Milton Residence รามอินทรา บ้านเดี่ยวสไตล์ American ติดถนนรามอินทรา ใกล้แยกเมืองมีน จาก สวนหลวงบ้านและที่ดิน [รีวิวฉบับที่ 2152]

30 OCTOBER 2020

• Milton Residence Ramintra (มิลตัน เรสซิเดนซ์ รามอินทรา)
• บริษัท สวนหลวงบ้านและที่ดิน จำกัด
• HIGH-LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่: บนถนนรามอินทรา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี
• เนื้อที่โครงการ 77-2-13 ไร่ จำนวน 121 ยูนิต [เฟส 2 พัฒนาจากต่อจากโครงการบ้านริมสวน รามอินทรา]

ซีรีย์เดิม

• GLAMOUR ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
• CHARLOTTE ที่ดินเริ่มต้น 92 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 362 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ  1 ห้องแม่บ้าน
• HENDERSON ที่ดินเริ่มต้น 108 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 446 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ  1 ห้องแม่บ้าน

ซีรีย์ใหม่

• ARTHER ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 281 ตร.ม 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท
• BRESCOTTE ที่ดินเริ่มต้น 92 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 362 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ  1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 19 ล้านบาท
• WELLINGTON ที่ดินเริ่มต้น 108 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 460 ตร.ม 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท
• ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท  (สอบถามโครงการ *แพคเกจขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและแบบบ้าน)
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.90 เมตร / ชั้น 2 – 3.00 เมตร / Double Volume 6.00 เมตร
• ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ n/a บาท
• โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2559
• คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี n/a
• เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
• โทร  : 02 540 6680

บทความเพิ่มเติม

• รีวิวเจาะลึกโครงการ MILTON RESIDENCE RAMINTRA (แบบบ้านซีรีย์เดิม)
• พาชมบ้านตัวอย่าง แบบบ้านซีรีย์เดิม 

พิกัด Google Maps : 13.818305, 100.710712
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

อ่านรีวิวทำเลแบบเจาะลึกได้ที่ : ทำเลโครงการ Milton Residence รามอินทรา

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Milton Residence รามอินทรา มีจุดเด่นทำเลอยู่ตรงที่ทางเข้า-ออกหลักที่ติดกับถนนรามอินทรา ช่วงใกล้กับแยกเมืองมีน และเป็นถนนเส้นที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียวค่ะ หาของกินและจับจ่ายใช้สอยได้ง่ายมาก ถ้าจะซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ก็มี ตลาดมีนบุรี, Big C Super Center, Tesco Lotus และ Makro หรือจะเป็น Community Mall อย่าง Amorini ก็สะดวกในระยะไม่เกิน 4-5 กิโลเมตร ถ้าจะเดินห้างใหญ่พักผ่อนดูหนัง รับประทานอาหารก็เลือกได้ที่ Fashion Island , Promenade ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยค่ะ แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนของวันอย่างตอนเช้าๆ และตอนเย็นจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางสักหน่อยนะคะ เพราะปัจจุบันมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ ทำให้มีการจราจรหนาแน่น

นอกจากแหล่งจับจ่ายใช้สอยที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการแล้ว ยังมีสาธารณูปโภคอื่นๆ อย่างสถานศึกษา โรงเรียนเอกบูรพา วิเทศศึกษา, โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ / โรงพยาบาล อย่างโรงพยาบาลเสรีรักษ์, โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เป็นต้น

ในเรื่องของการเดินทาง สามารถเดินทางเชื่อมต่อถนนได้หลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นถนน เสรีไทย, ถนนรามคำแหง เชื่อมต่อไปยังโซนบางกะปิ, พระราม 9 ได้ หรือใช้เส้นรามอินทรา ขึ้นเหนือไปยังแจ้งวัฒนะ รังสิต-นครนายกได้ อีกเส้นทางคือใช้ถนนสีหบุรานุกิจไปเชื่อมต่อถนนร่มเกล้า ไปสนามบินสุวรรณภูมิ หรือถนน สุวินทวงศ์ ไปเชื่อมต่อถนน หทัยราษฎร์ ถนน นิมิตใหม่ ไปยังสายไหม, ลำลูกกาได้เช่นกันค่ะ ถือว่าเป็นทำเลที่เป็นจุดตัดของถนนหลายเส้นทางเลย ใครที่ต้องการใช้ทางด่วนก็มี ถนนกาญจนาภิเษก โทรลล์เวย์ มุ่งหน้าไปยังบางนาเลี่ยงรถติดได้ค่ะ

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ในอนาคตมีทางเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยทางเข้า-ออกของโครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานี เศรษฐบุตรบำเพ็ญ ห่างจากโครงการประมาณ 350 เมตร และสามารถเชื่อมต่อกับสายสีส้ม ที่สถานีมีนบุรี (Interchange) ค่ะ

การเดินทางที่เราพาไปโครงการ Milton Residence รามอินทรา วันนี้เริ่มจากถนนสุวินทวงศ์ ข้ามผ่านแยกเมืองมีน เข้าสู่ถนนรามอินทราไปกลับรถและเลี้ยวเข้าทางโครงการทางซ้ายมือ ผ่านโครงการเฟสเดิม คือ บ้านริมสวน รามอินทรา ไปประมาณ 500 เมตร จะเจอกับทางเข้าพื้นที่ของ Milton Residence รามอินทรา ระยะทางประมาณ 4.6 กิโลเมตรค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Milton Residence รามอินทรา ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่โครงการบ้านพักอาศัยแนวราบ พื้นที่ดินโล่ง ทำให้บรรยากาศด้านในค่อนข้างสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัย โครงการนี้จะมีแนวลำน้ำสาธารณะผ่าน โดยจะไปสิ้นสุดที่ด้านในโครงการพอดีค่ะ พื้นที่โครงการมีที่ดินติดกับพื้นที่อื่น ดังนี้

• ทิศเหนือ ติดกับ ชุมชนที่อยู่อาศัย, ซอยเจริญพัฒนา
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า, บ่อน้ำ
• ทิศตะวันตก ติดกับ โครงการบ้านพักอาศัย, ที่ดินเปล่า
• ทิศใต้ ติดกับ โครงการบ้านริมสวน (เฟส1), ถนน รามอินทรา

บรรยากาศด้านหน้าทางเข้า-ออกของโครงการทางทิศใต้ ติดกับถนนรามอินทรา มองเห็นการก่อสร้างของรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีความคืบหน้าไปค่อนข้างเยอะแล้วค่ะ

ด้านหน้าโครงการมองไปทางทิศตะวันออก จะเจอกับแยกเมืองมีน

ด้านหน้าโครงการทางทิศตะวันออก ติดกับสำนักงานของ Giffarine

บรรยากาศด้านหน้าโครงการมองไปทางทิศตะวันตก

ที่ตั้งโครงการฝั่งทิศตะวันตก ติดกับ ซอยรามอินทรา 119 เป็นซอยอพาร์ทเม้นต์ชุมชนพักอาศัยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• การคมนาคม

• สถานีรถไฟฟ้าเศรษฐบุตรบำเพ็ญ (สถานีรถไฟฟ้าอยู่ระหว่างการก่อสร้าง) 350 เมตร
• ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอก กรุงเทพตะวันออก 5.9 เมตร

• Makro 2.9 กิโลเมตร
• Tesco Lotus / Big C Extra 4 กิโลเมตร
• Amorini Mall  3.8 กิโลเมตร
• The Promenade 6.9 กิโลเมตร
• Fashion Island 7 กิโลเมตร

• รร.เอกบูรพา 2.7 กิโลเมตร
• รร.สารสาสน์วิเทศมีนบุรี 4.8 กิโลเมตร
• รร.นานาชาติร่วมฤดี 7.8 กิโลเมตร
• รร.เลิศหล้า 10.3 กิโลเมตร

• รพ.เสรีรักษ์ 1 กม
• รพ.นวมินทร์ 9 2 กม
• รพ.นพรัตนราชธานี 4 กม

โครงการ Milton Residence รามอินทรา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ บนพื้นที่รวม 77 ไร่ แบ่งเป็นโครงการบ้านริมสวน (เฟส 1) ซึ่งได้ปิดการขายไปเรียบร้อยแล้วค่ะ เฟสต่อมาได้มีการพัฒนารูปแบบบ้านแบรนด์ใหม่ เป็น Milton Residence รามอินทรา (เฟส2) มีการใช้ทางเข้า-ออกร่วมกัน โดยโครงการ Milton Residence รามอินทรา จะต้องเข้ามาจากถนนรามอินทราประมาณ 500 เมตร มีจำนวนยูนิต 121 ยูนิต (เฉพาะเฟส 2) โดยแบ่งเป็นบ้านที่ดินขนาดใหญ่เริ่มต้นที่ 75 – 108 ตารางวาขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันมีบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เรียบร้อยแล้วค่ะ

Milton Residence รามอินทรา มี Double Gate โดย Main Gate จะอยู่ด้านหน้าโครงการ ติดกับถนนรามอินทรา ผ่านโครงการบ้านริมสวนมา จะเจอกับประตูทางเข้าไม้กั้นกระดกอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยทีเดียวค่ะ สำหรับ Facility ของโครงการ มีอาคาร Clubhouse อยู่ด้านหน้าสุดอาจจะใช้งานยากสักหน่อยนะคะ ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ, Fitness, Private Lounge, Playground, Reception Hall และห้อง Co-Working Space

อาคาร Clubhouse เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านทั้งเฟส 1 และเฟส 2 สามารถใช้ร่วมกันได้ เป็นระบบ Membership ซึ่งจะได้สมาชิกฟรี 2 ปีแรกค่ะ ส่วนปีต่อๆไปอาจเสียค่าบริการรายปีต้องรอติดตามในอนาคตนะคะ ข้อดีก็คืออาคาร Clubhouse แบบนี้คือ มีการดูแลโดยเจ้าของเอง และลูกบ้านไม่ต้องเสียค่าส่วนกลางในราคาแพงค่ะ (20 บาท/ตร.วา)

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Milton Residence รามอินทรา มีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนขนาดใหญ่ริมคลอง ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12.00 เมตร แบ่งถนนย่อยกว้าง 9.00 เมตร ตัวบ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าทางทิศเหนือ – ใต้ บ้านที่หันหน้าทางทิศเหนือจะไม่มีแสงแดดส่องเข้าทางหน้าบ้านในช่วงบ่ายที่เป็นเวลาที่แดดร้อนที่สุดค่ะ ส่วนบ้านที่หันทางทิศใต้จะมีความร้อนเข้าทางหน้าบ้านบ้าง แต่เป็นทิศที่มีลมเข้ามาด้วย

ทางเข้าโครงการด้านหน้าสุดติดกับถนนรามอินทรา เป็น Main Gate ขนาดใหญ่ แยกทางเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่ง พื้นทั้งหมดปูด้วยคอนกรีตแสตมป์มีความสวยงาม เข้ามาแล้วจะเจอกับวงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ มีซุ้มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตรงกลาง แบ่งเป็นทางเข้า – ออก รั้วเลื่อนอัตโนมัติ แยกทางคนเดินเข้าด้านข้าง ตกแต่งด้วยสไตล์ American Luxury เข้ากับตัวบ้านค่ะ

ทางเข้า – ออกเป็นระบบ Key Card Access ระยะไกล มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการ

เข้ามาแล้วจะเจอกับสะพานเล็กๆข้ามลำราง มีการตกแต่งด้วยไม้พุ่มบังสายตา และมีเกาะกลาง แบ่งช่องทางเข้า – ออกชัดเจน มีต้นไม้ใหญ่เป็นระยะๆ ให้ความรู้สึกร่มรื่นค่ะ พื้นที่ตรงนี้จะเป็นส่วนของโครงการ บ้านริมสวน แต่เราจะพามาชม Clubhouse กันก่อนค่ะ

Clubhouse ได้มีการปรับปรุงใหม่ เปลี่ยนพื้นที่การใช้งานและหน้าตาให้ดูมีความหรูหรา น่าใช้งานมากขึ้น กรรมสิทธิ์เป็นของเจ้าของโครงการ (สวนหลวงบ้านและที่ดิน) นะคะ โดยจะมีค่าบริการ แต่ให้สิทธิ์ลูกบ้านโครงการ Milton Residence รามอินทรา ฟรี ใน 2 ปีแรก ข้อดีคือลูกบ้านไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางสูง เพราะลูกบ้านบางคนก็ไม่ได้ใช้งาน และนิติบุคคลไม่ต้องดูแลจัดการในส่วนนี้ แต่ก็มีข้อเสียคือในโครงการระดับเดียวกันมักจะมีพื้นที่ Clubhouse มาให้เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกบ้านในโครงการนั้นๆค่ะ

ด้านข้าง Clubhouse มีที่จอดรถ 2 คัน และรองรับการจอดจักรยานได้ 4 คันค่ะ อาจจะน้อยไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตรวมกันทั้ง 2 เฟสแต่ก็มีไว้ให้สำหรับลูกบ้านที่อยู่ไกลต้องขับรถ หรือปั่นจักรยานมาใช้งานค่ะ

อาคาร Clubhouse มีการออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก American Museum เน้นความสมมาตร ขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกโอ่อ่า

นอกจากบันไดทางขึ้นปกติแล้ว ยังมีทางลาดสำหรับผู้ใช้รถเข็นเข้ามาใช้งานได้เช่นกันค่ะ

ขึ้นมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Reception Hall ขนาดใหญ่ สำหรับนั่งพักผ่อน ภายในตกแต่งเหมือนพิพิธภัณฑ์ จริงๆเลยค่ะ โดยมีรูปวาดสถาปัตยกรรม Classic ประดับผนัง

ทางเข้าเชื่อมต่อกับด้านใน Clubhouse แบ่งเป็น 2 ฝั่งสามารถเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ โดยฝั่งขวามือจะเป็นทางเข้าที่เชื่อมไปยังห้องน้ำ, สนามเด็กเล่นและ Private Lounge ส่วนฝั่งซ้ายมือ จะเชื่อมต่อไปยัง Fitness และสระว่ายน้ำค่ะ

สำหรับคนที่จะมาใช้งานภายใน Clubhouse จะต้องใช้ Membership Card แตะเพื่อเข้าใช้งานนะคะ

ด้านขวามือจาก Reception Hall จะมีห้องอเนกประสงค์เป็นพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งเปลี่ยนบรรยากาศ อ่านหนังสือ ทำงานเป็นพื้นที่ Co-Working Space หรือนัดแขกมาพูดคุยธุระได้ โดยจะมีโต๊ะมาให้ 2 ชุด ใช้งานได้พร้อมกัน 5-10 คนค่ะ

ต่อมาเราเข้าไปดูพื้นที่ Facility ด้านใน Clubhouse กันบ้างค่ะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับทางเดิน ซึ่งถ้าใช้งานครั้งแรกอาจจะสับสนเล็กน้อยนะคะ เพราะว่าที่นี่เขาออกแบบให้มีพื้นที่ค่อนข้างสมมาตร ทางเดินตกแต่งด้วยซุ้มโค้งตลอดทั้งแนว และมีพื้นที่โล่งบางส่วนเป็นสนามหญ้าค่ะ

เราจะพาไปชมทางขวามือก่อนนะคะ ซึ่งจะประกอบไปด้วย ห้องน้ำ, สนามเด็กเล่นและ Private Lounge

ห้องน้ำแบ่งชาย-หญิงชัดเจน ภายในมีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ

การตกแต่งภายในห้องน้ำยังให้กลิ่นอาย American ผสมความ Classic มีรูปติดผนังตกแต่งเหมือนกับบริเวณ Reception Hall โดยเมื่อเข้าไปในห้องน้ำจะแบ่งเป็น 3 โซน ทางฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่อ่างล้างหน้า ฝั่งขวาเป็นห้องน้ำ และด้านในสุดแบ่งเป็นห้องอาบน้ำ 2 ห้องค่ะ

ถัดมาจากห้องน้ำจะเจอกับสนามเด็กเล่นค่ะ

ในสนามเด็กเล่นจะปูหญ้าเทียมมาให้ดูเรียบร้อยและไม่เลอะเทอะเวลาเด็กๆมาวิ่งเล่น มีเครื่องเล่นมาให้ 3 อย่างด้วยกัน รวมกับทางเดินที่เป็นช่องซุ้มโค้งด้วยแล้วเด็กๆคงวิ่งเล่นกันสนุกเลยค่ะ

ถัดมาเป็นส่วน Private Lounge เป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านต้องจองก่อนเข้ามาใช้งานค่ะ โดยทางโครงการให้โควต้ากับลูกบ้านหลังละ 1 วัน/ปี สำหรับจัดปาร์ตี้วันเกิด พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวแยกจากสระว่ายน้ำรวม สามารถจัดเป็น Pool Party ได้เลยค่ะ

เข้ามาภายในห้องจะมีทั้งพื้นที่นั่งเล่น โต๊ะรับประทานอาหาร 8 ที่นั่ง และฝ้าเพดานโถงสูง Sky Light ดูโปร่ง พร้อมกับ Pantry สามารถทำอาหารรับประทานได้ มองออกไปเห็นสระว่าน้ำส่วนตัวด้านหน้าห้องด้วยค่ะ

ภาพบรรยากาศสระว่ายน้ำหน้าห้อง Private Lounge เป็นสระระบบเกลือ ขนาดประมาณ 3.50 x 5.00 เมตร

ออกมาด้านนอก Private Lounge มีทางเดินลงไปเดินเล่นที่สนามหญ้าด้านล่างค่ะ

เดินมาถึงด้านหลังจะเจอกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ  ขนาดประมาณ 7.00 x 20.80 เมตร ลึก 1.20 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง

ด้านในเป็นพื้นที่ Semi Outdoor สระเด็กขนาดประมาณ 7.00 x 8.00 เมตร สามารถพาเด็กๆมาเล่นน้ำได้ทั้งวันไม่ต้องกลัวแดดร้อนค่ะ

ทางเดินด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่ล้างตัวมาให้ 2 จุด ตกแต่งเป็นซุ้มโค้งน่ารักดีค่ะ

ด้านในมีพื้นที่นั่งเล่นริมสระพร้อมชุดเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งนำเข้าจากต่างประเทศ ไว้เป็นพื้นที่พักผ่อนหรือนั่งพักคอย

บรรยากาศสระว่ายน้ำด้านใน Semi Outdoor

ถัดจากสระว่ายน้ำเรามาดู Fitness กันบ้างค่ะ บริเวณนี้ก็ต้องใช้ Membership Card ในการเข้าเช่นกันนะคะ

เข้ามาให้ห้อง Fitness มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีเครื่องออกกำลังกกายมาให้หลากหลาย รวมประมาณ 9 ชิ้น มองออกไปเห็นวิวสวนด้านนอกค่ะ

นอกจากนั้นในห้อง Fitness ยังมี Private Studio เป็นห้องกระจกแยกสำหรับจัดคลาสโยคะ หรือซ้อมเต้นให้ใช้งานด้วยค่ะ

ออกจาก Fitness มาก็จะเจอกับทางเชื่อมไปยัง Reception Hall ตอนแรกที่เราผ่านมานั่นเองค่ะ

ด้านข้าง Clubhouse มีสนามหญ้าเล็กๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บรรยากาศสดชื่นมากขึ้นค่ะ

ถัดจากส่วน Clubhouse เข้ามา 500 เมตรจะเจอกับทางเข้าโครงการ Milton Residence รามอินทรา เป็นรั้วไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ แบ่งทางเข้า – ออก 2 ช่องทาง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกันค่ะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับบรรยากาศริมคลองสาธารณะ มีการปรับทัศนียภาพสองฝั่งให้สวยงาม

ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12.00 เมตร และถนนซอยย่อย 9.00 เมตร ด้านนอกมีการปลูกไม้พุ่ม ไม้ประดับตกแต่งดูสดชื่นไม่แห้งแล้งค่ะ

ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะมี Pavilion สูงขนาดใหญ่ เป็น Landmark ของสวนเลยค่ะ สำหรับใครที่ไม่อยากออกไปใช้งาน Clubhouse ด้านหน้า ก็สามารถพาสัตว์เลี้ยงออกมาวิ่งเล่น และนั่งพักผ่อนที่ Pavilion ได้ค่ะ

ถัดจาก  Pavilion มาจะเจอกับสนามหญ้ากว้างมากๆค่ะ พาเด็กๆ หรือจูงสุนัขมาวิ่งเล่นได้เต็มที่เลย ด้านหลังสวนจะมีพื้นที่นั่งเล่นอีก 2 จุดด้วยกันค่ะ

โซนแรกเป็นศาลานั่งเล่นหลบแดดหลบฝนได้ พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็ก 3 เครื่อง

อีกโซนเป็นพื้นที่นั่งชมวิว Outdoor เป็นที่นั่งริมคลอง สามารถมองเห็นวิวสวนได้ทั้งหมดได้เลย ออกมาเดินเล่นหลังฝนตก หรือช่วงเช้าๆบรรยากาศน่าจะดีไม่น้อยเลย

สุดท้ายมีพื้นที่นั่งเล่นชิงช้าหลบอยู่ด้านใน รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร CLUBHOUSE (กรรมสิทธิ์ของเจ้าของโครงการ) ให้ Membership Card ฟรี 2 ปี*(ระยะเวลาขึ้นอยู่กับโปรโมชันและช่วงเวลาการขาย) ประกอบไปด้วย
• GRAND RECEPTION HALL
• WELLNESS STUDIO
• FITNESS ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
• SEMI-INDOOR SMIMMING POOL 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาดประมาณ 7.00 x 20.80 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบ่งสระเด็ก ขนาด 7.00 x 8.00 เมตร
• EXCLUSIVE PRIAVATE LOUNGE
• PLAY GROUND
• 2 PUBLIC PARKS
• JOGGING TRACK
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด
• DOUBLE GATE
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการทุกซอย
• รั้วรอบโครงการสูง 4.5 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12.00 ม. และถนนภายในกว้าง 9.00 ม.
• Key Card Access ระยะไกล ทั้ง 2 Gate
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และรั้วเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน

แบบบ้านภายในโครงการนี้มีทั้งหมด 6 แบบด้วยกันนะคะ

ซีรีย์เดิม
– GLAMOUR ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
– CHARLOTTE ที่ดินเริ่มต้น 92 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 362 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
– HENDERSON ที่ดินเริ่มต้น 108 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 446 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
ซีรีย์ใหม่
– ARTHER ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 281 ตร.ม 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท
– BRESCOTTE ที่ดินเริ่มต้น 92 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 362 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 19 ล้านบาท
– WELLINGTON ที่ดินเริ่มต้น 108 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 460 ตร.ม 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท

บ้านทุกแบบก่อสร้างด้วยวัสดุ EKOBLOK เป็นอิฐมวลเบาที่พัฒนาให้มีน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงทนทานสูง สามารถแขวนของที่มีน้ำหนักได้ มีคุณสมบัติ กันไฟ กันความร้อน กันเสียงได้ดี และได้รับการรับรองจาก ‘ผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว’ ค่ะ

จุดเด่นของบ้านภายในโครงการมี ดังนี้

• จอดรถยนต์ได้ 3 คันขึ้นไป
• ตัวบ้านได้พื้นที่เฉลียงกว้าง สามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้า/ด้านข้างบ้านได้
• มีพื้นที่ครัวปิด และจัดแบ่งพื้นที่โซนแม่บ้านแยกไว้ชัดเจน
• มีพื้นที่ระเบียงด้านหลังบ้านโซนซักล้างกว้าง
• พื้นที่ Common Area ภายในตัวบ้านกว้าง สามารถจัดแบ่งพื้นที่เองได้
• มีโถง Double Volume
• มีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้อง ได้ความเป็นส่วนตัว
• ตัวบ้านออกแบบมาเป็นสไตล์ American Luxury Comfort

ซึ่งวันนี้บ้านตัวอย่างที่เราพามาชมเป็นแบบบ้าน WELLINGTON บ้าน Type ใหญ่ที่สุดภายในโครงการ บรรยากาศภายในบ้านจะได้กลิ่นอายของ American ขนาดไหน มีการจัดพื้นที่เป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

บ้าน Type นี้มีที่ดินเริ่มต้น 108 ตร.ว. ถือว่าเป็นบ้านที่มีเนื้อที่ขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 460 ตร.ม ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน

ชั้น 1 มีที่จอดรถด้านหน้าบ้าน 4 คัน (ซ้อนคัน 1 ช่องจอด) สามารถเข้าบ้านได้ 3 ทางค่ะ ค่อนข้างสะดวกทีเดียว เวลาซื้อของเข้าครัว สามารถเดินถือเข้าด้านหลังบ้านได้เลย หรือจะเข้าด้านข้าง ก็มาเจอกับ Foyer มีห้องเก็บของใต้บันได และสามารถ Built-in ตู้รองเท้าเพิ่มเติมได้ ส่วนทางเข้าหลักอยู่ด้านหน้าบ้าน มีเฉลียงเชื่อมต่อกับพื้นที่พักผ่อนด้านข้าง

ภายในบ้านมีพื้นที่ Common Area กว้าง สามารถกั้นห้องแบ่งเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวได้ (แบบในบ้านตัวอย่าง) ส่วนโซนด้านหลังบ้านจะแบ่งเป็นพื้นที่พักผ่อน มีห้องนอนและห้องน้ำส่วนตัว แยกห้องน้ำ Powder Room สำหรับแขก และมีพื้นที่ครัวปิดเชื่อมต่อไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้าน แยกส่วนแม่บ้านออกจากตัวบ้านชัดเจนค่ะ

ชั้น 2 เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด แบ่งเป็นโซน Penthouse สำหรับนั่งเล่นทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว สามารถมองผ่านโถง Double Volume ลงมายังโถงต้อนรับด้านหน้าบ้านได้ ก่อนจะแยกไปยังส่วนห้องนอนทั้ง 3 ห้องค่ะ ซึ่งห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ห้อง Master Bedroom ได้พื้นที่กว้างสามารถกั้นห้อง Walk-in Closet แยกได้ มีระเบียงส่วนตัวที่สามารถกั้นปิดเป็นพื้นที่ปรับอากาศได้ด้วย เช่นเป็นพื้นที่นั่งเล่น อ่านหนังสือ จิบกาแฟ ปลูกต้นไม้ และเชื่อมต่อกับในห้องนอนได้ ส่วนห้องน้ำจะมีการอัพเกรดสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติให้ พร้อมกับได้อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ สำหรับแช่ตัวแยกต่างหากค่ะ

ห้องนอนรองที่ 2 จะอยู่อีกฝั่งหนึ่งมีขนาดใหญ่เหมือนเป็นห้อง Master Bedroom อีกหนึ่งห้องเลย สามารถกั้นพื้นที่ Walk-in Closet แยกได้ ส่วนห้องนอนสุดท้ายจะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน สามารถวางเตียงใหญ่ 6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมห้องน้ำในตัวค่ะ

หน้าตาตัวบ้านซีรีย์ใหม่จะมีการพัฒนาจากแบบเดิมเล็กน้อยแต่คงความเป็นสไตล์ American Luxury อยู่ค่ะ โดยจะมีหน้าจั่วโถงสูง ตกแต่งด้วยวัสดุลายหิน มีการใช้ระแนงสีดำเป็นรั้วและราวกันตก ไม่ได้เน้นช่องแสงด้านหน้าตัวบ้านมากนัก ทำให้ในบ้านได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ

เนื่องจากเป็นบ้านที่ได้หน้ากว้างพอสมควรจึงสามารถจอดรถเรียงกันได้ 3 คันเลยค่ะ ประตูรั้วบ้านเป็นแบบบ้านเลื่อนเปิด สามารถติดตั้งระบบอัตโนมัติได้

ด้านข้างรั้วทางเข้ารถยนต์จะมีทางแยกสำหรับคนเดินเข้าสู่ตัวบ้านได้โดยตรงเลยค่ะ พร้อมกับติดตั้งกริ่งและเลขที่บ้านมาให้บริเวณทางเข้าด้วย

อีกฝั่งเป็นช่องเปิดสำหรับรถขยะ เข้ามาเก็บขยะได้สะดวกเรียบร้อย ไม่ทำลายทัศนียภาพด้านหน้าบ้าน

ที่จอดรถเป็นพื้นคอนกรีตปูกระเบื้อง ลงเสาเข็มสั้นมาให้เรียบร้อย สามารถจอดรถในร่มได้ทั้งหมด 4 คันค่ะ

เข้ามาด้านในจะมีช่องเก็บของด้านนอกสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด และเครื่องมือดูแลสวน เปิดได้ 4 บานเชื่อมต่อกัน

จากที่จอดรถสามารถเดินเข้าตัวบ้านได้เลย โดยใช้ประตูกระจกบานเลื่อนทางซ้ายมือ ซึ่งเข้าไปจะเจอกับพื้นที่โถงเก็บของก่อนเข้าไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนฝั่งขวามือเป็นพื้นที่โซนแม่บ้านทั้งหมดค่ะ

ส่วนของแม่บ้านแบ่งเป็นห้องนอนแม่บ้าน แยกห้องน้ำด้านนอก เชื่อมต่อไปยังโซน Maid Plaza ที่เป็นลานซักล้างด้านหลัง สำหรับวางเครื่องซักผ้า ราวตากผ้า และเป็นพื้นที่เก็บของได้ค่ะ

มาดูโซนด้านหน้าบ้านกันบ้างค่ะ ด้านหน้าและด้านข้างบ้านปูสนามหญ้ามาให้เรียบร้อยนะคะ สามารถทำสวนเล็กๆ หรือปูกระเบื้องเพื่อเป็นทางเข้าบ้านแบบในบ้านตัวอย่างก็สวยดีค่ะ

ทางเข้าหน้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเปิดคู่ 2 ฝั่งเปิดได้กว้าง บริเวณนี้จะได้โถงสูงเป็นส่วนต้อนรับ เข้าไปในบ้านแล้วยังเชื่อมต่อกับโถง Double Volume ภายในบ้านด้วย ได้ความโอ่อ่าทีเดียวค่ะ

โถงสูงด้านหน้าทางเข้าบ้านเป็นรูปทรงจั่ว สไตล์ American มีระแนงช่วยบังสายตาได้ความเป็นส่วนตัว

ก่อนเข้าบ้านด้านหน้าเชื่อมต่อไปยังเฉลียง มีพื้นที่กว้างประมาณ 3.00 x 6.00 เมตร สามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน หรือเป็นพื้นที่ทำบาร์บีคิวสำหรับปาร์ตี้ ได้สบายๆเลยนะคะ

เข้ามาด้านในบ้านจะเจอกับพื้นที่ Common Area กว้างโล่ง บ้านมาตรฐานจะไม่ได้กั้นผนังฝั่งซ้ายมือ (ที่มีรูปภาพติด) มาให้นะคะ จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกันทั้งหมด แต่ถ้าใครอยากได้บ้านที่แบ่งเป็นสัดส่วนมากขึ้นก็สามารถกั้นเพิ่มเติมได้ค่ะ

ภายในบ้านชั้น 1 ได้ฝ้าเพดานฉาบเรียบ มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.90 เมตร ถือว่าสูงพอสมควร สามารถทำฝ้าหลุมได้สบายๆเลย ส่วน Double Volume สูง 6.00 เมตร พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร แต่ลายแตกต่างจากบ้านตัวอย่างค่ะ (มีภาพบ้านมาตรฐานให้ดูด้านล่างนะคะ)

มองย้อนกลับไปที่โถงทางเข้าด้านหน้าบ้าน สามารถกั้นเป็นพื้นที่เก็บรองเท้า หรือวางของประดับเป็นส่วนต้อนรับได้ หรือถ้าใครที่ไม่กั้นก็จะได้พื้นที่โถงสูงโปร่งเลยค่ะ

เรามาดูพื้นที่ทางซ้ายมือกันค่ะ ในบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่ง ไม่ได้กั้นผนังมาให้นะคะ สามารถกั้นเป็นส่วนนั่งเล่นส่วนตัว หรือห้องรับแขกได้

พื้นที่ห้องรับแขกมีขนาดประมาณ 4.65 x 5.40 เมตร สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่รูปตัว L หรือตัว U พร้อมโต๊ะกลางแล้วยังเหลือพื้นที่โดยรอบเดินได้สบายๆค่ะ ห้องนี้จะมีช่องแสงธรรมชาติจาก 2 ฝั่งคือฝั่งด้านหน้าบ้านและด้านข้าง จากประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ ใครที่ชอบห้องนั่งเล่นเป็นส่วนตัว เวลามีแขกมาสามารถแยกมาคุยธุระได้โดยไม่มีคนอื่นในบ้านมารบกวนก็แนะนำให้กั้นเป็นห้องรับแขกแบบในบ้านตัวอย่างนะคะ

จากพื้นที่ห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับเฉลียงด้านหน้าบ้าน สามารถตั้งชุดโต๊ะพักผ่อน หรือโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับทำบาร์บีคิว หรือเป็นลานจัดปาร์ตี้นอกบ้านได้ และยังมองออกไปเห็นสวน หรือจะทำเป็นสระว่ายน้ำไว้จัด Pool Party ไปเลยก็ยังได้นะคะ

ถัดมาดูด้านนอกกันบ้าง จะเห็นว่าบันไดอยู่ทางหน้าบ้าน ตรงนี้ที่บ้านมาตรฐานจะไม่มีผนังให้นะคะ ถ้าต่อเติมแบบในบ้านตัวอย่างก็จะแยกเป็นสัดส่วนมากขึ้น คนในบ้านเดินขึ้น-ลงได้ไม่รบกวนคนที่อยู่โซนโต๊ะรับประทานอาหาร หรือพื้นที่นั่งเล่นค่ะ

พื้นที่ตรงกลางบ้านสามารถจัดเป็นโซนรับประทานอาหาร หรือโซนนั่งเล่นได้ มีขนาดประมาณ 3.10 x 4.50 เมตร วางโต๊ะประทานอาหาร 8-10 ที่นั่ง หรือวางโซฟาขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ

ด้านข้างพื้นที่กลางบ้านจะเชื่อมต่อกับโถงทางเข้าอีกส่วนหนึ่งออกไปยังที่จอดรถได้ค่ะ โดยบ้านมาตรฐานจะไม่ได้กั้นประตูมาให้นะคะ คนที่ไม่ชอบทางเข้าหลายทางอาจจะทำเป็นประตูซ่อนให้กลมกลืนไปกับผนังได้ หรือใครที่อยากได้แสงธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้านเพิ่มเติมก็แนะนำเป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบในบ้านตัวอย่างค่ะ

โถงทางเข้ารองเชื่อมต่อกับที่จอดรถ มีข้อดีคือสามารถจัดเป็นพื้นที่เก็บรองเท้าได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ โดยฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่ Built-in ตู้รองเท้าและอีกฝั่งเป็นห้องเก็บของใต้บันได

ห้องเก็บของใต้บันไดมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ด้านในเก็บ Main Board ไฟฟ้า และเก็บของชิ้นใหญ่ๆอย่างกระเป๋าเดินทาง, ถุงกอล์ฟ, จักรยาน ได้

ใครที่จัดพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องรับแขกด้านหน้าบ้านแล้ว ด้านหลังบ้านสามารถกั้นเป็นโซนรับประทานอาหาร หรือพื้นที่เตรียมอาหาร (Pantry) เชื่อมต่อกับส่วนครัวได้นะคะ ถือว่าเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ของบ้านกว้างประมาณ 2.70 x 4.50 เมตร ตรงนี้จะได้แสงเข้ามาจากด้านหลังบ้านและมองออกไปเห็นวิวสวนค่ะ

ห้องครัวได้เป็นพื้นที่ครัวปิด แยกออกมาเป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารจริงจังได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวนค่ะ

ภายในห้องครัวเป็นพื้นที่โล่งไม่ได้มีการ Built-in เคาน์เตอร์มาให้นะคะ ขนาดห้องครัวของบ้านหลังนี้ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ อยู่ที่ 4.00 x 3.50 เมตร ทำเคาน์เตอร์รูปตัว U ได้สบายๆ ภายในครัวมีช่องเปิดระบายอากาศไปยังด้านหลังบ้านได้ 1 จุด พร้อมกับมีทางออกเชื่อมต่อกับลานซักล้าง และโซนแม่บ้านค่ะ

ถัดมาเป็นโซนพักผ่อนมีห้องนอน 1 ห้องพร้อมห้องน้ำส่วนตัว ด้านหน้าห้องนอนมีห้องน้ำสำหรับใช้ร่วมกันเป็น Powder Room (ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ) แยกมาให้อีก 1 ห้องเผื่อมีแขกไปใครมาก็สามารถเข้าได้ไม่ต้องใช้ร่วมกับคนที่นอนชั้น 1 ค่ะ

ภายในห้องน้ำ Powder Room จะได้เหมือนกับในบ้านตัวอย่างค่ะ มีอ่างล้างหน้าติดตั้งบนเคาน์เตอร์พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง และสุขภัณฑ์จาก American Standard ให้ค่ะ

เข้ามาดูในห้องนอนชั้นล่างกันบ้าง ส่วนใหญ่ครอบครัวขนาดใหญ่มักจะมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วนกัน ห้องนอนชั้นล่างจึงมีความจำเป็นช่วยลดความเสี่ยงในการเดินขึ้น-ลงบันไดของผู้สูงอายุ หรือรองรับในกรณีที่ผู้สูงอายุเดินขึ้นไม่ไหว หรือต้องใช้รถเข็น เป็นต้น ห้องนอนชั้นล่างปูพื้นด้วยลามิเนต Kronoswiss หนา 8 มิลลิเมตร ได้ช่องแสง 2 ฝั่ง ไม่ใหญ่มากเน้นความเป็นส่วนตัว และทำให้ภายในห้องไม่ร้อนค่ะ

พื้นที่ห้องมีขนาดประมาณ 4.00 x 4.50 เมตร สามารถวางเตียงใหญ่ขนาด 5-6 ฟุตได้ มีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับคนที่ใช้รถเข็น แนะนำให้ติดตั้ง TV แบบแขวนผนัง เพื่อที่จะได้มีพื้นที่เข็นรถเข็นผ่านปลายเตียงได้สบายๆค่ะ

ภายในห้องนอนชั้น 1 มีห้องน้ำในตัว ที่ออกแบบรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้ โดยติดตั้งราวจับภายในห้องน้ำมาให้ ไม่มีการลดระดับพื้น รองรับการใช้งานรถเข็นได้ พื้นที่ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียงส่วนแห้งชัดเจน มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า, สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ประกอบจาก American Standard เหมือนกับห้อง Powder Room แต่เพิ่มเติมระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น สำหรับอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ

บันไดภายในบ้านให้มาค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ มีความกว้างประมาณ 1.50 เมตร เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เดินแล้วให้ความรู้สึกแน่น แข็งแรง ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป มีราวกันตก Wrought iron (ระแนงเหล็ก)ดูสวยงาม (บ้านมาตรฐานจะไม่มีผนังฝั่งราวกันตกมาให้นะคะ) บริเวณโถงบันไดจะเชื่อมต่อกับโถงสูง Double Volume ทำให้ดูโปร่ง และมีช่องแสงทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟที่โถงบันไดตอนกลางวันเลยค่ะ

สวิตช์ไฟภายในบ้านเป็นแบบปุ่มกดสีเงิน จาก Panasonic ค่ะ

เมื่อเดินขึ้นบันไดมาแล้วจะเจอกับโถงทางเข้าห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องก่อนค่ะ โดยชั้น 2 จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 3.00 เมตร ปูพื้นด้วย ลามิเนต Kronoswiss หนา 8 มิลลิเมตร

แบ่งเป็นห้องนอนรองขนาดใหญ่ทางฝั่งขวามือ และห้องนอนรองฝั่งด้านหลังบ้าน ซึ่งทั้งคู่มีห้องน้ำในตัวค่ะ

มาดูห้องนอนรองด้านข้างบ้านกันก่อนนะคะ ห้องนี้จะเป็นห้องขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงด้านหลังบ้านเลยค่ะ มีระเบียงส่วนตัว พื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำส่วนตัว เหมือนเป็นอีกหนึ่งห้อง Master Bedroom เลย

ห้องนอนมีขนาดประมาณ 4.10 x 6.70 เมตร ถือว่าใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถจัดพื้นที่แบ่งเป็น Walk-in Closet และวางเตียงใหญ่พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ ปลายเตียงสามารถ Built-in ชั้นวาง TV ขนาดใหญ่ได้ค่ะ

ห้องนี้จะได้ช่องแสงด้านหน้าบ้านฝั่งเดียวนะคะ สำหรับคนที่ชอบให้ห้องสว่างอาจจะรู้สึกว่าได้แสงธรรมชาติน้อยไปหน่อย แต่จะได้ความเป็นส่วนตัว ไม่มองเห็นข้างบ้านในระยะประชิด

มีระเบียงด้านหน้าบ้าน กันราวกันตกมาให้ สำหรับใครที่อยากขยายพื้นที่ระเบียงให้ครอบคลุมหลังคาลานจอดรถ เป็นพื้นที่อเนกประสงค์กว้างสำหรับนอนดูดาวได้เลย ก็ต้องยื่นแบบให้ทางวิศวกรโครงการช่วยดูเรื่องน้ำหนักที่มีผลต่อโครงสร้างนะคะ

ฝั่งตรงข้ามสามารถกั้นเป็นส่วน Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำได้ค่ะ

ห้องน้ำภายในห้องนอนรองตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหิน มีการแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน และมีช่องแสงด้านหลังบ้านเปิดระบายอากาศได้ พื้นห้องน้ำลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปด้านนอก อุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำทั้งอ่างล้างหน้า พร้อมเคาน์เตอร์เก็บของ, โถสุขภัณฑ์ จาก American Standard ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีการกั้นฉากกระจกมาให้เรียบร้อย ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นมายังส่วนแห้ง ทางโครงการติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและเดินระบบรองรับน้ำร้อน-น้ำเย็นมาให้แล้วค่ะ

มาดูห้องนอนอีกห้องกันค่ะ ห้องนี้เป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ด้านหลังบ้าน แต่ก็มีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet และมีห้องน้ำส่วนตัวเช่นกันค่ะ

พื้นที่ห้องนอนห้องนี้ประมาณ 3.15 x 4.50 เมตร สามารถวางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุตได้สบายค่ะ ซึ่งห้องนี้จะมีจุดเด่นคือได้ช่องแสงด้านหลังบ้านกว้าง สำหรับใครที่มีสมาชิกภายในบ้านไม่เยอะ ก็สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานส่วนตัวได้ค่ะ

ห้องน้ำภายในห้องนอนรองนี้มีการตกแต่งเหมือนกับห้องที่แล้วเลยค่ะ มีการแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน และมีช่องแสงด้านหลังบ้านเปิดระบายอากาศได้ พื้นห้องน้ำลดระดับมาให้ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำ จาก American Standard ส่วน พื้นที่อาบน้ำก็มีการกั้นฉากกระจกมาให้เรียบร้อย ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นมายังส่วนแห้ง ทางโครงการติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและเดินระบบรองรับน้ำร้อน-น้ำเย็นมาให้เช่นกัน

ถัดจากห้องนอนรองมาแล้ว ก่อนจะไปยังห้อง Master Bedroom จะผ่านพื้นที่ Family Area เป็นเหมือนโถงนั่งเล่นร่วมกันในครอบครัวก่อนค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะสามารถมองลงไปเห็นทางเข้าด้านหน้าบ้านที่ชั้น 1 ได้

การที่ห้อง Master Bedroom แยกออกมาอยู่อีกฝั่งหนึ่งทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ

ห้อง Master Bedroom มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ตั้งแต่ด้านหน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน สามารถกั้นห้อง Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนได้ มีพื้นที่ระเบียงส่วนตัว และห้องน้ำขนาดใหญ่ค่ะ ห้องนี้จะได้ช่องแสงด้านหน้าบ้านเป็นประตูบานเปิดคู่ 2 ฝั่ง และหน้าต่างบริเวณหัวเตียงมาให้ รับแสงธรรมชาติได้เยอะ

ภายในห้อง Master Bedroom มีขนาดประมาณ 4.65 x 7.00 เมตร ถือว่าใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมโซฟานั่งเล่นที่ปลายเตียง และ Built-in ชั้นวาง TV ได้ ในห้องตัวอย่างจะกั้นพื้นที่ Walk-in Closet แยกทำให้มีพื้นที่เหลือประมาณ 4.65 x 5.00 เมตร

ห้อง Master Bedroom มีระเบียงส่วนตัวด้านหน้าบ้าน เป็นพื้นที่ Semi Outdoor ที่สามารถกั้นหน้าต่างอีกชั้นหนึ่งด้านนอกเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานภายในห้องได้อีกค่ะ หรือใครจะทำเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ นั่งเล่นจิบชา เป็นสวนหย่อมเล็กๆส่วนตัวก็ได้ค่ะ เพราะตัวระเบียงมีความกว้างอยู่ที่ 1.50 เมตร สามารถวางชุดโต๊ะกาแฟเล็กๆ แบบในบ้านตัวอย่างได้เลย

ห้อง Master Bedroom กั้นส่วน Walk-in Closet มาให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นที่โล่ง สามารถเลือกจัดพื้นที่การใช้งานได้เองตามความชอบเลยค่ะ

ในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom จะได้เหมือนในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ มีการอัพเกรดขึ้นมาจากห้องนอนรองอื่นๆ โดยจะได้อ่างล้างหน้า พร้อมกระจกเงาแบบ His & Her มีช่องแสง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องน้ำสว่าง พร้อมอ่างอาบน้ำแยกค่ะ

ห้องน้ำจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนสุขภัณฑ์ซึ่งจะมีการอัพเกรดขึ้นมาจากห้องอื่นๆ เป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก American Standard ด้านข้างเป็นพื้นที่อาบน้ำ มี Rain Shower เพิ่มมาให้ เป็นระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นเช่นกันค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งด้านขวามือ เป็นส่วนของอ่างอาบน้ำ ซึ่งบ้านมาตรฐานจะได้แบบเดียวกับในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ เป็นอ่างอาบน้ำพร้อมฝักบัวสายอ่อน แช่ตัวได้สบายๆพร้อมมองเห็นวิวสวนด้านหลังบ้าน

บ้านมาตรฐาน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

30 OCTOBER 2020

• ARTHER ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 281 ตร.ม 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 
• ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท
  
• BRESCOTTE ที่ดินเริ่มต้น 92 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 362 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ  1 ห้องแม่บ้าน
•  ราคาเริ่มต้น 19 ล้านบาท
  
• WELLINGTON ที่ดินเริ่มต้น 108 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 460 ตร.ม 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน 
• ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท (ส่วนลด สอบถามโครงการ)
• จองและทำสัญญา 150,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง 20 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง (ขึ้นอยู่กับโปรโมชัน)
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ Milton Residence รามอินทรา มีทางเข้า-ออกหลักที่ติดกับถนน รามอินทรา ช่วงใกล้กับแยกเมืองมีน มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ ตลาดมีนบุรี, Big C Super Center, Tesco Lotus, Makro, Amorini และห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่าง Fashion Island , Promenade และยังเป็นทำเลที่มีสถานศึกษา, โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกล

การเดินทางถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะ สามารถเดินทางเชื่อมต่อถนนได้หลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นถนนเสรีไทย , ถนนรามคำแหง, ถนรามอินทรา, ถนนสุวินทวงศ์ และถนนนิมิตใหม่ นอกจากนั้นยังมีทางด่วน กาญจนาภิเษก โทรลล์เวย์ มุ่งหน้าไปยังบางนา, รังสิตได้สะดวก นอกจากนั้นยังอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู เศรษฐบุตรบำเพ็ญ ระยะทางประมาณ 350 เมตร เป็นตัวเลือกในการเดินทางในอนาคตค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยและที่ดินเปล่า ด้านหน้าโครงการเองยังติดกับโครงการบ้านริมสวนที่มีเจ้าของเดียวกัน จึงเป็นทำเลที่ค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะแก่การอยู่อาศัย แต่ก็ยังเดินทางสะดวกค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ตัวโครงการมีทางเข้า-ออก ทางเดียว แบบ Double Gate ง่ายต่อการควบคุมความปลอดภัย ใช้ระบบการเข้า-ออกด้วย Key Card ระยะไกล มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง 2 Gate พร้อมกับติดกล้อง CCTV มาให้ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการ และให้รั้วรอบโครงการมาสูง 4.50 เมตร ถือว่าสูงทีเดียวค่ะ เสียดายเล็กน้อยตรงที่ไม่ได้มีระบบรักษาความปลอดภัยภายในตัวบ้านมาให้ค่ะ ต้องติดตั้งเพิ่มเติมเอง

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบโครงการ Milton Residence รามอินทรา เนื่องจากเป็นส่วนที่เชื่อมต่อมาจากเฟสแรก ต้องเข้ามาลึกและออกไปใช้งานพื้นที่ Clubhouse ไกลสักหน่อย แต่จะได้ความเป็นส่วนตัว มีรถยนต์ผ่านเข้า-ออกไม่เยอะ Clubhouse มีความโมเดิร์นคลาสสิค ใช้โทนสีเทา แรงบันดาลใจมาจาก American Museum ทำออกมาได้สวย น่าใช้งานค่ะ

ส่วนการออกแบบบ้านเป็นสไตล์ American Luxury Comfort ฝ้าเพดานสูง 2.90-3.00 เมตร จัดพื้นที่การใช้งานได้ค่อนข้างลงตัวค่ะ มีระเบียงกว้าง ได้พื้นที่ครัวปิดและแบ่งโซนแม่บ้านชัดเจน มีพื้นที่ Common Area กว้างสามารถจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานเองได้ นอกจากนั้นยังมีโถงทางเข้า สูง Double Volume 6.00 เมตร มีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้องได้ความเป็นส่วนตัว

วัสดุ :

วัสดุภายในโครงการให้มาค่อนข้างใช้ได้เหมาะสมกับราคานะคะ  โดยก่อสร้างด้วย Ekoblock ที่มีคุณสมบัติแข็งแรง กันความร้อน กันเสียง และกันไฟได้ดีกว่าอิฐมลเบาธรรมดา สามารถทุบต่อเติมได้ พื้นชั้นล่างคือ กระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร ชั้น 2 เป็นพื้นลามิเนต Kronoswiss หนา 8 มิลลิเมตร ได้สุขภัณฑ์จาก American Standard พร้อมฝักบัวอาบน้ำระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น และมีอ่างอาบน้ำมาให้ภายในห้อง Master Bedroom ค่ะ ประตูได้เป็นบานเลื่อนกระจก วงกบอลูมิเนียมพาวเดอร์โคทสีดำ พื้นที่จอดรถลงเสาเข็มสั้นมาให้ลานซักล้างด้านหลังบ้านเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กวางบนคานตัวบ้าน

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

บรรยากาศภายในโครงการถือว่าค่อนข้างดีเลยค่ะ ได้พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่พร้อม Pavilion นั่งพักผ่อน มีที่นั่งริมคลองบรรยากาศดี ถนนภายในโครงการกว้าง สะอาดเรียบร้อย

สาธารณูปโภค :

สาธารณูปโภคภายในโครงการมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ริมคลอง มีอาคาร Pavilion ที่นั่งชมวิวและเครื่องเล่นสำหรับเด็กค่ะ ส่วนอาคาร Clubhouse นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของโครงการ ลูกบ้านจะได้ Membership เป็นเวลา 2 ปี และในอนาคตอาจเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งทำให้ลูกบ้านเสียค่าส่วนกลางไม่แพงอยู่ที่ 20 บาท/ตารางวา เท่านั้นเอง

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 12 – 20 ล้านบาท, 30 OCTOBER 2020

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ทางเข้า-ออกติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก ความอุดมสมบูรณ์สูง
• ความปลอดภัย 8/10 – Double Gates , Access key card ระยะไกล มีกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 4.5 เมตร
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.75/10 – พื้นที่การใช้งานบ้านลงตัว มีจุดเด่นหลายส่วน
• วัสดุ 7.5/10 – ให้มาตามมาตรฐานราคาบ้านระดับเดียวกัน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – บรรยากาศภายในโครงการเรียบร้อยดี มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่
• สาธารณูปโภค 7/10 – มีพื้นที่สวน และ Pavilion Clubhouse ฟรี 2 ปี*
• 7.96 / 10.00

* Clubhouse เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของโครงการ ใช้ระบบสมาชิก ได้ฟรี 2 ปี อนาคตอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

BOTTOM LINE

Milton Residence รามอินทรา เหมาะกับครอบครัวขยาย ที่มีสมาชิกภายในบ้าน 5-7 คนที่กำลังมองหาบ้านบนที่ดินกว้าง มีทางเข้า-ออกติดถนนใหญ่ ใกล้กับแหล่งจับจ่ายใช้สอย มีความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางสะดวก ไม่เน้นใช้งานพื้นที่ส่วนกลางมากนัก มีความชอบสไตล์ American Luxury ชอบบ้านที่มีพื้นที่ระเบียงกว้าง แยกพื้นที่แม่บ้านชัดเจน และได้โถงสูง Double Volume มีงบประมาณ 12 – 25 ล้านบาท

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving