รีวิวฉบับที่ 468 … THE CANARY PRIVATE ศรีนครินทร์ – วงแหวน (เดอะ แคนนารี่ ไพรเวท ศรีนครินทร์ – วงแหวน) โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ เข้าซอยโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล เป็นโครงการจัดสรรขายที่ดินและบ้านเดี่ยวโดยแบ่งเป็นการขายที่ดินเปล่า 47 ยูนิต (Sold out) และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 11 ยูนิต รวมยูนิตทั้งหมดเป็น 58 ยูนิต จุดเด่นคือความสงบและส่วนตัวเพราะมีจำนวนยูนิตรวมที่ถือว่าน้อยสำหรับโครงการแบบบ้านจัดสรร แต่ระยะทางจากปากซอยไปถึงโครงการค่อนข้างไกลซักหน่อย โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 30 October 2013
- The Canary Private ศรีนครินทร์ – วงแหวน (เดอะ แคนนารี่ ไพรเวท ศรีนครินทร์ – วงแหวน)
- บริษัท ที.เอ็ม.ที. แลนด์
- Segment การตลาด 10 – 20 ล้านบาท
- เนื้อที่โครงการ 32-0-34.9 ไร่
- คาดว่าแล้วเสร็จปี 2557
- โครงการจัดสรรขายที่ดินเปล่าและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 11 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2-3 ที่จอดรถ
- พื้นที่ใช้สอย 344 – 420 ตารางเมตร
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 110 – 200 ตารางวา
- ราคา 9.9 – 18 ล้านบาท
- เวปไซต์ http://www.tmtland.co.th/web/project/29
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.596234,100.623565
แผนที่จากโครงการ
ถึงแม้ถนนสายหลักที่ใช้งานคือถนนศรีนครินทร์ แต่ที่ตั้งของโครงการอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ เพราะถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ยาวมากแถมเชื่อมต่อถนนสายสำคัญอื่นๆหลายสาย เช่น ถนน กาญจนาภิเษก, ถนน เทพารักษ์, ถนน บางนาตราด, ถนน อุดมสุข, ถนน อ่อนนุช, ถนนพัฒนาการ, ถนนมอเตอร์เวย์, ถนน รามคำแหง และไปสุดที่ถนน ลาดพร้าว ด้วยเหตุนี้เองทำให้การจราจรบนถนนเส้นนี้ค่อนข้างคับคั่งและติดหนักเป็นช่วงๆ แต่ถ้าเป็นเวลาในชั่วโมงเร่งด่วนรถจะติดพอสมควร บนถนนศรีนครินทร์จะมีรถใหญ่วิ่งค่อนข้างเยอะตั้งแต่ช่วงบางนาเป็นต้นมา
ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ ในซอยโรงพยาบาล บาลเปาโลเมโมเรียล ทางเข้าโครงการต้องวิ่งผ่านหมู่บ้านพนาสนธิ์ ซิตี้ เข้าไปซึ่งถนนทางเข้านั้นแบ่งการรับผิดชอบออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือจากป้อมยามที่ 1 จนมาถึงป้อมยามที่ 2 เป็นถนนสาธารณะซึ่งแต่เดิมเป็นถนนของโครงการ พนาสนธิ์ ซิตี้ แต่ทางหมู่บ้านได้ยกให้เป็นถนนสาธารณะแล้ว ส่วนที่สองคือจากป้อมยามที่ 2 จนถึงสะพานหน้าโครงการเป็นภาระจำยอมครับ การเข้าโครงการจะดูแปลกๆหน่อยเพราะเหมือนวิ่งเข้าหมู่บ้าน 3 หมู่บ้านซ้อนกัน เพราะป้อมนยามแรกไม่มีการใช้งานแล้ว ป้อมยามที่ 2 ของหมู่บ้าน พนาสนธิ์ ซิตี้ ผ่านป้อมนี้ไม่ต้องแลกบัตร ป้อมยามสุดท้ายถึงจะเป็นป้อมยามของโครงการ
วันนี้เส้นทางช่วงเริ่มต้นจะเหมือนกับเส้นทางที่ไปโครงการ Indy ศรีนครินทร์นะครับ ถนนบางนา > ถนนศรีนครินทร์ > ซอยโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล
เรามาเริ่มต้นกันที่เซ็นทรัล บางนา นะครับ
ถัดมาจะเจอ Big C ติดๆกันเลย ตรงนี้มีทางออกจากถนนหลักเป็นทางออกสุดท้ายสำหรับขึ้นสะพานเข้าเส้นศรีนครินทร์(ไปทางเทพารักษ์)
ก่อนถึงแยกมีจุดสังเกตคือ SB Design Square
พอถึงแยกอย่าเพิ่งเลี้ยวซ้ายนะครับให้ตรงลอดใต้สะพานไปก่อน
หลังจากลอดใต้สะพานแล้วให้เลี้ยวซ้ายเพื่อวนขึ้นสะพานข้ามถนนบางนาตราด
เจอทางโค้งให้วนไปตามทางเลยครับ
ขึ้นสะพานแล้วตรงไปเรื่อยๆลอดใต้ทางโทลเวย์
ลงสะพานมานิดเดียวก็จะเจออีกสะพานข้ามถนน สุขุมวิท 105 ให้ข้ามไปเลยครับ
ลงสะพานมาจะเจอกับ Community mall ชื่อว่า Premier Place
ถัดมาอีกนิดจะเป็น Makro
และ Big C จะอยู่ติดๆกันเลย
เจอ Food Land ให้ตรงต่อไป
เจอทางแยกไปถนนเทพารักษ์ให้ตรงต่อไป
ขึ้นสะพานข้ามแยก ถนนเทพารักษ์
เจอทางแยกไปทางด่วน พระราม 2 – บางนาให้ตรงต่อไป
ผ่านจากแยกไปทางด่วนมาได้ไม่ไกลจะเจอทางเข้าโครงการด้านซ้ายมือ มีจุดสังเกตคือสะพานลอย
ปากซอยเป็นทางเข้าหมู่บ้าน พนาสนธิ์ ซิตี้
เลี้ยวเข้าซอยมาจะเจอกับ 4 แยกที่ไปถนนบ้านบางปิ้ง(ถนนเส้นนี้ไปเชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษก) และมี CP Freshmart และ 7 Eleven อยู่ตรงหัวมุมพอดี
ช่วงก่อนถึงโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลจะเป็นร้านอาหารมากมายมีทั้งแบบรถเข็นและเป็นร้านตึกแถว
สะพานข้ามคลองหน้าโรงพยาบาลตอนนี้กำลังซ่อมแซมเส้นทางอยู่ถ้าทำเสร็จแล้วจะวิ่งสะดวกมากเป็น 4 เลย
วิ่งผ่านหน้าโรงพยาบาลไปเลยครับ บริเวณนี้ก็มีร้านอาหารอยู่ด้านขวามือเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
เจอป้อมยามแรกให้ผ่านไปได้เลยครับเพราะยกเลิกการใช้งานไปแล้ว ป้อมนี้แต่เดิมเป็นของหมู่บ้าน พนาสนธิ์ ซิตี้ นี่แหละครับแต่พอยกถนนในโครงการให้เป็นถนนสาธารณะเลยขยับป้อมยามเข้าไปด้านใน
ถนนในหมู่บ้านกว้าง 12 เมตรวิ่งสบายๆครับ
เจอป้อมยามที่ 2 ให้บอกว่าไปโครงการ Canary Private จะไม่ต้องแลกบัตรครับ
เลยป้อมยามมานิดนึงจะเจอวงเวียนให้เลี้ยวช่องที่ 3 ครับ
วิ่งตรงมาจนสุดทางจะเจอกับ 3 แยกให้เลี้ยวซ้าย
วิ่งตรงมาสุดทางเลี้ยวขวาอีกที
เลี้ยวขวามาแล้วจะเจอกับสะพานข้ามคลองเล็กๆจากจุดนี้ไปจะเป็นถนนของโครงการแล้วครับ
ข้ามสะพานจะเจอกับทางเข้าโครงการเลยครับ
เจาะลึกตัวโครงการ
แผนผังโครงการ : รูปร่างที่ดินของโครงการเป็นแนวยาว มีถนนหลักเป็นเส้นตรงและเชื่อมต่อเข้าซอยต่างๆในโครงการ
แผนที่จริงครับ จะเห็นได้ว่าพื้นที่รอบๆข้างจะเป็นพื้นที่ทางการเกษตรเกือบทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าที่ติดที่ดินบุคคลอื่นซึ่งยังเป็นที่ดินว่างเปล่าอยู่และมีบางส่วนที่ติดคลองสาธารณะ มีด้านบนที่ติดถนนสาธารณะอยู่ช่วงนึงแต่ก็เป็นซอยย่อยการจราจรไม่หนาแน่นครับ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ตัวโครงการมีบรรยากาศเงียบสงบมากตามชื่อโครงการเลย สงบ และ ส่วนตัว
ป้ายด้านหน้าโครงการ
บริเวณป้อมยามทางเข้าโครงการจะมีการตกแต่งแนว Modern ระบบรักษาความปลอดภัยมีรั้วกั้นไม้กระดก, CCTV และรปภ. 24 ชม.
เนื่องจากเป็นโครงการจัดสรรขายทั้งที่ดินเปล่าและบ้านจึงต้องมีกฎระเบียบการเข้าออกที่เข้มงวด
ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตรวิ่งสวนกันสบายๆเลยครับ
ถนนหน้าบ้านจะมีความกว้าง 10 เมตรซึ่งถือว่าสะดวกสบายมากไม่แออัดสำหรับลูกบ้านที่อยู่ในซอยย่อยเพราะจำนวนยูนิตที่เยอะที่สุดต่อ 1 ซอยมีเพียงแค่ 8 ยูนิต
มุมมองจากถนนหลักภายในโครงการไปยังทางเข้าของโครงการ ถนนภายในโครงการสูงกว่าถนนศรีนครินทร์ประมาณ 20 เซนติเมตร
ตัวโครงการนั้นไม่มี Facility อะไรมากนักมีแค่สวนสาธารณะเนื้อที่ 487 ตารางวา ตรงกลางมีทำเป็นสนามทรายวงกลมซึ่งอาจจะทำเป็นสนามเด็กเล่นในอนาคต
ตำแหน่งของสวนสาธารณะจะอยู่ด้านหน้าของโครงการติดกับคลองสาธารณะเล็กๆ ถ้ามองออกไปยังด้านหน้าก็จะเห็นสะพานทางเข้าโครงการ
ภายในมีการปลูกต้นไม้ใหญ่เป็นจุดๆ
ทางโครงการไม่อนุญาตให้นำสุนัขเข้ามาในสนามนะครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะ 0-3-46.6 ไร่
- รั้วสูง 3 เมตร
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และถนนภายในโครงการรวม 22 จุด
- Key Card Access
Product Walkthrough
แบบบ้านจะมีทั้งหมด 2 แบบ คือแบบ Ashton และ Charlton ทั้ง 2 แบบนั้นจะมีจำนวนห้องนอนและห้องน้ำที่เท่ากันแตกต่างกันตรงขนาดพื้นที่ใช้สอย, จำนวนที่จอดรถ และ การออกแบบพื้นที่ภายในบ้าน บ้านตัวอย่างจะมีให้ดูแค่แบบเดียวคือแบบ Charlton
Ashton 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 344 ตารางเมตร
แบบบ้าน Ashton ชั้นล่าง ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น, ห้องทานอาหาร, ห้องครัว(แบบปิด), ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องเก็บของใต้บันได และ ห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ
แบบบ้าน Ashton ชั้นบน ประกอบด้วยห้องนอนพร้อมห้องน้ำส่วนตัว 3 ห้อง
Charlton 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 420 ตารางเมตร
แบบบ้าน Charlton ชั้นล่าง
แบบบ้าน Charlton ชั้นบน
มาดูบ้านตัวอย่างกันครับ แบบบ้านของโครงการนี้ใช้แนวคิดในการออกแบบคือ Contemporary Modern จะดูเรียบง่าย ด้านหน้าบ้านโครงการจะจัดสวนให้ แต่แบบที่ขายเป็นบ้านเปล่านะครับมีแค่ Built-in ครัวมาให้เท่านั้น
เฉลียงไม้และบ่อน้ำหน้าบ้านแบบนี้ของจริงไม่มีมาให้นะครับ ยกเว้นคนที่ซื้อบ้านตัวอย่าง
ด้านหน้าของทางเข้าบ้านมีการออกแบบให้ระแนงเหล็กสีดำล้อไปกับเสาสีเทาทำให้บ้านดูมีมิติมากขึ้น
ทางเข้าบ้านมี 4 ทางคือเข้าจากทางหน้าบ้าน, เข้าจากที่จอดรถ, เข้าจากบริเวณห้องแม่บ้าน และเข้าจากบริเวณห้องครัว ทางเข้าหน้าบ้านจะมีเฉลียงหน้าบ้านสูงจากพื้นที่จอดรถประมาณ 7 ซม. และมีตู้เก็บรองเท้าอยู่ด้านในสุด
พื้นที่จอดรถสามารถจอดรถขนาด B segmentได้ 3 คันแบบสบายๆ
ที่ด้านข้างของเสาที่จอดรถมีก๊อกน้ำมาให้ด้วยสำหรับการใช้น้ำบริเวณสวนนอกบ้าน
ประตูจากที่จอดรถจะเป็นเปิดคู่และมีทางลาดให้ซึ่งถือว่าดีมากๆสำหรับลูกบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กอ่อนเพราะสามารถนำรถเข็นเข้า-ออกบ้านได้สะดวกมาก ไปดูรอบๆตัวบ้านก่อนเข้าตัวบ้านนะครับ
ด้านข้างจะมีการตกแต่งสวนให้เล็กน้อยด้วยการเล่นระดับ
มุมด้านข้างห้องทำงานจะมีพื้นที่ไว้ตกแต่งสวนเล็กๆได้ครับ
ทางเดินไปยังห้องแม่บ้านมีการตกแต่งทางเดินด้วยหินปูพื้น
ห้องแม่จะอยู่ด้านหลังของบ้านบริเวณห้องครัวและมีห้องน้ำสำหรับแม่บ้านอยู่ติดกัน
ประตูด้านหน้าคือประตูเข้าบ้าน ประตูนี้จะช่วยให้แม่บ้านนำอาหารสดเข้าครัวได้โดยที่ไม่ต้องถือผ่านห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนแม่บ้านอยู่ด้านขวามือ
ภายในมีหน้าต่างบานเกร็ดให้ 2 บาน
สุขภัณฑ์ตามมาตรฐานทั่วไป
มีธรณีกั้นระหว่างห้องน้ำสูงประมาณ 7 ซม.
ไปดูหลังบ้านกันต่อครับ ถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำจะอยู่มุมหลังสุดของบ้าน
ทางเข้าบ้านจากหลังบ้านจะอยู่สุดทางของระเบียงรอบบ้าน
ประตูหน้าบ้านจะเป็นแบบบานกระจกเลื่อนสลับขนาดใหญ่
เข้ามาบ้านมาจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อนครับ ซึ่งมีขนาดใหญ่มากพอที่จะวางโซฟาตัว L นั่งได้ 4 คนสบายๆ แถมระยะวางทีวีก็เหลือเฟือครับ
ถัดมาจะเป็นโถงกลางบ้าน ฝ้าซ่อนไฟวงกลมช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับพื้นที่ตรงกลางมากขึ้น บ้านจริงมีมาให้ตามแบบนี้เลยครับแถมโคมไฟแชงเดอเรียด้วย
กำแพงของห้องนั่งเล่นจะเป็นช่องรับแสงทั้งประตูและหน้าต่างทำให้บ้านดูโปร่งและกว้างขึ้นแถมได้เห็นวิวสวนหน้าบ้านแบบเต็มๆ
หน้าต่างจะแบ่งเป็น 3 ช่วงคือบาน Fix บนกับล่างและตรงกลางเป็นบานเปิดคู่วัสดุเป็นอลูมิเนียมทำสีดำ
กลอนหน้าต่างแบบมาตรฐานทั่วไป
ไฟส่องสว่างบริเวณห้องนั่งเล่นจะมีมาให้ 6 ดวงแบบ Downlight
ห้องที่ติดอยู่กับบันไดคือห้องนอนของชั้นล่างและห้องน้ำ
ใต้บันไดเป็นห้องเก็บของ
ห้องน้ำชั้นล่างมีแบ่งโซน Shower มาให้ การตกแต่งภายในเน้นโทนสีขาว
พื้นจะลดระดับลงมาประมาณ 7 ซม.
บริเวณโถปัสสาวะชายจะมีการเบิ้ลกำแพงสำหรับเก็บงานระบบแต่จะดูแปลกไปสักหน่อยเพราะไม่ได้ทำเต็มผนัง เนื่องจากพื้นที่หน้าโถสุขภัณฑ์ค่อยข้างแคม
ชุดสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen และอุปกรณ์ต่างๆใช้ของ VRH
ชุดอ่างล้างหน้าจะเป็นเคาน์เตอร์หินแกรนิตแท้สีดำ และมีตู้เก็บของด้านล่างให้และทำกระเงาซ่อนไฟมาให้เลย (ตรงกระจกเงาไม่ได้เป็นประตูตู้เก็บของนะครับ)
โซน Shower จะมีกระจกบานเลื่อนกั้นมาให้
พื้นลดระดับลงมาประมาณ 1 ซม.และมีธรณีของชุดกระจกกั้นอีกประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำใช้วัสดุเดียวกันหมดทั้งหลังคือกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
ฝาท่อเป็นแบบ Cover Design ปะกระเบื้องสีเดียวกับพื้น
มีหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 2 บานไม่มีพัดลมดูอากาศ
วัสดุผนังเป็นประเบื้องสีดำมีลายเป็นคลื่นสวยงาม
ฝักบัวมีมาให้ชุดเดียวและมีเครื่องทำน้ำอุ่นของ MEX มาให้
ห้องนอนที่อยู่ติดกันบานประตูจะแบ่งเป็น 2 บานขนาด 40 ซม.และ 80 ซม.
วัสดุพื้นห้องเป็นพื้นไม้ เอ็นจิเนียวู๊ด รอยต่อพื้นจะมีธรณีสำเร็จรูปมาให้
สามารถวางโต๊ะทำงานได้ 1 ตัว
เตียงเห็นเป็นขนาด 5 ฟุต มีพื้นที่เหลือรอบๆเตียงพอสมควร
บริเวณปลายเตียงสามารถวางโต๊ะทีวีและตู้เสื้อผ้าได้และยังมีที่เหลือให้เดินรอบเตียงได้สบายๆ
มีหน้าต่างด้านข้างให้ 2 บานเป็นบานเปิดสลับ ซึ่งออกแบบมาแปลกสักหน่อยสำหรับห้องตัวอย่างเพราะเอาตู้เสื้อผ้าไปวางบังหน้าต่าง ถ้าเอาตู้เสื้อผ้าเปลี่ยนกับโต๊ะเขียนหนังสือจะลงตัวกว่าแถมสามารถ Build-in ชั้นวางหนังสือได้เข้าชุดกับชั้นวางทีวีด้วย
ต่อมาเรามาดูโซนห้องทานอาหารกับห้องครัวบ้าง
โซนห้องครัวเป็นแบบครัวปิดจะแถม Built-in มาให้แบบนี้แต่ไม่มี Island กับที่ดูดควันมาให้นะครับ ถ้าลูกบ้านอยากได้ต้องทำเองครับซึ่งถ้ามีก็จะเพิ่มพื้นที่ในการเตรียมอาหารและยังให้สมาชิกในครอบครัวมาช่วยกันทำกิจกรรมได้ ประตูด้านขวามือที่เห็นจะเป็นประตูทางออกไปห้องแม่บ้าน
การแบ่งช่องเปิดด้านบน
ช่องด้านล่างจะมีลิ้นชักมาให้ ซึ่งบานประตูตู้ทุกบานไม่มีการติด Soft Close มาให้นะครับ
ตัวบานบริเวณมือจับจะมีการปาดมุมาให้ช่วยให้จับได้ถนัดขึ้น
ชุดอ่างล้างจากใช้ของ Hafele 2 ช่องและก๊อกแยก 2 หัวก๊อกใช้ของ VRH
มุมมองจาก Pantry ครัวไปยังห้องทานอาหาร
มุุมมองจากโต๊ะอาหารไปยังโถงกลางบ้าน
ห้องทำงานจะอยู่ถัดจากห้องครัวครับซึ่งอยู่ในตำแหน่งมุมด้านหน้าของบ้านพอดี
ในห้องทำงานสามารถวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่และทำตู้วางหนังได้
ช่องเปิดรับแสงของห้องนี้จะมีบานกระจกเข้ามุมด้วยเพื่อรับวิวสวนข้างบ้าน อีกบานเป็นบานกระจกเลื่อนคู่
ไฟส่งสว่างภายในห้องนี้มีให้ 4 ดวงเป็น Downlight ทั้งหมด
สวิทช์และปลั๊กไฟในบ้านทั้งหมดใช้ของ Bticino
ตู้เมนไฟในบ้านจะอยู่ตรงประตูทางเข้าจากที่จอดรถพร้อมกล่องสัญญาณกันขโมย
บันไดกว้างประมาณ 96 ซม.วัสดุเป็นไม้เนื้อแข็ง
มีคิ้วบัวยาวตลอดแนวบันได
ราวนบันไดเป็นเหล็กทำสีดำและราวจับเป็นไม้เนื้อแข็ง
บันไดมีชานพักและหน้าต่างขนาดใหญ่ไว้รับแสง เป็นบาน Fix และบานกระทุ้ง 2 บาน พื้นชั้นบนทั้งหมดเป็น Engineering wood
ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับโถงกลางที่เชื่อมห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องนั่งเล่นอีก 1 ห้องฝ้าเพดานสูง 2.8 ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง
พื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาตัว L ขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้ครับ
กำแพงของห้องนั่งเล่นทั้งหมดจะเป็นบานกระจกไว้รับแสงและมีประตูเปิดไปยังระเบียงได้
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 4 x 2 เมตรสามารถนำพื้นที่ตรงนี้มาเป็นโซนนั่งพักผ่อนเพิ่มได้
ฝ้าเพดานมี Downlight ให้ 2 ดวง
ราวกันตกจะมี 2 แบบคือแบบราวเหล็กทำสีดำตามแนวตั้งและแบบรางเหล็กพร้อมกระจก
แบบราวกันตกที่ใช้ช่วยให้เห็นวิวนอกบ้านได้เป็นอย่างดีเพราะไม่มีขอบด้านบนของกระจกแต่ถ้ามีเด็กเล็กควรระมัดระวังเรื่องการใช้พื้นที่
ระยะห่างของราวเหล็กแนวตั้งมีระยะไม่ห่างมากพอให้เห็นวิวได้ไม่ขัดตา
ถ้ามองจากตรงนี้จะเห็นเฉลียงหน้าบ้านที่ชั้น 1 ได้
มุมมองไปยังสวนหน้าบ้านจากระเบียงชั้น 2 ครับถ้ามีการออกแบบสวนที่ดีพื้นที่ตรงนี้จะมีความสวยงามมากเพราะสามารถเชื่อมต่อพื้นที่ห้องนั่งเล่นไปยังหน้าบ้านได้เลย
วิวรอบๆในโครงการครับ
วัสดุพื้นระเบียงจะเป็นแบบกันลื่น
มาดูห้องนอนเล็กกันบ้าง ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องมีลักษณะคล้ายๆกันต่างกันแค่ขนาดห้องและจำนวนหน้าต่างห้องนี้เป็นห้องที่ติดกับบันได
ห้องน้ำจะอยู่ด้านหน้าและประตูจะตรงกับประตู้ห้องนอนด้วย
ห้องนอนเล็กสามารถใส่เตียงขนาด 6 ฟุตแล้วยังเหลือที่รอบๆเตียงอีกเยอะครับ
มีหน้าต่างบานเลื่อนสลับมาให้ 3 บาน
พื้นที่ปลายเตียงทีเหลือพอให้ทำ Built-in ชั้นวางทีวีและโต๊ะเขียนหนังสือได้
พื้นที่หลังประตูทางเข้าทำเป็นตู้เสื้อผ้าหรือกระจกเงาแบบเต็มพื้นที่กำแพงได้
ส่วนตู้เสื้อผ้าก็สามารถทำ Built-in เต็มแนวกำแพงที่ติดกับห้องน้ำได้เลย
ห้องน้ำจะมีแบ่งโซน Shower มาให้
พื้นลดระดับลงจากห้องนอนประมาณ 7 ซม.และโซน Shower ลดลงมาอีกประมาณ 3 ซม.
อ่างล้างหน้ามีเคาน์เตอร์หินแกรนิตดำมาให้แต่มีพื้นที่ใช้งานจริงไม่เยอะ ที่กำแพงมีตะขอแขวนผ้าเช็ดมือให้ด้วย
กระจกที่เคาน์เตอร์อ่างล้างมือมีไฟซ่อนให้ทั้งด้านบนและล่าง และบานกระจกมีขนาดใหญ่เต็มแนวกำแพง
โซน Shower ใช้ชุดสุภัณฑ์เดียวกันกับชั้นล่าง
มือจับบานประตูกระจกกั้นโซน Shower สามารถวางผ้าขนหนูได้
ที่กำแพงจะมี Door Stop มาให้
บานประตูห้องนอนชั้น 2 ทุกห้องจะเป็นไม้เนื้อแข็งทีสีขาวขนาด 0.9 x 2.4 ม.ซึ่งถือว่ามีความสูงมากกว่าประตูทั่วไปที่สูงระดับ 2 ม.
แบบห้องนอนเล็กที่ติดกับห้องนอนใหญ่จะกลับด้านกับห้องแรกที่พาไปดูนะครับ เปิดประตูห้องจะเจอห้องน้ำก่อนเหมือนกันจะอยู่ติดกันเพราะงานระบบท่อจะทำได้สะดวกขึ้น
กระจกกั้นโซน Shower เป็นกระจก Tempered Glass ของ Shower King
ประตูใต้อ่างเป็นบางเปิดไม่มี Soft Close มาให้
ห้องนอนเล็กห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องแรก
มีหน้าต่างเป็นบานกระจกเลื่อนสลับให้ 4 บาน
ตำแหน่งการวางตู้จะเหมือนกันแต่พื้นที่ปลายเตียงสำหรับทำชั้นวางทีวีจะยาวกว่า
ตำแหน่งการวางคอมเพรสเซอร์แอร์จะใช้วิธีติดที่ผนังด้านนอก
มาดูห้องนอนใหญ่กันต่อครับ ห้องนี้เป็นห้องที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน
ห้องนี้จะมีประตูกระจกบานเลื่อนคู่ขนาดใหญ่ไว้รับแสงซึ่งหันออกไปทางหน้าบ้าน
แผงกระจกกั้นตรงกลางบ้านจริงจะไม่มีให้นะครับต้องต่อเติมเอง ถ้าใครจะทำเป็นกำแพงทึบและติดทีวีก็ได้ครับ
ห้องนี้จะมีการแบ่งโซน Walk-in Closet มาให้แต่ไม่มี Built-in มาให้นะครับต้องทำเอง
ห้องน้ำจะอยู่ติดกับโซน Walk-in Closet
เคาน์เตอร์ในห้องนี้จะใหญ่เป็นพิเศษและมีอ่างล้างให้ 2 ชุด
ตู้ด้านล้างเคาน์เตอร์มีขนาดใหญ่ตามขนาดเคาน์เตอร์เก็บของได้เยอะเลยครับ
ด้านในตู้ขวามือจะซ่อนเครื่องทำน้ำร้อนไว้ของ MEX เช่นกัน
ห้องน้ำห้องนี้จะเป็นห้องเดียวที่มีอ่างอาบน้ำให้ และมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานไม่มีพัดลมดูดอากาศ
ช่วงปลายอ่างมีที่เหลือให้วางของใช้ต่างๆได้อีกเยอะและมีราวตากผ้าให้ด้วย
ชุดโถสุขภัณฑ์ใช้แบบเดียวกันหมด
โซนอาบน้ำจะพิเศษกว่าห้องอื่นๆตรงที่มี Rain Shower เพิ่มมาให้ส่วนอุปกรณ์ที่เหลือเหมือนกันหมดครับ
ระเบียงของห้องนี้มีขนาดใหญ่มากและมีพื้นที่ยาวไปถึงด้านข้างของห้อง
ขนาดของพื้นที่ระเบียงก็คือขนาดของพื้นที่จอดรถนั่นเองครับ
อีกด้านของระเบียงมีเป็นพื้นที่ไว้วางคอมเพรสเซอร์ได้ และยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะ
Price vs Performance
- แบบ Ashton 165 ตารางวา 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 344 ตารางเมตร ราคา 12,600,000 บาท
- แบบ Charlton 161 ตารางวา 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 420 ตารางเมตร ราคา 13,300,000 บาท
- แบบ Charlton 200 ตารางวา 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 420 ตารางเมตร ราคา 17,900,000 บาท (ราคานี้เป็นราคาที่ขายพร้อมตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์แบบบ้านตัวอย่าง)
- ที่ดินเปล่า 109.9 – 319.9 ตารางวา (Sold Out)
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 300,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 15 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี ณ.วันโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ 2% ผู้ซื้อและผู้ขายแบ่งชำระฝ่ายละ 1%
- ปั๊มน้ำ และ ถังเก็บน้ำบนดิน
- Wallpaper ทั้งหลัง
- จัดสวนด้านหน้าบ้าน
- เคาน์เตอร์ครัว
- ระบบสัญญาณกันขโมยทั้งหลัง
- โคมไฟแชนเดอเรีย
- ฉากประจกกั้นอาบน้ำทุกห้อง
- แอร์ห้องนอนใหญ่
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของโครงการ The Canary Private อยู่บนถนนศรีนครินทร์และเข้าซอยโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลไป 1.4 กม. ซึ่งต้องผ่านพื้นที่ของหมู่บ้านพนาสนธิ์ ซิตี้ ที่เป็นถนนสาธารณะและภาระจำยอม สภาพแวดล้อมรอบโครงการค่อนข้างสงบมากเพราะพื้นที่รอบๆเป็นหมู่บ้านและพื้นที่การเกษตร เรื่องอาหารการกินถ้าไม่ไปตามห้องสรรพสินค้าใหญ่ๆเลยอย่างเช่น Mega Bangna, Lotus Plus, หรือ Central Bangna ก็ต้องไปช่วงปากซอยบริเวณโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลจะมีร้านอาหารห้องแถวมากมายรวมทั้งร้านสะดวกซื้อต่างๆ เช่น Mini BigC และ 7Eleven
โชคดีที่แถวบ้านใกล้เรือนเคียงนั้นมีการพัฒนาขึ้นมาเป็นหมู่บ้านพนาสนธิ์ ซิตี้เรียบร้อยแล้ว ทำให้บริเวณทางเข้าโครงการดูไม่เปลี่ยวเหมือนกับโครงการหมู่บ้านใหม่ๆที่เพิ่งเริ่มจะพัฒนา ซึ่งถนนภายในโครงการนั้นให้ความกว้าง 10 – 12 เมตร จัดว่าโอเค รถวิ่งผ่านได้แม้ว่าจะมีรถจอดขวางอยู่หน้าบ้านทั้งสองฟาก
การเดินทางด้วยรถยนต์จะใช้ถนนศรีนครินทร์เป็นหลักซึ่งช่วงเวลาเร่งด่วนก็ติดพอสมควรเพราะว่าเป็นถนนที่ยาวมากและเชื่อมไปยังถนนหลักหลายๆสายเช่น ถนนเทพารักษ์, ถนนบางนา, ถนนอ่อนนุช, มอเตอร์เวย์ ไปจนสุดที่ถนนลาดพร้าวทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะเป็นทางด่วนวงแหวนกาญจนา บางนา – พระราม 2 ถ้าในอนาคตมีการสร้างสถานีรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายแบริ่ง – บางปู การเดินทางเข้าเมืองก็ทำได้สะดวกขึ้น
ตัวโครงการก็มียูนิตแค่ 58 ยูนิตและเป็นที่ดินเปล่า 47 แปลง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนที่ซื้อไปจะเข้ามาอยู่อาศัยเมื่อไหร่ ทำนับแต่ยูนิตที่เป็นบ้านพร้อมที่ดินจะมีเพื่อนบ้านแค่ 11 หลังเท่านั้น จุดเด่นอีกจุดของโครงการจะอยู่ที่ขนาดของบ้านและที่ดินเริ่มต้นที่ 110 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 344 ตารางเมตร ทำให้รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้สบายๆ
การที่ตัวโครงการมีการขายแบบที่ดินเปล่าด้วยนั้น ผู้ที่ต้องการเข้ามาอยู่อาศัยก็ต้องทำใจไว้ล่วงหน้าหน่อยว่าในอนาคตจะต้องมีงานก่อสร้างบ้านเรือนของที่ดินเปล่าที่ขายไปก่อนหน้า ทำให้อาจจะรบกวนการอยู่อาศัยบ้างเช่นกันนะครับ และถ้าที่ดินเปล่าเหล่านี้ไม่ได้ถูกสร้างให้เป็นบ้านเรือนในอนาคต ก็จะกลายเป็นพื้นที่รกร้างที่มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมดซึ่งอาจจะทำให้ทัศนียภาพดูไม่ค่อยดี จนกว่าหมู่บ้านจะเต็มไปด้วยบ้านเรือนและผู้คนอยู่อาศัยครับ
ที่ดินของบ้านแต่ละหลังนั้นจัดมาค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับมาตรฐานบ้านเดี่ยวในปัจจุบัน เพราะทุกหลังล้วนสร้างที่พื้นที่ 100 ตารางวาขึ้นไป จนถึงแปลงใหญ่ที่สุดที่ 200 ตารางวา แต่ถ้ารวมที่ดินเปล่าที่มีการขายออกไปก่อนหน้านี้ด้วยนั้น พื้นที่จะวิ่งขึ้นไปถึง 300 กว่าตารางวาเกือบๆ 1 ไร่กันเลยทีเดียว ทำให้หมู่บ้านนี้เป็นบ้านเดี่ยวที่มีความหนาแน่นน้อย คนที่ซื้อแปลงใหญ่สามารถจัดสวนหรือแบ่งพื้นที่ให้เหลือเป็นบริเวณสำหรับการวิ่งเล่นรอบบ้าน เลี้ยงสัตว์ จอดรถ ฯลฯ ได้อย่างสบาย
การออกแบบบ้านเป็นแนว Contemporary Modern พื้นที่ภายในบ้านแบ่งเป็นสัดส่วนและลงตัวดี โดยพื้นที่ภายในเน้นพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน ที่สมาชิกภายในครอบครัวสามารถใช้พื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันได้ ถ้าเป็นบ้านแบบ Charlton จะมีห้องนั่งเล่นที่โถงกลางที่ชั้น 2 ด้วย ช่องรับแสงและระบายอากาศภายในบ้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้บ้านดูโปร่งสบายตา สามารถเห็นพื้นที่สวนรอบๆบ้านได้อย่างชัดเจน ห้องนอนทุกห้องมีขนาดใหญ่สามารถใส่เตียง 6 ฟุตแล้วมีพื้นที่รอบๆเตียงเหลือเฟือ ห้องนอนทุกห้องบนชั้น 2 จะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมดทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น มีการทำทางลาดให้บริเวณทางเข้าบ้านจากที่จอดรถสำหรับรถเข็นซึ่งดีมากสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กอ่อน
ส่วนวัสดุของโครงการนี้ให้มาแบบค่อนข้างโอเคถ้าเทียบกับราคา ให้มาทั้ง Engineering Wood Floor, ห้องน้ำและสุขภัณฑ์ที่ดูดี แถมครัวฝรั่งให้ครบ ขาดแต่ Island และเครื่องดูดควัน ซึ่งทางโครงการไปเน้นเรื่องเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและมองว่าอยากให้อิสระกับกลุ่มลูกค้าที่มาซื้อได้ตกแต่งภายในอย่างที่ต้องการ
สาธารณูปโภคของที่นี่มีแค่สวนสาธารณะขนาดประมาณ 1 ไร่ตั้งอยู่หน้าโครงการ แต่ข้อดีคือมีระบบ CCTV ติดตั้งรอบๆโครงการไม่ได้มีแค่เฉพาะบริเวณทางเข้า ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหมู่บ้านเล็กๆที่มีเพียง 11 หลังและที่ดินเปล่าอีก 47 แปลง คงจะไม่เหมาะสมเท่าไรหากต้องเอาค่าส่วนกลางมาดูแลสโมสร ฟิตเนส สระว่ายน้ำ นะครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 10 – 18 ล้านบาท, 30 October 2013
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – บนถนนศรีนครินทร์ เข้าซอยโรงพยาบาลเปาโลลึก 1.4 กม.
- ความปลอดภัย 8.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, CCTV ทั้งโครงการ, Key Card Access
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – แบบลงตัวและมีความเป็นส่วนตัวดี เน้นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่มีขนาดใหญ่
- วัสดุ 8.5/10 วัสดุค่อนข้างดี ห้องน้ำสวย พื้น Engineering แถมครัวฝรั่ง
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – ที่ดินเปล่าเยอะไปหน่อย ขาดความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่
- สาธารณูปโภค 6.75/10 – มีเพียงสวนสาธารณะหน้าโครงการ
- 7.78 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ The Canary Private นี้เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ ชอบความสงบและส่วนตัวชอบห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มีงบประมาณ 10 – 13 ล้านบาทมีกำลังผ่อนต่อเดือน 62,000 – 78,000 บาทขึ้นไป โดยเน้นบ้านเดี่ยวที่มีขนาดที่ดินเกิน 100 ตารางวาขึ้นไป
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧