รีวิวโครงการ

บ้านเดี่ยว 30-60 ล้าน | Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ | คิดเรื่องอยู่ Ep.693

9 เมษายน 2023

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 2533 เราจะพาไปชม Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ บ้านเดี่ยวหรูระดับ SUPER LUXURY จาก SC ASSET โดยทำเลของโครงการตั้งอยู่ติดถนนสวนสยาม เชื่อมต่อการเดินทางและความอุดมสมบูรณ์ในย่านรามอินทราได้สะดวก ซึ่งปัจจุบันบ้านไซส์ใหญ่ระดับนี้ มักไม่ค่อยมีให้เห็นในย่านนี้เท่าไรนะคะ สำหรับช่วงราคาจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 60 ล้านบาท* ส่วน Highlights ที่น่าสนใจเราก็ได้รวบรวมมาให้ชมกันก่อนดังนี้ค่ะ

  • ทำเล : ทางเข้าของโครงการตั้งอยู่ติดถนนสวนสยาม ซึ่งสามารถไปตัดกับถนนรามอินทราและถนนหลักได้อีกหลายสาย เชื่อมต่อโซนมีนบุรี ลาดพร้าว และพระราม 9 ได้ง่าย ทั้งยังอยู่ใกล้วงแหวนกาญจนา เข้า – ออกตัวเมืองได้อย่างสะดวก หรือจะเลือกใช้บริการรถสาธารณะ ก็มีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีนพรัตน์) อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 900 เมตร
  • ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว : โครงการออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 70 ยูนิต จากถนนหลักเข้ามาประมาณ 840 เมตร จะมีประตูเป็น Double Gate พร้อมเจ้าหน้าที่คอยรักษาความปลอดภัย โดยในตัวบ้านจะได้ Digital Door Lock และ CCTV มาให้ พร้อม Magnetic&Shock Sensor ทั้งหลัง รวมทั้ง Smoke Detector
  • การออกแบบ : โครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ เป็นบ้านไซส์ใหญ่ ได้พื้นที่ใช้สอย 439 – 591 ตร.ม โดยฟังก์ชันจะเป็นแบบ Double ทั้ง Grand Double Living Area , Grand Double Master Bedroom รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่อยู่ร่วมกันได้ถึง 3 Generations พร้อมวัสดุที่คำนึงถึงการใช้งานของผู้สูงอายุ

ข้อมูลโครงการ

Grand Bangkok Boulevard Ramintra – Kasetnawamin (แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ ) ณ วันที่ 6 เมษายน 2566

 ชื่อโครงการ   Grand Bangkok Boulevard Ramintra – Kasetnawamin (แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ )
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด
 SEGMENT CLASS   SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนสวนสยาม เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
 ที่ดิน  47-0-2.1 ไร่
 จำนวนยูนิต   70 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Accademia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 33.50 ล้านบาท*
  • Uffizi บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 510 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 40.90 ล้านบาท*
  • Duomo De Florence บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 112 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / 1 ห้องซักรีด
    – ราคาเริ่มต้น 45.90 ล้านบาท*

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   3.00 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      N/A บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2570
 เว็บไซต์โครงการ   คลิกที่นี่
 โทร   061-398-1999

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.808526 , 100.690726
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ แสดงตำแหน่งที่ตั้งของ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ โดยทางเข้า – ออกจะอยู่ติดกับถนนสวนสยาม ซึ่งเป็นถนนที่ไปตัดกับถนนเส้นหลักอย่างรามอินทราและถนนเสรีไทยได้ เชื่อมต่อโซนมีนบุรี รามคำแหงและเกษตรนวมินทร์ได้อย่างสะดวก เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือทำงานอยู่ในย่านนี้ ใกล้แหล่งงานอย่างนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เดินทางไปทำงานได้ง่าย อีกทั้งจะเข้า – ออกเมือง ก็สามารถใช้ทางด่วนวงแหวนกาญจนาไปโซนพระราม 9 ตัดเข้าตัวเมืองได้ง่ายค่ะ

โดยจุดเด่นที่ไม่ค่อยเห็นได้ในโครงการแนวราบเท่าไรก็คือแนวรถไฟฟ้า เพราะโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีนพรัตน์) ประมาณ 1 กิโลเมตร สำหรับใครอยากหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดก็สามารถใช้เป็นตัวเลือกในการเดินทางได้นะคะ ซึ่งภายในปีนี้ก็คาดว่าจะเปิดให้บริการแล้วนะ

ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการก็ถือว่าไม่ขาดแคลนเลย เพราะมีทั้งตลาด ร้านอาหาร Hypermarket ให้เลือกจับจ่ายค่อนข้างหลากหลาย อย่างบริเวณต้นซอยสวนสยามก็มี Community Mall อย่าง Amorini อยู่ด้วย ซึ่งก็มีร้านค้าและร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังเหมาะสำหรับใครที่ชอบความสะดวกและรวดเร็วนะคะ แต่หากขยับออกมาหน่อยประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะเจอห้างสรรพสินค้า Landmark ของย่านอย่าง Fashion Island ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีข้าวของให้เลือกสรรครบครันทีเดียว

นอกจากนี้ทำเลของโครงการยังอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลและโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง ซึ่งมีทั้งหลักสูตรธรรมดาและหลักสูตรนานาชาติ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลาน สามารถไปรับ – ส่งเด็กๆเองได้ หรือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ เวลามีบ้านอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลก็ถือว่าอุ่นใจได้อีกระดับนึงเลยนะคะ

สำหรับการเดินทางในวันนี้เราเลือกใช้ถนนรามอินทราเป็นหลัก ก่อนจะเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนสวนสยาม จากบริเวณแยกถึงโครงการ ระยะทางประมาณ 900 เมตรค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

จากบริเวณถนนหลักเข้ามาถึงส่วนพักอาศัย มีระยะทางประมาณ 840 เมตร รอบข้างถนนจะเป็นอาคารพักอาศัยสูง 2 – 4 ชั้นและ Siam Amazing Park หรือสวนสยาม ซึ่งหลายคนอาจ Concern เกี่ยวกับเรื่องเสียงรบกวน ทางโครงการจึงได้จัดส่วนพักอาศัยให้อยู่ถัดเข้าไปด้านในห่างจากพื้นที่สวนสยาม รวมถึงเลือกใช้กรอบบานและวงกบที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นตัวช่วยในการป้องกันเสียง

  • ทิศเหนือ ติดกับที่พักอาศัยแนวราบ อาคารที่มีความสูง ​2 – 4 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับที่ดินเปล่า , สวนสยาม
  • ทิศตะวันออก ติดกับคลองบางชัน อาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับถนนสวนสยาม ทางเข้าโครงการ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Chic Republic รามอินทรา ~ 1.9 กิโลเมตร
  • Fashion Island ~ 2.8 กิโลเมตร
  • The Promenade ~ 2.8 กิโลเมตร
  • Central Festival EastVille ~ 14 กิโลเมตร
  • The Crystal Park ~ 15 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเสรีรักษ์ ~ 5 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ ~ 6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลอินทรารัตน์ ~ 7 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลพญาไทนวมินทร์ ~ 8.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลนวเวช ~ 8.5 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนนานาชาติ ฮีทฟิลด์ ~ 2.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอินเตอร์คิดส์ ~ 5.7 กิโลเมตร
  • โรงเรียนบรอมส์โกรฟ ~ 6 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเลิศหล้า กาญจนาภิเษก ~ 7.4 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ ~ 9.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ~ 10 กิโลเมตร

การเดินทาง

  • รถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีนพรัตน์) ~ 900 เมตร
  • รถไฟฟ้าสายสีส้ม (สถานีมีนพัฒนา) ~ 5 กิโลเมตร
  • ทางด่วนฉลองรัช ~ 8 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ เป็นโครงการแนวราบระดับ SUPER LUXURY เพียงไม่กี่โครงการในโซนรามอินทรา ซึ่งก็จัดเป็น Rare Iten เมื่อเทียบกับฝั่งวัชรพลหรือฝั่งกรุงเทพกรีฑา ที่อาจจะเห็นได้เยอะกว่า แต่จุดเด่นของทำเลในแต่ละที่ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปนะคะ โดยโครงการนี้ SC ASSET เน้นตลาดบ้านไซส์ใหญ่ ได้ขนาดเนื้อที่ดินมากสุดถึง 300 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 439 – 591 ตร.ม.

โครงการเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 70 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 47 ไร่ สำหรับใครที่ชอบบ้านที่มีกลิ่นอายคลาสสิค ก็น่าจะถูกใจโครงการนี้ทีเดียวค่ะ เพราะการออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเมือง Florence ประเทศอิตาลี Product ที่ออกมาจึงให้ความรู้สึกหรูหรา มั่นคง แต่ยังมีความเรียบง่าย ทันสมัย เหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่มีความเป็นคนรุ่นใหม่สูงค่ะ

จาก Master Plan ของโครงการ จะเห็นส่วนทางเข้าซึ่งจะอยู่ติดกับถนนสวนสยาม ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นถนนส่วนบุคคลในโครงการความยาวประมาณ 840 เมตร เพิ่มความปลอดภัยด้วยซุ้มประตูแบบ Double Gate และป้อมรปภ.ด้านหน้า 1 จุด และบริเวณใกล้ Clubhouse อีก 1 จุด สำหรับการวางผังโครงการด้วยจำนวนที่มีเพียง 70 ยูนิต ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก จากถนนหลักแยกไปแต่ละซอยมีเพื่อนบ้านเพียง 2 – 3 หลังเท่านั้น

โดยข้อดีของผังในโครงการนี้คือ ส่วนใหญ่หน้าบ้านจะหันไปทางทิศเหนือ – ใต้ ซึ่งจัดเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Clubhouse ที่อยู่ด้านหน้าแล้ว ยังมีสวนหย่อมขนาดใหญ่อย่าง LE CASCINE PARK เป็นสวนแนวยาวที่มีขนาดกว่า 1 ไร่ รองรับกิจกรรมแบบ Outdoor ได้หลากหลาย ทั้งยังจัดเป็นสถานที่ๆสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจได้ มีโซนลานน้ำพุ ช่วยเสริมบรรยากาศผ่อนคลาย และ Duomo Pavilion อยู่ใจกลาง รายล้อมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่หลากหลาย ให้ความรู้สึกร่มรื่นค่ะ

สำหรับช่วงราคาของบ้านจะอยู่ที่ 30 – 60 ล้านบาท* โดยในโซนด้านหน้าก่อนจะข้ามทางน้ำ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 40 – 60 ล้านบาท* เนื่องจากขนาดแปลงที่ดินที่จะมีขนาดใหญ่กว่า ส่วนราคา 30 ล้านต้นๆ จะอยู่ถัดเข้าไปในโซนด้านใน ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ 82 ตร.วา

ทางเข้าโครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ จะอยู่ติดกับถนนสวนสยาม โดยซุ้มประตูทางเข้าจะมีป้อมรปภ.คอยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย ประตูเป็นรั้วเหล็กรางเลื่อน ระบบ Smart Gate with License Plate เข้า – ออกสะดวกด้วยระบบสแกนทะเบียนรถ ควบคุมการเข้า – ออกของผู้มาเยี่ยมได้ง่ายผ่าน Ruejai App (pre-register Visitor)

Image 1/4
บรรยากาศถนนภายในโครงการจากซุ้มประตูด้านหน้า

บรรยากาศถนนภายในโครงการจากซุ้มประตูด้านหน้า

จากซุ้มประตูทางเข้าเป็นถนนภายในโครงการระยะประมาณ 840 เมตร รอบข้างมีแนวต้นไม้และไฟแสงสว่างติดตั้งมาให้ตลอดทาง ข้อดีคือ ทำให้ส่วนพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัว ช่วยลดความพลุกพล่านและมลพิษที่เกิดจากการจราจรค่ะ

Clubhouse เป็นอาคาร 2 ชั้นขนาดใหญ่ อยู่ด้านหน้าซุ้มประตูทางเข้าด้านใน ลักษณะการออกแบบค่อนข้างโดดเด่น โดยจำลองมาจากวิหารเมือง Florence มีหลังคาเป็นทรงโดมฐาน 8 เหลี่ยมเป็นจุดเด่น ทำให้ดูโอ่อ่า น่าใช้งาน

พื้นที่ใช้สอยภายในได้มากถึง 1,500 ตร.ม. รองรับกิจกรรมของลูกบ้านได้หลากหลาย ด้วยฟังก์ชันที่จัดมาให้แบบครบครัน สามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกจากภายนอกได้ ในกรณีที่ไม่สะดวกให้แขกเข้าไปในบ้าน โดยด้านหน้าอาคารมีส่วนจอดรถไว้รองรับด้วย

Image 1/4
บรรยากาศ Clubhouse บริเวณด้านหน้าโครงการ

บรรยากาศ Clubhouse บริเวณด้านหน้าโครงการ

จุดเด่นของอาคาร Clubhouse อยู่ที่ Extravagance Spiral Staircase ซึ่งเป็นบันไดวนอยู่บริเวณกลางอาคาร โดยรอบข้างเป็นทางเดินแบบเปิดโล่ง ล้อมรอบด้วยพื้นที่สวน ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง

Image 1/3
บันไดวนกลางอาคาร (Extravagance Spiral Staircase)

บันไดวนกลางอาคาร (Extravagance Spiral Staircase)

จากชั้น 1 บันไดวนจะแยกออกเป็น 2 ฝั่งเกิดเป็นคอร์ทวงกลมตรงกลาง ลักษณะคล้ายกับโถงในมหาวิหาร บันไดใช้โทนสีขาวให้ความรู้สึกกลมกลืน เรียบง่าย ตัดกับสีเขียวจากพื้นที่สวนด้านข้าง ช่วยเพิ่มความสบายตา

Image 1/4
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5.50x21.00 เมตร

สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5.50x21.00 เมตร

ภายใน Clubhouse มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 5.50 x 21.00 เมตร มีโซนจา Jacuzzi และ Water Curtain Pavillion ใกล้กันเป็นสระเด็กขนาด 7.00×3.00 เมตร ความลึก 0.65 เมตร ด้านข้างมี Sunken Seat ไว้นั่งพักผ่อน หรือให้ผู้ปกครองใช้มานั่งรอเด็กๆที่มาเล่นสระว่ายน้ำได้

Image 1/8
ห้องน้ำส่วนกลางภายใน Clubhouse

ห้องน้ำส่วนกลางภายใน Clubhouse

ห้องน้ำของ Clubhouse จะอยู่ที่ชั้น 1 สามารถใช้ทางเดินหลังบันไดวนได้ โดยจะแยกห้องน้ำชาย – หญิงและมีห้องน้ำคนพิการรองรับอยู่ด้วย ซึ่งภายในจะมีตู้ Locker ไว้สำหรับเก็บของหรือเสื้อผ้าและห้องซาวน่าให้ใช้งานด้วย

Grand Lobby Lounge จะอยู่ด้านหน้าอาคาร เป็นโถงขนาดใหญ่สามารถใช้เพื่อรับแขกได้ ประตูด้านหน้ามี Sensor จึงเปิด – ปิดเองได้อัตโนมัติ

โถงทางเข้าเป็น Double Volume เพดานสูง ประตูด้านหน้าได้เป็นกระจกแบบเต็มบาน ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เพิ่มความหรูหราด้วยโคมไฟระย้าด้านบน จากส่วนนั่งพักคอยด้านข้างสามารถมองออกไปเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำได้

Image 1/3
บันไดวนกลางอาคารเชื่อมต่อพื้นที่ชั้น 2

บันไดวนกลางอาคารเชื่อมต่อพื้นที่ชั้น 2

บันไดวน เพดานสูงเห็นฐานโดมทรง 8 เหลี่ยม รอบๆมีช่องแสงเป็นหน้าต่างกระจกหลายรูปทรง มีลวดลายได้อารมณ์แบบกระจกในวิหารยุค Renaissance

ห้องแรกที่เราจะพามาชมกันก็คือ Co – Working Space เผื่อลูกบ้านคนไหนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน ก็สามารถรองรับได้ ไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่ม

Image 1/5
บรรยากาศใน Co - Working Space

บรรยากาศใน Co - Working Space

ฟังก์ชันภายในที่นอกจากจัดเป็น Corner แยกให้แล้ว หากใครอยากได้ความเป็นส่วนตัว ภายในก็มี Private Meeting Room ให้เลือกใช้ โดยที่พื้นจะติดตั้งปลั๊กมาให้ จะชาร์ตมือถือหรือโน๊ตบุ๊คยาวๆก็สะดวกเลยค่ะ

Private Studio รองรับกิจกรรมได้หลากหลาย อย่างราวจับด้านข้างที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ก็สามารถเปลี่ยน Studio ให้เป็นคลาสบัลเล่ต์ขนาดย่อมได้เลยค่ะ

สำหรับสายรักสุขภาพ ชอบออกกำลังกาย ก็มี Fitness ที่สามารถรองรับผู้ใช้งานได้ 10 – 11 คนเลย โดยอุปกรณ์ในห้องก็จัดมาให้แบบครบครันทั้ง Cardio และ Weight Trainning เลย

Image 1/4
พื้นที่ใช้งานส่วน Recreation Room

พื้นที่ใช้งานส่วน Recreation Room

Recreation Room ตกแต่งมาด้วยโทนสีสดใส ดูมีชีวิตชีวาเหมาะกับกิจกรรมภายในห้อง มีโต๊ะเกมส์ มุมเก้าอี้บาร์และส่วน Pantry ไว้ให้มานั่งสังสรรค์กันเล็กๆได้ค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศถนนภายในโครงการ

บรรยากาศถนนภายในโครงการ

ถนนภายในโครงการเป็นถนนลาดยางกว้างประมาณ 9 เมตร ซึ่งถนนลาดยางจะนุ่มนวลกับล้อรถมากกว่าถนนคอนกรีตนะคะ ถัดจากซุ้มประตูเข้ามาด้านในจะเป็นวงเวียนต้นไม้ รอบๆมีฟุตบาทเดินใช้งานได้อย่างสะดวก โดยในโครงการจะนำสายไฟลงดินทั้งหมด ทำให้ดูสบายตา ไม่มีสิ่งรบกวนมาบดบังทัศนียภาพค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศสวนหย่อมกลางโครงการ LE CASCINE PARK

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการ พื้นที่ใช้สอย 1,500 ตร.ม. ประกอบไปด้วย
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 5.50×21 เมตร ลึก 1.20 เมตร มี Jacuzzi และ Water Curtain Pavilion
  • สระเด็กลึกขนาด 7×3 เมตร ลึก 0.65 เมตร
  • Grand Lobby
  • Co – Working Space
  • Meeting Room
  • Fitness
  • Recreation Room
  • Private Studio
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่ 142 ตร.วา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 61 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.70 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 0.20 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ระบบในการเข้า – ออกSmart Gate With License Plate สแกนทะเบียนรถสำหรับลูกบ้าน เปิด – ปิด อัตโนมัติ

แบบบ้าน

แบบบ้านในโครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ จะมีทั้งหมด 3 แบบ มาในสไตล์ Modern Classic ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง ได้พื้นที่ใช้สอย 439 – 591 ตร.ม. ฟังก์ชันการใช้งานเน้นครอบครัวใหญ่ มีห้องนอนผู้สูงอายุ (ห้องนอนชั้นล่าง) ทุกแบบบ้าน ที่จอดรถได้ 3 – 5 คัน โดยรายละเอียดของแบบบ้านทั้ง 3 แบบจะมีดังต่อไปนี้

  • Accademia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  • Uffizi บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 510 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  • Duomo De Florence บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 112 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / 1 ห้องซักรีด

สรุปวัสดุต่างๆ ในบ้าน

  • หลังคาทรงปั้นหยา
  • ก่อสร้างด้วยระบบ Conventional (อิฐมวลเบา) มีฉนวนกันความร้อน
  • พื้นส่วนที่จอดรถ (กลางแจ้ง) เป็น Approach Slab ปู Stamp Concrete / พื้นที่จอดรถในร่ม ลานซักล้างลงเข็มมาให้เท่าตัวบ้าน
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 90×90 เซนติเมตร
  • พื้นชั้น 2 : ปาร์เก้ไม้สักสำเร็จรูป
  • ชุดสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าแบรนด์ KOHLER , ก๊อกน้ำและชุดฝักบัว GROHE
  • อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่แบรนด์ KASCH
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สัก
  • วอลเปเปอร์ติดตั้งมาให้ทั้งหลัง

เทคโนโลยีในบ้าน

  • Digital Door Lock จำนวน 1 ตัวที่ประตูบ้าน
  • CCTV จำนวน 1 ตัวที่ชั้น 1 บริเวณโรงจอดรถ
  • Ruejai Home OS แอปพลิเคชั้นควบคุมบ้านอัจฉริยะ
  • Active Air Quality ระบบขจัดมลพิษทางอากาศในบ้าน
  • Smoke & Heat Detector
  • AIS Fiber 1000/500 Mbps
  • ระบบไฟฟ้า 3 เฟส Type Duomo De Florence (50/150) Accademia , Uffizi (30/100) มี Junction รองรับการติดตั้ง Ev Charger ได้
  • ติดตั้งระบบ Magnetic , Shock Sensor ทั้งหลัง และ Motion Sensor 1 จุด


แบบบ้าน Uffizi

แบบบ้านที่เราจะพาไปชมวันนี้คือ Uffizi เป็นชื่อที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหอศิลป์อุฟฟีซีในอิตาลี โดยแบบบ้านนี้เป็น Type ขนาดกลาง ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา ซึ่งถือว่าใหญ่มาก เมื่อเทียบโครงการในทำเลเดียวกัน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 510 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 40.90 ล้านบาท* โดยบรรยากาศภายในจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันเลย

Uffizi ได้ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกัน 3 Generations ได้แบบสบายๆ เพราะมีห้องนอนชั้นล่างที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ สำหรับจุดเด่นของแบบบ้าน Uffizi เราขอแยกออกเป็นข้อๆมาให้ชมดังนี้ค่ะ

  • แบบบ้านหน้ากว้าง แปลนบ้านเป็นแบบหน้ากว้าง ทำให้การจัดวางฟังก์ชันภายในได้ความโปร่งโล่ง ตัวบ้านได้ช่องแสงมาหลายตำแหน่ง ทำให้เปิดรับวิวและแสงจากธรรมชาติได้ดีกว่าแบบบ้านตอนลึก ส่วนพักผ่อนและ Service แบ่งสัดส่วนชัดเจน สะดวกต่อการใช้งาน
  • ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุ แบบบ้าน Uffizi ได้ 4 ห้องนอน แบ่งเป็นห้องนอนชั้นบน 3 ห้อง และห้องนอนชั้นล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ โดยภายในห้องจะมีห้องน้ำในตัว  พื้นออกแบบมาให้รองรับการใช้งานรถเข็นได้ ไม่มีส่วนต่างระดับ และมีอุปกรณ์เสริมอย่างราวพยุง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นผู้สูงอายุหรือผู้พิการค่ะ
  • Double ฟังก์ชัน ใช้งานได้หลากหลาย จุดเด่นของแบบบ้านในโครงการนี้คือการออกแบบฟังก์ชัน Double เพราะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ จึงทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้มากขึ้น เช่น บริเวณหน้าบ้านเป็น Grand Double Living Area จัดเป็นส่วนนั่งเล่น และส่วนรับแขกแยกกันได้ Grand Double Master Bedroom ได้ห้องนอนไซส์ใหญ่ถึง 2 ห้อง และมี Double Volume ที่โถงบันไดวน ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับตัวบ้าน

Image 1/3
ส่วนรั้วหน้าตัวบ้านเป็นรางเลื่อน 3 ตอน

ส่วนรั้วหน้าตัวบ้านเป็นรางเลื่อน 3 ตอน

รั้วบ้านออกแบบมาเป็นซี่เหล็กโปร่ง โดยโครงการได้เดินระบบเตรียมไว้ให้สำหรับใครอยากปรับเปลี่ยนเป็นรางเลื่อนอัตโนมัติ โดยแนวรั้วมีการลงพุ่มไม้มาให้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ส่วนด้านข้างมีประตูเล็กให้เดินเข้า – ออกแยกจากประตูที่จอดรถ ดูใช้งานสะดวก

ทางเข้าบ้านออกแบบเป็น Double Volume ตั้งซุ้มประตู ช่วยเสริมบรรยากาศด้านหน้าให้ดูโอ่อ่า ประตูบ้านเป็นบานเปิดคู่ กว้างประมาณ 2 เมตร โดยโครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ จากยี่ห้อ BALDWIN

Image 1/5
ภาพบรรยากาศรอบตัวบ้าน

ภาพบรรยากาศรอบตัวบ้าน

จุดเด่นของบ้านในโครงการนี้อยู่ที่ขนาดที่ดิน โดยแปลงที่ได้ขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ประมาณ 300 ตร.วา เหมาะกับคนที่ชอบบ้านเนื้อที่กว้างๆ สามารถจัดสวน ตั้งศาลาหรือเพิ่มฟังก์ชันในอนาคตได้อีกหลากหลาย

Image 1/3
โรงจอดรถขนาด 5.60x10.00 เมตร

โรงจอดรถขนาด 5.60x10.00 เมตร

ส่วนพื้นที่จอดรถ แบบบ้าน Uffizi สามารถจอดได้ 4 คัน ความกว้างประมาณ 10 เมตร ส่วนที่อยู่ใต้ชายคาลึก 5.60 เมตร สำหรับบ้านแปลงที่ได้เนื้อที่เยอะหน่อย สามารถจอดซ้อนคันได้แบบสบายๆเลย

บริเวณด้านหลังมีช่องเก็บของมาให้ ใช้เก็บพวกอุปกรณ์ซ่อมบำรุงหรือดูแลสวนตรงนี้ได้ หน้าบานตู้เป็นบานเกล็ด ช่วยระบายอากาศ สำหรับลูกบ้านที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทางโครงการก็ได้เตรียมปลั๊กเพื่อรองรับ EV Charger มาให้ 2 ตำแหน่ง เหมาะกับเทรนด์ในปัจจุบันทีเดียวค่ะ

Image 1/3
ด้านหลังที่จอดรถมีประตู Service เปิดเชื่อมเข้าตัวบ้านได้

ด้านหลังที่จอดรถมีประตู Service เปิดเชื่อมเข้าตัวบ้านได้

จากโรงจอดรถมีประตูที่สามารถเปิดเชื่อมเข้าสู่บ้านได้อีกจุดหนึ่ง เนื่องจากตัวบ้านยกสูงขึ้นจากระดับดินธรรมดา นอกจากมีบันไดแล้ว ยังมีทางลาดไว้สำหรับใช้งานรถเข็นได้ สำหรับความปลอดภัยที่ประตูและหน้าต่างจะมี Magnetic&Shock Sensor ติดตั้งมาให้ทั้งหลัง

เข้ามาในบ้านจะเจอกับ Foyer หรือว่าโถงต้อนรับเป็นอันดับแรก จากมุมนี้สามารถมองเห็น Grand Double Living Area และห้องนอนชั้นล่างได้เลย จากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 สูงประมาณ 3 เมตร วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนแผ่นใหญ่เหมือนในบ้านตัวอย่างได้ขนาด 90×90 เซนติเมตร ทำให้รอยต่อน้อย ดูสบายตา

บันไดวน ถือว่าเป็น Gimmick ของโครงการเลยนะคะ โดยบันไดที่มาช่วยเพิ่มความหรูหรานี้จะได้ในบ้าน Type กลางและขนาดใหญ่เท่านั้น ในบ้านตัวอย่างได้ปรับเปลี่ยนราวกันตกและวัสดุปิดผิวให้เป็นหินอ่อนสีขาว เพิ่มความลื่นไหลด้วยราวกันตกที่เชื่อมต่อกับวัสดุด้านบนได้อย่างกลมกลืน

ส่วนในบ้านจริง (ภาพด้านล่าง) ขั้นบันไดจะเป็นไม้สัก ราวกันตกเป็นซี่เหล็กโปร่ง เสริมความแข็งแรงด้วย Wrought Iron ซึ่งให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับดีไซน์ในบ้านตัวอย่างชัดเจน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยนะคะ ส่วนวัสดุกรอบประตู – หน้าต่างกระจกในบ้านใช้ของยี่ห้อ TOSTEM ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ทนทาน และสามารถป้องกันเสียงด้านนอกได้ดีเลย

Grand Double Living Area แบ่งเป็นพื้นที่ด้านหน้าที่ติดกับโถงทางเข้า สามารถจัดเป็นส่วนรับแขก แยกจาก Living Area หรือส่วนนั่งเล่นที่อยู่ด้านหลังได้ สะดวกทั้งแขกภายนอกและสมาชิกในครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ

หรือใครเป็นสายปาร์ตี้ ก็สามารถจัดโซนนี้เป็นพื้นที่รับแขกเวลามีงานสังสรรค์ขนาดย่อมๆได้เลย จากขนาดโต๊ะตรงกลางยังเหลือพื้นที่ว่างโดยรอบ จึงถือว่าได้ขนาดห้องมาค่อนข้างกว้างเลยนะคะ

Image 1/4
พื้นที่ใช้งานส่วน Grand Double Living Area

พื้นที่ใช้งานส่วน Grand Double Living Area

ด้านหลังตัวบ้านได้ช่องแสงเป็นบานเลื่อนกระจกมาค่อนข้างใหญ่ โดยในบ้านตัวอย่างได้ต่อเติมเป็นพื้นที่เฉลียงเป็นไอเดียมาให้ ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน

Image 1/4
พื้นที่ใช้งานส่วนรับประทานอาหาร

พื้นที่ใช้งานส่วนรับประทานอาหาร

ส่วนรับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะยาวขนาด 8 – 10 ที่นั่งได้เลย โดยบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกด้านหลังบ้านเข้ามา ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง

Image 1/5
ห้องน้ำแบบ Powder Room ที่บริเวณชั้น 1

ห้องน้ำแบบ Powder Room ที่บริเวณชั้น 1

ส่วนรับประทานอาหารจะอยู่ใกล้ตำแหน่งประตู Service ที่เปิดเชื่อมเข้ามาจากที่จอดรถ ติดกันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room เหมาะสำหรับใช้รับแขกโดยเฉพาะ โดยด้านหน้าจะมีส่วนโถงเล็กๆไว้จัดเป็นมุมวางของตกแต่ง หรือเพิ่มฟังก์ชันเป็นตู้เก็บของเพิ่มได้

ในห้องน้ำ Powder Room จะไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ โดยภายในจะได้สุขภัณฑ์แบบครบชุดเหมือนบ้านตัวอย่าง ส่วนอ่างล้างมือเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์จากยี่ห้อ KOHLER ติดตั้งมาให้พร้อมก็อกน้ำจาก GROHE โถสุขภัณฑ์ได้เป็นแบบอัตโนมัติจาก KOHLER เช่นเดียวกันค่ะ

ถัดเข้ามาที่พื้นที่ Service ของตัวบ้าน จะมีห้องเก็บของอยู่ด้านหน้าครัวไทย ได้ขนาดพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถใช้เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ โดยอีกฟังก์ชันนึงคือเป็นห้องไว้เก็บอุปกรณ์ควบคุมไฟต่างๆ เช่น บางบ้านที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ก็สามารถใช้เป็นห้องเก็บเครื่องได้นะคะ

Image 1/5
ครัวไทย แยกใช้งานเป็นสัดส่วน

ครัวไทย แยกใช้งานเป็นสัดส่วน

ส่วนครัวทางโครงการได้ติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกมาให้ เพิ่มความเป็นสัดส่วน เคาน์เตอร์จัดเป็นแบบเข้ามุม  ดูเหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งในบ้านจริงจะมาเป็นแบบห้องเปล่า ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเลย ซึ่งจากพื้นที่ครัวจะมีประตูเชื่อมไปยังส่วนห้องพักของแม่บ้านที่อยู่ด้านหลัง เดินเข้า – ออกใช้งานได้สะดวกค่ะ

Image 1/3
ห้องนอนชั้นล่าง พร้อมห้องน้ำในตัว

ห้องนอนชั้นล่าง พร้อมห้องน้ำในตัว

สำหรับห้องนอนชั้นล่าง บ้านตัวอย่างได้ปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถจัดเป็นห้อง Showcase หรือไว้เป็นพื้นที่ส่วนตัวทำงานอดิเรกได้ โดยในห้องก็จะมีห้องน้ำแยกใช้งานในตัวมาให้ค่ะ

Image 1/6
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำชั้น 1

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำชั้น 1

ภายในห้องน้ำออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ อย่างเช่น พื้นที่ไม่มีการลดระดับเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานรถเข็น ป้องกันการสะดุดล้ม และการติดตั้งราวจับมาให้ ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีค่ะ

อุปกรณ์ในห้องน้ำ อ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ สายฉีดชำระและที่เก็บกระดาษทิชชู่ จากยี่ห้อ KOHLER ก็อกน้ำและฝักบัวแบบ Hand Shower จาก GROHE ด้านข้างมีช่องไว้ติดตั้งชั้นวางของ เอื้อมหยิบใช้งานได้สะดวก

ขนาดพื้นที่ใช้สอยในห้องค่อนข้างกว้าง ในบ้านตัวอย่างได้ทำผนังให้เป็นกระจกแทน ทำให้สามารถมองเห็นส่วนโถงบันไดวนด้านหน้า ดูโปร่งโล่ง ซึ่งถ้าจัดฟังก์ชันให้เป็นห้องนอนก็วางเตียงขนาด 5 ฟุตพร้อมส่วนแต่งตัวได้สบายๆเลยนะคะ

และเนื่องจากออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ วัสดุพื้นจึงเลือกใช้เป็น SCG Soft Floor ซึ่งจะมีความนุ่มกว่าพื้นทั่วไป ช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุหกล้มต่างๆได้

Image 1/2
บันไดวนโค้ง บริเวณโถงทางเข้าบ้าน

บันไดวนโค้ง บริเวณโถงทางเข้าบ้าน

มาที่ Highlight ของบ้าน นั่นก็คือบันไดวนทรงโค้งที่มาช่วยเพิ่มความแกรนด์ โดยโครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาเดินจะให้ความรู้สึกมั่นคง โดยในบ้านจริงจะปิดผิวมาด้วยไม้สัก เพื่อให้เกิดความเชื่อมต่อกับพื้นชั้น 2 ส่วนราวกันตกเป็น Wrought Iron สามารถบิดเกลียว หรือขึ้นรูปได้สวยงาม และยังมีความทนทาน ไม่ขึ้นสนิมง่ายๆด้วยนะคะ

Image 1/4
Family Area บนชั้น 2

Family Area บนชั้น 2

ขึ้นมาชั้นบนจะเจอกับ Family Area ซึ่งได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่ สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Private ของครอบครัวเพิ่มได้ เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิกเยอะ แบ่งโซนใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ต้องแย่งกัน

ชั้น 2 จะได้เป็น 1 ห้องนอน และ 2 Master Bedroom ซึ่งห้อง Master ทั้ง 2 นี้จะจัดฟังก์ชันที่คล้ายกัน แต่อีกห้องจะขนาดเล็กกว่า สมมุติว่าเป็นห้องลูกชายคนโต พอแต่งงานก็สามารถพาภรรยาเข้ามาอยู่ด้วยได้เลย

Image 1/3
ส่วน Walk - in Closet ภายในห้อง Master Bedroom

ส่วน Walk - in Closet ภายในห้อง Master Bedroom

จุดเด่นของห้อง Master Bedroom คือขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถแบ่งจัดเป็นห้อง Walk – in Closet แยกตู้เสื้อผ้าใช้งานด้วยกัน 2 – 3 คนได้ ซึ่งบ้านมาตรฐานที่โครงการส่งมอบให้จะเป็นบ้านเปล่า จึงสามารถออกแบบขนาดส่วนแต่งตัวให้เหมาะสมกับการใช้งานได้เลย

ถัดมาเป็นห้องน้ำแยกพื้นที่ใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง แบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ความพิเศษนอกจากขนาดที่ได้มากว้างขวางแล้ว ยังได้อ่างอาบน้ำแบบฝังมาอีกด้วย

Image 1/5
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ Master Bedroom

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ Master Bedroom

บริเวณส่วนเปียกจะได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกติดตั้งมาให้ด้วย ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและทำความสะอาด อุปกรณ์ในห้องน้ำได้แบบครบชุดจากยี่ห้อ KOHLER

Image 1/4
พื้นที่ใช้งานส่วนอาบน้ำ

พื้นที่ใช้งานส่วนอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำแบบฝังจาก KASCH ขนาด 1.40×0.70 เมตร ฝักบัวได้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower ปรับเป็นน้ำร้อนหรือน้ำเย็นได้ ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 1.00×2.00 เมตร ยืนอาบได้สะดวก

Image 1/4
พื้นที่ใช้งานภายในส่วนพักผ่อน

พื้นที่ใช้งานภายในส่วนพักผ่อน

พื้นที่ส่วนพักผ่อนจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ตรงกลางวางเตียงขนาด King Size ได้ โดยในห้องนี้ตกแต่งมาด้วยภาพการ์ตูนลายเส้นน่ารัก เหมาะกับเป็นห้องของลูกคนโต รอบๆยังเหลือพื้นที่ไว้วาง Daybed หรือโต๊ะเขียนหนังสือได้อีกด้วย

ถัดมาที่ห้องนอนขนาดเล็กสุด แต่พื้นที่ๆได้ก็ถือกว้างขวางทีเดียวค่ะ ซึ่งตำแหน่งจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้อง Master ทั้ง 2 ห้อง

Image 1/4
พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องนอน

พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องนอน

ตรงกลางห้องวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้แบบสบายๆ โดยในห้องนี้ยังสามารถกั้นเป็นพื้นที่ Walk – in Closet แยกใช้งานได้ ซึ่งจะอยู่ตรงหน้าส่วนห้องน้ำ พออาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาแต่งตัวได้เลย

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานภายในส่วนห้องน้ำ

พื้นที่ใช้งานภายในส่วนห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นแบบหน้ากว้าง ภายในได้กระจกบานยาวยิ่งทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง โดยอุปกรณ์จะได้มาแบบครบชุดจาก KOHLER และ GROHE แต่ในห้องนี้ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ

Master Bedroom ห้องนี้จะเห็นว่าได้ขนาดมาใหญ่ แตกต่างกับห้องอื่นอย่างชัดเจน และด้านข้างยังได้ระเบียงในตัวมาอีกด้วย

Image 1/4
พื้นที่ใช้งานภายในห้อง Master Bedroom

พื้นที่ใช้งานภายในห้อง Master Bedroom

จากพื้นที่นั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนกระจกเปิดออกมาใช้งานระเบียงด้านนอกได้ ซึ่งระเบียงนี้จะยาวขนานกับพื้นที่ห้องนอนมีขนาด 0.30×7.20 เมตร

Image 1/3
Walk - in Closet ภายในห้อง Master Bedroom

Walk - in Closet ภายในห้อง Master Bedroom

ภายในห้อง Master Bedroom นี้ได้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะมาก โดยในบ้านจริงจะได้มาเป็นห้องเปล่า ทำให้เราสามารถกั้นเพิ่มได้ตามใจชอบเลย อย่างในบ้านตัวอย่าง กั้นส่วน Walk – in Closet มาให้ค่อนข้างใหญ่ วาง Island ตรงกลางได้แบบสบายๆ

ภายใน Master Bathroom ได้ช่องแสงมาขนาดใหญ่มา 2 จุด ใช้เปิดระบายอากาศและความชื้นได้ดี โดยฟังก์ชันภายในห้องนี้จัดมาให้ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้เลย

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานภายในห้อง Master Bathroom

พื้นที่ใช้งานภายในห้อง Master Bathroom

ส่วนเคาน์เตอร์ได้มาเป็นแบบ His&Her ด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับเก็บของหรืออุปกรณ์ส่วนตัวได้ โดยในห้องนี้จะแยกอ่างอาบน้ำและส่วน Shower ออกจากกัน โดยจะได้ Shower Box มาแบบนี้เลยค่ะ

Image 1/5
อุปกรณ์ภายในห้อง Master Bathroom

อุปกรณ์ภายในห้อง Master Bathroom

ส่วน Shower Box ขนาด 1.60×1.00 เมตร ผนังด้านข้างมีช่องไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้ โดยฝักบัวได้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower จาก GROHE ส่วนอ่างอาบน้ำจาก KASCH ขนาด 1.40×0.70 เมตร

ประตูทางเข้าห้อง Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่แตกต่างกับห้องอื่นชัดเจนเลยนะคะ โดยจะเป็นบานไม้สามารถเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งเลย

Image 1/3
เทคโนโลยีภายในบ้าน

เทคโนโลยีภายในบ้าน

สวิตช์ไฟ ดีไซน์แบบเรียบหรูจากยี่ห้อ SIEMENS สำหรับเทคโนโลยีในบ้านมีระบบควบคุมอัจฉริยะอย่าง Ruejai Home OS เป็น Application ที่สั่งการได้ผ่านมือถือและจอโฮมฮับ ดูแลได้ตั้งแต่ความปลอดภัยไปจนถึงระบบไฟในบ้าน

รวมถึงระบบ Active Air Quality ช่วยขจัดมลพิษและดันอากาศเสียออกอัตโนมัติ โดยจะติดตั้งไว้บนฝ้าเพดานในห้องนั่งเล่นและห้องนอนทุกห้องค่ะ

แบบบ้าน Accademia

Image 1/3
แบบบ้าน Accademia พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม.

แบบบ้าน Accademia พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม.

Accademia เป็นแบบบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการ พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม. ได้ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถและ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 33.50 ล้านบาท* โดย Type นี้จะเป็นบ้านหน้ากว้าง ได้ฟังก์ชันแบบ Double Living เหมือนกันทุก Type

จุดที่แตกต่างกันคือส่วนรับประทานอาหารที่จะจัดมาอยู่ด้านหน้าบ้าน และบันไดที่จะเป็นแบบพับผ้าอยู่บริเวณโถงกลางแทน เมื่อเทียบกับโครงการบนทำเลใกล้เคียงกันที่มีราคาประมาณ 30 ล้านนิดๆจะได้ความคุ้มค่าในเรื่องที่ดินมากกว่า เพราะได้ขนาดเริ่มต้นมาถึง 82 ตร.วาค่ะ

แบบบ้าน Duomo De Florence

Image 1/3
แบบบ้าน Duomo De Florence พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม.

แบบบ้าน Duomo De Florence พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม.

สุดท้ายกับแบบบ้าน Duomo De Florence บ้านขนาดใหญ่สุดในโครงการได้พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม.  และที่ดินขนาดใหญ่สุดได้ถึง 300 ตร.วา การจัดฟังก์ชันจะคล้ายกับ Type กลาง แต่บันไดวนจะขยับมาอยู่บริเวณกลางบ้านแทน ทำให้ส่วนทางเข้าดูแกรนด์มากขึ้นค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ ราคา ณ วันที่ 6 เมษายน 2566

  • Accademia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 33.50 ล้านบาท*
  • Uffizi บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 510 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 40.90 ล้านบาท*
  • Duomo De Florence บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 112 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / 1 ห้องซักรีด
    – ราคาเริ่มต้น 45.90 ล้านบาท
  • ค่าจอง 300,000 บาท ค่าทำสัญญา 20% ของราคาบ้าน
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ จัดอยู่ในทำเลโซนรามอินทรา ซึ่งก็ไม่ค่อยมีโครงการระดับ SUPER LUXURY ให้เห็นในย่านนี้กันบ่อยนะคะ สำหรับการเดินทาง เรามองว่าคนที่ซื้อโครงการระดับนี้จะใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดถนนสวนสยาม สามารถไปเชื่อมต่อกับโซนมีนบุรี รามอินทรา และรามคำแหงได้ง่าย ใกล้ทางด่วนวงแหวนกาญจนาทำให้เดินทางเข้า – ออกเมืองค่อนข้างสะดวก ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ก็จัดว่าไม่ขาดแคลนเลย อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ความเป็นบ้านสำหรับครอบครัวทีเดียวค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

โครงการออกแบบทางเข้า – ออกมาเป็น Double Gate โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ทั้ง 2 จุด ประตูเป็นรางเลื่อนไฟฟ้า ควบคุมด้วยระบบ Smart Gate with License Plate (สแกนทะเบียนรถ) และสามารถควบคุมการเข้า – ออกของผู้มาเยี่ยมได้ง่ายผ่าน Ruejai App (pre-register Visitor) ได้ทั้งความสะดวกและเป็นส่วนตัว สำหรับความปลอดภัยในตัวบ้านจะได้ Digital Door Lock และ CCTV มาให้ 1 จุด พร้อม Magnetic&Shock Sensor ทั้งหลัง รวมทั้ง Smoke Detector

การออกแบบโครงการ :

Grand Bangkok Boulevard เป็นแบรนด์ที่มีการออกแบบหน้าตาแต่ละ Product ชัดเจน ทำให้เกิดความ Uniq ในแต่ละโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่จะสะท้อนความหรูหราผ่านสถาปัตยกกรรมที่หลากหลาย อย่างในโครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ ได้แรงบันดาลใจมาจากมหาวิหารเมือง Florence จึงได้กลิ่นอายหรูหราแบบอิตาลี

โครงการออกแบบมาเน้นความเป็นส่วนตัว มีจำนวนทั้งหมด 70 ยูนิต ทำให้ในแต่ละซอยมีเพื่อนบ้านน้อย เพียง 1 – 4 ยูนิตเท่านั้น โดยถนนภายในซอยไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ข้อดีคือช่วยลดความพลุกพล่าน และจำกัดคนเข้า – ออกได้ดี ส่วนพื้นที่ส่วนกลางแยกใช้งานเป็น 2 จุด คือ อาคาร Clubhouse ที่อยู่ด้านหน้าและสวนหย่อมด้านหลังเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ลูกบ้านสามารถเลือกใช้งานได้ตาม Activity ที่ชอบเลยค่ะ

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

แบบบ้านในโครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ มีให้เลือก 3 แบบหลักๆ ได้พื้นที่ใช้สอย 439 – 591 ตร.ม. โดยจุดเด่นอยู่ที่ขนาดที่ดินซึ่งได้มากสุดถึง 300 ตร.วา เหมาะกับคนที่อยากได้เนื้อที่รอบบ้านเยอะๆ ส่วนภายในบ้านเน้นฟังก์ชันแบบ Double ทั้ง Grand Double Living Area , Grand Double Master Bedroom และ Double Volume เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่ของครอบครัวใหญ่ที่อยู่ร่วมกันได้ถึง 3 Generations เลยค่ะ

วัสดุ :

ภายในบ้านจะได้มาเป็นบ้านเปล่า ซึ่งก็เป็นปกติของบ้านในราคาระดับนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการออกแบบและต่อเติมภายหลัง เพื่อให้เหมาะสมกับความชอบและการใช้งานแต่ละครอบครัว สำหรับวัสดุอื่นๆก็ถือว่าจัดมาให้เหมาะสมกับระดับราคา ส่วนตัวเราชอบส่วนห้องนอนชั้นล่างที่เลือกวัสดุมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุจริงๆ เช่น SCG Soft Floor และราวพยุงในห้องน้ำ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูล หน้างานยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่ภาพรวมภายในโครงการดูเรียบร้อย น่าใช้งาน รอบๆมีการลงทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่และไม้พุ่มตลอดแนวตามเส้นถนน ช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่น โดยโครงการได้นำสายไฟลงดินทั้งหมด ทำให้ได้ทัศนียภาพเปิดโล่ง สวยงาม เพราะไม่มีสิ่งรบกวนมาบดบังสายตาค่ะ

สาธารณูปโภค :

อาคาร Clubhouse 2 ชั้น ได้พื้นที่ใช้สอยมาถึง 1,500 ตร.ม. สไตล์การออกแบบค่อนข้างโดดเด่น ชูคอนเซปต์โครงการได้ชัดเจน ส่วนฟังก์ชันภายในถือว่าจัดมาให้ตามมาตรฐาน รองรับการใช้งานของลูกบ้าน 70 ยูนิตได้อย่างเหมาะสม ถัดเข้าไปด้านในโครงการยังมีพื้นที่สวนหย่อมขนาดกว่า 1 ไร่ ในอนาคตเมื่อสร้างแล้วเสร็จ น่าจะยิ่งทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น น่าใช้งาน

Judgement

ราคาของโครงการบ้านนี้ถือเป็นระดับ SUPER LUXURY CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ แต่มีเรื่องความคุ้มค่าด้านอารมณ์ส่วนบุคคลที่มาเป็นปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่เรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living จึงขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ และเพราะเป็นสินค้าประเภท Unique Item จึงมีตัวเปรียบเทียบน้อย

Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ เหมาะกับใคร

โครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นไซส์ใหญ่ ได้ที่ดินเยอะ ซึ่งเป็น Rare Item ย่านรามอินทรา สำหรับโครงการที่เป็น SUPER LUXURY ฟังก์ชันเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่อยู่ร่วมกันได้ 3 Generations ชอบบ้านสไตล์ Modern Classic และชอบโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ มีงบประมาณ 30 – 60 ล้านบาท*


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc