The Gentry พัฒนาการ รีวิวบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์น พร้อมลิฟต์และสระส่วนตัว จาก SC Asset [รีวิวฉบับที่ 2190]

10 February 2021

• The Gentry Phatthanakan (เดอะ เจนทริ พัฒนาการ)
• บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
• LUXURY CLASS – SUPER LUXUR CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ : บนถนน พัฒนาการ เขต สวนหลวง
• เนื้อที่โครงการ 12-0-65.8 ไร่ จำนวน 34 ยูนิต
• แบบบ้าน Haven บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 61.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 440 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
• แบบบ้าน Hideaway บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 90.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 550 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 48.5 ล้านบาท
• แบบบ้าน Sanctuary บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 109.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 657 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 59 ล้านบาท
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 3.2 เมตร / ชั้น 2 – 3 เมตร / ชั้น 3 – 3 เมตร
• ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ  317,000 บาท
• โครงการเริ่มก่อสร้าง : มีนาคม 2563
• คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปลายปี 2565
• เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• โทร : 065-502-3999
• Call Center : 1749
• LINE @GTPK

พิกัด Google Maps : 13.729448, 100.622291
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

The Gentry พัฒนาการ ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ32 ทำเลนี้จัดว่าสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองย่านเอกมัย-ทองหล่อได้สะดวก ขับตรงอย่างเดียวก็ถึงแล้ว นอกจากนี้จากถนนพัฒนาการถ้าขึ้นเหนือไปก็จะสามารถไปยังรามคำแหง-บางกะปิได้ หรือถ้าไปทางถนนศรีนครินทร์ก็จะสามารถไปสมุทรปราการหรือลาดกระบัง-สุวรรณภูมิได้ด้วย ดังนั้นทำเลโครงการนี้จึงถือเป็นทำเลที่ใกล้เมืองและยังเข้า-ออกเมืองได้สะดวกมากๆอีกด้วย

นอกจากนั้นอีกจุดที่เป็นความสะดวกคือมีหลายซอยในละแวกนี้ที่เชื่อมต่อถึงกัน ทำให้เราสามารถซอกแซกลัดออกไปยังซอยต่างๆโดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่ ทั้งซอยพัฒนาการ 20 , 30 ,32 ,38 เชื่อมไปออกซอยอ่อนนุช 17 เพื่อไปใช้ BTS อ่อนนุชได้เลย ข้อดีอีกจุดของทำเลนี้คือใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเส้นลาดพร้าว-สำโรง (สถานีพัฒนาการ) ที่กำลังก่อสร้างเป็นทางเลือกเพิ่มความสะดวกในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น

ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ ในซอยพัฒนาการ32 บรรยากาศจะคึกคักน้อยว่าซอยพัฒนาการ30 ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ส่วนอีกซอยที่คึกคักไม่แพ้กันคือซอยพัฒนาการ 20 ที่จะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่เต็มไปหมด มีร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน และยังมีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Park Plaza ที่ภายในมี MaxValu เปิดตลอด 24 ชม. อยู่ด้วย ซึ่งซอยเหล่านี้เชื่อมกันหมด เราสามารถขับรถวนไปหาอะไรทานได้ไม่ยากเลย

นอกจากนี้ถ้ามองภาพใหญ่ บนถนนพัฒนาการเองก็ยังมีอาคารสำนักงาน สถานศึกษา ห้างและ Community Mall อื่นๆตั้งอยู่ไม่ไกล นับว่าเป็นย่านที่สะดวกและครบครัน หรือใครจะเข้าเมืองไปยังซอยเอกมัย-ทองหล่อก็สะดวก เป็นย่านที่รู้กันดีว่ามีความเจริญมาก เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรม Community Mall สถานบันเทิงต่างๆ และร้านอาหารชื่อดังมากมาย ต่างชาติก็อยู่กันเยอะ เพราะหน้าปากซอยฝั่งถนนสุขุมวิทนั้นมีรถไฟฟ้าเส้นหลักสายสีเขียววิ่งผ่านนั่นเอง อีกอย่างทำเลนี้ก็มีโรงเรียนนานาชาติอยู่รอบๆด้วย  เช่น Ekamai International School , Bangkok Prep , St. Andrews, Shrewsbury

การเดินทางในวันนี้เราเลือกใช้ถนนเพชรบุรี วิ่งตรงยาวๆผ่านซอยทองหล่อ (สุขุมวิท55) , ซอยเอกมัย (สุขุมวิท 63) ไปเข้าถนนพัฒนาการ จากนั้นให้กลับรถเพื่อเข้าสู่ซอยพัฒนาการ 32 ตรงเข้ามาหน่อยก็จะถึงโครงการค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริเวณที่ตั้งของโครงการ The Gentry พัฒนาการ ประกอบด้วยโครงการที่อยู่อาศัยหลายๆโครงการด้วยกัน โดยฝั่งตรงข้ามจะเป็น Shizen พัฒนาการ 32 (ทาวน์โฮม) และ Sho พัฒนาการ 32 (โฮมออฟฟิศ) ส่วนทางทิศใต้จะมี The Pride พัฒนาการ 30 และ ปราณ พัฒนาการที่เป็นโฮมออฟฟิศ ส่วนสภาพแวดล้อมในซอยพัฒนาการ 30 และ 32 ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบสลับกับที่ดินเปล่าค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า

เดอะ ไนน์ – 5.0 กม.

ธัญญะปาร์ค – 5.4 กม.

ซีคอนสแควร์ @ศรีนครินทร์ – 6.1 กม.

พาราไดซ์พาร์ค – 7.2 กม.

สถานศึกษา

โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ – 4.3 กม.

โรงเรียนนานาชาติเอกมัย – 4.9 กม.

โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (ซิตี้แคมปัส) – 7.3 กม.

มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก – 4.3 กม.

มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด – 8.1 กม.

ศูนย์สุขภาพ

โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ – 4.5 กม.

โรงพยาบาลกรุงเทพ – 5.0 กม.

โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท – 6.6 กม.

The Gentry พัฒนาการ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับหรูที่มีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 34 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดิน 12-0-65.8 ไร่ พื้นที่ส่วนกลางจะมีสวนหย่อมอยู่ 1 จุดบริเวณใกล้ๆกับ Clubhouse การวาง Clubhouse อยู่ด้านหน้าจะมีข้อดีคือสามารถใช้เป็นจุดนัดพบญาติหรือผู้มาติดต่อได้ โดยไม่ต้องพาเข้าบ้านให้เสียความเป็นส่วนตัว ส่วนพื้นที่สีเขียวอื่นๆจะแทรกอยู่บริเวณหน้าบ้านค่ะ 

จากการวางผังบ้านสังเกตว่าจะแบ่งออกเป็นโซนที่อยู่ใกล้ Clubhouse ซึ่งจะใกล้ทางเข้า-ออกด้วยเหมาะกับคนที่ชอบใช้ Facilities อยากได้วิวสวน หน้าบ้านไม่หันมาชนกับใครบรรยากาศจะคึกคักกว่าคนที่อยู่โซนด้านในโครงการที่จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า 

ในแต่ละซอยถูกจัดให้มีความหนาแน่นไม่มาก บางซอยมี 2-3 ยูนิตเท่านั้น จึงทำให้โครงการมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก ตัวบ้านทั้งหมดวางตัวในทิศเหนือ-ใต้  ทำให้ไม่โดนแดดร้อนในตอนบ่าย Product แบ่งออกเป็น 3 Type คือ  Haven พื้นที่ใช้สอย 440 ตร.ม. ,  Hideaway พื้นที่ใช้สอย 550 ตร.ม. และ Sanctuary พื้นที่ใช้สอย 657 ตร.ม. ซึ่งจะวางในลักษณะคละแปลงกันไป

Main Entrance  จะมีซุ้มประตูด้านหน้าที่แบ่งเป็นทางเข้าและทางออกแยกกันกั้นด้วยประตูเลื่อนอัตโนมัติที่ต้องผ่านด้วยระบบ Easy pass ส่วนผู้มาติดต่อจะมี รปภ. รับแลกบัตรก่อนถึงจะผ่านเข้าไปได้ค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า-ออกโครงการ จะมีรปภ.ดูแลให้ 24 ชั่วโมง และมีประตูเลื่อนไฟฟ้าแบบ 3 ตอนที่กั้นด้วยระบบ Easy pass

ถัดเข้ามาด้านในเราจะเจอกับบ้านโซนที่อยู่ใกล้สวนหย่อมและ Clubhouse ถนนหลักบริเวณนี้จะกว้าง 12 เมตร มีการเดินสายไฟลงดินทั้งหมดเพื่อความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ทางฝั่งซ้ายจะเป็นบ้านตัวอย่างค่ะ

บ้านตัวอย่างเรียงกัน  3 Type เล็ก กลาง ใหญ่ เดี๋ยวเราจะพาไปชมกัน

โครงการนี้จะมีสวนหย่อมมาให้ 1 จุดอยู่บริเวณใกล้ๆกับ Clubhouse เราสามารถออกมาเดินเล่นพักผ่อนได้

ภายในสวนจะถูกจัดเป็นมุมพักผ่อนต่างๆ มีซุ้มที่นั่งเล่นรับลมชิลล์ๆ

รวมถึงสนามเด็กเล่นของคุณหนูๆด้วยค่ะ ดูน่ารักดี

ถัดมาด้านในเราจะเจอกับวงเวียน ซึ่ง Clubhouse จะอยู่ทางฝั่งขวา ส่วนด้านในจะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมดค่ะ

Clubhouse ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เรียบ เท่ เดี๋ยวจะพาเข้าไปชมกันว่ามี Facilities อะไรบ้าง

พอเดินเข้ามาใน Clubhouse จุดแรกที่เราจะเจอคือสระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่แบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่ ขนาด 16 x 7 เมตร ลึก 1.20 เมตร และสระเด็ก ขนาด 5 x 2 เมตร ลึก 0.50 เมตร ส่วนโถงทางเดินด้านข้างจะเป็นทางไปห้องน้ำค่ะ

บริเวณริมสระจะมีที่นั่งพักผ่อนมาให้ ซึ่งบริเวณนี้ถ้าออกมองไปจะเป็นวิวสวนหย่อมสีเขียวสบายตา

ด้านข้างสระจะมีห้องน้ำที่มีครบทั้งชาย หญิงและห้องน้ำคนที่ต้องนั่งรถเข็น

บรรยากาศภายในห้องน้ำ ที่มีห้องสุขา ตู้ล็อคเกอร์ และอ่างล้างหน้ามาให้ครบ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆจะอยู่ชั้นบนค่ะ ขึ้นไปดูกัน

โครงการนี้เค้ามีการออกแบบรองรับการใช้งานผู้สูงอายุ อย่างในพื้นที่ส่วนกลางจะมีติดตั้งลิฟต์เก้าอี้บันได สำหรับผู้สูงอายุมาให้ด้วยค่ะ

ถัดมาคือห้อง Co-Working Space ที่จัดพื้นที่มาให้รองรับการใช้งานของคนที่มาเป็นกลุ่มและมาคนเดียว ด้านในสุดจะเป็นห้องประชุมค่ะ

มุมนี้เหมาะสำหรับที่มาคนเดียวหรือไม่เกินสองคน สามารถมานั่งทำงานไป ชมวิวสวนไปได้

ห้องฟิตเนสจะมีผนัง 2 ด้านเป็นกระจกใส มองออกไปเห็นวิวสวนได้เต็มๆตา ห้องนี้วางเครื่องออกกำลังกายไว้ 6 เครื่องซึ่งดูจากขนาดห้องก็สามารถวางเพิ่มได้อีกค่ะ

โซนเวทเทรนนิ่ง เพิ่มกล้ามเนื้อจะมีกระจกเงาติดตั้งมาให้ดูท่าทางการออกกำลังกายของตัวเอง

ชั้นบนนี้จะมีห้องน้ำมาด้วย สะดวกดี ไม่ต้องลงไปเข้าที่ชั้นล่าง แต่ห้องนี้จะไม่มีพื้นที่อาบน้ำมาให้นะ

ถัดมาเป็นห้องเด็กเล่นจัดออกมาได้น่ารัก มีของเล่นต่างๆและบ่อบอลให้ด้วย

จาก Clubhouse มองลงมาจะเห็นบ้านที่อยู่ในโซนใกล้สวน ซึ่งหน้าบ้านจะหันเข้าสวนและไม่ติดกับบ้านหลังไหนๆเลย

อย่าง 2 หลังนี้จะหันหน้าเข้าสวน คนที่อยู่ในบ้านมองวิวออกมาจะเห็นสวนเต็มๆเลย โดยถนนในซอยย่อยจะกว้าง 9 เมตร

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
• Lobby
• สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 16 x 7 เมตร ลึก 1.20 เมตร / สระเด็ก ขนาด 5 x 2 เมตร ลึก 0.50 เมตร
• ห้องเด็กเล่น
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
• Co-Working Space
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 151 ตร.วา
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ n/a จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
• Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
• Key Card Access : ระยะไกล
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ : เลื่อนไฟฟ้า 3 ตอน
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
• CCTV ติดตั้งให้ 3 จุด ภายนอกตัวบ้าน
• มีระบบ Home Automation เปิดปิดไฟ ทุกหลัง

ก่อนที่เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างจะขออธิบายถึงแนวคิดในการออกแบบโครงการสักเล็กน้อยค่ะ Concept ในการออกแบบ The Gentry พัฒนาการ คือ Urban Sanctuary ดีไซน์บ้านเพื่อให้ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง โดยการนำเอาธรรมชาติเข้ามาแทรกในตัวบ้าน โครงการนี้จะมีฟังก์ชันใหม่ที่มีระเบียงเกือบทุกห้องนอน สามารถเปิดรับลมและเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ต่างจาก The Gentry โครงการอื่นๆ นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว ตัวบ้านสร้างเกือบเต็มพื้นที่ดิน มีช่องเปิดหน้าบ้านไม่เยอะเพื่อให้คนมองไม่เห็นด้านในแต่จะมี Double Volume เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับภายในบ้านแทน โดยบ้านของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 Type คือ

•  Haven  ที่ดินมาตรฐาน 61.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 440 ตร.ม.
•  Hideaway  ที่ดินมาตรฐาน 90.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 550 ตร.ม.
•  Sanctuary ที่ดินมาตรฐาน 109.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 657 ตร.ม.

เรามาเริ่มกันที่บ้านแบบ Hideaway หรือบ้าน Type กลางขนาด 550 ตร.ม.กันค่ะ บ้านในโครงการนี้จะมีโครงสร้างแบบ Conventional ก่ออิฐ Q-Con ซึ่งมีข้อดีคือมีความแข็งแรงทนทาน การออกแบบด้านหน้าบ้าน (Facade) จะมีการเล่นกับมุมตกกระทบของแสง โดยการนำเส้นสายของระแนงไม้มาเพิ่มลูกเล่นและสามารถใช้กันแดดได้ด้วย

บ้านแบบ  Hideaway มีฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ จอดรถได้ 4 คัน ถ้าดูจากผังเราจะเห็นว่าทางฝั่งขวาของบ้านถูกวางให้เป็นส่วน Service ทั้งหมดโดยจะมีห้องครัว ซักรีด ห้องแม่บ้าน และห้องน้ำแขกแบบ Powder Room (ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ)  ส่วนฝั่งซ้ายของบ้านจะเป็นพื้นที่พักผ่อน มีห้องรับแขก ทานข้าว และห้องนอนที่ปรับใช้เป็นห้องผู้สูงอายุได้ บ้าน Type นี้จะมีลิฟต์มาให้ด้วย ซึ่งข้อดี นอกจากเราจะสะดวกสบายไม่ต้องเดินขึ้นบันไดให้เมื่อยแล้ว ยังสามารถรองรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุได้ด้วย ถึงแม้ว่าจะมีห้องนอนชั้นล่างก็ตาม แต่หากคุณตาคุณยายคิดถึงลูกหลาน อยากขึ้นไปเที่ยวเล่นข้างบนบ้างก็ทำได้ไม่ยาก

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอนทั้งหมด 2 ห้อง ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีห้องน้ำและระเบียงในตัว สามารถออกไปนั่งพักผ่อนหรือจัดสวนได้ และชั้นนี้จะมี Family Area อีก 1 ห้อง ห้องนี้ก็มีระเบียงเช่นกันแต่จะไม่มีห้องน้ำ ถ้าไม่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นก็สามารถปรับเป็นห้องทำงานได้

ส่วนชั้น 3 มีห้องพระ ห้องนอนอีก 2 ห้องที่ยังคงมีห้องน้ำและระเบียงส่วนตัวเช่นเดิม โดย Master Bedroom จะอยู่ที่ชั้นค่ะ ภายในห้องจะมีขนาดใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งของตัวบ้าน มีพื้นที่พักผ่อนและ Walk-in Closet ขนาดใหญ่เพิ่มเข้ามา รวมถึงจะเป็นห้องที่มีระเบียงใหญ่ที่สุดอีกด้วย

เริ่มจากบริเวณหน้าบ้าน ประตูรั้วบ้านเป็นแบบรางเลื่อนโปร่ง วัสดุเป็นเหล็กสีดำ เลื่อนมาเก็บทางด้านข้างได้ตามภาพ

ข้างรั้วมีประตูเล็กสำหรับใช้เปิดเข้าออกในกรณีที่ไม่อยากเลื่อนเปิดประตูรั้ว หน้าบ้านมีกริ่ง ไฟหน้าบ้าน ตู้จดหมายและถังขยะมาให้

บริเวณที่จอดรถจะสามารถจอดได้ 4 คัน โครงสร้างเป็นแบบ Slab on beam วัสดุพื้นเป็นแสตมป์คอนกรีต

ทางโครงการมีการติดตั้งตำแหน่ง EV Charger Support ไว้รองรับการใช้งานของรถยนต์ที่ต้องชาร์จไฟฟ้าไว้ให้

ข้างบ้านมีพื้นที่สำหรับจัดสวนรอบๆค่ะ ส่วน Service ของแม่บ้านจะอยู่ทางด้านหลังบ้าน

บ้าน Type นี้ไม่ได้มีสระว่ายน้ำมาให้นะคะ เราจะได้เป็นพื้นกระเบื้องแบบรูปด้านล่างซึ่งสามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนชมวิวสวนได้หลากหลายแบบ จะเอาเก้าอี้มาวางชิลล์ๆก็ได้ แต่ถ้าอยากทำเป็นสระก็มีพื้นที่เหลือค่ะ

ด้านข้างบ้าน ฝั่งนี้จะเป็นส่วน Service พวกห้องครัว ซักล้าง ซักรีด เวลาแม่บ้านมาทำความสะอาดเราไม่ต้องเดินผ่านทางประตูหลักก็ได้ค่ะ

ห้องครัวพอเปิดประตูออกมาก็จะเจอกับเฉลียงแบบนี้

อ้อมมาดูทางฝั่งหน้าบ้าน ประตูทางเข้าบ้านเป็นบานไม้สัก แบบบานเปิดคู่ ตัวบ้านยกสูงขึ้นจากระดับพื้นที่จอดรถมีบันไดขึ้นไป 4 ขั้น

มือจับประตูเป็น Digital Door Lock ที่ดีไซน์ให้เข้ากับประตูไม้สัก ดูสวยดี

บ้านทุกหลังจะมีระบบ Home Automation  ที่สามารถควบคุมการเปิดปิดระบบไฟฟ้าผ่าน Application บนมือถือได้ และยัง มี CCTV ติดตั้งให้ 3 จุด ภายนอกตัวบ้าน พร้อม Magnetic & Shock Sensor มาให้ด้วยค่ะ

เข้ามาในบ้านจะเจอกับโถงก่อน พื้นที่ระหว่างผนังที่เป็นช่องโล่งๆสามารถ Built-in เพิ่มเติมเป็นตู้เก็บของ ตู้โชว์ หรือ ตู้วางรองเท้าได้ ถัดเข้าไปด้านในเราจะเจอกับพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างห้องอาหารและห้องรับแขก โดยพื้นชั้นล่างจะเป็นกระเบื้อง Cotto ltalia

พื้นที่รับแขกและรับประทานอาหารเป็นแบบ Double space นอกจากฝ้าเพดานที่สูงแล้วยังมีช่องแสงจากหน้าต่าง ทำให้ห้องดูโปร่งและโล่งมากขึ้น สามารถนั่งชมวิวสวนภายนอกบ้านได้

พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนเป็น Double Space ฝ้าเพดานสูง 6.85 เมตร ส่วนด้านข้างเป็นกระจกบานใหญ่เต็มแผง ทำให้มุมนี้มีความโปร่ง โล่งมากๆ

ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนเตรียมอาหาร พื้นที่บริเวณนี้มีช่องแสงขนาดใหญ่ดังนั้นจึงดูโปร่งและโล่งแทบไม่ต้องเปิดไฟเวลากลางวันเลย

ห้องอาหารจะอยู่ติดกับครัวซึ่งสามารถเปิดประตูออกไปยังพื้นที่ซักล้างหลังบ้านได้ พื้นในห้องครัวจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. เหมาะกับการใช้งานและทำความสะอาดได้ง่าย

ห้องครัวทางโครงการไม่ได้ให้เคาน์เตอร์มานะคะ เราสามารถ Built-in เพิ่มเติมเองได้ตามความชอบเลย โดยผนังด้านข้างจะเจาะช่องหน้าต่างเอาไว้ระบายอากาศ ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นเวลาเราทำอาหารได้ค่ะ

อีกห้องที่อยู่ในชั้นนี้คือห้องนอน ซึ่งสามารถทำเป็นห้องผู้สูงอายุได้ เพราะทางโครงการได้เลือกวัสดุที่เหมาะสมมาให้เช่น พื้นกันกระแทก  Shock Absorption Floor และการไม่มีธรณีประตูหรือลดระดับในห้องน้ำ

ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง มีสุขภัณฑ์มาให้ครบสามารถใช้อาบน้ำได้ รวมถึงมีช่องแสงระบายอากาศด้วย

อย่างที่บอกไปว่าห้องน้ำห้องนี้ไม่มี Step รางระบายน้ำทั้งหมดจะฝังลงพื้น ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานของผู้สูงอายุ ป้องกันการเดินสะดุดและทำให้สามารถใช้รถเข็นได้ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านเป็นทางขึ้นชั้น 2

บริเวณใกล้ๆบันไดจะมีห้องน้ำอยู่อีก 1 ห้อง เป็นแบบ Powder Room ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ

บ้านหลังนี้จะมีลิฟต์ของ  Mitsubishi มาให้ด้วย

บันไดทางขึ้นชั้น 2 โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก วัสดุปิดผิวบันไดเป็นไม้สัก พอขึ้นไปที่ชั้น 2 ก็จะเจอกับโถงที่จะแจกไปยังห้องต่างๆ ซึ่งบริเวณนี้จะโปร่งเพราะได้รับแสงจากพื้นที่ Double Space ชั้นล่าง

ชั้น 2 จะมีห้องนอนทั้งหมด 2 ห้อง ห้องแรกในบ้านตัวอย่างทำออกมาเป็นห้องทำงาน มีการเล่น Lighting หลากสีสัน สร้างบรรยากาศให้ดูเท่ ส่วนห้องจริงในบ้านมาตรฐานจะมีหน้าต่างและระเบียงด้านหลังด้วยนะคะ

ห้องนอนของโครงการนี้ถูกออกแบบมาให้มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ซึ่งสุขภัณฑ์ที่ได้อ่างล้างหน้าจะเป็นของ American Standard โถสุขภัณฑ์ของ Axent หรือเทียบเท่า ได้กระจกเงาบานใหญ่และบานหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศได้

ติดๆกันเป็นห้อง Family Area  ห้องนี้จะมีหน้าต่างที่ผนังด้านข้างทั้งแผง จึงทำให้เป็นห้องที่สว่างและโปร่งมากๆค่ะ อีกทั้งยังมีระเบียงให้เราออกไปใช้พักผ่อนบนพื้นที่ Outdoor อีกด้วย

พื้นที่ระเบียงที่ได้มีขนาดเพียงพอที่จะวางจักรยานเอาไว้ปั่นออกกำลังกาย และมีพื้นที่จัดสวน Pocket Garden

ส่วนห้องนอนอีกห้องจะมีขนาดใหญ่กว่า มีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นและแต่งตัว เป็นห้องที่มีระเบียงและห้องน้ำส่วนตัวอีกเช่นกันค่ะ

ระเบียงนี้มีขนาดเพียงพอที่จะวางกระถางต้นไม้และจัดสวน โดยราวกันตกด้านหนึ่งเป็นกระจก ช่วยให้มีความโปร่ง มองทะลุเห็นอีกฝั่งของตัวบ้าน

มองกลับไปที่หน้าห้องจะเจอกับพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ห้องแรกที่เจอคือห้องพระ แต่ถ้าไม่อยากใช้งานเป็นห้องพระก็สามารถทำเป็นอย่างอื่น อย่างในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องเก็บผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

ห้อง Master Bedroom จะอยู่ที่ชั้นนี้ค่ะ ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับห้องน้ำก่อน ส่วนพักผ่อนจะอยู่ด้านในสุด ซึ่งการจัดผังแบบนี้ทำให้ผู้พักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ

ห้อง Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่พอที่จะจัด Walk-in Closet หน้าห้องน้ำได้

ห้องนอนใหญ่เป็นห้องแนวยาว สามารถวางชุดโซฟาปลายเตียงได้ มีประตูบานเลื่อนบานใหญ่ออกไประเบียง

เตียงนอนจะอยู่ชิดผนังฝั่งหนึ่ง ค่อนข้างเป็นส่วนตัว

ส่วนพื้นที่ข้างเตียงมีระยะเหลือค่อนข้างเยอะ สามารถวางชุดโซฟาได้ และมุมนี้ยังสามารถนั่งชมวิวสวนที่ระเบียงด้วย

ระเบียงห้องนี้ค่อนข้างกว้าง มีหักมุมเป็นตัว L สามารถออกมาเดินเล่น นั่งเล่นกันได้สบายๆ

ถัดมาคือห้องนอนห้องสุดท้าย ขนาดพอๆกับห้องที่ผ่านมา ค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตแล้วมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เก็บของปลายเตียง

ห้องนี้ก็มีระเบียงใหญ่เช่นเดียวกันค่ะ พอราวกันตกเป็นกระจกก็สามารถมองวิวได้กว้างเลย

ถ้ามองย้อนกลับไปที่ฝั่งหน้าห้อง เราจะเจอห้องน้ำค่ะ

ห้องน้ำแยกเป็นส่วนเปียก ส่วนแห้ง แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำ พื้นและผนังปูเป็นกระเบื้องค่ะ สีและลวดลายตามในรูปเลย

ถัดมาคือบ้านแบบ Haven บ้าน Type เล็กที่สุดในโครงการ ที่ดินมาตรฐาน 61.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 440 ตร.ม.  4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน

การออกแบบภายนอกและการจัดฟังก์ชันภายในมีความคล้ายกับบ้านแบบ Hideaway ต่างกันที่หน้าบ้านมีความกว้างน้อยกว่า ชั้นล่างไม่มีห้องนอนผู้สูงอายุ ไม่มีลิฟต์แต่ทางโครงการมีการเตรียมโครงสร้างสำหรับติดตั้งลิฟต์มาให้ ลูกบ้านสามารถติดเพิ่มเองได้

ชั้น 2 จะมีห้องนอน 2 ห้อง โดย Master Bedroom จะย้ายลงมาอยู่ที่ชั้นนี้แทน เป็นห้องขนาดใหญ่กินพื้นที่เกือบครึ่งของตัวบ้าน มี Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ภายในห้องน้ำสามารถวางอ่างอาบน้ำได้ ส่วนชั้น 3 จะมี Family Area และห้องนอนอีก 2 ห้องขนาดพอๆกัน ที่มีห้องน้ำและระเบียงในตัวค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับโถงด้านหน้า  ซึ่งผนังด้านข้างประตูสามารถทำเป็นตู้สำหรับเก็บของและร้องเท้าให้หยิบใช้งานเวลาเข้า-ออกไปได้สะดวก

เมื่อเข้ามาภายในจะเจอกับส่วนของห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร ห้องนี้จะอยู่ด้านหน้าสุดของตัวบ้าน สามารถวางชุดโซฟาชุดใหญ่ และสามารถมองเห็นวิวสวนข้างบ้านได้

พื้นที่รับประทานอาหาร สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้ไม่อึดอัด มีพื้นเหลือโดยรอบใช้งานได้สะดวก ผนังด้านหลังสามารถจัดเป็นส่วนเตรียมอาหารหรือมินิบาร์ได้

ถัดมาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับคนในครอบครัว ซึ่งจะมีประตูกระจกที่รับแสงธรรมชาติจากภายนอกเช่นเดียวกัน

บ้าน Type นี้จะไม่มีห้องนอนชั้นล่าง แต่มีห้องน้ำที่มีพื้นที่อาบน้ำ พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องน้ำให้ครบพร้อมใช้งาน

มาถึงครัวของบ้าน Type นี้จะมีขนาดเล็กลงมาตามพื้นที่ของบ้าน แต่ยังเป็นครัวปิด มีความเป็นสัดส่วนและมีบานหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศ พื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานสามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย

อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านจะเป็นทางขึ้นไปชั้น 2

บันไดใช้วัสดุเดียวกันกับบ้านแบบก่อนหน้าคือ โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวลูกตั้งและลูกนอนด้วยไม้สักไทย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินไปยังห้องต่างๆ ถ้าใครไม่อยากเดินขึ้นบันไดก็สามารถติดตั้งลิฟต์ได้

เราเข้ามาดูใน Master Bedroom กันก่อน พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอโถงทางเดินยาวๆ ทางฝั่งขวาเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำ ส่วนด้านในจะเป็นห้องนอน ซึ่งการจัดผังแบบนี้ช่วยให้ห้องด้านในมีความเป็นส่วนตัวค่ะ

ห้อง Walk-in Closet สามารถ Built-in เฟอร์นิเจอร์ได้โดยรอบ เป็นห้องที่อยู่ใกล้กับห้องน้ำ พออาบน้ำเสร็จก็สามารถแต่งตัวตรงนี้ได้อย่างเป็นสัดส่วน

ภายในห้องน้ำในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้องทั้งหมด มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน มีอ่างล้างหน้า พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้พร้อมกัน 1-2 คน

ภายในห้องนอนใหญ่ สามารถจัดพื้นที่ภายในได้กว้าง วางเตียงขนาดใหญ่ ชุดโซฟาและโต๊ะทำงานด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก

ถัดมาคือห้องนอนอีกห้องหนึ่ง ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องลูกสาวสีชมพูมุ้งมิ้ง ห้องนี้จะมีระเบียงสามารถออกไปเดินเล่นสูดอากาศได้

ระเบียงมีขนาดกว้างพอสมควร สามารถหาเก้าอี้มาวางหรือจัดสวนเพิ่มเติมได้

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วน มีหน้าต่างระบายอากาศให้ห้อง สุขภัณฑ์ต่างๆใช้ยี่ห้อเดียวกับบ้านแบบก่อนหน้านะคะ

ถัดมาคือชั้น 3 การออกแบบโถงบันไดจะคล้ายๆกันค่ะ

พอขึ้นมาชั้น 3 จะเจอกับชั้นลอยที่สามารถเอาไปทำห้องพระหรือพื้นที่เก็บของต่างๆได้

ชั้นนี้จะมีห้องนอนทั้งหมด 2 ห้อง ขนาดใหญ่ใกล้เคียงกัน เป็นห้องที่มีระเบียงและห้องน้ำในตัว

ห้องนี้เป็นฝั่งหน้าบ้าน ถ้ามองจากบนระเบียงออกไปก็จะเห็นวิวสวนฝั่งหน้าบ้าน

ด้วยขนาดห้องที่ค่อนข้างกว้างจึงสามารถจัดมุมแต่งตัวและนั่งพักผ่อนบริเวณหน้าห้องน้ำได้

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วน ห้องนี้เราชอบตรงช่องแสงขนาดใหญ่ซึ่งทำให้บรรยากาศห้องน้ำดูโปร่ง โล่งไม่อับชื้น

ชั้นนี้จะมีพื้นที่ Family Area ด้วย สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นในครอบครัวหรือเป็นห้องทำงานก็ได้นะ

ห้องนอนอีกห้องเข้ามาจะเจอกับ Walk-in Closet ก่อน เตียงนอนจะอยู่ด้านใน

ถัดจาก Walk-in Closet ไปก็จะเป็นห้องน้ำค่ะ

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกเช่นเดียวกัน เราสามารถใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วนค่ะ

ถัดมาเข้ามาด้านในของตัวบ้านจะเป็นห้องนอน  ที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก ห้องนี้ก็มีระเบียงเช่นเดียวกัน

สุดท้ายคือบ้านแบบ Sanctuary ที่ดินมาตรฐาน 109.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 657 ตร.ม.
ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน  7 ห้องน้ำ จอดรถได้ 5 คัน เป็นบ้าน Type ใหญ่สุดในโครงการ

การวางผังของบ้าน Type นี้ยังคงจัด Zoning คล้ายกับ Type ก่อนหน้า ชั้นล่าง มีการแบ่งพื้นที่เป็นส่วน Service และส่วนพักผ่อน แต่ด้วยหน้ากว้างของบ้านที่มากกว่าจึงทำให้จอดรถได้ 5 คัน ฟังก์ชันในบ้านสามารถรองรับครอบครัวใหญ่ที่อาศัยกันหลาย Generation ชั้นล่างมีห้องนอนผู้สูงอายุ ซึ่งถ้าเราไม่ใช้เป็นห้องนอนก็สามารถจัดเป็นห้องพักผ่อนได้ โดยห้องนี้จะอยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำภายนอกตัวบ้าน สามารถมองวิวสระจากในบ้านได้ และในกรณีที่ทำเป็นห้องพักผ่อนก็สามารถจัดปาร์ตี้ริมสระได้สบายๆ

สำหรับชั้น 2 การจัด Zoning ของห้องต่างๆจะกลับไปคล้ายกับบ้าน Type เล็ก คือมีห้องนอน 2 ห้อง Family Room อีก 1 ห้อง นอกจากนั้นยังมีห้องอเนกประสงค์ที่มีระเบียงเพิ่มขึ้นมาให้ด้วย ส่วนชั้น 3 จะมีห้องนอนใหญ่ ห้องนอนอีก 1 ห้อง และห้องพระค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

The Gentry Phatthanakan (เดอะ เจนทริ พัฒนาการ) ราคา @10 February 2021

• แบบบ้าน Haven บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 61.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 440 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาแปลงมาตรฐาน 35 ล้านบาท
• แบบบ้าน Hideaway บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 90.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 550 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาแปลงมาตรฐาน 48.5 ล้านบาท
• แบบบ้าน Sanctuary บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 109.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 657 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ
  – ราคาแปลงมาตรฐาน 59 ล้านบาท
• เงินจอง 300,000 , เงินทำสัญญา 20%
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 317,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 83 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : The Gentry พัฒนาการ ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 ทำเลนี้จัดว่าเป็นโซนที่อยู่อาศัยใกล้เมือง ย่านเอกมัย-ทองหล่อ สามารถใช้เส้นทางเข้า-ออกโครงการได้หลากหลาย ทั้งถนนพัฒนาการเชื่อมเข้าสู่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่หรือถนนรามคำแหง สามารถลัดเลาะถึงกันได้หมดทั้งซอยพัฒนาการ 20 , 30 ,32 ,38 เชื่อมไปออกซอยอ่อนนุช 17 เพื่อไปใช้ BTS อ่อนนุชได้เลย นอกจากนั้นยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช , Airport Rail Link สถานีรามคำแหง และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเส้นลาดพร้าว-สำโรง (สถานีพัฒนาการ) ที่กำลังก่อสร้าง

ในซอยมีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อหาของกินง่าย อุดมสมบูรณ์พอสมควร อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ใกล้โรงเรียนนานาชาติด้วย รวมๆแล้วถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกมากพอสมควร จึงเป็นที่นิยมของโครงการน้อยใหญ่ โดยบ้านในย่านนี้ส่วนใหญ่จะถูกพัฒนาในสไตล์โมเดิร์น ทาวน์โฮมจะมีช่วงราคาอยู่ที่ 6 -12 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวนั้นจะมีราคาค่อนข้างสูง (ตามทำเล) อยู่ในช่วง 20-60 ล้านบาทไปเลยค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : โครงการนี้เป็นบ้านเดี่ยวในสไตล์ Modern Luxury  ซึ่งเป็นซีรี่ย์ใหม่ของทาง SC Asset ที่มีการพัฒนาแบบมาจากซีรี่ย์เดิม ให้มีระเบียงเกือบทุกห้องนอน สามารถออกไปยืนสูดอากาศและจัดเป็น Pocket Garden ได้ เน้นพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน เริ่มที่ขนาด 440 ตร.ม. ไปจนถึง 657 ตร.ม. ทำให้ผู้พักอาศัยได้ใช้พื้นที่ในตัวบ้านได้อย่างเต็มที่

การออกแบบด้านหน้าบ้าน (Facade) จะมีการเล่นกับมุมตกกระทบของแสง (Shading Effect) โดยการใช้ระแนงไม้มาตกแต่ง ทำให้เกิดเส้นสายของเงาเพิ่มลูกเล่นให้กับตัวบ้าน ตัวบ้านจะมีการนำเอาเส้นสายของระแนงไม้มาเพิ่มลูกเล่น และมีการออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว ตัวบ้านสร้างเกือบเต็มพื้นที่ดิน มีช่องเปิดหน้าบ้านไม่เยอะเพื่อให้คนมองไม่เห็นด้านในแต่จะมี Double Volume เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับทุกแบบบ้านแทน

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :  ระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า-ออกโครงการ จะมีรปภ.ดูแลให้ 24 ชั่วโมง และมีประตูเลื่อนไฟฟ้าแบบ 3 ตอนกั้นด้วยระบบ Keycard Access ระยะไกล เข้ามาจะเจอกับโซนบ้านพักอาศัยรวมกับ Clubhouse เลย ไม่ได้กั้นแยกโซนเป็น Double Gate ส่วนภายในบ้านทางโครงการจะมี Shock Sensor , Magnetic Sensor และ CCTV ติดตั้งให้ 3 จุด ภายนอกตัวบ้าน

วัสดุ : ให้มาเหมาะสมกับราคาของบ้าน โครงสร้างเป็น Conventional อิฐ Q.Con ทาสี TOA Super Shield Titanium พื้นบ้านชั้น 1 เป็นกระเบื้อง Cotto Italia ชั้น 2 เป็นปาร์เก้ไม้สักไทยเข้าลิ้น ห้องนอนล่างเป็น Shock Absorption Floor ห้องน้ำ มีให้สัญญาณกันขโมย  Magnetic & Shock Sensor  มีระบบ Home Automation เปิดปิดไฟ และ มี CCTV ติดตั้งให้ 3 จุด ภายนอกตัวบ้าน สุขภัณฑ์เป็น American Standard และ KASCH

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : โครงการมีสวนสาธารณะมาให้ 1 จุด มีการเลือกต้นไม้ที่หลากหลายและสวยงาม นอกจากนั้นจะมีพื้นที่สีเขียวกระจายอยู่รอบโครงการ เช่นการจัดสวนบริเวณหน้าบ้านและตามซอยย่อยต่างๆ ทำให้  บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างร่มรื่น และบ้านในโครงการนี้สามารถจัด Pocket Garden เพื่อเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้าน

สาธารณูปโภค : มี Clubhouse ที่มี Facilities ที่หลากหลาย ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ (ทั้งสระเด็กและผู้ใหญ่) สวนหย่อม Lobby ฟิตเนส ห้องเด็กเล่น Co-Working Space

Judgement

The Gentry พัฒนาการ เป็นโครงการระดับ LUXURY- SUPER LUXURY ที่มีราคาขายเริ่มต้นที่ 35 – 60 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการ

The Gentry พัฒนาการ เหมาะกับใคร?

The Gentry พัฒนาการ เหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุยังไม่เยอะ โดยอาจจะเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว พนักงานระดับสูงในบริษัทเอกชนที่ทำงานอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หรือกลุ่มครอบครัวใหญ่ อยู่ด้วยกันหลาย Generation ชอบความเป็นเมืองและความสะดวกในการเดินทาง อยากอยู่ใกล้ทำเลเอกมัย-ทองหล่อ ชอบบ้านสไตล์โมเดิร์น หรือจะเป็นครอบครัวที่มีลูกเรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติรอบๆโครงการ

สุดท้ายแล้วทั้งหมดนี้เป็นความเห็นจากผู้เขียน หากคุณผู้อ่านมีโอกาสได้เข้าไปชมโครงการ แล้วมีความคิดเห็นหรือคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้นะคะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc