NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา บ้านเดี่ยวหรู 30-80 ล้านบาท พร้อมส่วนกลางและผืนน้ำรวมกว่า 9 ไร่ จาก Land and Houses [รีวิวฉบับที่ 2532]

NANTAWAN PINKLAO-KANCHANA (นันทวัน ปิ่นเกล้า-กาญจนา) ณ วันที่ 16 มีนาคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.774676, 100.411951
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา ค่ะ

โครงการ NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา ตั้งอยู่ในโซนปิ่นเกล้า-ตลิ่งชัน หรือก็คือโซนกรุงเทพฝั่งตะวันตก ซึ่งทำเลนี้จะอยู่ใกล้ถนนราชพฤกษ์ช่วงที่ใช้เข้าสาทรได้ง่าย หากสังเกตดีๆ ถนนสายนี้จะมีโครงการบ้านแพงระดับ High End เปิดใหม่ตลอดและยังมีพื้นที่ว่างให้พัฒนาอยู่อีกเยอะ คาดว่าน่าจะเจริญรอยตามถนนราชพฤกษ์ในอนาคตจึงเป็นอีกทำเลที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ

รอบๆ โครงการรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม อย่างบนถนนบรมราชชนนีก็จะมีร้านอาหารหลากหลายให้เลือก รวมถึงตลาดสดด้วย หรือถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 ที่เป็นถนนเปิดใหม่ก็เห็นมีร้านค้าทยอยมาเปิดตัวเยอะขึ้น มีตลาดสดขนาดใหญ่ เช่น ตลาดดอกไม้, ปากคลองตลาดใหม่ที่มีขายอาหารสดด้านในด้วย

อีกหนึ่งถนนใกล้ๆ อย่างราชพฤกษ์ก็เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ดั้งเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตลาดต่างๆ อย่างขวัญใจของเราเลยก็คือ ตลาด Food Villa แนะนำให้ไปลองกุ้งแม่น้ำ ราคาดีและรับเผาให้เลย ถ้าเป็นพวกคอมมูนิตี้มอลล์ ก็จะมี The Circle หรือจะไปที่ถนนกาญจนาภิเษก ก็มี The Paseo Park ส่วนบนถนนเพชรเกษมก็เป็นแหล่งชุมชนที่มีคนอาศัยหนาแน่น มี The Mall, Seacon, Big C, Lotus, ร้านรวงต่างๆและตลาดสดอยู่หลายแหล่ง เช่น ตลาดบางแค เป็นต้น

ซูมเข้ามาดูใกล้ๆ จะเห็นว่าถนนอัศวพิเชษฐ์ที่โครงการตั้งอยู่นั้นมีข้อดีที่สามารถเข้าถึงได้ 2 เส้นทาง ทั้งทางถนนกาญจนาภิเษกในระยะประมาณ 300 m. และถนนบรมราชชนนีในระยะประมาณ 1.3 km. เป็นทางเลือกในการใช้งานได้

นอกจากนี้จากตำแหน่งของโครงการไปยังจุดขึ้นทางด่วนเพื่อเข้าเมือง มีระยะทางประมาณ 6.6 km. เท่านั้น เป็นตัวช่วยให้เดินทางเข้าไปยังโซนจตุจักร ลาดพร้าว หรือไปสนามบินดอนเมืองได้ง่ายขึ้น

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ดูจากภาพรวมบริเวณโดยรอบโครงการ NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา ยังคงเป็นพื้นที่ว่างและบ้านพักอาศัยเกือบทั้งหมด ไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพ และไม่มีแหล่งเสื่อมโทรมหรือสิ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษในการอยู่อาศัย ซึ่งเราสรุปบริบทโดยรอบแต่ละทิศได้ดังนี้ค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนอัศวพิเชษฐ์
• ทิศตะวันออก ที่ดินส่วนใหญ่ติดกับ ที่ดินเปล่า, หมู่บ้านภาณุ และบางส่วนติดกับบริษัทขนส่งระหว่างประเทศ
• ทิศใต้ ติดกับ หมู่บ้านภาณุ
• ทิศตะวันตก ติดกับ หมู่บ้าน Enrich Park

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• เดอะ พาซิโอ กาญจนาภิเษก ~ 2.2 km.
• ตลาดธนบุรี ~ 5.4 km.
• Design Village พุทธมณฑล ~ 6.2 km.
• SC Plaza ~ 6.9 km.
• The Mall บางแค ~ 7.4 km.
• Lotus บางใหญ่ ~ 7.7 km.
• Food Villa ราชพฤกษ์ ~ 8.1 km.
• เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ 8.7 km.
• The Brio ศาลายา ~ 10.9 km.
• ช่างชุ่ย ~ 11.4 km.
• The Walk ราชพฤกษ์ ~ 12.3 km.
• Major Cineplex ปิ่นเกล้า ~ 12.4 km.
• เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า 12.6 กม.
• The Sense Pinklao ~ 12.8 km.
• ตลาดศาลายา ~ 13 km.
• Makro ศาลายา ~ 15.2 km.
• เซ็นทรัล ศาลายา ~ 17.2 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลธนบุรี 2 ~ 5 km.
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ~ 9.3 km.
• โรงพยาบาลธนบุรี ~ 10.8 km.
• ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ~ 11.4 km.
• โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ~ 11.7 km.
• โรงพยาบาลตา หู คอ จมูก ~ 12.4 km.
• โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นนอล ~ 13.6 km.
• โรงพยาบาลเจ้าพระยา ~ 13.9 km.

โรงเรียน

• Hummingbird International Kindergarten ~ 1.3 km.
• โรงเรียนเพลินพัฒนา ~ 5.1 km.
• โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี ~ 6.9 km.
• Kidz Village International Kindergarten ~ 7.5 km.
• Dragon International School ~ 9.3 km.
• Denla Rama V School ~ 9.8 km.
• โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี ~ 11.3 km.
• มหาวิทยาลัยสาธิตกรุงเทพธนบุรี ~ 11.7 km.
• Faculty of Music, Silpakorn University ~ 11.7 km.
• Mahidol University ~ 12.3 km.
• Mahidol University International Demonstration School ~ 13.3 km.
• โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ~ 13.6 km.

ตัวช่วยในการเดินทาง

• ทางด่วนศรีรัช(ทางขึ้นลงกาญจนาภิเษก) ~ 6.6 km.

พูดถึงแบรนด์ NANTAWAN (นันทวัน) จะเป็นแบรนด์บ้านระดับบนของ Land&Houses ความน่าสนใจคือ ส่วนกลางขนาดใหญ่มาก มาครบทั้ง Clubhouse และสวนหย่อม รวมถึงผืนน้ำในโครงการที่เป็นจุดทำให้แตกต่างจากโครงการอื่นอย่างเห็นได้ชัด จากขนาดผืนน้ำขนาดใหญ่+อาคาร Clubhouse และสวนส่วนกลาง รวมกันมีขนาดถึงประมาณ 9 ไร่เลยค่ะ

ส่วนตัวบ้านจะอยู่บนผืนที่ดินขนาดใหญ่ขนาด 100 ตร.วา ขึ้น ไปจนถึง 236 ตร.วา เลย และขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้านใหญ่สุดจะอยู่ที่ 608 ตร.ม. เลยค่ะ

Masterplan

โครงการ NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา มีเนื้อที่โครงการ 96 ไร่กว่าๆ กับจำนวนบ้านในโครงการ 179 ยูนิต ซึ่งถ้าดูจากพื้นที่โครงการ 96 กว่าไร่แล้ว ถือว่าอยู่อาศัยกันสบายๆไม่หนาแน่น ได้ส่วนกลางขนาดใหญ่ อีกทั้งบ้านของโครงการนี้จะมีที่ดินขนาดใหญ่ 100 ตร.วาขึ้นไป

หากดูจาก Masterplan ประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันค่ะ อย่างแรกคือ “ตำแหน่งส่วนกลาง” ซึ่งเค้าจัดมาให้อยู่โซนด้านหน้าตามแนวถนนหลักและเชื่อมต่อพื้นที่มาจนถึงบริเวณกลางโครงการ ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศเวลาเข้าออกโครงการได้ดี

ประเด็นที่ 2 คือ “ทิศของบ้าน” โดยบ้านส่วนใหญ่จะหันทางทิศเหนือและใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมในการเลือกซื้อบ้านเลย …ทิศเหนือจะได้แดดเช้าและร่มในตอนบ่าย ส่วนทิศใต้จะได้ลมค่อนข้างดี แต่แดดจะลงหน้าบ้านหน่อยในช่วงบ่าย บ้านทิศใต้จึงเหมาะกับแปลนบ้านที่วางห้องนั่งไว้ฝั่งหลังบ้านค่ะ

ประเด็นสุดท้ายคือ “ความเป็นส่วนตัว” จากการวางผังโครงการ การจัดให้แปลงบ้านส่วนใหญ่จะอยู่ในซอยที่มีเพื่อนบ้านแต่ละซอยไม่ถึง 10 หลัง จะมีแค่บางโซนเท่านั้นที่ทำถนนแบบวน Loop ซึ่งมีข้อดีในเรื่องของการเข้าออกที่สะดวกกว่าซอยตันค่ะ

บริเวณหน้าโครงการจะมีการจัด Landscape ให้ดูสวยงาม มีน้ำพุตกแต่งและมีแนวของต้นปาล์ม ทำให้บรรยากาศดูอลังการและเป็นจุดนำสายตาเข้ามาถึงในโครงการ

รวมถึงมีอาคารตกแต่งและอาคารบริการ ทำให้บรรยากาศดูโอ่อ่ามากขึ้น

ประตูของโครงการจะเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนแบบ Double Gate ลูกบ้านสามารถเข้าออกได้ด้วยระบบ Bluetooth ระยะไกล ใช้งานสะดวกเหมือนตอนขึ้นทางด่วน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งกล้อง CCTV ในโครงการทั้งหมด 48 ตัวเพื่อช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในโครงการ

เข้ามายังถนนหลักของโครงการจะเห็นแนวต้นปาล์มยาวเข้าไปด้านใน ซึ่งนอกจากความร่มรื่นแล้วยังเป็นจุดนำสายตาเข้าไปยังพื้นที่ส่วนกลาง สำหรับแปลงบ้านส่วนใหญ่จะแยกเข้าไปในซอยย่อยๆ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ถนนในโครงการดูเรียบร้อยมาก เนื่องจากโครงการนำเสาไฟ, สายไฟลงดินทั้งหมด และถนนในโครงการทั้งหมดเป็นถนนลาดยาง นุ่มนวลกับล้อรถยนต์มากกว่าถนนคอนกรีตแบบปกตินะคะ

สิ่งที่ทำให้โครงการนี้แตกต่างจากโครงการอื่นอย่างเห็นได้ชัด คือผืนน้ำขนาดใหญ่ที่ช่วยส่งเสริมภูมิทัศน์ในโครงการให้ดูอลังการและสวยงามมากๆ วางตัวเป็นแนวยาวเกาะตามถนนหลักของโครงการ อีกทั้งยังมีเสียงน้ำพุช่วยให้บรรยากาศดูผ่อนคลายยิ่งขึ้น เหมาะกับการมาเดินเล่นช่วงเช้าเย็นที่แดดร่ม พากันมาเดินเล่นเป็นครอบครัวได้เลย เพราะตลอดแนวจะมีฟุตบาทสำหรับคนเดินแยกจากทางเดินรถค่ะ

ติดกับผืนน้ำเป็นตำแหน่งของอาคาร Clubhouse ซึ่งจุดที่น่าสนใจลำดับแรกก็คือ จำนวนที่จอดรถที่ให้มาถึง 10 กว่าคันเลยนะคะ รองรับการใช้งานของลูกบ้านได้เยอะ เหมาะกับโครงการนี้ เพราะลูกบ้านน่าจะได้มีโอกาสรับรองแขกหรือพาเพื่อนๆ มารวมตัวกันที่ Clubhouse จะได้มีที่จอดรถเพียงพอ

เข้ามาในอาคารจะเป็นทางเดินแบบ Semi-Outdoor ที่แจกไปยังห้องต่างๆ ห้องแรกทางขวามือจะเป็น Lobby รับรองแขกที่เป็นห้องแอร์ค่ะ

ด้านใน Lobby จะมีเคาน์เตอร์บาร์และมีชุดโซฟาหลายมุม หลายขนาด รองรับการใช้งานทั้งกลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ แยกพื้นที่ออกเป็น 2 ห้องเพื่อความเป็นสัดส่วน ซึ่งปัจจุบัน Lobby นี้ยังใช้เป็น Sales Gallery ด้วยนะคะ หากใครสนใจโครงการก็มาติดต่อที่นี่ได้เลย

ภายในอาคารมีการตกแต่งให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยน้ำตกจำลอง ทำให้ทางเดินในอาคารได้วิวสวยๆ ดูน่าใช้งานมากเลย

สระว่ายน้ำที่ติดกับอาคารจะเป็นสระเด็ก ซึ่งพื้นที่โซนนี้จะมีหลังคาคลุมไว้ ดังนั้นคุณหนูๆ ก็ยังพอมาเล่นน้ำได้ในช่วงเวลากลางวัน และพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นช่องลมให้กับตัวอาคารด้วยค่ะ

ระหว่างพื้นที่สระเด็กและสระผู้ใหญ่จะมีทางเดินกั้นแยกโซนชัดเจน

สระว่ายน้ำของผู้ใหญ่จะเปิดมุมมองให้เห็นผืนน้ำตกแต่งได้ชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นสระได้วิวสวยงามทีเดียวนะคะ โดยสระนี้จะเป็นสระระบบเกลือ ขนาดประมาณ 10 x 23.8 m. ความยาวเกือบเท่าสระ Half Olympic เลย จึงว่ายออกกำลังกายจริงจังได้ และใช้งานพร้อมกันหลายคนได้ค่ะ

หากเราเดินไปสุดปลายทางเดินจะมี Pavillion อีกจุดหนึ่งที่จัดฟังก์ชันเป็น Jacuzzi

Jacuzzi ของโครงการนี้จะมีหลังคาบังแดดบังฝนให้ รองรับการใช้งานประมาณ 7 ที่นั่ง

รอบๆ สระจะจัดเป็นมุมนั่งเล่น ชมวิว ซึ่งได้วิวสระที่เชื่อมต่อไปกับผืนน้ำ เป็นวิวสวยๆ ที่มองไปได้ไกลเลยค่ะ

เข้ามาในอาคารอีกฝั่งหนึ่ง จัดฟังก์ชันชั้นล่างไว้เป็น Co-Living&Co-Working Space และห้องน้ำ

Co-Living&Co-Working Space เป็นพื้นที่พักผ่อนชิลๆ เหมาะกับการมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ ซึ่งตำแหน่งของห้องนี้จะได้วิวสระว่ายน้ำพอดีค่ะ

ตรงข้ามกับ Co-Working Space จะมีห้องน้ำแยกชาย/หญิง และผู้สูงอายุ

ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่มาก กว้างขวางใช้งานสบาย ภายในมีทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำเลยค่ะ อีกทั้งในห้องน้ำก็ยังติดแอร์ด้วย ใช้งานได้เย็นสบายเลย

ในส่วนของห้องน้ำผู้สูงอายุก็มีความกว้างมากอีกเช่นกัน รองรับการใช้งานวีลแชร์ได้และออกแบบมาให้มีราวกันลื่น ตอบโจทย์ผู้สูงอายุ

นอกจากนั้นยังมี Facility ที่อยู่ชั้นบนด้วยค่ะ ซึ่งก็คือ Fitness นั่นเอง

ทางเข้า Fitness จะต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้า-ออกนะคะ

ภายใน Fitness มีขนาดใหญ่อีกเช่นเคย รองรับการใช้งานพร้อมๆ กันได้ประมาณ 10 คน และเวลาที่มาวิ่งออกกำลังกายก็จะมองเห็นสระว่ายน้ำและผืนน้ำขนาดใหญ่เลยค่ะ

ในส่วนของสวนหย่อมจะอยู่บริเวณกลางโครงการเลย ทำให้ลูกบ้านเข้าถึงได้สะดวก แค่เฉพาะส่วนหย่อมตรงกลางก็ขนาดประมาณ 3 ไร่แล้วค่ะ โดยมีบ่อน้ำพุเป็นจุดรับสายตาอย่างแรกที่เดินเข้ามาเจอ ซึ่งเราสามารถเดินเล่นรอบๆได้  เมื่อเดินเข้าไปด้านในก็จะมี Pavillion ตกแต่งให้มานั่งได้อีกจุดหนึ่ง จัดออกมาในรูปแบบสมมาตรตามรูปแบบของสวนสไตล์ฝรั่งเศส

อีกประเด็นคือ ต้นไม้ที่โครงการเลือกใช้ก็นำเอาต้นไซส์ใหญ่ๆ ที่ให้ร่มเงาได้มาแล้ว จึงได้บรรยากาศที่ร่มรื่นทันทีที่เลือกซื้อโครงการนี้เลย ไม่ต้องรอเวลาค่ะ

นอกจากพื้นที่พักผ่อนในสวนก็จะมีพื้นที่รองรับกิจกรรมที่ Active ด้วยนะคะ อย่างเช่น ลานเล่น Surfskate ขนาดใหญ่

มีสนามมินิบาสเกตบอลสำหรับเด็กๆ มาใช้ออกกำลังกายได้

สุดปลายสวนเป็นลานกิจกรรมขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องเล่นเด็กและอุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้งติดตั้งไว้ให้

บริเวณรอบๆ สนามเด็กเล่นจะมีพื้นที่ให้ผู้ปกครองมานั่งคอยได้ด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse 2 ชั้น ติดตั้ง Solar Cell บริเวณหลังคาเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าส่วนกลาง

• Lobby
• Co-Living & Co-Working Space
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 10×23.8 เมตร
• สระเด็กลึกขนาด 7.7×7.4 เมตร
• Jacuzzi 7 ที่นั่ง
• Fitness on the bridge (ห้องออกกำลังกายพร้อมวิวสวนและผืนน้ำ)

แบบบ้านของโครงการ NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นทั้งหมด รองรับครอบครัวใหญ่ 4-5 ห้องนอน พร้อมห้องแม่บ้านในทุกแบบบ้าน มีให้เลือก 4 แบบด้วยกัน

• Le Baron บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่ม 30 ล้านบาท
• Le Comte บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 122 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 378 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่ม 40 ล้านบาท
• Le Marquis บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 141 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 449 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่ม 55 ล้านบาท
• Le Duc บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 177 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 608 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่ม 80 ล้านบาท

สรุปวัสดุและอุปกรณ์ในบ้าน

• โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ทุบต่อเติมได้
• ที่จอดรถด้านหน้ากลางแจ้ง ลงเสาเข็มสั้น ลึก 6 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้อง+ทรายล้าง
• ที่จอดรถในร่ม ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน ปูพื้นด้วยกระเบื้อง+ทรายล้าง
• ลานซักล้างหลังบ้านลงเสาเข็มสั้น ลึก 6 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้อง
• ประตูรั้วหน้าบ้านติดตั้งระบบอัตโนมัติ เปิดผ่านรีโมท
• พื้นชั้น 1 ปูพื้นด้วยหินอ่อนสังเคราะห์
• พื้นห้องนอนชั้น 1 ปูพื้นด้วย Absorption Floor รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ
• พื้นชั้น 2 ปูพื้นด้วยไม้สำเร็จรูป VSPC ให้ความสวยงามแบบไม้จริงและสัมผัสใกล้เคียงไม้จริง
• Built-in ชุดครัวยี่ห้อ Norme ปู Top เคาน์เตอร์ด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน + Wireless Charge
• Superhood เครื่องดูดควันดีไซน์ใหม่ ให้พลังแรงดูดมากขึ้น และลดกลิ่นควัน
• Heat Detector
• เตาไฟฟ้าและเตาอบของ Teka
• ครัวไทยจาก Starmark ปู Top เคาน์เตอร์ด้วยหินควอตซ์
• Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ในห้องนอนใหญ่
• มู่ลี่ไม้ในพื้นที่ส่วนตัวและห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ (บางส่วน)
• มุ้งลวดหลายจุดที่เป็นหน้าต่างบานเปิด
• สุขภัณฑ์และวัสดุในห้องน้ำจาก KASCH, INAX & American Standard, Cristina
• โครงสร้างบันไดแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยพื้นไม้ SPC
• กรอบหน้าต่าง บานอลูมิเนียมจาก TOSTEM
• แอร์ Daikin แบบ Cassette Type และ Wall Type (จำนวนขึ้นอยู่กับแบบบ้าน)
• Wallpaper
• ระบบไฟ 3 เฟส 30(100) มี Junction รองรับ EV Charger ทุกแบบบ้าน
• แต่งสวน

เทคโนโลยีในบ้าน

• Air Plus Square เติมอากาศบริสุทธิ์เข้าตัวบ้าน และดึงอากาศเก่าออก

ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน

• Magnetic Sensor ทั้ง 2 ชั้น
• Motion Sensor ชั้นล่าง
• Wifi Camera 2 จุด ทางเข้าประตูหลักหน้าบ้านและด้านหลังบ้าน
• Digital Door Lock
• Home Automation

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่าง : แบบบ้าน Le Duc

ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ French Eclectic สไตล์นี้คือการนำเอาสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสในหลายๆ รูปแบบมาใช้ ทำให้ตัวบ้านดูมีเอกลักษณ์ มีความเนี้ยบและดีเทลหลายจุดที่น่าสนใจ เช่นการออกแบบซุ้มหลังคาให้รับกับซุ้มทรงโค้งด้านบน หรือการดีไซน์ที่เหมือนมีปล่องไฟ ส่งเสริม Character ให้เป็นสไตล์ฝรั่งเศสยิ่งขึ้น

อีกอย่างที่ชอบมากๆ คือการเลือกใช้โทนสีขาว เทาอ่อน คุมโทนมากับหลังคาสีน้ำตาลอ่อนๆ รวมถึงการใช้หินตกแต่งที่ช่วยให้ตัวบ้านดูมีมิติมากขึ้น

Plan ชั้น 1 – ออกแบบโดยให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะจะมีการแยกโซนรับแขกไว้บริเวณหน้าบ้าน เป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวเลย ส่วนพื้นที่พักผ่อนของสมาชิกในบ้านจะขยับเข้าไปด้านในและมีห้องน้ำสำหรับสมาชิกในบ้านอีกห้องหนึ่ง แยกกันใช้กับแขกอย่างเป็นสัดส่วน

สำหรับพื้นที่พักผ่อนจะเป็นพื้นที่ยาวที่สามารถจัดฟังก์ชันเชื่อมต่อกันได้แบบ Open Plan ช่วยให้บรรยากาศไม่อึดอัด และมีห้องนอนผู้สูงอายุพร้อมห้องน้ำในตัวให้ด้วย ครัวจะแยกส่วนเป็น Pantry ขนาดใหญ่ในบ้านและครัวไทยหลังบ้านสำหรับทำอาหารที่มีกลิ่นฉุน และมีห้องนอนแม่บ้านให้ 2 ห้อง ความน่าสนใจอีกอย่างของบ้านนี้คือมีฟังก์ชันพิเศษๆ อย่างเฉลียงข้างบ้านที่มีหลังคาคลุมเป็น Semi-Outdoor, มีมุม Breakfast Nook, ห้องเก็บรองเท้าและห้องเก็บของใกล้ Pantry ครัว เป็นฟังก์ชันเล็กน้อยๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงทำให้เรารู้สึกว่าการวางผังมีความพิถีพิถันมากเลย

ในส่วนของที่จอดรถรองรับที่จอดในร่มได้ 4 คัน และหากใครซื้อบ้านในแปลงที่มีด้านหน้าเยอะก็อาจจอดรถตรงพื้นที่กลางแจ้งเพิ่มได้อีกนะคะ

ทางเข้าบ้านจะแยกระหว่างประตูคนเข้ากับรถเข้า โดยประตูคนเข้าจะเป็นประตูสวิงบานคู่ ตำแหน่งจะอยู่ใกล้ประตูทางเข้าตัวบ้านที่มีซุ้มหลังคาคลุมอยู่ค่ะ

ประตูฝั่งที่จอดรถจะเป็นประตูเหล็กรางเลื่อน ซึ่งทางโครงการติดตั้งมอเตอร์อัตโนมัติมาให้เป็นมาตรฐาน

ที่จอดรถจะมีการปูกระเบื้องมาให้สลับกับทรายล้างลวดลายตามที่เห็นเลยนะคะ ในส่วนโครงสร้างที่จอดรถกลางแจ้งจะลงเสาเข็มสั้น ลึก 6 เมตร แบบปูพรมมาให้ และส่วนของพื้นที่ในร่มจะลงเสาเข็มมาเท่าตัวบ้าน

พื้นที่จอดรถในร่มมีขนาด กว้าง 10 เมตร ลึก 6.8 เมตร รองรับการจอดรถในร่มได้ 4 คันเลยค่ะ และหากใครซื้อบ้านในแปลงที่มีด้านหน้าเยอะก็อาจจอดรถตรงพื้นที่กลางแจ้งเพิ่มได้อีกนะคะ

ด้านในที่จอดรถมี Junction และ Cut-Out ระบบไฟไว้รองรับการใช้รถพลังงานไฟฟ้า เพราะสามารถติดตั้ง EV Charger ได้สะดวก ซึ่งมิเตอร์ไฟของตัวบ้านจะให้มาแบบ 3 เฟส 30(100) อยู่แล้ว ไม่ต้องไปขอเพิ่มขนาดให้ยุ่งยาก

ถัดมาจะมีพื้นที่เตรียมไว้สำหรับเก็บของใช้กระจุกกระจิกนอกบ้าน เช่น ร่ม, Shopping Bag และสามารถล้างมือ, ฉีดพ่นแอลกอฮอล์ บริเวณนี้ก่อนเข้าบ้านได้

ทางเข้าบ้านจะมีอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือทางขวามือเป็นประตูที่ติดกับที่จอดรถเลย เวลาไปจ่ายตลาด ซื้อของกินของใช้ในครัวมาก็สามารถเข้าประตูนี้ได้สะดวก และยังมีตำแหน่งใกล้กับห้องเก็บรองเท้าในบ้าน จึงน่าจะเป็นประตูที่ได้ใช้งานกันบ่อยๆ เลยค่ะ

และอีกจุดหนึ่งคือทางเข้าบริเวณกลางบ้าน ซึ่งจะมีทางลาดเชื่อมต่อจากที่จอดรถ ทำให้ใช้งานวีลแชร์, รถเข็นเด็ก หรือลากกระเป๋าเดินทางได้สะดวก

ประตูที่ติดกับที่จอดรถเป็นประตูบานทึบมาพร้อม Digital Door Lock ของ Hafele และบริเวณหน้าประตูจะมี Step เพื่อยกระดับพื้นขึ้นสู่ตัวบ้าน ทำให้น้ำจากพื้นที่นอกบ้านไม่ไหลย้อนเข้าตัวบ้านนะคะ

อีกประตูหนึ่งออกแบบมาให้ดู Grand จึงมีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นพื้นที่ที่มีหลังคากันแดดกันฝนได้เช่นกัน

ประตูหน้าบ้านจะได้เป็นของ Lixil ขึ้นชื่อในเรื่องของโช้คประตูที่ช่วยเบาแรงเปิด จึงใช้งานสะดวก ซึ่งโครงการจะมี CCTV ติดตั้งมาให้บริเวณประตูหน้าบ้านและหลังบ้านด้วยค่ะ

สวนในบ้าน Standard

จุดที่เรามองว่าน่าสนใจคือ สวนรอบบ้านที่โครงการจัดให้มาแบบจริงจังได้ตามที่เห็นนี้เลยนะคะ ทั้งทางเดิน, ขอบกระบะตกแต่ง, ต้นไม้ใหญ่หลายต้น เช่น สนฉัตร, เหลืองปรีดียาธร, มั่งมี, แคนา, ส่วนไม้พุ่มก็อย่างเช่น ปริกหางกระรอก, ไทรไข่มุก และยังมีกระถางต้นไม้ทรงสูงพร้อมต้นไม้ตกแต่งบริเวณทางเข้าบ้านมาให้ด้วยค่ะ

ซึ่งพื้นที่สวนรอบบ้านที่ค่อนข้างใหญ่แบบนี้ก็สามารถจัดฟังก์ชันได้หลายอย่าง เช่น สนามบาสเด็กเล่น, สระว่ายน้ำ, บ่อปลา ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวเลยค่ะ

สวนรอบบ้านตัวอย่าง

โครงการตกแต่งสวนรอบบ้านตัวอย่างมาให้ดูเป็นไอเดียนะคะ โดยจัดพื้นที่ออกมาเป็น Pavillion สำหรับนั่งชมสวนได้วิวบ่อน้ำและน้ำพุ

ภายในบ้านตัวอย่าง

ชั้น 1

เข้ามาด้านในตัวบ้านจะมี Foyer เป็นพื้นที่ต้อนรับลำดับแรก ซึ่งทำออกมาให้ดูโอ่อ่า โปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานแบบ Double Volume สูง 6 เมตรกว่า

พื้นที่ Double Volume นี้จะเชื่อมโยงไปกับบันได เราสามารถเลือกติดโคมไฟแชนเดอเรีย หรือโคมไฟระย้าเก๋ๆ ตามสไตล์ที่ชอบได้เลย ซึ่งแขกไปใครมาก็จะสังเกตเห็นได้ตั้งแต่หน้าบ้าน

เนื่องจากตัวบ้านเป็นบ้านหลังใหญ่ จึงมีพื้นที่เพียงพอที่จะแยกพื้นที่รับแขกออกจากพื้นที่พักผ่อนที่เป็นส่วนตัวของครอบครัว ซึ่งพื้นที่รับแขกก็จะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าบ้านเลย

โซนรับแขกมีขนาดใหญ่ทีเดียวจนสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนได้ อย่างในบ้านตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่โซฟานั่งเล่น 6-7 ที่นั่งฝั่งหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจัดเป็นโต๊ะทำงานขนาด 6 ที่นั่งได้ รวมถึงมีห้องน้ำในโซนนี้ด้วย เผื่อมีการจัดประชุมย่อยๆ ของบริษัทคุณพ่อ หรือเพื่อนๆ ของลูกมาทำรายงานที่บ้านก็สามารถใช้พื้นที่มุมนี้ได้สะดวก และไม่รบกวนสมาชิกท่านอื่นในบ้าน

จากมุมนั่งเล่นจะมองเห็นวิวสวนรอบบ้านได้พอดิบพอดีเลยค่ะ

Highlights อย่างนึงที่เราชอบมากในบ้านหลังนี้คือ ห้องน้ำในโซนรับแขกที่ออกแบบมาได้สวยมาก เป็นหน้าเป็นตาให้กับเจ้าของบ้านสุดๆ เพราะผนังฝั่งหนึ่งเค้าออกแบบให้มีน้ำตกซ่อนอยู่ จึงได้ยินเสียงน้ำเบาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดบรรยากาศผ่อนคลาย แต่น้ำตกในบ้านมาตรฐานจะมีขนาดที่เล็กกว่านี้หน่อยนะ ซึ่งโครงการได้เดินระบบน้ำไฟมาให้แล้ว จะปรับตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ทำได้ไม่ยากแล้วค่ะ

ฟังก์ชันของห้องนี้จะเป็นแบบ Powder Room วัสดุจะได้ตามที่เห็นนี้เลย โดยผนังกั้นพื้นที่ภายในกับภายนอกบ้านจะเป็นกระจกบานใหญ่และมีประตูมุ้งลวดจีบมาให้สำหรับเปิดไป Maintenance ได้ ส่วนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ให้ของ KASCH, INAX & American Standard ซึ่งห้องนี้จะมีโถปัสสาวะชายเพิ่มมาให้ด้วย

เดินผ่าน Foyer เข้ามาด้านในบ้านจะเป็นพื้นที่พักผ่อนของครอบครัวที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ได้พื้นที่ทางฝั่งหลังบ้านยาวตลอดแนวรองรับสมาชิก 6-7 คนได้สบายๆ โดยสามารถจัดฟังก์ชันเรียงกันตั้งแต่ พื้นที่นั่งเล่นดูทีวี, ทานอาหาร, และครัวฝรั่งในบ้าน ชั้น 1 นี้จะมีฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.9 เมตร ตัวพื้นปูด้วยหินอ่อนสังเคราะห์ขนาดใหญ่ 0.6 x 1.2 m.

มุมนั่งเล่นดูทีวีมีพื้นที่ให้จัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ มีระยะดูทีวีประมาณ 4 เมตรกว่าๆ จึงสามารถติดตั้งทีวีขนาด 60-70 นิ้วได้เลย

ติดกับพื้นที่นั่งเล่นของครอบครัวจะมีห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ ใช้รองรับการใช้งานของสมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะจึงแยกขาดออกจากโซนรับแขกเลย ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

ฟังก์ชันของห้องน้ำนี้จะเป็นแบบ Powder Room อีกเช่นกัน ไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำ เพราะสมาชิกในบ้านจะมีห้องอาบน้ำในตัวของทุกห้องนอนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามพื้นที่ภายในมีขนาดให้ใช้งานได้สบายๆ และมีหน้าต่างบานใหญ่สำหรับเปิดระบายอากาศและรับแสงแดดเข้ามาได้ค่ะ

ด้านข้างพื้นที่นั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนที่เปิดเชื่อมกับเฉลียงให้ออกไปนั่งพักผ่อนชมสวนได้ เพราะพื้นที่เฉลียงนี้เป็นแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนค่ะ

ขยับเข้ามาที่โซนรับประทานอาหารรองรับโต๊ะขนาด 8-10 ที่นั่ง จากมุมโต๊ะอาหารจะได้วิวและแสงธรรมชาติจากสวนด้านหลังบ้าน นอกจากนี้ด้านข้างโต๊ะทานอาหารยังมีพื้นที่เหลือสำหรับจัดเป็นมุมนั่งเล่น, จัดเป็นตู้เก็บของ, เก็บไวน์, วางของตั้งโชว์ได้อีกได้นะคะ

หรือจะจัดมุมนั่งเล่นติดกับช่องแสงขนาดใหญ่เพิ่มเติมตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ เป็นมุมเก๋ๆ รับวิวสวนหลังบ้านค่ะ

วัสดุที่ใช้ทำบานหน้าต่างและประตูต่างๆ จะเป็นอลูมิเนียมของ TOSTEM จากญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามและคงทนในการใช้งาน ซึ่งตำแหน่งของช่องหน้าต่างบางจุดจะมีการใส่ช่อง Air Intake มาให้ มีฟังก์ชันในการช่วยระบายอากาศในเวลาที่เราปิดประตูหน้าต่างในบ้านทั้งหมด แต่อากาศก็ยังถ่ายเทเข้าออกได้โดยผ่านช่อง Air Intake นี้โดยที่ไม่ต้องกลัวแมลงเข้าเพราะมีตะแกรงดักแมลงติดไว้ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งมุ้งลวดไว้ให้ในประตูหน้าต่างบางจุดที่เป็นจุดสำคัญๆ ไว้เป็นมาตรฐานด้วยนะคะ

ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านที่ได้จะมีตั้งแต่ระบบ Magnetic Sensor ซึ่งติดตั้งที่ประตูหน้าต่างทุกบานทั้งชั้น 1 และชั้น 2 จะมีสัญญาณเตือนเวลาเปิดปิดประตู อีกระบบคือ Motion Sensor ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ติดตั้ง 1 จุดภายในบ้าน

ถัดมาที่ครัวในบ้านจะได้มาเป็นครัวปิด มีประตูกระจกกั้นห้องมาให้ตามแบบในบ้านตัวอย่าง เป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เวลาที่เราไม่ได้ทำอาหารก็สามารถเปิดประตูออกกว้างๆ เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร และจากวัสดุที่เป็นบานกระจกก็ทำให้เราสามารถเห็นสมาชิกคนอื่นในบ้านได้ ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด

ตัวรางประตูจะฝังไปกับพื้น ทำให้เดินผ่านได้สะดวก ซึ่งพื้นในโซนครัวจะปูด้วยกระเบื้องลายไม้ เรียงกันเป็นลายก้างปลา (Chevron) ดูสวยงามหรูหรากว่าแบบธรรมดาทั่วไป

ก่อนพาไปชมเคาน์เตอร์ทำอาหาร ภายในครัวจะมีมุมน่ารักๆ อย่าง Breakfast Nook อยู่ในนี้ด้วยนะคะ เป็นพื้นที่สำหรับจัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้เข้ามุมได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่าง Bay Window ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ใช้งานง่ายใกล้ครัว มักจะเป็นมุมโปรดในการทานอาหารว่าง นั่งอ่านหนังสือไปจิบชาไป ของหลายๆ คนนะคะ

เคาน์เตอร์ครัวในบ้านจะอยู่ในห้องแอร์นะคะ จึงไม่ต้องกลัวร้อนเลย ครอบครัวไหนที่มีสมาชิกชอบอบขนม ชอบทำอาหาร ครัวนี้จะตอบโจทย์มาก

เคาน์เตอร์ครัวเป็นครัวตัว U ของแบรนด์ Norme ปิดผิวเคาน์เตอร์ด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนตามแบบในบ้านตัวอย่าง รวมถึงจะได้ลิ้นชักตู้เก็บของ, ซิงค์ล้างจาน, เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง Hob&Hood และได้เตาอบจาก Teka

สเปคที่น่าสนใจคือ เครื่องดูดควันที่ได้มาเป็นแบบ Super Hood มีกำลังในการดูดสูงกว่าเครื่องมาตรฐาน อาจจะไม่เท่าเครื่องดูดควันในร้านอาหารแต่เครื่องนี้จะมีระบบบำบัดกลิ่นด้วย คือเมื่อควันถูกดูดเข้าไปแล้วจะไปผ่านตัวกรองที่เป็นระบบน้ำ ควันที่ถูกดูดออกไปปล่อยนอกบ้านจึงไม่มีกลิ่น ไม่รบกวนเพื่อนบ้านค่ะ

ด้านข้างจะมีตู้เก็บของที่โครงการจะ Built-in มาให้เป็นมาตรฐาน มีช่องที่ไว้ให้สำหรับวางตู้เย็นด้วย เอาจริงๆ ในโซนครัวนี้เราแค่ไปซื้อตู้เย็นมาเพิ่มเท่านั้นก็ครบครันแล้วค่ะ

ด้านในสุดของครัวจะมีทางเดินออกไปโซนแม่บ้าน ซึ่งจะมีห้องสำหรับเก็บของกินของใช้ขนาดประมาณ 1.4 x 1.2 m. อยู่อีกห้องหนึ่ง ภายในจะ Built-in ชั้นเก็บของมาให้ตามแบบในบ้านตัวอย่างเลย โดยประตูห้องจะเป็นบานกระจก เวลาที่เราเก็บเสบียงไว้ด้านใน ก็สามารถเช็คสต็อกของกินของใช้ในบ้านได้ง่าย

ประตูทางออกครัวเป็นประตูของ TOSTEM เช่นเดียวกัน โดยที่มีมุ้งลวดฝังมากับบานประตูเลย เป็นบานมุ้งลวดที่สามารถเปิดเพื่อรับลม ถ่ายเทอากาศ หรือปิดเพื่อกันแอร์ออกก็ได้

ออกมาด้านหลังจะเป็นโซน Maid Plaza ซึ่งมีขนาดใหญ่อีกแล้ว ประกอบด้วยครัวไทยของ Starmark สำหรับทำอาหารที่มีกลิ่นฉุนจัดๆ ที่ไม่อยากทำครัวในบ้าน และมีห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้อง, ห้องน้ำแม่บ้าน และ Laundry Area สำหรับซักผ้า รีดผ้า ก็มีพื้นที่รองรับทั้งหมด ซึ่งข้อดีของพื้นที่ตรงนี้คืออยู่ในร่มและเชื่อมต่อกับตัวบ้านโดยตรง จึงสามารถใช้งานได้สะดวกไม่ต้องกังวลเรื่องแดด, ฝนค่ะ

กลับเข้ามาในบ้าน เราจะพาไปชมห้องนอนชั้นล่างกันต่อ วางตำแหน่งอยู่ใกล้ๆ กับโซนครัว โซนทานอาหารแต่ได้ความเป็นส่วนตัวด้วยประตูปิดบานทึบ และการจัด Layout ภายในห้อง

บานประตูห้องนอนในบ้านจะมีช่องระบายอากาศติดตั้งเอาไว้เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี เป็นตัวช่วยให้มีอากาศถ่ายเทในเวลาที่เราปิดบ้านไปเที่ยวหลายๆ วันนะคะ

การจัดผังในห้องจะเน้นความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน จึงจัดบริเวณหน้าห้องให้เป็นพื้นที่แต่งตัวกับห้องน้ำ และดันเตียงนอนเข้าไปไว้ด้านในให้ห่างจากโถงทางเดินมากขึ้น โดยพื้นในห้องนี้ใช้เป็น Absorption Floor รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้ดีกว่าพื้นทั่วไป เพราะช่วยลดแรงกระแทกได้

นอกจากวัสดุปูพื้นที่เหมาะกับผู้สูงอายุแล้ว จะเห็นว่าระดับของห้องน้ำก็เท่ากับพื้นห้องนอนด้วย เพื่อป้องกันการสะดุดหกล้ม ภายในห้องน้ำจะมีที่นั่งอาบน้ำเตรียมไว้ให้ด้วย มาพร้อม Shower Box ที่ไม่มีรางประตูด้านล่างจึงใช้งานได้สะดวก

ถัดเข้ามาในโซนพักผ่อนที่บ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ ซึ่งจริงๆ แล้วจะวางเตียงขนาด 6 ฟุตสำหรับนอน 2 คนสบายๆ ก็ได้ เพราะข้างเตียง 2 ฝั่งยังเหลือที่ว่างอีกเยอะ

ข้างเตียงยังมีพื้นที่ว่างจะใช้วางโต๊ะเครื่องแป้ง หรือ Built-in ตู้เสื้อผ้า/ตู้เก็บของเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ

นอกจากนี้ในตัวบ้านยังมีระบบ Air Plus Square ซึ่งในบริเวณโถงส่วนกลางจะมีช่องเติมอากาศมาในบ้าน ซึ่งจะมี Filter กรองฝุ่น กรอง pm 2.5 เพื่อให้ได้อากาศบริสุทธิ์เข้ามาในบ้าน ส่วนในห้องนอนจะมีช่องดูดอากาศเก่าๆ ออกไปภายนอก เพื่อเป็นการหมุนเวียนอากาศให้ในตัวบ้านมีอากาศที่ดีอยู่เสมอ

ออกมาจากห้องนอนชั้นล่างจะมีทางเดินไปเชื่อมกับประตูทางออกฝั่งที่จอดรถ ซึ่งหากผู้สูงอายุมีเหตุฉุกเฉินก็สามารถพาออกจากบ้านไปขึ้นรถได้ง่าย โดยห้องที่อยู่ติดกับประตูจะเป็นห้องเก็บรองเท้าค่ะ

ห้องเก็บรองเท้ามีขนาดใหญ่ประมาณ 2 x 1.6 เมตร ภายในจะมีชั้นวางรองเท้า Built-in มาให้เหมือนในบ้านตัวอย่างเลย ห้องนี้จะมีหน้าต่างให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วยจึงไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอับนะคะ

ก่อนพาไปชมพื้นที่ชั้นบนเราจะพามาชมบันไดกันสักนิดนะคะ โดยตัวบันไดทำทรงโค้งคล้ายบันไดวน แต่ด้วยขนาดขั้นบันไดค่อนข้างกว้างจึงใช้งานได้สะดวก โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรงทนทาน ไม่มีเสียงดังเวลาเดินขึ้นลง

แต่วัสดุปิดผิวในบ้านมาตรฐานที่ส่งมอบจะปิดผิวบันไดด้วยพื้นไม้สำเร็จรูป SPC คือพลาสติกผสมผงหินบดอัดแน่น ทำให้อัตราการยืดหดต่างๆ น้อย และยังช่วยกันน้ำกันปลวกได้ 100% ค่ะ

ชั้น 2

Plan ชั้น 2 – จัดเป็นพื้นที่พักผ่อนเต็มชั้น โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 1 Master Bedroom และห้องนอนลูกๆ อีก 3 ห้อง ซึ่งทุกห้องมีขนาดใหญ่มาพร้อมห้องน้ำในตัวทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่พักผ่อนส่วนกลางอีก 3 จุด เพื่อรองรับการใช้งานของสมาชิกในบ้าน ให้สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลาย เช่น ทำเป็นมุมไหว้พระ, Family Area, Multi-Purpose Room เป็นต้น

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เราสามารถมองลงไปเห็น Foyer บริเวณหน้าบ้าน จึงสามารถเห็นได้ว่ามีแขกไปใครมา พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างสว่างเพราะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่บริเวณหน้าบ้านด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 โซนแรกเลยจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ที่บ้านตัวอย่างจัดไว้เป็นห้องพระ แต่เราสามารถปรับเป็นห้องออกกำลังกายหรือห้องทำงานอดิเรกใดๆ ก็ได้ โดยพื้นที่ตรงนี้จะมีขนาดประมาณ 2.7 x 3.4 m. ส่วนห้องข้างๆ ที่อยู่ติดกันจะเป็น Master Bedroom ค่ะ

ซึ่งวัสดุปูพื้นบนชั้นนี้จะเปลี่ยนเป็น VSPC คือพื้นด้านล่างยังคงเป็น SPC เหมือนเดิมแต่มีการปิดผิว Surface ด้วยไม้วีเนียร์ไม้จริง พื้นจึงมีผิวสัมผัสของไม้จริงด้วยนะ

ภายใน Master Bedroom มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากรองรับเตียงขนาด 6-7 ฟุตได้เลย สามารถแบ่งสัดส่วนเป็นฟังก์ชันย่อยๆ ในห้องได้ อย่างในห้องตัวอย่างจะมีทั้งโซฟานั่งเล่นดูทีวีปลายเตียง, Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ

และด้านข้างเตียงยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ และระเบียงค่ะ

ระเบียงในห้องนอนจะเป็นแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน จึงใช้งานได้ตลอดเวลา และมีขนาดใหญ่พอสมควรประมาณ 2.1 x 2.5 m. พอที่จะวางชุดโต๊ะสนาม, กระถางต้นไม้ได้ ซึ่งจะมีก๊อกน้ำเผื่อไว้ให้รดน้ำต้นไม้ด้วย

ในส่วนของพื้นที่อเนกประสงค์สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อน, มุมทำงานอดิเรกแบบจริงจังได้ หรือครอบครัวไหนที่เพิ่งมีลูกเล็ก ก็ใช้พื้นที่ตรงนี้สำหรับวางเปลเด็กได้ ซึ่งหากอยากให้พื้นที่นี้เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นก็สามารถกั้นห้องเพิ่มได้ด้วยค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ซึ่งบ้านมาตรฐานจะมีประตูบานเลื่อนกระจกติดตั้งมาให้ ตามแบบในรูปล่างเลย จึงได้เป็นห้องปิดได้ความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

ภายใน Walk-in Closet จะมีการ Built-in ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของต่างๆ มาให้เช่นกัน รวมถึง ตู้ Island ตรงกลางด้วย สิ่งที่เราชอบคือวัสดุของหน้าบานตู้ที่ใช้เป็นกระจกลูกฟูก ที่มีคุณสมบัติให้แสงผ่านได้บ้างแต่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ภาพรวมของห้องจึงยังดูเป็นระเบียบ และช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งด้วยค่ะ

ติดกับ Walk-in Closet เลยจะมีประตูกระจกเชื่อมเข้าห้องน้ำ แบบ Sexy Bath ซึ่งหากชอบห้องน้ำแบบมิดชิดก็สามารถหาฟิล์มมาติดทับอีกชั้นหนึ่งได้

บริเวณประตูห้องน้ำจะไม่มีธรณีกั้นนะคะ แต่จะฝังรางระบายน้ำไว้ที่พื้น ทำให้เดินผ่านเข้าออกได้สะดวก ไม่ต้องกลัวสะดุด ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว ดูคลีนๆ สะอาดตาดีค่ะ

โซนแรกเราจะเจอกับอ่างล่างหน้าที่ให้มาแบบ His&Her จึงใช้งานพร้อมกันได้ทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง ส่วนอ่างล้างหน้าดีไซน์เป็นทรงโค้งพร้อมก๊อกน้ำหัวผสมดูหรูหรา

Highlights ในห้องนี้สำหรับเราก็คือ อ่างอาบน้ำที่จัดวางไว้ข้างหน้าต่างบานใหญ่ ได้ทั้งวิวต้นไม้ดูร่มรื่นและได้แสงธรรมชาติที่ผ่านเข้ามาด้วย แต่ก็มีประตูให้เปิดออกไปดูแลต้นไม้ด้านนอกได้ ซึ่งการดีไซน์กำแพงที่มีความสูงเท่าผนังบ้านบังหน้าต่างห้องน้ำไว้อีกชั้น ช่วยบังสายตาจากคนภายนอกได้ดี และยังได้แสงธรรมชาติเข้ามาด้านในด้วยค่ะ

อ่างอาบน้ำที่ให้มาเป็นอ่างขนาดใหญ่กว่าปกติ ประมาณ 1 x 1.7 m. เป็นทรง Free Form ดูน่าใช้งานมากเลย

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะจัดฟังก์ชันโดยมีฉากกั้นทั้งหมด แบ่งเป็นห้องวางโถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำ

โดยห้องที่จัดวางสุขภัณฑ์มีขนาด 1.4×1 m. ซึ่งสุขภัณฑ์จะอัพเกรดเป็นแบบอัตโนมัตินะคะ

ส่วนห้องอาบน้ำจะมีที่นั่งและฝักบัวมาให้ครบครันเช่นเคย โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.4 x 1 m.

ออกมาจาก Master Bedroom จะมีโถงทางเดินยาวเชื่อมมายังพื้นที่อเนกประสงค์อีกจุดหนึ่ง

พื้นที่อเนกประสงค์ตรงนี้มีขนาดใหญ่มากและได้ช่องแสงขนาดใหญ่ด้วย ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ดูโปร่งโล่ง ใช้เป็นมุมพักผ่อน ดูทีวีก่อนแยกย้ายกันเข้าห้องนอนก็ได้ หรือใช้เป็นพื้นที่ทำงานอดิเรกต่างๆ ก็ดี เพราะบ้านนี้เป็นบ้านหลังใหญ่ตอบโจทย์สมาชิกเยอะ ทางโครงการจึงออกแบบให้มีพื้นที่อเนกประสงค์หลายๆ จุด เพื่อให้แต่ละคนได้มีทั้งมุมพักผ่อนที่เป็นส่วนตัว และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับรวมตัวกัน

ภายในพื้นที่บริเวณนี้แบ่งได้เป็น 2 โซน หรือจะเปิดประตูเชื่อมกันก็ได้ บ้านมาตรฐานจะมีประตูกระจกกั้นมาให้ตามแบบในรูปด้านล่างนะคะ

ห้องด้านในออกแบบมาได้เก๋มากได้บรรยากาศเหมือน Glass House ฝ้าเพดานสูงพิเศษ 4.4 m. ซึ่งตัวกระจกจะดีไซน์ให้สูงไปจนเชื่อมกับหลังคาเลย ช่วยเปิดมุมมองให้มองเห็นท้องฟ้าได้กว้างขึ้นเหมือนอยู่ระเบียง แต่ในยุคนี้ทั้งอากาศร้อนและฝุ่นเยอะจึงออกแบบให้เป็นเหมือน Glass House แทนค่ะ

ติดกับพื้นที่อเนกประสงค์จะเป็นตำแหน่งห้องนอนของลูกคนโปรด

จริงๆ แล้วห้องนอนลูกๆ ทั้ง 3 ห้องจะเป็นห้องไซส์ใหญ่ทั้งหมด เนื่องจากผู้คนในยุคนี้ไม่ค่อยนิยมใช้งานฟังก์ชันระเบียงจากปัญหาเรื่องค่าฝุ่นที่สูงขึ้นในปัจจุบัน โครงการจึงตั้งใจเปลี่ยนฟังก์ชันระเบียงเป็นพื้นที่ใช้สอยในบ้านแทน โดยเฉพาะห้องของลูกคนโปรดจะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่เป็นพิเศษกว่าห้องนอนลูกห้องอื่นๆ นะคะ

ภายในสามารถจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างเป็นสัดส่วน ทั้งเตียง 6 ฟุตพร้อมพื้นที่วางทีวีปลายเตียง, โต๊ะเครื่องแป้ง, โต๊ะทำงาน มุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำ เรียกได้ว่าอยู่อาศัยได้จริงตั้งแต่เล็กจนโต หรือหากแต่งงานแล้วก็สามารถพาภรรยามาอยู่ได้ค่ะ

ห้องน้ำในห้องนี้ให้มากว้างอีกเช่นกันและที่น่าสนใจคือ ห้องน้ำนี้จะได้หน้าต่างบานใหญ่ ที่มีกำแพงสูงกั้นสายตาจากภายนอกไว้อีกชั้นหนึ่ง จึงรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ได้ ดีไซน์นี้ทำให้เรามีพื้นที่สำหรับวางต้นไม้กระถางได้ ห้องน้ำจึงได้วิวของต้นไม้เขียวๆ ดูร่มรื่น

ภายในห้องน้ำแบ่งโซนเปียกแห้งออกเป็นสัดส่วน มี Shower Box มาให้ขนาด 1.2 x 1.8 m. ส่วนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ จะให้มาตามแบบในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

สุดทางเดินจะเป็นทางเข้าห้องนอนของลูกๆ อีก 2 ห้อง

ภายในมีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ และมีพื้นที่รอบเตียงให้วางเฟอร์นิเจอร์ได้ทั้งโต๊ะเขียนหนังสือ, ตู้เสื้อผ้าและจัดมุมนั่งเล่นข้างเตียงได้อีกด้วย ซึ่งมาพร้อมห้องน้ำในตัวที่ออกแบบให้ใช้งานได้สะดวก แยกพื้นที่โซนเปียกแห้งมาให้ชัดเจน

ปิดท้ายด้วยห้องนอนลูกอีก 1 ห้อง ซึ่งจัดฟังก์ชันครบถ้วนมาพร้อมห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน ส่วนแบบบ้านอื่นๆ เราเก็บภาพมาฝากกันด้วยนะคะ

แบบบ้าน Le Baron

แบบบ้าน Le Comte

แบบบ้าน Le Marquis

NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา ราคา ณ วันที่ 16 มีนาคม 2566

• Le Baron บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่ม 30 ล้านบาท
• Le Comte บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 122 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 378 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่ม 40 ล้านบาท
• Le Marquis บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 141 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 449 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่ม 55 ล้านบาท
• Le Duc บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 177 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 608 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่ม 80 ล้านบาท

• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง 29 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา ตั้งอยู่ในโซนปิ่นเกล้า-ตลิ่งชัน ซึ่งทำเลนี้จะอยู่ใกล้ถนนราชพฤกษ์ช่วงที่ใช้เข้าสาทรได้ง่าย ความน่าสนใจของถนนอัศวพิเชษฐ์คือ สามารถเข้าถึงได้ 2 เส้นทาง ทั้งทางถนนกาญจนาภิเษกในระยะประมาณ 300 m. และถนนบรมราชชนนีในระยะประมาณ 1.3 km.

ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในโซนนี้ก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งร้านอาหาร, ตลาดสด, Community Mall ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั้งบนถนนบรมราชชนนี, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนราชพฤกษ์, ถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 ที่รายล้อมโครงการอยู่ค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ระบบรักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่ให้มาดีนะคะ ซุ้มประตูโครงการเป็นแบบ Double Gate โดยใช้ประตูรั้วรางเลื่อน เปิดเข้า-ออกด้วยระบบ Bluetooth ระยะไกลเหมือน Easy Pass บนทางด่วน, ติดตั้งกล้อง CCTV ที่ Main Gate  และภายในโครงการรวม 48 จุด ส่วนที่ตัวบ้านติดตั้งสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic&Motion Sensor และ Digital Door Lock และWifi Camera 2 จุด ทางเข้าประตูหลักหน้าบ้านและด้านหลังบ้าน

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

ตัวโครงการ – NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา มีเนื้อที่โครงการ 96 ไร่กว่ากับจำนวนยูนิต 179 ยูนิต ซึ่งหากเทียบกับที่ดินและพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่แล้วถือว่าอยู่อาศัยได้สบายๆไม่อึดอัด รวมไปถึงบ้านของโครงการนี้จะมีที่ดินขนาดใหญ่ 100 ตร.วาขึ้นไป ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและฟังก์ชันภายในบ้านที่ครบ ประเด็นที่ต้องชมเลยคือขนาดและตำแหน่งของส่วนกลาง ที่จัดมาในโซนด้านหน้า ยาวมาตามแนวถนนหลักและเชื่อมต่อพื้นที่มาจนถึงบริเวณกลางโครงการ ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศเวลาเข้าออกโครงการได้ดี และ ทิศของบ้านจะหันทางทิศเหนือและใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมในการเลือกซื้อบ้านเลย อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยจัดวางผังบ้านส่วนใหญ่ให้อยู่ในซอยที่มีเพื่อนบ้านแต่ละซอยไม่ถึง 10 หลัง จะมีแค่บางโซนเท่านั้นที่ทำถนนแบบวน Loop ซึ่งมีข้อดีในเรื่องของการเข้าออกที่สะดวกกว่าซอยตันค่ะ

ตัวบ้าน – ตัวบ้านทุกแบบออกแบบมาให้เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ เน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะๆ เพราะไซส์เริ่มต้นก็มี 4 ห้องนอนแล้ว ซึ่งมีห้องนอนผู้สูงอายุที่ชั้นล่างในทุกแบบบ้านเลย จึงรองรับสมาชิกในครอบครัวได้ถึง 5-6 คน และแปลงที่ดินที่มีขนาด 100 ตร.วา ขึ้นไปจนถึง 236 ตร.วา ออกแบบภายในได้เป็นสัดส่วนและเน้นความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่อเนกประสงค์หลายจุดให้สมาชิกเลือกใช้งานกันได้คนละมุม ไม่รบกวนกัน โดยเฉพาะบ้าน Type ใหญ่สุดจะแยกโซนรับแขกออกจากโซนพักผ่อนของสมาชิกในบ้านอย่างชัดเจน และห้องนอนทุกห้องได้เป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวทั้งหมดค่ะ

วัสดุ : ให้มาดีเลย และช่วยประหยัดงบตกแต่งด้วย เพราะโครงการ Built-in เฟอร์ฯ มาให้หลายส่วน : เช่น ชุด Pantry ครัวขนาดใหญ่มาให้พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า/ เคาน์เตอร์ครัวไทย/ Walk-in Closet ในห้องนอนใหญ่ ซึ่งเลือกใช้ยี่ห้อดัง มีคุณภาพดีอย่าง Norme, Starmark เป็นต้น นอกจากนี้ยังติดตั้งมุ้งลวดไว้ให้ในจุดสำคัญๆ, ติดตั้งแอร์มาให้แล้วทุกห้อง รวมถึงสวนรอบบ้านที่จัดตกแต่งมาให้ดูสวยงาม ทั้งต้นไม้ใหญ่หลายต้น, ไม้พุ่มตามแนวทางเดิน, แจกัน/กระถางตกแต่งขนาดใหญ่และพืชผักสวนครัว ซึ่งแตกต่างจากโครงการอื่นๆทั่วไปค่ะ

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ โครงสร้างบ้านแบบก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งทำให้สามารถทุบ-ต่อเติมได้ง่าย เหมาะกับแบบบ้านที่มีฟังก์ชันยืดหยุ่น สามารถต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนเองได้ และมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์ยุคปัจจุบัน เช่น ระบบ Air Plus Square เข้ามาช่วยกรอง pm 2.5 และช่วยหมุนเวียนอากาศในบ้าน, ติดตั้งระบบไฟ 3 เฟส 30(100) รองรับการติดตั้ง Ev Charger ทุกหลัง

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : โครงการให้ความสำคัญกับเรื่องภาพลักษณ์โครงการ จึงนำเอาสายไฟลงดินทั้งหมด ทำให้บรรยากาศสวยงามสะอาดตามากๆ เข้ามาด้านในจะมีผืนน้ำขนาดใหญ่ อีกทั้งเรื่องบรรยากาศของต้นไม้ที่ให้มาเป็นต้นไม้ใหญ่ ให้ร่มเงาได้แล้ว สูง 7-20 เมตร ซึ่งไม่ใช่ทุกโครงการหรูที่จะจัดพื้นที่ส่วนกลางออกมาให้ดูน่าพักผ่อนได้แบบนี้นะคะ

สาธารณูปโภค : จัดเต็มมากเมื่อเทียบกับจำนวนบ้านเพียง 179 ยูนิต สิ่งที่ชอบคือขนาดของพื้นที่ส่วนกลาง รวมสวนและผืนน้ำขนาดใหญ่แล้วเป็นพื้นที่กว่า 9 ไร่เลยทีเดียว ในส่วนของ Clubhouse เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีที่จอดรถรองรับถึง 10 กว่าคันเลย ตอบโจทย์ลูกบ้านที่อาจใช้พื้นที่ส่วนกลางนี้สำหรับรับรองแขก ซึ่งฟังก์ชันภายในอาคารก็จัดมาครบครันและเปิดมุม Take View สระและผืนน้ำตกแต่งด้วยค่ะ

Judgement

สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการระดับ Luxury – Super Luxury เราจึงขอไม่ให้คะแนนนะคะ เพราะ การตัดสินใจซื้อโครงการระดับนี้จะมีเหตุผลที่นอกเหนือจากความคุ้มค่าทางด้านฟังก์ชัน อย่างเช่นความชื่นชอบในเรื่องดีไซน์ ความสวยงาม ซึ่งเป็นอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยค่ะ

NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา เหมาะกับใคร

โครงการ NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่กำลังตามหาบ้านใกล้ถนนใหญ่ โซนปิ่นเกล้า-วงแหวนฯ เหมาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเจ้าของกิจการบนถนนกาญจนาภิเษก, ถนนบรมราชชนนี หรือเป็นพนักงานผู้บริหารในตัวเมืองที่สามารถใช้วงแหวนกาญจนา หรือวิ่งเข้าถนนราชพฤกษ์เพื่อเดินทางไปทำงานได้ ซึ่งคนที่เลือกบ้านทำเลนี้จะขยับออกมาจากตัวเมืองหน่อย แต่ได้บ้านขนาดใหญ่ขึ้น

แม้ว่าโครงการในโซนนี้จะมีให้เลือกอยู่หลายโครงการ แต่สิ่งที่เรารู้สึกว่าโดดเด่นต่างจากที่อื่นเลยคือ บรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางที่มีผืนน้ำขนาดใหญ่ สวนขนาดใหญ่ ซึ่งออกแบบบรรยากาศมาได้ร่มรื่นน่าใช้งานจริงๆ ในงบประมาณ 30-80 ล้านบาท หรือผ่อนต่อเดือน 210,000 ถึง 560,000 บาทค่ะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc