VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ใกล้ Central Westville เป็นส่วนตัวเพียง 43 ยูนิต จาก Asset Five Development [รีวิวฉบับที่ 2677]

VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

พิกัด Google Maps : 13.804940 , 100.445063
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากโครงการ แสดงตำแหน่ง VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) ที่ตั้งอยู่ในซอยมหาสวัสดิ์ 4 ห่างจากถนนราชพฤกษ์ประมาณ 600 เมตร โดยจุดเด่นโครงการอยู่ที่ทำเล ซึ่งอยู่ติดห้างดังเปิดใหม่อย่าง Central Westville จากถนนซอยสามารถขับทะลุเข้าหลังห้างได้เลย อีกทั้งโครงการยังอยู่ติดกับ The Crystal SB โดยมีทางเชื่อมต่อให้ขับไปออกถนนใหญ่ได้อีกทาง จัดเป็นทำเลศักยภาพที่อยู่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์สูงอีกแห่งของโซนราชพฤกษ์ตอนกลาง (บรมราชชนนี – รัตนาธิเบศร์) เลย ซึ่งในย่านนี้แต่เดิมก็มีโครงการแนวราบขึ้นอยู่ค่อนข้างคึกคัก ทั้งทาว์นโฮม บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว โดยช่วงราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่ 2 – 60 ล้านบาทขึ้นไปเลย

ในแง่การเดินทาง ตัวโครงการจัดว่าอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทางก็ถือว่าสะดวกมาก เพราะถนนราชพฤกษ์เป็นถนนหลักที่ยาวเชื่อมต่อ 3 จังหวัด (ปทุมธานี – นนทบุรี – กรุงเทพฯ) จึงไปตัดกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย อาทิ ถนนบรมราชชนนี , ถนนนครอินทร์ , ถนนกาญจนาภิเษก , ถนนรัตนาธิเบศร์ เชื่อมต่อไปจนถึงถนนกรุงธนบุรี  เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี หรือโซน CBD อย่างสีลม – สาทรได้เลย โดยโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น – ลงทางพิเศษศรีรัช ใช้เวลาเดินทางเพียง 10 – 15 นาทีเท่านั้น จึงทำให้การเดินทางเข้า –  ออกเมืองเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง “สถานีตลิ่งชัน” อีกด้วย ซึ่งจากสถานีนี้นั่งต่อเพียง 3 สถานีก็สามารถไป Interchange กับสายสีน้ำเงินที่สถานีกลางบางซื่อได้ จึงถือเป็นอีกตัวเลือกในการเดินทาง สำหรับคนที่อยากใช้บริการรถสาธารณะนะคะ

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ นอกจากห้าง Central Westville และ The Crystal SB แล้ว รอบๆโครงการยังมีห้าง , ตลาดสด และ Community Mall ให้ออกไปเลือกจับจ่ายได้หลากหลาย ซึ่งก็สามารถไปอิงความอุดมสมบูรณ์ได้ทั้งบนเส้นราชพฤกษ์ และกาญจนาภิเษก (บางใหญ่) ได้เลย จึงทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาของกินของใช้ อีกทั้งโครงการยังอยู่ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำและสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง ทั้งรัฐบาล เอกชน และนานาชาติ โดยมีให้เลือกตั้งแต่อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย จัดเป็นทำเลที่ได้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมาะแก่การอยู่อาศัย และสะดวกกับครอบครัวที่มีสมาชิกอยู่ร่วมกันหลาย Generations

สำหรับการเดินทาง เราใช้ถนนราชพฤกษ์มุ่งหน้ามาจากวงเวียนนพระราม 5 ก่อนจะเบี่ยงซ้ายออกทางขนานเพื่อกลับรถใต้สะพาน ขับตรงประมาณ 300 เมตร จะเจอซอยเพื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ ก่อนจะเลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อเข้าซอยมหาสวัสดิ์ 4 ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ด้านหลัง Central Westville และ The Crystal SB จากถนนราชพฤกษ์รวมระยะทางประมาณ 600 เมตร

จากถนนอัจฉริยะประสิทธิ์สามารถเลี้ยวเข้าได้ 2 ฝั่ง คือทางหลักตามในภาพ และซอยที่อยู่ติดห้าง Central Westville และจากโครงการสามารถใช้ลานจอดรถด้านหลัง The Crystal SB ทะลุไปออกถนนราชพฤกษ์ได้ แต่ก็จะมีการเปิด – ปิดเป็นเวลา ช่วง 5.00 – 22.00 น.ค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

รอบโครงการ VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) เป็นแหล่งชุมชน มีทั้งบ้านพักอาศัย ร้านค้า อาคารพาณิชย์และหอพักขึ้นอยู่เยอะ กลางโครงการมีคลองสะพานผักตัดผ่าน ด้านหน้าทางเข้าติดกับคอนโดสูง 7 ชั้น ส่วนด้านในจะมีฝั่งทิศเหนือที่อยู่ติดกับอาคารเรียน 6 ชั้น และวัด โดยอยู่ใกล้กับบ้าน 4 แปลง แต่ภายในตัวบ้านให้วัสดุมาค่อนข้างดี ทำให้สามารถป้องกันเสียงรบกวนได้ในระดับนึงเลย

• ทิศเหนือ ติดกับ วัดและอาคารเรียน 6 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ คอนโดสูง 7 ชั้น คลองสะพานผัก และอาคารแนวราบ
• ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The Crystal SB ราชพฤกษ์ ~ 100 เมตร
• Central Westville ~ 300 เมตร
• Homepro ราชพฤกษ์ ~ 2.5 กิโลเมตร
• The Walk ราชพฤกษ์ ~ 3.5 กิโลเมตร
• Food Villa ราชพฤกษ์ ~ 5.2 กิโลเมตร
• The Circle ราชพฤกษ์ ~ 5.3 กิโลเมตร
• The Sense ปิ่นเกล้า ~ 7.4 กิโลเมตร
• Central ปิ่นเกล้า ~ 8.3 กิโลเมตร
• Central Westgate ~ 14 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาล ศรีสวรรค์ ราชพฤกษ์ ~ 5.1 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล เจ้าพระยา ~ 7.3 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล หูตาคอจมูก ~ 8.1 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล วิชัยเวช ~ 8.6 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ~ 9.3 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล พญาไท 3 ~ 11.2 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล พระนั่งเกล้า ~ 11.3 กิโลเมตร

โรงเรียน

• มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ ~ 5 กิโลเมตร
• โรงเรียน เทพศิรินทร์ นนทบุรี ~ 5.4 กิโลเมตร
• โรงเรียน เด่นหล้า พระราม 5 ~ 5.7 กิโลเมตร
• Ruamrudee International School ~ 6.4 กิโลเมตร
• โรงเรียน เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี ~ 6.5 กิโลเมตร
• Kensington International Kindergarten ~ 7.2 กิโลเมตร
• Hummingbird International Kindergarten ~ 7.9 กิโลเมตร
• Denla British School ~ 13.6 กิโลเมตร
• โรงเรียน เซนต์คาเบรียล ~ 14.3 กิโลเมตร
• โรงเรียน เซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ ~ 14.3 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ~ 15.3 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ~ 15.3 กิโลเมตร

การเดินทาง

• สถานีรถไฟฟ้าตลิ่งชัน ~ 4.1 กิโลเมตร
• ทางด่วนพิเศษศรีรัช ด่านบ้านฉิมพลี ~ 4.4 กิโลเมตร
• ทางด่วนพิเศษศรีรัช ด่านตลิ่งชัน ~ 5.1 กิโลเมตร

VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวนเพียง 43 ยูนิต บนเนื้อที่ 17 ไร่ ซึ่งโครงการนี้จัดเป็นโครงการที่ 2 ในแบรนด์ VANA จาก Asset Five Development หลังจากเปิดตัวโครงการแรกไปแล้วบนทำเลบ้าน Luxury อย่างโซนกรุงเทพกรีฑา สำหรับทำเลราชพฤกษ์ก็ยังคงรูปแบบของ Product บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ไซส์ใหญ่ ในราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาทขึ้นไป นอกจากจุดแข็งที่อยู่ติดห้าง ภายในโครงการก็ออกแบบมาได้ร่มรื่น ผ่อนคลาย ด้วยพื้นที่สีเขียวมากกว่า 1 ไร่  เข้ากับชื่อโครงการ “Vana” (วนา) ที่แปลว่า “ป่า” โดยครั้งนี้มาในแนวคิด Enchanted Forest เพื่อให้ลูกบ้านได้สัมผัสถึงสเน่ห์ของบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติ

การออกแบบผังโครงการก็ทำออกมาได้น่าสนใจ มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง เชื่อมต่อกันด้วยสะพานข้ามคลองภายในโครงการ โดยด้านหน้าเป็นพื้นที่สวนและ Clubhouse ช่วยเบรคความวุ่นวาย และช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวก่อนเข้าส่วนพักอาศัย ด้านในมีพื้นที่สวนหย่อมขนาดใหญ่มาอีกจุด เสริมให้บรรยากาศดูเหมาะแก่การพักผ่อนและอยู่อาศัย โดยสายไฟในโครงการจะถูกนำลงดินทั้งหมด ทำให้ทัศนียภาพโดยรอบดูเรียบร้อย ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา ถนนภายในซอยได้ความกว้างมา 9 เมตร ฟุตบาทมีการปูหญ้า ลงไม้พุ่ม และต้นไม้ใหญ่มาให้ นอกจากทำให้ภายในโครงการดูร่มรื่นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสดชื่นให้บริเวณหน้าบ้านได้อีกด้วย

สำหรับการจัดวางบ้านพักอาศัย ตัวบ้านจะมีให้เลือก 3 Type ด้วยกัน โดยหน้าบ้านจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้เป็นส่วนใหญ่ และมีบางโซนที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งโซนนี้เรามองว่าเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างดีเลยนะคะ นอกทางทิศของหน้าบ้านแล้ว ยังเป็นฝั่งที่เชื่อมต่อกับถนนหลัก ไม่ต้องเข้าซอย มีฝั่งที่ได้วิวสวน และฝั่งที่หันหน้าไม่ชนกับบ้านหลังอื่นๆ สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวหน่อย เราก็แนะนำเป็นโซนนี้เลย โดยรูปแบบบ้านที่ได้วิวสวนจะเป็น Type L เท่านั้นนะคะ ส่วน Type อื่นจะอยู่ลึกเข้าไปหน่อย แต่การเข้า – ออกก็ค่อนข้างสะดวก ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย รวมถึงซอยอื่นๆเช่นเดียวกัน

เข้าไปชมบรรยากาศภายในโครงการ เริ่มจากซุ้มปะตูทางเข้าที่อยู่ติดซอยมหาสวัสดิ์ 4 จากด้านหน้าเทียบกับภาพจำลองบรรยากาศโครงการก็ถือว่าใกล้เคียงกันเลย โดยทางเข้า – ออกแบ่งเป็น 2 ฝั่งชัดเจน ลูกบ้านต้องใช้ระบบ RFID เปิด – ปิดรั้วรางเลื่อนไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันโครงการกำลังอยู่ในระหว่างการนำมาติดตั้งนะคะ โดยการใช้งานก็จะเหมือน Easy Pass บนทางด่วนเลย

ถนนภายในโครงการได้มาค่อนข้างกว้าง สองข้างทางปลูกทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้นช่วยปรับมุมมองและอารมณ์จากภายนอกด้วยธะะรมชาติ โดยจากถนนทางเข้าจะยังมองไม่เห็นพื้นที่ภายในโครงการ ด้วยลักษณะเส้นทางที่เป็น Freeform ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่ใช้งานอยู่ด้านในได้ดี

อาคาร Clubhouse จะอยู่กึ่งกลางโครงการ ก่อนจะเจอสะพานที่เข้าสู่ส่วนพักอาศัย โดยการออกแบบสื่อถึงถ้ำและแหล่งน้ำที่อยู่กลางป่า (วนา) จึงมีการเลือกใช้สีเอิร์ธโทน และเส้นโค้ง เพื่อให้เกิดมุมมองที่น่าสนใจทั้งภายในและภายนอก

ฟังก์ชันได้เป็นอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ด้านหน้าเป็นสระว่ายน้ำ Freeform ขนาดใหญ่ โดยทางเข้า – ออกสามารถใช้ได้ 2 ฝั่ง ติดกับฝั่งด้านหน้าโครงการมีพื้นที่จอดรถไว้รองรับด้วย

ชั้น 1 ฟังก์ชันภายในได้เป็น Lobby สไตล์ Café Lover ตกแต่งด้วยโทนสีสดใส ดูมีชีวิตชีวา ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือ Co – Working Space สำหรับลูกบ้านที่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศ หรือใช้เพื่อรับแขกจากภายนอกก็ได้

ภายนอกมีโถงขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Semi – Outdoor ติดกับสระว่ายน้ำ มองไปด้านหน้าได้วิวสวนดูร่มรื่น

สระว่ายน้ำได้เป็นระบบเกลือ รูปทรง Freeform ความยาวกว่า 25 เมตร เทียบเท่าสระ Half Olympic การใช้งานจะแบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ลึก 1.20 เมตร และสระเด็กลึก 0.60 เมตร พร้อมโซน Jacuzzi ให้มานั่งผ่อนคลายหลังจากว่ายน้ำออกกำลังได้

ติดกับสระว่ายน้ำมีห้องน้ำรองรับมาให้ พร้อมส่วนอาบน้ำและ Locker ด้านใน แยกเป็นฝั่งชาย – หญิงชัดเจน โดยด้านหน้าก็มีส่วนล้างตัวก่อนลงสระอยู่ด้วย

ขึ้นมาชั้น 2 เป็นพื้นที่ Fitness ด้านนอกมีห้องน้ำแยกใช้งานกับส่วนชั้น 1 ลูกบ้านไม่ต้องเดินขึ้น – ลงบันได โดยการเข้า – ออกจะต้องใช้ระบบ Keycard เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านเวลามาใช้งาน

ภายใน Fitness ได้อุปกรณ์มาครบครัน ทั้ง Weight Training และ Cardio จาก TECHNOGYM  แบรนด์เครื่องออกกำลังกายสัญชาติอิตาลีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ให้ลูกบ้านสามารถเลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย

สำหรับสวนหย่อมด้านใน กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ทำให้เรายังไม่มีภาพบรรยากาศจริงมาให้ชมกัน แต่ฟังก์ชันก็ออกแบบมาให้รองรับผู้ใช้งานได้ทุกช่วงวัย ทั้งสวนหย่อม , สนามเด็กเล่น และ Jogging Track ที่ให้ลูกบ้านสามารถออกมาใช้วิ่งยืดเส้นยืดสายหรือเดินเล่นพักผ่อน สูดอากาศท่ามกลางธรรมชาติได้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบด้วย
• Lobby
• Fitness
• สระว่ายน้ำ Free Form ระบบเกลือ ยาว 25 เมตร  ลึก 1.20 เมตร
• แบ่งเป็นสระเด็ก ลึก 0.60 เมตร / พร้อมโซนจากุชชี่
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 1 ไร่กว่า
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 3 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
• การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน

รูปแบบบ้านในโครงการ VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์ แบ่งเป็น Type S , Type M และ Type L ตามขนาดพื้นที่ใช้สอย โดยจะเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นแบบหน้ากว้าง สร้างเกือบเต็มขนาดที่ดิน เหมาะกับคนที่เน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้าน เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆในทำเลเดียวกันที่เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ก็ถือว่าได้ความกว้างและพื้นที่ใช้งานมาใกล้เคียงกันเลย ทั้งยังมีฟังก์ชัน Double Volume ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งอีกด้วย โดยจุดเด่นของแบบบ้านไซส์กลางและไซส์ใหญ่ จะอยู่ที่ลิฟต์ในบ้าน สำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือคนที่ไม่สะดวกขึ้น – ลงบันได ก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก โดยรายละเอียดต่างๆ สามารถสรุปได้เป็นข้อๆดังนี้

• Type S บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 62 – 78 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 415 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
• Type M บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 71 – 112 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 485 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
• Type L บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 88 – 143 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 556 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน

วัสดุต่างๆ ในบ้าน

• หลังคาทรง Lean ( เมทัลชีท ชนวน PU หนา 2 นิ้ว )
• โครงสร้างบ้านระบบ ก่ออิฐฉาบปูน
• พื้นที่จอดรถ ลงเข็มมาให้ ลึก 22 เมตร ปูด้วย Stamped Concrete
• ลานซักล้าง ลงเข็มมาให้ลึก 22 เมตร
• ประตูบ้านรั้วเหล็ก รางเลื่อน 2 ตอน ติดตั้งระบบอัตโนมัติ
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×120 เซนติเมตร
• พื้นชั้น 2 – 3 : พื้น Hybrid Engineering Wood
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ จากยี่ห้อ KOHLER
• เครื่องทำน้ำร้อน จาก STIEBEL ELTRON (เฉพาะในห้อง Master Bedroom)
• เคาน์เตอร์ Pantry ใน Type S , Pantry และ Island ใน Type M – L จากยี่ห้อ KOHLER (ท็อปหินสังเคราะห์ GEOLUXE Food grade จาก SCG , หน้าบานกรุ HPL)
• อ่างล้างจาน จากยี่ห้อ BLANCO , เตาอบ , เตาไฟฟ้าอินดัคชั่น และเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ GORENJE
• บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน
• เครื่องปรับอากาศ จากยี่ห้อ MITSUBISHI

เทคโนโลยีในบ้าน

• Digital Door Lock จำนวน 1 ตัวที่ประตูบ้าน (Type M , L) ใช้งานได้ 5 ระบบ จากยี่ห้อ HAFELE
• ลิฟต์โดยสารในบ้าน จุได้ 4 คน รองรับน้ำหนัก 280 กิโลกรัม จาก MITSUBISHI
• ระบบไฟ 3 เฟส (30/100) รองรับการติดตั้ง Ev Charger เพิ่มได้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านเดี่ยว Type S พื้นที่ใช้สอย 415 ตร.ม.

แบบบ้านแรกที่เราจะพาไปชมกันคือ บ้านเดี่ยว Type S ซึ่งเป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการได้พื้นที่ใช้สอย 415 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยการออกแบบมาในสไตล์ “Modern Classic” มีการใช้สีเอิร์ธโทนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติ ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่ Facade ที่เป็นระแนงบังสายตา เป็น Gimmick ของ VANA นอกจากช่วยบังแดด บังฝนแล้ว ยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่อยู่ภายในบ้านด้วย

แปลนบ้านได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง ฟังก์ชันประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถและ 1 ห้องแม่บ้าน มาพร้อมพื้นที่อเนกประสงค์ที่ชั้น 1 และระเบียงขนาดใหญ่ที่ชั้น 2 และ 3 บนเนื้อที่ประมาณ 62 – 78 ตร.วา ในราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท*

ชั้น 1 ได้ข้อดีของแบบบ้านหน้ากว้างคือทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานในบ้านได้อย่างเป็นสัดส่วน โดยจุดเด่นจะอยู่ที่โถงนั่งเล่น Double Volume สูง 6.6 เมตร เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับบ้าน ที่ส่วนรับประทานอาหาร ได้เคาน์เตอร์ Built – in จากโครงการติดตั้งมาให้ด้วย ถัดมาเป็นพื้นที่อเนกประสงค์บริเวณกลางบ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเองได้ โดยส่วน Service จะอยู่อีกฝั่งของบ้าน ได้ครัวแบบปิด เชื่อมต่อกับห้องแม่บ้าน และส่วนซักล้างด้านหลัง ใช้งานสะดวก โดยชั้นนี้ห้องน้ำจะได้มาเป็นแบบ Powder Room ค่ะ

ชั้น 2 เมื่อขึ้นมาจะเจอ Family Area ที่เชื่อมต่อกับระเบียงขนาดใหญ่ สามารถออกมายืนใช้งานได้ ด้านหน้ามีระแนงบังสายตา ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่ใช้งานอยู่บนชั้น 2 ทั้งยังช่วยบังแดด บังฝน แต่ไม่ทำให้หน้าบ้านดูปิดทึบ โดยชั้นนี้จะประกอบด้วยห้องนอน 2 ฝั่ง ได้ Walk – in Closet และห้องน้ำแยกใช้งานในตัว

ชั้น 3 ประกอบด้วย 2 ห้องนอน และระเบียงที่สามารถเชื่อมต่อจากภายในห้องนอนได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยห้องนึงได้เป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่รูปตัว L พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำที่สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ ส่วนอีกห้องจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็ได้พื้นที่มากว้างขวาง แบ่งการใช้งานได้เป็นสัดส่วน

เข้ามาชมบรรยากาศจริงภายในบ้านตัวอย่าง เริ่มที่ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถ โครงสร้างพื้นลงเข็มมาให้ลึก 22 เมตร ด้านบนปูด้วย Stamped Concrete ความกว้างประมาณ 8.24 เมตร สามารถจอดรถพร้อมกัน 3 คันได้สบายๆ หรือใช้จอดรถ Supercar ได้เลย ประตูรั้วบ้านเป็นรางเลื่อน 2 ตอน ติดตั้งมอเตอร์มาให้ กดเปิด – ปิดได้แบบอัตโนมัติ

สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้า โครงการก็ได้เตรียม Junction ไว้ให้ สามารถติดตั้ง EV Charger เพิ่มเองได้ทุกยูนิต ด้านหลังที่จอดรถมีช่องเก็บของไว้เก็บกล่องอุปกรณ์เล็กๆได้ด้วย ส่วนทางเข้า – ออกจะมีจุดเดียวคือประตูด้านหน้า ได้มาเป็นบานไม้สักกว้าง 1.50×2.46 เมตร เปิดได้ 2 ฝั่ง

เข้ามาในบ้าน จะเจอกับ Foyer จัดเป็นโถงต้อนรับและเป็นจุดเบรคสายตา ก่อนเข้าส่วนพักผ่อนด้านใน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้คนที่อยู่ในบ้านได้ โดยจะทำเป็นมุม Decorate วางของตกแต่ง หรือใช้เป็นพื้นที่เก็บของอย่างตู้รองเท้า ก็สามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้เลย

ส่วนนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ได้มาเป็นโถงเพดานสูง 6.6 เมตร ด้านข้างฝั่งหน้าบ้านได้ช่องแสงกระจกเชื่อมต่อทั้ง 2 ชั้น และด้านหลังยังมีประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ จึงทำให้มุมนี้ได้ความโปร่งโล่งเป็นพิเศษ

ตรงกลางวางโซฟาขนาด 4 – 5 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้แบบสบายๆ โดยระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีได้มากว้างประมาณ 4.55 เมตร สามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้เลย โดยวัสดุปูพื้นชั้น 1 ได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×120 เซนติเมตร ได้โทนสีเหมือนในบ้านตัวอย่าง

ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้ เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้านเยอะ ด้านข้างได้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกคู่ เชื่อมต่อกับสวนด้านหลัง ใช้เปิดรับลม หรือชมวิวเวลานั่งทานอาหารร่วมกันได้ โดยฝ้าเพดานได้ความสูงมา 3 เมตร ติดตั้งแอร์แบบ Cassette Type จาก MITSUBISHI มาให้พร้อมใช้งาน

ด้านหลังส่วนรับประทานอาหารได้เป็นเคาน์เตอร์ครัว Built – in มาให้เต็มผนัง แบ่งเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร เก็บล้างและทำอาหารแบบง่ายๆได้ โดยในบ้านก็จะมีครัวแบบปิดแยกไว้ให้ใช้งานอีกจุดด้วยนะคะ

ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์แบรนด์ GEOLUXE จาก SCG ซึ่งเป็นวัสดุ Food Grade มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความปลอดภัยต่อสุขภาพ มีความแข็งแรง ทนต่อความร้อน กรดด่าง และรอยขีดข่วนได้ดี ทั้งยังมีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ ทำให้เกิดคราบต่างๆได้น้อย จึงสามารถดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย ติดตั้งมาพร้อมเตา 4 หัวแบบ Induction หรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งประหยัดไฟได้มากกว่าเตาไฟฟ้าทั่วไป และมีเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ GORENJE แบรนด์หรูจากยุโรปมาให้ด้วย ติดกันเป็นอ่างล้างจาน จาก BLANCO รองรับระบบน้ำร้อน – น้ำเย็นได้ค่ะ

ด้านล่างเคาน์เตอร์แบ่งเป็นตู้เก็บของ มีทั้งช่องใต้อ่างล้างจานใช้เก็บของชิ้นใหญ่ได้ ทั้งยังมีถังขยะสำเร็จรูปติดตั้งมาให้ด้วย ด้านข้างเป็นลิ้นชักไว้ใช้เก็บช้อนส้อม , อุปกรณ์ทำครัว และช่องไว้ใส่เตาอบ ซึ่งก็ได้มาจาก GORENJE เช่นเดียวกัน ด้านบนได้เป็นตู้เก็บของถึงฝ้า ติดตั้งชั้นวางมาให้เรียบร้อย หน้าบานตู้กรุด้วย HPL พร้อมระบบ Soft Close เปิด – ปิดได้ง่าย ไม่ต้องกังวลว่าจะกระแทก เรียกได้ว่าจัดเต็มมาให้ครบชุด ซื้อเพิ่มแค่ตู้เย็นเท่านั้นเอง

ติดกับส่วนรับประทานอาหารเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ โดยบ้านตัวอย่างจัดเป็นมุมสัตว์เลี้ยง เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกตัวเล็กๆอยู่ด้วย หากใครต้องการความเป็นสัดส่วน ก็สามารถกั้นห้องเพิ่มได้นะคะ ซึ่งเราขอแนะนำให้เป็นผนังกระจก เพื่อให้บ้านดูไม่ปิดทึบจนเกินไป

ตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ได้มาเป็น Powder Room คือไม่มีส่วนอาบน้ำอยู่ภายใน แต่จะได้อ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์แบบครบชุด จากยี่ห้อ KOHLER กระจกเงาติดตั้งมาให้แบบเต็มบ้าน ช่วยทำให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น

โถงบันไดจะเป็นตัวคั่นระหว่างส่วนพักผ่อนและ Service ด้านซ้ายเป็นประตูห้องเก็บของใต้บันได ได้มาขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 1.18 เมตร คนที่สูงไม่เกิน 1.76 เมตร สามารถเดินเข้า – ออกได้สบายๆ ติดกันเป็นพื้นที่ห้องครัวแบบปิด ซึ่งไปเชื่อมต่อกับห้องแม่บ้านและส่วนซักล้างได้

ห้องครัวได้เป็นแนวยาว ติดตั้งเคาน์เตอร์สำเร็จหรือ Built – in รูปตัว L ได้เต็มผนัง ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานได้เป็นสัดส่วน ภายในได้ช่องแสงมา 2 จุด คือหน้าต่างบานกระทุ้งและบานเลื่อนกระจก ใช้เปิดเพื่อระบายควันและกลิ่นเวลาทำอาหารได้ดี ในบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องเปล่า โดยโครงการจะเดินงานระบบเตรียมไว้ให้เรียบร้อย

ด้านหลังเป็นประตูเชื่อมไปส่วนของแม่บ้าน มีทั้งห้องพักผ่อน ห้องน้ำแยกใช้งาน ห้องเก็บของและส่วนซักล้างไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้า โดยแม่บ้านสามารถเดินเข้า – ออกได้จากด้านนอก ไม่ต้องใช้ประตูด้านหน้า ทำให้ได้ความสะดวกและเป็นส่วนตัวทั้งต่อแม่บ้านและเจ้าของบ้าน

บันไดโครงสร้างเป็นคอนกรีต ได้ความแข็งแรงทนทาน ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน โทนสีกลมกลืนกับพื้นชั้น 2 โดยความกว้างได้มาประมาณ 1.31 เมตร ลูกตั้งสูง 19 เซนติเมตรและลูกนอนกว้าง 28 เซนติเมตร วางเท้าได้พอดีๆ บริเวณชานพักได้ขนาดมาเท่ากับความกว้างบันได ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งให้ 1 จุด ใช้เปิดรับแสงและลมธรรมชาติ ช่วยทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Family Area ขนาดใหญ่ โดยชั้นนี้ความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.80 เมตร วัสดุปูพื้นเป็น Hybrid Engineering Wood ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่า Engineering Wood ทั่วไป ด้านข้างติดกับระเบียงขนาดใหญ่ เป็น Double Skin Terrace ลักษณะเป็น Semi Outdoor มีหลังคาคลุมบังแดด บังฝนได้

ระเบียงยาวเชื่อมต่อจนถึงหน้าห้องนอน ได้ความกว้าง 1.38 เมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 0.65 เมตร สามารถออกมาใช้ยืนรับลมหรือเป็นพื้นที่ไว้วางกระถางต้นไม้เพิ่มความสดชื่นได้ โดยระแนงได้วัสดุเป็น Aluminium Composite ที่มีความแข็งแรง ทนทาน แต่น้ำหนักเบา จึงเลื่อนพลิกเปิด – ปิด ได้ง่าย บนแผงระแนงมีการทำลวดลายช่วยบังสายตาจากคนภายนอก ป้องกันแสงแดดไม่ให้ส่องมาตรงๆ แต่ยังทำให้ลมไหลผ่านได้ดี ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งและเป็นส่วนตัวให้กับคนที่อยู่ในบ้าน

ห้องนอนชั้น 2 ได้มา 2 ห้อง โดยห้องแรกจะอยู่ติดกับ Double Volume และมีหน้าต่างที่เปิดออกไปมองเห็นส่วนนั่งเล่นด้านล่างได้ ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้อง Live Stream สำหรับ Youtuber ซึ่งเป็นกลุ่ม Young Success ในปัจจุบัน มีมุมวางคอมพิวเตอร์พร้อมจอขนาดใหญ่ พื้นที่นั่งพักผ่อน และ Photobooth ไว้จัดแสงถ่าย Product สินค้า ไว้ใช้เป็นไอเดียได้เลย

ภายในได้ห้องน้ำในตัว ฟังก์ชันแบ่งเป็นพื้นที่โซนเปียก โซนแห้งมาให้ชัดเจน โดยตรงกลางจะเป็นเคาน์เตอร์ ด้านล่างมีตู้แบบบานเปิดไว้ใช้เก็บของได้ อ่างล้างมือเป็นแบบฝังติดตั้งมาให้พร้อมก็อกน้ำจากยี่ห้อ KOHLER โดยส่วนอาบน้ำและพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์จะแยกเป็น 2 ฝั่ง ด้านหลังมี  Low Wall ไว้วางของใช้เล็กๆได้

ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 0.98×1.68 เมตร ติดตั้งมาให้พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered บนผนังมีการทำช่องไว้สำหรับใส่อุปกรณ์อาบน้ำมาด้วย ซึ่งก็สามารถติดตั้งชั้นเพิ่มเองเพื่อความสะดวกภายหลังได้นะคะ ส่วนฝักบัวได้มาเป็นสายอ่อนจาก KOHLER เช่นเดียวกัน ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งมาให้ 1 จุด ลักษณะเป็นกระจกฝ้าบานยาว ช่วยให้แสงจากภายนอกส่องเข้ามาได้ แต่คนด้านในไม่เสียความเป็นส่วนตัว

ห้องนอนห้องนี้ได้มาแบบหน้ากว้าง อยู่ติดกับหน้าบ้าน ประตูเปิดเข้าตรงกลาง ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานได้เป็น 2 ฝั่ง คือส่วนพักผ่อน วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ทั้งยังเหลือพื้นที่รอบๆให้เดินใช้งานได้สะดวก ส่วนอีกฝั่งจัดเป็น Walk – in Closet อยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำ พออาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาแต่งตัวได้เลย

ส่วน Walk – in Closet สามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านข้างได้หน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งมาให้ 1 จุด ช่วยเปิดรับลม รับแสงจากภายนอกได้

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำจะคล้ายห้องที่แล้ว คือมีเคาน์เตอร์อ่างล้างมืออยู่ตรงกลาง ส่วนอาบน้ำได้มาขนาด 0.99×1.64 เมตร ฝักบัวได้แบบ Hand Shower จากยี่ห้อ KOHLER ติดตั้งมาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก ใช้งานและทำความสะอาดได้ง่าย

ชั้น 3 ขึ้นมาจะเจอโถงทางเดินยาว ห้องนอนแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ประกอบด้วยห้องนอน 1 ห้อง ห้อง Master Bedroom และระเบียงขนาดใหญ่ที่เปิดเชื่อมต่อกันได้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.80 เมตร

ห้องนอนจะได้ Layout เหมือนห้อง Live Stream ชั้น 2 สามารถใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้นะคะ ฟังก์ชันจะแบ่งเป็นส่วนพักผ่อนและ Walk – in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำ โดยในห้องนี้จะได้ช่องแสงหน้าต่างหลายจุด ทำให้บรรยากาศโปร่งโล่ง และมีประตูบานเลื่อนกระจกเปิดออกไปใช้งานระเบียงได้

ระเบียงเป็นแบบ Outdoor ไม่มีหลังคาคลุมได้มาขนาด 3.61×2.80 เมตร ใช้เป็นมุมนั่งเล่น วางโซฟาพร้อมโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้เลย โดยด้านข้างจะมีประตูเชื่อมเข้า – ออกได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากห้องนอนรอง และ Master Bedroom

Walk – in Closet สามารถจัดเป็นตู้เสื้อผ้า Built – in แบบเข้ามุมได้เต็มผนัง แบ่งใช้งานกัน 2 คนได้สบายๆ

ห้องน้ำได้อุปกรณ์ครบชุดจากยี่ห้อ KOHLER เหมือนบ้านตัวอย่าง ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 1.06×1.67 เมตร พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เป็นสัดส่วน สำหรับใครที่อยากติดเครื่องทำน้ำอุ่นเอง โครงการก็ได้เตรียม Junction ไว้ให้ทุกห้องนะคะ

ปิดท้ายด้วย Master Bedroom ลักษณะแปลนเป็นตัว L ได้พื้นที่ใช้สอยมาค่อนข้างกว้าง ซึ่งในบ้านตัวอย่างก็ตกแต่งมาให้ชมแบบจัดเต็มเลย

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนพักผ่อน วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้แบบเหลือๆ ด้านข้างยังสามารถวางโซฟาพร้อม Coffee Table ด้านข้างไว้นั่งอ่านหนังสือได้ โดยภายในห้องจะได้ช่องแสงมา 3 จุด คือประตูบานเลื่อนกระจกที่เปิดเชื่อมต่อกับระเบียง และหน้าต่างที่หัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง

Walk – in Closet สามารถจัดได้ขนาดค่อนข้างใหญ่ ในบ้านตัวอย่างจัดมาให้เต็มหน้ากว้างเท่ากับพื้นที่ห้องนอน ภายใน Built – in เป็นตู้เสื้อผ้าพร้อมชั้นวางเต็มผนังทั้ง 2 ฝั่ง ตรงกลางยังสามารถวางเคาน์เตอร์ไว้เก็บ Accessories เลือกหยิบใช้งานได้ง่าย

ห้องน้ำภายใน Master Bedroom ได้มาขนาดใหญ่เช่นกัน โดยพื้นที่จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง อ่างล้างมือได้มาเป็นแบบ His&Her ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ ด้านล่างเป็นตู้เก็บของบานเปิด ใช้เก็บอุปกรณ์เล็กๆเพิ่มความสะดวกเรียบร้อย โดยในห้องนี้จะได้เครื่องทำน้ำร้อนจากยี่ห้อ STIEBEL ELTRON ติดตั้งมาให้ด้วย

นอกจากส่วนอาบน้ำ ภายในห้องยังได้อ่างแบบลอยตัวจากยี่ห้อ KOHLER ติดตั้งมาให้ด้วย ได้ไซส์ประมาณ 0.56×1.57 เมตร ติดกันมีระเบียงด้านนอก เปิดประตูเชื่อมต่อออกไปใช้งานได้

ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำและวางโถสุขภัณฑ์จะกั้นด้วยฉากกระจกเปลือยแยกมาให้เป็นสัดส่วน พื้นส่วนอาบน้ำจะลดระดับลงเล็กน้อยได้มากว้าง 1.47×1.12 เมตร ฝักบัวได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower จากยี่ห้อ KOHLER ส่วนโถสุขภัณฑ์จะได้เป็นแบบอัตโนมัติ ใช้งานสะดวก

สวิตช์และปลั๊กไฟภายในบ้านใช้ของยี่ห้อ Schneider หรือเทียบเท่าค่ะ

บ้านเดี่ยว Type L พื้นที่ใช้สอย 556 ตร.ม.

บ้านตัวอย่างถัดมาคือ Type L ซึ่งเป็นรูปแบบที่มีขนาดใหญ่สุดในโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอย 556 ตร.ม. จุดเด่นจะอยู่ที่ทางเข้า ซึ่งออกแบบมาเป็นซุ้มประตูโค้งสูงแตกต่างกับแบบบ้านอื่นๆ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและโอ่อ่า โดยฟังก์ชันภายในได้มา 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และ 4 ที่จอดรถ พร้อมห้องแม่บ้าน ที่ดินจะได้ตั้งแต่ 88 – 143 ตร.วาเลย โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท*

ชั้น 1 แปลนได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง การวาง Layout จะคล้ายกันทั้ง 3 รูปแบบ แต่ใน Type L จะได้ฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามาคือห้องนอนชั้นล่าง โดยการออกแบบทำมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ ได้ห้องน้ำในตัว ติดกับโถงบันไดมีลิฟต์โดยสาร จุได้ 4 คน ใช้งานขึ้น – ลงได้สะดวก และมีประตู Service ที่เชื่อมต่อจากด้านหลังที่จอดรถ เป็นทางเข้า – ออกอีกจุดของบ้าน

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้องได้ Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว จุดเด่นของชั้นนี้นอกจากระเบียงยาวหน้าบ้าน ภายในยังได้พื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ใช้เป็นส่วนพักผ่อนอีกจุดของครอบครัวได้ หรือใครอยากจะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่ม ก็สามารถกั้นเป็นห้องแยกใช้งานเป็นสัดส่วนได้เลย

ชั้น 3 แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ได้ 1 ห้องนอน และห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ ตรงกลางเมื่อขึ้นมาจากบันไดจะเจอกับระเบียงด้านหน้า ซึ่งจะเป็นแบบ Semi Outdoor มีหลังคาคลุมมาให้ สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่น ผ่อนคลายได้ โดยด้านข้างจะมี Pocket Garden ที่โครงการเตรียมต้นไม้ไว้ให้เรียบร้อย

พื้นที่ด้านหน้าเป็นส่วนจอดรถในร่ม สามารถจอดได้ 4 คัน ทางเข้า – ออกบ้านจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ซุ้มประตูโค้งด้านหน้า และประตู Service หลังที่จอดรถ ซึ่งโครงการจะติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ 1 จุด สามารถใช้งานได้ 5 ระบบจากยี่ห้อ HAFELE

เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับ Foyer เหมือนในแบบบ้าน Type S เลย โดยด้านข้างมีบาน Fix กระจก ช่วยให้แสงจากด้านนอกส่องเข้ามาได้ ทำให้โถงต้อนรับด้านหน้าดูสว่าง

ส่วนนั่งเล่นได้เป็นโถง Double Volume สูง 6.6 เมตร ด้านข้างเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ได้ความโปร่งโล่ง กว้างขวาง ด้วยผนังที่ได้ช่องแสงมาทั้ง 3 ด้าน ตรงกลางวางโซฟาขนาด 6 – 7 ที่นั่งได้เลย

พื้นที่รับประทานอาหาร จัดเป็นโต๊ะยาวได้ขนาด 8 – 10 ที่นั่ง โดยยังเหลือพื้นที่ใช้งานให้เดินโดยรอบได้อย่างสะดวก ด้านข้างเป็นประตูบานเลื่อนกระจก เปิดออกไปใช้งานเฉลียง ซึ่งเป็น Courtyard ที่อยู่กลางบ้านได้ค่ะ

ส่วน Courtyard ได้มาขนาด 2.02×3.86 เมตร พื้นปูเป็นไม้มาให้เหมือนในบ้านตัวอย่างเลย โดยขนาดถือว่าได้มาค่อนข้างกว้าง ถ้าใครอยากไม่อยากได้มุมนั่งเล่นชมสวนแบบ Outdoor ก็สามารถต่อเติมเป็นห้อง หรือทำเป็นส่วน  Glass House เพิ่มก็ได้นะคะ

ติดกับส่วนรับประทานอาหาร ในบ้านมาตรฐานได้ฟังก์ชันเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ แต่บ้านตัวอย่าง ทำเป็นมุมนั่งเล่น จิบไวน์ ด้านข้างที่เป็นผนังทึบก็ทุบเปลี่ยนเป็นประตูบานเฟี้ยมกระจก เพื่อให้สามารถออกไปใช้งานสระว่ายน้ำข้างบ้านได้

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำด้านข้างตัวบ้าน ทางโครงการไม่ได้ทำไว้ให้ แต่ก็ใช้เป็นไอเดียได้ สำหรับลูกบ้านที่ได้ขนาดที่ดินเยอะ ก็สามารถต่อเติมเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวในบ้านได้เลย

ด้านข้างเป็นห้องน้ำที่ออกแบบฟังก์ชันมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ ตั้งแต่ทางเข้าที่พื้นไม่ได้มีการลดระดับลงไป เพื่อให้รถเข็นใช้งานได้ง่าย แต่ก็มีการติดตั้งรางน้ำมาให้ เพื่อช่วยในการระบายน้ำได้แทน อ่างล้างมือจะอยู่ตรงกลาง แบ่งพื้นที่ใช้งานภายในห้องได้เป็น 2 ฝั่ง คือพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำได้มากว้างประมาณ 1.07×1.63 เมตร ไม่รวมพื้นที่นั่งอาบที่เตรียมไว้สำหรับผู้สูงอายุ

ถัดมาเป็นส่วน Pantry มีมุมทำอาหารแบบครัวฝรั่ง ได้เคาน์เตอร์ Built – in มาครบชุดจาก KOHLER ตรงกลางยังสามารถวาง Island ไว้เตรียมอาหาร ของหวานหรือเครื่องดื่มแบบง่ายๆได้

ครัว Built – in จะได้วัสดุเหมือนกันทุก Type ประกอบด้วยท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์จาก GEOLUXE ติดตั้งมาให้พร้อม Hob , Hoob และเตาอบจากยี่ห้อ GORENJE ด้านข้างเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับติดตั้งตู้เย็นแบบ Built – in เพิ่มเองได้ ส่วน Island ได้ท็อปเป็นหินสังเคราะห์เช่นเดียวกัน และมีอ่างล้างจานจาก BLANCO ติดตั้งมาให้ ด้านล่างแบ่งเป็นตู้เก็บของได้หลายจุด ใช้เก็บจานชาม อุปกรณ์ขนาดใหญ่ และมีลิ้นชักไว้ใช้เก็บช้อนส้อมได้ด้วย

ตรงข้ามเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room อยู่ติดกับโถงทางเดิน ใช้รับแขกจากภายนอกได้สะดวก โดยอุปกรณ์จะได้อ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์  สายฉีดชำระ และ ที่เก็บกระดาษทิชชู่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานจาก KOHLER ค่ะ

ถัดมาเป็นโถงบันไดที่อยู่กึ่งกลางบ้าน ทำหน้าที่แบ่งพื้นที่ใช้งานส่วนพักผ่อน และ Service ออกจากกัน มีห้องเก็บของขนาดใหญ่อยู่ใต้บันได ถัดมาเป็นทางเข้าอีกจุด ซึ่งเปิดเข้ามาจากโรงจอดรถ โดยจะตรงกับตำแหน่งลิฟต์โดยสารพอดี

ลิฟต์โดยสารจะติดตั้งมาให้เฉพาะในแบบบ้าน Type M และ L โดยจะได้ดีไซน์เหมือนในบ้านตัวอย่าง ยกเว้นผนังตกแต่งด้านข้าง พื้นที่ด้านในสามารถรองรับ Wheelchair ได้ และมีมือจับด้านข้างติดตั้งมาให้ด้วย โดยตัวลิฟต์จะใช้ของยี่ห้อ MITSUBIISHI ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ 280 กิโลกรัม หรือประมาณ 4 คน ใช้ขึ้น – ลงได้ตั้งแต่ชั้น 1 – 3 เลย

ด้านในสุดเป็นห้องครัวแบบปิด โดยในบ้านมาตรฐานจะได้มาเป็นห้องเปล่า ไม่มี Built – in มาให้ แต่โครงการทำมาให้ชมเป็นไอเดียสำหรับการจัดวางเคาน์เตอร์ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยด้านข้างจะมีปะตูเปิดออกไปเชื่อมต่อกับห้องแม่บ้านและส่วนซักล้างได้

บันไดบ้าน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน ติดตั้งมาให้พร้อมราวจับซี่เหล็กโปร่ง โดยได้มากว้าง 1.29 เมตร ลูกตั้งสูง 18 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 27 เซนติมเตร ใช้งานได้ตามมาตรฐาน เมื่อขึ้นมาบนชั้น 2 ก็จะเจอกับโถงลิฟต์พอดี

ในบ้านมาตรฐานเมื่อขึ้นมาก็จะเจอกับผนังทึบ ซึ่งเป็นส่วนของห้องนอน แต่บ้านตัวอย่างได้ทุบผนังออก แล้วทำเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ รองรับครอบครัวที่อาจมีสมาชิกในบ้านไม่เยอะ แต่อยากได้พื้นที่ใช้สอยหลากหลาย

ในบ้านตัวอย่างออกแบบมาเป็นโซน Entertainment ขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว แบ่งเป็นโซนไว้เล่นเกมส์ของลูกๆ และมีมุมนั่งพักผ่อนสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ด้านข้างเป็นผนังกระจกมองลงไปเห็นส่วนนั่งเล่นที่อยู่ด้านล่างได้ด้วย

ถัดมาเป็น Family Area ของบ้าน ที่ถูกทำให้เชื่อมต่อกับห้องนอน บ้านตัวอย่างจัดฟังก์ชันเป็นมุมอ่านหนังสือ และนั่งทำงานของคุณพ่อ คุณแม่ ด้านข้างยังมีส่วนนั่งเล่นให้ครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกันได้ หรือจะใช้เป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวในเวลาที่ชั้นล่างต้องรับแขกจากภายนอก

ติดกับส่วนอเนกประสงค์จะมีห้องน้ำ ซึ่งเดิมเป็นห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอน ทำให้ได้ฟังก์ชันครบ มีส่วนอาบน้ำไว้รองรับอยู่ด้วย โดยได้มาขนาด 1.02×1.68 เมตร ใช้งานได้สะดวก

อีกฝั่งยังได้ฟังก์ชันเป็นห้องนอน อยู่ติดกับหน้าบ้าน โดยได้มาเป็นแปลนหน้ากว้าง ทำให้สามารถจัดพื้นที่ใช้งานได้กว้างขวาง เป็นสัดส่วน ภายในแบ่งเป็นพื้นที่พักผ่อน วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ ด้านข้างมีประตูที่เปิดออกไปใช้งานระเบียงได้ ส่วนอีกฝั่งจะเป็น Walk – in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำ ได้ความสะดวกและเป็นส่วนตัวเวลาใช้งาน

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ จะได้อุปกรณ์ครบชุดมาเหมือนในบ้านตัวอย่างจาก KOHLER

จุดเด่นของชั้น 3 อยู่ที่ระเบียงแบบ Semi Outdoor ที่โครงการจะตีหลังคาเป็นระแนงมาให้ พร้อมมุม Pocket Garden ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้เป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน หรือจัดเป็นสวนขนาดย่อม ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้านได้ โดยจากระเบียงสามารถเข้า – ออกได้ทั้งจากโถงทางเดินและภายในห้อง Master Bedroom

ชั้น 3 จะประกอบด้วย 1 ห้องนอน และ Master Bedroom โดยห้องที่มีขนาดเล็กกว่าจะได้ Layout มาเหมือนห้องนอนชั้น 2 ที่จัดฟังก์ชันให้เป็นห้องของลูกๆ มีพื้นที่พักผ่อนและ Walk – in Closet แบ่งมาให้เป็นสัดส่วน มีมุมสำหรับโต๊ะเครื่องแป้ง และอีกฝั่ง Built – in เป็นตู้เสื้อผ้าแบบเข้ามุมได้เต็มผนัง ใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ จะได้อุปกรณ์ครบชุดมาเหมือนในบ้านตัวอย่างจาก KOHLER การจัด Layout จะเหมือนกับภายในห้องนอนชั้น 2 เช่นเดียวกัน

ห้องสุดท้ายคือ Master Bedroom ที่ได้ขนาดมากว้างขวาง สามารถวางชุดโซฟา 2 – 3 ที่นั่ง ไว้ภายในห้องได้เลย โดยจุดเด่นของห้องนี้คือสามารถออกไปใช้งานระเบียงได้ถึง 2 ฝั่งเลย

ส่วนพักผ่อนจะอยู่ติดกับหลังบ้าน ตรงกลางวางเตียงขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะหรือตู้ด้านข้างได้แบบสบายๆ ปลายเตียงยังสามารถ Built – in เป็นตู้วางทีวี หรือชั้นวางของได้อีกด้วย ติดกันเป็นประตูบานเลื่อนกระจก เปิดออกไปใช้งานระเบียงได้อีกจุดนั่นเอง

ระเบียงด้านข้างเป็นเหมือนระเบียงส่วนตัวของ Master Bedroom ได้ความกว้างประมาณ 1.69×2.10 เมตร ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างใหญ่ เอาเก้าอี้ออกมาวางพร้อม Coffee Table จุดเป็นมุมนั่งเล่นจิบชาได้เลย

อีกฝั่งของห้องแบ่งเป็นพื้นที่ Walk – in Closet ที่อยู่ติดกับห้องน้ำ หากใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่ม ก็สามารถกั้นเป็นบานเฟี้ยมเหมือนในบ้านตัวอย่างได้ โดยพื้นที่ใช้งานได้ขนาดมาใหญ่มาก สามารถ Built – in เป็นตู้เสื้อผ้าเข้ามุมแบบเต็มผนังได้ถึง 3 ด้าน

ห้องน้ำภายใน Master Bedroom ได้อ่างล้างมือแบบ His&Her พร้อมเคาน์เตอร์แนวยาว  นอกจากมีตู้เก็บของด้านล่างแล้ว ยังสามารถใช้พื้นที่ด้านบนไว้วางของใช้ส่วนตัวได้ด้วย โดยส่วนอาบน้ำและพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์จะแยกอยู่อีกฝั่ง ดูเป็นสัดส่วน ตรงกลางวางอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวจาก KOHLER ซึ่งด้านข้างก็มีระเบียงอีกจุด ใช้เป็นพื้นที่ไว้ตากผ้าหรือวางกระถางต้นไม้เล็กๆได้

ส่วนอาบน้ำติดตั้งมาให้พร้อมฉากกั้นกระจก ได้ความกว้างประมาณ 1.06×1.82 เมตร ฝักบัวได้มาให้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower รองรับระบบน้ำร้อน – น้ำเย็นได้ พื้นที่วางโถสัขภัณฑ์ได้ขนาด 1.07×1.63 เมตร ได้โถแบบอัตโนมัติติดตั้งมาให้พร้อมสายฉีดชำระ เลือกใช้งานได้สะดวก

บ้านเดี่ยว Type M พื้นที่ใช้สอย 485 ตร.ม.

สุดท้ายเป็นแบบบ้าน Type M ซึ่งไม่มีบ้านตัวอย่างตกแต่งมาให้พร้อมเข้าชม แต่ยังสามารถเก็บภาพหน้าบ้านมาตรฐานมาให้ชมได้ โดยหน้าตาและฟังก์ชันจะเหมือนกับ Type S และ Type L ผสมกัน ฟังก์ชันได้เป็น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ พร้อมห้องแม่บ้าน ในราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท*

การจัดแปลนจะคล้ายแบบบ้าน Type L แต่ได้พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า โดยจุดที่แตกต่างกันก็คือ ไม่มีห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุ แต่จะมีครัวฝรั่ง และ Courtyard อยู่บริเวณกลางบ้าน และห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 จะได้ขนาดมาเล็กกว่า โดยในบ้าน Type นี้จะได้ลิฟต์ส่วนตัวมาด้วยเช่นกัน สำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาบ้านไม่เกิน 40 ล้านบาท ได้ที่จอดรถ 4 คัน ไม่ได้ต้องการห้องนอนชั้นล่าง อยากได้ฟังก์ชันที่ดูกระชับ ไม่เน้นพื้นที่อเนกประสงค์ แบบบ้าน Type M ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ

VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

• Type S บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 62 – 78 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 415 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท*
• Type M บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 71 – 112 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 485 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท*
• Type L บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 88 – 143 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 556 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท*
• จอง 100,000 | 200,000 | 300,000 บาท
• ทำสัญญา 10%
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง 95 บาท/ตร.วา/เดือน
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) ตั้งอยู่ในซอยมหาสวัสดิ์ 4 ติดกับทางเข้าด้านหลังของห้าง Central Westville และ The Crystal SB ซึ่งจัดว่าอยู่บนทำเลใจกลางความอุดมสมบูรณ์ของย่านราชพฤกษ์อีกแห่ง โดยตัวโครงการอยู่ห่างจากถนนราชพฤกษ์ประมาณ 600 เมตร สามารถขับไปเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ทั้งถนนบรมราชชนนี , ถนนนครอินทร์ , ถนนกาญจนาภิเษก และถนนรัตนาธิเบศร์ เป็นต้น สะดวกกับคนที่ทำงานในโซนจตุจักร – ปิ่นเกล้า โดยจากโครงการยังสามารถไปใช้ทางพิเศษศรีรัชเพื่อเข้า – ออกเมืองได้ และยังอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีตลิ่งชันเพียง 4 กิโลเมตร

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

การเข้า – ออกโครงการจะต้องผ่านรั้วรางเลื่อนอัตโนมัติที่ควบคุมด้วยระบบ RFID คล้ายกับ Easy Pass บนทางด่วน ซึ่งตั้งแต่ทางเข้าจนถึงภายในโครงการจะมี CCTV คอยบันทึกภาพพร้อมเจ้าหน้าที่รปภ. ดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง และรั้วโครงการยังล้อมด้วยรั้วสูงถึง 6 เมตร ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน ส่วนภายในบ้านไม่ได้ติดตั้งระบบเพิ่มเติมมาให้ นอกจาก Digital Door Lock 1 จุดที่ประตูทางเข้า ลูกบ้านสามารถเลือกติดตั้งได้ตามความสะดวกเลย

การออกแบบโครงการ :

โครงการเน้นบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติตามแนวคิด “Balance of Urbanized Living” เพื่อให้ลูกบ้านได้สัมผัสความร่มรื่น ผ่อนคลายของป่า (วนา) การออกแบบโครงการจึงมีการแทรกพื้นที่สีเขียวหลายจุด ตั้งแต่ซุ้มทางเข้า ถนนที่เป็นเส้นโค้ง และสวนหย่อมที่กระจายให้ใช้งาน 2 จุด รวมถึงถนนในโครงการและฟุตบาธด้านหน้าตัวบ้านที่มีการปูหญ้า และลงต้นไม้มาให้ นอกจากนี้โครงการยังเน้นความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนเพียง 43 ยูนิต การจัดผังใช้ประโยชน์ของรูปร่างที่ดินที่แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ทำให้สามารถจัดส่วนพักอาศัยไว้อยู่ด้านหลัง ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

รูปแบบบ้านในโครงการเป็น บ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับ Luxury ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ ซึ่งไม่ค่อยได้เห็น Product แบบนี้บนทำเลราชพฤกษ์เท่าไรนะคะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ไซส์ใหญ่ เมื่อเทียบพื้นที่ใช้สอยและราคา ก็ถือว่าได้มาใกล้เคียงกันเลย ทำให้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับความชอบและไลฟ์สไตล์ โดยฟังก์ชันในบ้านก็ถือว่าออกแบบมาได้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่อเนกประสงค์เยอะ ได้ Double Volume ทุก Type มีระเบียงมาให้ทุกชั้น ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่ง เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกหลายคน หรือคนที่อยากได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะๆ ชั้น 1 เป็นส่วนรับแขก ทานอาหาร ชั้น 2 เป็นพื้นที่ทำงาน และชั้น 3 เป็นส่วนพักผ่อนยังได้เลย

วัสดุ :

จัดมาให้เหมาะสมกับระดับราคาของตัวบ้าน โครงสร้างบ้านเป็น Conventional ทุบต่อเติมได้ ซึ่งเราก็มองว่าเหมาะสมนะคะ เพราะฟังก์ชันภายในได้พื้นที่อนเกประสงค์มาหลายจุดเลย โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ครัวฝรั่งที่ได้เคาน์เตอร์ Built – in มาให้แบบครบชุด พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Hob , Hoob และเตาอบจาก GORENJE ในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์จาก KOHLER พร้อมฉากกั้นอาบน้ำทุกห้อง ส่วนตัวเราชอบหน้าต่างที่ได้มาแบบทรงสูง ทำให้บรรยากาศภายในห้องน้ำดูโปร่งโล่ง โดยใน Master Bedroom ยังได้เครื่องทำน้ำร้อน และโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติมาด้วย

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ถือเป็น Highlights ของโครงการเลย แต่ในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูล โครงการกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง จึงทำให้ยังไม่สามารถเห็นบรรยากาศจริงได้ทั้งหมด แต่ซุ้มทางเข้าจนถึงอาคาร Clubhouse สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากภาพที่ไปเก็บมาให้ชม จะเห็นได้ว่าภาพรวมดูร่มรื่น น่าใช้งาน มีต้นไม้ลงมาให้เยอะในหลายๆจุด สายไฟภายในโครงการลงดินทั้งหมด ทำให้ภาพรวมดูเรียบร้อย ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา

สาธารณูปโภค :

ได้เป็นอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ฟังก์ชันประกอบด้วย Lobby ที่ใช้เป็นพื้นที่ Co – Working Space , สระว่ายน้ำ Freeform ระบบเกลือ ความยาวเทียบเท่า Half Olympic และฟิตเนสชั้น 2 ที่ใช้อุปกรณ์จาก TechnoGym ทั้งหมด สำหรับการดูแลจัดการภายในโครงการ เนื่องจากภายในเขตนี้รถเก็บขยะจะไม่เข้าไปเก็บถึงส่วนพักอาศัย โครงการจึงมีบริการการเก็บขยะจากลูกบ้านไปทิ้งในจุดส่วนกลางให้ ซึ่งค่าบริการก็จะรวมอยู่ในค่าส่วนกลางแล้วเรียบร้อยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 30 – 60 ล้านบาท , 14 กุมภาพันธ์ 2567

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ติดห้าง ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า
• ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วรอบโครงการสูง 6 เมตร ใช้ระบบ RFID ในการเข้า – ออก
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – บ้านเดี่ยว 3 ชั้น หน้ากว้าง ได้ 4 – 5 ห้องนอน 3 – 4 ที่จอดรถ มี Double Volume 
• วัสดุ 8/10 – โครงสร้างเป็นก่ออิฐฉาบปูน ได้เคาน์เตอร์ Built – in ทุกยูนิตพร้อมเครื่องครัว
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ได้สวนหย่อม 2 จุด รวมพื้นที่ 1 ไร่กว่าๆ
• สาธารณูปโภค 8/10 – Clubhouse 2 ชั้น ได้ฟังก์ชันตามมาตรฐาน สระว่ายน้ำยาว 25 เมตร มีบริการรรถเก็บขยะส่วนนกลาง 
• 8.04 / 10.00

VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) เหมาะกับใคร

โครงการ VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ มีสมาชิกอยู่ร่วมกันหลาย Generations หรือคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยว 3 ชั้นในโซนราชพฤกษ์ อยากได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ ทำเลใกล้ห้าง ได้ความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย ฟังก์ชันบ้านได้ 4 – 5 ห้องนอน ชอบบ้านที่มี Double Volume ได้ลิฟต์ส่วนตัวในบ้าน มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 30 – 60  ล้านบาท

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่