)

บริเวณพื้นที่นั่งพักผ่อนที่เป็น Semi Outdoor

ก่อนเข้าไปยังห้องฟิตเนส โครงการจัดเป็นที่นั่งพักผ่อนแบบนี้

ภายในห้องออกกำลังกาย ซึ่งล้อมรอบไปด้วยผนังกระจกทั้ง 3 ด้าน เพื่อต้องการเน้นเปิดช่องแสงธรรมชาติให้ดูโปร่งโล่ง (และผนังด้านในห้องติดกระจกเงาเพื่อตกแต่งให้ดูมี Space ที่กว้าง)

ภายในห้องกว้าง วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 8 เครื่อง

เดินออกมาจาก Clubhouse ก็สัมผัสถึงบรรยากาศความเขียวขจีของต้นไม้ในโครงการ

แทบทุกจุดในโครงการมีการลงต้นไม้มาให้ ทำให้บรรยากาศร่มรื่นมากๆ โดยเฟสที่เราชม Private Zone ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง แปลงที่อยู่ติดถนนจะได้ที่ดินขนาดใหญ่ โดยแบบบ้านจะมีเฉพาะ Type A เหมาะกับครอบครัวที่อยากได้ที่ดินที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยและชอบความเป็นส่วนตัว

เราเดินมาจนถึงท้ายโครงการที่ติดกับคลอง จะมีบ้านที่ได้ที่ดินที่มีขนาดใหญ่มากๆด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ระบบสายไฟ และ Fiber Optic ลงใต้ดิน
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 25 ม. ลึก 1.20 เมตร (แยกสระเด็ก)
  • อาคาร Club House 2 ชั้น ประกอบไปด้วย
  • Reception Living Room
  • Relax Semi Outdoor
  • Multipurpose Area
  • Fitness
  • สนามเด็กเล่นบ้านต้นไม้ (Tree House)
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบอัตโนมัติ ระบบ RFID
  • ถนนภายในโครงการกว้างประมาณ 10 – 12 เมตร
  • ค่าส่วนกลาง 100 บ./ ตร.วา (จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี)

แบบบ้าน

โครงการ Vana Residence พระราม 9 – ศรีนครินทร์ มีบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

  • Type A ที่ดิน 64- 136 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 492 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
  • Type B ที่ดิน 56-76 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 420 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
  • Type C ที่ดิน 53-68 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ

โดยจุดเด่นของตัวบ้านมีดังนี้

  • ออกแบบเน้นให้สามารถใช้งานพื้นที่ทุกส่วนในตัวบ้านได้จริง สามารถอยู่ด้วยกันได้หลาย Generations
  • ตัวบ้านในโครงการเป็นบ้านหน้ากว้างจอดรถได้ถึง 4 คัน
  • เป็นบ้านที่ออกแบบให้มีพื้นที่เปิดรับแสงและลมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เช่นตรงระเบียงชั้น 2
  • บ้านในเฟสใหม่แปลงที่อยู่ติดถนนจะได้ที่ดินขนาดใหญ่สามารถทำสระว่ายน้ำหรือจัดสวนเพิ่มเติมได้
  • ดีไซน์บ้านออกแบบในสไตล์ Timeless Design ให้วัสดุค่อนข้างดี

สำหรับบ้านตัวอย่างแบบใหม่ที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้เป็นบ้าน Type A  ที่เป็นบ้านขนาดใหญ่สุด คือ ขนาดที่ดินอยู่ในช่วง 64 – 136 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 492 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ พร้อมพื้นที่ส่วนของงานซักล้างและโซนแม่บ้านที่แยกออกมา บ้านในเฟสนี้จะมีที่ดินขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงมีพื้นที่ข้างบ้านสามารถจัดสวนหรือทำสระว่ายน้ำเพิ่มเติมได้ / ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ชั้น 1 สูง 2.8 เมตร / ชั้น 2 สูง 3.1 เมตร / ชั้น 3 สูง 2.9 เมตร

จุดเด่นแรกของบ้าน Type นี้คือเรื่องของ “พื้นที่จอดรถ” ที่โครงการแบ่งออกเป็น 3 ช่องระหว่างเสา แต่จอดได้ 4 คัน โดย 2 ช่องทางซ้ายเป็นแบบกว้างพิเศษที่สามารถจอดรถขนาดใหญ่อย่าง Super Car หรือพวกรถตู้แบบครอบครัวได้ โดยที่ยังมีระยะเดินเข้าออกได้สบายๆ

ชั้น 1 : ด้านในตัวบ้าน จะแบ่ง Zoning ออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ Waiting Area หรือพื้นที่โถงหน้าบันไดกับลิฟต์ (มีห้องเก็บของแยก)  ส่วนทางซ้ายสามารถทำเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุชั้นล่างได้ มีห้องน้ำในตัว หรือจะทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงานก็ได้ และมีช่องแสงที่ประตูฝั่งหน้าบ้านที่คนในบ้านจะเข้าออกก็มองเห็นได้ง่าย มีการแยกโซนแม่บ้านชัดเจน ซึ่งมีฟังก์ชันห้องนอน ห้องน้ำ เคาน์เตอร์ครัวและพื้นที่ซักล้างมาให้คุณแม่บ้านครบ

ชั้น 2 : จะเป็นส่วนหัวใจหลักของบ้านหลังนี้คือมี Common Area ขนาดใหญ่มากๆอยู่ตรงกลางบ้าน ที่รวมพื้นที่เปิดโล่งเอาไว้ด้วยกัน ประกอบฟังก์ชันไปด้วย Living, Dining, Kitchen มีห้องน้ำให้ใช้แต่เป็นแบบ Powder Room และที่ด้านนอกยังเน้นในส่วนของพื้นที่ระเบียง สามารถออกไปนั่งพักผ่อนหรือจัดปาร์ตี้กันได้ นอกจากนั้นยังมีความยาวพิเศษเท่าหน้ากว้างบ้านอีกด้วย  ในชั้นนี้จะมีห้องนอนอยู่ 1 ห้อง ซึ่งเป็นแบบ Full Function มีระเบียง พื้นที่แต่งตัว และห้องน้ำในตัว

ชั้น 3 : ขึ้นมาจะเป็นแค่ส่วนโถงจากบันไดและลิฟต์เท่านั้น โดยจะเน้นแจกทางไปยังห้องนอนต่างๆ ส่วนของห้องนอนเล็กจะอยู่ไปทางฝั่งเดียวกัน มีระเบียง พื้นที่แต่งตัว และห้องน้ำในตัว เหมือนกัน แต่ห้องหนึ่งหันไปหน้าบ้าน อีกห้องหันไปยังด้านข้าง ส่วนของ Master Bedroom จะกินพื้นที่ขนาดใหญ่มากเป็นรูปทรงตัว L (เพราะในบ้านมาตรฐาน โครงการจะไม่ได้กั้น Partition ในส่วนห้องนอนกับ Walk in Closet) ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านจะให้น้ำหนักกับพื้นที่แต่งตัวมากขนาดไหน และห้องน้ำก็ยังได้ขนาดใหญ่พิเศษ มีอ่างอาบน้ำ มีระเบียงในตัว

บ้าน Type นี้จะเป็นแบบที่ “ตัวบ้านหน้ากว้าง” ถึง 14 เมตร หน้าตาตัวบ้านเน้นดีไซน์ให้ดูมีความเป็นธรรมชาติจากวัสดุที่มาตกแต่งผิวหน้าบ้าน โดยโทนสีเลือกใช้เป็น Earth Tone แต่ว่าตัววัสดุต่างๆจะเป็นแบบวัสดุสังเคราะห์อย่างกระเบื้องลวดลายหิน, Artificial Wood (GEO Wood)

ส่วนของพื้นที่จอดรถจะมีการปูพื้นกระเบื้องแผ่นสีขาวมาให้แบบนี้ตลอดพื้นที่หน้าบ้าน จุดเด่นของ “พื้นที่จอดรถ” ที่โครงการแบ่งออกเป็น 3 ช่องระหว่างเสา แต่จอดได้ 4 คัน โดย 2 ช่องจะเป็นแบบกว้างพิเศษที่สามารถจอดรถขนาดใหญ่อย่าง Super Car หรือพวกรถตู้แบบครอบครัวได้ เดินเข้าออกได้สบาย พื้นที่จอดรถจะมีการลงเสาเข็มมาให้เท่ากับตัวบ้านด้วยนะ

บ้านที่อยู่ในเฟสสุดท้าย หรือ Private Zone อย่างที่บอกไปว่าจะเป็นบ้าน Type A ที่มีบางแปลงได้ที่ดินขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่ดินที่เพิ่มเข้ามาจะสามารถจัดสวนหรือทำเป็นสระว่ายน้ำเพิ่มเติมได้ อย่างเช่นบ้านหลังนี้เลือกจัดเป็นสระว่ายน้ำให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยสระในบ้านนี้มีขนาด 12×2.7 เมตร (รวมขอบและสระตื้น) สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้เลยค่ะ

ด้วยเฟสนี้มีที่ดินขนาดใหญ่ เราจึงสามารถจัดพื้นที่ข้างบ้านเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว หรือจะใช้จัดปาร์ตี้ก็ได้ โดยสามารถทำรั้วต้นไม้กั้นทึบเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว

ด้านข้างสระเราสามารถจัดเป็นที่นั่งพักผ่อนและสวน สามารถนั่งชมวิวสระว่ายน้ำได้อย่างชิลล์ๆ

อีกมุมหนึ่งของพื้นที่ข้างบ้าน ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นมุมพักผ่อนโดยวางชุดโซฟา อาร์มแชร์นั่งกันเป็นครอบครัวได้ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านถูกจัดเป็นพื้นที่ซักล้างและห้องแม่บ้าน ซึ่งแยกทางเข้าออกจากทางเข้าบ้าน ไม่ได้ไปปะปนกับส่วนเจ้าของบ้าน แม่บ้านสามารถมาทำงานโดยไม่ต้องผ่านตัวบ้าน

ส่วนนี้จะมีห้องนอนแม่บ้าน ห้องน้ำแม่บ้านและพื้นที่ซักล้าง พื้นบริเวณนี้เป็นกระเบื้องขนาด 30×30 cm.เหมาะสมกับการใช้งาน

กลับมาที่บริเวณหน้าบ้าน ถัดจากส่วนที่จอดรถ จะเป็นพื้นที่ชานพัก(เฉลียงหน้าบ้าน)มีการจบงานพื้นที่ด้วยขอบเส้นสเตนเลส เป็นระเบียบเรียบร้อย ให้แนวระยะถอยร่นมาพอสมควรและยก Step เล็กน้อย ผิวอาคารหน้าบ้านจะกรุด้วยกระเบื้องสีขาว

ในส่วนของประตูหลักทางเข้าหน้าบ้าน รอบๆของตัวบานประตูจะเป็นพื้นที่ช่องแสงธรรมชาติแบบ Fix เพื่อเปิดให้แสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวกลางบ้านได้ ส่วนของตัวประตูจะได้เป็นบานไม้สักขนาดใหญ่สูง 2.40 เมตร ตัวประตูจะมีลูกเล่นถ้าเราต้องการจะยกเอาสิ่งของชิ้นใหญ่เข้าออกบ้าน สามารถเปิดสวิงออกได้ 2 ตอนเพื่อทำให้มีช่องเปิดที่กว้างมากยิ่งขึ้นเป็นระยะเมตรนิดๆ และโครงการได้มีการให้ Digital Door Lock มาด้วย

เปิดเข้ามาส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ Waiting Area ส่วนแรกสุด ที่เป็นพื้นที่โถงหน้าบันได ลิฟต์ และห้องเก็บของ โดยชั้นแรกนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.80 เมตร และปูพื้นด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อนสีขาว ส่วนของ Decorate ผนังทั้งหมดที่เป็นเส้นสายลวดลายต่างๆจะเป็นส่วนตกแต่งมาจากทางโครงการเท่านั้น ของจริงบ้านมาตรฐานจะติดเป็น Wallpaper มาให้ค่ะ

ชั้นนี้จะมีห้องอยู่หนึ่งห้องซึ่งในบ้านตัวอย่างจัดเป็น Tea Room หรือห้องน้ำชาและมีการปรับผนังฝั่งที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำจากผนังทึบเป็นประตูกระจกบานเลื่อน (ผนังของบ้านในโครงการเป็นก่ออิฐมวลเบาสามารถทุบเจาะต่อเติมได้) ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่ง โล่ง สามารถเปิดประตูเดินออกไปเชื่อมกับสระว่ายน้ำข้างบ้านได้

สำหรับห้องนี้นอกจากจะทำเป็น Tea Room อย่างบ้านตัวอย่างแล้วก็สามารถทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องทำงานก็ได้ ตาม Lifestyle ของครอบครัวเลยค่ะ

ผนังฝั่งสระว่ายน้ำที่ทางโครงการปรับเปลี่ยนจากผนังทึบเป็นประตูกระจกบานเลื่อนให้ดูเป็นตัวอย่าง ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อพื้นที่ภายนอกและภายในบ้านได้ และยังได้ความโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยค่ะ

Image 1/2
ห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องนี้เป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัวแบบที่สามารถอาบน้ำได้ สามารถทำเป็นห้องนอนได้ บ้านตัวอย่างมีการตกแต่งซ่อนประตูเพื่อความสวยงามและความเป็นส่วนตัว

ห้องน้ำมีการแยกโซนแห้งและเปียกเอาไว้ วัสดุหลักในห้องน้ำจะเป็น TOTO & American Standard พวกกระจกก็จะได้แผ่นใหญ่แบบในบ้านตัวอย่างเลย

พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกด้วย Shower Box กระจกนิรภัย ตัวชุดฝักบัวจะเป็นของ American Standard เราจะเห็นว่าส่วนของงานพื้นและผนัง ยังคงเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนทำลวดลายหินธรรมชาติโทนสว่าง

ในส่วนของห้อง Storage นั้นพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่แบ่งการเก็บของได้ออกเป็นสองจุด คือส่วนแรกตรงนี้ที่สามารถ Built-In แย่งเป็นชั้นๆเก็บของได้ สามารถเก็บของชิ้นทรงสูง หรือจักรยานก็ได้นะ และอีกส่วนหนึ่งในห้องเก็บของที่เป็นตำแหน่งใต้บันได ซึ่งในห้องนั้นจะมีพวกส่วนของงานระบบไฟในบ้านอยู่ด้วยค่ะ

เราออกมาจากห้องเมื่อกี้ มองตรงไปนะคะ เราจะเห็นทางขึ้นบันได  ลิฟต์  พื้นที่โซนแม่บ้าน

หน้าตาประตูทางเข้าลิฟต์เป็นลายไม้สีเข้ม มีเปิดช่องแสงไว้นิดหน่อย พื้นที่ด้านสามารถรองรับ Wheelchair ได้ รวมถึงมีมือจับราวจับมาให้พร้อม โดยตัวลิฟต์จะใช้เป็นของยี่ห้อ Mitsubishi ที่สามารถรับน้ำหนักได้ 200 kg. หรือประมาณ 3 คน มีระบบติดต่อฉุกเฉิน หมุนเวียนอากาศ และไฟส่องสว่างดาวน์ไลท์สองจุด

กลับเข้ามาด้านในกลางบ้านอีกครั้ง ความกว้างของช่วงทางเดินบันไดจัดมา 1 เมตรค่ะ ซึ่งวัสดุจะเป็นไม้เนื้อแข็ง โทนสีเข้ม พร้อมมือจับราวกันลื่น

ในส่วนของชานพักชั้นแรก มีการแบ่งขั้นบันไดเป็นชานทรงสามเหลี่ยมมาหลาย Step หน่อย เวลาใช้งานก็ระมัดระวังกันนิดนึงนะคะ การออกแบบจะค่อนข้างให้ความสำคัญเรื่องความสว่างในพื้นที่โถงบันไดพอสมควร โดยจะมีการติดไฟส่องสว่างที่พื้นทางเดินมาให้ พร้อมช่องแสงที่โถงบันไดช่วงชานพัก

ระหว่างครึ่งหนึ่งของชานพักบันไดทางซ้ายมือ จะเจอกับส่วนของห้อง Storage 2 ที่มีมาให้อีกส่วนตรงนี้ด้วยค่ะ ส่วนรูปทางขวาเป็นส่วนของพื้นที่กระจกบาน Fix ขนาดใหญ่ที่ให้ความสว่างบริเวณบันได ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถดึงมู่ลี่มาปิดได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ก่อนเข้าไปยัง Common Area เราจะเจอกับห้องนอน 1 ห้อง

ในชั้นนี้จะมีห้องนอนอยู่ 1 ห้อง ฟังก์ชันภายในห้องมีระเบียง พื้นที่แต่งตัว และห้องน้ำในตัว เนื่องจากเป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมาพอสมควรเลยออกแบบให้ “ห้องนอนทุกห้อง” มีความกว้าง สามารถวางเฟอร์ เดินไปมาสะดวก และวางเตียง King Size ได้

ตำแหน่งของห้องนอนนี้จะได้พื้นที่ระเบียงที่หันไปทางด้านข้างบ้านค่ะ โดยออกแบบเน้นช่องแสงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่แบบนี้ มองออกไปด้านนอกจะเป็นพื้นที่ระเบียงและทางขวามือเราจะเห็นหน้าต่างที่มีกระจกพ่นฝ้าอยู่อันหนึ่ง เป็นส่วนช่องแสงจากพื้นที่ในห้องน้ำบริเวณพื้นที่อาบน้ำค่ะ

ระเบียงจะได้เป็นขนาดใหญ่สามารถเอาพวกเก้าอี้นั่งเล่นไปวางได้ อีกทั้งยังให้ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยซึ่งได้ทั้งในเรื่องของความสวยงามทางสายตาและแสงธรรมชาติลอดผ่านมาได้

มุมนี้เป็นโซนทางก่อนจะเข้าไปยังพื้นที่ Walk in Closet โดยสามารถจัดทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ หรือทำเป็นเก็บของ ตู้โชว์ชั้นวางก็ได้

พื้นที่แต่งตัวตำแหน่งจะอยู่ตรงหน้าก่อนทางเข้าห้องน้ำพอดี ซึ่งใช้งานได้ง่าย หลังอาบน้ำเสร็จก็หยิบเสื้อผ้าแต่งตัวได้เลย

ส่วนของห้องน้ำจัดออกมาขนาดได้กำลังดีเลย ในเรื่องของระยะทางเดินไปมา รวมไปถึงพื้นที่อาบน้ำ ค่อนข้างกว้างขวางแต่ไม่โหวงเหวงจนเกินไป ซึ่งพวกวัสดุต่างๆในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่างเลย ส่วนที่แตกต่างคือในพื้นที่อาบน้ำจะมีหน้าต่างบานFix (กระจกพ่นผ้า) ทำให้ตัวห้องน้ำดูสว่างโปร่งสบายตาดี

สุขภัณฑ์ต่างๆใช้ของ TOTO & American Standard  เหมือนห้องก่อนหน้าค่ะ

เดินออกมาจากห้องนอนจะเจอกับส่วนหัวใจหลักของบ้านหลังนี้คือมี Common Area อยู่ตรงกลางบ้านขนาดใหญ่มากๆ ที่รวมพื้นที่เปิดโล่งเอาไว้ด้วยกัน ประกอบฟังก์ชันไปด้วย Living, Dining, Kitchen มีห้องน้ำให้ใช้แต่เป็นแบบ Powder Room (จากในรูปตัวประตูบานเฟี้ยมบานกระจกเป็นส่วนตกแต่งนะคะ ไม่ได้กั้นมาให้) และความสูงจากพื้นถึงฝ้าที่ชั้นนี้เป็นชั้นที่ได้ส่วนสูงที่สุดถึง 3.10 เมตร

Common Area อยู่ตรงกลางบ้านขนาดใหญ่มาก ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของบ้านหลังนี้เลย ที่รวมพื้นที่เปิดโล่งเอาไว้ด้วยกันในส่วนของความกว้างตัวบ้านทั้งหมด 14 เมตร ประกอบฟังก์ชันไปด้วย Living, Dining, Kitchen จากมุมนี้เราจะเห็นว่าบ้านตัวอย่างจัดเอามุม Dining ไว้ตรงตำแหน่งกลางบ้าน ซึ่งพื้นที่กว้างขนาดนี้สามารถเลือกรูปแบบของโต๊ะรับประทานอาหารได้หลากหลายมากๆและเป็นพื้นที่รองรับถึง 8-10 ที่นั่งก็ยังได้

ถัดมาเป็นส่วนของพื้นที่จัดเป็น Living Area Zone ด้วยพื้นที่ที่กว้าง ทำให้สามารถจัดพวกโซฟายาว เก้าอี้นั่งเล่นอะไรต่างๆในมุมนี้ได้ประมาณ 6-8 ที่นั่ง แล้วแต่เจ้าบ้านจะเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบไหน ถ้าอยากได้พื้นที่ใช้สอยคุ้มๆหน่อยก็เอาไอเดียของบ้านตัวอย่างในส่วนที่ Built-In มุมตู้โชว์ ตู้เก็บของ ที่วางทีวีเต็มพื้นที่ไปเลย ซึ่งระยะขนาดนี้จัดทีวีขนาดใหญ่ถึง 60-70 นิ้วก็ได้เลย

ฝั่งหน้าบ้านทั้งหมดจะถูกออกแบบเป็นประตูกระจกบานเลื่อนทั้งหมด ซึ่งเน้นในเรื่องของความโปร่งโล่ง โปร่งแสงเพื่อให้ส่องผ่านมายังพื้นที่ Common Area นี้  ส่วนราวกันตกจะได้เป็นกระจกนิรภัย และในพื้นที่โซนนี้บ้านตัวอย่างได้ติดตั้งแอร์แบบ Concealed Typed มาให้ดู ส่วนในบ้านมาตรฐานจะเป็น Cassette Type ค่ะ

ถัดจากส่วนรับประทานอาหารไปจะเป็นส่วนของครัวฝรั่ง เป็นพื้นที่ครัวเปิด โดย 2 โซนนี้โครงการจะติดแอร์มาให้ร่วมพื้นที่กันเป็นแบบ Cassette Typed กระจายความเย็นได้ 4 ทิศทาง ของ Daikin Inverter เช่นกัน

มองออกไปฝั่งหน้าบ้านบริเวณโซนครัวนี้กันบ้างค่ะ ซึ่งก็เป็นประตูกระจกบานเลื่อนช่องแสงแบบ Full Height ตรงนี้ด้วยเช่นกัน

นอกจากพื้นที่ในส่วนของ Common Area แล้ว พื้นที่ระเบียงในส่วนที่ติดกับโซนครัวก็ยังถือว่าได้ความสำคัญของการแบ่งพื้นที่มาไม่น้อยหน้าเช่นกัน เนื่องจากต้องการให้พื้นที่ตรงนี้เป็นมุมพักผ่อน และกว้างขวางพอที่จะจัดปาร์ตี้ครอบครัวเล็กๆได้ โดยที่ไม่ได้โดนแสงแดดส่องเข้าตรงๆและลมผ่านมาได้ อีกทั้ง Facade (ส่วนตกแต่งหน้าบ้าน) ยังทำหน้าที่สกรีนบดบังสายตาจากคนภายนอกได้ส่วนหนึ่ง เพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

ตรงส่วนนี้โครงการตกแต่ง Facade (ผิวหน้าตกแต่งอาคาร) รวมไปถึงไม้ระแนงด้านบนด้วย Biowood และปรับองศาของการเปิดให้เฉียงๆหน่อย เพื่อให้ Shading ของเงาแดดมาดูมีมิติ

Biowood เป็นผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ เป็นไม้สังเคราะห์ที่มีส่วนผสมของพีวีซี สามารถใช้งานได้เสมือนไม้จริงแต่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ รูปทรง สี และลวดลายของความเป็นไม้ธรรมชาติไว้ดังเดิม ซึ่งการเอามาใช้ตกแต่ง Facade นับว่าเป็นข้อดีตรงที่พื้นที่ตรงนี้เราไม่ได้ไปสัมผัสในการใช้งานอยู่แล้ว และเจ้าวัสดุนี้ มีคุณสมบัติพิเศษที่คงทนสามารถกันแมลงได้ทุกประเภท ไม่ลามไฟ ปราศจากสารเคมีเป็นพิษ การทำความสะอาดก็ง่าย เพียงแค่ทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่น ที่ปัดฝุ่น ไปจนถึงใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดเอาก็ได้

การที่มีวัสดุทดแทนมาใช้ในบ้าน อาจจะทำให้ดูแบบว่าไม่ได้ใช้ของจริง ไม่ดูคลาสสิค แต่ถ้าเป็นวัสดุธรรมชาติอย่างไม้จริง ข้อดีของมันคือสวยกว่าอยู่แล้ว แต่ข้อเสียมันก็มากอยู่หลายๆเรื่องทั้งเรื่องของราคาที่สูงกว่า การซ่อมบำรุงต้องทำบ่อยกว่า ฉีดปลวก ทาสี เคลือบเงา การทำความสะอาดที่ยากกว่าเป็นต้นค่ะ

ในส่วนของพื้นที่ระเบียงก็จะยาวต่อเนื่องไปยังด้านนอกของพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น เท่ากับตัวระเบียงนั้นจะยาวเกือบ 14 เมตรเลยทีเดียว อีกทั้งด้วยพื้นที่ความกว้างของระเบียงทำให้แดดธรรมชาติที่ส่องมาจากหน้าบ้าน ไม่ลงไปไกลรบกวนในส่วนตัวบ้านมากนัก

โดยในโซนพื้นที่ครัว จะมีเจ้า Island ขนาดกลางที่เป็นพื้นเชื่อมพื้นที่ทำกิจกรรมระหว่างครอบครัวไว้ ตรงนี้โครงการให้มาด้วยนะคะ

พื้นที่ของ Island นี้สามารถเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร ของหวาน เครื่องดื่มง่ายๆได้เลย โดยฝั่งนี้ด้านล่างจะเป็นชุดตู้เก็บของมีหน้าปิดทั้งหมด เก็บของได้ค่อนข้างเยอะมาก ส่วนของ Top Counter ที่นี่จะเป็นของ SCG ยี่ห้อ GEOLUXE

Tips : GEOLUXE เป็นแบรนด์หนึ่งของเอสซีจี ที่จำลองต้นแบบมาจากหินอ่อน และใช้นวัตกรรมในการผลิตวัสดุที่มีชื่อว่า “Pyrolithic Stone” ซึ่งใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการนำวัสดุและแร่ธาตุจากธรรมชาติ มาผ่านกระบวนการผลิตที่จำลองรูปแบบการเกิดของหินตามกระบวนการทางธรรมชาติ จนมีความสวยงาม  โดยมีคุณสมบัติในเรื่องความแข็งแกร่ง ทนความร้อน ทนต่อกรดด่าง ทนต่อการขูดขีด มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำจึงเกิดคราบต่างๆ ได้น้อยมาก และสามารถดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย

ชุดของ Sink ในพื้นที่ Island เริ่มจากตัวก๊อกและสายฉีดของยี่ห้อ Zuchetti  ที่สามารถยืดออกได้ สามารถใช้งานได้ทั่วถึง พวกระบบน้ำต่างๆในบ้านนี้แยกน้ำร้อนน้ำเย็นไว้ให้ด้วย

Sink ทางโครงการให้มาขาดใหญ่ ตัวนี้เป็นของยี่ห้อ ClenaUp นำเข้าจากญี่ปุ่น ตัวพื้น Sink มีการทำเป็น Slope ให้น้ำไหลเอียงไปทาง Drain เลย และที่ดีมากๆอีกย่างคือ ผิวของ Sink มีการเคลือบสิ่งที่เรียกว่า E-Coat โดยประโยชน์ของมันคือ ต่อต้านรอยขีดข่วนเชื้อรา, แบคทีเรีย และยังลดในเรื่องของเสียงเวลาน้ำไปกระทบ

ในส่วนพื้นที่ผนังด้านข้างมุมนี้ โครงการให้ความสำคัญกับพื้นที่ครัวเปิดส่วนนี้ค่อนข้างมากทีเดียว หลักๆให้หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ ยกเว้นแค่ตู้เย็นเท่านั้น นอกนั้นได้หมด

พื้นที่เก็บของบริเวณโซนครัวนี้ขอบอกว่าอภิมหาจุใจค่ะ  มีทั้งแบบหน้าบานทึบกับกระจกสีดำใส แบ่งเป็นช่องต่างๆทั้งด้านบนผนัง และชุดตู้ด้านล่างใต้ Pantry ซึ่งทุกๆส่วนระบบการเปิดปิดเป็น Fitting Soft Close ทั้งหมด ตัว Top ครัว Pantry ยังได้วัสดุเป็นของ GEOLUXE เหมือนกับ Island ฝั่งตรงข้ามต่อเนื่องไปจนถึง Backsplash ที่กรุผนังด้านหลังด้วย

ในส่วน Hob & Hood (เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัว) รวมไปถึงชุด Microwave & Oven ด้านข้างด้วยเช่นกัน ทั้งหมดที่กล่าวมาจะได้เป็นของยี่ห้อ  Smeg นั่นเองค่ะ

ติดกันกับพื้นที่ Pantry จะเป็นส่วนของห้อง Storage ส่วนที่ 3 ที่เราเจอในบ้านนี้ และบ้านตัวอย่างจัดให้ดูเป็นไอเดียอีกส่วนว่าด้านข้างๆ มีพื้นที่ที่จะสามารถทำเป็นตู้เก็บของ ชั้นวางไวน์ ตู้เก็บไวน์ พวกนี้ได้ด้วย

เข้ามาดูใน Storage ติดกับครัวกันหน่อย ในบ้านจริงมาตรฐานจะไม่ได้มีการ Built-In เคาน์เตอร์ครัวเหล่านี้มาให้นะคะ อันนี้โครงการทำครัวปิดมาให้ดูเป็นตัวอย่างเพื่อเป็นไอเดีย และจะได้เห็นระยะของจริงด้วยว่าจะออกแบบชั้นวางของได้มากขนาดไหน

กลับเข้ามาในตัวบ้านกันค่ะ ชั้น 2 จะมีฟังก์ชันสำหรับห้องน้ำส่วนรวมอยู่ตรงนี้ข้างๆกับตัวลิฟต์โดยสาร

ฟังก์ชันห้องน้ำห้องนี้จะเป็นแบบ Powder Room นะคะ ไม่มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำมาให้ แต่ตำแหน่งที่ชิดกับหลังบ้าน ทำให้มีหน้าต่างช่องแสงมาด้วย

ไปต่อกันที่บันไดและลิฟต์ เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปดูต่อกันที่ชั้น 3

ขึ้นมาที่ชั้น 3 เราจะเจอกับโถงที่จะแจกไปยังห้องนอนต่างๆ ส่วนของห้องนอนเล็กจะอยู่ไปทางฝั่งเดียวกัน โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นนี้จะเปลี่ยนไปเป็น 2.90 เมตร

ห้องนอนเล็กห้องแรกจัดฟังก์ชันแบ่งเป็นส่วนพักผ่อนและ Walk-in Closet มีระเบียงและห้องน้ำในตัว

ทางไป Walk-in Closet จะอยู่ด้านหลังหัวเตียง

ตำแหน่งของ  Walk-in Closet อยู่หน้าห้องน้ำพอดี พออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวต่อได้สะดวก

ฟังก์ชันของห้องน้ำก็จะเหมือนกับห้องก่อนค่ะ เป็นส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน

มีพื้นที่ระเบียงให้ออกไปยืนสูดอากาศค่ะ

มองลงไปด้านล่างเราจะเห็นพื้นที่สวนข้างบ้าน ซึ่งในบ้านตัวอย่างจัดเป็นสระว่ายน้ำ

ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งซึ่งด้านหน้าจะเป็นห้องน้ำ ถัดไปด้านในจะเป็นห้องนอน

ในส่วนของห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้าง วางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้สบาย ซึ่งห้องนอนนี้ตำแหน่งจะได้วิวหันฝั่งออกไปด้านหน้าบ้าน โดยจะได้เป็นระเบียง Over Size มาด้วย ได้รับวิวที่กว้างกว่า อีกทั้งตัวระเบียงส่วนนี้ยังไปเชื่อมกับระเบียงของห้อง Master Bedroom ได้อีกด้วย

ผนังฝั่งหน้าห้องทั้งหมดถูกจัดเป็นทั้งมุมโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า

บรรยากาศภายในห้องน้ำคล้ายห้องก่อนหน้า แต่ว่าห้องนี้จะไม่ได้อยู่ตำแหน่งที่เจาะหน้าต่างเปิดแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องน้ำได้ ใช้ระบบพัดลมดูดอากาศและความชื้นเข้าช่วยแทนค่ะ

เรามาดูกันต่อที่ Master Bedroom ค่ะ

ที่ผนังด้านปลายเตียง สามารถ Built-In ชุดเฟอร์นิเจอร์ชั้นวาง ชั้นโชว์ เก็บของได้กว้างเต็มผนัง

ออกมาที่ระเบียงระเบียงด้านนอกจากทางห้องนอนใหญ่ อย่างที่บอกว่าระเบียงจะยาวไปเชื่อมกับห้องนอนเล็กที่ติดกันค่ะ และมีความกว้างพิเศษกว่า 1.50 เมตร ซึ่งจัดเป็นมุมนอนเล่นแบบกึ่งตากอากาศส่วนตัวก็ได้ หรือถ้าใครรักต้นไม้ ธรรมชาติ ก็สามารถจัดเป็น Zone สวนกระถางให้เก๋ๆก็ได้นะ

ซึ่งจากระเบียงมองออกไปจะเห็นโรงเรียนานาชาติ Brighton College Bangkok

พื้นที่ข้างๆหัวเตียงฝั่งขวาจะเป็นทางเข้าไปสู่อีกฟังก์ชันอย่าง Walk in Closet

Image 1/2
พื้นที่ Walk in Closet

พื้นที่ Walk in Closet

พอข้ามมาอีกฝั่งของตัวห้องเราจะเจอกับ Walk in Closet ขนาดใหญ่และกว้างมากๆ (ชุดตู้เหล่านี้เป็นไอเดียการตกแต่งนะคะ โครงการไม่ได้มีให้) ในส่วนของห้องนอนใหญ่โครงการเค้าจะไม่ได้กั้น Partition ฝั่งหัวเตียงกับโซนแต่งตัวตรงนี้มาให้นะคะ จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งกว้างๆเลย เพราะฉะนั้นเจ้าของบ้านคนไหนอยากจะจัดโซนฟังก์ชันในการใช้งานยังไงก็เลือกได้ตามความชอบของแต่ละบุคคลเลยว่าจะให้น้ำหนักกับพื้นที่ไหน

ในห้องน้ำจัดฟังก์ชันการใช้งานมาให้ครบ ทางฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ อ่างอาบน้ำ ส่วนฝั่งขวามือเป็นอ่างล้างมือ แบบ His & Her

อ่างล้างมือ แบบ His & Her แยกคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงใช้งานกันคนละจุด และก็ทำเคาน์เตอร์อ่างไซส์ยาวเลยให้วางของใช้ต่างๆตรงนี้ได้

โดยในห้องน้ำจะได้ Bathtub ของ Kasch มาด้วย วางเอาไว้กลางห้องเลย ขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว  ลงไปแช่ 2 คนได้นะ  และด้านหลังจะแบ่งกั้นเป็นสัดส่วนอย่างฟังก์ชันอาบน้ำแยก และก็สุขภัณฑ์

มีทั้งก๊อกทรงโค้งและแบบที่ดึงออกมาได้

ด้านหลังอ่างอาบน้ำจะแบ่งกั้นเป็นห้องอาบน้ำและห้องสุขาแยกเป็นสัดส่วน ทำให้ห้องนี้สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้สบายๆ

ในพื้นที่โซนอาบน้ำสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาในห้องน้ำนี้ก็คือ Rain Shower นั่นเอง ส่วนของพื้นที่ยืนอาบก็มาตรฐานประมาณ 1.0 x 1.5 เมตร

โซนของสุขภัณฑ์ จะได้เป็นของ TOTO ที่ขนาดใหญ่หน่อย รูปทรงโอบล้อมหลังแบบนี้ บริเวณผนังมีพื้นที่วางของมาให้ด้วย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Vana Residence พระราม 9 – ศรีนครินทร์  ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2564

  • TYPE A บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 64-136 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 492 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 35-50 ล้านบาท
  • TYPE B บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 56-76 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 420 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 32-34 ล้านบาท ( ราคาพิเศษปิดเฟส )
  • TYPE C บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 53-68 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 28-31 ล้านบาท
  • จอง 200,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% | ดาวน์ 15%
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 150,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – Vana Residence พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่บริเวณกรุงเทพฝั่งตะวันออก ที่อยู่ตรงกลางระหว่างใจกลางเมืองและชานเมือง ดังนั้นบริเวณนี้จึงถือว่าเป็นทำเลที่สามารถใช้เดินทางเพื่อเข้า และ ออกนอกตัวเมืองได้สะดวก นอกจากนั้นยังมีซอยลัดเอาไว้หนีรถติดคือซอย กรุงเทพกรีฑา 7 ซึ่งสามารถใช้ไปออกถนนรามคำแหง , ซอยกรุงเทพกรีฑา 8 และ 20 สามารถใช้ลัดไปออกมอเตอร์เวย์ได้

สำหรับการเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างสะดวก การเข้าเมืองมาจะมาถนนพระราม 9 ขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์-ศรีรัช เพื่อเข้าเมืองไป อโศก-พญาไท-สยาม หรือ จะออกนอกเมืองโดยใช้เส้นมอเตอร์เวย์ก็สะดวกอยู่ และการที่มีถนนตัดใหม่อย่างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ที่สร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์อีกไม่นานก็จะทำให้บริเวณนี้มีศักยภาพในการพัฒนาต่ออีกมากในอนาคต เชื่อว่าที่ดินรอบๆโครงการที่เปิดถนนใหม่ ในอนาคตจะมีการพัฒนาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องแน่นอน

ความปลอดภัย – จากทางเข้าออกด้านหน้าเข้าออกผ่านรั้วประตูอัตโนมัติระบบ RFID หรือ Easypass โดยมีรปภ.ช่วยสกรีนทั้งที่ด้านหน้าและภายในโครงการ มี CCTV ที่ซุ้มด้านหน้าและถนนภายในโครงการ ส่วนของตัวบ้านไม่ได้ให้ระบบใดๆมาให้ลูกบ้านไปเลือกติดตามความชอบของเจ้าของ และรั้วของโครงการที่นี่ให้มาสูงมากโดยจะเป็นคอนกรีตสูง 3 เมตร + ต่อเติมกั้บไม้ระแนงเพิ่มอีก 3 เมตร

การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – การออกแบบบ้านเป็นแบบบ้านหน้ากว้าง มีลิฟต์โดยสารมารองรับเพื่อให้มีความสะดวกสบายเผื่อในเรื่องของผู้สูงอายุ นอกจากบ้านที่หน้ากว้างและยังเปิดช่องแสงตามจุดต่างๆมาให้ใหญ่และเยอะด้วย การแบ่งฟังก์ชันภายในบ้านค่อนข้างทำได้ประทับใจ ที่จอดรถกว้าง แยกในส่วนของแม่บ้านกันคนละโซนเลย ให้ความสำคัญกับ Common Area มาก ซึ่งเป็นพื้นที่หลักสำคัญของครอบครัว โดยในแต่ละห้องนอนก็มีฟังก์ชันในตัวของใครของมันครบและมีระเบียงในตัวทุกห้องด้วย สุดท้ายห้องของ Master Bedroom, Bathroom ได้ความสำคัญของพื้นที่กำลังดีได้ความรู้สึกที่โอ่โถ่กว้างเหมาะสมกับเจ้าของบ้าน ขอชื่นชมในเรื่องของแบบบ้านทั้งภายนอกและภายในเลยค่ะ

วัสดุ – วัสดุของบ้าน ดูจากภายนอกและภายในคุมธีมให้เป็น Mood & Tone Natural มีความเป็นธรรมชาติ แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ได้ลวดลายของธรรมชาติเป็นหลักทั้งไม้สังเคราะห์ Biowood, กระเบื้องพอร์ชเลนลายหินธรรมชาติ และลายหินอ่อน ตามจุดต่างๆ ซึ่งวัสดุทดแทนเหล่านี้ก็ดูสวย แต่ยังไงก็ไม่เท่าของจริง ซึ่งถ้าโครงการเอาของจริงมาลงราคาจะต้องพุ่งกระฉูดกว่านี้แน่ๆ และก็วัสดุธรรมชาติของจริงดูแลยากนะ ถ้าดูแลไม่ดีแปปเดียวดูโทรมไวไปเลย ส่วนวัสดุภายในโซนครัว, ให้แอร์มาทุกห้อง, พื้น Engineering Wood เราว่าโอเคสมกับราคา

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – ตัวโครงการมีการเอาต้นไม้ใหญ่มาลงไว้ขนานกับรั้วกำแพงโครงการ รวมไปข้างบ้านถนนเมนแปลงมุม ยาวตลอดฝั่ง ประกอบกับด้วยระดับโครงการที่เอาสายไฟสายเคเบิ้ลทั้งหมดลงดินทำให้ดูสวยงามม และยังมีพื้นที่สวนหย่อมอีกจุดที่ตั้งชื่อว่า Tree House , นอกจากนี้ภายในตัวบ้านของแต่ละแปลงจะมีการลงต้นไม้ใหญ่ให้หลังละ 1 ต้นเป็นต้นโชคลาภ / ที่ดินของโครงการมีประมาณเกือบ 20 ไร่ แต่มีบ้านเพียง 69 ยูนิตเท่านั้นซึ่งก็ถือว่ามีความส่วนตัวไม่วุ่นวาย และมีการวางผังบ้านเกือบๆทั้งหมด หันหน้าบ้านและหลังบ้าน ไว้ทางทิศเหนือ-ใต้  ไม่โดนแดดเข้าบ้านตรงๆ (จะมีเฉพาะบางแปลงพิเศษที่อยู่โซนหน้าสุดของโครงการเลยที่หันหน้าไปทางตะวันตก) และอีกอย่างคือในซอยย่อยแต่ละซอย จะวางบ้านพักอาศัยไว้เพียงซอยละ 4 ยูนิตเท่านั้น เพื่อได้ความเป็นส่วนตัว

สาธารณูปโภค – โครงการจัดพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ไว้อยู่ในโซนตรงกลางโครงการ มีอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ซึ่งประกอบไปด้วย Reception Living Room, Relax Semi Outdoor, Multipurpose Area, Fitness ด้านนอกกลางแจ้งมีสระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 25 ม. ลึก 1.20 เมตร (แยกสระเด็ก) และมีพื้นที่สนามเด็กเล่นบ้านต้นไม้ (Tree House) ถือว่าครบวงจรในตัวมาตรฐาน และแชร์ริ่งการใช้งานกับเพื่อนบ้านไม่เยอะมากด้วย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 30-50 ล้านบาท, 14 กรกฎาคม 2564

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ติดถนนหลักตัดใหม่ ความเจริญรอบๆยังไม่มากแต่เห็นหลายๆจุดที่กำลังค่อยๆมาพัฒนาให้เห็น ในละแวกมีเส้นทางลัดไปรามคำแหง ออกมอเตอร์เวย์ใกล้ทางด่วน
  • ความปลอดภัย 7/10 –  รปภ.หน้าหมู่บ้าน , CCTV ในโครงการ , ประตูรั้วอัตโนมัติ, รั้ว 3+3 เมตร
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9.25/10 – แบบสวยทั้งดีไซน์ภายนอก ภายใน รวมไปถึงการแบ่งการจัดการพื้นที่ต่างๆและฟังก์ชันแต่ละจุดใช้งานได้ดีมาก เป็นบ้านหน้ากว้าง และยังคำนึงถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวในหลายๆจุด
  • วัสดุ 8/10 –  ห้องน้ำ Toto, American Standard พื้น Porcelain Tile และ engineering wood, ประตูหน้าบ้านไม้สัก, ชุดครัว Smeg, มีลิฟต์ของ Mitsubishi, และแอร์ฝังฝ้าที่ห้องโถงนั่งเล่นกับห้องนอนใหญ่
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – โครงการเน้นลงต้นไม้ใหญ่ตามริมรั้วและถนนหลัก ร่มรื่นมากๆ มีสนามเด็กเล่นบ้านต้นไม้ วางผังบ้านได้ดีเน้นทิศเหนือใต้ แต่ละซอยมีแค่ 4 หลัง
  • สาธารณูปโภค 8/10 – มาตรฐานมีครบทั้ง สโมสร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ทำออกมาได้สวยน่าใช้ แชร์กันไม่เยอะมาก

7.81 / 10.00 
LUXURY – SUPER LUXURY

Vana Residence พระราม 9 – ศรีนครินทร์ เหมาะกับใคร

Vana Residence พระราม 9 – ศรีนครินทร์ เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ ที่สามารถอยู่กันได้ 3 Generations รองรับส่วนของผู้สูงอายุ เน้นตัวบ้านหน้ากว้าง ดีไซน์สวย จอดรถง่าย หรือ L-Shape ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง จำนวนยูนิตไม่มาก เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก มีงบประมาณ 28 – 50 ล้านบาท (ยังไม่รวมค่าตกแต่ง) ซึ่งราคาระดับนี้ไม่ค่อยมีข้อจำกัดงบทางการเงินที่ผ่อนต่อเดือนเท่าไร


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc