รีวิวฉบับที่ 2112 … เปิดตัวโครงการใหม่แบรนด์บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ระดับ LUXURY- SUPER LUXURY ซึ่งเป็นตัวบนสุดของทาง AP กับโครงการ The Palazzo ปิ่นเกล้า ที่ตั้งอยู่ติดถนนบรมราชชนนี ระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 2 และ 3 ทำเลใกล้ทางด่วน เข้า-ออกเมืองได้ง่าย แบบบ้านสไตล์ American Neo Classic มีทั้งหมด 4 แบบ พื้นที่ใช้สอย 400-700 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้นแปลงใหญ่ 100 ตร.วา ขึ้นไป ในราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท บรรยากาศของจริงจะเป็นยังไงไปชมกันค่ะ

ข้อมูลโครงการ

18 August 2020

  • The Palazzo Pinklao (เดอะ พาลาซโซ่ ปิ่นเกล้า)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
  • LUXURY / SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถ.บรมราชชนนี เขต ทวีวัฒนา
  • เนื้อที่โครงการ 29-2-20.8 ไร่ จำนวน 45 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทั้งหมด 4 แบบ (ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา ขึ้นไป)
  • แบบบ้าน ANTONIO พื้นที่ใช้สอย 403 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 1 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
  • แบบบ้าน ALBERTO พื้นที่ใช้สอย 497 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 1 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • แบบบ้าน LUSSO พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 2 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 6 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • แบบบ้าน MASSIMO พื้นที่ใช้สอย 703 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 2 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 8 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น 60 ล้านบาท
  • ช่วงราคาเริ่มต้น 35-60 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : กรกฏาคม 2562
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ธันวาคม 2564
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center: 1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.785276, 100.384767
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ The Palazzo ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ติดกับถนนบรมราชชนนีอยู่ระหว่างช่วงถนนพุทธมณฑลสาย 2 และสาย 3 การเดินทางใช้ถนนบรมราชชนนีเป็นหลัก วิ่งเข้าเมืองให้ใช้ทางด่วนคู่ขนานไปปิ่นเกล้า ศิริราช ราชดำเนิน อนุสาวรีย์ชัยฯ หรือขึ้นทางด่วนเปิดใหม่ศรีรัช-วงแหวนไปจตุจักร หมอชิต  นอกจากนี้ทางด่วนยังเชื่อมกับทางด่วนศรีรัช(ทางด่วนในเมือง) ที่วิ่งไปไหนมาไหนก็สะดวก รวมไปถึงละแวกใกล้เคียงเราเดินทางง่ายทั้งโซน บางแค ราชพฤกษ์ บางบัวทอง พุทธมลฑล ศาลายา นครปฐมได้ โดยเฉพาะศาลายาที่มีมหาลัยชื่อดังอย่าง ม.มหิดล ด้วยนะ

ข้อดีของโครงการนี้เลย คือมีจุดกลับรถด้านหน้าโครงการไม่ต้องไปกลับรถไกลๆ แต่เป็นระยะที่ค่อนข้างกระชันชิด ยังไงต้องขับระวังๆด้วยนะคะ ส่วนสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการก็ต้องบอกว่าเป็นย่านชานเมืองแบบปริมณฑล ที่ยังคงเป็นย่านชุมชนพักอาศัย ที่เน้นเป็นลักษณะที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลัก มีทั้งรูปแบบหมู่บ้านจัดสรร และบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังเหลือพื้นที่ว่างเป็นจำนวนมาก บรรยากาศไม่หนาแน่นแน่น ไม่มีโรงงานขนาดใหญ่ ที่ทำให้เกิดเสียงดังหรือกลิ่นรบกวนค่ะ

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถไปใช้ทางด่วนเปิดใหม่อย่างทางด่วนศรีรัช-วงแหวน และทางขึ้นคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ได้สะดวกทั้ง 2 เส้นทาง

  • ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี : ออกจากโครงการกลับรถ > วิ่งตรงไปตามถนนบรมราชชนนี จะมีจุดขึ้นทางคู่ขนานอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.5 km.
  • ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก : ออกจากโครงการกลับรถ > วิ่งตรงไปตามถนนบรมราชชนนี เลี้ยวซ้ายเข้าสู่วงแหวนกาญจนาฯ > ชิดซ้ายเพื่อขึ้นทางยกระดับข้ามไปขึ้นทางด่วน โดยด่านเก็บค่าผ่านทางฉิมพลี จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 7.1 km.

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ บริเวณนี้ในอนาคตจะมีระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดงอ่อน) ที่ปัจจุบันสร้างเสร็จเพียงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่จะพาคนเข้าตัวเมืองได้ง่าย โดนสถานีหลักเลยคือสถานีกลางบางซื่อ ที่กำลังเป็นศูนย์รวมระบบคมนาคมขนาดใหญ่ เพราะรถไฟฟ้าทุกสายต้องมา Interchange กันที่นี่  โดยเส้นทางที่มาโครงการของเราคือช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ที่ปัจจุบันยังไม่เริ่มก่อสร้างเลยนะ แต่คาดว่าถ้าเปิดใช้งานแล้วจะทำให้คนเข้าถึงย่านนี้ได้ง่ายขึ้นนะ นอกนั้นเนื่องจากโครงการติดถนนใหญ่ ทำให้เรียกแท็กซี่ได้ไม่ยาก ไปไหนมาไหนสะดวกดีค่ะ

สภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศไม่ได้คึกคักแบบในตัวเมือง แต่ก็มีร้านค้า ร้านอาหารให้เห็นบ้างประปราย หลักๆใกล้โครงการก็มีร้านวราภรณ์ ซาลาเปา ที่เดินไปซื้อมากินได้ ถัดไปหน่อยมีตลาดนัดอยู่ใกล้ รพ.ธนบุรี2 หรือช่วงต้นถนนพุทธมณฑลสาย2 นั้นเอง แต่ถ้ามองถอยออกมารอบๆ ก็มีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง The Brio Mall, เซ็นทรัลศาลายา ที่ยังอยู่บนเส้นถนนบรมราชชนนี นอกนั้นจะไปอิงอยู่บริเวณวงแหวนกาญจนาฯ เช่น The Paseo Park และ The Mall บางแค ถัดไปก็เป็นโซนราชพฤกษ์ ปิ่นเกล้า ที่มีห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า, Tesco Lotus, The Sense ปิ่นเกล้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังใกล้สถานศึกษา ทั้งม.มหิดล ศาลายา, มหิดลวิทยานุสรณ์, รร.นานาชาติ Hummingbird, รร.นานาชาติสิงคโปร์ SISB ธนบุรี, รร.นานาชาติ เซนต์อัลฟอนโซ ที่ถือว่าค่อนข้างครบครันทีเดียว

การเดินทางในวันนี้เริ่มจากบริเวณถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ที่วิ่งมาจากตัวเมือง ขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี(ไม่มีค่าผ่านทาง) > ลงป้ายตลิ่งชัน > หลังจากนั้นวิ่งตรงยาวจนเจอ รพ.ธนบุรี2 แสดงว่าเราใกล้โครงการแล้วให้เตรียมตัวชิดซ้าย > โดยโครงการ The Palazzo ปิ่นเกล้า มีซุ้มประตูทางเข้าติดถนนใหญ่เลย มองเห็นชัดเจนค่ะ

Image 1/8
เริ่มจากข้ามสะพานพระปิ่นเกล้ามาก่อน

เริ่มจากข้ามสะพานพระปิ่นเกล้ามาก่อน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนมากจะเป็นที่ดินเปล่า หมู่บ้านจัดสรร และบ้านพักอาศัย ด้านหน้าโครงการติดกับถนนบรมราชชนนี นอกจากนี้ยังไม่มีอาคารสูงที่มาลดความเป็นส่วนตัวด้วยนะคะ

  • ทิศเหนือ : ถนนบรมราชชนนีและทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี
  • ทิศตะวันออก : Pet Paradise Park และรร.คลองต้นไทร ที่อาจมีเสียงดังรบกวนบ้างบางช่วงเวลานะคะ
  • ทิศใต้ : ที่อยู่อาศัยแนวราบ และโกดังเก็บของ
  • ทิศตะวันตก : ติดกับหมู่บ้านจัดสรร ที่เป็นลักษณะบ้านเดี่ยว

ถนนบรมราชชนนี เป็นถนนขนาดใหญ่ 6 เลน/ฝั่ง แบ่งเป็นเลนด้านในและด้านนอก ซึ่งพอเป็นถนนทางตรงขนาดใหญ่ ทำให้รถที่ขับผ่านทำความเร็วพอสมควร

สำหรับด้านหน้าโครงการมีสะพานกลับรถอยู่ขวามือสุด ซึ่งสามารถกลับได้นะ แต่เป็นระยะที่กระชันชิดพอสมควรเลย ต้องระวังๆด้วยนะคะ

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ The Palazzo ปิ่นเกล้า เป็นแนวยาวมองเห็นได้ชัดเจน โดยซุ้มประตูเป็นลักษณะเสาโรมันคลาสิก สูงสง่า ดูอลังการดี

ด้านหน้ามีน้ำพุ และป้ายชื่อโครงการเห็นชัดเจน แถมพื้นปูด้วยหญ้า + ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น > <

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • The Brio Mall ~ 6.1 กม.
  • ม.มหิดลศาลายา ~ 7.2 กม
  • โรงพยาบาลธนบุรี 2 ~ 8.5 กม. (รวมระยะกลับรถ)
  • Food villa ราชพฤกษ์ ~ 11.6 กม.
  • The Circle ราชพฤกษ์ ~ 12 กม.
  • Central Plaza ปิ่นเกล้า ~ 12.9 กม.
  • ตลาดดอนหวาย ~ 13 กม.
  • Central Plaza ศาลายา ~ 16.8 กม.

รายละเอียดโครงการ

โครงการ The Palazzo ปิ่นเกล้า บนที่ดิน 29-2-20.8 ไร่ พร้อมจำนวนบ้านเพียง 45 ยูนิต ที่สมกับความเป็นบ้านระดับ Luxury ที่มักจะหวังเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยแบบบ้านมีทั้งหมด 4 แบบ พื้นที่ใช้สอย 400-700 ตร.ม. ตัวบ้านตกแต่งมาในสไตล์ American Neo Classic เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์กรีกโรมันผสมผสานกับโมเดิร์นคลาสสิค ที่ทำให้ตัวบ้านโดดเด่น และลงตัวดี นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีระบบความปลอดภัย KATSAN ที่เป็นระบบเฉพาะของทาง AP เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านในการอยู่อาศัย

ภายในแบ่งเป็นโซนด้านหน้าที่ติดซุ้มประตูทางเข้า และถนนบรมราชชนนี โดยตำแหน่งนี้จะมีบ้านพักอาศัยทั้งหมด 4 หลัง พร้อมคลับเฮ้าส์+สวนหย่อมขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ ก่อนที่จะข้ามคลองไปเป็นโซนบ้านพักอาศัยทั้งหมด เมื่อเข้ามาด้านในแล้วจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่จะไกลจากพื้นที่ส่วนกลางมาหน่อยนะ แต่ก็สามารถขับรถมาใช้งานได้ค่ะ

ส่วนตัวบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่วางเรียงกันในแนวทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ได้ลม และไม่โดนแดดร้อนในตอนบ่าย ซึ่งผังโซนด้านในแบ่งเป็นซอยย่อยๆ ที่แต่ละซอยมีบ้านพักอาศัยเพียง 4-8 หลัง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว และง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย ถนนด้านในโครงการเอาเสาไฟฟ้าลงดินทั้งหมด เพื่อให้บรรยากาศดูน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

ซุ้มประตูออกแบบสไตล์เดียวกับตัวบ้าน เสาบัว หน้าต่างตีตาราง พร้อมหลังคาที่ช่วยบังแดดบังฝนได้ดี เวลาเปิดหน้าต่างคุยกับรปภ.จะได้ไม่เปียกค่ะ โดยทางเข้า-ออกแยกกัน กั้นกลางด้วยป้อมรปภ. ที่ดูแลความปลอดภัยได้ทั่วถึง ทางเข้าแบ่งเป็น 2 ฝั่งสำหรับลูกบ้าน และผู้มาติดต่อค่ะ

สำหรับโครงการนี้จะใช้ระบบ KATSAN (คัดสรร) ผู้คุ้มกันส่วนตัวอัจฉริยะ ตลอด 24 ชั่วโมง จากบริษัท Claymore หนึ่งในบริษัทย่อยในเครือ AP ที่ต้องการยกระดับความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วย Support ลูกบ้านเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ที่จะเชื่อมต่อตั้งแต่หน้าโครงการ พนักงานรักษาความปลอดภัย นิติบุคคล ลูกบ้าน เข้าด้วยกัน โดยจะมีฟังก์ชันที่น่าสนใจอะไรบ้างไปดูกันค่ะ

  • Pre-Register : ฟังก์ชันลงทะเบียนรถยนต์ผู้มาติดต่อล่วงหน้า เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกในการเข้าสู่โครงการโดยไม่ต้องแลกบัตร
  • Security Matrix : การประมวลผลการเข้า-ออกอัจฉริยะ ผ่านการจดจำป้ายทะเบียนรถ คัดกรองรถยนต์ลูกบ้านกับรถยนต์สาธารณะ พร้อมติดต่อเฝ้าสังเกตรถยนต์สาธารณะที่อยู่เกินเวลา
  • Do not Disturb : ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ด้วยฟังก์ชันการปฏิเสธการเข้าพบ โดยระบบจะแจ้งเตือนไปยังป้อมรปภ.หน้าโครงการ
  • Car Directory : ตรวจสอบทะเบียนรถเพื่อตามหาเจ้าของ แก้ปัญหาการจอดรถขวางหน้าบ้านและขีดขวางการจราจร
  • Notifications ฟังก์ชันการแจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่อมีผู้มาติดต่อหรือแจ้งข้อมูลข่าวสาร และประกาศต่างๆจากโครงการ
  • Security Alert : เชื่อมต่อ รปภ. แจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ทั้งจากนิติบุคคลหรือเครือข่ายพันธมิตร เช่น โรงพยาบาล หรือสถานีตำรวจใกล้เคียง
  • E-Stamp ประทับตรายางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโทรศัพท์มือถือ

หรือคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ KATSAN (คัดสรร) คลิกที่นี่

ทางเข้าโครงการมีทั้งไม้กั้นกระดก และประตูรั้วเหล็กไฟฟ้า 2 ตอน ที่เพิ่มความปลอดภัยในช่วงค่ำคืน โดยทางเข้าสำหรับลูกบ้านมีระบบสแกนทะเบียนรถที่เข้า-ออกได้ง่าย และป้องกันคนภายนอกสวมรอยเข้ามาในโครงการ

สำหรับผู้มาติดต่อมีการบันทึกภาพด้วยกล้อง CCTV ที่ลิงค์ไว้กับ Application KATSAN ในมือถือของลูกบ้าน เอาไว้ดูหน้าตาคนที่มาติดต่อพร้อมอนุญาตผ่านระบบมือถือได้เลย

ทางด้านข้างจะมีแนวทางเดินไปที่ประตูเล็ก สำหรับคนเดินเข้า-ออก แยกเส้นทางจากทางเข้าของรถยนต์เพื่อความปลอดภัยและใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

หลังจากเปิดประตูเข้ามาเจอกับถนนหลักกว้าง 12 m. พร้อมด้านข้างปลูกต้นไม้ไว้เพื่อความสวยงาม ร่มรื่นตลอดแนวถนน สังเกตภายในไม่เห็นแนวเสาไฟฟ้าเลย เพราะโครงการเอาสายไฟฟ้า และงานระบบต่างๆลงไว้ใต้ดินทั้งหมด

ด้านข้างตั้งศาลพระภูมิมาให้เรียบร้อย ซึ่งก็ออกแบบมาให้กลมกลืนกับสไตล์การตกแต่งของโครงการ

ขับตรงมาเป็นวงเวียนขนาดใหญ่ ที่ตรงกลางเป็นอ่างน้ำพุ นอกจากความสวยงามแล้ว ยังใช้กลับรถได้ง่ายด้วยนะคะ

น้ำพุที่นี่ขนาดใหญ่อลังการ โดยออกแบบมาเป็นลักษณะน้ำล้นที่ดูสวยงามดี

สำหรับใครที่เคยไปเยี่ยมชม The Palazzo ศรีนครินทร์ ต้องบอกว่าหน้าตาคล้ายกันเลยค่ะ ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง Facilities จัดเต็มทีเดียว นอกจากฟังก์ชัน Standard อย่างสระว่ายน้ำ และฟิตเนสแล้ว ที่นี่มี Lounge ทั้งแบบ Indoor, Outdoor, Counter Bar ให้เลือกใช้งานแบบจัดเต็มถึง 3 ชั้น

รูปแบบอาคาร Clubhouse ออกแบบตามแนวคิดของโครงการในสไตล์ American Neo Classic เป็นอาคารสีเทาขาวทั้งหลัง มีซุ้มประตูสูงโปร่ง มีทั้งบันได และทางลาดรองรับการใช้งานแบบ Universal Design โดยรอบตกแต่งด้วยต้นไม้ประดับ สวยงามดีทีเดียว

เข้ามาด้านในเป็นสระว่ายน้ำที่ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะถูกซ่อนอยู่ด้านหลังอาคาร ซึ่งถ้ามองจากถนนใหญ่จะไม่เห็นด้านในเลยนะ สระว่ายน้ำระบบเกลือ แบบกลางแจ้ง ขนาด 15 x 8 m. ตัวสระมีความยาวที่สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้กำลังดี

แยกสระเด็กมาให้ขนาด 5.8 x 3 m. ลึกอยู่ที่ 60 cm. ขนาดใช้งานได้กำลังดี

นอกจากนี้ยังมีโซน Jacuzzi ให้มานั่งแช่ผ่อนคลายเวลาเหนื่อยๆจากการทำงานด้วย

ก่อนลงสระน้ำ มีจุดชำระร่างกายมาให้ 2 จุดที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ

ภายในคลับเฮ้าส์มีแยกห้องน้ำชาย-หญิงมาให้ เวลาว่ายน้ำเสร็จจะได้อาบน้ำจากที่นี่ไปเลย ไม่ต้องตัวเปียกกลับไปที่บ้าน ภายในมีตู้ล็อคเกอร์ให้ใช้เวลาไปเล่นน้ำหรือออกกำลังกาย

สำหรับที่นี่มี Sauna ให้ใช้ในห้องน้ำชาย และมี Steam ให้ใช้ในห้องน้ำหญิงค่ะ โดยขนาดใช้งานได้ 2-3 คนกำลังดี

ถัดมาที่ห้องฟิตเนสออกแบบให้มีหน้าต่างรายล้อมรับแสงได้เต็มที่ โดยได้ทั้งวิวสวน และวิวสระว่ายน้ำ ภายในจัดเครื่องเล่นมาให้หลากหลาย ครบครันทั้งเครื่อง Cardio และ Weight Training นะคะ

เข้ามาดูอาคาร 3 ชั้น ที่เป็นโซน Lounge ทั้งหมด โดยเริ่มจากพื้นที่ Indoor ชั้นล่างเป็นโถงสูงแบบ Double Volume พร้อมกระจกบานใหญ่ ที่ดูโปร่งโล่ง และรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ภายในมีชุดโซฟามาให้หลายตัว ใช้งานสะดวกค่ะ

บันไดทางขึ้นชั้นบนวางอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นบันไดขนาดใหญ่ทำให้พื้นที่ดูอลังการดี โดยพื้นเลือกใช้เป็นลายหินอ่อนที่ดูหรูหราเข้ากับตัวโครงการดี

ถัดขึ้นมาชั้น 2 มีมุม Counter Bar ที่เราสามารถจองพื้นที่ใช้งานได้ เอาไว้จัดงานปาร์ตี้ส่วนตัว หรือจะมานั่งคุยเล่นกันชิลล์ๆ

ภายในมีชุดโซฟามาหลากหลายชุด พร้อมหน้าต่างล้อมรอบห้องที่รับแสงได้เต็มที่

ติดกันมีระเบียงให้เดินออกไปสูดอากาศ ดูวิวสระว่ายน้ำและสวนหย่อมของโครงการ

ชั้น 3 เป็นโซนพักผ่อนแบบ Outdoor ที่มานั่งมองดูดาว หรือ Hang Out แบบชิลล์ๆ

มาเดินดูพื้นที่สวนหย่อมด้านข้างกันต่อ โดยโครงการปลูกต้นไม้มาให้เต็มพื้นที่ โดยเลือกใช้หลากหลายชนิด เพื่อให้สีสันสวยงามน่าใช้งานมากขึ้น

พื้นที่กว้างโล่งปูด้วยพื้นหญ้าที่พาเด็กมาวิ่งเล่นได้ ข้อดีคือเวลาเด็กล้มจะไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก หรือใครจะมาทำกิจกรรม Outdoor บริเวณนี้ก็ได้ค่ะ

รอบๆสวนมีแนวทางเดินออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ยังมีที่นั่งแบบกลางแจ้งมา เปลี่ยนบรรยากาศรับลมธรรมชาติ โดยรอบพื้นที่เน้นปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้บังแดดได้ดีเลย

ถัดไปมีพื้นยกระดับขึ้นไปเล็กน้อย ที่เด็กๆสามารถมานั่งเล่นกันเป็นกลุ่มได้

นอกจากนี้ยังมีเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งมาให้ โดยเลือกใช้วัสดุแบบ Absorption หรือ วัสดุที่ดูดซับเเรงกระแทก ลดการบาดเจ็บได้ดีกว่าพื้นทั่วไป

ข้ามสะพานไปเป็นโซนบ้านพักอาศัยทั้งหมด ที่แยกกลับส่วนคลับเฮ้าส์ ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งด้านข้างมีผนังรั้วต้นไม้ และต้นไม้สูงเอาไว้บังสายตาจากคนภายนอก

ข้ามมาแล้วมีวงเวียนที่ตรงกลางมีต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่กำลังเติบโต ซึ่งลักษณะวงเวียนจะช่วยให้กลับรถได้ง่ายขึ้นนะ

บริเวณด้านหน้าบ้านของจริง มีทางเดินเท้ามาให้แยกกับส่วนถนน ที่ปลอดภัยในการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยพื้นวางหินสลับกับพื้นหญ้าสีเขียว พร้อมต้นไม้ใหญ่ช่วยบังแดด

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse 3 ชั้น + สวนหย่อม 1 จุด ขนาด 742.48 ตร.วา (เกือบ 2 ไร่)
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 15 x 8 เมตร ลึก 1.20 เมตร / พร้อมโซน Jacuzzi นั่งผ่อนคลาย
  • แบ่งสระเด็กลึกขนาด 5.8 x 3 เมตร ลึก 60 ซม.
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 10, 9 เมตร
  • ระบบไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และ รั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
  • ระบบ Hybrid Living ทุกหลัง และรองรับ EV Charger

แบบบ้าน

บ้านในโครงการมีทั้งหมด 4 แบบ โดยขนาดที่ดินตั้งแต่ 100 ตร.วาขึ้นไป โดยบ้านที่เราจะเข้าไปรีวิวในวันนี้คือแบบบ้านขนาดใหญ่ MASSIMO พื้นที่ใช้สอย 703 ตร.ม. พร้อมที่จอดรถได้ถึง 8 คัน(แบบจอดซ้อนคัน) และบ้านหลังที่ใหญ่รองลงมาเป็นแบบบ้าน LUSSO พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม. พร้อมที่จอดรถได้ถึง 6 คัน(แบบจอดซ้อนคัน) ซึ่งเหมาะกับคนที่มีรถยนต์เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังใส่ใจรายละเอียดของส่วน Service ที่มีห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำที่แยกใช้งานกับลูกบ้าน ถัดเข้ามาภายในบ้านมีระบบรักษาความปลอดภัย และสิ่งความอำนวยสะดวกมาให้ครบครัน ได้แก่

  • ประตูรั้วอัตโนมัติหน้าบ้าน ที่สั่งงานเปิด-ปิดผ่านรีโมท
  • ประตูทางเข้าบ้านติดตั้ง Digital Door Lock เพื่อความปลอดภัยมากขึ้น
  • ภายในมี Home Automation ไว้สั่งเปิด-ปิดไฟ แอร์ ผ่านมือถือ ซึ่งจะมีเครื่องสำหรับรับสัญญาณให้ทุกห้อง
  • บ้านพักอาศัยรองรับ EV Charger 1 จุด บริเวณโรงจอดรถ โดยจะมีแต่ปลั๊กเสียบ ต้องซื้อเครื่อง Charger มาติดตั้งเพิ่มเอง
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ติดที่ประตูหน้าต่างทุกบานภายในบ้าน
  • ภายในบ้านมีกล้อง IP Camera ให้ 3 ตัว โรงจอดรถ,ห้องนั่งเล่น,ห้องนอนชั้นล่าง
  • ชุดครัวไทย Built ตู้มาให้เรียบร้อย พร้อมวางซิงค์ล้างจาน และ Hob & Hood มาให้เป็นมาตราฐาน

เริ่มกันที่บ้าน MASSIMO ขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ที่ดินเริ่มต้น 164 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 703 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 2 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 8 ที่จอดรถ ซึ่งเป็นลักษณะแบบซ้อนคันนะ โดยตัวบ้านเหมาะอยู่อาศัย 8-10 คนสบายๆ บ้านหน้ากว้าง รับแสงได้เต็มที่ บริเวณรอบบ้านปูพื้นหญ้าและต้นไม้มาให้เรียบร้อย

ถัดเข้ามาที่ตัวบ้านสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือจากประตูทางด้านหน้า ที่มีทางลาดสำหรับใช้งานรถเข็นได้ และจากโรงจอดรถที่เปิดเข้าไปเป็นส่วนครัว และเชื่อมต่อไปกับโซน Service ได้ง่าย เปิดเข้ามาภายในมีพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ ตัวบ้านกว้างมากจัดพื้นที่ได้หลากหลายเลย ทั้งมุม Living, Dining และ Pantryครัว เหมาะตรียมอาหารได้นิดหน่อย ส่วนชั้นล่างมีห้องนอนที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ภายในมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ส่วนฝั่งขวามือเป็นโซน Back of House ที่มีทั้งครัวปิด, ห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้อง + ห้องน้ำแยกใช้งานส่วนตัว และพื้นที่โซนซักล้าง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ห้องนอนวางเป็นแนวยาวที่ไม่บังแสงแดดกันเอง ข้อดีคือไม่เกิดมุมอับภายในบ้าน ทุกพื้นที่ของบ้านรับแสงได้เต็มที่ ชั้นบนมีโซน Family Area เป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับคนในครอบครัวแยกกับแขกด้านล่าง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ ที่จัดเป็นห้องพระ หรือห้องเก็บของเพิ่มเติมก็ได้นะ โดยห้องนอนที่นี่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง พร้อมวางเตียงขนาดใหญ่ได้สบายๆ ส่วนห้องนอน Master Bedroom จะเป็นมุม Walk-in Closet พร้อมห้องน้ำในตัว ที่มีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ตัวได้

มากันด้านหน้าของแบบบ้าน MASSIMO โดยตัวบ้านจะออกแบบใน สไตล์ American Neo Classic ตัวบ้านจะเป็นสีเทาขาวทั้งหลัง หลังคาทรงจั่วที่ช่วยลดความร้อนภายในบ้าน นอกจากนี้ยังออกแบบให้หน้าต่างตีตาราง ที่เพิ่มความคลาสสิคเข้าไปด้วย ตัวเสามีดีเทลตามแบบสไตล์กรีกโรมันค่ะ

บริเวณที่จอดรถยาว 6.6 m. ที่จอดรถซ้อนคันได้สบายๆ โดยแต่ละช่วงจะกว้างประมาณ 5 m. ซึ่งจอดรถช่วงละ 2 คันได้กำลังดี

โดยบริเวณนี้จะเชื่อมต่อเข้ากับตัวบ้านได้เลย เหมาะสำหรับขนของเข้าส่วน Service ได้ง่าย ไม่ต้องผ่านโซน Living ก่อน โดยฝั่งขวามือ(ประตูเหล็ก) เป็นห้องเก็บของขนาด 2.2 x 2.1 m. สูง 3 m. ที่เก็บของได้เยอะเลย ซึ่งที่นี่มีปลั๊กรองรับระบบ EV Charger มาให้ แต่เราต้องติดตั้งเครื่อง Charger เพิ่มเองนะ

ประตูไม้จริงพร้อมมือจับแบบ Digital Door Lock ยี่ห้อ Kaadas มาให้ ซึ่งรองรับการใช้งานทั้ง 4 แบบ รหัส PIN, กุญแจ, สแกนลายนิ้วมือ และ Keycard ซึ่งเป็นแบบดึงที่ใช้งานง่ายถนัดมือดีค่ะ

กลับมาที่ด้านหน้าของตัวบ้านค่ะ ประตูทางเข้าเป็นลักษณะซุ้มประตูมีพื้นที่เฉลียงด้านใน ช่วยบังแดดบังฝน พร้อมที่นั่งสำหรับเปลี่ยนรองเท้าได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีทางลาดเอียงสำหรับรถเข็นให้ใช้งานได้ง่าย

ประตูบานไม้จริงขนาด Oversize สูง 2.7 m. โดยเป็นลักษณะบานโค้ง ที่ดูสวยงาม โอ่อ่าดี ด้านข้างมีไฟติดผนังมาให้ใช้งาน

มือจับยี่ห้อ Hafele เป็นแบบล็อคด้วยกุญแจ ที่วัสดุเป็นอลูมิเนียมเงาสะท้อนสวยงามดี

บริเวณเฉลียงเป็นช่องโปร่งโล่งถึงฝ้าเพดานชั้น 2  ที่ช่วยกรองแสงแดดก่อนเข้าภายในบ้าน

เปิดมาเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ ขวามือเป็นพื้นที่ Living Area มองตรงไปเป็นโซน Dining Room เชื่อมกับส่วน Pantryครัว ซึ่งพื้นที่ภายในดูโล่ง และกว้างดี / พื้นของจริงเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 80 x 80 cm.

พื้นที่ตรงนี้เป็น Double Volume สูง 7 m. ซึ่งทำให้พื้นที่ชั้นล่างและพื้นที่ชั้นบนดูเชื่อมต่อกันดี โดยเป็นตำแหน่งที่เหมาะติดแชนเดอเรียดีนะ

ถัดเข้ามาจะเป็นห้องรับแขกที่อยู่ทางฝั่งด้านหน้าของตัวบ้าน ส่วนระดับพื้นถึงฝ้าในชั้นล่างจะอยู่ที่ 3 m. ที่ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด แสงธรรมชาติเข้าได้เต็มที่

Image 1/4
Optionเสริม กรณีซื้อบ้านที่มีพื้นที่ดิน ด้านข้างบ้านเหลือเยอะสามารถทำสระว่ายน้ำเพิ่มได้ ตามบ้านตัวอย่าง

Optionเสริม กรณีซื้อบ้านที่มีพื้นที่ดิน ด้านข้างบ้านเหลือเยอะสามารถทำสระว่ายน้ำเพิ่มได้ ตามบ้านตัวอย่าง

กรณีที่เราซื้อที่ดินขนาดใหญ่ เราสามารถจัดฟังก์ชันใช้งานตามบ้านตัวอย่างได้ค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในไปดูพื้นที่ห้องนอนชั้นล่าง ที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ โดยประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนกว้าง 1 m. รถเข็นใช้งานได้ง่าย

ห้องนอนกว้างวางเตียง King Size พร้อมพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงสบายๆ พื้นในห้องเป็น Smart Vinyl (พื้นยางไวนิล) ที่ทนความชื้นและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าลามิเนต แถมตัวพื้นมีความนุ่มที่เดินสบายเท้ามากขึ้น / โดยเป็นห้องมุมทำให้ได้ช่องแสง 2 ฝั่งเลย

ฝั่งตรงข้ามเป็นชุดทีวีต่อเนื่องกับตู้เสื้อผ้าที่อยู่ด้านหน้าห้องน้ำ

ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง ไม่มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้ง วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด พร้อมหน้าต่างระบายความชื้นได้ดี

พื้นไม่มีขอบกั้น มีแต่รางระบายน้ำที่ช่วยไม่ให้น้ำไหลออกด้านนอก

ทั้งอ่างล่างหน้าและโถสุขภัณฑ์ เป็นแบบที่รถเข็นใช้งานง่าย ภายในมีราวจับแบบติดผนัง และแบบยกขึ้น-ลง ที่ใช้งานสะดวกมากขึ้น

พื้นที่อาบน้ำมีฝักบัวมาให้ พร้อมที่นั่งกว้าง 46 cm. ที่นั่งได้กำลังดี ไม่ลึกจนเกินไป

พื้นที่รับประทานอาหารกว้างขวาง สามารถวางชุดโต๊ะอาหารขนาด 10-12 ที่นั่ง มีพื้นที่เหลือเดินรอบโต๊ะได้สบายๆ

เชื่อมต่อกับส่วน Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม ที่ต่อเนื่องกันดี แต่ของจริงตรงนี้ทางโครงการไม่มีให้ แต่เดินงานระบบมาให้เรียบร้อย

ใกล้ๆมีประตูที่เชื่อมกับโรงจอดรถ ด้านข้างเป็นตู้เก็บงานระบบต่างๆไว้ทีเดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการซ่อมแซมบำรุงในอนาคต

ห้องน้ำชั้นล่างแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำนะคะ ภายในมีโถสุขภัณฑ์ให้ทั้งชาย-หญิงเลย พร้อมปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และโมเสก(Mosaic) สวยงามดี

บริเวณอ่างล้างมือมีตู้เก็บของด้านล่างมาให้เรียบร้อยค่ะ

โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler แบบอัตโนมัติ ที่พอเดินเข้ามาฝาชักโครกจะเปิดเองโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ด้านข้างมีที่ใส่กระดาษทิชชู่มาด้วย

กลับมาที่บริเวณ Pantry ครัว มีประตูทางเข้าห้องครัวปิด ที่เอาไว้แยกทำอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ ซึ่งอาจจะรบกวนบรรยากาศภายในบ้าน

ห้องครัวปิดแยกการใช้งานเป็นสัดส่วน ภายในปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เช็ดถูทำความสะอาดง่าย สำหรับชุดครัวที่นี่โครงการมีมาให้แบบนี้เลยค่ะ

ชุดครัวแบบก่อปูนที่มีความแข็งแรง โดยท็อปครัวเป็นหินอ่อนสีดำ ที่ด้านล่างทำเป็นตู้เก็บของได้หลากหลาย หน้าบานตู้สีเทา Hi-gloss สวยงามดี บริเวณใต้ซิงค์มีถังขยะติดมากับหน้าบาน เพื่อให้เปิด-ปิดพร้อมกัน ป้องกันกลิ่นฟุ้งกระจาย

ซิงค์ล้างจานเป็นแบบ 2 หลุม ขนาดหลุมละ 40 x 40 cm. ยี่ห้อ Smeg พร้อมก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวา

ด้านบนด้านหลังปิดด้วยหน้าบ้านสีเทา Hi-gloss เช่นเดียวกัน ซึ่งบางชิ้นมีช่องระบายความชื้น และกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในตู้เก็บของ

เตาไฟฟ้ายี่ห้อ Smeg พร้อมติดตั้ง Hob & Hood ขนาดใหญ่มาให้ โดยเป็นระบบหมุนเวียนกลิ่นออกภายนอกบ้าน

ส่วนของ Back of House ทั้งหมดประกอบด้วย 2 ห้องนอนแม่บ้าน และ 1 ห้องน้ำ พร้อมพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้าที่วางระบบท่อน้ำทิ้งมาให้เรียบร้อย

พื้นที่ส่วนซักล้าง ตากผ้า แยกใช้งานเป็นสัดส่วน บ้านของจริงโครงการทำรั้วต้นไม้รอบบ้าน เพื่อให้บรรยากาศรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ร่มรื่นดี

บันไดของที่นี่เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้เวลาเดินไม่มีการสั่นสะเทือนรบกวน ที่น่าสนใจ คือราวกันตกเป็นเหล็กลวดลายสวยงาม

นอกจากนี้บริเวณใต้บันไดยังมีห้องเก็บของขนาด 1.30 x 3.7 m. พร้อมความสูง 1.71 ที่ยืนได้สบายๆสำหรับคนตัวเล็กแบบเรา ส่วนตัวมองว่าเก็บของได้เยอะดีนะ

บันไดปิดผิวด้วยไม้ปาร์เก้ขนาดกว้าง 1.37 m. ที่เดินสวนทางกันได้สบายๆ ลูกตั้ง 19 cm. ลูกนอน 30 cm. ที่เหยียบได้เต็มเท้าเลย

ตัวบันไดวางเป็นรูปตัว U ชานพักนี้เป็นสี่เหลี่ยมเดินสบายๆ พร้อมหน้าต่างสูงรับแสงส่องเข้ามา ที่ไม่ต้องเปิดไฟใช้งานในเวลากลางวัน

สำหรับทางเดิน(Corridor) กว้าง 2.2 m. ที่วางตู้บริเวณผนังเพิ่มเติมได้ โดยจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Family Area ของลูกบ้าน / ความสูงพื้นถึงฝ้า 3 m. ที่ทำให้ภายในดูโปร่งโล่ง

พื้นชั้นบนทั้งหมดเป็นพื้นปาร์เก้สีน้ำตาลเข้มสวยงาม โดยห้อง Family area เชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก ที่สามารถออกไปนั่งเล่นรับลมได้นะ

ระเบียงขนาด 5.5 x 2.1 m. ที่เอาชุดเก้าอี้ออกมานั่งเล่นสบายๆ สังเกตบริเวณหลังคามีรูระบายความร้อนใต้หลังคา ซึ่งจะทำให้ตัวบ้านไม่อมความร้อนนะคะ

ถัดมาขอพามาดูห้องนอนเล็กที่ติดกับส่วน Family area ก่อน โดยภายในวางเตียงขนาด King Size พร้อมพื้นที่เดินรอบเตียงได้สบายๆ ด้านข้างได้หน้าต่างบานใหญ่ตีตาราง ส่วนกระจกได้เป็นสีเขียวตัดแสง ป้องกันแสง UV ได้ดี

ภายในบ้านตัวอย่าง Built-in ตู้มาให้ดูเป็นไอเดีย โดยห้องนี้เลือกใช้สีโทนขาวเดินเส้น ดูสวยงามดี สาวๆน่าจะชื่นชอบกันนะ

นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องน้ำยังมีพื้นที่เหลือ Built-in ตู้เสื้อผ้า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะหยิบเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ง่าย

ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน โดยกั้นด้วยฉากกั้นกระจก Tempered Glass พร้อมมือจับที่เอาไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ / พื้นและผนังเป็นกระเบื้องตามนี้เลย

เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นหินอ่อนสีดำสวยงาม พร้อมฝังอ่างไว้ด้านในขนาด 52 x 42 cm. ยี่ห้อ Kohler ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์ Kohler แบบธรรมดาค่ะ

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.11 x 1.80 m. เป็นระยะที่ยืนใช้งานได้สบายๆ โดยบริเวณนี้มีฉากกั้นป้องกันน้ำไหลออกด้านนอกมาให้ด้วย

โครงการให้ฝักบัวแบบ Hand Shower ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้ ด้านข้างมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ด้วยพวก สบู่, ยาสระผม หยิบใช้งานง่าย

ห้องนอนเล็กถัดมาได้หน้าต่างเพิ่ม ที่รับแสงธรรมชาติได้เยอะมากขึ้น โดยห้องนี้ตกแต่งหัวเตียงด้วยกระจก ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น

ด้านข้างเตียงมีตู้ Built-in เอาไว้เก็บของเพิ่มเติมได้ พร้อมเก้าอี้นั่งเล่นอ่านหนังสือสบายๆ

บริเวณด้านหน้าห้องน้ำ วางตู้เสื้อผ้าเหมือนกับห้องที่แล้วเลย ซึ่งด้านข้างวางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มได้ ซึ่งเอาไว้วางเครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงที่ใช้บ่อยๆได้นะ

ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน โดยห้องน้ำที่นี่แต่ละห้องจะปูพื้นและผนังกระเบื้องแตกต่างกัน ซึ่งจะได้ตามแบบบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

ถัดมาห้องนอนเล็กห้องสุดท้าย ตกแต่งมาในสไตล์เรียบง่าย เตียงวางขนาด King Size พร้อมพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงสบายๆ

บริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่เหลือ Built-in ตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิม โดยห้องนี้ได้หน้าบานเป็นกระจก ที่ทำให้พื้นที่ภายในดูกว้างมากขึ้น

ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเหมือนเดิมค่ะ

ถัดมาดูห้อง Master Bedroom ซึ่งได้เป็นห้องหน้ากว้างที่กั้นพื้นที่เป็นสัดส่วนได้ โดยห้องตัวอย่างมีการกั้นส่วนต้อนรับมาให้ ก่อนที่จะเข้าไปพื้นที่ส่วนตัว

ห้องนอนใหญ่ได้สัดส่วนห้องค่อนข้างกว้าง เราจัดโซนนั่งเล่นส่วนตัวในห้องได้เพิ่มอีก 1 จุด โดยตำแหน่งห้องมุมที่รับแสงธรรมชาติได้ 2 ฝั่งเลย

ห้องนั่งเล่นวางชุดโซฟาแบบ 3-4 ที่นั่ง พร้อมวางโต๊ะกลางสบายๆ

โดยตรงกลางวางตู้ทีวี ที่เสมือนกั้นระหว่างห้องนอนและมุมนั่งเล่น ดูเป็นสัดส่วนดี ส่วนตัวชอบการจัดพื้นที่แบบนี้ ที่ทำให้ตัวห้องดูไม่อึดอัดค่ะ

นอกจากนี้ยังมีมุม Window Seat ไว้นอนเล่นอ่านหนังสือ พร้อมรับแสงธรรมชาติ และมองวิวไปด้วย

ที่นอนวางเตียง King Size พร้อมโต๊ะหัวเตียงด้านข้าง และหน้าต่างให้แสงส่องเข้ามาถึง ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ถัดมาหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ทำ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่เก็บของสำหรับ 2 คนได้สบายๆ ซึ่งถ้าใครมีเสื้อผ้าเยอะจะทำตู้เสื้อผ้าเพิ่มก็ได้นะคะ

สำหรับบ้านตัวอย่าง Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ดูเป็นไอเดีย มีทั้งที่แขวนเสื้อผ้าปกติ, แขวนชุดเดรสยาวๆ, ลิ้นชักเก็บของ, ชั้นวางกระเป๋า หรือจะเพิ่ม Island ตรงกลาง ไว้เก็บของกระจุกกระจิกที่ใช้งานบ่อยๆ

ห้องน้ำแยกใช้โซนเปียก-แห้งเป็นสัดส่วน พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ภายในมีอ่างล้างหน้า His&Her, อ่างอาบน้ำ, พื้นที่ยืนอาบน้ำ พร้อมโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆครบครัน

ชุดอ่างล้างหน้าแบบ His & Her พร้อมท็อปเคาน์เตอร์หินอ่อนสีดำ ก็อกน้ำยี่ห้อ MEX ด้านล่างทำเป็นตู้เก็บของได้ โดยที่นี่มีปลั๊กไฟแบบกันน้ำมาให้ด้วย

อ่างอาบน้ำยี่ห้อ Kohler ขนาด 1.52 x 0.70 m. ที่นั่งแช่ตัวได้กำลังดี มีฝักบัวแบบ Hand Shower ให้ใช้อาบน้ำได้เลย

พื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 1.45 x 1.35 m. ติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำทั้งแบบ Rain Shower และ Hand Shower ของ Kohler ฝักบัวปรับความแรงของน้ำได้ ผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ

โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ ยี่ห้อ Kohler แบบเดียวกันกับชั้นล่างเลย ส่วนฟังก์ชันการใช้งานมีอะไรบ้างต้องไปลองเล่นกันดูนะคะ

กลับออกมาที่โถงทางเดินด้านหน้าห้องนอนใหญ่ ยังมีมุมพื้นที่อเนกประสงค์ ที่เรายังไม่ได้พาไปชมเลยนะคะ

พื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 2.46 x 0.87 m. ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ เหมาะทำเป็นห้องพระ หรือห้องเก็บของเพิ่มเติม

ภายในบ้านติดอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยของตัวบ้านไว้ ซึ่งบ้านนี้จะได้ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ไว้ 1 ตำแหน่ง

โครงการรองรับ Home Automation โดยเราจะได้เครื่อง Spot รับ-ส่งสัญญาณแบบนี้ทุกห้อง ที่เราสามารถสั่งงานผ่านมือถือได้ เปิด-ปิดไฟ แอร์ และระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งเครื่องนี้สามารถปรับสีได้ตามที่เราชอบด้วยนะ

ปลั๊กไฟแบบ Touch Screen โดยสีแดง=ปิดไฟ และสีฟ้า=เปิดไฟค่ะ

Image 1/18
บ้านของจริงมีรั้วกำแพงสูง 2 m. รอบบ้าน

บ้านของจริงมีรั้วกำแพงสูง 2 m. รอบบ้าน

บรรยากาศบ้านของจริง เป็นบ้านเปล่าที่ได้ของตามนี้เลยค่ะ

มาที่บ้าน LUSSO ขนาดใหญ่รองลงมา ที่ดินเริ่มต้น 137 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 2 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 6 ที่จอดรถ ซึ่งเป็นลักษณะแบบซ้อนคัน โดยฟังก์ชันภายในเหมือนกับบ้านหลังแรกแต่มีขนาดเล็กกว่านะคะ

ถัดเข้ามาที่ตัวบ้านสามารถเข้าได้ 2 ทางเหมือนหลังที่แล้ว มีทางลาดรองรับการใช้งานรถเข็นเช่นเดียวกัน เปิดเข้ามาภายในมีพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ โดยพื้นที่ Living area ของบ้านหลังนี้จะได้ความสูงแบบ Double Volume ที่ทำให้รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ชั้นล่างมีห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ฝั่งซ้ายมือเป็นโซน Back of House ที่มีทั้งครัวปิด,  2 ห้องนอนแม่บ้าน + ห้องน้ำแยกใช้งาน และโซนซักล้างค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ห้องนอนวางเป็นแนวยาวที่ไม่บังแสงแดดกันเอง ข้อดีคือไม่เกิดมุมอับภายในบ้าน ทุกพื้นที่ของบ้านรับแสงได้เต็มที่ ชั้นบนมีโซน Family Area เป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับคนในครอบครัวแยกกับแขกด้านล่าง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ ที่จัดเป็นห้องพระ หรือห้องเก็บของเพิ่มเติมได้ โดยห้องนอนที่นี่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง พร้อมวางเตียงขนาดใหญ่ได้สบายๆ ส่วนห้องนอน Master Bedroom มีมุม Walk-in Closet พร้อมห้องน้ำในตัว ที่มีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ตัวได้

หน้าตาบ้านแบบ LUSSO สไตล์เหมือนกับบ้านหลังที่แล้ว แต่ลดสัดส่วนแต่ละห้องให้มีขนาดเล็กลง แต่ยังได้ฟังก์ชันภายในเหมือนกับบ้านหลังใหญ่เลย

บริเวณที่จอดรถขนาด 10 x  7.5 m. ที่จอดรถ 6 คันแบบซ้อนคันได้สบายๆ

ประตูทางเข้าจากโรงจอดรถแบบบ้านหลังที่แล้ว พร้อมมือจับแบบ Digital Door Lock เช่นเดียวกันกับบ้านหลังที่แล้วค่ะ

เฉลียงต้อนรับก่อนเข้าบ้านเช่นกัน ที่เอาไว้นั่งเปลี่ยนรองเท้าก่อนออกจากบ้านได้ โดยประตูเป็นแบบ Oversize เช่นกัน แต่จะเป็นคนละแบบกับหลังที่แล้วนะคะ

เปิดเข้ามาเจอพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ ที่ยาวจนถึงหลังบ้านซึ่งทำให้ตัวบ้านดูไม่มืดทึบ ทางโครงการตกแต่งมาเรียบหรู ดูสวยงามดี

พื้นที่ Living area ขนาดใหญ่ สามารถวางโซฟาได้ 2 ชุดเลย เวลามีแขกมาพร้อมกันก็แยกกันใช้งานได้ค่ะ

โดยมีโซนริมหน้าต่าง ที่ได้พื้นที่ Double Volume สูง 7 m. ทำให้พื้นที่ชั้นล่างและชั้นบนดูต่อเนื่องกันดี

ห้องนอนชั้นล่างเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่อยากขึ้นลงบันไดบ่อยๆ พร้อมห้องน้ำที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ

สำหรับห้องนี้ตกแต่งมาในสไตล์เรียบง่าย มีชั้นวางทีวีต่อเนื่องกับตู้เสื้อผ้าค่ะ

ห้องน้ำขนาดเดียวกับบ้านหลังที่แล้วเลย มีอุปกรณ์มาให้ครบครันแบบเดียวกัน

พื้นที่รับประทานอาหารวางโต๊ะสำหรับ 8-10 ที่นั่งกำลังดี ซึ่งเป็นตำแหน่งริมหน้าต่างหลังบ้าน เอาไว้มองพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน

ต่อเนื่องกันเป็นพื้นที่ Pantry ครัว ที่ทำเป็น Island เล็กๆไว้เตรียมอาหารเล็กน้อย

ห้องน้ำแขกเป็นแบบ Powder Room ภายในมีโถสุขภัณฑ์แยกชาย-หญิง โดยโถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้ง เอาไว้เปิดระบายความชื้นออกด้านนอก

โดยตู้ที่นี่จะแตกต่างจากบ้านหลังที่แล้ว โดยได้เป็นอ่างลอยยี่ห้อ Kohler พร้อมตู้เก็บของใต้อ่างได้นิดหน่อย

ห้องครัวปิดแยกใช้งานเป็นสัดส่วน ภายในปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เช็ดถูทำความสะอาดง่าย สำหรับชุดครัวที่นี่โครงการมีมาให้แบบนี้เลยค่ะ

ส่วนของ Back of House ทั้งหมดประกอบด้วย 2 ห้องนอนแม่บ้าน และ 1 ห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน โครงการวางงานระบบมาให้เรียบร้อย

บันไดปิดผิวด้วยไม้ปาร์เก้ขนาดกว้าง 1.41 m. ที่เดินสวนทางกันได้สบายๆ ลูกตั้ง 19 cm. ลูกนอน 30 cm. ที่เหยียบได้เต็มเท้าเลย

ห้องนอนใหญ่พื้นที่ภายในกว้าง วางเตียงขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ ปลายเตียงมีพื้นที่ทำเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวได้

บริเวณห้องน้ำมีพื้นที่กั้นเป็นโซน  Walk-in Closet ได้ โดยโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย บ้านของจริงเป็นพื้นที่โล่งๆค่ะ

ห้องน้ำแยกโซนเปียกและแห้งชัดเจน พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ภายในมีอ่างล้างหน้า His&Her, อ่างอาบน้ำ, พื้นที่อาบน้ำแบบยืน พร้อมโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆครบ

พื้นที่ยืนอาบน้ำขนาด 1.7 x 1.18 m. ติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำทั้งแบบ Rain Shower และ Hand Shower ของ Kohler ฝักบัวปรับความแรงของน้ำได้ ผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ห้องนอนเล็กวางเตียงขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้ หรือจะวางเตียงชิดผนัง เพื่อให้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้นก็ได้นะ

ปลายเตียงวางชุดทีวี โต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้าเป็นแนวยาวได้ โดยห้องนอนจะมีหน้าต่างมีเปิดระบายอากาศ และรับแสงธรรมชาติ

ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน โดยกั้นด้วยฉากกั้นกระจก Tempered Glass พร้อมมือจับที่เอาไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ โดยขนาดห้องน้ำของห้องนอนเล็กจะเท่ากัน พื้นที่ยืนอาบน้ำขนาด 1 x 1 m. ใช้งานได้กำลังดี

ห้องนอนถัดมาตกแต่งมาในสไตล์อวกาศ ดูเรียบง่าย, หรูหราดี

ปลายเตียงวางโต๊ะทำงาน ชุดทีวี และตู้เสื้อผ้า เรียงเป็นแนวยาว

ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน โดยกระเบื้องแต่ละห้องจะไม่เหมือนกัน ทำให้ได้ความรู้สึกแตกต่างกันเวลาใช้งาน

ห้องนอนเล็กสุดท้ายเป็นห้องที่ตกแต่งมาในสไตล์ผู้หญิงๆ ซึ่งถ้าใครชอบก็สามารถดูเป็นไอเดียได้ โดยห้องนี้จะได้แสงเข้า 2 ฝั่ง ทำให้ภายในดูโปร่งโล่งดี

ปลายเตียงจัดวางพื้นที่เป็นแนวยาวเช่นกัน ซึ่งถ้าใครชอบจุดไหนก็เก็บไปไอเดียไปแต่งห้องตัวเองได้นะคะ ^^

ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน โดยได้กระเบื้องตามนี้เลยค่ะ

ทางเดิน Corridor มีทั้งพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ และ Family area มาให้ด้วย

พื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 2.8 x 2.9 m. ที่ถือว่าค่อนข้างใหญ่ จัดพื้นเป็นห้องพระ หรือห้องเก็บของก็ได้ แล้วแต่คนเลือกใช้งาน

ถัดมาเป็นโซน Family area ที่เอาไว้นั่งเล่นส่วนตัวสำหรับคนในครอบครัว

พื้นที่ห้อง Family room เชื่อมต่อกับ Double Volume ด้านล่าง ทำให้เห็นว่าใครมาบ้าน โดยไม่ต้องลงไปด้านล่างนะคะ

สำหรับแบบบ้านจริงจะมีรั้วรอบขอบชิดปิดมาให้เรียบร้อยค่ะ แถมหน้าบ้านทุกหลังมีต้นไม้สูง บดบังสายตาจากคนภายนอกได้นิดหน่อยนะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แบบแปลน

Image 1/4
แบบบ้าน ANTONIO

แบบบ้าน ANTONIO

ราคา

18 August 2020

  • แบบบ้าน ANTONIO พื้นที่ใช้สอย 403 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 1 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
  • แบบบ้าน ALBERTO พื้นที่ใช้สอย 497 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 1 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • แบบบ้าน LUSSO พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 2 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 6 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • แบบบ้าน MASSIMO พื้นที่ใช้สอย 703 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 2 ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ / 8 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น 60 ล้านบาท
  • จอง 300,000 บาท
  • ทำสัญญา 700,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

The Palazzo ปิ่นเกล้า เป็นโครงการตั้งอยู่ติดถนนบรมราชชนนี ระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 2 และ 3  เป็นทำเลชานเมืองที่สามารถเดินทางไปเชื่อมเข้า-ออกเมืองง่าย มีทางด่วนและทางคู่ขนานลอยฟ้าให้เลือกใช้งาน ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการเป็นชุมชนพักอาศัย บ้านจัดสรร บ้านพักอาศัย และพื้นที่ว่าง ที่ไม่มีสิ่งรบกวนการอยู่อาศัย ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ระยะใกล้ก็พอมีร้านค้าร้านอาหารบ้าง แต่ถ้ามองกว้างออกมาหน่อยโครงการอยู่ระหว่างปิ่นเกล้ากับศาลายา ซึ่งเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์สูงทั้งสองฝั่ง มีทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูลนิตี้มอลล์ ตลาดสดต่างๆ รวมไปสถานศึกษาทั้งมหาลัย และรร.นานาชาติให้ได้เลือกเรียนอีกด้วยนะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ความปลอดภัยสูงเหมาะสมกับบ้านระดับ LUXURY เริ่มตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าโครงการใช้ระบบ KATSAN ที่เป็นระบบเฉพาะของทาง AP เช่น การเข้า-ออกด้วยทะเบียนรถยนต์, ปฏิเสธการเข้าพบของลูกบ้าน, แจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่อมีผู้มาติดต่อลูกบ้าน, App เชื่อมต่อ รปภ. แจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เป็นต้น นอกจากนี้ภายในบ้านมีทั้งประตูรั้วอัตโนมัติหน้าบ้าน, Digital Door Lock, สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ติดตั้งที่ประตูหน้าต่างทุกบาน และภายในบ้านมีกล้อง IP Camera ให้ 3 ตัว โรงจอดรถ,ห้องนั่งเล่น และห้องนอนชั้นล่าง

การวางผังโครงการ :

โครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 29-2-20.8 ไร่ จำนวน 45 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวดี แบบบ้านมีทั้งหมด 4 แบบ แต่ที่ชอบเลยคือเอาพื้นที่ส่วนกลางมาไว้ด้านหน้าก่อน และบ้านส่วนใหญ่จะต้องข้ามสะพานไปอยู่ทางด้านใน เป็นการแยกโซนพักอาศัยให้ส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ภายในโครงการเอาเสาไฟฟ้าลงใต้ดิน พร้อมจัดพื้นที่สีเขียวรอบโครงการมาได้น่าใช้งานดี ตัวบ้านที่หันหน้าชนกันเพียง 3-6 หลัง โดยส่วนใหญ่จะหันชนด้านข้างที่ไม่มีบ้านพักอาศัยปะทะกันโดยตรง ถือเป็นข้อดีนะ จุดเด่นของโครงการคือ รูปแบบ American Neo Classic มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และแทรกอยู่ในทุกพื้นที่ของโครงการ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบการใช้สีภายนอกคุมโทนเทาขาว ประตูและหน้าต่างของบ้านตีตารางมาให้ดูคลาสสิคสมกับคอนเซ็ปต์โครงการ พร้อมทั้งเสาที่สูงสง่า ดูโอ่อ่า , หรูหราสมราคา นอกจากนี้โครงการยังปลูกต้นไม้รอบบ้านมาให้เรียบร้อย บรรยากาศร่มรื่นทีเดียว ส่วนที่ชอบสำหรับฟังก์ชันภายในบ้านเลยคือ 1.พื้นที่ Double Volume ที่ทำให้บ้านชั้นล่างเชื่อมต่อกับชั้นบน 2.ห้องนั่งเล่นที่แยกใช้งานระหว่างลูกบ้านและแขกที่มาเยี่ยมได้ความเป็นส่วนตัวดี 3.ชอบที่ห้องนอนวางเป็นแนวยาวไม่บังวิวกันเอง ทำให้ไม่มีมุมอับ รับแสงได้เต็มที่ 4. ห้องนอนชั้นล่างที่ออกแบบมา เพื่อผู้สูงอายุที่แท้จริง ภายในมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกติดตั้งมาให้เรียบร้อย

วัสดุ :

วัสดุได้ตามมาตรฐานสมราคา โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ที่ทำให้ตัวบ้านไม่ร้อน พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 80×80 ซม. พื้นห้องนอนผู้สูงอายุเป็น Absorption Floor ช่วยลดแรงกระแทกในการใช้งาน บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความคงทนแข็งแรง พื้นเป็นไม้ปาร์เก้เงาสวยงาม ประตูหน้าต่างตีตารางมาให้เรียบร้อย กระจกเขียวตัดแสง พร้อมชุดครัวไทยที่มีครบทั้งซิงค์ล้างจาน และ Hob & Hood รวมถึงได้หน้าบานเป็น Hi-gloss เงาสวยงามดี สุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler มีแบบอัตโนมัติมาทั้งหมด 2 จุด(ห้องน้ำแขก,ห้องนอนใหญ่) นอกนั้นเป็นแบบธรรมดา ส่วนห้องนอนใหญ่มีอ่างอาบน้ำมาให้เพิ่มเติมด้วย

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

โครงการมีรั้วทึบรอบสูง 3 เมตร สองข้างทางปูพื้นหญ้าพร้อมปลูกต้นไม้สูง บรรยากาศภายในดูร่มรื่น น่าใช้งาน เสาไฟฟ้าเอาลงดินทั้งหมด ทำให้ทัศนียภาพดูเรียบร้อย จัด Landscape สวนหย่อม และพื้นที่ส่วนกลางได้น่าใช้งานดี มีวงเวียนทั้งน้ำพุ และต้นไม้สูง

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางถือว่าจัดมาเยอะดี นอกจากมาตรฐานทั่วไปคือ สระว่ายน้ำ และฟิตเนส นอกจากนี้ยังมีอาคาร 3 ชั้น ที่เป็นลักษณะ Lobby Lounge ทั้งแบบ Indoor, Outdoor และ Counter Bar ที่ทำให้การใช้งานมีหลากหลายอารมณ์ดี

Judgement

The Palazzo ปิ่นเกล้า เป็นโครงการระดับ LUXURY- SUPER LUXURY ที่มีราคาขายเริ่มต้นที่ 35 – 60 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการ

BOTTOM LINE

The Palazzo ปิ่นเกล้า เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มองหาบ้านเดี่ยว พร้อมที่จอดรถเยอะ 3-8 คัน บนทำเลถนนบรมราชชนนี เข้า-ออกเมืองง่ายเดินทางสะดวก เน้นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ และชอบความเป็นส่วนตัวเพียง 45 ยูนิต ตกแต่งมาในสไตล์ American Neo Classic พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านครบ ในราคาเริ่มต้น 35 – 60 ล้านบาท


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving