โครงการ The Palm บางนา-วงแหวน เป็นบ้านเดี่ยวในแบรนด์ Top สุดของพฤกษา ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านระดับ Luxury แต่พฤกษาก็ยังรักษาจุดเด่นด้านราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ส่วนหน้าตาก็ดูไฉไลในสไตล์ Modern Luxury หน้าบ้านกว้างมาก ทำให้ดูแกรนด์และโอ่อ่า …โครงการมีความน่าสนใจอยู่หลายจุด ซึ่งเราสรุปออกมาเป็นข้อๆ ได้ดังนี้ค่ะ

• บ้านไซส์ใหญ่ หน้ากว้าง : เมื่อเทียบพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านกับโครงการในละแวกนี้แล้ว จะเห็นว่าโครงการ The Palm บางนา-วงแหวน มีราคาถูกกว่าเพื่อนบ้านอยู่ 2-5 ล้านบาทเลยนะคะ
• มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ : รองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ จึงตอบโจทย์การอยู่อาศัยยาวๆ แบบ 3 Generations
• Security : โครงการให้ Double Gate ซึ่งหลายโครงการในระดับ Luxury ของละแวกนี้ไม่ได้ให้ และยังให้ระบบ Home Automation รวมไปถึง Wireless Camera และระบบกันขโมยด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะแค่จุดเด่นที่เราหยิบยกมาฝากก็น่าสนใจแล้วใช่มั้ย ต่อไปก็ตามไปชมบรรยากาศในโครงการกันเลย หรือหากใครชอบชมผ่านวีดีโอก็สามารถคลิกชมรายการ The Sneak EP.132 : The Palm บางนา-วงแหวน ได้ที่นี่เลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

The Palm Bangna-Wongwaen (เดอะ ปาล์ม บางนา-วงแหวน) ณ วันที่ 4 มกราคม 2565

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.689427, 100.701504
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ The Palm บางนา-วงแหวน ตั้งอยู่ติดกับถนนสุขาภิบาล 2 เชื่อมต่อถนนอ่อนนุช – ลาดกระบังกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราจะเห็นว่าถนนเส้นนี้มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ๆ ก็นิยมมาเปิดตัวบนถนนเส้นนี้กันจำนวนไม่น้อย ทำให้มีร้านค้า ร้านอาหารรวมถึง Community Mall มาเปิดให้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้นด้วย เอาแบบเบสิกง่ายๆ พวกร้านสะดวกซื้ออย่าง Tesco Lotus, 7-Eleven ก็มีตลอดทั้งเส้น หรือสไตล์ Community Mall ก็มีนะคะคือ K Space Mini Mall ภายในมีทั้งร้าน Buffet, ร้านอาหารญี่ปุ่น ฯลฯ

แต่ถ้าพูดถึงภาพรวมเป็นย่านใหญ่ถือว่ามีแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลากหลายให้ช้อปปิ้งกันได้ไม่เบื่อเลย แต่จะต้องใช้รถขับไปสักหน่อย เช่น Mega Bangna, Market Village, Makro บางพลี, Central บางนา, Seacon Square, ตลาดนัดสวนรถไฟ, Paseo ลาดกระบัง, Robinson ลาดกระบัง นอกจากนี้ยังมีห้างขายอุปกรณ์และของตกแต่งบ้านมาเปิดกันอีกหลายแบรนด์ทั้ง SB, Chic Republic, Index Living mall, ไทวัสดุ ค่ะ

อีกทั้งยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งก็จะตอบโจทย์สำหรับคนที่เดินทาง(ด้วยเครื่องบิน)บ่อยๆ หรือทำงานภายในสนามบิน รวมถึงคนที่ทำงานย่านบางนา, ชลบุรี, สมุทรปราการ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ตัวเมืองกรุงเทพฯ และอยู่ในทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก เข้าถึงถนนเส้นหลักได้ 4 สาย ทั้งเส้นบางนา-ตราด, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนอ่อนนุช, ถนนศรีนครินทร์

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

เนื่องจากโครงการ The Palm บางนา-วงแหวน เป็นหนึ่งในโครงการของพฤกษา อเวนิว จึงมีหลายๆ โครงการอยู่ภายในซอยเดียวกันนี้ เช่น Passorn, The Plant และอนาคตก็อาจจะมีโครงการเปิดใหม่ขึ้นมาอีกทำให้ในซอยนี้จะมีพี่ รปภ. ส่วนกลางช่วยดูแลเพิ่มความปลอดภัยให้อีกชั้นหนึ่งนะคะ และสภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า จึงไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ส่งผลต่อการพักอาศัย

จะว่าไปโครงการ The Palm บางนา-วงแหวน ก็ได้เปรียบกว่าโครงการอื่นๆ ตรงที่มีทำเลอยู่ต้นๆ ซอยเลยค่ะ เข้ามาจากถนนสุขาภิบาล 2 ประมาณ 350 m. เท่านั้น เวลาเร่งด่วนเช้าเย็นก็ไม่ต้องต่อคิวออกจากซอยไกลนัก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Paseo ลาดกระบัง ~ 6.5 km.
• Robinson ลาดกระบัง ~ 7.1 km.
• Mega & Ikea บางนา ~ 8.4 km.
• Market Village สุวรรณภูมิ ~ 10.5 km.
• Paradise Park ~ 14.4 km.
• Central บางนา ~ 14.2 km.

โรงพยาบาล

• รพ.จุฬารัตน์ 9 ~ 3.8 km.
• รพ.สิรินธร ~ 4.4 km.
• รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ~ 14.6 km.

โรงเรียน

• รร.สาธิตรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ~ 4.1 km.
• รร.นานาชาติชาร์เตอร์ ~ 4.9 km.
• รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 11.2 km.

อื่นๆ

• สนามกอล์ฟวินมิลล์ ~ 8.9 km.
• สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 12.6 km.
• สวนหลวง ร.9 ~ 14 km.

รายละเอียดโครงการ

แบรนด์บ้าน “The Palm” จัดเป็นบ้านระดับบนสุดจากพฤกษา ตอบโจทย์ครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูก 3 – 4 คน ไปจนถึงครอบครัวใหญ่ 5 – 6 คน และรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุด้วยค่ะ นอกจากตัวบ้านขนาดใหญ่แล้วแบรนด์นี้ยังให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยให้เป็น Double Gate

ตามที่เคยเห็นมาแบรนด์ The Palm นี้จะทำราคาออกมาอยู่ในช่วง 10 ล้านกว่าๆ จนมาถึงโครงการล่าสุดอย่าง “The Palm บางนา-วงแหวน” เป็นโครงการที่ทำราคาออกมาสูงสุดในแบรนด์นี้อยู่ในช่วง 13-25 ล้านบาท ซึ่งราคาที่เพิ่มมานี้เกิดจากการพัฒนาตัวบ้านให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มฟังก์ชันต่างๆ ในตัวบ้าน เช่น เพิ่มห้องเก็บของขึ้นมาในหลายๆ จุด และรองรับการจอดรถสูงสุดได้ถึง 4 คัน เป็นต้น

สำหรับโครงการ The palm บางนา-วงแหวน เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้นจำนวน 92 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 35 ไร่ วางตำแหน่งของ Clubhouse และสวนสาธารณะไว้หน้าโครงการทำให้ได้เห็นบรรยากาศที่สวยงาม โอ่อ่าและร่มรื่นตั้งแต่ตอนเข้ามาเลย

ถนนส่วนใหญ่ของโครงการนี้จะวนเป็น Loop ซะส่วนใหญ่ ทำให้แต่ละซอยเชื่อมถึงกันได้หมด เข้า-ออกสะดวก แต่หากใครชอบความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อยก็แนะนำให้เลือกกลุ่มบ้านโซนซ้ายสุด ที่อยู่ในซอยตันนะคะ / ถนน Main กว้าง 10 – 14 m. และถนนซอยกว้าง 9 m. ตามมาตรฐาน

โครงการวางทิศของบ้านทุกหลังไปทางทิศเหนือ, ใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่า แบบบ้านของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบค่ะ

จากถนนสุขาภิบาล 2 จะมีทางเข้าขนาดใหญ่ของ Pruksa Avenue (พฤกษา อเวนิว) เป็นถนนภาระจำยอมที่แชร์การใช้งานร่วมกับหลายๆ โครงการของพฤกษา ลูกบ้านจึงต้องจ่ายค่าส่วนกลางในการดูแลรักษาถนนส่วนกลางนี้อีกเดือนละ 5 บาทนะคะ

โครงการ The palm บางนา-วงแหวน มีระยะเข้ามาจากถนนสุขาภิบาล 2 ประมาณ 350 m. ถึงจะเจอกับซุ้มประตู ข้อดีคือกลายเป็น Buffer เรื่องเสียงและมลพิษต่างๆ บนท้องถนนได้ ส่งผลถึงความเป็นส่วนตัวของภายในโครงการที่มากขึ้นด้วย

บนถนนภาระจำยอมจะมีป้อม รปภ. ช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับลูกบ้านทั้งหมดในพฤกษา อเวนิวก่อนเป็นด่านแรก

ส่วนการเข้าถึงโครงการ The Palm บางนา-วงแหวน จะต้องผ่านซุ้มประตูโครงการเข้าไปอีกชั้นหนึ่งนะคะ เป็นซุ้มประตูที่ดูหรูหราประดับด้วยสีทอง วางป้อมรปภ.ไว้ตรงกลาง เพื่อแยกทางเข้า – ออกรถ 2 ฝั่งไว้ชัดเจน

โครงการผ่านเข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass แบบทางด่วน ซึ่งถ้าเป็นรถลูกบ้านเจ้าไม้กระดกจะเปิดออกให้อัตโนมัติ ส่วนช่วงเวลากลางคืนจะมีประตูเหล็กเลื่อนกั้นอีกชั้นหนึ่ง ซุ้มโครงการมีหลังคาคลุมไว้ให้หลบฝนหลบแดดได้ เผื่อในวันที่ฝนตกแล้วแขกของลูกบ้านต้องมาติดต่อก็จะได้ไม่เปียก หรือวันที่แดดร้อนก็มีพื้นที่ร่มๆ ให้หลบแดดได้

ผ่านซุ้มประตูหลักเข้ามาจะมีประตูกั้นโซนพักอาศัยอีกชั้นหนึ่งเป็น Double Gate เพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน ซึ่งหลายๆ โครงการที่เป็นระดับ Luxury ไม่ได้มีให้นะคะ จึงนับเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของโครงการนี้เลยค่ะ

ตอนนี้ภายในโครงการจะมีบ้านตัวอย่างให้ชมครบทั้ง 3 แบบ แต่ในส่วนของ Clubhouse กำลังก่อสร้างอยู่จึงยังไม่มีให้ชมกันนะคะ เราจึงเอา Perspective มาฝาก ให้เห็นภาพกันก่อนค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
• สระว่ายน้ำ 1 สระ
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 2 ไร่
• สนามเด็กเล่น
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการประมาณ 30 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 10 – 14 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
• ประตูโครงการแบบ Double Gate
• Key Card Access ระยะไกล
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า
• สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง

แบบบ้าน

โครงการ The Palm บางนา-วงแหวน เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีจุดเด่นคือ เป็นบ้านหน้ากว้างช่องแสงเยอะ ได้พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับราคา และทุกแบบจะมีห้องนอนที่ชั้นล่างจึงรองรับการอยู่อาศัยแบบ 3 Generations โดยมีบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้ค่ะ

• Livistona บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 72 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 14.7 ล้านบาท
• Latania บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 315 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 17.04 ล้านบาท
• Majestic บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 452 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 20.82 ล้านบาท

แบบบ้านทั้ง 3 จะมี Livistona เป็นแบบบ้านเริ่มต้นของโครงการ แม้ว่าจะมีขนาดที่เล็กกว่าแบบอื่นๆ แต่ฟังก์ชันก็ครบครันตามมาตรฐาน ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน ถัดมาที่ Latania มีฟังก์ชันหลักเท่ากับแบบแรก แต่จะมีหน้าบ้านกว้างขึ้น จึงได้พื้นที่อเนกประสงค์บริเวณหน้าบ้านเพิ่มขึ้นมา รวมถึงขนาดของโซนครัวและพื้นที่อเนกประสงค์บนชั้น 2 จะใหญ่ขึ้น โดยเพิ่มเงินขึ้นมาประมาณ 3 ล้านบาทค่ะ

สำหรับ Majestic จะเป็นแบบบ้านใหญ่สุดของโครงการ เพิ่มเงินจากแบบที่ 2 ขึ้นมาอีกประมาณ 4 ล้าน แต่จะสามารถจอดรถได้ถึง 4 คัน หน้าบ้านกว้างขึ้นมาก และได้ฟังก์ชันต่างๆ เพิ่มขึ้นคือ พื้นที่อเนกประสงค์บริเวณหน้าบ้าน, ห้องน้ำแขกแบบ Power Room, เฉลียงข้างห้องนอนชั้นล่าง, ห้องเก็บของที่ติดกับโรงจอดรถ, พื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มขึ้นเป็น 2 โซนที่ชั้นบน และโซนแม่บ้านก็มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย

เราลองเอาแปลนมาเทียบกันแล้วจึงได้วงกรอบ (สีแดง) ไว้ สำหรับฟังก์ชันพิเศษที่ Type กลางและ Type ใหญ่สุดจะได้เพิ่มขึ้นมาเมื่อเทียบกับบ้านแบบเริ่มต้น และวงกรอบ (สีเหลือง) ไว้ให้เห็นกันชัดๆ ในเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอยเมื่อเทียบกันทั้ง 3 Type นะคะ

โครงสร้าง

• ก่อสร้างด้วยระบบ Precast มีข้อดีในเรื่องความแข็งแรงทนทาน ไม่มีเหลี่ยมเสา จัดวางเฟอร์นิเจอร์ง่าย แต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องของการทุบผนังต่อเติมนะคะ
• พื้นที่จอดรถหน้าบ้านลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน

วัสดุ

• พื้นชั้น 1 กระเบื้องแกรนิตโต้
• พื้นชั้น 2 พื้นไม้สำเร็จรูป SPC
• พื้นห้องนอนชั้นล่าง Absorption Floor (เฉพาะแบบบ้าน Latania, Majestic)
• ไฟ LED
• USB Plug
• บานประตู Aluminium จาก Tostem รุ่น Giesta ผิวลายไม้
• วอลเปเปอร์
• Home Automation

แบบบ้าน Majestic

เป็นแบบบ้าน Type ใหญ่สุดของโครงการมีพื้นที่ใช้สอย 452 ตร.ม. ถือว่าให้มาขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้น 20.82 ล้านบาท ส่วนที่ดินรอบๆ บ้านมีขนาด 100 ตร.วาขึ้นไป ส่วนที่เรามองว่าเค้าออกแบบมาได้โดดเด่นเลยคือ เป็นบ้านหน้ากว้าง ทำให้ดูแกรนด์ โอ่อ่าและได้ช่องแสงเยอะ บ้านจึงดูโปร่ง ไม่อึดอัดค่ะ

ที่จอดรถหน้าบ้านเตรียมไว้ให้จอดรถได้ 4 คันกว้างประมาณ 10 เมตร จอดเรียงกันได้โดยไม่ต้องจอดซ้อนคันเลยนะคะ สำหรับพื้นที่จอดรถในร่มจะมีความลึกประมาณ 4.36 เมตร ถ้าเป็นรถคันยาวอย่าง SUV จะยังกันแดดได้ไม่ทั้งคันจึงเป็นส่วนที่ลูกบ้านมักจะต่อเติมเพิ่มเอานะ

พื้นโรงจอดรถจะปูด้วย Concrete Block จะดีกว่าแบบ Concrete Stamp เพราะหากแตกร้าวจะสามารถซ่อมแซมทีละแผ่นได้

ตัวบ้านใช้ไฟฟ้า 3 เฟส พร้อมเดินระบบไฟฟ้าให้ง่ายสำหรับการติดตั้ง EV Charger รองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งในอนาคตอันใกล้คงเป็นที่นิยมกันแน่นอนค่ะ

ติดกับโรงจอดรถจะมีทาง Slope รองรับการใช้รถเข็นสำหรับผู้สูงอายุหรือเข็นกระเป๋าเดินทางขึ้นบ้านก็สะดวก

บริเวณโรงจอดรถจะมี IP Camera ติดตั้งมาให้เพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้กับตัวบ้านนะคะ

หน้าบ้านมีเฉลียงขนาดใหญ่ช่วยให้บ้านดูโอ่อ่าขึ้น ออกแบบมาเป็น Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมมีประโยชน์อย่างยิ่งเวลาต้องหากุญแจก่อนเข้าบ้าน/ใช้เป็นมุมนั่งใส่รองเท้า/วางของตกแต่ง

ประตูของยี่ห้อ Tostem Lixil ปิดผิวประตูด้วยแผ่นอลูมิเนียม แต่ไม่ต้องกลัวจะหนักเพราะภายในเป็น EPS-Foam ทั้งบาน และเปิดช่องแสงเล็กๆ ไว้จึงดูไม่ทึบตัน

เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่โล่งๆ สูง 3 m. เชื่อมต่อกันเป็น Common Area ขนาดใหญ่แบบ Open Plan เปิด Living+Dining Area+Pantry ครัวเข้าถึงกัน โดยที่บ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์เจ้าของบ้านจึงสามารถออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ตามใจชอบ ส่วนตัวเราคิดว่าจัดเฟอร์ฯ แบบบ้านตัวอย่างก็ลงตัวดีนะคะ สามารถนั่งดูทีวี ทานข้าวไปพร้อมๆ กันได้ หรือจะเอางาน เอาการบ้านมานั่งทำบนโต๊ะทานข้าวนี้ ก็ยังได้เห็นสมาชิกคนอื่นๆ อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ดูอบอุ่นดีค่ะ

วัสดุที่ให้ก็จะติด Wallpaper มาให้, หลอดไฟได้เป็น LED ทั้งหลังเพื่อประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย ส่วนพื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

ภายในตัวบ้านจะติดตั้ง Home Automation เพื่อควบคุมไฟ แอร์ TV ได้สะดวก และติดตั้งระบบกันขโมยที่สามารถแจ้งเตือนและควบคุมผ่าน Application ได้

พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่วางโซฟาขนาด 7-8 ที่นั่งได้เลย ซึ่งหากจัดตามแบบในบ้านตัวอย่างก็แนะนำให้ติด TV ขนาดใหญ่หน่อยแบบ 100 นิ้วได้เลยนะคะจะได้ดูทีวีได้ชัดๆ

ถัดมาในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 10 ที่นั่งได้แบบไม่อึดอัด ซึ่งจะได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างบานใหญ่จากด้านหน้าบ้านด้วยค่ะ

เราสามารถต่อเติมพื้นที่นั่งเล่น จิบกาแฟยามเช้าแบบ Semi-Outdoor ได้ที่เฉลียงหน้าบ้าน หรืออย่างเวลาจัดปาร์ตี้กันก็สามารถออกมาปิ้งหมูกระทะและยังมองเห็นสมาชิกคนอื่นๆ ในบ้านได้ด้วยค่ะ

พื้นที่ที่เป็น Highlight บนชั้น 1 เรามองว่าเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดใหญ่ สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องใช้วีลแชร์ก็สามารถเข็นใช้งานในห้องได้ และอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นสวนข้างบ้านได้

พื้นของห้องนอนชั้นล่างจะเป็น Absorption Floor ช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บ หากมีอุบัติเหตุล้มกระแทกพื้น

ภายในห้องนอนผู้สูงอายุจะมีห้องน้ำในตัวไว้ให้

บานประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อนเปิดปิดตามหลักการออกแบบสำหรับผู้สูงอายุนะคะ

ส่วนห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ให้ ภายในติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ตามแบบในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

การออกแบบระดับพื้นห้องนอนและห้องน้ำจะดีไซน์ออกมาให้เท่ากัน ไม่มีการลด-เพิ่มระดับทำให้ใช้งานง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องการสะดุดหกล้ม

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกระทัดรัดหน่อยโดยจะลดระดับลงไปจากพื้นที่ส่วนแห้ง

โถสุขภัณฑ์ไซส์ใหญ่ของ Kohler พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งที่ใส่กระดาษทิชชู่และสายฉีดชำระ

โซน Service ของตัวบ้านจะจัดไว้อยู่ฝั่งเดียวกัน โดยจะมี Pantry ครัว ให้เตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ ได้ เช่นปิ้งขนมยามเช้า แล้วถัดเข้าไปจึงจะเป็นห้องครัวไทย และห้องแม่บ้าน ความพิเศษของบ้าน Type นี้คือจะมีห้องน้ำแบบ Powder Room ด้วยค่ะ

ห้องน้ำแบบ Powder Room เป็นห้องน้ำสำหรับแขกที่แยกออกมาโดยเฉพาะ จึงมีเฉพาะโถสุขภัณฑ์ ไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำ ให้โถสุขภัณฑ์ไซส์ใหญ่เช่นเดียวกับห้องนอนผู้สูงอายุ

ตัวบันไดถูกออกแบบไว้ตรงกลางบ้านเป็นรูปตัว U เปิดให้แสงผ่านหน้าต่างหลังบ้านเข้ามาได้ อย่างเวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็ได้นะคะ เพราะแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามาก็สว่างแล้วค่ะ

บริเวณบันไดสามารถห้อย Chanderlier แบบระย้า เพิ่มความหรูหราให้กับตัวบ้าน

ตัวบันไดได้มาตรฐานดีนะคะ เป็นโครงคอนกรีตเสริมเหล็ก มีราวกันตกให้ฝั่งหนึ่งไปตลอดทาง และชานพักแบบเต็มขั้นใช้งานได้จริง

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะปูด้วยกระเบื้องยางชนิด SPC มีความพิเศษกว่ากระเบื้องยางทั่วไปตรงที่ผสมผงหินมาด้วย ทำให้โครงสร้างพื้นแข็งแรงขึ้น อัตราการยืดหดตัวน้อยกว่าพื้นกระเบื้องยางธรรมดา จึงใช้งานได้ทนทานกว่า บริเวณข้างบันไดจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดเป็นมุมพักผ่อนหรือหากเป็นพื้นที่วางโต๊ะหมู่บูชาก็เหมาะนะคะ

บ้านตัวอย่างตกแต่งมาให้ดูเป็นมุม Pantry ไว้ใช้ชงกาแฟ เตรียมเครื่องดื่มได้ เผื่อดึกๆ หิวน้ำจะได้ไม่ต้องลงไปข้างล่าง

เราชอบตรงที่โครงการมีการออกแบบผนังให้มีช่องเปิด ช่วยลดความอึดอัดของพื้นที่ลงได้

ซึ่งไม่ใช่มีแค่พื้นที่อเนกประสงค์ข้างบันไดจุดเดียวนะคะ แต่ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ฝั่งหน้าบ้านให้อีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งโซนนี้เราคิดว่าเหมาะกับการใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น ทำงาน/ทำการบ้าน ที่ลูกๆ และคุณพ่อคุณแม่จะได้มาเจอกัน

ห้องนอนใหญ่ของบ้านนี้จะได้พื้นที่ฝั่งหนึ่งของบ้าน ตั้งแต่ด้านหน้ายาวไปถึงหลังบ้าน จึงได้หน้าต่างเยอะ และมีระเบียงยาวๆ ให้ใช้งานด้วย ภายในห้องนอนใหญ่มีขนาดใหญ่สามารถใช้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ มีพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง และยังมีพื้นที่เข้ามุมสำหรับวางโซฟานั่งเล่นในห้องได้อีกด้วยนะคะ

โซนแรกเมื่อเข้ามาในห้องจะเป็นมุมนั่งเล่น ดูทีวี เผื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถนั่งพักผ่อนในห้องนอนของตนเองได้

ติดกับโซนนั่งเล่นเป็นระเบียง ที่มีลักษณะเป็น Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมเรียบร้อย จึงใช้งานได้จริง มีความกว้างพอให้วางชุดโต๊ะสนามนั่งรับลมได้สบายๆ เลยค่ะ

สำหรับตำแหน่งห้องน้ำจะถูกจัดวางไว้ทางฝั่งหลังบ้าน ซึ่งบริเวณหน้าห้องน้ำก็มีพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet ได้ด้วยค่ะ

พื้นที่หน้าห้องน้ำสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มฝั่งหนึ่งของผนัง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง

ในส่วนของห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นั้นเป็นห้องที่ออกแบบไว้พิเศษกว่าห้องอื่น ตรงที่จะมีการอัพเกรดอ่างล้างหน้าให้เป็นแบบ His&Her ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คนเลย

ส่วนสุขภัณฑ์ให้ของ Kohler มีขนาดใหญ่เช่นเดียวกับห้องน้ำผู้สูงอายุ ใช้งานสะดวก

ส่วนที่เรามองว่าเป็นข้อดีของห้องน้ำที่บ้านนี้คือ มีช่องแสงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ ป้องกันความอับชื้น

พื้นที่หลังช่องแสงเราจะใช้ผึ่งผ้าเช็ดตัว หรือวางต้นไม้สร้างบรรยากาศร่มรื่นในห้องน้ำก็ได้

พื้นที่อาบน้ำจะให้มาทั้ง Shower Box และอ่างอาบน้ำตามแบบในบ้านตัวอย่างเลยนะคะ

สำหรับเจ้าอ่างอาบน้ำจะมีขนาดใหญ่ ประมาณ 1.7 x 0.7 m. เป็นรุ่นที่มีสปาในตัว

ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะมีที่นั่งอาบน้ำมาให้ด้วย ภายในติดตั้งไว้ให้ทั้ง Rain Shower และฝักบัว

พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของชั้นจะเป็นห้องนอนรอง สำหรับเด็กๆ แต่ละห้องมีขนาดใหญ่ให้ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กจนโตนะคะ ส่วนที่อยากให้สังเกตคือ ทางซ้ายมือจะมีห้องเก็บของซ่อนอยู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งเรามักไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักกับบ้านที่มีห้องเก็บของหลายจุดแบบนี้

ขนาดภายในห้องเก็บของไม่กว้างนัก แต่มีความสูงพอสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด อย่าง พวกเครื่องดูดฝุ่น หรือ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อยๆ

ห้องนอนรองห้องแรกที่พาไปชมจะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน หรือใช้เป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้   เพราะเป็นห้องที่มีระเบียงในตัว และจัดฟังก์ชันได้ครบถ้วนอย่างเป็นสัดส่วน

พื้นที่วางเตียงนอนสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ และมีพื้นที่ปลายเตียงให้วางโซฟานั่งเล่นได้เพียงพอเหมือนฟังก์ชันในห้องนอนใหญ่ แต่พื้นที่ห้องนี้จะกะทัดรัดลงมาหน่อย จึงไม่มีพื้นที่ให้ทำ Walk-in Closet แบบจริงจังนะคะ

ข้างเตียงมีประตูบานเลื่อนให้เปิดออกไประเบียง และเป็นช่องแสงให้กับห้องนอน

พื้นที่ระเบียงของห้องนอนรองก็กว้างขวาง สามารถวางชุดโต๊ะสนามนั่งเล่นได้ แต่เป็นแบบ Outdoor จึงเหมาะจะใช้ในช่วงเย็นที่แดดร่มหน่อย หากต้องการต่อหลังคาเพิ่มแนะนำให้ปรึกษากับทางโครงการก่อนนะคะ

มุมนั่งเล่นในห้องนอนสามารถวางชุดโซฟา และจัดวางโต๊ะทำงานได้ครบถ้วน

สำหรับห้องน้ำภายในห้องนอนนี้มีพื้นที่กว้างพอให้ใช้งานได้สะดวก จัดฟังก์ชันครบทั้งโซนเปียกและแห้ง แต่สุขภัณฑ์จะได้เป็นรุ่นธรรมดาไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่า Master Bedroom เท่านั้นเองค่ะ

ปิดท้ายด้วยห้องนอนรองอีกห้องหนึ่ง จัดฟังก์ชันได้ครบถ้วนเหมือนกัน แต่ห้องนี้จะไม่ได้มีระเบียงในตัวนะคะ

ภายในห้องมีพื้นที่สำหรับวางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุตได้ และด้านในสุดยังสามารถจัดวางโต๊ะเครื่องแป้ง+ตู้เสื้อผ้า

อีกฝั่งหนึ่งของห้องมีพื้นที่เหลือให้จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น ทำงานอดิเรกตามไลฟ์สไตล์ของลูกๆ เลยค่ะ

ภายในห้องน้ำแบ่งโซนเปียกแห้งไว้เรียบร้อย พร้อมสุขภัณฑ์ของ Kohler เช่นเดียวกับห้องนอนเมื่อสักครู่ค่ะ

แบบบ้าน Latania

แบบบ้าน Livistona

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

The Palm บางนา-วงแหวน ราคา ณ วันที่ 4 มกราคม 2565

• Livistona บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 72 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 14.7 ล้านบาท
• Latania บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 315 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 17.04 ล้านบาท
• Majestic บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 452 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 20.82 ล้านบาท

• จอง 100,000 บาท และทำสัญญา 100,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 145,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 44+5 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

โครงการ The Palm บางนา-วงแหวน เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นในโซนบางนา-ลาดกระบัง-วงแหวนกาญจนาฯ ที่เรามองว่ามีจุดเด่นหลักๆ คือขนาดพื้นที่ใช้สอย คือเมื่อเทียบพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านกับโครงการในละแวกนี้แล้ว จะเห็นว่าโครงการ The Palm บางนา-วงแหวน มีราคาถูกกว่าเพื่อนบ้านอยู่ 2-5 ล้านบาทเลยนะคะ

เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มองหาบ้าน 2 ชั้น 4 ห้องนอน ที่มีห้องชั้นล่างสำหรับรองรับผู้สูงอายุ ชอบสไตล์การออกแบบ Modern Luxury ทำบ้านหน้ากว้าง จึงดูโอ่อ่า ให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยให้เป็น Double Gate ซึ่งหลายโครงการในระดับ Luxury ของละแวกนี้ไม่ได้ให้นะคะ และยังให้ระบบ Home Automation รวมไปถึง Wireless Camera และระบบกันขโมยด้วย สำหรับครอบครัวที่สนใจจะต้องมีงบประมาณของบ้านอยู่ในช่วง 14 – 25 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 98,000-175,000 บาทค่ะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc