รีวิวโครงการ
The City ราชพฤกษ์ – สวนผัก : รีวิวบ้านเดี่ยว : คิดเรื่องอยู่ Ep.540
10 มกราคม 2021
รีวิวฉบับที่ 2041 … The City จัดเป็นแบรนด์บ้านขนาดใหญ่จาก AP นะคะ ซึ่งสำหรับโครงการนี้มีชื่อว่า The City ราชพฤกษ์ – สวนผัก ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดใหญ่รวมกับโครงการอื่นๆของ AP ซึ่งสามารถเข้าโครงการได้จากถนนบางกรวย-จงถนอม ตอนนี้โครงการเปิดขายเฟสที่ 2 อยู่ เท่าที่ดูเป็นเฟสที่ที่ดินเยอะ 100 ตร.วาเลยและได้ความสงบมากเพราะใน 1 ซอยย่อยมีบ้าน 2 หลังเท่านั้น ตอนนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 12.99 ล้านบาท ไปดูรายละเอียดโครงการพร้อมๆกันเลยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
ข้อมูลวันที่ 17 December 2019
- เดอะ ซิตี้ ราชพฤกษ์ – สวนผัก (The City Ratchaphruek-Suanphak)
- บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
- HIGH TO LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ถนนบางกรวย-จงถนอม เขตบางกรวย
- เนื้อที่โครงการ 42-0-38.2 ไร่ จำนวน 133 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว
- PRIVE พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ
- RETREAT พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
- SPACIOUS พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
- SCENERY : พื้นที่ใช้สอย 375 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องพระ
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.799708, 100.464942
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ที่ตั้งโครงการ The City ราชพฤกษ์ – สวนผัก ตั้งอยู่บนถนนบางกรวย-จงถนอม ซึ่งเป็นถนนสายเล็กๆที่มีความสำคัญคือ เป็นถนนที่สามารถทะลุไปยังถนนใหญ่ได้หลากหลายสาย ทั้งถนน ราชพฤกษ์ ถนนเส้นใหญ่ที่มี Community Mall ห้างร้านต่างๆ พอสมควร เนื่องจากเป็นถนนที่มีที่อยู่อาศัยมากมาย รูปแบบส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ราคาสูง ถัดมาคือสามารถทะลุออกไปยังถนนนครอินทร์ ซึ่งสามารถตรงไปยังย่านติวานนท์ หรือวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตกได้ง่าย อีกทั้งยังทะลุไปยังถนนบางกรวย-ไทรน้อย ที่สามารถเชื่อมไปออกยังถนนจรัญสนิทวงศ์ได้อีก รวมไปถึงทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ซึ่งใครที่วิ่งไปทำงานในเมืองเป็นประจำสามารถใช้ทางพิเศษนี้วิ่งเข้าเมืองไปทางจตุจักรได้สะดวกเลยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในละแวกโครงการจัดว่ามีของกินของใช้ครบครัน ด้วยความที่เป็นทำเลที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ จะเห็นว่าบนถนนราชพฤกษ์ในช่วงใกล้กับโครงการมีห้างสรรพสินค้า Community Mall ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว หลักๆ ก็จะเป็น The Walk ราชพฤกษ์ และ The Crystal SB ราชพฤกษ์ เป็นห้างที่สามารถขับรถออกมาได้ง่ายมากที่สุดค่ะ และอีกโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์ก็คือย่านปิ่นเกล้า บนช่วงถนนบรมราชชนนี มีทั้ง The Sense ปิ่นเกล้า, Central Plaza ปิ่นเกล้า เป็นต้น
ส่วนบนถนนบางกรวย-จงถนอมนี้นอกจากจะเป็นถนนที่สามารถเชื่อมเข้า-ออกถนนใหญ่ได้หลากหลายแล้ว บรรยากาศของถนนเองก็ค่อนข้างคึกคัก เพราะมีชุมชนขนาดใหญ่อยู่ ดังนั้นก็จะเห็นร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด รวมไปถึงร้านคาเฟ่ อยู่ตลอด 2 ฝั่งข้างทาง เรียกได้ว่าหากไม่อยากออกไปไหนไกลก็สามารถแวะซื้ออาหารได้บนถนนบางกรวย-จงถนอมก่อนกลับบ้านได้นะคะ
เส้นทางการเดินทาง
เส้นทางในการเดินทางครั้งนี้ เราจะเริ่มต้นจากบริเวณช่วงสะพานกรุงธน หรือสะพานซังฮี้ ข้ามมายังฝั่งธนฯ วิ่งเข้าเส้นถนนสิรินธร จากนั้นเตรียมกลับรถเพื่อเข้าถนนเทอดพระเกียรติ ช่วงสถานีรถไฟบางบำหรุ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางกรวย-จงถนอม ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางกอกน้อยแล้วให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนโครงการ AP ถนนเส้นนี้จะรวมหลายโครงการไว้ค่ะ The City ราชพฤกษ์ – สวนผักจะเป็นโครงการที่อยู่ลึกเข้าไปกว่าโครงการอื่นหน่อย แต่จะได้ความเงียบสงบมากกว่าค่ะ
เริ่มต้นเส้นทางกันตรงบริเวณถนนราชวิถีมุ่งหน้าไปทางสะพานซังฮี้นะคะ ใครที่มาจากทางฝั่งพระนคร ในเมือง วิ่งเส้นนี้จะใกล้สุดค่ะ ไม่อ้อม
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการนี้จะตั้งอยู่ในที่ดิน ลึกเข้าไปจากถนนบางกรวย-จงถนอม แต่ว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ใช้ร่วมกันกับโครงการ AP อื่นๆอีก เช่น โครงการ PLENO ที่เป็นทาวน์โฮม และ CENTRO ที่เป็นบ้านเดี่ยว เช่นกัน ดังนั้นถนนทางเข้าจึงเป็นถนนที่ถูกปรับทัศนียภาพทั้ง 2 ข้างทางให้ดูกว้างขวาง เรียบร้อย รถขับสวนกันได้สะดวก ส่วนตัวโครงการ The City ราชพฤกษ์ – สวนผัก จะเป็นโครงการที่อยู่ลึกเข้ามา จะได้ความเป็นส่วนตัวมากหน่อย และความเงียบสงบที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากบริเวณรอบๆทั้งสี่ทิศของโครงการ ติดกับที่ติดเปล่าหมดเลย แต่ตำแหน่งทางเข้า-ออกโครงการจะอยู่ทางทิศใต้ ดังนั้น ทิศใต้จะเป็นถนนทางเข้าค่ะ
คลิกเลื่อนที่ด้านข้างของรูปเพื่อดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการได้เลยนะคะ
ทิศใต้ หรือ หน้าโครงการก็จะมีสวนเล็กๆอยู่
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Tesco Lotus นครอินทร์ ~4.3 กม.
- ตลาดน้ำตลิ่งชัน ~5 กม.
- HomeWork ราชพฤกษ์ ~5.4 กม.
- ตั้งฮั่วเส็ง ปิ่นเกล้า ~5.5 กม.
- The Crystal SB ราชพฤกษ์ ~5.9 กม.
- Tesco Lotus ปิ่นเกล้า ~6 กม.
- Central Plaza ปิ่นเกล้า ~6.8 กม.
- HomePro ราชพฤกษ์ ~6.9 กม.
- The Sense ปิ่นเกล้า ~7 กม.
- The Walk ราชพฤกษ์ ~7.9 กม.
รายละเอียดโครงการ
โครงการ The City ราชพฤกษ์ – สวนผัก ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 42 ไร่ มีบ้านพักอาศัยเฉพาะบ้านเดี่ยวรวมทั้งสิ้น 133 หลัง แบ่งรูปแบบบ้านออกเป็น 4 แบบ เป็นบ้านหลังใหญ่ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 225 ตร.ม. ถึง 375 ตร.ม. เข้า-ออกโครงการทางเดียว และจะมีอาคาร Clubhouse และสวนขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าโครงการค่ะ เหมือนเป็นพื้นที่ต้อนรับให้กับลูกบ้านและผู้มาเยือนทุกคน ปัจจุบันโครงการนี้กำลังขายเฟสที่ 2 อยู่ โดยเป็นเฟสที่เรามองว่าได้ความเป็นส่วนตัวที่สุด คือในแต่ละซอยย่อย จะมีบ้านอยู่ 2 หลัง หันหน้าเข้าหากัน และเป็นเฟสที่มีขนาดที่ดินใหญ่ด้วย ส่วนใหญ่จะมีขนาดที่ดิน 90 – 100 ตร.วาเลย ทำให้ได้พื้นที่สวนข้างบ้านเยอะ ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ และไม่มีบ้านข้างๆรบกวนค่ะ นอกจากนั้นในโครงการนี้จะจัดวางบ้านหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ ที่ช่วยระบายอากาศและรับลมได้ดีอีกด้วย
สำหรับลูกบ้านที่อยู่เฟสแรก ก็จะได้ข้อดีที่ใกล้ทางเข้า-ออกโครงการ ใกล้ Clubhouse ส่วนเฟสที่ 2 อย่างที่บอกไปคือเเม้จะอยู่ด้านใน เเต่ก็เป็นเฟสที่ได้ความเงียบสงบมากขึ้น ได้ที่ดินใหญ่ และมีบ้านซอยละ 2 หลังเองค่ะ
เริ่มจากทางเข้าโครงการกันเลยค่ะ ด้านหน้าของโครงการจะเป็นซุ้มประตูทางเข้าที่มีการออกแบบเป็นส่วนเดียวกับอาคาร Clubhouse ที่สูง 2 ชั้น ทางเข้าเลยเห็นได้ชัดเจนด้วยค่ะ
ทางเข้า-ออกโครงการนี้จะมีอยู่จุดเดียวนะคะ โดยจะมีระบบรักษาความปลอดภัยตรงนี้คือรปภ. ไม้กั้นกระดก และประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติ พร้อมกล้อง CCTV ค่ะ
การเข้าออกโครงการอาศัย Key Card นะคะ มี CCTV ติดตั้งไว้ ถ่ายมุมกว้างและซูมเลขทะเบียนรถเอาไว้ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการ
นอกจากทางเดินรถแล้ว จะแยกทางเดินคนเป็นประตูเล็กๆอยู่ด้านข้าง เวลาเดินเข้า-ออกก็ปลอดภัยหน่อยค่ะ ไม่ต้องลงไปเดินบนถนน
นอกจากระบบรักษาความปลอดภัยพื้นฐานแบบที่เราเห็นกันบ่อยตามโครงการจัดสรรแล้ว ในโครงการของ AP จะเริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ด้วย เรียกว่าระบบ KATSAN ค่ะ KATSAN เป็น Application ที่พัฒนาขึ้นมาทำหน้าที่หลักเกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัยต่างๆภายในโครงการ ซึ่งทาง AP มีการพัฒนาไว้หลากหลาย Features แต่จะเลือกใช้แต่ละ Features หรือความสามารถให้เหมาะสมกับความต้องการในแต่ละโครงการอีกที ส่วนของโครงการ The City ราชพฤกษ์-สวนผักนี้ ตัวอย่าง Features ที่นำมาใช้เช่น จะมีระบบ Scan ทะเบียนรถยนต์ เช่นรถรับจ้างที่เข้ามาภายในโครงการ ถ้าอยู่ภายในโครงการนานเกินเวลา ก็จะส่งสัญญาณไปที่ป้อมรปภ. ให้มาช่วยดูว่ารถคันนี้มาทำธุระจริงหรือไม่ เป็นต้น หรือว่าจะเป็นระบบ Digital Stamp แทนบัตรกระดาษ ลดปัญหา ลืมประทับตรา เจ้าของบ้านก็สามารถประทับตราผ่าน Application ได้ค่ะ
เข้ามาภายในโครงการจะเจอกับถนนกว้างเลย เป็นตำแหน่งของเฟส 1 ของโครงการที่ตอนนี้มีลูกบ้านย้ายเข้ามาอยู่กันมากแล้ว ทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ส่วนทางขวามือจะเป็นอาคาร Clubhouse ค่ะ
ตำแหน่งของ Sale Gallery จะอยู่ทางซ้ายมือตรงข้ามกับสวนเลย
มาดูกันที่ Clubhouse กันก่อนค่ะ อย่างที่บอกไปว่าอาคาร Clubhouse นี้จะเป็นส่วนหนึ่งกับซุ้มประตูทางเข้าโครงการเลย เป็นอาคาร 2 ชั้น
ที่ชั้นล่างจะมีส่วนที่อยู่ indoor และส่วนที่เป็นพื้นที่ outdoor โดยส่วนที่อยู่ indoor หรือภายในอาคารจะเป็น Lobby หน้าตาแบบนี้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ outdoor จะมีสระว่ายน้ำและพื้นที่นั่งพักผ่อนข้างสระแบบที่มีหลังคาปกคลุม โดยสระว่ายน้ำจะมีอยู่ 2 ฝั่งคือ ที่เราเห็นอยู่ซ้ายมือและทางขวามือจะมีสระ Jacuzzi แอบอยู่ด้วย
ตรงนี้เหมาะกับคนที่ใช้งานสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ เช่นคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกมาว่ายน้ำเล่น ก็มานั่งรอเพลินๆ หยิบหนังสือสักเล่มมานั่งอ่านตรงนี้ได้
สระว่ายน้ำจะแบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ ขนาด 12.9 x 12 เมตร ลึก 1.2 เมตร สระเด็ก 8.7 x 2.4 เมตร ลึก 0.5 เมตร และสระ Jacuzzi ขนาด 4.3 x 4.1 ลึก 0.8 เมตร ตรงนี้เราชอบที่เอาสระ Jacuzzi อยู่เข้าไปด้านใน หลบมุมหน่อยๆ เวลาใช้งานก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยค่ะ แต่ส่วนที่เป็นสระปกติ ก็จะมีต้นไม้ทั้งต้นไม้ใหญ่และแนวพุ่มไม้ปลูกคั่นระหว่างถนนกับตัวสระอยู่ด้วยนะคะ เวลารถที่ผ่านเข้า-ออกโครงการขับผ่าน คนที่ใช้งานก็จะไม่รู้สึกโป๊เปลือยเกินไป
ข้างๆสระว่ายน้ำจะมีห้องน้ำให้บริการอยู่ ถือว่าเป็นห้องน้ำส่วนกลางที่คนที่มาใช้สวนหรือ Clubhouse สามารถมาใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ การตกแต่งข้างในก็เลือกวัสดุลายหินอ่อนดูเรียบหรู และมีทั้งห้องอาบน้ำ ห้องสุขา และ Sauna แยกชาย-หญิงให้มาพร้อม
โทนสีห้องน้ำก็จะเน้นโทนสีขาว และกระเบื้องลายหินอ่อนค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของอาคาร Clubhouse จะมี Fitness อยู่ ลักษณะเป็นห้องกระจกที่มีความสูงแบบ Double Volume ด้วย ภายในห้องเลยดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด
นอกจากนี้จะมี Kids Room เอาไว้สำหรับคุณหนูๆ อย่างที่เราเข้าใจว่ากลุ่มคนที่ต้องการซื้อบ้านเดี่ยวเหตุผลหนึ่งคือการขยับขยายครอบครัว บางคนมีลูกเล็กก็สามารถมาใช้งานห้องนี้ได้ด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่สามารถสร้าง Community หรือสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวภายในโครงการได้ด้วยค่ะ
เด็กๆจะเล่นคนเดียวก็อาจจะเหงาได้ มาเล่นที่นี่บางทีเจอเพื่อนก็ถือว่าให้เด็กได้เรียนรู้การเข้าสังคมไปด้วยในตัวนะคะ
และอีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจใน Clubhouse นี้คือ Co-working Space ค่ะ พื้นที่ตรงนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหน่อยเพราะขึ้นมาอยู่ที่ชั้น 2 เป็นอีกตัวเลือกถ้าใครเบื่อนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานที่บ้านก็มีพื้นที่เพิ่มเติมมานั่งทำงานได้ ไม่ต้องเสียเงินไปนั่งร้านกาแฟข้างนอกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังมี Pool Table สำหรับสายเกมส์ด้วย วันไหนว่างๆชวนเพื่อนมาเล่นได้เลย
และมี Theater Room ที่มีจอ Projector อยู่พร้อมกับ Chrome Cast ต่อหนังดู จัดปาร์ตี้ ร้องคาราโอเกะได้เลยค่ะ
ดูส่วนที่เป็น Clubhouse กันแล้ว มาดูส่วนที่เป็นสวนกันบ้าง โดยสวนที่โครงการนี้จะจัดไว้ขนาดประมาณ 2 ไร่เลย เน้นสนามหญ้าโล่งกว้าง มีต้นไม้ใหญ่ปลูกรอบๆ
และมีทางเดินรอบๆสวนด้วยค่ะ สามารถเดินออกกำลังกายได้ด้วย
นอกจากนี้จะมีมุมนั่งเล่นที่สร้างเหมือนศาลากลางสวน สูง 2 ชั้น
สามารถนั่งเล่นดูลูกๆวิ่งเล่นที่สวนก็ได้ มีหลังคาปกคลุมไม่ร้อนมาก
และมีมุมวิ่งเล่นของเด็ก สร้างด้วยวัสดุ Absorbtion สีสันสดใส
ภายในโครงการถนนหลักกว้างขวางมีต้นไม้ใหญ่ปลูก 2 ฝั่งถนนเลยค่ะ นอกจากจะได้ความร่มรื่นแล้ว ยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านแต่ละหลังที่อยู่ชิดติดถนนด้วยนะคะ
ในเฟสที่ 2 ที่เปิดขายอยู่นั้นจะมีความน่าสนใจตรงที่หน้าบ้านแต่ละหลังจะหันเข้าซอยย่อย และแต่ละซอยย่อยมีบ้านแค่ 2 หลังหันหน้าชนกันเท่านั้นค่ะ ถือว่าเป็นเฟสที่ Private สุดๆ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 3 สระ ระบบเกลือ
- สระผู้ใหญ่ ขนาด 12.9 x 12 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- สระเด็ก 8.7 x 2.4 เมตร ลึก 0.5 เมตร
- สระ Jacuzzi ขนาด 4.3 x 4.1 ลึก 0.8 เมตร
แบบบ้าน
ในโครงการ The City ราชพฤกษ์ – สวนผัก จะมีแบบบ้านอยู่ทั้งหมด 4 แบบนะคะ ชื่อว่า PRIVE ขนาด 225 ตร.ม. , RETREAT 262 ตร.ม. , SPACIOUS 309 ตร.ม. และ SCENERY 375 ตร.ม.ค่ะ โดยจะเริ่มต้นที่ 4 ห้องนอนเลย ดังนั้นโครงการนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่กัน 2-3 Generations ถ้า 2 Gens ก็อาจมีลูกโต นอนแยกห้องกันแล้ว และบ้านหลังใหญ่ก็มีการออกแบบที่คิดถึงการใช้งานสำหรับผู้สูงอายุเอาไว้ด้วย ในรีวิวนี้เราจะพาไปดูบ้านขนาดใหญ่สุดทั้ง 2 แบบคือแบบ SCENERY และแบบ SPACIOUS นะคะ และมีบรรยากาศของแบบบ้าน RETREAT มาให้ดูกันเพิ่มเติม แต่ละแบบบ้านจะเป็นอย่างไร ก่อนจะไปดูเราขอพูดถึงระบบรักษาความปลอดภัยภายในตัวบ้านกันนะคะ ถ้ารอบบ้านมีระบบ KATSAN แล้วเทคโนโลยีและระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านของโครงการนี้จะเรียกว่า Hybrid living ค่ะ โดยภายในระบบนี้จะมี CCTV ให้มาภายในตัวบ้าน 2 จุด ที่ Living Room 1 จุด และที่โรงจอดรถอีก 1 จุด โดยสามารถดู CCTV นี้ ผ่าน Application ได้ , ระบบรักษาความปลอดภัยที่จะได้พร้อมกับตัวบ้านต่อมาคือระบบ Magnetic sensor ที่จะติดอยู่ที่ประตูและหน้าต่างของบ้าน นอกจากระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว ยังมีระบบอำนวยความสะดวกอย่าง Home Automation ให้มาด้วยค่ะ ที่สามารถดู CCTV ได้ เปิด-ปิด ไฟ, แอร์, ประตูรั้วอัตโนมัติหน้าบ้าน และยังเชื่อมกับปุ่มเรียกฉุกเฉิน สำหรับผู้สูงอายุที่สามารถกดเรียกขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆภายในบ้านได้ค่ะ
SCENERY
มาเริ่มที่แบบบ้านใหญ่ที่สุดกันก่อนคือแบบ SCENERY ค่ะ บ้านแบบนี้จะมีพื้นที่ใช้สอย 375 ตร.ม. มี 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ และมีห้องแม่บ้านค่ะ โดยตัวบ้านจะเป็นบ้านหน้ากว้าง สามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นฟังก์ชันที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน และฟังก์ชันที่อยู่ฝั่งหลังบ้าน ด้านหน้าบ้านจะเป็นทางเข้าและที่จอดรถที่สามารถจอดในร่มได้ 3 คัน พื้นที่ด้านข้างของที่จอดรถจะเป็นทาง Service ใช้เดินเข้าไปยังห้องครัวได้เลย และจะมีห้องแม่บ้านอยู่ฝั่งนี้ สะดวกเวลาที่เราซื้อของเข้าบ้านมา แม่บ้านก็ช่วยยกของเข้าบ้าน ถือของเข้าครัวได้เลยค่ะ ส่วนทางเข้าหลักของบ้านจะมีอยู่ 2 ทาง คือจากประตูหน้าบ้านที่จะเข้าไปเจอ Foyer และจากที่จอดรถ โดยความพิเศษของบ้านแบบนี้จะอยู่ที่ทางขึ้นที่จอดรถจะมีลักษณะเป็น RAMP หรือทางลาด สามารถเข็นรถเข็นเข้าไปตรงนี้ได้ค่ะ
มาดูพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านกันดีกว่า ไม่ว่าจะเข้ามาจากทางประตูหลักหรือทางที่จอดรถ จะมาเจอกับพื้นที่โล่งต่อเนื่องขนาดใหญ่ เป็นเหมือนในกลางบ้านที่ทุกคนจะมาใช้งานร่วมกันตรงนี้นะคะ ซึ่งเราสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน รวมกับโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ 6-10 ที่นั่งได้เลย แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน หรือถ้าใครชอบที่จะมีครัวฝรั่งหรือ Pantry ก็สามารถต่อเติมเพิ่มมาบริเวณพื้นที่นี้ได้ค่ะ จากพื้นที่ตรงนี้หันไปฝั่งที่จอดรถ(หรือทางขวามือของรูป) จะเป็นฟังก์ชันบริการต่างๆ มีครัว และห้องน้ำที่เป็น Powder room เอาไว้รับแขก ส่วนฝั่งตรงข้ามหรือซ้ายมือของแปลนจะเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นอีกจุดฝั่งหน้าบ้าน ตรงนี้มีความพิเศษตรงที่มีความสูงแบบ Double Space ดูโปร่งโล่ง เชื่อมกับ Family Area ที่ชั้น 2 ได้ด้วย และมีห้องนอน 1 ห้องอยู่ฝั่งด้านหลัง ห้องนี้ถูกออกแบบให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ คือจะได้เป็นประตูบานเลื่อนทั้งประตูห้องนอนและประตูห้องน้ำค่ะ แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีผู้สูงวัยอาศัยอยู่ด้วย ตรงนี้ก็อาจปรับเป็นห้องอ่านหนังสือหรือห้องทำงานแทนก็ได้นะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ตำแหน่งบันไดบ้านจะอยู่ฝั่งหน้าบ้านข้างๆกับ Foyer ของทางเข้าหลักบ้าน ตรงนี้จะมีการออกแบบ Extra Area ที่ชานพักจากชั้น 2 ขึ้นไปอีก สามารถปรับเป็นห้องพระหรือมุมนั่งเล่นก็ได้นะคะ ส่วนห้องนอนที่ชั้นนี้จะมีอยู่ 4 ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน พื้นที่ใหญ่ ระเบียงกว้าง มีพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำได้อ่างล้างหน้าแบบ His&Her และมีอ่างอาบน้ำให้มา ส่วนห้องนอนเล็ก 3 ห้องจะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน ทุกห้องจะได้ห้องขนาดที่อยู่อาศัยพอดี ไม่เล็กไป มีห้องน้ำในตัว มีมุมวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งภายในห้องได้ค่ะ นอกจากนี้ข้างบันไดอีกฝั่งจะมีพื้นที่โล่ง สามารถมองเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นชั้นล่างได้ ตรงนี้สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นสำหรับครอบครัวได้อีกมุม หรือจะทำเป็นมุมโต๊ะทำงาน มุมทำการบ้านของลูกๆก็ได้นะคะ
มาดูที่ตัวบ้านกันค่ะ แบบ Scenery จะเป็นแบบบ้านขนาดใหญ่สุดในโครงการ เป็นบ้าน 2 ชั้นที่เป็นแบบหน้ากว้างค่ะ และด้วยที่ดินของโครงการนี้ที่มีขนาด 100 ตร.วาเกือบทุกหลังเลย ทำให้พื้นที่ดินรอบๆบ้านมีขนาดใหญ่ด้วย ในแต่ละซอยย่อยก็มีจำนวนยูนิตไม่มาก ได้ความเป็นส่วนตัวดีนะคะ นอกจากนี้ทางโครงการจะมีการจัด Landscape หน้าบ้านไว้ให้ เป็นสนามหญ้า ไม้พุ่ม และต้นไม้ใหญ่ พรางสายตาไม่ให้คนที่ผ่านไปมาด้านหน้า มองเข้าไปยังตัวบ้านได้ง่ายๆค่ะ
ทางเข้าบ้านจะมีอยู่ 2 ทางทั้งทางเดินคนและทางเข้าที่จอดรถ ประตูรั้วที่จอดรถจะเป็นระบบอัตโนมัติ เชื่อมต่อกับ Application ได้ค่ะ
ส่วนหน้าบ้านก็จะมีไฟส่องสว่างหน้ากริ่งให้ มีตู้จดหมายและพื้นที่ทิ้งขยะค่ะ
เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่จอดรถเป็น Stamped Concrete โครงสร้างพื้นที่จอดรถจะเป็น Slab on ground ค่ะ (แยกโครงสร้างกับตัวบ้านทำให้ไม่เกิดรอยร้าวระหว่างผนังกับพื้นที่จอดรถ แต่เนื่องจากไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ให้ ไม่เหมาะกับการต่อเติมนะคะ)
บ้านแบบนี้จะสามารถจอดรถได้ 3 คัน หน้ากว้างจะอยู่ที่ 7.45 เมตร และความลึกแบบที่มีหลังคาปกคลุมจะอยู่ที่ 5.15 เมตรค่ะ ถือว่าเข้าจอดในร่มได้เต็มคันอยู่นะคะ (ขนาดช่องที่จอดรถมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดจะอยู่ที่ 2.5 x 5 เมตร)
แบบบ้านนี้จะเน้นการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุด้วย ดังนั้นทางเข้าบ้านจากที่จอดรถจะมี Ramp หรือทางลาดเอาไว้ ให้รถเข็นสามารถเข็นขึ้นบ้านได้ค่ะ (บานประตูตรงนี้จะติดตั้ง Digital Door Lock ไว้ให้นะคะ
เดี๋ยวเราลองเดินดูรอบๆบ้านกันสักหน่อยดีกว่า จากที่จอดรถอีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นทางเข้าหลักของบ้านค่ะ อย่างที่เราเห็นว่าโครงการนี้จะเน้นที่ดินขนาดใหญ่ (หลังนี้ที่เราไปถ่ายมีที่ดินประมาณ 134 ตร.วา) ดังนั้นจึงมีพื้นที่สวนหน้าบ้านกว้างอยู่นะคะ
ด้านข้างของบ้าน ก็จะปูพื้นหญ้าเอาไว้ให้ ในโครงการนี้จะมีปลูกต้นไม้ไว้ให้ทั้งภายในบ้านและที่ถนนรอบๆโครงการ แต่ภายในบ้านแต่ละหลังจะให้มาไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับขนาดของที่ดินด้วยค่ะ อย่างต้นไม้ที่ปลูกให้ก็จะมีต้นขาไก่ด่าง , พุด ศุภโชค , ไทรเกาหลี , ต้นคริสติน่า , ต้นลีลาวดี , ต้นเหลืองปรีดียาธร เป็นต้น ส่วนถนนภายในโครงการจะมีปลูกต้นแคนา กับต้นลีลาวดีค่ะ
ตัวบ้านฝั่งนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่น ถ้าเราจัดสวนสวยๆไว้ที่ฝั่งนี้ก็จะกลายเป็นวิวให้กับห้องนั่งเล่นได้ด้วยค่ะ
ด้านหลังบ้านจะเหลือที่ดินน้อยลงหน่อย
มาที่อีกฝั่งจะเป็นส่วน Service ของบ้าน คือพื้นที่ซักล้างและห้องแม่บ้าน โดยพื้นที่ซักล้างจะมีพื้น Concrete ที่เป็น Slab on ground มาให้ และตรงนี้จะมีทางเข้าห้องครัวอยู่ด้วยค่ะ
เดินจากพื้นที่ซักล้างก็จะไปเจอกับที่จอดรถ ที่ทิ้งขยะ และตู้รับจดหมายค่ะ ในแง่การใช้งานก็สะดวกเลยทีเดียว
มาดูที่ทางเข้าหลักของบ้านกันต่อ ตรงนี้จะมีการออกแบบที่สร้างผนังปิดล้อมซ้าย-ขวาเอาไว้ และมีหลักคาปกคลุมด้วย ทำให้ฟังก์ชันที่อยู่หน้าบ้านนี้ไม่ร้อนจนเกินไป อย่างเช่นห้องนั่งเล่นทางซ้ายมือที่มีพื้นที่ภายในแบบ Double Volume ส่วนผนังของทางเข้าบ้านจะมีการเลือกวัสดุที่เป็นหินมาตกแต่งให้หน้าตาบ้านดูสวยงามมากขึ้น
ทางขึ้นบ้านจะมีบันไดกว้างค่อยๆยกระดับขึ้นไป
ก่อนถึงประตูจะมีโถงเล็กๆขนาด 1.65×1.95 เมตรอยู่ เป็นพื้นที่ที่เราสามารถวางชั้นวางรองเท้า หรือเป็นที่นั่งใส่รองเท้าสำหรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านได้ค่ะ ส่วนตัวประตูเข้าหลักของโครงการนี้จะใช้บานไม้สักนะคะ
ตัวบ้านจะยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย ฝุ่นจากหน้าบานไม่ไหลปลิวเข้าไปได้ง่าย
เข้ามาภายในบ้าน เราก็จะเจอกับโถงหน้าบ้านเล็กๆอีกจุดหนึ่ง มีขนาดประมาณ 1.75 x 2 เมตร เป็นเหมือนพื้นที่ต้อนรับเล็กๆ วางของประดับตกแต่งได้
เข้ามาภายในบ้านทั้งจากประตูทางเข้าหลักและประตูจากที่จอดรถ สิ่งแรกที่เราจะเจอเลยคือพื้นที่ Common Area กลางบ้าน ที่มีขนาดกว้างต่อเนื่องกัน 7.95 x 6 เมตร สามารถจัดเป็น Pantry โต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ รวมถึงพื้นที่นั่งเล่นหรือชุดโซฟารับแขกได้ โดยพื้นที่ส่วนนี้จะได้ความสว่างและวิวจากกระจกทางฝั่งหลังบ้านเป็นหลัก ตัวบ้านจะสูง 2.8 เมตร
หันมาทางขวามือ (ฝั่งที่จอดรถ) จะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำและห้องครัว ดังนั้นตรงนี้จึงเหมาะที่จะจัดเป็นพื้นที่กินข้าว ต่อเติมเป็นเคาน์เตอร์หรือ Pantry ได้ กลายเป็นมุมทำขนม ชงกาแฟเพิ่มค่ะ
ห้องน้ำที่ฝั่งนี้จะเป็น Powder Room คือไม่มีที่อาบน้ำนะคะ โดยสุขภัณฑ์จะได้ของ Cotto ตัวห้องน้ำออกแบบมาดูเรียบร้อยดีนะคะ ใต้อ่างล้างมือมีตู้ Built-in มาให้ด้วย และมีผนัง Low wall ด้านหลังสามารถวางของตกแต่งได้อีก
มาดูที่ครัวกันต่อค่ะ ห้องครัวของโครงการนี้ทำออกมาค่อนข้างดีเลย เพราะจะมีชุดครัวให้มาด้วยตามที่เห็นเลยค่ะ พื้นที่ครัวจะมีขนาด 3.45×2.85 เมตร
อย่างในแบบบ้านนี้จะมีเคาน์เตอร์ให้มาเป็นรูปตัว U มีเครื่องดูดควัน อ่างล้างจานสเตนเลส ตู้บน ตู้ล่างมีหน้าบานปิดมาให้ด้วย ตัวหน้าบานบางจุดที่ต้องการระบายอากาศก็จะมีดีไซน์ที่สามารถระบายอากาศได้อีกด้วย
ท็อปเคาน์เตอร์จะเป็นหินแกรนิตดำค่ะ ที่เราชอบคือรายละเอียดเช่นตำแหน่งสำหรับวางหัวเตาก็จะลดระดับลงไป และมีการเจาะรูท็อปเคาน์เตอร์ให้เพื่อเป็นตำแหน่งของสายแก๊สด้วย นอกจากนี้ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ก็จะมีการติดกระเบื้องเอาไว้ เพื่อให้ทำความสะอาดคราบและเขม่าควันที่เกิดจากการทำอาหารได้ง่ายขึ้น ครัวจะได้สวยงามสะอาดตาไปนานๆ
ตัวตู้ต่างๆจะใช้เป็นบานเปิดสวิง มีชั้นวางให้มาพร้อม เก็บข้าวของได้เยอะเลยค่ะ
ส่วนตำแหน่งตู้เย็นจะอยู่อีกฝั่งนะคะ ใกล้กับประตูทางออกไปยังพื้นที่ซักล้างและห้องแม่บ้าน
ออกมาจากครัวจะเป็นทางเดินเล็กๆแบบนี้ ห้องแม่บ้านจะอยู่ทางซ้ายมือ ห้องน้ำแม่บ้านจะอยู่ตรงกลางค่ะ
ภายในก็จะมีขนาดเหมาะสมสำหรับแม่บ้าน 1 คนอยู่
กลับมาภายในตัวบ้านกันอีกครั้งนะคะ
เมื่อสักครู่เราไปดูฝั่งครัวและพื้นที่รับประทานอาหารกันมาแล้ว คราวนี้เรามาดูพื้นที่สำหรับจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นกันบ้าง ตรงนี้ถือว่ามีขนาดกว้างเลย เราจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ เป็นมุมพักผ่อนที่ทั้งครอบครัวสามารถมาใช้เวลาร่วมกันได้ค่ะ กินข้าวไป ดูทีวีไป พูดคุยกันไปได้
ส่วนทางขึ้นชั้น 2 ของบ้านจะอยู่ฝั่งหน้าบ้านข้างๆกับประตูทางเข้าหลักค่ะ โดยจะมีห้องเก็บของอยู่ใต้บันได มีประตูปิดให้มาเรียบร้อย แต่ว่าด้านข้างบันไดอีกฝั่งจะมีพื้นที่นั่งเล่นอีกจุดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของบ้านเลยค่ะ
ที่บอกว่าเป็นไฮไลท์ก็เพราะว่าพื้นที่นั่งเล่นตรงนี้จะเป็นพื้นที่ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และเป็นพื้นที่ที่มีความสูงแบบ Double Volume สูงต่อเนื่องไปยังชั้น 2 ของบ้านเลย และถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหน่อยอาจจะต่อเติมประตูบานเลื่อนเพิ่มเติมตรงนี้เพื่อให้พื้นที่แยกออกไปเป็นสัดส่วน เวลาใช้งานเสียงจะได้ไม่รบกวนกัน เช่นคุณพ่อคุยธุระที่ห้องนี้ เสียงจากทีวีที่พื้นที่นั่งเล่นตรงกลางที่คุณแม่ดูอยู่ก็ไม่รบกวนการคุยธุระของคุณพ่อค่ะ
เราสามารถเลือกโคมไฟสวยๆมาตกแต่งพื้นที่ส่วนนี้ได้นะคะ
ส่วนด้านในจะมีห้องนอนอยู่ห้องหนึ่งที่ชั้นนี้ เป็นห้องที่สร้างไว้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุค่ะ
พื้นจะอยู่ระดับเดียวกับภายนอก แต่วัสดุพื้นจะเปลี่ยนไปเป็นลามิเนต และจะเลือกใช้ประตูเป็นบานเลื่อน
ภายในห้องก็จะมีห้องน้ำในตัว มีหน้าต่างช่วยระบายอากาศอยู่ด้านหนึ่ง ฝั่งที่เป็นหน้าต่างนั้นมองออกไปจะเป็นพื้นที่สวนที่มีขนาดใหญ่ข้างบ้าน คนที่อยู่ในห้องนี้ก็จะใกล้ชิดกับพื้นที่สีเขียวข้างบ้านมากขึ้น สดชื่นขึ้นค่ะ
ประตูห้องน้ำก็จะเป็นประตูบานเลื่อนเช่นกันนะคะ ห้องนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 3.15 x 4.7 เมตร ตรงนี้จะขอแนะนำนิดนึงสำหรับบ้านไหนที่มีผู้สูงวัยที่ต้องใช้รถเข็น เวลาที่เราเลือกขนาดเตียงที่จะตั้งไว้ในห้องนี้อาจจะต้องเลือกขนาดเตียงให้เล็กลงหน่อย หรือว่าวางเตียงชิดไปที่ผนังฝั่งประตูห้องนะคะ เพื่อที่จะเหลือพื้นที่ทางเดินให้สามารถเข็นรถเข็นได้ง่ายหน่อย
ส่วนภายในห้องน้ำก็จะมีขนาดกว้างเลยค่ะ มีราวจับไว้ให้เพื่อให้ผู้สูงอายุจับช่วยพยุงตัวขณะลุกหรือนั่ง
มีเรื่องแอบเสียดายนิดหน่อยตรงที่ภายในห้องน้ำระดับจะลดลงมาจากภายในห้องนอน ทำให้ไม่สะดวกในการเข็นรถเข็นเข้า-ออกห้องน้ำนะคะ แต่เราสามารถไปปรับพื้นที่ให้มีทางลาดเล็กๆเพิ่มเอาทีหลังได้ค่ะ เพื่อให้การใช้งานสะดวกขึ้น
โทนการตกแต่งห้องน้ำก็จะเลือกใช้กระเบื้องสีครีม-ขาว ดูสะอาดตา เลือกใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto กระจกเงาได้แบบกว้างเต็มความกว้างของห้องน้ำด้วย
ส่วนห้องอาบน้ำจะมีก่อที่นั่งมาให้แบบนี้ด้วยนะคะ แต่จะไม่มีฉากกั้นมาให้ค่ะ ตัวฝักบัวจะได้เป็นแบบ Hand Shower ภายในกว้าง 1.1 x 1.7 เมตร
โครงสร้างบันไดของบ้านภายในโครงการนี้จะเป็นโครงสร้างคอนกรีตค่ะ ลูกนอนจะใช้เป็นไม้ยางพาราประสาน
ชานพักบันไดได้กว้างเลยค่ะ ขนาด 1.8 x 2.17 เมตร วางม้านั่งเล็กๆเพิ่มได้
ตัวบันไดของที่นี่จะไม่ได้จบที่ชั้น 2 นะคะ แต่จะมีทางเดินขึ้นมาอีกครึ่งชั้น กลายเป็นพื้นที่อเนกประสงค์เล็กๆเพิ่มเติมขึ้นมา มุมนี้จะมีขนาด 3.15 x.2.15 เมตร ปรับเป็นห้องพระก็ได้ หรือจะเป็นมุมส่วนตัวนอนอ่านหนังสือก็ได้ค่ะ มีช่องแสงให้ด้วยนะ
ข้างๆกับบันไดจะมีพื้นที่ Family Area อยู่ ถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลางของชั้น 2 ก็ว่าได้
พื้นที่ตรงนี้จะเป็นพื้นที่โล่ง เหมือนเป็นชั้นลอยเลย เพราะสามารถมองลงไปยังห้องนั่งเล่นชั้นล่างที่เป็น Double Space ได้ ตรงนี้จะมีขนาด 3 x 3.5 เมตร ทำเป็นมุมทำงาน ห้องอ่านหนังสือ หรือจะเป็นมุมโซฟานั่งเล่นเกมส์ ดูทีวีส่วนตัวภายในครอบครัวได้เช่นกันค่ะ
ที่ชั้น 2 จะมีห้องนอนอยู่ทั้งหมด 4 ห้องค่ะ ห้องนอนเล็ก 3 ห้องจะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน เราไปดูห้องแรกที่ใกล้กับ Family Area ก่อนเลย เข้ามาในห้องทางขวามือจะเป็นพื้นที่สำหรับวางเตียง ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ โดยมีพื้นที่สำหรับจัดเป็นตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำค่ะ ภายในห้องนอนจะมีพื้นที่อยู่ประมาณ 3.7 x 3.2 เมตร วางเตียงใหญ่แบบ King Size ได้เลย ภายในห้องตัวอย่างจะจัดไว้เป็นห้องนั่งเล่นอีกห้อง เผื่อบ้านไหนสมาชิกไม่มาก สามารถนำไปเป็นไอเดีย เพิ่มห้องดูหนังส่วนตัวภายในบ้านได้ด้วยนะคะ
ส่วนห้องน้ำก็จะแยกส่วนเปียก-และส่วนแห้งเอาไว้ให้ มีหน้าต่างระบายอากาศเรียบร้อย ดีไซน์ วัสดุ และสุขภัณฑ์จะเหมือนๆกับห้องอื่นๆค่ะ
มาดูห้องนอนที่เหลือกัน ตรงนี้จะมีทางเดินตรงกลางแยกไปนะคะ
ห้องนอนที่อยู่ตรงกลางจะมีขนาดใกล้เคียงกับห้องที่แล้วนะคะ เพียงแต่ฟังก์ชันจะสลับด้านกัน
เห็นได้ว่าสามารถวางเตียงใหญ่ได้ แต่ถ้าเลือกวางเตียงแบบ Queen size หรือเตียงกว้าง 1.60 เมตร เราสามารถจัดมุมนั่งทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งไว้ได้ด้วย ในขณะที่ปลายเตียงก็สามารถวางชั้นวางทีวีได้อีกค่ะ
หน้าห้องน้ำก็จะเป็นมุมสำหรับวางตู้เสื้อผ้า ขนาดตู้กว้าง 1.5 เมตรกำลังดี
ส่วนห้องน้ำจะเหมือนเดิมนะคะ มีหน้าต่างเป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศ
มาดูห้องนอนเล็กที่อยู่ในสุดกันดีกว่า ห้องนี้จะพิเศษกว่าห้องอื่นตรงที่ขนาดที่ใหญ่ขึ้น และจะได้หน้าต่างถึง 2 ฝั่งของผนังเลย
เข้ามาในห้องจะตรงกับทางเข้าห้องน้ำ แต่จะมีพื้นที่หน้าห้องน้ำที่วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือตู้เสื้อผ้าได้ ตรงนี้จะกว้าง 1.5 เมตร
ห้องน้ำก็จะเหมือนเดิมนะคะ แตกต่างกันเล็กน้อยที่ลายของกระเบื้องที่นำมาใช้ตกแต่ง มี Junction Box ไว้ให้ ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้ง่าย
ส่วนห้องนอนจะมีขนาด 3.15 x 4.6 เมตรเลย ดูโปร่งโล่งขึ้น ได้หน้าต่างสองฝั่งของผนัง
อีกฝั่งสามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้ค่ะ เผื่อใครที่มีข้าวของเยอะ 1.5 เมตรที่หน้าห้องน้ำอาจจะไม่เพียงพอ ตรงนี้ก็จะมีพื้นที่ทำชั้นวางของหรือตู้เสื้อผ้าเพิ่มอีก 3.15 เมตรเลย
ก่อนจะไปดูที่ Master Bedroom หน้าห้องนอนใหญ่จะมีแผงควบคุมอยู่ที่หน้าห้องค่ะ เอาไว้เปิด-ปิดระบบสัญญาณกันภัยต่างๆได้
ห้องนอนใหญ่จะกินพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านเกินครึ่งเลยค่ะ ภายในจึงมีขนาดใหญ่มาก โดยเราจะได้ห้องเปล่าๆแบบนี้ ไปต่อเติม กั้นห้องเพิ่มเองตามสะดวกเลยค่ะ วางเตียงไปแล้วยังสามารถจัดโซฟาพักผ่อนในห้องได้ แถมทำ Walk-in Closet ได้ด้วย พื้นที่ห้องนี้จะมีขนาด 4.3 x 7.0 เมตรเลย
เลือกวางเตียงขนาดใหญ่ได้ตามที่ต้องการเลยสามารถเดินรอบเตียงได้สบาย
ความแตกต่างของ Master bedroom กับห้องนอนอื่นๆนอกจากขนาดของห้องแล้ว จะเป็นห้องนอนเดียวที่ได้ระเบียงด้วยค่ะ
จากห้องนอนออกมาจะเจอกับระเบียงหน้าบ้านที่กว้าง 1.75 เมตร ขนาดใหญ่แบบที่เราปลูกต้นไม้หรือจัดชุดโซฟาไว้นั่งเล่น Outdoor ได้เลยนะคะ
ที่น่าสนใจคือความยาวของระเบียงที่ยาวกว่า 10 เมตรเลยค่ะ
ภายในบ้านตัวอย่างจะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นห้องนอน และกั้น Walk-in Closet เอาไว้เป็นตัวอย่างที่ตำแหน่งหน้าห้องน้ำ ในแง่การใช้งานก็สะดวกดีนะคะ อาบน้ำแต่งตัวต่อเนื่องกันไป
มาดูที่ห้องน้ำกันค่ะ ห้องน้ำของ Master Bedroom จะมีความพิเศษขึ้นมาหลายอย่างเลย อย่างแรกที่เห็นคืออ่างล้างหน้าที่ได้มา 2 ชุด เป็นแบบ His&Her ใช้งานพร้อมๆกันได้
ฝั่งหนึ่งจะมีอ่างอาบน้ำให้มาด้วย และมีฝักบัว Hand shower ด้วยค่ะ ชุดนี้จะเป็นของ Cotto เช่นกัน มีการก่อขอบอ่างให้เข้ามุมกับพื้นที่พอดี ทำให้เราสามารถวางของตกแต่งสร้างบรรยากาศรอบอ่างได้ค่ะ เช่นพวกเทียนหอมต่างๆ หรือจะเอาเพลงมาเปิดฟัง นอนแช่น้ำไปดู Netflix ไปก็ได้นะคะ
ห้องนี้จะได้หน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งเลย ทำให้ระบายอากาศได้ดีเลยค่ะ
โถสุขภัณฑ์จะเปลี่ยนเป็นแบบโถหล่อชิ้นเดียวที่มีราคาสูงขึ้นนะคะ
ส่วนห้องอาบน้ำจะมีขนาด 1.25 x 1.15 เมตร ห้องนี้จะเป็นห้องเดียวที่ติดตั้งฉากกั้นกระจกมาให้เลยค่ะ
หน้าตาของฝักบัวก็จะอัพเกรดขึ้นมาเหมือนกันค่ะ และที่สำคัญคือห้องนี้จะมีระบบน้ำร้อนให้มาค่ะ ดังนั้นอ่างอาบน้ำและห้องอาบน้ำนี้จะเป็นระบบน้ำร้อนที่ควบคุมอุณหภูมิของน้ำได้คงที่กว่าระบบน้ำอุ่นของห้องนอนอื่นๆนะคะ
อ่านบทความเพิ่มเติม > เครื่องทำน้ำร้อนและเครื่องทำน้ำอุ่นแตกต่างกันอย่างไร?
SPACIOUS
บ้านอีกแบบที่จะพาไปดูเป็นบ้านที่ขนาดใหญ่รองลงมา ชื่อว่า SPACIOUS มีพื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ และมีห้องแม่บ้านอยู่ด้วยค่ะ บ้านแบบนี้ยังเป็นบ้านหน้ากว้างเช่นกัน ที่ชั้น 1 สามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือ ฝั่งที่เป็นส่วนบริการและฝั่งที่เป็นพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ฝั่งบริการจะเป็นที่จอดรถ ที่ยังมีแนวคิดการออกแบบเหมือนเดิมคือเดินด้านข้างไปยังครัวได้ โดยห้องนอนแม่บ้านก็จะอยู่ฝั่งนี้เช่นกัน ส่วนในบ้านก็จะมีห้องน้ำ และห้องนอนที่ชั้นนี้อยู่ 1 ห้องค่ะ ห้องนี้เรามองว่าเป็นห้องอเนกประสงค์มากกว่า เพราะไม่มีห้องน้ำในตัว แต่ขนาดของห้องสามารถจัดเป็นห้องนอนได้ หรือว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือก็ได้ค่ะ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่โล่งจากหน้าบ้านมายังด้านในบ้านเลย สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นยาวๆได้ มีโต๊ะกินข้าว มี Pantry ได้เลย ตัวบ้านให้มาโล่งๆ ใครชอบ Pantry ใหญ่ โต๊ะกินข้าวใหญ่ หรือโซฟาใหญ่ก็ลองให้น้ำหนักความชอบในแต่ละส่วนแล้วลองจัดวางกันนะคะ จุดที่น่าสนใจคือตรงทางเข้าหลักของบ้านจะมีความสูง Double Volume อยู่ช่วงหนึ่ง ทำให้ตัวบ้านชั้น 1 ไม่ดูเรียบจนเกินไป มีลูกเล่น ให้กลิ่นอาย Modern นิดๆด้วย
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ที่ชั้นนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับภายในครอบครัวโดยเฉพาะ ประกอบด้วย Master Bedroom ฝั่งหน้าบ้านที่ได้ระเบียงยาว มีพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ และมีห้องน้ำในตัวแบบที่มีอ่างอาบน้ำ ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องจะอยู่ด้านหลังบ้าน มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน ขนาดอยู่อาศัยกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่ไปค่ะ นอกจากนี้จะมีพื้นที่ Family Area อยู่เป็นพื้นที่โล่ง ตรงนี้ถ้าอยากกั้นประตูปิดก็ทำได้นะคะ สามารถมองเชื่อมต่อลงไปชั้น 1 ตรงประตูทางเข้าบ้านได้ แขกไปใครมามองลงไปก็รู้เลยค่ะ
เริ่มต้นกันที่หน้าบ้านค่ะ บ้านแบบนี้ยังคงเป็นบ้าน 2 ชั้นหน้ากว้างที่สามารถจอดรถได้ 3 คัน
รั้วจะได้เป็นรั้วโปร่งไม่สูงมาก แต่มีแนวต้นไม้ปลูกริมรั้วให้ และมีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้ด้วย และด้วยตัวบ้านชั้น 1 ที่ไม่ได้เปิดช่องแสงหรือหน้าต่างมาทางฝั่งหน้าบ้านเยอะ ทำให้คนที่ผ่านไปมาหน้าบ้าน มองเข้าไปไม่เห็นในตัวบ้านค่ะ ได้ความเป็นส่วนตัวสูงอยู่นะคะ
ที่จอดรถ 3 คันที่ได้จะสามารถจอดในร่มได้หมดเลย ขนาดที่จอดรถมีหน้ากว้าง 7.45 เมตร ลึก 4.65 เมตร สิ่งที่ชอบคือไม่มีช่วงเสาคั่นกลางระหว่างที่จอดรถเลย แต่ว่ารถที่มีในบ้านอาจจะต้องเป็นคันเล็กแบบ Eco-Car สักคันหรือสองคันนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาเปิดประตูลงจากรถไม่ได้ มืดๆถอยเข้าไปลำบาก
จากที่จอดรถจะมีทางเข้าไปในตัวบ้านด้วย สำหรับบ้านแบบนี้ทางขึ้นจะเป็นขั้นบันได ไม่ได้เป็นทางลาดค่ะ โดยขั้นล่างสุดจะกว้าง 60 ซม. อาจจะ Built-in ชั้นวางของหรือชั้นวางรองเท้าไว้บริเวณนี้ได้นะคะ เอาไว้เก็บอุปกรณ์ดูแสสวน ซ่อมรถ หรือว่ารองเท้าได้เยอะเลย
มาเดินดูรอบๆบ้านกันก่อนดีกว่า เดินเลาะมาทางหน้าบ้าน จะมีมุมเล็กๆขวามือจัดเป็นสวนตกแต่งได้ตามใจ หน้าบ้านจะมีพื้นทางเดินปูแยกเป็นชิ้นๆ ให้หญ้าขึ้นแซมได้ดูใกล้ชิดธรรมชาติ
ฝั่งนี้จะเป็นทางเข้าหลักของบ้านค่ะ จะถูก Set หรือถอยระนาบประตูเข้าไป ทำให้ทางเข้าดูเด่น มีหลังคาปกคลุมหน้าบ้าน ยืนหลบแดดหลบฝนก่อนเข้าบ้านได้ และบริเวณประตูทางเข้านี้กว้าง 4.55 เมตรเลย ทำให้ดูโอ่อ่าอยู่เหมือนกันนะคะ
เดินมาด้านข้าง ฝั่งนี้จะเป็นพื้นที่สวนกว้างเลย อย่างที่บอกไปคือ The City เป็นบ้านหลังใหญ่ และเฟสนี้ที่ขายมีจุดเด่นที่มีที่ดินใหญ่ด้วย ทำให้สนามข้างบ้านมีพื้นที่เยอะ ติดกันก็เป็นที่ดินเปล่าข้างเคียง ไม่เจอบ้านข้างๆที่มองเข้ามาได้ด้วย
เราสามารถต่อเติมพื้นที่ข้างบ้านเพิ่มได้ เช่นจะทำเป็น Glasshouse ทำสระว่ายน้ำเล็กๆ หรือว่าจะเป็นสนามหญ้าเปล่าๆให้ลูกได้วิ่งเล่น หรือเล่นกีฬาบริเวณนี้ได้ค่ะ
มาที่ฝั่งหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ซักล้าง มีพื้นที่ปูคอนกรีตไว้ให้ด้วยเล็กๆ ตำแหน่งจะอยู่หน้าทางเข้าห้องแม่บ้านและทางเข้าห้องครัวพอดีค่ะ
มีก๊อกน้ำซักล้าง และงานระบบไฟ ระบบประปาเตรียมไว้ให้เรียบร้อย อาจจะทำหลังคาเล็กๆเพิ่ม เพื่อบังไม่ให้เครื่องซักผ้าพังเร็วจากแดด ลม ฝน ก็ได้นะคะ
วนกลับมาที่อีกฝั่งของบ้านค่ะ จะมีพื้นที่สวนเล็กๆ ฝั่งนี้ถ้าติดกับแนวถนนภายในโครงการ ก็จะมีแนวพุ่มไม้ปลูกบังให้ค่ะ
ปลายสุดติดกับรั้วทางเข้าจะเป็นที่ทิ้งขยะของบ้าน จากฝั่งนี้เดินเข้าบ้านไปทางที่จอดรถได้ มีก๊อกน้ำซักล้างไว้ให้ตรงจุดนี้ด้วย สะดวกในการล้างทำความสะอาดรถและทำสวนค่ะ
กลับมาที่ประตูทางเข้าบ้าน แบบนี้จะได้ทางเข้าที่ดูโอ่โถงเลยค่ะ เป็นบานเปิดคู่ มีลูกฟักกระจกอยู่ด้วยทำให้บานไม่ดูทึบจนเกินไป ตัวบานเป็นไม้สักค่ะ
เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับพื้นที่โล่งยาว จากหน้าบ้านไปหลังบ้านเลยค่ะ ตัวบ้านนี้จะลึก 9.2 เมตรเลย พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังและฝ้าเพดานสีขาว ไฟดาวน์ไลท์ เราจะได้แบบนี้มาในบ้านมาตรฐานนะคะ
มองกลับไปยังประตูทางเข้าจะเห็นพื้นที่ทางเข้าส่วนนี้เป็นสัดส่วนหน่อยดูเป็นโถงทางเข้าขนาดใหญ่
สิ่งที่น่าสนใจคือทางเข้าตรงนี้จะมีความสูงแบบ Double Volume ด้วยค่ะ เข้ามาในบ้านก็มองขึ้นไปดูได้ว่ามีใครอยู่ที่ Family Area ชั้น 2 รึเปล่า ส่วนคนที่อยู่ข้างบนก็มองลงมาดูได้ว่ามีแขกคนไหนมาเยี่ยมบ้านเราบ้าง
ถัดเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่ Common Area ของบ้านชั้น 1 ทั้งหมดเลย ขนาดใหญ่มาก 7.25×7.00 เมตร ตรงนี้จะเป็นฟังก์ชัน รับแขก นั่งเล่น รับประทานอาหาร ทำ Pantry หรืออาจจะกั้นเป็นห้องทำงานเพิ่มก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าบ้านไหนให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนไหนมากเป็นพิเศษนะคะ
ช่องแสงส่วนใหญ่จะมาจากทางด้านข้างและหลังบ้านนะคะ ส่วนทางหน้าบ้านจะเป็นฟังก์ชันอย่างทางเข้าและบันได มีความปิดทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับการใช้งานภายใน มองจากหน้าบ้านเข้ามาไม่เห็น
ส่วนที่จะกั้นเป็นห้องของชั้น 1 จะรวมอยู่ฝั่งเดียวกัน ประกอบไปด้วยครัว (ซ้ายมือ) ส่วนตรงกลางจะเป็นห้องนอน และด้านหน้าห้องนอนจะเป็นห้องน้ำค่ะ โดยที่ห้องน้ำของชั้นนี้จะมีอยู่จุดเดียวนะคะ
ส่วนที่กั้นเป็นห้องนอนจะอยู่ด้านในสุดเลย และก็ใกล้กับห้องน้ำด้วย ทำให้ยังได้ความสงบอยู่ และสามารถใช้งานเข้าห้องน้ำได้สะดวกนะคะ ส่วนห้องครัวเราจะได้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ หน้าครัวสามารถทำเป็น Pantry เก๋ๆก็ได้นะคะ
มาดูภายในครัวกันค่ะ ห้องครัวจะได้เคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L เลย ได้ตามที่เห็นในรูปเลยนะคะ มีให้มาเกือบครบ
พื้นที่ใช้งานภายในมีขนาด 2.80×2.55 เมตร ใช้งานหมุนตัวสบาย
มีทั้งตู้บนและตู้ล่างหน้าบาน เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานมาครบเลยค่ะ มีกรุกระเบื้องบริเวณผนังให้ด้วย ล้างทำความสะอาดคราบ เขม่าควันจากการทำอาหารได้ง่าย ถ้าซื้อเตาแก๊สมาอีกชุดก็พร้อมทำอาหารแล้วค่ะ
มุมด้านข้างใกล้กับประตูทางออกไปหลังบ้านจะเป็นตำแหน่งวางตู้เย็นนะคะ
ออกไปหลังบ้านจะมีบันไดลงไปสองขั้น และเป็นพื้นที่ซักล้าง
ขยับมาดูห้องน้ำที่ชั้น 1 กันค่ะ อย่างที่บอกไปว่าเป็นห้องน้ำห้องเดียวของชั้นนี้นะ แต่จะมีพื้นที่อาบน้ำให้มาด้วยค่ะ และมีหน้าต่างไว้เป็นช่องแสงและระบายอากาศในห้องได้
ชุดสุขภัณฑ์ให้มาครบ ของ Cotto และมี Built-in ตู้เก็บของใต้อ่างมาให้ด้วยค่ะ
ส่วนห้องนอนที่นี้จะมีขนาด 3.65×3.48 เมตร ถือว่าเป็นห้องที่ใหญ่เลยนะคะ วางเตียง King Size ได้สบายๆเลย แต่ถ้าบ้านไหนสมาชิกในบ้านไม่มาก จะเป็นห้องทำงานก็ได้นะคะ
เดี๋ยวเราขึ้นไปดูที่ชั้นสองกันต่อค่ะ ตำแหน่งบันไดบ้านจะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ระหว่างประตูทางเข้าหลัก และประตูทางเข้าจากที่จอดรถ มีห้องเก็บของใต้ชานพักบันไดให้เล็กๆ ด้านหน้าวางชั้นวางรองเท้าได้นะคะ
บันไดกว้าง 85 ซม. ลูกนอนใช้วัสดุเป็นไม้ยางพาราประสาน
ที่ชานพักบันไดจะมีช่องแสงอยู่ด้านบน ช่วยให้พื้นที่บริเวณ
บันไดไม่มืด
ขึ้นมาเราจะเจอกับพื้นที่โล่งเป็น Family Area ค่ะ
พื้นที่ตรงนี้จะเข้ามุมพอดี สามารถกั้นเป็นห้องปิดได้นะคะ เพื่อควบคุมการใช้งานเครื่องปรับอากาศให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่ถ้าไม่นิยมเปิดแอร์ ไม่อยากกั้นห้องก็จะได้บรรยากาศเหมือนชั้นลอย ดูสบายๆ
สามารถมองลงไปเห็นประตูทางเข้าหลักของบ้านได้เลย รับรู้การเคลื่อนไหวของคนในบ้านหรือแขกที่มาเยือน
ที่ชั้นนี้จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านค่ะ ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งด้านหลัง
ห้องแรกจะเป็นห้องที่อยู่ใกล้กับบันไดที่สุดค่ะ ภายในห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนเล็กอีกห้องนะคะ จากประตูเข้ามาฝั่งที่เป็นพื้นที่พักผ่อนจะมีขนาด 3.75×4.00 เมตร หน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ 2.00×1.70 เมตร ทำเป็นพื้นที่แต่งตัวหรือ Walk-in Closet ได้ค่ะ ถือว่าเป็นห้องนอนที่อยู่สบายๆเลย วางเตียงขนาดใหญ่ได้ ปลายเตียงจะวางโซฟาพักผ่อนก็ได้ค่ะ
ห้องน้ำจะแยกส่วนแห้งส่วนเปียกไว้ให้ วัสดุโทนสีครีม สุขภัณฑ์ Cotto กระจกกว่าเต็มความกว้างของพื้นที่ส่วนแห้งเลย มีผนัง Low Wall ด้านหลังเคาน์เตอร์และตู้ใต้อ่างล้างหน้าไว้เก็บของค่ะ
ในห้องอาบน้ำจะมีขนาด 1.25×0.90 เมตร มีระยะยืนเปิดประตูและหมุนตัวได้สะดวก
ส่วนห้องนอนอีกห้องเมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับหน้าห้องน้ำเลย มีพื้นที่ด้านข้าง(ซ้ายมือ) เป็นตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าค่ะ
ห้องนี้จะมีขนาดเล็กลงมาหน่อย 3.75×3.65 เมตร แต่ถือว่าเป็นห้องที่วางเตียง King Size ได้อยู่ และจัดพื้นที่อื่นๆเช่นมุมทำงาน หรือตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้อีกเยอะเลยค่ะ
ส่วนห้องน้ำจะเหมือนเดิมนะคะ มีห้องน้ำในตัว
หน้า Master Bedroom จะมีแผงควบคุมสัญญาณกันขโมยค่ะ
มาดูที่ Master Bedroom กันต่อค่ะ ห้องนี้จะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน เป็นพื้นที่โล่ง หน้ากว้าง 6.6 เมตร ลึก 4.65 เมตร เข้ามา พื้นที่ข้างประตูสามารถทำ Built-in เก็บของได้หรือว่าจะเป็นมุมโต๊ะทำงาน
สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นหลายฟังก์ชันได้ค่ะ แบ่งห้องเป็น Walk-in Closet มุมทำงาน หรือว่าโซฟาพักผ่อนส่วนตัวในห้องนอนอีกชุด
ส่วนห้องน้ำจะได้ทั้งอ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้า 2 ชุดเป็นแบบ His&Her ใช้งานด้วยกันในเวลาเร่งรีบได้
โถสุขภัณฑ์จะอยู่ฝั่งเดียวกับห้องอาบน้ำค่ะ ให้มาครบพร้อมกับที่ใส่กระดาษชำระ และสายฉีดชำระ
ในห้องอาบน้ำจะได้ฝักบัวแบบ Hand Shower มีช่องใส่อุปกรณ์อาบน้ำให้มาด้วย
อีกฝั่งจะเป็นอ่างอาบน้ำที่ก่อเข้ามาพอดีกับผนังเลยค่ะ มีพื้นที่รอบๆวางของได้ และมีหน้าต่างระบายอากาศค่ะ
RETREAT
แบบ Retreat จะเป็นบ้านแบบที่มีขนาดของพื้นที่ใช้สอยเล็กที่สุดในเฟส 2 นี้นะคะ โดยจะมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 262 ตร.ม. และมีที่จอดรถลดลงมาเหลือ 2 คัน ส่วนจำนวนห้องนอนจะเท่ากับแบบ Spacious คือมีห้องนอนที่ชั้นล่าง 1 ห้อง และห้องนอนเล็กที่ชั้น 2 อยู่ 2 ห้องฝั่งหลังบ้านและห้อง Master Bedroom อยู่หน้าบ้านค่ะ สำหรับบ้านแบบนี้เรามีบรรยากาศบ้านมาฝากคร่าวๆนะคะ แต่ก่อนที่จะไปดูภาพบรรยากาศ ลองไปดูแปลนหรือผังบ้านกันก่อนดีกว่าค่ะ
ที่ชั้น 1 เมื่อดูจากผังแล้วเราสามารถแบ่งพื้นที่ออกได้เป็น 2 ฝั่ง ฝั่งแรกคือฝั่งที่จอดรถ ที่ด้านหลังของที่จอดรถจะถูกจัดเป็นฟังก์ชันที่ต้องการความ Private หรือเป็นส่วนตัวมากหน่อย คำว่าเป็นส่วนตัวในที่นี้หมายถึงเป็นพื้นที่ที่เมื่อมีแขกมาเยี่ยมบ้านก็จะเป็นพื้นที่ที่แขกจะเข้าถึงได้ยากหน่อยค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นตำแหน่งของห้องนอนที่ชั้น 1 และห้องแม่บ้าน ดังนั้นสวนที่อยู่ด้านข้างตรงนี้ก็จะเป็นสวนที่เล็กลงหน่อย และกลายเป็นทางเดิน Service หรือทางเดินแม่บ้านไป สามารถเดินจากที่จอดรถไปยังห้องครัวที่ด้านหลังได้ง่าย ถ้าเราดูประกอบกับขอบเขตที่ดิน ตัวบ้านแบบนี้มักจะชิดที่ดินฝั่งนี้มากกว่าอีกฝั่งที่เป็น Common Area ค่ะ
และ Common Area ที่เราหมายถึงคือพื้นที่ที่สมาชิกส่วนใหญ่ใช้งานร่วมกันมากที่สุดอย่างห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น และถ้าบ้านถูกวางชิดที่ดินฝั่ง Service แล้ว บ้านไหนที่ขนาดที่ดินใหญ่หน่อยพื้นที่สวนนอกบ้านทางฝั่ง Common Area นี้ก็จะกว้างมากขึ้นด้วย ถ้าใหญ่มากก็อาจจัดเป็นสระว่ายน้ำได้เลย หรือถ้าบ้านไหนมีลูกก็สามารถทำกิจกรรมในบ้านและกิจกรรมกลางแจ้งได้ต่อเนื่องกันค่ะ
ส่วนที่ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนพักผ่อน และเป็นพื้นที่ส่วนตัวมากหน่อยโดยพื้นที่ห้องนอนเล็ก 2 ห้องจะถูกวางไว้ด้านหลัง แต่ภายในห้องก็ถือว่ากว้างใหญ่อยู่นะคะ วางเตียงใหญ่ได้ มีห้องน้ำในตัว อยู่กันได้เล็กจนโตโดยไม่อึดอัด ส่วนห้อง Master Bedroom จะถูกวางไว้ทางฝั่งด้านหน้า มีระเบียงยาวใช้งานได้เต็มที่ สามารถกั้นแบ่งพื้นที่เป็น Walk-in Closet ได้ค่ะ แต่ภายในห้องน้ำจะมีขนาดที่เล็กลงมากกว่า 2 แบบที่พาไปดูข้างต้น อ่างล้างหน้าลดลงเหลือ 1 ชุด และไม่มีอ่างอาบน้ำ ดังนั้นในบ้านแบบนี้จะไม่มีระบบน้ำร้อนให้มานะคะ มีเดินท่อสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้แทน ออกมาจากตัวห้องนอนจะมีพื้นที่ Family Area เปิดโล่งอยู่ใกล้กับบันได ตรงนี้ก็สามารถจัดพื้นที่ใช้งานได้หลากหลาย เป็นมุมนอนเล่นดูทีวีอีกจุด หรือทำเป็นมุมทำงาน ทำการบ้าน อ่านหนังสือก็ได้ค่ะ
คลิกเลื่อนดูรูปบรรยากาศของบ้านแบบ Retreat ได้นะคะ
หน้าตาบ้านจะเป็นบ้านหน้ากว้าง 2 ชั้นเหมือนเดิม แต่ความกว้างของหน้าบ้านจะลดลง
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
ข้อมูลเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2019
- แบบ Retreat ขนาดที่ดิน 92.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องเอนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคา 13.99 ล้านบาท - แบบ Spacious ขนาดที่ดิน 104 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องเอนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคา 15.19 ล้านบาท - แบบ Scenery ขนาดที่ดิน 103.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 375 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องเอนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องพระ
– ราคา 16.19 ล้านบาท - จดจำนอง 1% ของจำนวนเงินกู้ ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ฟรี
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
- ค่าส่วนกลาง 31 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ฟรี
Promotion อื่นๆ
- จัดสวนรอบๆบ้าน
- Wallpaper
- สัญญาณกันขโมย
- ชุดครัวพร้อมติดตั้ง
- ปั๊มน้ำ – Tank น้ำ
- แอร์ Daikin ทุกห้องนอน
- ประตูรั้วรีโมทไฟฟ้า
- วัสดุพื้นที่จอดรถแสตมป์คอนกรีต
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
The City ราชพฤกษ์ – สวนผัก เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนนทบุรี บนถนนบางกรวย-จงถนอม เหมาะกับคนที่ชินพื้นที่กรุงเทพฝั่งตะวันตก ทำเลนี้เข้า-ออกเส้นทางได้หลากหลาย ทั้งถนนราชพฤกษ์ , ถนนบางกรวย-ไทรน้อย , ถนนนครอินทร์ และใกล้กับทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกที่ใช้เดินทางเข้ามายังกรุงเทพชั้นในอย่างฝั่งจตุจักรได้สะดวก ในส่วนของอาหารการกินนั้น ถนนบางกรวย-จงถนอมเป็นทำเลชุมชนเก่า มีคนอาศัยอยู่เยอะ ทำให้มีของกิน ร้านค้า ตลาดคึกคักอยู่หลายจุดทั้งสองฝั่งถนน และยังมี Community Mall อีกเยอะที่ตั้งเรียงบนถนนราชพฤกษ์ ขับไปใช้งานได้สะดวกค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
โครงการนี้มีการคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งภายในโครงการและภายในตัวบ้าน นอกจากเรื่องที่เราพบเห็นบ่อยๆอย่าง รปภ. 24 ชั่วโมง ระบบ Key Card ยังมีระบบ KATSAN ที่ช่วย Monitor หรือสองส่องรถแปลกหน้าที่เข้ามาภายในโครงการ ถ้าอยู่นานผิดสังเกตก็จะส่งรปภ.ไปช่วยดูให้ด้วย ส่วนภายในตัวบ้านก็จะมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง CCTV , Magnetic Sensor ที่สามารถผูกกับ Application หรือแผงควบคุมที่อยู่ในตัวบ้านให้ด้วย ในแง่ความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุก็จะมีแบบบ้านที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุ เช่นทำทางลาดขึ้นลงบ้านให้ ห้องนอนอยู่ชั้น 1 ไม่มีระดับต่างกันที่พื้น และประตูบานเลื่อนค่ะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
โครงการออกแบบมาจำนวนยูนิตไม่มาก 133 ยูนิต ได้ความสงบและความเป็นส่วนตัวในแต่ละหลัง มีจุดเด่นที่ขนาดที่ดินเยอะ โดยเฉพาะในเฟสที่ 2 ที่ขนาด 100 ตร.วาเกือบทุกหลัง แต่ละหลังอยู่ซอยย่อยที่มีแค่ 2 หลังตรงข้ามกัน ส่วนตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ อยู่กันได้ 2-3 generations เริ่มต้นที่ 4 ห้องนอน บ้านมีให้เลือก 4 แบบ ขนาด 225 – 375 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยทั้งในและนอกตัวบ้าน กับบรรยากาศที่เงียบสงบ และดูร่มรื่นไปในตัว
วัสดุ :
ให้มาตามมาตรฐาน มี Digital Door Lock , CCTV , รั้วเลื่อนอัตโนมัติ , Magnetic Sensor เชื่อมกับ Application ได้ วัสดุภายในบ้านก็จะได้พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ และพื้นลามิเนต สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเป็นของ Cotto ที่น่าสนใจคือครัวที่ให้มาเยอะมาก ทั้งเคาน์เตอร์ ตู้บน ตู้ล่างพร้อมหน้าบานดีไซน์ที่ต้องการระบายอากาศก็ระบายอากาศได้ แอบเสียดายโครงสร้างที่จอดรถและลานซักล้างที่เป็น Slab on ground เพราะถ้าเป็น Slab on Beam หรือลงเสาเข็มให้ก็จะทำให้แข็งแรงเเละต่อเติมได้สะดวกขึ้น
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
สองฝั่งถนนของโครงการนี้มีต้นไม้ใหญ่ปลูกให้ทั้งสองข้างทาง คือ ต้นแคนา และ ต้นลีลาวดี โดยดูจากเฟสแรกที่ต้นไม้เริ่มโตเต็มที่ก็ได้บรรยากาศที่ร่มรื่นไม่น้อยเลย ส่วนในตัวบ้านก็มีการเลือกพันธุ์ไม้ต่างๆมาลงให้ทั้งสนามหญ้า ต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มค่ะ
สาธารณูปโภค :
ตำแหน่งของพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่หน้าสุดของโครงการเลย ให้มาฟังก์ชันครบครัน น่าใช้งาน ทั้งสนามขนาดใหญ่ไว้เดินออกกำลังกายทั้งผู้ใหญ่และเด็กเล็ก มีสระว่ายน้ำ , Jacuzzi , Lobby , Fitness , Kids’ Room , Co-working Space และ Theater Room
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 13-18 ล้านบาท, 17 December 2019
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยเข้าจากบางกรวย-จงถนอม
- ความปลอดภัย 8.25/10 – ให้มาทั้งตัวบ้านและตัวโครงกาาร
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – พื้นที่ใช้สอยมากทั้งตัวบ้านและที่ดิน
- วัสดุ 7.5/10 – ให้มาตามมาตรฐาน มีเคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของให้มา
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ปลูดต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มร่มรื่นสองข้างทาง
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครันน่าใช้งาน
- 7.79 / 10.00
BOTTOM LINE
The City ราชพฤกษ์ – สวนผัก เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ อยู่ได้ 2-3 Generations ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมาก อาศัยสบาย และมีพื้นที่สวนภายในตัวบ้านสำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือต่อเติมเพิ่ม เหมาะกับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยใกล้กรุงเทพฯฝั่งตะวันตกหรือนนทบุรี มีงบประมาณ 15-20 ล้านบาท