SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์ บ้านเดี่ยวผสมนวัตกรรม บนถนนบางบัวทอง-บางพูน ใกล้ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต จาก SENA Development [รีวิวฉบับที่ 2066]

5 MARCH 2020

• SENA GRAND HOME Rangsit – Tiwanon (เสนา แกรนด์โฮม รังสิต – ติวานนท์)
• บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
• UPPER – HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ : ถ.บางบัวทอง-บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
• เนื้อที่โครงการ 8-0-33.4 ไร่ จำนวน 88 ยูนิต
• บ้านเดี่ยว รวี ที่ดินมาตรฐาน 50.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• บ้านเดี่ยว อรุณ ที่ดินมาตรฐาน 52.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• บ้านเดี่ยว สาวิตา ที่ดินมาตรฐาน 53.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 194 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 อเนกประสงค์
• บ้านเดี่ยว อาทิตยา ที่ดินมาตรฐาน 63.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 แม่บ้าน
• ราคาเริ่มต้น 6 – 13 ล้านบาท
• ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 63,000 บาท
• โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2561
• คาดสร้างเสร็จบางส่วนเดือนธันวาคม 2562
• เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• Call Center : 1775 #16

พิกัด Google Maps :  13.975860, 100.580822
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ ตัวโครงการจะตั้งอยู่ย่านรังสิต ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง และมีความสะดวกสบายในการเดินทางเข้า-ออกเมืองค่ะ

ทำเลและการเดินทาง : SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์  ตั้งอยู่ย่านรังสิต ฝั่งรังสิต-ปทุมธานี บนถนนบางบัวทอง-บางพูน ซึ่งถนนเส้นนี้จะเชื่อมต่อกับถนนติวานนท์และถนนรังสิต-ปทุมธานีค่ะ และมีทางที่ไปยังเมืองเอกหรือโซนที่เป็นม.รังสิตได้ด้วย ซึ่งทำเลนี้จะอยู่ระหว่างทางด่วน 2 เส้น คือทางด่วนอุดรรัถยา กับ ทางด่วนอุตราภิมุข(เลียบถนนพหลโยธิน) ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ต้องเดินทางเข้า-ออกกรุงเทพฯเป็นประจำด้วย โดยรวมถือว่าเป็นทำเลที่สามารถเลือกใช้ถนนและทางด่วนได้หลากหลายเส้นทาง

ความอุดมสมบูรณ์ : ถ้าพูดถึงย่านนี้ แหล่ง Shopping ทั้งของกินของใช้และแหล่งบันเทิงหลักๆจะอยู่ที่ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิตที่ห่างจากตัวโครงการไป 5.5 กม. และยังมีอีกหลาย Hypermarket ที่เกาะอยู่บนถนนพหลโยธินค่ะ และสิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่องของทำเลนี้คือ เป็นทำเลที่มีตลาดเยอะมากเลย อย่างเช่นตลาดรังสิต ตลาดสัมมากรเมืองเอก ตลาดพูนทรัพย์ หรือจะเป็นตลาดกลางคืนอย่างตลาดนกฮูกค่ะ โดยทั้งหมดจะต้องอาศัยการขับรถออกไปนะคะ นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว บริเวณนี้ถือว่ามีสถานศึกษาอยู่เยอะเลยค่ะ เช่น ม.รังสิต , ม.กรุงเทพฯ, ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ซึ่งถือเป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียงค่ะ

 เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางที่เราจะพาไปวันนี้เราจะเริ่มจากบนถนนรังสิต-ปทุมธานี ฝั่งที่หันหน้าออกจาก Future Park รังสิตนะคะ ทางซ้ายมือเราจะเป็นตลาดรังสิตนั่นเอง เราจะขับมาเรื่อยๆและเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังถนนบางบัวทอง-บางพูน ขับตามทางมาเรื่อยๆโครงการจะอยู่ทางขวามือค่ะ แต่ถนนตรงนี้จะเป็นถนนใหญ่ มีเกาะกลางถนน ดังนั้นเราก็จะหาจุดกลับรถเพื่อมายังโครงการ SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์ นะ คลิกเลื่อนที่รูปข้างล่างดูรายละเอียดการเดินทางกันเลยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

โครงการ SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์  เป็นโครงการที่รวมอยู่กับโครงการอื่นๆของเสนา ทำให้ทางเข้าโครงการจากถนนบางบัวทอง-บางพูน จะมีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นแรกอยู่ ซึ่งจุดนี้จะมีไม้กั้นกระดก และรปภ.ประจำอยู่ค่ะ ทุกโครงการที่อยู่ด้านในจะต้องผ่านบริเวณนี้ทั้งหมด ผู้มาติดต่อก็ต้องแลกบัตรนะคะ ส่วนลูกบ้านจะใช้ Access Card ระบบ Bluetooth ในการผ่านเข้า-ออก หลังจากผ่านด่านแรกมาเข้าไป 350 เมตร ตัวโครงการจะตั้งอยู่ทางขวามือ โดยตรงนี้ก็จะมีทางเข้าโครงการอีก 1 จุด เป็นไม้กั้นกระดกอีกชั้น และมีรปภ.ดูแลอยู่ค่ะ ทำให้โครงการเราเหมือนได้ Double Sucurity เลยค่ะ สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าค่ะ ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นหมู่บ้านเครือเสนาเช่นกัน ส่วนริมถนนใหญ่จะเป็นอาคารแนวราบ บ้าน โกดัง ซึ่งบนถนนเส้นนี้มักจะเจอกับโกดังรับซื้อของเก่าเยอะค่ะ

ทางเข้าหลักของโครงการจะติดกับถนนบางบัวทอง – บางพูน จะเป็นถนนใหญ่เลยค่ะ มีเกาะกลางถนน ไม่ได้มีทางม้าลายสำหรับเดินข้ามนะคะ แต่จะมีสะพานลอยอยู่

หน้าโครงการจะมีทั้งป้ายรถประจำทางและสะพานลอย ถือว่าสะดวกกับคนที่ใช้รถสาธารณะอยู่เหมือนกันนะคะ

หันมาทางขวามือจากหน้าโครงการจะมีร้านรับซื้อของเก่าตั้งอยู่ค่ะ

ติดกับถนนใหญ่เลยจะเป็น Sale Gallery ค่ะ แยกตัวออกมาจากโครงการค่ะ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการ

เลยตัวโครงการไปหน่อยจะมีร้านอาหารใต้อยู่ค่ะ ไปลองทานมาแล้วรสชาติใช้ได้เลย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

• รพ.ปทุมเวช ~ 3.9 km.
• ตลาดรังสิต ~ 5 km.
• รพ.เปาโล รังสิต ~ 5.3 km.
• เทสโก้ โลตัส รังสิต ~ 5.3 km.
• ม.รังสิต ~ 5.4 km.
• ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ~ 5.5 km.
• ZPELL รังสิต ~ 5.6 km.
• เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ~ 6.1 km.
• ตลาดพูนทรัพย์ ~ 7 km.
• MAKRO รังสิต ~ 7.3 km.
• ม.กรุงเทพ ~ 10 km.
• ม.สุโขทัย ~ 11.8 km.
• ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ~ 14.9 km.

SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์ จัดว่าเป็นโครงการขนาดกลาง มีทั้งหมด 88 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 8 ไร่ จาก Master Plan ที่ให้มาจะแสดงให้เห็นถึงโครงการเฟสแรกที่สร้างเท่านั้นนะคะ โดยเฟสที่ 2 ของโครงการจะสร้างอยู่บนที่ดินอีกฝั่ง(ด้านบนของรูป) ซึ่งการก่อสร้างแบบนี้ก็จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยที่เฟสแรกไม่ถูกรบกวนจากเสียงและฝุ่นจากการก่อสร้างในเฟส 2 นั่นเองค่ะ โดยเราจะเห็นได้ว่าทางเข้าหลักของโครงการนั้นจะอยู่ตรงกลางเลย และปลายสุดของถนนหลักจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ที่ประกอบด้วยสวนและ Clubhouse ทำให้ทั้ง 2 เฟสนั้นมีระยะห่างจากส่วนกลางพอๆกันค่ะ

ในแง่การจัดวางรูปแบบบ้าน บ้านแบบใหญ่สุดหรืออาทิตยาจะเป็นบ้านที่อยู่ตำแหน่งแปลงมุมและใกล้กับสวนส่วนกลาง ส่วนบ้านแบบสาวิตาที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจะอยู่ในตำแหน่งรองลงมา เป็นซอยที่ใกล้กับถนนหลักค่ะ ส่วนบ้านแบบอรุณและรวีนั้นจะอยู่ลึกสุด แต่ก็จะได้ความสงบมากสุดเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของโครงการนี้คือการหันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือ-ใต้ ทำให้หน้าบ้านนั้นเปิดรับลมได้ดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ

ตัวโครงการ SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์ จะใช้ทางเข้าหลักร่วมกับโครงการอื่นๆของเสนาค่ะ โดยพื้นที่ส่วนที่ติดกับถนนใหญ่เลยจะมีส่วนที่จัดไว้เป็น Sale Office ซึ่งอยู่ด้านหน้า ก่อนทางเข้าโครงการ

ทางเข้าโครงการจะออกแบบมาขนาดใหญ่เลยค่ะ เป็นเหมือน Security แรกที่แยกทางเข้า-ออกไว้คนละฝั่ง มีรปภ.คอยดูแลตรงกลาง

ทางเข้าก็มีป้ายชื่อโครงการมองเห็นชัดเจน หันหน้าทางฝั่งที่รถวิ่งมาด้วยนะคะ

ตรงนี้จะเป็นไม้กั้นกระดก และมีรปภ.ประจำการคอยดูแลรักษาความเรียบร้อย

สามารถใช้ Access Card ระบบ Bluetooth ได้ และมีกล้องวงจรปิดค่ะ

ถัดเข้ามาจะเป็นถนนที่ใช้ร่วมกับโครงการอื่นๆของเสนา ซึ่งตัวถนนก็จะมีต้นไม้ใหญ่สองข้างทาง ดูร่มรื่นมากเลยนะคะ

เข้ามาประมาณ 350 เมตร ตัวโครงการ  SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์ จะอยู่ทางขวามือค่ะ แยกพื้นที่ออกมา และมีทางเข้า-ออกโครงการอีกครั้งหนึ่ง เป็นเหมือน Double Security เลย

ตรงนี้จะมีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลาง ทางเข้า-ออกแยกฝั่งซ้าย-ขวา มีไม้กั้นกระดก , กล้องวงจรปิด และใช้ระบบ Access Card ระบบ Bluetooth ในการเข้า-ออกเช่นกันค่ะ

จากทางเข้ามาจะเป็นถนนหลักภายในโครงการ กว้าง 11 เมตรเลยค่ะ ขวามือจะเป็นบ้านตัวอย่างทั้ง 4 แบบของโครงการนี้ ปลายสุดถนนจะเป็นตำแหน่งของ Clubhouse ในเฟสแรกนี้จะเป็นบ้านทางฝั่งขวามือนะคะ ส่วนเฟสถัดไปจะอยู่ทางซ้ายมือ การก่อสร้างแบบนี้ก็จะได้ไม่รบกวนคนที่ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยก่อนด้วยค่ะ

ตัว Clubhouse จะเป็นอาคาร 1 ชั้นค่ะ มีสวนขนาบอยู่ 2 ฝั่งของอาคาร

ทางขวามือจะเป็นสวน และมีสนามบาสตั้งอยู่

มีพื้นที่สำหรับนั่งไว้ภายในสวนด้วยค่ะ

ตัวสนามบาสก็เป็นพื้นที่ขนาดครึ่งหนึ่งของสนามจริงเลย ถือเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เหมาะกับครอบครัวนะคะ

ข้างๆก็จะมีพื้นที่เป็นม้านั่ง เผื่อวางของใช้ส่วนตัวได้ระหว่างใช้งาน หรือมานั่งเล่นช่วงเย็นๆได้ค่ะ

รอบๆสนามก็จะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ ถ้าต้นไม้โตกว่านี้สนามก็น่าจะมีบรรยากาศที่ร่มรื่นมากขึ้นด้วย

ด้านข้างสนามบาสจะเป็นสนามพัตกอล์ฟ ด้วยนะคะ

เดินกลับมาดูที่ตัวอาคาร Clubhouse กันบ้างนะคะ ซึ่งทางเข้าก็จะมีทั้งบันไดและทางลาด เป็นมิตรกับผู้ใช้งานที่เป็นผู้สูงอายุ หรือว่าต้องใช้รถเข็นด้วยนะ

เข้ามาจะเจอกับห้อง Lobby ค่ะ มีพื้นที่นั่งจัดไว้เป็นทั้งแบบในอาคาร(ติดแอร์)และแบบ Semi-outdoor ด้วยนะ

บรรยากาศ Lobby ก็จะมานั่งเล่นได้หรือจะนั่งรอระหว่างติดต่อกับทางนิติบุคคลก็ได้ค่ะ เพราะห้องด้านหลังนี้จะเป็นห้องทำงานของนิติบุคคลนั่นเอง

ตรงเข้ามาก็จะเจอกับฟิตเนสและทางแยกไปห้องน้ำและสระว่ายน้ำ

ฟิตเนสก็จะเป็นห้องกระจกที่สามารถมองวิวไปยังสระว่ายน้ำหรือว่าสวนที่อยู่ด้านข้างได้ค่ะ

เดินออกมาจากฟิตเนสจะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ ตรงนี้จะคิดค่าบริการเพิ่มเติมครั้งละ 50 บาทสำหรับคนที่จะมาใช้สระว่ายน้ำนะคะ

ตัวสระหลักจะเป็นสระน้ำระบบเกลือ กว้าง 5 เมตร ยาว 19 เมตร ลึก 1.20 เมตร และมีสระเด็ก อยู่ข้างๆ ขนาด 5 x 3 เมตร ลึก 0.60 เมตร

ด้านข้างก็จะมีจุดล้างตัวและ Daybed นอนริมสระด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือตำแหน่งการวางสระน้ำที่ปกติเราจะเห็นหลายๆโครงการออกแบบสระว่ายน้ำเพื่อที่จะโชว์คนที่ผ่านไปมา แต่โครงการนี้จะเอาสระว่ายน้ำไว้ด้านใน เพื่อให้คนที่มาใช้งานรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ต้องเขินอายสายตาคนผ่านไปมาค่ะ

ใน Clubhouse ก็จะมีห้องน้ำแยกชาย – หญิงอยู่ มีทั้งห้องสุขา และห้องอาบน้ำด้วยค่ะ เหมาะกับคนที่ต้องการล้างตัวหลังจากออกกำลังกายหรือว่าว่ายน้ำก็มาใช้งานเปลี่ยนชุดได้นะคะ

ถนนย่อยภายในโครงการก็จะมีความกว้าง 9 เมตร ถือว่าเป็นระยะที่รถขับสวนกันได้สะดวก อาจจะมีรถของแขกที่มาเยือนจอดหน้าบ้าน 1 คันก็ยังสามารถขับรถสวนกันได้อยู่นะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด กว้าง 5 เมตร ยาว 19 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบ่งสระเด็ก ขนาด 5 x 3 เมตร ลึก 0.60 เมตร (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการใช้งานสระว่ายน้ำ 50 บาทต่อครั้ง)
• ห้องออกกำลังกาย
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด
• สนามบาส
• สนามพัตกอล์ฟ
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 2 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 11 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
• Access Card ระบบ Bluetooth
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วกั้นไม้กระดก 2 ชั้น
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor

ภายในโครงการ SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์ จะมีแบบบ้านอยู่ทั้งหมด 4 แบบ รวี (170 ตร.ม.) , อรุณ (183 ตร.ม.) , สาวิตา (194 ตร.ม.) และ อาทิตยา (252 ตร.ม.) ถือว่าเป็นบ้านขนาดกลางๆนะคะ ซึ่งราคาเริ่มต้นของโครงการนี้จะอยู่ในช่วงราคา 6 – 13 ล้านบาท โดยโครงการนี้จะมีการนำ Innovation หรือนวัตกรรมหลายๆอย่างมาไว้ในบ้านด้วย ในวันนี้เราจะมีรีวิวบ้าน 2 แบบที่ใหญ่สุดภายในโครงการ นั่นก็คือแบบ อาทิตยา และ สาวิตา ส่วนแบบอรุณกับรวี เราจะทำเป็น Gallery ให้ดูบรรยากาศภายในบ้านแทน บ้านแต่ละแบบจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

จุดเด่นเรื่อง Technology&Innovation

• Solar Roof : หรือแผง Solar Cell ที่ติดตั้งมาให้บนหลังคาบ้านทุกหลัง ขนาดที่ติดตั้งมาให้มาตรฐานจะอยู่ที่ 2.0 KW ซึ่งสามารถเพิ่มขนาดได้มากถึง 5.0 KW ค่ะ โดยขนาดมาตรฐานจะช่วยประหยัดไฟได้ประมาณ 33%​ (คำนวนจากการใช้งาน 5 ปี) โดยปกติแล้วคำถามที่เรามักจะสงสัยคือการดูแลทำความสะอาดแผงนั้น จะสามารถทำอย่างไรได้บ้างใช่ไหมคะ? เพราะถ้ามีฝุ่นจับแผงเยอะ ปริมาณไฟที่ผลิตได้ก็อาจจะลดลงอีก ซึ่งทางเสนาจะมีบริการหลังการขายที่ช่วย Maintenance ให้ฟรีใน 1 ปีแรก 2 ครั้ง หลังจากนั้นก็จะคิดค่าบริการครั้งละ 3,000 บาทโดยประมาณ (ราคาอาจจะต้องสอบถามกับทางโครงการอีกครั้งนะคะ)
• Sena 360° Application : เป็น Application จากทางเสนา ที่ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบปริมาณการใช้ไฟฟ้าในบ้าน และมูลค่าประหยัดไฟที่เกิดจากการใช้ Solar Roof ได้ นอกจากนี้ยังสามารถดู CCTV ที่ติดตั้งไว้ 2 จุดภายในบ้าน (ที่จอดรถและ Living Area) และยังมี Features อื่นๆเช่น ดูแลรับฝากขายบ้าน/คอนโด, แจ้งซ่อมได้ตลอด 24 ชั่วโมง, บริการแม่บ้านและหาช่างได้ 24 ชั่วโมงเป็นต้น และอาจจะมีสิทธิพิเศษอื่นๆสำหรับลูกบ้านของเสนาด้วยนะคะ ตรงนี้เราว่าเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นค่ะ
• EV Ready : เป็นการจัดเตรียมระบบไฟเพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger ไว้ในบ้าน ถือว่าเป็นตัวเลือกให้กับครอบครัว เพราะถ้าบ้านไหนมีรถที่ต้องการใช้ EV Charger ปัญหาหลักที่มักเจอคือระบบไฟที่เตรียมไว้สำหรับบ้านทั่วๆไปนั้นมักจะไม่เพียงพอ ดังนั้น จุดนี้ก็จะเป็นข้อดีให้กับครอบครัวรักษ์โลก ลดพลังงานค่ะ
• Home Automation : ไฟและแอร์ที่ติดตั้งไว้มาตรฐานภายในบ้านจะเชื่อมต่อกับระบบ Home Automation ที่มีให้ ทำให้เราสามารถสั่งเปิด-ปิดแอร์ และไฟ ผ่านตัว Application ได้นะคะ ยิ่งช่วงหน้าร้อนเราอาจจะอยากกลับบ้านมาแล้วเจอแอร์เย็นๆทันที ตรงนี้ก็จะช่วยเราได้ด้วยนะ และอีกอย่างที่น่าสนใจคือ เราสามารถเช็คได้ว่า เราลืมปิดแอร์ หรือว่าไฟภายในบ้านรึเปล่าด้วย?
• Active Air Fresh : เป็นจุดกรองอากาศที่ติดตั้งไว้ให้ภายในห้องนอนค่ะ ช่วยหมุนเวียนอากาศเสียที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันภายในห้องออกไป และนำอากาศดีเข้ามา โดยสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วยนะคะ

จุดเด่นเรื่องแบบบ้านและวัสดุ

• ก่อสร้างด้วยอิฐแดงทั้งหลัง
• มีเฉลียงหน้าบ้านและด้านข้างบ้าน เป็นที่นั่ง Semi-Outdoor ที่สามารถนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้
• ติดตั้งระบบ Magnetic Sensor Sensor ที่ประตูและหน้าต่างชั้น 1
• Built-in ชุดครัวมาให้พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ Franke
• พื้นไม้ปาเก้ที่ชั้น 2
• มีที่นั่งอาบน้ำให้มาในพื้นที่อาบน้ำทุกห้อง
• ฝ้าเพดานมีความสูง 2.7 เมตร ช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้น

อาทิตยา

มาเริ่มกันที่บ้านขนาดใหญ่สุดของโครงการนี้กันก่อน “อาทิตยา” บ้านแบบนี้สามารถอยู่ได้ถึง 3 Generations หรือ 4 – 7 คนได้สบายเลยค่ะ ซึ่งข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างบ้านแบบนี้กับแบบอื่นๆในโครงการคือจำนวนที่จอดรถ ที่มีให้มา 3 คัน ทำให้เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่อาจจะมีลูกที่โตอยู่ด้วยกันหรือว่าคุณปู่ คุณย่าที่สุขภาพแข็งแรง ขับรถไปไหนมาไหนอยู่ โดยพื้นที่ชั้นล่างจะเป็น Living Area ที่ต่อเนื่องไปกับพื้นที่รับประทานอาหาร โดยจะมีการกั้นห้องไว้ทางด้านหลัง สามารถใช้เป็นห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ได้ ที่ชั้นนี้จะมีห้องน้ำอยู่ 1 จุด ตำแหน่งใต้บันได โดยจะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำให้มาด้วย และติดกับบันไดจะเป็นห้องครัว ห้องแม่บ้าน และมีพื้นที่สำหรับซักล้างในร่มให้ด้วยนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้นสองจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นฟังก์ชันฝั่งที่อยู่หน้าบ้าน ประกอบไปด้วย Master Bedroom และพื้นที่ Family Area ตรงนี้สามารถกั้นเป็นห้องปิดได้ เผื่อใครจะปรับเป็นห้องนอน หรือจะติดแอร์เป็นสัดส่วนก็ได้นะคะ ซึ่งห้องนี้จะมีระเบียงขนาดใหญ่อยู่ด้วยค่ะ ส่วนพื้นที่ฝั่งที่อยู่ด้านหลังบ้านจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง โดยแต่ละห้องก็จะมีห้องน้ำในตัว และก็เป็นห้องนอนที่สามารถวางเตียงใหญ่ได้ อยู่อาศัยได้สบายไม่อึดอัดค่ะ

เริ่มที่หน้าบ้านเลยค่ะ ตัวบ้านจะเป็นบ้าน 2 ชั้นที่เป็นบ้านหน้ากว้างค่ะ ทำให้บ้านดูใหญ่ขึ้นด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือการออกแบบผนังบ้านที่มีชายคาค่อนข้างเยอะ ทำให้หลายๆส่วนภายในบ้านได้แสงสว่าง แต่ก็ลดความร้อนที่ส่งเข้ามาได้ด้วย

ในส่วนของรั้วบ้านจะมีทั้งรั้วทึบด้านข้าง และด้านหน้าจะมีรั้วโปร่งและทึบสลับครึ่งบน-ล่าง มีประตูทางเข้าคนแยกจากประตูบานเลื่อนที่จอดรถ และมีจุดทิ้งขยะอยู่ด้วยค่ะ

ที่จอดรถจะแบ่งเป็นจอด 1 คันริม และ 2 คันกลาง ระยะจะอยู่ที่ 2.67 เมตรและ 5.25 เมตรค่ะ แนะนำให้ช่องจอด 2 คัน จอดเป็นรถเล็กแบบ Eco car คันเพื่อที่จะได้ระยะเปิดประตูและถอยจอดที่เพิ่มมากขึ้นนะคะ ที่จอดรถที่ให้มาจะสามารถจอดรถในร่มได้เกือบทั้งคันเลยค่ะ (ความลึกที่อยู่ในร่มประมาณ 4.8 เมตร)  ส่วนหลังคาที่จอดรถก็กลายเป็นพื้นระเบียงที่ชั้น 2 ไปด้วยนะคะ

สำหรับบ้านหลังใหญ่จะมี EV Ready ไว้ให้ สามารถติดตั้ง EV Charger ได้เลย เพราะมีงานระบบไฟเตรียมไว้ให้แล้ว ในบ้านตัวอย่างเลยมีการติดตั้งมาให้ดูค่ะ และถ้าสังเกตดูจะเห็นกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ด้วย ซึ่งโครงการนี้จะติดตั้งไว้ให้หลังละ 2 จุด ที่จอดรถและพื้นที่ส่วน Living Area ภายในบ้านค่ะ

จากที่จอดรถจะสามารถเดินเข้าบ้านไปได้เลย และมีปลั๊กไฟอยู่ที่กำแพงตรงนี้ด้วย เผื่อต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆก็จะได้สะดวกมากขึ้น

ทางซ้ายมือเราเห็นตู้เก็บ Main Board ต่างๆ สามารถเก็บของได้นะคะ เช่น อุปกรณ์ซ่อมบำรุง อุปกรณ์ทำสวน เป็นต้น

เดี๋ยวเราลองเดินสำรวจรอบๆบ้านกันดูนะ เลยจากที่จอดรถมาจะเป็นทางเดินที่สามารถเดินไปยังห้องครัวได้ ดังนั้นฝั่งนี้จะเว้นระยะเป็นพื้นที่สวนน้อยกว่าอีกฝั่งของบ้าน แต่ก็ยังสามารถปลูกต้นไม้ได้ อาจจะเป็นมุมสำหรับปลูกพืชผักสวนครัวได้นะคะ

ตรงมาจะเจอกับ Tank น้ำค่ะ

อ้อมมาทางด้านหลังบ้าน ฝั่งนี้จะเจอกับพื้นที่เว้าเข้าไปในตัวบ้าน เป็นพื้นที่ Service ประกอบไปด้วย (ประตูซ้ายมือ) ทางเข้าห้องครัวของบ้าน (ประตูขวามือ) ห้องแม่บ้านและห้องน้ำ ส่วนพื้นที่ด้านหลังก็สามารถจัดเป็นครัวไทยก็ได้หรือจะเป็นพื้นที่ซักล้าง เช่น ที่วางเครื่องซักผ้า หรือตำแหน่งตากผ้า รีดผ้าได้ค่ะ

เดินอ้อมมาอีกฝั่งของบ้านค่ะ เราจะเจอกับพื้นที่เฉลียงของบ้าน

ตรงนี้มีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่อยู่ อาจจะต่อเติมเฉลียงเพิ่มเติมให้เป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับสวนด้านข้างบ้านได้นะคะ

อ้อมมาด้านหน้า คราวนี้จะเจอกับทางเดินที่ปูไว้บนสนามหญ้า เพื่อเดินกลับไปยังที่จอดรถค่ะ

ทางเข้าหลักของบ้านสำหรับบ้านแบบนี้จะมีความพิเศษตรงที่เป็นประตูบานเปิดสวิงทึบ มีเจาะช่องลูกฟักกระจกอยู่ ทำให้พื้นที่ภายในบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นค่ะ

หน้าทางเข้าจะทำบันไดยาวและมีเฉลียงอยู่ เราอาจจะหาต้นไม้หรือของประดับมาตกแต่งบริเวณนี้ได้นะคะ

เข้ามาภายในบ้าน อันดับแรกที่เราจะเจอเลยคือพื้นที่ส่วน Living Area ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่กินข้าวด้านในค่ะ วัสดุมาตรฐานที่ให้มาภายในบ้านนั้นจะได้พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังกับฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว และไฟดาวน์ไลท์

พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นตำแหน่งของห้องรับแขก ตรงนี้จะกว้าง 3.35 เมตร ลึก 3.25 เมตร จัดวางโซฟาได้ 3-5 ที่นั่งค่ะ เราชอบที่การออกแบบหน้าต่างตำแหน่งหลังโซฟาจะมีความสูงจากพื้นพอดีระดับโซฟามาตรฐาน ทำให้สามารถเปิด-ปิดหน้าต่างได้ง่าย และดูสวยงาม

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกินข้าวค่ะ โดยตำแหน่งนี้จะอยู่หน้าบันได และสามารถเปิดประตูด้านข้างเชื่อมไปยังสวนได้

พื้นที่สำหรับวางโต๊ะกินข้าวจะมีขนาดประมาณ 4.5 x 3 เมตร วางได้ 6-8 ที่นั่งสบายๆเลยนะคะ อย่าลืมเว้นที่สำหรับทางเดินด้วยนะ

พื้นที่ส่วนด้านในที่เหลือจะกั้นเป็นห้องไว้ค่ะ โดยจะมีครัว และห้องน้ำขนาบข้างบันได และมีห้องอเนกประสงค์อยู่ 1 ห้อง

ห้องอเนกประสงค์นี้จะกั้นเป็นชุดประตู-หน้าต่างบานเลื่อนกระจกเข้ามุมให้แบบนี้ค่ะ และระหว่างห้องครัวและห้องอเนกประสงค์จะมีพื้นที่สำหรับจัดเป็นชั้นวางของหรือ Pantry เล็กๆได้ ขนาด 1.25×0.70 เมตร

ภายในห้องอเนกประสงค์จะมีหน้าต่างให้มาสองฝั่งผนังเลย สามารถปรับไปเป็นห้องนอนได้ กรณีที่บ้านไหนมีผู้สูงอายุอยู่ด้วยก็จะไม่ต้องกั้นห้องเพิ่มค่ะ

ห้องนี้จะมีขนาดประมาณ 3×3.5 เมตร วางเตียง Queen size เข้ามุมหรือว่าเป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุตก็กำลังดีค่ะ สามารถวางตู้เสื้อผ้าและจัดทีวีไว้ในห้องก็ได้ หรือลองสลับหัวเตียงจากบ้านตัวอย่างเป็นนอนมองออกไปยังพื้นที่สีเขียวข้างๆบ้านก็ทำให้สบายตากับคนที่พักอาศัยได้นะคะ

สำหรับส่วนที่เป็นกระจก ถึงแม้จะเข้ามุมแต่ก็สามารถหาผ้าม่านมาปิดได้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับภายในห้อง แต่ถ้าครอบครัวไหนใช้เป็นห้องทำงาน อาจจะหาสติ๊กเกอร์ขุ่นมาปิดบางส่วนแทนได้ หรือจะเปลี่ยนจากผ้าม่านเป็นมู่ลี่แทนก็ได้ค่ะ

เข้ามาดูที่ครัวกันต่อ สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการนี้จะทำ Built-in ชุดครัวมาให้เลย ซึ่งตรงนี้เราไม่ค่อยเห็นในโครงการบ้านเดี่ยวเท่าไหร่ และชุดครัวที่ให้มาก็มีทั้งตู้บน ตู้ล่าง หน้าบานครบชุด มาพร้อมกับอุปกรณ์ครัวอย่างเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันเลยค่ะ (ดูจากภาพล่างได้เลย) โดยพื้นที่ครัวมีขนาดประมาณ 2.9×2.75 เมตร

ชุดครัวที่ให้มาก็จะได้หน้าบานลายไม้ดูอบอุ่น

ตำแหน่งที่เป็นอ่างล้างจานก็จะมีหน้าต่างเล็กๆเปิดระบายอากาศและความชื้นไปยังภายนอกบ้านได้ ช่วยลดการเกิดเชื้อราภายในครัวค่ะ

เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันที่ให้มาจะเป็นของ Franke ติดตั้งไว้พร้อมใช้งาน

ที่ประตูและหน้าต่างบ้านชั้น 1 จะติดตั้งระบบ Magnetic Sensor ไว้ให้ด้วยนะคะ

เปิดมายังหลังบ้านจะเจอกับพื้นที่ส่วนซักล้างในร่มที่เราเห็นตั้งแต่ตอนเดินดูรอบๆค่ะ ตรงนี้เราสามารถปรับใช้เป็นครัวไทยได้ด้วยนะ

และสำหรับบ้านแบบนี้จะมีห้องแม่บ้านไว้ให้ค่ะ มีห้องน้ำและห้องนอนแยกออกมาจากตัวบ้าน

กลับมาดูภายในตัวบ้านกันต่อ เดี๋ยวเราจะไปดูห้องน้ำที่อยู่ข้างๆกับบันไดบ้านกัน โดยพื้นที่หน้าห้องน้ำจะเป็นผนังบริเวณพื้นที่จอดรถ ซึ่งจะมีประตูเข้าบ้านอีกทางจากที่จอดรถเลย ผนังส่วนนี้กว้าง 1.90 เมตร จัดเป็นชั้นวางรองเท้าได้นะคะ

ส่วนห้องน้ำก็จะมีสุขภัณฑ์ให้มาครบ และมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำเตรียมไว้ให้ด้วย

อ่างล้างหน้าจะเป็นแบบแขวนผนัง ติดตั้งมาให้พร้อมกระจกเงาค่ะ ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็จะอยู่ลึกเข้าไป มีที่ใส่กระดาษชำระและสายฉีดชำระติดตั้งมาให้ เราชอบที่เอากระดาษชำระไว้ฝั่งตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า น้ำที่กระเด็นจากการล้างมือล้างหน้าจะได้ไม่เปียกกระดาษชำระค่ะ

ตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์จะเป็นพื้นที่อาบน้ำ ตรงนี้จะลดระดับลงไปเล็กน้อย ไม่มีฉากกั้นกระจกมาให้ ถ้าครอบครัวไหนใช้งานพื้นที่อาบน้ำบ่อยๆแนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเอาทีหลังค่ะ

พื้นที่ส่วนนี้มีขนาด 1.3×1.15 เมตร มีที่นั่งอาบน้ำด้วยนะคะ โดยสุขภัณฑ์ต่างๆภายในห้องน้ำจะได้ของ American Standard

ต่อไปเราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันนะคะ โดยโครงสร้างบันไดจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก

ตัวบันไดจะเป็นรูปตัว U ลูกนอนจะใช้เป็นไม้ Conwood บันไดมีระยะกว้าง 95 ซม. ถือว่าเดินขึ้น-ลงสบายค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 วัสดุพื้นจะเปลี่ยนเป็นใช้ไม้ปาเก้นะคะ โดยทางขวามือของบันไดหรือฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้อง Master Bedroom ประตูทางซ้ายมือ และพื้นที่ Family Area ทางขวามือของภาพ (ไม่มีประตูให้)

Family Area จะเป็นห้องเดียวของชั้นนี้ที่สามารถเชื่อมต่อกับระเบียงได้ โดยห้องนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 3.4×3.75 เมตร จัดเป็นห้องนั่งเล่นได้อีกมุมค่ะ หรือจะเป็นห้องนอนเพิ่มได้อีกห้องเหมือนกันนะคะ

ออกไปที่ระเบียง ตัวระเบียงจะเป็นรูปตัว L ล้อมส่วนที่เป็นช่องเปิดของ Family Area ไว้เลย ด้านหน้ายาว 6.7 เมตร ด้านข้างยาว 4.55 เมตร ความกว้างต่ำสุดก็ 1.1 เมตรค่ะ เราอาจจะหาต้นไม้กระถางมาปลูกตรงระเบียงได้นะคะ กลายเป็นพื้นที่สีเขียวให้กับภายในห้องด้วย

มองย้อนกลับมาดูภายในห้องก็จะมีผนังทึบอยู่หลายส่วน ทำให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายนะคะ หรือจะทำเป็น Built-in ชั้นวางของก็ดีค่ะ

มาดูที่ Master Bedroom กันต่อ ห้องนี้ถือว่ามีขนาดห้องเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีส่วนที่เป็นผนังปิดทึบและส่วนที่เป็นช่องแสงขนาดใหญ่ครึ่งต่อครึ่งเลยค่ะ โดยส่วนที่กว้างสุดของห้องจะอยู่ที่ 4 เมตร และตัวห้องจะยาวถึง 5.4 เมตร

เข้ามาส่วนแรก เราสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนส่วนตัวภายในห้องได้ หรือจะเป็นมุมทำงาน หรือเป็นตู้เสื้อผ้าก็ได้เช่นกัน

ส่วนการจัดวางเตียงนอนก็สามารถเลือกเตียงขนาดใหญ่ได้เต็มที่เลยค่ะ เปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ด้วย

ตรงมุมห้องจะมีช่องที่เรียกว่า Active Fresh Air เป็นจุดหมุนเวียนอากาศภายในห้อง นำอากาศเสียออกไป และเอาอากาศดีที่กรอง PM 2.5 แล้วเข้ามาค่ะ

ข้างๆตำแหน่งเตียงจะเป็นกระจกเข้ามุมแบบนี้นะคะ ทำให้ภายในห้องได้แสงสว่างเข้ามาเยอะเลย

ด้านในห้องจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเป็น Walk-in Closet ตำแหน่งหน้าห้องน้ำพอดี ตรงนี้จะมีขนาดประมาณ 1.75×2.2 เมตร

เข้ามาภายในห้องน้ำค่ะ จะแยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งอย่างละครึ่ง มีหน้าต่างเป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศภายในห้องด้วยค่ะ

สำหรับห้องน้ำของ Master Bedroom เฉพาะบ้านแบบนี้จะใช้ระบบน้ำร้อนนะคะ ส่วนห้องอื่นๆจะทำ Junction Box สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ ส่วนยี่ห้อของสุขภัณฑ์จะใช้ของ American Standard เหมือนเดิม แต่รุ่นโถสุขภัณฑ์จะมีการ Upgrade ให้ดีขึ้นกว่าห้องอื่นนะ

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของพื้นที่อาบน้ำของโครงการนี้คือจะก่อพื้นที่นั่งไว้ให้ทุกห้องเลย และห้องอาบน้ำตรงนี้ก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ 0.95×2.15 เมตร และฝักบัวก็จะพิเศษขึ้นมา คือได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ค่ะ

ต่อไปเราไปดูห้องนอนเล็กที่อยู่ทางหลังบ้านกันต่อนะคะ ทางเข้าจะแยกซ้าย-ขวาจากทางเดิน ทำให้ภายในห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มองเข้ามาจากภายนอกจะไม่เห็นทั้งห้องตรงๆ

ห้องแรกจะมีขนาด 3×3.8 เมตร ถือว่าเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่พอดู จะวางเตียงใหญ่ก็ได้ และยังใส่ฟังก์ชันอื่นๆเพิ่มเติมได้อีกนะคะ

เราจะจัดตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง หรือว่ามุมนั่งทำการบ้านของลูกๆก็ได้เช่นกัน

ข้อดีของบ้านแบบนี้คือจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องนอนค่ะ เป็นห้องน้ำที่แยกฟังก์ชันพื้นที่เปียก กับพื้นที่แห้งออกจากกัน และมีหน้าต่างอยู่ด้วย ระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำได้ดี

ส่วนห้องนอนอีกห้องจะมีขนาดอยู่ที่ 3.65×3.25 เมตร ก็ยังถือว่าเป็นห้องที่ใหญ่อยู่นะคะ

สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายแบบ อาจจะเปลี่ยนทิศหัวเตียงได้ทุกด้าน ไม่ต้องเหมือนกับห้องตัวอย่างก็ได้ เผื่อใครเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยก็ไม่ต้องห่วงค่ะ จัดได้หมด

และก็มีห้องน้ำในตัวเหมือนกันค่ะ

รูปแบบห้องน้ำก็จะเหมือนกับห้องนอนเล็กอีกห้องเลย แต่ว่าสลับฝั่งกันนะ

สาวิตา

บ้านตัวอย่างแบบที่ 2 ที่พามาดูคือบ้าน “สาวิตา” เป็นบ้านที่เรียกได้ว่านำเอาแบบอาทิตยามาปรับให้กระชับมากขึ้น ลดบางฟังก์ชันไป เพื่อให้บางฟังก์ชันได้ขนาดใหญ่ขึ้น อย่างที่เห็นชัดเลยคือบ้านแบบนี้จะไม่มีห้องแม่บ้านนะคะ ที่จอดรถเหลืออยู่ 2 คัน พื้นที่ชั้น 2 จะไม่มี Family Area แล้ว แต่ Master Bedroom จะได้ขนาดที่ยาวขึ้นแทน ดังนั้นบ้านแบบนี้ก็ยังสามารถอยู่กันได้ 3 Generations หรือ 4 – 7 คนนะ แต่ก็จะเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการที่จอดรถแค่ 2 คัน และไม่เน้นพื้นที่ Living หรือ Common Area หลายๆจุดค่ะ

ฟังก์ชันของบ้านที่ชั้น 1 จะมีที่จอดรถ 2 คันหน้าบ้าน พื้นที่ Living จะต่อเนื่องกับพื้นที่กินข้าว และมีห้องนอนอยู่ทางฝั่งด้านหลังบ้าน ห้องนี้อาจจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานแทนก็ได้นะคะ ส่วนห้องน้ำยังอยู่ตำแหน่งใต้บันไดเหมือนเดิม มีห้องครัวอยู่ข้างบันได และก็จะได้ห้องเก็บของขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังบ้านค่ะ

ที่ชั้น 2 จะแบ่งเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดย Master Bedroom จะกินพื้นที่โซนหน้าบ้านทั้งหมด ได้พื้นที่สำหรับจัดเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่เลย และมีระเบียงภายในห้องด้วย ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องที่อยู่ฝั่งด้านหลังบ้านจะใช้ห้องน้ำร่วมกันโดยห้องหนึ่งจะสามารถเข้าห้องน้ำได้โดยตรง แต่อีกห้องจะต้องเดินออกจากห้องนอนมาก่อนค่ะ พื้นที่ตรงนี้เรามองว่าสามารถปรับเปลี่ยนได้นะคะ เช่น ถ้าครอบครัวไหนสมาชิกในบ้านไม่เยอะ ก็อาจจะทำห้องที่ไม่มีห้องน้ำเป็นห้องทำงาน หรือ Family Room ที่เป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อยที่ตรงนี้แทนค่ะ

ตัวบ้านยังดูเป็นบ้านหน้ากว้างเหมือนเดิมนะคะ แต่ที่จอดรถจะสามารถจอดได้ 2 คัน ทำให้ตัวบ้านทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ดู Balance เท่ากันทั้งซ้าย-ขวา

รั้วที่ได้จะเป็นรั้วบานเลื่อนระแนงแนวตั้ง เลื่อนเก็บไปฝั่งหนึ่งค่ะ โดยจะมีประตูทางเดินเข้าบ้านแยกจากทางเข้าที่จอดรถ ด้านหน้ารั้วก็จะมีทางเท้าที่ปูด้วยหญ้าและแผ่นพื้น สร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นขึ้น และลดความร้อนจากบริเวณพื้นคอนกรีตด้วยค่ะ

นอกจากประตูและรั้วแล้ว จะมีกริ่ง ไฟส่องสว่าง ตู้จดหมาย+เลขที่บ้าน และจุดทิ้งขยะให้มาด้วย จุดทิ้งขยะนี้ก็จะทำให้บรรยากาศภายในหมู่บ้านดูเรียบร้อยด้วยนะคะ ไม่มีถังขยะหลากสีข้างถนนในโครงการค่ะ

สำหรับบ้านแบบนี้จะจอดรถได้ 2 คัน มีความกว้างของที่จอดรถอยู่ที่ 5.5 เมตร และมีพื้นที่เป็นตู้เก็บของเล็กๆอยู่ที่ผนังด้านข้างค่ะ

พื้นที่รอบๆบ้าน ฝั่งที่จอดรถจะเป็นทางเดินไปยังครัวได้ค่ะ เวลาซื้อของคาวของสดเข้าบ้านก็เดินตรงไปที่ครัวได้เลย

โดยทางเข้าครัวจะอยู่ด้านหลังบ้าน โดยพื้นที่ตรงนี้จะเป็นลานซักล้างด้วยนะคะ โดยพื้นที่ซักล้างจะมีขนาด 4.5×1.55 เมตร

ตรงนี้จะเดินระบบไฟฟ้า(ปลั๊ก) และมีระบบประปาเตรียมไว้ให้ สามารถเป็นที่วางเครื่องซักผ้าได้ อาจจะต่อเติมหลังคามาปกคลุมเพิ่มเอาทีหลังได้ เครื่องใช้ไฟฟ้าจะได้ไม่โดนแดดโดนฝนค่ะ

อีกฝั่งจะถูกเว้นให้เป็นพื้นที่สวนที่ใหญ่ขึ้นหน่อย ตรงนี้เราอาจจะปลูกต้นไม้ หรือจัดมุมนั่งพักผ่อน Outdoor ได้นะคะ

และทางฝั่งนี้จะมีเฉลียงที่อยู่หน้าบ้านและเชื่อมต่อมายังด้านข้างบ้านค่ะ

ตรงมาที่หน้าบ้านจะปลูกต้นไม้มาให้ 1 ต้นด้วย

ทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ข้างๆที่จอดรถค่ะ ถือว่ามีชายคาบ้านยื่นออกมาพอสมควรทำให้ภายในบ้านไม่ร้อนมาก แดดไม่ส่องเข้ามากเกินไป  ส่วนประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกใส เปิดเลื่อนได้ 2 ฝั่งค่ะ

ตรงนี้จะมีขั้นบันไดเดินขึ้นบ้านที่กว้าง เดินสบาย และรอบๆเฉลียงบ้านจะมีพื้นที่นั่งจัดไว้ยาวขนาบไป

เข้ามาในบ้านเราจะเจอกับพื้นที่ Living area ที่เชื่อมกับพื้นที่กินข้าวด้านใน ตรงนี้จะมีกระจกตรงประตูทางเข้าและด้านข้างตัวบ้าน ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ได้รับความสว่างเยอะเลยค่ะ ดูโปร่งทีเดียว

พื้นที่ส่วน Living มีขนาด 3.4 เมตร และกว้าง 3.55 เมตร จัดมุมโซฟานั่งพักผ่อนได้ 4-5 ที่นั่ง

พื้นที่ส่วนกินข้าวจะอยู่ติดกับประตูด้านข้างที่เปิดไปยังสวนได้นะคะ ทำให้ตรงนี้สามารถนั่งกินข้าวได้แบบร่มรื่น และเห็นพื้นที่สีเขียวได้เต็มตาเลย จัดที่นั่งกินข้าวได้ 6-8 ที่นั่งเลยค่ะ ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ โดยประตูทางเข้าห้องจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกใส 2 ตอน

ห้องนี้มีขนาด 3.6×2.65 เมตร มีหน้าต่างอยู่ 2 ฝั่งของห้อง จะจัดเป็นห้องนอนก็ได้ หรือปรับเป็นห้องทำงานก็ได้เช่นกันค่ะ

อีกฝั่งของบ้านจะเป็นตำแหน่งของบันได ที่จะมีห้องน้ำอยู่ข้างบันไดฝั่งหนึ่ง และมีห้องครัวอยู่ข้างบันไดอีกฝั่งค่ะ

หน้าห้องครัวจะมีพื้นที่เว้าเข้าไปจากกำแพงขนาด 1.50×0.55 เมตร ตรงนี้ทำ Built-in เป็น Pantry เล็กๆได้ หรือที่เก็บข้าวของต่างๆได้ค่ะ ส่วนประตูทางเข้าครัวนั้นจะเป็นประตูกระจกบานเปิดสวิง

พื้นที่ภายในครัวจะมีขนาด 2.8×3.15 เมตร ทางขวามือที่เห็นจะมี Built-in ชุดครัวให้มา ส่วนทางซ้ายมือจะไม่มีนะคะ ตรงนี้จะทำมาเป็นไอเดียให้ดูว่าขนาดครัวค่อนข้างใหญ่เลย จากที่เห็นในรูปก็มีทางเดินครัว 1.6 เมตร ใช้งานเดินสวนกันสบาย เผื่อใครชอบทำครัวก็อาจจะต่อเติมพื้นที่ทางซ้ายมือเพิ่มเป็นเตาอบขนม หรือเคาน์เตอร์สำหรับทำขนมเพิ่มได้ค่ะ

แต่ถ้าคิดไม่ออกว่าจะจัดเป็นพื้นที่อะไรก็ลองเป็นจุดวางเครื่องซักผ้าได้นะคะ บางบ้านก็มีเครื่องอบผ้าด้วย ภายในตู้ก็เก็บอุปกรณ์ซักล้างต่างๆได้อีกด้วยค่ะ เก็บเข้าที่เข้าทาง ในบ้านก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

หันมาดูสิ่งที่ให้มากันบ้าง ซึ่งโครงการก็จะให้มาทั้งตู้บนและตู้ล่างเลย โดยมีกระจกอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ เปิดระบายอากาศพอดีค่ะ

นอกจากตู้ที่ให้มาแล้วยังมีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้มาด้วย ของยี่ห้อ Franke

เปิดประตูออกไปยังหลังบ้านจะเจอกับพื้นที่ซักล้างค่ะ

ประตูข้างๆกันจะมีห้องเก็บของอีกจุด เข้า-ออกจากทางนอกตัวบ้านนะคะ ห้องเก็บของมีขนาดใหญ่อยู่นะ 1.3×1.5 เมตร

นอกจากที่เก็บของนอกตัวบ้านแล้ว ใต้บันไดก็จะมีที่เก็บของอยู่เหมือนกัน มีประตูเปิด-ปิดจากในครัวค่ะ

เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องน้ำกันต่อนะคะ แต่บริเวณหน้าห้องน้ำนั้นจะเป็นมุมที่เหมาะกับการวางชั้นวางรองเท้า ตรงนี้มีพื้นที่อยู่ 35×80 ซม.

Layout ของห้องน้ำจะมีรูปร่างตัว L ค่ะ เราจะเจอกับพื้นที่ส่วนแห้งก่อน คืออ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำจะอยู่ในมุมด้านใน ตัวห้องน้ำจะมีหน้าต่างระบายอากาศและเป็นช่องแสงให้มาด้วย

ส่วนที่เป็นพื้นที่อาบน้ำจะมีที่นั่งมาให้นะคะ โดยตรงนี้จะเป็นจุดที่มีความสูงน้อยที่สุดของห้องน้ำ อยู่ที่ 2 เมตร ถือว่ายังใช้งานได้อยู่นะ

ส่วนตัวบันไดจะเป็นรูปตัว U ทำด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนเป็นไม้ Conwood ตัวบันไดกว้าง 1 เมตร ถือว่าใช้งานสะดวกเลยค่ะ

ชั้นมาชั้น 2 จะเจอกับห้องน้ำอยู่ตรงกลางทางซ้ายมือจะเป็น Master Bedroom ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องค่ะ โดยที่ชั้น 2 วัสดุปูพื้นจะเปลี่ยนจากกระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นพื้นไม้ปาเก้

มาดูที่ Master Bedroom กันก่อนเลยค่ะ ห้องนี้จะกินพื้นที่ด้านหน้าของบ้านทั้งหมดและจะเป็นห้องเดียวของชั้นนี้ที่มีระเบียงด้วยค่ะ

ตัวระเบียงนั้นจะอยู่ทางหน้าบ้าน มีประตูบานเลื่อนสำหรับเข้า-ออกไปยังระเบียง

ระเบียงจะกว้าง 90 ซม. และยาว 5.7 เมตรค่ะ ราวกันตกเป็นกระจกนะคะ

ส่วนที่เป็นห้องนอนจะมีขนาด 5×3.35 เมตรเลย อาจจะสลับฝั่งที่เป็นหัวเตียงได้นะคะ

อีกฟากของห้องจะเป็นส่วนของห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัวค่ะ

ปลายสุดจะมีหน้าต่างเล็กๆ สามารถระบายอากาศบริเวณนี้ได้ และยังช่วยให้ตรงนี้ดูสว่างมากขึ้น

ตรงนี้เราสามารถทำตู้เสื้อผ้ายาว 3.80 เมตรได้เลยค่ะ

ส่วนห้องน้ำก็จะแยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งไว้ มีหน้าต่างเป็นช่องแสงและระบายอากาศอยู่ ตัวกระจกเงาก็จะได้บานใหญ่แบบที่เห็นเลยค่ะ

สุขภัณฑ์ต่างๆจะได้ของ American Standard มีผนัง Low wall ด้านหลังสุขภัณฑ์ก่อไว้ วางข้าวของเครื่องใช้ได้นะคะ

ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่อาบน้ำค่ะ มีช่องใส่อุปกรณ์อาบน้ำอยู่ และมีที่นั่งก่อไว้ให้ด้วย ส่วนตัวฝักบัวจะได้แบบ Hand Shower

ไปดูห้องนอนเล็กอีกฝั่งกันค่ะ โดยห้องนอนทั้ง 2 นั้นจะต้องมาใช้ห้องน้ำร่วมกันนะคะ โดยห้องน้ำจะอยู่ตำแหน่งกลางบ้านตรงข้ามกับบันได

Layout ของห้องน้ำจะคล้ายๆเดิม แยกพื้นที่ส่วนแห้ง-เปียกให้

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือจะมีประตูเข้า-ออกห้องน้ำ 2 ทาง ทำให้ห้องนอนเล็ก 1 ห้องสามารถเปิดเข้ามาใช้งานห้องน้ำได้โดยตรงเลยค่ะ

ห้องนี้ก็จะสะดวกมากขึ้นด้วยนะคะ ดึกๆอยากเข้าห้องน้ำก็ลุกมาเปิดประตูทีเดียวเข้าใช้งานได้เลย

ห้องนี้จะมีขนาด 4.00×3.65 เมตร มีหน้าต่างอยู่ 2 ฝั่งของผนัง

ด้วยขนาดห้องแล้วก็สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ และจัดตู้เสื้อผ้า มุมทำงานส่วนตัวภายในห้องได้ด้วยนะคะ

ในบ้านตัวอย่างจะวางเตียงแบบ Queen size เอาไว้ เราจะเห็นได้ว่าสามารถเดินรอบๆเตียงได้สบาย และจัดฟังก์ชันใช้งานข้างผนังได้สองฝั่งเลย เป็นชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้าได้

มาอีกห้องกันบ้าง ห้องนี้จะไม่ได้เชื่อมต่อกับห้องน้ำนะคะ เป็นห้องที่มีขนาด 4.00×3.2 เมตร มีหน้าต่างให้สองฝั่ง ระบายอากาศได้ดี

ข้างประตูทางเข้าจะมีพื้นที่เว้าเข้าไปเหมาะกับการจัดเป็นตู้เสื้อผ้า พื้นที่ตรงนี้จะกว้าง 1.65 เมตร

ปลายเตียงและด้านข้างก็สามารถจัดวางทีวีและมุมทำงานเพิ่มเติมได้นะคะ ในขณะที่เราสามารถเลือกเตียงขนาด Queen size ได้อยู่ ถือว่าเป็นห้องที่อยู่อาศัยสบายเลย

อรุณ

“อรุณ” ถือว่าเป็นบ้านที่น่าสนใจค่ะ เพราะเป็นบ้านที่คล้ายกันกับแบบรวีที่เป็นบ้านขนาดเริ่มต้น แต่บ้านแบบนี้จะได้ Living Area ถึง 2 จุดที่ชั้น 1 เลย และยังคงมีพื้นที่ห้องเก็บของอยู่ค่ะ โดยพื้นที่ส่วน Living ที่อยู่ด้านในก็ถือว่าเป็นพื้นที่ที่สามารถยืดหยุ่นได้ เช่น ถ้าใครชอบทำขนม อาจจะปรับพื้นที่ตรงนี้เป็น Pantry สำหรับอบขนมได้ จะกั้นห้องเป็นพื้นที่ทำงานก็ได้เช่นกันค่ะ หรือว่าจะขยายให้พื้นที่ Living ใหญ่ขึ้น มีพื้นที่โต๊ะกินข้าวที่ใหญ่ขึ้นก็ได้ เหมาะกับบ้านที่มีแขกแวะเวียนมาบ่อย หรือจัดปาร์ตี้ค่ะ ส่วนที่ชั้น 2 ก็จะมีฟังก์ชันคล้ายเดิม คือ Master Bedroom อยู่ด้านหน้า มีระเบียงภายในตัว ห้องนอนเล็กอยู่ด้านหลัง 2 ห้อง มาใช้งานห้องน้ำที่อยู่ร่วมกันได้ค่ะ

รวี

“รวี” เป็นแบบบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการ โดยบ้านแบบนี้ก็จะลดพื้นที่ใช้สอยบางอย่างออกไปค่ะ นั่นก็คือ ห้องนอนที่ชั้นล่าง และห้องเก็บของทางด้านหลังบ้าน ดังนั้นที่ชั้น 1 เราจะได้ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ Living ต่อเนื่องไปยังพื้นที่กินข้าวที่อยู่หลังบ้าน ทำให้พื้นที่ส่วนนี้จะดูโปร่งขึ้นด้วย เพราะจะได้หน้าต่างถึง 3 ด้านของผนังเลย ในขณะที่ครัวจะอยู่ข้างบันได และห้องน้ำอยู่ใต้บันไดค่ะ

ที่ชั้น 2 จะแบ่งเป็น Master Bedroom ที่ขนาดใหญ่ ได้พื้นที่ Walk-in Closet เยอะ และห้องนอนเล็กที่อยู่ 2 ห้องด้านหลังก็ยังเป็นห้องที่ขนาดภายในจัดวางเตียงใหญ่ได้ มีพื้นที่ส่วนตัวภายในห้อง แต่ต้องเดินออกมาใช้ห้องน้ำร่วมกันด้านนอกแทนค่ะ เราไปดูบรรยากาศภายในบ้านผ่าน Gallery ด้านล่างกันนะคะ คลิกเลื่อนดูรูปได้เลย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

5 MARCH 2020

• ราคาบ้านแบบต่างๆจะเริ่มต้นอยู่ที่ 6 – 13 ล้านบาทค่ะ ส่วนราคาจริง สอบถามกับทางโครงการอีกครั้งค่ะ
• จอง 10,000 บาท
• ทำสัญญา 50,000 บาท
• ดาวน์ n/a
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 63,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ที่ตั้งของโครงการอยู่ในย่านรังสิต-ปทุมธานี ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกในการเดินทางทั้งการเข้า-ออกเมือง ทั้งจากถนนพหลโยธิน ถนนติวานนท์ และทางด่วนอุดรรัถยา กับ ทางด่วนอุตราภิมุข หรือว่าจะเดินทางไปยังปทุมธานี ก็ถือว่าสะดวกค่ะ ส่วนเรื่องของกินของใช้ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับตลาดน้อยใหญ่ สามารถเดินทางไปยังโซนเมืองเอก และโซนฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิตได้สะดวก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่สะดวกสบายค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ด้วยความที่ตัวโครงการจะตั้งอยู่ร่วมกับโครงการอื่นๆของเสนา ทำให้มีระบบรักษาความปลอดภัยรวมใกล้กับถนนใหญ่ 1 จุด และทางเข้า-ออกแยกเฉพาะโครงการอีก 1 จุด โครงการนี้เลยได้ Double Security ไปในตัวค่ะ นอกจากนี้ภายในตัวบ้านก็จะมี CCTV ให้มา 2 จุด (ที่จอดรถและห้องนั่งเล่น) และมี Magnetic Sensor ที่ติดตั้งมาให้ทุกประตู-หน้าต่างที่ชั้น 1 ของบ้านด้วย

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : ภาพรวมโครงการจะแบ่งขายออกเป็น 2 เฟส มีทางเข้าหลักและพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลาง แบบบ้านขนาดใหญ่จะอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางและทางเข้ามากกว่าแบบบ้านขนาดเล็กค่ะ ส่วนตัวบ้านจะเป็นบ้านขนาดกลางๆเป็นหลัก แต่หน้าตาบ้านจะเป็นบ้านที่ดูหน้ากว้าง และออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในมาในขนาดอยู่สบายกำลังดี ห้องนอนทุกห้องก็จะมีพื้นที่ภายในที่สามารถวางเตียงแบบ Queen Size และเพิ่มมุมส่วนตัวในห้องนอนได้ ส่วน Master Bedroom ก็จะเป็นห้องขนาดใหญ่ มี Walk-in Closet ขนาดใหญ่ภายในห้องค่ะ

วัสดุ : โครงสร้างของบ้านโครงการนี้จะก่อด้วยอิฐแดงทั้งหลัง พื้นชั้น 1 จะได้กระเบื้องแกรนิตโต้ แต่พื้นชั้น 2 จะได้ไม้ปาเก้ ภายในห้องครัวจะทำ Built-in ตู้เก็บของทั้งบนและล่างเคาน์เตอร์มาให้ พร้อมกับเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ Franke ภายในห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์ของ American Standard เป็นมาตรฐานค่ะ และทุกห้องอาบน้ำจะได้ที่นั่งอาบน้ำมาให้ค่ะ นอกจากวัสดุก็จะมีเทคโนโลยีต่างๆที่นำมาใช้ในบ้านด้วยเช่น Solar Roof, Active Air Fresh, Home Automation+Application และ EV Ready เพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger ค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 11 เมตร ส่วนถนนรองกว้าง 9 เมตร รถขับสวนกันสะดวกค่ะ ส่วนพื้นที่สีเขียวที่ประทับใจคือถนนหลักที่ใช้ร่วมกับโครงการอื่นๆจะมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นดูร่มรื่นมาก ส่วนภายในตัวโครงการก็จะมีสวนอยู่ที่ส่วนกลางเป็นส่วนใหญ่ ส่วนถนนหน้าบ้านจะมีทางเท้าที่ปูด้วยพื้นหญ้า และอาศัยร่มเงาจากต้นไม้ที่ปลูกในบ้านแต่ละหลังแทนค่ะ

สาธารณูปโภค : ส่วนกลางจะมีอยู่ 1 จุดตรงกลาง ประกอบด้วย สวนสาธารณะ, สนามบาส, สนามพัตกอล์ฟ, Clubhouse, Lobby, Fitness และสระว่ายน้ำ โดยส่วนที่เป็นสระว่ายน้ำจะคิดค่าบริการเพิ่มเติม ครั้งละ 50 บาทค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 15 ล้านบาท, 5 March 2020

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ฝั่งรังสิต-ปทุมธานี ใกล้ตลาดและทางด่วน
• ความปลอดภัย 8.5/10 – มี Double Security, CCTV, Magnetic Sensor
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ฟังก์ชันในบ้านครบ
• วัสดุ 8.25/10 – ส่วนใหญ่จะได้ตามมาตรฐาน แต่จะมีพื้นชั้น 2 ที่ได้ปาเก้ และครัวที่มาครบชุด
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – ได้ตามมาตรฐาน
• สาธารณูปโภค 7.25/10 – ส่วนกลางถือว่ามีครบ แต่คิดค่าใช้สระว่ายน้ำเพิ่มเติม
• 7.73 / 10.00 

BOTTOM LINE

SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์  เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยว 3-4 ห้องนอนโซนรังสิต-ปทุมธานี เน้นความสะดวกสบายใกล้ตลาดและห้าง สนใจเรื่องเทคโนโลยีและการประหยัดพลังงาน มีงบประมาณ 7-15 ล้าน (รวมค่าตกแต่ง) และมีกำลังผ่อนที่ 49,000-105,000 บาทต่อเดือน

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving