รีวิวฉบับที่ 2735 พามาชม Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) บ้านเดี่ยวบนทำเลติดถนนแพรกษา ใกล้ BTS สายสีเขียวเพียง 2.3 กิโลเมตร โดยโครงการถือเป็นเฟสที่ 2 จาก Project ของ Sansiri ที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ย่านนี้ให้เป็น “สังคมแสนสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา” เปิดตัวมาในราคาเริ่มต้น 7.59 – 10 ล้านบาท* โดย Highlight ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันค่ะ
- ทำเลใกล้ถนนใหญ่และรถไฟฟ้า : ที่ตั้งของโครงการจัดว่าอยู่ติดถนนแพรกษา ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อโซนสุขุมวิท – บางนาได้ง่าย ใกล้ BTS สถานีแพรกษาเพียง 2.3 กิโลเมตร ถือเป็นจุดเด่นไม่ค่อยได้เห็นในโครงการแนวราบโซนนี้เท่าไรนะคะ
- ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ : โครงการใกล้นิคมอุตสาหกรรมถึง 2 แห่ง ทั้งนิคมอุตสาหกรรมบางพลีและนิคมอุตสาหกรรมบางปู เหมาะกับพนักงานหรือเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวบนทำเลแพรกษา สามารถเดินทางไปทำงาน หาของกิน ของใช้ได้ง่าย
- บ้านหน้ากว้าง ได้ 4 ห้องนอน : Product ของโครงการเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด จำนวน 157 ยูนิต ออกแบบมาในสไตล์ Modern Farmhouse แปลนบ้านได้เป็นแบบหน้ากว้าง มาพร้อมฟังก์ชัน 4 ห้องนอนทุกหลัง เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง – ใหญ่ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวในงบไม่เกิน 10 ล้านบาท*
- Solar Panel ทุกยูนิต : สำหรับเรามองว่าความคุ้มค่าของโครงการนี้อยู่ที่วัสดุและเทคโนโลยีในบ้านที่แถมมาให้ โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ Solar Panel ที่ติดตั้งมาให้ทุกยูนิต มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง Magnetic Sensor และภายในครัวยังได้เคาน์เตอร์แบบครบชุด พร้อมใช้งานได้เลย
ข้อมูลโครงการ
Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2567
ชื่อโครงการ | Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ |
ที่ดิน | 37 – 90.88 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 157 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | ชั้น 1 : 2.70 เมตร ชั้น 2 : 2.80 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 75,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2567 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2568 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.589625 , 100.623381
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากโครงการแสดงตำแหน่งที่ตั้งของ Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) โดยทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนแพรกษาตอนต้น ห่างจากถนนสายหลักอย่างถนนสุขุมวิทเพียง 2.3 กิโลเมตร จัดว่าเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียว เรื่องการเดินทางก็ค่อนข้างสะดวกสบาย ด้วยทำเลที่ติดถนนใหญ่ และยังมีตัวเลือกอย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีแพรกษา) ให้เลือกใช้บริการ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ไม่ค่อยได้เห็นในโครงการประเภทแนวราบเท่าไรนะคะ
สำหรับคนที่ทำงานย่านนี้ โครงการตั้งอยู่ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง ทั้งนิคมอุตสาหกรรมบางพลีและนิคมอุตสาหกรรมบางปู เหมาะกับพนักงานหรือเจ้าของกิจการที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวในงบประมาณเริ่มต้นไม่เกิน 10 ล้านบาท สามารถเดินทางไปทำงานได้ง่าย หรือใครที่ทำงานในโซนใจกลางเมือง โครงการก็อยู่ห่างจากทางพิเศษศรีรัชประมาณ 14 กิโลเมตร
ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ บนถนนแพรกษาเองก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารและ Hypermarket ให้เลือกจับจ่ายอยู่ค่อนข้างเยอะ ทั้งยังมีห้างสรรพสินค้าอย่าง Robinson Lifestyle ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 3 กิโลเมตร และด้วยทำเลที่สามารถขับเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย จึงทำให้เราสามารถแบ่งย่านความอุดมสมบูรณ์ออกเป็น 2 โซนหลักๆได้ดังนี้
- โซนถนนสุขุมวิท อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดตัดระหว่างถนนศรีนครินทร์และถนนสุขุมวิท (ย่านปากน้ำ) เดิมเป็นย่านชุมชนที่มีความคึกคักอยู่แล้ว เมื่อมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพิ่มเข้ามา ก็ทำให้ยิ่งมีห้างและ Community Mall ผุดเพิ่มขึ้นอีกหลายแห่ง โดยปัจจุบันก็มี Robinson Lifestyle , Big C , Major Cineplex และ Lotus สมุทรปราการให้ไปเดินจับจ่ายใช้สอยกันได้ค่ะ
- โซนถนนตำหรุ-บางพลีไปจนถึงถนนบางนา – ตราด ก็จัดว่าอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ขับรถไปใช้เวลาเพียง 15 – 20 นาทีเท่านั้น จัดเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง โดยเฉพาะฝั่งบางนา – ตราด ที่มีทั้งห้าง Central บางนา , Mega และ Ikea บางนา ถือเป็นแหล่งรวม Shopping Mall ขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ lifestyle การใช้ชีวิตได้แบบครบครัน ไม่แพ้โซนในเมืองเลย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
รอบโครงการ Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่า เนื่องจากอยู่ติดกับพื้นที่ที่กำลังรอการพัฒนาของ Sansiri เอง ขยับมาหน่อยรอบข้างก็เป็นแหล่งชุมชน ลักษณะเป็นอาคารพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น ทำให้ได้ความสงบและเป็นส่วนตัวทีเดียวค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ พื้นที่โครงการในอนาคตของ Sansiri และที่พักอาศัยแนวราบ
- ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า คลองแพรกษาและถนนภาระจำยอมของโครงการ
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับ พื้นที่โครงการในอนาคตของ Sansiri และที่พักอาศัยแนวราบ
บรรยากาศด้านหน้าโครงการ ตั้งอยู่ติดถนนแพรกษา
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- The Blue Arena ~ 800 เมตร
- Makro แพรกษา ~ 2.2 กิโลเมตร
- Robinson Lifestyle สมุทรปราการ ~ 4 กิโลเมตร
- Big C สมุทรปราการ ~ 5.1 กิโลเมตร
- Central บางนา ~ 16.5 กิโลเมตร
- Big C บางนา ~ 16.5 กิโลเมตร
- Seacon Square ~ 16.8 กิโลเมตร
- Paradise Park ~ 16.9 กิโลเมตร
- Mega บางนา ~ 18.5 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ ~ 5.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสมุทรปราการ ~ 6.3 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลสมุทรปราการ ~ 7.2 กิโลเมตร
โรงเรียน
- โรงเรียนนพคุณวิทยา ~ 4.5 กิโลเมตร
- โรงเรียนสตรีสมุทรปราการ ~ 5.7 กิโลเมตร
- โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ สมุทรปราการ ~ 7.2 กิโลเมตร
การเดินทาง
- BTS สถานีแพรกษา ~ 2.3 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) เป็นโครงการเฟสที่ 2 จาก Project ของ Sansiri ที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ในย่านนี้ให้เป็น “สังคมแสนสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา” หลักจากที่ได้เปิดตัว Anasiri Srinakarin – Phraeksa (อณาสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) บ้านแฝดและทาวน์โฮมโครงการแรกไปเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน Sansiri Community จะประกอบด้วย 4 เฟส มี Product ให้เลือกครบทั้ง ทาวน์โฮม , บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว เพื่อสร้างความหลากหลายให้ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ทั้งรูปแบบบ้านและระดับราคา โดยพื้นที่อีก 2 เฟส จะมีความน่าสนใจยังไงบ้าง ต้องรอติดตามกันต่อไปในอนาคตนะคะ
โดย Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) จะเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด จำนวน 157 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 37 ไร่ จัดเป็นโครงการขนาดกลาง ไม่หนาแน่นมาก โดยที่ตั้งจะอยู่ห่างจากถนนแพรกษาประมาณ 700 เมตร เป็นระยะทางของถนนภาระจำยอมซึ่งจะใช้ร่วมกับโครงการอื่นๆ โดยข้อดีก็คือ บรรยากาศด้านหน้าโครงการจะไม่พลุกพล่านเท่าโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ แต่ก็ยังสามารถเข้า – ออกได้ง่าย ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ทั้งความสะดวกและเป็นส่วนตัว
การวางผังโครงการ ซุ้มประตูทางเข้า – ออกจะอยู่ตรงกลาง เมื่อเข้ามาก็จะเจอพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ได้เนื้อที่กว่า 2 ไร่ จัดเป็นโซนต้อนรับที่ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลายได้ดี โดยเฉพาะบ่อน้ำพุที่อยู่ด้านหน้า Clubhouse ส่วนบ้านพักอาศัยหน้าบ้านส่วนใหญ่จะหันขนานไปกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ จัดเป็นทิศที่ไม่โดนแดดโดยตรง ทำให้ตัวบ้านไม่ร้อน และยังสามารถรับลมธรรมชาติได้ด้วย
โดยส่วนที่เราชอบคือการจัดแบ่งซอย จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมาก เพราะจะมีเพื่อนบ้านแค่ซอยละ 2 – 8 ยูนิตเท่านั้น และถนนยังเป็นซอยตัน จึงช่วยคัดกรองคนในการเข้า – ออกได้ดี ทำให้หน้าบ้านไม่วุ่นวาย และสวนตรงกลางที่วางมาให้เป็นแนวยาวเกือบตลอดทั้งโครงการ นอกจากช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่น สดชื่นแล้ว ลูกบ้านยังเดินมาใช้งานได้ง่าย สำหรับคนที่อยากได้บ้านแปลงมุม ในโครงการนี้ก็มีให้เลือกทุก Type ไม่ได้จำกัดเฉพาะบ้านไซส์ใหญ่นะคะ แต่หากใครอยากได้บ้านวิวสวน ก็มีแบบกลาง 178 ตร.ม. กับแบบใหญ่ 200 ตร.ม.ให้เลือกค่ะ จากในบ้านมองออกมาเห็นสวนได้เลย
บรรยากาศด้านหน้าทางเข้า ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ Anasiri Srinakarin – Phraeksa (อณาสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) ที่ใช้ถนนร่วมกัน การออกแบบมีสไตล์ที่แตกต่างชัดเจน โดยโครงการ Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) จะมาในแนวคิด Modern Farmhouse สังเกตได้จากทรงของหลังคา ซุ้มโค้ง Arch และ Arch Dormer ด้านบน ได้กลิ่นอายอาคารสไตล์ยุโรป
ทางเข้า – ออกโครงการแบ่งเป็น 2 ฝั่งชัดเจน คั่นด้วยป้อมรปภ. ที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีแยกช่องของลูกบ้านและ Visitor ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้า – ออก โดยระบบจำใช้การสแกนป้ายทะเบียน ซึ่งลูกบ้านสามารถตรวจเช็ค หรือดูประวัติการเข้า – ออกผ่านแอพ Sansiri Home Service ในมือถือได้ด้วยนะคะ
บรรยากาศถนนภายในโครงการเมื่อขับผ่านซุ้มประตูเข้ามา ถนนหลักจะกว้างประมาณ 12 เมตร ส่วนถนนภายในซอยจะกว้าง 8 เมตร รถขับสวนเข้า – ออกได้สะดวก ด้านซ้ายมือจะมองเห็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับ Activity ของลูกบ้านได้อย่างหลากหลายเลย
เริ่มที่โซนแรกเป็น Pet Park ขนาดใหญ่ ที่ไม่ได้ให้มาเฉพาะสนามหญ้า แต่มีเครื่องเล่นให้เหล่าสัตว์เลี้ยงได้ยืดเส้นยืดสาย และฝึกพัฒนาการร่วมกับคุณพ่อ คุณแม่ได้ โดยในการออกแบบโครงการก็คำนึงถึงวัสดุที่เลือกใช้ รวมถึงพันธุ์ไม้ตกแต่งที่ไม่เป็นอันตรายกับน้องๆอีกด้วย
สำหรับใครที่กังวลเรื่องความสะอาด ด้านข้างก็มีมุม Dog Waste Station มาให้ด้วย เก็บปุ๊บก็ทิ้งลงถังได้เลย สะดวกทีเดียวค่ะ
ถัดมาเป็น Exercise Area ที่มีมุมออกกำลังกาย อย่างบาร์โหนไว้ฝึกกล้ามเนื้อและข้อต่อได้ดี อีกทั้งยังมีม้านั่งจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหลายจุดอีกด้วย ซึ่งบรรยากาศรอบๆก็ตกแต่งมาได้ร่มรื่น น่าใช้งาน
โซน Playground เป็นมุมเครื่องเล่นสำหรับเด็ก มีสนามหญ้าให้วิ่งออกกำลังกับเพื่อนๆได้ เราชอบที่รอบๆมีการวางก้อนหินที่ตกแต่งเป็นรูปแกะ ได้อารมณ์เหมือนอยู่ในสวนชานเมืองของยุโรป ส่วน Clubhouse ได้มาเป็นอาคาร 2 ชั้น ด้านหน้ามีบ่อน้ำพุ ช่วยเพิ่มความสดชื่น ผ่อนคลายได้ดี
Clubhouse ประกอบด้วยฟังก์ชันที่ใช้งานได้ทั้ง Indoor และ Outdoor การออกแบบเลือกใช้วัสดุลายอิฐ , หิน ให้ความรู้สึกเหมือนสถาปัตยกรรมยุโรป แต่ยังได้ความรู้สึกอบอุ่นแบบ Cottage Village รวมถึงมีการใส่ดีเทลอย่างซุ้ม Arch และ Bay Window ซึ่งถือเป็น Gimmick หลักในตัวบ้านด้วยเช่นกัน
ชั้น 1 ของ Clubhouse จัดเป็นโถงต้อนรับขนาดใหญ่ ได้มาเป็นแบบ Semi Outdoor และมีโซนฝ้าเพดานสูง เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้น 2 ได้ความโปร่งโล่ง จะใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน หรือ Co – Working Space ลูกบ้านก็สามารถเลือกใช้งานได้ ซึ่งโครงการก็ได้จัดโซฟา และโต๊ะยาวไว้รองรับได้ทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่มเลย
ติดกันยังมี Kid’s Room ที่ให้เด็กๆเข้ามานั่งเล่นกับเพื่อน ระหว่างรอคุณพ่อ คุณแม่ทำงาน หรือใช้ฟิตเนสด้านบนได้ ซึ่งพื้นที่ในห้องก็ได้มาแบบเพดานสูงเช่นกัน ทำให้ภายในห้องดูสว่าง ไม่อึดอัด
เชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านนอกเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ได้มาเป็นระบบเกลือ ขนาด 8×16 เมตร ลึก 1.20 เมตร ด้านข้างมี Sunbed ให้วางของหรือขึ้นมานอนเล่นพักผ่อนได้ ว่ายน้ำไปก็สามารถชมวิวสวนได้ด้วย ซึ่งบ่อน้ำพุด้านหน้าก็ช่วยแบ่งพื้นที่ใช้งานได้ดี ทำให้คนที่ใช้งานสระได้ความเป็นส่วนตัว
มีสระเด็กพร้อมโซน Jacuzzi ให้ใช้งานด้วย ซึ่งขนาดได้มาประมาณ 5×5 เมตร ลึก 0.50 เมตร เด็กๆสามารถมานั่งเล่น แช่น้ำกันได้
ห้องน้ำส่วนกลางภายในอาคาร Clubhouse
ติดกับสระว่ายน้ำมีมุมให้ล้างตัวก่อนลงสระ และมีห้องน้ำส่วนกลางเอาไว้รองรับ โดยแยกเป็นห้องน้ำชาย – หญิง และมีห้องน้ำผู้พิการอยู่ด้วย ซึ่งข้างในก็มีตู้ Locker มาให้ใช้เก็บของได้นะคะ
ชั้น 2 เป็นฟิตเนส โครงการจัดอุปกรณ์มาให้ครบทั้ง Cardio และ Weight Trainning ให้ลูกบ้านเลือกใช้งานได้ ผนังด้านข้างได้เป็นบานกระจกขนาดใหญ่ มองลงไปเห็นวิวสวนและภายในโครงการได้แบบ 180 องศาเลยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8×16 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- แบ่งสระเด็กขนาด 5×5 เมตร ลึก 0.50 เมตร / พร้อมโซนจากุชชี่
- ห้องออกกำลังกาย
- Co – Working Space
- สนามเด็กเล่น
- Pet Station
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 2 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 15 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.90 เมตรและรั้วโปร่งแบบ Digital Fence ต่อเพิ่ม 0.90 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 8 เมตร
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง / LIV – 24
- ประตูรั้วโครงการแบบ รางเลื่อนไฟฟ้า 3 ตอน
- การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน (ลูกบ้านสามารถตรวจเช็คได้ผ่าน Sansiri Home Service)
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
แบบบ้าน
รูปแบบบ้านพักอาศัยในโครงการ Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) จะเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้พื้นที่ใช้สอย 159 – 200 ตร.ม. โดยฟังก์ชันออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ 4 – 5 คนได้แบบสบายๆ ตั้งแต่ในแบบบ้านไซส์เริ่มต้น ก็ได้มา 4 ห้องนอน ทำเป็นห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุได้ โดยรายละเอียดของบ้านที่น่าสนใจ เราได้สรุปมาให้ก่อนดังนี้
- IVY (ไอวี่) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 – 84.40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - ASTER (แอสเทอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 97.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - MUGUET (มูเกต์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 92.50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
วัสดุในบ้าน
- โครงสร้างบ้าน ก่อสร้างด้วยระบบ Precast
- พื้นส่วนที่จอดรถในร่ม ลงเข็มมาให้เท่าตัวบ้าน
- พื้นชั้น 1 : SPC ความหนา 5.5 มิลลิเมตร
- พื้นชั้น2 : ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร
- สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจากยี่ห้อ COTTO (พร้อมฉากกั้นอาบน้ำเหมือนในบ้านตัวอย่าง) / โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติในห้องน้ำชั้น 1 และ Master Bedroom
- บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สังเคราะห์
- Built – in ครัว : ท็อปหินสังเคราะห์ / อ่างล้างจาน / เตาไฟฟ้า 4 หัว จากยี่ห้อ TEKA
- สวิตช์และปลั๊กไฟจากยี่ห้อ bticino
เทคโนโลยีในบ้าน
- Magnetic Sensor ที่ประตู – หน้าต่างชั้น 1 ทุกจุด พร้อม Motion Sensor ที่โถงบันได
- ระบบไฟ 1 เฟส (30/100) รองรับการติดตั้ง EV Charger
- Solar Panel ระบบ on grid ขนาด2.2 Kw.
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
สำหรับโครงการแนวราบในโซนศรีนครินทร์ – แพรกษา ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแฝด ทาวน์โฮม หรือโครงการที่มี Product ผสมบ้านเดี่ยวเข้าไปด้วย แต่โครงการ Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) จะเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด ในราคาเริ่มต้น 7.59 – 10 ล้านบาท*
นอกจากบรรยากาศภายในโครงการแล้ว วัสดุที่ได้มาก็ค่อนข้างคุ้มค่า มี Solar Panel ติดตั้งมาให้ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยทุกยูนิตเลย โดยบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในวันนี้ ก็มีให้ดูครบทั้ง 3 แบบเลย จะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันค่ะ
แบบบ้าน IVY (ไอวี่) พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม.
IVY (ไอวี่) เป็นแบบบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นของโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. การออกแบบมาในสไตล์ Modern Farmhouse ที่ได้กลิ่นอายอบอุ่น ย้อนยุคแบบบ้านสไตล์ยุโรป มีการตกแต่งหน้าตาอาคารด้วยขอบบัวปูนและกรอบหน้าต่าง ภายในบ้านมี Bay Window มาให้ทุกหลัง เพิ่มความ Cozy น่าอยู่อาศัยให้กับบ้านได้ดีทีเดียวค่ะ
การจัดแปลนบ้านทั้ง 3 Type จะได้มาเป็นหน้ากว้าง เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง โดยในแบบบ้าน IVY (ไอวี่) การเข้า – ออกจะแบ่งเป็น 2 ทาง คือประตูด้านหน้าติดกับส่วนนั่งเล่น และประตู Service หลังที่จอดรถ ช่วยเพิ่มความสะดวกไม่ต้องเดินอ้อม ส่วนครัวได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่เลย อยู่ด้านหลังตัวบ้านได้มาเป็นแบบปิด ห้องนอนชั้นล่างอยู่ด้านในสุด ติดกับห้องน้ำ เดินเชื่อมต่อใช้งานได้ง่าย
ส่วนชั้น 2 ประกอบด้วย 1 Master Bedroom ขนาดใหญ่ที่มี Walk – in Closet พร้อมห้องน้ำแยกใช้งานในตัว และ 2 ห้องนอน ใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงกลาง ส่วนตัวเรามองว่าฟังก์ชันจัดมาลงตัว เป็นสัดส่วน เหมาะกับคนที่อยากได้บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน ในงบไม่เกิน 8 ล้านบาท มีห้องไว้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเองได้ ครอบครัวที่ไม่มีผู้สูงอายุ ก็อาจจะจัดเป็นห้องนอนแขก , ห้องนั่งเล่นพักผ่อน หรือห้องทำงานส่วนตัวเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้
บรรยากาศรอบๆบ้านตัวอย่าง IVY (ไอวี่) พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม.
เข้ามาชมบรรยากาศภายในบ้านตัวอย่าง เริ่มจากด้านหน้าซึ่งเป็นที่จอดรถกว้างประมาณ 5.26 เมตร จอดรถได้ 2 คันพอดีๆ โครงสร้างพื้นลงเข็มมาให้เรียบร้อย รองรับการต่อเติมหลังคาในอนาคตได้
โดยที่ดินของแบบบ้าน IVY (ไอวี่) จะเริ่มต้นตั้งแต่ 50 – 84.40 ตร.วา ทำให้ยังมีเนื้อที่รอบบ้านให้จัดเป็นพื้นที่สวนไว้ออกมาใช้งานได้ ซึ่งในบ้านมาตรฐานโครงการก็จะปูหญ้ามาให้เลยนะคะ
จากหน้าบ้านเข้ามาจะเจอส่วนนั่งเล่นเป็นอันดับแรก ด้านข้างมีช่องเปิดมาหลายจุด ช่วยเพิ่มบรรยากาศโปร่งโล่งให้กับตัวบ้าน โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.70 เมตร ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนรับประทานอาหารที่สามารถเดินเชื่อมต่อกับครัวได้
ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน จะมี Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ที่ประตู – หน้าต่างชั้น 1 ทุกจุด และยังมี Breeze Panel หรือช่องลมระบายอากาศมาให้ที่หน้าต่างฝั่งข้างบ้านและหลังบ้าน พร้อมปุ่มเปิด – ปิด ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก ต่อให้ปิดหน้าต่างไว้ ก็ไม่อึดอัด
ส่วนนั่งเล่นได้พื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้าง ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีประมาณ 3 เมตร สามารถวางโซฟา 3 – 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ โดยในแบบบ้านนี้ประตูทางเข้าจะได้มาเป็นบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ เปิด – ปิดใช้งานง่าย
วัสดุพื้นเป็น SPC ลายไม้ หนา 5.5 มิลลิเมตร ให้ความรู้สึกอบอุ่นพร้อมสัมผัสที่สบายเท้า เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความลื่นและเย็นของกระเบื้อง ทั้งยังช่วยถนอมไขข้อให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในบ้านได้ด้วย
ส่วนรับประทานอาหารอยู่ด้านในสุด เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นและครัว ด้านข้างมีประตูบานเลื่อนกระจกเปิดออกไปใช้งานพื้นที่สวนด้านนอกได้ด้วย หรือจะเปิดไว้ชมวิวระหว่างทานข้าวก็ได้บรรยากาศผ่อนคลายไปอีกแบบค่ะ ซึ่งจากขนาดพื้นที่สามารถวางโต๊ะได้ 4 – 6 ที่นั่งเลยนะ
อีกฝั่งของบ้านแบ่งเป็นโถงบันไดขึ้นชั้น 2 , ห้องน้ำ , ห้องนอนชั้นล่าง และส่วนครัวแบบปิด ที่โครงการได้กั้นประตูบานเลื่อนกระจกมาให้เรียบร้อย สำหรับคนที่ชอบทำอาหารก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรือควันที่จะลอยเข้าไปในตัวบ้าน
ห้องครัวภายในบ้านมาตรฐาน จะแยกวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้อง ได้ลายเหมือนในบ้านตัวอย่างเลย ซึ่งจะได้ข้อดีในเรื่องความทนทานและทำความสะอาดได้ง่าย มีเคาน์เตอร์ Built – in มาให้พร้อมหน้าบาน ใช้งานได้เลยค่ะ
พื้นที่ใช้งานภายในห้องครัว บ้านตัวอย่าง IVY (ไอวี่)
เคาน์เตอร์ครัวได้ท็อปเป็นหินสังเคราะห์ ติดตั้งมาให้พร้อมอ่างล้างจาน และเตา 4 หัว แบ่งเป็นเตาแก๊ส 2 หัวและเตาไฟฟ้า 2 หัวให้เลือกใช้งานได้จากยี่ห้อ TEKA ด้านล่างทำเป็นตู้เก็บของ ได้หน้าบานลายไม้เหมือนในบ้านตัวอย่างพร้อมใช้งาน
โดยพื้นที่ภายในครัวก็ถือว่าค่อนข้างกว้าง ยืนใช้งานพร้อมกัน 2 คนสบายๆ มีมุมให้วางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าด้านใน มีหน้าต่างติดตั้งมาให้ 2 จุด และประตูเปิดออกไปใช้งานพื้นที่ด้านหลังบ้านได้ด้วย
ถัดมาที่บริเวณกลางบ้านเป็นทางเดินเชื่อมต่อกับโถงบันไดขึ้นชั้น 2 และประตู Service ที่เปิดเข้ามาจากพื้นที่จอดรถ ติดกับบันไดมีห้องเก็บของมาให้ด้วย ใช้เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้เลย
พามาดูห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ด้านในสุด ในบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 3 ฟุต มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งจัดเป็นมุมแต่งตัวได้ครบ หรือใครจะวางเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ก็สามารถจัดได้แบบพอดีๆ ไม่ถือว่าแน่นเกินไปนะคะ
ห้องน้ำชั้น 1 จะอยู่ติดกับห้องนอน มีส่วนอาบน้ำรองรับอยู่ด้วย ใช้งานสะดวก โดยพื้นที่ภายในได้เป็นแบบหน้ากว้าง แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้ชัดเจน และมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งมาให้ 1 จุด ใช้เปิดระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำชั้น 1 บ้านตัวอย่าง IVY(ไอวี่)
อ่างล้างมือเป็นแบบแขวนผนัง ติดตั้งมาให้พร้อมก็อกน้ำจาก COTTO ด้านหลังมี Low Wall ไว้ใช้วางของใช้อย่างสบู่หรือแปรงสีฟันได้ด้วย หยิบใช้งานง่าย ตรงกลางเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ ที่โครงการให้มาเป็นแบบอัตโนมัติ แต่ก็มีสายฉีดชำระมาให้ด้วยนะ
ส่วนอาบน้ำได้มากว้าง 0.79×1.37 เมตร ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower จาก COTTO เช่นเดียวกัน สิ่งที่เราชอบก็คือ ในห้องน้ำทุกห้องจะได้กระจกเงาแบบเต็มบาน ช่วยให้บรรยากาศดูสว่างและค่อนข้างกว้าง
บันไดโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ให้ความรู้สึกแข็งแรง มั่นคงเวลาเดินขึ้น – ลง ด้านบนปิดผิวด้วยไม้สังเคราะห์ได้ความกว้างประมาณ 1 เมตร ลูกตั้งสูง 19 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 25 เซนติเมตร ใช้งานได้ตามมาตรฐาน บริเวณโถงได้หน้าต่างขนาดใหญ่ ใช้เปิดรับลมและแสงจากภายนอกได้ ทำให้โถงชั้นบนดูโปร่งโล่งไปด้วย
โดยวัสดุปูพื้นชั้น 2 ได้มาเป็นลามิเนตลายไม้ ความหนา 8 มิลลิเมตร มาพร้อมความสูงฝ้าเพดาน 2.80 เมตร ฟังก์ชันประกอบด้วย 2 ห้องนอน และ 1 Master Bedroom ขนาดใหญ่ค่ะ
เริ่มที่ห้องนอนห้องแรก จัดเป็นห้องนอนรองได้ขนาดมาใกล้เคียงกันทั้ง 2 ห้อง ในครอบครัวที่มีลูกๆอยู่ด้วย ก็สามารถจัดเป็นห้องนอนของเด็กได้ อย่างในบ้านตัวอย่าง ก็ทำเป็นห้องนอนเด็กอ่อน รอบๆได้หน้าต่างติดตั้งมาหลายจุด ใช้เปิดระบายอากาศ รับลมและรับแสงได้ดี
อีกห้องจัดเป็นห้องนั่งเล่นและมุมทำงานอดิเรก ใช้งานได้หลากหลาย หรือใครอยากจัดเป็นห้องนอน เรามองว่าสามารถวางเตียงขนาด 3 – 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าใช้งานในตัวได้เลย
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 2 บ้านตัวอย่าง IVY (ไอวี่)
ห้องน้ำชั้น 2 จะอยู่ตรงกลาง จากห้องนอนรองเดินมาใช้งานง่าย ภายในแบ่งพื้นที่มาเป็นสัดส่วน มีอุปกรณ์ติดตั้งให้พร้อมใช้งานจากยี่ห้อ COTTO โดยส่วนอาบน้ำได้มาขนาด 0.79×0.82 เมตร สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำ หรือ Shower Box สำเร็จรูปเพิ่มเองได้ ส่วนเครื่องทำน้ำอุ่น โครงการก็ได้เตรียม Junction ไว้ให้เรียบร้อยค่ะ
ปิดท้ายด้วย Master Bedroom ที่ได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง มีมุม Walk – in Closet และห้องน้ำแยกใช้งาน ได้ทั้งความสะดวกและเป็นส่วนตัวเลย ตรงกลางสามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุต พร้อมโต๊ะหรือตู้ข้างเตียงได้สบายๆ
โดยจุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่ Bay Window ที่โครงการทำเตรียมไว้ให้เรียบร้อย เราสามารถซื้อฟูก หมอนมาวาง จัดเป็นมุมนอนเล่นอ่านหนังสือได้ มองออกไปด้านข้างเห็นวิวสวนสีเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายได้ดีเลย
พื้นที่อีกฝั่งจัดเป็นมุม Walk – in Closet อยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำ ด้านข้างมีหน้าต่างติดตั้งมาให้หลายจุด ซึ่งเรามองว่าเป็นข้อดีของห้องหน้ากว้างเลยนะคะ สำหรับคนที่อยากจัดมุมแต่งตัว ก็สามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าได้แบบเต็มผนัง พร้อมวางโต๊ะเครื่องแป้งด้านข้างได้เหมือนในบ้านตัวอย่าง
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 2 บ้านตัวอย่าง IVY (ไอวี่)
ห้องน้ำใน Master Bedroom ได้ความพิเศษคือ นอกจากโถสุขภัณฑ์ที่ได้มาเป็นแบบอัตโนมัติจาก COTTO แล้ว ส่วนอาบน้ำยังได้ฉากกั้นมาพร้อมใช้งาน ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม โดยพื้นที่ยืนอาบได้มาขนาด 0.79×0.82 เมตร ยืนอาบได้สะดวก
แบบบ้าน MUGUET (มูเกต์) พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
ถัดมาเป็นแบบบ้าน MUGUET (มูเกต์) เป็นบ้านไซส์ใหญ่สุดของโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. บนที่ดินมาตรฐาน 50 – 92.50 ตร.วา ในราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท* ฟังก์ชันจะได้เป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ
การจัดแปลนของแบบบ้านนี้จะแตกต่างกับแบบ IVY (ไอวี่) ชัดเจน ทางเข้า – ออกจะมีจุดเดียวที่บริเวณด้านหน้า เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Foyer ที่แจกไปใช้งานห้องนอนและห้องน้ำที่ขยับมาอยู่ด้านหน้า ส่วนตรงกลางจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารแบบหน้ากว้าง ติดกันเป็นครัวปิดที่ได้มาขนาดใหญ่เช่นกัน ส่วนชั้น 2 ห้องนอนทุกห้องจะได้ห้องน้ำในตัว และใน Master Bedroom นอกจากมี Bay Window แล้ว ยังมีมุมพักผ่อนขนาดใหญ่ในห้องให้ใช้งานด้วย
ส่วนตัวเรามองว่า ทั้งแบบเริ่มต้น IVY (ไอวี่) และ MUGUET (มูเกต์) จะเหมาะกับคนที่อยากได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านแบบเต็มที่ จึงไม่มีระเบียงมาให้ แต่ก็มีมุมนั่งเล่นอย่าง Bay Window ในบ้านได้
บรรยากาศรอบๆบ้านตัวอย่าง MUGUET (มูเกต์) พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
บรรยากาศรอบๆแบบบ้าน MUGUET (มูเกต์) ได้ที่ดินมาค่อนข้างใหญ่ ทำให้บางแปลงมีที่ด้านข้างไว้จัดเป็นสวน พื้นที่วิ่งเล่นหรือมุมพักผ่อนสำหรับเจ้าสัตว์เลี้ยงได้ บริเวณทางเข้าบ้านประตูด้านหน้าจะอยู่ในร่ม เดินทางเข้า – ออกได้ง่าย ลักษณะเป็นประตูบานเปิดกระจก 2 ฝั่ง กว้าง 1.20 เมตร ส่วนจอดรถจอดได้ 2 คันเช่นเดียวกันทุกหลัง แต่ในแบบบ้านนี้ด้านหลังจะมีห้องเก็บของไว้ใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวน หรือเครื่องมือชิ้นใหญ่ๆได้ด้วย
เข้ามาภายในบ้าน จะเจอกับโถงต้อนรับขนาดใหญ่ ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นมุมนั่งพัก ถอดใส่ – รองเท้าได้ อีกฝั่งทำเป็นมุมไว้เก็บอุปกรณ์อย่างสายจูงหรือของเล่นสัตว์เลี้ยง จัดวางมาให้เป็นไอเดียดูเป็นระเบียบ คำนึงถึงการใช้งานได้ดี ซึ่งก็น่าจะถูกใจเจ้าของบ้านที่มีน้องๆอยู่ด้วยนะคะ
ด้านข้างเป็นห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำที่อยู่ติดกัน เดินเชื่อมต่อใช้งานได้ง่าย หรือเวลาที่มีแขกมาที่บ้านก็สามารถเดินมาเข้าห้องน้ำได้ ไม่ต้องเข้ามาในส่วนพักผ่อนของตัวบ้าน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี
ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน ยังได้ Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ที่ประตู – หน้าต่างทุกจุด ด้านข้างติดกับประตูทางเข้าจะมี Control Pad ไว้ควบคุมการใช้งานได้ จากยี่ห้อ inim ส่วนสวิต์และปลั๊กไฟในบ้านจะใช้ของ bticino
ห้องนอนชั้นล่างได้ขนาดมาค่อนข้างกว้าง วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้กำลังดี โดยยังเหลือพื้นที่ด้านข้างให้วางตู้เสื้อผ้าและมุมโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย ถ้าในครอบครัวที่ไม่มีผู้สูงอายุ ก็ใช้เป็นห้องนอนรับรองแขกได้เลย
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 1 บ้านตัวอย่าง MUGUET (มูเกต์)
ห้องน้ำชั้น 1 แยกพื้นที่ใช้งานมาให้เป็นสัดส่วน โถสุขภัณฑ์ได้เป็นแบบอัตโนมัติติดตั้งมาให้พร้อมสายฉีดชำระจาก COTTO โดยส่วนอาบน้ำจะแยกมาอยู่อีกฝั่ง ได้ความกว้างประมาณ 0.78×0.79 เมตร ส่วนฉากกั้นอาบน้ำ สำหรับคนที่เน้นความสะดวก ก็เลือกใช้เป็นผ้าม่านได้ ไม่เปลืองพื้นที่ ฝักบัวได้เป็นแบบ Hand Shower หยิบใช้งานง่าย เราชอบที่ผนังด้านข้างมีช่องไว้ใส่ของมาให้ด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
ขยับเข้ามาด้านใน แบบบ้าน MUGUET (มูเกต์) และ ASTER (แอสเทอร์) ที่เป็นไซส์กลางจะมีจุดที่เหมือนกันคือ ส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหารจะอยู่ด้านหลัง โดยได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง แตกต่างกับแบบบ้านไซส์เริ่มต้นชัดเจน ซึ่งก็ได้ข้อดีในเรื่องความโปร่งโล่ง และการขยับขยายปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ง่ายกว่านั่นเอง
ส่วนนั่งเล่นได้ขนาดค่อนข้างกว้าง วางโซฟา 3 – 4 ที่นั่ง รองรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนได้สบายๆ โดยในส่วนนี้ได้ช่องเปิดมาหลายจุด ทั้งหน้าต่างด้านข้าง และประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ที่เปิดออกไปใช้งานสวนด้านข้างได้
อีกฝั่งเป็นส่วนรับประทานอาหารที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน ถัดเข้าไปยังเดินเชื่อมต่อไปยังครัวด้านข้างได้ โดยพื้นที่ใช้งานสามารถวางโต๊ะทานข้าวได้ 6 – 8 ที่นั่ง ด้านข้างยังมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกมาให้อีกจุด ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งในบ้าน
ครัวได้เป็นแบบปิด มีบานประตูทึบกั้นมาให้เรียบร้อย โดยพื้นที่ใช้งานจะแยกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งเคาน์เตอร์ครัวที่ Built – in มาให้พร้อมหน้าบาน (เฉพาะด้านล่าง) ส่วนอีกฝั่งจัดเป็นมุมซักรีด วางเครื่องซักผ้า อบผ้า ใช้งานได้เป็นสัดส่วน มีประตู Service เปิดเชื่อมต่อไปด้านข้างตัวบ้านได้
ติดกันยังมีห้องเก็บของใต้บันได ได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่ มีดวงไฟติดตั้งมาให้เรียบร้อย ใช้เป็นห้องเก็บของในบ้านได้อีกจุด
โถงบันไดอยู่ติดกับส่วนรับประทานอาหาร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดใช้งานได้ตามมาตรฐาน บริเวณชานพักมีหน้าต่างกระจกบานสูง ใช้เปิดรับแสง รับลมจากภายนอกได้ ทำให้บรรยากาศภายในไม่อึดอัด
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ก็จะเจอกับโถงทางเดิน และพื้นที่อเนกประสงค์ด้านข้าง ได้มากว้าง 1.98×2.10 เมตร ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อน จิบเครื่องดื่มสบายๆได้ หรือใครอยากทำเป็นห้องพระ ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานเลย
ฟังก์ชันหลักของชั้น 2 เป็นส่วนพักผ่อน เมื่อขึ้นมาก็จะเจอกับ Master Bedroom เป็นห้องแรก โดยตำแหน่งจะอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน ได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง จัดพื้นที่ใช้งานภายในห้องได้หลากหลายเลย
ในห้องแบ่งเป็นส่วนพักผ่อน วางเตียง 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ ตรงกลางเป็น Bay Window ได้หน้าต่างมาสูงเกือบถึงฝ้า ชมวิวได้แบบเต็มตา ติดกับฝั่งหัวเตียงได้เป็นห้องอเนกประสงค์ที่โครงการกั้นให้เป็นสัดส่วน อีกฝั่งเป็นมุม Walk – in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำที่ได้มาในตัวเลย
ห้องอเนกประสงค์ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงานส่วนตัว ได้มาขนาด 2.13×3.00 เมตร ด้านข้างมีหน้าต่างบานเลื่อนไซส์ใหญ่มาให้ทั้ง 2 ฝั่ง สามารถเปิดได้แบบเต็มบาน เพราะด้านนอกยังมีราวกันตกมาให้อีกชั้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
Walk – in Closet จะอยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำ ในบ้านตัวอย่าง Built – in ตู้เสื้อผ้ามาให้เป็นไอเดียแบบสูงถึงฝ้า เหมาะกับคนที่อยากได้พื้นที่เก็บของเยอะ ซึ่งความสูงเพดานใน Master Bedroom จะอยู่ที่ 3.35 เมตร ได้มาสูงกว่าห้องอื่นๆเลย
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 2 บ้านตัวอย่าง MUGUET (มูเกต์)
ห้องน้ำใน Master Bedroom แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ฝั่ง แยกส่วนเปียก – ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ส่วนยืนอาบได้ขนาดค่อนข้างใหญ่ กว้างประมาณ 0.85×1.47 เมตร มีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้เรียบร้อย ซึ่งในห้องนี้ก็จะได้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติจาก COTTO ติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกัน
ห้องนอนรองในแบบบ้าน MUGUET (มูเกต์) ได้ขนาดมาใหญ่ทั้ง 2 ห้อง จัดเป็น Master Bedroom ในแบบบ้านไซส์เล็กได้เลย เพราะมีทั้งมุม Walk – in Closet และห้องน้ำแยกใช้งานได้ในตัว สะดวกมากค่ะ
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 2 บ้านตัวอย่าง MUGUET (มูเกต์)
การตกแต่งในห้องนอน บ้านตัวอย่างออกแบบมาให้เป็นห้องนอนเด็ก เหมาะกับครอบครัวที่มีลูกๆอยู่ด้วย ซึ่งเด็กๆก็สามารถใช้งานได้ไปจนถึงตอนโตเลยนะคะ เพราะพื้นที่ใช้สอยที่ได้มาค่อนข้างกว้าง จัดเป็นมุมทำการบ้าน อ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานในอนาคตเพิ่มได้เลย
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 2 บ้านตัวอย่าง MUGUET (มูเกต์)
ส่วนห้องน้ำจะได้มาคล้ายกันทั้ง 2 ห้อง เป้นแบบหน้ากว้าง ใช้งานได้สะดวก ภายในติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบชุดจากยี่ห้อ COTTO
แบบบ้าน ASTER (แอสเทอร์) พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
ASTER (แอสเทอร์) เป็นบ้านเดี่ยวไซส์กลางที่มีจำนวนยูนิตเยอะสุดในโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอยมา 178 ตร.ม. และเป็นแบบบ้านเดียวที่มีระเบียงขนาดใหญ่ให้ออกไปใช้งานได้ โดยในแบบบ้านนี้การจัดแปลนจะคล้ายกับแบบ MUGUET (มูเกต์) คือส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหารจะอยู่ด้านหลัง ได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง รับวิวสวนได้แบบเต็มที่
ส่วนห้องน้ำจะย้ายมาอยู่ติดกับครัว ทำให้จากห้องนอนชั้นล่างจะเดินมาอาบน้ำ ทำธุระ ก็จัดว่าค่อนข้างไกล แต่ถ้าปรับเปลี่ยนให้เป็นส่วนนั่งเล่นหรือห้องทำงาน ก็สามารถใช้งานได้ ไม่มีปัญหา พื้นที่ชั้น 2 จุดเด่นอยู่ที่ระเบียงขนาดใหญ่ในห้อง Master Bedroom เหมาะกับคนที่อยากออกมานั่งพักผ่อนแบบ Outdoor รับลม ชมวิวธรรมชาติได้แบบเต็มที่
โดยแบบบ้านนี้ ห้องนอนรอง 2 ห้องจะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันนะคะ แต่ทางเข้า – ออกจะได้มาเป็น Double Access ไม่ต้องเดินอ้อมไปโถงด้านนอก ส่วนตัวเรามองว่าแบบบ้านนี้เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง อยากได้ฟังก์ชันเหมือนแบบบ้านไซส์ใหญ่ในงบไม่เกิน 10 ล้านบาท*
บรรยากาศภายในบ้านตัวอย่าง ASTER (แอสเทอร์) พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
ราคา
Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) ราคา ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2567
- IVY (ไอวี่) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 – 84.40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท* - ASTER (แอสเทอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 97.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 8.90 ล้านบาท* - MUGUET (มูเกต์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 92.50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท* - จองและทำสัญญา 50,000 – 100,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 75,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 40+5 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
ที่ตั้งโครงการ Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) อยู่บนถนนแพรกษาตอนต้นใกล้กับถนนสุขุมวิท เข้า – ออกเมืองไปโซนเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ได้ง่าย หรือขับไปเชื่อมต่อกับเส้นตำหรุ – บางพลี วิ่งเข้าบางนา – ตราดก็สะดวก เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในย่านสุขุมวิท – บางนา หรือคนที่อยากได้บ้านใกล้รถไฟฟ้า โครงการก็ตั้งอยู่ห่างจาก BTS สถานีแพรกษาเพียง 2.3 กิโลเมตร ส่วนในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ ด้วยความที่อยู่ใกล้แหล่งงานสำคัญถึง 2 แห่ง และเป็นแหล่งชุมชนดั้งเดิม จึงทำให้รอบๆมีทั้งห้าง ตลาด และ Community Mall ให้เลือกจับจ่ายใช้สอยได้หลากหลายเลย
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ทางเข้า – ออกโครงการจะอยู่ติดถนนแพรกษา เมื่อเข้ามาจะต้องผ่านถนนภาระจำยอม ซึ่งถือเป็นการช่วยคัดกรองคนในการเข้า – ออกได้ระดับนึง ประตูรั้วโครงการได้เป็นรางเลื่อนไฟฟ้า ควบคุมด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียน ภายในโครงการมี CCTV มาให้ 15 จุด รอบๆได้รั้วทึบสูง 2.90 เมตรและรั้วโปร่งแบบ Digital Fence ต่อเพิ่ม 0.90 เมตร ภายในตัวบ้านได้ Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ประตู – หน้าต่างที่ชั้น 1 ทุกจุด ลูกบ้านไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม
การออกแบบโครงการ :
การออกแบบโครงการมาในสไตล์ Modern Farmhouse โดยรูปแบบของ Product จะเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด เมื่อเทียบกับโครงการบนทำเลนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นทาวน์โฮม บ้านแฝด หรือแบบผสม ทำให้ได้บรรยากาศที่แตกต่างกัน สำหรับการวางผังโครงการ พื้นที่ส่วนกลางได้เป็นสวนแนวยาวอยู่บริเวณกลางโครงการ ได้เนื้อที่กว่า 2 ไร่ ช่วยเพิ่มความร่มรื่นได้ดี และลูกบ้านยังสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย มีฟังก์ชันให้ใช้งานได้ อย่างโซน Pet Park ที่คำนึงถึงการใช้งานของลูกบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย
ส่วนพักอาศัยจัดวางได้เป็นส่วนตัว ภายในซอยมีเพื่อนบ้านแค่ 2 – 8 ยูนิตเท่านั้น อีกทั้งถนนซอยยังเป็นซอยตัน รถไม่สามารถขับเชื่อมต่อกันได้ ทำให้บรรยากาศหน้าบ้านไม่วุ่นวาย เหมาะกับคนชอบความสงบ โดยหน้าบ้านส่วนใหญ่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ จัดเป็นทิศที่ไม่โดนแดดโดยตรง ทำให้หน้าบ้านไม่ร้อน จึงเป็นอีกทิศยอดนิยมสำหรับคนมองหาบ้าน ส่วนคนที่ชอบบ้านแปลงมุม ภายในโครงการก็มีให้เลือกครบทุก Type ไม่ใช่เฉพาะแบบบ้านไซส์ใหญ่ค่ะ
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :
บ้านในโครงการ Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) จะเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมดจำนวน 157 ยูนิต มีให้เลือก 3 รูปแบบด้วยกัน ได้พื้นที่ใช้สอย 159 – 200 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 7.59 – 10 ล้านบาท* การจัดแปลนได้เป็นแบบหน้ากว้างและยังได้ 4 ห้องนอนทุกยูนิต เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ ต้องการห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ หรือห้องที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ ภายในบ้านยังมีจุดเด่นอย่าง Bay Window ที่ออกแบบมาให้ ใช้เป็นมุมพักผ่อนนั่งเล่นในบ้าน และเป็นการเสริม Gimmick ให้ดูมีความน่าสนใจได้ดี ส่วนตัวเราชอบห้องครัวที่ได้มาขนาดใหญ่ ซึ่งโครงการก็กั้นแยกมาให้เป็นสัดส่วน ใช้งานได้สะดวก
วัสดุ :
โครงสร้างบ้านเป็นระบบ Precast พื้นที่จอดรถในร่มลงเข็มมาให้เท่าตัวบ้าน ส่วนด้านนอกได้เข็มยาว 6 เมตร รองรับการต่อเติมได้ วัสดุปูพื้นชั้น 1 ได้เป็น SPC ลายไม้ เหมาะกับคนที่ชอบโทนบ้านที่ดูอบอุ่น โดยคุณสมบัติสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและทนต่อความชื้นได้ดี อีกทั้งเหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอีกด้วย ส่วนชั้น 2 ได้มาเป็นลามิเนตความหนา 8 มิลลิเมตรตามมาตรฐาน ห้องครัวมีประตูกั้นแยกให้ ได้เคาน์เตอร์ครบชุด อ่างและเตาจาก TEKA มาพร้อมใช้งาน สุขภัณฑ์ในห้องน้ำได้โถอัตโนมัติในห้องน้ำชั้นล่างและ Master Bedroom ทุกหลัง โดยจุดเด่นนอกจาก Magnetic Sensor ที่ติดตั้งมาให้ ยังมี Solar Panel ขนาด 2.2 Kw. ทุกหลังอีกด้วย
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
บรรยากาศโครงการตกแต่งมาได้ดูร่มรื่น ตั้งแต่ถนนด้านหน้า เข้ามาจนถึงภายในโครงการ การตกแต่งและเลือกใช้พันธุ์ไม้ได้บรรยากาศของป่าเขา ทุ่งหญ้า และฟาร์มในชานเมืองแถบยุโรป ให้ความรู้สึกสดชื่น ร่มรื่น ถนนซอยและฟุตบาทก็ยังมีการแทรกต้นไม้ช่วยให้ร่มเงาได้ดี
สาธารณูปโภค :
อาคาร Clubhouse ออกแบบมาได้ดูสวยงาม น่าใช้งาน อีกทั้งยังเข้ากับ Concept ของโครงการที่มาในสไตล์ Modern Farmhouse ฟังก์ชันภายในมีให้เลือกใช้งานได้ตามมาตรฐาน ทั้ง Co – Working Space , Fitness , Kid’s room และสระว่ายน้ำ แชร์กับเพื่อนบ้าน 157 หลังได้สบายๆ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 7.59 – 10 ล้านบาท , 22 กรกฎาคม 2567
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ BTS เพียง 2.3 กิโลเมตร
- ความปลอดภัย 8/10 – การเข้า – ออกใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน ในบ้านมี Magnetic Sensor
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบบ้านหน้ากว้าง ได้ 4 ห้องนอน มี Gimmick เป็น Bay Window ทุกแบบ
- วัสดุ 7.75/10 – ให้มาเหมาะสมกับการใช้งาน มีเคาน์เตอร์ครัว Built – in มาให้ครบ
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ได้พื้นที่สีเขียว 2 ไร่ ตั้งแต่ถนนภาระจำยอม มีการตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นได้ดี
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – อาคาร Clubhouse ได้ฟังก์ชันครบตามมาตรฐาน
- 7.91 / 10.00
Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) เหมาะกับใคร
โครงการ Saransiri Srinakarin – Phraeksa (สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา) เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง – ใหญ่ มีสมาชิก 4 – 5 คนกำลังดี มองหาบ้านเดี่ยวที่ได้ 4 ห้องนอน รองรับผู้สูงอายุได้ ได้ทำเลที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่ มีตัวเลือกในการเดินทางเป็นรถไฟฟ้า อยู่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์และแหล่งงาน มีงบประมาณเริ่มต้น 7.59 – 10 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 42,148 – 55,530 บาท
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่