รีวิวฉบับที่ 2851 …THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา โครงการบ้านระดับบนสุดของ AP ที่จัดอยู่ใน Ultimate Class 75-220 ล้านบาท ถ้าพูดถึงบ้านจัดสรรในโซนกรุงเทพกรีฑานั้นได้รับความนิยมมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันขนาดของตัวบ้าน ที่ดิน และความหรูหรานั้นก็ได้รับความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ จากบ้าน 100 วา ปัจจุบันก็เป็นบ้าน 200 วา และราคาก็มาแตะระดับ 100 ล้านแล้วค่ะ

– หากเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านในระดับราคาเดียวกัน THE PALAZZO นั้นก็ได้ความคุ้มค่าในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน เรียกว่าให้มาใหญ่ที่สุดในโซน และเป็นอันดับต้นๆ ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล เพราะบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีขนาดเกิน 1,000 ตร.ม. นั้น ไม่ค่อยมีขายในตลาด ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้เราสามารถอยู่อาศัยรวมกันได้ทั้ง 3 Generations ไปจนลูกแต่งงานก็ยังอยู่ในบ้านเดิมได้ เพราะให้มาแบบ Double Master Bedroom ในทุกแบบบ้านเลย
– Function พิเศษที่บ้านซีรีส์นี้มี ได้แก่ ที่จอดรถสูงสุด 12 คัน, ห้องตู้เซฟ, ลิฟต์, สระว่ายน้ำส่วนตัว, Courtyard หน้าบ้าน
– อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ความเป็นส่วนตัวสูงมาก เพราะโครงการยูนิตน้อยเพียง 23 ยูนิต เหมาะกับคนที่ชอบความสงบเป็นส่วนตัว
– โครงการออกแบบมาในสไตล์ Beaux-arts X Biophilic design เป็นการนำสไตล์ของสถาปัตยกรรมที่ Timeless ดูหรูหราคลาสสิคและยังคงเชื่อมโยงธรรมชาติเข้าไว้ให้ใกล้ตัว ช่วยเยียวยาจิตใจ เพื่อให้สุขภาพดีขึ้นกว่าเดิม

บรรยากาศจะเป็นอย่างไรตามไปชมกันค่ะ

ข้อมูลโครงการ

THE PALAZZO Krungthep Kreetha (เดอะ พาลาซโซ่ กรุงเทพกรีฑา) ณ วันที่ 12 เมษายน 2568

 ชื่อโครงการ THE PALAZZO Krungthep Kreetha (เดอะ พาลาซโซ่ กรุงเทพกรีฑา)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จํากัด มหาชน
 SEGMENT CLASS  ULTIMATE CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอยศรีนครินทร์-ร่มเกล้า 17 เขตสะพานสูง
 ที่ดิน 15-1-57.1 ไร่
 จำนวนยูนิต 23 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Aureline บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 126.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 520 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว
  • Aldelisse บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 140.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 642 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 3 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว
  • Ambrosine บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 215 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 885 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 8 ที่จอดรถ / 3 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว / 1 Courtyard
  • Seraphielle บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 240.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 1140 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 12 ที่จอดรถ / 5 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว / 1 ห้องนิรภัย / 1 ลิฟต์ / 1 สระว่ายน้ำ

 ราคา       75-220 ล้านบาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปลายปี 2567
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2569
 เว็บไซต์โครงการ  คลิกที่นี่
 โทร  1623

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.75538016854203, 100.68978433529698
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

  • ใกล้ถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า 500 เมตร เข้าออกได้ทั้งถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าและวงแหวนกาญจนาภิเษก
  • ทำเลมีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินง่าย มีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และโรงเรียนนานาชาติ
  • มีตัวเลือกในการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนศรีรัช ถนนกาญจนาภิเษก และมอเตอร์เวย์

แผนที่จากทางโครงการ THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา (THE PALAZZO Krungthep Kreetha) ค่ะ

‘ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า’ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อย่าน ‘กรุงเทพกรีฑา’ เป็นถนนตัดใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อประมาณ 5 – 6 ปีก่อน และหลังจากนั้นถนนเส้นนี้ก็บูมหนักขึ้นอย่างมาก เพราะเป็นทำเลที่ยังสามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 9 – ห้วยขวางได้ง่าย อีกทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่บนถนนของตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็น Little Walk / Market Place และตลาดเดินเล่น รวมถึงยังมีโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอีกหลายแห่งด้วยค่ะ จึงทำให้ช่วงหลายๆปีที่ผ่านมามีโครงการเปิดใหม่ในย่านนี้เยอะมาก โดยเฉพาะโครงการระดับ Luxury ที่เป็นบ้านหรูทั้งหลาย

THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา (THE PALAZZO Krungthep Kreetha) ตั้งอยู่ในซอยศรีนครินทร์-ร่มเกล้า 17 เข้าจากถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าประมาณ 500 เมตร และหากเข้ามาจากทางวงกาญจนาภิเษกจะมีระยะทางประมาณ 1.5 กม. เท่านั้น ซึ่งเป็นซอยยอดฮิตที่มีโครงการบ้านหรูอยู่หลายแห่งในซอยนี้ ทำให้บรรยากาศในซอยดูสวยงามไปตลอดทางเลยนะคะ

ส่วนตัวมองว่าถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้านั้นรถไม่ค่อยติดเลยนะคะ เป็นถนนเส้นใหญ่ 6 – 8 เลน แถมเรายังสามารถเลือกแวะซื้อของ/ทานอาหารก่อนกลับบ้านได้อีกด้วย

ตัวอย่างความอุดมสมบูรณ์ใกล้โครงการอย่าง Little Walk ที่จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ ภายในมีร้านอาหารชื่อดังและสิ่งอำนวยความสะดวกครบ รวมถึงยังมี Villa Market ให้เราได้เดินช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านได้ด้วยค่ะ

ภายใน Villa Market ก็จะเหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆเลย มีทั้งของกินของใช้ ของสด และอาหารแช่แข็งครบ แต่ที่ต่างจากห้างทั่วไปก็คือ เค้าจะมีผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศขายด้วย โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวพวกเลย์ ชีโตส ที่ปกติมักจะหาซื้อได้ยากมากๆ แต่สามารถซื้อได้ที่นี่สบายๆเลยค่ะ

ทางพิเศษศรีรัช :

เป็นทางด่วนที่น่าจะมีโอกาสได้ใช้งานบ่อยที่สุด ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 9.6 km. (รวมระยะกลับรถ) ใช้เวลาประมาณ 9 – 14 นาทีก็ถึงค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนอาจมีการจราจรที่ติดขัดตรงถนนศรีนครินทร์ ก็อาจต้องเผื่อเวลาเพิ่มสัก 15 นาที สามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 9 – ห้วยขวางได้สะดวก

มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ :

จากโครงการเราต้องไปกลับรถที่ทางคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษก จึงลัดมาเข้ามอเตอร์เวย์เพื่อไปทางชลบุรี-พัทยาได้ค่ะ

วงแหวนกาญจนาภิเษก :

เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการเดินทาง หากต้องการเดินทางไปโซนบางนา ก็สามารถวนไปขึ้นวงแหวนได้เลยตามภาพ แต่หากต้องการไปรามอินทรา ก็วิ่งตรงขึ้นไปยาวๆ ไม่ต้องกลับรถค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบของโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการแนวราบค่ะ จึงมีความเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัยดี แถมการอยู่ในซอยมานิดหน่อย ไม่ได้ติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้าโดยตรง ยิ่งช่วยให้มีความสงบมากยิ่งขึ้น

ทิศเหนือ : ติดกับ หมู่บ้านพักอาศัย
ทิศใต้ : ติดกับ ซอยศรีนครินทร์-ร่มเกล้า 17 และที่ดินเปล่า
ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ดินเปล่า
ทิศตะวันตก : ติดกับ หมู่บ้านพักอาศัย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Little Walk กรุงเทพกรีฑา ~ 750 เมตร
  • Market Place กรุงเทพกรีฑา ~ 2.7 กม.
  • The Park กรุงเทพกรีฑา ~ 4.3 กม.
  • สัมมากรเพลส รามคำแหง ~ 6.7 กม.
  • Lotus’s Go Fresh กรุงเทพกรีฑา ~ 6.7 กม.
  • Market Place สุขาภิบาล 3 ~ 7.4 กม.
  • The Mall บางกะปิ ~ 7.5 กม.
  • Lotus’s, London Street พัฒนาการ ~ 7.9 กม.
  • The Paseo Town รามคำแหง ~ 8.2 กม.
  • The Nine Center ~ 8.6 กม.
  • ตลาดเสรีมาร์เก็ต พระราม 9 ~ 9 กม.
  • The Mall รามคำแหง ~ 9.4 กม.
  • Thanya Park ~ 10.6 กม.
  • Seacon Square ศรีนครินทร์ ~ 12 กม.
  • The Paseo Mall ลาดกระบัง ~ 13.4 กม.
  • Little Walk ลาดกระบัง ~ 14.1 กม.
  • ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ ~ 14.3 กม.
  • Robinson ลาดกระบัง ~ 14.4 กม.
  • EmQuartier ~ 17.3 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 6.7 กม.
  • รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง ~ 7.1 กม.
  • รพ.รามคำแหง ~ 7.4 กม.
  • รพ.วิภาราม พัฒนาการ ~ 9 กม.
  • รพ.กรุงเทพ ~ 14 กม.

โรงเรียน

  • Brighton College Bangkok ~ 3.1 กม.
  • Ascot International School ~ 5.6 กม.
  • Wellington College International School ~ 5.6 กม.
  • Heathfield International School ~ 6.4 กม.
  • Mandarin International School (MIS) ~ 7 กม.
  • Pensmith STEM International ~ 7.3 กม.
  • Assumption University Huamak Campus (ABAC) ~ 7.3 กม.
  • สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ~ 7.5 กม.
  • Ramkhamhaeng Advent International School (RAIS) ~ 7.9 กม.
  • รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 8.5 กม.
  • รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ~ 8.6 กม.
  • รร.นวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ~ 9.3 กม.
  • รร.สารสาสน์วิเทศร่มเกล้า อินเตอร์ ~ 9.4 กม.
  • International Montessori Center (IMC) ~ 9.6 กม.
  • Stamford International University ~ 9.6 กม.
  • Beaconhouse Yamsaard International School (BYIS) ~ 9.9 กม.
  • ม.รามคำแหง (RU) ~ 10 กม.
  • RIS Swiss Section Deutschsprachige Schule Bangkok ~ 10.6 กม.
  • Kincaid International School ~ 10.6 กม.
  • Traill International School ~ 11.6 กม.
  • สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) ~ 14.5 กม.
  • Ruamrudee International School (RISM) ~ 15 กม.

การเดินทาง

  • วงแหวนกาญจนาภิเษก ~ 1.9 กม.
  • ทางด่วนศรีรัช ด่านศรีนครินทร์ ~ 9.6 กม.
  • มอเตอร์เวย์ ทางพิเศษหมายเลข 7 ~ 12.8 กม.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 14.6 กม.

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • ความเป็นส่วนตัวสูงมาก เพราะโครงการยูนิตน้อยเพียง 23 ยูนิต เหมาะกับคนที่ชอบความสงบเป็นส่วนตัว

THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา โครงการบ้านระดับบนสุดของ AP ที่จัดอยู่ใน Ultimate Class 75-220 ล้านบาท ออกแบบมาในสไตล์ Beaux-arts ดู Timeless หรูหราคลาสสิค

หากดูจาก Master Plan ประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันค่ะ ประเด็นแรก คือ “Clubhouse และสวนส่วนกลางอยู่หน้าโครงการ” ช่วยให้บรรยากาศหน้าโครงการดูหรูหรา เป็นวิวสวยๆ สะดุดตาเวลาที่ขับรถผ่านเข้าออก

ประเด็นที่ 2 คือ “ความเป็นส่วนตัว” จากจำนวนบ้านของโครงการเพียง 23 ยูนิต ทำให้เพื่อนบ้านในโครงการไม่เยอะนัก แชร์กันใช้ Facility ส่วนกลางได้สบายๆ ค่าส่วนกลางราคาเป็นมิตรเพียง 50 บาท/ตร.ว. ถือว่าไม่แพงเลยสำหรับโครงการที่มียูนิตน้อยแบบนี้

ประเด็นที่ 3 คือ “ทิศของบ้าน” บ้านในโครงการจะมีให้เลือกเป็นทิศยอดนิยมทั้ง เหนือ, ใต้, ตะวันออก ซึ่งบ้านทิศเหนือฝั่งหน้าบ้านจะโดนแดดในช่วงเช้าและร่มในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศใต้จะสลับกัน ซึ่งการเลือกบ้านว่าหันทิศไหนดีจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น หากเป็นคนชอบตื่นสายก็ควรเลือกบ้านที่มีตำแหน่งเตียงนอนอยู่ทางทิศใต้ เพื่อให้แสงไม่ส่องเข้าบ้านในช่วงเช้า และการวางแปลนบ้านทิศเหนือ-ใต้ จะสอดคล้องกับลมประจำฤดูของไทยมากที่สุด ช่วยให้ลมไหลเวียนเข้าบ้านได้ดี

ตัวซุ้มประตูออกแบบมาให้มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน โดยจะแยกทางเข้า-ออกอย่างชัดเจนระหว่าง Visitor กับลูกบ้านทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน

สำหรับประตูเหล็กบานเลื่อนจะเปิดอัตโนมัติด้วยการจำป้ายทะเบียนตามมาตรฐานของระบบ KATSAN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน

ผ่านซุ้มประตูเข้ามาจะเจอกับน้ำพุขนาดใหญ่เป็นวงเวียนโถงต้อนรับ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ ซึ่งบริเวณรอบๆ จะเป็นสวนส่วนกลางและอาคาร Clubhouse ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นโซนบ้านพักอาศัยค่ะ

Sculpture ที่ต้อนรับด้านหน้ามีชื่อว่า The Aphrodite Nexus เทพีแห่งความรัก, ความงาม และสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ค่ะ

ในส่วนของการออกแบบ Landscape ทั้งสวนและวงเวียนออกแบบโดยเทคนิค Symmetrical Balance Design ให้ด้านซ้ายและขวาเท่ากันอย่างสมมาตร ซึ่งเป็นเทคนิคที่ Beaux-arts ใช้กัน เช่นที่สวนของพระราชวังแวร์ซาย

ตกแต่งด้วยน้ำพุ Myrtle (เมอ-เติ้ล) เป็นจุดนำสายตาต่อจากวงเวียนน้ำพุ ซึ่ง Myrtle นี้เป็นดอกไม้ที่ใช้ทำเป็นมงกุฎให้เทพ Aphrodite สวมใส่ นอกจากนี้ยังเป็นดอกไม้ที่แสดงถึง ความรัก ความงาม และ ความอุดมสมบูรณ์ด้วยค่ะ

ถัดมาที่ Clubhouse ของ THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา ได้แรงบันดาลใจมาจากอาคารชื่อดังในฝรั่งเศสอย่าง Grand Palais Champs Elysees Paris เป็นอาคารในยุค Beaux-arts ที่สร้างในปี 1900

อาคารนี้เป็นตึกแรกๆ ที่ใช้โครงสร้างโลหะและกระจกจำนวนมาก เพราะ ในยุคก่อนหน้านั้น มนุษย์ยังไม่สามารถที่จะผลิตโลหะและกระจกเป็นจำนวนมากๆ ได้ ดังนั้นจุดเด่นของคือการใช้โลหะใน Facade หรือเรียกว่า Wrought iron และการใช้ Sky light

ถ้าเราดูจาก Scale ของตึกเทียบกับตัวเราจะเห็นว่าอาคารมีขนาดใหญ่ แม้จะมีเพียง 2 ชั้น ประกอบกับหลังคาที่ดูเรียบ เน้นเส้นสายแนวตั้งและนอน ดูมั่นคง คนละแบบกับบ้านในโครงการอีก 23 หลัง ที่ใช้หลังคาทรงปั้นหยา ทำให้ดู Cozy มากขึ้น

ทางขึ้นอาคารจะมีทั้งบันไดขนาดใหญ่และทางลาดรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ ให้สามารถเข็นวีลแชร์ขึ้นลงได้สะดวก

สระว่ายน้ำ

Image 1/5
สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำรองรับการใช้งานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือมีขนาด 6.4×17 เมตร ยาวพอให้ว่ายออกกำลังกายได้แต่ก็เหมาะกับการใช้งานในช่วงเย็นที่แดดร่มสักหน่อย ส่วนสระเด็กจะแยกโซนไว้เพื่อความปลอดภัยมีขนาด 6.4×2.2 เมตร ลึก 0.6 เมตร

เมื่อว่ายน้ำเสร็จแล้วก็สามารถเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ โดยห้องน้ำส่วนกลางจะขยับเข้ามาด้านในได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ห้องน้ำส่วนกลาง

Image 1/4
ห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำส่วนกลาง

ภายในมีห้องสุขา ห้องอาบน้ำ ตู้ล็อคเกอร์ และ Sauna ครบครัน

ภายใน Clubhouse ชั้น 1 :

Galerie Royale

ภายใน Clubhouse ได้แรงบันดาลใจในการตกแต่งมาจากพระราชวังในฝรั่งเศสในยุค Beaux-arts ที่เป็นบ้านพักตากอากาศของราชวงศ์ ซึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างศิลปะสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน

Lobby นี้มีชื่อเก๋ๆ ว่า Galerie Royale เป็นโถงต้อนรับขนาดใหญ่ ห้องนี้มีการจำลอง Sky Light ที่เป็นจุดเด่น ของ Grand Palais มาใช้ในงาน Interior ลายพื้นจะเป็น Custom-Made เฉพาะที่โครงการนี้เท่านั้น

สังเกตด้านบนจะมี Chandelier ที่มีลายเหมือนกับกระเบื้อง แต่นำมาขึ้นรูป 3 มิติจนเกิดเป็นประติมากรรมลอยตัว

Jardin lounge (จาแดง เลาจ์)

ถัดเข้ามาด้านในเป็น Lounge มีชื่อเรียกว่า Jardin lounge (จาแดง เลาจ์) เราจะได้กลิ่นอายตะวันตกจากหัวเสาแบบ Corinthian, ชั้นวางหนังสือซุ้มไม้ (Alcove) ตกแต่งด้วยลายเปลือกหอย ผสมกับศิลปะจากฝั่งตะวันออก เช่น วัสดุผ้าไหมบนโซฟาที่เป็น Center Piece ของห้อง รวมถึงการตกแต่งโดยใช้พืชพรรณแบบ Tropical เช่น ต้นหมาก และในห้องนี้ยังสามารถเห็นวิวสระว่ายน้ำด้วยค่ะ

ภายใน Clubhouse ชั้น 2 :

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีทางเดินยาวเชื่อมต่อฟังก์ชันต่างๆ ตามไปชมกันค่ะ

The salon (เดอะ-ซา-ลอง)

ห้องแรกเลยชื่อว่า The salon ใช้เป็นห้องรับรองก่อนที่จะเข้าไปใน Private Dining Area ที่อยู่ด้านใน ซึ่งลูกบ้านสามารถจองใช้ห้องนี้แบบเป็นส่วนตัวได้เลยนะคะ

ภายในตกแต่งด้วย Chandelier ที่มีแรงบันดาลใจจากต้น Cherry Blossom ซึ่งเป็นต้นที่จะผลิบานในฤดูร้อนเท่านั้น องค์ประกอบอื่นๆในห้อง เช่น เก้าอี้ หรือ ซุ้มที่นั่งแบบ Alcove ล้วนมีแรงบันดาลใจมากจากธรรมชาติ สังเกตได้จาก Form, สี และ Texture ขององค์ประกอบในห้อง

Botanical Brasserie (โบ-ทา-นิ-คอล-แบ-เซอร์-รี่)

Image 1/4
Botanical Brasserie

Botanical Brasserie

ด้านในของ The salon จะมี Co-Kitchen ให้ใช้อีก 1 ห้อง มีชื่อเรียกว่า Botanical Brasserie (โบ-ทา-นิ-คอล-แบ-เซอร์-รี่) ซึ่งเราสามารถจ้างเชฟส่วนตัวมาทำอาหารให้ได้ มีอุปกรณ์เครื่องครัวครบ พร้อมเคาท์เตอร์ครัวแบบเทปันยากิ ทำให้ลูกบ้านสามารถที่จะพูดคุยและ Enjoy กับการดูเชฟทำอาหารไปพร้อมๆกันได้

ตรงกลางห้องตกแต่งด้วย Chandelier ที่ได้แรงบันดาลใจจากต้น Wisteria ซึ่งจะผลิบานสวยในฤดูหนาว

Verdant Theatre (เวอ-แดน-เทีย-เตอ)

Image 1/3
Verdant Theatre

Verdant Theatre

ลูกบ้านสามารถจองใช้ Theatre แบบเป็นส่วนตัวได้ ซึ่งห้องนี้ใช้วัสดุดูดซับเสียงกรุผนัง ตกแต่งด้วยลายธรรมชาติ และมี Armchair 5 ตัวแบบ Over-sized ให้นั่ง/นอนดูหนังได้สบาย

Gymnasium

Image 1/5
Gymnasium

Gymnasium

ห้อง Fitness ของที่นี่ใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายของ Technogym แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ Weight Training, Cardio และ Free Style Training สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบ Fall Detector System ที่โครงการติดตั้งมาให้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุระบบจะส่งสัญญาณไปให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อมาช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
    ชั้น 1
    – Gallery Royale (Lobby)
    – Jardin Lounge (Lounge)
    ชั้น 2
    – The Salon (Pre-Function Room)
    – Botanical Brasserie (Co-Kitchen)
    – Verdant Theatre (Theatre)
    – Gymnasium (Fitness)
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือขนาด 6.4×17 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • สระเด็กขนาด 6.4×2.2 เมตร ลึก 0.6 เมตร
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 220.6 ตร.ว.
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 10 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 2 เมตร
  • ถนนแอสฟัลท์ พื้นผิวมีความยืดหยุ่น ขับขี่นุ่มนวลกว่าถนนคอนกรีต
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนรองกว้าง 10 เมตร
  • เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบรั้วเลื่อนไฟฟ้า
  • เข้าออกด้วยระบบ KATSAN (สแกนป้ายทะเบียนรถ)

แบบบ้าน

Highlights

  • หากเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านในระดับราคาเดียวกัน The Palazzo นั้นก็ได้ความคุ้มค่าในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน เรียกว่าให้มาใหญ่ที่สุดในโซน และเป็นอันดับต้นๆ ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล เพราะบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีขนาดเกิน 1,000 ตร.ม. นั้น ไม่ค่อยมีขายในตลาด ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้เราสามารถอยู่อาศัยรวมกันได้ทั้ง 3 Generations ไปจนลูกแต่งงานก็ยังอยู่ในบ้านเดิมได้ เพราะให้มาแบบ Double Master Bedroom ในทุกแบบบ้านเลย
  • Function พิเศษที่บ้านซีรีส์นี้มี ได้แก่ ที่จอดรถสูงสุด 12 คัน, ห้องตู้เซฟ, ลิฟต์, สระว่ายน้ำส่วนตัว, Courtyard หน้าบ้าน
  • โครงการออกแบบมาในสไตล์ Beaux-arts X Biophilic design เป็นการนำสไตล์ของสถาปัตยกรรมที่ Timeless ดูหรูหราคลาสสิคและยังคงเชื่อมโยงธรรมชาติเข้าไว้ให้ใกล้ตัว ช่วยเยียวยาจิตใจ เพื่อให้สุขภาพดีขึ้นกว่าเดิม

บ้านของโครงการ THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา ออกแบบในสไตล์ Beaux-arts และ Biophilic design ผสมผสานสถาปัตยกรรมเหนือกาลเวลาอันหรูหราคลาสสิก เข้ากับความร่มรื่นของธรรมชาติ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความผ่อนคลายและเยียวยาจิตใจ อันนำไปสู่สุขภาวะที่ดีขึ้น โดยมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

  • Aureline บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 126.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 520 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว
  • Aldelisse บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 140.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 642 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 3 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว
  • Ambrosine บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 215 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 885 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 8 ที่จอดรถ / 3 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว / 1 Courtyard
  • Seraphielle บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 240.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 1140 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 12 ที่จอดรถ / 5 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว / 1 ห้องนิรภัย / 1 ลิฟต์ / 1 สระว่ายน้ำ

สรุปวัสดุภายในบ้าน

  • โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐมวลเบา Q-Con ทุบต่อเติมได้ในอนาคต
  • หลังคาปูด้วยกระเบื้องหลังคาคอนกรีตลอนเรียบ พร้อมกรุแผ่นสะท้อนความร้อน
  • ผนังภายนอกกรุด้วยกระเบื้อง 60×120 ซม. ลาย Travertino Pearl
  • ผนังภายในฉาบปูนเรียบ ทาสี และมี Wallpaper แถมให้ทั้งหลัง
  • โครงสร้างที่จอดรถ ลงเข็มเท่าตัวบ้านในส่วนของเสาโรงจอดรถ และลงเข็มสั้นในส่วนของพื้นโรงจอดรถ ปูพื้นด้วยกระเบื้อง
  • ประตูทางเข้าหน้าบ้าน : ประตูอลูมิเนียม ทําสี Powder coat ลายไม้สีโอ๊ค พร้อมบานกระจก และกรุเชิงสีเงิน (กว้าง 2.2 เมตร, สูงพิเศษถึง 6.7 เมตร)
  • มือจับประตูบานหลัก : ยี่ห้อ Baldwin
  • มือจับประตูบานรอง : Digital Door Lock ยี่ห้อ Lockin รุ่นที่ได้รางวัล IDA Design Awards มาพร้อมเทคโนโลยีการจดจำเส้นเลือดดำบนฝ่ามือ ที่ใช้กันแพร่หลายในระบบธนาคาร
  • อุปกรณ์มือจับประตูในบ้าน : Hafele
  • วงกบหน้าต่าง : อลูมิเนียม Euro Series ปลอดภัยด้วยระบบ Multipoint lock ลดเสียงจากภายนอกลง 40 dB
  • ความสูงพื้น-ฝ้าทั้ง 2 ชั้น 3.3 เมตร และบริเวณ Double Volume 7.5 เมตร
  • พื้นโถง-นั่งเล่นชั้น 1 : กระเบื้อง Porcelain ขนาด 80×80 ซม.
  • พื้นห้องนอนชั้น 1 : Ultra Engineering Wood
  • พื้นชั้น 2 : พื้นไม้สักสำเร็จรูป
  • พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องขนาด 60×60 ซม.
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยพื้นไม้สักสำเร็จรูป
  • ราวบันไดเหล็ก Wrought Iron พร้อมราวจับไม้สัก
  • สุขภัณฑ์ Villeroy & Boch, Hafele หรือเทียบเท่า
  • Built-in ครัว : ชุดครัวสำเร็จพร้อมเตาไฟฟ้า Kuppersbusch และ Hood แบรนด์ Teka
  • Top เคาน์เตอร์ครัวและ Backspalsh : หิน Quartz หนา 18 มม.
  • ระบบไฟ 3 เฟส ขนาด 50(150) แอมป์ สำหรับแบบบ้าน Aureline, Adelisse, Ambrosine

    เฉพาะแบบบ้าน Seraphielle
  • ระบบไฟ 3 เฟส ขนาด 200 แอมป์
  • สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาด 8.4×2.4 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องนิรภัยยี่ห้อชั้นนำระดับโลก Chubbsafe แบรนด์อังกฤษ
  • ลิฟต์ Jardine Schindler (Sling System) ขึ้นลงได้ครั้งละ 5 คน

นวัตกรรมภายในบ้าน

  • Magnetic Sensor ทั้งชั้น 1 และ 2
  • Shock Sensor เฉพาะชั้น 1
  • Motion Sensor (ซึ่งลูกค้าสามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ตัวนี้เองได้)
  • IP Camera/Wifi Camera มีให้ 2 จุดคือ โรงจอดรถและห้องนั่งเล่นชั้น 1
  • Smart Video Door Bell สามารถ Video Call กับ Visitor ได้ก่อนเปิดให้เข้าบ้าน
  • Smart Station เชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกตัวของ LifeSmart เข้าด้วยกันและคอยเชื่อมต่อ Internet ให้เข้ากับอุปกรณ์ทุกตัวของ LifeSmart
  • SPOT Mini ควบคุม/สั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าแทนรีโมต เช่น ทีวี, แอร์, เครื่องเสียง เป็นต้น สามารถตั้งเวลา เปิด/ปิด ผ่าน Smartphone ได้
  • CUBE Clicker ปุ่มฉุกเฉินในห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำ เพื่อรองรับผู้สูงอายุ
  • Smart Touch Switch สวิตซ์ไฟอัจฉริยะที่สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิด และสั่งงานได้จาก Smartphone
  • CUBE Motion Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ทำงานร่วมกับ Smart Switch
  • Smart Plug ปลั๊กไฟอัจฉริยะที่สามารถเปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ผ่าน Smartphone และสามารถตั้งเวลาการทำงานได้เองโดยอัตโนมัติ
  • Smoke Detector เซนเซอร์สำหรับตรวจจับควันไฟ อุปกรณ์จะส่งข้อความเข้าสมาร์ทโฟนได้ทันที
  • General Controller อุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะ โดยการเชื่อมต่อสายเข้ากับอุปกรณ์ที่เราต้องการควบคุม เช่นมอเตอร์ประตูไฟฟ้า หรืออุปกรณ์กันขโมย
  • Smart Door Lock C200 ปลดล็อคได้ 5 วิธี Finger Print, Password, NFC Card, Apps และกุญแจ
  • Solar Cell 5.5 kW (0.55 Kw เป็นจำนวน 10 แผง)
  • Air Purifier กรองฝุ่น pm 2.5 ด้วย HEPA Filter, ช่วยลดอุณหภูมิในบ้านและช่วยเติมอากาศใหม่เข้ามาในบ้าน
  • EV Charger Zaptec จากประเทศ Norway

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


บ้านตัวอย่างแบบ Ambrosine

Ambrosine ออกแบบบ้านเป็นทรงตัว L ล้อม Courtyard ตรงกลาง ข้อดีคือบริเวณพื้นที่พักผ่อนหลักจะได้วิวสวน ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ใหญ่พอจะทำสระว่ายน้ำได้นะคะ ที่ดินเริ่มต้น 215 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 885 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 8 ที่จอดรถ / 3 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว / 1 Courtyard  ชั้น 1 –  เข้ามาโซนแรกจะมี Foyer ขนาดใหญ่เป็นพื้นที่ต้อนรับ เชื่อมต่อกับ Multi-Function และ ห้องน้ำแบบ Powder Room ถัดเข้าไปจึงเป็นห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างที่มีห้องน้ำในตัว อยู่ในตำแหน่งเข้ามุม ได้วิวสวนหลังบ้าน แยกกับพื้นที่พักผ่อนหลักของบ้านที่อยู่ตรงกลาง ทำให้ห้องนอนได้ความสงบเป็นส่วนตัวนะ

พื้นที่พักผ่อนหลักจะอยู่ในโซนตรงกลางของตัวบ้าน และอยู่ติดกับประตูทางเข้าฝั่งที่จอดรถ จัดเป็นแบบ Open Plan เชื่อม Living + Dining + Pantry Area เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งโซนนี้จะได้วิวสวนจากทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านเลยนะคะ

ในส่วนของ Service Zone จะจัดอยู่ในโซนเดียวกันทั้งห้องครัวไทย, Laundry และห้องพักของแม่บ้าน รวมกันไว้อย่างเป็นสัดส่วน

ชั้น 2 – แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอน 4 ห้อง เป็นห้องนอนใหญ่ 2 ห้องและห้องนอนรอง 2 ห้อง ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัว สำหรับพื้นที่อเนกประสงค์จะมีทั้งหมด 2 ตำแหน่งอยู่บริเวณโถงทางเดินส่วนกลาง ติดกับ Double Volume ซึ่งเราสามารถจัดเป็นห้องพระหรือพื้นที่นั่งเล่นก็ได้

หลังคาทรงปั้นหยาช่วยระบายน้ำได้ดี ปูด้วยกระเบื้องหลังคาคอนกรีตลอนเรียบ พร้อมกรุแผ่นสะท้อนความร้อน

โรงจอดรถ

Image 1/4
โรงจอดรถ

โรงจอดรถ

พื้นที่จอดรถจะมีหลังคาบังแดดมาให้พร้อมใช้งานเลย โดยมีความกว้างประมาณ 11 เมตร ลึก 10 เมตร จอดรถเรียงกันได้ 4 คันและซ่อนคันได้อีก 4 คัน รวมเป็น 8 คันเลย ซึ่งทางโครงการจะลงเข็มเท่าตัวบ้านในส่วนของเสาโรงจอดรถ และลงเข็มสั้นในส่วนของพื้นโรงจอดรถ ปูพื้นด้วยกระเบื้องและหากใครรักรถมากๆ ก็สามารถติดตั้ง Automatic Garage เพิ่มเติมได้นะคะ

ภายในที่จอดรถจะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งมาให้ พร้อม EV Charger ยี่ห้อ Zaptec จาก Norway และมีตู้เก็บของพร้อมบานปิด ใช้เก็บของที่มีความสูงมากๆ อย่างพวกถุงกอล์ฟ, อุปกรณ์เดินป่า, อุปกรณ์จัด Outdoor Party ได้สบาย

Courtyard

Image 1/3
Courtyard หน้าบ้าน

Courtyard หน้าบ้าน

จุดเด่นอย่างหนึ่งของบ้าน Type นี้คือมี Courtyard หน้าบ้านที่สามารถจัดสวนตกแต่งแบบแกรนด์ๆ เป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวบ้านได้ และพื้นที่ยังกว้างพอให้ทำสระว่ายน้ำได้ด้วยนะคะ ในส่วนของสวนจะมีการปูหญ้า, ต้นไม้ริมรั้ว พร้อมไม้ยืนต้นมาให้เป็นมาตรฐานค่ะ

ประตูหลักหน้าบ้านสะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบในสไตล์ Beaux-arts สถาปัตยกรรมที่มีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่สื่อถึงยุครุ่งเรือง ดูคลาสสิค มีความวิจิตรปราณีต ซึ่งทางโครงการได้นำมา Redefine ปรับให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น

มือจับประตูแบรนด์ Baldwin รุ่น Bristol trim สี Satin Brass and Black จากสหรัฐอเมริกา ผลิตจากทองเหลืองแท้ขึ้นรูปตัดแต่ง และปัดเงาโดยผ่านขั้นตอนการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

Foyer

เมื่อเข้ามาในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer โปร่งๆ ด้วยฝ้าเพดานสูง 3.3 เมตร เป็นพื้นที่ต้อนรับที่เราสามารถตกแต่งเพื่อแสดงออกถึงตัวตนของเจ้าของบ้านได้เต็มที่ จะจัดโชว์ Art Piece หรือ เป็นมุมนั่งพักคอยของแขกก็ดูโอ่อ่าดีค่ะ

ด้านข้างจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องต่างๆ ทั้ง Multi-Function Room, ห้องน้ำแบบ Powder Room

สังเกตที่ประตูหน้าต่างชั้น 1 และหน้าต่างชั้น 2 จะติดตั้ง Magnetic Sensor มาให้ ในส่วนของ Shock Sensor จะติดตั้งให้เฉพาะที่ชั้น 1 นะคะ

Living Room 1

ห้องนั่งเล่นห้องแรกของบ้าน เราว่าเหมาะจะจัดเป็นพื้นที่รับแขก อย่างเพื่อนของลูกๆ มาบ้านก็คงอยากได้พื้นที่ส่วนตัวไว้พูดคุยกัน โดยไม่ต้องไปรบกวนสมาชิกคนอื่นของบ้านเลยค่ะ

Powder Room

Image 1/3
Powder Room

Powder Room

ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 1 ออกแบบมาเป็น Powder Room สำหรับรับรองแขก ซึ่งเราชอบที่เค้าออกแบบให้มีประตู 2 ชั้น คือเมื่อเปิดประตูบานแรกเข้าไป จะเป็นโถงโล่งๆ ตกแต่งสวยงาม ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับห้องน้ำที่อยู่ด้านในอีกที หากทำธุระแล้วมีเสียงมีกลิ่น จะได้ไม่เคอะเขิน

สุขภัณฑ์ที่ได้จะเป็นแบบครบชุดเหมือนในบ้านตัวอย่าง ใช้แบรนด์ Villeroy & Boch, Hafele เป็นหลัก ได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ จึงใช้งานได้สะดวกทั้งสมาชิกในบ้านและแขกที่มาเยี่ยมเยียน

Bedroom 1

Image 1/6
Bedroom 1

Bedroom 1

ถัดเข้ามาด้านในจึงเป็นตำแหน่งของห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่าง ที่มีห้องน้ำในตัว ห้องนี้อยู่ในตำแหน่งเข้ามุม ได้วิวสวนหลังบ้าน แยกกับพื้นที่พักผ่อนหลักของบ้านที่อยู่ตรงกลาง ทำให้ห้องนอนได้ความสงบเป็นส่วนตัว

ภายในห้องมีขนาดเพียงพอให้วางเตียง 6-7 ฟุตได้ และมีพื้นที่ปลายเตียงสำหรับวางโต๊ะเขียนหนังสือ หรือติดตั้งชั้นวางทีวีได้สำหรับพื้นห้องจะปูด้วย Ultra Engineering Wood ยี่ห้อO2E ผิวไม้จริงหน้าใหญ่ คุณสมบัติกันน้ำได้ ไม่บวม มี Cushion Layer เพิ่มความนุ่มและดูดซับเสียง กันรอยขีดข่วนมากขึ้น 40-50%

มาพร้อมห้องน้ำในตัวที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุ เป็นประตูบานเลื่อนที่เปิดได้กว้างประมาณ 90 ซม. ระดับพื้นห้องจะเท่ากับพื้นห้องนอน ไม่มีพื้นที่ลดระดับเลย จึงสามารถเข็นวีลแชร์ได้สะดวก ที่ประตูทางเข้าจะมี Floor Drain เรียบๆมาให้ กันน้ำย้อนไปยังส่วนอื่น และมีที่นั่งอาบน้ำแบบคอนกรีต Built-in มาให้ อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ติดตั้งมาให้คือ CUBE Clicker ปุ่มฉุกเฉินในห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำ เพื่อรองรับผู้สูงอายุ ซึ่งจะส่งสัญญาณเตือนผ่าน Applications บนมือถือค่ะ

บริเวณโซนกลางบ้านจัดแบบ Open Plan รวม Living + Dining + Pantry Area เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งบ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยฉากกั้น เพื่อแยกพื้นที่ทางเดินออกจากพื้นที่ใช้สอย เป็นโถงทางเดินโล่งๆ เชื่อมไปยังประตูบ้านทางฝั่งโรงจอดรถค่ะ

บนผนังจะติดตั้งแผงจอควบคุมอัจฉริยะด้วย 4 ปุ่มหลัก ที่สามารถใช้ควบคุมสมาร์ทโฮมภายในบ้านได้ และเชื่อมต่อกับ Video Door Bell หน้าบ้านเพื่อสื่อสาร 2 ทางได้

Living + Dining + Pantry Area

Image 1/8
Living Area

Living Area

พื้นที่โซนนี้จัดแบบ Open Plan เราจึงสามารถจัดฟังก์ชันที่เหมาะกับครอบครัวเราได้เลยนะคะ อย่างในบ้านตัวอย่างจัดไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่น ทานข้าว และ Pantry ครัว ดูน่าใช้งานดีและน่าจะเป็นพื้นที่หลักที่สมาชิกในบ้านได้มาพบปะ ทานข้าว ทำกิจกรรมร่วมกัน

Highlight ของบริเวณนี้คือ เป็นพื้นที่ Double Volume สูงถึง 7.5 เมตร หากใครต้องการติดตั้งโคมไฟระย้า เพิ่มความหรูหราก็ติดตั้งโซนนี้ได้เลย

ในส่วนของ Pantry ครัว ดูเหมาะกับใครที่ชอบทำขนม, ทำอาหารเป็นงานอดิเรกก็เหมาะกับมุมนี้เลย ซึ่งโครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมหน้าบานและตู้ลอย หน้าตาจะคล้ายแบบในบ้านตัวอย่างนะคะ แต่ไม่เหมือน 100% โดย Top เคาน์เตอร์ครัวและ Backspalsh ใช้เป็นหิน Quartz หนา 18 มม. มีซิงค์ล้างจานของ Teka และเตาอบของ Kuppersbusch ค่ะ

Kitchen

Image 1/4
Kitchen

Kitchen

ครัวไทยที่ให้มาเป็นครัวปิดมีประตูติดตั้งมาให้จึงสามารถทำอาหารที่มีกลิ่นและควันฉุนๆ ได้จริงจัง และมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดระบายกลิ่นควันได้สะดวก พื้นที่ในครัวกว้างมากทีเดียว เพียงพอที่จะวางเคาน์เตอร์แบบ Island ตรงกลางได้ ซึ่งบ้านมาตรฐานก็จะมีชุดครัวสำเร็จพร้อมเตาไฟฟ้า Kuppersbusch และ Hood แบรนด์ Teka พร้อมซิงค์ล้างมาให้ครบพร้อมใช้งานเลยค่ะ

ทางเข้าฝั่งโรงจอดรถ

จากโรงจอดรถจะมีประตูทางเข้าบ้านทางฝั่งที่ใกล้ห้องครัว เวลาซื้ออาหารกลับมาก็หิ้วไปเก็บในห้องครัวได้สะดวก ซึ่งโครงการจะติดตั้ง Digital Door Lock มาให้พร้อมใช้งานเลยค่ะ

มือจับแบบ Digital Door Lock ที่ติดตั้งไว้ให้ของยี่ห้อ Lockin รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ได้รางวัล IDA Design Awards ออกแบบโดย Hartmut Esslinger นักออกแบบ Industrial Design จากเยอรมัน จุดเด่นของมือจับนี้มีเยอะมาก ได้แก่

1. ออกแบบให้เข้ากับสรีระของมือในการจับอุปกรณ์
2. เปิดประตูได้ 5 วีธี เพื่อความสะดวกสบายทั้ง 3D Face Scan, Finger Print, Biometric Palm Vein เทคโนโลยีการจดจำเส้นเลือดดำบนฝ่ามือ ที่ใช้กันแพร่หลายในระบบธนาคาร, Pin code, NFC card
3. Quiet Lock Mechanism เทคโนโยยีการลดเสียงรบกวน
4. เด็กสามารถเปิดได้สะดวก เพราะอุปกรณ์สามารถ สแกนบุคคลที่มีความสูง 1.15 เมตรขึ้นไป โดยยืนยันตัวตนได้อย่างรวดเร็ว และความกว้างของช่วงองศาในการสแกนใบหน้าอยู่ที่ 1.3m – 2m.
5. Notification Alert for Unlocked Door สัญญานแจ้งเตือนจะดังขึ้นภายใน 3 วินาทีและถูกส่งไปยังโทรศัพท์ เมื่อคุณแง้มประตูไว้หรือปิดประตูไม่สนิท
6. Personalized Greetings คำทักทายส่วนบุคคลที่สามารถตั้งค่าได้ภายใน Aplication V5 Max สามารถระบุตัวตนที่ไม่ซ้ำกันของสมาชิกในครอบครัวและเล่นข้อความต้อนรับที่ปรับแต่งได้เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน

ข้างประตูมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ทำเป็นห้องเก็บรองเท้าได้ตามแบบในบ้านตัวอย่าง ดูแล้วเก็บได้เป็น 100 คู่เลยนะคะ

บันได

Image 1/5
บันได

บันได

บันไดใช้โครงสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก จึงมีความแข็งแรงและเวลาเดินก็จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้สักสำเร็จรูป ได้สัมผัสแบบไม้จริง มาพร้อมราวกันตกที่ทำจากเหล็ก Wrought Iron ดัดเป็นทรงที่ดูคลาสสิค สวยงาม พร้อมราวจับไม้สัก ส่วนที่เราชอบคือ บันไดกว้าง 1.5 เมตร เดินสวนกันได้สะดวกเลยค่ะ บริเวณโถงบันไดมีหน้าต่างรับแสงขนาดใหญ่ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสว่าง โปร่งโล่งมากๆ

Living Area 3

Image 1/3
Living Area 3

Living Area 3

ขึ้นมาบนชั้น 2 บริเวณโถงทางเดินส่วนกลางจะมี Family area ขนาดประมาณ 4.4 × 10 เมตร สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนของครอบครัวอีกจุดหนึ่งได้หรือจะจัดเป็นมุมเล่นเกมส์, ทำการบ้านร่วมกันของเด็กๆ ก่อนที่จะแยกย้ายเข้านอนก็ได้ พื้นบนชั้นนี้ปูด้วยไม้สักสำเร็จรูป และมีฝ้าเพดานสูง 3.3 เมตร

Multi-Function Room

Image 1/3
Multi-Function Room

Multi-Function Room

นอกจาก Family Area ก็จะมีห้องอเนกประสงค์อีกหนึ่งจุด มีขนาดประมาณ 2.5 x 4.6 เมตร ซึ่งบ้านมาตรฐานจะมีประตูกั้นห้องมาให้นะ ดูแล้วเหมาะจะจัดเป็นพื้นที่ทำสมาธิ ตั้งหิ้งพระ หรือจะจัดเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือเหมือนในบ้านตัวอย่างก็ได้บรรยากาศที่ดูโปร่งเพราะอยู่ติดกับบริเวณ Double Volume มองลงไปเห็นพื้นที่นั่งเล่นชั้นล่างได้เลย

Bedroom 2

Image 1/5
Bedroom 2

Bedroom 2

ห้องนอนรองห้องแรกเป็นห้องฝั่งหลังบ้าน มีขนาดใหญ่พอๆ กับห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างเลย สามารถวางเตียง 6-7 ฟุตได้สบาย และข้างเตียงยังมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานได้ ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งก็มีระเบียงให้ออกไปรับลมชมวิวได้

โซนห้องน้ำกับ Walk-in Closet จะแยกไว้อีกฝั่งหนึ่งของห้องดูเป็นสัดส่วน ซึ่งพื้นที่แต่งตัวนี้มีขนาดพอให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนัง 3 ฝั่งเลย เก็บเสื้อผ้าได้เยอะอยู่นะ อย่างในบ้านตัวอย่างก็เหลือพื้นที่ให้ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย

ห้องน้ำใน Bedroom 2

Image 1/7
ห้องน้ำใน Bedroom 2

ห้องน้ำใน Bedroom 2

ในส่วนของห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งไว้ชัดเจน โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.9 x 1.1 เมตร พร้อมสุขภัณฑ์ครบถ้วนใช้ของ Villeroy & Boch, Hafele หรือเทียบเท่า และได้ทั้ง Rain Shower และฝักบัวอาบน้ำ

Junior Master Bedroom

Image 1/3
Junior Master Bedroom

Junior Master Bedroom

ถัดมาคือ Junior Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มาก รองจาก Master Bedroom ฟังก์ชันครบถ้วนมีทั้งพื้นที่วางเตียงนอน, พื้นที่พักผ่อน, Walk-in Closet และห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำในตัว แต่จะไม่มีระเบียงนะคะ หากครอบครัวไหนที่ลูกชายแต่งภรรยาเข้าบ้าน ก็สามารถรองรับครอบครัวที่ขยายออกได้

โซนวางเตียงนอนจะสามารถวางเตียงขนาด 6-7 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ให้เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ จากเตียงสามารถมองผ่านหน้าต่างบานใหญ่ออกไปเห็นสวนหน้าบ้านได้

อยากให้สังเกตอย่างนึงว่าบนฝ้าเพดานจะติดตั้ง Air Purifier กรองฝุ่น pm 2.5 มาให้ ซึ่งใช้เป็น HEPA Filter ช่วยลดอุณหภูมิและช่วยเติมอากาศใหม่เข้ามาในบ้าน

Walk-in Closet ใน Junior Master Bedroom

Image 1/3
Walk-in Closet ใน Junior Master Bedroom

Walk-in Closet ใน Junior Master Bedroom

Walk-in Closet เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำเลย จึงสามารถใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังโดยรอบ อย่างบ้านตัวอย่างจะ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า 3 ฝั่งแบบสูงจากพื้นจรดฝ้า และยังวางตู้แบบ Island ไว้ตรงกลางได้ด้วย

การวางตำแหน่งโต๊ะเครื่องแป้ง เราแนะนำให้อยู่ใกล้หน้าต่างเพื่อให้มีแสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้ค่ะ

ห้องน้ำใน Junior Master Bedroom

Image 1/6
ห้องน้ำใน Junior Master Bedroom

ห้องน้ำใน Junior Master Bedroom

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน จัดฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งาน รวมถึงวัสดุและสุขภัณฑ์ต่างๆ เหมือนกันกับห้องก่อนหน้าเลย

Highlights ของห้องนี้คือ อ่างอาบน้ำที่วางอยู่ริมหน้าต่าง นอนแช่น้ำชมวิวไปได้ เป็นอ่างที่นอนแช่ได้ยาวประมาณ 1.5 เมตรจาก Kasch ติดกันเป็นพื้นที่อาบน้ำขนาด 1 x 2 เมตร ซึ่งให้มาทั้ง Rain Shower และฝักบัวอาบน้ำเลย

Master Bedroom และ Bedroom 3 จะอยู่ลึกเข้ามาด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีก

Master Bedroom

Image 1/6
Master Bedroom

Master Bedroom

Master Bedroom มีขนาดใหญ่มากจนสามารถจัดมุมนั่งเล่นดูทีวีบริเวณหน้าห้องได้เลย เมื่อเปิดประตูเข้ามาจึงไม่ได้มองเห็นเตียงในทันที เป็นดีไซน์ที่ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

ภายในห้องนอนวางเตียงขนาด 6-7 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้รอบ ข้างเตียงจะมีประตูกระจกเชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้ห้องดูโปร่งมากๆ ตัวระเบียงมีขนาดใหญ่ประมาณ 4.3 x 2 เมตร สามารถวางชุดโต๊ะสนามสำหรับออกมานั่งชมวิวสวนหน้าบ้านได้ โดยราวกันตกทั้งหมดในบ้านหลังนี้ใช้เป็นเหล็กดัดตกแต่งลวดลายโค้งมนดูคลาสสิค

Walk-in Closet ใน Master Bedroom

Image 1/3
Walk-in Closet ใน Master Bedroom

Walk-in Closet ใน Master Bedroom

ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งมีพื้นที่กว้างๆ ที่จัดเป็น Walk-in Closet ซึ่งเราสามารถทำประตูกั้นเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความเป็นสัดส่วนได้ ห้องมีขนาดใหญ่แบบที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้รอบห้อง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและวางเคาน์เตอร์ Island ไว้ตรงกลางได้ด้วย ซึ่งบริเวณนี้จะมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดรับลมรับแสงธรรมชาติได้

Master Bathroom

Image 1/6
Master Bathroom

Master Bathroom

ขยับเข้ามาที่ห้องน้ำกันบ้าง ห้องนี้จะใหญ่กว่าห้องน้ำอื่นๆ ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ ภายในห้องได้หน้าต่างบานใหญ่ทำให้ดูสว่างดีเลย อ่างล้างหน้ามาแบบ His&Her ขนาดค่อนข้างกว้างเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง

โถสุขภัณฑ์ของห้องนี้ให้มาเป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมฉากกั้นเป็นส่วนตัว สำหรับ Shower Box ก็มีผนังกระจกกั้นเป็นสัดส่วนเช่นกัน กว้างมาก อาบพร้อมกัน 2 คนได้ มีขนาดประมาณ 2.75 x 1.45 เมตร สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก ภายในติดตั้งฝักบัวให้ทั้งแบบ Hand shower และ Rain shower พร้อมที่นั่งอาบน้ำแบบคอนกรีต Built-in มาให้

Highlights ของห้องนี้คือ อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ที่วางอยู่ริมหน้าต่าง นอนแช่น้ำชมวิวไปได้ เป็นอ่างที่นอนแช่ได้ยาวประมาณ 1.5 เมตรจาก Kasch

Bedroom 3

Image 1/5
Bedroom 3

Bedroom 3

ห้องนอนรองห้องสุดท้ายจะอยู่ตรงข้าม Master Bedroom ค่ะ อยู่ในโซนหลังบ้าน มีพื้นที่ใกล้เคียงกับ Bedroom 2 ได้ฟังก์ชันมาครบครันเช่นเดียวกัน สามารถวางเตียง 6-7 ฟุตได้และแยกพื้นที่หน้าห้องเป็น Walk-in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำอย่างเป็นสัดส่วน

ห้องน้ำใน Bedroom 3

Image 1/4
ห้องน้ำใน Bedroom 3

ห้องน้ำใน Bedroom 3

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจนเป็นสัดส่วน รวมถึงวัสดุและสุขภัณฑ์ต่างๆ ก็ใช้ของ Villeroy & Boch, Hafele หรือเทียบเท่า


แบบบ้าน Seraphielle

Seraphielle แบบบ้านไซส์ใหญ่สุดของโครงการ มีที่ดินเริ่มต้น 240.1 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่ถึง 1,140 ตร.ม. เป็น Type ที่มีฟังก์ชันพิเศษๆ อย่าง ห้องนิรภัยและสระว่ายน้ำมาให้ค่ะ

สรุปฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 12 ที่จอดรถ / 5 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว / 1 ห้องนิรภัย / 1 ลิฟต์ / 1 สระว่ายน้ำ

ชั้น 1 –  จัดแปลนแบบ Open Plan เชื่อม Living + Dining + Pantry Area + Multi-Function Area เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งโซนนี้จะได้วิวสระว่ายน้ำข้างบ้าน นอกจากนี้จะมี Living Room อีกห้องหนึ่งอยู่ในโซนหน้าบ้านให้ใช้งานได้หลากหลาย ตามไลฟ์สไตล์ได้เลยค่ะ ในส่วนของห้องนอนชั้นล่างจะถูกวางไว้ในโซนด้านหลัง เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ในส่วนของ Service Zone จะจัดอยู่ในโซนเดียวกันทั้งห้องครัวไทย, Laundry และห้องพักของแม่บ้าน รวมกันไว้อย่างเป็นสัดส่วน

ชั้น 2 – แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอน 4 ห้อง เป็นห้องนอนใหญ่ 2 ห้องและห้องนอนรอง 2 ห้อง ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัว สำหรับพื้นที่นั่งเล่นจะมีทั้งหมด 2 ตำแหน่งอยู่ติดกับ Double Volume ดูโปร่งโล่ง มองลงไปเห็นพื้นที่ชั้นล่างได้ และมี 1 ห้องอเนกประสงค์ที่เหมาะจะจัดเป็นห้องพระค่ะ

Image 1/11
ประตูรั้วเป็นซี่เหล็กโปร่ง ทำให้บ้านไม่ดูทึบ ในส่วนนี้ทางโครงการเดินระบบไฟรองรับการติดตั้งระบบอัตโนมัติมาให้

ประตูรั้วเป็นซี่เหล็กโปร่ง ทำให้บ้านไม่ดูทึบ ในส่วนนี้ทางโครงการเดินระบบไฟรองรับการติดตั้งระบบอัตโนมัติมาให้


แบบบ้าน Aldelisse

Aldelisse บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 140.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 642 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 3 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว

แบบบ้าน Aureline

Aureline บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 126.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 520 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว

 

ราคา

The Palazzo Krungthep Kreetha (เดอะ พาลาซโซ่ กรุงเทพกรีฑา) ราคา ณ วันที่ 12 เมษายน 2568

  • Aureline บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 126.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 520 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว
  • Aldelisse บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 140.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 642 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 3 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว
  • Ambrosine บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 215 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 885 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 8 ที่จอดรถ / 3 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว / 1 Courtyard
  • Seraphielle บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 240.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 1140 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 12 ที่จอดรถ / 5 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องซักรีด / 2 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว / 1 ห้องนิรภัย / 1 ลิฟต์ / 1 สระว่ายน้ำ

 

  • เริ่ม 75-220 ล้านบาท
  • จองและทำสัญญา 20% ของราคาบ้าน (หักเป็นยอดจอง 1 ล้านบาท)
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตั้งอยู่ใกล้ถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า 500 เมตร เข้าออกได้ทั้งถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าและวงแหวนกาญจนาภิเษก สามารถกลับรถเข้าเมืองไปทางพระราม 9 – ห้วยขวางได้ง่าย รวมถึงยังมีทางพิเศษให้ใช้เข้า-ออกเมืองได้ถึง 3 สาย และยังมีความอุดมสมบูรณ์สูง ไม่ว่าจะเป็น Little Walk / Market Place และตลาดต่างๆ จึงทำให้สามารถหาของกินได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่งในย่านอีกด้วยค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ด้านหน้ามีซุ้มประตูเข้า-ออกด้วยการจำป้ายทะเบียนตามมาตรฐานของระบบ KATSAN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน พร้อมกล้อง CCTV และ รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม. ส่วนภายในบ้านก็จะมี IP Camera/Wifi Camera, Magnetic Sensor, Shock Sensor, Motion Sensor, Digital Door Lock รวมไปถึง CUBE Clicker ปุ่มฉุกเฉินในห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำ เพื่อรองรับผู้สูงอายุด้วยค่ะ ถือว่าจัดมาเป็นมาตรฐานตามระดับราคา

การออกแบบโครงการ : เน้นเความเป็นส่วนตัวเพียง 23 ยูนิต ออกแบบบรรยากาศให้ดูแกรนด์ โอ่อ่า ด้วยการวางวงเวียนน้ำพุ, สวนและ Clubhouse ไว้ตั้งแต่หน้าประตูโครงการเลย ทุกอย่างในโครงการออกแบบมาในสไตล์ Beaux-arts และ Biophilic design ผสมผสานสถาปัตยกรรมเหนือกาลเวลาอันหรูหราคลาสสิก เข้ากับความร่มรื่นของธรรมชาติ และทิศทางของบ้านทุกหลังจะหันทางทิศเหนือ-ใต้ เป็นหลัก ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมอยู่แล้วค่ะ

การออกแบบตัวบ้าน :  หากพูดถึงโปรดักส์บ้านเดี่ยว ทำเลนี้จะมีบ้านระดับตั้งแต่ 20 – 100 ล้านให้เลือกเยอะมาก แต่ถ้าเป็น Segment เดียวกับ THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา คือประมาณ 75 – 220 ล้าน ปัจจุบันก็จะมีอยู่สัก 3 – 4 แห่ง ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกันชัดเจนในเรื่อง Design ของตัวบ้าน, Clubhouse และบรรยากาศส่วนกลาง แต่ขนาดพื้นที่ใช้สอยต้องยกให้ THE PALAZZO เลยว่าให้มาใหญ่ที่สุดในโซน อยู่อาศัยรวมกันได้ทั้ง 3 Generations ไปจนลูกแต่งงานก็ยังอยู่ในบ้านเดิมได้ เพราะให้มาแบบ Double Master Bedroom ในทุกแบบบ้านเลย ใครที่อยากจัดฟังก์ชันทุกอย่างไว้ในบ้าน ลองพิจารณาที่นี่ดูนะคะ

วัสดุ :  วัสดุส่วนใหญ่ใช้แบรนด์ Top และของนำเข้าที่เคยเห็นในบ้านระดับ Super Luxury อยู่แล้ว เช่นยี่ห้อ Baldwin, Villeroy & Boch, Kuppersbusch, Digital Door Lock ยี่ห้อ Lockin รุ่นที่ได้รางวัล IDA Design Awards ผสมกับแบรนด์คุณภาพที่คุ้นเคยกันอย่าง Hafele, Teka, Kasch เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่จัดเต็มมาเพื่อให้สะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึง EV Charger, Solar Cell และ Air Purifier ที่ช่วยกรอง pm 2.5 ค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศดีมากเหมือนอยู่ยุโรป ทั้งงานสถาปัตยกรรมและ Landscape พร้อมสายไฟลงดินทั้งโครงการ ทำให้หน้าบ้าน, ถนนหนทางต่างๆ ดูคลีน สะอาดตา

สาธารณูปโภค :  ครบครัน มีอาคาร Clubhouse พร้อมฟังก์ชันภายในมีทั้ง Lobby, Lounge, พื้นที่สำหรับจัด Private Party, Co-Kitchen, Theatre, Fitness และ สระว่ายน้ำ สิ่งที่น่าสนใจคือใน Fitness ติดตั้งระบบ Fall Detector System เมื่อเกิดอุบัติเหตุระบบจะส่งสัญญาณไปให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อมาช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

แม้ขนาดส่วนกลางจะไม่ใหญ่นักแต่ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานเมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้านที่มาร่วมใช้งานเพียง 23 ครอบครัว สมน้ำสมเนื้อกับค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือนนะคะ

Judgement

สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการระดับ Ultimate Class เราจึงขอไม่ให้คะแนนนะคะ เพราะการตัดสินใจซื้อโครงการระดับนี้จะมีเหตุผลที่นอกเหนือจากความคุ้มค่าทางด้านฟังก์ชัน อย่างเช่นความชื่นชอบในเรื่องดีไซน์ ความสวยงาม ซึ่งเป็นอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยค่ะ

THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา (THE PALAZZO Krungthep Kreetha) เหมาะกับใคร

โครงการ THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวในโซนกรุงเทพกรีฑา ทำเลอุดมสมบูรณ์ ใกล้โรงเรียนนานาชาติและทางด่วน เน้นความเป็นส่วนตัวสูง ยูนิตน้อยเพียง 23 ครอบครัว

อยากได้บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าโครงการโดยรอบในระดับราคาเดียวกัน ทำให้เราสามารถอยู่อาศัยรวมกันได้ทั้ง 3 Generations ไปจนลูกแต่งงานก็ยังอยู่ในบ้านเดิมได้ เพราะให้มาแบบ Double Master Bedroom ในทุกแบบบ้านเลย มีพื้นที่อเนกประสงค์หลายจุด รองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ชอบ Function พิเศษที่บ้านซีรีส์นี้มี ได้แก่ ที่จอดรถสูงสุด 12 คัน, ห้องตู้เซฟ, ลิฟต์, สระว่ายน้ำส่วนตัว, Courtyard หน้าบ้าน

ชอบสไตล์การออกแบบ Beaux-arts X Biophilic design ดูหรูหราคลาสสิคและยังคงเชื่อมโยงธรรมชาติเข้าไว้ให้ใกล้ตัว โดยจะต้องมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 75-220 ล้านบาท (ยังไม่รวมงบตกแต่งนะคะ)

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่