The Royal Residence บ้านเดี่ยวหรู 100-300 ล้านบาท บนที่ดินใหญ่เกือบ 1 ไร่ บนถนนประเสริฐมนูกิจ จาก Frasers Property

The Royal Residence (เดอะ รอยัล เรสซิเดนซ์)  ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2567

พิกัด Google Maps : 13.835298399022237, 100.61142105320951
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

• The Royal Residence ใกล้ถนนใหญ่เกษตร – นวมินทร์ (ถนนประเสริฐมนูกิจ) เพียง 200 เมตร ฝั่งตรงข้ามเป็น Nawamin City Avenue รายล้อมด้วยร้านอาหารในระยะทางที่สามารถเดินไปได้
• เดินทางไปยังโรงเรียนนานาชาติได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น Keerapat international school, NIVA american international school, Singapore international school, Regent’s International School ไปจนถึง Shrewsbury International School Bangkok City Campus และ Harrow International School Bangkok
• ทำเลบ้านแนวราบที่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลและสายสีเทา(ในอนาคต) สถานีอยู่ด้านหน้าซอย ช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้นในอนาคต

The Royal Residence ตั้งอยู่ในซอยประเสริฐมนูกิจ 27 เข้าซอยจากถนนใหญ่ประมาณ 200 เมตร ถือว่าเป็นบ้านแนวราบที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่ บรรยากาศภายในซอยและถนนใหญ่กว้างขวาง เดินทางเข้า-ออกได้สะดวก สามารถใช้ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 เพื่อลัดไปออกสู่ถนนรามอินทราได้

ทำเลของโครงการอยู่ในย่านเกษตร-นวมินทร์ ที่มีบ้านแนวราบหลังใหญ่ในระดับ Super Luxury – Ultimate Class ราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาทขึ้นไปหลายโครงการ สิ่งที่ทำให้ราคาบ้านในย่านนี้ราคาสูง เนื่องมาจากทำเลที่สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก และเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง ขึ้น-ลงทางด่วนได้ง่าย มีตัวเลือกในการเดินทางเลี่ยงรถติด และมีสภาพแวดล้อมที่ดี

การเดินทางของคนที่อยู่ในย่านนี้จะใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ถ้าต้องการใช้รถสาธารณะก็สามารถเรียกใช้แท็กซี่ได้ไม่ยาก อีกทั้งที่ตั้งของโครงการยังใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย สีน้ำตาลและสายสีเทา(ในอนาคต) ช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้นได้ในอนาคตค่ะ

นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็ถือว่าครบครันในระยะใกล้ๆ เพียง 200 เมตรมี Nawamin City Avenue เป็น Community Mall ที่ภายในมีทั้งร้านอาหาร, Super Market, ธนาคาร ให้หาของกินได้สะดวก ขับรถออกมาหน่อยก็จะเจอกับ The Walk และศูนย์การค้าที่อยู่บนเส้นเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทราหลายแห่ง เช่น The Cystal, CDC, Central East Ville มี Hyper Market อย่าง Big C, Lotus’s ให้ซื้อของใช้ทั่วไปได้ค่ะ นอกจากนี้ยังไม่ไกลจากสถานที่ Hang out หลายแห่ง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ The Royal Residence ถือว่าค่อนข้างเงียบสงบ แต่ว่ามีรถยนต์ผ่านเข้า-ออก ตลอดทั้งวัน ด้านหน้าโครงการมีต้นไม้ใหญ่บรรยากาศร่มรื่น เรียกได้ว่าเป็นทำเลเก่าแก่ที่บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยประเสริฐมนูกิจ 27 ฝั่งตรงข้ามเป็น Nawamin City Avenue

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ศูนย์การค้า 

• Nawamin City Avenue ~ 170 m
• The Walk Kaset – Nawamin ~ 2.6 km
• ตลาดหัวมุม เกษตร–นวมินทร์ ~ 2.7 km
• The Crystal Shopping Mall ~ 4.6 km
• Central Festival East Villel ~ 5.3 km
• Foodland Ramindra ~ 5.7 km
• Crystal Design Center ~ 6 km
• Chocolate Ville ~ 7.3 km
• Central Ramindra ~ 8.2 km

สถานพยาบาล

• Navavej international hospital ~ 4.6 km
• Vibhavadi hospital ~ 6 km
• Phyathai nawamin ~ 6.6 km
• Synphaet ramintra hospital ~ 8 km
• Bangkok hospital ~ 13.3 km

สถานศึกษา

• Keerapat international school ~ 4.1 km
• Lertlah school kaset – nawamin ~ 4.6 km
• NIVA american international school ~ 6.6 km
• Singapore international school ~ 10.1 km
• Regent’s International School ~ 10.3 km
• Shrewsbury International School Bangkok City Campus ~ 13.6 km
• Harrow International School Bangkok ~ 14.2 km
• KIS International School ~ 15.2 km

Highlight

• The Royal Residence โครงการบ้านเดี่ยวที่มีจำนวนยูนิต 79 ยูนิต ไม่หนาแน่นได้ความเป็นส่วนตัวสูง บรรยากาศภายในโครงการเงียบสงบ เนื่องจากที่ดินของแต่ละแปลงมีขนาดใหญ่ 184 – 374 ตารางวา
• พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ มีทะเลสาบอยู่ใจกลางโครงการ Clubhhouse สไตล์สถาปัตยกรรมไทย พร้อม Royal Hall ห้องจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ อาทิ Chef’s Table, Fine Dining สำหรับลูกบ้าน, สนามเทนนิส, Spa Pavilion, Sauna Room เป็นต้น
• บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่นสวยงาม มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตามแนวถนนหลักของโครงการ และรายล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์  Oriental Victorian แม้จะเป็นแบบบ้านใหม่แต่ยังคงความสวยงามของบ้านสไตล์เดิมเอาไว้

The Royal Residence เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Ultimate Luxurry ดั้งเดิม ปัจจุบันได้มีการเปิดตัวบ้านแบบใหม่ 2 แบบในเฟสสุดท้ายค่ะ โครงการนี้มีเนื้อที่โครงการ 76 ไร่  แต่มีบ้านทั้งหมดเพียงจำนวน 79 ยูนิต ทำให้บรรยากาศภายในโครงการไม่หนาแน่น บ้านแต่ละหลังได้ความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ

จุดเด่นของโครงการที่ไม่เหมือนใคร คือบรรยากาศภายในโครงการ ที่ได้กลิ่นอายราชวังดั้งเดิมจากสถาปัตยกรรมสไตล์ Oriental Victorian สีโทนครีม เทา ขาว พร้อมทั้งพื้นที่ส่วนกลางมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง และพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมไทย พื้นที่กว่า 3 ไร่ ฟังก์ชันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Royal Hall, สนามเทนนิส, Spa Pavilion, Sauna Room, Fitness, สระว่ายน้ำ วิวทะเลสาบ ในโครงการยังร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่บริเวณถนนส่วนกลางค่ะ

บ้านทุกแปลงจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ เป็นทิศที่สามารถรับลมได้ดี และไม่รับแดดร้อนยามบ่ายเข้าสู่หน้าบ้านโดยตรง และการที่มีทะเลสาบอยู่ตรงกลางจะช่วยให้ลมพัดไอเย็นเข้าสู่ตัวบ้านได้อีกด้วย

บรรยากาศซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ออกแบบมาในสไตล์ Oriental Victorian สูงถึง 10 เมตร ดูหรูหราโอ่อ่า มองเห็นได้ชัดเจนจากถนนด้านหน้าโครงการ ซึ่งทางโครงการออกแบบให้ที่ดินยกสูงขึ้นจากพื้นถนนค่อนข้างเยอะเลยค่ะ

ทางเข้า-ออกของโครงการแยกกันชัดเจน กั้นด้วยไม้กั้นกระดก ปัจจุบันเป็นระบบ Easy Pass (กำลังจะเปลี่ยนเป็นระบบสแกนป้ายทะเบียนในอนาคตค่ะ) มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแล 24 ชั่วโมง และกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ

พื้นถนนตั้งแต่ด้านหน้าโครงการจะเป็นคอนกรีตแสตมป์เกือบทั้งหมดเลยค่ะ เข้ามาแล้วจะเจอกับบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ พื้นที่ด้านหน้าส่วนแรกทางฝั่งซ้ายเป็นของนิติบุคคล และทางฝั่งขวาเป็น Sale Office Gallery

มีที่ตั้งศาลพระพรหมขนาดใหญ่ที่ออกแบบเป็นลานสมมาตรกัน ตกแต่งด้วยรูปปั้นช้างถวายดอกบัวอยู่ใต้ต้นลีลาวดีขนาบกับทางเดินเข้าไปสู่ด้านใน ล้อมรอบด้วยกำแพงที่ทำเป็นซุ้มโค้งสวยงาม

ถัดมาเป็นพื้นที่ Security Gates สำหรับลูกบ้านผ่านเข้า-ออกเท่านั้นค่ะ เข้ามาภายในเป็นถนนหลักกว้างประมาณ 16 เมตร รถขับสวนกันได้สะดวก ถัดมาจะเจอกับวงเวียนน้ำพุตรงกลางก่อนจะแบ่งถนนออกเป็น 2 ฝั่ง ตรงนี้มีศาลาริมน้ำมองเห็นวิวทะเลสาบได้ค่ะ

บรรยากาศศาลาคล้ายกับทรงไทยแต่มีการผสมผสานการออกแบบสไตล์ตะวันตกเข้ามาด้วย

ด้านในมองเห็นวิวทะเลสาบทอดยาวไปจนถึงอาคาร Clubhouse เลยค่ะ สองฝั่งข้างทางจะเป็นส่วนของบ้านในเฟสที่ 1 ของโครงการ ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านริมคลองในสมัยก่อน อีกทั้งยังได้ความเป็นส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันหาบรรยากาศแบบนี้ได้ค่อนข้างยากแล้วค่ะ

ถนนหลักทั้ง 2 ฝั่งปรับเป็นพื้นถนนคอนกรีต มีเกาะกลางเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาตลอดทั้งวัน บรรยากาศดูเรียบร้อยสวยงามเนื่องจากเดินสายไฟฟ้าใต้ดิน มีการออกแบบรั้วและเสาไฟให้เข้ากับสถาปัตยกรรมภายในโครงการ

อาคาร Clubhouse ที่นี่ชื่อว่า The Royal Club ออกแบบมาด้วยการผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยและตะวันตกเข้าด้วยกัน กลายเป็นเรือนไม้ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 3,000 ตารางเมตร บรรยากาศเหมือนรีสอร์ตหรือโรงแรมระดับหรูในเมืองที่มีวัฒนธรรมดั้งเดิม

ทางเข้า The Royal Club มี Drop off ขนาดใหญ่ เมื่อเดินเข้าไปแล้วจะเจอกับ Court สนามหญ้าตรงกลาง เป็นพื้นที่ Semi Outdoor ทั้งหมด ทางเดินปูด้วยหินอ่อนสีขาวสลับดำ

ห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย – หญิง ตกแต่งด้านหน้าให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนบ้านไม้ในสมัยก่อนค่ะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับบ่อน้ำสำหรับแช่ตัวในบ่อ Jacuzzi พักผ่อนหลัง Sauna ได้

ห้องน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่แต่งตัวที่มีตู้ล็อกเกอร์และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นโซนอ่างล้างหน้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องซาวน่าให้ใช้งานค่ะ พื้นทั้งหมดก็จะปูด้วยหินอ่อนสีขาวแผ่นเล็ก โดยจะปูสลับเป็นลวดลายที่เรียกว่า Linear หรือ Diamond

ถัดมาเรามาดูสระว่ายน้ำกันค่ะ บรรยากาศบริเวณนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตส่วนตัวที่เงียบสงบ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวของสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำเด็กแยกโซนจากสระว่ายน้ำผู้ใหญ่ชัดเจน ให้เด็กๆ มาเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยไม่รบกวนซึ่งกันและกันค่ะ

ส่วนสระว่ายน้ำผู้ใหญ่จะทอดยาวไปจนถึงทะเลสาบ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือความยาว 32 เมตร ลึก 1.2 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง หรือจะมาแช่น้ำพักผ่อนในบรรยากาศใกล้ชิดกับธรรมชาติก็ดีเช่นกันค่ะ

ทางเดินริมสระว่ายน้ำแบ่งโซนเป็นพื้นที่ Poolbed เอาไว้นอนเล่นอ่านหนังสือ หรือมาชมวิวอาบแดดได้

สระว่ายน้ำผู้ใหญ่มีมุม  Bubble Bath นวดตัวหลายจุดเลยค่ะ

บรรยากาศทางเดินริมสระว่ายน้ำ

Highlight ที่สำคัญอีกจุดหนึ่งก็คือ Spa Pavilion ที่ยื่นออกมากลางทะเลสาบ มองเห็นวิวได้รอบด้าน

Spa Pavilion เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ ของโครงการ The Royal Residence เลยค่ะ สามารถแช่ Jacuzzi พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติขนาดใหญ่ได้อย่างเป็นส่วนตัว

ถัดมาเรามาดูพื้นที่ Recreation กันค่ะ ตรงนี้เป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างเป็น Library และชั้นบนเป็น Fitness มองเห็นวิวทะเลสาบได้

ด้านในอาคารมีพื้นที่นั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ สามารถนัดเพื่อนหรือนัดแขกมาพูดคุยเจรจาธุรกิจได้ บรรยากาศภายในเหมือน Lobby Lounge ในโรงแรมสมัยก่อน ดูอบอุ่น มองเห็นวิวได้ 2 ฝั่งค่ะ

ชั้น 2 เป็นห้อง Fitness ซึ่งจะต้องเดินขึ้นมาผ่านทางบันไดวน ข้างบนเป็นเรือนไม้จริงพร้อมช่องแสงยาวตลอดแนวทั้ง 2 ฝั่งสวยงาม มีเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบครัน

ถัดมาด้านในสุดเป็นอาคาร Royal Hall ห้องจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ที่เปิดให้ลูกบ้านสามารถมาเช่าจัดงานได้ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ งานวันเกิด Chef’s Table หรือ Fine Dining ก็ได้สะดวก เพราะภายในมีห้องครัวมาให้เตรียมอาหารด้วยค่ะ

บรรยากาศด้านในโอ่อ่าด้วยฝ้าเพดานสูง พร้อมช่องแสงรอบด้าน มีประตูเปิดเชื่อมต่อออกข้างนอกได้ทั้ง 4 ทิศ พื้นด้านในปูด้วยหินอ่อน 2 สี สีดำสลับกับสีขาวดูหรูหราสวยงาม

ข้างๆ The Royal Club มีสนามเทนนิสมาให้ 1 สนาม ลูกบ้านสามารถมาออกกำลังกายกับครอบครัวได้ในวันพักผ่อนค่ะ

บรรยากาศซอยย่อยภายในโครงการดูเรียบร้อยสวยงาม สายไฟฟ้าเดินใต้ดินทั้งหมดค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Royal Club อาคาร Clubhouse เรือนไทย
• Royal Hall ห้องจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ อาทิ Chef’s Table, Fine Dining สำหรับลูกบ้าน
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ความยาว 32 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อม Jacuzzi และ Bubble Bath นวดตัว
• Spa Pavilion วิวทะเลสาบ
• สระว่ายน้ำเด็ก แยกโซนชัดเจน
• Sauna Room
• Fitness วิวทะเลสาบ
• Tennis Court
• Library
• Visitor Lounge
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
• Key Card Access (มีแผนปรับเป็นระบบสแกนป้ายทะเบียนในอนาคต)
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูโครงการแบบ Double Security Gates
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor
• เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ

Highlight

• บ้านหรูสไตล์ Oriental Victorian ที่ได้กลิ่นอายราชวังดั้งเดิม ใช้สีโทนครีม เทา ขาว มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ภายในโครงการควบคุมโทนสีและดีไซน์ของบ้านให้ไปในทางเดียวกัน
• บ้านที่มีที่ดินขนาดใหญ่เกือบ 1 ไร่ เริ่มต้น 184 – 374 ตารางวา ถ้ามองหาบ้านหรูที่มีพื้นที่ดินกว้างในระดับราคาใกล้เคียงกัน โครงการ The Royal Residence ถือว่าได้ที่ดินมากที่สุดในทำเลนี้เลยค่ะ
• พื้นที่ใช้สอยออกแบบมาได้ลงตัว ฟังก์ชันครบ มี 2 ห้องนั่งเล่น 2 พื้นที่รับประทานอาหาร 2 Pantry 5 ห้องนอน 7 – 8 ห้องน้ำ ที่จอดรถสูงสุด 12 คัน พร้อมห้องแม่บ้าน 2 ห้อง บนพื้นที่ใช้สอย 751 – 1,087 ตารางเมตร
• มีฟังก์ชันเด่น เช่น ที่จอดรถ Super Car แยกเป็นสัดส่วน, Sunken Seat สำหรับนั่งมองวิวสระว่ายน้ำหรือสวนกลางบ้าน, โดมสูง 9 เมตรในห้องทำงานส่วนตัว, Safe Room ขนาดใหญ่ เป็นต้น

แบบบ้านภายในโครงการมีให้เลือก 4 แบบ ดังนี้

• Royal Emperor (L) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 285 – 374 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 1,087 ตร.ม. (1,166 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำส่วนตัว)
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 8 ห้องน้ำ / 6 + 6 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – Sunken + Glass House / Grand Safe Room / Laundry / Shoe Room
  – ราคาเริ่มต้น 200 ล้านบาท (บ้านตัวอย่างราคา 316 ล้านบาท)
• Royal Archduke (S) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 184 – 289 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 751 ตร.ม. (776 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำส่วนตัว)
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 3 + 3 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – Safe Room / Laundry / Shoe Room
  – ราคาเริ่มต้น 132 ล้านบาท
• Royal Dame (เฟสเดิม) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 200 – 211.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 560 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน n/a
  – ราคาเริ่มต้น 90 ล้านบาท
• แปลงที่ดินเปล่า บ้านสั่งสร้าง สามารถเลือกแบบบ้านที่ต้องการลงบนที่ดินแปลงที่กำหนดได้

สรุปวัสดุภายในบ้าน

• โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐมอญ
• พื้นระบบ Post Tension เพื่อลดคานชั้น 2 ทำให้สามารถตกแต่งฝ้าได้อิสระมากขึ้น
• หลังคาจั่ว มุงด้วยกระเบื้องว่าวสีเทา
• ผนังฉาบเรียบทาสีครีม สไตล์ Oriental Victorian
• ผนังตกแต่งภายนอก หินแกรนิตพ่นทราย, กระเบื้องลายหินโทนสีเทา, หินอ่อน
• ที่จอดรถแบบ On Ground ปูกระเบื้อง Porcelain ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้อง COTTO ITALIA
• พื้นชั้นห้องนอนชั้นล่าง : กระเบื้องยาง Solf Floor จาก SCG
• พื้นชั้น 2 : ไม้สักแท้ Solid กว้าง 4 นิ้ว หนา 15 มิลลิเมตร
• บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมราวบันไดเหล็ก Wrought จากยุโรป มือจับไม้จริง
• ประตูทางเข้า : ไม้สักแท้ Solid ทำสีขาว
• มือจับประตู : ประตูหลักจาก BALDWIN, ห้องทั่วไปจาก Hafele , Digital Door Lock จาก Hafele
• หน้าต่าง : กรอบบาน UPVC จาก Amigo รุ่น Ventana
• สุขภัณฑ์ : อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ จาก Kohler
• ห้องนิรภัย จาก Mosler Safe ขนาด 9 ตร.ม.
• กล้องวงจรปิดมุมบ้านทั้ง 4 มุม มุมละ 2 ตัว จุดภายนอกบ้าน
• รองรับการติดตั้ง Solar Cell
• ระบบไฟ 3 เฟส 50(150)

ความปลอดภัย / นวัตกรรมภายในบ้าน

• ระบบ Heat detector ติดตั้ง 3 จุด ครัวไทย, Pantry และห้องพระ
• ระบบสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉิน Emergency Panic Button ภายในห้องน้ำ 5
• ระบบไฟแสงสว่างฉุกเฉิน Emergency Lighting
• ระบบปรับอากาศ : ระบบ ERV จาก Mitsubishi เติมอากาศภายนอก กรองฝุ่น PM 2.5
• ระบบ Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างทั้งหมด (ยกเว้น Service Zone)
• Home Automation : จาก bticino

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมเป็นแบบบ้านใหม่ Royal Emperor (L) และ Royal Archduke (S) บรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ

บ้านหลังแรกเรามาชมแบบ Royal Emperor (L) กันก่อนค่ะ หลังนี้บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 285 – 374 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 1,087 ตร.ม.(1,166 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำส่วนตัว) ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 6 + 6 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 200 ล้านบาท และบ้านตัวอย่างโครงการขายในราคา 316 ล้านบาทค่ะ

ชั้น 1

• ที่จอดรถ 4 คัน สามารถเพิ่ม Stack Parking ได้ เป็น 8 คัน
• ที่จอดรถ Super Car ภายในบ้าน 2 คัน (เพิ่ม Stack Parking ได้ เป็น 4 คัน) สามารถติดเครื่องปรับอากาศทำเป็นโรงรถส่วนตัวได้
• พื้นที่ Court กลางบ้าน ไว้เป็นลานจัดปาร์ตี้ หรือสร้างสระว่ายน้ำส่วนตัว (แบบบ้านตัวอย่าง)
• มีพื้นที่ Indoor Sunken Glass House มองเห็นวิว Court กลางบ้าน
• โถงต้อนรับสูง Double Volume ประกอบด้วย พื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร และ Pantry
• มี Private ห้องนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และ Pantry เชื่อมต่อกับครัวไทย แยกกับส่วนรับแขก
• Service Zone อยู่ทางฝั่งซ้ายของตัวบ้าน ประกอบด้วยห้องครัว ห้องซักล้าง ห้องแม่บ้าน 2 ห้อง ห้องน้ำแม่บ้าน และห้องเก็บของ 2 ห้อง
• มีห้องเก็บรองเท้าขนาดใหญ่
• ห้องนอนชั้นล่างออกแบบมารองรับผู้สูงอายุ มีห้องน้ำในตัว
• ห้องอเนกประสงค์ มีห้องน้ำในตัว สามารถกั้นผนังเป็นห้องนอนที่ 6 ได้
• มีพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสาร (บริเวณตรงกลางบันได)

ชั้น 2

• ห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นห้องพระหรือห้องออกกำลังกายได้
• โถง Family Area ชั้น 2 มีห้องเก็บของแยกเป็นสัดส่วน
• ห้องนอน 2 พร้อมห้องน้ำในตัว (ในบ้านตัวอย่างนำผนังกั้นออกเชื่อมต่อเป็น Family Area ขนาดใหญ่)
• ห้องนอน 3 และ ห้องนอน 4 มีพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว
• ห้องน้ำในห้องนอน 3, 4 และ Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำและ Pocket Garden ส่วนตัว
• Master Bedroom มีพื้นที่นั่งเล่น และห้อง Private Living สำหรับนั่งทำงาน พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำขนาดใหญ่
• ห้องน้ำใน Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำตรงกลาง แยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วน รับแสงธรรมชาติผ่านทางระเบียง Pocket Garden ส่วนตัว

เข้ามาจากประตูด้านหน้าแล้วจะเจอกับลานด้านหน้าบ้าน ที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนค่ะ ด้านขวามือเป็นโถงทางเข้าหลักของบ้าน ใช้เป็นพื้นที่ Drop off สำหรับรับแขกได้ ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นทางเข้ารองและ Service Zone พร้อมทางลาดที่สามารถเข็นกระเป๋าเดินทาง หรือ Wheel Chair ได้สะดวก

เนื่องจากที่ดินของบ้านมีขนาดใหญ่ ทำให้มีพื้นที่สำหรับจัดสวนเป็นมุมนั่งเล่นหรือตกแต่งด้วยน้ำพุเพิ่มบรรยากาศสดชื่นให้กับตัวบ้านได้

ที่จอดรถของบ้าน Type L แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นที่จอดรถทั่วไปจอดรถยนต์ได้ 4 คัน ที่จอดรถออกแบบให้มีฝ้าเพดานสูงสามารถเพิ่ม Stack Parking ได้ ส่วนที่สองเป็นห้องจอดรถ Super Car สามารถติดตั้งประตูอัตโนมัติ Shutterr Door และระบบปรับอากาศได้ สำหรับรถคันโปรด เข้าจอดได้สะดวก 2 คัน หรือเพิ่ม Stack Parking ได้เป็น 4 คัน รวมแล้วบ้านหลังนี้สามารถจอดรถในร่มได้สูงสุด 12 คันเลยค่ะ

เชื่อมต่อกับที่จอดรถจะเป็นพื้นที่ Service Zone มีทางลาดสามารถเข้าบ้านทางประตูรองได้สะดวก บริเวณนี้จะประกอบไปด้วยห้องเก็บของ 2 ห้อง ห้องซักล้าง ห้องแม่บ้าน 2 ห้อง ห้องน้ำแม่บ้าน และครัวไทยค่ะ

โดยห้อง Laundry สามารถซัก ตาก รีด ได้ในที่เดียว เพราะมี Sktlight รับแสงแดดเข้ามาทำให้ผ้าแห้งเร็ว ช่วยถนอมผ้าและไม่โดนฝุ่นจากภายนอก

สำหรับเจ้าของบ้านและแขกที่มาเยือนสามารถเข้าบ้านทางประตูทางเข้าหลักได้ โดยจะมี Welcome Area เป็นเฉลียง 8 เหลี่ยมยกพื้นสูงยื่นออกมาจากตัวบ้าน สร้างมุมมองที่สวยงามน่าประทับใจตั้งแต่ทางเข้า มองเห็นวิวได้ทั้งสวนและ Court ตรงกลางบ้าน

พื้นที่ Court กลางบ้านสามารถจัดเป็นมุมสวน ลานอเนกประสงค์ หรือสระว่ายน้ำแบบในบ้านตัวอย่างได้ค่ะ

โดยบ้านตัวอย่างเป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำแร่ มี Jet Pool ให้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้เต็มที่ และ See Through Glass สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำได้จาก Sunken ภายในบ้าน

Welcome Area มีขนาดใหญ่ ตกแต่งสวยงามด้วยมุมโค้ง 8 ด้าน และฝ้าเพดานสูง ประตูทางเข้าเป็นบานเปิดคู่ขนาดใหญ่

เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Grand Formal สำหรับรับแขกได้อย่างเป็นส่วนตัว โดยจะออกแบบเป็นโถงฝ้าเพดานสูง Double Volume พร้อมกระจกล้อมรอบมองเห็นวิวสวนได้เต็มที่ เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry มองเห็นวิวสระว่ายน้ำและ Court กลางบ้านได้

พื้นที่รับประทานอาหารหรือ Grand Formal Dinning สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 10 ที่นั่ง พร้อมกับมุม Pantry สามารถจัดปาร์ตี้ได้

บริเวณนี้สามารถทำเป็นพื้นที่ครัวฝรั่ง สำหรับรองรับการจัดเลี้ยงหรือจัดเป็นมุม Wine Bar แบบบ้านตัวอย่างก็น่าสนใจค่ะ

ข้างๆ Pantry จะมีห้องน้ำ Powder Room ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนแสดงความหรูหรา สำหรับรองรับแขกแยกจากส่วน Private ของเจ้าของบ้าน เพื่อความสะดวกในการใช้งานค่ะ

ถัดมาเป็นโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยัง Private Zone

Private Zone จะประกอบไปด้วยพื้นที่ Common Area พื้นที่อเนกประสงค์ และห้องนอนชั้น 1 ค่ะ

ในบ้าน Type L จะมีพื้นที่ Indoor Sunken Glass House ให้นั่งพักผ่อนชื่นชมบรรยากาศ Outdoor ด้านนอกได้ โดยจะเชื่อมต่อกับ Common Area ภายใน ได้ทั้งความสะดวกสบายและทัศนียภาพสวยๆ ในเวลาเดียวกัน

ด้านข้างมีทางเดินที่มองเห็น Super Car Parking และมีประตูเชื่อมออกไปยัง Court กลางบ้านได้ ตรงนี้จะถูกเรียกว่า Hall of Fame สำหรับวางโชว์ของสะสม ถ้วยรางวัล หรือรูปภาพความทรงจำดีๆ ได้ค่ะ

โซน Common Area จะประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร และ Pantry ยาวต่อเนื่องกัน บรรยากาศโปร่งสบาย โดยจะมองเห็นวิวสวนทางด้านหลังบ้าน และวิว Court กลางบ้านได้ทั้ง 2 ฝั่ง

โซน Pantry เป็นมุมครัวฝรั่งที่เหมาะกับการทำอาหารเช้าง่ายๆ หรือมื้อเบาๆ รับประทานเอง ด้านข้างมีประตูเชื่อมต่อไปยังครัวไทยได้สะดวก ห้องครัวไทยได้ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ สามารถวาง Island ตรงกลางได้ มีพื้นที่ให้ Catering หรือเชฟข้างนอกมาทำอาหารมื้อพิเศษให้รับประทานได้สบายๆ ค่ะ

พื้นที่รับประทานอาหารในครอบครัว สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 8 – 10 ที่นั่ง

พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่ มองเห็นวิวทั้งสระว่ายน้ำกลางบ้านและสวนด้านหลังบ้าน บรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อน

บ้านตัวอย่างได้ปรับพื้นที่สวนหลังบ้านเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนแบบ Outdoor เหมาะกับการทำบาร์บีคิวหรือดื่มสังสรรค์กับครอบครัวในวันที่อากาศดีค่ะ

บริเวณ Private Zone มีห้องน้ำให้ลูกบ้านใช้งานได้สะดวกค่ะ โดยภายในมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วย ถ้าเข้าบ้านมาจากประตูทางเข้ารองก็สามารถแวะมาล้างมือล้างหน้าก่อนเข้าบ้านได้สะดวกเลยค่ะ

ห้องรองเท้าจะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้ารอง ทำให้หยิบรองเท้าใช้งานได้สะดวก ภายในมีขนาดใหญ่สามารถแต่งตัวเช็กความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านได้

ห้องนอนชั้น 1 และพื้นที่อเนกประสงค์ ออกแบบให้อยู่ใกล้กับส่วน Common Area เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวกค่ะ โดยพื้นที่อเนกประสงค์ในบ้านมาตรฐานจะไม่ได้กั้นเป็นห้องมาให้แบบในบ้านตัวอย่างนะคะ แต่สามารถกั้นเพิ่มเติมเป็นห้องส่วนตัวได้

พื้นที่อเนกประสงค์ชั้น 1 มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน จะกั้นเป็นมุมพักผ่อน, ห้องทำงาน, ห้องรับรองแขก หรือห้องนอนที่ 6 สำหรับพยาบาลส่วนตัวหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุได้ เพราะมีห้องน้ำในตัวค่ะ

ห้องน้ำสำหรับพื้นที่อเนกประสงค์ฟังก์ชันภายในครบครัน

ห้องนอนชั้น 1 ออกแบบมารองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้อย่างสะดวกสบาย พื้นห้องปูด้วย Solf Floor ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดการหกล้ม มีห้องน้ำขนาดใหญ่รองรับการใช้งาน Wheel Chair ไม่มี Step ที่พื้นลดการเกิดอุบัติเหตุได้  มีประตูเป็นบานเลื่อนทั้งหมดพร้อมมือจับ Pullhandle ใช้งานได้สะดวก

โถงบันไดออกแบบเตรียมพื้นที่ Universal Design มาให้สามารถติดตั้งลิฟต์ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานของลูกบ้าน

โถงลิฟต์ของบ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยอลูมิเนียมสีทองฉลุลายดูหรูหราสวยงาม

ขึ้นมาที่โถงทางเดินชั้น 2 กันค่ะ บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ของห้องนอน 2 นะคะ แต่ในบ้านตัวอย่างจะมีการนำผนังและห้องน้ำของห้องนอน 2 ออก กลายเป็นพื้นที่โปร่งโล่ง เชื่อมต่อกันรอบๆ โถงบันไดค่ะ

ห้องนอน 2 เป็นห้องนอนที่อยู่โซนด้านหน้าของบ้าน สามารถมองลงไปเห็นโถงห้องรับแขกด้านล่างได้ ในบ้านตัวอย่างทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนหรือ Family Area ค่ะ มีพื้นที่ให้คุณลูกทำงาน คุณแม่นั่งพักผ่อน หรือดูหนังด้วยกันกับครอบครัวได้

ด้านหน้าบ้านมีห้องอเนกประสงค์ 8 เหลี่ยมที่แยกออกมาจากตัวบ้าน มองเห็นวิวดีทั้งสวนด้านหน้าและ Court กลางบ้าน เหมาะกับการทำเป็นห้องพระเป็นมุมสงบสำหรับนั่งสมาธิ หรือห้องทำงานแบบ Private หรือจะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายก็ได้ เพราะเสียงจะไม่รบกวนไปถึงห้องนอนค่ะ

ถัดมาเป็นพื้นที่ Family Area หน้าห้องนอน สามารถจัดเป็นมุมทำการบ้านของเด็กๆ หรือห้องหนังสือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ก็ได้เช่นกันค่ะ

ห้องนอนของบ้าน Type L มีขนาดใหญ่ วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ภายในแบ่งเป็น 3 ฟังก์ชันคือ โซนพักผ่อน, Walk-in Closet และห้องน้ำส่วนตัว

ห้องนอน 3 เป็นห้องนอนที่มีจุดเด่นคือสามารถมองเห็นวิว Pocket Garden ได้จากภายในห้อง บรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อน

ภายในห้องน้ำก็มีการแบ่งฟังก์ชันแยกเป็นสัดส่วน มีอ่างอาบน้ำสามารถผ่อนคลายชมวิวสวนส่วนตัวได้

บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินหน้าห้องนอน

ห้องนอนที่ 4 เป็นห้องนอนที่มีขนาดใกล้เคียงกับห้องนอนที่ 3 ค่ะ สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ภายในมีโซนพักผ่อน ที่สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้ มี Walk-in Closet ขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัว

ภายในห้องน้ำออกแบบให้มีความ Private แยกฟังก์ชันชัดเจน มี Pocket Garden เป็นวิวที่สวยงามและรับแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ห้องน้ำสว่างและโปร่งสบาย มีอ่างอาบน้ำให้แช่น้ำผ่อนคลายชมวิวสวนได้เช่นกันค่ะ

มาดูห้อง Master Bedroom กันบ้างค่ะ ห้องนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ชั้น 2 เลยทีเดียว โดยภายใน Master Bedroom จะแบ่งเป็นโซนพักผ่อน (พื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอน), Walk-in Closet , ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ส่วนตัว

Private Semi Outdoor Living เป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวภายใน Master Bedroom สามารถมองผ่าน Glass House ลงไปเห็นสระว่ายน้ำได้

Master Bedroom มีพื้นที่สำหรับวางเตียงนอนกว้างขวาง สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 2 เตียงคู่กัน หรือเตียงขนาดพิเศษได้เพื่อความสะดวกสบายในการพักผ่อน

Walk-in Closet ก็มีขนาดใหญ่สามารถวาง Island ตรงกลางได้ ล้อมรอบด้วยตู้เสื้อผ้าเป็นตัว U เก็บของได้ค่อนข้างเยอะ เชื่อมต่อกับห้องน้ำด้วยประตูบานเปิดคู่ดูสวยงาม

ภายในห้องน้ำบรรยากาศโปร่งสบาย มองเห็นวิว Pocket Garden ได้กว้าง มีอ่างอาบน้ำวงกลมอยู่ตรงกลางให้ความรู้สึกหรูหรา แยกฟังก์ชันภายในมาให้อย่างชัดเจน

อ่างล้างหน้า His & Her ใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน มีการตกแต่งผนังด้วยหินอ่อนแท้ลวดลายธรรมชาติเฉพาะตัว

สำหรับพื้นที่อาบน้ำและสุขภัณฑ์แยกห้องกันชัดเจน สามารถใช้งานได้พร้อมกัน

อ่างอาบน้ำมีระบบน้ำวนและระบบน้ำแบบก๊อกผสมน้ำร้อน-น้ำเย็น จาก Kohler Cristina

ห้องน้ำใน Master Bedroom จะได้สุขภัณฑ์อัตโนมัติ Eir Intelligent Toilet พร้อมอุปกรณ์สี French Gold PVD Color รูปทรงสวยงาม Series ใหม่ล่าสุดจาก Kohler ค่ะ

ภายในห้อง Master Bedroom มี Private Living Double Space เป็นส่วน Highlight ของบ้าน เป็นผังโดม 8 เหลี่ยม ล้อมรอบด้วยกระจกมองเห็นวิวด้านหน้าบ้าน ดูโปร่งสบายและเป็นส่วนตัว

ฝ้าเพดานสูงถึง 9 เมตร สามารถแขวน Chandelier ขนาดใหญ่ได้

นอกจากจะเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวแล้วยังสามารถจัดเป็นมุมทำงานไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วยค่ะ

แบบบ้าน Series ใหม่หลังที่ 2 คือ Royal Archduke (S) ค่ะ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 184 – 289 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 751 ตร.ม. (776 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำส่วนตัว) ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 3 + 3 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 132 ล้านบาท

ชั้น 1

• ที่จอดรถ 3 คัน สามารถเพิ่ม Stack Parking ได้ เป็น 6 คัน
• โถงทางเข้าบ้านขนาดใหญ่สูง Double Volume เชื่อมต่อกับโถงบันไดดูโอ่อ่า
• พื้นที่นั่งเล่นรับแขกก็เป็น Double Volume โปร่งสบาย มองเห็นวิว Court กลางบ้านหรือสระว่ายน้ำได้ เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry
• มีพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถกั้นเป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำและสวนหลังบ้านได้ หรือจะกั้นเป็นห้องนอนที่ 6 ก็มีห้องน้ำภายในตัวรองรับ
• ฝั่งซ้ายของบ้านมีพื้นที่ Private Living ที่เชื่อมต่อกับห้องนอน เหมาะกับการทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น และทำงานส่วนตัวของผู้สูงอายุ
• ห้องนอนชั้นล่างออกแบบมารองรับผู้สูงอายุ มีห้องน้ำในตัว ใช้ประตูบานเลื่อนและไม่มี Step ที่พื้น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
• Service Zone อยู่ทางฝั่งขวาของตัวบ้าน ประกอบด้วยห้องครัวไทย ห้องซักล้าง ห้องแม่บ้าน 2 ห้อง และห้องน้ำแม่บ้าน

ชั้น 2

• โถงทางเดินชั้น 2 บรรยากาศโปร่งสบาย เนื่องจากมี Double Volume ทั้ง 2 ฝั่ง
• Family Area อยู่ด้านหน้าบ้าน เชื่อมต่อกับระเบียง สามารถกั้นเป็นห้องทำงานหรือห้องออกกำลังกายได้
• ห้องนอน 2, 3 , 4 มีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกัน สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ภายในมีฟังก์ชัน Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัวใช้งานได้สะดวก
• มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นห้องพระ หรือห้องเก็บของได้
• Master Bedroom เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับห้องน้ำ สามารถกั้นแยกเป็นสัดส่วนได้
• ภายใน Master Bedroom มีพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่วางเตียงนอนขนาดใหญ่พิเศษได้
• ห้องน้ำใน Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำ แยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วน รับแสงธรรมชาติผ่านทางระเบียง Pocket Garden ส่วนตัว

บรรยากาศภายในบ้านตัวอย่าง Royal Archduke (S) จะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

The Royal Residence (เดอะ รอยัล เรสซิเดนซ์) ราคา ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2567

• Royal Emperor (L) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 285 – 374 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 1,087 ตร.ม. (1,166 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำส่วนตัว)
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 8 ห้องน้ำ / 6 + 6 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – Sunken + Glass House / Grand Safe Room / Laundry / Shoe Room
  – ราคาเริ่มต้น 200 ล้านบาท / บ้านตัวอย่างราคา 316 ล้านบาท
• Royal Archduke (S) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 184 – 289 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 751 ตร.ม. (776 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำส่วนตัว)
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 3 + 3 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – Safe Room / Laundry / Shoe Room
  – ราคาเริ่มต้น 132 ล้านบาท
• จอง n/a บาท
• ทำสัญญา n/a บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 350,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.วา จัดเก็บครั้งเดียว
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

The Royal Residence ตั้งอยู่ในซอยประเสริฐมนูกิจ 27 เข้าซอยจากถนนประเสริฐมนูกิจประมาณ 200 เมตร ถือว่าเป็นบ้านแนวราบที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่ สามารถใช้ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 เพื่อลัดไปออกสู่ถนนรามอินทราได้ ที่ตั้งของโครงการยังใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย สีน้ำตาลและสายสีเทา(ในอนาคต) ช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้นในอนาคตด้วยค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ ตรงข้ามกับโครงการเป็น Nawamin City Avenue รายล้อมด้วยร้านอาหารในระยะทางที่สามารถเดินไปได้ อีกทั้งยังไม่ไกลจากโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง เช่น  Keerapat international school, NIVA american international school, Singapore international school, Regent’s International School

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

เนื่องจากโครงการนี้เป็นหมู่บ้านระดับ Ultimate Class ราคาประมาณ 100 – 300 ล้านบาท จึงมาการดูแลความปลอดภัยที่ครบครัน มี รปภ.คอยดูแลตรวจตราภายในโครงการ ประตูแบบ  Double Security Gates เข้า-ออกด้วย Easy Pass (กำลังจะเปลี่ยนเป็นสแกนแผ่นป้ายทะเบียน) กล้อง CCTV ภายในโครงการ

ตัวบ้านมีกล้อง CCTV ทั้ง 4 มุม มุมละ 2 ตัว มีระบบ Heat detector 3 จุด, Emergency Panic Button ภายในห้องน้ำผู้สูงอายุ Magnetic Sensor และระบบ ปรับอากาศ ERV จาก Mitsubishi เติมอากาศภายนอก และช่วยกรองฝุ่น PM 2.5

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

โครงการออกแบบมาในสไตล์ Oriental Victorian สีโทนครีม เทา ขาว พื้นที่ส่วนกลางมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง และ Clubhouse ที่ออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมไทย สวยงามน่าใช้งาน บ้านทุกแปลงจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ เป็นทิศที่สามารถรับลมได้ดี และไม่รับแดดร้อนยามบ่ายโดยตรง

ตัวบ้านพื้นที่ใช้สอยออกแบบมาได้ลงตัว ฟังก์ชันครบ ขนาด 751 – 1,087 ตารางเมตร มีจุดเด่นคือ ที่จอดรถ Super Car แยกเป็นสัดส่วน, Sunken Seat สำหรับนั่งมองวิวสระว่ายน้ำหรือสวนกลางบ้าน, โดมสูง 9 เมตรในห้องทำงานส่วนตัว, Safe Room ขนาดใหญ่ ฯลฯ บนที่ดินใหญ่ เริ่มต้น 184 – 374 ตารางวา

วัสดุ :

วัสดุที่ใช้มีความหรูหราตามมาตรฐานของระดับราคานี้ โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐมอญ, พื้นระบบ Post Tension, ผนังตกแต่งภายนอก หินแกรนิตพ่นทราย, กระเบื้องลายหินโทนสีเทา, หินอ่อนแท้ ประตูไม้สักจริง เดินระบบไฟ 3 เฟส 50(150) มาให้ พร้อม Home Automation จาก bticino

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่นสวยงาม มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตามแนวถนนหลักของโครงการ และรายล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Oriental Victorian แม้จะเป็นแบบบ้านใหม่แต่ยังคงความสวยงามของบ้านสไตล์เดิมเอาไว้ มีการเดินสายไฟฟ้าลงดินทำให้สภาพแวดล้อมดูเรียบร้อย

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ เพราะมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางให้บรรยากาศที่ดี มี The Royal Club พื้นที่ใช้สอยกว่า 3,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย Royal Hall ห้องจัดกิจกรรมขนาดใหญ่, Fitness, สระว่ายน้ำ, Spa Pavilion, Sauna Room, Tennis Court, Library, Visitor Lounge และสวนภายในโครงการให้ลูกบ้านทั้ง 79 ยูนิตใช้งานได้เต็มที่

The Royal Residence (เดอะ รอยัล เรสซิเดนซ์) เหมาะกับใคร

ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแบบบ้านโครงการนี้เป็นบ้านหรูที่ความคุ้มค่าด้านราคาอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ยังมีเรื่องความคุ้มค่าด้านอารมณ์และ สไตล์ความชอบด้วยเป็นส่วนในการตัดสินใจด้วยค่ะ

โครงการ The Royal Residence (เดอะ รอยัล เรสซิเดนซ์) จะเหมาะกับครอบครัวที่มองหาบ้านที่ดินขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ บนทำเลในเมืองเข้าออกได้หลายเส้นทาง, ใกล้ทางด่วน และต้องการบ้านหรูที่มีสังคมแวดล้อมที่ดี เป็นหน้าเป็นตาให้กับเราได้

ถ้าพูดถึงงบประมาณ 100 ล้านบาทขึ้นไป เจ้าของบ้านสามารถสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเองได้อยู่แล้ว ซึ่งโครงการ The Royal Residence จะตอบโจทย์มากขึ้นในด้านความปลอดภัย สังคมแวดล้อม และบรรยากาศส่วนกลางที่หาที่ไหนก็ไม่เหมือนค่ะ

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่