ใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ในทำเลใจกลางเมือง เข้าถึงถนนสุขุมวิทได้ง่ายๆ ต้องมาดูโครงการนี้เลยค่ะ Mastery Sukhumvit บ้านหรู ที่สามารถ Customize ฟังก์ชันภายในบ้านและเลือกวัสดุเองได้ ในซอยอุดมสุข 34 สามารถใช้ซอยลัดไปออกถนนบางนา – ตราดได้ สะดวกทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์และรถไฟฟ้า ในราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
- ทำเล : โครงการตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 34 ห่างจากถนนสุขุมวิทและสถานีรถไฟฟ้า BTS อุดมสุข ประมาณ 2.1 กิโลเมตร เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์และคึกคักสูง หาของกินง่าย เดินทางสะดวก
- ขนาดและพื้นที่ : เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่บนทำเลอุดมสุข บนที่ดิน 66 – 209 ตร.วา ที่สามารถซื้อที่ดิน Combine เพิ่มเติมได้ สำหรับคนที่ต้องการที่ดินขนาดใหญ่มีสนามหญ้ากว้าง ตัวบ้านมีการออกแบบลงตัวมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ พร้อมสระว่ายน้ำและลิฟต์โดยสาร (โปรโมชัน)
- การใช้งาน : การใช้งานรองรับครอบครัวขยายอยู่กันหลาย Generation ได้ อีกทั้งยังเป็นบ้าน ‘สั่งสร้าง’ ภายในสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งาน และวัสดุให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ลงตัวมากยิ่งขึ้นค่ะ
ข้อมูลโครงการ
MASTERY SUKHUMVIT ( มาสเตอรี่ สุขุมวิท) ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
ชื่อโครงการ | MASTERY SUKHUMVIT ( มาสเตอรี่ สุขุมวิท) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท อัลติจูด โฮม จำกัด |
SEGMENT CLASS | SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยอุดมสุข 34 ถนนสุขุมวิท 103 (ถนนอุดมสุข) เขตบางนา กทม. |
ที่ดิน | 4 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 16 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 3.00 เมตร Double Volume สูง 6.50 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | ประมาณ 220,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2564 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ประมาณปี 2567 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิก |
โทร | 02 821 5394 |
Call Center | n/a |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.676525179754313, 100.62699128455986
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ MASTERY SUKHUMVIT ตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 34 เข้ามาจากถนนอุดมสุขประมาณ 250 เมตร ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 2 กิโลเมตร โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นชุมชนพักอาศัย ส่วนใหญ่เป็นอาคารพักอาศัยสูง 2 – 4 ชั้น ทำให้ถนนอุดมสุขเป็นเส้นที่มีความคึกคักสูง มีร้านค้าร้านอาหารอยู่ตลอดเกือบตลอดทั้งเส้น
สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ในการเดินทางถือว่าค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เนื่องจากถนนอุดมสุขเป็นถนนเส้นที่เชื่อมถนนสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์เข้าด้วยกัน แต่ใครที่ต้องเดินทางด้วยรถยนต์แล้วใช้ถนนเส้นสุขุมวิทเป็นหลักอาจจะมีการจราจรที่หนาแน่นต้องเผื่อเวลาการเดินทางสักหน่อยนะคะ
นอกจากเส้นทางปกติ ทำเลนี้ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยทางด่วนเฉลิมมหานครด้วยค่ะ มีจุดขึ้น-ลงทางด่วน 2 จุด ดังนี้
- เส้นทางที่ 1 – เริ่มจากโครงการออกทางซอยอุดมสุข 34 > เข้าสู่ถนนอุดมสุข > ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า > ขับชิดซ้ายตรงไปประมาณ 2 กม. > เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 62 > ไปยังด่านสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการประมาณ 5.1 กม.
- เส้นทางที่ 2 – เริ่มจากโครงการออกทางปากซอยอุดมสุข 34 > เข้าสู่ถนนอุดมสุข > ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก > ขับตรงไปประมาณ 1.0 กม. > ผ่านแยกบางนา > เลี้ยวขวาเตรียมขึ้นทางด่วน > ไปยังด่านบางนา ห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กม.
นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์แล้ว ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกล คือรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.1 กิโลเมตร ซึ่งสถานีอุดมสุขถือเป็นสถานีที่มีความคึกคักสูง เพราะเป็นจุดขึ้นรถหลายสาย รวมถึงมีรถรับ-ส่ง ห้าง Mega Bangna (ฟรี) มารับที่สถานีนี้ด้วย
ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ก็หายห่วงได้เลยค่ะ แหล่งความอุดมสมบูรณ์ใหญ่ๆจะอยู่ที่ 3 ถนนเส้นหลัก คือถนนสุขุมวิท ถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ ขับรถ ไปยังห้างสรรพสินค้าต่างๆได้ง่าย มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุดคือ เซ็นทรัลบางนา , Big C Supercenter , Mega บางนา และ Tesco Lotus ซึ่งตั้งอยู่บนถนนบางนา – ตราด ส่วนบนถนนสุขุมวิทจะมี ห้าง Century The Movie Plaza , Tesco Lotus อ่อนนุช หรือถ้าไปบนถนนศรีนครินทร์ จะมีห้างอย่าง Seacon Square , Paradise Park, ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ นอกจากนั้นยังมีแหล่ง Community Mall ที่สามารถแวะหาของกินหรือนั่งทำงานได้ที่ Phyll สุขุมวิท 54 เป็น Hybrid-Lifestyle Mall มีทั้งพื้นที่ Open-Air , Whizdom 101 ภายในประกอบไปด้วย สวนสาธารณะขนาดใหญ่ คอนโด และ Community Mall บนเนื้อที่กว่า 43 ไร่ รวมไปถึงอยู่ไม่ไกลจากสวนหลวงร.9 ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ให้ไปพักผ่อนออกกำลังกายกันได้อีกด้วยค่ะ
การเดินทางไปยังโครงการถ้าเริ่มจากถนนศรีนครินทร์สามารถเลี้ยงขวาเข้าสู่ถนนอุดมสุขได้เลย วิ่งตรงมาประมาณ 2.25 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 34 ตรงเข้าซอยประมาณ 250 เมตรก็จะเจอกับทางเข้าโครงการเลยค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ MASTERY SUKHUMVIT ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย สูง 1-2 ชั้น จะมีอาคารพักอาศัยบ้างเล็กน้อยสูงไม่เกิน 4 ชั้น ตัวโครงการมีทางเข้า-ออก ติดซอยอุดมสุข 34 มีซอยอุดมสุข 42 แยก 10-6 ผ่านกลางโครงการและด้านหลังติดกับซอยอุดมสุข 42 แยก 8-4 พื้นที่โดยรอบเป็นส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า มีอาคารพักอาศัยสูง 2 – 4 ชั้นอยู่บ้างค่ะ บรรยากาศในซอยค่อนข้างเงียบสงบ มีรถยนต์ผ่านเข้า-ออกไม่เยอะมากนัก เนื่องจากซอยอุดมสุข 34 เองก็เป็นซอยตัน
- ทิศเหนือ ติดกับ ซอยอุดมสุข 34, ที่ดินเปล่า, อาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่าและซอยอุดมสุข 42 แยก 8
- ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น, ซอยอุดมสุข 42 แยก 8-4
- ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า
บรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการทางทิศเหนือภายในซอยอุดมสุข 34 มีความเงียบสงบ ไม่ค่อยมีรถยนต์เข้า – ออกมากนัก เนื่องจากเป็นซอยตันที่เข้ามาแล้วจะเจอกับโครงการ MASTERY SUKHUMVIT อยู่ด้านในสุดค่ะ
บรรยากาศภายในซอยอุดมสุข 42 แยก 10-6 ค่อนข้างเงียบสงบ ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นค่ะ
บรรยากาศภายในซอยอุดมสุข 42 แยก 10-6
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ปิยรมย์ เพลส ~ 2.5 กิโลเมตร
- เซ็นทรัลบางนา ~ 2.5 กิโลเมตร
- Whizdom 101 ~ 2.6 กิโลเมตร
- บิ๊กซีบางนา ~ 2.7 กิโลเมตร
- Seacon Square ~ 4.4 กิโลเมตร
- Paradise Park ~ 4.5 กิโลเมตร
- Phyll สุขุมวิท 54 ~ 4.9 กิโลเมตร
- Tesco Lotus อ่อนนุช ~ 6.6 กิโลเมตร
- Century อ่อนนุช ~ 6.6 กิโลเมตร
- เมกา บางนา ~ 9.6 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 ~ 2.4 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 2.9 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 8.1 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
โครงการ MASTERY SUKHUMVIT เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีจำนวนยูนิตเพียง 16 ยูนิต ที่ไม่ได้มีพื้นที่ส่วนกลางนะคะ จะเน้นเป็นการขายแปลงที่ดินพร้อมบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ มีจุดเด่นคือ สามารถเลือกแปลงที่ดิน Combine กันได้ สำหรับคนที่ต้องการที่ดินกว้างขึ้น มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ก็เลือกซื้อที่ดินแปลงเปล่าเพิ่มเติมได้ค่ะ นอกจากนั้นโครงการนี้ยังเป็น บ้านสั่งสร้าง ผู้ซื้อสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในบ้าน และเลือกวัสดุได้เองเพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของแต่ละคนได้เต็มที่
ทางเข้าหลักของโครงการเข้าได้จากซอยอุดมสุข 34 จะเจอกับซุ้มประตูทางเข้าที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ ลูกบ้านสามารถผ่านเข้า – ออกด้วยระบบ Key Card Access (แบบ Bluetooth) เข้ามาแล้วจะเป็นถนนโครงการกว้างประมาณ 9.00 เมตร และมีทางเข้ารองอยู่ที่ซอยอุดสุข 42 แยก 8 แต่ทางนี้จะเข้าซอยมาลึกว่าหน่อยนะคะ บริเวณถนนหลักของโครงการจึงมี Gate 3 จุดด้วยกันเป็นระบบ Bluetooth ประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติทั้งหมดเลย ถนนโครงการด้านในจะมีความกว้างประมาณ 8 เมตร สามารถขับสวนกันได้สบายๆค่ะ
บ้านแบบ Elettra กับบ้าน Aster ภายในมีฟังก์ชันเหมือนกันค่ะ แตกต่างกันที่ความกว้างของตัวบ้านเล็กน้อย สำหรับลูกบ้านที่เลือกที่ดินแปลงติดกับถนนของโครงการจะมีค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.วา/เดือน ส่วนที่อยู่ติดกับซอยอุดมสุข 42 แยก 8 จะมีค่าส่วนกลางอยู่ที่ 45 บาท/ตร.วา/เดือน ค่ะ ซึ่งจะมีกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลอยู่ตลอดเช่นกัน ส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัวก็หายห่วงเนื่องจากรั้วโครงการมีความสูง 6.00 – 9.00 เมตรเลย ส่วนรั้วของบ้านแต่ละหลังจะอยู่ที่ 3.00 เมตร ถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวทีเดียวค่ะ
บรรยากาศซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าโครงการจากซอยอุดมสุข 34 ซึ่งจะมีการทำรั้วประตูบานเลื่อนระบบ Bluetooth เพิ่มเติมค่ะ
บรรยากาศซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าโครงการเมื่อมองจากถนนด้านในโครงการ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ ภายในบ้านทุกยูนิต (โปรโมชัน)
- ลิฟต์โดยสาร ภายในบ้านทุกยูนิต (โปรโมชัน)
- ป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 จุด
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 11 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3.00, 6.00, 9.00 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 8.00 – 9.00 เมตร
- Key Card Access ระยะไกล Bluetooth
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเลื่อนไฟฟ้า
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกยูนิต
แบบบ้าน
บ้านภายในโครงการ MASTERY SUKHUMVIT เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ออกแบบมาในสไตล์ Luxury Modern Tropical เน้นความเป็นส่วนตัวและเข้าถึงธรรมชาติได้จากภายในบ้าน ซึ่งตัวบ้านจะมีการออกแบบให้มีพื้นที่สวนหย่อมปลูกต้นไม้ได้ในทุกๆชั้นเพื่อให้เป็นทัศนียภาพที่สวยงามสบายตาจากภายในบ้านเอง และมีระแนง (Facade) บังสายตาในบริเวณช่องแสงขนาดใหญ่ให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งทางโครงการมีรูปแบบ Facade ให้เลือกถึง 5 Option
แบบบ้านของโครงการนี้สามารถ ‘สั่งสร้าง’ ได้ค่ะ โดยจะคงรูปแบบภายนอกและพื้นที่ใช้สอยไว้เท่าเดิม แต่ผู้ซื้อสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในตัวบ้านได้ตามความชอบ ไลฟ์สไตล์ ความต้องการฟังก์ชันของแต่ละคนได้เลย
นอกจากนั้นยังสามารถเลือกวัสดุปูพื้นวัสดุกรุผนังได้เอง ซึ่งทางโครงการมี List มาให้เรียบร้อย โดยจะใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 8 เดือน (ระยะเวลาก่อสร้างขึ้นอยู่กับหน้างาน)
บ้านทุกยูนิตจะได้ระบบต่างๆ ภายในบ้าน ดังนี้
- กล้อง CCTV 4 จุด บริเวณหน้าบ้าน, หลังบ้าน, ที่จอดรถ และภายในห้องนั่งเล่น
- Magnetic Sensors ที่ประตู หน้าต่างภายนอกทุกบาน
- Heat Detector ภายในห้องครัว ช่วยตรวจจับความร้อนป้องกันเหตุอัคคีภัย
- Home Automation ควบคุมประตูรั้วอัตโนมัติ, เปิดไฟ, เปิดม่าน และเครื่องปรับอากาศ
- EV Charger เดินระบบไฟเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้า
- Mastery Application ควบคุมดูแลกล้อง CCTV ภายในบ้าน
MASTERY SUKHUMVIT มีแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบ ดังนี้
- Type A : ELETTRA บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 467.92 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 – 5 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 47 ล้านบาท - Type B : ASTER บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 449.85 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
ลักษณะหน้าตาภายนอกและฟังก์ชันภายในจะเหมือนกันทั้ง 2 แบบเลยค่ะ แต่ Type A เหมาะกับแปลงที่ดินหน้ากว้าง ทำให้สามารถจอดรถได้ถึง 5 คัน และสามารถสร้างสระว่ายน้ำส่วนตัวบริเวณสวนเพิ่มเติมได้
- บ้านโครงการ MASTERY SUKHUMVIT เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกภายในบ้าน 5 – 8 คน อยู่กันหลาย Generation ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเยอะ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เองได้ ชอบความเป็นธรรมชาติและได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่ดินสามารถจัดสวนหรือมีสระว่ายน้ำส่วนตัวได้ ในงบประมาณ 35 – 50 ล้านบาทขึ้นไป
วันนี้เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่าง Type ใหญ่ ELETTRA กันค่ะ เนื่องจากบ้านมีขนาดใหญ่เราจะวิเคราะห์แปลนกันไปทีละชั้นนะคะ
การจัดวางฟังก์ชันภายในบ้านโครงการ MASTERY SUKHUMVIT ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียวค่ะ โดยจะเน้นความเป็นส่วนตัวของคนในบ้าน และสามารถรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุหรือครอบครัวขนาดใหญ่ที่อยู่กันหลาย Generation ได้ เนื่องจากมีห้องนอนชั้น 1 พร้อมห้องน้ำในตัวอยู่ทางด้านหน้าบ้าน รับ-ส่งผู้สูงอายุได้สะดวก มีทางลาดไปยังประตูทางเข้าหลักให้สามารถใช้รถเข็น หรือลากกระเป๋าเดินทางได้ ด้านหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 – 5 คัน โดยจะมีที่จอดรถภายในร่ม 3 คันค่ะ
เข้ามาภายในบ้านแล้วจะเจอกับโถงทางเข้าก่อน จะไปเจอกับห้องนั่งเล่นที่เป็นโถงสูง Double Volume เป็นการเปิดพื้นที่ให้โปร่ง โล่งมากขึ้น ส่วนด้านในสุดของบ้านจะเป็นพื้นที่ห้องครัว ซึ่งจะได้ห้องครัวไทยแยกออกมาเชื่อมต่อไปกับลานด้านหลังบ้านได้ มีพื้นที่ทำ Pantry ครัวฝรั่งหรือ Island เพิ่มเติมต่อกับพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งบริเวณนี้สามารถทำเฉลียงเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำด้านข้างได้อีกด้วย
โถงทางขึ้นชั้น 2 สามารถเก็บของใต้บันไดได้ มีห้องน้ำ Powder Room มาให้ และสำหรับใครที่อยากติดตั้งลิฟต์โดยสารเพิ่มเติมก็สามารถใช้พื้นที่ฝั่งตรงข้ามของบันไดติดตั้งเพิ่มเติมแบบในบ้านตัวอย่างได้ ตอนนี้มีโปรโมชันจากโครงการได้ลิฟต์โดยสารพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วยค่ะ
ขอพามาชมพื้นที่สวนรอบๆบ้านกันก่อนนะคะ บ้านตัวอย่างสร้างอยู่บนแปลงที่มีที่ดินขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการเลย คือพื้นที่ 209 ตารางวา ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าติดกับบ้านหลังอื่นจะมีความเป็นส่วนตัวไหม เพราะโครงการทำรั้วมาให้สูง 6 – 9 เมตรเลยค่ะ
หน้าตาบ้านด้านข้างมีช่องแสงขนาดใหญ่ค่อนข้างกว้างค่ะ ซึ่งจะหันไปตรงกับฝั่งผนังทึบของบ้านยูนิตข้างๆ ทำให้บ้านแต่ละหลังมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สำหรับบ้านแปลงนี้มีที่ดินกว้างก็จะทำให้มองออกมาเห็นวิวสวนและสนามหญ้าขนาดใหญ่ได้เลย
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ
ในแบบบ้าน ELETTRA จะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดประมาณ 3.40 x 12.00 เมตร เด็กๆ หรือคุณตาคุณยายสามารถว่ายออกกำลังกายเล่นน้ำได้ และยังเป็นวิวให้กับส่วน Common Area ภายในบ้านค่ะ
บรรยากาศด้านหลังบ้าน
ด้านหลังบ้านมีพื้นที่สามารถทำเฉลียงนั่งเล่นและทางเดินไปเชื่อมต่อกับประตูห้องครัวด้านหลังได้ ซึ่งลานซักล้างด้านหลังบ้านมีโครงสร้าง Slab on Beam ลงเสาเข็มความยาวเท่ากับตัวบ้านไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัว
บรรยากาศบริเวณที่จอดรถ
ที่จอดรถเป็นที่จอดในร่มมีความกว้างประมาณ 7.65 เมตร สามารถจอดได้ 3 คันสบายๆค่ะ โดยพื้นที่จอดรถจะปูด้วยกระเบื้องคอนกรีตเวนโทลา ลวดลายเหมือนกับในบ้านตัวอย่างดูสวยงาม
บรรยากาศทางเดินไปยังทางเข้าหลัก
ด้านข้างมีการออกแบบ Universal Design เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุหรือคนพิการ โดยมีทางลาดเอียงตั้งแต่ด้านข้างบ้านบริเวณที่จอดรถ และเมื่อเข้ามาในบ้านก็มีลิฟต์ที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งานได้จริงค่ะ
ทางเข้าหลักของบ้านเป็นประตูบานไม้จริง พร้อมระบบ DIGITAL DOOR LOCK ติดตั้งมาให้เรียบร้อย เข้า – ออกได้สะดวกไม่ต้องพกกุญแจให้ยุ่งยาก อีกทั้งยังมีการออกแบบให้ผนังมีช่องเว้าสามารถ Built-in เป็นชั้นเก็บรองเท้าได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
บรรยากาศบริเวณโถงทางเข้า
เข้าบ้านมาแล้วจะเจอกับโถง Foyer ก่อนค่ะ ซึ่งบริเวณนี้สามารถแต่งให้เป็นโถงทางเข้าสวยๆ ติดกรอบรูป หรือผนังกระจกแบบในบ้านตัวอย่างให้ดูกว้างขึ้นได้
เดินผ่าน Foyer เข้ามาแล้วเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นโถงฝ้าเพดานสูง Double Volume สูงถึง 6.50 เมตร และเลือกใช้กระจกสูงจากพื้นถึงฝ้า 2 ชั้น ทำให้บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่และสามารถมองเห็นวิวสวนได้
ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ประมาณ 4.30 x 5.50 เมตร เป็นห้องนั่งเล่นที่มีขนาดใหญ่ เหมาะกับการวางโซฟาชุด 5 – 6 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 3.50 – 4.00 เมตรเหมาะกับวาง TV ขนาด 60 นิ้วขึ้นไปได้สบายๆ
ส่วนฝ้าเพดานโถง Double Volume สามารถห้อยโคมไฟระย้าสวยๆขนาดใหญ่ได้
บรรยากาศบริเวณโถงห้องนั่งเล่น
นอกจากช่องแสงด้านข้างแล้วยังมีช่องแสงอีกจุดบริเวณเหนือผนังชั้นวาง TV เพิ่มความโปร่งมากขึ้น ใครที่ชอบพื้นที่สีเขียวก็นำกระถางต้นไม้มาวางตกแต่งเพิ่มเติมที่ชั้น 2 ได้ค่ะ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมองเห็นได้จากโถงทางเดินที่ชั้น 2 เป็นทางเดินไปยังห้อง Master Bedroom ค่ะ
ส่วนด้านหลังของบ้านเป็นพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับห้องครัว ซึ่งฝ้าเพดานจะลดลงมาอยู่ในระดับปกติเป็นการแบ่ง Space ระหว่างห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารออกจากกันค่ะ
พื้นที่ด้านหลังบ้านมีขนาดประมาณ 3.50 x 5.60 เมตร สามารถจัดแบ่งเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร 6-8 ที่นั่ง พร้อม Island หรือ Pantry ครัวฝรั่งเพิ่มเติมเชื่อมต่อกับครัวไทยได้อีกด้วย
บรรยากาศจากพื้นที่รับประทานอาหารมองไปยังห้องนั่งเล่น จะรู้สึกว่ามีความโปร่งสบาย สามารถมองเห็นคนที่อยู่บนโถงทางเดินชั้น 2 หรือจากชั้น 2 มองลงมาเห็นคนรับประทานอาหารอยู่ที่ชั้น 1 ได้
สำหรับบ้านที่วางโต๊ะรับประทานอาหารจำนวน 6 ที่นั่งจะเหลือพื้นที่ด้านข้าง Built-in เคาน์เตอร์ครัวฝรั่ง ไว้สำหรับเตรียมอาหาร ปรุงอาหารง่ายๆได้
บรรยากาศภายในห้องครัวไทย
ถัดมาเรามาดูห้องครัวกันค่ะ ในบ้านมาตรฐานจะได้ Built-in ครัวจากสตาร์มาร์ค พร้อมเตาและเครื่องดูดควันจาก Teka มาให้ ภายในมีพื้นที่ประมาณ 2.40 x 3.00 เมตร สามารถทำอาหารได้พร้อมกัน 2-3 คนได้สบายๆเลยค่ะ
สำหรับโถงบันไดทางขึ้นชั้น 2 บริเวณนี้จะมีทั้งห้องน้ำ ห้องเก็บของ ลิฟต์โดยสารและบันไดอยู่ด้วยกันค่ะ
ห้องน้ำแบบ Powder Room ชั้น 1
มาดูห้องน้ำกันก่อนนะคะในพื้นที่ Common Area ชั้น 1 จะมีห้องน้ำ Powder Room ให้ใช้งาน เป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำภายในนั่นเองค่ะ ภายในห้องมีอ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์ จาก Kohler
ตอนนี้ทางโครงการมีโปรโมชันติดตั้งลิฟต์โดยสารมาให้ด้วยค่ะ เป็นระบบสกรู จาก Condato Sweden ซึ่งเป็นลิฟต์ที่ไม่ต้องมีบ่อลิฟต์และห้องเครื่อง ทำให้ประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน เหมาะกับให้ผู้สูงอายุใช้งานหรือจะใช้เวลาที่ขี้เกียจเดินขึ้นลงบันไดก็สะดวกค่ะ
มาถึงชั้น 2 จะมีแค่เพียง 2 ห้องนะคะแบ่งเป็นห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ด้านหน้าบ้านซึ่งภายในจะมีระเบียงส่วนตัว ห้องนอนมีวิวสวนหย่อมด้านข้างบ้าน สามารถกั้นโซน Walk-in Closet แยกได้เป็นสัดส่วน และห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำนอนแช่ตัวแล้วมองเห็นวิวธรรมชาติได้ ส่วนห้องนอนรองจะอยู่ทางด้านหลังบ้าน สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 5-6 ฟุตได้ พร้อมกับห้องน้ำส่วนตัว
ทางเดินไปยังห้อง Master Bedroom จะมองลงมาเห็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นตรง Double Volume ทำให้คุณพ่อ คุณแม่สามารถทักทายมีปฏิสัมพันธ์กับลูกๆที่นั่งเล่นอยู่ชั้นล่างได้ค่ะ
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเข้าด้านหน้าห้องนอนรองก่อนค่ะ ซึ่งบริเวณนี้มีการออกแบบให้มีพื้นที่ Built-in ชั้นวางของ หรือตู้ติดผนังเพิ่มเติมได้
โถงทางเดินชั้น 2 มีความสว่างทีเดียวค่ะ จากช่องแสงบริเวณ Double Volume และอาจได้ยินเสียงเพลง เสียง TV จากชั้น 1 ชั้นนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ ไม่เหงา มองเห็นคนในครอบครัวได้
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 1
เรามาดูห้องนอนรองกันก่อนนะคะ ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ด้านหลังบ้าน มีช่องแสงกว้างมองเห็นวิวสวนด้านข้างบ้านและรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ส่วนพักผ่อนมีพื้นที่อยู่ที่ 3.10 x 4.00 เมตร สามารถวางเตียงนอน 5 – 6 ฟุตพร้อมกับตู้เสื้อผ้าด้านข้างได้เลยค่ะ แต่ก็จะไม่เหมาะกับคนที่ต้องการ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนชัดเจนนะคะ
ห้องนี้น่าจะเหมาะกับเด็กเล็กที่มีเสื้อผ้าไม่เยอะมากนัก หรือว่าใครที่ไม่ต้องการห้องนอนถึง 5 ห้อง ก็สามารถปรับเปลี่ยนห้องนี้เป็นห้องทำงานส่วนตัวของคุณพ่อคุณแม่ ให้ชั้น 2 ทั้ง Floor เป็นของคุณพ่อคุณแม่ไปเลยก็ได้ค่ะ
ภายในห้องนอนก็จะมีห้องน้ำส่วนตัวมาให้เลย แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน พร้อมกับได้ช่องแสงขนาดใหญ่ด้วย ทำให้ห้องน้ำสว่างสามารถเปิดระบายอากาศได้เต็มที่ ไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวันได้เลยค่ะ
ห้องน้ำภายในห้องนอนรอง 1
ภายในห้องน้ำติดตั้งอ่างล้างมือบนเคาน์เตอร์มาให้สวยงาม มีก๊อกผสมน้ำร้อน-น้ำเย็นมาให้ทุกห้องนอนเลยค่ะ พร้อมโถสุขภัณฑ์และสายชำระทั้งหมดจาก Kohler ห้องอาบน้ำมีพื้นที่ประมาณ 1.00 x 1.45 เมตร พร้อมกั้นฉากกั้นกระจกมาให้แล้วและติดตั้ง Rain Shower & Hand Shower ระบบน้ำร้อน – น้ำเย็น มาให้แบบในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ
ถัดมาเป็นโถงทางเดินไปยังห้อง Master Bedroom ทางด้านหน้าบ้านนะคะ
บริเวณนี้สามารถมองลงไปเห็นบรรยากาศห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารได้
ภายในห้อง Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน ภายในสามารถแบ่งเป็นฟังก์ชัน Walk-in Closet ห้องน้ำส่วนตัว พื้นที่เตียงนอน ระเบียงขนาดใหญ่และสวนหย่อมเป็นวิวให้กับห้องนอนค่ะ
พื้นที่ Walk-in closet มีขนาดประมาณ 2.25 x 3.40 เมตร ขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว U ได้ พร้อมกับมีพื้นที่ยืนแต่งตัวตรงกลางได้สบายๆ
ฝั่งตรงข้ามกับ Walk-in Closet เป็นห้องน้ำ และด้านข้างมีผนังเว้าสามารถทำตู้เก็บของเพิ่มเติมได้ อย่างในบ้านตัวอย่างทำเป็นตู้ไวน์บานกำมะหยี่ สำหรับคนที่ชอบจิบไวน์ชิลๆก่อนเข้านอน
ห้องน้ำใน Master Bedroom
ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom จะมีอ่างล้างมือแบบ His & Her พร้อมกระจกเงา 2 ชุด และสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ เฉพาะในห้อง Master Bedroom ค่ะ
ห้องน้ำใน Master Bedroom
ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.00 x 1.40 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ พร้อมอ่างอาบน้ำเพิ่มเติมมาให้อัปเกรดขึ้นมาจากห้องอื่นๆ นอกจากนั้นยังมี Massage Rain Sower มาให้เฉพาะให้ห้องนี้ด้วย
ห้องน้ำใน Master Bedroom
อ่างอาบน้ำมีขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถนอนแช่น้ำได้สบายๆ พร้อมชมวิวสวนได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวเพราะว่าเป็นผนังทึบทั้งแนวเลยค่ะ เปิดเฉพาะส่วนด้านหน้าบ้านซึ่งเป็นระยะที่มองเข้ามาไม่เห็นแล้ว
มาดูด้านใน Master Bedroom กันบ้างค่ะ ห้องนี้ถือว่าเป็น Highlight อีกส่วนหนึ่งของบ้านเลย ภายในมีพื้นกว้าง 4.50 x 6.50 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆแล้วยังมีช่องแสงใหญ่เกือบเต็มผนังทั้ง 2 ฝั่ง เลยทีเดียว
บรรยากาศภายใน Master Bedroom
นอกจากจะวางเตียง King size แล้วพื้นที่ด้านข้างสามารถทำเป็นมุมนั่งทำงานเล็กๆน้อยๆก่อนนอกได้ ซึ่งมีความกว้างประมาณ 2.25 เมตรเลยค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งถ้าใครชอบนอนอ่านหนังสือสบายๆ มีแสงธรรมชาติเข้าถึงก็สามารถวางโซฟาเบด พร้อมโต๊ะน้ำชาเพิ่มเติมได้นะคะ
จุด Highlight ของห้องนี้ก็คือผนังฝั่งปลายเตียงที่มีช่องแสงสามารถทำสวนหย่อมเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน ดูสบายตาเหมือนพักอยู่ในรีสอร์ตได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังทำให้ภายในห้องที่กว้างอยู่แล้วดูโปร่ง มีความสว่างมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
ระเบียงห้อง Master Bedroom
ระเบียงห้อง Master Bedroom จะอยู่ทางด้านหน้าบ้านมีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ กว้างประมาณ 1.90 เมตร สามารถวางโต๊ะกาแฟ หรือมุมนั่งเล่นสูดอากาศ Outdoor ได้สบายๆ ด้านข้างยังมีพื้นที่จัดสวนเล่นระดับเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้อีกจุดหนึ่ง
ขึ้นมาที่ชั้น 3 เป็นชั้นที่มี 2 ห้องนอนขนาดใหญ่และมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน หรือมุมทำงานให้เข้ากับยุคสมัย Work From Home กันได้ ภายในห้องนอนทั้ง 2 ห้องสามารถจัดฟังก์ชันได้เหมือนกับในห้อง Master Bedroom เลยค่ะ มีพื้นที่ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนพร้อมห้องน้ำส่วนตัว ห้องนอนชั้น 3 นี้เหมาะกับลูกๆ ที่โตขึ้นมาหน่อย ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง และต้องการพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น
บรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ
ขึ้นมาจะเจอกับโถงลิฟต์นะคะ เหมาะกับผู้สูงอายุขึ้นมาใช้งาน มาเจอเด็กๆ หรือไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินได้
บันไดของบ้านเป็นระบบคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรงเดินแล้วแน่นเท้าและไม่มีเสียงดัง ปูด้วยลูกนอนไม้ Compound Solid
ขึ้นมาแล้วจะเจอกับส่วนแรกเป็นระเบียงและห้องนอนด้านหลังบ้าน ในบ้านมาตรฐานที่จะมีการขายอาจมีการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเป็นพื้นที่ Laundry เหมือนกับในแปลนนะคะ จะทำให้บ้านมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นมาประมาณเกือบ 20 ตารางเมตรเลย
บรรยากาศบริเวณระเบียงซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้อง Laundry เพิ่มเติมได้
Walk-in Closet ภายในห้องนอนรอง 2
ขอพามาดูที่ห้องนอนรองด้านหลังบ้านกันก่อนค่ะ ห้องนี้เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Walk-in Closet ก่อนเลย ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2.20 x 2.50 เมตร สามารถทำตู้เก็บของรูปตัว U ได้เลย ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องนอน ให้ใช้งานได้สะดวกและได้ความเป็นส่วนตัวสูง
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2
ห้องน้ำภายในห้องนอนจะมีการออกแบบให้แยกส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกมาให้และที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆก็คือ ภายในห้องน้ำจะได้ช่องแสงสูงจากพื้นเกือบถึงฝ้าเพดานเลยค่ะ ทำให้ห้องน้ำสว่างและรับแสงธรรมชาติได้เยอะ
อีกทั้งยังมีระบบน้ำร้อน – น้ำเย็นที่ก๊อกอ่างล้างหน้าและ Hand & Rain Shower มีกระจกเงาที่สามารถเปิดเก็บของด้านหลังเพิ่มเติมได้ และมีการออกแบบให้มีไฟซ่อนด้านหลังดูสวยงาม
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 2
ภายในห้องนอนรองห้องนี้มีพื้นที่ส่วนพักผ่อนสำหรับวางเตียงประมาณ 3.00 x 3.25 เมตร สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้สบายๆเช่นกันค่ะ นอกจากนั้นยังได้ช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนังที่ด้านข้างทำให้ห้องโปร่งมากขึ้นด้วย
ถัดมาบริเวณโถงทางเดินมีความกว้างประมาณ 2.30 เมตร ซึ่งสามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่น ทำงานส่วนกลางให้ทุกคนในครอบครัวสามารถใช้งานได้
บรรยากาศบริเวณพื้นที่อเนกประสงค์
ด้านหน้าห้องนอนรองห้องที่ 3 ก็จะมีพื้นที่อเนกประสงค์สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนอ่านหนังสือเล็กๆเพิ่มเติมได้ค่ะ มีพื้นที่ประมาณ 2.75 x 2.75 เมตร วางโซฟา โต๊ะกลางและชั้นวาง TV ได้เลย หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องพระก็ได้นะคะ
ฝั่งตรงข้ามพื้นที่อเนกประสงค์ยังมีส่วน Outdoor ให้สามารถจัดเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ สร้างบรรยากาศธรรมชาติให้กับภายในบ้านได้ค่ะ
มาดูห้องนอนห้องสุดท้ายที่อยู่ทางด้านหน้าบ้านกันค่ะ ห้องนี้เป็นเหมือนห้อง Master Bedroom อีกห้องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะภายในมีการแบ่งฟังก์ชันชัดเจน และมีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวค่ะ
พื้นที่ Walk-in Closet มีขนาดประมาณ 2.25 x 2.35 เมตร สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ฝั่งเลย และได้ช่องแสงด้านข้างบ้านมองเห็นวิวสวนข้างล่างได้
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 3
ส่วนห้องน้ำก็จะคล้ายกับห้องน้ำในห้องนอนรองที่ 2 เลยค่ะ แต่จะมีพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมากกว่า แต่ภายในยังได้ฉากกั้นกระจก เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ กระจกเงาที่สามารถเก็บของได้ และระบบน้ำร้อน – น้ำเย็น ที่ก๊อกอ่างล้างมือ Hand Sower และ Rain Shower ด้วย
บริเวณพื้นที่พักผ่อนมีขนาด 4.25 x 4.35 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ห้องนี้จะได้สองแสง 2 ฝั่งเกือบเต็มผนังเหมือนกับในห้อง Master Bedroom เลยค่ะ และสามารถมองลงไปเห็นต้นไม้ที่สวนหย่อมชั้น 2 ได้อีกด้วย เพียงแต่จะไม่มีระเบียงส่วนตัวเท่านั้นเอง
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 3
ในส่วนของการใช้งาน นอกจากจะวางเตียงขนาดใหญ่แล้วยังเหลือพื้นที่ด้านข้างทำเป็นมุมทำงาน หรือครอบครัวที่มีลูกเล็กก็สามารถวางที่นอนลูกไว้ข้างๆได้ เรียกได้ว่าเป็นบ้านที่สามารถอยู่กันได้หลาย Generation ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แบบแปลน
Type A พื้นที่ใช้สอย 467.92 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
ราคา
MASTERY SUKHUMVIT ( มาสเตอรี่ สุขุมวิท) ราคา ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2564
- Type A บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 467.92 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท - Type B บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 449.85 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท - จอง 200,000 บาท
- ทำสัญญา 20%
- ดาวน์ 10% – 20%
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละประมาณ 200,000 บาท
- ค่าส่วนกลางบ้านติดถนนหลัก 65 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าส่วนกลางบ้านติดถนนสาธารณะ 45 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ MASTERY SUKHUMVIT ตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 34 เข้ามาจากถนนอุดมสุขประมาณ 250 เมตร ไม่ไกลจากถนนสุขุมวิท เป็นทำเลที่ความอุดมสมบูรณ์หลากหลาย ทั้งศูนย์การค้า และ Community Mall บริเวณถนนสุขุมวิท, ถนนบางนา – ตราด และถนนศรีนครินทร์ หาของกินและจับจ่ายใช้สอยได้ง่ายมากๆ อีกทั้งยังสามารถเดินทางด้วยรถยนต์สะดวก สามารถขึ้นทางด่วนได้ในระยะทางประมาณ 3 – 5 กิโลเมตร และมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทเพิ่มเติม เผื่อคนที่ต้องการส่งลูกไปโรงเรียน, มหาวิทยาลัยที่ใกล้รถไฟฟ้าได้
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
โครงการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นแปลงที่ดินที่ติดกับถนนหลักภายในโครงการจะมี Gate ทางเข้า – ออกที่ชัดเจนด้วย Key Card Access ระบบ Bluetooth และถนนคอนกรีตแสตมป์กว้าง 8.00 – 9.00 เมตร พร้อมกล้อง CCTV ภายในโครงการ ส่วนบ้านที่มีทางเข้าออกติดกับถนนสาธารณะ บริเวณซอยอุดมสุข 42 แยก 10-6 ก็จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้อง CCTV ติดตั้งมาให้เช่นกันค่ะ นอกจากนั้นโครงการยังทำรั้วมาให้ค่อนข้างสูงเลย อยู่ที่ 6.00 – 9.00 เมตร
ส่วนภายในบ้านจะได้กล้อง CCTV 4 จุด บริเวณหน้าบ้าน, หลังบ้าน, ที่จอดรถ และภายในห้องนั่งเล่น พร้อม Magnetic Sensors ที่ประตู หน้าต่างภายนอกทุกบานค่ะ และเพิ่มความปลอดภัยจากอัคคีภัยด้วย Heat Detector ภายในห้องครัว
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
พื้นที่โครงการมีซอยอุดมสุข 42 แยก 10-6 ตัดผ่านอาจทำให้ที่ดินบางแปลงอยู่นอกเหนือจาก Gate และถนนภายในโครงการนะคะ แต่ทางโครงการก็มีการดูแลความปลอดภัยให้เท่าเทียมกัน ที่ดินแต่ละยูนิตเริ่มต้นที่ 66 ตารางวาขึ้นไป ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อที่ดิน Combine กันได้ ถือว่าตอบโจทย์คนที่ต้องการสนามหญ้ากว้าง มีพื้นที่ดินโล่ง ทำสวนปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ได้เต็มที่
ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Luxury Modern Tropical เน้นความเป็นส่วนตัวและเข้าถึงธรรมชาติได้จากภายในบ้าน มองเห็นได้จากการออกแบบให้มีพื้นที่สวนหย่อมปลูกต้นไม้ได้ในทุกๆชั้น และเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยระแนง Facade ด้านหน้าและด้านข้างบ้านด้วย ส่วนการออกแบบฟังก์ชันภายในก็มีความยืดหยุ่น เพราะเป็นบ้านสั่งสร้างที่ผู้ซื้อสามารถเลือกปรับฟังก์ชันให้ตอบโจทย์ครอบครัวของตัวเองได้ ทำให้บ้านลงตัวกับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น และได้ความเฉพาะตัวที่หาได้ยากจากโครงการอื่นๆค่ะ
วัสดุ :
ภายในบ้านสามารถเลือกวัสดุได้เองไม่ว่าจะเป็นวัสดุพื้น ผนัง ซึ่งทางโครงการมี List มาให้เลือกสี เลือกลายได้ ซึ่งถ้าไม่อยากเลือกเองทางโครงการก็มีวัสดุมาตรฐานมาให้ เป็นกระเบื้อง PORCELAIN HOMOGENEOUS ที่ชั้น 1 และพื้นที่ส่วนกลาง HYBRID ENGINEERED WOOD ภายในห้องนอน ประตูบ้านเป็นประตูไม้จริง ได้ Digital Door Lock มาให้ และตอนนี้ยังมีโปรโมชันแถมลิฟต์โดยสาร จาก Condato Sweden และสระว่ายน้ำส่วนตัวระบบเกลือ ขนาดประมาณ 3.40 x 12.00 เมตร
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
สภาพโครงการมีความเรียบร้อย เดินสายไฟใต้ดินให้ แม้จะไม่มีพื้นที่สีเขียวส่วนกลางแต่ทางโครงการมีการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวภายในบ้านพักอาศัยทุกชั้นมาทดแทน เพิ่มธรรมชาติให้ใกล้ชิดกับผู้อยู่อาศัยมากขึ้นได้ค่ะ
สาธารณูปโภค :
เนื่องจากเป็นโครงการบ้านพักอาศัยจำนวนเพียง 16 ยูนิต ทำให้ไม่มี Clubhouse และพื้นที่ Facility ส่วนกลางเหมือนกับโครงการขนาดใหญ่อื่นๆนะคะ แต่จะมีสาธารณูปโภคพื้นฐานมาให้ เช่น ซุ้มประตูทางเข้า ระบบรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีการดูแลปรับปรุง ถนนภายในโครงการ เป็นต้น
Judgement
เนื่องจากโครงการนี้มีการออกแบบเพื่อลูกค้าระดับ Luxury ที่มองหาบ้านขนาดใหญ่ทำเลใกล้ถนนสุขุมวิท ระดับราคา 35 – 79 ล้านบาทขึ้นไป* ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ความคุ้มค่าด้านความชอบ ความรู้สึกคือปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเราไม่สามารถตีค่าทางความรู้สึกได้ ทาง Think of Living จึงขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ
*Update ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2564
MASTERY SUKHUMVIT เหมาะกับใคร
โครงการ MASTERY SUKHUMVIT เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกประมาณ 5 – 8 คน อาจอยู่ร่วมกันหลาย Generation ตั้งแต่คุณปู่ คุณย่าไปจนถึงหลานๆ ที่กำลังมองหาบ้านขนาดใหญ่ใกล้ถนนสุขุมวิท เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ชอบความสงบ เป็นส่วนตัวสูง และชอบความยืดหยุ่น ต้องการฟังก์ชันภายในบ้านที่สามารถ customize เองได้ ภายในบ้านมีลิฟต์และสระว่ายน้ำส่วนตัว(โปรโมชัน) มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 35 – 79 ล้านบาทขึ้นไป*
*Update ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2564
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc