SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) บ้านเดี่ยวระดับ Luxury ยูนิตน้อย สังคมส่วนตัว ใกล้ Fashion Island จาก Singha Estate [รีวิวฉบับที่ 2688]

SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) ณ วันที่ 7 มีนาคม 2567

Highlights

• ติดถนนใหญ่เลียบคลอง 2 มีความอุดมสมบูรณ์ร้านอาหาร, ห้าง, คอมมูนิตี้มอลล์ ริม 2 ฝั่งถนน เชื่อมไปถนนคู้บอนได้สะดวก ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของโซนนี้
• อิงมาทางถนนรามอินทรา ใกล้ Fashion Island และจุดขึ้น-ลงทางด่วนในระยะ 8-10 km.
• ใกล้โรงเรียนสาธิตพัฒนาประมาณ 2.7 km.

พิกัด Google Maps : 13.86111 , 100.71140
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการ SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา)

SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) ตั้งอยู่ในย่านที่มีโครงการบ้านจัดสรรใหม่เกิดขึ้นเยอะมากๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ รองรับการขยับขยายบ้านของเจ้าของกิจการในโซนนี้ หรือคนที่คุ้นชินทำงานในละแวกพระยาสุเรนทร์, ปัญญาอินทรา, หทัยราษฎร์, รามอินทราตอนปลาย, มีนบุรี เป็นหลัก

โดย 2 โซนที่มีโครงการบ้านเปิดใหม่อย่างคึกคักใน 2-3 ปีนี้ก็คือ โซนเลียบถนนกาญจนาภิเษก (วงสีฟ้า) และ โซนถนนคู้บอน-เลียบคลองสอง (วงสีม่วง) ซึ่ง 2 โซนนี้มีความแตกต่างกันนะคะ โดยกลุ่มบ้านบนถนนคู้บอน-เลียบคลองสอง จะได้เปรียบในเรื่องความอุดมสมบูรณ์มากกว่า อิงมาทาง Fashion Island, The Promenade มีร้านค้าร้านอาหารรายล้อมโครงการไปหมด แต่จะขยับออกจากวงแหวนกาญจนาภิเษกมาหน่อยประมาณ 9-10 km.

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้โรงเรียนสาธิตพัฒนา เป็นโรงเรียนเอกชนที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึง ม.ปลาย ซึ่งมีชื่อเสียงด้านสิ่งอำนวยความสะดวกได้มาตรฐานโรงเรียนนานาชาติ ที่นี่อยู่ใกล้โครงการเพียง 2.7 km. จึงสะดวกในการเดินทางดีเลยค่ะ

ตัวช่วยในการเดินทาง : ถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนฉลองรัช

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริเวณโดยรอบโครงการ SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้าน, อาคารพาณิชย์สลับกับที่ดินเปล่าที่มีศักยภาพในการพัฒนาในอนาคต สรุปได้ดังนี้

ทิศเหนือ : ติดกับ หมู่บ้านพักอาศัย
ทิศใต้ : ติดกับ ถนนเลียบคลองสอง ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
ทิศตะวันออก : ติดกับ ชุมชนเดิม เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
ทิศตะวันตก : ติดกับ หมู่บ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• JAS Green Village  ~ 3.8 km.
• Max Value คู้บอน ~ 4.0 km
• Fashion Island & Promenade ~ 8.2 km.
• Central East Ville ~ 15.6 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ~ 8.5 km.
• โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ~ 9.7 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนสาธิตพัฒนา ~ 2.7 km.
• Ruamrudee International School Early Years Campus ~ 4.4 km.
• โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ ~ 10.7 km.
• โรงเรียนเลิศหล้า ถนนเกษตร-นวมินทร์ ~ 13.3 km.

สถานที่ราชการ

• สำนักงานเขตคลองสามวา ~ 1.1 km.

สถานที่สำคัญอื่น ๆ

• ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ~ 24.8 km.
• ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ~ 24.6 km.

Shawn (ฌอน) เป็นหนึ่งในแบรนด์บ้านเดี่ยวของ Singha Estate แต่มีราคาจับต้องง่ายขึ้นกว่า S’RIN, SIRANINN และ SANTIBURI โดยโครงการนี้มีช่วงราคาประมาณ 22-45 ล้านบาท ถึงราคาจะหยิบจับง่ายกว่าโครงการรุ่นพี่แต่ก็ยังคง DNA ของ Singha Estate ไว้ในตัวบ้านเช่นเดียวกัน ซึ่งเราจะเล่าต่อใน Part แบบบ้านนะคะ

พูดถึงโครงการบ้านในละแวกนี้ก็มีโครงการให้เลือกมากมายตั้งแต่ระดับไม่ถึง 10 ล้านไปจนถึง 40 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่ง Shawn เริ่มต้นที่ 22-45 ล้านบาท ก็ถือว่ามีราคาเป็นลำดับต้นๆ ของโซนนี้ โดยจุดเด่นหนึ่งสำหรับ Shawn ปัญญาอินทรา คือมียูนิตไม่เยอะมากเพียง 72 ยูนิต เหมาะกับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย และบ้านในโครงการทั้งหมดจะอยู่ใน Segment ราคาใกล้เคียงกัน สมาชิกในหมู่บ้านจึงอยู่ในสังคมระดับเดียวกัน

หากดูจาก Master Plan ประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันค่ะ ประเด็นแรก คือ “Clubhouse อยู่กลางโครงการ” ทำให้ลูกบ้านทั้งหมดเข้าถึงได้สะดวก และอยู่ติดถนนหลักที่ลูกบ้านเกือบทั้งหมดต้องผ่านไปมาอยู่เสมอ

ประเด็นที่ 2 คือ “การวางผัง” มีตำแหน่งให้เลือกหลากหลายทั้งตำแหน่งบ้านที่ติดถนนหลัก จะได้เปรียบในเรื่องความสะดวกในการเดินทางเข้าออก และโซนที่อยู่ในซอยก็มีทั้งตำแหน่งในซอยตันที่จะได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยสูงกว่าโซนอื่นๆ และมีโซนที่ถนนหน้าบ้านเป็นแบบวน Loop ได้ก็สามารถเข้าออกได้หลายทาง

ประเด็นที่ 3 คือ “ทิศของบ้าน” บ้านส่วนใหญ่ในโครงการจะหันทางทิศเหนือและใต้เป็นหลัก ซึ่งบ้านทิศเหนือฝั่งหน้าบ้านจะโดนแดดในช่วงเช้าและร่มในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศใต้ฝั่งหน้าบ้านจะร่มในช่วงเช้าและโดนแดดในช่วงบ่าย การเลือกบ้านว่าหันทิศไหนดีจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น หากเป็นคนชอบตื่นสายก็ควรเลือกบ้านที่มีตำแหน่งเตียงนอนอยู่ทางทิศใต้ เพื่อให้แสงไม่ส่องเข้าบ้านในช่วงเช้า และการวางแปลนบ้านทิศเหนือใต้ทำให้สอดคล้องกับลมประจำฤดูของไทยมากที่สุด ช่วยให้ลมไหลเวียนเข้าบ้านได้ดี

ตัวซุ้มประตูออกแบบมาให้มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก โดยจะแบ่งทางเข้า-ออก 2 ฝั่งแยกจากกันชัดเจน

ประตูเข้าออกโครงการเป็นไม้กั้นกระดกและมีประตูเหล็กบานเลื่อนอีกชั้นหนึ่ง มีการแยกเลนระหว่าง Visitor กับลูกบ้านทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกเพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน ลูกบ้านจึงสามารถขับรถผ่านได้สะดวก โดยไม้กั้นกระดกจะเปิดอัตโนมัติด้วยระบบ RFID เหมือน Easy Pass ทางด่วน ส่วน Visitor จะต้องติดต่อแลกบัตรกับพี่ รปภ. ก่อนนะคะ

ข้างๆ ซุ้มประตูจะมีทางเดินเข้า-ออกแยกไว้ สำหรับลูกบ้านที่ไม่ได้ใช้รถก็สามารถเดินเข้าออกได้อย่างปลอดภัย และมีกล้อง CCTV ติดตั้งรอบโครงการทั้งหมด 33 จุด

โซนหน้าโครงการจะมีถนนหลักที่จ่ายลูกบ้านออกไปตามซอยต่างๆ ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนซอยกว้าง 9 เมตร เป็นระยะที่แม้จะมีรถจอดหน้าบ้านก็ยังขับผ่านไปได้สะดวกค่ะ

ในส่วนของ Clubhouse ก็จะอยู่บริเวณกลางโครงการ ติดกับสะพานข้ามคลอง เป็น Buffer Zone ทำให้ไม่มีบ้านหลังไหนติดกับคลองโดยตรง แม้ว่าอาคาร Clubhouse จะตั้งอยู่ติดถนนหลัก แต่โครงการก็ออกแบบ Landscape ให้พื้นที่สวนรอบๆ ช่วยบังสายตาได้เป็นอย่างดี

สระว่ายน้ำ

ติดกับสระว่ายน้ำจะมีทางเดินยาวภายใน Clubhouse เชื่อมระหว่าง Leisure Lounge, Biz Lounge และห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านในสุดของอาคารค่ะ

Biz Lounge

Biz Lounge จัดเป็น Meeting Room รองรับการประชุม, คุยงานต่างๆ โดยไม่ต้องพาแขกเข้าบ้านก็ได้ ภายในห้องมีโต๊ะทำงานขนาด 8 ที่นั่งและจอ TV รองรับการพรีเซนต์งานได้

Leisure Lounge

ติดกันเป็น Leisure Lounge ขนาดใหญ่ ภายในจัดชุดโซฟาไว้หลายชุด เปิดวิวให้มองเห็นสระว่ายน้ำได้

ห้องน้ำ/พื้นที่อาบน้ำล้างตัว

ปลายสุดทางเดินจะเป็นพื้นที่อาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระ และเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ จึงได้ความเป็นส่วนตัว ดูมิดชิดขึ้น

ในส่วนของ Fitness จะอยู่บนชั้น 2 ซึ่งต้องขึ้นบันไดไปนะคะ

S-Gym

สวนส่วนกลาง

สนามเด็กเล่น

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการ

ชั้น 1 
– Leisure Lounge
– Biz Lounge (Meeting Room)
– สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6.3 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร
– สระเด็กขนาด 3.8 x 3.2 เมตร ลึก 0.45 เมตร
– Jacuzzi

ชั้น 2
– S Gym

• Communal Parks สวนส่วนกลาง 1 จุด รวมประมาณ 2,000 ตารางเมตร (1 ไร่กว่าๆ)
• Children’s Playground
• Jogging Path
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 33 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2.50 – 3.00 เมตร และรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 1.10 – 2.80 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
• Key Card Access ใช้ระบบ RFID เหมือน Easy Pass ทางด่วน
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและรั้วเหล็กรางเลื่อน

โครงการ SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) ออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical ผสม Modern Contemporary เน้นการออกแบบบ้านให้เข้าภูมิประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น โดยการดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ เช่น ลวดลายของผิวไม้, ลายหิน  เน้นใช้สี Earth Tone ทำให้บ้านดู Homey น่าอยู่อาศัยแต่ยังทนทาน เพื่อให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ภาพรวมดู Timeless ไม่เก่าไปตามกาลเวลา ซึ่งเป็น DNA ของแบรนด์บ้านเดี่ยวจาก Singh Estate ที่เห็นได้จากโครงการรุ่นพี่ทั้ง 3 แบรนด์ค่ะ

นอกจากนี้การออกแบบตัวบ้านจะคำนึงถึงทิศทางแดด, ลม, ฝน เพื่อให้บ้านมีสภาวะอยู่สบาย ห้องส่วนใหญ่จะมีหน้าต่าง 2 ฝั่งเพื่อให้ลมพัดผ่านได้ ภายในบ้านดูโปร่งโล่งเพราะหน้าต่างบานใหญ่ได้ช่องแสงธรรมชาติทุกห้อง และที่สำคัญตัวบ้านยังรองรับการต่อเติมในอนาคต ด้วยการเตรียมโครงสร้างให้รองรับการเติมพื้นชั้น 2 บริเวณ Double Volume ได้ อีกทั้งสถาปนิกยังออกแบบให้ไม่มีเสาในจุดที่นิยมทุบเชื่อมกัน เพื่อให้ปรับผังบ้านได้สะดวก

SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) มีบ้านให้เลือก 3 แบบ ดังนี้

• Residence I บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 124 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 473 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ
  ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
• Residence II บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 101 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ
  ราคาเริ่มต้น 26 ล้านบาท
• Residence III บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 101 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 335 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ
  ราคาเริ่มต้น 22 ล้านบาท

บ้านทุกแบบรองรับครอบครัวใหญ่ได้หลาย Generations การจัดฟังก์ชันคล้ายกันเลย มีห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง ใช้งานได้สะดวก พร้อมห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุได้ ชั้น 2 มี Family area จัดเป็นห้องพักผ่อนหรือห้องทำงานส่วนตัวได้ พร้อมห้องครัวไทยใช้งานได้จริงจัง และ Service area แยกจากบ้านชัดเจนเป็นสัดส่วน

ความแตกต่างของฟังก์ชันบ้าน จะมีในส่วนของห้องนั่งเล่นรับแขกชั้นล่าง ซึ่งแบบบ้านไซส์ใหญ่และไซส์รองจะได้เป็น 2 ห้องนั่งเล่น จึงสามารถกั้นโซนรับแขกออกจากนั่งเล่นได้ชัดเจน ส่วนห้องนอนในบ้านไซส์ใหญ่สุดจะได้ถึง 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ส่วนแบบอื่นๆ จะได้ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถบ้านไซส์ใหญ่และไซส์รองจะมีที่จอดรถในร่มได้ 4 คัน ส่วนแบบเริ่มต้นจะมีที่จอดรถในร่ม 3 คันค่ะ

สรุปโครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

• หลังคาทรงปั้นหยา วัสดุเป็น Concrete Rooftile พร้อมฉนวนกันความร้อน
• โครงสร้าง Conventional สามารถทุบผนังต่อเติม ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในอนาคตสะดวก
• ที่จอดรถ ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน เฉพาะในชายคา พื้นทรายล้าง
• ลานซักล้าง ลงเสาเข็มสั้น 6-8 เมตร
• ประตูรั้วหน้าบ้าน : ประตูเหล็กเลื่อนทำสี / มีการเดินสายไฟรอระบบอัตโนมัติไว้
• พื้นชั้น 1 : Compressed Porcelain (Marble Pattern) Tile ขนาด 80×80 cm. / SPC ในห้องนอนชั้นล่าง
• พื้นชั้น 2 : SPC
• Built-in เคาน์เตอร์ครัวพร้อมบานปิดหน้าตู้, Top หินสังเคราะห์
• โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วย SPC
• สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ Cotto, Kohler, Lavenz เป็นหลัก
• มีอ่างอาบน้ำและเดินท่อน้ำร้อนใน Master Bathroom
• ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered
• กรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียม ผิว powder coated
• ไฟบ้าน 3 เฟส รองรับการติดตั้ง EV Charger 22 kW.

เทคโนโลยี

• ลดความร้อนภายในบ้าน ด้วยระบบ S-AIR (Active Air Flow)
• Magnetic Sensor ทั้ง 2 ชั้น ทุกบานประตูหน้าต่าง เป็นแบบร้อยสายจึงเสถียรกว่าแบบ Wireless
• Smart Outdoor Camera แจ้งเตือนหากมีคน/สัตว์/รถ ผ่านมาใกล้บ้าน ด้วย Motion Sensor ยี่ห้อ NETATMO
• Digital Door Lock ที่ประตูเชื่อมโรงจอดรถ
• Emergency Light System 2 จุด บริเวณโถงบันได 2 ชั้น
• Heat Detector ในห้องครัว
• Smoke Detector ใน Electrical Room

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่าง Residence I

เป็นบ้านไซส์ใหญ่สุดของโครงการ จัดฟังก์ชันรองรับครอบครัวใหญ่หลาย Generations มีสมาชิก 6-7 คนได้สบาย ที่ดินมาตรฐาน 124 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 473 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ

ส่วนจุดเด่นที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้างเราสรุปมาให้ชมดังนี้ค่ะ

• บ้านหน้ากว้าง ช่องเปิดเยอะ รับลมรับแสงได้ดี
• ที่ดินเริ่ม 100 ตร.ว. ขึ้นไป ได้พื้นที่สวนรอบบ้านขนาดใหญ่ และวางตัวบ้านไว้ชิดรั้วฝั่งหนึ่ง เพื่อรวมให้พื้นที่สวนข้างบ้านมีขนาดใหญ่
• พื้นที่พักผ่อนแบบ open plan รับวิวสวนหลังบ้านทุกฟังก์ชัน รวมเอา Living area + Dining area + Pantry เอาไว้ในบริเวณเดียวกัน ดูกว้างขวางโอ่อ่า
• พื้นที่รับแขก Double Volume ฝ้าเพดานสูง 6.7 เมตร ติดตั้ง Chandelier ขนาดใหญ่ได้เลย อีกทั้งติดตั้งกระจกขนาดใหญ่ สูงถึงชั้น 2 รับแสง ธรรมชาติได้เต็มที่ ดูโปร่งโล่ง
• Living area แยกจากส่วนรับแขก สามารถเพิ่มประตูกั้นแยกโซนได้เป็นสัดส่วน
• รองรับผู้สูงอายุ มีห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งพื้นห้องจะเท่ากันหมดไม่มีพื้นที่ต่างระดับ รวมถึงพื้นในห้องน้ำด้วยเช่นกัน มีพื้นที่เฉลียงให้ออกมานั่งเล่นในสวนเปลี่ยนบรรยากาศได้
• ห้องนอนชั้นบน 4 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง
• ห้องนอนใหญ่ มี Walk in closet และห้องน้ำขนาดใหญ่ ภายในมีอ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้า His & Her
• ห้องนอนใหญ่วางตำแหน่งไว้ทางฝั่งหลังบ้าน จึงได้ความเป็นส่วนตัวและความสงบมากขึ้นช่วยลดเสียงรบกวนจากที่จอดรถ
• เกือบทุกห้องนอนมี Ventilation Cross ออกแบบให้มีหน้าต่างอย่างน้อยสองด้าน เพื่อให้ Flow ลมในห้องได้ดี
• Family area ชั้นบน จัดเป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวสำหรับครอบครัวได้ พร้อมมีพื้นที่อเนกประสงค์อีกจุดให้จัดเป็นห้องพระ หรือห้องทำงานก็ได้
• รองรับการปรับฟังก์ชันในอนาคต ออกแบบโครงสร้างให้รองรับการเติมพื้นชั้น 2 ในบริเวณ Double Volume และการวางเสาจะไม่อยู่ในจุดที่นิยมทุบผนังขยายห้อง
• Service area แยกจากพื้นที่ในบ้านชัดเจน รักษาความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน

ตัวบ้านหน้ากว้างมาก โดดเด่นด้วยช่องหน้าต่างบานใหญ่ดูโอ่อ่าเป็นหน้าเป็นตาให้แก่ผู้อยู่อาศัยได้ดี โครงการออกแบบหลังคาเป็นทรงปั้นหยาช่วยระบายน้ำได้ดี และด้วย Slope ที่ไม่ได้สูงมากนักทำให้เวลามองจากภายนอกจะมองไม่เห็นตัวหลังคา ทำให้ภาพรวมดูโมเดิร์น เรียบๆ ซึ่งโครงสร้างหลังคาออกแบบให้รองรับน้ำหนัก Solar Cell ได้ (แต่จะรองรับขนาดกี่ kW ต้องสอบถามจากทางโครงการอีกทีนะคะ) ซึ่งหลังคาทรงนี้ยังมีข้อดีที่ทำให้มองไม่เห็นตัว Solar Cell ทำให้ดูเรียบร้อย

ประตูรั้วบ้านจะได้ประตูเหล็กเลื่อนทำสี พร้อมเดินสายไฟรอติดตั้งระบบอัตโนมัติไว้ให้

นอกจากประตูรถแล้วจะมีประตูสำหรับเดินเข้า-ออกแยกไว้ให้ ซึ่งจะตรงกับประตูหลักหน้าบ้านพอดี

หน้าบ้านมีถังขยะและกล่องจดหมายมาให้เป็นมาตรฐาน จุดที่พิเศษกว่าหลายๆ โครงการคือ กล่องจดหมายมีขนาดใหญ่ สามารถเปิดใส่พัสดุขนาดเล็ก-กลางลงไปได้

ขนาดที่ดินรอบบ้านนั้นขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินของแต่ละแปลง เราสามารถเลือกขนาดแปลงที่ดินที่เหมาะกับเราได้ อย่างบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นบ้านที่มีที่ดินด้านหน้ากว้างมาก ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีรถมากกว่า 4 คัน และครอบครัวที่อยากทำสระว่ายน้ำเพิ่มได้ แต่ก็ทำให้บ้านมีราคาสูงขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ

พื้นที่สวนของบ้านมาตรฐานจะมีการปูหญ้าไว้ให้ พร้อมต้นไม้ริมรั้วและต้นไม้ใหญ่บริเวณหน้าบ้าน 2 ต้น

ที่จอดรถในร่มมีความกว้างประมาณ  10×5.6  เมตร สามารถจอดรถ 4 คันได้สบาย หรือใครอยากจะกั้นปิดเพื่อติดแอร์ให้กับโรงจอดรถเพิ่มเติมก็ยังได้ ซึ่งในส่วนนี้ทางโครงการจะลงเสาเข็มความยาวเท่าตัวบ้านไว้ให้เลย จึงไม่ต้องกลัวทรุดแยกออกจากตัวบ้าน

พื้นในส่วนที่เกินจากตัวบ้านจะไม่ได้ลงเสาเข็ม เป็นการเทคอนกรีตแบบ On Ground และมีการตัด Joint แยกโครงสร้างไว้ให้เรียบร้อย หากใครอยากต่อเติมหลังคาออกมาให้บังแดดรถได้เต็มคันก็แนะนำให้ลงเสาเข็มเพิ่มเติมหรือปรึกษาวิศวกรดูนะคะ

ภายในที่จอดรถมี Smart Outdoor Camera ยี่ห้อ NETATMO เจ้าเครื่องนี้จะคอยตรวจจับคน, สัตว์ และรถยนต์ที่ผ่านเข้ามาใกล้ๆ ตัวบ้าน และส่งแจ้งเตือนเข้าโทรศัพท์ เวลาที่เราไม่อยู่บ้านก็มีเจ้าเครื่องนี้คอย Monitor ให้ค่ะ >> ดู VDO ใช้งานเพิ่มเติม และมีการเตรียม Block ไฟ รองรับการติดตั้ง EV Charger ไว้ให้ได้ถึง 22 kW

บริเวณที่จอดรถด้านในจะมีประตูทางเข้าบ้านจากฝั่งที่จอดรถ พร้อมทางลาดสำหรับผู้สูงอายุกว้าง 1 เมตร ส่วนความชัน Ramp ที่ 1 : 12 ตามมาตรฐานสำหรับ Wheelchair ตัวประตูเป็นแบบเปิดออก พร้อมติดตั้ง Digital door lock มาให้ด้วย

ตู้เก็บของภายในที่จอดรถมีมาให้ 3 ตู้ เป็น 1 ตู้ใหญ่ ขนาดประมาณ 2.7 x 1.5 เมตร และ 2 ตู้ย่อยสำหรับจัดเป็นตู้เก็บรองเท้า หรืออุปกรณ์ทำสวนก็ได้ เราชอบที่บานตู้เค้าออกแบบให้ระบายอากาศได้และติดมุ้งลวดกันแมลงมาให้ด้วยค่ะ

ประตูหลักของบ้านจะอยู่ใต้ชายคาเชื่อมต่อมาจากโรงจอดรถ ช่วยบังแดดบังฝนได้ ประตูบ้านเป็นของ Hafele วัสดุเป็นอะลูมิเนียมลายไม้ แข็งแรง ดูแลรักษาได้ง่าย สี Fade ยากกว่าไม้จริง ประตูเปิดได้กว้าง 1.5 เมตรเลย จึงสามารถยกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ เข้าได้สบาย โดยประตูฝั่งหนึ่งจะมีช่องกระจกให้สามารถมองเห็นได้เวลามีแขกไปใครมาได้ด้วย

ประตูจะ Integrated Push/Pull Lock Set มาให้ มือจับขนาดใหญ่ใช้งานสะดวก และมีตัวล็อก 2 จุดบนล่างช่วยเสริมความปลอดภัย

เมื่อเข้าบ้านมาส่วนแรกเป็น Foyer โปร่งๆ เชื่อมต่อกับส่วนรับแขก ดูกว้างขวาง หรือใครจะกั้น Partition เพิ่มเติมเพื่อให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นก็ยังได้ ไม่ดูอึดอัดเลยค่ะ

Grand Living Room

Grand Living Room โซนหน้าสุดเป็นพื้นที่แบบ Double Volume ได้ผนังกระจกเข้ามุมทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง รับวิวสวนได้ทั้งหน้าบ้านและข้างบ้าน ดูร่มรื่นดี ภายในห้องนี้มีขนาดเพียงพอที่จะวางโซฟา 5-6 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ

ภายใน Grand Living Room จะมีประตูบานเลื่อนให้เปิดเชื่อมต่อกับสวนด้านนอกได้เลย

บริเวณประตูหน้าบานทุกบาน จะมี Magnetic Sensor ติดไว้ให้ ซึ่งจะมี Home Panel จาก Inim เป็นจอควบคุมระบบ Smart Home ต่างๆ บนหน้าจอก็จะขึ้นโชว์ว่าประตูหน้าต่างบานไหนเปิดปิดอยู่ ให้เราเช็คความปลอดภัยได้

ออกจากประตูมาก็จะเชื่อมเข้าสวนข้างบ้าน ซึ่งมองเห็นได้ทั้งจาก Grand Living Room และห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่าง

แอร์ที่โครงการติดตั้งมาให้เป็นแบบ Cassette Type จำนวน 1 ตัว ซึ่งจะติดตั้งไว้ให้ใน Grand Living Room

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของห้องนี้คือ สามารถทำประตูกั้นห้องเพิ่มเติม เพื่อแยกโซนพักอาศัยหลักที่อยู่ทางฝั่งหลังบ้าน ออกจากโซนรับแขกบริเวณหน้าบ้านได้ เผื่อแขกไปใครมาก็จะไม่รบกวนสมาชิกคนอื่นๆ ที่พักผ่อนอยู่โซนด้านหลังของบ้าน

พื้นที่โซนด้านในเป็นแบบ Open Plan รวมเอา Living area + Dining area + Pantry เอาไว้ในบริเวณเดียวกัน ดูกว้างขวางโอ่อ่า แถมยังมีประตูกระจกบานใหญ่ตลอดแนว รับวิวสวนหลังบ้านได้ตลอดแนว ดูสดชื่น ผ่อนคลายดีเลยค่ะ สำหรับพื้นที่ชั้นหนึ่งวัสดุเป็น กระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนสวยงาม ฝ้าเพดานสูง 2.85 เมตร

Family Area

จัดชุดโซฟานั่งเล่นขนาดใหญ่รองรับได้ 5-6 คน พร้อมโต๊ะกลางได้สบาย เหลือทางเดินรอบๆ ค่อนข้างกว้าง

ถัดมาเป็น Dinning area พื้นที่ตรงนี้สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 8-10 ที่นั่ง แบบยังเหลือทางเดินรอบโต๊ะได้สบาย

ขวามือของโต๊ะทานอาหารจะมีโถงเล็กๆ หลบมุมเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ Powder room ดูเป็นสัดส่วนดี และเป็นตำแหน่งที่ติดกับประตูฝั่งโรงจอดรถ เวลากลับบ้านมาก็จะเข้าถึงห้องน้ำได้สะดวก

Powder room เป็นห้องน้ำที่มีเฉพาะส่วนแห้ง ใช้รองรับพื้นที่พักผ่อนชั้นล่างจึงไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำ เพราะทุกห้องนอนในบ้านจะมีห้องน้ำในตัวอยู่แล้ว

ระดับพื้นห้องน้ำจะเท่ากับพื้นบ้านส่วนอื่นเลย จึงสามารถรองรับรถเข็นผู้สูงอายุได้สะดวก ที่ประตูทางเข้าจะมี Floor Drain เรียบๆ มาให้ กันน้ำย้อนไปยังพื้นบ้านส่วนอื่น

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้แบรนด์ Cotto, Kohler และ Lavenz เป็นหลัก จุดที่พิเศษคือห้องน้ำนี้จะได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ จึงใช้งานได้สะดวกทั้งสมาชิกในบ้านและแขก

ด้านในสุดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ เราสามารถจัดเป็น Pantry ครัวฝรั่งให้ใช้เตรียมอาหารเล็กๆ น้อย หรือจะเป็นมุมอบขนม ใครทำขนมเป็นงานอดิเรกน่าจะชอบเลยค่ะ จากขนาดพื้นที่เราสามารถ Built-in เคาน์เตอร์ครัวพร้อม Island ลอยตัวได้เลย ข้างๆ จะเป็นประตูเข้าครัวไทย ซึ่งได้ครัวปิดเป็นสัดส่วน ใช้ทำอาหารได้จริงจัง

Thai Kitchen

ครัวไทยเป็นห้องครัวปิดขนาดใหญ่ ได้เคาน์เตอร์ครัวไทย Built-in เต็มผนัง 2 ฝั่งแบบนี้เลย มาแบบพร้อมใช้งาน มีตู้บานปิด พร้อมซิงค์ล้างจาน และช่องสำหรับวางถังแก๊สนอกบ้าน เพื่อให้สามารถเปลี่ยนถังแก๊สได้สะดวกโดยที่คนส่งแก๊สไม่ต้องเข้ามาในตัวบ้าน

และจะเห็นได้ว่าเหลือพื้นที่ตรงกลางค่อนข้างกว้างเลย จะทำเป็น Island ตรงกลางเพิ่มเติมก็ยังได้ค่ะ พื้นกรุกระเบื้อง Porcelain ทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญห้องนี้ได้หน้าต่าง 2 ฝั่ง ทำให้เปิดระบายอากาศได้ดี พร้อมติดตั้ง Heat detector ภายในห้องมาให้ครบ

ออกจากห้องครัวมาจะเจอกับ Maids Quater เป็นโถงแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมบังแดดบังฝน เชื่อมห้องนอน,ห้องน้ำแม่บ้าน และ Laundry Area ให้แม่บ้านทำงานได้สะดวก และโซนนี้ก็จะเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้าน สำหรับออกไปตากผ้าได้ด้วย

ห้องนอนแม่บ้านมีขนาดวางเตียงเดี่ยวได้พอดีๆ หรือวางเตียง 2 ชั้นก็ได้อยู่นะคะ ภายในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงรับลมได้ดี

Bedroom ชั้นล่าง

โซนแรกภายในห้องนอนจะเป็นพื้นที่แต่งตัวเชื่อมต่อกับห้องน้ำ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาบทางเข้าออกห้องน้ำได้ 2 ฝั่งหรือจะแบ่งพื้นที่เป็นโต๊ะเครื่องแป้งฝั่งหนึ่งก็ได้ สำหรับประตูห้องน้ำจะให้เป็นประตูบานเลื่อน เปิดได้กว้าง 0.9 เมตร รองรับการใช้รถเข็นได้สบาย

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ขนาดห้องค่อนข้างกว้าง โดยระดับภายในห้องนี้จะเท่ากับพื้นห้องนอนเลย สามารถรองรับรถเข็นผู้สูงอายุได้สะดวก ที่ประตูทางเข้าจะมี Floor Drain เรียบๆมาให้ กันน้ำย้อนไปยังส่วนแต่งตัว

หน้าต่างในห้องน้ำเป็นบานใหญ่ แบ่งส่วนหนึ่งเป็นบาน Fixed ใช้รับแสงธรรมชาติ และแบ่งอีกส่วนหนึ่งเป็นบานกระทุ้งให้อากาศถ่ายเทได้

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.9 × 1 เมตร ถือว่ากว้างเลย พื้นเป็น Slope จึงสามารถเข็นวีลแชร์ได้สะดวก ภายในมีการออกแบบเป็นม้านั่งคอนกรีต ให้นั่งอาบน้ำได้ พร้อมมีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนัง และมีการติดตั้งฝักบัวอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งาน

ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่พักผ่อน มีขนาดเพียงพอให้วางเตียง 5-6 ฟุต และมีทางเดินเหลือรอบเตียงค่อนข้างกว้างเลย สำหรับใครที่ชอบนอนดูทีวี ระยะตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 60 นิ้วขึ้นไปได้เลย พื้นห้องปูด้วย SPC ให้บรรยากาศที่ดู Homey และมีคุณสมบัติทนน้ำได้ดีกว่าพื้นที่มีส่วนผสมของไม้จริง ภายในห้องได้หน้าต่างหลายจุด ห้องจึงดูโปร่ง แถมเปิดรับลมได้ดีเลยด้วย

จากห้องนอนชั้นล่างจะมีประตูบานเลื่อนให้เปิดออกมานั่งเล่นบริเวณเฉลียง เพื่อรับวิวสวนได้

กลับมาต่อกันที่โถงบันไดกันค่ะ จะอยู่บริเวณกลางบ้าน โดยห้องข้างบันไดตรงนี้จะเป็นห้องเก็บของ และห้องเก็บตู้ไฟ มีประตูปิดมาให้ดูเรียบร้อยดี

ภายในห้องเก็บตู้ไฟจะมีการติดตั้ง Smoke Detector ไว้ให้เพื่อความปลอดภัย ในส่วนของห้องเก็บของใต้บันได มีพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 2.2 x 1.4 เมตร ใช้เก็บของชิ้นใหญ่อย่างถุงกอล์ฟ หรือกระเป๋าเดินทางได้

โถงบันไดมีขนาดใหญ่ทีเดียว บันไดจะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงและเวลาเดินก็จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วย SPC มาพร้อมราวกันตกและมือจับยาวไปตลอดแนวบันได ส่วนที่เราชอบคือ บันไดกว้างแบบที่เดินสวนกันได้เลย

โถงบันไดมีหน้าต่างรับแสงและเปิดระบายอากาศได้ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสว่าง โปร่งโล่งมากๆ หากใครต้องการติดตั้งโคมไฟระย้าบริเวณโถงบันไดก็สามารถทำได้

เทคโนโลยีที่ติดตั้งบริเวณโถงบันไดจะมีระบบ
S-AIR (Active Air Flow) ทำหน้าที่ลดความร้อนภายในบ้าน ทำให้บ้านไม่ร้อนอบอ้าว ด้วยการดูอากาศภายในบ้านขึ้นไปไล่อากาศร้อนบริเวณใต้หลังคาให้ไหลออกไปทางชายคา และมี Emergency Light System ที่จะสว่างขึ้นอัตโนมัติเมื่อไฟฟ้าหลักดับ

Family Area ชั้น 2

Family area เป็นพื้นที่โล่งขนาดประมาณ 3.9 × 2.5 เมตร สามารถจัดเป็นส่วนพักผ่อนส่วนตัวสำหรับชั้นสองได้สะดวก และเนื่องจากอยู่ติดระเบียงภายนอก ทำให้บริเวณนี้ได้แสงธรรมชาติผ่านประตูกระจกบานใหญ่ ซึ่งตรงนี้จะกั้นห้องเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวก็ยังได้ แต่แนะนำให้เป็นผนังแบบกระจกเพื่อคงความโปร่งโล่งเอาไว้ค่ะ

ห้องนอนรอง 3 ห้องบนชั้นนี้จะล้อม Family Area เอาไว้ พื้นที่บริเวณนี้จึงเป็นเหมือนมุมพักผ่อนก่อนเข้านอนของทุกคนในครอบครัว

ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรองห้องแรกเป็นห้องฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะกั้นโซนแยกระหว่างเตียงนอนกับพื้นที่แต่งตัว ถ้าดูตามแบบในบ้านตัวอย่างจะสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงสองข้างก็ยังได้ ภายในห้องได้หน้าต่างและประตูกระจก 2 ฝั่ง ทำให้ลมพัดผ่าน อากาศถ่ายเทได้

Highlights อย่างหนึ่งของห้องนอนรองนี้ จะเป็นห้องนอนที่ได้ระเบียงและหน้าต่างเข้ามุม ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาในตัวห้องเยอะ ภายในดูสว่าง ระเบียงยาว 6 เมตรกว่า กว้างประมาณ 0.9 เมตร ถ้าเราวางต้นไม้ตามแนวระเบียงก็จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นให้กับตัวห้องได้ดีเลยค่ะ

โซนหน้าห้องเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการจัดเป็นพื้นที่แต่งตัวเพราะอยู่ติดกับห้องน้ำ ในบ้านตัวอย่าง Built-in ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังไว้ฝั่งหนึ่ง เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ อีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้ง

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 1.6 เมตร พร้อมสุขภัณฑ์ครบถ้วนเหมือนในบ้านตัวอย่าง และมีหน้าต่างบานกระทุ้งหนึ่งจุดให้เปิดระบายอากาศได้

ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2 อยู่ในโซนหลังบ้าน ซึ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงกับห้องก่อนหน้าเลย แต่โซนพักผ่อนจะกว้างขวางกว่า พื้นที่ปลายเตียงของห้องนี้ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโซฟานั่งเล่นเกมส์และวางโต๊ะคอมขนาดใหญ่ได้เลย

ในส่วนของพื้นที่หน้าห้องเหมาะสำหรับจัดเป็น Walk-in Closet เพราะอยู่ในตำแหน่งใกล้ห้องน้ำพอดี ซึ่งตรงนี้เราสามารถทำตู้เสื้อผ้ากว้างเต็มผนังได้

ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน จัดฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งาน ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์ต่างๆ เหมือนกันกับห้องก่อนหน้าเลย

ห้องนอนรอง 3

เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกับห้องนอนรองอื่นๆ แต่มีขนาดไม่ใหญ่เท่า ภายในสามารถวางเตียง 5 ฟุต แบบมีทางเดินโดยรอบได้สบาย มีพื้นที่โซนหน้าห้องที่เหมาะกับการจัดเป็น Walk-in Closet เพราะอยู่ในตำแหน่งใกล้ห้องน้ำพอดี

มาดูอีกฝั่งของชั้น 2 กันบ้าง ฝั่งนี้จะเป็น Working Area ที่อยู่ติดกับ Master Bedroom ถ้าใครต้องการกั้นโซน Master Bedroom ใหม่ให้กว้างขึ้นก็สามารถเพิ่มกำแพงตามแนวเส้นประ และทุบผนังภายในเชื่อมกัน ก็จะได้เป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่ขึ้น

Working Area สามารถจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนหรือทำงานเพิ่มเติมได้ โดยบริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับ Double Volume ของห้องรับแขก ทำให้เวลาแขกไปใครมาเราสามารถ มองเห็นได้จากส่วนนี้เลย

อย่างที่เราบอกไปนะคะว่าหากจะต่อเติมพื้นเพิ่มตรง Double Volume ก็ทำได้ ขนาดพื้นที่ประมาณ 3.3 x 3.5 เมตร เพราะทางโครงการมีการเตรียมโครงสร้างรองรับน้ำหนักพื้นส่วนนี้เผื่อไว้แล้ว

ผนังบริเวณ Working Area จะได้เป็นแบบ Double Skin คือมีแผงอลูมิเนียมบังสายตาเพื่อนบ้านอีกชั้นหนึ่ง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

Master Bedroom

โซนแรกภายใน Master Bedroom จะเจอกับ Foyer ก่อน ไม่ได้มองเห็นเตียงในทันที เป็นดีไซน์ที่ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งบริเวณนี้เราสามารถออกแบบเป็นพื้นที่ตั้งโชว์ของสะสม หรือเป็นโถงทางเดินเก๋ๆ ติดรูปภาพตลอดแนวทางเดิน เพื่อแสดงไลฟ์สไตล์เจ้าของห้องได้

ภายในห้องนอนกว้างมากจึงสามารถกั้นแบ่งห้องออกเป็น 2 โซนได้ อย่างในบ้านตัวอย่างจะแบ่งโซนแรกเป็นพื้นที่วางเตียงนอน ก็สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต พร้อมมุมโซฟาข้างเตียง และอีกโซนหนึ่งจัดเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ซึ่งมีขนาดใหญ่ทั้ง 2 โซนเลย

ระเบียงใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่ประมาณ 4.7 x 1.1 เมตร โดยราวกันตกทั้งหมดในบ้านหลังนี้ใช้เป็นแบบกระจกทั้งหมด ทำให้ดูโมเดิร์น สามารถวางชุดโต๊ะสนามสำหรับออกมานั่งชมวิวสวนข้างบ้านได้

Walk-in Closet เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ภายในบ้านตัวอย่าง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า 2 ฝั่งขนาบหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้โซนนี้เปิดระบายอากาศได้ แถมยังได้แสงดีอีกด้วย สะดวกเวลาจะแต่งตัวแต่งหน้าดีค่ะ

ขยับเข้ามาที่ห้องน้ำกันบ้างห้องนี้จะใหญ่กว่าห้องน้ำอื่นๆ ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ ภายในห้องได้ผนังกระจกบานใหญ่ บรรยากาศในห้องดูสว่างดีเลย

อ่างล้างหน้ามาแบบ His&Her ขนาดค่อนข้างกว้าง อ่างล้างมือเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง

โถสุขภัณฑ์ห้องนี้จะอัพเกรดเป็นแบบอัตโนมัติ จาก Cotto

ส่วนที่อาบน้ำจะได้มาเป็น Shower Box มีผนังกระจกกั้นเป็นสัดส่วน พื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.9 x 1.5 เมตร หมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก ภายในติดตั้งฝักบัวให้ทั้งแบบ Hand shower และ Rain shower เลยค่ะ

Highlights ของห้องนี้คือ มีอ่างอาบน้ำติดตั้งมาให้ วางอยู่ริมหน้าต่าง เป็นอ่างขนาดใหญ่นอนแช่ได้ยาวประมาณ 1.5 เมตร จาก Kohler

บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 101 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 335 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ

บ้านขนาดเริ่มต้นที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ  การจัดแปลนและฟังก์ชันภายในบ้านคล้ายกันกับแบบก่อนหน้าเลยเพียงแต่บ้านไซส์นี้จะ มีฟังก์ชันบางส่วนน้อยกว่า ได้ 3 ที่จอดรถ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน ส่วนการจัดแปลนภายในบ้านชั้นหนึ่งจะรวมพื้นที่นั่งเล่น รับแขกไว้ด้วยกันจุดเดียว พร้อมมีห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุสะดวก และ Service area แยกโซนจากบ้านได้ชัดเจนมีครัวไทยขนาดใหญ่ และ Maid area ที่ใช้งานได้สะดวก

ชั้นบนมี Family Area อีก 1 จุดที่อยู่ติดกับ Master Bedroom จึงสามารถปรับผังกั้นห้องให้มีขนาดใหญ่ได้ และมีห้องนอนรองอีก 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว

ภายนอกตัวบ้านมีความใกล้เคียงกับแบบก่อนหน้าแต่หน้าบ้านจะไม่กว้างเท่า หลังคาทรงปั้นหยา Slope ไม่เยอะมาก มองจากหน้าบ้านดูเป็นหลังคาเรียบๆ รองรับน้ำหนักของการติดตั้ง Solar Cell ได้

ที่จอดรถในร่มมีขนาด 7.65 × 4 เมตร ไม่มีเสากลางจึงสามารถจอดรถ 3 คันได้สบาย ซึ่งจากที่จอดรถจะสามารถเดินเชื่อมไปยังเฉลียงหน้าบ้าน ซึ่งเป็นตำแหน่งประตูหลักของบ้านได้

ภายในที่จอดรถจะมีตู้เก็บของมาให้ 2 จุด ตู้หนึ่งเตรียมไว้ให้เหมาะกับการเก็บรองเท้า เพราะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าฝั่งโรงจอดรถ และอีกตู้หนึ่งมีขนาดใหญ่กว่า ใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวนต่างๆ หรือของชิ้นใหญ่ได้

พร้อมทางลาดสำหรับผู้สูงอายุกว้างถึง 1 เมตร ส่วนความชัน Ramp ที่ 1 : 12 ตามมาตรฐานสำหรับ Wheelchair ตัวประตูเป็นแบบเปิดออก พร้อมติดตั้ง Digital door lock มาให้ด้วยครบครัน

นอกจากนี้จะมีการเตรียม Block ไฟรองรับการติดตั้ง EV Charger ไว้ให้ได้ถึง 22 kW และมี Smart Outdoor Camera แจ้งเตือนหากมีคน/สัตว์/รถ ผ่านมาใกล้บ้าน ด้วย Motion Sensor ยี่ห้อ NETATMO

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับโถงทางเดินเชื่อมระหว่างพื้นที่รับแขกนั่งเล่น กับ พื้นที่รับประทานอาหารด้านใน บริเวณนี้เราสามารถตกแต่งเพื่อแสดงไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน หรือใช้โชว์ของสะสมได้

ซึ่งเราสามารถทำประตูกั้นโซนนั่งเล่นออกจากพื้นที่ทานอาหารด้านหลังบ้านได้ ตามแนวเส้นประ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวของสมาชิกคนอื่นในบ้านในเวลาที่มีแขกมาบ้าน

พื้นที่นั่งเล่นมีความโปร่งโล่งด้วยกระจกบานใหญ่แบบเข้ามุม 2 ฝั่ง ที่สามารถเปิดรับลมได้จริง ดูโปร่งโล่ง Take View สวนข้างบ้านและหน้าบ้านได้เยอะ ขนาดพื้นที่สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง แล้วยังเหลือทางให้เดินผ่านเข้าออกได้สะดวก มีระยะดูทีวีประมาณ 3.85 เมตร

เข้ามาโซนด้านในจะเจอกับห้องนอนชั้นล่างที่ได้ประตูปิดเป็นสัดส่วน

ห้องนอนชั้นล่าง

ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีได้ ห้องนี้เป็นห้องมุมจึงได้หน้าต่างบานใหญ่เยอะ บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง พื้นห้องปูด้วย SPC ดู Homey และทนน้ำ

ส่วนที่เราชอบสุดของห้องนอนชั้นล่าง คือมีประตูให้เปิดเชื่อมไปยังสวนข้างบ้าน และมีพื้นที่เฉลียงแบบ Semi-Outdoor ช่วยกันแดดกันฝน จึงสามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้สนามเพื่อชมวิวสวนได้

ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่างจะมีระดับพื้นที่เท่ากับห้องนอนเลย เพื่อรองรับการใช้งานแบบ Universal Design ใช้สุขภัณฑ์แบรนด์ Cotto, Kohler และ Lavenz เป็นหลัก

พื้นที่อาบน้ำเป็น Slope จึงสามารถเข็นวีลแชร์ได้สะดวก ภายในมีการออกแบบเป็นม้านั่งคอนกรีต ให้นั่งอาบน้ำได้ พร้อมมีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนัง และมีการติดตั้งฝักบัวอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งาน

พื้นที่ฝั่งหลังบ้านจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับ Pantry ครัว จึงได้วิวสวนหลังบ้านดูร่มรื่นดีนะคะ

ติดกับโต๊ะทานอาหารเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่เราสามารถจัดเป็น Pantry ครัวฝรั่งให้ใช้เตรียมอาหารเล็กๆ น้อย หรือจะเป็นมุมอบขนมก็ได้ จากขนาดพื้นที่เราสามารถ Built-in เคาน์เตอร์ครัวพร้อม Island ลอยตัวได้เลย ข้างๆ จะเป็นประตูเข้าครัวไทย ซึ่งได้ครัวปิดเป็นสัดส่วน ใช้ทำอาหารได้จริงจัง

ครัวไทยเป็นห้องครัวปิดขนาดใหญ่ ได้เคาน์เตอร์ครัวไทย Built-in เต็มผนัง 2 ฝั่ง มาแบบพร้อมใช้งาน มีตู้บานปิด พร้อมซิงค์ล้างจาน และช่องสำหรับวางถังแก๊สนอกบ้าน เพื่อให้สามารถเปลี่ยนถังแก๊สได้สะดวก โดยที่คนส่งแก๊สไม่ต้องเข้ามาในตัวบ้าน

ติดกับห้องครัวจะเป็นตำแหน่งของ Powder Room ห้องน้ำที่มีเฉพาะส่วนแห้ง ใช้รองรับพื้นที่พักผ่อนชั้นล่างจึงไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำ เพราะทุกห้องนอนในบ้านจะมีห้องน้ำในตัวอยู่แล้ว

ออกแบบเป็น Universal Design ทำให้ระดับพื้นห้องน้ำเท่ากับพื้นบ้านส่วนอื่น จึงสามารถใช้งานได้สบายไม่ต้องกลัวสะดุด ที่ประตูทางเข้าจะมี Floor Drain เรียบๆ มาให้ กันน้ำย้อนไปยังพื้นบ้านส่วนอื่น

ประตูทางเข้าฝั่งโรงจอดรถจะอยู่ในตำแหน่งที่ติดกับบันไดขึ้นชั้นบน เวลากลับบ้านมาดึกๆ ก็สามารถเดินขึ้นห้องนอนได้สะดวก

โถงบันไดจะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงและเวลาเดินก็จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วย SPC มาพร้อมราวกันตกและมือจับยาวไปตลอดแนวบันได บรรยากาศบริเวณนี้ดูโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสว่าง หากใครต้องการติดตั้งโคมไฟระย้าบริเวณโถงบันไดก็สามารถทำได้

ขึ้นมาชั้นบนเป็นโถงทางเดินยาวๆ เชื่อมห้องนอน 3 ห้องและ Family Area สำหรับพื้นชั้นนี้จะเป็น SPC ทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นที่มีส่วนประกอบของไม้จริง ระยะฝ้าสูง 2.85 เมตร ดูโปร่งโล่งสมระดับราคา

Family area ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบนี้เลย และได้แสงค่อนข้างดีเพราะว่าอยู่ติดกับระเบียงทำให้ได้ประตูกระจกบานใหญ่ ในวันอากาศดีๆ เปิดรับลมได้เลยค่ะ โดยมีพื้นที่ขนาดประมาณ 3.7 x 3.8 เมตร จัดเป็นส่วนพักผ่อน หรือพื้นที่ทำงานสำหรับครอบครัวได้หรือใครอยากทำเป็นห้องดูหนังจริงจังตรงนี้ก็สามารถกั้นห้องเพิ่มเติมได้

ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.95 x 2.65 เมตร มีชายคาช่วยบังแดดบังฝนจึงสามารถออกมาใช้งานได้ตลอดวัน

ห้องนอนรอง 1

เป็นห้องนอนรองฝั่งหลังบ้าน เมื่อเปิดเข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่แต่งตัวซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำ ส่วนพื้นที่พักผ่อนจะขยับเข้าไปด้านในเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ภายในห้องนอนมีพื้นที่เพียงพอให้วางเตียง 5-6 ฟุตได้ หรือบ้านไหนที่มีลูกแค่คนเดียวก็อาจปรับฟังก์ชันห้องนี้เป็นห้องทำงานตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้

ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัว ซึ่งภายในแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ใช้งานได้ตามมาตรฐาน

ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2 มีขนาดพื้นที่ใช้สอยพอๆ กับห้องแรกพร้อมห้องน้ำในตัว ภายในบ้านตัวอย่างจัดวางเป็นเตียง 5 ฟุต พร้อมมีทางเดินโดยรอบได้สบาย ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีเพิ่มเติมได้

ตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุด ซึ่งมีพื้นที่หน้าห้องน้ำให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก

Master Bedroom

ปิดท้ายด้วยห้องนอนใหญ่เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับ Foyer ด้านหน้าก่อนไม่ได้เห็นพื้นที่พักผ่อนโดยตรง ซึ่งเราสามารถออกแบบพื้นที่โซนนี้ให้เป็นมุมวางของตั้งโชว์สวยๆ แสดงไลฟ์สไตล์ของเจ้าของก่อนที่เข้าสู่พื้นที่พักผ่อนด้านในได้

ภายในห้องสามารถวางเตียงใหญ่ 6-7 ฟุตได้สบาย พร้อมกับมีโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนปลายเตียงเหลือระยะค่อนข้างกว้าง สามารถวางม้านั่งยาวปลายเตียง และชั้นวางทีวีได้

สำหรับระเบียงภายในห้องมีขนาด 2.45 x 0.95 เมตร พอให้ออกมายืนสูดอากาศ ชมวิวสวนหน้าบ้านได้

อีกฝั่งหนึ่งภายในห้องมีพื้นที่สำหรับจัดเป็น Walk-in closet ซึ่งจะอยู่ตำแหน่งหน้าห้องน้ำพอดี ใช้งานเชื่อมต่อกันสะดวก บริเวณนี้จะมีช่องหน้าต่างบานใหญ่จึงได้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาให้ใช้แต่งตัวแต่งหน้าได้

ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่ได้ฟังก์ชันครบ ทั้งอ่างล้างหน้าแบบ His&Her ใช้งานได้พร้อมกันทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย โถสุขภัณฑ์ห้องนี้จะได้อัพเกรดเป็นแบบอัตโนมัติ จาก Cotto

พื้นที่อาบน้ำจะได้มาเป็น Shower Box มีผนังกระจกกั้นเป็นสัดส่วน พื้นที่อาบน้ำกว้าง 1 x 1.5 เมตร หมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก ภายในติดตั้งฝักบัวให้ทั้งแบบ Hand shower และ Rain shower เลยค่ะ

Highlights ของห้องคือได้อ่างอาบน้ำ วางอยู่ติดหน้าต่าง จึงสามารถนอนแช่น้ำไปชมวิวภายนอกไปได้

บ้านตัวอย่างแบบ Residence II

SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) ราคา ณ วันที่ 7 มีนาคม 2567

• Residence I บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 124 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 473 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน/ 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
• Residence II บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 101 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 2 ห้องพักผ่อน 1 ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 26 ล้านบาท
• Residence III บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 101 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 335 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 2 ห้องพักผ่อน 1 ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ /  3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 22 ล้านบาท

• จอง 100,000 บาท
• ค่าทำสัญญา 10%
• ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) ตั้งอยู่ในย่านที่มีโครงการบ้านจัดสรรใหม่เกิดขึ้นเยอะมากๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ รองรับการขยับขยายบ้านของเจ้าของกิจการในโซนนี้ หรือคนที่คุ้นชินทำงานในละแวกพระยาสุเรนทร์, ปัญญาอินทรา, หทัยราษฎร์, รามอินทราตอนปลาย, มีนบุรี เป็นหลัก ที่ตั้งโคงการจะได้เปรียบในเรื่องความอุดมสมบูรณ์เพราะมีร้านค้า, ร้านอาหารรายล้อมโครงการไปหมด อิงมาทาง Fashion Island, The Promenade และใกล้โรงเรียนสาธิตพัฒนาในระยะ 2.7 km. เท่านั้น

ตัวช่วยในการเดินของโซนนี้จะมีทั้งวงแหวนกาญจนาภิเษก ที่ใช้เดินทางรอบนอกของตัวเมืองไปสุวรรณภูมิ ออกต่างจังหวัดได้สะดวก และมีทางด่วนฉลองรัชที่ใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางเลียบด่วนรามอินทรา, พระราม9, เอกมัยได้เช่นกัน ซึ่งทางขึ้นของตัวช่วยเหล่านี้จะอยู่ในระยะ 9-10 km. ค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

โครงการมีมาตรฐานความปลอดภัยติดตั้งให้ทั้งในส่วนของตัวบ้านและภายในโครงการครบครัน เช่น ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 33 จุด, เข้าออกด้วยระบบ RFID เหมือน Easypass ทางด่วนจึงใช้งานง่าย รั้วรอบโครงการสูง 2.50 – 3.00 เมตร และมีรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 1.10 – 2.80 เมตรเลยค่ะ

ในตัวบ้านก็ติดตั้งไว้ให้ครบครันทั้ง Magnetic Sensor ติดที่ประตูหน้าต่างทุกบานทั้ง 2 ชั้น, Digital Door Lock, Smart Outdoor Camera แจ้งเตือนหากมีคน/สัตว์/รถ ผ่านมาใกล้บ้าน ด้วย Motion Sensor ยี่ห้อ NETATMO, Emergency Light System 2 จุด บริเวณโถงบันได 2 ชั้น อีกทั้งยังมี Heat Detector ในห้องครัว และ Smoke Detector ใน Electrical Room ด้วยค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขนาดเล็ก จำนวนเพียง 72 ยูนิต น้อยเป็นลำดับต้นๆ ของโซนนี้ เหมาะกับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับความสงบในการอยู่อาศัย ชอบโครงการที่เพื่อนบ้านไม่เยอะนัก และบ้านในโครงการทั้งหมดจะอยู่ใน Segment ราคาใกล้เคียงกัน สมาชิกในหมู่บ้านจึงอยู่ในสังคมระดับเดียวกัน

การออกแบบตัวบ้าน : มาในสไตล์ Modern Tropical Contemporary เน้นการออกแบบบ้านให้เข้ากับภูมิประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น โดยการดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ เช่น ลวดลายของผิวไม้, ลายหิน  เน้นใช้สี Earth Tone ทำให้บ้านดู Homey น่าอยู่อาศัยแต่ยังทนทาน เพื่อให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา คำนึงถึงทิศทางแดด, ลม, ฝน เพื่อให้บ้านมีสภาวะอยู่สบาย ห้องส่วนใหญ่จะมีหน้าต่าง 2 ฝั่งเพื่อให้ลมพัดผ่านได้ ภายในบ้านดูโปร่งโล่งเพราะหน้าต่างบานใหญ่ได้ช่องแสงธรรมชาติทุกห้อง และในบ้าน 2 ไซส์ใหญ่จะได้ Double Volume ในพื้นที่รับแขกเพิ่มความโอ่อ่าให้กับตัวบ้านด้วย

ฟังก์ชันบ้านรองรับครอบครัวใหญ่ หลาย Generations ได้สบาย ทุกแบบได้ 4-5 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง โดยห้องนอนชั้นล่างจะมีห้องน้ำขนาดใหญ่ในตัว รองรับผู้สูงอายุได้สะดวก ได้ 3-4 ที่จอดรถในที่ร่ม

แปลนบ้านคิดเผื่อการต่อเติม ตำแหน่งเสาไม่ขวางการทุบต่อเติมขยายห้องในจุดที่นิยมต่อเติม เช่น สามารถเติมประตูกั้นโซนรับแขกให้แยกจากพื้นที่นั่งเล่นได้, รองรับการขยาย Master Bedroom ให้ใหญ่ขึ้นได้อีก โดยรวม Working Area ชั้นบนเพิ่มเข้าไปได้ เป็นต้น

วัสดุ : ตัวบ้านใช้โครงสร้างแบบ Conventional จึงสามารถทุบต่อเติมได้ และมีการเตรียมโครงสร้างรองรับการเพิ่มเติมพื้นบริเวณ Double Volume บนชั้น 2 หากในอนาคตต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมก็ตอบโจทย์ได้ถือว่าคิดมาเผื่ออนาคตเลย วัสดุให้มาตามมาตรฐานของโครงการระดับนี้รวมถึงมีเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อความปลอดภัยติดตั้งมาให้ครบครัน

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศในโครงการมีความหรูหราด้วยสไตล์ Modern Tropical Contemporary มีต้นไม้ใหญ่ตามแนวถนนหลัก ส่วนที่ร่มรื่นคือสวนส่วนกลางมีทั้งต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม ที่สำคัญการเดินสายไฟจากถนนเข้าสู่ตัวบ้านจะเป็นแบบร้อยท่อลงดิน ทำให้หน้าบ้านดูคลีน สะอาดตาค่ะ

สาธารณูปโภค : จัดมาให้แบบครบครันเหมาะสมตามระดับราคา มีอาคาร Clubhouse 2 ชั้นบริเวณกลางโครงการ ฟังก์ชันภายในมีทั้ง Leisure Lounge, Biz Lounge, Fitness และสระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่ทีเดียวเมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้านที่มาร่วมใช้งานเพียง 72 ยูนิต

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 22 – 45 ล้านบาท, 7 มีนาคม 2567

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนใหญ่เลียบคลอง 2, มีความอุดมสมบูรณ์ริม 2 ฝั่งถนน
• ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดกและประตูล้อเลื่อน, รปภ. 24 ชั่วโมง, ระบบ RFID, CCTV พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบสวย ดูหรูหราแต่ก็ได้บรรยากาศที่ Homey รองรับครอบครัวใหญ่
• วัสดุ 8/10 – มาตรฐานของระดับนี้ และโครงสร้างรองรับการต่อเติมในอนาคต
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – ออกแบบ Lanscape สวยน่าใช้งาน, สายไฟเชื่อมเข้าบ้านแบบลงดิน หน้าบ้านดูสะอาดเรียบร้อย
• สาธารณูปโภค 8/10 – ครบครัน แชร์กับเพื่อนบ้านไม่เยอะ
• 7.68 / 10.00

SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) เหมาะกับใคร

โครงการ SHAWN Panya Indra (ฌอน ปัญญาอินทรา) เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มองหาบ้านบนที่ดินขนาดใหญ่ อยู่อาศัยกันได้หลาย Generations ทำงานหรือคุ้นชินในละแวกพระยาสุเรนทร์, ปัญญาอินทรา, หทัยราษฎร์, รามอินทราตอนปลาย, มีนบุรี หรือต้องการมองหาบ้านใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก, ทางด่วนฉลองรัชในโซนคู้บอน

ชอบบ้านที่ดู Timeless ได้หน้ากว้าง ฟังก์ชันภายในอยู่สบาย ในบรรยากาศโครงการที่สงบเป็นส่วนตัว มีส่วนกลางให้ใช้งานได้ครบ รองรับการต่อเติมในอนาคต มีงบประมาณในช่วง 22-45 ล้านบาท*

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่