..วันนี้เราพาไปรีวิวโครงการ SENA VIVA Wongwaen-Bangbuathong (เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง) ที่เป็นโปรดักส์บ้านแฝดและทาวน์โฮมสไตล์ฝรั่งเศสจากเสนา โดยเจ้านี้จะขึ้นชื่อในเรื่อง Zero Energy House หรือบ้านประหยัดพลังงานนั่นเองครับ ดังนั้นใครที่เป็นสายรักษ์โลกหรือไม่อยากจ่ายค่าไฟแพงๆทุกเดือนก็ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังมีราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้ไม่ยากนักในย่านนี้อีกด้วย ส่วนความน่าสนใจอื่นๆของโครงการก็จะมีดังต่อไปนี้เลยครับ
- บ้านแฝดและทาวน์โฮมสไตล์ฝรั่งเศส ติดตั้งแผง Solar Cell บนหลังคาทุกหลัง ช่วยประหยัดค่าไฟในตอนกลางวัน
- มีแบบบ้านให้เลือกเยอะ ทั้งบ้านฟังก์ชันยืดหยุ่นที่มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้ และบ้านแบบใหม่ที่ฟังก์ชันเป็นสัดส่วนใช้งานได้ง่ายมากขึ้น
- ทำเลใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก และอยู่ในโซนที่ราคาบ้านจับต้องได้ไม่ยากนัก
ข้อมูลโครงการ
SENA VIVA Wongwaen-Bangbuathong (เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง) ณ วันที่ 9 เมษายน 2567
ชื่อโครงการ | SENA VIVA Wongwaen-Bangbuathong (เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนบางบัวทอง-สุพรรณ (340) อำเภอบางบัวทอง |
ที่ดิน | 35-0-7.9 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 303 ยูนิต (แบ่งเป็น บ้านแฝด 98 ยูนิต / ทาวน์โฮม 205 ยูนิต) |
ประเภทบ้าน |
|
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 50,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี n/a |
เว็บไซต์โครงการ | https://pg.thinkofliving.com/qxqifp7 |
Call Center | 1175#83 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก สามารถขับเข้า-ออกเมืองไกลๆได้
- อยู่ในโซนของบ้านที่ราคาจับต้องได้ไม่ยาก เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด
- มีบริการรถรับ-ส่งในอนาคต ไปขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางที่สะดวกของย่าน
พิกัด Google Maps : 13.948799, 100.417500
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง ตั้งอยู่บนถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ใกล้กับจุดตัดของวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งหากใครที่เน้นใช้งานวงแหวนในการเดินทางเข้า-ออกเมืองไกลๆอยู่แล้วจะสะดวกมากครับ เพราะเราสามารถออกจากทางโครงการและเลี้ยวซ้าย เพื่อเข้าสู่ทางคู่ขนานได้เลย แต่ถ้าใครจะเข้าเมืองก็อาจต้องใช้เวลาไปกลับรถมาก่อนสักนิดนึง เนื่องจากทางเข้าโครงการจะอยู่เลยทางขึ้นสะพานข้ามแยกกาญจนามาแล้วหน่อยนึงนั่นเอง
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ก็จะอยู่บนเส้นกาญจนาภิเษกเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Central WestGate / BigC / Makro / Lotus’s รวมถึงแถวๆนี้เราก็จะเจอพวก Community Mall ตามปั๊มน้ำมันค่อนข้างเยอะอีกด้วย (อย่างฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับโครงการก็มีนะ) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแวะจับจ่ายใช้สอยกันได้ครับ
และหากเราลองใช้ถนนกาญจนาเป็นจุดตัดตรงกลาง โครงการจัดสรรที่อยู่ทางด้านขวาหรือฝั่งตัวเมือง ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีราคาเริ่มสูงกว่า 4 – 5 ล้าน และถ้าเป็นทาวน์โฮมก็จะเริ่มประมาณเกือบๆ 3 ล้านเลยทีเดียว แต่ถ้าเราข้ามมาทางฝั่งซ้ายด้านนอกเมือง เราจะเจอโปรดักส์ที่จับต้องได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะทาวน์โฮมจะพบเห็นได้เยอะขึ้น เริ่มตั้งแต่ล้านปลายๆไปจนถึง 2 ล้านกว่าบาท ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในโซนนี้ แต่มีงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด ก็มักจะต้องมองหาบ้านที่อยู่ทางฝั่งเดียวกับที่โครงการของเสนาตั้งอยู่นั่นเองครับ
อย่างที่บอกครับว่าข้อจำกัดหนึ่งของที่ตั้งโครงการคือ ทางเข้าจะอยู่เลยจุดขึ้นสะพานข้ามแยกถนนกาญจนาภิเษกมาแล้วนิดนึง ทำให้การขับรถเข้าเมืองก็อาจต้องใช้เวลาในการไปกลับรถอยู่สักหน่อย โดยเราสามารถขับได้ 2 ทางคือ
- ขับรถเลียบถนนลากค้อน (ถนนเลียบคลอง) เพื่อลัดไปออกถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง และตรงเข้าเมืองไปทางรังสิต-ปทุมธานีได้
- กลับรถใต้ถนนกาญจนาภิเษก เพื่อวนกลับมาเลี้ยวเข้าสู่ทางหลัก ซึ่งจะเป็นถนนเส้นใหญ่ขับรถสะดวก และสามารถเข้าเมืองได้เหมือนกัน
อีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกอีกหนึ่งเส้นทาง คือการไปขึ้นรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงที่สถานี คลองบางไผ่ ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 8.9 km. ตรงใกล้ๆกับห้างเซ็นทรัลเวสเกต และในอนาคตทางโครงการก็จะมีบริการ Shuttle Service รับ-ส่งลูกบ้านไปที่รถไฟฟ้าให้อีกด้วยครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรของเสนาด้วยกันเองครับ โดยจะมีถนนภาระจำยอมแยกเข้าไปด้านใน ทำให้มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวจากถนนใหญ่ด้านนอก ส่วนด้านอื่นๆก็จะประกอบด้วย
- ทิศเหนือ : ติดกับ ที่อยู่อาศัย
- ทิศใต้ : ติดกับ ที่อยู่อาศัย
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่างและดูโฮม บางบัวทอง
- ทิศตะวันตก : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนภาระจำยอม และที่อยู่อาศัย
บรรยากาศของถนนด้านหน้าโครงการ จะเป็นทางที่กำลังจะไปเชื่อมต่อกับถนนทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก ซึ่งจะเลยทางขึ้นสะพานข้ามแยกมาแล้ว ก็เลยมีรถผ่านไม่ค่อยเยอะ การเข้า-ออกจึงสะดวกครับ
ทางเข้าของเสนาด้านหน้าเป็นวงเวียนขนาดใหญ่ ที่จะแยกออกไปยังโครงการต่างๆได้ และซ้ายมือสุดจะเป็นที่ตั้งของ Sale Gallery ซึ่งหากใครสนใจโครงการไหนของเสนา ก็สามารถเข้ามาติดต่อได้ที่นี่ทีเดียวเลยครับ
ส่วนทางเข้าหลักของโครงการ เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง จะเป็นซุ้มประตูที่อยู่ทางด้านซ้าย โดยจะมี รปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชม. และคอยสอบถามคนที่ผ่านเข้า-ออกเพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะเข้าไปด้านในและเจอกับซุ้มประตูหลักอีกที ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้นเหมือนเป็น Double Security Gate 2 ชั้นเลยครับ
ซึ่งด้านในจะเป็นถนนภาระจำยอมที่ใช้งานร่วมกันของโครงการในเครือเสนา เป็นถนนกว้าง 4 เลน ขับสวนกันได้สะดวก พร้อมปลูกต้นไม้ประดับระหว่างทาง ส่วนโครงการ เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง จะอยู่ด้านในสุดทางลึกประมาณ 600 m.
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- แม็คโคร บางใหญ่ ~ 7 km.
- เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต ~ 10.8 km.
- อิเกีย บางใหญ่ ~ 10.8 km.
- โฮมโปร ชัยพฤกษ์ ~ 11.8 km.
- บิ๊กซี บางใหญ่ ~ 14.7 km.
- เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ ~ 21.4 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 ~ 7.9 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ~ 8.7 km.
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคล สุวรรณภูมิ ~ 20.9 km.
สถานที่อื่นๆ
- MRT สายสีม่วง สถานีคลองบางไผ่ ~ 8.9 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- แบ่งโซนบ้านแฝดและทาวน์โฮมแยกออกจากกันชัดเจน
- จัดพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลาง สามารถมาใช้งานได้ง่าย
- ด้านในมีการกระจายพื้นที่สีเขียวเป็นจุดเล็กๆไว้หลายจุด ทำให้บ้านฝั่งตรงข้ามมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- บ้านทุกหลังหันหน้าทิศเหนือ-ใต้ สามารถรับลมได้ดี
โครงการ เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง มีเนื้อที่ทั้งหมด 35-0-7.9 ไร่ และมีเพื่อนบ้านทั้งหมด 303 ยูนิต (แบ่งเป็น บ้านแฝด 98 ยูนิต / ทาวน์โฮม 205 ยูนิต) โดยจะแบ่งโซนกันชัดเจนระหว่างบ้านแฝดและทาวน์โฮมครับ และบ้านในเฟสแรกที่เปิดขายปัจจุบันจะอยู่บริเวณตรงกลางรอบๆส่วนกลาง ซึ่งจะเป็นแบบบ้านดั้งเดิมของโครงการนี้ มีข้อดีคือ จะเป็นเฟสที่เข้าถึงได้ง่ายและมาใช้งาน Facilities ได้สะดวกมาก รวมถึงบ้านหลายๆหลังยังได้วิวพื้นที่สวนสีเขียวของสวนขนาดใหญ่อีกด้วย
ส่วนบ้านในเฟสใหม่ที่จะเปิดขายในอนาคตจะเป็นแบบบ้านใหม่ทั้งหมด โดยจะแบ่งเป็นซอยแยกย่อยที่เชื่อมต่อถึงกัน ทำให้หลายๆซอยสามารถขับรถวนได้ง่าย (ไม่ต้องเสียเวลากลับรถ) แต่โซนที่น่าสนใจจริงๆผมยกให้บ้านที่อยู่ตรงข้ามพื้นที่สีเขียว ซึ่งจะเป็นจุดเล็กๆกระจายอยู่ภายในโครงการ เพราะนอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องหันหน้าบ้านชนกับใครแล้ว ยังได้ความสดชื่นจากต้นไม้หน้าบ้านเพิ่มขึ้นอีกด้วย รวมถึงบ้านทุกหลังก็จะหันหน้าไปทิศเหนือ-ใต้ ทำให้สามารถรับลมและระบายอากาศได้ดีครับ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการจะกั้นด้วยไม้กั้นกระดก และแบ่งแยกทางเข้า-ออกชัดเจน โดยจะมีพี่ รปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชม. อยู่ในป้อมตรงกลาง
การเข้า-ออกจะใช้เป็นสัญญาณ Bluetooth ที่ลูกบ้านสามารถขับผ่านได้สะดวกเลย มาพร้อมกับกล้อง CCTV เพื่อความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง แต่ถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรก่อนตามปกติ
เมื่อเข้ามาด้านในเราจะเจอกับวงเวียนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นทางแยกระหว่างโซนของทาวน์โฮมทางซ้าย และโซนของบ้านแฝดทางด้านขวาครับ ส่วนตรงกลางก็คือ Clubhouse และพื้นที่สีเขียวหลักของโครงการนั่นเอง
อาคาร Clubhouse จะเป็นอาคารชั้นเดียว ซึ่งคนที่จะมาใช้งานก็สามารถจอดรถริมถนนรอบๆได้เลยครับ เพราะมีที่ว่างเหลือเฟือเลย
ภายในจะเป็นห้อง Fitness ที่มีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบ และลู่วิ่งก็จะหันออกไปรับวิวสระว่ายน้ำ+สวนสีเขียว โดยผ่านกระจกที่อยู่ด้านข้างได้แบบนี้ ทำให้สามารถชมวิวเพลินๆในระหว่างออกกำลังกายไปได้ครับ
ส่วนด้านข้างก็จะเป็นทางเดินริมสระน้ำ ที่จะเชื่อมต่อไปยังส่วนอาบน้ำและห้องน้ำด้านหลังได้ครับ
ภายในจะมีการแยกชาย-หญิงชัดเจน แต่อาจไม่ได้มีห้องอาบน้ำด้านในนะครับ มีเฉพาะส่วนล้างตัวก่อนลงสระด้านนอกเท่านั้น
สระว่ายน้ำเป็นแบบกลางแจ้ง ขนาดประมาณ 5.8 x 17.5 m. พอจะว่ายออกกำลังกายจริงจังได้ระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถว่ายไปและชมวิวสวนข้างๆไปด้วยได้ (วิวค่อนข้างเปิดโล่ง มองเห็นคนสัญจรผ่านไป-มา และมาทำกิจกรรมข้างๆ)
แต่ผมแนะนำให้มาใช้งานตอนแดดร่มๆหน่อยจะดี รวมถึงจะมีการแยกสระเด็กเอาไว้ให้ด้วย (อนาคตอาจมี Day Bed มาตั้งให้นั่งพักผ่อนเพิ่มในภายหลังนะครับ)
สวนที่อยู่ด้านข้างจะเป็นสนามหญ้าและสนามเด็กเล่น ซึ่งมีอุปกรณ์กลางแจ้งให้น้องๆได้มาเล่นสนุกและออกกำลังกายกันได้ โดยจะปูพื้นเป็นยางกันกระแทก เพื่อลดอาการบาดเจ็บเวลาหกล้มนั่นเองครับ
ถัดมาบริเวณด้านหลังอาคาร Clubhouse จะเป็นสวนสาธารณะขนาดประมาณ 1 ไร่ ซึ่งตรงกลางจะเป็นสนามหญ้าโล่งๆ ที่เอาไว้จัดกิจกรรมต่างๆในวันสำคัญได้ ส่วนรอบๆจะเป็นทางเดินให้มาเดิน/วิ่งออกกำลังกายกันได้ครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5.8 x 17.5 m.
- แบ่งเป็นสระเด็ก 2.45 x 2.5 m.
- ห้องออกกำลังกาย
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
- เข้า-ออกโครงการด้วยระบบสัญญาณ Bluetooth ระยะไกล
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
แบบบ้าน
Highlights :
- ติดตั้งแผง Solar Cell บนหลังคาของบ้านทุกหลัง ช่วยลดการใช้พลังงานในตอนกลางวัน
- บ้านแฝดและทาวน์โฮมแบบเก่า จะมีห้องหรือพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้งาน จึงมีความยืดหยุ่น สามารถเพิ่มฟังก์ชันที่ต้องการให้ใช้งานได้
- บ้านแฝดและทาวน์โฮมแบบใหม่ จะมีการอัพเกรดวัสดุและโครงสร้างให้ดีมากขึ้น รวมถึงพัฒนาฟังก์ชันให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น (แลกกับการลดทอนพื้นที่อเนกประสงค์ออกไป)
- ลานซักล้างหลังบ้านของทาวน์โฮม จะลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน รองรับการต่อเติมในอนาคต
- บ้านแฝดจะเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านมาให้ (CCTV และ Magnetic Sensor)
แบบบ้านของโครงการ เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง จะมีทั้งหมด 4 แบบ แบ่งเป็นบ้านแฝดและทาวน์โฮมอย่างละ 2 Type ซึ่งเฟสใหม่จะมาพร้อมกับแบบบ้านฟังก์ชันใหม่ ที่ได้ปรับปรุงและพัฒนามาจากแบบเดิม แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ของความเป็นหน้าตาแบบสไตล์ฝรั่งเศส ที่ดูทันสมัยเอาไว้เหมือนเดิมครับ ประกอบด้วย
- Type EURO-5 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 18.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ - Type TH-E (New Type) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 18.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Type WH-S35 บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ - Type CT02 (New Type) บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 114.41 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องครัว
โครงสร้างและวัสดุหลักของบ้าน :
ในส่วนนี้อาจต้องมีการอธิบายเพิ่มเติมหน่อยว่า จะมีรายละเอียดที่แตกต่างเล็กน้อยของบ้านแบบใหม่ ซึ่งจะมีการอัพเกรดวัสดุบางอย่างให้ดีมากยิ่งขึ้น (โดยปัจจุบันผมพอจะทราบมาเป็นจุดหลักๆครับ แต่วัสดุบางอย่างหรือบางจุดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับทางโครงการได้อีกครั้ง)
- โครงสร้างบ้าน : Precast หรือผนังคอนกรีตเสริมเหล็กแบบหล่อในที่ มีความแข็งแรงทนทาน และป้องกันเสียงได้ดี เหมาะกับโปรดักส์บ้านแฝดกับทาวน์โฮมที่มีผนังติดกัน อาจมีข้อจำกัดในเรื่องการทุบ/เจาะหรือต่อเติมจะทำได้ยากกว่าผนังปกติ แนะนำให้ปรึกษาช่างโครงการเพิ่มเติมครับ
- โครงสร้างบันได : แบบบ้านเก่า = โครงสร้างเหล็ก / แบบบ้านใหม่ = คอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวไม้เทียม (conwood)
- พื้นที่จอดรถ : ลงเสาเข็มให้ลึกเท่ากับตัวบ้านจนถึงใต้ชายคา ที่เหลือจะเป็น Approach Slab มาจนถึงประตูรั้ว
- ลานซักล้าง : บ้านแฝด = Slab on Ground / ทาวน์โฮม = Slab on Beam ลงเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm.
- พื้นชั้น 2 : กระเบื้องยาง SPC แบบ Click lock ลายไม้ธรรมชาติ
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : แบบบ้านเก่า = Mogen / แบบบ้านใหม่ = Cotto
- ระบบรักษาความปลอดภัย : กล้อง CCTV และ Magnetic Sensor (เฉพาะบ้านแฝด)
- ระบบ Zero Energy House : ติดตั้ง Solar Cell Rooftop ลดการใช้พลังงานของบ้านในตอนกลางวันของทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮมทุกหลัง
- Type WH-S35 บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
แปลนชั้น 1 ของบ้านแฝดจะมีจุดเด่นคือ ‘ห้องอเนกประสงค์’ ที่เค้าจะกั้นผนังเป็นสัดส่วนพร้อมใช้งานมาให้เลยครับ ซึ่งเราสามารถทำเป็นห้องอะไรก็ได้ตาม Lifestyle ของเรา เช่น ห้องทำงาน ห้องดูหนังเล่นเกมส์ หรือจะทำเป็นห้องนอนชั้นล่างเพิ่มก็ได้ ส่วนฟังก์ชันอื่นๆก็จะเป็นมาตรฐานของแบบบ้านทั่วไปคือ เราจะได้ Common Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกันทั้ง Living + Dining + Kitchen นั่นหมายความว่าเราจะได้เป็นครัวเปิดในบ้าน แลกกับบรรยากาศความกว้างขวางโปร่งโล่ง แต่ถ้าใครชอบทำอาหารจริงจังก็อาจต่อเติมครัวไทยหลังบ้านเพิ่มเติมได้ครับ
แปลนชั้น 2 จุดเด่นคือ Master Bedroom ซึ่งจะมีขนาดใหญ่และยังสามารถเข้า-ออกห้องน้ำจากด้านในได้อีกด้วย จึงทำให้มีความสะดวกในการใช้งานและมีความเป็นส่วนตัว โดยห้องน้ำนี้ยังสามารถเข้าได้จาก 2 ทาง เพื่อแชร์การใช้งานร่วมกับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องที่อยู่ด้านหลังบ้านได้อีกด้วย ภาพรวมจึงเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง มีลูก 1 – 2 คนกำลังดี เพียงแต่อาจต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน แลกกับเราจะได้ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในแต่ละห้องที่ใหญ่และใช้งานได้ดีขึ้นนั่นเองครับ
สำหรับประตูรั้วหน้าบ้านเราจะได้เป็นเหล็กรางเลื่อนที่ใช้งานง่าย หรือถ้าใครที่ต้องการความสะดวกมากขึ้นก็ยังสามารถติดตั้งประตูอัตโนมัติเพิ่มเติมได้อีกด้วย (ปล. อาจต้องสอบถามโครงการอีกครั้ง ว่าจะมี Junction สำหรับติดประตูไฟฟ้ามาให้เป็นมาตรฐานด้วยหรือเปล่านะครับ)
ที่จอดรถกว้าง 5.15 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันพอดีๆ ซึ่งพื้นจะลงเสาเข็มมาให้จนถึงชายคาของบ้านตรงแนวเสา จากนั้นจะตัด Joint แยกโครงสร้างพื้นส่วนที่เหลือเป็นแบบ Approach Slab มาจนถึงประตูรั้ว เพื่อที่เวลาเกิดการทรุดตัวในอนาคตจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลัก
อีกหนึ่งจุดที่ผมสังเกตได้คือ บริเวณใต้ชายคาจะมีการเซาะร่องเอาไว้ เพื่อป้องกันน้ำฝนไหลย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งจะมีอยู่ทั้ง 2 ชั้นเลยครับ ถือว่าเก็บรายละเอียดมาได้ดี แต่ถ้าใครอยากจอดรถในร่มแบบทั้งคัน ก็สามารถต่อเติมหลังคาเพิ่มเติมได้นะครับ
นอกจากนี้บริเวณพื้นที่จอดรถยังมีตู้ไฟของระบบ Solar Cell ที่ติดตั้งอยู่บนหลังคาไว้ด้วย ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟในตอนกลางวันได้เป็นอย่างดี (เป็นระบบ On Grid ไม่ได้มีแบตเตอรี่เก็บไฟนะครับ) ถือเป็นหนึ่งจุดเด่นของบ้าน Sena ที่เน้นเรื่อง Zero Energy House นั่นเอง รวมถึงตรงพื้นที่จอดรถนี้ก็จะมีการติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อความปลอดภัยเอาไว้ด้วย
อีกมุมหนึ่งของบ้านจะเป็นถังขยะที่สามารถเปิดใช้งานได้สะดวกทั้ง 2 ด้าน ซึ่งจะติดตั้งมาให้เรียบร้อยแบบนี้เลยครับ
ทางเข้าบ้านหลักจะมีชานพักให้เราสามารถถอด-ใส่รองเท้าตรงนี้ได้สะดวก รวมถึงยังสามารถวางพวกชั้นเก็บรองเท้าบริเวณนี้ได้ด้วย
และประตูทางเข้าจะเป็นกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีขาว + กระจกเขียวตัดแสง มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัย Magnetic Sensor ที่ติดตั้งตามประตู-หน้าต่างชั้น 1 ของบ้านแฝดทั้งหลัง
เข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อพื้นที่ทุกฟังก์ชันตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน จึงทำให้ภายในมีความกว้างขวางและโปร่งโล่งเป็นอย่างดี
อีกทั้งผนังทั้ง 3 ด้านยังเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ จึงให้บรรยากาศไม่ต่างจากอยู่บ้านเดี่ยวหลังหนึ่งเลยครับ ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว และฝ้าเพดานสูง 2.7 m.
บริเวณด้านหน้าสุดจะเป็น Living Area ที่เราสามารถนั่งเล่นหรือรับแขกก็ได้ โดยจะมีระยะดูทีวีกว้าง 3.7 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ
ถัดเข้ามาบริเวณกลางบ้านจะสามารถวางโต๊ะทานอาหารได้ 4 – 6 ที่นั่ง ซึ่งจะอยู่ใกล้กับมุม Kitchen ที่ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ และมีท่องานระบบต่างๆเตรียมไว้ให้เราสามารถ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเพิ่มเติมได้เอง แน่นอนว่าจะเป็นครัวเปิดเชื่อมต่อกับส่วนอื่นในบ้าน ก็เลยอาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังบ่อยๆเท่าไหร่นัก
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือ ประตูกระจกบานเลื่อนที่อยู่ตรงกลางบ้านใกล้กับโต๊ะทานข้าว จะสามารถนั่งมองดูสวนข้างบ้านเพลินๆ หรือออกไปเดินเล่นจากทางนี้ได้นั่นเอง (ของจริงจะปูพื้นหญ้ามาให้เป็นมาตรฐาน สามารถปลูกต้นไม้จัดสวนได้เองตามต้องการ)
มาถึงส่วนที่เป็น Highlight ของบ้านหลังนี้คือ ‘ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง’ ซึ่งเค้าจะกั้นห้องมาให้แบบนี้เลยครับ โดยผนังจะเน้นเป็นกระจกทั้งประตูและกระจกเข้ามุม เพื่อความโปร่งโล่งของฟังก์ชันในบ้าน
ภายในมีขนาด 2.4 x 2.8 m. สามารถจัดเป็นห้องอะไรก็ได้ตามต้องการ เช่น ห้องทำงาน ห้องดูหนัง หรือจะทำห้องนอนชั้นล่างก็ได้ เพราะขนาดห้องพอจะวางเตียง 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้แบบพอดีๆ ใครที่อาจมีผู้สูงอายุที่ขึ้นบันไดไม่ไหวก็ค่อนข้างเหมาะเลยครับ
ติดกันเป็นห้องน้ำที่อยู่ใต้บันได ภายในจะมีฟังก์ชันพื้นที่อาบน้ำเตรียมเอาไว้ด้วย เผื่อใครที่ทำห้องชั้นล่างเป็นห้องนอนก็สามารถมาใช้งานที่นี่ได้เลย
ภายในมีขนาดกว้างด้านละ 1 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Mogen ให้ใช้งานครบ และมีช่องหน้าต่างให้ระบายอากาศได้ในตัวด้วย
ประตูหลังบ้านจะสามารถเปิดเชื่อมต่อไปยังลานซักล้างได้ครับ โดยภายนอกจะเป็นพื้นแบบ Slab on Ground แยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้าน ซึ่งใครที่ชอบทำอาหารจริงจังบ่อยๆ ก็สามารถต่อเติมครัวไทยที่ด้านนอกแบบนี้ได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าตามปกติก็ได้นะ
บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่บริเวณกลางบ้านเลยครับ โดยสำหรับบ้านแบบเดิมในเฟสแรกนี้จะเป็นโครงสร้างเหล็ก กว้างประมาณ 90 cm. และเปิดผิวด้วยไม้เทียม (conwood)
ปล. แต่ถ้าเป็นบ้านแบบใหม่จะถูกอัพเกรดขึ้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งจะมีความแข็งแรงมากกว่า และไม่มีเสียงดังรบกวนเวลาใช้งานด้วยครับ
ขึ้นมาชั้น 2 เราจะเจอประตูแยกออกไป 4 บาน พื้นชั้นบนจะเป็น SPC ลายไม้ และมีฝ้าเพดานสูง 3 m. ทำให้รู้สึกโปร่งโล่ง
เริ่มกันด้วย Master Bedroom ที่จะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน ภายในมีขนาดใหญ่และกว้างเท่ากับตัวบ้านเลยครับ ซึ่งผมวัดมาได้อยู่ที่ 6.55 x 3 m. เราจึงสามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานให้เป็นสัดส่วนได้
ซ้ายมือของบ้านตัวอย่างจัดเป็นเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ซึ่งมีพื้นที่รอบๆเตียงเหลือให้ใช้งานลุกจากเตียงได้สบายๆ รวมถึงปลายเตียงก็ยังวางโซฟาและจัดเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีเพิ่มเติมได้อีกด้วย ส่วนทางหน้าบ้านจะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ที่ช่วยทำให้ห้องสว่างโปร่งโล่งและเปิดระบายอากาศได้ครับ
อีกด้านหนึ่งของห้องสามารถจัดเป็นมุมแต่งตัวได้แบบนี้เลย
ด้านข้างจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่เปิดเชื่อมต่อไปสู่ระเบียงภายนอกได้ โดยจะมีขนาดกว้าง 2 x 0.6 m. พอจะให้ออกไปยืนสูดอากาศ หรือชมวิวได้พอดีๆ (ขนาดไม่ใหญ่มาก เพราะต้องการเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในเป็นหลัก)
ติดกันจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งจุดเด่นของห้อง Master Bedroom คือจะมีประตูที่สามารถเข้า-ออกได้สะดวกจากในห้องเลย ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้น
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ซึ่งเราจะได้สุขภัณฑ์จาก Mogen ครบเหมือนบ้านตัวอย่างเลยครับ โดยจุดเด่นของห้องนี้ก็คือ จะมีประตูเข้า-ออกได้ 2 ทาง เพื่อแชร์การใช้งานร่วมกับห้องนอนเล็กได้ด้วยนั่นเอง
พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างประมาณ 90 x 90 cm. สามารถใช้งานได้พอดีๆ โดยจะมีขอบพื้นที่ยกสูงขึ้นมาเยอะสักหน่อย เวลาใช้งานอาจต้องระวังสะดุดกันนิดนึงนะครับ และบริเวณด้านข้างก็จะมีการเว้นพื้นที่ให้ระบายน้ำลงท่อได้สะดวกแบบนี้ด้วย
รวมถึงเราอาจต้องติดตั้งฉากกั้นหรือม่านพลาสติกเพิ่มเติมเองนะ แต่เค้าจะมี Junction Box สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้พร้อมแล้ว สามารถติดเพิ่มได้เลยถ้าต้องการ
ต่อไปจะเป็นห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องที่อยู่โซนหลังบ้าน
เริ่มจากห้องนอนทางขวามือที่อยู่ติดกับห้องน้ำ ภายในมีขนาดกว้าง 3.25 x 2.6 m. สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต และยังมีพื้นที่เหลือรอบๆให้ใช้งานได้พอดีๆ
ส่วนห้องนอนที่อยู่ติดกันก็จะมีขนาดห้องที่เท่ากันเลยครับ ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงสามารถรองรับครอบครัวที่อาจมีลูก 1 – 2 คนได้เลย หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็อาจทำอีกห้องเป็นห้องพระและห้องอื่นๆก็ได้ตามต้องการ
- Type EURO-5 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 18.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
แปลนชั้น 1 จะมีจุดเด่นคือ ‘พื้นที่อเนกประสงค์’ ซึ่งเราสามารถทำเป็นฟังก์ชันอะไรก็ได้ตามต้องการ เช่น ครัว ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน และห้องนอนชั้นล่าง เป็นต้น โดยหากเราต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถกั้นผนังห้องเพิ่มเติมเองได้ครับ นอกจากนี้เรายังสามารถต่อเติมครัวไทยหลังบ้านเพิ่มเติมได้อีกด้วย เพราะโครงสร้างพื้นจะมีการลงเสาเข็มมาให้เพื่อรองรับไว้อยู่แล้วนั่นเอง
แปลนชั้น 2 จะมีฟังก์ชันที่คล้ายๆกับบ้านแฝดก่อนหน้านี้เลยครับ โดยจุดเด่นก็คือ Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่และกว้างเท่ากับตัวบ้านเลย และมีห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง เพียงแต่อาจต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน และจะลดฟังก์ชันระเบียงออกไป เพื่อเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องให้มีขนาดใหญ่และกว้างขวางมากที่สุดครับ
ที่จอดรถจะกว้าง 2.8 m. สามารถจอดรถ 1 คันได้สบายๆ โครงสร้างมีการตัด Joint แยกกันเหมือนเดิม รวมถึงมีตู้ไฟของระบบ Solar Cell ด้วยครับ
เข้ามาด้านในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อพื้นที่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน โดยฟังก์ชันแรกสุดจะเป็น Living Area ให้นั่งเล่นดูทีวีหรือรับแขกได้ มีระยะกว้าง 2.6 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้เลย ส่วนพื้นก็ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และได้ฝ้าเพดานสูง 2.6 m.
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 – 6 ที่นั่ง ซึ่งจะอยู่ติดกับช่องแสง 2 ด้านแบบนี้เลย โดยที่เราจะรู้สึกได้ชัดเจนว่า โซนหลังบ้านจะมีความกว้างขวางมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียพื้นที่ให้กับการจอดรถเหมือนตรงหน้าบ้านแล้วนั่นเอง
อีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านหลังนี้ก็คือ ‘พื้นที่อเนกประสงค์’ ซึ่งเราสามารถจัดเป็นมุมอะไรก็ได้ตามต้องการ เช่น ครัว ห้องทำงาน ห้องดูหนังเล่นเกมส์ หรือห้องนอนชั้นล่าง เป็นต้น
โดยจะเป็นพื้นที่โล่งๆที่หากต้องการความเป็นสัดส่วน หรือความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถกั้นผนังเพิ่มเติมเองได้ ขนาดประมาณ 2.65 x 2.3 m. (แนะนำเป็นผนังกระจก จะได้ยังคงความโปร่งโล่งครับ)
ส่วนบริเวณหลังบ้านของจริงจะเป็นพื้นปูน Outdoor แบบปกติ ซึ่งจุดเด่นก็คือ โครงสร้างพื้นจะเป็น Slab on Beam ตั้งอยู่บนเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน จึงสามารถรองรับการต่อเติมเพิ่มได้ครับ ซึ่งบ้านตัวอย่างก็ได้ทำครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่างแบบนี้เลย
ถัดมาตรงกลางบ้านจะเป็นห้องน้ำที่หลบมุมอยู่ใต้บันได ทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากหน้าบ้านเพิ่มอีกนิดหน่อย
ภายในมีขนาดกว้างด้านละ 1 m. ให้ใช้งานได้พอดีๆ มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Mogen และมี Shower เผื่อสำหรับรองรับการทำห้องนอนชั้นล่างเพิ่มเติมด้วย หรือในช่วงเวลาเร่งด่วนก็ยังแชร์การใช้งานของห้องนอนชั้นบนลงมาด้านล่างได้เหมือนกันครับ
และเช่นเดียวกับกรณีของบ้านแฝดครับ โครงสร้างบันไดของทาวน์โฮมในแบบเดิมนี้จะเป็นโครงสร้างเหล็ก ส่วนถ้าเป็นทาวน์โฮมแบบใหม่จะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก
เพียงแต่ตอนใช้งานก็อาจต้องระวังชานพักบันไดขั้นสามเหลี่ยมด้วยสักหน่อย ดีที่เค้ามีราวจับให้เพื่อความปลอดภัยตลอดทาง รวมถึงยังมีการคิดเผื่อด้วยการปาดมุมฝ้าเพดาน เพื่อเวลาเดินขึ้นบันไดจะได้ไม่ติดศีรษะนั่นเองครับ
ขึ้นมาบนชั้น 2 เราก็จะเจอกับโถงบันไดและประตู 4 บานเหมือนเดิมครับ
เริ่มกันที่ Master Bedroom ภายในมีขนาดกว้าง 5.5 x 2.65 m. เท่ากับตัวบ้านเลยครับ ซึ่งเราสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้พอดีๆ และพอจะมีพื้นที่ข้างเตียงให้ใช้งานได้ด้วย โดยด้านข้างก็จะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่เพื่อความสว่างโปร่งโล่ง
ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นมุมสำหรับแต่งตัว ที่เราสามารถใช้งานพื้นที่ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น โดยทำเป็นตู้เสื้อผ้ารูปตัว L ได้เลย เพราะไม่ต้องเว้นพื้นที่ให้กับประตูเหมือนบ้านแฝดก่อนหน้านี้แล้วนั่นเอง
ฟังก์ชันที่เหลือก็คือ ห้องน้ำ และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องทางด้านหลังบ้าน
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.8 x 1.25 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.25 x 0.7 m. ซึ่งเราอาจต้องติดฉากกั้นหรือม่านพลาสติกเพิ่มเติมเอง และห้องน้ำนี้จะแชร์การใช้งานร่วมกันของห้องนอนทั้ง 3 ห้องด้านบนนี้เลยครับ
ติดกันจะเป็นห้องนอนเล็กที่ภายในมีขนาด 2.7 x 3.15 m. เหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนของลูกคนโตครับ
โดยบ้านตัวอย่างได้วางเตียง 5 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งหากวางชิดผนังด้านหนึ่งก็พอจะมีพื้นที่ให้ใช้สอยเหลือ สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอเนกประสงค์ได้แบบนี้เลย
สุดท้ายจะเป็นห้องนอนเล็กสุดของบ้าน ภายในมีขนาดกว้าง 2.7 x 2.6 m. พอจะวางเตียง 3.5 ฟุตได้พอดีๆ และอีกด้านหนึ่งก็มีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าได้อีกด้วยครับ โดยหากใครที่มีลูกคนเดียวก็อาจปรับห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ เช่น ห้องพระ ห้องทำงาน เป็นต้น
- Type CT02 (New Type) บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 114.41 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องครัว
แปลนชั้น 1 ของบ้านแฝดแบบใหม่จะมีจุดเด่นคือ ‘ครัวปิด’ ซึ่งเพิ่มเข้ามาแทนห้องอเนกประสงค์ของแบบเดิมก่อนหน้านี้ ทำให้เหมาะกับการทำอาหารได้จริงจังมากขึ้น และลานซักล้างก็จะย้ายมาอยู่ด้านข้างบ้านด้วยครับ ทำให้อยู่ใกล้กับพื้นที่จอดรถ และเราสามารถขนของมาเก็บในครัวได้สะดวกโดยตรงเลยนั่นเอง
รวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายใน Common Area ก็มีขนาดใหญ่ และใช้งานได้ต่อเนื่องมากขึ้นด้วยครับ แต่จุดที่ผมชอบจริงๆคือ บันไดและห้องน้ำจะมีโถงทางเดินแยกฟังก์ชันออกไปจาก Common Area ทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากบริเวณโซนหน้าบ้านมากยิ่งขึ้น เวลามีแขกมาหาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเห็นคนเดินขึ้น-ลง หรือจะดูไม่เรียบร้อยมากนัก
แปลนชั้น 2 จะมีจุดเด่นคือ ‘ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom’ ทำให้มีความสะดวกและเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้น โดยลดฟังก์ชันระเบียงของแบบเดิมออกไป ทำให้ใช้สอยพื้นที่ภายในได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ส่วนห้องนอนเล็กก็จะได้ประโยชน์ตรงที่ การแชร์ห้องน้ำจะลดลงเหลือเพียง 2 ห้อง ทำให้ในช่วงเวลาเร่งด่วนจะได้ไม่แย่งกันใช้งานนั่นเอง ซึ่งบ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง มีลูก 1 – 2 คน ชอบความเป็นส่วนตัวและอาจชอบการทำครัวจริงจังด้วยนั่นเองครับ บรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมภาพบ้านมาตรฐานใน Gallery กันได้เลย
- Type TH-E (New Type) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 18.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
แปลนชั้น 1 จะมีจุดเด่นเลยก็คือ เราจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน แลกกับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่อาจลดลง และพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่างจะลดทอนออกไปครับ จึงเหมาะกับคนที่มีงบจับต้องทาวน์โฮมได้ แต่ก็มีรถใช้งาน 2 คันนั่นเอง ซึ่งอาจเป็นของพ่อแม่คันนึงและลูกอีกคันนึงก็ได้
แปลนชั้น 2 ห้องนอนทุกห้องจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน ซึ่งเป็นการออกแบบเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย ทำให้มีห้องนอนกว้างและมีห้องให้ใช้งานเยอะมากขึ้น โดยห้องน้ำจะมีประตูเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทำให้ Master Bedroom มีความสะดวกและเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้น
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ
ราคา
เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง ราคา ณ วันที่ 9 เมษายน 2567
- Type EURO-5 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 18.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท - Type WH-S35 บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
– ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท - ค่าจอง ทาวน์โฮม 5,000 บาท / บ้านแฝด 10,000 บาท
- ค่าทำสัญญา ทาวน์โฮม 10,000 บาท / บ้านแฝด 20,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 50,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.วา/เดือน + ค่าบำรุงรักษาถนนภาระจำยอม xx บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่บนถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเราสามารถใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองไกลๆได้ เพียงแต่จะมีข้อจำกัดในการขับตรงเข้าเมืองสักเล็กน้อย เพราะต้องใช้เวลาในการไปกลับรถอยู่บ้างครับ แต่ในอนาคตก็จะมีบริการรถรับ-ส่งของทางโครงการ ไปยัง MRT คลองบางไผ่ ตรงแถวๆเซ็นทรัลเวสเกต ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเข้าเมืองที่สะดวกได้ด้วยเช่นกัน
จุดเด่นของทำเลนี้จริงๆผมมองในเรื่องของ ‘ราคา’ ที่หากเทียบกับย่านเดียวกับทางฝั่งตัวเมืองด้านขวาของวงแหวนกาญจนาภิเษกแล้ว จะมีราคาที่จับต้องได้ค่อนข้างง่ายกว่า (จากทาวน์โฮมราวๆ 3 ล้าน ก็จะเหลือ 2 ล้านกว่าบาท) จึงเหมาะกับคนที่มองหาบ้านหรือทาวน์โฮมย่านนี้ แต่มีงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด แน่นอนว่าตัวบ้านแฝดก็จะมีราคาจับต้องง่ายกว่าเช่นกัน ถ้าเทียบกับบ้านเดี่ยวก็มีส่วนต่างเป็นล้านเลยทีเดียว แลกกับทำเลที่อาจเป็นรองอยู่บ้างทั้งในเรื่องการเดินทางและความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งจุดนี้เราอาจลองพิจารณาดูได้ตามความเหมาะสมครับ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : จะมีป้อม รปภ. คอยดูแลอยู่ 2 จุดหลักๆคือ บริเวณทางเข้าติดถนนใหญ่ และซุ้มประตูทางเข้าหลักหน้าโครงการ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นแบบ Double Gate Security 2 ชั้นก็ได้ครับ ทำให้มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากระดับหนึ่งเลย ส่วนการเข้า-ออกก็จะใช้เป็นระบบสัญญาณ Bluetooth แบบ Easy Pass บนทางด่วน ที่จะสามารถขับผ่านได้สะดวก และยังมีกล้อง CCTV คอยดูแล 24 ชม. ด้วย ส่วนถ้าเป็นในบ้านจะมีให้เฉพาะบ้านแฝดเท่านั้น คือเราจะได้กล้อง CCTV และ Magnetic Sensor เป็นมาตรฐาน ส่วนทาวน์โฮมอาจต้องหามาติดตั้งเพิ่มเติมเองครับ
การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการจัดสรรขนาดใหญ่กว่า 303 ยูนิต ที่มีทั้งโปรดักส์บ้านแฝดและทาวน์โฮมอยู่ด้วยกัน แต่ก็จะมีการแบ่งโซนแยกกันชัดเจนครับ ทำให้สังคมในการอยู่อาศัยและฟีลลิ่งในการใช้ชีวิตจะไม่แตกต่างกันมากนัก โดยตรงกลางจะเป็นที่ตั้งของ Main Facilities ทำให้มาใช้งานได้ง่าย และบ้านทุกหลังก็จะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ระบายอากาศและรับลมได้ดี
โซนบ้านที่น่าสนใจก็จะเป็นบริเวณรอบๆส่วนกลาง ที่นอกจากจะเข้าถึงได้ง่ายแล้ว ยังสามารถเดินมาใช้ Facilities ได้สะดวก และยังได้วิวสวนสวยๆอีกด้วย (เป็นเฟสของบ้านแบบเดิม) แต่ถ้าเป็นโซนอื่นๆที่อยู่ด้านใน ก็จะมีการกระจายพื้นที่สีเขียวออกเป็นจุดเล็กๆหลายจุด (เป็นเฟสของบ้านแบบใหม่) ทำให้มีบ้านหลายหลังที่จะไม่ต้องหันหน้าชนกับใคร ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และมีวิวสีเขียวสดชื่นๆให้มองเห็น ซึ่งหากใครชอบบ้านตำแหน่งแบบนี้ก็ลองเลือกกันดูได้นะครับ
การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : ขอแบ่งอธิบายเป็นบ้านแบบเดิมและแบบใหม่เพื่อให้เข้าใจง่ายนะครับ เพราะฟังก์ชันมีความแตกต่างกันชัดเจนเลย เริ่มจากบ้านในเฟสแรกจะเป็นแบบดั้งเดิมของโครงการ ทำเลดีอยู่ใกล้ส่วนกลาง จุดเด่นของทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮมคือ จะมีพื้นที่หรือห้องอเนกประสงค์ชั้น 1 ให้ใช้งาน จึงมีความยืดหยุ่นของฟังก์ชัน เพราะเราสามารถปรับเป็นอะไรก็ได้ตามต้องการ เหมาะกับคนที่อยากได้ห้องทำงานหรือห้องนอนชั้นล่างเพิ่มอีกสักห้อง เรียกได้ว่าเป็นแบบบ้านที่คุ้มค่าเรื่องฟังก์ชันอยู่เหมือนกันครับ
สำหรับแบบบ้านใหม่จะมีจุดเด่นคือ ฟังก์ชันบ้านจะมีความสะดวกในการใช้งาน และตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มที่จอดรถคันที่ 2 และห้องน้ำที่เข้า-ออกได้ 2 ทางของบ้านทาวน์โฮม ส่วนบ้านแฝดก็จะกั้นครัวปิดมาให้เลย และยังเพิ่มห้องน้ำชั้นบนใน Master Bedroom ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากในการใช้งานขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความชอบและ Lifestyle ของแต่ละคนแล้วละครับ ว่าฟังก์ชันบ้านแบบไหนจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเรามากกว่ากัน (แต่ถ้าใครชอบบ้านแบบเดิมก็อาจต้องรีบสักนิดนึง เพราะมีอยู่เพียงไม่กี่หลังเท่านั้น)
วัสดุ : ผมมองว่าให้มาเป็นมาตรฐานนะครับ โครงสร้างบ้านหลักเป็น Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่มีความแข็งแรง และกันเสียงได้ดี เหมาะกับบ้านแฝดและทาวน์โฮมที่มีผนังติดกัน แต่การทุบ/เจาะหรือต่อเติมจะทำได้ยากกว่าผนังปกติ และต้องปรึกษาช่างอีกที แต่ชอบตรงที่หลังบ้านของทาวน์โฮมจะลงเสาเข็มยาว ทำให้รองรับการต่อเติมครัวได้ และยังมีระบบ Solar Cell ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของบ้านในตอนกลางวัน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเสนาอีกด้วยครับ
นอกจากนี้ยังมีการอัพเกรดวัสดุของบ้านในเฟสใหม่แบบใหม่ให้ดีมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างบันไดจากโครงสร้างเหล็ก > เปลี่ยนเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก และเปลี่ยนยี่ห้อสุขภัณฑ์จาก Mogen > เป็น Cotto เป็นต้น รวมถึงความสูงฝ้าเพดานก็เปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย และเท่าที่สังเกตจากหน้างานจริง ลวดลายของหน้าต่างก็ดูเปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน
ทั้งนี้อาจต้องรอสรุปข้อมูลสเป็ควัสดุที่แน่ชัดจากโครงการอีกครั้ง เพราะยังมีหลายๆส่วนที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ รวมถึงราคาของบ้านในเฟสใหม่ก็ยังไม่ออกมาด้วย ปัจจุบันเลยยังบอกไม่ได้ว่าจะคุ้มค่ามาก-น้อยขนาดไหน ยังไงผู้อ่านก็ลองสอบถามกับทางโครงการก่อนอีกครั้ง และสามารถพิจารณาด้วยตัวเองต่อได้ตามเหมาะสมนะครับ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : พื้นที่สวนของโครงการมีราวๆ 1 ไร่ และมีการปลูกต้นไม้ริมถนนตั้งแต่ถนนภาระจำยอมด้านหน้า เข้าไปจนถึงด้านในโครงการ โดยภาพรวมก็ให้มาเป็นมาตรฐาน แต่อาจไม่ได้เน้นเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา หรือมีจำนวนที่เยอะมากนัก แต่จะเน้นไปทางพื้นที่เปิดโล่งที่เอาไว้ทำกิจกรรมมากกว่า และอาจต้องรอดูในอนาคตอีกที ไม่แน่ว่าถ้าต้นไม้โตกว่านี้ก็อาจร่มรื่นขึ้นก็เป็นได้
สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ประกอบด้วย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะ ซึ่งหากเทียบกับเพื่อนบ้านโครงการอื่นๆในละแวก ที่ไม่ใช่แบรนด์ของเสนาด้วยกันแล้ว ก็อาจไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก แต่จะเน้นการใช้งานเป็นหลักมากกว่า
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2.29 – 4.69 ล้านบาท, 9 เมษายน 2567
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก และมีบริการรับ-ส่งไปยังรถไฟฟ้าในอนาคต
- ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน และกล้อง CCTV
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – บ้านแบบเดิมฟังก์ชันยืดหยุ่น มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง บ้านแบบใหม่ฟังก์ชันเป็นส่วนตัว ใช้งานสะดวกขึ้น
- วัสดุ 8/10 – มาตรฐานของระดับนี้ โครงสร้าง Precast ทาวน์โฮมลงเสาเข็มหลังบ้านให้ และได้ Solar Cell ทุกหลัง
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีต้นไม้ริมทางและสวนขนาด 1 ไร่ อาจไม่ได้เน้นความร่มรื่นมากนัก
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ
- 7.74 / 10.00
เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง เหมาะกับใคร
โครงการ เสนา วีว่า วงแหวน-บางบัวทอง เหมาะกับคนที่มองหาทาวน์โฮมและบ้านแฝดในย่านบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก ในราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก โดยเป็นบ้านที่เด่นในเรื่องการประหยัดพลังงาน ด้วยการติด Solar Cell บนหลังคา และมีฟังก์ชันที่ยืดหยุ่น พร้อมแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 2.29 – 4.69 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 16,000 – 33,000 บาท
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่