รีวิวฉบับที่ 2800 Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทำเลติดถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1ใกล้โรงเรียนนานาชาติ RIS นอกจากนี้ยังไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า , Supermarket และ Community Mall อย่าง Lotus นครอินทร์ , The Walk ราชพฤกษ์ , Central รัตนาธิเบศร์และ Central เวสต์วิลล์ ในราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท ตัวโครงการจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปชมกันค่ะ
- โครงการติดถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 : ซึ่งเป็นถนนใหญ่ จึงไม่ต้องเสียเวลาเข้าซอยให้ยุ่งยาก จากโครงการเดินทางไปถนนราชพฤกษ์และถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีได้ง่ายๆ
- ทำเลไม่ไกลจากแหล่งอุดมความสมบูรณ์ : มีทั้งห้างสรรพสินค้า , Supermarket และ Community Mall ไม่ว่าจะเป็น Central เวสต์วิลล์ , Central รัตนาธิเบศร์ , Lotus นครอินทร์ , The Walk ราชพฤกษ์ , Big C ติวานนท์ รวมถึงตลาดสดอีกหลายแห่ง ตลาดนกฮูก , ตลาดต้นสักและตลาดพระราม 5 ลูกบ้านสามารถหาของกินของใช้ได้ง่ายๆ
- ใกล้โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง : โครงการห่างจากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ราชพฤกษ์เพียง 4.2 km. และไม่ไกลจากโรงเรียนเด่นหล้า ,โรงเรียนนานาชาติ DBS ผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้ไม่ยากเลยค่ะ
- รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ : เริ่มต้นที่ 4 ห้องนอน ห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว รองรับผู้สูงอายุ
- แบบบ้านจอดรถได้สูงสุด 4 คัน : ซึ่งหาได้ยากในโซนนี้ เพราะบ้านส่วนใหญ่มักจะมีเพียง 2-3 ที่จอด บ้านของโครงการนี้จึงรองรับครอบครัวที่มีรถยนต์ส่วนตัวเยอะ
ข้อมูลโครงการ
Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) ณ วันที่ 9 มกราคม 2568
ชื่อโครงการ | Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถ.ราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี |
ที่ดิน | ประมาณ 34-77.86 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 86 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ราคาเริ่มต้น | 15.9 ล้านบาท |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | 2568 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- โครงการติดถนนใหญ่ : อย่างถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 ใกล้สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ไม่ต้องเสียเวลาเข้าซอยให้ยุ่งยาก จากโครงการเดินทางไปถนนราชพฤกษ์และถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีและถนนพิบูลสงคราม ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเมืองนนทบุรีได้ง่ายๆ
- ทำเลไม่ไกลจากแหล่งอุดมความสมบูรณ์ : รอบๆโครงการในระยะ 5-10 km. มีทั้งห้างสรรพสินค้า , Supermarket และ Community Mall หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Central เวสต์วิลล์ , Central รัตนาธิเบศร์ , Lotus นครอินทร์ , The Walk ราชพฤกษ์ , Big C ติวานนท์ รวมถึงตลาดสดอีกหลายแห่ง ตลาดนกฮูก , ตลาดต้นสักและตลาดพระราม 5 ลูกบ้านสามารถหาของกินของใช้ได้ง่ายๆ
- ใกล้โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง : โครงการห่างจากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ราชพฤกษ์เพียง 4.2 km. และไม่ไกลจากโรงเรียนเด่นหล้า ,โรงเรียนนานาชาติ DBS ใครมีลูกหลานเรียนอยู่โรงเรียนเหล่านี้ สามารถไปรับ-ส่งได้ไม่ยากเลยค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.84517280694238, 100.47250605077186
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) ค่ะ
Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่างถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 ซึ่งเชื่อมต่อกับสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ , ถนนราชพฤกษ์ และถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีได้ง่ายๆเลยค่ะ หากเราเดินทางมาจากฝั่งรัตนาธิเบศร์สามารถลงจากสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯที่ทางออกแรก (ทางลงถนนบางศรีเมือง – วัดโบสถ์ดอนพรม) จากนั้นผ่านสี่แยกไฟแดงไปก็ถึงโครงการแล้วค่ะ ส่วนใครที่ต้องการข้ามสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ไปยังโซนรัตนาธิเบศร์ , ติวานนท์อาจจะต้องไปกลับรถสักหน่อย แต่ถนนเส้นนี้รถไม่ติด จึงไม่ต้องเผื่อเวลามากนัก ใครที่ทำงานในโซนราชพฤกษ์ , รัตนาธิเบศร์ , ติวานนท์ , พระราม 7 ยาวไปจนถึงจตุจักร สามารถไปทำงานได้ไม่ยากเลย
สำหรับเรื่องความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ถือว่ามีหลากหลายทีเดียวค่ะ เราขอแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันนะคะ เริ่มจากฝั่งราชพฤกษ์ จะมีถนนที่มีแหล่งความอุดมสมบูรณ์เกาะอยู่ 2 สาย คือถนนราชพฤกษ์ และถนนนครอินทร์ โดยถนนราชพฤกษ์จะเน้นเป็นห้างใหญ่ๆและ Community เชิง Life Style อย่าง Central เวสต์วิลล์ , The Walk ราชพฤกษ์ , The Crystal SB ราชพฤกษ์ , Homepro ราชพฤกษ์ และ The Circle ราชพฤกษ์ ส่วนถนนนครอินทร์จะเป็นตลาดสดและ Supermarket อย่างตลาดพระราม 5 , Makro นครอินทร์และ Lotus นครอินทร์ ใครที่ทำงานโซนราชพฤกษ์สามารถแวะซื้อของกินของใช้ก่อนกลับเข้าบ้านได้ง่ายๆ อีกฝั่งหนึ่งคือฝั่งรัตนาธิเบศร์ มีทั้งตลาดต้นสัก , ตลาดนกฮูก , Central รัตนาธิเบศร์ , Big C ติวานนท์และ Little Walk รัตนาธิเบศร์ให้ลูกบ้านมาจับจ่ายใช้สอยค่ะ
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ แนวถนนราชพฤกษ์จะมีโรงเรียนชื่อดังอยู่หลายแห่ง ที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือ โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี (RIS) ที่ห่างออกมาเพียง 4.2 km. นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนเด่นหล้า ,โรงเรียนนานาชาติ DBSที่อยู่ไม่ไกลอีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้ง่ายมากๆ
จุดขึ้นทางด่วนประจิมรัถยาห่างจากโครงการประมาณ 9.6 km. ซึ่งเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชได้ ใช้เดินทางไปได้ทั้งโซนจตุจักร , สีลม หรือออกนอกเมืองไปทางปทุมธานีก็ได้ค่ะ
โครงการ Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) อยู่ในทำเลที่ไม่ใกล้กับทางด่วนมากนัก แต่หากต้องการเดินทางไปโซนต่างๆของเมืองก็ยังพอมีตัวช่วยในการเดินทางอยู่บ้าง เช่น ทางด่วนศรีรัชและทางยกระดับอุตราภิมุข
จุดขึ้นทางด่วนประจิมรัถยา : ห่างจากโครงการประมาณ 9.6 km. เราสามารถใช้ทางด่วนนี้ไปเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช เดินทางไปได้ทั้งโซนจตุจักร , สีลม หรือออกนอกเมืองไปทางปทุมธานีได้ค่ะ
จุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช ไปจตุจักร : เป็นเส้นทางที่ใช้วิ่งเข้าเมืองไปโซนจตุจักร , สีลมได้ ซึ่งจุดขึ้นทางด่วนอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 15.1 km.
จุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช ไปรังสิต : เป็นเส้นทางที่ใช้วิ่งออกไปนอกเมืองได้สะดวก ใครที่ต้องเดินทางไปโซนแจ้งวัฒนะ , รังสิตหรือต่างจังหวัดอย่างอยุธยา จุดขึ้นทางด่วนอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 16.2 km.
ทางยกระดับอุตราภิมุข : ห่างจากโครงการประมาณ 18.7 กิโลเมตร คนที่ต้องการไปโซนดอนเมือง , ปทุมธานี ใช้เส้นทางนี้ได้เลยนะ
โครงการอยู่ไม่ไกลจากตัวช่วยในการเดินทาง MRT สายสีม่วงมากนัก ทำให้ลูกบ้านใช้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดและประหยัดเวลาด้วยค่ะ โดยสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 6.6 km. ใครอยากเข้าเมืองไปโซนสีลม , อโศกก็สามารถไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้ที่สถานีเตาปูนค่ะ และรถไฟฟ้าสายนี้ยังวิ่งยาวไปถึง Central เวสเกตโซนบางใหญ่ด้วยค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริเวณโดยรอบโครงการ Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) ส่วนใหญ่เป็นโครงการจัดสรร , ชุมชนบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น , อาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่าที่เรามองว่ามีโอกาสพัฒนาเป็นชุมชนบ้านพักอาศัย หรืออาคารพาณิชย์ใหม่ๆได้อีก
- ทิศเหนือ ติดกับ ร้านค้า 1-2 ชั้นและอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนาและชุมชนบ้าน 2 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา , ชุมชนบ้าน 2 ชั้นและบ้านจัดสรร 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านจัดสรร 2 ชั้นและร้านค้า 1 ชั้น
ด้านหน้าโครงการติดกับถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 และทางลงสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินว่างรอการพัฒนา
ภาพบรรยากาศหน้าโครงการติดถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 และทางลงสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ว่างรอการพัฒนา ส่วนด้านข้างโครงการเป็นร้านค้าและอาคารพาณิชย์ ดูเงียบสงบไม่พลุกพล่าน
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Lotus นครอินทร์ ~ 4.3 km.
- Makro นครอินทร์ ~ 4.8 km.
- The Walk ราชพฤกษ์ ~ 5.5 km.
- Big C ติวานนท์ ~ 8.2 km.
- Central เวสต์วิลล์ ~ 8.9 km.
- ตลาดพระราม 5 ~ 9.0 km.
- The Crystal SB ราชพฤกษ์ ~ 9.6 km.
- ตลาดนกฮูก ~ 9.6 km.
- Homepro ราชพฤกษ์ ~ 10.2 km.
- Central รัตนาธิเบศร์ ~ 10.5 km.
- Little Walk รัตนาธิเบศร์ ~ 10.5 km.
- Central เวสต์เกต ~ 11.8 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ~ 5.8 km.
- โรงพยาบาลศรีสวรรค์ ราชพฤกษ์ ~ 9.3 km.
- โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ~ 11.8 km.
- โรงพยาบาลนนทเวช ~ 15.7 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ราชพฤกษ์ ~ 4.2 km.
- โรงเรียนนนทบุรีคริสเตียนวิทยา ~ 6.5 km.
- โรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 ~ 8.2 km.
- โรงเรียนนานาชาติสาธิตคริสเตียนนนทบุรี ~ 9.1 km.
- โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้าบริติช ~ 13.2 km.
การเดินทาง
- รถไฟฟ้า MRT สะพานพระนั่งเกล้า ~ 6.6 km.
- ทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านตลิ่งชัน ~ 9.6 km.
- ทางพิเศษศรีรัช ด่านงามวงศ์วาน ~ 15.1 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- ซุ้มประตูโครงการอยู่ถัดเข้ามาจากถนนหน้าโครงการ : ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และยังเป็น Buffer Zone กรองฝุ่นควันจากถนนไม่ให้เข้ามาให้โครงการด้วย
- วางผังให้ส่วนกลางหลักอยู่ตรงกลางโครงการ : ลูกบ้านสามารถมาใช้งานได้สะดวกเข้าถึงได้ง่าย
- เห็น Clubhouse เด่นชัดตั้งแต่ทางเข้าโครงการ : เป็นเหมือนมุมต้อนรับแขก ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีให้โครงการ
Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่ออกแบบมาในสไตล์ Berlin Architecture บนที่ดินประมาณ 34-77.86 ไร่ ทั้งหมด 86 ยูนิต จากการวางผังของโครงการ เรามองว่าน่าสนใจทีเดียว แบ่งออกเป็น 4 ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
- ซุ้มประตูทางเข้า-ออกโครงการอยู่ห่างจากถนนหน้าโครงการ : ประมาณ 60 เมตร ทำให้เสียงรถยนต์บนถนนไม่รบกวนลูกบ้าน ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยลดฝุ่นควันจากถนนใหญ่ ให้เข้าถึงโซนพักอาศัยได้น้อยลงอีกด้วย
- Clubhouse อยู่หน้าโครงการ : แต่ก็ใกล้กับบ้านส่วนใหญ่ในโครงการ ทำให้ลูกบ้านออกมาใช้งานได้สะดวก
- Clubhouse อยู่ตรงกับซุ้มประตูทางเข้าโครงการ : ทำให้ผู้มาเยือนโครงการเห็น Clubhouse ได้ชัดเจน ตั้งแต่เข้าโครงการมา เป็นเหมือนมุมต้อนรับแขก ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดี
ที่โครงการอยู่ติดถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 ฝั่งขาเข้าไปถนนราชพฤกษ์ จากหน้าโครงการเราจะเห็นป้ายโครงการเป็นจุดสังเกตให้คนเลี้ยวเข้ามาในโครงการได้ถูกต้อง
ซุ้มประตูโครงการอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 60 m. เป็น Buffer Zone ช่วยลดเสียงรถยนต์และฝุ่นควันบนถนน ให้เข้าถึงโครงการได้น้อยลง และยังทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยค่ะ สองข้างทางของทางเข้ามีต้นไม้ปลูกไว้ตลอดแนว ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้โครงการ
โครงการมีทางเท้า 2 ฝั่ง สำหรับเดินเข้า – ออกอย่างปลอดภัย โดยฝั่งซ้ายจะได้ร่มเงาช่วงเช้า ส่วนฝั่งขวาจะได้ร่มเงาช่วงเย็นๆ เราสามารถเลือกเดินได้ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้โดนแดดร้อน
บรรยากาศซุ้มประตูโครงการ
เมื่อตรงเข้ามาเราจะเห็นวงเวียนน้ำพุขนาดใหญ่ ตั้งโดดเด่นอยู่หน้าซุ้มประตูโครงการ ทำให้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการรู้สึกถึงความอลังการของทางเข้าโครงการ ส่วนซุ้มประตูโครงการมีชายคาคลุมตลอดแนว ช่วยบังแดดฝนให้ผู้ที่มาติดต่อ ประตูทางเข้าโครงการแยกฝั่งเข้า-ออกได้อย่างชัดเจน โดยเเบ่งเป็นฝั่งละ 2 เลน คือฝั่งลูกบ้านจะใช้เป็นระบบสแกนป้ายทะเบียน ส่วนเลน Vistor ใช้เป็นระบบ VMS บันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ และระบบ LIV-24 ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง
ระบบ LIV-24 ขแงแสนสิริเข้ามาเสริมความปลอดภัย ดังนี้
- VMS : บันทึกข้อมูลของ Visitors ทั้งข้อมูลบุคคลและทะเบียนรถ
- CCTV – VIDEO ANALYTICS : ระบบวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเหตุการณ์ต่างๆ
- REAL-TIME GUARD TOUR : ตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตามจุดของ รปภ. แบบ Real – Time
- DIGITAL FENCE : รับสัญญาณแจ้งเตือนการบุกรุก Digital Fence ที่โครงการ
- INTRUSION ALARM : แจ้งเตือนเมื่อมีการบุกรุกเข้าในตัวบ้าน โดย link สัญญาณเตือนอุปกรณ์กันขโมยต่างๆ ภายในตัวบ้านมายัง LIV–24
บรรยากาศทางเท้ามายังซุ้มประตูโครงการ
ทางเท้าบริเวณวงเวียนน้ำพุจะมีชายคาคลุมกันแดดฝน และข้างๆ ซุ้มประตูจะมีทางเดินเข้า-ออกแยกไว้ สำหรับลูกบ้านที่ไม่ใช้รถยนต์ สามารถเดินเข้า-ออกได้อย่างปลอดภัย
บรรยากาศ Clubhouse ภายในโครงการ
เมื่อเข้ามาภายในโครงการเราจะเห็น Clubhouse ที่ตั้งอยู่กลางโครงการได้อย่างชัดเจน เป็นเหมือนมุมต้อนรับที่คอยดึงดูดสายตาคนที่ผ่านเข้าซุ้มประตูโครงการมา
ด้านข้าง Clubhouse มีที่จอดรถไว้ให้ 3 คัน ลูกบ้านคนไหนที่บ้านอยู่ไกลจากส่วนกลาง สามารถขับรถมาใช้งานส่วนกลางได้
ทางเข้า Clubhouse ฝั่งด้านที่จอดรถ
สำหรับ Clubhouse จะมีทางเข้า 2 ทาง แบ่งเป็นทางเข้าฝั่งที่จอดรถสำหรับลูกบ้านที่มาใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง และทางเข้าฝั่งสวนส่วนกลาง โดยทางเข้าฝั่งที่จอดรถ มีทั้งบันไดทางขึ้นและทางลาดให้ใช้วีลแชร์ได้ ซึ่งทางลาดนี้จะเข้าถึงโซนสระว่ายน้ำได้สะดวกมากกว่าทางเข้าอื่นๆ
สระว่ายน้ำภายในโครงการมีขนาดประมาณ 20 x 8 เมตร
หากใครเคยชมโครงการเศรษฐสิริทำเลอื่นๆ คงคุ้นชินกับการเห็นสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้า Clubhouse แต่สำหรับโครงการ Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) ตำแหน่งสระว่ายน้ำได้ย้ายมาไว้ด้านหลังโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้นค่ะ
สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือ แยกโซนเด็กพร้อม Jacuzzi ไว้เป็นสัดส่วน โดยสระมีความยาวประมาณ 25 x 8 เมตร ลูกบ้านสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงจัง สระว่ายน้ำอยู่ทางทิศใต้ จึงเหมาะมาใช้บริการช่วงเย็นๆ เพื่อไม่ให้แดดร้อนจนเกินไป
ด้านข้างของสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่สำหรับล้างตัวก่อนลงสระให้
ทางเข้าห้องน้ำฝั่งสระว่ายน้ำ
ห้องน้ำส่วนกลางของ Clubhouse สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือทาง Clubhouse และทางสระว่ายน้ำ ทำให้ลูกบ้านใช้งานได้สะดวก โดยห้องน้ำจะเเยกเป็นห้องน้ำชาย-หญิง และมีห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุไว้รองรับการใช้งานโดยเฉพาะด้วย
ห้องน้ำส่วนกลาง
ภายในห้องน้ำส่วนกลาง มีครบทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำ นอกจากนี้ยังมี Locker สำหรับเก็บอุปกรณ์ส่วนตัวเวลามาว่ายน้ำหรือเล่นฟิตเนส และพื้นที่นั่งคอย เผื่อมีให้เด็กๆ รอผู้ปกครองเปลี่ยนชุดค่ะ
บรรยากาศภายในพื้นที่นั่งเล่นใน Clubhouse
เมื่อเข้ามาภายใน Clubhouse เราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นที่เป็น Double Space ดูโอ่อ่าน่าใช้งานดีค่ะ ลูกบ้านสามารถมาใช้งานเปลี่ยนบรรยากาศได้ หรือใช้เป็นพื้นที่พบปะพูดคุย สำหรับลูกบ้านที่ไม่สะดวกให้แขกเข้าบ้านได้ด้วยค่ะ
ติดกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นมุมที่จัดเตรียมไว้ให้ลูกบ้านติดต่อกับนิติบุคคล
ฟังก์ชันที่เราไม่ค่อยเห็นในเศรษฐสิริทำเลอื่นๆคือ Kid’s Room เป็นพื้นที่สำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพราะมีเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับสัดส่วนของเด็ก ผู้ปกครองสามารถพาเด็กๆมาเล่นเปลี่ยนบรรยากาศได้ หรือใช้เป็นพื้นที่สร้าง Community สำหรับเด็กๆในโครงการค่ะ
ภายใน Clubhouse มีบันไดสำหรับขึ้นไปชั้น 2 ของ Clubhouse จะเป็นพื้นที่ของ Fitness และ Meeting Room
เมื่อขึ้นมาชั้นสอง เราจะเห็นมุมพักผ่อนเล็กๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ
Meeting Room มีโต๊ะประชุมสำหรับ 8 ที่นั่ง พร้อมมีจอสำหรับ Presentation ให้เรียบร้อย ลูกบ้านจะใช้ประชุมหรือทำงานกลุ่มเล็กๆน้อยๆได้เลยค่ะ
Fitness มีขนาดประมาณ 75 ตารางเมตร โครงการจัดวางเครื่องออกกำลังกายส่วนใหญ่ไว้ริมหน้าต่าง เพื่อให้มองเห็นสระว่ายน้ำ ภายใน Fitness มีอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าครบครัน รองรับทั้งการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training
บรรยากาศสวนส่วนกลาง
สวนส่วนกลางของโครงการอยู่ข้างๆ Clubhouse มีขนาดใหญ่ทีเดียว สามารถรองรับการใช้งานของลูกบ้าน 86 ยูนิตได้สบายๆ
ภายในสวนมีมุมพักผ่อน เหมาะกับการมานัดพบปะเพื่อนบ้านพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรืออ่านนั่งสือชิลๆ
สนามเด็กเล่นของโครงการเป็น Educational Playground ที่ให้เด็กๆได้สนุกเพลิดเพลินพร้อมเสริมพัฒนาการด้วย
บรรยากาศโซน Pet Park
มุมหนึ่ของสวนส่วนกลางเป็นโซน Pet Park เอาใจคนรักสัตว์ โครงการจัดพื้นที่ให้เราพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น หรือมาเจอเพื่อนบ้านที่เลี้ยงสัตว์เหมือนกัน เกิดเป็น Community สัตว์เลี้ยงได้เลยนะคะ โครงการจัดพื้นที่ล้างเท้าล้างตัวให้น้องหมาน้องแมวก่อนพากลับบ้านด้วย นอกจากนี้ยังเตรียมทิชชู่และถุงพลาสติกพร้อมถังขยะ ไว้อำนวยความสะดวกคุณพ่อคุณแม่ของน้องหมาน้องแมวได้เช็ดทำความสะอาดได้สะดวก
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 8 x 25 m. ลึก 1.2 m.
- แบ่งสระเด็กลึกขนาด 6 x 4 m. ลึก 0.6 m. / พร้อมโซนจากุชชี่
- ห้องออกกำลังกายใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
- ห้องนั่งเล่น
- Kid Room
- Meeting Room
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
- Education Playground
- Pet Park
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
- LIV-24
- เข้าออกโครงการด้วย ระบบ LPR ( License Plate Recognition) , ผู้ติดต่อ ระบบ VMS (Visitor Management System)
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า
แบบบ้าน
Highlight
- รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ : เริ่มต้นที่ 4 ห้องนอน ห้องนอนชั้นล่างมีห้องน้ำในตัวที่ชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุ
- แบบบ้านจอดรถได้สูงสุด 4 คัน : ซึ่งหาได้ยากในโซนนี้ เพราะบ้านส่วนใหญ่มักจะมีเพียง 3 ที่จอด บ้านของโครงการนี้จึงมีแบบ้านที่รองรับครอบครัวที่มีรถยนต์ส่วนตัวเยอะ
- ประหยัดการใช้ไฟฟ้า : โครงการติดตั้ง Solar Roof ผลิตกำลังไฟฟ้าไว้ใช้ในบ้าน ช่วยประหยัดไฟ
- ได้ชุดครัวครบ : Built-in เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาแก๊ส , เตาไฟฟ้า และที่ดูดควัน
บ้านในโครงการ Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) ออกแบบมาในสไตล์ Berlin ที่เคยใช้กับโครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-สาย 1 มาแล้ว เน้นโทนสีขาว – เทาเข้มที่ดูตัดกัน ทำให้ตัวบ้านดูมีมิติขึ้นมาค่ะ ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 260-428 ตารางเมตร หากเทียบกับบ้านที่มีราคาระดับเดียวกัน โครงการนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดเลยค่ะ จึงเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมากๆ บ้านในโครงการออกแบบมาเพื่อรองรับครอบครัวขยาย เหมาะกับครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิก 4-6 คน โครงการมีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบดังนี้
- Gottfried บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท - Behrens บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 65.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - Gropius บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 77.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 340 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - Neufert บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 105.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 428 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
สรุปวัสดุภายในบ้าน
- หลังคา HIP ROOF หลังคาทรงปั้นหยา
- โครงสร้างบ้าน Precast มีความแรงแข็ง คงทนกว่าการก่ออิฐทั่วไป แต่มีข้อจำกัดในการต่อเติม
- ผนังฉาบเรียบทาสี
- ที่จอดรถลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน นอกชายคาลงเสาเข็ม 6 เมตร
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×120 cm. ห้องนอนล่างวัสดุ Soft Floor by SCG
- พื้นชั้น 2 : VSPC หนา 6 มิลลิเมตร (บ้าน Gropius , Neufert )/ SPC หนา 6 มิลลิเมตร (บ้าน Gottfried , Behrens )
- บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก / ลูกนอน ชานพักบันได ไม้สำเร็จรูปทำสี / ลูกตั้งฉาบเรียบทาสี
- ระบบ Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างทุกบาน ทั้งชั้น 1-2
- ระบบ Motion Sensor 1 จุด ทั้งชั้น 1-2
- ติดตั้ง Solar Cell Panel
- สุขภัณฑ์ Cotto, Kohler
- ระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็นสำหรับ Master Bathrrom
- ชุดหน้าบานครัวไทยและตู้เก็บของ มี Hood ดูดควัน และเตาแก๊สกับเตาไฟฟ้า
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
Neufert
บ้านตัวอย่างหลังแรกที่เราจะพาทุกคนมาชมคือ Neufert ซึ่งเป็น Type ใหญ่สุดของโครงการเลยค่ะ บ้านแบบนี้จะมีที่ดินเริ่มต้น 105.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 428 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน ความพิเศษของบ้านแบบนี้คือมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ และให้ที่จอดรถสูงสุดในย่าน จึงเหมาะกับครอบครัวที่ชอบพื้นที่ใหญ่ๆและมีรถยนต์ส่วนตัวเยอะ
แปลนบ้าน Neufert ชั้น 1
ชั้น 1 : แบบบ้านเป็นแบบหน้ากว้างทำให้บ้านดูใหญ่และสว่าง ภายในบ้านแบ่งโซนการใช้งานไว้ชัดเจนเป็นสัดส่วน สามารถจอดรถได้ 4 คัน และได้เป็นที่จอดในร่มทุกคันเลยค่ะ บ้านมีประตูทางเข้าหลัก 2 ทางคือประตูทางเข้าหน้าบ้านและประตูบริเวณที่จอดรถให้เลือกใช้งาน นอกจากนี้ยังมีทางเข้าสำหรับแม่บ้านบริเวณส่วน Service ภายในบ้านแบ่งโซนเป็น 2 ฝั่ง ส่วนแรกคือส่วนพักผ่อน จัดเป็นห้องนั่งเล่น , ส่วนรับประทานอาหาร และห้องนอนชั้นล่าง อีกฝั่งหนึ่งคือส่วน Service ประกอบไปด้วยห้องครัว และส่วนของแม่บ้านรวมถึงลานซักล้าง ถือว่ามีฟังก์ชันครบครันสำหรับบ้านขนาดใหญ่
ชั้น 2 : เป็นพื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกภายในบ้าน เพราะเป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งชั้นเลยค่ะ ประกอบไปด้วย Family Area เป็นจุดรวมตัวของคนในบ้าน อยู่บริเวณหน้าห้องนอนรองทั้ง 3 ห้อง , Master Bedroom และห้องนอนรอง 3 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง ทำให้ใช้งานได้สะดวก
พื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 4 คัน
พื้นที่จอดรถแบ่งออกเป็น 2 ช่อง สามารถจอดรถได้ช่องละ 2 คัน แต่ละช่องมีความกว้างประมาณ 5 m. โดยมีชายคาคลุมเต็มคัน ไม่มีส่วนไหนตากแดดฝน โครงการลงเสาเข็มบริเวณที่จอดให้เท่าตัวบ้าน ถึงบริเวณที่มีชายคาคลุม และมีการตัด Joint แยกโครงสร้างไว้ให้เรียบร้อยค่ะ อีกทั้งทุกบ้านมี Solar Cell ขนาด 2.2 Kw. เป็นระบบ On Grid ที่ดึงพลังงานมาใช้เป็นไฟฟ้าในช่วงกลางวัน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะทีเดียว
โครงการเตรียมระบบไว้ให้เพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger 1 เครื่อง บริเวณที่จอดรถ
บ้าน Type นี้มีทางลาดสำหรับรถเข็นผู้สูงอายุไปยังประตูทางเข้าบ้านฝั่งที่จอดรถ โดยทางลาดมีความกว้างประมาณ 1 m. ตามมาตรฐานสำหรับวีลแชร์ ใช้งานได้สะดวก
จากที่จอดรถสามารถเดินเข้าบ้านได้ โดยไม่ต้องโดนแดดฝน เพราะมีหลังคาเชื่อมถึงกันตลอดแนว ประตูที่จอดรถติดตั้ง Digital door lock 5 ระบบของ Kaadas วันไหนที่ลืมกุญแจบ้าน ก็สามารถเข้าประตูนี้ได้ค่ะ หรือใช้เป็นประตูขนสัมภาระของต่างๆจากรถเข้าบ้านได้สะดวก
หน้าบ้านมีพื้นที่กว้างขวางให้เราจัดเป็นสวนหรือมุมพักผ่อนได้ตามต้องการ เหมาะกับคนที่ชอบปลูกต้นไม้ทำสวนค่ะ
ใครที่ชอบชมวิวสวน สามารถทำเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจ ไว้ออกมาใช้งานช่วงเช้าหรือเย็นได้เลยค่ะ
ประตูหลักทางเข้าบ้าน
ทางเข้าบ้านจะยกระดับพื้นขึ้นมาเพื่อแยกโซนทางเข้าบ้าน มีหลังคาคลุมป้องกันแดดและฝนได้ ประตูทางเข้าบ้านหลักเป็นประตูอลูมิเนียมบานเปิดคู่ ที่กว้างประมาณ 1.7 m. สามารถขนย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งเข้าออกได้สบายๆ
บรรยากาศโถงหน้าบ้าน
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับส่วนโถงต้อนรับ Foyer ของตัวบ้าน บริเวณนี้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าแบบ Double Volume 6.7 m. วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีเบจขนาด 60×120 cm. ยิ่งทำให้บ้านดูสว่างและโปร่งโล่งเป็นพิเศษ บริเวณนี้โครงการติดตั้ง Control Pad มาให้ ไว้สำหรับควบคุมและตรวจเช็คความเรียบร้อยภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมี Magnetic Sensor มีแจ้งเตือนเวลาประตูหน้าต่างถูกงัดหรือทุบและ Motion Senser เสริมความปลอดภัยให้คนในบ้าน
ห้องนอนชั้นล่างอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าหลัก ทำให้เข้าถึงได้ง่าย จึงเหมาะกับเป็นห้องของผู้สูงอายุที่ต้องการเข้าสู่มุมพักผ่อนส่วนตัวได้ไว เมื่อกลับมาถึงบ้าน
บรรยากาศห้องนอนผู้สูงอายุ
ห้องนอนผู้สูงอายุอยู่ด้านหน้าบ้าน ทำให้คุณตาคุณยายที่พักห้องนี้สามารถเห็นวิวสวนหน้าบ้าน ช่วยให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศได้ดีกว่าห้องโซนด้านหลังบ้าน แต่อาจจะได้ความเป็นส่วนตัวน้อยลงหน่อย เพราะคนภายนอกมองมาเห็นได้ง่าย ต้องปลูกต้นไม้บังสายตาด้านหน้าบ้าน
เนื่องจากบ้านตัวอย่างเป็น Sales Gallery ด้วยเราจึงเก็บรูปจากบ้านมาตรฐานมาฝากทุกคนแทนนะคะ ห้องมีขนาดกว้างประมาณ 5 x 4.6 m. พอที่จะวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมทั้งจัดมุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำได้ด้วย วัสดุปูพื้นใช้เป็น Soft Floor ของ SCG ช่วยลดแรงกระแทกขณะเดินและทนรอยขูดขีดข่วนจากการเข็นรถด้วยค่ะ
พื้นห้องน้ำเสมอกับพื้นห้องนอนเลยค่ะ ทำให้เข็นวีลแแชร์เข้าไปได้สะดวก
ห้องน้ำภายในตัวห้องนอนชั้นล่าง
ภายในมีการแบ่งโซนการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน พร้อมติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบ Touchless เพื่อลดการสัมผัส และติดตั้งอุปกรณ์ในห้องน้ำครบทั้งอ่างล้างมือ สายฉีดชำระ และฝักบัวแบบ Hand Shower ของ Kohler แต่จะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเพื่อแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจนค่ะ
Common Area อยู่ลึกเข้ามาด้านในตัวบ้าน รวมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่ทานอาหารเข้าและมุม Pantry ไว้ครบ ช่วยให้การใช้งานต่อเนื่อง ด้านข้างมีหน้าต่างและประตูบานเลื่อนตลอดแนว สามารถเปิดเชื่อมต่อออกไปที่สวนข้างบ้านได้ อีกทั้งยังดูโปร่งโล่ง โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าของชั้นนี้จะอยู่ที่ 2.95 m.
สำหรับพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดประมาณ 5.7 x 4.15 m. เราสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ 2 ตอน พร้อมอาร์มเเชร์ด้านข้าง แนะนำให้ติดทีวีจอขนาดใหญ่ประมาณ 65-70 นิ้ว เพื่อให้มองเห็นชัดเจนค่ะ การที่มีพื้นที่นั่งเล่นอยู่มุมบ้านทำให้ได้หน้าต่าง 2 ฝั่ง ทำให้แสงธรรมชาติเข้าถึงตัวบ้านได้อย่างทั่วถึง
หน้าต่างบานเลื่อนแบบ Double Lock
หน้าต่างด้านข้างพื้นนั่งเล่นเป็นหน้าต่างบานเลื่อน เราสามารถเปิดรับลม สูดอากาศภายนอกได้ด้วย หรือในกรณีที่ไปเที่ยวต่างประเทศหลายวัน ก็สามารถเปิด Breeze Panel เพื่อระบายอากาศ โดยไม่ต้องเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เลยค่ะ
พื้นที่รับประทานอาหารอยู่กลางบ้าน
ส่วนรับประทานอาหาร รองรับโต๊ะขนาด 10 ที่นั่ง นั่งได้สบายๆไม่อึดอัด มีพื้นที่เหลือรอบโต๊ะให้ใช้งานได้สะดวก มองออกไปเห็นสวนที่จัดทางด้านหลังบ้าน เราสามารถเปิดประตูไปรับลม หรือนั่งพักผ่อนได้ด้วย
ด้านหลังบ้านบริเวณติดกับพื้นที่รับประทานอาหาร มีพื้นที่ว่างพอทำเป็นมุมพักผ่อนหรือสวนได้ เหมาะกับคนที่ชอบทำสวนปลูกต้นไม้เลยค่ะ
Pantry Area เชื่อมต่อกับมุมรับประทานทานอาหารและห้องครัว
ติดกับส่วนรับประทานอาหารเป็นมุม Pantry สำหรับเตรียมอาหารง่ายๆ สามารถทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์และเคาน์เตอร์แบบ Island ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
หากเราเข้าบ้านจากประตูฝั่งที่จอดรถจะเจอโถงที่มีตู้เก็บของ 2 ฝั่งสามารถทำเป็นตู้เก็บรองเท้าหรือเก็บของชิ้นใหญ่ๆ เช่น กระเป๋าเดินทางได้ค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่าง
ห้องน้ำชั้น 1 เป็นแบบ Powder Room อยู่ใกล้ประตูโรงจอดรถ สะดวกต่อการใช้งานเวลากลับมาถึงบ้าน เหมาะเป็นห้องน้ำสำหรับรับรองแขกที่ไม่เน้นส่วนอาบน้ำ ภายในห้องน้ำมีสุขภัณฑ์จาก KOHLER มาให้แบบครบชุด พร้อมใช้งานเลยค่ะ
บรรยากาศห้องครัวภายในบ้าน
ห้องครัวเป็นครัวปิด ทำอาหารกลิ่นฉุนๆได้โดยไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นจะลอยไปโซนอื่นๆ ของบ้าน โครงการนี้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U มีตู้เก็บของบนล่างมาให้ พร้อมเตาแก๊ส , เตาไฟฟ้า และที่ดูดควันจาก Teka สามารถใช้งานได้เลย นอกจากนี้ห้องครัวยังมีประตูที่สามารถเปิดไปส่วน Service หรือโซนแม่บ้านได้ด้วย
ส่วน Laundry ด้านหลังบ้าน
ส่วน Service ของบ้านอยู่ถัดจากห้องครัว ประกอบไปด้วยส่วน Laundry , ห้องนอนแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้าน จึงถือว่าโซนนี้เป็นพื้นที่ทำงานของแม่บ้านเต็มตัว ไม่รบกวนพื้นที่ของเจ้าของบ้าน
บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยวัสดุไม้สำเร็จรูป
บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นรูปตัว L มีขนาดกว้างประมาณ 1.1 m. กว้างพอให้คนเดินขึ้น-ลงสวนกันได้ โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวไม้สำเร็จรูป พร้อมราวจับตลอดทางใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยดี
โถงทางเดินชั้น 2
โถงทางเดินชั้น 2 มี Control Pad ให้เราควบคุมระบบ Smart Home ต่างๆ บนหน้าจอก็จะขึ้นโชว์ว่าประตูหน้าต่างบานไหนเปิดปิดอยู่ ให้เราเช็คความเรียบร้อยได้ โดยไม่ต้องลงไปตรวจเช็คที่ชั้น 1 นอกจากนี้ยังมี Motion Sensor ที่โถงทางเดิน คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวเสริมความปลอดภัยให้ลูกบ้าน
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Family Area ใช้เป็นจุดรวมตัวของสมาชิกในบ้านได้ ฝ้าเพดานสูงมาถึง 2.9 m. จึงดูโปร่งสบาย ส่วนวัสดุปูพื้นชั้นนี้ได้เป็น VSPC ลายไม้ หนา 6 mm. ทนทานและมีความยืดหยุ่นกว่า SPC และเดินได้สบายเท้าค่ะ หากใครต้องการความเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แนะนำให้กั้นห้องเพิ่มความเป็นส่วนตัวนะ
พื้นที่ริมระเบียงบริเวณ Family Area
บริเวณ Family Area สามารถเชื่อมต่อกับระเบียงที่ใช้ร่วมกับห้องนอนรอง 1 ซึ่งระเบียงจะมีขนาดประมาณ 0.9 x 6.5 m. เรามองว่าพอให้เดินออกไปสูดอากาศได้สามารถวางกระถางต้นไม้เพิ่มความสดชื่นให้แก่ตัวบ้าน
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 1
สำหรับห้องนอนรอง 1 ในบ้านตัวอย่างจัดให้ห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่น แต่จริงๆแล้วมีขนาดประมาณ 4.6 x 3 m. วางเตียง 6 ฟุตแล้วเหลือพื้นที่รอบๆเตียงให้วางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เหลือพอจะจัดเป็นมุมอ่านหนังสือทำงานภายในห้องได้ด้วย ห้องนอนรอง 1 ได้แสงธรรมชาติ 2 ฝั่งจึงทำให้ห้องดูสว่าง นอกจากนี้ยังมีประตูเปิดไปสูดอากาศริมระเบียงที่เชื่อมกับ Family Area ได้ด้วย
ห้องนี้อยู่ส่วนหน้าบ้าน ได้รับแสงธรรมชาติเต็มๆ ใครที่ไม่ชอบตื่นเช้าๆ แนะนำให้ติดม่านแบบ Blackout นะคะ ส่วนทางเข้าห้องน้ำมีพื้นที่เหมาะกับการ Built-in ตู้เสื้อผ้า ทำเป็นโซนแต่งตัวได้ด้วยนะ เพราะอยู่ใกล้ห้องน้ำพอดี ใช้งานได้ต่อเนื่อง
ห้องน้ำภายในห้องนอนรอง 1
ห้องน้ำภายในห้องนอนจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบเหมือนห้องน้ำในห้องนอนชั้น 1 พื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 0.9 x 1.5 m. พร้อมชั้นวางของอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ใช้งานได้สะดวก
บรรยากาศห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 จะอยู่บริเวณหลังบ้านมีขนาดประมาณ 3.7 x 4.3 m. วางเตียง 6 ฟุตแล้วยังมีพื้นที่รอบข้างเตียงอยู่มาก ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวีได้ด้วย อีกฝั่งของห้องนอนเป็นพื้นที่แต่งตัว ติดกับห้องน้ำภายในห้องพอดี ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง ห้องนี้จะมีหน้าต่างฝั่งเดียว และมีขนาดค่อนข้างเล็ก เราอาจจะต้องติดตั้งโคมไฟช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในห้อง
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2 มีชุดสุขภัณฑ์มาครบครัน ใต้เคาน์เตอร์มีตู้เก็บของสำหรับเก็บอุปกรณ์อาบน้ำ ส่วนอาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.60 m. สามารถอาบน้ำหมุนตัว ใช้งานได้สะดวกค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 3
ห้องนอนรอง 3 ขนาดพอๆกับห้องนอนรอง 2 และอยู่บริเวณด้านหลังบ้านเช่นกัน พื้นที่ภายในห้องกว้างพอจะวางเตียง 6 ฟุตและเหลือพื้นที่รอบๆเตียงค่อนข้างเยอะ จนสามารถจัดเป็นมุมทำงาน หรือวางชั้นวางทีวีได้เลย อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่แต่งตัวอยู่ใกล้ห้องน้ำ ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง ห้องนี้จะมีหน้าต่างน้อย แนะนำให้เพิ่มโคมไฟภายในห้องค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 3
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 3 มีชุดสุขภัณฑ์มาครบครันเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 และ 2 มีส่วนอาบน้ำประมาณ 0.90 x 1.50 เมตร สามารถอาบน้ำหมุนตัว ใช้งานได้สะดวกค่ะ
บรรยากาศ Master Bedroom
ปิดท้ายด้วย Master Bedroom มีขนาดกว้างขวางสามารถวางเตียง 6 ฟุตแล้วยังมีพื้นที่เหลือใช้งานรอบๆเตียงได้สะดวก ปลายเตียงวางโซฟาสำหรับดูทีวีได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ระเบียงเอาไว้เปิดไปรับลมได้ด้วยค่ะ
ด้านข้างเตียงนอนฝั่งที่อยู่ติดกับหน้าบ้านได้มาเป็นระเบียงกว้าง ออกมายืนชมวิว สูดอากาศหรือวางกระถางต้นไม้ เพิ่มความสดชื่นได้ หรือใครชอบรับลมจะทำเป็นมุมนั่งเล่นเพิ่มก็ได้ค่ะ
ส่วนแต่งตัวมีทั้งโซนที่เป็นโต๊ะเครื่องแป้งและ Walk-in Closet ที่กว้างพอจะ Built in ตู้เสื้อผ้าเป็นแนวยาว พร้อมทำ Island ตรงกลางสำหรับเก็บเครื่องประดับได้เลย เหมาะกับคนที่เป็นสายแฟชั่นชอบแต่งตัวมีเสื้อผ้าและ Accessories เยอะค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง Master Bathroom
ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก เมื่อเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างมือแบบ His&Her สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คนพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โดยความพิเศษของห้องนี้นอกจากจะมีส่วนยืนอาบกว้าง 1.95 x 2 m. พร้อมฉากกั้นอาบน้ำแล้ว ก็มีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวติดตั้งมาให้ด้วย ส่วนด้านข้างมีหน้าต่างขนาดใหญ่ติดตั้งมาให้ ช่วยให้ในห้องดูสว่าง และทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี
Gropius
บ้าน Type นี้มีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 ของโครงการ มีที่ดินเริ่มต้น 77.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 340 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน
แปลนชั้น 1
ชั้น 1 : มีที่จอดรถ 3 คัน มีทางเข้าบ้านหลักๆ 3 ทางคือ ประตูหลักหน้าบ้าน , ประตูที่จอดรถและประตูโซน Serviceด้านหลังบ้าน ภายในบ้านแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน เรามองว่าการวางผังคล้ายกับบ้าน Neufert เลยค่ะ แต่ลดหลั่นพื้นที่ใช้สอยภายในและฟังก์ชันบางส่วน ฝั่งหนึ่งของบ้านเป็น Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่ทานอาหารไว้ด้วยกัน รวมถึงห้องนอนชั้นล่างด้วย ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นโซน Service ที่มีทั้งห้องครัวและห้องแม่บ้าน
ชั้น 2 : เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนส่วนตัวของคนในบ้านมีทั้ง Master Bedroom , ห้องนอนรองทั้ง 2 และ Family Area ที่ใช้เป็นมุมรวมตัวของสมาชิกในบ้านได้ด้วย
พื้นที่จอดรถ 3 คัน
ที่จอดรถในร่มมีขนาด 7.7 × 5.3 m. จอดรถ 3 คันได้สบายๆ บริเวณที่จอดรถรองรับการติดตั้ง EV Charger สำหรับบ้านที่ใช้รถไฟฟ้า จากที่จอดรถสามารถเข้าได้ทั้งประตูหลักของบ้านโดยที่ไม่ต้องตากแดดฝนเลยค่ะ บริเวณนี้จะมีตู้เก็บของให้ 1 จุด สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำสวน
บริเวณที่จอดรถมีประตูทางเข้าบ้านพร้อมติดตั้ง Digital door lock ไว้เรียบร้อยเหมือนบ้านแบบแรก แต่ต่างตรงที่บ้านหลังนี้จะไม่มีทางลาดสำหรับวีลแชร์เท่านั้นเอง
ด้านหน้าบ้านมีพื้นที่สำหรับทำเป็นสวนหรือมุมพักผ่อนอีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบทำสวนและมานั่งเล่นหน้าบ้านเป็นประจำ
ประตูหลักทางเข้าบ้าน
หน้าบ้านมีชานยื่นออกมาเล็กน้อยพร้อมชายคาคลุม ซึ่งชานมีความกว้างพอจะทำมุมพักผ่อนเพิ่มเติมด้วยค่ะ ส่วนประตูทางเข้าหลักเป็นบานเปิด 2 ฝั่ง กว้างประมาณ 1.5 m. ขนย้ายของใหญ่ๆได้สบายๆ
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับส่วนโถงต้อนรับ Foyer ของตัวบ้านที่มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าแบบ Double Volume 6 m. ทำให้บ้านดูโอ่อ่าดีค่ะ ภายในบ้านแบ่งสัดส่วนคล้ายบ้านแบบแรก คือฝั่งหนึ่งเป็น Common Area และห้องนอนชั้นล่าง ส่วนอีกฝั่งเป็นโซน Service แตกต่างแค่เพียงบันไดของบ้านแบบนี้จะอยู่บริเวณกลางบ้านและเป็นรูปตัว U ค่ะ
Control Pad บริเวณโถงหน้าบ้าน
โครงการมี Control Pad ให้สมาชิกในบ้านคอยควบคุมระบบ Smart Home ต่างๆ บนหน้าจอก็จะขึ้นโชว์ว่าประตูหน้าต่างบานไหนเปิดปิดอยู่ เพื่อเช็คความปลอดภัยได้ นอกจากนี้บริเวณโถงยังมี Motion Sensor คอยส่งสัญญาณเตือนเวลามีคนเดินผ่าน
ห้องนอนผู้สูงอายุอยู่ด้านหน้าบ้าน มองออกไปจะเห็นสวนหน้าบ้านได้ ทั้งยังสามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ดี ทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น ห้องมีขนาดกว้างประมาณ 4.9 x 3.9 m. หากต้องการใช้เตียง 6 ฟุต แนะนำให้วางชิดผนังด้านหนึ่ง เพื่อให้เหลือพื้นที่สำหรับเข็นวีลแชร์ได้สะดวก นอกจากนี้ปลายเตียงยังสามารถวางชั้นวางทีวีได้ด้วย ส่วนวัสดุปูพื้นใช้เป็น Soft Floor ช่วยลดแรงกระแทกขณะเดินและทนรอยขูดขีดข่วนจากการเข็นรถค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง
ห้องนอนชั้นล่างมีห้องน้ำให้ด้วย มีชุดสุขภัณฑ์ให้ครบครัน ภายในห้องน้ำแยกพื้นที่ส่วนเปียก – ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ส่วนอาบน้ำได้กว้างประมาณ 0.9 x 1.5 m. สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก พื้นห้องน้ำเสมอกับพื้นห้องนอนทำให้ผู้สูงอายุเดินเข้าไปใช้งานได้สะดวก
ฝั่งขวาของบ้านเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เราสามารถเข้าถึงได้เป็นโซนแรก มีขนาดประมาณ 3.6 x 3.9 m. สามารถวางโซฟา 4 ที่นั่งพร้อมอาร์มแชร์และโต๊ะทานกาแฟได้ แนะนำให้ติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้วเพื่อการรับชมทีวีได้อย่างคมชัด พื้นที่ตรงนี้จะดูสว่างเป็นพิเศษ เพราะอยู่หัวมุมบ้าน ได้แสงธรรมชาติทั้ง 2 ฝั่ง
พื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับ Pantry Area ใช้งานกันได้อย่างต่อเนื่อง พื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 6-8 ที่นั่ง แล้วยังเหลือพื้นที่เดินรอบโต๊ะ บริเวณนี้ติดกับสวนหลังบ้านเราจึงได้วิวสวนในขณะที่ทานอาหารด้วย
พื้นที่พักผ่อนหลังบ้าน
หลังบ้านยังเหลือพื้นที่สำหรับจัดเป็นสวนหรือมุมพักผ่อนได้เลย หรือเวลาบ้านมีปาร์ตี้ต้องปิ้งย่างอาหาร ก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ เพื่อให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกับมุมรับประทานอาหาร
ติดกับส่วนรับประทานอาหารเป็นมุม Pantry สำหรับเตรียมอาหารง่ายๆ พื้นที่กว้าง สามารถทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์และเคาน์เตอร์แบบ Island ใช้งานได้สะดวก
ห้องครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบปิด ทำให้เราสามารถประกอบอาหารกลิ่นฉุน ๆ ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นจะลอยเข้าบ้าน ห้องครัวมีขนาดใหญ่พอสมควร สมาชิกในบ้านสามารถช่วยกันทำอาหารได้ 2-3 คน โครงการ Built-in เคาน์เตอร์เป็นตัว L พร้อมชุดเครื่องครัวครบครัน ทั้งซิงค์ล้างจาน , เตาแก๊สผสมเตาไฟฟ้าและที่ดูดควันมาให้เรียบร้อย
โซน Service เชื่อมต่อมาจากห้องครัว ซึ่งประกอบไปด้วย ส่วน Laundry , ห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้าน จึงถือว่าโซนนี้เป็นพื้นที่ทำงานของแม่บ้านเต็มตัว ไม่รบกวนพื้นที่ของเจ้าของบ้าน
ตู้เก็บของข้างๆบันได
บ้านแบบนี้ให้พื้นที่เก็บของมาเยอะทีเดียวค่ะ มีทั้งตู้เก็บของใต้บันไดที่ใช้เก็บพวกของชิ้นใหญ่ๆ เช่น กระเป๋าเดินทางได้ ส่วนใกล้ๆประตูที่จอดรถจะมีตู้เก็บรองเท้า ทำให้หยิบใส่-ถอดเวลาออกจากบ้านได้สะดวก และตู้ไฟอยู่ใกล้ประตูเช่นกัน จึงสามารถ Service ได้ง่าย
ห้องน้ำชั้นล่าง
ห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room ไว้รองรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน ภายในติดตั้งมาให้ครบทั้งอ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติจาก KOHLER
บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นรูปตัว U มีขนาดกว้างประมาณ 1 m. ชานพักบันไดกว้างทำให้คนเดินขึ้น-ลงสะดวกเพราะมีจุดพักเหนื่อยเยอะ โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวไม้สำเร็จรูป พร้อมราวจับตลอดทางใช้งานได้สะดวก
บรรยากาศ Family Area
Family Area เป็นแบบเปิดโล่งฝ้าสูง 2.9 m. มีขนาดประมาณ 3.7 x 2.8 m. วางโซฟา 3-4 ที่นั่ง พร้อมติดตั้งชั้นวางทีวีได้สบายๆ สามารถจัดเป็นส่วนพักผ่อนส่วนตัวสำหรับสมาชิกในบ้านได้ หากใครต้องการให้พื้นที่ตรงนี้เป็นสัดส่วนชัดเจน แนะนำให้กั้นเป็นห้องกระจกเพิ่มเติม จะรู้สึกถึงความโปร่งโล่งด้วยค่ะ ส่วนวัสดุปูพื้นชั้นนี้ได้เป็น VSPC ลายไม้ หนา 6 mm. ทนทานและมีความยืดหยุ่นกว่า SPC และเดินได้สบายเท้าค่ะ
ระเบียงที่ติดกับ Family Area จะแชร์กันใช้กับห้องนอนรอง 1 จึงมีความยาวเป็นพิเศษค่ะ แต่มีความกว้างไม่มากนัก เรามองว่าพอให้เราออกมาสูดอากาศหรือเปิดรับลมได้ค่ะ
บรรยากาศห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 อยู่ติดกับ Family Area มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงสองข้าง ภายในห้องได้หน้าต่างกระจก 2 ฝั่ง ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเต็มที่ ห้องจึงดูสว่าง บริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับแต่งตัวอยู่ ทำให้การใช้งานต่อเนื่องสะดวกดีค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ แยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งออกเป็น 2 ฝั่ง ดูเป็นสัดส่วน พื้นที่ยืนอาบได้มากว้างประมาณ 0.9 ×1.5 m. สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวกดีค่ะ พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้องเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อน ทั้งยังทำให้เราทำความสะอาดห้องน้ำได้สะดวกด้วยค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 2
แม้ว่าห้องนอนรอง 2 จะอยู่ด้านหลังบ้าน แต่ก็เป็นห้องหัวมุม ทำให้ได้แสงธรรมชาติจาก 2 ฝั่ง ห้องจึงดูสว่างภายในห้องมีขนาดใหญ่พอจะวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ ด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่จะทำเป็น Walk – in Closet จัดเป็นมุมแต่งตัว ใช้งานได้เป็นสัดส่วน
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2
พื้นที่ใช้งานห้องน้ำภายในห้องนอนรอง 2 มีขนาดพอๆกับห้องน้ำในห้องรอง 1 ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียก-แห้งที่ชัดเจน มีอุปกรณ์สุขภัณฑ์มาให้ครบครันพร้อมใช้งาน
บรรยากาศห้อง Master Bedroom
สุดท้ายคือ Master Bedroom ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน และมีหน้าต่างใหญ่กว่าห้องนอนอื่นๆ ห้องจึงดูสว่างเป็นพิเศษ ภายในห้องมีขนาดกว้างพอจะแบ่งออกเป็นส่วนพักผ่อนและ Walk-in Closet โดยที่ส่วนพักผ่อนวางเตียง 6 ฟุต แล้วมีพื้นที่เหลือให้วางชั้นวางของและสตูลปลายเตียงได้ด้วยค่ะ
ระเบียงห้อง Master Bedroom
ภายใน Master Bedroom มีระเบียงพอให้เราเปิดประตูระบายอากาศแล้วยืนรับลมได้บ้าง
บรรยากาศ Walk-in Closet
พื้นที่แต่งตัวภายในห้องมีขนาดใหญ่ สามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว L สามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะ เหมาะกับสาย Fashionista
บรรยากาศ Master Bathroom
ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom คล้ายกับบ้านไซส์ใหญ่ คือมีอ่างล้างมือแบบ His&Her , โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติและอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ฝักบัวได้มาทั้งแบบ Hand Shower , Rain Shower รวมถึงมีหน้าต่างขนาดใหญ่ช่วยให้แสงเข้าถึงและระบายอากาศได้ง่าย ต่างกันแค่มีการหมุนทิศทางของอ่างอาบน้ำเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่อาบน้ำเท่านั้นเองค่ะ
Behrens
บ้าน Type นี้มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ มีที่ดินเริ่มต้น 65.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน บ้านแบบนี้จะไม่มี Double Volume และเปลี่ยนวัสดุที่พื้นชั้น 2 จาก VSPC เป็น ลามิเนต 12 mm. ค่ะ ซึ่งก็ทนทานกว่าแบบ 8 mm. ที่ใช้ตามบ้านมาตรฐานทั่วไปค่ะ
แปลนชั้น 1
ชั้น 1 : มีที่จอดรถ 3 คัน เชื่อมต่อกับประตูทางเข้าบ้านหลัก ภายในบ้านแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน โดยฝั่งหนึ่งเป็นมุมพักผ่อนที่มีพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร รวมถึงห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำภายในตัวด้วย ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องครัวและโซนของแม่บ้าน
ชั้น 2 : เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนมี Master Bedroom และห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว ชั้นนี้จะมี Family Area ขนาดเล็กที่ใช้เป็นมุมรวมตัวของสมาชิกในบ้านได้ด้วย
ที่จอดรถ 3 คัน พร้อมเตรียมระบบติดตั้ง EV Charger
Gottfried
บ้าน Type เล็กที่สุดในโครงการ มีที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน ซึ่งบ้านไซส์นี้เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในแบรนด์เศรษฐสิริ สไตล์ Berlin ค่ะ
แปลนชั้น 1
ชั้น 1 : การวางผังบ้าน Type นี้แตกต่างจากบ้าน Type อื่นเล็กน้อย คือย้ายห้องนอนชั้นล่างไปไว้ฝั่งที่จอดรถติดกับห้องครัว ทำให้ออกมาหาของกินหรือทำอาหารได้ง่าย ห้องนอนชั้นล่างจะไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องออกมาใช้ห้องน้ำด้านนอกแทนค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน Type นี้จึงมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย ส่วนพื้นที่นั่งเล่นมาอยู่ด้านหน้าบ้านทำให้ระบายอากาศและได้แสงธรรมชาติมากกว่า
ชั้น 2 : เป็นพื้นที่พักผ่อนของสมาชิกในบ้าน แต่จะไม่มี Family Area ทำให้เราได้ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และห้องนอนรอง 2 ห้องก็มีขนาดใกล้เคียงกับ Master Bedroom เลยค่ะ
ราคา
Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) ณ วันที่ 9 มกราคม 2568
- Gottfried บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท - Behrens บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 65.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 19.9 ล้านบาท
- Gropius บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 77.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 340 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 21.9 ล้านบาท - Neufert บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 105.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 428 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 30.9 ล้านบาท - จองและทำสัญญา n/a บาท
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละn/a บาท
- ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า n/a ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) ติดถนนใหญ่อย่างถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 ใกล้สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ เชื่อมต่อไปยังถนนราชพฤกษ์และถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีได้ง่าย โครงการนี้อยู่ท่ามกลางแหล่งอุดมความสมบูรณ์ สามารถไปห้างสรรพสินค้า , ซูเปอร์มาเก็ตและตลาดสดหลายแห่งได้ไม่ยาก เช่น Central เวสต์วิลล์ , Central รัตนาธิเบศร์ , Lotus นครอินทร์ , The Walk ราชพฤกษ์ , ตลาดนกฮูก , ตลาดต้นสักและตลาดพระราม 5 นอกจากนี้ยังใกล้กับโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดีอีกด้วย ผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้ง่ายๆ
ส่วนเรื่องของตัวช่วยในการเดินทาง จากโครงการมีทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือทางประจิมรัถยาห่างจากโครงการประมาณ 9.6 km. เราสามารถใช้ทางด่วนนี้ไปเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช เดินทางไปได้ทั้งโซนจตุจักร , สีลม หรือออกนอกเมืองไปทางปทุมธานีได้ค่ะ อีกทั้งโครงการยังไม่ไกลจาก MRT สะพานพระนั่งเกล้า ใช้เดินทางเข้าเมืองได้แบบไม่ต้องเสียเวลารถติดค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการเข้า-ออกประตูรั้วเหล็กด้วยระบบ สแกนป้ายทะเบียน พร้อมติดตั้งระบบ Liv-24 ใช้ตรวจสอบเคลื่อนไหวที่ผิดปกติพร้อมแจ้งเตือนแบบ Real time , CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการทั่วทุกจุด ส่วนตัวบ้านก็ติดตั้งทั้ง Magnetic Sensor และ Motion Sensor ทั้งชั้น 1 , 2 ช่วยเสริมความปลอดภัยให้คนในบ้าน
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบโครงการ : ซุ้มประตูโครงการอยู่ห่างจากถนนหน้าโครงการทำให้ลูกบ้านได้ความสงบเป็นส่วนตัวมากขึ้น แม้โครงการวางตำแหน่ง Clubhouse ส่วนกลางไว้หน้าโครงการ แต่ก็อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้บ้านพักส่วนใหญ่ในโครงการ อีกทั้งส่วนกลางยังสวยเป็นหน้าเป็นตาให้กับลูกบ้านด้วย Facility ออกแบบมาตอบโจทย์ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง สำหรับตัวบ้านส่วนใหญ่หันไปทั้งทิศเหนือ-ใต้ซึ่งเป็นทิศที่ลมประจำฤดูพัดผ่าน เป็นทิศยอดฮิตอยู่แล้ว
การออกแบบตัวบ้าน : รูปแบบบ้านในโครงการ มีให้เลือก 4 แบบด้วยกัน ได้พื้นที่ใช้สอย 260 – 428 ตร.ม. ซึ่งถือว่ามีพื้นที่ใช้สอยมากสุดเมื่อเทียบกับบ้านที่มีราคาใกล้ๆกัน ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Berlin สีบ้านเน้นโทนขาวเทา ดูตัดกันทำให้บ้านมีมิติและเรียบหรู ส่วนฟังก์ชันเริ่มต้นที่ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถและ 1 ห้องแม่บ้านทุกหลัง รองรับสมาชิกหลาย Generations บ้านไซส์ใหญ่สุด สามารถจอดรถได้ 4 คัน ซึ่งหาได้ยากในย่านนี้ แต่เฉพาะบ้าน Type ใหญ่สุดนะคะ
วัสดุ : โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Precast ส่วนที่จอดรถลงเสาเข็มให้เท่ากับตัวบ้าน ส่วนวัสดุโดยภาพรวมถือว่าให้มาเหมาะสมกับการใช้งาน ห้องนอนชั้นล่างใช้วัสดุเป็น Soft Floor ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของผู้สูงอายุได้ บ้านขนาด 340-428 ตร.ม. จะได้วัสดุพื้นชั้น 2 ที่เป็น VSPC ทนรอยขีดข่วนได้ดี เฉพาะแบบบ้านขนาดเริ่มต้น 260-302 ตร.ม. จะได้วัสดุพื้นชั้น 2 เป็นลามิเนต ส่วนเทคโนโลยีต่างๆ ภายในบ้านพิเศษกว่าโครงการอื่นๆในราคาระดับเดียวกัน เช่น คือติดตั้ง Solar Roof
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : โครงการปลูกต้นไม้ตลอดแนวตั้งแต่ทางเข้าโครงการ สวนส่วนกลางออกแบบมาสวยน่าใช้งาน ส่วนกลางตกแต่งสไตล์คลาสสิคร่วมสมัย ดูเคร่งขรึมและเรีบหรูในเวลาเดียวกัน
สาธารณูปโภค : พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ ได้มาเป็นอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ขนาดใหญ่ ฟังก์ชันจัดมาให้ครบครันตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ , ห้องฟิตเนส หรือ Meeting Room แชร์กับเพื่อนบ้าน 86 ยูนิตได้กำลังดี นอกจากนี้ยังมีส่วนกลางสำหรับน้องหมาน้องแมวอีกด้วยค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 18-30 ล้านบาท, 9 มกราคม 2568
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์หลากหลาย
- ความปลอดภัย 8/10 – ระบบสแกนป้ายทะเบียนในการเข้า-ออกโครงการ , Liv-24 พร้อมกล้อง CCTV , Magnetic Sensor และ Motion Sensor
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ออกแบบสวยน่าใช้งาน จัดพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน จอดรถสูงสุด 4 คัน
- วัสดุ 8/10 – ให้มาตอบโจทย์กับการใช้งาน ได้ Solar Cell ทุกหลัง โครงสร้างเป็น Precast
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – โครงการปลูกต้นไม้ตลอดแนว ออกแบบ Landscape ได้ดีน่าใช้งาน
- สาธารณูปโภค 7.5 /10 – อาคาร Clubhouse 2 ชั้น สระว่ายน้ำขนาด Half Olympic
- 7.90 / 10.00
Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) เหมาะกับใคร
โครงการ Setthasiri Maha Chesadabodin Bridge (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวบนทำเลติดถนนใหญ่ วิ่งเข้าถนนราชพฤกษ์และถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีง่าย ชอบทำเลที่อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ให้ความสำคัญกับแบรนด์ใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือ ชื่นชอบส่วนกลางบรรยากาศสไตล์คลาสสิค ต้องการพื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะและมีฟังก์ชันรองรับผู้สูงอายุ และต้องการบ้านที่มีที่จอดรถมากสุด 4 คัน มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 15.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อน 111,300 บาทต่อเดือนค่ะ
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่