เปิดตัวโครงการใหม่บนถนนสุขาภิบาล 2 เขตประเวศ ที่ตั้งอยู่ในเวิ้งของพฤกษา Pruksa Avenue กับโครงการแบรนด์ The Plant บางนา-วงแหวน ลักษณะบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับโครงการในละแวก ที่ถือเป็นของ Rare item สำหรับย่านนี้เลยก็ว่าได้ รวมถึงทำเลที่เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก …โครงการมีความน่าสนใจอยู่หลายจุด ซึ่งเราสรุปออกมาเป็นข้อๆ ได้ดังนี้ค่ะ

  • ทำเล : โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสุขาภิบาล 2 เชื่อมต่อถนนอ่อนนุช – ลาดกระบังกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราจะเห็นว่าถนนเส้นนี้มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ๆ ก็นิยมมาเปิดตัวบนถนนเส้นนี้กันจำนวนไม่น้อย ทำให้มีร้านค้า ร้านอาหารรวมถึง Community Mall มาเปิดให้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้นด้วย
  • ฟังก์ชันตัวบ้าน : เน้นพื้นที่ใช้สอยเยอะ บริเวณชั้นบนมีพื้นที่อเนกประสงค์ทุกแบบ และห้องเก็บของขนาดใหญ่ เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ที่มีลูกโตแล้วก็อยู่ได้สบายๆ
  • มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ : รองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ จึงตอบโจทย์การอยู่อาศัยยาวๆ แบบ 3 Generations
  • Security : โครงการอยู่ในเวิ้งของพฤกษาเองที่ภายในมีหลากหลายโครงการ ที่ทำให้ด้านหน้ามีป้อมรปภ. ดูแลความปลอดภัยก่อน 1 จุด และด้านในอีก 1 จุด รวมถึงภายในโครงการติดตั้งกล้อง CCTV ทั้งหมด 15 จุด พร้อมรั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร (มีรั้วเหล็กแหลม)

ข้อมูลโครงการ

The Plant Bangna-Wongwaen (เดอะแพลนท์ บางนา-วงแหวน) ณ วันที่ 27 มกราคม 2565

 ชื่อโครงการ   The Plant Bangna-Wongwaen (เดอะแพลนท์ บางนา-วงแหวน)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)
 SEGMENT CLASS   MAIN – UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนสุขาภิบาล 2 อำเภอบางพลี สมุทรปราการ
 ที่ดิน 33-3-74.4 ไร่
 จำนวนยูนิต จำนวน 194 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Corey บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 36.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท (Promotion)
  • Darlene บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 148 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.45 ล้านบาท (Promotion)
  • Bernice บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน รองรับ 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท (Promotion)

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.6 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ          89,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2567
 เว็บไซต์โครงการ   https://www.pruksa.com/theplant/bangna-wongwaen
 โทร   N/A
 Call Center   1739


[ENQUIRY-TITLE]Fast Deal โปรโมชั่นพิเศษเดือนนี้The Plant บางนา-วงแหวน เริ่ม 4.99 ลบ. [/ENQUIRY-TITLE]
[ENQUIRY-SNIPPET]ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้-18 มี.ค. 67 เพื่อรับโปรโมชั่นและการติดต่อจากทางโครงการ[/ENQUIRY-SNIPPET]
[ENQUIRY-CTA]คลิกลงทะเบียน[/ENQUIRY-CTA]

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.689606, 100.701544
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

The Plant บางนา-วงแหวน โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสุขาภิบาล 2 เชื่อมต่อถนนอ่อนนุช- ลาดกระบัง และถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราจะเห็นว่าถนนเส้นนี้มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ๆ ก็นิยมมาเปิดตัวบนถนนเส้นนี้กันจำนวนไม่น้อย ทำให้มีร้านค้า ร้านอาหารรวมถึง Community Mall มาเปิดให้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้นด้วย

ทำเลที่ตั้งเดินทางเข้าเมืองไปย่านอ่อนนุชได้ง่าย เหมาะกับคนที่ทำงานโซนอ่อนนุช, เอกมัย ทองหล่อ เป็นต้น ที่ขยับออกมาหน่อยแต่ได้อยู่บ้านแนวราบ นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งก็จะตอบโจทย์สำหรับคนที่เดินทาง(ด้วยเครื่องบิน)บ่อยๆ หรือทำงานภายในสนามบิน รวมถึงคนที่ทำงานย่านบางนา, ชลบุรี, สมุทรปราการ ก็สะดวก สำหรับถนน 3 สาย รอบโครงการ มีดังนี้

  1. ถนนบางนา-ตราด : สำหรับโซนบางนาเป็นอีกพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมือง ที่เริ่มมีความเจริญต่างๆ ทั้งแหล่งงาน ห้างสรรพสินค้า Mega project ต่างๆ และที่อยู่อาศัยก็ขยายตัวมายังชานเมืองมากขึ้น โดยถนนหลักที่เป็นพระเอกในทำเลบางนานี้ก็คือ “ถนนบางนา-ตราด” เป็นถนนใหญ่เส้นหนึ่งที่เชื่อมกรุงเทพฯ กับสมุทรปราการไว้ด้วยกัน และหากใครต้องการทำความเร็ว ก็เลือกใช้ทางด่วนบูรพาวิถีที่ใช้เป็น Fast Track เชื่อมออกไปฉะเชิงเทรา ชลบุรีได้
  2. ถนนกาญจนาภิเษก : เหมาะกับคนที่เน้นเดินทางรอบนอกเมืองเป็นหลัก เพราะถนนเส้นนี้จะวิ่งเป็นวงกลมรอบพื้นที่กรุงเทพชั้นใน ที่ช่วยเลี่ยงการเดินทางข้ามผ่านใจกลางเมืองที่มีจราจรหนาแน่นได้ดี และบริเวณโครงการจะเป็นถนนเลียบทางคู่ขนานที่เชื่อมระหว่างบางนา-ตราดและลาดกระบังได้โดยไม่ต้องเสียค่าทางด่วนและรถยังไม่ติดอีกด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีทางลัดเลาะเชื่อมต่อไปยังย่านต่างๆ เช่น ถนนกิ่งแก้ว, ถนนสวนหลวงร.9 ศรีนครินทร์ เป็นต้น
  3. ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง : ความน่าสนใจคือเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทเข้าใจกลางเมืองได้ง่าย หรือจะใช้เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิก็สะดวก นอกจากนี้ยังเป็นย่านชุมชนขนาดใหญ่ ที่หาของกินได้ง่าย มีร้านค้า ร้านอาหารกระจายตัวอยู่รอบพื้นที่

บริเวณถนนสุขาภิบาล 2 เชื่อมต่อถนนอ่อนนุช-ลาดกระบังกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราจะเห็นว่าถนนเส้นนี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และคอมมูนิตี้มอลล์มาเปิดให้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้นด้วย เอาแบบเบสิกง่ายๆ พวกร้านสะดวกซื้ออย่าง Lotus, 7-Eleven ก็มีตลอดทั้งเส้น หรือสไตล์ Community Mall ก็มีนะคะ คือ K Space Mini Mall ภายในมีทั้งร้าน Buffet, ร้านอาหารญี่ปุ่น ฯลฯ ส่วนถ้าขยับไปก็มีดังนี้

  1. ถนนบางนา-ตราด : ปัจจุบันมี Mega Bangna & IKEA ที่เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ รวมถึงในอนาคตจะพัฒนาให้มีคอนโด สำนักงาน โรงเรียน อีกด้วย นอกจากนี้บนถนนเส้นนี้ก็จะมี Market Village, Makro บางพลี และ Central บางนา เป็นต้น
  2. ถนนศรีนครินทร์ : มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Seacon Square และ Paradise Park ที่ถือเป็นห้างสำคัญของคนในย่านนี้เลย รวมถึงยังมีสวนหลวง ร. 9 ที่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ให้เราสามารถเดินออกกำลังกายได้สบายๆ
  3. ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง : มี Community Mall อย่าง Paseo ลาดกระบัง ถัดมาอีกไม่ไกล ก็มีห้างสรรพสินค้าอย่าง Robinson ลาดกระบัง ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ (ประมาณ 5 กม.) ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์ให้ใช้บริการ

บริเวณนี้เราขอพูดถึงเฉพาะเส้นทางรถไฟฟ้า 3 สายที่เปิดให้บริการแล้วกับเส้นทางที่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างที่คาดว่าจะเปิดบริการช่วงปลายปี 2565 นะคะ (เพื่อรับรองได้ว่าจะมีรถไฟฟ้าไว้ใช้งานในอนาคตอันใกล้แน่นอน)

  1. รถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS : รถไฟฟ้าสายนี้ถือว่าเป็นเส้นหลักที่คนกรุงเทพฯ ใช้อยู่ก็ว่าได้ค่ะ ข้อดีอย่างหนึ่งของรถไฟฟ้าสายนี้คือการพาชาวบางนามุ่งหน้าเข้าเมืองได้สะดวก ไปได้ทั้งแหล่งงานและสถานศึกษาชั้นนำ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด ความสะดวกนี้เองทำให้ที่ดินรอบๆรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทเส้นนี้มีมูลค่าสูงขึ้นมาก และเป็นแนวที่มีคอนโดเกิดขึ้นเยอะค่ะ
  2. รถไฟฟ้า Airport Rail Link : จุดประสงค์ของรถไฟฟ้าสายนี้คือการพาคนจากกลางกรุงเทพฯ เข้าสู่สนามบินแห่งชาติอย่างสนามบินสุวรรณภูมิเป็นหลัก (พญาไท-สุวรรณภูมิ) ทำให้สถานีมีจำนวนไม่มาก แต่ก็มีผ่านย่านที่สำคัญหลายสถานี เช่น รามคำแหง, มักกะสัน(อโศก-พระราม 9) และพญาไท ซึ่งถือเป็นโซนที่มีสถานศึกษาและแหล่งงานอยู่ค่ะ
  3. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (กำลังก่อสร้าง) : รถไฟฟ้าสายนี้จะวิ่งจากลาดพร้าวมายังสำโรง โดยผ่านถนนลาดพร้าว แยกลำสาลี และถนนศรีนครินทร์เป็นหลักค่ะ ถือว่าเป็นเส้นที่มีผู้คนอยู่อาศัยกันเยอะมากเช่นกันนะ

ถ้าเราเดินทางมาจากถนนกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ (มอเตอร์เวย์) บริเวณฝั่งขาออก ให้เราวิ่งตามป้ายถนนอ่อนนุช-ลาดกระบังไป (ขึ้นสะพานกลับรถ) ที่จะพาเราเข้าถนนสุขาภิบาล 2 หลังจากนั้นจะเป็นแยก ให้เราเลี้ยวขวาตามทางไปเรื่อยๆ เราจะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือนะคะ ระยะทางรวมประมาณ 6.3 กม.

ภาพการเดินทางในวันนี้

การเดินทางในวันนี้ ขอเริ่มต้นบนถนนบางนา-ตราด เริ่มจากบริเวณ Lotus’s Bangna ขับไปหน่อยให้เตรียมชิดซ้ายสุด เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางคู่ขนานกาญจนาฯ (ตามป้ายบอกทางไปอ่อนนุช-ลาดกระบัง) จากนั้นก็ขับมาเรื่อยๆจะมีจุดกลับรถใต้สะพาน แล้วขับย้อนกลับมาประมาณ 3.5 กม. ก็จะเจอทางเข้าถนนสุขาภิบาล 2 ขับต่อไปอีก 450 เมตร เราจะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือติดกับถนนใหญ่เลย

สำหรับจุดกลับรถใต้สะพานต้องใช้ความระมัดระวังกันสักหน่อยนะคะ เพราะทางจะค่อนข้างแคบ ต้องมีการเลี้ยว 2-3 รอบ (บรรยากาศใต้สะพานจะมืดๆหน่อยนะคะ และรถที่สูงเกินไปอาจจะใช้งานไม่ได้นะคะ)

Image 1/12
หลังจากขับเลย Tesco Lotus ไปเล็กน้อย ก็ให้เราชิดซ้ายสุดได้เลย ตามป้ายไปถนนอ่อนนุช

หลังจากขับเลย Tesco Lotus ไปเล็กน้อย ก็ให้เราชิดซ้ายสุดได้เลย ตามป้ายไปถนนอ่อนนุช

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สำหรับโครงการ The Plant บางนา-วงแหวน เป็นหนึ่งในโครงการของพฤกษา อเวนิว จึงมีหลายๆ โครงการอยู่ภายในซอยเดียวกันนี้ เช่น Passorn, The Plant, Pruksa Villa และอนาคตก็อาจจะมีโครงการเปิดใหม่ขึ้นมาอีกทำให้ในซอยนี้จะมีพี่ รปภ. ส่วนกลางช่วยดูแลเพิ่มความปลอดภัยให้อีกชั้นหนึ่งนะคะ และสภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า จึงไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ส่งผลต่อการพักอาศัย

เริ่มต้นจากถนนสุขาภิบาล 2 จะมีทางเข้าขนาดใหญ่ของ Pruksa Avenue (พฤกษา อเวนิว) เป็นถนนภาระจำยอมที่แชร์การใช้งานร่วมกับหลายๆ โครงการของพฤกษา ลูกบ้านจึงต้องจ่ายค่าส่วนกลางในการดูแลรักษาถนนส่วนกลางนี้อีกเดือนละ 5 บาทนะคะ

โครงการ The Plant บางนา-วงแหวน มีระยะเข้ามาจากถนนสุขาภิบาล 2 ประมาณ 2 กม. ถึงจะเจอกับซุ้มประตู ข้อดีคือกลายเป็น Buffer เรื่องเสียงและมลพิษต่างๆ บนท้องถนนได้ ส่งผลถึงความเป็นส่วนตัวของภายในโครงการที่มากขึ้นด้วย

บริเวณถนนภาระจำยอมจะมีป้อมรปภ. ส่วนกลาง ที่ช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับลูกบ้านทั้งหมดในพฤกษา อเวนิวก่อนเป็นด่านแรก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Paseo ลาดกระบัง ~ 6.5 กม.
  • Robinson ลาดกระบัง ~ 7.1 กม.
  • Mega & Ikea บางนา ~ 8.4 กม.
  • Market Village สุวรรณภูมิ ~ 10.5 กม.
  • Paradise Park ~ 14.4 กม.
  • Central บางนา ~ 14.2 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.จุฬารัตน์ 9 ~ 3.8 กม.
  • รพ.สิรินธร ~ 4.4 กม.
  • รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ~ 14.6 กม.

โรงเรียน

  • รร.สาธิตรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ~ 4.1 กม.
  • รร.นานาชาติชาร์เตอร์ ~ 4.9 กม.
  • รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 11.2 กม.

อื่นๆ

  • สนามกอล์ฟวินมิลล์ ~ 8.9 กม.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 12.6 กม.
  • สวนหลวง ร.9 ~ 14 กม.

รายละเอียดโครงการ

บ้านแบรนด์ “The Plant” เป็นหนึ่งในแบรนด์น้องเล็กสุดของพฤกษา ที่ภายในมีทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ช่วงราคา 4-7 ล้านบาท ต่ำกว่าแบรนด์บ้านภัสสรเล็กน้อย ออกแบบตัวบ้านให้ตอบโจทย์ครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูก 3-4 คน ไปจนถึงครอบครัวที่มีผู้สูงอายุด้วยนะคะ

สำหรับราคาเริ่มต้นของโครงการ ‘The Plant บางนา-วงแหวน‘ เพียง 4.69 ล้านบาท (ที่ถือว่าได้ราคาถูกเมื่อเทียบกับโปรดักส์ในพื้นที่) ตัวโปรดักส์มีทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ทั้งหมด 3 แบบ โดยทุกแบบบ้านออกแบบให้มี 4 ห้องนอน(ห้องนอนชั้นล่าง) ที่ทำให้บ้านแฝดได้ฟังก์ชันเหมือนกับบ้านเดี่ยว โดยที่นี่จะมีบ้านแฝดทั้งหมด 108 ยูนิต บ้านเดี่ยว 86 ยูนิต รวมแล้ว 194 ยูนิต ที่เป็นโครงการจัดสรรขนาดกลางไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

Master Plan ของโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดิน 33 ไร่กว่า ทั้งหมด 194 ยูนิต เริ่มจากซุ้มประตูทางเข้าโครงการ + รปภ.ดูแลตลอด 24 ชม. ส่วนพื้นที่ส่วนกลาง มีทั้ง Clubhouse + สวนหย่อมขนาด 1 ไร่ บรรยากาศร่มรื่น มีพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ ให้มาเดินออกกำลังกาย หรือนั่งเล่นยามเย็น ส่วนตัวบ้านภายในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบ หันทางทิศเหนือ-ใต้ทั้งหมด ทำให้ตัวบ้านไม่ร้อน ซึ่งสำหรับโซนใกล้สวนจะเป็นลักษณะบ้านเดี่ยว ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นบ้านแฝด / ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนรองกว้าง 9 เมตร

ปัจจุบันตัวโครงการตั้งอยู่ด้านในสุดของ Pruksa Avenue (พฤกษา อเวนิว) โดยปัจจุบันมีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจนค่ะ

ซุ้มประตูอยู่ระหว่างก่อสร้างนะคะ

บริเวณด้านหน้าโครงการจะมีถนนก่อนถึงซุ้มประตูทางเข้าค่ะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว และเป็นจุดพักคอยให้รถต่อคิวเพื่อเข้าโครงการกันได้ (กรณีในเวลาเร่งด่วนมีรถเข้า-ออกเยอะๆ)

เริ่มกันที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการกันก่อนเลยค่ะ ตรงนี้จะเป็นซุ้มยาวพร้อมหลังคาปกคลุม มีแยกทางเข้า-ออกคนละฝั่ง และวางป้อมยามตรงกลาง ทำให้ดูแลรักษาความปลอดภัยได้ทั่วถึงนะคะ

ทางเข้า-ออกก็จะแบ่งออกเป็น 2 ช่องเช่นกัน สำหรับลูกบ้าน และ Visitor ที่ต้องแลกบัตรก่อนเข้าโครงการ / สำหรับลูกบ้านเข้าออกด้วย Key Card แบบ Easy Pass ที่ไม่ต้องเปิดกระจกให้เสียเวลา นอกจากนี้ยังมีกล้อง CCTV บริเวณทางเข้า-ออกด้วยนะ

ถัดเข้ามาด้านในโครงการมีถนนหลักกว้าง 12 เมตร หลังจากซุ้มประตูเข้ามาฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ Main Facilities ของโครงการ โดยแบ่งเป็นพื้นที่สวนหย่อม 1 ไร่ และถัดเข้าไปด้านในเป็นอาคาร Clubhouse ของโครงการค่ะ

พื้นที่สวนหย่อมมี Solar Tree Pavilion ที่ช่วยลดค่าไฟบริเวณพื้นที่ส่วนกลางได้นะคะ

ถัดเข้ามาด้านในเป็นลานสนามหญ้ากว้างๆ ที่เราสามารถพาเด็กมาวิ่งเล่น หรือนั่งเล่น picnic ชิวๆ มองเข้าไปด้านในเราจะเห็นอาคาร Clubhouse ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างนะคะ

ภาพจำลองอาคาร Clubhouse ออกแบบมาในสไตล์ Modern เรียบง่าย โดยเป็นอาคาร 2 ชั้น ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้ง, ฟิตเนส และ Co-working Space ซึ่งบริเวณนี้จะเป็น FREE WIFI นะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7×18.6 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • แบ่งสระเด็กลึกขนาด 2.7×5 เมตร ลึก 60 ซม.
  • ห้องออกกำลังกาย
  • Co-working Space
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 15 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร (มีรั้วเหล็กแหลม)
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Key Card Access ระยะใกล้/ ระยะไกล/ รีโมท
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ Night gate, Barrier gate (Bluetooth) พร้อมทางเข้าแยก Visitor และ Resident

แบบบ้าน

The Plant บางนา-วงแหวน เป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีจุดเด่นคือ เป็นบ้านหน้ากว้างช่องแสงเยอะ ได้พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับราคา และทุกแบบจะมีห้องนอนที่ชั้นล่างจึงรองรับการอยู่อาศัยแบบ 3 Generations โดยมีบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ

  • Corey บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 36.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท (Promotion)
  • Darlene บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 148 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.45 ล้านบาท (Promotion)
  • Bernice บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน รองรับ 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท (Promotion)

แบบบ้านทั้ง 3 จะมี Corey เป็นแบบบ้านแฝดเริ่มต้นของโครงการ แม้ว่าจะมีขนาดที่เล็กกว่าแบบอื่นๆ แต่ฟังก์ชันก็ครบครันตามมาตรฐาน ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดถัดมาเป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้าง ที่ช่องแสงส่องเข้าได้เต็มที่ โดยแบบบ้าน Darlene จะได้พื้นที่อเนกประสงค์ที่ชั้นบนเพิ่มเติม ส่วนอีกแบบบ้าน Bernice ได้เป็นลักษณะห้องครัวปิด และห้องเก็บของขนาดใหญ่จากหลังบ้าน

เราลองเอาแปลนมาเทียบกันแล้วจึงได้วงกรอบ(สีแดง) คือพื้นที่ห้องนอนชั้นล่าง กรอบ(สีเหลือง) คือพื้นที่เก็บของใต้บันได และกรอบ(สีเขียว) พื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบน นอกจากนี้ยังมีประตูทางเข้า 2 จุด คือจากหน้าบ้าน และบริเวณโรงจอดรถ ที่ทำให้ใช้งานได้หลากหลายและสะดวกมากขึ้นนะคะ

โครงสร้าง

ก่อสร้างด้วยระบบ Precast ข้อดีคือมีความแข็งแรงทนทาน ไม่มีเสาภายในบ้าน จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ดี แต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องของการทุบผนังต่อเติม ส่วนพื้นที่จอดรถหน้าบ้านลงเสามาให้เรียบร้อย (Slab on Beam)

วัสดุ

  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม.
  • พื้นชั้น 2 : พื้นไม้สำเร็จรูป SPC หนา 4 มม. วัสดุเดียวกับแบรนด์บนของพฤกษา
  • กรอบอลูมิเนียมประตูและหน้าต่าง ยี่ห้อ Tostem + กระจกเขียวตัดแสง
  • สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ ยี่ห้อ Kohler, Englefield
  • ภายในติดตั้งไฟ LED และ Wallpaper มาให้เป็นมาตรฐาน

ภายนอกของบ้านแบบ Corey สไตล์โมเดิร์น พร้อม Facade เป็นคอนกรีตพิมพ์ลายสีไม้ ที่ทำให้ตัวบ้านดูอบอุ่นมากขึ้น พร้อมระเบียงและช่องแสงขนาดใหญ่เป็นมาตรฐาน

ลักษณะบ้านแฝด 2 ชั้น ที่เชื่อมกันทั้งผนังชั้นบนและชั้นล่าง แต่จะมีหลงคาที่แยกกัน ได้อารมณ์บ้านเดี่ยวอยู่นะคะ

  • ข้อดี : เหตุผลหลักเลยที่เชื่อมกันแบบนี้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ให้มีฟังก์ชันการใช้งานมากขึ้น
  • ข้อเสีย : ผนังที่ใช้ร่วมกันกับเพื่อนบ้านเป็นตำแหน่งห้องพักอาศัย ที่เวลาใช้งานจริงอาจจะได้ยินเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านเล็กน้อย

บ้านแบบ Corey บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 36.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท (Promotion)

  • ชั้น 1 : เริ่มจากที่จอดรถ 2 คัน พร้อมทางเข้าบ้านได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากเฉลียงหน้าบ้าน และที่จอดรถ ที่ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยทางเข้าหลักเปิดมาเจอพื้นที่ Common Area วางเป็นแนวยาว แต่หลังบ้านจะมีบันไดทางขึ้นชั้นบนอยู่ ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่ Service ที่เป็นตำแหน่งห้องน้ำ และครัวเปิด รวมถึงห้องนอนชั้นล่าง เหมาะกับครอบครัวผู้สูงอายุ
  • ชั้น 2 : ชั้นบนเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด โดยมีห้อง Master Bedroom + ห้องน้ำในตัว ที่วางเป็นแนวยาว วางเตียงไซส์ใหญ่ได้สบายๆ ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ขนาดไม่ใหญ่มาก วางเตียง 3.5 ฟุตได้กำลังดี ที่น่าสนใจคือห้องนอนเล็ก(ฝั่งหน้าบ้าน) จะได้ระเบียงขนาดใหญ่ ที่วางเก้าอี้แบบ Outdoor ได้สบายๆ

ทางเข้าบ้านมีเฉลียงหน้าบ้านเล็กน้อย มีหลังคาคลุมที่ป้องกันแดดและฝนได้ระดับนึง พร้อมยกระดับจากพื้น ที่เอาไว้นั่งเปลี่ยนรองเท้าหน้าบ้านได้

สำหรับบานประตูกว้างเลื่อน 2 ตอน ยี่ห้อ Tostem เป็นแบรนด์ที่วัสดุแข็งแรงดี พร้อมจุดล็อคที่แน่นหนา ไม่มีเสียงรบกวน ส่วนกระจกสีเขียวตัดแสง ป้องกันแสง UV ได้ระดับนึง

เปิดประตูเข้ามาเป็นส่วน Common Area วางเป็นแนวยาว (Living + Dining Area) โดยด้านหลังบ้านเป็นตำแหน่งบันได แต่ก็มีช่องให้แสงส่องเข้ามาได้อยู่นะคะ / ความสูงพื้นถึงฝ้าสูง 2.6 เมตร พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ผนังติด Wallpaper เป็นมาตรฐาน

ส่วนระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.45 เมตร ที่เลือกทีวีขนาดตั้งแต่ 40″- 42″ กำลังดีกับสายตา

พื้นที่ด้านในวางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่งได้กำลังดี โดยอยู่ใกล้กับพื้นที่ครัวเปิด ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เดินใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ครัวเปิดวางชุด Built-in ครัว เป็นแนวยาวแบบนี้ได้เลย แต่ด้วยความเป็นครัวเปิดอาจจะไม่เหมาะทำอาหารจริงจังมากนัก เพราะกลิ่นจะฟุ้งกระจายทั่วบ้านนะคะ / ส่วนใครที่เน้นทำอาหารจริงจังแนะนำควรกั้นประตูบานเลื่อนเพิ่มเติมนะคะ

อีกฝั่งมีพื้นที่เหลือสามารถวางตู้เย็น และเครื่องซักผ้าได้เพิ่มเติม ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นประตูเปิดไปเป็นพื้นที่จอดรถ ทำให้เดินใช้งานได้สะดวก

เปิดประตูไปเป็นพื้นที่จอดรถ ซึ่งบริเวณนี้จะมีพื้นยกระดับเล็กน้อย ดูเป็นสัดส่วนดี

ห้องน้ำวางเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ภายในแบ่งแยกโซนเปียก-แห้งด้วยการลดระดับพื้นเล็กน้อย ที่แนะนำให้ติดผ้าม่านเพิ่มเติมนะคะ ส่วนด้านบนมีหน้าต่างบานเลื่อนเปิดระบายความชื้นภายในได้ดีค่ะ

อุปกรณ์ภายในครบครันทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 95 x 95 ซม. พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่ปรับระดับการไหลของน้ำ ด้านข้างมีชั้นวางสบู่หยิบใช้งานได้สะดวก

ถัดไปด้านข้างเป็นพื้นที่ห้องนอนชั้นล่างค่ะ

ห้องนอนวางเป็นแนวยาว(ฝั่งหลังบ้าน) ขนาด 3.3 x 3.2 เมตร หรือประมาณ 10 ตารางเมตร ที่สามารถทำเป็นห้องนอนได้ตามกฎหมาย พร้อมหน้าต่าง 2 ฝั่ง รับแสงได้เต็มที่ โดยโครงการออกแบบเป็นห้องนั่งเล่นอีก 1 จุด หรือจะปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุก็ได้นะคะ

ส่วนฝั่งตรงข้ามสามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนได้ พร้อมตู้ Built-in เพิ่มเติม

กลับไปที่พื้นที่ Common Area เราจะพาเดินบันไดขึ้นไปดูพื้นที่ชั้นบนกันต่อค่ะ

บันไดวางเป็นรูปตัว U ติดกับหลังบ้าน มีหน้าต่างบริเวณชานพัก รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ บรรยากาศโปร่งโล่งดี ประหยัดไฟในเวลากลางวันได้อีกด้วย

ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป ที่เวลาเดินจะไม่มีเสียงดังรบกวนค่ะ / เดินขึ้นมาเจอชานพักก่อนแยกย้ายไปห้องนอนต่างๆ

ห้องนอนใหญ่วางเตียงไซส์ใหญ่ได้สบายๆ พร้อมโต๊ะหัวเตียง 2 ฝั่ง พร้อมหน้าต่าง และประตูบานเลื่อนเปิดไปพื้นที่ระเบียงส่วนตัว ที่รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่

พื้นชั้นบนเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ SPC 4 มม. ที่ทนน้ำและความชื้นได้ดี รวมถึงให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมาะกับการพักอาศัยมากยิ่งขึ้น

พื้นที่ระเบียงขนาด 3.4 x 0.67 เมตร ที่ยืนสูดอากาศได้กำลังดี

มองกลับไปเป็นตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำส่วนตัวในบ้าน

ห้องนอนวางเป็นรูปตัว L ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยการลดระดับพื้นเล็กน้อย บริเวณพื้นที่อาบน้ำ ส่วนด้านบนมาพร้อมหน้าต่างบานเลื่อนเปิดระบายความชื้นได้ดี

อุปกรณ์ภายในครบครันทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.05 x 1.20 เมตร พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้ด้วย มาพร้อมชั้นวางสบู่ด้านข้างหยิบใช้งานได้สะดวก

เดินไปดูบรรยากาศภายในห้องนอนเล็กกันต่อค่ะ

ส่วนห้องนอน(ฝั่งหน้าบ้าน) มาพร้อมหน้าต่างและประตูบานเลื่อน ที่เดินออกไประเบียงขนาดใหญ่ได้ ทำให้บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่งทีเดียว

ส่วนอีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้า + โต๊ะทำงาน ที่ใช้งาน 1 คนได้กำลังดีค่ะ

บริเวณระเบียงขนาด 3.05 x 2.00 เมตร ที่ถือว่าค่อนข้างกว้าง เราสามารถเอาชุดเก้าอี้มานั่งเล่นได้ชิวๆเลยนะคะ / ซึ่งของจริงบางส่วนจะเป็นกำแพงสูงที่บดบังสายตาจากเพื่อนบ้านได้ระดับนึง

ภายในห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมหน้าต่างระบายความชื้นได้

อุปกรณ์ภายในครบครันทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.03 x 0.79 เมตร พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้ด้วย มาพร้อมชั้นวางสบู่ด้านข้างหยิบใช้งานได้สะดวก

ห้องนอนเล็ก(ฝั่งหลังบ้าน) ขนาด 3.4 x 2.38 เมตร มาพร้อมหน้าต่าง 2 ฝั่ง จากหลังบ้านและบริเวณระเบียง ที่เวลาเปิดแล้วอากาศจะถ่ายเทได้ดีเลย โดยถ้าใครทำเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต + ตู้เสื้อผ้าได้พอดี

ภายนอกของบ้านแบบ Darlene ลักษณะบ้านหน้ากว้าง สไตล์โมเดิร์น พร้อม Facade เป็นคอนกรีตพิมพ์ลายสีไม้ พร้อมช่องแสงเยอะดี

บ้านแบบ Darlene บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 148 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 6.45 ล้านบาท (Promotion)

  • ชั้น 1 : เริ่มจากที่จอดรถ 2 คัน พร้อมทางเข้าบ้านได้ 2 ฝั่งเหมือนกับหลังที่แล้ว โดยทางเข้าหลักเปิดมาเจอพื้นที่ Common Area วางเป็นแนวยาวถึงหลังบ้าน แสงส่องเข้าได้เต็มที่ ถัดไปเป็นพื้นที่ครัวเปิดที่สามารถกันเป็นครัวปิดเองได้นะ เดินต่อไปเป็นห้องนอนชั้นล่าง + ห้องน้ำ เหมาะกับครอบครัวผู้สูงอายุ
  • ชั้น 2 : ชั้นบนเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เพิ่มเติมพื้นที่อเนกประสงค์หน้าห้อง ที่ทำเป็น Private Living Area ได้นะคะ สำหรับห้อง Master Bedroom วางเป็นแนวยาวถึงหลังบ้าน มีพื้นที่ทำ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ขนาดไม่ใหญ่มาก วางเตียง 3.5 ฟุตได้กำลังดี

ทางเข้าบ้านมีเฉลียงหน้าบ้านเล็กน้อย มีหลังคาคลุมที่ป้องกันแดดและฝนได้ระดับนึง พร้อมยกระดับจากพื้น ที่เอาไว้นั่งเปลี่ยนรองเท้าหน้าบ้านได้ / ตัวบานเป็นบานประตูกว้างเลื่อน 2 ตอน ยี่ห้อ Tostem พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสง ป้องกันแสง UV ได้ระดับนึง

เปิดประตูเข้ามาเป็นส่วน Common Area วางเป็นแนวยาวจนถึงหลังบ้าน มีหน้าต่างรับแสงได้ถึง 3 ฝั่ง (ต่อเนื่อง Living + Dining Area) บรรยากาศภายในโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

ส่วนระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.45 เมตร ที่เลือกทีวีขนาดตั้งแต่ 40″- 42″ กำลังดีกับสายตา

ถัดเข้าไปเป็นตำแหน่งโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 5-6 ที่นั่งกำลังดี พร้อมหน้าต่างรับแสง 2 ฝั่ง รับแสงได้เต็มที่ + ชมวิวสวนขณะกินข้าวไปด้วย

ติดกับพื้นที่กินข้าวเป็นพื้นที่ครัวเปิดด้านในบ้าน ซึ่งเราก็สามารถกั้นประตูเพิ่มได้ ช่วยป้องกันกลิ่นอาหารฟุ้งกระจายภายในบ้าน

เปิดประตูไปหลังบ้านทางโครงการปูพื้นคอนกรีตมาให้บางส่วนสำหรับทำเป็นพื้นที่ซักล้าง

เดินไปดูห้องนอนชั้นล่างกันต่อค่ะ โดยฝั่งขวามือเป็นพื้นที่เปิดไปพื้นที่จอดรถได้

พื้นที่จอดรถ 2 คัน พร้อมหลังคาปกคลุมบางส่วนค่ะ

ห้องน้ำวางเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ภายในแบ่งแยกโซนเปียก-แห้งด้วยการลดระดับพื้นเล็กน้อย ที่แนะนำให้ติดผ้าม่านเพิ่มเติมนะคะ ส่วนด้านบนมีหน้าต่างบานเลื่อนเปิดระบายความชื้นภายในได้ดีค่ะ

อุปกรณ์ภายในครบครันทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 85 x 87 ซม. พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่ปรับระดับการไหลของน้ำ ด้านข้างมีชั้นวางสบู่หยิบใช้งานได้สะดวก

ห้องนอนวางเป็นแนวยาว(ฝั่งหลังบ้าน) ขนาด 3 x 3 เมตร หรือประมาณ 9 ตารางเมตร ที่สามารถทำเป็นห้องนอนได้ตามกฎหมาย พร้อมหน้าต่าง 2 ฝั่ง รับแสงได้เต็มที่ โดยวางเตียง 3.5 ฟุต + ตู้เสื้อผ้า สำหรับ 1 คนได้กำลังดี

ภายในห้องวางตู้เสื้อผ้า + โต๊ะเครื่องแป้งได้ ส่วนปลายเตียงมีพื้นที่วางทีวีได้กำลังดี

ก่อนจะไปชั้น 2 เรามาดูบริเวณโถงบันไดกันต่อ ที่น่าสนใจ คือบริเวณใต้บันไดมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ เหมาะกับครอบครัวที่มีของใช้เยอะๆ

บันไดวางเป็นรูปตัว U พร้อมชานพักสี่เหลี่ยมได้ใช้งานได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างบานใหญ่ ที่แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่ รวมถึงมีพื้นที่เหลือวางแชเดอเรียสวยงามได้อีกด้วย

พื้นที่ทางเดินชั้นบนกว้าง เดินใช้งานได้สบายๆ

พื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 2.5×1.99 เมตร ที่สามารถทำเป็น Private Living ได้เลย โดยมีส่วนต่อเนื่องกับพื้นที่ระเบียงด้านนอกได้

ภายในห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมหน้าต่างระบายความชื้นได้

อุปกรณ์ภายในครบครันทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.06 x 0.71 เมตร พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้ด้วย มาพร้อมชั้นวางสบู่ด้านข้างหยิบใช้งานได้สะดวก

ห้องนอนเล็ก(ฝั่งหลังบ้าน) ขนาด 3 x 2.9 เมตร มีหน้าต่าง 2 ฝั่ง รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ภายในวางเตียง 3.5 ฟุต + ตู้เสื้อผ้า ใช้งาน 1 คนได้กำลังดี

ห้องนอนเล็ก(ฝั่งหน้าบ้าน) ขนาด 3.03 x 2.86 เมตร มีหน้าต่าง 2 ฝั่งเช่นกัน ที่ภายในวางเตียง 3.5 ฟุต + ตู้เสื้อผ้า ใช้งาน 1 คนได้กำลังดี

หรือจะปรับเป็นห้องทำงานแบบบ้านตัวอย่างก็ได้นะคะ

เดินออกไปดูห้องนอน Master Bedroom กันต่อค่ะ

ห้องนอนใหญ่วางเตียงขนาดใหญ่ 5-6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมโต๊ะหัวเตียง เพิ่มเติมคือสามารถวางโซฟาสำหรับนั่งอ่านหนังสือได้ ส่วนอีกฝั่งเป็นตำแหน่ง Walk-in Closet ขนาดใหญ่

พื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะ ที่เราสามารถวางชุด Built-in ตามห้องตัวอย่างได้เลยนะคะ

พื้นที่ระเบียงขนาด 3.4 x 0.65 ที่ยืนใช้งานได้กำลังดี

สำหรับบ้านตัวอย่างเป็นตำแหน่งบ้านหน้าสวน ที่มองออกไปเห็นสวนหย่อมขนาด 1 ไร่ ของโครงการได้เลยนะคะ

มองกลับมาด้านในเป็นลักษณะห้องนอนใหญ่ที่วางเป็นแนวยาวเข้าไปด้านใน

สำหรับบ้านหลังนี้สามารถทำพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้

ภายในห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมหน้าต่างระบายความชื้นได้

อุปกรณ์ภายในครบครันทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ แต่จะอัพเกรดมากกว่า 2 ห้องที่แล้ว ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 1 x 1 เมตร พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้ด้วย มาพร้อมชั้นวางสบู่ด้านข้างหยิบใช้งานได้สะดวก

ภายนอกของบ้านแบบ Bernice ลักษณะบ้านหน้ากว้าง สไตล์โมเดิร์น พร้อม Facade เป็นคอนกรีตพิมพ์ลายสีไม้ คล้ายกับหลังที่แล้วนะคะ

แบบบ้าน Bernice บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท (Promotion)

Image 1/10
Living+Dining Area

Living+Dining Area

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

The Plant บางนา-วงแหวน ณ วันที่ 27 มกราคม 2565

  • Corey บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 36.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท (Promotion)
  • Darlene บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 148 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.45 ล้านบาท (Promotion)
  • Bernice บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน รองรับ 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.99  ล้านบาท (Promotion)
  • จองและทำสัญญา 50,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 89,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 41+5 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

เรามองว่าโครงการนี้เป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่ทำงานโซนอ่อนนุช,เอกมัย-ทองหล่อ ที่ต้องการอยู่บ้านแนวราบ ที่ยังเดินทางไปทำงานได้สะดวก ด้วยความที่โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขภิบาล 2 ที่เชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง, ถนนศรีนครินทร์, ถนนบางนา-ตราด เป็นต้น รวมถึงใกล้ทางด่วนบูรพาวิถีและมอเตอร์เวย์ ที่ทำให้เดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวก นอกจากนี้ยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เหมาะกับคนที่ทำงานในท่าอากาศยาน หรือคนที่เดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆ

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็หายห่วงเพราะในซอยรอบๆ โครงการเองก็มีแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลากหลายให้พึ่งพิงได้หลายแห่ง หรือขยับออกมารอบๆ ไม่ว่าจะเป็นย่านบางนา ก็มี Mega Bangna, IKEA, Central Bangna บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง มี Community Mall Paseo ลาดกระบัง, Robison ลาดกระบัง เป็นต้น

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ความปลอดภัยของโครงการค่อนข้างสูงเนื่องจากตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าโครงการเป็นทางเข้าเฉพาะของโครงการพฤกษาเท่านั้น จึงไม่มีคนนอกผ่านเข้า-ออก โดยบริเวณถนนภาระจำยอมจะมีป้อมรปภ. 1 จุด ส่วนด้านในแต่ละโครงการจะมีซุ้มประตูแยกใช้งานอีก 1 จุด โดยภายในโครงการติดตั้งระบบ CCTV รวม 15 จุด รอบโครงการ เพื่อป้องกันคนภายในแอบแฝงเข้ามาได้

การออกแบบโครงการ :

The Plant บางนา-วงแหวน เป็นโครงการขนาดกลาง 194 ยูนิต บนพื้นที่ 33 ไร่กว่า โดยภายในมีทั้งโปรดักส์บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โดยมีพื้นที่ส่วนกลางขนาด 1 ไร่อยู่ใกล้กับซุ้มประตูทางเข้า ที่ลูกบ้านเข้าถึงได้ง่ายจากทุกตำแหน่ง ส่วนผังตัวบ้านวางในแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้บ้านไม่ร้อน โดยจะแบ่งเป็นซอยย่อยๆ เพื่อให้ดูแลความปลอดภัยได้ง่าย ส่วนถนนหลักในโครงการกว้าง 12 ม. และถนนรองกว้าง 9 ม.

การออกแบบบ้านพักอาศัย :

เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน โดยภายในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบ มาพร้อมฟังก์ชัน 4 ห้องนอน ที่ทำให้ทุกแบบบ้านมีห้องนอนชั้นล่าง รองรับครอบครัวผู้สูงอายุ รวมถึงการออกแบบห้องเก็บของขนาดใหญ่ใต้บันได ที่ทำให้ตัวบ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ถัดขึ้นไปชั้นบนเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด ที่มาพร้อมพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งานเพิ่มเติม

สำหรับบ้านแฝด Corey ของที่นี่จะได้พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เทียบเท่ากับบ้านเดี่ยว พร้อมบานหน้าต่างขนาดใหญ่ ช่องแสงเยอะ ที่ทำให้บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง ในราคาเริ่มต้นเพียง 4.69 ล้านบาท ที่ทำราคาออกมาได้ค่อนข้างดี ส่วนแบบบ้าน Darlene เป็นบ้านแบบใหม่ของทางพฤกษา จัดฟังก์ชันภายในมาได้ค่อนข้างลงตัว ส่วนตัวชอบพื้นที่ของห้อง Master Bedroom ที่สามารถจัด Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้ เหมาะกับสาวๆที่มีเสื้อผ้าหรือของใช้เยอะๆนะคะ

วัสดุ :

เรื่องนึงที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดคือ โครงสร้างบ้านที่เป็นระบบ Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ซึ่งความแข็งแรงทนทานที่ได้มา จะแลกกับการทุบ/ต่อเติมได้ยากกว่าบ้านก่ออิฐทั่วไป / ส่วนวัสดุอื่นๆที่ได้ถือว่าให้มาค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าต่างจาก Tostem ที่มีความแข็งแรง, พื้นชั้นบนเป็นพื้นไม้ SPC หนา 4 มม. ที่ทนน้ำและความชื้นได้ดี ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำยี่ห้อ Kohler, Englefield หรือเทียบเท่า

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ภายในโครงการมีพื้นที่สวนหย่อมขนาด 1 ไร่ โดยปูพื้นหญ้า, พุ่มไม้ และต้นไม้สูงกระจายตัวให้บรรยากาศร่มรื่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ใน Pruksa Avenue (พฤกษา อเวนิว) ที่บริเวณถนนภาระจำยอมมีต้นไม้ปลูกร่มรื่นทีเดียว ซึ่งเราสามารถวิ่งออกกำลังกายยามเย็นได้สบายๆเลย

สาธารณูปโภค :

ถือว่าให้ครบเป็นมาตรฐาน ด้วยมีพื้นที่สวนหย่อม+อาคาร Clubhouse ขนาด 1 ไร่กว่า เน้นพื้นที่สีเขียว และบรรยากาศร่มรื่น ส่วนฟังก์ชันการใช้งานไม่ได้หวือหวาเหมือนโครงการอื่นๆ แต่ก็เหมาะสมกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ ส่วนบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไร ถ้าโครงการสร้างเสร็จ เมื่อไหร่จะรีบมาอัพเดตให้ดูกันนะคะ ^^

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4-7 ล้านบาท, 27 มกราคม 2565

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – เดินทางไปเส้นอ่อนนุช-ลาดกระบังสะดวก มีทางลัดในการเดินทางไปบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ รายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ และไม่ไกล Mega Bangna
  • ความปลอดภัย 8/10 –  ประตูรั้วไม้กั้นกระดก + Easy Pass, รปภ.24 ชั่วโมง, CCTV 15 ตัว และรั้วรอบโครงการ 3 เมตร (มีรั้วเหล็กแหลม)
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – Facade บ้านสวยงาม เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 4 ห้องนอน รองรับครอบครัวผู้สูงอายุ พร้อมพื้นที่อเนกประสงค์ และห้องเก็บของขนาดใหญ่ เหมาะกับคนที่มีของใช้เยอะ
  • วัสดุ 8.5/10 – วัสดุให้ของมาดีเมื่อเทียบกับราคา เพิ่มกรอบหน้าต่าง Tostem + พื้นไม้สำเร็จรูป SPC ที่ทนน้ำและความชื้นได้ดี
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – พื้นที่สวนหย่อมขนาด 1 ไร่ บรรยากาศร่มรื่น
  • สาธารณูปโภค 0/0 – เนื่องจากปัจจุบันอาคาร Clubhouse อยู่ระหว่างก่อสร้าง ดังนั้นจะขอยังไม่ให้คะแนนในส่วนนี้นะคะ
  • 8.10 / 10.00

The Plant บางนา-วงแหวน เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่มองหาบ้านแนวราบย่านสุขาภิบาล 2 เดินทางไปอ่อนนุช-ลาดกระบังได้ง่าย ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี มอเตอร์เวย์ และสนามบินสุวรรณภูมิ ทำเลเข้า-ออกเมืองสะดวก เน้นใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก เน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 4 ห้องนอนขึ้นไป มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบบ้าน มีพื้นที่อเนกประสงค์ และห้องเก็บของขนาดใหญ่ ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท คุ้มค่าเมื่อเทียบกับโครงการในละแวก


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc