รีวิวโครงการ
The Sneak EP.219 : Raya Residence กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง | บ้านไซส์ใหญ่กว่า 800 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ ที่ปรับแบบบ้านและเลือกวัสดุเองได้
3 กุมภาพันธ์ 2024
รีวิว Raya Residence Krungthep kritha-Ramkhamhaeng (รายา เรสซิเดนซ์ กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง) กับโครงการ “บ้าน” ที่เหมือนได้พักผ่อนอยู่ใน “รีสอร์ต” จากพรีเมียร์ แอสเซ็ทส์ จำกัด ในเครือของ Premier Group ผู้พัฒนาโรงแรม รายาวดี กระบี่และรายา เฮอริเทจ เชียงใหม่ ซึ่งครั้งนี้งานออกแบบสไตล์รีสอร์ตจะเข้ามาอยู่ในตัวบ้าน เริ่ม 59 ล้านบาท เบื้องต้นเราสรุปประเด็นที่น่าสนใจไว้ดังนี้ค่ะ
- ตัวบ้านเป็น Pool Villa ที่สามารถ Customize ปรับฟังก์ชัน การตกแต่งได้ตามความต้องการได้หมด โดยไม่ต้องเสียเวลามาคุมงานก่อสร้างเอง เรียกได้ว่าเป็นบ้านสั่งสร้างที่แตกต่างจากโครงการรอบๆ ในโซนนี้ ซึ่งเหมาะกับครอบครัวที่ชอบ Theme ของโครงการที่ออกแบบมา 2 สไตล์คือ Tropical ใกล้ชิดธรรมชาติ และ Modern ทันสมัย ในบรรยากาศแบบรีสอร์ต
- โครงการจัดสรรที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพื่อนบ้านเพียง 15 หลัง
- พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ เมื่อเทียบราคากับโครงการรอบๆ จะเห็นว่าโครงการนี้ให้พื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้านมาเยอะ เพื่อให้สามารถจัดฟังก์ชันทุกอย่างเข้ามาอยู่ในตัวบ้านได้ครบ พร้อมสระว่ายน้ำในตัวทุกหลัง จึงไม่ได้มี Clubhouse ส่วนกลางนะคะ
- วัสดุที่ให้ได้อารมณ์รีสอร์ต ดูสบายๆ เป็นธรรมชาติ และสเปคของหลายอย่างก็น่าสนใจ เช่น ลิฟต์บ้านระบบสกรูจาก Artico สวีเดน, แอร์ระบบ VRV ทั้งหลัง จึงไม่รบกวนดีไซน์ของตัวบ้าน เป็นต้น
- ทำเลอยู่ในซอยราคำแหง 118 ซอยเดียวกับหมู่บ้านพฤกษชาติ ที่เข้าออกได้ทั้งถนนรามคำแหงและกาญจนาภิเษก ใกล้กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ค่ะ
รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ตามเราไปชมกันเลยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Raya Residence Krungthep kritha-Ramkhamhaeng (รายา เรสซิเดนซ์ กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566
ชื่อโครงการ | Raya Residence Krungthep kritha-Ramkhamhaeng (รายา เรสซิเดนซ์ กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท พรีเมียร์ แอสเซ็ทส์ จำกัด |
SEGMENT CLASS | SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยรามคำแหง 118 แยก 33 เขตสะพานสูง |
ที่ดิน | 8-0-40.7 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 15 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | The Nest ชั้น 1 สูง 2.8 เมตร, Double Volume สูง 6 เมตร, ชั้น 2-3 สูง 3 เมตร The Den ชั้น 1 สูง 3.9 เมตร, ชั้น 2-3 สูง 3 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 120,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | เดือน กรกฎาคม ปี 2022 |
เว็บไซต์โครงการ | https://raya-residences.com/?utm_source=mediaeyes&utm_medium=sem&utm_campaign=rayaresidence |
โทร | 02-301-2888 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.769527, 100.689599
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ Raya Residence (รายา เรสซิเดนซ์) ค่ะ โครงการตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 118 แยก 33 ใกล้หมู่บ้านพฤกษชาติ จึงอิงไปทางถนนรามคำแหง เป็นทำเลที่ขยับออกมาจากโซนกรุงเทพกรีฑาเล็กน้อย แต่ในบ้านที่ราคาพอๆ กับโซนกรุงเทพกรีฑา โครงการนี้จะให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านที่มากกว่า ในระยะที่เชื่อมเข้าถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า(กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ได้ในระยะประมาณ 2.4 km. เท่านั้นค่ะ
โครงการ Raya Residence (รายา เรสซิเดนซ์) ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 118 แยก 33 เข้าออกได้ 2 ทางทั้งรามคำแหงและถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก จึงเดินทางไปยังถนนใหญ่ใกล้เคียงได้สะดวกทั้งถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า(กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่), ถนนศรีนครินทร์, ถนนพัฒนาการ, ถนนลาดพร้าว รวมไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่าย
โครงการเข้าได้ 2 ทางคือ
- จากถนนรามคำแหง เข้าผ่านซอยรามคำแหง 118 หรือซอยหมู่บ้านพฤกษชาติ ด้านหน้ามีร้านค้า ร้านอาหารค่อนข้างคึกคัก ภายในซอยมีสนามกีฬา และเป็นชุมชนอยู่อาศัยที่มีรถผ่านเส้นทางนี้อยู่ตลอดทั้งวันค่ะ
- จากวงแหวนกาญจนาฯ เข้าผ่านถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก แล้วเลี้ยวเข้าซอยรามคำแหง 118 แยก 33 แล้วเข้าสู่โครงการได้เลย
ที่ตั้งโครงการนี้เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะอยู่บนถนนเส้นที่ไม่ได้มีรถสาธารณะผ่านมากนัก แต่จะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก(บริเวณถนนรามคำแหง) ที่วิ่งขึ้นเหนือไปรังสิต-นครนายก หรือวิ่งลงใต้ไปบางนา-สมุทรปราการ นอกจากนี้ยังเชื่อมเข้ามอเตอร์เวย์(กรุงเทพ-ชลบุรี) และทางด่วนศรีรัช(วิ่งเข้าตัวเมือง)ได้สะดวกอีกด้วย
สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถเรียก Taxi, วินมอเตอร์ไซค์ ผ่าน Application ได้แต่จะไม่ค่อยมีรถประจำทางผ่านหน้าโครงการสักเท่าไหร่นะคะ บนถนนรามคำแหงจะมีเยอะกว่าค่ะ นอกจากนี้ในอนาคตมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าหลากหลายเส้นทางให้เลือกใช้ค่ะ
- รถไฟฟ้าสายสีส้ม บนถนนเส้นรามคำแหง สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีสัมมากร(ในอนาคต) ~ 2.6 กิโลเมตร
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลำสาลี(ในอนาคต) ~ 6.2 กิโลเมตร เป็นสถานี Interchange กับสายสีส้ม
- Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ~ 10.2 กิโลเมตร
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ใกล้สุดจะมีร้านค้าร้านอาหารในซอยพฤษชาติ ซึ่งเป็นทางผ่านกลับบ้านอยู่แล้ว หรืออีกจุดที่อยู่ใกล้ๆ กันคือหมู่บ้านสัมมากรที่คนในละแวกน่าจะรู้จักกันดี เพราะเป็นย่านที่มีร้านอาหาร Local ชื่อดังอร่อยๆ ให้เลือกซื้อของกินได้หลากหลาย
ถ้าขยับไปที่ถนนรามคำแหงจะมี Community Mall อย่าง Paseo Town รามคำแหง ที่ด้านในมี Makro ให้ซื้อของกินของใช้เข้าบ้านด้วย หรือไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ The Mall บางกะปิ, Lotus’s บางกะปิ ขยับออกไปไกลหน่อยก็มี The Mall รามคำแหง และ The Nine หรือไปทางรามอินทรามี Fashion Island และ The Promenade ก็ไม่ไกลค่ะ
อีกทั้งยังใกล้โซนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งจัดว่าเป็นโซนฮอตฮิตของที่อยู่อาศัยแนวราบมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า(ตัดใหม่) ส่วนใหญ่เราจะเห็นบ้านที่อยู่ใน Segment Super Luxury เกือบทั้งหมดเลย ทำให้มี Community Mall ค่อนข้างเยอะ เช่น Market Place, Max Value, Kurve 7 และ Market Today นอกจากนั้นยังมี The Park และ Tesco Lotus ในโซนนี้ นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่รวมโรงเรียนนานาชาติอยู่หลายแห่ง อย่างเช่น Brighton College Bangkok , Wellington College international Bangkok, Stamford International University, Montessori Center ซึ่งตอบโจทย์กับกลุ่มครอบครัวระดับที่ซื้อบ้านระดับนี้
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Raya Residence (รายา เรสซิเดนซ์) ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นและที่ดินเปล่า ไม่ได้เป็นชุมชนพักอาศัยที่หนาแน่นมากนัก
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัย
- ทิศใต้ ติดกับ ถนนรามคำแหง 118 แยก 33 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยและที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย
บรรยากาศรอบๆ โครงการ เป็นหมู่บ้านพักอาศัยสลับกับที่ดินเปล่า เงียบสงบดีค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- The Paseo รามคำแหง – 4.8 km.
- Fashion Island – 8.8 km.
- The Promenade – 9.3 km.
- The Nine พระราม 9 – 12.5 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง – 3 km.
- โรงพยาบาลรามคำแหง – 7.1 km.
- โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ – 10.5 km.
โรงเรียน
- Heathfield International School – 3 km.
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า – 5.2 km.
- International Montessori Center– 5.6 km.
- Brighton College International School– 9.2 km.
สถานที่อื่นๆ
- สนามกอล์ฟนวธานี – 6 km.
- สวนสยาม – 6.4 km.
- สนามบินสุวรรณภูมิ – 14.9 km.
รายละเอียดโครงการ
ก่อนเข้าโครงการจะขอเกริ่นเรื่องแบรนด์รายาให้ฟังสักหน่อย เพื่อนๆ อาจจะคุ้ยเคยกับชื่อโรงแรม รายา เฮอริเทจ เชียงใหม่และรายาวดี กระบี่ จาก Premier Group ซึ่งครั้งนี้ได้นำสไตล์การออกแบบของรีสอร์ตมาใส่ในบ้านแบรนด์ Raya Residence (รายา เรสซิเดนซ์) เพื่อให้เป็นบ้านที่เหมือนได้พักผ่อนอยู่ใน “รีสอร์ต” จริงๆ
สำหรับทำเลนี้ก็มีบ้าน Super Luxury 50 ล้านไปจนถึงหลัก 100 ล้านบาทอยู่หลายโครงการ ซึ่งความแตกต่างของโครงการนี้คือ เป็นโครงการจัดสรรที่เป็นบ้านสั่งสร้าง…เราสามารถเลือกสีวัสดุและการตกแต่งต่างๆ รวมไปถึงการขอปรับแปลน / ฟังก์ชันห้อง ให้เข้ากับการใช้งานของแต่ละครอบครัวได้ โดยที่ไม่ต้องคุมช่างเอง เหมาะกับคนที่ชอบ Theme และ Style ในการตกแต่งของโครงการที่ให้บรรยากาศแบบรีสอร์ต เรียบง่าย เป็นส่วนตัวค่ะ
มาดูที่ตัวโครงการ Raya Residence (รายา เรสซิเดนซ์) เป็นโครงการจัดสรรที่มีความเป็นส่วนตัวเพียง 15 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 8-0-40.7 ไร่ มีระบบรักษาความปลอดภัย และมีพี่รปภ. ที่ดูแล 24 ชั่วโมง แต่จะไม่ได้มี Clubhouse ส่วนกลาง เพราะแต่ละบ้านจะมีสระว่ายน้ำในตัวแบบ “Pool Villa” และมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เพียงพอที่จะทำห้อง Fitness หรือห้องอเนกประสงค์ต่างๆ ได้ครบในตัวอยู่แล้ว
การจัดผังโครงการให้ถนนหลักกว้าง 12 m. แล้วแยกออกเป็นซอยพักอาศัยต่างๆ จำนวน 4 ซอย ซอยย่อยแต่ละซอยกว้าง 9 เมตร รถจึงขับสวนกันได้สะดวก อีกทั้งแต่ละซอยจะเป็นซอยตันจึงได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ในแต่ละซอยมีจำนวนเพื่อนบ้านไม่เกิน 6 ยูนิต โดยซอยที่เรามองว่าได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด คือซอยที่มีเพื่อนบ้านเพียง 2-3 หลัง (ในเส้นประเหลือง)
บรรยากาศในโครงการดูร่มรื่นเพราะมีต้นไม้ปลูกตามแนวถนนหลักและนำสายไฟลงดินทั้งโครงการ แลกมากับค่าส่วนกลาง 75 บาทต่อตร.วา/เดือน แน่นอนว่าราคาต้องสูงกว่าโครงการบ้านทั่วไป เพราะแลกมากับความเป็นส่วนตัวที่แชร์กับเพื่อนบ้านเพียง 15 หลังเท่านั้น
สำหรับทิศของบ้านจะมีให้เลือกหันหน้าทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับบ้านอยู่อาศัยอยู่แล้ว ทิศเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงธรรมชาติไม่ค่อยแรงมากในตอนเช้า ส่วนช่วงเย็นก็จะมีแสงจากทิศตะวันตกเข้าด้านข้างบ้าน ไม่ได้ส่องตรงๆ ส่วนทิศใต้นะเป็นทิศที่ลมโกรกดีที่สุด ซึ่งการเลือกทิศนั้นขึ้นอยู่กับแบบบ้านด้วยว่ามีช่องเปิดรับลมทางฝั่งไหน แนะนำให้วางช่องรับลมและสระว่ายน้ำไว้ทางทิศใต้ ลมจะเข้าดี เย็นสบายค่ะ
ซุ้มประตูของโครงการมาในสไตล์รีสอร์ต มีต้นไม้ประธานอยู่ตรงกลาง ตกแต่งผนังรอบๆ ด้วยวัสดุลายไม้ ในแง่ของฟังก์ชันป้อม รปภ. ตรงกลางจะเป็นตัวแบ่งแยกเส้นทางเข้าออกของรถ ไม่ให้ทับเส้นทางกัน
ประตูรั้วโครงการแบบประตูอัตโนมัติควบคุมด้วยรีโมท บริเวณนี้จะมีพี่ รปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และติดตั้ง CCTV ส่วนกลาง 16 จุด
บรรยากาศของถนนหลักภายในโครงการจะดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มไปตลอดแนว เป็นถนนที่มีความกว้าง 12 m. ส่วนที่ชอบคือพรรณไม้ที่เลือกใช้มีความหลากหลาย ไม่ได้เน้นแค่ต้นไม้ใหญ่อย่างเดียว ยังมีไม้พุ่มทรงสูงและทรงเตี้ย ให้บรรยากาศที่ร่มรื่นมากๆ
ตรงเข้ามาจนสุดถนนหลักเป็นตำแหน่งของอาคารนิติบุคล บนพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูสบายตา
จากอาคารนิติบุคคลมองกลับไปยังถนนหลักของโครงการก็จะเป็นตำแหน่งที่ตรงกับถนนหลักเลย ทางโครงการจึงไม่ได้จัดสรรที่ดินแปลงนี้เป็นพื้นที่ขายจึงไม่มีแปลงบ้านที่ตรงกับทางสามแพร่งเลยค่ะ
บรรยากาศภายในซอยย่อย ได้บรรยากาศที่สงบ เรียบร้อย ไม่มีสายไฟเกะกะสายตา และแต่ละซอยก็มีเพื่อนบ้านไม่เยอะ เพียง 2-6 หลังเท่านั้นค่ะ
สำนักงานขายจะอยู่ด้านในโครงการออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ตเช่นกัน ใช้ผนังกระจกขนาดใหญ่ทำให้ดูโปร่งโล่ง มองออกมาจากในอาคารก็เห็นแนวต้นไม้ร่มรื่น
ภายในมี Materials ต่างๆ ไว้ให้ชมกัน ซึ่งเราจะพาไปชมรายละเอียดใน Part แบบบ้านกันต่อไปค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
- ประตูรั้วโครงการแบบประตูอัตโนมัติควบคุมด้วยรีโมท
- CCTV ส่วนกลาง 16 จุด
- รั้วทึบสูง 3 m. และต่อรั้วไฟฟ้าเพิ่ม 60 cm.
- ถนนหลักกว้าง 12 m. และถนนภายในกว้าง 9 m.
- ระบบไฟ 3 เฟส
- เดินท่อร้อยสายไฟลงดิน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
แบบบ้าน
การเลือกบ้านของโครงการ Raya Residence (รายา เรสซิเดนซ์) เราต้องเริ่มจากการเลือกแปลงที่ดินที่เราชอบก่อน จากนั้นก็เลือกแบบบ้าน Standard ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ 2 สไตล์ คือ
- The Nest บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 166.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 881 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำ / ลิฟต์
– สไตล์ Tropical เน้นความเรียบง่ายของธรรมชาติ
– ราคาเริ่มต้น 68 ล้านบาท - The Den บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 133.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 789 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำ / ลิฟต์
– สไตล์ Modern ดูทันสมัย โอ่อ่า
– ราคาเริ่มต้น 59 ล้านบาท
หลังจากที่เราได้แปลงที่ดินและรูปแบบบ้าน Standard ที่ชอบแล้ว เราจะได้ List รายการวัสดุมาตรฐานมา ซึ่งเราสามารถเลือกสี ลวดลาย หรือ Upgrade วัสดุและการตกแต่งต่างๆ รวมไปถึงการขอปรับแปลน / ฟังก์ชันห้อง ให้เข้ากับการใช้งานของแต่ละครอบครัวได้เลย เพราะเป็น “บ้านสั่งสร้าง” นะคะ
โครงสร้างและวัสดุต่างๆ ตามมาตรฐาน
- หลังคา Shingle Roof รูปทรงปั้นหยาสำหรับแบบ The Nest และทรง ทรง Lean To Metal Sheet + Insulation สำหรับ The Den
- โครงสร้างบ้านแบบก่ออิฐมวลเบา ทุบต่อเติมได้
- พื้นระบบ Post Tention ทำให้สามารถออกแบบเป็นพื้นท้องเรียบไร้คาน ที่มีระยะห่างระหว่างเสาที่มากกว่า เพิ่มพื้นที่ใช้สอยระหว่างเสาได้ดียิ่งขึ้น จึงสามารถออกแบบการใช้งานได้ตามความต้องการได้ง่าย
- ที่จอดรถและลานซักล้าง ลงเสาเข็มความลึกเท่าตัวบ้าน ปูพื้นด้วยกระเบื้อง
- ประตูทางเข้าหลักหน้าบ้าน เป็นประตูกระจก กรอบอลูมิเนียมจาก Tostem
- ประตูรั้วระบบอัตโนมัติ วัสดุอลูมิเนียม
- วัสดุปูพื้นชั้น 1 กระเบื้องนำเข้า ขนาด 60×60 cm.
- วัสดุปูพื้นชั้น 2-3 Engineering Wood 15 mm.
- Pantry ครัว Built-in อุปกรณ์ของ Franke, Electrolux หรือเทียบเท่า
- ห้องครัวไทยพร้อม Built-in
- วัสดุในห้องน้ำยี่ห้อ TOTO, Grohe หรือเทียบเท่า
- ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered หนา 10 mm.
- ระบบหม้อต้มกลางจ่ายน้ำร้อนทุกห้อง และระบบ return น้ำกลับหากอุณหภูมิลดลง เพื่อให้น้ำร้อนอยู่เสมอในระบบ
- โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้จริง
- ลิฟต์ยี่ห้อ Aritco สำหรับแบบ The Nest และ Otis สำหรับแบบ The Den
- กรอบอลูมิเนียมประตูบานหน้าต่างของ Tostem
- แอร์ Daikin ระบบ VRV ทั้งหลัง
- ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
- Home Automation ควบคุมผ่าน Smart Phone เช่น แอร์, ไฟ, CCTV, ประตู เป็นต้น
- สระว่ายน้ำแบบ The Nest ยาว 24.7 m. ลึก 1.2 m.พร้อมระบบ Jacuzzi ส่วนแบบ The Den สระว่ายน้ำยาว 11m ลึก 1.2m
- ไม้ยืนต้น 1-2 ต้น, พุ่มรอบรั้ว, สนามหญ้ารอบบ้าน
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
Materials
Mood&Tone ของวัสดุที่ทางโครงการเลือกใช้ จะออกไปทางโทนน้ำตาลเฉดต่างๆ, เทา, ขาว, ดำ เป็นสี Minimal ที่ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายนะคะ
ทีนี้เราจะพาไปดูบ้านตัวอย่างกันว่า…บ้านที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้อยู่รีสอร์ต จะมีบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลายขนาดไหน…ตามไปชมกันค่ะ
บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในวันนี้คือ แบบบ้าน The Nest ที่มีขนาดใหญ่มากพื้นที่ใช้สอย 881 ตร.ม. เลยทีเดียว แบ่งห้องนอนออกเป็น 4 ห้องทำให้ทุกห้องมีขนาดใหญ่พร้อมระเบียงส่วนตัว จอดรถได้ถึง 5 คัน ถือว่าเยอะทีเดียวเมื่อเทียบกับในโครงการบ้านที่ราคาพอๆ กัน
ในส่วนของบ้านมาตรฐานจะเป็นบ้านเปล่าไม่มีการตกแต่งมาให้ สิ่งที่ได้คือ พื้นที่จอดรถลงเสาเข็มและปูกระเบื้องไว้ให้ มีสระว่ายน้ำและลิฟต์ที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ภายในบ้านปูพื้นมาให้ทั้งหมด, ผนังฉาบเรียบทาสี, พร้อมเดินระบบแอร์-น้ำ-ไฟไว้ให้ครบถ้วน, ในส่วนของ Pantry ครัวจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าติดตั้งมาให้บางส่วนและห้องครัวไทยจะมี เคาน์เตอร์ครัว Built-in มาให้ หากเราอยากกั้นห้องปรับฟังก์ชันใหม่ หรือ ตกแต่งเพิ่มเติมในส่วนไหนสามารถคุยกับทางโครงการได้ แต่จะเป็นส่วนที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ
Facade หน้าบ้านใช้วัสดุหลักเป็นอลูมิเนียมลายไม้ ภาพรวมเป็นสีน้ำตาลเฉดต่างๆ Gimmick อยู่ตรงที่จะมีระแนงบังสายตาติดตั้งมาให้ ซึ่งเราสามารถเลือกเปิดปิดเฉพาะบานที่เราต้องการความเป็นส่วนตัวในโซนนั้นๆ ก็ได้ และเอกลักษณ์ของรีสอร์ตอีกอย่างก็คือ ระเบียงยาวล้อมทั้งชั้นเอาไว้ ซึ่งโครงการทำให้ทุกๆ ห้องมีระเบียงส่วนตัว สามารถเดินออกมาเปลี่ยนบรรยากาศแบบ Outdoor ได้ค่ะ
ชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 1 มีหลายจุดที่น่าสนใจเราจึงใส่ตัวเลขไว้ให้เข้าใจได้ง่ายนะคะ
หมายเลข 1 จอดรถได้ถึง 5 คัน ถือว่าเยอะทีเดียวเมื่อเทียบกับในโครงการบ้านที่ราคาพอๆ กัน ซึ่งแบ่งที่จอดออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายเหมาะสำหรับเจ้าของบ้านเป็นที่จอดแบบในร่ม 4 คัน มีหลังคาบังแดดบังฝน และโครงการจะลงเสาเข็มและปูกระเบื้องมาให้พร้อมใช้งานเลย ส่วนฝั่งขวาจะเป็นที่จอดรถที่อยู่ใกล้ Maid Plaza จึงเหมาะกับการใช้งานของแม่บ้านหรือการขนของกินของใช้ลงจากรถ ช่องจอดทางฝั่งขวาก็จะสะดวกเลยค่ะ
หมายเลข 2 ผนังบังสายตา ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยของลูกบ้าน ใครผ่านไปมาจะไม่สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำและพื้นที่พักผ่อนหลักของครอบครัวได้
หมายเลข 3 เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยในบ้านมีขนาดใหญ่และกว้างมากพอ จึงสามารถกั้นกำแพงตรงกลางเพื่อแบ่งพื้นที่รับแขกบริเวณ Foyer ด้านหน้า และโซน Service ทั้งครัวและ Maid Plaza ออกจากพื้นพักผ่อนหลัก ทางฝั่งหลังบ้านได้ โดยฝั่งหลังบ้านประกอบด้วย Living+Dining+Family Area
หมายเลข 4 พื้นพักผ่อนหลักของเจ้าของบ้านทั้ง Living+Dining+Family Area เปิดรับวิวสระว่ายน้ำได้แบบเต็มตา
หมายเลข 5 สระว่ายน้ำมีความยาว 24.7 m. เรียกว่าเกือบ Half Olympic เลยนะคะ ลึก 1.2 m. มาพร้อมระบบ Jacuzzi
หมายเลข 6 มีเฉลียงแนวยาวรอบพื้นที่พักผ่อนเป็นทางเดินริมสระ และมีเสาตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนอยู่รีสอร์ต
หมายเลข 7 Maid Plaza อยู่บริเวณหน้าบ้าน โซนนี้จะรวมไว้ทั้งห้องครัวไทย พื้นที่ซักล้าง แบบในร่มมีหลังคาคลุม และใกล้ที่จอดรถ จึงใช้งานสะดวกเป็นสัดส่วนดีเลย
ที่จอดรถฝั่งซ้ายรองรับการจอดได้ 4 คัน แบบมีหลังคาคลุมไว้เรียบร้อย เวลาลงจากรถก็สามารถเดินเชื่อมเข้าบ้านได้สะดวก แต่ละช่องจะมีความกว้างไม่เท่ากันเพื่อรองรับรถหลายๆ ขนาด ส่วนความลึกนั้นรองรับรถใหญ่อย่าง Alphard ได้สบายค่ะ
จากที่จอดรถมองตรงเข้าไปจะยังมองไม่เห็นสวนและสระข้างบ้านในทันทีนะคะ จะมีกำแพงขนาดใหญ่สูง 2 ชั้น บังสายตาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน
ระหว่างกำแพงจะมีช่องทางเดินขนาดพอดีๆ กับ 1 คนให้เดินผ่านเข้าไปสวนด้านในได้ หากจัด Pool Party ก็สามารถเดินเข้าสระว่ายน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านเข้าตัวบ้าน โดยที่ยังบังสายตาจากบ้านข้างเคียงไว้อยู่
สระและพื้นที่สวนรอบตัวบ้านให้บรรยากาศรีสอร์ตมากๆ ซึ่งพื้นที่ในสวนโครงการจะให้ไม้ยืนต้น 1-2 ต้น รวมถึงพุ่มรอบรั้ว และสนามหญ้ารอบบ้าน
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับ Foyer เป็นลำดับแรก เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเป็นมุมรับแขกย่อมๆ ได้ เหมาะกับการรับรองแขกที่ไม่ค่อยสนิทสักเท่าไหร่ หากไม่อยากไปรบกวนพื้นที่พักผ่อนหลักของครอบครัวก็สามารถปิดประตูกั้นระหว่างห้องได้
จาก Foyer จะเชื่อมไปยังโถงทางเดินเพื่อไปยัง Powder Room ได้ โดยที่ไม่ต้องผ่านห้องอื่นๆ ของตัวบ้านเพื่อแยกโซนรับแขกออกจากส่วนอื่นๆ
บรรยากาศของโถงทางเดินจะได้กลิ่นอายแบบ Minimal ใช้โทนสีขาว,ไม้ เป็นหลัก ประตูต่างๆ ใช้วัสดุไม้โอ๊ค พื้นบ้านชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องนำเข้าโทนสีขาวเทา
เข้ามาในส่วนของ Living Area จะเปิดโล่งด้วยผนังกระจกทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้รับวิวสระว่ายน้ำได้อย่างเต็มที่
Living Area
จาก Living Area จะสามารถมองออกไปเห็นสวนและสระรอบบ้านได้ เชื่อว่าน่าจะเป็นมุมโปรดของสมาชิกในบ้านทุกคนเลยค่ะ ยิ่งเวลาเงาตกกระทบน้ำและมีแสงลอดเข้ามาในบ้าน ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายมากๆ
Living Area เป็นพื้นที่แบบ Double Volume สูง 6 m. ผนังกระจกจึงเป็นบานสูงพิเศษไปด้วยเช่นกัน และสามารถเปิดประตูเชื่อมออกไปยังสระและสวน หรือเปิดรับลมได้แบบกว้างๆ เลยค่ะ
Frame กระจกจะเป็นอลูมิเนียมจาก Tostem กรอบบานดูหนาและมีขนาดใหญ่เพื่อรองรับกระจกบานใหญ่ มีน้ำหนักมากหน่อยแต่เปิดได้ลื่นดีค่ะ
จาก Living Area จะมองเห็นมุมนั่งเล่นออกแบบเก๋ๆ ที่ยืนออกมาจากผนัง เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นทั้ง 2 ชั้นเข้าหากันได้ และเป็นการเปิดวิวให้กับพื้นที่บนชั้น 2 ให้มองเห็นสระและสวนด้วย
ชุดโซฟาใน Living Area
ใน Living Area รองรับการวางชุดโซฟานั่งเล่นขนาดใหญ่แบบ 9-10 คนได้เลย แต่สำหรับบ้านตัวอย่างจะจัดให้ดูสบายๆ หน่อยประมาณ 5-6 ที่นั่ง แถมด้วยม้านั่งตกแต่งไว้สำหรับวางของ หรือนั่งเล่นชมสระได้
แน่นอนว่าองค์ประกอบหลักของพูลวิลล่าก็คือสระว่ายน้ำ ซึ่งโครงการนี้ออกแบบมาให้เป็นสระยาว 24.7 m. เกือบเท่า Half Olympic แล้วนะคะ จึงมีส่วนที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง มาพร้อมดีไซน์ของ Pavilion ริมสระที่ดูยังไงก็เหมือนว่าอยู่รีสอร์ต
สำหรับสมาชิกครอบครัวที่ไม่ได้ชอบออกกำลังกายจริงจังก็สามารถมานั่งแช่ Jacuzzi แทนได้ รองรับได้ประมาณ 5 คน นั่งแช่พร้อมกันได้สบายค่ะ
Gimmick อย่างหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศดูเป็นบ้านพักตาอากาศก็คือ ดีไซน์ของเสาตกแต่งล้อมรอบอาคาร ที่ไม่ค่อยได้เห็นในโครงการหมู่บ้านทั่วไป ดูสวยงามและแตกต่าง
แนวเสาดูสวยงามและเป็นวิวให้กับสมาชิกที่กำลังว่ายน้ำอยู่ได้ เพราะมองจากสระก็จะเห็นวิวประมาณนี้พอดี แต่ทางเดินริมสระนี้ไม่ได้ออกแบบให้กว้างนัก ดีไซน์เพื่อใช้เป็นแนวเสาตกแต่ง ซึ่งเราสามารถเดินเชื่อมจากพื้นที่ด้านในบ้านก็ต่อเนื่องถึงกันหมด และมีประตูกระจกเพื่อเปิดสู่สระว่ายน้ำได้ทุกห้อง
มุมนี้เราถ่ายช่วงบ่ายที่แสงกำลังสวยพอดี ส่วนตัวมองว่าบ้านนี้มีมุมสวยๆ เยอะ แต่ละห้องในแต่ละช่วงเวลาก็มีแสงเงาที่ต่างกันออกไป มีมุมให้ถ่ายรูปได้ทั้งวันเลยค่ะ
จาก Living Area จะมีประตูเปิดเชื่อมมายัง Dining Area ได้ หรือหากต้องการเปิดเป็นพื้นที่โล่งก็สามารถปรับแปลน เอาผนังกั้นห้องออกได้นะคะ
Dining Area
Dining Area มีพื้นที่ขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับวางโต๊ะอาหารขนาด 12 ที่นั่งได้ตามแบบในบ้านตัวอย่างและยังเหลือพื้นที่รอบข้างสำหรับ Built-in เคาน์เตอร์บาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มได้สะดวก จากห้องนี้ก็สามารถรับวิวสระว่ายน้ำได้ตลอดความยาวของห้องด้วยเช่นกัน
อย่างที่เกริ่นไปว่าระบบแอร์ของบ้านหลังนี้จะใช้เป็นแบบ VRV ทั้งหลัง เพื่อให้ดูเรียบร้อย ไม่รบกวนดีไซน์ของตัวบ้านและยังลดจำนวน Condensing Unit ลงด้วยจึงไม่รบกวนสวนรอบบ้านมากนัก ซึ่งบ้านในโครงการส่วนใหญ่จะให้แอร์ระบบ VRV เป็นบางห้อง ไม่ได้ให้ทั้งหลังแบบโครงการนี้นะคะ
แต่การใช้งานแอร์ระบบนี้แนะนำให้ดูแลรักษาตรวจเช็คเป็นประจำ เพราะหากเครื่องมีปัญหาจะทำให้ไม่สามารถทำความเย็นได้หลายจุดพร้อมกันค่ะ
จาก Dining Area จะมีประตูเชื่อมมายัง Family Area ซึ่งก็ยังได้วิวสระว่ายน้ำด้านข้าง
Family Area
สำหรับ Family Area ทางโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อนดูหนัง ฟังเพลง ทานอาหารแบบไม่เป็นทางการ เหมาะกับวันที่ไม่ได้มีแขกมาหา สมาชิกในครบครัวก็สามารถดูหนัง ทานข้าว อย่างใกล้ชิดกันที่ห้องนี้ได้ โดยจะมี Pantry ครัว Built-in มาให้ด้วยและจากตำแหน่งของห้องนี้ก็อยู่ติดกับ Maid Plaza เลยค่ะ จึงสามารถเรียกหาแม่บ้านหรือเข้าครัวได้สะดวก
Pantry ครัว
โครงการจะ Built-in Pantry ครัวและตู้เก็บของมาให้ตามแบบในบ้านตัวอย่าง มาพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Franke, Electrolux หรือเทียบเท่า
จาก Mood&Tone ของการตกแต่ง ทำให้เรามีมุมถ่ายภาพสวยๆ อยู่ตลอดเลยค่ะ
ชั้น 2
หมายเลข 8 โถงบันไดและลิฟต์ออกแบบมาให้มีตำแหน่งอยู่ตรงกลางบ้าน เอื้อให้สมาชิกในบ้านมีปฏิสัมพันธ์ ได้พบปะพูดคุยกัน และออกแบบให้พื้นที่โซนนี้โปร่งโล่งมากๆ ได้ช่องแสงเยอะและเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ด้วยค่ะ
หมายเลข 9 Multi-Purpose Area พื้นที่พักผ่อนบนชั้น 2 เป็นมุมนั่งเล่นเก๋ๆ ที่มองลงไปเห็นสวนและสระว่ายน้ำชั้นล่าง
หมายเลข 10 และ 11 ห้องนอนรอง 2 ห้องที่มีขนาดใหญ่พอๆ กัน ฟังก์ชันภายในครบครันทั้งห้องน้ำ, อ่างอาบน้ำ, Walk-in Closet และระเบียงในตัว
หมายเลข 12 ทุกห้องทุกฟังก์ชันจะสามารถเปิดออกไประเบียง เป็นการออกแบบเพื่อให้สมาชิกในบ้านสามารถออกไปเปลี่ยนบรรยากาศและใกล้ชิดธรรมชาติได้ง่าย
โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้จริง เน้นความโปร่งโล่งด้วยการใช้กระจกเยอะมาก ทั้งผนังกระจกและราวกันตกที่เป็นกระจกด้วยเช่นกัน ทำให้บริเวณนี้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างมาก ช่วงเวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็มองเห็นได้ถนัดนะคะ
บรรยากาศของโถงทางเดินดูขาวๆ คลีนๆ ละมุนมาก ส่วนหนึ่งเพราะประตูห้องต่างๆ ก็ใช้เป็นประตูไม้โอ๊คด้วย ส่วนพื้นชั้น 2 และ 3 จะปูด้วย Engineering Wood หนา 15 mm.
ลิฟต์บ้านที่ให้เป็นระบบสกรูจึงติดตั้งได้โดยไม่ต้องขุดบ่อลิฟต์ ไม่ต้องมีห้องเครื่อง ทำให้มีเสียงทำงานที่เบา ประหยัดพื้นที่มากจนสามารถติดตั้งบริเวณช่องว่างกลางบันไดได้ และประหยัดไฟด้วย
โดยลิฟต์ที่ติดตั้งมาให้ของยี่ห้อ Aligo จากสวีเดน รองรับน้ำหนักได้ 400 kg. ขึ้นได้ทีละประมาณ 5 คน และเป็นขนาดที่รองรับวีลแชร์ด้วยนะคะ
Multi-Purpose Area
Multi Purpose Area พื้นที่อเนกประสงค์ที่ออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองลงไปเห็นบริเวณ Living Area, สระและสวนที่ชั้นล่างได้ ห้องนี้สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายเลย เช่น เป็นพื้นที่เรียนพิเศษของลูกๆ หรือเป็นมุมทำงานอดิเรกก็ได้ค่ะ
จากมุมนั่งเล่นใน Multi Purpose Area จะได้วิวสระและสวนแบบนี้ จึงเป็นห้องที่ได้วิวดีอีกห้องหนึ่งค่ะ
ภายใน Multi-Purpose Area จะมีระเบียงให้ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศได้ด้วย ซึ่งหากเราวางต้นไม้ตามแนวระเบียงก็จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นบนชั้น 2 ได้
ห้องนอนรอง 1
ภายในห้องนอนรอง 1 ดูโปร่งโล่งเพราะเป็นห้องขนาดใหญ่วางเตียง 5-6 ฟุตได้ มีพื้นที่ Built-in ตู้เก็บของได้เยอะ สามารถอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เล็กจนโต และมีช่องแสงบานใหญ่ในหลายๆ ฝั่ง จัดฟังก์ชันมาครบทั้งโซนพักผ่อน, Walk-in Closet, อ่างอาบน้ำและระเบียงในตัว
มุมสวยๆ ที่ได้จากห้องนอนรอง 1 จะเป็นช่วงบ่ายที่มีแสงลอดเข้ามาในตัวบ้าน เหมาะกับ Mood&Tone ของตัวบ้าน
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 ให้พื้นที่ขนาดใหญ่และจัดฟังก์ชันครบครันเหมือนกับห้องนอนรอง 1 เลยค่ะ
เราเก็บภาพมุมเก๋ๆ ของห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องมาฝากกันเพื่อเป็นไอเดียในการตกแต่ง ซึ่งวัสดุที่ให้มาในบ้านเปล่าจะเอื้อให้ตกแต่งภายในออกมาในสไตล์ Tropical ได้ง่าย
ชั้น 3
หมายเลข 13 Master Bedroom ได้พื้นที่ขนาดใหญ่กว้างพอที่จะแบ่งโซน ดูหนัง, ทำงานในบริเวณหน้าห้องและจัดพื้นที่วางเตียงนอนไว้ด้านในได้
หมายเลข 14 Master Bathroom จะรวมไว้ทั้ง Walk-in Closet และโซนอาบน้ำ ซึ่งแยก Shower Box และ ห้องสุขภัณฑ์ไว้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย
หมายเลข 15 ห้องนอนรอง 3 มีขนาดใหญ่สุดในบรรดาห้องนอนรองทั้ง 3 ห้อง เหมาะจะเป็นห้องนอนของลูกคนโปรด ภายในมีฟังก์ชันครบทั้ง Walk-in Closet, อ่างอาบน้ำ, ระเบียงขนาดใหญ่
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเริ่มเป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในชั้นนี้จึงเป็นที่ตั้งของ Master Bedroom และห้องนอนรองที่มีขนาดใหญ่สุดในบรรดาห้องนอนรองทั้ง 3 ห้อง
โซนพักผ่อนดูทีวีใน Master Bedroom
ภายใน Master Bedroom จะมีพื้นที่ที่มากกว่าห้องนอนอื่นๆ โดยเฉพาะบริเวณหน้าห้องที่สามารถจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนดูทีวีได้ เผื่อเวลาที่ต้องการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว
เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างกว้างจึงสามารถจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบาย หรือจะแบ่งพื้นที่เป็นมุมทำงานของเจ้าของบ้านด้วยก็ยังไหวค่ะ
พื้นที่วางเตียงนอนอยู่ในโซนด้านใน
พื้นที่วางเตียงนอนจะถัดเข้ามาด้านใน เพื่อให้ได้ความสงบมากขึ้น ภายในห้องมีหน้าต่าง 2 ฝั่งเลย เป็นหน้าต่างบานใหญ่ตั้งแต่พื้นสูงเกือบจรดฝ้า พื้นที่ขนาดใหญ่สามารถวางเตียงใหญ่ King Size ได้สบายๆ
ห้องนอนทุกห้องของบ้านจะมีระเบียงส่วนตัวอยู่แล้ว ซึ่งเป็นระเบียงยาวล้อมอาคารเลย ข้อดีของการออกแบบลักษณะนี้ คือนอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับเดินเล่น เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว ยังมีชายคาช่วยบังแดด บังฝนรอบบ้านอีกด้วย
อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะมีประตูเปิดเข้าไปยัง Master Bathroom และ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน
Walk-in Closet ใน Master Bedroom
Walk-in Closet เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนัง มีพื้นที่เพียงพอสำหรับโต๊ะเครื่องแป้ง และทำตู้เก็บของ Island ไว้ตรงกลางได้ พื้นที่แต่งตัวจะอยู่ติดกับโซนอาบน้ำ จึงใช้งานต่อเชื่อมกันได้สะดวก แต่ก็แยกโซนเปียกแห้งไว้ชัดเจน สำหรับวัสดุที่เป็นไม้อาจจะต้องระวังเรื่องความชื้นสักหน่อย เบื้องต้นทางโครงการมีประตูเปิดเชื่อมออกไประเบียงก็ช่วยระบายความชื้นได้ระดับหนึ่งค่ะ
โซนอาบน้ำจะกั้นพื้นที่ส่วนเปียก-แห้ง ไว้อย่างเป็นสัดส่วน อ่างล้างมือได้แบบ His&Her ใช้งาน 2 คนพร้อมกันได้ Shower Box และห้องสุขภัณฑ์เป็นห้องแบบ See Through กั้นด้วยประตูกระจกบานเปิดปิดเป็นสัดส่วน วัสดุในห้องน้ำให้ยี่ห้อ TOTO, Grohe หรือเทียบเท่านะคะ
Highlight อย่างหนึ่งของ Master Bathroom ก็คืออ่างอาบน้ำของ Cristina ที่วางตำแหน่งไว้ให้มองเห็นวิวภายนอก
โครงการนี้จะใช้ระบบหม้อต้มกลางจ่ายน้ำร้อนทุกห้องของ Heismann และมีระบบ return น้ำกลับหากอุณหภูมิลดลง เพื่อให้น้ำร้อนอยู่เสมอในระบบ เวลาเปิดใช้งานก็ไม่ต้องรอ น้ำจะร้อนเร็วกว่าแบบทั่วไปค่ะ
มาที่ Bedroom 2 ห้องนี้จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดรองจาก Master Bedroom หรือจะเรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้ เปิดประตูเข้ามาจะมีพื้นที่ Foyer อยู่หน้าห้อง แยกโซนห้องน้ำและห้องนอน ให้อยู่กันคนละฝั่งซ้าย-ขวา
ห้องนอนรอง 3
ขนาดพื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียงใหญ่ 6 ฟุตได้ หรือจะวางเตียงเดี่ยว 2 เตียงก็สบายๆ พื้นที่ปลายเตียงจะมีพื้นที่เหลือให้ Built-in ชั้นวางทีวีหรือจัดเป็นมุมทำการบ้าน อ่านหนังสือ
Walk-in Closet มีขนาดใหญ่จึง Built-in ตู้ได้เต็มพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่ง ดูจากบ้านตัวอย่างแล้วก็สามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะมากอยู่นะคะ
สุดปลายทางเดินเป็นประตูเปิดออกไประเบียงได้ จึงมีแสงธรรมชาติผ่านเข้ามาในห้องนี้ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำมีการจัดผังภายในเป็นสัดส่วน แยกส่วนเปียก-แห้ง เรียบร้อยเช่นเดียวกับห้องอื่นๆ ส่วนที่เป็น Highlight ที่สุด เราขอยกให้กับอ่างอาบน้ำ ซึ่งจะได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่ด้านบน
บรรยากาศสวยๆ จากบ้าน The Nest
แบบบ้าน The Den
แปลนบ้าน The Den ชั้น 1
The Den เป็นแบบบ้านที่มีราคาหยิบจับง่ายกว่า The Nest เริ่มต้นที่ 59 ล้านบาท ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คนรองรับผู้สูงอายุแบบ 3 Generations ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน สระว่ายน้ำ ลิฟต์ สไตล์ในการตกแต่งจะออกมาในแนว Modern ดูทันสมัย สง่างาม
ปัจจุบันโครงการกำลังก่อสร้างบ้านตัวอย่างแบบ The Den อยู่นะคะ ใครที่ชอบสไตล์นี้อดใจรออีกไม่นานค่ะ
ราคา
Raya Residence Krungthep kritha-Ramkhamhaeng (รายา เรสซิเดนซ์ กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566
- The Nest บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 166.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 881 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำ / ลิฟต์
– ราคาเริ่มต้น 68 ล้านบาท - The Den บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 133.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 789 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำ
– ราคาเริ่มต้น 59 ล้านบาท - จอง 500,000 บาท
- ทำสัญญา 500,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 120,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : Raya Residence (รายา เรสซิเดนซ์) ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 118 แยก 33 ใกล้หมู่บ้านพฤกษชาติ จึงอิงไปทางถนนรามคำแหง เป็นทำเลที่ขยับออกมาจากโซนกรุงเทพกรีฑาเล็กน้อย แต่ในบ้านที่ราคาพอๆ กับโซนกรุงเทพกรีฑา โครงการนี้จะให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านมากกว่า ในระยะที่เชื่อมเข้าถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า(กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ได้ในระยะประมาณ 2.4 km. เท่านั้นค่ะ
โครงการนี้เหมาะกับคนที่เน้นใช้ถนนเส้นรามคำแหงและทางด่วนกาญจนาภิเษกเป็นหลัก และเชื่อมต่อถนนกรุงเทพกรีฑา, ถนนศรีนครินทร์ และมอเตอร์เวย์ ไปยังพระราม 9 ได้สะดวก ส่วนแหล่งความอุดมสมบูรณ์ในโซนนี้มีครบครันทั้งในซอยรามคำแหง 118 เอง รวมถึงโซนใกล้ๆ อย่างรามคำแหงและกรุงเทพกรีฑาด้วย แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นย่านที่รวมโรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่ง ถือว่าครบทุกมิติด้านการอยู่อาศัยค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ในแง่ความปลอดภัยทั้งบริเวณภายในโครงการและตัวบ้านเรียกว่าครบนะคะ อย่างตัวโครงการก็มีประตูรั้วโครงการแบบประตูอัตโนมัติควบคุมด้วยรีโมท, รปภ.คอยดูแล 24 ชั่วโมง, มี CCTV รอบโครงการ 16 จุด, รั้วโครงการสูง 3 m. และเพิ่มรั้วไฟฟ้าอีก 60 cm.
ภายในบ้านมีการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Magnetic Sensor บริเวณชั้นล่าง และ CCTV นอกบ้าน จำนวน 4 จุด
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
โครงการ – เป็นโครงการจัดสรรที่มีความเป็นส่วนตัวเพียง 15 ยูนิต และออกแบบวางผังโดยเน้นความเป็นส่วนตัว ทำให้ให้แต่ละซอยย่อยมีเพื่อนบ้านเพียง 2-6 ยูนิต เท่านั้น
ตัวบ้าน – ความแตกต่างของโครงการนี้คือ เป็น Pool Villa สั่งสร้าง…เราสามารถเลือกสีวัสดุและการตกแต่งต่างๆ รวมไปถึงการขอปรับแปลน / ฟังก์ชันห้อง ให้เข้ากับการใช้งานของแต่ละครอบครัวได้ โดยที่ไม่ต้องคุมช่างเอง เหมาะกับคนที่ชอบ Theme และ Style ในการตกแต่งของโครงการที่ให้บรรยากาศแบบรีสอร์ต
ตัวบ้านออกแบบให้พื้นเป็นระบบ Post Tention เพิ่มพื้นที่ใช้สอยระหว่างเสาได้ดียิ่งขึ้น แปลนจึงโล่งๆ มีเสาน้อย ทำให้สามารถออกแบบกั้นห้อง จัดฟังก์ชันการใช้งานได้ง่าย ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ขนาดสมาชิก 4-7 คน รองรับการอยู่อาศัยแบบ 3 Generations ได้เลย เพราะมีลิฟต์ให้ทุกหลังค่ะ
วัสดุ : วัสดุที่ให้ได้มาตามระดับราคา ซึ่งเลือกมาแล้วว่า Mood&Tone เข้ากับสไตล์รีสอร์ต ดูเรียบง่าย สวยงาม สิ่งที่เราชอบคือเรื่องของระบบต่างๆ ที่ติดตั้งในตัวบ้าน เช่น ลิฟต์บ้านระบบสกรูจาก Artico สวีเดน เป็นลิฟต์บ้านที่มีดีไซน์ Minimal เข้ากับ Theme บ้าน, แอร์ระบบ VRV ทั้งหลัง จึงไม่รบกวนดีไซน์ของตัวบ้าน, ระบบหม้อต้มกลางจ่ายน้ำร้อนทุกห้องของ Heismann น้ำจะร้อนเร็วกว่าแบบทั่วไป เป็นต้น
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศของโครงการดูร่มรื่นด้วยแนวต้นไม้บนถนนหลัก สัมผัสได้ถึงความสงบ เรียบร้อย ไม่มีสายไฟเกะกะสายตา
สาธารณูปโภค : โครงการไม่ได้มี Clubhouse ส่วนกลาง เพราะแต่ละบ้านจะมีสระว่ายน้ำในตัวแบบ “Pool Villa” และมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ เพียงพอที่จะทำห้อง Fitness หรือห้องอเนกประสงค์ต่างๆ ได้ครบในตัว แต่ยังมีการเก็บค่าส่วนกลาง 75 บาทต่อตร.วา/เดือน เพื่อบำรุงถนนส่วนกลาง จัดการขยะ ดูแลสวนและระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ แน่นอนว่าราคาต้องสูงกว่าโครงการบ้านทั่วไป เพราะแชร์กับเพื่อนบ้านเพียง 15 หลังเท่านั้น
Judgement
เนื่องจาก Raya Residence (รายา เรสซิเดนซ์) เป็นโครงการระดับ Super Luxury ที่มีราคาขายระดับ 60 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลค่อนข้างชัดเจน ดังนั้นทางทีมงานจะขออนุญาตไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการนะคะ
Raya Residence Krungthep kritha-Ramkhamhaeng (รายา เรสซิเดนซ์ กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง) เหมาะกับใคร
Raya Residence (รายา เรสซิเดนซ์) เป็นโครงการ Pool Villa ในโซนรามคำแหง กรุงเทพกรีฑา เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ สมาชิก 4-7 คนที่อยากได้บ้านในโครงการจัดสรรที่สามารถ Customize ปรับฟังก์ชัน การตกแต่งได้ตามความต้องการและตามงบประมาณ ชอบ Theme ของโครงการที่ออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ต ชอบโครงการที่มี Securities ครบถ้วน ความคุ้มค่าด้านพื้นที่ใช้สอย เน้นความเป็นส่วนตัว มีงบประมาณเริ่มต้นอยู่ในช่วง 59-68 ล้านบาท หรือผ่อนประมาณ 413,000-476,000 บาท/เดือน แต่ยังไม่รวมงานตกแต่งภายในนะคะ
ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชันคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ
ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น
Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่