..[รีวิวฉบับที่ 2756] เปิดตัวมาโครงการแรกของซีรีส์ใหม่ ก็ทำให้เราจึ้งสุดๆแล้วครับ กับโครงการ สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3 ที่เป็นการอัพเกรดแบรนด์ ‘สราญสิริ’ จากแสนสิริ ที่ดีอยู่แล้วก็ยังดีขึ้นไปได้อีก โดยจะเป็นบ้าน 100 ตร.วา ที่ช่วงราคาขายจะขยับขึ้นมาเป็น 10 ล้านกลางๆถึง 20 ล้านขึ้นไป นอกจากนี้ยังมียูนิตน้อย เน้นความเป็นส่วนตัว และยังให้บรรยากาศส่วนกลางมาแบบจัดเต็มอีกด้วย ส่วนความน่าสนใจหรือจุดเด่นอื่นๆ ที่ผมรวบรวมมาให้ก็จะมีดังต่อไปนี้เลย
- เป็นโครงการที่มียูนิตน้อยสุดของย่านในปัจจุบัน มีความเป็นส่วนตัวสูง เพื่อนบ้านร่วมซอยก็น้อย
- จัดเต็มพื้นที่สีเขียวและมีผืนน้ำ ขนาดรวมกว่า 2 ไร่ ฟีลเหมือนอยู่เขาใหญ่ หรือได้มาพักผ่อนแถบชนบทที่เมืองนอกเลยครับ
- บ้านหน้ากว้าง ฟังก์ชันรองรับครอบครัวได้ 3 Generation และจอดรถซ้อนคันได้สูงสุดถึง 6 คัน เรียกว่ามากสุดในย่านตอนนี้
- ผืนที่ดินบ้านใหญ่ 100 ตร.วา กว้างมากพอที่จะปลูกต้นไม้จัดสวนได้เต็มที่ หรือจะทำสระน้ำ ขยายพื้นที่จอดรถ และทำเรือนรับรองแยกมาอีกก็ได้
ข้อมูลโครงการ
Saransiri Grande Phutthamonthon Sai 3 (สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3) ณ วันที่ 25 กันยายน 2567
ชื่อโครงการ | Saransiri Grande Phutthamonthon Sai 3 (สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอย ทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก 24 เขต ทวีวัฒนา |
ที่ดิน | 24-2-83.07 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 51 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ราคาเริ่มต้น | 14.9 ล้านบาท* (แบบบ้าน River) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี พ.ศ. 2567 |
Pre-Sale | 2 – 3 พฤศจิกายน 2567 |
เว็บไซต์โครงการ | https://pg.thinkofliving.com/SaransiriGrandePhutthamonthonSai3 |
โทร | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ทำเลในซอยที่เชื่อมต่อถนนหลัก 2 สาย ทั้งถนนพุทธมณฑลสาย 3 และถนนคลองทวีวัฒนา
- อนาคตจะมีถนนพรานนก (ตัดใหม่) ให้ใช้งาน สามารถตรงเข้าเมืองได้สะดวกมากขึ้น
- ล้อมรอบไปด้วยย่านข้างเคียงที่มีความอุดมสมบูรณ์และคึกคัก
พิกัด Google Maps : 13.765894670401737, 100.35841924876625
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3 ตั้งอยู่ย่านพุทธมณฑล ในซอยทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก 24 ซึ่งเชื่อมต่อถนนพุทธมณฑลสาย 3 และถนนคลองทวีวัฒนา จึงทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลายมากขึ้น โดยหลักๆถ้าเข้าเมืองเราก็จะไปใช้เส้นบรมราชชนนี หรือไม่ก็ถนนเพชรเกษม แต่ในอนาคตเราจะมีถนนพรานนก (ตัดใหม่) ที่จะช่วยทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถขับตรงไปราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า และเข้าเมืองได้เลย
สำหรับโปรดักส์ในย่านนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านเดี่ยว 100 ตร.วา ทั้งหมดเลยครับ เนื่องจากถูกกำหนดด้วยผังสีของผังเมือง ซึ่งคนในเมืองที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวที่ดินใหญ่แบบนี้ ก็มักจะมามองหาในทำเลโซนนี้นี่แหละครับ เพราะยังสามารถเข้าเมืองได้ไม่ยาก แถมยังใกล้โซนอุดมสมบูรณ์อย่าง ราชพฤกษ์ บางแค และศาลายา อีกด้วยนะ หรือไม่ก็จะเป็นคนในพื้นที่เองนี่แหละครับ ที่กำลังต้องการขยับขยายครอบครัวและมองหาบ้านไซส์ใหญ่มากขึ้น ใครสนใจก็ลองแวะเข้าไปเยี่ยมชมโครงการกันได้เลย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ว่างอยู่ครับ และก็จะเป็นชุมชนพักอาศัยที่ยังไม่หนาแน่น ดังนั้นจึงมีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะกับการอยู่อาศัยมากๆ อีกทั้งซอยนี้ก็ไม่ใช่ซอยตัน สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนคลองทวีวัฒนาและมหาลัยกรุงเทพธนบุรีได้ด้วย จึงทำให้ไม่ใช่ซอยที่เปลี่ยวเลย แต่จะมีรถสัญจรผ่านไป-มาอยู่พอสมควร
- ทิศเหนือ : ติดกับ สนามฟุตบอลของ Sportcomplex
- ทิศใต้ : เป็นทางเข้าหลักของโครงการ ติดกับ ถนนซอย ทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก 24 และฝั่งตรงข้ามก็ยังคงเป็นที่ว่าง
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่าง
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่าง
ภาพบรรยากาศของถนนซอย ทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก 24 ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ จะเป็นถนน 2 เลนที่รถสามารถขับสวนทางกันได้สบายๆ ชอบตรงที่มีซุ้มอุโมงค์ต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มความร่มรื่นได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
แต่เท่าที่ผมสังเกตดูซอยนี้จะไม่ค่อยมีไฟส่องสว่างข้างทางนะครับ ดังนั้นเวลาขับมาตอนกลางคืนก็อาจมืดๆหน่อย และต้องใช้ความระมัดระวังสักนิดนึง (อนาคตอาจมีการพัฒนามากขึ้น และติดไฟเพิ่มให้ก็เป็นได้ ยังไงก็รอดูกันอีกทีนะครับ)
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- เดอะ โฟร์ท สาย 4 ~ 4.3 กม.
- ตลาดธนบุรี สนามหลวง 2 ~ 4.3 กม.
- ตลาดสดธนบุรี ~ 8.5 กม.
- เดอะ พาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก ~ 9.6 กม.
- โลตัส ศาลายา ~ 10 กม.
- เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ~ 12 กม.
- เซ็นทรัล ศาลายา ~ 13 กม.
โรงพยาบาล
- รพ.ราชพิพัฒน์ ~ 5 กม.
- ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ~ 7 กม.
- รพ. ธนบุรี ทวีวัฒนา ~ 7 กม.
- รพ.ศาลายา ~ 11 กม.
- รพ.เกษมราษฎร์ บางแค ~ 11.5 กม.
- รพ.มหาชัย 2 ~ 14 กม.
โรงเรียน
- ม.กรุงเทพธนบุรี ~ 2 กม.
- รร.สตรีวิทยา 3 ~ 2.5 กม.
- รร.กสินธร อคาเดมี่ ~ 5 กม.
- รร.สารสาสน์วิเทศธนบุรี ~ 5 กม.
- ม.มหิดล วิทยาเขตศาลายา ~ 8.2 กม.
- รร.อนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด ~ 9 กม.
- รร.สาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ~ 9 กม.
- รร.มหิดลวิทยานุสรณ์ ~ 9.5 กม.
- รร.อนุบาลเด่นหล้า ~ 9.5 กม.
การเดินทาง
- ถ.พรานนก – พุทธมณฑล สาย 4 ~ 2 กม.
- ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ~ 5 กม.
- ถ.เพชรเกษม ~ 7 กม.
- ถ.กาญจนาภิเษก ~ 7.5 กม.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- ยูนิตน้อยสุดในย่าน และมีความเป็นส่วนตัว
- มีเพื่อนบ้านร่วมซอยน้อยเพียง 2 – 6 ยูนิตเท่านั้น
- สวนส่วนกลางบรรยากาศดี ได้ฟีลเหมือนอยู่เขาใหญ่ ขนาดรวมกว่า 2 ไร่
..เรียกได้ว่านี่เป็น Saransiri โครงการแรกเลยนะครับที่มีคำว่า ‘Grande’ ต่อท้ายแบบนี้ ซึ่งเป็นการอัพเกรดแบรนด์บ้านสราญสิริขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง โดย Saransiri Grande จะใช้กับโครงการที่เป็นรูปแบบบ้าน 100 ตร.วาขึ้นไป และมีช่วงราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 15 – 20 ล้านบาท คาดว่าอนาคตเราน่าจะมีโอกาสได้เห็นในทำเลอื่นๆต่อๆไป ตอนนี้ก็ได้นำร่องที่ย่านพุทธมณฑลสาย 3 แห่งนี้เป็นที่แรก ซึ่งจะมีอะไรน่าสนใจบ้างเราไปชมกันเลยครับ
Master Plan :
โครงการ สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3 มีจำนวนยูนิตเพียง 51 ครอบครัว โดยส่วนใหญ่ก็จะแบ่งออกเป็นซอยแยกย่อย ที่มีเพื่อนร่วมซอยเพียง 2 – 6 หลังเท่านั้น ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวที่มากที่สุดในย่านเลยก็ว่าได้ครับ
อีกทั้งบริเวณโซนด้านหน้ายังถูกต้อนรับด้วยสวนส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ จึงช่วยเพิ่มบรรยากาศให้สวยงามและร่มรื่นได้ดีทีเดียวครับ ซึ่งจะมีทั้งต้นไม้ใหญ่และผืนน้ำที่ขุดทำเพิ่มขึ้นมาใหม่ ให้บรรยากาศเหมือนเราได้อยู่เขาใหญ่เลยทีเดียว (ส่วนตัวเรามองว่าบรรยากาศดีสุดในย่านด้วยนะ)
โดยปัจจุบันทางโครงการได้เริ่มเปิดขายเฟสแรกที่เป็นบ้านหน้าสวนกันอยู่เลยครับ (เดี๋ยวจะมี Pre-Sale ช่วงวันที่ 2 – 3 พฤศจิกายนนี้) ใครที่กำลังมองหาบ้านวิวพื้นที่สีเขียวดีๆ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ และเดินมาใช้ส่วนกลางได้ง่าย ก็สามารถเข้าไปจับจองก่อนใครได้เลยนะ
บรรยากาศซุ้มประตูทางเข้าก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีนะครับ จะเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของสราญสิริ มีการแบ่งทางเข้า-ออกของ Visitor และลูกบ้านแยกกันชัดเจน
เข้า-ออกด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียน (License Plate) ที่ประตูเหล็กจะเปิดให้อัตโนมัติเลย มาพร้อมกับกล้อง CCTV และพี่ยามที่จะดูแลตลอด 24 ชม.
LIV-24 ระบบดูแลความปลอดภัยโดยศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชม. จากแสนสิริ ผ่านทางกล้องวงจรปิดในพื้นที่ส่วนกลาง และรายงานผ่าน Application บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสังเกตการณ์ระบบรักษาความปลอดภัย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและ PLUS Property (บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด) ประกอบด้วย
- CCTV – VIDEO ANALYTICS : ระบบวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชม.
- REAL-TIME GUARD TOUR : ตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตามจุดของ รปภ. แบบ Real – Time
- VISITOR MANAGEMENT SYSTEM (VMS) : ระบบบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ, ทะเบียนรถยนต์ และเวลาเข้าและออก
- DIGITAL FENCE : รับสัญญาณแจ้งเตือนการบุกรุก Digital Fence ที่โครงการ
เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาเราจะเจอกับถนนหลัก ที่สองข้างทางจะเป็นแนวต้นไม้ขนาดใหญ่ ทำให้รู้สึกสดชื่นดีทีเดียวครับ
เมื่อถึงบริเวณวงเวียนจุดแรกทางด้านซ้ายมือ เราจะเจอกับพื้นที่สวนและผืนน้ำขนาดรวมกว่า 2 ไร่ ซึ่งมีความสวยงามและช่วยเพิ่มบรรยากาศเวลาที่เราขับรถเข้า-ออกโครงการได้ดี
คอนเซ็ปต์โครงการคือ Modern Farmhouse มีการออกแบบตัวอาคารคล้ายโรงนาในแถบชนบทของต่างประเทศ ผสมผสานกับความทันสมัย สื่อถึงชีวิตที่เรียบง่ายและได้ใกล้ชิดธรรมชาติ
สำหรับเส้นทางที่จะไปใช้สวนที่อยู่ตรงกลาง จะมีสะพานให้ข้ามธารน้ำไปได้ครับ บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอกหรือบ้านพักตากอากาศเลยทีเดียว ซึ่งตรงกลางจะเป็นลานสนามหญ้า และมีม้านั่งริมน้ำให้เราได้มานั่งเล่นพักผ่อน ดื่มด่ำกับบรรยากาศของสวนกันได้
นอกจากนี้ยังมีทางเดินของสวนให้เดินเล่นชมบรรยากาศธรรมชาติได้แบบนี้อีกด้วย
ซ้ายมือจะเป็น Educational Playground มาพร้อมกับเครื่องเล่นต่างๆ เช่น บ้านต้นไม้ สไลด์เดอร์ ชิงช้า ม้าโยก ให้น้องๆสามารถมาเล่นสนุกกันได้ โดยที่พื้นจะปูด้วยวัสดุกันกระแทก เพื่อลดอาการบาดเจ็บของน้องๆ เวลาเกิดหกล้มได้ด้วยครับ
ส่วนทางเดินในสวนนี้ก็จะเชื่อมต่อไปยังอาคาร Clubhouse โดยตรงได้เลย ซึ่งในสวนของแสนสิริหลายๆแห่ง เราจะเห็นว่าเค้ามีการประดับด้วยหุ่นน้องแกะ ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ฟาร์มที่เมืองนอก รวมถึงยังมีความน่ารักตะมุตะมิดีอีกด้วย
สำหรับทางเข้าหลักของ Clubhouse จะอยู่ติดกับวงเวียนที่ 2 อีกด้านหนึ่ง ซึ่งจะมีบันไดและเชื่อมต่อกับพื้นที่จอดรถด้านข้างอาคารได้ด้วยแบบนี้
ภายในเราจะเจอกับ Co-Working Space ซึ่งเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง Double Volume และรายล้อมด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้มีความสว่างโปร่งโล่ง และเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกได้เป็นอย่างดี โดดเด่นด้วยต้นไม้กลางอาคาร และเป็นโมเดลที่เราคุ้นเคยกันดีสำหรับแบรนด์สราญสิริครับ
พื้นที่ต่อมาจะเป็นชุดโซฟานั่งเล่น ที่เราสามารถมานั่งพักผ่อนรับลมเย็นๆที่พัดผ่านเข้ามาในอาคาร รวมถึงยังใช้เป็น Lobby สำหรับรับรองแขกได้ด้วย
โดยบริเวณนี้ก็จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยครับ ซึ่งจะมี Deck ให้เราสามารถเดินเลียบสระได้ด้วย
สุดทางเดินเราจะเจอกับซุ้มนั่งเล่นพักผ่อนริมสระ ซึ่งมีจุดเด่นเป็นที่นั่งแบบชิงช้าที่น่านั่งถ่ายรูปสวยๆ และชมวิวไปด้วยแบบนี้ แต่แนะนำให้มาตอนแดดร่มๆหน่อยจะดีกว่านะครับ เพราะอากาศตอนกลางวันค่อนข้างร้อนเลยทีเดียว
ติดกันจะเป็น Kid’s Pool ที่มีลูกเล่นเป็นน้ำพุลายดอกไม้น่ารักๆ คิดว่าน้องๆที่มาเล่นน่าจะชอบใจกันนะครับ โดยฟังก์ชันนี้ก็จะจัดให้อยู่ใกล้จุดนั่งพักผ่อน เพื่อที่ผู้ปกครองจะได้อยู่ดูแลอย่างใกล้ชิดได้สะดวกนั่นเอง
สระว่ายน้ำหลักมีขนาด 6 x 23.5 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้เต็มที่ รวมถึงเรายังสามารถว่ายไปพร้อมชมวิวสวนที่อยู่ด้านข้างแบบนี้ไปได้ด้วย
ซึ่งทีมงาน Think of Living ลงความเห็นตรงกันว่าฟีลเหมือนอยู่เขาใหญ่เลยทีเดียว เรียกได้ว่าแสนสิริรอบนี้ทำบรรยากาศออกมาได้ดีตรงปกมากเลยครับ
ส่วนอีกด้านหนึ่งของสระจะเป็นโซน Jacuzzi มีที่นั่งล้อมรอบแบบส่วนตัว พร้อมกับ Jet แรงดันน้ำไว้นวดผ่อนคลาย ซึ่งสามารถปรับระดับหรือเปิด-ปิดด้วยตัวเองได้ (ปุ่มจะอยู่ข้างๆสระเลย)
อีกด้านหนึ่งของสระจะเป็นทางเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ และมีจุดให้ล้างตัวก่อนลงสระแบบนี้
ภายในห้องน้ำก็จะมีทั้งห้องให้อาบน้ำล้างตัว รวมถึงมีตู้ล็อคเกอร์ให้เก็บของเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบนี้ได้ด้วยครับ
ส่วนปลายทางเดินจะมีบันไดให้เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนก่อนหน้านี้ได้ด้วย
อาคาร Clubhouse นี้มีชั้น 2 ให้สามารถใช้บันไดขึ้นไปได้ด้วยครับ โดยจะอยู่ตรง Co-Working Space ในตอนแรกเลย
ด้านบนเป็น Fitness ที่มีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบครัน พร้อมกับฝ้าเพดานสูงทรงจั่วให้ความรู้สึกโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น
จุดที่เราชอบคือโซน Cardio ที่เราสามารถวิ่งออกกำลังกายไปพร้อมกับชมวิวสวนด้านล่างไปด้วยได้แบบนี้ เรียกได้ว่าน่าใช้งานมากเลยทีเดียวครับ
และส่วนกลางจุดสุดท้ายที่เราจะพามาชมกันก็คือ Sansiri Backyard เป็นโซนปลูกผักที่ให้ลูกบ้านสามารถมาเก็บไปทำอาหารทานกันได้ ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆกับอาคาร Clubhouse แบบนี้
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse
- Lobby & Co-Working Space
- Fitness
- Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 6 x 23.5 ม.
- Kid’s Pool
- Jacuzzi
- Educational Playground
- Sansiri Backyard โซนปลูกผักที่ให้ลูกบ้านสามารถมาเก็บไปทำอาหารทานกันได้
- สวนสาธารณะภายในโครงการ ขนาด 2 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 1.5 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
- เข้า-ออกด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียน (License Plate)
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 มาตรฐานจากแสนสิริ
แบบบ้าน
Highlights :
- บ้านเดี่ยวหน้ากว้าง 100 ตร.วา มีพื้นที่ดินรอบบ้านให้ปลูกต้นไม้ทำสวน หรือฟังก์ชันอื่นๆเพิ่มได้ตามต้องการ
- หน้าบ้านมีความลึกพิเศษ สามารถจอดรถซ้อนคันกันได้รวมเป็นสูงสุดถึง 6 คัน เรียกได้ว่ามากสุดในย่าน
- พื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวาง ช่องแสงเยอะ บรรยากาศโปร่งโล่งเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวรอบบ้านได้ดี
- ฟังก์ชันรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ 3 Generation ได้สบายๆ มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ และห้องอเนกประสงค์แยกเป็นส่วนตัวอีกต่างหากด้วย
..โครงการ สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3 มีแบบบ้านทั้งหมด 2 Type โดยลักษณะฟังก์ชันจะมีความคล้ายคลึงกับบ้านหลังใหญ่ของสราญสิริ ราชพฤกษ์ – 346 รุ่นพี่ก่อนหน้านี้ครับ แต่จะมีการเพิ่มขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในให้ใหญ่ขึ้นมากขึ้น
รวมถึงเพิ่มขนาดที่ดินบ้านใกล้กลายมาเป็นบ้าน 100 ตร.วา++ และยังปรับฟังก์ชันบางอย่างให้มีความยืดหยุ่นน่าสนใจมากขึ้นด้วย แน่นอนว่าภายนอกยังคงออกแบบเป็นสไตล์ Modern Farmhouse ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรบ้างเราไปชมกันเลย
โครงสร้างและวัสดุหลักของบ้าน :
- โครงสร้างบ้าน : Precast ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่มีความแข็งแรงทนทาน มีความสามารถป้องกันเสียงได้ดี แต่มีข้อจำกัดเรื่องการทุบ/เจาะ/ต่อเติม แนะนำให้ปรึกษาช่างโครงการหรือวิศวะอีกครั้ง
- พื้นที่จอดรถ : ลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน และมีการตัด Joint บริเวณชายคาบ้านเพื่อแยกโครงสร้าง ส่วนที่เหลือจะเป็นเข็มสั้นลึก 6 m. ยาวไปจนถึงประตูรั้ว พร้อมปูพื้นด้วยทรายล้าง
- โครงสร้างบันได : โครงสร้างบันไดสำเร็จรูป precast มีความแข็งแรงทนทาน ไม่มีเสียงดังรบกวน
- วัสดุปูพื้นชั้น 1 : พื้น SPC ลายไม้
- วัสดุปูพื้นชั้น 2 : พื้นไม้ลามิเนต
- ประตู-หน้าต่าง : กรอบ UPVC สีขาว พร้อมกระจกเขียวตัดแสงทั้งหลัง
- ครัว : Built-in เคาน์เตอร์ครัว Top หินแกรนิตดำอินเดีย พร้อมหน้าบานตู้เก็บของชั้นล่าง
- ห้องน้ำ : สุขภัณฑ์จาก Cotto พร้อมโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติในห้อง Master Bedroom และอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวจาก I-Spa ในบ้านหลังใหญ่
- ระบบน้ำร้อน : มี Junction ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นในห้องน้ำ และมีระบบทำน้ำร้อนในห้อง Master Bedroom สำหรับแบบบ้านหลังใหญ่
- สัญญาณกันขโมย : ระบบ Magnetic & Motion Sensor บริเวณชั้น 1 ทุกหลัง
- Dust Free House : นวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่นที่ติดตั้งให้กับบ้านทุกหลัง สามารถฆ่าเชื้อโรคและกรองฝุ่น PM2.5 และฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ 0.1 ไมครอน
- Solar Panel ติดตั้งให้บ้านทุกหลัง
- ระบบไฟฟ้า 3 เฟส (ขนาด 30/100) พร้อม Junction รองรับ EV Charger ทุกหลัง
- River (ริเวอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 Family Area / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 + 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
แปลนบ้านชั้น 1 จุดเด่นจะอยู่ตรงบริเวณพื้นที่จอดรถครับ ด้วยความที่เป็นบ้าน 100 ตร.วา และมีที่ดินหน้าบ้านลึกพอสมควร ก็เลยทำให้เราสามารถจอดรถแบบซ้อนคันกันได้ โดยจะแบ่งเป็นการจอดในร่ม 3 คัน และจอดเสริมนอกชายคาอีก 3 คัน รวมเป็น 6 คัน ทำให้ขึ้นแท่นกลายเป็นหนึ่งในบ้านเดี่ยวที่จอดรถได้เยอะที่สุดของย่าน ใครที่มีรถยนต์หลายๆคันก็สามารถเล็งแบบบ้านหลังนี้กันไว้ได้นะครับ
ฟังก์ชันภายในเค้าให้ความสำคัญกับ Common Area มากๆครับ เพราะจะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เชื่อมต่อทั้ง Living Area และโต๊ะทานอาหาร ซึ่งจะมีช่องแสงเปิดรับวิวสวนข้างบ้านได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีทั้งห้องอเนกประสงค์และห้องนอนชั้นล่างเตรียมเอาไว้ให้พร้อม ทำให้สามารถรองรับครอบครัวที่อาจมีผู้สูงอายุ หรือคนที่อยากจัดฟังก์ชันอื่นๆเพิ่มเติมได้ และถ้าใครที่ต้องมีแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงที่ต้องอยู่ดูแล 24 ชม. แบบบ้านหลังนี้ก็จะมีห้องแม่บ้านเตรียมเอาไว้ให้ด้วยครับ
เรามาเริ่มกันที่ประตูรั้วของบ้านมาตรฐาน ของจริงก็จะมีรั้วเหล็กรางเลื่อนสีดำที่สามารถใช้งานได้สะดวก รวมถึงยังมีการเตรียม Junction สำหรับติดตั้งเป็นประตูไฟฟ้าเอาไว้ให้ด้วยครับ
ส่วนด้านซ้ายจะแบ่งเป็นประตูคนเดินที่ทำเป็นซุ้มน่ารักเลย ตรงนี้เราสามารถตกแต่งเพิ่มเติมตามสไตล์ของเราได้นะ เช่น ติดโคมไฟ หรือวางกระถางต้นไม้ และด้านขวาจะเป็นถังขยะที่เปิดใช้งานได้สะดวกทั้ง 2 ด้าน
ส่วนที่จอดรถที่เป็นหนึ่งใน Higlight หลักของบ้าน ผมลองวัดความลึกจากประตูรั้วแล้วจะได้ประมาณ 11 m. ซึ่งรถคันหนึ่งจะยาวประมาณ 5 m.
หมายความว่าเราสามารถจอดรถซ้อนคันกันได้พอดีๆจริงๆ (แต่ถ้าเป็นรถรุ่นที่ใหญ่พิเศษ ก็อาจจอดซ้อนกันไม่ได้ ยังไงก็ลองเช็คกันให้ดีๆอีกครั้งนะครับ) และอาจเสริมหลังคาเพิ่มเติมอีกทีก็ได้
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นผลพลอยได้จากการที่มีที่ดินบ้านเยอะๆคือ เราจะได้พื้นที่สวนหน้าบ้านขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วยครับ ซึ่งเราสามารถปลูกต้นไม้จัดสวน หรือทำเป็นซุ้มศาลานั่งเล่นแบบบ้านตัวอย่างเพิ่มก็ได้สบายๆ (โดยของจริงทางโครงการจะปูหญ้ามาให้เป็นมาตรฐานครับ)
ที่จอดรถกว้าง 7.8 m. สามารถจอดรถ 3 คันได้สบายๆ โดยพื้นจะลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน และมีการตัด Joint แยกโครงสร้างตรงบริเวณชายคา ซึ่งที่เหลือก็จะเป็นการลงเข็มสั้นลึก 6 m. แทนครับ ส่วนบริเวณด้านบนจะปูเป็นทรายล้างแบบนี้ ทำให้มีความสวยงามและพื้นผิวก็ป้องกันการลื่นได้เป็นอย่างดี
ฟังก์ชันอื่นๆบริเวณที่จอดรถจะประกอบด้วย ตู้เก็บของสำหรับอุปกรณ์ล้างรถหรืออุปกรณ์ทำสวน ซึ่งจะมีหน้าบานปิดให้เรียบร้อยแบบนี้เลย รวมถึงยังมี Junction สำหรับติดตั้ง EV Charger เพิ่มเติมได้ด้วย โดยขนาดไฟก็คือ 30/100 เป็นมาตรฐานทั้งโครงการ
อีกหนึ่งรายละเอียดที่เราสังเกตได้ก็คือ บริเวณผนังจะมีการเซาะร่องเป็นลวดลายเอาไว้ เพื่อที่จะช่วยป้องกันรอยแตกร้าวของผิวผนังที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ให้แตกลามไปทั่วทั้งผืน และช่างจะได้ซ่อมแซมได้สะดวกมากขึ้นด้วย ส่วนรอยเซาะร่องที่คานด้านบน ทำไว้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนกลับเข้ามาด้านในนั่นเองครับ
ทางเข้าบ้านจะมีโถงด้านหน้าที่ให้เราสามารถวางชั้นวางรองเท้า ให้สามารถหยิบใช้งานได้สะดวกแบบนี้ครับ หรือใครจะเพิ่มเป็นที่นั่งเพื่อให้ถอด-ใส่รองเท้าได้ง่ายขึ้นก็ได้
ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นบานเปิด 2 บาน ทำให้มีความกว้างและสามารถขนของชิ้นใหญ่ๆเข้าบ้านจากทางนี้ได้ โดยกรอบประตูหน้าต่างทั้งหลังจะเป็น UPVC สีขาว พร้อมกระจกเขียวตัดแสง ซึ่งกรอบจะค่อนข้างหนาและมีความแข็งแรง รอบๆมีขอบยางที่ช่วยทำให้ปิดได้สนิทและป้องกันแมลงได้ด้วย
เข้ามาด้านในเราจะเจอกับ Floyer ขนาด 2.2 x 1.7 m. กว้างพอให้เราสามารถ Built-in ตู้เก็บรองเท้าและโซฟาสำหรับนั่งใส่รองเท้าเพิ่มได้สบายๆ
โดยบ้านตัวอย่างก็จะเพิ่มไอเดียติดกระจกเงาไว้ส่องดูคราวเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านได้ด้วย ใครสนใจก็สามารถนำไปใช้กันได้นะครับ
เข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกันทั้ง Living Area และโต๊ะทานอาหาร โดยผนังด้านข้างจะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับสวนรอบบ้าน ทำให้มีความสว่างโปร่งโล่ง แถมยังได้วิวพื้นที่สีเขียวสดชื่นๆอีกด้วย
พื้นที่โซนแรกจะเป็น Living Area มีระยะดูทีวีกว้าง 5.6 m. สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆ 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ไว้สำหรับรับแขก ซึ่งเราก็สามารถใช้ชุดโซฟาใหญ่ๆได้เต็มที่เลยครับ ส่วนพื้นชั้น 1 จะเป็น SPC ลายไม้ที่สามารถทนน้ำหรือความชื้นได้ดี และมีฝ้าเพดานสูง 2.7 m. เป็นมาตรฐาน
อีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจคือ Breeze Panel หรือช่องลมระบายอากาศ ซึ่งถูกติดตั้งไว้กับประตูและหน้าต่างหลักๆของบ้าน (Living Area /โถงบันได และในห้องนอน) พร้อมสวิทช์สามารถเปิด-ปิดได้ตามต้องการ ช่วยให้อากาศที่พัดผ่านเข้ามาถ่ายเทได้สะดวก ส่งผลให้บรรยากาศภายในบ้านปลอดโปร่ง สดชื่น ไม่อึดอัด
ส่วนประตูหน้าต่างชั้น 1 ทุกจุดจะติดตั้งสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor มาให้เพื่อความปลอดภัยด้วยครับ
ติดกับ Living Area จะมีโถงทางเดินแยกออกไปเป็นห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์หน้าบ้านด้วยครับ จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนมากขึ้น
โดยห้องน้ำนี้จะเป็น Powder Room ที่จะไม่ได้มีฟังก์ชันอาบน้ำภายในนะครับ แต่จะมีสุขภัณฑ์อื่นๆจาก Cotto ให้ครบ ขนาดกว้าง 1.75 x 1.25 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ
ติดกันจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่จะมีขนาดกว้าง 2.5 x 3.7 m. จุดเด่นคือ รอบๆเป็นผนังกระจกที่สามารถมองเห็นสวนและเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกได้ เหมาะสำหรับจัดเป็นฟังก์ชันต่างๆได้ตามต้องการ เช่น ห้องออกกำลังกาย หรือห้องทำงาน เป็นต้น
อีกด้านจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งก็มีขนาดใหญ่สามารถใช้เป็นโต๊ะแบบ 6 – 8 ที่นั่งได้สบายๆ อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับทางไปห้องครัวหลังบ้านด้วย จึงทำให้สามารถยกอาหารมาเสิร์ฟได้ง่าย
ภายในครัวมีขนาดใหญ่เลยทีเดียวครับ แถมยังมีโซนให้ทำเป็น Lundry ในตัวได้ด้วย ซึ่งของจริงเราจะได้เคาน์เตอร์ครัวเป็น Top หินสังเคราะห์สีดำอินเดียแบบนี้เลย ทำให้สามารถเช็ดทำความสะอาดและใช้งานได้ง่าย
พื้นและผนังรอบด้านจะกรุเป็นกระเบื้องเหมือนที่เห็นแบบนี้ มาพร้อมกับ Built-in ตู้ให้เก็บของด้านล่าง และอ่างล้างจานแบบ 1 หลุมให้ใช้งาน ส่วนตู้ด้านบนและเครื่องดูดควันเราจะต้องติดตั้งเพิ่มเติมเองครับ
ประตูที่อยู่ด้านในจะเชื่อมต่อกับโซนแม่บ้าน (ยังไม่ได้ออกไปซักล้างหลังบ้าน) ซึ่งประตูนี้จะเป็นส่วนที่กั้นความเป็นส่วนตัวระหว่างเจ้าของบ้าน และแม่บ้านออกจากกันได้อย่างเป็นสัดส่วน (หรือบางคนอาจกั้นแยกตั้งแต่ประตูครัว เพื่อให้แม่บ้านได้ใช้พื้นที่ทำอาหารหรือซักผ้าไปเลยก็ได้เหมือนกัน)
สำหรับพื้นที่พักผ่อนของแม่บ้านจะประกอบด้วยห้องน้ำ และห้องนอนขนาด 2.2 x 2.3 m. สามารถวางเตียงและตู้เสื้อผ้าได้พอดีๆ เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 คน ซึ่งถ้าบ้านไหนต้องมีแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงที่ต้องคอยอยู่ดูแล 24 ชม. หลังนี้ก็จะตอบโจทย์มากๆครับ
พื้นที่หลังบ้านของจริงจะเป็นพื้นหญ้าปกติ ซึ่งเราสามารถทำเป็นจุดซักผ้า-ตากผ้า หรือทำครัวไทยด้านนอกเพิ่มเติมได้
ติดกับห้องครัวก่อนหน้านี้จะมีห้องนอนชั้นล่างด้วยครับ ภายในกว้าง 4.2 x 3.5 m. สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ โดยที่ยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้สะดวก อีกทั้งยังมีช่องหน้าต่างที่มองออกไปชมสวนที่อยู่ข้างบ้านได้ด้วยครับ
อีกด้านหนึ่งเราก็สามารถจัดเป็นมุมแต่งตัว และยังมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวกๆอีกด้วย ทำให้ห้องนี้เหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่อาจเดินขึ้นบันไดไม่ไหว หรือจะทำเป็นห้องอื่นๆก็ได้ตามต้องการ
ภายในห้องน้ำมีแบ่งพื้นที่อาบน้ำไว้เป็นสัดส่วนด้วย ขนาดกว้าง 1.4 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ โดยเราสามารถติดฉากกั้นเพิ่มเติมเองได้ หรือถ้าเป็นห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ ก็อาจเพิ่มที่นั่งให้ใช้งานได้สบายๆมากขึ้นก็ได้ครับ
ก่อนจะขึ้นบันไดเราจะเห็นว่ามีพื้นที่ด้านหน้าขนาดใหญ่ ที่พอจะให้เราทำเป็นมุมอเนกประสงค์เล็กๆเพิ่มเติมได้ เช่น มุมสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือมุมวางโต๊ะทำงานเล็กๆ ซึ่งถ้าแต่งดีๆเราว่าตรงนี้น่าใช้งานมากๆ เพราะอยู่ติดกับช่องแสง 2 ด้านที่เชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้ด้วย
อีกหนึ่ง Highlight ของบ้านหลังนี้ก็คือ พื้นที่รอบบ้านที่มีขนาดใหญ่กว่าบ้านเดี่ยวปกติ เพราะตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 100 ตร.วา ทำให้สามารถปลูกต้นไม้ทำสวนได้เต็มที่ หรือถ้าใครเป็นสายปาร์ตี้ก็ยังสามารถเปิดประตูเชื่อมต่อกับพื้นที่ในบ้าน ให้สามารถใช้งานต่อเนื่องกันได้ด้วย
บันไดบ้านเป็นโครงสร้างคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป มีความแข็งแรงทนทาน และเวลาใช้งานเดินขึ้น-ลงจะไม่มีเสียงดังรบกวน ส่วนที่ใต้บันไดก็จะมีห้องเก็บของเล็กๆ และช่องหน้าต่างก็จะมี Breeze Panel ไว้ช่วยระบายอากาศได้ดีด้วยครับ
แปลนชั้น 2 จุดที่น่าสนใจคือ พื้นที่อเนกประสงค์ตรงโถงกลางบ้านที่มีให้ใช้งานถึง 2 จุด ซึ่งเราก็สามารถแบ่งฟังก์ชันให้เป็นสัดส่วน เช่น กั้นพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กลายเป็นห้องพระเพิ่มเติม หรือจะใช้งานเชื่อมต่อกันแบบโปร่งโล่งเลยก็ได้
อีกหนึ่งจุดเด่นก็คือ Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ แถมยังมีระเบียงกว้างๆ และห้องน้ำก็เพิ่มอ่างอาบน้ำมาให้ใช้งานด้วย ส่วนห้องนอนเล็กทั้ง 2 จะมีขนาดที่เท่าๆกันเลยครับ ทำให้เหมาะกับครอบครัวที่มีลูก 2 คน สามารถอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เล็ก-โต และยังมีห้องน้ำให้ใช้งานส่วนตัวด้วย
และนี่ก็คือบรรยากาศของพื้นที่อเนกประสงค์บนชั้น 2 โดยบ้านตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Family Area มาให้ดู 2 จุด สมมุติว่าชั้นล่างกำลังมีแขกอยู่ สมาชิกอื่นๆในบ้านก็จะได้มีพื้นที่ส่วนตัวให้ใช้งานร่วมกันได้นั่นเอง โดยฝ้าเพดานจะสูงขึ้นเป็น 2.8 m. และพื้นจะเป็นไม้ลามิเนตครับ
สำหรับพื้นที่อเนกประสงค์ด้านในเราสามารถกั้นผนังให้เป็นสัดส่วน เผื่อใครอยากทำเป็นห้องพระหรือห้องอื่นๆ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มอีกสักฟังก์ชันได้ครับ
ขวามือเป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้สะดวก ซึ่งเราก็สามารถเพิ่มเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน หรือโต๊ะทำงานได้ครับ
จุดแรกที่ผมอยากให้สังเกตก็คือ ท่ออากาศที่ติดอยู่บนฝ้าเพดานในห้องนอนที่เรียกว่า Dust Free House ซึ่งเป็นนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่นที่ติดตั้งให้กับบ้านทุกหลัง
Dust Free House สามารถฆ่าเชื้อโรคและกรองฝุ่น PM2.5 และฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ 0.1 ไมครอน รวมถึงยังมีส่วนช่วยระบายอากาศและความร้อน ไล่อากาศเก่าออกแล้วเพิ่ม Oxygen ใหม่เข้ามาแทน ทำให้อากาศภายในบ้านสะอาดมากขึ้นครับ
นอกจากนี้ยังมีระเบียงขนาดใหญ่ที่กว้างกว่า 5.7 x 1.55 m. สามารถวางพวกโต๊ะเก้าอี้ ไว้ออกมานั่งพักผ่อนจิบชา/กาแฟยามเช้าได้สบายๆ
รวมถึงจากมุมด้านบนนี้ยังสามารถมองลงไปชมสวนที่อยู่หน้าบ้านแบบนี้ได้ด้วย
อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet ที่เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้าเพิ่มเติมเองได้ ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องน้ำให้ใช้งานได้สะดวกเลยครับ
ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom มีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเพิ่มฟังก์ชันพิเศษที่แตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆมาให้ใช้งานด้วยครับ
เริ่มกันที่อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวจาก I-SPA ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนจากการยืนอาบน้ำแบบปกติ มาเป็นนอนแช่อ่างสบายๆได้ โดยอ่างนี้จะอยู่ติดกับช่องแสงเลยครับ แต่ก็จะไม่เสียความเป็นส่วนตัว เพราะเค้าจะติดฟิล์มมาให้แบบนี้เลย
ติดกันจะเป็นพื้นที่ยืนอาบน้ำขนาด 80 x 80 cm. ให้ใช้งานพอดีๆ ซึ่งเราสามารถติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองได้ น้ำจะได้ไม่กระเด็นเปียกออกมาด้านนอก
นอกจากนี้ยังได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก Cotto และอ่างล้างหน้าแบบ His and Her ด้วยครับ ส่วนตู้ด้านล่างก็จะ Built-in มาให้เพิ่มพื้นที่เก็บของได้แบบนี้เลย
แต่ที่พิเศษกว่าห้องน้ำอื่นๆอีกอย่างคือ ที่ใต้อ่างล้างหน้าจะมีการติดเครื่องทำน้ำร้อน ที่จะส่งไปตามท่อที่ฝังอยู่ในผนังเหมือนโรงแรม ทำให้ห้องนี้สามารถใช้น้ำร้อนได้ทุกจุดโดยไม่ต้องติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเลยนั่นเองครับ
ถัดมาจะเป็นห้องนอน 2 ที่อยู่บริเวณหน้าบ้านเหมือนกัน มีขนาดกว้าง 4.8 x 3 m. สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่รอบๆเหลือให้ใช้งานได้สบายๆ
อีกด้านหนึ่งของห้องสามารถทำเป็นมุมโต๊ะงาน และพื้นที่แต่งตัวหน้าห้องน้ำได้แบบนี้เลยครับ
ภายในห้องน้ำมีการจัดฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน โดยแบ่งโซนพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.4 x 0.9 m. แยกเอาไว้เป็นสัดส่วน ซึ่งเราอาจต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเอง และมี Junction สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยครับ
ติดกันจะเป็นห้องนอนที่ 3 ซึ่งอยู่โซนด้านหลังบ้าน โดยจะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากับห้องเมื่อครู่เลยครับ สามารถทำเป็นห้องนอนได้สบายๆ หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็อาจปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ตามต้องการ
และแน่นอนว่ามีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานด้วย ซึ่งขนาดและฟังก์ชันก็จะเหมือนกันห้องก่อนหน้านี้เลยครับ สามารถใช้งานได้สบายๆแบบส่วนตัว
- Luna (ลูน่า) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 107 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 264 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 Family Area / 3 ที่จอดรถ
แปลนชั้น 1 ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบบ้านไซส์เริ่มต้นของโครงการก็จริง แต่กลับมีขนาดที่ดินของบ้านเยอะกว่าหลังใหญ่ก่อนหน้านี้ซะอีกครับ โดยเฉพาะพื้นที่สวนด้านข้างนับว่าเป็นจุดเด่นของบ้านหลังนี้เลย ซึ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ทำให้ที่ดินของบ้านมีความ Flexible ยืดหยุ่นสูง เพราะเราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายตามต้องการ เช่น ทำเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ / สระว่ายน้ำส่วนตัว / ทำเป็นเรือนรับรองแยกออกมาจากตัวบ้าน หรือขยายพื้นที่จอดรถให้มากขึ้น เป็นต้น
ส่วนฟังก์ชันด้านในก็จะมีความแตกต่างจากบ้านหลังก่อน โดยจะแยกพื้นที่ Living Area และพื้นที่โต๊ะทานอาหารออกจากกันเป็น 2 โซนชัดเจน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวไม่รบกวนกัน อีกทั้งยังคงได้ห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งานได้ตามต้องการด้วยครับ เพียงแต่อาจต้องมีการแชร์ห้องน้ำร่วมกันส่วนกลางของบ้าน และได้ห้องครัวขนาดใหญ่ แต่จะตัดในส่วนของห้องแม่บ้านออกไปนั่นเอง
เริ่มกันที่พื้นที่จอดรถจะเป็นเหมือนส่วนที่แยกออกมาจากตัวบ้านเลยครับ แต่โครงสร้างเรายังคงได้เป็นเข็มลึกอยู่เหมือนเดิม มีความกว้าง 8.5 x 6 m. สามารถจอดรถ 3 คันได้สบายๆ และนอกจากนี้ยังมีห้องเก็บของเล็กๆให้ใช้งานด้วยครับ
ซึ่งเป็นจุดที่มีการพัฒนามาแบบจากโครงการก่อนหน้านี้ โดยการปรับตำแหน่งให้มาอยู่ทางด้านข้างแทน (เดิมทีจะอยู่ตรงกลางระหว่างที่จอดรถและสวน) เผื่อใครต้องการขยายที่จอดเข้าไปด้านในให้กลายเป็น 6 ที่จอดก็จะสามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลามาทุบเองครับ
พื้นที่สวนด้านในมีขนาดใหญ่ และถือเป็น Highlight หลักของบ้านหลังนี้เลย โดยเราสามารถจัดเป็นสวนสวยๆแบบนี้ หรือจะทำเป็นสระว่ายน้ำ บ่อเลี้ยงปลา มุมน้ำตกสวยๆ สร้างเป็นเรือนรับรองแยกออกมาจากตัวบ้าน หรือจะทำเป็นพื้นที่จอดรถเพิ่มก็ได้ ซึ่งฟังก์ชันส่วนนี้ก็ทำให้มีความ Flexible มากขึ้นนั่นเองครับ
ทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่แยกออกมาจากพื้นที่จอดรถ ทำให้เวลาที่มีฝนตกหรือต้องขนของเยอะๆ ก็จะมีข้อจำกัดเล็กๆน้อยๆที่เราจะไม่สามารถเดินตรงมาจากที่จอดรถได้นั่นเอง แนะนำให้ทำเป็นหลังคากันสาดเพิ่มเติมก็จะช่วยได้นะครับ
เข้ามาด้านในเราจะเจอกับโถงกลางบ้านขนาดใหญ่ ที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อแยกออกไปยังฟังก์ชันต่างๆได้ โดยพื้นที่บริเวณหน้าประตูจะมีมุมให้เราสามารถทำเป็นตู้เก็บรองเท้าเพิ่มเติมได้ด้วย
และถ้าเราหันหน้าเข้าสู่ตัวบ้าน ขวามือจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่มีประตูปิดกั้นเป็นส่วนตัวเลย ภายในมีขนาด 3.2 x 3.4 m. สามารถทำเป็นห้องทำงาน ดูหนัง เล่นเกมส์ หรือทำเป็นห้องนอนชั้นล่างก็ได้ครับ ซึ่งจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้มองเห็นวิวสวนด้านหน้ากับบริเวณพื้นที่จอดรถได้ด้วย
ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกันระหว่างพื้นที่ชั้นล่างทั้งหมด ซึ่งจะมีการเตรียมฟังก์ชันอาบน้ำเอาไว้ด้วย (เผื่อใครทำห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างเป็นห้องนอน) โดยจะมีขนาดกว้าง 1.1 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ
ส่วนทางด้านซ้ายมือของประตูทางเข้าบ้านจะเป็น Living Area มีระยะดูทีวีกว้าง 4.7 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้ว และชุดโซฟาตัวใหญ่ๆได้สบายๆ
โดยพื้นที่ส่วนนี้ก็เหมาะจะเอาไว้ใช้รับรองแขกด้วย ซึ่งจะทำให้ภายในบ้านของเราไม่ต้องเสียความเป็นส่วนตัวมากนัก แถมยังมีจุดเด่นตรงพื้นที่รอบๆเป็นช่องแสงทั้งหมด ทำให้มีความสว่างโปร่งโล่งและเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกได้นั่นเอง
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นโซนที่อยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งมีฟังก์ชันหลักเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารแบบ 6 – 8 ที่นั่งได้สบายๆ โดยจุดนี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ที่อยู่บริเวณข้างบ้านก่อนหน้านี้ได้ด้วยครับ ทำให้เราสามารถนั่งทานอาหารไปและชมวิวสวนสวยๆไปด้วยได้
หรือถ้าใครทำเป็นสระว่ายน้ำก็สามารถจัด Pool Party เชื่อมต่อพื้นที่ภายในกับภายนอกตัวบ้าน ให้กลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ และรองรับแขกหลายๆคนได้สบายๆเลย
อีกด้านหนึ่งจะเป็นห้องครัว ซึ่งมีการกั้นผนังและประตูปิดแยกเป็นสัดส่วน โดยจุดที่ผมชอบคือการเจาะช่องผนังเป็นกระจกบาน Fixed ขนาดใหญ่ ทำให้มีความโปร่งโล่งและพื้นที่ก็ดูเชื่อมต่อกันมากขึ้น
ภายในห้องครัวมีขนาดใหญ่มากครับ สามารถใช้งานพร้อมกันหลายๆคนได้สบายๆ โดยเราจะได้เป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U แบบนี้เลย แต่จะไม่มีตู้เก็บของด้านบนและเครื่องดูดควันเช่นเดิมนะ
อีกด้านหนึ่งก็มีพื้นที่ให้เก็บของเยอะมาก สามารถทำเป็นมุม Laundry เพิ่มเติมได้สบายๆ แถมยังมีประตูห้องเก็บของเล็กๆใต้บันไดให้ใช้งานด้วยนะ
ส่วนประตูหลังบ้านจะเชื่อมต่อออกมายังด้านข้าง ซึ่งเราสามารถทำเป็นลานซักล้าง ที่ตากผ้า หรือครัวไทยด้านนอกเพิ่มเติมได้ครับ
บันไดจะอยู่ด้านหลังสุดของบ้าน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากบริเวณรับแขกที่อยู่หน้าบ้าน โดยหลังนี้เราจะได้ช่องแสงที่มีขนาดใหญ่และสูงเป็นพิเศษเลยครับ จึงทำให้มีความสว่างโปร่งโล่งมากขึ้นเยอะเลย
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ บริเวณชานพักบันไดจะมีขนาดใหญ่ 1.9 x 1.35 m. สามารถทำเป็นมุมอเนกประสงค์เล็กๆเพิ่มเติมได้ด้วย เช่น มุมนั่งเล่นพักผ่อน หรือมุมเก็บของ/ตู้โชว์ของสะสม เป็นต้น
แปลนชั้น 2 จุดเด่นหลักๆจะอยู่ในห้อง Master Bedroom ซึ่งจะมีขนาดใหญ่และกว้างเท่ากับตัวบ้านเลย โดยภายในนอกจากจะมีฟังก์ชัน Walk-in Closet เป็นสัดส่วนแล้ว ยังมีห้องอเนกประสงค์แยกออกมาด้วย จึงทำให้เราสามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายตามต้องการ เช่น ห้องทำงานส่วนตัว หรือมุมพักผ่อนตามอัธยาศัย เป็นต้น ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องก็จะมีขนาดใหญ่และมีห้องน้ำส่วนตัวเป็นของตัวเองทั้งหมดเลย
ขึ้นมาด้านบนเราจะเจอกับพื้นที่ Family Area ที่เราสามารถจัดเป็นมุมอเนกประสงค์ต่างๆได้ตามต้องการ เช่น มุมนั่งทำงาน มุมดูทีวีร่วมกันของครอบครัว หรือมุมหิ้งพระก็ได้ โดยจะมีขนาดกว้างประมาณ 2 x 2 m.
ส่วนห้องนอนอื่นๆจะมีโถงทางเดินแยกออกไปเป็นส่วนตัวครับ
เริ่มกันที่ห้อง Master Bedroom ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน ภายในมีขนาดใหญ่และสามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ แถมยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้สะดวกอีกด้วย
ด้านในเราจะเห็นว่ามีทางแยกออกไป 2 ด้าน เริ่มจากทางซ้ายมือจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งภายในจะล้อมรอบด้วยผนังกระจกทั้ง 2 ด้าน พร้อมกับมีราวระเบียงตกแต่งด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง ดูเผินๆแล้วก็เหมือน Glass House หรือ Double Balcony เลยครับ
โดยห้องนี้เราสามารถจัดเป็นฟังก์ชันอะไรก็ได้ตามต้องการ เช่นบ้านตัวอย่างก็จัดเป็นห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงแยกมาเลย หรือเราจะทำเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อน ห้องทำงาน หรือห้องไว้สำหรับจิบชา/กาแฟ และทานอาหารเช้าแทนการใช้ระเบียงก็ได้ (ภายในมีขนาด 3 x 2 m.)
ส่วนอีกด้านของห้องนอนจะเป็น Walk-in Closet ที่อยู่ติดกับห้องน้ำ ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก และเราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เต็มที่เลย
ส่วนห้องน้ำก็จะได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติของ Cotto เหมือนเดิม แต่จะลดทอนในเรื่องอ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้าลงจากหลังใหญ่ ซึ่งพื้นที่อาบน้ำกว้าง 1.5 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ แต่อาจต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองนะ
ติดกันจะเป็นห้องนอนที่ 2 ซึ่งภายในมีขนาด 3 x 3.2 m. สามารถวางเตียง 3.5 – 5 ฟุตได้สบายๆ และมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้
โดยจุดเด่นของห้องนี้จะเป็นวิวจากหน้าต่าง ที่เราสามารถมองเยื้องๆไปเห็นสวนที่อยู่ข้างบ้านได้ด้วยแบบนี้นั่นเองครับ
ส่วนอีกด้านของห้องก็จะเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัวและมีห้องน้ำในตัวด้วย ภายในมีการแยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วนให้ใช้งานครบ พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.7 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ
สุดท้ายจะเป็นห้องนอนที่ 3 ซึ่งจะอยู่ทางโซนหลังบ้าน และมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากับห้องเมื่อครู่เลยครับ
ส่วนอีกด้านก็จะเป็นมุมแต่งตัวและห้องน้ำในตัวเช่นเดิม
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
ราคา
สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3 ราคา ณ วันที่ 25 กันยายน 2567
- River (ริเวอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 Family Area / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 + 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท* (Promotion) - ค่าจอง n/a บาท
- ค่าทำสัญญา n/a บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
- ค่าส่วนกลาง 54 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า n/a ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- Pre-Sale วันที่ 2 – 3 พฤศจิกายน 2567
- ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ในการเข้าชมโครงการก่อนใคร พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท* เมื่อจองภายในงาน : https://siri.ly/7nzJxQ9
- ลูกเพจของ Think of Living แจ้งว่าเห็นจาก Review ของเพจ รับส่วนลด on top เมื่อจองในงานเพิ่มอีก 50,000 บาท*
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3 ตั้งอยู่ในซอย ทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก 24 เชื่อมต่อถนนพุทธมณฑล สาย 3 และถนนคลองทวีวัฒนา ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย แต่อนาคตก็จะสะดวกมากขึ้นไปอีกครับ เพราะจะมีถนนพรานนก (ตัดใหม่) เชื่อมต่อมายังถนนพุทธมณฑล สาย 3 ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถขับตรงเข้าเมืองไปทางราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า และเข้าเมืองได้เลย ส่วนในด้านความอุดมสมบูรณ์ก็พอจะมีอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็น Hub ใหญ่ๆเลย ก็อาจต้องขยับไปยังทำเลข้างเคียงที่คึกคักกว่า ไม่ว่าจะเป็น ราชพฤกษ์ บางแค พุทธมณฑล และศาลายา
ทีนี้เรามาพูดถึงตัวโปรดักส์กันบ้าง สำหรับบ้านเดี่ยวของโซนนี้ส่วนใหญ่จะมีราคาเริ่ม 10 ล้านบาทขึ้นไป ที่เป็นแบบนั้นเพราะเป็นบ้าน 100 ตร.วาครับ หรือพูดง่ายๆก็คือแพงเพราะที่ดินนั่นเอง และปัจจุบันก็มีตัวเลือกเยอะพอสมควร แต่จุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการ สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3 ก็คือ ‘บรรยากาศ’ และ ‘ความเป็นส่วนตัว’ ที่ส่วนตัวผมก็เคยมีโอกาสได้มารีวิวย่านนี้แล้วหลายโครงการ ก็ต้องยอมให้เค้าเลยกับ 2 เรื่องนี้ครับ ส่วนแบบหรือฟังก์ชันบ้าน แต่ละแห่งก็จะมีสไตล์เป็นของตัวเอง เราก็สามารถพิจารณาเลือกให้เหมาะกับ Lifestyle ของเราได้เลยนะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : มีระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 จากแสนสิริ พร้อมกล้อง CCTV ทั่วโครงการ ซึ่งจะมีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย 24 ชม. ส่วนการเข้า-ออกรถจะเป็นระบบสแกนป้ายทะเบียน (License Plate) ในบ้านจะให้เป็น Magnetic & Motion Sensor บริเวณชั้น 1 ทุกหลัง เรียกได้ว่าให้มาเป็นมาตรฐานตามระดับราคานี้ครับ
วัสดุ : โครงสร้างบ้าน Precast มีความแข็งแรงทนการ แถมยังกันเสียงได้ดีเป็นอันดับหนึ่ง แต่จะมีข้อจำกัดเรื่องการทุบ/เจาะ/ต่อเติมที่ทำได้ยาก แนะนำว่าต้องปรึกษาช่างหรือวิศวะกรอีกครั้ง จุดที่ชอบคือพื้นที่จอดรถที่ลงเข็มลึกเท่าตัวบ้าน + เข็มสั้นลึก 6 m. ทำให้มีความแข็งแรงไม่ทรุดตัวง่าย แถมยังปูพื้นเป็นทรายล้างกันลื่นมาให้ด้วย
ส่วนในบ้านช่องแสงเยอะดีครับ มีนวัตกรรม Breeze Panel และ Dust Free House ที่ช่วยกรองฝุ่นและระบายอากาศให้กับตัวบ้าน ครัวก็ก่อเคาน์เตอร์มาให้พร้อมใช้งาน แถมยังกรุกระเบื้องมาให้อย่างดีสวยงามเลย สุขภัณฑ์ในห้องน้ำถ้าเป็น Master Bedroom จะมีการอัพเกรดเป็นโถอัตโนมัติ และอ่างอาบน้ำให้ด้วย แต่ที่เราคิดว่าให้มาดีได้อีกก็น่าจะเป็นวัสดุปูพื้นชั้น 2 ที่ยังคงเป็นลามิตเนตครับ เพราะถ้าให้เป็นวัสดุอื่นๆที่มีความทนทานมากกว่านี้ ก็น่าจะเหมาะสมกับการใช้งานและยุคสมัยมากขึ้น
การออกแบบโครงการ : ถือเป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดของย่านในปัจจุบัน เพราะมียูนิตน้อยเพียง 51 หลังเท่านั้น (โครงการส่วนใหญ่จะมีขนาดมากกว่า 60 ยูนิต) แถมยังแบ่งบ้านออกเป็นซอยย่อยเพียง 2 – 6 หลังเท่านั้นอีกด้วย ดังนั้นใครที่ชอบความเงียบสงบและไม่วุ่นวายก็น่าจะถูกใจโครงการนี้ไม่น้อย
อีกจุดหนึ่งที่นับว่าเป็นจุดเด่นมากๆก็คือ บรรยากาศของโครงการ ที่จัดให้มีพื้นที่สีเขียวเป็นส่วนต้อนรับด้านหน้า จึงทำให้มีความร่มรื่นสวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีคอนเซ็ปต์การออกแบบเป็น Modern Farmhouse ให้บรรยากาศเหมือนเราได้มาพักตากอากาศอยู่แถบชนบทที่เมืองนอกเลยครับ
การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : เป็นบ้านเดี่ยวบนพื้นที่ดินขนาด 100 ตร.วา++ รองรับการอยู่อาศัยแบบ 3 Generation และมีบ้าน 2 แบบให้เลือก ซึ่งจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยบ้านไซส์ใหญ่เราจะมีที่ดินหน้าบ้านลึกพิเศษ ทำให้สามารถจอดรถซ้อนคันรวมกันได้สูงสุดเป็น 6 คัน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งโครงการที่จอดรถได้เยอะสุดในย่าน แถมในบ้านชั้นล่างยังมีทั้งห้องนอน ห้องอเนกประสงค์ และมีห้องแม่บ้านรองรับด้วยครับ
ส่วนบ้านไซส์เล็กจะมีขนาดที่ดินเริ่มต้นใหญ่กว่าบ้านหลังใหญ่ซะอีก จุดเด่นคือพื้นที่สวนขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างบ้าน ซึ่งจะทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เหมาะกับคนที่อยากต่อเติมฟังก์ชันบ้านในแบบที่ต้องการได้เอง เช่น ขยายพื้นที่จอดรถ ทำเป็นสระว่ายน้ำ หรือจะเพิ่มเรือนรับรองอีกหลังก็ได้ แต่ด้วยความที่บ้านหลังนี้มีที่ดินเยอะกว่าหลังใหญ่ แน่นอนว่าราคาก็จะเริ่มต้นสูงกว่าด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นเคสที่เราไม่ค่อยได้พบเห็นกันบ่อยๆ ที่หลังเล็กจะเริ่มแพงกว่าหลังใหญ่แบบนี้ แต่ยังไงก็ลองพิจารณาเลือกแบบและฟังก์ชันบ้านที่ตรงกับความต้องการของเราได้เลยนะครับ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ขนาดพื้นที่สีเขียวมีประมาณ 2 ไร่ แต่บรรยากาศที่จัดให้นั้นบอกเลยว่ากินขาดมาก โดยเค้าจัดให้มีทั้งต้นไม้ใหญ่และขุดทำผืนน้ำเพิ่มบรรยากาศเข้ามาด้วย ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนได้มาเที่ยวพักผ่อนอยู่ที่เขาใหญ่เลยทีเดียว (อันนี้คือทีมงานของเราหลายๆคนต่างก็เห็นตรงกัน) ซึ่งโดยส่วนตัวผมเองก็เคยมีโอกาสเข้าไปชมและเขียนรีวิวโครงการในย่านนี้มาหลายแห่งเหมือนกัน ก็ช่วยคอนเฟิร์มอีกเสียงว่าที่นี่ให้มาสวยงามดีเป็นอันดับต้นๆเลยครับ
สาธารณูปโภค : จุดเด่นเราว่าอยู่ตรงความใส่ใจในรายละเอียดการตกแต่ง ที่ให้มาเยอะไม่เหมือนใครในย่าน ไม่ว่าจะเป็นซุ้มประตูที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ มุมมาสคอตน้องแกะน่ารักๆ หรือจะเป็นสะพานข้ามน้ำเก๋ๆ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ และเพียงพอต่อจำนวนยูนิตสบายๆเลยครับ
โดยเฉพาะสระว่ายน้ำสามารถออกกำลังกายได้จริงจัง มีการแบ่งสระเด็กที่ประดับด้วยน้ำพุดอกไม้น่ารักๆ แถมยังมีโซนจากุซซี่แยกออกมาด้วย และภายในอาคารจะมีทั้ง Lobby & Co-Working Space แบบ Semi-Outdoor ที่น่านั่งมากๆ ให้ฟีลเหมือนมาเที่ยวคาเฟ่เลย ส่วนบ้านบนก็จะเป็น Fitness ที่ชมวิวสวนสวยๆได้เต็มที่ และถ้าเป็นในสวนด้านนอกก็จะมี Educational Playground กับ Sansiri Backyard ให้ใช้งานด้วยครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 15 – 20 ล้านบาท, 25 กันยายน 2567
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – อยู่ในซอยเชื่อมต่อถนนหลักได้ 2 เส้นทาง อนาคตมีถนนตัดใหม่ให้ใช้เข้าเมืองสะดวกมากขึ้น
- ความปลอดภัย 8/10 – LIV-24 พร้อมกล้อง CCTV ทั่วโครงการ และ Magnetic Sensor ชั้น 1 ในบ้าน
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – บ้านที่ดินใหญ่ 100 ตร.วา ฟังก์ชันยืดหยุ่น จอดรถได้เยอะ รองรับครอบครัวใหญ่ ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัวสุดในย่าน
- วัสดุ 7.5/10 – โครงสร้าง Precast ลงเสาเข็มที่จอดรถให้ พร้อมนวัตกรรมกรองและระบายอากาศในบ้าน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9/10 – ขนาดสวนและผืนน้ำรวม 2 ไร่ บรรยากาศดีร่มรื่นสวยงาม ฟีลเหมือนอยู่เขาใหญ่
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีขนาดใหญ่สวยงาม และให้ฟังก์ชันมาครบ น่าใช้งาน
- 8.00 / 10.00
สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3 เหมาะกับใคร
โครงการ สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3 เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยว 100 ตร.วา ในย่านพุทธมณฑล ที่มีจุดเด่นคือ ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว และให้บรรยากาศส่วนกลางมาสวยงามร่มรื่น ฟีลเหมือนอยู่เขาใหญ่ ฟังก์ชันบ้านรองรับครอบครัวได้ 3 Generation และจอดรถได้สูงสุดรวมกันถึง 6 คัน อีกทั้งยังมีที่ดินรอบบ้านเหลือเยอะ ให้เราจัดสวนหรือต่อเติมเพิ่มเองได้ตามต้องการ และมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 14.9 ล้านบาทขึ้นไป
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่