[รีวิวฉบับที่ 2785] หากใครกำลังมองหาโครงการเงียบสงบ ได้ความเป็นส่วนตัวสูงกันอยู่ วันนี้เรามีโครงการ Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) มาแนะนำกันค่ะ เพราะโดดเด่นด้วยจำนวนยูนิตน้อยสุดบนทำเล มีเพียง 46 หลัง ประกอบกับพื้นที่ส่วนกลางที่เน้นเป็นพื้นที่สวนสีเขียวและ Passive Facilities จึงทำให้ได้บรรยากาศภายในโครงการที่ไม่พลุกพล่าน รวมถึงตั้งอยู่บนทางหลวง 345 ที่สามารถเดินทางได้ง่าย ไม่ไกลจากทางด่วน พร้อมบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอนทุกหลัง ในราคาเริ่มต้น 4.99-7.29 ล้านบาท
- เน้นความเป็นส่วนตัวสูง : ตัวโครงการที่ตั้งร่นเข้ามาด้านใน, ยูนิตน้อย 46 ยูนิต และจัดโซนไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามหรือมีเพื่อนบ้านในซอยเดียวกันเพียง 4 หลัง
- พื้นที่ใช้สอยคุ้มราคา : เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยพอๆกัน ถือว่ามีราคาที่จับต้องได้ง่าย
- บ้าน 4 ห้องนอน มีห้องนอนชั้นล่างทุกหลัง : รองรับผู้สูงอายุหรือกิจกรรมอื่นๆได้ โดยเฉพาะบ้านแฝด 4 ห้องนอน ถือว่าเป็น Product หายากบนทำเลนี้
- สวนสีเขียวแนวยาวตรงกลางโครงการ : เพิ่มบรรยากาศร่มรื่นในโครงการและเป็นวิวสีเขียวให้โซนบ้านที่ล้อมรอบสวน
ทางโครงการได้เปิดเข้าชมครั้งแรก VVIP Day ไปเมื่อวันที่ 16-17 พ.ย. ที่ผ่านมานะคะ หากใครสนใจก็สามารถอ่านรีวิวและคลิกลงทะเบียนนัดเยี่ยมชมโครงการได้เลยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567
ชื่อโครงการ | Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN-UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 345) ตำบลบางคูวัด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี |
ที่ดิน | 9-0-17.3 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 46 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 65,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2567 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2568 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 1739 |
Line | https://lin.ee/XVOP1g3 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.958448183046995, 100.4981608786474
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Highlight
- ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ทางหลวง 345 เชื่อมต่อถนนหลายเส้นทาง เดินทางได้ง่าย
- ใกล้ทางด่วน 2 สาย ทั้งกาญจนาภิเษกและอุดรรัถยา เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก
- ความอุดมสมบูรณ์หลักอยู่บนเส้นราชพฤกษ์ มีทั้ง Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์, HomePro ชัยพฤกษ์ และ Lotus’s North ราชพฤกษ์
แผนที่จากทางโครงการค่ะ/ครับ
Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) ตั้งอยู่ติดถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง (ทางหลวง 345) ใกล้แยกบางคูวัด ที่ถึงแม้จะอยู่ในแถบชานเมือง แต่บริเวณรอบข้างส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบหรือหมู่บ้านที่เริ่มขยับขยายออกมาจากในตัวเมือง ทำให้มีแหล่งความอุดมสมบูรณ์อยู่หลากหลาย จึงถือเป็นทำเลที่อยู่อาศัยได้สะดวกสบายเลย
จากโครงการสามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้หลายทางอย่างถนนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์และกาญจนาภิเษกที่ขับตรงเข้าไปถึงโซนสาทรได้ รวมถึงสามารถข้ามแม่น้ำผ่านทางสะพานพระราม 4 เพื่อไปแถวปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะได้เหมือนกัน อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษกและทางพิเศษอุดรรัถยาที่เชื่อมต่อทางพิเศษศรีรัช ทำให้ถึงแม้จะอยู่ในแถบชานเมือง แต่ก็นับว่าสะดวกสบายทีเดียวค่ะ นอกจากนั้นก็มีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทางทั้ง MRT สายสีม่วงและสายสีชมพู ระยะห่างไม่เกิน 15 กิโลเมตรด้วย
สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการจะมี 7-11, CP Freshmart และร้านค้า ร้านอาหารอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการเลยค่ะ ส่วนตลาดสดขนาดใหญ่อย่างตลาด ส.รุ่งเรืองก็อยู่ไม่ไกล ให้สามารถมาจับจ่ายใช้สอยได้ง่ายดี แต่ความอุดมสมบูรณ์หลักของทำเลจริงๆจะอยู่บนเส้นราชพฤกษ์ที่มีทั้ง Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์, HomePro ชัยพฤกษ์ และ Lotus’s North ราชพฤกษ์ รวมถึงร้านอาหาร และ Community Mall อีกหลายแห่งให้มาเดินช้อปปิ้งกันได้ หรือจะไปทางฝั่งรังสิตก็มีห้างใหญ่อย่างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตและเซียร์ รังสิตด้วย ซึ่งโดยรอบโครงการมีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ร้านค้า ห้างทั้งขนาดเล็กและใหญ่ในระยะ 6 กิโลเมตร
ทางพิเศษอุดรรัถยา
สำหรับคนที่ใช้ทางด่วนเป็นประจำก็มีทางด่วนที่ใกล้โครงการอยู่ 2 เส้นด้วยกัน ได้แก่
- ทางพิเศษอุดรรัถยา : มีระยะห่าง 8.2 กิโลเมตร โดยขับข้ามสะพานนนทบุรี ผ่านโรบินสัน ศรีสมาน จะเจอจุดขึ้นทางด่วนไปทั้งฝั่งรังสิตหรือเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชเพื่อเข้าเมืองได้สะดวกค่ะ
- วงแหวนกาญจนาภิเษก : ใช้เพื่อเดินทางเข้าเมืองไปทางบางใหญ่-บางแค-พระราม 2 หรือจะออกเมืองไปทางบางปะอินก็ได้ค่ะ มีระยะห่าง 11.5 กิโลเมตร
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบทั้งแบบบ้านจัดสรรและไม่จัดสรร รวมถึงมีอาคารสำนักงานและโรงงานอยู่บ้าง โดยทางเข้า-ออกโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่จึงเดินทางได้สะดวกสบายดี
- ทิศเหนือ ติดกับ ถนนสาธารณะและบ้านแนวราบ
- ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนสาธารณะและบ้านแนวราบ
- ทิศใต้ ติดกับ ทางหลวง 345, ที่ดินเปล่าและหมู่บ้านภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์
- ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนสาธารณะ, บ้านแนวราบและหมู่บ้านภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ เมื่อมองไปฝั่งตรงข้าม
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ตลาด ส.รุ่งเรือง ∼ 2.6 กิโลเมตร
- Robinson Lifestyle ศรีสมาน ∼ 7.1 กิโลเมตร
- Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์ ∼ 8 กิโลเมตร
- HomePro ชัยพฤกษ์ ∼ 10.5 กิโลเมตร
- Lotus’s North ราชพฤกษ์ ∼ 10.5 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ∼ 14.5 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- รพ.ปากเกร็ด 2 ∼ 6 กิโลเมตร
- รพ.วิภารามปากเกร็ด ~ 11.6 กิโลเมตร
- รพ.ชลประทาน ∼ 13.6 กิโลเมตร
- รพ.เวิลด์เมดิคอล ∼ 14.9 กิโลเมตร
โรงเรียน
- รร.สาธิตปทุม ~ 5.7 กิโลเมตร
- รร.สารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ∼ 6.5 กิโลเมตร
- รร.นานาชาติ สิงคโปร์ ∼ 6.8 กิโลเมตร
- รร.พระหฤทัย นนทบุรี ~ 7.8 กิโลเมตร
- รร.หอวัง นนทบุรี ∼ 9.2 กิโลเมตร
- รร.นานาชาติ เด่นหล้า ∼ 10.5 กิโลเมตร
- รร.เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ ∼ 10.7 กิโลเมตร
- รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี ∼ 10.9 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- ยูนิตน้อยสุดบนทำเล มีเพียง 46 หลัง ถือเป็นโครงการบ้านจัดสรรขนาดเล็ก ได้บรรยากาศสงบ ไม่พลุกพล่าน
- เน้นความเป็นส่วนตัวสูง ได้แก่ ตัวโครงการที่ตั้งร่นเข้ามาด้านใน, ยูนิตน้อย, จัดโซนไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามหรือมีเพื่อนบ้านในซอยเดียวกันเพียง 4 หลัง
- พื้นที่ส่วนกลางแนวยาว บริเวณกลางโครงการ กระจายการใช้งานได้ดี เน้นฟังก์ชันพักผ่อน Passive Facilities
- มีโซนบ้านหลากหลาย มีทั้งติดถนนหลัก, อยู่ในซอย และบ้านล้อมสวน เปิดรับวิวสีเขียว
Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) เป็นโครงการบ้านจัดสรรขนาดเล็กตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 9 ไร่ รวม 46 ยูนิต ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากหมู่บ้านเล็กๆใน Scandinevian ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตสงบเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ สะท้อนผ่านตัวบ้านที่มีสีสันสดใสตัดกับพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะออกแบบเน้นเป็นพื้นที่พักผ่อนและสวนสีเขียว ทำให้โครงการนี้เหมาะกับคนที่ต้องการบรรยากาศการอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัวสูง ชอบพื้นที่สวนสีเขียวและไม่ได้ซีเรียสเรื่องพื้นที่ส่วนกลางมากนัก งั้นเราจะพาไปดูความน่าสนใจในการจัด Master Plan ของโครงการกันเลย
- เน้นความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 46 หลัง ทำให้ได้บรรยากาศที่เงียบสงบ อีกทั้งมีจัดโซนบ้านที่มีเพื่อนบ้านในซอยเดียวกันน้อยหรือมีระยะห่างจากเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามด้วย
- พื้นที่ส่วนกลางแนวยาว บริเวณตรงกลางโครงการ ทำให้นอกจากลูกบ้านใช้งานได้ทั่วถึงแล้ว ยังเป็นวิวที่สวยงามให้กับบ้านที่อยู่ล้อมรอบด้วย
- จัดโซนบ้านหลากหลาย เป็นสิ่งที่เราชอบมากๆเลย เพราะมีทั้งโซนที่มีเพื่อนบ้านในซอยเดียวกันเพียง 4 หลังและซอยที่ไม่มีบ้านฝั่งตรงข้าม ได้ความเป็นส่วนตัวสูง, โซนบ้านติดถนนหลัก ขับรถเข้า-ออกโครงการได้ง่าย และโซนบ้านล้อมสวน เปิดรับวิวสีเขียวได้กว้าง ใช้งานส่วนกลางได้ง่าย อีกทั้งมีระยะห่างจากเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามมากขึ้น ได้ความเป็นส่วนตัวดีเลย
- ทิศของบ้าน ส่วนใหญ่หันไปทางทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือที่จะได้แดดอ่อนๆในตอนเช้า เหมาะกับคนที่ชอบมานั่งเล่นหน้าบ้านในตอนกลางวันค่ะ
ทางเข้า-ออกโครงการจะอยู่ติดกับถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง (ทางหลวง 345) ซึ่งบริเวณด้านหน้าจะมีป้ายโครงการขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจนจากถนนเลยค่ะ โดยจะมีถนนภาระจำยอมยาวประมาณ 100 เมตร พร้อมต้นไม้เล็ก-ใหญ่เรียงตามแนวถนน ที่นอกจากจะสร้างบรรยากาศร่มรื่นเวลาเข้า-ออกโครงการแล้ว ยังดึงสายตาเข้าไปยังซุ้มประตูโครงการที่อยู่ด้านในด้วยนั่นเอง
ซุ้มประตูใช้งานร่วมกันของโครงการภัสสรทั้ง 2 โครงการ
สำหรับซุ้มประตูทางเข้าโครงการของ Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) จะเป็น Double Security Gate ประตูทางเข้า-ออก 2 ชั้น โดยมีซุ้มประตูอันแรกตามภาพด้านบนนี้ที่ใช้งานร่วมกับโครงการแรก ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ ซึ่งด้านข้างจะมีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ พร้อมจัดสวนสีเขียวดูสวยงาม ส่วนประตูทางเข้า-ออกจะเป็นรั้วไม้กั้นกระดก แบ่งการใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 1 ช่องทาง โดยมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง ตัวซุ้มประตูนี้จะออกแบบมีระยะร่นจากถนนใหญ่มาประมาณ 100 เมตร เพื่อให้รถยนต์สามารถต่อแถวเข้า-ออกโครงการได้สะดวกและไม่ไปติดขัดการจราจรตรงถนนด้านหน้าโครงการนั่นเอง
เมื่อผ่านซุ้มประตูชั้นที่ 1 มาแล้ว ลูกบ้านของโครงการแรก ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ ก็ขับตรงเข้าไปยังโซนบ้านพักอาศัยได้เลย ส่วนลูกบ้านของ Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) ต้องขับเลี้ยวไปเจอ Double Gate ที่อยู่ทางขวาของภาพ เพื่อเข้าสู่ด้านในโครงการค่ะ
แต่ทางโครงการมีแนวคิดที่จะแยกซุ้มประตูกันชัดเจน เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในแต่ละโครงการมากขึ้น ซึ่งยังอยู่ในช่วงปรึกษาหารือกับลูกบ้านในโครงการแรก ทำให้เรื่องซุ้มประตูการเข้า-ออกโครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ค่ะ
ซุ้มประตูของโครงการภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2
สำหรับ Double Gate นี้จะมีการออกแบบในสไตล์ Scandinevian เหมือนตัวบ้านในโครงการด้วยซุ้มเป็นรูปทรงจั่วหลังคา พร้อมเพิ่มลูกเล่นด้วยสีสันสดใสและป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่
ตัวซุ้มประตู Double Gate จะออกแบบมีหลังคาเพื่อกันแดดและฝนได้ ส่วนประตูทางเข้า-ออกโครงการเป็นรั้วไม้กั้นกระดก แยกใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 1 ช่องทาง พร้อมระบบในการเข้า-ออกโครงการเป็นแบบจดจำป้ายทะเบียน ทำให้ลูกบ้านขับผ่านเข้าไปในโครงการได้เลย ส่วนแขกที่มาเยี่ยมจะต้องติดต่อตรงป้อม รปภ. หรือทางลูกบ้านลงทะเบียนผ่าน App Myhaus ให้ผู้มาติดต่อเข้าโครงการด้วย QR Code ค่ะ
นอกจากนั้นได้มีระบบ CCTV รวม 13 ตัว ติดตั้งบริเวณ Main Gate 4 ตัว และภายในโครงการ 9 จุด เพื่อช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และรั้วทึบรอบโครงการสูง 2.50 เมตร
สำหรับถนนหลักภายในโครงการมีความกว้าง 9 เมตร ส่วนถนนภายในซอยมีความกว้าง 8 เมตร ซึ่งถือเป็นระยะที่รถยนต์สามารถขับรถสวนกันได้สบายค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างนะคะ เราจึงขอให้เป็นภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลาง บริเวณตรงกลางโครงการมาให้ชมกันค่ะ โดยมีอาคาร Common Space พร้อมพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ให้มานั่งพักผ่อนกัน อีกทั้งยังเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอเนกประสงค์ได้ในบรรยากาศที่ล้อมรอบด้วยสวนสีเขียว
ส่วนพื้นที่สีเขียวของโครงการ มีการเลือกพันธุ์ต้นไม้ที่ช่วยเรื่องการดูดซับคาร์บอน (CO₂) ได้แก่ ต้นเหลืองปรียาธร, ต้นจามจุรี, ต้นแคนา, ต้นเสลา, ต้นตะแบก, ต้นอินทนิล, ต้นกระพี้จั่น, ต้นสาธรและต้นราชพฤกษ์ ซึ่งสามารถดูดซับคาร์บอน (CO₂) ได้รวม 402.5 กิโลกรัมต่อปี
แต่ถึงแม้พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักตามขนาดของโครงการที่ถือเป็นโครงการขนาดเล็ก แต่ก็ยังจัดฟังก์ชันส่วนกลางอื่นๆภายในสวนมาให้ใช้งานกันด้วย ได้แก่ Playground สนามเด็กเล่นสำหรับเด็กๆมาเล่นสนุกกัน, เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง, Pet Zone สำหรับพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น พร้อมต้นไม้ที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง โดยได้รับคำปรึกษาร่วมกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Common Space
- พื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor
- สวนสีเขียวภายในโครงการ ขนาด 1 งาน 78.8 ตร.วา เลือกพันธุ์ต้นไม้ที่ช่วยเรื่องการดูดซับคาร์บอน (CO₂)
- Playground
- เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง
- Pet Zone พร้อมต้นไม้ที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง โดยได้รับคำปรึกษาร่วมกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate 4 ตัวและภายในโครงการ 9 จุด
- รั้วทึบรอบโครงการสูง 2.50 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 9 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- ระบบในการเข้า-ออกแบบจดจำป้ายทะเบียน / ผ่าน App Myhaus ให้ผู้มาติดต่อเข้าโครงการได้ด้วย QR Code
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ระบบไฟในโครงการ 1 เฟส (30/100) มีเสาไฟและสายไฟ
แบบบ้าน
Highlight
- บ้าน 4 ห้องนอน มีห้องนอนชั้นล่างทุกหลัง เหมาะกับครอบครัว 4-5 คน รองรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ โดยเฉพาะบ้านแฝด 4 ห้องนอน ถือเป็น Product หายากบนทำเล
- พื้นที่ใช้สอยใหญ่ ราคาคุ้มค่า เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านที่มีขนาดพอๆกัน โครงการนี้มีราคาที่ดีกว่า บ้านแฝดเริ่มไม่เกิน 5 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยวได้ Double Master Bedroom ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง
Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) เป็นโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวที่มีจำนวนบ้านทั้งหมด 46 ยูนิต จึงถือเป็นโครงการขนาดเล็ก ได้ความเป็นส่วนตัวสูง โดยเป็นบ้านซีรี่ส์ใหม่จาก Pruksa ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ ออกแบบในสไตล์ Scandinevian เน้นสีขาว-เทา พร้อมหลังคาบ้านทรงจั่วที่ให้ความรู้สึกคุ้นชินและอบอุ่น รวมถึงเพิ่มลูกเล่นและความโดดเด่นให้กับ Facade หน้าบ้านด้วยสีสันสดใสค่ะ
แบบบ้านของโครงการนี้จะมีเพียง 2 แบบให้เลือกนะคะ มีพื้นที่ใช้สอย 156-239 ตร.ม. รองรับ 4 ห้องนอนทุกหลัง มีห้องนอนชั้นล่าง ทำเป็นห้องผู้สูงอายุได้ รวมถึงเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนขนาดใหญ่ด้วย
หากลองสังเกตโครงการของ Pruksa เทียบกับโครงการเพื่อนบ้านจะเห็นว่ามีการออกแบบที่อาจจะไม่ได้ให้ของมาจัดเต็มมากนัก อย่างตัวบ้านของโครงการนี้ก็มีช่องหน้าต่างขนาดใหญ่มาบางจุด หรือมีการกั้นกำแพงบางส่วน เพื่อให้ลูกบ้านไปติดตั้งบานประตูเพิ่มเอง แต่ก็ถือว่าแลกมากับราคาที่สามารถจับต้องได้ง่ายกว่าโครงการเพื่อนบ้านนั่นเองค่ะ
- Hannah (ฮันน่า) บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Otto (ออตโต้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
อย่างที่เราได้เกริ่นไปเล็กน้อยแล้วว่าทางโครงการได้เพิ่มลูกเล่นให้กับทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวด้วยการออกแบบ Facade หน้าบ้านด้วยสีสันสดใส ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี พร้อมปลูกต้นไม้ใหญ่ในบ้านมาให้ 1 ต้นตามสี Facade บ้านเลย ได้แก่ สีเขียว : ต้นปีบ/สนฉัตร, สีแดง : ต้นอินทนิล/ชงโคฮอลแลนด์, สีเหลือง : ต้นเหลืองปรีดายาธร และสีน้ำเงิน : ต้นกระพี้จั่น
โครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน
- โครงสร้างแบบ Precast
- หลังคาทรงจั่ว
- โครงสร้างที่จอดรถในร่มเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน พื้นคอนกรีตฉาบเรียบ ส่วนที่จอดรถด้านหน้ากลางแจ้งเป็น Slab on Ground พื้นคอนกรีตฉาบเรียบ
- ประตูรั้วหน้าบ้าน : ประตูเหล็กรางเลื่อนทำสีดำ พร้อมเดินสายไฟรอระบบอัตโนมัติไว้ให้
- วัสดุปูพื้น
– ชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– ชั้น 2 : พื้น SPC ลายไม้
– ห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– ระเบียง : กระเบื้อง ขนาด 30×30 เซนติเมตร - ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้น 1 และ 2 : 2.65 เมตร
- โครงสร้างบันไดแบบ Precast ปิดผิวด้วยพื้นไม้ยางพารา
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก Englefield และ Kohler
- เดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นในห้องน้ำชั้น 2
- วัสดุกรอบบานหน้าต่าง-ประตู : อะลูมิเนียมสีดำและกระจกเขียวตัดแสง หนา 6 มม.
- มือจับประตูห้อง : ชั้น 1 แบบก้านโยก / ชั้น 2 แบบลูกบิด
- ผนังภายในบ้านติด Wallpaper มาให้ทั้งหลัง (ยกเว้นห้องครัว)
- ไฟดาวน์ไลท์
- จัดสวนรอบบ้านตามมาตรฐานโครงการ ได้แก่ สนามหญ้า, ไม้พุ่มบริเวณรั้วหน้าบ้านและต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น มีทั้งหมด 4 ชนิดตามสี Facade บ้าน ได้แก่ สีเขียว : ต้นปีบ/สนฉัตร, สีแดง : ต้นอินทนิล/ชงโคฮอลแลนด์, สีเหลือง : ต้นเหลืองปรีดายาธร และสีน้ำเงิน : ต้นกระพี้จั่น
นวัตกรรมและความปลอดภัยภายในบ้าน
- Digital Door Lock จาก My Haus รองรับ 5 รูปแบบ ได้แก่ Fingerprint, Password, Card, Key และ Application
- Junction Box รองรับ EV Charger 1 จุด สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
- IP Camera 1 ตัว บริเวณพื้นที่จอดรถ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
วันนี้เราได้เก็บภาพบรรยากาศของทั้งบ้านแฝด Hannah และบ้านเดี่ยว Otto มาให้ชมกันนะคะ แต่ว่าบ้านเดี่ยวนี้ถูกใช้เป็น Sales Gallery ของโครงการ ทำให้บริเวณชั้น 2 ของบ้านเดี่ยวจะเป็นห้องเปล่าๆ ไม่มีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ เราจึงมีเขียนฟังก์ชันแต่ละพื้นที่บอกไว้ในภาพเพื่อให้ทุกคนสามารถคิดภาพตามกันได้ค่ะ
Hannah (ฮันน่า)บ้านตัวอย่างหลังแรกที่เราจะพาไปชมกัน ได้แก่ Hannah (ฮันน่า) บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ โดยเป็นบ้านแฝดที่ออกแบบผนังที่แชร์กับเพื่อนบ้านเฉพาะชั้น 1 ทำให้บริเวณห้องนอนบนชั้น 2 ไม่มีผนังติดกับเพื่อนบ้านเลย เพิ่มความเป็นส่วนตัวดีค่ะ นอกจากนั้นยังจัดฟังก์ชัน Service อยู่โซนด้านหลังบ้าน ทำให้ Common Area เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติบริเวณด้านหน้าบ้านได้เยอะดี รวมถึงมีห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุได้หรือจะปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ด้วย
เราชอบที่ตำแหน่งของบ้านแฝดจะกระจายอยู่ทั่วโครงการเลย ทำให้มีตำแหน่งบ้านแปลงมุม, บ้านในซอยที่มีเพื่อนบ้านเพียง 4 หลัง, บ้านที่ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม, บ้านติดถนนหลัก และบ้านที่หันเปิดรับวิวสวนส่วนกลางให้เลือกได้ตามความชอบเลยค่ะ
ชั้น 1
- ที่จอดรถ 2 คัน ด้านหลังที่จอดรถมี Junction Box รองรับ EV Charger
- มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
- โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดดและฝน และเฉลียงขนาดใหญ่ วางตู้เก็บรองเท้าและร่มได้สะดวก
- พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหาร เป็นแนวยาวจากหน้าบ้านถึงด้านหลังบ้าน
- ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุได้ หรือจะทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงานได้ด้วย
- ห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำรองรับการใช้งานพร้อมกันได้
- ห้องครัว กั้นทำเป็นครัวไทยได้
- ลานซักล้าง สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้า
- ห้องเก็บของใต้บันได ช่วยเก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ชั้น 2
- โถงชั้น 2 มีพื้นที่ตั้งชั้นวางของได้
- Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีมุมนั่งเล่นในห้อง, พื้นที่ Walk – in Closet, Master Bathroom และระเบียงส่วนตัว มายืนรับลมชมวิวได้
- ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3-3.5 ฟุตได้ มีพื้นที่ด้านข้างวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะ
- ห้องนอนรอง 1 มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ ทำมุมนั่งเล่นแบบ Outdoor ได้
- ห้องน้ำใช้งานร่วมกันของห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง
เรามาเริ่มกันที่ประตูรั้วหน้าบ้านกันเลย จะเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนทำสีดำ ออกแบบเป็นซี่ๆ ดูโปร่ง เปิด-ปิดได้ง่าย โดยประตูจะเลื่อนไปซ่อนที่ด้านหลังกำแพง ทำให้รถยนต์เข้า-ออกได้สะดวก พร้อมเดินสายไฟรอระบบอัตโนมัติไว้ให้ด้วย ส่วนด้านข้างประตูรั้วบ้านมี ติดตั้งกริ่ง กล่องใส่พัสดุและถังขยะฝังกำแพงที่ช่วยพรางตาให้หน้าบ้านดูเรียบร้อยดีค่ะ
ที่จอดรถ
ที่จอดรถมีขนาดประมาณ 4.85×6.75 เมตร จอดรถได้ 2 คัน มีโครงสร้างที่จอดรถในร่มเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน ส่วนที่จอดรถด้านหน้ากลางแจ้งเป็น Slab on Ground พร้อมตัด Joint ช่วยลดปัญหาพื้นทรุดตัวและไม่เกิดรอยแตกร้าวที่ตัวบ้านค่ะ เราจึงต่อเติมหลังคากันสาดเพื่อช่วยบังแดดและฝนเพิ่มได้ แต่เราแนะนำให้ปรึกษากับทางวิศวกรโครงการก่อนการต่อเติมทุกครั้ง เพื่อไม่ให้กระทบกับโครงสร้างบ้านที่เป็น Precast นะคะ ส่วนวัสดุพื้นเป็นคอนกรีตฉาบเรียบเหมือนในภาพด้านบนเลย
นอกจากนั้นทางโครงการได้ติดตั้ง IP Camera บริเวณที่จอดรถนี้มาให้ 1 จุดในบ้านทุกหลัง พร้อม Junction Box รองรับ EV Charger สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยนะคะ
สวนรอบบ้าน
ทางโครงการได้มีการจัดสวนตามมาตรฐานของโครงการมาให้นะคะ โดยจะมีการปูสนามหญ้า, ไม้พุ่มบริเวณรั้วหน้าบ้านและต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น มีทั้งหมด 4 ชนิดตามสี Facade บ้าน ได้แก่ สีเขียว : ต้นปีบ/สนฉัตร, สีแดง : ต้นอินทนิล/ชงโคฮอลแลนด์, สีเหลือง : ต้นเหลืองปรีดายาธร และสีน้ำเงิน : ต้นกระพี้จั่น คอยเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นภายในบ้านนั่นเอง
สำหรับประตูทางเข้า-ออกบ้านจะมีทั้งหมด 2 ทางด้วยกัน ได้แก่ ประตูทางเข้าหลักตรงหน้าบ้านที่ออกแบบเป็นโถงมีชายคากันแดดและฝน ส่วนประตูทางเข้ารองจะอยู่ตรงบริเวณด้านหลังที่จอดรถค่ะ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นบ้านแฝดที่มีประตูตรงบริเวณที่จอดรถนี้นะคะ ทำให้ลูกบ้านของโครงการนี้สามารถเข้า-ออกบ้านได้สะดวกสบายมากขึ้นนั่นเอง
ประตูทางเข้ารองจะอยู่บริเวณด้านหลังพื้นที่จอดรถ พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock จาก My Haus รองรับ 5 รูปแบบ ได้แก่ Fingerprint, Password, Card, Key และ Application
ทำให้พอจอดรถเสร็จก็สามารถเข้าบ้านจากทางนี้ได้โดยไม่ต้องเดินอ้อมไปเข้าจากทางหน้าบ้าน ช่วยเพิ่มความสะดวกเวลาใช้งาน เพราะถึงแม้จะลืมพกกุญแจหรือบัตรก็ยังเข้าบ้านทางนี้ได้ อีกทั้งเวลากลับมาบ้านตอนดึกๆจากที่ทำงาน เรียนพิเศษหรืองานสังสรรค์ก็ไม่ต้องมีคนมาคอยเปิดประตูให้ค่ะ
โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีชายคาคอยกันแดดและฝน พร้อมพื้นที่เฉลียงให้สามารถตั้งชั้นวางรองเท้า ที่นั่งใส่รองเท้าและที่เก็บร่มได้สะดวกดี โดยเฉลียงนี้ปูเป็นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร ที่สามารถดูแลทำความสะอาดได้ง่าย
Common Area
เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ประมาณ 3.40×6.00 เมตร ที่ออกแบบเป็น Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารต่อเนื่องเป็นแนวยาวจากหน้าบ้านถึงด้านหลังบ้าน จึงทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายตั้งแต่เข้าบ้านมาเลย อีกทั้งมีหน้าต่างและประตูกระจกต่อเนื่องตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงหลังบ้าน จึงเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนได้กว้าง ซึ่งพอทางโครงการออกแบบพื้นที่บันไดรูปตัว I อยู่ด้านในสุดของบ้านก็ช่วยประหยัดพื้นที่ ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยตรง Common Area ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยนั่นเอง
นอกจากนั้นด้วยโครงสร้างบ้านที่เป็นแบบ Precast ผนังบ้านรับน้ำหนักแทนเสาบ้าน ทำให้มีข้อดีตรงพื้นที่ภายในบ้านจะไม่มีเหลี่ยมเสาต่างๆจึงจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวและยังเก็บเสียงได้ดีด้วย แต่ผนังนี้ก็ทำหน้าที่เหมือนเป็นเสาบ้าน จึงทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องการทุบผนังเพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้านนั่นเอง ดังนั้นทางลูกบ้านจึงต้องปรึกษากับทางวิศวกรทุกครั้ง ก่อนทำการทุบปรับเปลี่ยนบ้านนะคะ
ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.65 เมตร พร้อมติดตั้งไฟ LED แบบดาวน์ไลท์, ผนังภายในบ้านติด Wallpaper มาให้ทั้งหลัง (ยกเว้นห้องครัว) และวัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร ที่มีความแข็งแรง รักษาทำความสะอาดได้ง่ายด้วย
พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่บริเวณด้านหน้าบ้านเลย สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งหรือโซฟาตัว L เหมือนบ้านตัวอย่างก็ได้เหมือนกัน พร้อมตั้งโต๊ะกลางและทำ Built-in เป็นชั้นวางทีวีได้สบายๆ มีทางเดินกว้าง เข้า-ออกบ้านได้ง่าย ส่วนระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.10 เมตร จึงติดตั้งทีวีขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้ ซึ่งบริเวณพื้นที่นั่งเล่นนี้จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากทางประตูด้านหน้าบ้านและด้านข้างบ้าน ช่วยให้พื้นที่ภายในบ้านดูสว่างดีค่ะ
ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นไปฝั่งด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ตั้งโต๊ะ 4 ที่นั่งได้สบายๆ มีพื้นที่เดินรอบโต๊ะได้กว้าง พร้อมประตูกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับวิวสวนสีเขียวด้านข้างบ้านด้วย ส่วนด้านหลังของพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นบันไดเดินไปชั้น 2 ที่มีห้องเก็บของใต้บันไดให้เก็บอุปกรณ์ต่างๆในบ้านได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ต่อมาเราจะพาไปดูอีกฝั่งของบ้านที่อยู่ถัดจากพื้นที่นั่งรับประทานอาหารกัน โดยออกแบบเป็นโถงขนาดใหญ่เชื่อมต่อไปยังห้องครัว ห้องนอนชั้นล่าง ห้องน้ำและประตูทางเข้ารองที่ไปพื้นที่จอดรถค่ะ
บริเวณโถงทางเดินมีขนาดใหญ่ 1.80×3.40 เมตร โดยจะมีประตูทางเข้ารองจากที่จอดรถอยู่ทางฝั่งขวาของภาพ ส่วนด้านซ้ายจะเป็นห้องครัว และด้านในสุดจะเป็นห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำ ซึ่งถือเป็นโซนของ Service ที่ทางโครงการแบ่งแยกจากโซนพื้นที่พักผ่อนได้อย่างชัดเจนดีค่ะ
นอกจากนั้นเราชอบที่ทางโครงการออกแบบพื้นที่เรียงจากที่จอดรถ โถงทางเดินและฟังก์ชันภายในบ้าน เพราะทำให้โถงทางเดินเหมือนเป็น Buffer Zone กันเสียงดังจากรถยนต์ไม่ให้มีเสียงดังไปภายในห้องอื่นๆ โดยเฉพาะห้องนอนที่ต้องการความเงียบสงบสำหรับการพักผ่อนค่ะ
สิ่งที่เราชอบของบริเวณนี้คือมีพื้นที่ใหญ่ เราจึงสามารถตั้งชั้นวางของบริเวณด้านหน้าห้องน้ำ สำหรับเก็บอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำ หรือจะตั้งเป็นตู้เก็บรองเท้าบริเวณประตูทางเข้ารองก็ดีเหมือนกันค่ะ
ประตูทางเข้ารอง-ห้องครัว
ทางโครงการยังออกแบบให้ประตูทางเข้ารองและทางเข้าห้องครัวตรงกันเลย จึงทำให้ลูกบ้านที่กลับมาจากจ่ายตลาดหรือซื้อของต่างๆก็สามารถยกของจากท้ายรถยนต์และเดินเข้าไปในห้องครัวได้สะดวกดีค่ะ
ซึ่งทางโครงการจะก่อเป็นผนังตามภาพด้านบนเลยนะคะ เราจึงสามารถเลือกติดตั้งบานประตูเพิ่มเองได้ เราแนะนำเป็นประตูกระจกบานเลื่อนก็ใช้งานได้สะดวกดีค่ะ รวมถึงยังช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันจากการทำอาหารลอยเข้าไปส่วนอื่นๆในบ้านด้วย
ห้องครัว
ห้องครัวของโครงการจะเป็นห้องโล่งๆขนาด 2.30×2.90 เมตร ให้ลูกบ้านไปออกแบบตกแต่งได้ตามการใช้งานเลยนะ หรือจะตกแต่งเหมือนกับบ้านตัวอย่างก็ได้เหมือนกัน โดยทำ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว I พร้อมตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง มีเว้นพื้นที่ด้านข้างตั้งตู้เย็น รวมถึงมีหน้าต่างและประตูด้านข้างห้องครัว เพื่อเปิดระบายอากาศภายในห้องครัวได้เลย
เราแนะนำให้กรุกระเบื้อง Backsplash เพื่อป้องกันเขม่าควันและอาหารเลอะติดผนังบ้านจากการทำอาหารด้วย เพราะนอกจากจะทำให้ผนังบ้านดูสวยงามไปนานๆแล้ว ยังทำให้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายดี
นอกจากนั้นจะมีพื้นที่ว่างอยู่ด้านข้างประมาณ 0.35×1.05 เมตร เราจึงสามารถตั้งเครื่องซักผ้าเหมือนบ้านตัวอย่างก็ดีเหมือนกัน เพราะตัวเครื่องซักผ้าจะได้ไม่ต้องตากแดด ตากฝนค่ะ
ลานซักล้าง
จากห้องครัวจะมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้าน ขนาดประมาณ 1.30×2.60 เมตร ซึ่งมีโครงสร้างแบบ Slab on Ground พื้นคอนกรีตฉาบเรียบ เวลาพื้นทรุดตัวจะไม่เกิดรอยแตกร้าวที่ตัวบ้านนั่นเอง โดยเป็นพื้นที่สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้สะดวกค่ะ
ถัดมาด้านในสุดของโถงทางเดินจะเป็นห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำค่ะ ซึ่งมือจับประตูห้องของชั้น 1 นี้เป็นแบบก้านโยก ทำให้เปิด-ปิดได้ง่ายดีนั่นเอง งั้นเราขอพาไปดูห้องนอนชั้นล่างกันก่อนนะคะ
ห้องนอนชั้นล่าง
ห้องนอนชั้นล่างมีขนาด 2.90×2.90 เมตร สามารถใช้เป็นห้องนอนของคุณปู่หรือคุณย่าได้เลย โดยวางเตียงขนาด 3-3.5 ฟุตได้ มีพื้นที่ด้านข้างให้วางโต๊ะและตู้เสื้อผ้าด้วย พร้อมช่องหน้าต่างเปิดรับสวนด้านหลังบ้านค่ะ แต่สำหรับบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งให้เป็นไอเดียสำหรับครอบครัวที่ไม่ได้มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ก็สามารถปรับเป็นห้องทำงานแบบนี้ได้เหมือนกัน
ห้องน้ำชั้นล่าง
ห้องน้ำชั้นล่างมีขนาดประมาณ 1.80×1.80 เมตร ปูด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร ซึ่งออกแบบให้พื้นห้องน้ำมีระดับเดียวกับพื้นด้านนอก พร้อมรางระบายน้ำแบบเรียบๆตรงประตูห้องน้ำจึงเดินได้ไม่สะดุดค่ะ
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งโซนแห้ง-เปียก พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก Englefield ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็ติดตั้ง Shower Box เพิ่มได้ มีความกว้างประมาณ 0.85×0.85 เมตร จึงสามารถยืนอาบน้ำและหมุนตัวได้สะดวก
เราพากลับมาตรงบันไดที่อยู่ด้านในสุดของบริเวณ Common Area นะคะ โดยโครงสร้างบันไดเป็นแบบ Precast และปิดผิวด้วยพื้นไม้ยางพารา มีความกว้างบันไดประมาณ 1.05 เมตร ลูกนอนกว้างประมาณ 25 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. ส่วนด้านข้างมีมือจับเป็นไม้สำเร็จรูปทำสีเหมือนตัวบันได พร้อมช่องหน้าต่างตรงบันได แต่เราแนะนำให้ติดตั้งโคมไฟเพิ่มตรงบริเวณโถงบันไดนะคะ จะได้บรรยากาศที่ไม่มืดทึบค่ะ
โถงชั้น 2
เมื่อเดินขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับโถงชั้น 2 มีทางเดินกว้างประมาณ 1.85×4.20 เมตร จึงสามารถใช้ตั้งชั้นวางของ ตู้ของสะสมหรือชั้นหนังสือได้ อีกทั้งเสริมด้วยมุมกระถางต้นไม้ เพื่อมุมสีเขียวในบ้านก็ดีเหมือนกันค่ะ โดย Master Bedroom มีขนาดใหญ่เกือบครึ่งนึงของชั้น 2, ห้องนอนรอง 1 หันไปทางฝั่งด้านหน้าบ้านและห้องนอนรอง 2 จะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้านค่ะ ซึ่งมีห้องน้ำใช้งานร่วมกันของห้องนอนรองทั้ง 2 อยู่ระหว่างห้อง ทำให้เดินไปใช้งานได้สะดวก
วัสดุปูพื้นชั้น 2 จะเปลี่ยนเป็นพื้น SPC ลายไม้ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นเหมาะแก่การพักผ่อน อีกทั้งมีความทนทานมากกว่ากระเบื้องยางทั่วไปหรือลามิเนต ส่วนความสูงของพื้นชั้น 2 ถึงฝ้าเพดานเท่ากับชั้น 1 อยู่ที่ 2.65 เมตร จึงได้บรรยากาศโปร่งสบายดีเลยค่ะ
Master Bedroom
Master Bedroom มีขนาดใหญ่ 3.40×6.00 เมตร ออกแบบเป็นห้องแนวยาวจากหน้าบ้านถึงหลังบ้าน ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้รอบห้องเลย โดยพื้นที่บริเวณเตียงนอนมีขนาด 3.40×4.35 เมตร วางเตียง 6 ฟุต ตั้งโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งและชั้นวางทีวีตรงปลายเตียงได้สบายๆ มีพื้นที่รอบเตียงกว้าง เดินได้สะดวก
ส่วนด้านข้างเตียงนอนจะมีประตูกระจกเปิดออกไปยังระเบียงส่วนตัวได้ มีขนาด 0.60×4.00 เมตร ปูด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร สามารถดูแลทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมราวกันตกเป็นซี่ๆ ลูกบ้านจึงทำเป็นมุมนั่งชมวิวตรงนี้ได้ รวมถึงใช้เป็นมุมปลูกต้นไม้ก็ดีเหมือนกัน เพื่อเป็นวิวสีเขียวเวลามองจากด้านหน้าบ้านและภายในห้องนอนด้วยค่ะ
บริเวณด้านข้างเตียงนอนมีพื้นที่ให้สามารถทำมุมนั่งเล่น ทำงานหรือใช้เป็นโต๊ะแต่งหน้าได้ด้วยนะคะ ซึ่งจะอยู่ด้านหน้าของพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำที่กั้นแบ่งเป็นสัดส่วนแยกจากพื้นที่เตียงนอนเลย
โดยทางโครงการจะก่อผนังตรง Walk-in Closet มาให้เหมือนกับภาพด้านบนเลยนะคะ ลูกบ้านสามารถติดตั้งประตูหรือใช้เป็นผ้าม่านปิด เพื่อแบ่งพื้นที่แยกกันชัดเจน รวมถึงช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นจากเสื้อผ้าและความชื้นจากห้องน้ำลอยเข้าไปบริเวณเตียงนอนด้วยค่ะ
พื้นที่ Walk-in Closet ขนาด 1.60×1.65 เมตร อยู่บริเวณด้านหน้าของ Master Bathroom เลย จึงทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องดี ซึ่งเราสามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้ทั้งทำ Built-in ตู้เสื้อผ้า พร้อมกระจกเงาไว้ส่องเช็กความเรียบร้อย นอกจากนั้นยังติดตั้งราวแขวนหมวกหรือกระเป๋าตรงผนังด้านข้างเพิ่มได้ด้วยค่ะ
Master Bathroom
Master Bathroom มีขนาด 1.65×2.65 เมตร ปูด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีการออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้เรียบร้อย และเลือกใช้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จาก Kohler เราชอบที่มีการก่อกำแพงด้านหลังสุขภัณฑ์เป็นพื้นที่วางอุปกรณ์ในห้องน้ำและของตกแต่งได้
ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.05×1.10 เมตร ยืนอาบน้ำได้ง่ายและเราสามารถหาซื้อฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาติดตั้งเพิ่มเองได้ เพื่อให้น้ำไม่กระเด็นไปเลอะบริเวณอื่น พร้อมติดตั้ง Hand Shower จาก Englefield และเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยเลย
โถงด้านหน้าห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง
ต่อมาเราจะพาเดินผ่านโถงทางเดินไปยังห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องนะคะ ซึ่งเราจะพาไปดูห้องนอนรอง 1 ที่อยู่ด้านหน้าบ้านกันก่อน แล้วค่อยพาไปยังห้องนอนรอง 2 ที่อยู่ฝั่งด้านหลังบ้านค่ะ
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 มีขนาด 2.80×3.45 เมตร สามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย วางเตียง 3-3.5 ฟุต พร้อมโต๊ะและตู้เสื้อผ้าด้านข้างเตียงนอนได้ สำหรับห้องนอนนี้จะไม่ได้มีช่องหน้าต่างใหญ่ตรงฝั่งด้านหน้าบ้าน แต่เน้นเปิดรับแสงธรรมชาติมาจากทางระเบียงมากกว่า จึงทำให้ห้องนอนนี้ได้ระเบียงขนาดใหญ่และมีความเป็นส่วนตัวดี
นอกจากนั้นทางโครงการได้ออกแบบมีระเบียงส่วนตัวภายในห้องนอนนี้ด้วย มีขนาด 1.40×2.25 เมตร ปูด้วยกระเบื้อง ขนาด 30×30 เซนติเมตร เราจึงสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งทำเป็นมุมนั่งเล่นรับลมชมวิวได้เลย หรือจะใช้เป็นมุมปลูกต้นไม้ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้านได้ดีค่ะ
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 ถือเป็นห้องนอนที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพราะไม่มีการแชร์ผนังร่วมกับห้องนอนอื่นๆเลย จึงไม่มีเสียงดังรบกวนนั่นเอง ภายในห้องมีขนาด 2.90×3.00 เมตร สามารถวางเตียง 3-3.5 ฟุต พร้อมโต๊ะและตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ หรือบ้านที่มีจำนวนสมาชิกไม่เยอะก็ปรับการใช้งานและตกแต่งเป็นห้องทำงานเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยนะคะ
ห้องน้ำใช้งานร่วมกันของห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง
ห้องน้ำส่วนกลางนี้จะอยู่ระหว่างห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง เพื่อสามารถเดินมาใช้งานร่วมกันได้สะดวก มีขนาด 1.40×2.50 เมตร ปูด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีการออกแบบเหมือนห้องน้ำอื่นๆทั้งการแบ่งโซนแห้ง-เปียกและติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก Englefield มีพื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.80 เมตร จึงยืนอาบน้ำได้สะดวก พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย นอกจากนั้นเราสามารถหาซื้อฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาติดตั้งเพิ่มได้ ทำให้น้ำไม่กระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นๆค่ะ สิ่งที่เราชอบในห้องน้ำของโครงการนี้คือมีช่องหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศในทุกห้องน้ำ จึงช่วยลดความอับชื้นภายในห้องน้ำได้ดีนั่นเอง
Otto (ออตโต้)ต่อมาเราพามาดูบ้านเดี่ยวของโครงการนี้กัน ได้แก่ Otto (ออตโต้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ ซึ่งแบบบ้านนี้ก็มีห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุได้ รวมถึงจอดรถได้ 3 คันและมีห้องน้ำในทุกห้องนอน ใช้งานได้สะดวก แต่ Highlight ของแบบบ้านนี้คือเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนตรงชั้น 2 จึงทำให้ได้ Double Master Bedroom ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้องเลยนั่นเอง
แต่เนื่องจากทางโครงการได้ใช้บ้านเดี่ยวนี้เป็น Sales Gallery ของโครงการด้วย จึงทำให้เราเก็บภาพบรรยากาศของบ้านเดี่ยวมาได้เพียงบางส่วน รวมถึงมีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เฉพาะชั้น 1 เท่านั้น ทำให้ภาพบรรยากาศของบริเวณชั้น 2 จะเป็นห้องโล่งๆเหมือนบ้านมาตรฐานที่ส่งมอบให้ลูกบ้าน เราจึงมีเขียนฟังก์ชันแต่ละพื้นที่บอกไว้ในภาพเพื่อให้ทุกคนสามารถนึกภาพตามกันได้ค่ะ
ชั้น 1
- ที่จอดรถ 3 คัน ด้านหลังที่จอดรถมี Junction Box รองรับ EV Charger
- มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
- โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดดและฝน และเฉลียงขนาดใหญ่ วางตู้เก็บรองเท้าและร่มได้สะดวก
- พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่อเนกประสงค์และพื้นที่รับประทานอาหาร
- ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุได้และมีประตูเปิดออกไปพื้นที่เฉลียงข้างบ้าน
- ห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำรองรับการใช้งานพร้อมกันได้
- ห้องครัว กั้นทำเป็นครัวไทยได้
- ลานซักล้าง สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้า
- ห้องเก็บของใต้บันได ช่วยเก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ชั้น 2
- ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ใช้งานได้สะดวก
- Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีมุมนั่งเล่นในห้องและพื้นที่ Walk – in Closet
- ห้องนอนรอง 1 ขนาดใหญ่เหมือนได้ Master Bedroom อีกห้อง พร้อมกั้นแบ่ง Walk – in Closet เป็นสัดส่วนและมีระเบียงส่วนตัว มายืนรับลมชมวิวได้
- ห้องนอนรอง 2 สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ มีพื้นที่ด้านข้างวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะ
ประตูรั้วหน้าบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนทำสีดำ พร้อมเดินสายไฟรอระบบอัตโนมัติไว้ให้ รวมถึงติดตั้งกริ่ง กล่องใส่พัสดุและถังขยะฝังกำแพงที่ช่วยพรางตาให้หน้าบ้านดูเรียบร้อยค่ะ
สำหรับพื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ 3 คัน มีโครงสร้างที่จอดรถในร่มเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน ส่วนที่จอดรถด้านหน้ากลางแจ้งเป็น Slab on Ground ส่วนวัสดุพื้นเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ นอกจากนั้นเราสามารถต่อเติมหลังคากันสาดเพิ่มได้ด้วยนะคะ ส่วนบริเวณด้านหลังของพื้นที่จอดรถได้ติดตั้ง IP Camera มาให้ 1 จุด พร้อม Junction Box รองรับ EV Charger รองรับกับเทรนด์สมัยใหม่ที่คนนิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
ประตูทางเข้า-ออกบ้านจะมีอยู่ 2 ทางด้วยกัน โดยประตูทางเข้ารองจะอยู่ติดกับพื้นที่จอดรถ ส่วนประตูทางเข้าหลักจะออกแบบเป็นซุ้มโถงทางเข้าค่ะ ซึ่งประตูทางเข้าบ้านทั้ง 2 ทางจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาให้ภายในบ้านดูสว่างดีเลย
ประตูทางเข้ารองจะติดตั้ง Digital Door Lock จาก My Haus มาเหมือนกับบ้านแฝดเลย แต่จะเลือกใช้เป็นคนละรุ่นกันค่ะ สามารถรองรับได้ 5 รูปแบบ ได้แก่ Fingerprint, Password, Card, Key และ Application ซึ่งนอกจากจะดูแลรักษาความปลอดภัยภายในบ้านแล้ว ยังได้ในเรื่องความสะดวกสบาย โดยเฉพาะคนที่ชอบลืม Keycard เข้าบ้านบ่อยๆ ก็ยังสามารถสแกนลายนิ้วมือหรือกดรหัสเข้าบ้านได้นั่นเอง
โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านก็ออกแบบมีชายคาคอยบังแดดและฝน พร้อมพื้นที่เฉลียงขนาดใหญ่ ปูเป็นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เราจึงใช้เป็นพื้นที่ตั้งชั้นวางรองเท้า ที่นั่งใส่รองเท้าและที่เก็บร่มได้เลยค่ะ ส่วนประตูทางเข้าหลักของบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ 2 ตอน เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวได้กว้างดี
Common Area
เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับ Common Area ที่ออกแบบเป็น Open Plan เหมือนรูปตัว T เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น, พื้นที่อเนกประสงค์และพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ประกอบกับมีหน้าต่างและประตูกระจกต่อเนื่องตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงหลังบ้าน ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้านดูสว่าง รวมถึงเปิดรับวิวสวนรอบบ้านได้กว้างด้วย
สำหรับความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.65 เมตร พร้อมติดตั้งไฟ LED แบบดาวน์ไลท์, ผนังภายในบ้านติด Wallpaper มาให้ทั้งหลัง (ยกเว้นห้องครัว) และวัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าบ้านเลย โดยเราสามารถตกแต่งเหมือนทางบ้านตัวอย่างได้เลยนะคะ ทั้งจัดเป็นโซฟา 3 ที่นั่งและมีโซฟาด้านข้าง พร้อมโต๊ะกลางและ Built-in ชั้นวางทีวี มีพื้นที่ทางเดินเหลือให้เดินเข้า-ออกบ้านได้กว้าง
พื้นที่อเนกประสงค์
พื้นที่อเนกประสงค์จะอยู่ถัดจากพื้นที่นั่งเล่น เราจึงสามารถกั้นกระจกหรือผนังเบาเพื่อปิดเป็นห้องได้เหมือนกันนะคะ แต่อย่างบ้านตัวอย่างจะไม่ได้กั้นผนังเพิ่มก็ทำให้ได้บรรยากาศภายในบ้านที่โปร่งสบายดีนั่นเอง ซึ่งทางลูกบ้านสามารถปรับพื้นที่นี้ได้ตามการใช้งานเลย จะใช้เป็นมุมนั่งเล่นอีกจุด พื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่ของเล่นของเด็กหรือพื้นที่ของสัตว์เลี้ยงก็ได้ค่ะ
สำหรับ Common Area ที่ออกแบบเป็นพื้นที่รูปตัว T จึงทำให้มีพื้นที่ยื่นไปอีกฝั่งของชั้น 1 โดยพื้นที่นี้จะใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารนั่นเอง ส่วนด้านข้างจะเป็นบันได ห้องเก็บของใต้บันได ห้องน้ำ ห้องครัวและห้องนอนชั้นล่างค่ะ
พื้นที่รับประทานอาหาร
พื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ใกล้ๆกับประตูทางเข้ารองจากพื้นที่จอดรถเลย โดยสามารถจัดเป็นโต๊ะ 6 ที่นั่งได้สบายๆ รวมถึงสามารถแขวนทีวี เพื่อดูข่าว หนังหรือซีรีส์ พร้อมกับรับประทานอาหารได้ด้วย หรือจะ Built-in เป็นชั้นวางของก็ได้เหมือนกันค่ะ
ถัดจากพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นโถงทางเดินไปยังฟังก์ชันอื่นๆ โดยห้องนอนชั้นล่างอยู่ทางขวาของภาพ ส่วนทางซ้ายจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง และห้องครัวจะอยู่ด้านในสุด ซึ่งทั้ง 3 ห้องนี้ถูกใช้เป็นห้องของพนักงานขายประจำโครงการในปัจจุบัน จึงทำให้เราไม่ได้เก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมกันนะคะ
แต่จากที่เราสังเกตแปลนบ้านจะเห็นว่าห้องครัวมีพื้นที่ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว L พร้อมพื้นที่ตั้งตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ส่วนด้านข้างมีประตูเปิดไปยังลานซักล้าง เพื่อซักผ้า ตากผ้าได้ ส่วนห้องนอนชั้นล่างก็สามารถใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ มีพื้นที่วางเตียง โต๊ะและตู้เสื้อผ้า รวมถึงห้องน้ำชั้นล่างก็อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องนอนจึงมาเข้าห้องน้ำได้ง่ายและภายในห้องน้ำก็มีพื้นที่อาบน้ำ เพื่อใช้งานได้สะดวกด้วย
สำหรับโครงสร้างบันไดเป็นแบบ Precast และปิดผิวด้วยพื้นไม้ยางพารา มีความกว้างบันไดประมาณ 1.05 เมตร ลูกนอนกว้างประมาณ 25 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. ส่วนด้านข้างมีมือจับเป็นไม้สำเร็จรูปทำสีเหมือนตัวบันได พร้อมช่องหน้าต่างดึงแสงธรรมชาติเข้ามา ทำให้โถงบันไดดูไม่มืดทึบ นอกจากนั้นมีห้องเก็บของใต้บันไดจึงเก็บของ อุปกรณ์หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ได้
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นชั้น 2 เป็นพื้น SPC ลายไม้ ให้บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อน และมีความสูงของพื้นชั้น 2 ถึงฝ้าเพดานเท่ากับชั้น 1 อยู่ที่ 2.65 เมตร
สำหรับการออกแบบพื้นที่ชั้น 2 จะเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนขนาดใหญ่แทนพื้นที่บริเวณโถงชั้น 2 จึงทำให้บ้านเดี่ยวนี้จะไม่มี Family Area เหมือนโครงการอื่นๆนะคะ เพราะทางโครงการมองว่ามีพื้นที่อเนกประสงค์ตรงชั้น 1 แล้ว รวมถึงคนส่วนใหญ่อยากได้มุมนั่งเล่นแบบส่วนตัวภายในห้องนอนกันมากกว่าด้วยนั่นเอง
ทำให้ทางโครงการออกแบบเป็น Double Master Bedroom มีห้องนอนขนาดใหญ่เหมือน Master Bedroom 2 ห้องค่ะ มีทั้งตำแหน่งที่อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน เปิดรับแสงและวิวได้กว้าง หรือห้องแนวยาวจากหน้าบ้านถึงหลังบ้าน พร้อมพื้นที่ Walk-in Closet กั้นเป็นสัดส่วนและระเบียงส่วนตัว นอกจากนั้นมีห้องนอนรองอีกห้องอยู่ฝั่งด้านหลังบ้านที่ไม่มีการแชร์ผนังร่วมกับห้องนอนอื่นเลย จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วย
Master Bedroom
อย่างที่เราได้มีเกริ่นไปแล้วนะคะว่าทางโครงการได้ใช้บ้านเดี่ยวนี้เป็น Sales Gallery ของโครงการและไม่ได้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์บริเวณชั้น 2 ทำให้บรรยากาศของชั้น 2 เป็นพื้นที่โล่งๆค่ะ แต่เรามีเขียนบอกฟังก์ชันแต่ละจุดไว้ เพื่อให้ทุกคนนึกภาพตามกันได้นะคะ
เราพามาดู Master Bedroom ที่อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้านกันก่อนเลย โดยทางโครงการออกแบบมีหน้าต่างเปิดรับวิวหน้าบ้านหลายจุด ทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งสบาย ส่วนขนาดห้องอยู่ที่ 4.00×6.50 เมตร มีพื้นที่วางเตียง 6 ฟุตและโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง รวมถึงทำมุมนั่งเล่น พร้อมตั้งชั้นวางทีวีตรงปลายเตียงได้สบายๆเลยค่ะ นอกจากนั้นบริเวณด้านข้างเตียงนอนจะมีระเบียงเล็กๆ ขนาด 0.65×1.40 เมตร ใช้เป็นมุมต้นไม้ได้ด้วยค่ะ
ส่วนฝั่งตรงข้ามของพื้นที่เตียงนอนจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 2.80×3.10 เมตร ใช้เป็นพื้นที่ Walk-in Closet แบบ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้าได้เลย รวมถึงอยู่ด้านหน้าของ Master Bathroom ด้วย จึงทำให้อาบน้ำเสร็จก็เดินมาเลือกเสื้อผ้าแต่งตัวได้สะดวกดี
Master Bathroom
Master Bathroom มีขนาด 1.35×2.70 เมตร ออกแบบเหมือนห้องน้ำห้องอื่นๆเลย มีการแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้ชัดเจน ปูด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร และติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก Englefield มีพื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.90 เมตร พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย แต่ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้นะคะ เราจึงสามารถหาซื้อเพิ่มเองได้ ทำให้น้ำไม่กระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นค่ะ
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 มีขนาดใหญ่ 3.90×5.15 เมตร จึงถือเป็น Double Master Bedroom ได้เลย มีการออกแบบเหมือนกับ Master Bedroom ในบ้านแฝด Hannah ที่เราพาไปดูกันมาก่อนหน้านี้เลยนะคะ ซึ่งนอกจากจะวางเตียง 6 ฟุต ตั้งโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งและชั้นวางทีวีตรงปลายเตียงได้สบายๆ มีพื้นที่รอบเตียงกว้าง เดินได้สะดวกแล้ว ยังมีมุมนั่งเล่นหรือนั่งทำงานภายในห้องได้ด้วย
ส่วนด้านข้างจะมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ 1.85×3.65 เมตร เพื่อทำเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ได้สบาย เราชอบที่บริเวณระเบียงนี้จะมีความสูงเท่ากับจั่วของหลังคาเลย จึงทำให้ได้บรรยากาศโปร่ง ไม่อึดอัดค่ะ
สำหรับห้องนอนนี้มีการกั้นผนังแบ่งส่วนของพื้นที่ Walk-in Closet มาให้เรียบร้อย ช่วยแบ่งแยกโซนได้ชัดเจนดี มีขนาด 2.00×2.40 เมตร ทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้สบายและมีห้องน้ำในตัวอยู่ด้านข้างพื้นที่ Walk-in Closet ให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน เราแนะนำให้ติดตั้งประตูหรือผ้าม่านกั้นเพิ่ม เพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้นจากเสื้อผ้าและห้องน้ำด้วยนะคะ
ห้องน้ำของห้องนอนรอง 1
ห้องน้ำของห้องนอนรอง 1 มีขนาด 1.80×2.40 เมตร ออกแบบเหมือนห้องน้ำห้องอื่นๆเลย ปูพื้นด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร พร้อมออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้ชัดเจน เลือกใช้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จาก Kohler ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีความกว้าง 1.00 เมตร พร้อมติดตั้ง Hand Shower จาก Englefield และเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 นี้จะแยกอยู่ฝั่งหลังบ้านอยู่ห้องเดียว รวมถึงไม่มีการแชร์ผนังห้องนอนร่วมกับห้องนอนอื่น จึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดค่ะ โดยภายในห้องมีขนาด 2.90×5.20 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ มีพื้นที่บริเวณประตูห้องสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้ด้วย
ส่วนห้องน้ำในตัวมีขนาด 1.35×2.70 เมตร ก็ออกแบบเหมือนห้องน้ำอื่นๆทั้งปูพื้นด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีการออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้เป็นสัดส่วน และติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก Englefield ส่วนพื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.90 เมตร พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยค่ะ รวมถึงเราสามารถหาซื้อฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาติดตั้งเพิ่มเองได้ น้ำจะได้ไม่กระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นนั่นเอง
ราคา
Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) ราคา ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567
- Hannah (ฮันน่า) บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท - Otto (ออตโต้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท - ค่าจอง 20,000 บาท
- ค่าทำสัญญา 30,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 65,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการมีทางเข้า-ออกติดถนนใหญ่ ทางหลวง 345 ใกล้แยกบางคูวัด ถึงแม้จะอยู่ในแถบชานเมือง แต่บริเวณรอบข้างส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยที่ขยับขยายออกมาจากในตัวเมือง จึงถือเป็นทำเลที่สะดวกสบาย สามารถเชื่อมต่อถนนหลายเส้นทางทั้งถนนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์และกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วน 2 สายทั้งกาญจนาภิเษกและอุดรรัถยา สำหรับความอุดมสมบูรณ์หลักจะอยู่บนเส้นราชพฤกษ์ มีทั้ง Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์, HomePro ชัยพฤกษ์ และ Lotus’s North ราชพฤกษ์ ส่วนโรงเรียนและโรงพยาบาลก็อยู่ในระยะ 6 กิโลเมตร
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ทางเข้า-ออกเป็นแบบ Double Security Gate โดยประตูรั้วเป็นแบบรั้วกั้นไม้กระดก ซึ่งประตู Gate 1 จะใช้ร่วมกับโครงการแรก ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ สำหรับ Gate 2 จะใช้ระบบเข้า-ออกแบบจดจำป้ายทะเบียนและผ่าน App Myhaus ให้ผู้มาติดต่อเข้าโครงการได้ด้วย QR Code พร้อมกล้อง CCTV ที่ Main Gate 4 ตัวและภายในโครงการ 9 จุด, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และรั้วทึบรอบโครงการสูง 2.5 เมตร ส่วนตัวบ้านจะได้ Digital Door Lock จาก My Haus และ IP Camera 1 ตัว บริเวณพื้นที่จอดรถ ช่วยดูแลความปลอดภัยรอบตัวบ้านค่ะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
ถือเป็นโครงการบ้านจัดสรรขนาดเล็ก มียูนิตน้อยสุดบนทำเลเพียง 46 หลัง เน้นบรรยากาศภายในโครงการที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน ได้ความเป็นส่วนตัวสูง พร้อมพื้นที่ส่วนกลางแนวยาว บริเวณกลางโครงการ ช่วยให้ลูกบ้านใช้งานได้ทั่วถึงดี เน้นฟังก์ชันพักผ่อนแบบ Passive Facilities และที่เราชอบคือจัดโซนบ้านได้น่าสนใจมีทั้งบ้านติดถนนหลัก เข้าออกง่าย, บ้านอยู่ในซอย มีเพื่อนบ้านเพียง 4 หลังและโซนบ้านล้อมสวน เปิดรับวิวสีเขียว สำหรับทิศของบ้านส่วนใหญ่หันไปทางทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือที่จะได้แดดอ่อนๆในตอนเช้าค่ะ
แบบบ้านของโครงการจะมีเพียง 2 แบบบ้าน รองรับ 4 ห้องนอน มีห้องนอนชั้นล่างทุกหลัง ทำเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุหรือปรับเป็นห้องทำงานได้ โดดเด่นเรื่องพื้นที่ใช้สอยใหญ่ ราคาคุ้มค่า เพราะเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านที่มีขนาดพอๆกัน โครงการนี้มีราคาที่ดีกว่า บ้านแฝดเริ่มไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่ได้ถึง 4 ห้องนอน พร้อมออกแบบผนังที่แชร์กับเพื่อนบ้านเฉพาะชั้น 1 ทำให้บริเวณห้องนอนบนชั้น 2 ไม่มีผนังติดกับเพื่อนบ้าน จึงได้ความเป็นส่วนตัว และบ้านเดี่ยวก็ออกแบบเน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้าน ได้ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้องแบบ Double Master Bedroom นั่นเอง
วัสดุ :
รูปแบบการขายเป็นบ้านเปล่าๆแบบ Fully Fitted มีโครงสร้างบ้านเป็น Precast จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวและเก็บเสียงได้ดี แต่ไม่เหมาะกับการทุบต่อเติมมากนัก พื้นที่จอดรถในร่มเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน ที่จอดรถด้านหน้ากลางแจ้งและลานซักล้างเป็น Slab on Ground พื้นคอนกรีตฉาบเรียบ ส่วนพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้และพื้นชั้น 2 เป็น SPC ลายไม้ สำหรับสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก Englefield และ Kohler นอกจากนั้นมีจัดสวนรอบบ้านตามมาตรฐานโครงการ ได้แก่ สนามหญ้า, ไม้พุ่มบริเวณรั้วหน้าบ้านและต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น มีทั้งหมด 4 ชนิดตามสี Facade บ้าน ได้แก่ สีเขียว : ต้นปีบ/สนฉัตร, สีแดง : ต้นอินทนิล/ชงโคฮอลแลนด์, สีเหลือง : ต้นเหลืองปรีดายาธร และสีน้ำเงิน : ต้นกระพี้จั่น
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
ทางโครงการจัดสวนและปลูกต้นไม้ทั้งเล็ก-ใหญ่ตลอดแนวถนนตั้งแต่ซุ้มประตูโครงการมายังด้านในโครงการ ทำให้ได้บรรยากาศร่มรื่นเวลาเข้า-ออกโครงการ สำหรับพื้นที่สวนส่วนกลางเป็นสวนแนวยาวมีขนาด 1 งาน 78.8 ตร.วา เป็นวิวสวนสีเขียวให้กับโซนบ้าน พร้อมเลือกพันธุ์ต้นไม้ที่ช่วยเรื่องการดูดซับคาร์บอนภายในโครงการด้วย แต่พื้นที่สวนนี้ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ จากที่เราได้เห็นภาพบรรยากาศจำลองของสวนนี้แล้ว เราคาดว่าพื้นที่สีเขียวนี้จะสร้างบรรยากาศร่มรื่นและความน่าอยู่อาศัยภายในโครงการได้ดีเลยค่ะ
สาธารณูปโภค :
เนื่องจากโครงการนี้จัดเป็นโครงการขนาดเล็กจึงทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางไม่มากนัก โดยอยู่บริเวณกลางโครงการ เน้นเป็นพื้นที่พักผ่อนและ Passive Facilities มีอาคาร Common Space ที่มีพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ส่วนสวนสีเขียวประกอบด้วย Playground, เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง และ Pet Zone พร้อมต้นไม้ที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง โดยได้รับคำปรึกษาร่วมกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ซึ่งปัจจุบันส่วนกลางนี้ก็ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 4.99-7.29 ล้านบาท, 26 พฤศจิกายน 2567
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนทางหลวง 345 เข้า-ออกได้หลายทาง ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก
- ความปลอดภัย 7.5/10 – Double Security Gate, เข้า-ออกด้วยระบบจดจำทะเบียนรถ/ ผ่าน App Myhaus, รปภ. 24 ชม., CCTV รวม 13 ตัว, Digital Door Lock และ IP Camera 1 ตัว Sensor ในบ้านทุกหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – ยูนิตน้อย เป็นส่วนตัว มีโซนบ้านล้อมสวน บ้านรองรับ 4 ห้องนอนทุกหลัง
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ เหมาะสมกับการใช้งาน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – เป็นสวนแนวยาวตรงกลางโครงการ ใช้งานได้ง่าย มีการปลูกไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวถนน
- สาธารณูปโภค 7/10 – เป็นโครงการเล็ก จึงมีส่วนกลางให้ใช้งานไม่มากนัก เน้นเป็นพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่สีเขียว
- 7.5 / 10.00
Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) เหมาะกับใคร
โครงการ Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 (ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านในย่านนนทบุรี-ปทุมธานี เข้า-ออกเมืองได้ง่าย ชอบทำเลที่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ ไม่ไกลจากตัวเมือง ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง บรรยากาศเงียบสงบภายในโครงการ ไม่ได้เน้นใช้งานพื้นที่ส่วนกลางมากนัก มีห้องนอนชั้นล่างทุกหลัง รองรับผู้สูงอายุหรือกิจกรรมอื่นๆได้ อีกทั้งยังจัดโซนบ้านได้น่าสนใจ มีโซนติดถนนหลัก โซนบ้านในซอยและโซนบ้านล้อมสวนให้เลือก มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 4.99 – 7.29 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 29,940-51,030 บาท
ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่