Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา)  เฟส 2 บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเยอะคุ้มค่าจาก A BEST ESTATE [รีวิวฉบับที่ 2723]

Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา)  ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2567

Highlights :

• ติดถนนทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วนศรีรัชและมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวก
• ใกล้แหล่งของกินของใช้ หาของกินได้ง่าย และใกล้โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง

พิกัด Google Maps : 13.774264041404868, 100.69031591515933
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) ตั้งอยู่บนทางคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษก รอบๆโครงการมีโรงเรียนนานาชาติชั้นนำหลายแห่ง เดินทางไปมอเตอร์เวย์ด่านทับช้าง และไปสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวก นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มที่มีแพลนจะเปิดให้บริการในปี 2568 ด้วยนะ

Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) อยู่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ทั้งฝั่งรามคำแหงและกรุงเทพกรีฑา อย่าง Sammakorn Place รามคำแหง , Makro Food Service รามคำแหง และ Little Walk  กรุงเทพกรีฑา ไม่ว่าลูกบ้านจะมาจากทางไหนก็สามารถแวะซื้อของก่อนเข้าบ้านได้ นอกจากนี้ยังใกล้โรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่ง เช่น Ascot International School Bangkok , Heathfield International School Bangkok และ  Bromsgrove International School (Early Years) เรียกได้ว่าใครที่มีลูกเรียนโรงเรียนเหล่านี้สามารถไปรับ-ส่งได้สบายๆ

เมื่อก่อนหากเราเดินทางมาจากโซนพระราม 9 หรือสุวรรณภูมิจะต้องไปวนรถไกลมากเพื่อที่เข้าโครงการได้เพราะถนนหน้าโครงการเป็น One Way แต่ปัจจุบันถนนหน้าโครงการเปิดให้รถวิ่งสวนกันได้แล้ว และมีจุดกลับรถที่ห่างจากโครงการประมาณ 260 เมตร ทำให้ลูกบ้านเดินทางเข้าโครงการง่ายขึ้น และยังเดินทางไปสถานที่ต่างๆได้สะดวกขึ้น ซึ่งเส้นทางนี้เพิ่งเปิดได้ประมาณ 1 เดือน จึงยังไม่มีอัปเดตใน Google Map นะคะ

ตัวช่วยในการเดินทาง

หากใครที่ต้องการเดินทางไปยังโซนพระราม 9  หรือโซน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะมีตัวช่วยอย่าง ทางด่วนศรีรัชที่ห่างจากโครงการประมาณ 12.7 กิโลเมตร ให้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกขึ้นด้วย

หรือใครที่ต้องการเดินทางไปโซนลาดกระบัง ชลบุรีก็สามารถเลี้ยวขวาออกจากโครงการเพื่อกลับรถและเข้าสู่ถนนกาญจนาฯ เชื่อมต่อไปยังมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรีได้ ในระยะทางประมาณ 5.8 กิโลเมตร

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

พื้นที่รอบข้างโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยที่มีอยู่แล้ว และพื้นที่รอการพัฒนา แต่ส่วนตัวเราคิดว่า ในอนาคตหากมีการขยายเมือง พื้นที่โซนนี้อาจมีโครงการจัดสรรใหม่ๆเกิดขึ้นอีก เพราะใกล้สถานศึกษาและแหล่งอำนวยความสะดวกหลายแห่ง เราสรุปสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการมาให้ดังนี้

ทิศเหนือ : ที่พักอาศัย 2-3 ชั้น
ทิศตะวันออก : ที่พักอาศัย 1-2 ชั้น
ทิศใต้ : ที่ว่างรอการพัฒนา
ทิศตะวันตก : ที่ว่างรอการพัฒนา

บรรยากาศหน้าโครงการเป็นถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ที่เพิ่งเปิดเป็นถนนแบบ 2 Way ทำให้เดินทางได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Sammakorn Place รามคำแหง ~5.3 km.
• Makro Food Service รามคำแหง ~5.3 km.
• ตลาดสัมมากร รามคำแหง ~5.7 km.
• Top สุขาภิบาล 3  ~6.1 km.
• The Paseo Town ~6.3 km.
• Little Walk  กรุงเทพกรีฑา ~7.7 km.
• Homepro รามคำแหง ~8.3 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ~5.6 km.
• โรงพยาบาลรามคำแหง 2​​ ~5.6 km.
• โรงพยาบาล สินแพทย์ เสรีรักษ์ ~8.1 km.
• โรงพยาบาลรามคำแหง ~9.6 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ~12.3 km.

โรงเรียน

• Ascot International School Bangkok ~4.4 km.
• Heathfield International School Bangkok ~7.1 km.
• Bromsgrove International School (Early Years) ~7.4 km.
• Ramkhamhaeng Advent International School ~8.0 km.
• Wellington College International School Bangkok ~8.6 km.

โครงการ Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวจาก A BEST ESTATE ที่มีประสบการณ์ทำโครงการบ้านเดี่ยวมายาวนาน แต่มักอยู่ในช่วงราคา 3-7 ล้านบาทมาตลอด ที่นี่จึงเป็นการขยับมาทำบ้านราคาที่สูงขึ้น ซึ่งโครงการก็จัดเต็มในเรื่องพื้นที่ใช้สอยจนเป็นจุดเด่นของบ้านเฟสนี้เลยค่ะ

โครงการสามารถทำบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าโครงการอื่นๆ เพราะทาง Deverloper มีที่ดินผืนนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ก่อสร้างเฟสแรก จึงสามารถลดค่าใช้จ่ายเรื่องที่ดินได้ บ้านแต่ละหลังจึงได้ทั้งที่ดินที่ใหญ่และพื้นที่ใช้สอยที่เยอะ ส่วนเฟสใหม่ที่เราเพิ่งเข้าไปชมบรรยากาศมาเป็นโซนบ้านเดี่ยว 3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 470-490 ตารางเมตร เป็นบ้านแบบใหม่ล่าสุด โซนด้านในของโครงการ

ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ย่านรามคำแหง บนที่ดิน 51-1-78 ไร่ โครงการมีเฟสเดิมเป็นโซนบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีพื้นที่ใช้สอย 117 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าหยิบจับง่ายในโซนนี้ ที่ราคาบ้านส่วนใหญ่ 10-20 ล้านบาท 

Master Plan

โครงการ Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) มีการวางผังโครงการที่น่าสนใจทีเดียว ซึ่งเรามองว่ามีเรื่องที่น่าสนใจอยู่ 4 ประเด็น ดังนี้ค่ะ

ประเด็นแรก :  ส่วนกลางทั้งหมดอยู่โซนหน้าโครงการ เวลาที่คนเข้ามาในโครงการ จะเห็น Clubhouse และสวนส่วนกลางก่อน  ช่วยเสริมบรรยากาศที่ดีให้กับโครงการ

ประเด็นที่สอง : จากซุ้มประตูโครงการ ห่างจากโซนบ้านเฟสแรกประมาณ 150 เมตร ช่วยให้ลูกบ้านได้รับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ประเด็นที่สาม : ถนนภายในโครงการมีมีลักษณะวนเป็น Loop ทำให้ลูกบ้านเข้า-ออกตัวบ้านได้หลากหลายเส้นทาง ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้ถนนแต่ละเส้นทาง

ประเด็นที่สี่ : บ้านในโครงการมีทั้งแปลงที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งบ้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ฝั่งหน้าบ้านจะโดนแดดในช่วงเช้าและร่มในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศใต้ตะวันตกเฉียงเหนือฝั่งหน้าบ้านจะร่มในช่วงเช้าและโดนแดดในช่วงบ่าย การเลือกบ้านว่าหันทิศไหนดีจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย หากเป็นคนที่ชอบตื่นสายๆ ก็เลือกให้ห้องนอนอยู่ฝั่งทิศใต้หรือตะวันตก เพื่อหลีกเลี่ยงแดดในตอนเช้าค่ะ

จากถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราจะเห็นป้ายโครงการชัดเจน ส่วนซุ้มประตูโครงการจะอยู่ลึกเข้าไปด้านในเล็กน้อย ทำให้มีระยะจอดรถรอได้ เวลาที่รถคันหน้าต้องแลกบัตร

ซุ้มประตูโครงการมีการแยกฝั่งเข้า-ออกที่ชัดเจน โครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ พร้อมมีไม้กั้นกระดกและ CCTV เพื่อความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน และมีชายคาคลุมตลอดแนว ช่วยบังแดดบังฝนให้ผู้ที่มาติดต่อเวลามาแลกบัตร แต่โครงการไม่ได้แยกช่องระหว่างลูกบ้าน และ Visitor  หากรถยนต์คันหน้ามีการแลกบัตร คันหลังอาจจะต้องรอสักครู่นะ

เมื่อผ่านซุ้มประตูโครงการเข้ามา เราจะเจอถนนภายในโครงการเป็นแนวยาว สองข้างทางมีการปลูกไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นให้เห็นตลอดทาง มองแล้วรู้สึกสดชื่นดี บรรยากาศที่ดูร่มรื่นแบบนี้เป็นข้อดีของโครงการที่ปลูกต้นไม้ใหญ่มาสักพัก จนต้นไม้ให้ร่มเงาได้แล้วค่ะ

ตรงเข้าในโครงการประมาณ  150 เมตร เราจะเจอโซนส่วนกลางของโครงการ มีทั้งสวนและ Clubhouse ภายในสวนส่วนกลางมีทางเดินในสวน ให้ลูกบ้านได้มาเดินออกกำลังกันด้วย

ติดกับสวนส่วนกลางเป็น Clubhouse ที่เดิมทีจะมีฟิตเนสและสระว่ายน้ำเท่านั้น แต่โครงการรีโนเวท Clubhouse ใหม่ ปรับให้ฟังก์ชันเข้ากับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ เช่น เพิ่มห้อง Co-Working Space และกั้นห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น

ทางขึ้นอาคาร Clubhouse มีความกว้างให้ใช้งานง่ายและออกแบบเป็น Universal Design มีทางลาดให้ใช้วีลแชร์ได้ด้วย

เมื่อเข้ามาใน Lobby ส่วนกลาง มีอาร์มเเชร์วางอยู่สำหรับคนที่นั่งคอยในช่วงเวลาสั้นๆ ด้านในเป็นโซนนั่งพักผ่อนที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สามารถมองเห็นวิวสวนส่วนกลางได้ด้วย โครงการวางโซฟารูปตัว L รองรับการใช้งานได้ 4-5 คน หากลูกบ้านคนไหนไม่สะดวกให้เเขกเข้าบ้านก็สามารถใช้พื้นที่บริเวณนี้มาพบปะ พูดคุยแทนได้

ห้องน้ำส่วนกลางจะแบ่งเป็น 2 โซน คือโซน Clubhouse และโซนสระว่ายน้ำ แบ่งห้องชาย-หญิง ทำให้ใช้งานห้องน้ำได้สะดวก ทั้งคนที่มาว่ายน้ำ และคนที่มาใช้ Facility อื่นๆ เหมือนเป็นการแยกห้องน้ำโซนเปียกโซนแห้งไปในตัว

ห้องน้ำส่วนกลางโซน Clubhouse มีห้องสุขา 2 ห้องพร้อมอ่างล้างหน้า

ถัดจากโซนพักผ่อนเราจะเจอ ห้องฟิตเนสที่วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 6-7 เครื่อง และมีพื้นที่ว่างบริเวณ Glass House ที่สามารถปูเสื่อเล่นโยคะชมบรรยากาศสวนส่วนกลางได้ด้วย

เมื่อออกมานอกอาคารจะเจอสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ระบบคลอรีนขนาด 10×15 เมตร ลึก 0.90-1.20 เมตร ลูกบ้านสามารถว่ายน้ำออกกำลังได้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมีโซนสระเด็กไว้ด้วยนะ สระว่ายน้ำอยู่ทางทิศตะวันออก แนะนำให้มาใช้งานตอนเย็นในช่วงที่แดดร่มสักหน่อยค่ะ

ห้องน้ำโซนสระว่ายน้ำแบ่งเป็นห้องน้ำชาย-หญิง

ภายในห้องน้ำส่วนกลาง มีครบทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำ อย่างละ 2 ห้อง ใครที่ว่ายน้ำเสร็จแล้วอยากออกไปข้างนอกต่อ ก็อาบน้ำในห้องน้ำส่วนกลางได้เลย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากลับไปอาบที่บ้าน

ข้างๆห้องน้ำส่วนกลางเป็นทางขึ้นไปชั้น 2 ของอาคารซึ่งเป็น Co-Working Space

ห้อง Co-Working Space แบบ Double Volume ดูโปร่งโล่งเป็นพิเศษ รองรับคนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำระบบ คลอรีน / สระผู้ใหญ่ ขนาด 10×15 เมตร ลึก 0.90-1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็กลึกขนาด 6×4 เมตร ลึก 0.60 เมตร / พร้อมโซนจากุชชี่
• ห้องออกกำลังกายขนาด 8×6 เมตร ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
• ห้อง Co-Working Space
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด ขนาดประมาณ 1 ไร่ 2 งาน 85 ตารางวา
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 30 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 1.70 เมตร เสริมด้วยเหล็กกันขโมย 2 เมตร รั้วหน้าบ้าน 1.50 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 10 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
• ระบบสแกนป้ายทะเบียน
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก

Highlights :

• ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ เมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวโครงการรอบข้างที่มีราคาใกล้เคียงกัน เรียกได้ว่าได้พื้นที่ใช้สอยคุ้มค่ามากที่สุดในโซนนี้
• ได้ Double Master Bedroom และห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำ และ Walk-in Closet ในตัว สะดวกต่อการใช้งาน
• ออกแบบให้มี Facade เสริมความสวยงามและช่วยบังสายตาจากคนภายนอก ในบริเวณที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น Walk-in Closet
• ได้ที่ดินใหญ่เมื่อเทียบกับโครงการรรอบข้าง ที่มีราคาพอๆกัน เหมาะกับคนที่อยากได้สวนรอบบ้านใหญ่ๆ

โดยปกติแล้วโครงการบ้านเดี่ยวในโซนนี้มักเป็นแบบ 2 ชั้น แต่แบบบ้านของโครงการ Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) เฟส 2 จะเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นทั้งหมด ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าโครงการอื่นๆ โดยมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 470-490 ตารางเมตร ซึ่งหากเราจะหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดนี้ในโซนรามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา อาจจะต้องใช้งบถึง 30 ล้านปลายๆบาท แต่บ้านเดี่ยว 3 ชั้นในโครงการนี้เริ่มต้นที่ 19.9 ล้านบาทเท่านั้นค่ะ

แบบบ้านในโครงการ Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) เฟส 2 มีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ

Type เริ่มต้นของเฟส 2 ชื่อแบบบ้าน Ruby บ้านเดี่ยว 3 ชั้น  ที่ดินมาตรฐาน 68 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 19.9 ล้านบาท

Type ใหญ่ที่สุดของโครงการคือแบบบ้าน Jadeite บ้านเดี่ยว 3 ชั้นที่ดินเริ่มต้น 79 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 490 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 22 ล้านบาท

สรุปโครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

•  หลังคาทรงเพิงแหงน(Lean to Roof) วัสดุเป็น เมทัลชีท พร้อมฉนวนกันความร้อน
• โครงสร้าง Conventional สามารถทุบผนังต่อเติม ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในอนาคตสะดวก
• ที่จอดรถ โครงสร้าง SLAB ON BEAM  ลงเสาเข็มประมาณ 19 เมตร เทพื้นคอนกรีตปูด้วยกระเบื้อง
• ลานซักล้าง โครงสร้าง SLAB ON BEAM  ลงเสาเข็มประมาณ 19 เมตร เทพื้นคอนกรีตปูด้วยกระเบื้อง
• ประตูรั้วหน้าบ้าน : ประตูเหล็กเลื่อนทำสี พร้อมติดตั้งระบบอัตโนมัติไว้
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×120 CM.
• พื้นชั้น 2 : SPC
• โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวบันไดด้วยไม้คอนวูด
• Built-in เคาน์เตอร์ครัวยี่ห้อ RCD (Voucher มูลค่า 300,000 บาท)
• สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ Cotto  เป็นหลัก
• มีอ่างอาบน้ำและเดินท่อน้ำร้อนใน Master Bathroom
• กรอบประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม ผิว powder coated
• ไฟบ้าน 3 เฟส รองรับการติดตั้ง EV Charger สูงสุด 22 kW.

เทคโนโลยี

• Digital Door Lock จาก Veco ที่ประตูหลัก

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

โครงการนี้จะมีบ้านตัวอย่างให้ชม 1 Type คือ Ruby ซึ่งเป็นบ้าน Type เริ่มต้น จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย

บ้านตัวอย่างแบบ Ruby

Ruby บ้านเดี่ยว 3 ชั้น  ที่ดินมาตรฐาน 68 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

หน้าตาบ้านจะเป็นสไตล์โมเดิร์นๆ ใช้โทนสีขาว-เทาดูสบายตา และเพิ่มลูกเล่นด้วยการใส่ Facade อะลูมิเนียมสีเทาเข้มขึ้นมา เพื่อความสวยงามและบังสายตาจากคนภายนอกได้เป็นอย่างดี น่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่

แบบบ้านหลังนี้เน้นพื้นที่ใช้สอยเยอะ และมีพื้นที่รอบบ้านให้คนที่ชอบต้นไม้ ตกแต่งสวนได้ด้วย รองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-6 คน

ชั้น 1 – บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คันแบบสบายๆ ส่วนภายในบ้านเน้นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและ Pantry Area เข้าด้วยกัน ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะออกแบบเป็น Double Volume ช่วยทำให้บ้านดูโล่งโปร่งมากขึ้น  ครัวจะได้เป็นแบบครัวปิด ที่เชื่อมต่อกับโซนเซอร์วิสทางด้านซ้ายของบ้าน

ชั้น 2 – ประกอบไปด้วย Master Bedroom 1 และห้องนอนรอง 1 ห้อง ที่มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ภายในตัวทุกห้อง

ชั้น 3 – ชั้นบนสุดของบ้านมี Master Bedroom 2 และห้องนอนรอง 1 ห้อง เหมือนชั้น 2 แต่ที่ต่างออกไปคือมี พื้นที่อเนกประสงค์มาให้ด้วย

ประตูรั้วของบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนที่แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ทำให้ไม่กินพื้นที่ในการเลื่อนเก็บ นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วย ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องเสียเวลาเดินจากรถมาเปิด-ปิดประตูเอง

บริเวณหน้าบ้านมีกริ่งสำหรับกดเรียกคนในบ้าน เวลามีคนมาเยี่ยม และมีที่ทิ้งขยะติดตั้งไว้ให้ ทำให้หน้าบ้านดูเรียบร้อยสะอาดตา

ที่จอดรถของบ้านจอดได้ 3 คัน ซึ่งมีขนาดความกว้าง 8 m. ลึก 5.45 m. โดยแบ่งเป็นจอดในร่ม 2 คัน ส่วนอีกคันจะมีชายคาคลุมครึ่งเดียว  หากใครอยากให้มีหลังคาคลุมได้เต็มคันก็สามารถต่อเติมชายคาเพิ่มเองได้ ส่วนโครงสร้างที่จอดรถเป็นแบบ Slab On Beam ลงเสาเข็มประมาณ 19 เมตร พร้อมปูกระเบื้องให้สวยงามจนถึงรั้วบ้านเลย โครงสร้างแบบแข็งแรงและคงทนมากกว่า Slab On Ground

ภายในที่จอดรถจะมีจุดรองรับการติดตั้ง EV Charger ไว้ให้ ระบบไฟจะเป็น 3 เฟส รองรับเครื่องชาร์จสูงสุดขนาด 22 kW. หรือรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น

ด้านหลังที่จอดรถเชื่อมต่อกับ เฉลียงของห้องเล่นในบ้าน ซึ่งเราสามารถเดินเข้าบ้านได้จากประตูนี้ก็ได้นะคะ

ประตูทางเข้าหลักของบ้านก็เชื่อมต่อกับที่จอดรถเช่นกัน มาพร้อมหลังคาหลุมกันแดด กันฝน จึงใช้งานง่าย ซึ่งเป็นประตูไม้ทึบ บานเปิดคู่ที่มีความกว้างพอที่จะขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆเข้า-ออกได้ ส่วนมือจับประตูเป็นระบบ Digital Door Lock จาก Veco เสริมความปลอดภัยให้สมาชิกในบ้าน

พื้นบ้านจะยกระดับขึ้นมาจากเฉลียงหน้าบ้านเพื่อกันน้ำไหลย้อนเข้าบ้าน

เมื่อเปิดประตูเข้ามา เราจะเจอ Common Area ขนาดใหญ่ที่เชื่อมพื้นที่รับแขกกับ Pantry Area เข้าด้วยกัน พื้นบ้านปูกระเบื้องขัดมันสีขาวลายหินอ่อน ดูสบายตา

พื้นที่รับแขกมีฝ้าเพดานแบบ Double Volume สูงถึง 6.20 เมตร ทำให้รู้สึกโปร่ง สบาย ไม่อึดอัด และดูโอ่อ่ามากขึ้นเมื่อแขวน Chandelier
พื้นที่บริเวณนี้ มีขนาดเพียงพอสำหรับวางโซฟารูปตัว L ขนาด 3-4 ที่นั่ง และยังวางอาร์มแชร์ 1-2 ตัวได้ด้วย มีระยะดูทีวีประมาณ 3 m. จึงสามารถใช้ทีวีขนาด 80″ ได้เลย

บริเวณพื้นที่รับแขกมองออกไปเห็นสวนข้างบ้าน โครงการจึงเลือกใช้ประตูกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ ให้ชมวิวได้ชัดๆ แล้วยังเปิดออกไปใช้งานเฉลียงเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งเล่นแบบ Outdoor ได้

พื้นเฉลียงจะลดระดับลงมาจากพื้นบ้าน เพื่อกันเศษฝุ่นจากภายนอกและน้ำไหลย้อน

เฉลียงด้านนอกปิดผิวด้วยพื้นไม้คอนวูด แต่โครงการอาจมีการปรับเปลี่ยนวัสดุปูพื้นบริเวณนี้ในอนาคตนะคะ พื้นที่บริเวณนี้ถูกล้อมด้วยตัวบ้าน ทำให้เกิดเป็นเงาร่มในช่วงเช้าถึงบ่ายแก่ๆ เจ้าของบ้านสามารถมาใช้งาน ชมสวนข้างบ้านได้

บริเวณ Common Area โครงการให้แอร์มา 2 ตัวเป็นแบบฝังฝ้า 4 ทิศทางและ 2ทิศทาง สามารถระบายความเย็นไปทั่วถึงทุกมุมห้อง แต่ห้องมีขนาดใหญ่แบบนี้เราแนะนำให้เปิดแอร์ 2 ตัวควบคูกันไป ไม่ควรเปิดแค่ตัวใดตัวหนึ่งเพื่อความเย็นสบายและไม่ให้แอร์ทำงานหนักกว่าเดิม และ Maintenance แอร์ระบบนี้จะต้องใช้ช่างโดยเฉพาะเท่านั้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแอร์ติดผนังทั่วไป

โครงการปลูกหญ้าบริเวณสวนรอบบ้านให้ พร้อมปลูกไม้พุ่มตามรั้วบ้านไว้ด้วย หากใครชอบทำสวน ปลูกต้นไม้จะตกแต่งสวนเพิ่มเติมก็ได้นะคะ เวลามาใช้งานบริเวณเฉลียงจะได้รู้สึกสดชื่นยิ่งขึ้น

หลังพื้นที่รับแขกเป็นโซน Pantry ที่ใช้เตรียมอาหาร  รองรับการเตรียมอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือใครทำขนมก็คงจะชอบมุมนี้แน่ๆเลย โซน Pantry โครงการไม่ได้ให้มาครบเซตแบบนี้นะคะ แต่ให้เป็น Voucher จากชุดครัวยี่ห้อ RCD มูลค่า 300,000 บาท เจ้าของบ้านสามารถเลือกสรรได้ว่าอยากให้โซน Pantry มีอะไรบ้างตามความชอบในการใช้งาน และไลฟ์สไตล์

ส่วนตัวเราชอบ Pantry แบบบ้านตัวอย่างมากเลยนะ เพราะใต้ซิงค์ล้างจานมีถังขยะมาให้ ซึ่งตัวถึงจะเด้งออกมาเวลาเราเปิดตู้ ละถูกเก็บกลับเข้าไปเวลาปิดตู้ สะดวกต่อการใช้งานและดูเป็นระเบียบมากเลยนะ ซึ่งเราสามารถเก็บไว้เป็นไอเดียตอนไปเลือกซื้อชุดครัวได้

ข้างๆ Pantry เป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่รองรับโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆ  ล้อมด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ฝั่ง เพื่อเปิดเชื่อมกับสวนและ เฉลียงทำให้บ้านได้รับแสงจากธรรมชาติมากทีเดียว ดูสว่างและโปร่งโล่ง

ห้องครัวเป็นแบบปิด  ทำให้เราสามารถประกอบอาหารกลิ่นฉุน ๆ ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นจะลอยเข้าบ้าน ภายในห้องครัวโครงการจะไม่ได้ให้เคาน์เตอร์และอุปกรณ์มาเช่นเดียวกับ Pantry เราจึงสามารถเลือกอุปกรณ์เครื่องครัวได้ตามใจชอบ

ซึ่งห้องครัวจะมีประตูเชื่อมต่อไปยังโซนเซอร์วิสของบ้าน ที่ประกอบไปด้วยห้องเก็บของ ห้องแม่บ้าน และห้องน้ำ

ห้องนอน-ห้องน้ำของแม่บ้านจะแยกออกมาจากตัวบ้าน ใกล้กับครัวและห้องซักรีด แม่บ้านจึงสามารถทำงานและอาศัยในโซนนี้ ได้เป็นสัดส่วน ไม่รบกวนเจ้าของบ้าน

ห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์จาก Cotto มาแบบครบชุดเหมือนในบ้านตัวอย่างเลยนะ หากใครต่อเติมห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่าง ก็มีส่วนอาบน้ำแยกมาให้ด้วย อยู่บริเวณมุมห้อง จึงติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้ง่าย อย่างไรก็ตามเรามองว่าพื้นที่ห้องน้ำยังมีการลดระดับหลายจุด จึงเหมาะกับผู้สูงอายุที่ยังเดินเหินได้สะดวก

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมา เราจึงสามารถทำความสะอาดห้องน้ำได้ง่ายขึ้น ขัดล้างได้ ไม่ต้องกลัวน้ำไหลย้อนไปยังตัวบ้าน

ทางขึ้นบันไดอยู่ใกล้ประตูหลักของบ้าน เวลากลับบ้านมาดึกๆก็เดินขึ้นชั้นบนได้สะดวกเลย

บันไดของบ้านมีขนาดกว้าง 1.25 เมตร คนพอจะเดินสวนกันได้ ลูกนอนของบันไดกว้างประมาณ 28 เซนติเมตร และมีชานพักบันไดเต็มผืน ยืนพักเหนื่อยได้สบายๆ ราวบันไดเป็นกระจกทำให้รู้สึกโล่งมากขึ้น

ขึ้นมาบนชั้น 2 เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom และห้องนอนรองเป็นหลัก โถงทางเดินชั้น 2 ค่อนข้างกว้าง หากจะจัดเป็นมุมพักผ่อน อ่านหนังสือเล็กๆก็ดีนะคะ พื้นชั้น 2-3 เป็น SPC ทำให้ทนต่อแรงกระแทกและความชื้นได้ดี

โถงชั้น 2 จะได้แสงธรรมชาติผ่านกระจกบานใหญ่ ของห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ทำให้ได้บรรยากาศที่โล่งสบายตา และสามารถมองเห็นพื้นที่รับแขกด้านล่างด้วยนะ เวลามีแขกมาเยือนที่บ้าน เราก็สามารถเห็นจากชั้น 2 ได้เลย

เมื่อเข้ามาใน Master Bedroom 1 เราจะเจอ Walk-in Closet ขนาดใหญ่เป็นอันดับแรก  แล้วจึงดันโซนเตียงนอนไปไว้ด้านในสุด ทำให้พักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น

บริเวณ Walk-in Closet เราสามารถแบ่งตู้เสื้อผ้าเป็น 2 ฝั่ง แยกเป็นฝั่งสามี-ภรรยา  และยังมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งไว้ฝั่งคุณภรรยาอีกด้วย เพื่อความสะดวกสบายในการเลือกเสื้อผ้าและแต่งหน้าทำผม

ภายในมีการแบ่งโซนเปียกแห้งเป็นสัดส่วนชัดเจน ได้สุขภัณฑ์จาก Cotto ครบเป็นมาตรฐาน แต่ที่แตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆ คือได้อ่างอาบน้ำและ Rain Shower เพิ่มเข้ามาด้วย ห้องน้ำมีหน้าต่างครบถ้วน จึงทำให้ภายในห้องสว่างโปร่งโล่ง และยังสามารถเปิดระบายอากาศได้อีกด้วย

ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.20 x 2.05 เมตร ใช้งานได้สบายๆ ตัวพื้นมีการลดระดับลงมา เพื่อกันน้ำไหลย้อนไปส่วนแห้ง แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นออกข้างนอกนะคะ

อ่างอาบน้ำแบบฝังขนาด 0.75 X 1.45 เมตร อยู่มุมห้องน้ำพอดี แล้วยังติดกับหน้าต่าง ทำให้ส่วนอ่างอาบน้ำแห้งไว ไม่มีน้ำขัง และช่วยลดความชื้นในห้องน้ำ

ห้องนอนมีขนาดกว้างมาก เมื่อวางเตียง 6 ฟุตไปแล้วยังมีที่ว่างพอที่จะวางโซฟาปลายเตียงเพิ่มได้ นอกจากนี้ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงกว้างพอให้จัดเป็นมุมทำงานได้ สำหรับห้องนอนโครงการจะติดตั้งแอร์ ฝังฝ้า 4 ทิศทางให้ทุกห้องเลย

ภายในห้องนอนมีหน้าต่าง 2 ฝั่งทำให้ห้องนอนได้รับแสงสว่างเต็มที่ หากใครชอบห้องนอนมืดๆ กลัวแสงแยงตาช่วงเช้า แนะนำให้ติดม่านแบบทึบแสงนะ

ห้องนอนมีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ เปิดให้เห็นวิวสวนรอบบ้าน ได้บรรยากาศที่ร่มรื่นและสดชื่นค่ะ

ถัดมาที่ห้องนอนรอง 1 ก็มีขนาดใหญ่พอที่จะแบ่งโซน Walk-in Closet กับโซนพักผ่อน แยกออกจากกันได้เป็นสัดส่วน

พื้นที่ Walk-in Closet สามารถวางตู้เสื้อผ้าเป็นตัว L หรือจะแบ่งเป็นตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ เพื่อใช้แต่งตัวแต่งหน้าได้สะดวก

ติดกับ Walk-in Closet เป็นห้องน้ำ ทำให้ใช้งานได้สะดวกหลังจากอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้เลย ภายในห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบตามมาตรฐาน โดยอุปกรณ์ต่างๆจะให้มาเหมือนห้องน้ำชั้น 1 พื้นห้องน้ำมีการลดระดับเพื่อกันน้ำไหลออกมา และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.00 x 1.80 เมตร แนะนำให้ติดฉากกั้นและชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำเพิ่มเติมเพื่อใช้งานได้สะดวกขึ้น

อีกฝั่งของ  Walk-in Closet  เป็นโซนพักผ่อนที่วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ หากติดตั้งชั้นวางทีวีตามแบบบ้านตัวอย่างจะมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 0.75 เมตร พอให้คนเดินผ่านได้สะดวก ส่วนข้างๆเตียงเหมาะกับการจัดเป็นมุมทำงานหรือเขียนหนังสือ เพราะติดกับประตูกระจกบานเลื่อนทำให้ได้แสงสว่างอย่างเพียงพอ

ในห้องนอนรองจะมีระเบียงมาให้ด้วย มีขนาดประมาณ 3.70 x 1.00 เมตร สามารถมองเห็นสวนข้างบ้านได้ เหมาะกับการรับลมชมวิวเปลี่ยนบรรยากาศ

พื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย ช่วยกันน้ำกันฝุ่นไม่ให้เข้าสู่ตัวห้อง

เมื่อขึ้นมาชั้น 3 จะเจอโถงทางเดินที่เชื่อมไปยังห้องต่างๆ ได้แก่ Master Bedroom 2 , พื้นที่อเนกประสงค์ และห้องนอนรอง

เดินเข้ามา Master Bedroom 2 จะเจอโซน Walk-in Closet ที่สามารถจัดเป็นตู้เสื้อผ้าได้ 2 ฝั่งเลย รองรับการใช้งานของ 2 คนได้ หรือตอบโจทย์คนที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ สาย Fashionista

ห้องน้ำภายในห้องนอนมีขนาดกว้างมากๆ โดยจะแยกส่วนอาบน้ำไว้ติดหน้าต่าง ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี และโครงการก็ออกแบบ Facade ไว้บังสายตาคนนอก ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

โซนห้องนอนมีขนาดกว้างขวาง วางเตียง 6 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้วางโซฟาได้อีกนะ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานที่มุมห้องได้ด้วย

ห้องนอนมีประตูบานเลื่อนให้สามารถเปิดไปยังระเบียงได้

ระเบียงมีขนาดประมาณ 4.40 x 2.00 เมตร กว้างมากพอจะจัดเป็นมุมพักผ่อนจิบชากาแฟแบบ Semi-Oudoor บริเวณนี้มีชายคาคลุมทำให้ไม่ร้อน ออกมาใช้งานได้ตลอดเวลา

พื้นที่อเนกประสงค์ใช้เป็นจุดรวมตัวของสมาชิกในบ้าน หากใครอยากติดแอร์แนะนำให้ต่อเติมประตูกั้นห้อง เพื่อประหยัดค่าไฟ และทำให้ห้องเป็นสัดส่วนด้วยค่ะ

ภายในพื้นที่อเนกประสงค์จะมีระเบียงให้ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ และเปิดรับลมได้เต็มที่ด้วยค่ะ

ปิดท้ายด้วยห้องนอนรอง 2 ภายในมีพื้นที่ขนาดใหญ่ไม่แพ้ห้องอื่นๆ สามารถแบ่งเป็นโซน Walk-in Closet กับโซนพักผ่อน อย่างเป็นสัดส่วน

โซน Walk-in Closet สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2 มีการวางผังคล้ายๆกับห้องน้ำของห้องนอนรอง 1 เพียงแต่ส่วนอาบน้ำมีขนาดกะทัดรัดลงมา ซึ่งมีขนาดประมาณ 1.50 x 1.00 เมตร ยังถือว่าใช้งานได้สะดวกอยู่นะ และอยู่ในตำแหน่งมุมจึงติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้สะดวก

โซนพักผ่อนมีขนาดใกล้เคียงกับห้องนอนรอง 1 เมื่อวางเตียงขนาด 6 ฟุตลงไปแล้ว ยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลืออีกเยอะ จนสามารถจัดมุมพักผ่อนเพิ่มได้เลย หรือใครอยากได้มุมทำงานส่วนตัวก็วางโต๊ะทำงานข้าง ๆเตียงได้นะ เเละมีระเบียงที่เปิดออกไปชมวิว เปลี่ยนบรรยากาศได้

ระเบียงมีขนาดประมาณ 3.50 x 1.20 เมตร แต่ไม่มีชายคาคลุม ทำให้เหมาะกับการใช้งานช่วงเช้าตรู่ที่แดดยังไม่แรงมากหรือช่วงเย็นๆ เท่านั้น หรือจะใช้วางกระถางต้นไม้ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ร่มรื่นให้กับห้องนอนได้ค่ะ

Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2567

• BEVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 53.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท
• RUBY บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 68 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 19.9 ล้านบาท
• JADEITE บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 79 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 490 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 22 ล้านบาท

หากใครกังวลว่าจะกู้ธนาคารไม่ผ่าน โครงการมีคำแนะนำด้านสินเชื่อให้กับลูกค้าทุกท่านค่ะ แนะนำให้ลองปรึกษาดูก่อน

• จองและทำสัญญา 30,000 – 50,000 บาท
• ดาวน์ 10-15% ผ่อนดาวน์ 6-8 งวด
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 75,000 – 100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 12 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) ตั้งอยู่บนทางคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษก ระหว่างโซนรามคำแหงและกรุงเทพกรีฑา จึงเต็มไปด้วยแหล่งของกินของใช้ เช่น Sammakorn Place รามคำแหง , Makro Food Service รามคำแหง และ Little Walk  กรุงเทพกรีฑา นอกจากนี้ยังใกล้โรงเรียนนานาชาติหลายแห่งในย่าน สะดวกในการเดินทางเข้าเมืองไปโซนพระราม 9 อนุเสาวรีชัยสมรภูมิได้สะดวกโดยใช้ทางด่วนศรีรัช และ ไปชลบุรีได้ง่ายโดยใช้มอเตอร์เวย์

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :  ถือว่าให้มาตามมาตรฐาน คือมีไม้กระดก  ควบคู่กับการใช้ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถลูกบ้าน นอกจากนี้ยังมี CCTV ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการประมาณ 30 จุด ส่วนตัวบ้านมีระบบ Digital Door Lock ที่ประตูหลัก เสียดายนิดเดียวที่น่าจะมี Magnetic Sensor บริเวณประตู-หน้างต่างมาอีกสักนิดนะคะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

ตัวโครงการ – โครงการออกแบบให้ซุ้มประตูโครงการอยู่ห่างจากโซนพักอาศัยทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และถนนในโครงการเป็นแบบวน Loop สามารถเข้า-ออกตัวบ้านได้สะดวกแต่จะได้ความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าแบบซอยตันนะคะ ส่วนการจัดให้ Clubhouse อยู่หน้าโครงการก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีให้โครงการค่ะ

ตัวบ้าน – โครงการออกแบบตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยเยอะ เมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างที่เป็น  Segment เดียวกัน โครงการนี้ให้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 20-30% เลยทีเดียว ถือว่าเป็นจุดเด่นสุดๆของโครงการนี้เลย เรามองว่าแบบบ้านสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ครอบครัวที่มีลูกเล็กยันโตจนมีครอบครัวแต่งงานก็ยังอยู่บ้านเดิมได้ เพราะบ้านรองรับการขยายครอบครัว มี Double Master Bedroom ส่วนห้องนอนรองก็มีพื้นที่ใหญ่มากมี ห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัวทุกห้อง

วัสดุ :  จุดที่เราชอบคือโครงการให้เลือกอุปกรณ์เครื่องครัว จาก RCD ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ใช้วัสดุแข็งแรงคงทน คุ้มกับราคา เราสามารถจัดสรรได้ตามไลฟ์สไตล์ของเราโดยรวมแล้ววัสดุค่อนข้างเหมาะสมกับราคา แต่น่าเสียดายเรื่องระบบเทคโนโลยีภายในบ้านมีให้น้อยไปนิดนึง

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : แม้จะไม่ได้เป็นโครงการใหม่แกะกล่อง แต่ก็มีข้อดีที่ต้นไม้ต่างก็โตให้ร่มเงา ทำให้บรรยากาศดูเขียวชอุ่ม ในส่วนของ Clubhouse ก็มีการรีโนเวทใหม่ดูสดใหม่ขึ้น

สาธารณูปโภค : Facility ส่วนกลางให้มาครบตามมาตรฐาน คือ Lobby ฟิตเนส Co-working Space  และสระว่ายน้ำระบบคลอรีน ทำให้บรรยากาศไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ก็แลกมากับค่าส่วนกลางที่ราคาไม่แพง เพียง 12 บาท/ตร.วา/เดือน น่าจะถูกใจคนที่ไม่อยากเสียค่าส่วนกลางราคาสูงมาก แต่ก็ยังมี Facility ให้ใช้ครบถ้วน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 19 – 22 ล้านบาท, 26 มิถุนายน 2567 

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – ติดถนนคู่ขนานกาญจนาฯ ใกล้ทางด่วนและมอเตอร์เวย์
• ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ CCTV และ รปภ.หน้าหมู่บ้าน 24 ชั่วโมง
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – พื้นที่ใช้สอยเยอะ ได้ห้องนอนใหญ่ทุกห้อง
• วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับราคานี้
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 6.5/10 – ไม่ใช่โครงการใหม่แต่มีความร่มรื่น เพื่อนบ้านส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม Main Class
• สาธารณูปโภค 7/10 – เน้นฟังก์ชันครบ ส่วนกลางไม่แพง
• 7.30 / 10.00 

Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) เฟส 2 เหมาะกับใคร

โครงการ Natural City Legacy Ramkhamhaeng – Krungthep Kreetha (เนเชอรัลซิตี้ เลกาซี่ รามคำแหง- กรุงเทพกรีฑา) เฟส 2 เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มองหาบ้านเดี่ยว 3 ชั้น  ย่านรามคำแหง ทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่แถวๆโซนรามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา ชอบพื้นที่ใช้สอยเยอะ ออกแบบบ้านมาให้ทุกห้องนอนมีพื้นที่ใหญ่ มีห้องน้ำส่วนตัวครบครัน เน้นความคุ้มค่ามากกว่าความต้องการที่จะอยู่ในโครงการใหม่ อยากได้โครงการที่มี Facility ส่วนกลางให้ใช้งานแต่ไม่ต้องการจ่ายค่าส่วนกลางสูงๆ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 19.9-22 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 139,300-154,000 บาท

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่