Q District ชัยพฤกษ์ – ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮมบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ใกล้ถนนชัยพฤกษ์ ออกถนนหลักได้ 2 ฝั่ง จาก Q House [รีวิวฉบับที่ 2513]

Q District Chaiyapruek-Ratchapruek (คิว ดิสทริค ชัยพฤกษ์-ราชพฤกษ์) ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566

พิกัด Google Maps : 13.922158209332203, 100.43980239882389
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

Highlight 

• ที่ตั้งโครงการเชื่อมต่อถนนหลัก 2 เส้น คือ ถนนชัยพฤกษ์ ระยะทางประมาณ 800 เมตร และถนนราชพฤกษ์ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
• ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษก เดินทางไกลๆ ได้สะดวก
• ใกล้ 7-Eleven ระยะทางจากโครงการประมาณ 215 เมตร ตอนเย็นๆ สามารถเดินได้ นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร โรงพยาบาลสัตว์ ไปรษณีย์ อยู่ไม่ไกลค่ะ

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Q District Chaiyapruek-Ratchapruek (คิว ดิสทริค ชัยพฤกษ์-ราชพฤกษ์) ตั้งอยู่ในซอยเทศบาลบางพลับ 13/1 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนได้ 2 เส้นทาง คือ ถนนชัยพฤกษ์และถนนราชพฤกษ์ โครงการจะอยู่ใกล้กับถนนชัยพฤกษ์มากกว่าค่ะ ระยะห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 800 เมตรเท่านั้นเอง บรรยากาศภายในซอยก็ค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหาร ไปรษณีย์ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ส่วนแหล่งจับจ่ายใช้สอยซื้อของเข้าบ้านจะแบ่งเป็น 2 โซน ดังนี้

• โซนบางใหญ่-บางบัวทอง : Central WestGate, IKEA บางใหญ่, Big C บางใหญ่, Makro บางบัวทอง, ตลาดสดบางบัวทอง เป็นต้น
• โซนราชพฤกษ์ : HomePro ราชพฤกษ์, Chick Republic, Robinson Lifestyle Mall, ไทวัสดุ เป็นต้น

นอกจากห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทำเลนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากสถานศึกษา โรงเรียนเด่นหล้า (DHS), โรงเรียนสวนกุหลาบ นนทบุรี, โรงเรียนสารสาสน์ วิเทศราชพฤกษ์ และโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลบางบัวทอง, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์, โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 เป็นต้น ถือว่าครบครันด้านสาธารณูปโภคสำหรับการอยู่อาศัยค่ะ

สำหรับการเดินทางของโครงการจะเหมาะกับคนที่ใช้ถนนเส้นชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะเป็นหลัก ใครที่ทำงานในย่านแจ้งวัฒนะน่าจะเหมาะทีเดียวค่ะ เพราะวิ่งตรงไปข้ามแม่น้ำผ่านทางสะพานพระราม 4 ก็ถึงเลย แต่อาจจะต้องเผื่อเวลาการเดินทางสักนิดเพราะเส้นแจ้งวัฒนะค่อนข้างรถหนาแน่นทีเดียวค่ะ

ตัวเลือกรองอีกอย่างหนึ่งคือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าค่ะ โดยจะอยู่ห่างจากสถานีคลองบางไผ่ (สายสีม่วง) ประมาณ 7.6 กิโลเมตร นอกจากนั้นรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่เชื่อมต่อศูนย์ราชการนนทบุรี – หลักสี่ ก็ใกล้จะเปิดให้บริการแล้วนะคะ (คาดการณ์ว่าจะเปิดให้บริการในปี 2566 นี้ค่ะ)

การเดินทางจากถนนชัยพฤกษ์ไปยังโครงการจะเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดค่ะ โดยเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนโยธาธิการ นนทบุรี 2003 เข้ามาประมาณ 600 เมตรแล้วจะเจอซอยเทศบาลบางพลับ 13/1 ที่มี 7-Eleven อยู่หน้าซอย ให้เลี้ยวซ้าย ขับตรงไปจะเจอกับโครงการค่ะ

การเดินทางจากถนนราชพฤกษ์ไปยังโครงการก็สามารถทำได้ โดยจะมีระยะห่างจากถนนหลักประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนโยธาธิการ นนทบุรี สุขสว่างดี (ซอยบางพลับ 5) โดยจะมี 7-Eleven อยู่ด้านหน้าซอยเช่นกันค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บรรยากาศรอบๆ โครงการค่อนข้างเงียบสงบ เพราะว่าส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ดินเปล่าและพื้นที่การเกษตรอยู่ค่ะ จะมีบ้านพักอาศัยอยู่บ้างทำให้ด้านหน้าซอยค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกซื้อก่อนเข้าบ้านกันด้วยค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น, ที่ดินเปล่า
• ทิศใต้ ติดกับ ซอยเทศบาลบางพลับ 13/1, ที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า

ด้านหน้าซอยที่เชื่อมต่อกับถนนชัยพฤกษ์มีร้านอาหารให้แวะมาใช้บริการกันได้นะคะ เป็นอาหารตามสั่งราคาไม่แพง ภายในร้านอากาศเย็นสบาย ที่จอดรถเยอะมากๆ ค่ะ

เข้าซอยมาอีกหน่อยจะเจอกับอาคารพาณิชย์มีโรงพยาบาลสัตว์และไปรษณีย์อยู่ด้วยค่ะ

ด้านหน้าซอยเทศบาลบางพลับ 13/1 มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• 7-Eleven ~200 เมตร
• ร้านเกาเหลาอากง ~ 700 เมตร
• ตลาดนัด 18 คอร์ท ~ 3.8 กิโลเมตร
• โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ ~ 4.2 กิโลเมตร
• อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ชัยพฤกษ์ ~ 4.2 กิโลเมตร
• ตลาดสดบางบัวทอง ~ 5.5 กิโลเมตร
• เดอะคริสตัล ชัยพฤกษ์ ~ 6.8 กิโลเมตร
• เซ็นทรัล เวสต์เกต ~ 10.9 กิโลเมตร
• อิเกีย บางใหญ่ ~ 11.1 กิโลเมตร
• เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ~ 11.1 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลบางบัวทอง ~ 4.3 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 ~ 5 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ~ 7.7 กิโลเมตร

โรงเรียน

• โรงเรียนสารสาสน์ วิเทศราชพฤกษ์ ~ 8.2 กิโลเมตร
• โรงเรียนสวนกุหลาบ นนทบุรี ~ 10.8 กิโลเมตร
• โรงเรียนเด่นหล้า (DHS) ~ 15.4 กิโลเมตร

Highlight 

• โครงการขนาดใหญ่ จำนวนยูนิตประมาณ 400 ยูนิต
• เป็นโครงการ Mixed Product มีให้เลือกครบทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ราคาจับต้องได้ในระดับ Main Class
• พื้นที่ส่วนกลางครบ ทั้งพื้นที่สีเขียวกว่า 2 ไร่ อาคาร Clubhouse ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, Fitness, Guest Lobby และ Co-Working Space
• แนวคิดการออกแบบสไตล์ English Cottage ได้กลิ่นอายสวนแบบอังกฤษ

แบรนด์ “Q District” เป็นแบรนด์บ้านพักอาศัยแนวราบแบบ Mixed Product ของทาง Q House โดยเน้นไปที่บ้านแบบทาวน์โฮม และยังมีบ้านเดี่ยว บ้านแฝดพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้นให้เลือกด้วยค่ะ โดยระดับราคาจะอยู่ที่ Main Class ทาวน์โฮมราคาเริ่มต้น 2 -3 ล้านบาท บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดเริ่มต้น 4 – 7 ล้านบาทค่ะ

โครงการ Q District ชัยพฤกษ์ – ราชพฤกษ์ มีบ้านพักอาศัยประมาณ 400 ยูนิต บนที่ดิน 46-1-4.6 ไร่ ถือว่าเป็นโครงการค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ บรรยากาศภายในโครงการมีการจัดแต่งสวน อาคาร Clubhouse และซุ้มประตูทางเข้าโครงการสไตล์ English Cottage 

ปัจจุบันโครงการมีทางเข้า-ออก ทางเดียวด้านหน้านะคะ จะมีการเชื่อมถนนด้านหลังด้วยไหมจะต้องรอดูโครงการในเฟสท้ายๆ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บริเวณกลางโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านทุกยูนิตเข้าถึงได้สะดวก Clubhouse ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, Fitness, Guest Lobby, Co-Working Space, สนามเด็กเล่น และพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ถือว่าครบครันพอดีๆค่ะ

ภายในโครงการวางตำแหน่งบ้านในแนวทิศเหนือ – ใต้เป็นหลัก ใครที่ชอบนั่งเล่นหน้าบ้านตอนกลางวันแนะนำให้เลือกบ้านที่หันหน้าทางทิศเหนือค่ะ เพราะจะไม่มีแสงแดดร้อนส่องเข้าบ้านในเวลาบ่ายๆ ส่วนใครที่ชอบลมเข้าทางด้านหน้าบ้านและไม่ได้อยู่บ้านในตอนกลางวันให้เลือกบ้านที่หันหน้าทางทิศใต้ค่ะ จะทำให้ห้องด้านหลังบ้านไม่ร้อนในเวลาบ่ายนั่นเอง

บรรยากาศด้านหน้าโครงการ Q District ชัยพฤกษ์ – ราชพฤกษ์ ในซอยเทศบาลบางพลับ 13/1 มีป้ายชื่อโครงการมองเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ

ทางเข้าโครงการแบ่งเป็น 2 ช่อง สำหรับลูกบ้านเป็น Key Card Access หรือ Easy Pass ผ่านรั้วกั้นไม้กระดกเพื่อให้เข้าสู่โครงการได้สะดวกไม่ต้องรอกรณีมีคนแลกบัตรค่ะ ถ้าเป็นแขกจะต้องเข้าช่องทางขวาเพื่อแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนนะ

ส่วนทางออกของโครงการมีจุดเดียวอยู่อีกด้านหนึ่งของป้อม รปภ. ค่ะ นอกจากนั้นภายในโครงการยังมี CCTV HD Night Vision, Motion Sensor ตลอด 24 ชั่วโมง รวม 30 จุดสบายใจเรื่องความปลอดภัยได้ค่ะ

ถนนภายในโครงการด้านหน้ากว้างถึง 21 เมตร ทำให้ดูกว้างขวาง รถวิ่งสวนกันได้สบายๆ ด้านหน้าของบ้านทุกยูนิตมีปลูกไม้ยืนต้นมาให้ เพิ่มสีสันและความร่มรื่นให้กับตัวบ้านค่ะ เข้ามาสักระยะหนึ่งจะเจอกับวงเวียน เป็นจุดแยกไปยังซอยต่างๆ และทำให้รถสัญจรได้ง่าย

เข้ามาบริเวณกลางโครงการจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางมีสวนขนาดใหญ่ ซึ่งจะแตกต่างจากโครงการตัวก่อนๆ ของทาง Q House ที่ส่วนกลางจะอยู่ด้านหน้านะคะ เนื่องจากต้องการปรับให้ลูกบ้านทุกยูนิตรวมถึงที่อยู่ด้านใน เดินมาใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

สวนภายในโครงการมีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ตกแต่งด้วยไม้พุ่ม และต้นไม้ที่ให้กลิ่นอายสไตล์อังกฤษตามแนวคิด English Cottage มี Jogging Track สามารถวิ่งรอบสวนได้ เหมาะกับการพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นตอนเย็นเลยค่ะ

ภายในสวนมีสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ มาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นชิงช้า โต๊ะนั่งเล่น ม้าโยก ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มเห็นเด็กๆ เข้ามาใช้งานกันบ้างแล้วนะคะ นอกจากของเด็กแล้ว ทางโครงการยังมีเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งไว้ให้สำหรับผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุมาเล่นอีกด้วยค่ะ

Clubhouse ของโครงการออกแบบมาได้น่ารักทีเดียวค่ะ เป็นอาคารชั้นเดียวสไตล์ English Cottage พร้อมกับมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าดูสวยงาม ภายในประกอบด้วยพื้นที่ Fitness, Guest Lobby, Co-Working Space, ห้องน้ำ และห้องนิติบุคคล

ทางเข้าจะอยู่ด้านข้างติดกับที่จอดรถสำหรับคนมาใช้งานนะคะ บรรยากาศเหมือนเราเดินอยู่ในสวนสไตล์อังกฤษเลย

เข้ามาในอาคารส่วนแรกจะเจอกับห้อง Guest Lobby และ Co-Working Space ไว้สำหรับรับแขก พูดคุยธุระโดยไม่ต้องให้แขกที่ไม่สนิทเข้าไปที่บ้าน หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศออกมานั่งทำงานที่ Clubhouse พร้อมดูวิวสวนไปด้วยก็ดีเหมือนกันค่ะ ซึ่งโครงการก็จัดพื้นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ไว้ให้แล้ว

มาดูสระว่ายน้ำกันบ้างค่ะ แม้ว่าจะอยู่ด้านนอกแบบ Outdoor มองเห็นวิวสวนได้เต็มที่แบบนี้ แต่รอบๆ สระว่ายน้ำจะปลูกไม้พุ่มช่วยบังสายตาบวกกับยกระดับสระว่ายน้ำขึ้นมาจากสวน ทำให้คนข้างนอกมองเห็นได้ไม่ชัด ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ไม่เคอะเขินค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือขนาดประมาณ 6.00 x 20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง พร้อมทั้งมีสระเด็กแยกมาให้ มีขนาดประมาณ 3.00 x 9.00 เมตร ลึก 0.60 เมตร มองเห็นวิวสวนได้กว้างบรรยากาศน่าใช้งานค่ะ

ห้อง Fitness มีเครื่องออกกำลังกายมาให้หลากหลายประมาณ 6 เครื่อง ทั้ง Weight training และ Cardio ภายในเป็นห้องที่มีช่องแสงค่อนข้างใหญ่ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนขณะออกกำลังกายค่ะ

ภายในห้องน้ำอาคาร Clubhouse มีห้องอาบน้ำมาให้สำหรับคนที่มาออกกำลังกายหรือมาว่ายน้ำก็สามารถอาบน้ำแต่งตัวก่อนกลับบ้านได้เลย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse สไตล์ English Cottage บริเวณกลางโครงการ
• Co-Working Space / Guest Lobby
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาดประมาณ 6.00 x 20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็ก ขนาด 3.00 x 9.00 เมตร ลึก 0.60 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ รวมประมาณ 2 ไร่
• สนามเด็กเล่น
• CCTV ระบบ HD & Night Vision , Motion Sensor ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งโครงการ 30 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง n/a เมตร
• ถนนหลักกว้าง 21.00 เมตร และถนนภายในกว้าง n/a เมตร
•  ผ่านเข้าออกด้วยระบบ EASY PASS
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor และกล้อง CCTV 1 ตัวทุกยูนิต

แบบบ้านในโครงการ Q District Chaiyapruek-Ratchapruek (คิว ดิสทริค ชัยพฤกษ์-ราชพฤกษ์) มีทั้งหมด 5 แบบด้วยกันค่ะ เป็นโครงการที่มี Product ของบ้านทุกประเภทให้เลือกเลย ไม่ว่าจะเป็น

• ทาวน์โฮม สำหรับครอบครัวเริ่มต้น เป็นคู่แต่งงานหรือมีลูก 1 – 2 คน งบประมาณ 2.39 – 2.99 ล้านบาท
• บ้านแฝด สำหรับครอบครัวที่ขยับขยายมากขึ้น มีสมาชิกภายในบ้าน 3 – 4 คน อาจจะเลี้ยงน้องหมา น้องแมว ต้องการมีพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน งบประมาณ 4.69 – 4.89 ล้านบาท
• บ้านเดี่ยว สำหรับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น มีพื้นที่ดินรอบบ้านเยอะขึ้น งบประมาณ 6.19 ล้าบาท

แบบบ้าน

• Maple ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 18 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 112 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
• Hemlock ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 20.66 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
• Cedar+ บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน 35 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท
• Iris บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน 35 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 4.89 ล้านบาท
• Magnolia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท

โครงสร้างของบ้านเป็นระบบ Pre-Cast ซึ่งมีข้อดีคือ ไม่จำเป็นต้องมีเสาทำให้สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ภายในได้อย่างเต็มที่ และก่อสร้างได้รวดเร็วค่ะ บ้านตัวอย่างปัจจุบันมีทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งเราเก็บภาพบรรยากาศภายในบ้านมาให้ชมกันทุกแบบเลย

ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ English Cottage มีการซอยเส้นสายของกรอบบานหน้าต่างให้ได้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้านย่านชานเมืองของยุโรป มีการพัฒนาผังบ้านพักอาศัยจากโครงการ Q District ตัวก่อนให้ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น ในแบบบ้านแฝด Cedar + ที่เราจะพาไปชมกันค่ะ

Cedar+ บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน 35 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็นแบบบ้านแฝดที่เน้นความโปร่งกว้างของพื้นที่ชั้น 1 ให้ความรู้สึกโล่ง สบายเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว มีห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนภายในตัวบ้าน ใช้งานได้จริง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้าน 3 – 4 คน พร้อมสัตว์เลี้ยงก็อยู่ได้สบายๆ ค่ะ

Highlight ชั้น 1

• ที่จอดรถ 2 คัน
• ฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.80 เมตร ถือว่าค่อนข้างโปร่งสบาย
• Common Area กว้าง มีพื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาขนาดใหญ่ 3 – 4 ที่นั่ง โต๊ะกลาง และ TV ขนาด 60 นิ้วขึ้นไปได้เลย
• พื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น มองเห็นสวนได้ 2 ฝั่ง พร้อมประตูทางออกเชื่อมต่อกับสวนด้านข้างได้
• ห้องครัวปิด แยกชัดเจนทำเป็นครัวไทยสำหรับทำอาหารจริงจังได้โดยไม่ต้องต่อเติม
• ห้องน้ำอยู่ด้านหลังบ้าน ซ่อนประตูจากพื้นที่รับแขก เป็นห้องคล้าย Powder Room แต่มีฝักบัวอาบน้ำสำรองไว้ให้ สามารถอาบน้ำได้พร้อมกันถึง 3 ห้อง

Highlight ชั้น 2

• ฝ้าเพดานสูงประมาณ 3.00 เมตร ดูโปร่งกว้าง
• โครงสร้างกำแพง 2 ชั้น มี gap อากาศตรงกลาง ทั้งบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 ช่วยลดเสียงรบกวนจากข้างบ้าน
• Master Bedroom มีห้องน้ำส่วนตัว ใช้งานได้สะดวก
• ห้องน้ำ Master Bedroom อัปเกรดสุขภัณฑ์เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ
• Master Bedroom มีกระจกเข้ามุม และหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้เยอะ ห้องดูกว้างมากขึ้น
• ห้องนอนรอง 2 ห้อง วางเตียง 3.5 – 5 ฟุตได้
• ห้องน้ำทุกห้องของบ้าน Type นี้มีหน้าต่างระบายอากาศไปยังภายนอก และรับแสงธรรมชาติได้

รั้วบ้านเป็นแบบบานเลื่อนเปิด-ปิด ประตูรั้วค่อนข้างเบาเลื่อนง่ายค่ะ ด้านข้างจะมีช่องใส่ถังขยะ เปิดออกด้านนอกช่วยให้รถเก็บขยะเก็บได้สะดวก มีไฟด้านหน้าบ้านพร้อมกริ่งติดตั้งมาให้เรียบร้อย

สำหรับที่จอดรถ จอดได้ 2 คัน เป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กปาดเรียบ (Slab on Ground) มีการเว้น gap ของตัวบ้านและที่จอดรถมาให้ ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยร้าวจากการทรุดตัวค่ะ

ตัวบ้านมีการออกแบบมาในสไตล์ English Cottage จะเห็นได้จากการเพิ่มเส้นกรอบบานประตู หน้าต่าง ให้มีความถี่มากกว่าบานปกติ ซึ่งเรามักจะเห็นในบ้านในแถบยุโรป รวมถึงมีขอบเส้นบริเวณผนังทำให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้นด้วย

บ้านทุกแบบของโครงการนี้มีจุดเด่นคือช่องแสงขนาดใหญ่ จะเห็นได้จากทั้งชั้น 1 และชั้น 2 มีช่องประตูหน้าต่างค่อนข้างกว้าง ด้านบนมีกระจกเข้ามุมทำให้แสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้เยอะขึ้น

ที่จอดรถก่อนเข้าสู่ตัวบ้านจะมี Step ยกขึ้นมา 1 ขั้น สำหรับถอดรองเท้า ทำให้เดินแล้วไม่เลอะฝุ่นจากที่จอดรถนะคะ

ประตูหน้าบ้านเป็นบานเลื่อนกระจก 2 ตอน กระจกเขียวตัดแสง กรอบบาน UPVC สีขาวดูสวยเข้ากับสีของตัวบ้าน ส่วนด้านข้างยังมีช่องกระจกบาน Fixed มาให้อีก 1 ช่องขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้รับแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้เยอะ

สำหรับบ้านแฝดทุกยูนิตจะมีพื้นที่สนามหญ้าด้านข้างสามารถจัดสวน ปลูกต้นไม้เพิ่มบรรยากาศร่มรื่นให้กับบ้านได้ ส่วนด้านหลังจะเป็นพื้นที่ลานซักล้างสำหรับตากผ้า ในบ้านแฝดจะเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก (Slab on Ground) แยกโครงสร้างกับบ้านมาให้นะคะ พร้อมปั๊มน้ำ+ถังเก็บน้ำทุกยูนิต

เข้ามาภายในบ้านแล้วคนที่ชอบพื้นที่โล่งๆ คงถูกใจใช่ไหมคะ เพราะมี Common Space ที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว แบ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารได้สบายๆ

โดยบ้านมาตรฐานจะได้เป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร โคมไฟ Down light ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.80 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงทำให้บ้านดูโปร่งกว้างทีเดียวค่ะ

ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาตัว L 3 – 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ เลยค่ะ โดยบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติที่เข้ามาจากด้านหน้าและด้านข้างของบ้าน ทำให้สว่าง เหมาะกับการนั่งเล่นพักผ่อน อ่านหนังสือหรือทำงานได้

ห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 3.75 x 5.80 เมตร ถือว่ากว้างทีเดียวค่ะ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 5.50 เมตร วาง TV ขนาด 70 – 80 นิ้วได้เลย แต่ถ้าอยากให้พอดีๆ แนะนำให้ขยับโซฟาขึ้นมาใกล้หน่อย ทำด้านหลังเป็นพื้นที่นั่งทำงาน แล้วติดตั้ง TV 55 นิ้วกำลังดีเลยค่ะ

พื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ด้านหลังของบ้าน ใกล้ๆ กับห้องครัวและห้องน้ำค่ะ พื้นที่รับประทานอาหารมีขนาดประมาณ 3.05 x 3.70 เมตร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 – 6 ที่นั่งได้สบายๆ

โดยบริเวณนี้จะเห็นวิวสวนทั้ง 2 ฝั่ง นั่งกินข้าวไปด้วยมองต้นไม้ในสวนด้านข้างบ้านไปด้วยก็ได้ หรือใครจะทำระเบียงด้านนอกยื่นออกไปเผื่อทำหมูกระทะก็ได้นะคะ เพราะทางโครงการมีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับสวนไว้ให้ค่ะ

ทางโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยมาให้ในบ้านทุกยูนิต โดยจะได้กล้อง CCTV 1 ตัว บริเวณห้องรับประทานอาหารด้านหลังบ้าน ที่จะส่องให้เห็นพื้นที่ชั้น 1 เยอะที่สุดค่ะ

เนื่องจากแบบบ้าน Cedar+ เป็นแบบที่ปรับปรุงมาใหม่ ทำให้เรายังไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะคะ ในครัวจะมีลักษณะเป็นตัว L เปิดเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่วางตู้เย็น และถัดไปเป็นส่วนเคาน์เตอร์ครัว เราว่าดูสวยและมีมิติมากขึ้นค่ะ

ด้านหน้าตรงประตูครัวก็สามารถทำชั้นวางของเพิ่มเติมได้ สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำอาหาร ขนม หรือวัตถุดิบต่างๆ ให้หยิบใช้ได้ง่าย

ห้องครัวกว้างประมาณ 1.65 เมตร ยาวประมาณ 3.45 เมตร เป็นห้องครัวเปล่าไม่ได้มีเคาน์เตอร์มาให้นะคะ สามารถ Built-in เคาน์เตอร์ตัว I ได้ ด้านหลังมีหน้าต่างเปิดระบายอากาศ และประตูเชื่อมต่อไปยังลานซักล้างค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างดูคล้ายกับห้อง Powder Room สำหรับรองรับแขกที่มาเยี่ยมบ้าน แต่จะมีฝักบัวติดตั้งเพิ่มเติมมาให้เผื่อใช้อาบน้ำได้ค่ะ โดยจะมีช่องแสงระบายอากาศด้านหลังบ้านมาให้ ซึ่งทางโครงการเขามี Concept ว่า ‘ห้องน้ำหายใจได้’ คือเปิดระบายอากาศได้จริง ไม่ต้องพึ่งพัดลมดูดอากาศนั่นเอง

สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก American Standard หรือเทียบเท่า

ส่วนบันไดเป็นโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปกว้างประมาณ 0.90 เมตร ลูกนอนกว้าง 28 เซนติเมตร ลูกตั้งสูง 19 เซนติเมตร เดินได้สบายๆเต็มเท้า ปูลูกนอนด้วยไม้สำเร็จรูปเข้ากันกับพื้นชั้น 2 ช่องบันไดมีช่องแสงจากด้านหน้าบ้านและติดตั้งไฟมาให้ทำให้โถงบันไดไม่มืดเลยค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เราจะเห็นโถงด้านหน้าห้องนอนที่แบ่งออกเป็น 4 ประตูค่ะ ด้านซ้ายมือเป็นห้องนอนรอง 2 ห้อง ตรงกลางเป็นห้องน้ำ (สำหรับห้องนอนรอง) และ Master Bedroom อยู่ทางด้านขวามือ

พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มิลลิเมตร ดูมีความอบอุ่นมากขึ้น ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 3.00 เมตร ถือว่าค่อนข้างสูงเลยค่ะ บ้านเดี่ยวทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2.70 – 2.80 เมตร ทำให้บ้านชั้น 2 ของโครงการนี้ดูโปร่งสบายในทุกยูนิต

ห้อง Master Bedroom มีขนาดใหญ่ใช้พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของชั้น 2 เลยค่ะ ตำแหน่งจะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน ภายในมีห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานได้สะดวก มีช่องแสงหลายจุดบวกกับฝ้าเพดานสูง 3.00 เมตร ทำให้ภายในห้องดูโปร่งกว้างมากขึ้นอีกค่ะ

Master Bedroom มีพื้นที่ประมาณ 4.35 x 5.20 เมตร สามารถวางเตียงใหญ่ขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ มีพื้นที่เดินได้รอบ พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้าด้านข้างได้

บรรยากาศภายในห้อง Master Bedroom จะเห็นว่าวางเฟอร์นิเจอร์ได้ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ

จุดเด่นภายใน Master Bedroom คือช่องแสงเข้ามุมด้านข้าง ทำให้มองเห็นวิวด้านหน้าบ้านได้กว้างมากขึ้น ด้านนอกจะเป็นพื้นที่ระเบียงสำหรับวาง Condensing Unit ที่ทางโครงการออกแบบมาให้ไม่มีทางเดินออกไประเบียง เนื่องจากเวลาช่างมา Service แนะนำให้พาดบันไดขึ้นมาจากชั้น 1 จะได้ไม่ต้องเข้ามาภายในห้องนอนค่ะ

ห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom มีการแบ่งส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน ได้ช่องแสงสามารถเปิดระบายอากาศได้ และมีการอัปเกรดขึ้นมาจากห้องอื่นๆ คือ ติดตั้งฉากกั้นกระจกมาให้แบบในบ้านตัวอย่าง พร้อมสุขภัณฑ์สีขาวระบบกึ่งอัตโนมัติค่ะ

อ่างล้างหน้าติดตั้งแบบลอยตัวดีไซน์สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ขึ้น มาให้พร้อมกระจกเงารูปวงรีขนาดใหญ่ขึ้น ได้สุขภัณฑ์สายชำระและที่แขวนกระดาษชำระทั้งหมดจาก American Standard

พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อยทำให้เวลาล้างห้องน้ำแล้วน้ำไม่ไหลออกมาด้านนอกค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะได้ฉากกั้นกระจกมาให้ไม่ต้องติดตั้งเอง พื้นที่อาบน้ำยืนอาบได้สบายๆ ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนพร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

มาดูห้องนอนรองกันค่ะ ห้องแรกจะมีขนาดใหญ่กว่าอยู่ทางด้านห้องน้ำ ได้ช่องแสง 2 ฝั่ง มีพื้นที่ประมาณ 2.95 x 3.85 เมตร  เหมาะกับวางเตียงขนาดประมาณ 3.5 – 5 ฟุต และ  Built-in ตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้ ถ้าใครที่ชอบห้องโล่งหน่อยก็แนะนำให้วางเตียงชิดกับผนังจะทำให้มีพื้นที่เหลือมากขึ้นค่ะ

ห้องนอนรอง 2 ห้องนี้จะอยู่ติดกับบันได ได้ช่องแสงช่องเดียวด้านหลังบ้านแต่ก็เพียงพอสำหรับห้องนอนค่ะ มีพื้นที่ประมาณ 2.95 x 2.95 เมตร เหมาะกับเตียงเดี่ยวขนาด 3.5 ฟุต ใครที่ไม่ต้องการห้องนอนเยอะ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องแต่งตัวเก็บเสื้อผ้า หรือห้องออกกำลังกาย ห้องทำงานเพิ่มเติมได้ค่ะ

ห้องน้ำสำหรับห้องนอนรองใช้ร่วมกันมีการแบ่งส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน มีช่องแสงสามารถเปิดระบายอากาศได้ อ่างล้างหน้าติดตั้งแบบลอยตัวมาให้พร้อมกระจกเงารูปวงกลมดูสวยงาม ได้สุขภัณฑ์สีขาวพร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระทั้งหมดจาก American Standard ค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะไม่ได้ฉากกั้นกระจกนะคะแนะนำให้ติดตั้งเพิ่มเติมเวลาอาบน้ำจะได้ไม่เปียกไปทั้งห้องค่ะ โครงการติดตั้งฝักบัวสายอ่อน และเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

สวิตช์ไฟจาก Schneider

เรามาดูทาวน์โฮมกันบ้างค่ะ เป็นแบบบ้าน Hemlock ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 20.66 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ทาวน์โฮมที่เน้นพื้นที่ใช้สอยชั้นล่างกว้าง ดูโปร่งสบายไม่อึดอัด มีพื้นที่ทำงาน Work From Home เป็นสัดส่วน มี 3 ห้องนอน Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 3 – 4 คน เป็นต้น

Highlight ชั้น 1

• จอดรถได้ 2 คัน
• ฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.80 เมตร ค่อนข้างโปร่งสบาย
• Common Area กว้าง พื้นที่โล่งเชื่อมต่อกันตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงด้านหลัง แสงเข้าในบ้านได้ค่อนข้างเยอะ
• พื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาตัว L 3 – 4 ที่นั่งได้สบายๆ มีระยะดู TV กว้าง วาง TV ขนาดใหญ่ 55 นิ้วได้
• มีพื้นที่อเนกประสงค์ ทำเป็นมุมทำงานอดิเรก หรือมุม Work From Home ได้
• ห้องน้ำอยู่ด้านหลังบ้าน ซ่อนประตูจากพื้นที่รับแขก เป็นห้องคล้าย Powder Room แต่มีฝักบัวอาบน้ำสำรองไว้ให้ สามารถอาบน้ำได้พร้อมกันถึง 3 ห้อง และมีหน้าต่างระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้
• โครงสร้างลานซักล้างด้านหลังบ้านลงเสาเข็มมาให้พร้อมต่อเติม

Highlight ชั้น 2

• ฝ้าเพดานสูงประมาณ 3.00 เมตร ดูโปร่งกว้าง
• Master Bedroom มีช่องแสง 2 ฝั่ง ทุกยูนิต ซึ่งไม่ค่อยเห็นในทาวน์โฮมเท่าไหร่นัก
• Master Bedroom มีห้องน้ำส่วนตัว ใช้งานได้สะดวก เปิดหน้าต่างระบายอากาศได้
• ห้องนอนรอง 2 ห้องขนาดใกล้เคียงกัน
• ห้องน้ำกลางสำหรับห้องนอนรองมี Skylight ให้แสงสว่างเพิ่มเติมจากหลอดไฟปกติ

แบบบ้านหลังนี้เราเห็นกันบ้างแล้วในโครงการ Q District ทำเลก่อนหน้านี้นะคะ ซึ่งเขามีจุดเด่นที่พื้นที่ภายในดูโปร่งกว้าง แบ่งฟังก์ชันการใช้งานถึง 3 ห้องนอน

ที่จอดรถเป็นโครงสร้างคอนกรีตบนดิน (Slab on Ground) หน้ากว้างประมาณ 5.70 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันค่ะ จากที่จอดรถก่อนเข้าสู่ตัวบ้านจะมี Step ยกขึ้นมา 1 ขั้น สำหรับถอดรองเท้า ทำความสะอาดง่ายไม่เลอะฝุ่นจากที่จอดรถค่ะ

ประตูหน้าบ้านเป็นบานเลื่อนกระจก 2 ตอน กระจกเขียวตัดแสง กรอบบาน UPVC สีขาว มีช่องกระจกบาน Fixed ด้านข้างและด้านบนมาให้เพื่อให้ดูโปร่งมากขึ้น

ภายในจะเน้นความโปร่งโล่ง เนื่องจากโครงการออกแบบให้ไม่มีห้องนอนชั้นล่าง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยบริเวณห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหาร

พื้นที่ Common Space สามารถแบ่งเป็นห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกัน ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร โคมไฟ Down light ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.80 เมตร ซึ่งถือว่าสูงทีเดียวค่ะ

ห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 3.85 x 3.90 เมตร สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่ง และโต๊ะกลางได้สบายๆ มีระยะดู TV อยู่ที่ 3.50 เมตร ใครที่เป็นคอซีรีส์ ก็สามารถวาง TV ขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้เลย

จุดที่น่าสนใจของบ้านหลังนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือพื้นที่อเนกประสงค์ที่เป็นมุมเล็กๆ 1.50 x 2.20 เมตรใต้บันได ให้เราออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้ตามใจชอบเลยค่ะ อย่างในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นพื้นที่ Live ขายเสื้อผ้าแฟชั่นได้

นอกจากนั้นยังมีพื้นที่เก็บของใต้บันได (ประตูสีขาว) เอาไว้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน หรือของชิ้นใหญ่ๆอย่างกระเป๋าเดินทาง เครื่องดูดฝุ่น หรือไม้กวาดไม้ถูบ้านได้ค่ะ

ด้านหลังบ้านเหมาะกับการทำเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร มีพื้นที่ประมาณ 3.00 x 3.50 เมตร วางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 – 6 ที่นั่งได้ มีประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมต่อไปยังลานซักล้างด้านหลังที่ทางโครงการลงเสาเข็มมาให้เรียบร้อยค่ะ

หรือใครที่ทำอาหารรับประทานเองไม่บ่อยนัก ก็ทำเป็น Pantry ภายในบ้าน แล้วใช้พื้นที่ด้านหลังตกแต่งเป็นสวน หรือมุมนั่งเล่น Outdoor ได้ค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างจะคล้ายกับในบ้านแฝดค่ะ เป็นห้อง Powder Room ที่มีฝักบัวติดตั้งสำรองมาให้เผื่อใช้อาบน้ำได้ โดยจะมีช่องแสงทางด้านหลังบ้านมาให้เป็น ‘ห้องน้ำหายใจได้’ ซึ่งไม่ค่อยเห็นในทาวน์โฮมเท่าไรนักค่ะ

บันไดเป็นโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปกว้างประมาณ 1.00 เมตร ลูกนอนกว้าง 26 เซนติเมตร ลูกตั้งสูง 19 เซนติเมตร เดินได้สบาย ปูลูกนอนด้วยไม้สำเร็จรูป และมีช่องแสงด้านหน้าบ้านช่วยให้โถงบันไดสว่างเช่นกันค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มิลลิเมตร ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมาะกับการนอนมากขึ้น ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ประมาณ 3.00 เมตร ซึ่งค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ

ฟังก์ชันของบ้านแบ่งเป็นห้องนอนรอง 2 ห้องด้านหลังบ้าน ตรงกลางเป็นห้องน้ำของห้องนอนรอง และมี Master Bedroom อยู่ด้านหน้าบ้านมีห้องน้ำในตัว

ห้อง Master Bedroom จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ ได้ความโปร่งของฝ้าเพดานที่สูงถึง 3.00 เมตร และยังมีช่องแสงใหญ่ที่ด้านหน้าบ้านด้วย เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่กว้าง จัดพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลาย

Master Bedroom มีพื้นที่ประมาณ 4.20 x 5.00 เมตร สามารถวางเตียงใหญ่ขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ มีพื้นที่เดินได้รอบ พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้าด้านข้างได้ค่ะ

ด้านข้างเตียงจะมีพื้นที่ยื่นเข้ามาในห้องนอนจากส่วนของโถงบันไดค่ะ ตรงนี้เราสามารถ Built-in ปิดเป็นตู้เสื้อผ้า หรือทำเป็นมุมนั่งเล่นแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้นะคะ

จุดเด่นของห้องนอน Master Bedroom อีกอย่างหนึ่งก็คือมีช่องแสงถึง 2 ฝั่งค่ะ ปกติในทาวน์โฮมแปลงกลางมักจะมีช่องแสงแค่ด้านหน้าและด้านหลังเท่านั้น ทำให้ห้องนอนมีหน้าต่างฝั่งเดียว แต่โครงการนี้เขาออกแบบให้มีหน้าต่างถึง 2 ฝั่ง ทำเป็นระเบียงวาง Condensing Unit และได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องอีกด้วย

ห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom มีการแบ่งส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน ได้ช่องแสงสามารถเปิดระบายอากาศได้ และมีการอัปเกรดขึ้นมาจากห้องอื่นๆ คือ ติดตั้งฉากกั้นกระจกมาให้แบบในบ้านตัวอย่างค่ะ

อ่างล้างหน้าติดตั้งแบบลอยตัวมาให้พร้อมกระจกเงารูปสี่เหลี่ยม พร้อมสุขภัณฑ์สีขาว สายชำระและที่แขวนกระดาษชำระ จาก American Standard

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้ ช่วยให้เวลาอาบน้ำจะไม่เปียกพื้นที่ส่วนแห้ง พื้นที่อาบน้ำยืนอาบได้สบาย มีการติดตั้งฝักบัวสายอ่อนพร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยเช่นกันค่ะ

ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะมีขนาดใกล้เคียงกันค่ะ ห้องแรกมีพื้นที่ประมาณ 2.7 x 3.15 เมตร เหมาะกับวางเตียง 3.5 ฟุต หรือถ้าใครมีลูกคนเดียว จะปรับเป็นห้องทำงานส่วนตัว ห้องออกกำลังกาย หรือห้องเก็บเสื้อผ้าก็ดีเหมือนกันนะคะ

ห้องนอนรอง 2 มีขนาดประมาณ 3.00 x 3.15 เมตร สามารถทำเป็นห้องนอนลูก วางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้พอดีๆ มีช่องแสง 1 จุดทางด้านหลังบ้าน เปิดระบายอากาศได้ค่ะ

ห้องน้ำชั้น 2 ฟังก์ชันจะเหมือนกับในห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านแฝดเลยค่ะ แต่จะมีจุดแตกต่างนั่นก็คือมีช่องแสง Skylight เพิ่มขึ้นมาด้วย ช่วยทดแทนที่ไม่มีหน้าต่างเนื่องจากเป็นทาวน์โฮมแปลงกลาง ทำให้ภายในห้องน้ำดูสว่างมากขึ้นในเวลากลางวันค่ะ

แบบบ้าน Maple ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 18 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 112 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็นทาวน์โฮมขนาดเริ่มต้นของโครงการ ราคาเข้าถึงง่ายอยู่ที่ 2.39 ล้านบาท มีจุดเด่นคือได้ห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง เหมาะกับคนที่อยู่เป็นคู่รัก 2 คน หรือมีลูก 1 คน ชอบพื้นที่ห้องนอนกว้าง เป็นต้น

Highlight ชั้น 1

• จอดรถได้ 2 คัน
• ฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.80 เมตร ค่อนข้างโปร่งสบาย
• Common Area กว้าง พื้นที่โล่งเชื่อมต่อกันตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงด้านหลัง แสงเข้าในบ้านได้ค่อนข้างเยอะ
• มีพื้นที่อเนกประสงค์ ทำเป็นมุมทำงานอดิเรก หรือมุม Work From Home ได้
• ห้องน้ำอยู่ด้านหลังบ้าน ซ่อนประตูจากพื้นที่รับแขก เป็นห้องคล้าย Powder Room แต่มีฝักบัวอาบน้ำสำรองไว้ให้ สามารถอาบน้ำได้พร้อมกันถึง 3 ห้อง และมีหน้าต่างระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้
• โครงสร้างลานซักล้างด้านหลังบ้านลงเสาเข็มมาให้พร้อมต่อเติม

Highlight ชั้น 2

• ฝ้าเพดานสูงประมาณ 3.00 เมตร ดูโปร่งกว้าง
• ได้ห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง ทำ Walk-in Closet ส่วนตัวได้
• ห้องนอนด้านหน้ามีช่องแสง 2 ฝั่ง ทุกยูนิต ซึ่งไม่ค่อยเห็นในทาวน์โฮมเท่าไหร่นัก
• ห้องน้ำกลางมี Skylight ให้แสงสว่างเพิ่มเติมจากหลอดไฟปกติ

Magnolia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ  2 ที่จอดรถ เป็นบ้านเดี่ยวที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะภายในโครงการนะคะ เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยเยอะ มีสมาชิกภายในบ้าน 4 คน อาจจะมีสัตว์เลี้ยง ต้องการพื้นที่สนามหญ้ารอบบ้าน เป็นต้น

Highlight ชั้น 1

• ที่จอดรถได้สูงสุด 3 คัน*
• ฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.80 เมตร
• มีพื้นที่อเนกประสงค์กว้าง สามารถกั้นเป็นห้องกระจกสำหรับทำงาน เป็นห้องเด็กเล่น หรือพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงได้
• ครัวปิดขนาดใหญ่ขึ้นสามารถทำอาหารได้จริงจัง
• พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกันดูโปร่งกว้าง
• มีห้องน้ำสำหรับแขก พร้อมฟักบัวอาบน้ำสำรองสามารถอาบน้ำได้พร้อมกัน 3 ห้อง

Highlight ชั้น 2

• Master Bedroom กว้าง สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือ Walk-in Closet เพิ่มเติมได้ มีห้องน้ำส่วนตัว
• ห้องน้ำ Master Bedroom อัปเกรดสุขภัณฑ์เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ
• ห้องนอนรอง 2 ห้อง วางเตียง 3.5 – 5 ฟุตได้
• มีห้องน้ำกลางสำหรับห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Q District ชัยพฤกษ์-ราชพฤกษ์ ราคา ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566

• Maple ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 18 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 112 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
• Hemlock ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 20.66 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
• Cedar+ บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน 35 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท
• Iris บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน 35 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 4.89 ล้านบาท
• Magnolia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท
• จอง 10,000 บาท
• ทำสัญญา 20,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 70,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 33 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ Q District ชัยพฤกษ์ – ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในซอยเทศบาลบางพลับ 13/1 เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนได้ 2 เส้นทาง คือ ถนนชัยพฤกษ์และถนนราชพฤกษ์ ระยะห่างจากหน้าปากซอยถนนชัยพฤกษ์ประมาณ 800 เมตร

บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหาร ไปรษณีย์ และ 7-Eleven ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะประมาณ 5 – 10 กิโลเมตรครบครันทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงค่ะ

การเดินทางของโครงการจะเหมาะกับคนที่ใช้ถนนเส้นชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะเป็นหลัก วิ่งตรงไปข้ามแม่น้ำผ่านทางสะพานพระราม 4 ก็ถึงเลยค่ะ ตัวเลือกการเดินทางอีกอย่างหนึ่งคือรถไฟฟ้า อยู่ห่างจากสถานีคลองบางไผ่ (สายสีม่วง) ประมาณ 7.6 กิโลเมตร

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ภายในโครงการมีทางเข้า-ออกแบ่งเป็น 2 ช่อง เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก โดยจะเป็นระบบ  Key Card Access หรือ Easy Pass ผ่านรั้วกั้นไม้กระดก และมี CCTV HD Night Vision, Motion Sensor ตลอด 24 ชั่วโมง ถึง 30 จุดทั่วโครงการ

ตัวบ้านมีระบบ  Smart Security System ประกอบด้วย CCTV และ Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ทุกยูนิตไม่ว่าจะเป็นทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยว

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบภายในโครงการเป็นสไตล์ English Cottage ได้กลิ่นอายยุโรป ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ และการตกแต่งสวนแบบอังกฤษ พื้นที่ส่วนกลางน่าใช้งาน ตัวบ้านวางตำแหน่งบ้านในแนวทิศเหนือ – ใต้เป็นหลัก ทำให้สามารถเลือกได้ว่าต้องการแสงเข้าทางด้านหน้าบ้านที่ไม่ร้อน หรือต้องการหน้าบ้านรับลมได้ดี

ตัวบ้านเองก็ได้กลิ่นอายแบบอังกฤษจากการเพิ่มลูกเล่นเส้นสายของกรอบบานหน้าต่าง มีช่องแสงขนาดใหญ่ จุดเด่นของบ้านคือ ฝ้าเพดานสูง 2.80 – 3.00 เมตร และเน้นพื้นที่ชั้นล่างกว้าง ทำให้บรรยากาศภายในบ้านจะค่อนข้างโปร่งสบาย ตั้งแต่ทาวน์โฮมไปจนถึงบ้านเดี่ยวเลยค่ะ นอกจากนั้นยังได้ความเป็นส่วนตัวในบ้านแฝดส่วนที่ติดกับข้างบ้านโดยการทำผนัง 2 ชั้นมีช่องอากาศตรงกลาง ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีมากขึ้น

วัสดุ :

โครงสร้างของบ้านเป็นระบบ Pre-Cast มีข้อดีคือ ไม่จำเป็นต้องมีเสาทำให้สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ภายในได้อย่างเต็มที่แต่อาจจะไม่เหมาะกับการทุบต่อเติมนะคะ พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร ชั้น 2 เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ได้สุขภัณฑ์จาก American Standard ประตูกระจกเขียวตัดแสงกรอบบาน UPVC และทาวน์โฮมลงเสาเข็มด้านหลังบ้านมาให้สามารถต่อเติมได้ในอนาคต

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

บรรยากาศภายในโครงการค่อนข้างเรียบร้อย มีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้บริเวณหน้าบ้านทุกยูนิต พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสวนประมาณ 2 ไร่ สไตล์อังกฤษ เข้ากันกับอาคาร Clubhouse แบบ English Cottage ค่ะ

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางโครงการนี้ให้มาค่อนข้างครบเลยค่ะ Clubhouse ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ระบบเกลือยาวประมาณ 20 เมตร ว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง, Fitness มีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง ทั้ง Weight training และ Cardio , มี Guest Lobby และ Co-Working Space ให้นั่งทำงานได้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพ็กเกจ 2.5 – 6  ล้านบาท, วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – เข้าออกถนนใหญ่ได้ 2 เส้นทาง ใกล้ทางด่วน มีความอุดมสมบูรณ์ครบในระยะ 5 – 10 กม.
• ความปลอดภัย 8.5/10 – ระบบเข้า – ออก Easy Pass มี Smart Security System ทุกหลัง
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – ออกแบบสไตล์ English Cottage บ้านได้ช่องแสงกว้าง ฝ้าเพดานสูง
• วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐานของระดับนี้ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – โครงการขนาดใหญ่ มีพื้นที่สีเขียว 2 ไร่ สภาพโครงการเรียบร้อย
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – พื้นที่ส่วนกลางครบครัน 
• 7.74 / 10.00 

Q District ชัยพฤกษ์ – ราชพฤกษ์ เหมาะกับใคร

Q District ชัยพฤกษ์ – ราชพฤกษ์ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านที่ราคาจับต้องได้ไม่ยาก ในทำเลชัยพฤกษ์ – ราชพฤกษ์ เดินทางหรือทำงานย่านแจ้งวัฒนะ มีสมาชิกภายในบ้านตั้งแต่ 2 – 4 คน อาจจะมีสัตว์เลี้ยง ต้องการพื้นที่ส่วนกลางครบครัน ชอบพื้นที่ชั้น 1 ภายในบ้านกว้าง ชอบบ้านโปร่งสบาย ฝ้าเพดานสูง ได้หน้าต่างขนาดใหญ่ ต้องการความสบายใจเรื่องความปลอดภัยภายในบ้าน ไม่ซีเรียสเรื่องความหนาแน่นภายในโครงการ มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 2.39 – 6.20 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 15,500 – 45,000 บาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc