Panara เทพารักษ์ โครงการบ้านเดี่ยวมีทั้งแบบ 2 และ 3 ชั้นในย่านบางพลี ซึ่งได้ทำเลดีอยู่ติดถนนใหญ่เทพารักษ์ เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง โดยเราสรุป 4 Highlights ที่น่าสนใจของโครงการออกมาได้ดังนี้ค่ะ
- ทำเล : อยู่ติดถนนใหญ่เทพารักษ์ เดินทางสะดวกไม่ต้องเข้าซอย
- ฟังก์ชันและการออกแบบบ้าน : ให้มามากสุดถึง 5 ห้องนอน รองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ หรือจะอยู่แบบ 3 Generation ก็ได้
- ทุบต่อเติมได้ : ใช้โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูนจึงสามารถต่อเติม เชื่อมห้องต่างๆ ได้ทั้งหมดนะคะ
- ความเป็นส่วนตัว : ตำแหน่งบ้านส่วนใหญ่เป็นแปลงมุม และแต่ละซอยมีจำนวนเพื่อนบ้านแค่ 4-6 ยูนิต
บรรยากาศจะเป็นอย่างไรตามไปชมกันเลยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Panara Thepharak (พานารา เทพารักษ์) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564
ชื่อโครงการ | Panara Thepharak (พารานา เทพารักษ์) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แคลลิสโต้ โฮลดิ้งส์ จำกัด ในกลุ่มบริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์ส จำกัด |
SEGMENT CLASS | UPPER – HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนเทพารักษ์ อำเภอบางพลี |
ที่ดิน | 29-1-40.8 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 129 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.7-5.6 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 50,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2562 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2564 (บางส่วน) |
เว็บไซต์โครงการ | https://panaravillas.com/ |
โทร | 099-185-3333 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- โครงการอยู่ติดถนนใหญ่เทพารักษ์ เดินทางสะดวกไม่ต้องเข้าซอย
- ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ทั้งตลาด, Hypermarket โรงเรียนและโรงพยาบาล
พิกัด Google Maps : 13.597632, 100.729204
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ Panara เทพารักษ์ ค่ะ
โครงการ Panara เทพารักษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่ที่อยู่ในระดับราคา 7 ล้านขึ้นไปถึงสิบล้านปลายๆ ที่ขยับขยายออกมาจาก Hub ใหญ่บางนา-ตราด ตรงเมกา บางนา ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ใครหลายคนทำงานหรือใช้ชีวิตในโซนเทพารักษ์ แพรกษา บางพลีเป็นหลัก
ในย่านนี้ส่วนใหญ่เราจะเห็นบ้านให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ทาวน์โฮมขนาดกะทัดรัดไปจนถึงบ้านเดี่ยวระดับที่ดิน 100 ตร.วาขึ้นไป เพราะเป็นทำเลที่มีการอยู่อาศัยของคนหลายระดับด้วยกันตั้งแต่พนักงานโรงงาน ไปยังถึงเจ้าของกิจการโรงงานทั้งเล็กใหญ่ในย่านเทพารักษ์ แพรกษา บางพลี เพื่อที่จะไปทำงานได้สะดวก ใกล้ๆ บ้าน ขับรถใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังใกล้ตัวช่วยในการเดินทางอย่างวงแหวนกาญจนาภิเษกและทางด่วนบูรพาวิถีด้วยค่ะ
ซึ่งจุดเด่นของถนนเทพารักษ์นี้คือ เป็นถนนหลักยาวๆ ที่เชื่อมถนนสายสำคัญๆ ตั้งแต่ถนนสุขุมวิท-ถนนศรีนครินทร์-ถนนกิ่งแก้ว-ถนนตำหรุบางพลี ไปจนถึงถนนบางบ่อ-คลองด่าน จึงมีทางเลือกในการเดินทางหลากหลาย ทะลุออกไปโซนสำโรง บางปู บางพลี บางบ่อ ได้ครบหมด แต่ก็จัดเป็นโซนที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักนะคะ
ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ในระยะใกล้ๆ ก็จะมีเป็นพวก Hyper Market และตลาดให้ไปช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านได้ อย่าง Big C บางพลี, ตลาดกุลธร, Tesco Lotus Express, ตลาดนัดเรือบิน เป็นต้น แต่หากอยากไปห้างใหญ่ก็ขยับไปที่ถนนบางนา-ตราด ก็จะมีเมกา บางนา ที่นอกจากจะมีของกิน ของใช้ ร้านอาหารแล้วก็ยังมี IKEA อยู่ด้วยเช่นกัน เรียกว่าค่อนข้างครบเลยทีเดียว หรือจะเป็น Homepro Market Village ที่ภายในมี Lotus ขนาดใหญ่ ส่วนโรงพยาบาลในละแวกก็มีให้เลือกพอสมควรและโรงเรียนก็มีให้เลือกทั้งของไทยและนานาชาติค่ะ
ตัวช่วยในการเดินทาง
จากโครงการ Panara เทพารักษ์ มีถนนกาญจนาภิเษกให้ใช้ในระยะ 7.9 กิโลเมตร สามารถไปทางพระราม 2 หรือจะไปลาดกระบังก็สะดวก
อีกตัวช่วยหนึ่งก็คือที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการก็คือ ทางด่วนบูรพาวิถี โดยผ่านทางซอยวัดหลวงพ่อโตจะมีระยะห่างประมาณ 7.5 กิโลเมตร (ตามใน Google Map) หรือจะใช้ถนนหลักอย่างกิ่งแก้ว ก็สามารถตรงเข้าเมืองไปเชื่อมต่อทางด่วนอื่นๆ ที่สี่แยกบางนาได้
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สรุปสภาพแวดล้อมรอบโครงการ Panara เทพารักษ์ ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าและหมู่บ้านพักอาศัย แต่ในละแวกรอบๆ จะเห็นมีพวกหอพักอยู่เยอะเพราะโซนใกล้ๆ มีแหล่งงานอยู่หลายแห่ง โดยรวมจึงไม่ได้มีประเด็นอะไรในการพักอาศัยนะคะ
บรรยากาศบริเวณหน้าโครงการที่ติดกับถนนใหญ่ ซึ่งจัดเป็นข้อดีของโครงการเลย เพราะหมู่บ้านโซนนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในซอย ทำให้ที่นี่เดินทางเข้า-ออกได้สะดวกค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ตลาดกุลธร ~ 1.9 กิโลเมตร
- Tesco Lotus Express ~ 2.8 กิโลเมตร
- Big C บางพลี ~ 2.9 กิโลเมตร
- ตลาดโบราณบางพลี ~ 3.3 กิโลเมตร
- ตลาดนัดเรือบิน ~ 3.8 กิโลเมตร
- ตลาดสดบางพลี ~ 4.1 กิโลเมตร
- Market Village สุวรรณภูมิ โฮมโปร ~ 6.2 กิโลเมตร
- Lotus สุวรรณภูมิ ~ 6.6 กิโลเมตร
- เมกา บางนา ~ 10 กิโลเมตร
- Central Village ~ 12.2 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- รพ. จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ~ 1.1 กิโลเมตร
- รพ. บางพลี ~ 2.8 กิโลเมตร
- รพ. จุฬารัตน์ 1 ~ 6.4 กิโลเมตร
- รพ. เซ็นทรัลปาร์ค ~ 6.7 กิโลเมตร
- รพ. สินแพทย์ เทพารักษ์ ~ 9.9 กิโลเมตร
โรงเรียน
- รร. วัดบางพลีใน ~ 2.4 กิโลเมตร
- รร.สาธิตบางนา ~ 4.2 กิโลเมตร
- รร. สารสาสน์วิเทศ สุวรรณภูมิ ~ 5.1 กิโลเมตร
- รร. คลองบางกระบือ ~ 6.4 กิโลเมตร
- รร. เตรียมปริญญานุสรณ์ ~ 6.5 กิโลเมตร
- รร. นานาชาติไทย-จีน ~ 6.7 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ~ 7.2 กิโลเมตร
- รร. ปทุมคงคา สมุทรปราการ ~ 8.9 กิโลเมตร
- รร. สุวรรณภูมิเทคโนโลยีและบริหารธุรกิจ เซาธ์อีสท์บางกอก ~ 9.3 กิโลเมตร
- รร. ราชวินิต บางแก้ว ~ 11.6 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ~ 16.4 กิโลเมตร
สถานที่ราชการ
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีเทพา ~ 12.1 กิโลเมตร (โครงการในอนาคต)
- นิคมอุตสาหกรรมบางปู ~ 14.1 กิโลเมตร
- สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 20.3 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- บ้านส่วนใหญ่ของโครงการเป็นแปลงมุม แต่ละซอยมีจำนวนเพื่อนบ้านแค่ 4-6 ยูนิต จึงได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
- โครงการวางผังให้บ้านทุกหลังหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ แดดไม่เข้าบ้านโดยตรงและสามารถรับลมได้ดี
- Clubhouse ฟังก์ชันครบ แชร์กับกับเพื่อนบ้านไม่เยอะเพียง 129 ยูนิต
มาดูที่ตัวโครงการ Panara เทพารักษ์ เป็นโครงการประเภทบ้านเดี่ยว ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 29 ไร่กว่าๆ โดยมีบ้านรวมทั้งหมด 129 หลัง แม้ว่าโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่ แต่โซนพักอาศัยจะขยับเข้ามาด้านในอีกนิดนึง ช่วยลดความวุ่นวายจากบริเวณถนนใหญ่ลงมาได้
การวางผังโครงการนี้จะเน้นเรื่องความสงบ เป็นส่วนตัวในการพักอาศัยเป็นหลัก โดยที่นี่จะไม่มีแปลงบ้านที่หันหน้าเข้าหาถนนหลักเลยนะคะ ทุกหลังจะหันหน้าเข้าซอย ซึ่งทุกซอยมีจำนวนบ้านเพียงแค่ 4-6 หลังเท่านั้นเองค่ะ ส่วนตัวบ้านจะหันทางทิศเหนือและใต้โดยบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงที่มากกว่าและได้ลมที่แรงกว่าด้วยเช่นกัน
ตำแหน่ง Facility ส่วนกลางจะวางไว้ตรงกลางโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านทุกคนมาใช้งานได้สะดวก โดยขนาดของสวนและ Clubhouse รวมแล้วประมาณ 2 ไร่ แบบบ้านของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบค่ะ
ทางเข้าโครงการจะมีป้ายข้างหน้าอยู่ติดถนนใหญ่ แต่ว่าซุ้มประตูโครงการจริงๆ จะขยับเข้าไปด้านในอีกหน่อย ช่วยลคความวุ่นวายจากบริเวณถนนลงได้นะคะ
โครงการออกแบบซุ้มทางเข้าโครงการมาในสไตล์ Modern Luxury ดูเก๋ๆ ด้วยการเล่นระดับหลังคาซ้อนกันเป็นชั้นๆ ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีดำลายหินอ่อนให้ดูหรูหราขึ้น
ด้านข้างตกแต่งด้วยน้ำพุเพื่อสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายเหมาะกับการเข้าสู่พื้นที่พักอาศัย
ประตูเป็นไม้กระดกกั้น เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass แบบทางด่วน ซึ่งแยกช่องทางเข้าไว้เป็น 2 ทาง ถ้าเป็นรถลูกบ้านก็เข้าเลนซ้าย เจ้าไม้กระดกก็จะเปิดออกให้อัตโนมัติ
ส่วนแขกของลูกบ้านก็เข้าเลนขวาไปเพื่อติดต่อแลกบัตร แบบนี้ดีนะคะ ลูกบ้านก็สามารถเข้าโครงการได้ทันที ไม่ต้องมาต่อคิวรถที่รอแลกบัตรค่ะ
ถนนหลักภายในโครงการมีขนาดได้มาตรฐาน 12 เมตร ซึ่งทั้ง 2 ข้างทางมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ไปตลอดแนว ได้บรรยากาศร่มรื่นดีมาก แต่ลูกระนาดถนนจะเยอะสักหน่อย แต่เค้าก็ทำเพื่อชะลอความเร็วในการขับรถ เพื่อความปลอดภัยในโครงการค่ะ
ตรงเข้ามาเรื่อยๆ บริเวณกลางโครงการจะเจอกับ สวนหย่อม+Clubhouse ซึ่งวางตำแหน่งไว้กลางโครงการเลย ทำให้ลูกบ้านทุกหลังมาใช้งานได้สะดวก มีระยะไม่ห่างกันมากนักนะคะ
มาดูที่สวนส่วนกลางกันก่อน มีขนาดประมาณ 1 ไร่ ภายในจะทำเส้นทางสำหรับเดิน/วิ่ง ไว้เป็นเส้นทางคอนกรีตจึงใช้งานง่าย มีต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่น แต่ด้วยสภาพอากาศเมืองไทยเราคิดว่าเหมาะกับการมาเดินเล่นหรือวิ่งจ๊อกกิ้งในช่วงเช้าๆ หรือเย็นๆ ที่แดดร่มมากกว่านะคะ
นอกจากต้นไม้ในสวนแล้ว ก็จะมีสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นกลางแจ้งไว้ให้ ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
โดยเค้าจะวางตำแหน่งสนามเด็กเล่นไว้ด้านในสุด ให้ไกลจากถนน เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งของถนนเราจะเห็นอาคาร Clubhouse อยู่ตรงข้ามสวนส่วนกลางพอดี
โดยที่เจ้า Clubhouse นี้ออกแบบมาในสไตล์ Modern เช่นกัน เป็นอาคารชั้นเดียวแต่เพิ่มความสูงของหลังคาเป็นพิเศษ เป็นทรงเพิงหมาแหงนขนาดใหญ่จึงดูเก๋ๆ ดีนะคะ
ด้านข้าง Clubhouse จะมีพื้นที่จอดรถข้างอาคารได้ 4 คัน เผื่อลูกบ้านอยากขับรถมาว่ายน้ำ เล่นฟิตเนส ก็จอดรถได้สะดวก
ภายใน Fitness มีเครื่องเล่นอยู่ประมาณ 8 เครื่องนะคะ แบ่งออกเป็นลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน Weight Trainning และมุมดัมเบล นับว่ามีให้ครบค่ะ วิวจากฟิตเนสก็สามารถมองออกไปเห็นสระและสวนได้พอดี
อาคารฝั่งที่ติดกับถนนเป็นฝั่งทิศตะวันตก ทางโครงการจึงเพิ่มระแนงบังแดดมาให้ด้วย
ภายใน Lobby มีโต๊ะเก้าอี้ ชุดโซฟาเอาไว้สำหรับมานั่งเล่น ทำงานหรือใช้รับรองแขกได้
ตำแหน่งของ Lobby ถือว่าได้วิวดีเลยนะคะ มองเห็นสระว่ายน้ำและถ้ามองเลยไปอีกหน่อย จะได้วิวเขียวๆ ของสวนส่วนกลางอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีมุมนั่งเล่นแบบ Outdoor อยู่ริมสระอีกมุมหนึ่ง
สำหรับสระว่ายน้ำของที่นี่เป็นสระกลางแจ้ง ระบบเกลือ ขนาดมาตรฐานประมาณ 5 x 13 เมตร ใช้ว่ายออกกำลังกายได้
ข้างๆกันจะแยกเป็นสระว่ายน้ำเด็กไว้ เป็นสระกลางแจ้งเช่นเดียวกัน แต่ข้างสระจะมี Sunbed ไว้ให้ผู้ปกครองนั่งดูเด็กๆ ว่ายน้ำเล่นได้แบบใกล้ชิด
อีกโซนนึงในสระว่ายน้ำที่น่าจะถูกใจแกงค์สาวๆที่มีปัญหาปวดเมื่อย ก็จะมี Jacuzzi ให้นั่งนวดตัวผ่อนคลายด้วยค่ะ
ใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำจะมีห้องน้ำส่วนกลาง ซึ่งจัดฟังก์ชันมาให้ครบทั้งห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ , Sauna และ Locker สำหรับเก็บของ
บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำดูเรียบร้อย สะอาดสะอ้านดี
ภายในห้องน้ำทั้งหญิงและชายจะ มีห้อง Sauna ด้วยนะคะ เข้าใช้งานได้ครั้งละประมาณ 2 ท่านค่ะ
ปิดท้ายส่วนกลางด้วยบรรยากาศของถนนซอยย่อยที่มีบ้านพักอาศัย ซึ่งส่วนใหญ่จัดเป็นซอยตันมีความกว้างอยู่ที่ 9 เมตร มีเพื่อนบ้านประมาณ 4-6 หลังเท่านั้น และการเดินสายไฟเข้าบ้านบางส่วนของโครงการนี้จะเป็นสายไฟลงดิน (แต่ยังมีตัวเสาตั้งไว้นะ) อย่างไรก็ช่วยให้บรรยากาศดูเรียบร้อยขึ้นกว่าการเดินสายไฟแบบทั่วไปค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบ เกลือ ขนาด 5 x 13 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกโซนสระเด็ก
- Jacuzzi
- ห้องออกกำลังกาย
- Lobby
แบบบ้าน
Highlight
- แบบบ้านมีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบ 2 และ 3 ชั้น มีขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เลือกตั้งแต่ 182 – 367 ตร.ม. และขนาดที่ดินก็มีให้เลือกตั้งแต่ ประมาณ 50 ตร.วา ไปจนถึง 120 ตร.วา เลยค่ะ
- ฟังก์ชันที่นี่ได้ถึง 5 ห้องนอน ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกในบ้าน 2-3 Generation อยู่ร่วมกัน
- ใช้โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน (Conventional) จึงสามารถทุบต่อเติมเชื่อมห้องต่างๆ ได้ทั้งหมดนะคะ
- นำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ในบ้าน โดยให้มาทั้ง Home Automation และระบบระบายอากาศ
สำหรับแบบบ้านในโครงการ Panara เทพารักษ์ ที่ขายอยู่ในปัจจุบันมี 3 แบบ ดังนี้
- PRIDE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50.6-58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท - PRECIOUS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50.5-65.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท - PRESTIGE บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 52.5-120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 367 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 16.6 ล้านบาท
โครงสร้างและวัสดุ
- ระบบโครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน (Conventional) ทุบต่อเติมได้ทั้งหลัง
- ที่จอดรถลงเสาเข็มสั้น จำนวน 42-48 ต้น
- ลานซักล้างหลังบ้าน นำโครงสร้างฝากไว้กับคานหลักของตัวบ้าน
- พื้นชั้นล่าง – ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน
- พื้นชั้นบน – ปูด้วยไม้ลามิเนต
- บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน
- ลิฟต์ของ Hitachi
- สุขภัณฑ์ American Standard
- ติด Wallpaper ทั้งหลัง
- ไฟ LED
- Smart Home Automation สั่งงานผ่าน Applications ได้
- Digital Door Lock ของ KEYWE
- IP Camera บริเวณโรงจอดรถ
- Fresh Air System ที่ชั้น 1
- Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างชั้น 1 ทั้งหมด
- Motion Sensor
- EV Charger (เฉพาะแบบบ้าน PRESTIGE)
แบบบ้าน PRESTIGE
บ้านหลังแรกที่จะพามาชมกันก็คือแบบใหญ่สุด มี 3 ชั้น แหวกแนวจากเพื่อนๆ ที่มักจะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นกันซะส่วนใหญ่ โดยที่นี่จะออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury มาใน Theme เดียวกับ Clubhouse ที่ดีไซน์ระแนงบังแดดเพิ่มเข้ามาเป็น Gimmick ของตัวบ้านโดยที่โทนสีส่วนใหญ่ใช้สีเทาเป็นหลัก ตัดด้วยสีขาวบ้าง ภาพรวมจึงดูเรียบหรูนะคะ
แปลนบ้าน PRESTIGE ที่ดินเริ่มต้น 52.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 367 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน /5 ห้องน้ำ /3 ที่จอดรถ /1 ห้องแม่บ้าน
ชั้น 1 – มีการจัดวางฟังก์ชันแต่ละโซนไว้ชัดเจน เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับ Foyer ก่อนเป็นอันดับแรก เป็นพื้นที่ไว้เก็บรองเท้า นั่งพักคอย แล้วจึงเข้าสู่พื้นที่นั่งเล่น Pantry ครัวและพื้นที่ทานอาหาร ซึ่งคงเป็น Common Area หลักที่สมาชิกในบ้านใช้นั่งทานอาหาร ทำครัว พักผ่อนกันได้แบบเป็นส่วนตัว แต่ที่นี่จะไม่ได้ให้ครัวปิดมานะคะ เป็น pantry ครัวเปิดโล่งแบบฝรั่ง แต่จากตำแหน่งของครัวแล้วก็สามารถต่อเติมเป็นครัวปิดได้ไม่ยากค่ะ
สำหรับบ้านนี้จะเป็น Type เดียวที่มีห้องนอน+ห้องน้ำแม่บ้านมาให้ ซึ่งจะอยู่ด้านข้างบ้าน แยกทางเข้า-ออกไว้คนละส่วนกับตัวบ้านหลัก เวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ก็สามารถล็อกบ้านไว้ได้โดยที่คุณแม่บ้านก็ยังสามารถดูแลรอบๆ บ้านให้ได้ค่ะ
ชั้น 2 – เป็นชั้นที่เริ่มมีห้องพักอาศัยแล้วนะคะ ซึ่ง Master Bedroom ก็จะอยู่บนชั้นนี้ด้วย และมีห้องนอนอีกห้องนึงที่มีห้องน้ำในตัว เผื่อไว้ให้ผู้สูงอายุพักได้สะดวก นอกจากนี้ยังมี Family Area ที่เชื่อมต่อกับระเบียงกว้างๆ เป็นอีกมุมที่เหมาะจะใช้พักผ่อนร่วมกันกับทุกคนในครอบครัว
ชั้น 3 – แบ่งออกเป็น 3 ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว 1 ห้อง และมีอีก 2 ห้องนอนที่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าบ้าน 3 ชั้นจะขึ้นลงเหนื่อย เพราะโครงการติดตั้งลิฟต์มาให้ด้วยค่ะ
สำหรับรั้วบ้านของที่นี่ใช้เป็นรั้วเหล็กพ่นสีเทาเข้ม แยกซุ้มประตูสำหรับเดินเข้าออกไว้ซึ่งตรงกับประตูทางเข้าบ้านเลย
สังเกตว่าที่ดินของแต่ละแปลงจะถูกยกระดับสูงขึ้นอีกเล็กน้อยจากพื้นถนนในซอย ช่วยให้งานระบบในบ้านอยู่สูงกว่าท่อระบายน้ำส่วนกลางทำให้ระบบระบายน้ำ Flow ได้ดี และช่วยกันไม่ให้น้ำจากถนนไหลย้อนเข้าไปในตัวบ้าน
สำหรับที่นี่เค้าเตรียมที่จอดรถในร่มไว้ทั้งหมด 3 คัน อยู่ใต้ชายคาของตัวบ้าน แม้ว่าพื้นที่จอดรถจะไม่ได้ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน แต่ก็ลงเสาเข็มสั้นเอาไว้ 48 ต้น ลดการทรุดตัวได้ดีกว่าโครงสร้างแบบ Slab on Ground ที่ไม่มีเสาเข็มด้านล่างนะคะ
วัสดุปูพื้นจะเป็นทรายล้างกันลื่นได้ดี แต่ต้องหมั่นทำความสะอาดด้วยนะ เพราะคราบสกปรกหรือตะไคร่ต่างๆ ก็เกาะได้ง่ายเช่นกัน ส่วนที่น่าสนใจก็คือเค้าติดตั้ง EV Charger รองรับรถยนต์ไฟฟ้าไว้ให้แล้ว เพราะในอนาคตเราได้ใช้งานกันแน่นอนและติดตั้ง IP Camera มาให้ 1 จุด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย
สำหรับพื้นที่จอดรถที่ลงเสาเข็มไว้ไม่เท่ากับตัวบ้าน ทางโครงการจะตัด Joint แยกออกจากโครงสร้างบ้านไว้ให้เป็นมาตรฐานค่ะ
ด้านข้างที่จอดรถจะมีตู้ให้เก็บอุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์ดูแลรถต่างๆ ซึ่งได้มาเป็นตู้ขนาดใหญ่เก็บของได้เยอะดี
ด้านข้างบ้านมีทางเดินเข้าไปยังโซนพักอาศัยของแม่บ้าน ซึ่งแยกทางเข้า-ออกให้อยู่คนละส่วนกับตัวบ้านเลยนะคะ เวลาที่เจ้าของบ้านไปต่างประเทศนานๆ ก็สามารถล็อกตัวบ้านหลักได้โดยไม่กระทบกับคุณแม่บ้านค่ะ
บริเวณประตูหลักของบ้านจะมีหลังคากันสาด ทำหน้าที่กันแดดกันฝนไม่ให้สาดเข้าประตูหน้าต่าง และเป็นมุมสำหรับยืนพักคอย เป็นพื้นที่วางร่มได้
ส่วนประตูไม้เป็นบานสวิง ซึ่งโครงการจะติดตั้ง Digital Door Lock ของ KEYWEFF ไว้ให้ค่ะ
พอใช้ประตูบานสวิง 2 บานก็เปิดประตูได้กว้างดีนะคะ เข้ามาภายในบ้านหลักจะมี Foyer ต้อนรับก่อนเป็นลำดับแรก แล้วจึงจัดวางพื้นที่โซนพักผ่อนเข้าไว้ด้านใน
เข้ามาที่ Foyer เป็นโซนแรก หรือเป็น Transition Space สำหรับเตรียมตัวให้พร้อมกับการเข้าออกบ้าน ก็จะมีมุมถอด-เก็บรองเท้า เช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านและนั่งพักคอยสมาชิกให้พร้อมออกเดินทาง
ทางโครงการจะ Built-in ตู้วางรองเท้ามาให้ และหากฝั่งตรงข้ามไม่ได้วางแจกันตกแต่ง เราแนะนำว่าลองเปลี่ยนเป็นม้านั่งยาวสำหรับนั่งใส่รองเท้าก็ลงตัวดีนะคะ
ลักษณะของตู้จริงที่ได้เป็นตู้บานเลื่อน หน้าบานจะมีสีเข้มกว่าในบ้านตัวอย่างนิดหน่อย ภายในแบ่งเป็นชั้นย่อยๆ ให้เก็บรองเท้าได้เยอะ
บ้านตัวอย่างมีการทำฉากกั้นเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่พักผ่อนด้านใน เผื่อแขกไปใครมาใช้พักคอยได้สะดวก
พ้นจากมุม Foyer เข้ามาภายในบ้านจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมถึงกันทั้งชั้น เจ้าของบ้านสามารถออกแบบได้ว่าอยากให้พื้นที่นั่งเล่น/รับแขก/ทานอาหารอยู่ตรงไหนบ้าง แค่เฉพาะ Pantry ครัวที่เค้าจะ Built-in มาให้ ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ผนังฉาบเรียบทาสีขาวตามแบบในรูปล่างค่ะ
บนฝ้าเพดานชั้น 1 จะมีการติดตั้ง Fresh Air System มาให้ เป็นเครื่องระบายอากาศออกไปนอกบ้าน เพื่อให้อากาศมีการถ่ายเทได้สะดวก อย่างไรก็ดีกว่าพึ่งพาแค่หน้าต่างเพียงอย่างเดียวค่ะ
มาดูไอเดียการจัดฟังก์ชันต่างๆ ภายในบ้านกันนะคะ โครงการวางมุมนั่งเล่นเชื่อมต่อกับ Pantry ครัวแบบฝรั่ง ทำให้เวลาคุณพ่อ คุณลูกนั่งดูทีวีกันอยู่ ก็สามารถพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กับคุณแม่ที่ยืนทำครัวอยู่ได้ แต่กลิ่นควันจากในครัวก็อาจจะฟุ้งอยู่ในบ้าน จึงเหมาะกับการทำอาหารเบาๆ ที่กลิ่นควันไม่แรงนักมากกว่าค่ะ
มุมนั่งเล่นมีพื้นที่เพียงพอให้วางชุดโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่งได้ มีหน้าต่างขนาบซ้ายขวา 2 บาน ใช้เปิดระบายอากาศและช่วยทำให้บ้านดูโปร่งขึ้น โดยแสงธรรมชาติที่ผ่านเข้ามาจะไม่แรงเท่าไหร่เพราะอยู่ใต้ชายคาที่จอดรถนอกบ้านอีกทีหนึ่งนะคะ
โซนครัวได้มาเป็น Pantry ครัวแบบฝรั่งเปิดโล่งเลย เสียดายนิดหน่อยที่ไม่มีหน้าต่างในโซนครัวมาให้ การระบายกลิ่นควันจึงต้องอาศัยงานระบบทั้งหมด แต่หากใครอยากได้ครัวปิดก็สามารถกั้นผนังกระจกเพิ่มขึ้นมาได้ หรืออยากให้มีหน้าต่างเพิ่มเติมก็ต่อเติมเพิ่มได้อีกเช่นกัน เพราะโครงสร้างบ้านเป็นระบบ Conventional นะคะ
เคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของต่างๆ จะได้ตามบ้านตัวอย่างเป็นมาตรฐาน
ชุดครัวที่ได้มีตู้บานปิดให้เก็บของได้เยอะดี อ่างล้างจานให้มาเป็นหลุมคู่ใช้งานได้แบบจริงจัง
ตู้ลอยด้านบนมี Gimmick เก๋ๆ อย่างการซ่อนไฟไว้ใต้ตู้ทั้งหมด ซึ่งเค้าให้มาเป็นมาตรฐานด้วยนะคะ
ตู้ใหญ่อีกชุดหนึ่งที่เตรียมไว้ให้ในห้องครัว ก็คือตู้ที่เว้นช่องไว้ให้ใส่เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยช่องใหญ่สุดสำหรับวางตู้เย็น 2 ประตู และช่องโล่งอีก 2 ช่องใหญ่พอสำหรับเตาอบ และเตาไมโครเวฟนะคะ ส่วนลิ้นชักอื่นๆ ก็แล้วแต่คุณแม่บ้านจะจัดสรรเลยค่ะ
พื้นที่รับประทานอาหารในบ้านตัวอย่างจะวางไว้อีกฝั่งหนึ่ง ในตำแหน่งที่ติดกับประตูบานเลื่อนกระจกสำหรับเปิดออกไปที่สวนข้างบ้าน ข้อดีคือเป็นการเพิ่มช่องแสงให้เข้าถึงตัวบ้านได้ดี ขนาดพื้นที่สามารถรองรับโต๊ะกินข้าว+เก้าอี้ได้ประมาณ 6 ที่นั่งกำลังดีค่ะ
ประตูหน้าต่างของที่นี่จะใช้กระจกตัดแสงเพื่อช่วยกรองแสงเข้าบ้าน ซึ่งตัวกระจกมีสีออกเทาๆ ไม่ใช่สีเขียวๆ แบบที่คุ้นเคยกัน เราเองก็ชอบที่เค้าเลือกใช้สีเทามากกว่านะคะ อีกเรื่องคือโครงการจะเซาะร่องสำหรับติดตั้งผ้าม่านรอไว้ให้เหมือนในบ้านตัวอย่างด้วยค่ะ
ด้านในสุดของบ้านเป็นตำแหน่งทางเข้าห้องน้ำ และทางออกประตูหลังบ้าน
โดยสเปคของประตูที่ได้จริงจะเป็นแบบมีลวดลายตามในรูปนี้ ซึ่งได้แบบนี้เป็น Standard ของทุกห้องเลยนะคะ
สำหรับพื้นที่ซักล้างหลังบ้านจะปูกระเบื้องมาให้ โดยโครงสร้างของส่วนนี้จะฝากไว้กับคานของตัวบ้าน ไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ให้ หากจะมีการต่อเติมหลังบ้านเพิ่มเติมก็ควรปรึกษาวิศวกรก่อนนะ
ห้องน้ำส่วนกลางจะเป็นแค่ Powder Room หรือห้องน้ำสำหรับแขกเท่านั้น จึงไม่ได้รองรับการอาบน้ำเพราะห้องนอนจะอยู่ชั้นบนทั้งหมด สำหรับวัสดุสุขภัณฑ์ต่างๆ จะได้แบบที่เห็นนี้เลย
อ่างล้างมือของ American Standard ด้านล่างมีตู้ให้เก็บของได้พอสมควร
โถสุขภัณฑ์ได้ของ American Standard มาพร้อมสายฉีดชำระ และที่ใส่ทิชชู่
ตำแหน่งลิฟต์ที่ทางโครงการติดตั้งไว้ให้จะอยู่ติดกับบันไดเลย ให้มาของยี่ห้อ Hitachi
โดยสีของลิฟต์จริงที่ได้จะเป็นประตูสีน้ำตาลตามในรูปนี้นะคะ
ภายในรองรับน้ำหนักผู้โดยสารได้ 3 คน หรือประมาณ 250 กิโลกรัม มีราวจับสำหรับผู้สูงอายุมาให้ด้วย รองรับการอยู่อาศัยแบบ 3 Generation นะคะ
ถัดมาที่ส่วนของบันไดทำออกมาได้ดู Modern และโปร่งดี เพราะโครงการเลือกใช้วัสดุราวกันตกเป็นกระจก สำหรับตัวโครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กตามมาตรฐาน ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน
ชานพักบันไดเป็นขั้นสี่เหลี่ยมแบบที่ควรจะเป็นจึงใช้งานได้สะดวก
สำหรับหน้าต่างบริเวณโถงบันไดจะมีช่องรับแสงอยู่ที่ชั้น 2 ซึ่งมีบานกระทุ้งเพื่อเปิดระบายอากาศได้
ความเก๋ของบันไดที่บ้านนี้คือ เราสามารถมองเห็นกันได้ทุกชั้น ไม่มีผนังหรือราวกันตกกั้นให้ดูอึดอัดเลยค่ะ
ขึ้นมาชั้น 2 จะมี Family Area อีกมุมหนึ่ง ในกรณีที่ชั้นล่างคุณพ่อคุณแม่มีแขก ลูกๆ ก็สามารถมานั่งเล่นที่ชั้น 2 แทนได้ สำหรับห้องนอนบนชั้นนี้มีทั้งหมด 2 ห้อง เป็น Master Bedroom 1 ห้อง และห้องนอนรองอีกห้องหนึ่งที่มีห้องน้ำในตัวค่ะ
สำหรับ Family Area มีขนาดพอสำหรับวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ 4-5 ที่นั่งได้สบาย โดยพื้นตั้งแต่ชั้น 2 ชั้นขึ้นไปจะปูด้วยไม้ลามิเนตให้ความรู้สึกที่ Homey มากขึ้น
จากตำแหน่งโซฟาจะสามารถมองออกไปเห็นวิวผ่านระเบียงบ้านได้ โครงการเลือกใช้ราวกันตกเป็นกระจกใส จึงไม่บังทิวทัศน์ด้านนอกเลยค่ะ
ระเบียงบนชั้นนี้จะมีทั้งส่วนที่เป็นทางเดินและบริเวณที่กว้างหน่อยให้สามารถวางชุดโต๊ะสนามไว้นั่งจิบกาแฟ หรือจัดเป็นมุมนั่งเล่น Outdoor แทนพื้นที่สวนชั้นล่างเพราะที่บ้านตัวอย่างตั้งอยู่บนแปลงที่ดินขนาด 52.5 ตร.วา จะไม่ค่อยมีพื้นที่สวนรอบบ้านมากนัก เราก็สามารถขยับขึ้นมาจัดสวนบนชั้นนี้แทนได้ค่ะ
Master Bedroom เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ มีความยาวเกือบตลอดแนวหน้าบ้าน ทำให้สามารถจัดฟังก์ชันภายในได้หลากหลาย บรรยากาศโซนเตียงนอนดูโปร่งโล่งจากประตูกระจกบานใหญ่ที่ใช้เปิดออกไประเบียง ส่วนปลายเตียงก็สามารถ Built-in ชั้นวางทีวีขนาดได้ลงตัว
ขนาดของห้องสามารถวางเตียงใหญ่ 6 ฟุตได้ หรือหากวางเตียง 5 ฟุตก็สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ลักษณะระเบียงเป็นทางเดินยาวตามแนวห้องนอน ไม่กว้างมากแต่ก็พอสำหรับการออกมาเดินเล่น เปลี่ยนบรรยากาศ
บริเวณสุดระเบียงห้องนอนนี่เองที่เค้าเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับวาง Condensing Unit เป็นตำแหน่งข้างๆ บ้านเพื่อหลบไม่ให้เกะกะสายตา และมีระแนงบังอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้ดูเรียบร้อยสวยงาม
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นโซน Walk-in Closet ซึ่งบ้านตัวอย่างจะวางเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ สำหรับบ้าน Standard จะมีมาให้เฉพาะกำแพงด้านหลังทีวีที่กั้นโซนมาให้เท่านั้น
บ้านตัวอย่างตกแต่งโซน Walk-in Closet มาให้ดู โดยพื้นที่บริเวณก็สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ตลอดแนวด้านหลังผนังทีวี และมีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง+ตู้เสื้อผ้าได้อีกนิดหน่อยค่ะ
ด้านในสุดติดกับ Walk-in Closet เป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ซึ่งมีจุดพิเศษหลายอย่างที่แตกต่างจากห้องน้ำในห้องอื่นๆ ได้แก่ อ่างล้างมือแบบ His & Her ได้อ่างอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราพาไปชมทีละชิ้นกันค่ะ
อ่างล้างมือที่ได้มีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของห้องอื่นๆ ลักษณะอ่างเป็นแบบ His & Her ด้านล่าง Built-in ตู้เก็บของให้เรียบร้อย
โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก American Standard ดีกว่าห้องอื่นๆ ที่ได้เป็นสุขภัณฑ์ระบบกดน้ำปกติ
ถัดมาเป็นส่วนพื้นที่อาบน้ำก็จะให้ Shower Box มาเป็นมาตรฐาน
วัสดุอุปกรณ์ภายในได้ของ American Standard เช่นกัน โดยจะให้มาทั้ง Rain Shower และฝักบัวอาบน้ำ สำหรับขนาดพื้นที่อาบน้ำกว้างพอให้ใช้งานทีละคนได้สะดวก
สุดท้ายใน Master Bathroom จะติดตั้งอ่างอาบน้ำมาให้ของ American Standard อีกเช่นกัน ขนาดประมาณ 1.5 x 0.5 m. พอให้นอนแช่น้ำ จิบไวน์พักผ่อนได้
ภายในอ่างจะติดตั้งฝักบัวของ American Standard มาให้ด้วย เผื่ออยากล้างตัวหลังแช่น้ำเสร็จ ก็ใช้งานเสร็จสรรพที่อ่างได้เลยค่ะ
ถัดมาที่ห้องนอน 2 มีขนาดย่อมลงมาจากห้องนอนใหญ่ แต่ก็ยังสามารถวางเฟอร์ฯ ได้ครบถ้วนทั้ง เตียง, ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ
ข้อจำกัดหนึ่งของห้องนี้คือ หน้าต่างจะตรงกับระเบียงพอดี ทำให้ห้องนี้อาจจะไม่ส่วนตัวเท่าห้องนอนอื่นๆ หากกำลังเลือกว่าอยากปรับห้องนอนสักห้องให้เป็นห้องอเนกประสงค์ เราก็แนะนำห้องนี้ หรือเป็นห้องผู้สูงอายุก็โอเคอยู่นะคะ ท่านจะได้เห็นลูกๆ หลานๆ จากห้องนอนได้ เป็นตำแหน่งห้องที่อยู่ใกล้ชิดลูกหลานค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งของห้องน้ำในตัว ซึ่งพื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำก็เหมาะสำหรับวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดี
ห้องน้ำของห้องนอนนี้จะมีขนาดกระทัดรัดหน่อย จัดฟังก์ชันครบถ้วน แบ่งโซนเปียกแห้งไว้เป็นสัดส่วน และสุขภัณฑ์ต่างๆ จะได้ของ American Stadard ทั้งหมดค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 3 เป็นห้องนอนของลูกๆ ทั้งหมด 3 ห้อง มีขนาดต่างๆ กัน โดยห้องนอน 3 และ 4 มีขนาดกระทัดรัดหน่อย ต้องแชร์ห้องนำร่วมกัน ส่วนห้องนอน 5 จะมีขนาดใหญ่ใกล้เคียง Master Bedroom และมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ
ภายในห้องนอน 3 แม้จะมีขนาดที่ย่อมลงมาจากห้องอื่นๆ แต่ก็จัดฟังก์ชันได้ครบ สามารถวางเตียง 5 ฟุตและมีพื้นที่เหลือให้เดินรอบเตียงได้ แถมยังได้ช่องหน้าต่างขนาดใหญ่อีกด้วย
ห้องน้ำในตัวจะอยู่ฝั่งปลายเตียง มีพื้นที่หน้าห้องน้ำให้ Built-in ตู้เสื้อผ้า หรือทำเป็นชั้นวางทีวีได้
ห้องน้ำที่ติดกับห้องนอน 3 จะมีประตูเข้าได้ 2 ทาง เพราะต้องแชร์กันใช้กับห้องนอน 4 ด้วย ก็อย่าลืมล็อกประตูทั้ง 2 ฝั่ง เวลาเข้าใช้ห้องน้ำนะคะ ><
ฟังก์ชันในห้องน้ำจะเหมือนๆ กับห้องน้ำส่วนใหญ่ในบ้าน คือ ฟังก์ชันลงตัว แบ่งโซนเปียกแห้งไว้เรียบร้อยใช้งานง่าย แต่จะมีขนาดกระทัดรัดนิดนึงค่ะ
ภายในห้องนอน 4 แม้จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดกระทัดรัดสุดในบ้าน แต่ก็สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้เช่นกัน บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งจากบานหน้าต่างที่ให้มาทั้ง 2 ฝั่งของผนัง แต่ห้องน้ำจะต้องไปแชร์กันใช้กับห้องนอน 3 ที่พาไปชมเมื่อสักครู่นี้นะคะ
ปิดท้ายด้วยห้องนอนที่ 5 ซึ่งเราขอเรียกห้องนี้ว่าเป็นห้องนอนลูกคนโปรดเพราะมีขนาดใหญ่เหมือนเป็น Master Bedroom อีกห้องนึงเลยค่ะ ภายในมีห้องน้ำในตัว พร้อมพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet แต่จะไม่มีระเบียงนะคะ
ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้หมด แล้วแต่เลือกเลยค่ะ ข้างเตียงมีหน้าต่างบานใหญ่สูงจากพื้นเกือบถึงฝ้า และปลายเตียงจะมีผนังแบ่งโซนพักผ่อนออกจาก Walk-in Closet ไว้เป็นสัดส่วน
สำหรับโซน Walk-in Closet จะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ มีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าครบถ้วน
ในห้องน้ำนั้นมีการจัดฟังก์ชันที่เหมือนๆ กับห้องน้ำอื่น รวมถึงยี่ห้อสุขภัณฑ์และวัสดุต่างๆ ในห้องน้ำด้วยนะคะ
ยกเว้นแต่เจ้าสุขภัณฑ์ที่ห้องนี้จะได้มาเป็นระบบอัตโนมัติ เช่นเดียวกับ Master Bedroom ค่ะ
แบบบ้าน PRECIOUS
มาดูบ้านเดี่ยว 2 ชั้นกันบ้างกับแบบ PRECIOUS ออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury เช่นเดียวกับบ้านแรก คงเอกลักษณ์ของระแนงบังแดดเอาไว้ โดยที่โทนสีส่วนใหญ่ใช้สีขาวเป็นหลัก ตัดด้วยสีเทาบ้าง ภาพรวมจึงดูเรียบหรูค่ะ
แบบบ้าน PRECIOUS มีที่ดินเริ่มต้น 50.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ /2 ที่จอดรถ ถ้าเทียบฟังก์ชันระหว่างบ้าน 3 ชั้นและบ้าน 2 ชั้นจะเห็นได้ว่าฟังก์ชันใกล้เคียงกันมาก มีถึง 5 ห้องนอน แต่จะไม่มีลิฟต์เหมือนบ้านหลังแรกเพราะเค้าดึงเอาห้องนอนผู้สูงอายุลงมาไว้ที่ชั้นล่างเลย ใครที่อยากได้ฟังก์ชันแน่นๆ เหมือนเดิมแต่อยากลดงบลงมา แบบบ้านนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ในราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท
ชั้น 1 – มีการออกแบบพื้นที่แต่ละโซนชัดเจนดีนะคะ อย่างห้องนอนผู้สูงอายุที่ต้องการความเป็นส่วนตัว จะแยกออกมาอีกฝั่งของบ้านจาก Common Area ด้วยโถงทางเดินตรงกลาง และอยู่ในตำแหน่งที่ติดกับประตูฝั่งที่จอดรถเพื่อให้เข้าออกง่าย แต่ไม่ได้มีห้องน้ำในตัวนะคะต้องแชร์กับส่วนกลาง สำหรับโซนครัวก็มีมาให้ทั้ง Pantry ครัวแบบฝรั่งและห้องครัวปิดให้ใช้งานต้มผัดแกงทอดได้เต็มที่
ชั้น 2 – จะมีห้องนอนทั้งหมด 4 ห้อง เป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว 2 ห้อง และมีห้องนอนสำหรับลูกๆ ขนาดย่อมลงมา 2 ห้อง ซึ่งต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน …บ้านตัวอย่างจะมีหน้าตาอย่างไร เราไปชมกันต่อเลยค่ะ
แบบบ้านนี้จอดรถในร่มได้ 2 คัน ซึ่งบริเวณที่จอดรถจะลงเสาเข็มสั้นไว้ให้ทั้งหมด 42 ต้น ทำให้ทรุดตัวช้ากว่าที่จอดรถแบบ Slab On Ground นะคะ
หลายคนอาจคุ้นเคยกับบ้านที่มีประตูทางเข้า 2 บาน คือที่ประตูที่ติดกับห้องรับแขกและประตูที่ติดกับที่จอดรถ ต้องอธิบายก่อนว่าด้วยระบบของประตูบานเลื่อนในบ้าน Type นี้จะเป็นระบบที่เน้นความปลอดภัยเป็นพิเศษ ประตูขะล็อกอัตโนมัติ ซึ่งจะเปิดจากด้านในบ้านได้เท่านั้น ทำให้ประตูที่ติดกับที่จอดรถกลายเป็นประตูหลักไปนะคะ ข้างๆ ประตูก็จะมีตู้เก็บรองเท้ามาให้เช่นเดียวกับบ้านหลังแรกค่ะ
ภายในบ้านฝั่งหนึ่งจะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ที่เชื่อมกันตั้งแต่พื้นที่นั่งเล่น โต๊ะทานอาหาร และโซนครัว ส่วนพื้นที่โซนพักอาศัยจะถูกแยกไว้อีกฝั่งหนึ่ง ดูเป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ
พื้นที่นั่งเล่นรับแขกจะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ได้แสงธรรมชาติผ่านประตูกระจกบานใหญ่เข้ามาทำให้ดูโปร่ง ดูจากขนาดพื้นที่แล้วก็สามารถวางโซฟาชุดใหญ่ 5-6 ที่นั่งได้สบาย ติดทีวีขนาดใหญ่ได้
ประตูบานเลื่อนของบ้าน Type นี้จะใช้กระจกตัดแสงเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก ได้เป็นบานใหญ่สูงเกือบถึงฝ้าเพดาน
ความพิเศษของประตูนี้อยู่ที่ระบบล็อกที่ดีไซน์มาเป็นตัวล็อกอัตโนมัติ ให้สามารถเปิดได้จากในตัวบ้านเท่านั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
ถัดมาที่บริเวณโต๊ะรับประทานอาหาร เหมาะกับการวางโต๊ะกินข้าว+เก้าอี้ได้ประมาณ 4-6 ที่นั่ง ซึ่งตำแหน่งของเค้าจะอยู่ติดกับ Pantry ครัวเลย จึงเดินเสิร์ฟอาหารได้สะดวก
ด้านข้างโต๊ะอาหารจะอยู่ติดกับประตูกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมต่อกับสวนข้างบ้าน เวลาทานข้าวก็จะได้วิวต้นไม้ในสวน และเวลาไปนั่งเล่นในสวนก็ได้เห็นกิจกรรมของสมาชิกในบ้านจากบริเวณพื้นที่ด้านนอกด้วย ไม่รู้สึกว่าอยู่ไกลกัน
สำหรับโซนครัวในบ้านตัวอย่างจะมีการต่อเติมขยายครัวให้ดูกว้างขึ้น ซึ่งเราสามารถเก็บไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้นะคะ เราจึงเก็บภาพในบ้าน Standard มาให้ดูว่าของจริงที่ได้เป็นอย่างไร
ในส่วนของ Pantry ครัวแบบฝรั่งจะได้เป็นครัวขนาดขนาดย่อมหน่อย มาพร้อมซิงค์ล้างจาน แต่จะเป็นแบบหลุมเดี่ยว ไว้สำหรับล้างจาน ล้างแก้วเล็กๆ น้อยๆ และในตู้ Built-in จะเว้นช่องไว้สำหรับวางตู้เย็นแบบ 2 ประตูได้ค่ะ
สำหรับครัวปิดจะมีประตูแบ่งสัดส่วนไว้ชัดเจน ซึ่งวัสดุของประตูครัวจะใช้เป็นกระจก เพื่อให้ดูโปร่งไม่ทึบตัน
ภายในครัวจะได้เคาน์เตอร์ครัว+ตู้เก็บของต่างๆ ครบเหมือนบ้านตัวอย่าง ขาดแค่ Hob และ Hood ที่เราต้องติดตั้งเอง ซึ่งห้องนี้จะมีประตูหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้สะดวกเลยค่ะ
ภายในห้องครัวไทยจะมีกระจกเข้ามุมบาน Fixed จึงไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเปิดระบายอากาศแต่เพื่อให้ห้องดูโปร่งขึ้น สามารถมองเห็นภายในครัวและจากครัวก็มองเห็นพื้นที่พักผ่อนด้านนอกได้ค่ะ
หรือหากใครอยากได้พื้นที่กว้างๆ แบบในบ้านตัวอย่างก็ต่อเติมได้นะคะ เพราะโครงสร้างบ้านเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน ไม่ใช้โครงสร้าง Precast แบบที่โครงการส่วนใหญ่นิยมกันค่ะ แต่ก็จะต้องเตรียมเรื่องงบประมาณในการต่อเติมไว้ด้วยเช่นกัน
อีกฝั่งหนึ่งของบ้านเป็นโซนที่มีความเงียบสงบมากขึ้น โดยสุดปลายทางเดินจะมีห้องนอนผู้สุงอายุ (ห้องนอน 1) แต่จะไม่มีห้องน้ำในตัวนะคะ ต้องออกมาแชร์ห้องน้ำกับพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ติดกัน
ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดกว้างเพียงพอให้วางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้ พื้นภายในห้องก็จะเปลี่ยนจากกระเบื้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตแทน ทำให้บรรยากาศดู Homey อบอุ่นขึ้น
ภายในห้องน้ำชั้นล่างนี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การมีห้องนอนชั้นล่าง ภายในแบ่งโซนเปียกแห้งมาเรียบร้อย มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เป็นสัดส่วน จึงใช้อาบน้ำได้เลยไม่ต้องขึ้นไปชั้นบนค่ะ
ขึ้นไปต่อที่ชั้น 2 นะคะ โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กตามแบบในบ้านหลังแรกและได้ราวกันตกเป็นกระจกเช่นเดียวกัน สำหรับหน้าต่างบริเวณโถงบันไดจะมีส่วนที่เปิดกระทุ้งเพื่อระบายอากาศได้ ซึ่งเป็นหน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ กลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็สามารถขึ้นลงได้โดยไม่ต้องเปิดไฟนะคะ
ชานพักบันไดเป็นขั้นสี่เหลี่ยมเต็มขั้นแบบที่ควรจะเป็น ใช้ยืนพักได้เหมาะสม
ขึ้นมาที่ชั้น 2 เป็นชั้นที่แบ่งพื้นที่ทั้งหมดออกเป็นห้องนอนต่างๆ ถึง 4 ห้องเลยค่ะ โดยจะมีห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว 2 ห้อง สำหรับคุณพ่อคุณแม่+ลูกคนโปรด และมีห้องนอนอีก 2 ห้องที่มีขนาดรองรับเด็กเล็กหรือวัยรุ่นที่ของใช้ยังไม่เยอะมากได้เพียงพอ แต่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันค่ะ
เริ่มจากห้องนอน 2 เป็นห้องนอนไซส์กลางๆ ยังไม่ใช่ห้องนอนลูกคนโปรด แต่ก็มีพื้นที่กว้างพอสมควรให้เด็กวัยรุ่นมีพื้นที่วางเตียงไซส์ใหญ่ 5-6 ฟุต ได้
มีพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่+โต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือก็ได้ค่ะ
ถัดมาที่น้องนอน 3 มีขนาดกระทัดรัดสุดในบ้าน ทางบ้านตัวอย่างจึงตกแต่งออกมาเป็นห้องอเนกประสงค์ ห้องนี้แม้ขนาดจะไม่ใหญ่มากแต่ภายในมีหน้าต่างบานใหญ่จึงดูไม่อึดอัด ถ้าอยากใช้เป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงเดี่ยวสำหรับเด็กๆ ได้นะคะ
สำหรับห้องน้ำที่ต้องแชร์กันใช้ของห้องนอน 2 และ 3 การจัดฟังก์ชันแบ่งพื้นที่โซนเปียกแห้งมาให้เป็นสัดส่วน และได้สเปคเหมือนห้องน้ำชั้นล่างของบ้านค่ะ
เขยิบมาดูทางห้องนอนรองกันบ้างเราขอเรียกว่าเป็นห้องสำหรับลูกคนโปรดแล้วกันนะคะ เพราะห้องนี้จะมีฟังก์ชันครบถ้วนเหมือน Master Bedroom เลย แต่จะย่อขนาดลงมาหน่อยเท่านั้น
ภายในสามารถวางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุตได้สบายๆ มีหน้าต่างบานใหญ่รับแสงเข้ามาได้เยอะ และมีพื้นที่ปลายเตียงพอให้ทำชั้นวางทีวีและโต๊ะเครื่องแป้งได้เพียงพอ
บริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เสื้อผ้า ได้มุมแต่งตัวที่เป็นสัดส่วน
ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่โซนเปียกแห้งมาให้เป็นสัดส่วน และได้สเปคเหมือนห้องน้ำอื่นๆ ของบ้านนะคะ
ปิดท้ายด้วย Master Bedroom ได้พื้นที่บริเวณฝั่งหน้าบ้านทั้งหมด ทำให้มีช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ ฟังก์ชันภายในมีห้องน้ำในตัว, มีพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet รวมไปถึงระเบียงด้วยค่ะ
ประตูระเบียงจะเป็นระบบล็อกอัตโนมัติ เช่นเดียวกับประตูบานเลื่อนอื่นๆ ในบ้าน
ระเบียงหน้าบ้านของ Type นี้เป็นระเบียงที่มีความยาวเกือบเต็มหน้าบ้าน แต่จะไม่ได้กว้างมากนัก พอให้ออกมาเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศได้ หรือจัดเป็นพื้นที่สวนกระถางชั้น 2 ริมระเบียงก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ
บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ให้ทำ Walk-in Closet ได้ โดยบ้าน Standard ที่ให้มาจะเป็นพื้นที่เปล่าๆ แบบรูปซ้าย ซึ่งเราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเข้าไปได้แบบในรูปขวาค่ะ
ติดกันเป็นห้องน้ำซึ่งสเปคสุขภัณฑ์เกือบทั้งหมดจะได้เหมือนห้องน้ำอื่นๆ ยกเว้นสุขภัณฑ์ที่จะถูกอัพเกรดขึ้นเป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัติของ American Standard ค่ะ
แบบบ้าน PRIDE
สำหรับบ้านไซส์เริ่มต้นของโครงการคือบ้านเดี่ยว 2 ชั้นแบบ PRIDE ซึ่งมีหน้าตาและสไตล์คล้ายกับบ้านไซส์ใหญ่ 2 หลังที่พาไปชมมา บนที่ดินเริ่มต้น 50.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม.
ฟังก์ชันของบ้าน Type นี้จะมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 7.9 ล้าน บาท ซึ่งจะไม่มีห้องนอนที่ชั้นล่างจึงเหมาะกับครอบครัวขยายที่อยู่กันแบบพ่อแม่ลูกค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
Panara เทพารักษ์ ราคา ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564
- PRIDE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50.6-58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท - PRECIOUS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50.5-65.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท - PRESTIGE บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 52.5-120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 367 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 16.6 ล้านบาท - จอง 20,000 – 50,000 บาท
- ทำสัญญา 150,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 50,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ Panara เทพารักษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่ที่อยู่ในระดับราคา 7 ล้านขึ้นไปถึงสิบล้านปลายๆ ที่ขยับขยายออกมาจาก Hub ใหญ่บางนา-ตราด ตรงเมกา บางนา ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ใครหลายคนทำงานหรือใช้ชีวิตในโซนเทพารักษ์ แพรกษา บางพลีเป็นหลัก โดยจุดเด่นของที่ตั้งโครงการนี้คือ ติดถนนใหญ่เทพารักษ์ เดินทางสะดวกไม่ต้องเข้าซอย ซึ่งต่างจากโครงการส่วนใหญ่ที่มักจะอยู่ในซอยค่ะ ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ทั้งตลาด, Hypermarket โรงเรียนและโรงพยาบาล แต่ก็จัดเป็นโซนที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักนะคะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
มีความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานดี เริ่มตั้งแต่รั้วโครงการสูง 3 เมตร พร้อมต่อรั้วโปร่งเพิ่มบางส่วน ทางเข้า-ออกเป็นระบบ Easy Pass ใช้งานง่าย พร้อมรปภ.ดูแลความปลอดภัย 24 ชม.+ CCTV บริเวณซุ้มประตูและภายในโครงการ นอกจากนี้ภายในบ้านยังติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ KEYWE และสัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic ที่ประตูและหน้าต่างชั้นล่างทั้งหมด + ระบบ Motion Sensor บริเวณห้องโถงชั้นล่าง รวมถึงมีกล้อง IP Camera บริเวณโรงจอดรถให้อีก 1 จุด ซึ่งก็พอฟัดพอเหวี่ยงกับโครงการอื่นๆ ในย่านนี้นะคะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบโครงการ – เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย โดยบ้านส่วนใหญ่ของโครงการจะเป็นแปลงมุม และแต่ละซอยมีจำนวนเพื่อนบ้านแค่ 4-6 ยูนิตเท่านั้นนะคะ สำหรับ Clubhouse จะวางตำแหน่งไว้กลางโครงการเลยค่ะ ลูกบ้านทุกหลังจึงเข้าถึงได้ง่ายพอๆ กัน ฟังก์ชันครบ แชร์กับกับเพื่อนบ้านไม่เยอะเพียง 129 ยูนิต
การออกแบบตัวบ้าน – แบบบ้านมีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบ 2 และ 3 ชั้น มีขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เลือกตั้งแต่ 182 – 367 ตร.ม. และขนาดที่ดินก็มีให้เลือกตั้งแต่ ประมาณ 50 ตร.วา ไปจนถึง 120 ตร.วา เลยค่ะ ฟังก์ชันที่นี่ได้ถึง 5 ห้องนอน ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกในบ้าน 2-3 Generation อยู่ร่วมกัน เสียดายอย่างนึงคือแบบบ้าน PRESTIGE ที่ให้เป็น Pantry ครัวขนาดใหญ่แทนครัวปิดแบบไทย ซึ่งทำอาหารได้จริงจังกว่า อย่างไรก็ตามโครงสร้างบ้านสามารถทุบต่อเติมได้ ไม่มีปัญหาค่ะ
วัสดุ : จุดขายของโครงการอย่างหนึ่งคือ ใช้โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน (Conventional) จึงสามารถทุบต่อเติมเชื่อมห้องต่างๆ ได้ทั้งหมด ซึ่งโครงการบ้านส่วนใหญ่นิยมใช้เป็น Precast นะคะ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ในบ้านเช่น Smart Home Automation และระบบระบายอากาศ แอบเสียดายอยู่นิดหน่อยที่น่าจะอัพเกรดประตูหน้าต่างให้ช่วยระบายอากาศได้ ซึ่งกำลังฮิตในบ้านระดับราคานี้ จะเหมาะกับอากาศเมืองไทยมากขึ้นค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : โครงการสร้างมาประมาณ 2 ปี ซึ่งทางโครงการดูแลเป็นอย่างดี มีสภาพโครการสะอาดเรียบร้อย และต้นไม้ก็เริ่มแตกกิ่งก้านให้ดูร่มรื่นขึ้น บริเวณถนนหลักจะปลูกไม้ยืนต้นเอาไว้ตลอดแนว รวมถึงในซอยย่อยๆ ก็มีไม้พุ่มมาให้ และเดินสายไฟเข้าบ้านบางส่วนแบบลงดิน (แต่จะยังมีเสาไฟอยู่นะคะ) อย่างไรก็ช่วยให้บรรยากาศดูเรียบร้อยกว่าปกตินะคะ สำหรับบรรยากาศของ Clubhouse ดูน่าใช้งานดี แต่ภายในสวนจะเทพื้นปูนค่อนข้างเยอะ เดิน/วิ่ง ได้สะดวก ทำให้บรรยากาศไม่ร่มรื่นเท่ากับสวนที่มีสนามหญ้ากว้างๆ นะคะ
สาธารณูปโภค : จัดฟังก์ชันมาให้ครบตามมาตรฐาน ทั้ง Clubhouse, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Lobby และสวนส่วนกลาง โดยรวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2 ไร่ ซึ่งบ้านโครงการนี้มีระดับราคาค่อนข้างกว้างเริ่มต้น 7.9-16.6 ล้านบาท ถ้าเทียบกับกลุ่มบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่มีราคาเริ่มต้น 8 – 9 ล้าน ก็ได้ตามมาตรฐานดีค่ะ แต่ถ้าเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่มีราคาเริ่มต้น 16.6 ล้าน ก็อยากให้มีฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเดิม เช่น Meeting Room, ห้องเด็กเล่น, สนามบาสเกตบอล อีกสักนิดนึงนะคะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจเริ่มต้น 7.9-16.6 ล้านบาท, 31 ตุลาคม 2564
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่เทพารักษ์
- ความปลอดภัย 7.5/10 – มีให้ทั้งในโครงการและตัวบ้าน
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – วางผังโครงการดีได้ความเป็นส่วนตัว, มีบ้านให้เลือกหลายแบบ ฟังก์ชันแน่น มีเฉพาะบางห้องที่ยังไม่ลงตัว
- วัสดุ 8/10 – ส่วนใหญ่เป็นมาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – น่าอยู่อาศัย ปลูกต้นไม้ตลอดแนวถนนหลัก สายไฟลงดินบางส่วน
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – Clubhouse สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Lobby และสวนขนาดประมาณ 1 ไร่
- 7.81 / 10.00
Panara เทพารักษ์ เหมาะกับใคร
โครงการ Panara เทพารักษ์ เหมาะกับครอบครัวที่มองหาบ้านเดี่ยวในย่านบางพลี ใช้ชีวิตอิงมาทางโซนเทพารักษ์ แพรกษา บางพลี ชอบทำเลโครงการติดถนนใหญ่ ให้ความสำคัญกับตำแหน่งที่ไม่ต้องเข้าซอย ต้องการบ้านที่ใช้โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน สามารถทุบต่อเติมได้ มีฟังก์ชันเยอะ รองรับครอบครัวใหญ่แบบ 3 Generations ได้ มีงบประมาณเริ่มต้น 7.9 – 16.6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นที่ 55,000 – 116,000 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc