รีวิวโครงการ
Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญฯ : รีวิวบ้านเดี่ยว : คิดเรื่องอยู่ Ep.541
17 มกราคม 2021
รีวิวฉบับที่ 1080 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเป็นโครงการบ้านระดับหรูภายใต้แบรนด์ Grand Bangkok Boulevard จาก Sc Asset มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ที่ดินเริ่มต้น 113 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 484 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท มาพร้อมกับการออกแบบสไตล์ COLONIAL LUXURY STYLE ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากย่านวังหลังที่มีสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนน พรานนก – พุทธมณฑล สาย4 หรือ ถนนตัดใหม่ที่เชื่อมถนนจรัญสนิทวงศ์ – ราชพฤกษ์ – พุทธมณฑลสาย 1 – ถนนกาญจนาภิเษกเข้าด้วยกัน ตามมาชมโครงการพร้อมๆกันเลยค่ะ
รีวิวอัพเดทโครงการเฟส 3 (ปี 2020) > คลิก
Fact @ 12 May 2016
- Grand Bangkok Boulevard Ratchapruek – Charunsanitwong (แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์)
- บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน
- SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ตลิ่งชัน
- เนื้อที่โครงการ 61 – 1 – 20.3 ไร่ จำนวน 92 ยูนิต
- แบบบ้าน กัลปพฤกษ์ พื้นที่ใช้สอย 484 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
- แบบบ้าน ราชพฤกษ์ พื้นที่ใช้สอย 588 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 113 และ 145.5 ตร.วา
- ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาทหรือ 265,486 บาท/ตร.วา
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2558
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี 2559
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1749
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.752026, 100.432829
ที่ตั้งของโครงการ Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่ พรานนก – พุทธมณฑล สาย 4 หรือที่มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ถนนพระเทพฯตัดใหม่ ถนนนี้ตัดขึ้นจุดประสงค์เพื่อใช้ระบายการจราจรบนถนนจรัญสนิทวงศ์ เนื่องจากถนนจรัญฯแต่เดิมเป็นถนนเส้นยาวที่ไม่ค่อยมีแยก ทางลัด และทางด่วน ถึงแม้ว่าจะมีซอยใหญ่ที่สามารถใช้เชื่อมไปออกถนนราชพฤกษ์ได้อยู่ 2 ซอยคือซอยจรัญฯ 13 และ ซอยจรัญฯ35 แต่ก็มีรถเข้ามาใช้งานจำนวนมากจนการจราจรภายในซอยติดขัดตามไปด้วย จุดเริ่มต้นของถนนพระเทพฯตัดใหม่นี้เริ่มจากบริเวณแยกไฟฉาย บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงมาเรื่อยๆตัดผ่านถนนราชพฤกษ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ไปบรรจบกับ ถนนกาญจนาภิเษก กินระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ปัจจุบันถนนนี้สร้างใกล้เสร็จแล้ว มีรถเข้ามาวิ่งกันแล้วบ้างแต่ยังไม่ได้เปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการ เนื่องจากบริเวณแยกไฟฉายมีการขุดเจาะอุโมงค์และทำสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ ซึ่งถ้าถนนสายนี้เสร็จจะทำให้การจราจรบนถนนจรัญสนิทวงศ์ และถนนราชพฤกษ์คล่องตัวขึ้น และยังช่วยเพิ่มช่องทางในการเดินทางเข้าเมืองของคนฝั่งพุทธมณฑล โดยไม่ต้องใช้ถนนบรมราชชนนีซึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนก็มีสภาพการจราจรที่หนาแน่นเช่นกัน
การเข้าถึงโครงการ เนื่องจากถนนพระเทพฯตัดใหม่เป็นถนนที่ตัดผ่านถนนหลายสาย ทั้งถนนจรัญสนิทวงศ์ , ถนน ราชพฤกษ์ , ถนน พุทธมณฑลสาย 1 และ ถนน กาญจนาภิเษก ดังนั้นจึงสามารถเข้าถึงโครงการได้จากหลายเส้นทาง เช่น ใช้ถนน พระเทพฯตัดใหม่วิ่งตรงมาเรื่อยๆจนถึงโครงการ แต่เนื่องจากถนนเส้นนี้ยังไม่เปิดใช้บริการทั้งเส้น เนื่องจากช่วงใกล้กับสี่แยกไฟฉาย ถนนจรัญสนิทวงศ์มีการขุดอุโมงค์ทางลอดกันอยู่ แต่ก็สามารถเอารถเข้ามาวิ่งกันได้บ้างแล้ว อีกเส้นทางหนึ่งคือใช้ถนนบรมราชชนนีวิ่งเข้าถนนราชพฤกษ์ เลี้ยวเข้าสู่ถนนพระเทพฯตัดใหม่เข้าสู่โครงการ หรืออีกเส้นทางคือเข้าจากทางซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 ตรงมาออกถนนราชพฤกษ์ที่บริเวณซอยวัดแก้ว จากนั้นเลี้ยวเข้าถนนพระเทพฯตัดใหม่ และยังมาจากเส้นทางอื่นๆได้อีก หากเป็นคนที่ทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่ในละแวกนี้ก็ถือว่ามีเส้นทางให้เลือกในการเดินทางหลากหลาย ส่วนการเดินทางไปยังที่ต่างๆสามารถใช้เส้นทางไปถนนรัตนธิเบศร์ , ถนน พุทธมณฑล , ถนน จรัญสนิทวงศ์ , ปิ่นเกล้า หรือ ออกไปยังจังหวัดนครปฐมได้
โดยในอนาคตจะมีโครงการทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ก่อสร้างทางสายหลัก , ทางขึ้น-ลงทางพิเศษ, ทางแยกต่างระดับ และ ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางพร้อมสะพานลอยกลับรถเพื่อแก้ไขปัญหาจุดตัดถนนท้องถิ่นช่วงจากถนนกาญจนาภิเษกถึงสะพานพระรามหกจำนวน 5 แห่ง โดยกำหนดทางขึ้น-ลงไว้ 6 แห่งคือ
- บริเวณถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก)
- ทางขึ้นลงราชพฤกษ์
- ทางแยกต่างระดับบรมราชชนนี
- ทางขึ้นลงบางบำหรุหรือถนนสิรินธร
- ทางขึ้นลงจรัญสนิทวงศ์
- ทางขึ้นลงพระราม 6
- ทางขึ้นลงกำแพงเพชรตรงทางแยกต่างระดับศรีรัช (ด่วนขั้นที่ 2)
ทางขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดคือ ทางขึ้น-ลง ราชพฤกษ์ อยู่บริเวณจุดตัดของถนนบรมราชชนนีกับถนนราชพฤกษ์ โดยมีกำหนดจะเปิดใช้บริการในปี 2559
สำหรับรถไฟฟ้า ในอนาคตจะมีมาผ่านบริเวณใกล้ๆกับโครงการอยู่ 2 สายคือ รถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งต่อขยายมาจาก สถานีบางหว้า วิ่งตรงมาตาม ถนน ราชพฤกษ์ สถานีที่น่าจะใกล้กับโครงการคือ สถานี บางพรม อยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนพระเทพฯตัดใหม่กับถนน ราชพฤกษ์พอดี ส่วนอีกสายคือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งจะแยกเป็น 2 ช่วงคือช่วงบางซื่อ – ท่าพระ ต่อขยายมาจากสถานีบางซื่อ วิ่งผ่านเตาปูน บางโพ มาเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ สถานีที่ใกล้โครงการคือ แยกไฟฉาย และ สถานีจรัญฯ 13 ส่วนช่วงหัวลำโพง – บางแค ต่อขยายมาจากสถานีหัวลำโพง วิ่งมาตามถนนเพชรเกษม โดยมีสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีบางหว้า ตอนนี้สายสีน้ำเงินยังอยู่ในระหว่างการสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 ส่วนสายสีเขียวส่วนต่อขยายคงต้องอดใจรอกันไปก่อนค่ะ
สภาพแวดล้อมของถนนพระเทพฯตัดใหม่ในตอนนี้ มีสภาพเหมือนถนนราชพฤกษ์ในช่วงแรกๆ คือพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่โล่งมีหมู่บ้าน และ บ้านพักอาศัยอยู่บ้างยังไม่มีโครงการอะไรมาขึ้นมากนัก แต่แนวทางการพัฒนาถนนเส้นนี้ในอนาคตคาดว่าน่าจะเจริญรอยตามถนนราชพฤกษ์ สังเกตจากการที่มีมีโครงการบ้านระดับหรูมาขึ้นบ้างแล้ว โดยปัจจุบันถนนราชพฤกษ์ เป็นทำเลของหมู่บ้านโดยเฉพาะโครงการระดับหรูที่มาแย่งกันขึ้นทั้งสองฝั่งของถนน เป็นถนนที่มีความเจริญและอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงพอสมควร มีร้านอาหารทั้งรถเข็น ร้านเล็กใหญ่ มีตลาดทั้งแบบปูเสื่อขายแบกับดิน และ ตลาด Food Villa ที่มีร้านค้าร้านอาหารมากมาย ช่วงหลังๆเริ่มมีร้านอาหารที่มี Concept ตกแต่งน่ารักๆมาเปิด เช่น โครงการ The Bloc ที่มีร้านเค้กรูปหมี อย่าง Think cafe และ Villa de Bear ร้านอาหารในสไตล์ฮอนแลนด์ที่มี Mascot เป็น หมี Villy อยู่หน้าร้าน
สำหรับร้านอาหารบนถนนราชพฤกษ์ก็มีร้านใหญ่ๆอยู่หลายร้านเหมือนกัน เช่น ร้านกุ้งเต้น และ ปลาอยู่เย็น ที่คนฝั่งจรัญสนิทวงศ์และราชพฤกษ์ชอบไปกินกัน อีกตัวเลือกหนึ่งคือ Community mall อย่าง The Circle แหล่งกิน เที่ยว ช็อปปิ้ง ที่มีร้านอาหารอยู่ในโครงการนี้ค่อนข้างเยอะ ช่วงเวลาเย็นจนถึงค่ำจะมีคนมาทานอาหารกันเยอะมาก จนทำให้ทางโครงการต้องเพิ่มที่จอดรถให้มากขึ้น จากที่มีคนอาศัยอยู่เยอะและเป็นแหล่งชุมชนถนน ราชพฤกษ์ จึงมาการจราจรค่อนข้างติดขัด
ส่วนบนถนน จรัญสนิทวงศ์ ก็เป็นแหล่งชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวมีร้านค้าอยู่ด้านล่าง มีตลาดสดอยู่หลายแหล่ง เช่น ตลาดบางขุนนนท์ ตลาดบางขุนศรี ตลาดวังหลัง และมีHypermarket เรียงกันอยู่ตามแนวถนน เช่น Tesco Lotus , แม็คโคร และ Foodland
การเข้าถึงสามารถเข้าถึงโครงการได้หลายเส้นทาง เช่น
- เส้นทางที่ 1 – จากถนนบรมราชชนนี เลี้ยวเข้าถนนราชพฤกษ์มา เข้าถนน พระเทพฯตัดใหม่ จากนั้นไปกลับรถมาเข้าโครงการ
- เส้นทางที่ 2 – จากแยกไฟฉาย ใช้ถนนตัดใหม่ วิ่งตรงเข้าสู่โครงการ
- เส้นทางที่ 3 – จากถนนเพชรเกษมใช้ถนน ราชพฤกษ์ เลี้ยวเข้าถนนตัดใหม่เข้าสู่โครงการ
- เส้นทางที่ 4 – จากถนน กาญจนาภิเษกเลี้ยวเข้าถนนตัดใหม่เข้าสู่โครงการ
การเดินทางของเราในวันนี้จะเริ่มจาก ถนนบรมราชชนนี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชพฤกษ์ ตรงมาเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายเข้าถนน ตัดใหม่ (แยกนี้ไม่ให้เลี้ยวขวา) จากนั้นต้องไปกลับรถมาเข้าโครงการ
เริ่มจากถนนบรมราชชนนี ขับตรงมาเรื่อยๆพอสังเกตเห็นป้ายถนนเพชรเกษมให้เตรียมชิดซ้ายเอาไว้
ตรงมาซักระยะจะเจอซอย ฉิมพลี ซึ่งสามารถใช้เป็นทางลัดไปถนน จรัญสนิทวงศ์ได้
ตรงมาตามทาง จะมีทางให้เลี้ยวเข้าถนนราชพฤกษ์
ถนนราชพฤกษ์เป็นถนน 8 เลนซึ่งตอนนี้มีการขยายถนนเป็น 10 เลนอยู่ ทั้งสองฝั่งของถนนส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารเล็กใหญ่ และ โครงการบ้านระดับหรู จากในภาพทางด้านขวาจะเป็น The Circle แหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารต่างๆมากมาย ฝั่งตรงข้าม The Circle คือ J Arena เป็นศูนย์รวมร้านอาหารหลายร้าน
ตรงมาเรื่อยๆ ด้านข้างโครงการบ้านระดับหรูอย่าง Q Twelve จะมี Food Villa ตลาดสดแนวใหม่ มีทั้งตลาด และ ร้านอาหาร
กลับมาที่ถนนราชพฤกษ์ ตรงไปอีกจะผ่าน Villa de Bear ร้านอาหารตกแต่งในสไตล์ ฮอนแลนด์
ตรงมาจนเห็นป้ายนี้ ให้ชิดซ้ายตามป้าย วัดแก้ว – พุทธมณฑลสาย1 ไม่ต้องขึ้นสะพานนะคะ
ตรงมาตามทางจะเจอ ซอยวัดแก้ว เส้นทางลัดไปซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 ได้ จากนี้ให้เราเตรียมชิดซ้ายไว้นะคะ เราจะตรงไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระเทพฯตัดใหม่ข้างหน้า
พอเห็นแยกนี้ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนน พระเทพฯตัดใหม่ จริงๆโครงการเราอยู่ทางด้านขวาแต่เราเลี้ยวไม่ได้เนื่องจากมีที่กั้นทางกั้นไว้อยู่ค่ะ
ตรงมาตามถนนพระเทพฯตัดใหม่ ให้หาที่กลับรถ
พอกลับรถมาเราวิ่งตรงไปตามป้าย ถนน กาญจนาภิเษก ตรงไปเรื่อยๆ เนื่องจากถนนเส้นนี้เนื่องจากยังไม่ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการ การจราจรจึงยังไม่หนาแน่น มีรถวิ่งบางตา
ตรงมาผ่านแยกนี้ ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางไป ถนน ราชพฤกษ์ แต่เราจะตรงผ่านทางยกระดับไป
ผ่านแยกมา ตรงมาซักพักทางด้านซ้ายจะผ่านตลาด พีพี ราชพฤกษ์ สาย 1 เป็นตลาดนัดแบบวางแผงขายของ
ตรงมาอีกนิดก็ถึงโครงการ Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ แล้วค่ะ
ที่ดินของโครงการมีรูปรางเปลี่ยนหลายเหลี่ยม วางตัวยาวเข้าลึกไป มีคลองบางน้อยตัดผ่านตรงกลาง เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ตามผังเมืองไม่สามารถสร้างอาคารสูงได้ ประกอบกับเป็นถนนที่เพิ่งตัดเสร็จหมาดๆ สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จึงยังคงเป็นที่ดินเปล่าและที่อยู่อาศัยแนวราบ ประเภทบ้านเดี่ยวหลังเล็กๆ โดยพื้นที่รอบๆโครงการจะติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 หรือ ถนนพระเทพฯตัดใหม่ ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีทางไปวัดเทพพล
- ทิศตะวันออก – ติดกับเต็นท์ให้เช่า ขายรถมือสอง และ ที่ดินเปล่าแปลงใหญ่
- ทิศใต้ – ติดกับที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก – ติดกับที่ติดเปล่า
ทิศเหนือ บริเวณหน้าโครงการติดกับถนน พรานนก – พุทธมณฑล สาย4 หรือ ถนน พระเทพฯตัดใหม่ ตรงช่วงกลางของถนนมีทางเดินข้ามไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีวัดเทพพลอยู่
ทิศตะวันออก ฝั่งที่ติดกับถนนใหญ่เป็นเต็นท์ให้เช่า – ขายรถมือสอง ถัดเข้าไปเป็นที่ดินเปล่า
ทิศตะวันตก ข้างๆที่ดินติดกับทางเดินเลียบคลอง ซอยชุมชนคลองลัด วัดเทพพล
ถัดจากทางเดินเลียบคลองไปเป็นที่ดินเปล่า มีต้นไม้และต้นมะพร้าวขึ้นตามภาพ ซึ่งในอนาคตยังไม่รู้ว่าจะมีการพัฒนาเป็นอะไร
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ร้านอาหารกุ้งเต้น ~ 3.4 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
- The Bloc ~ 4.3 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
- Food Land สาขา จรัญฯ ~ 4.5 กิโลเมตร
- แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ ~ 5 กิโลเมตร
- ตลาดบางขุนศรี ~ 5.5 กิโลเมตร
- Food Villa ~ 5.6 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
- The Circle ~ 5.3 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
- Villa de Bear ~ 6.3 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
- โรงพยาบาล ศิริราช ~ 6.5 กิโลเมตร
- ตลาดน้ำคลองบางหลวง ~ 7.5 กิโลเมตร
- Tesco Lotus ปิ่นเกล้า ~ 10 กิโลเมตร
- เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ~ 10.2 กิโลเมตร
- Home Pro ราชพฤกษ์ ~ 10.6 กิโลเมตร
- ตลาดบางแค ~ 12.6 กิโลเมตร
- The Walk ราชพฤกษ์ ~ 12.8 กิโลเมตร
ก่อนพาเข้าไปชมโครงการขออธิบายผังโครงการซักนิดนึงนะคะ โครงการ Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับหรู ตั้งอยู่บนพื้นที่ 61 – 1 – 20.3 ไร่ มีจำนวนทั้งหมด 92 ยูนิต โครงการวางคลับเฮ้าส์และพื้นที่ส่วนกลางต่างๆอยู่ด้านหน้า เพื่อให้ภายในโครงการมีความส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน ทางฝั่งซ้ายของโครงการเป็นถนนยาวเข้าไปถึงท้ายโครงการ ถนนหลักกว้าง 16 เมตรและถนนย่อยกว้าง 9 เมตร ฝั่งขวาเป็นบ้านแบ่งออกเป็นบล็อคๆ โดยบ้านมี2 แบบคือ บ้านกัลปพฤกษ์ 448 ตร.ม. บนที่ดิน 113 ตร.วา และ บ้านราชพฤกษ์ 588 ตร.ม. บนที่ดิน 145 ตร.วา โครงการมี Double Security คือมีประตูพร้อมยามรักษาความปลอดภัยอยู่เป็นระยะๆ ถึงแม้ว่าจะอยู่ท้ายๆโครงการก็จะมีร.ป.ภ ดูแลความปลอดภัยให้ค่ะ
จากด้านหน้าโครงการมองเข้าไปจะเห็นสโมสร ซุ้มประตูทางเข้า และ ป้ายโครงการขนาดใหญ่อยู่ การออกแบบของโครงการนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก ย่านวังหลังที่มีสถาปัตยกรรมร่วมสมัยสไตล์ Colonial
มองจากด้านหน้าโครงการจะเห็นสโมสร ออกแบบโดยนำเอากลิ่นอายแบบไทยๆมาประยุกต์กับสไตล์โมเดิร์น ชั้นบนเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ฝ้าเพดานยกสูง เปิดโล่งรับลม
ทางเข้าโครงการ มีซุ้มประตู ป้อมยาม และ ป้ายโครงการขนาดใหญ่
ซุ้มทางเข้าโครงการ เป็นโทนสีขาวดีไซน์เข้ากับ Concept ของโครงการ แยกทางรถเข้ากับทางรถออก บริเวณซุ้มทางเข้าจะมีป้อมยามอยู่ 1 จุด ซึ่งภายในโครงการจะมีอีก 1 จุดเป็น Double Security ระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการจะมีพี่ยามคอยดูแลความปลอดภัยให้ Key Card Access ของโครงการนี้เป็นแบบระยะใกล้ สแกนบัตรก่อนผ่านไม้กระดกเข้าไปในโครงการ และ มีกล้อง CCTV สำหรับส่องหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถ
Key Card Access ระยะใกล้ และ กล้อง CCTV จับหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถ
ประตูหน้าโครงการเป็นประตูเลื่อนอัตโนมัติบาน 3 ตอน สูงประมาณ 3.5 เมตร
เข้ามาด้านในโครงการ ทางฝั่งซ้ายที่เห็นเป็นสระว่ายน้ำคือ Clubhouse ถัดเข้าไปบ้านตัวอย่างและบ้านพักอาศัย ตรงกลางตัดเป็นถนนหลักกว้าง 16 เมตร ฝั่งขวาเป็นแนวต้นไม้ยาวเข้าไปจนถึงท้ายโครงการ
Clubhouse จะอยู่หน้าโครงการเลย ประกอบด้วย Lobby , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส และ พื้นที่นั่งพักผ่อน
Lobby ของโครงการตกแต่งด้วยโทนสีขาว มีการใช้ระแนงไม้ หินอ่อน และ เฟอร์นิเจอร์สไตล์ร่วมสมัย สามารถมานั่งเล่นพักผ่อนได้
เดินออกมาจะเจอกับสระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด กว้าง 8 เมตร ยาว 13 เมตร ลึก 1.2 เมตร โดยรอบปูกระเบื้องโมเสคสีน้ำเงินเข้ม บรรยากาศตรงนี้ดูๆไปคล้ายๆกับสระว่ายน้ำของรีสอร์ทเลยค่ะ
ภายในสระมีกั้นผนังเป็นสระเด็กตามภาพลึกประมาณ 60 เซนติเมตร
ด้านข้างสระว่ายน้ำ มีม้านั่งยาววางเรียงกันเอาไว้ให้นั่งพักผ่อน
ข้างๆสระว่ายน้ำเป็น Clubhouse การออกแบบมีกลิ่นอายโคโลเนียลนิดๆ มีการใช้หน้าต่างบานพับออกด้านข้างทำให้สามารถรับลมชมวิวได้เต็มๆ เดี๋ยวเราค่อยขึ้นไปดูข้างบนกันนะคะ
จากสระว่ายน้ำ เดินตรงไปทางขวาจะเจอทางขึ้นไปฟิตเนส ถัดไปเป็นทางไปพื้นที่นั่งเล่นชั้นบน
ขึ้นมาชั้นบนของ Clubhouse เป็นฟิตเนส ขนาดประมาณ 4.00 x 8.50 เมตร วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 5 – 6 เครื่อง
พอลงจากฟิตเนส เดินถัดมาจะเป็นทางขึ้นไปพื้นที่นั่งพักผ่อนชั้นบน ส่วนทางขวาเป็นทางไปห้องน้ำเอาไว้เปลี่ยนชุดหรือล้างตัวก่อนลงสระ
ห้องน้ำแยกหญิง ชาย ประตูทางเข้าอยู่ตรงข้ามกัน
ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโตลายหิน แบ่งออกเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
บรรยากาศในห้องน้ำ และ ห้องอาบน้ำ ผนังโดยรอบปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน
เดินออกมาฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นทางขึ้นไปชั้น 2 ส่วนนั่งเล่น ดีไซน์ทำออกมาคล้ายๆบ้านพักตากอากาศ
บันไดทางขึ้นลูกนอนมีการเซาะร่องเพื่อกันลื่น ด้านข้างมีติดตั้งไฟข้างบันไดเผื่อเวลากลางคืนเวลาลูกบ้านมาใช้งานจะได้เห็นทาง
บริเวณนั่งเล่นชั้นบน มีชุดที่นั่ง 2 -3 ชุด ฝ้าเพดานตกแต่งด้วยไม้ มีพัดลมติดเพดานสร้างบรรยากาศบ้านแบบไทยๆ
ฝั่งตรงข้ามบันไดที่เราขึ้นมาค่ะ
จากชั้นนี้ มองออกเป็นจะเห็นวิวสระว่ายน้ำแบบนี้
ราวกันตก และบานพับ วัสดุเป็นเหล็กทำสีดำค่อนข้างแข็งแรง
ออกมาจาก Clubhouse จะเป็นบ้านตัวอย่าง โดยตัวบ้านจะแบ่งเป็นล็อคๆ แต่ละล็อคจะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว ถนนย่อยระหว่างบ้านทั้งสองฝั่งกว้าง 9 เมตร
ฝั่งตรงข้าม Clubhouse เป็นสวนหย่อม ซึ่งโครงการนี้จะมีสวนหย่อมอยู่ทั้งหมด 2 จุด ตรงนี้จุดหนึ่งและในโครงการอีกจุดหนึ่ง
สวนหย่อมมีจัดสวนและลงต้นไม้ตามภาพ เพื่อเพิ่มความร่มรื่นให้กับโครงการสามารถมาเดินเล่นพักผ่อนได้
ถัดจากสโมสรและสวนเข้าไปช่วงกลางโครงการจะเจอป้อมยามอีกจุดหนึ่ง เป็น Double Security
ซูมให้เห็นป้อมยามอีกจุดหนึ่งค่ะ สำหรับโครงการที่มีแปลงที่ดินยาวๆมักจะมีปัญหาเรื่องยามดูแลไม่ทั่วถึงทั้งโครงการโดยเฉพาะบริเวณท้ายโครงการ การมี Double Security หรือ ป้อมยาม 2 ป้อม จะช่วยแก้ปัญหานี้ทำให้โครงการมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 13 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาดประมาณ 4 x 8.50 เมตร
- สวนหย่อม 2 จุด
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 54 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- สโมสร พร้อม Lobby และที่นั่งพักคอย
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- Double Security
- ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟ้า
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
- ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
โครงการ Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ บ้าน กัลปพฤกษ์ ที่ดิน 113 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 484 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และ บ้าน ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ที่ดิน 145.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 588 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปชมบ้านแบบ ราชพฤกษ์ กันนะคะ
บ้านราชพฤกษ์ เป็นบ้าน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 588 ตร.ม. ชั้นล่างเข้าบ้านมาจะเจอกับโถงซึ่งใช้แจกไปยังห้องต่างๆ ห้องแรกที่จะเจอทางฝั่งขวาเป็นห้องรับแขกซึ่งถ้ามีแขกมาติดต่ออาจจะให้นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อน ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันของ ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ส่วนเตรียมอาหาร และ ห้องครัว ซึ่งบ้านหลังนี้จะมีห้องรับแขก 2 ส่วนเป็น Double Living room ซึ่งห้องนั่งเล่นจะมีขนาดเล็กกว่าห้องรับแขก เอาไว้ใช้สำหรับนั่งเล่นกันภายในครอบครัว อยู่หลบมุมด้านใน มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ถัดไปเป็นห้องอาหารอยู่ติดกับส่วนเตรียมอาหารเอาไว้เตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆแล้วยกมาเสริฟได้เลย แต่ถ้าทำอาหารหนักๆก็ไปทำที่ห้องครัวใหญ่หลังบ้านค่ะ ฝั่งตรงข้ามส่วนเตรียมอาหารเป็นห้อง Home Theater ห้องเล็กๆเอาไว้ทำเป็นห้องดูหนังฟังเพลง ห้องทำงาน หรือปรับเป็นห้องนอนก็ได้ ติดๆกันเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ มีห้องน้ำและห้องแต่งตัวในตัว โดยด้านหน้าบ้านจะมีทางลาดสามารถเข็นรถเข็นขึ้นมาในห้องได้เลย ฝั่งตรงข้ามห้องนอนผู้สูงอายุเป็นห้องน้ำแขก บันได ห้องครัว และ ห้องแม่บ้าน โดยห้องครัวเป็นครัวปิดสามารถทำอาหารได้โดยกลิ่นไม่ออกไปรบกวนห้องอื่นๆ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงก่อน ถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นอีกห้องหนึ่ง ห้องนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเอาไว้สำหรับนั่งเล่น พูดคุย พบปะกันเฉพาะคนในครอบครัว ห้องนี้จะมีระเบียงด้วยซึ่งถ้ากั้นผนังทำเป็นห้องนอนก็จะเป็นห้องนอนที่มีระเบียงแต่ไม่มีห้องน้ำในตัว นอกนั้นห้องอื่นๆในชั้นนี้จะเป็นห้องนอนอีก 4 ห้อง ประกอบด้วย ห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง นอกนั้นเป็นห้องนอนเล็กอีก 3 ห้อง ทุกห้องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีห้องน้ำและห้องแต่งตัวแบบ Walk – in Closetในตัว ไม่มีระเบียงแต่จะมีหน้าต่างบานใหญ่เอาไว้เปิดรับลม ห้องนอนใหญ่จะมีหน้าต่างบริเวณหัวนอนสามารถเปิดออกมาเป็นห้องรับแขกชั้นล่างได้
มาดูบ้านของจริงกันค่ะ โดยหลังนี้เป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอย 588 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ การออกแบบตัวบ้านภายนอกตกแต่งด้วยสไตล์ลูกผสมระหว่าง Modern กับ Colonial โทนสีด้านนอกใช้โทนสีสว่างผสมกับสีน้ำตาลอ่อนๆ บ้านจะเน้นการใช้พื้นที่ใช้สอยในบ้าน ไม่เน้นระเบียง รอบๆบ้านมีที่ดินเหลือเยอะพอสมควร โดยเฉพาะบ้านแปลงมุม อย่างบ้านตัวอย่างข้างบ้านสามารถจัดเป็นสวนและสระว่ายน้ำในขอบเขตตัวบ้านได้
หน้าบ้านจอดรถได้ ประมาณ 3 คัน ประตูรั้วบ้านเป็นแบบรางเลื่อนแบบโปร่ง วัสดุเป็นเหล็กสีดำ เลื่อนมาเก็บทางด้านข้างตามภาพ
ข้างรั้วมีประตูเล็กสำหรับใช้เปิดเข้าออกในกรณีที่ไม่อยากเลื่อนเปิดประตูรั้ว หน้าบ้านมีกริ่ง ไฟหน้าบ้าน และตู้จดหมายมาให้
บริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน โครงสร้างเป็นแบบ Slab on beam วัสดุพื้นที่ให้มาเป็นคอนกรีต ก่อนทางเข้าบ้านมีตู้เก็บของเล็กๆอยู่ และมีประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถ ซึ่งเวลาถือของหนักๆก็สามารถเอาเข้าบ้านจากประตูนี้ได้เลย
ตู้เก็บของเป็นบานเกร็ดสีขาว สามารถเปิดออกมาเก็บของเล็กๆน้อยๆได้
ส่วนประตูทางเข้าจากที่จอดรถ เป็นประตูบานไม้ ลูกฟักกระจก ข้างๆประตูมี Key Switch สำหรับไขควบคุมการเปิด – ปิดของระบบป้องกันขโมยทั้งบ้าน
หันมาด้านข้างจะเป็นทางเดินไปประตูหน้าบ้าน บริเวณนี้จะมีทางขึ้นไปห้องนอนผู้สูงอายุเป็นทางลาดซึ่งทางโครงการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ฟังก์ชั่นตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงอายุมากที่สุด สามารถเข็นรถเข็นขึ้นไปที่ห้องได้เลย บริเวณหน้าบ้านนี้ทางโครงการลงต้นไม้มาให้ตามภาพ
เดินถัดมาจะเจอทางเข้าบ้าน มีบันไดยกระดับขึ้นไปประมาณ 3 ขั้น หน้าบ้านมีติดไฟส่องสว่างมาให้ ขึ้นไปจะเจอเฉลียงเล็กๆก่อนเข้าบ้าน จากตรงนี้ถ้าเราเดินต่อไปจะเป็นพื้นที่สวนข้างบ้าน
พื้นที่ข้างบ้านมีที่ดินเหลือพอสมควร ถ้าเป็นแปลงมุมจะมีที่ค่อนข้างเยอะอย่างบ้านตัวอย่างหลังนี้จัดเป็นสวน และสระว่ายน้ำได้แบบนี้
แต่ถ้าเป็นบ้านแปลงกลาง ที่ดินด้านข้างก็จะเหลือประมาณนี้ค่ะ
สุดทางเดินจะเป็นที่ทิ้งขยะค่ะ
ด้านหลังบ้านมีพื้นที่ดังภาพ และมีพื้นที่สามารถจัดสวนเป็นไม้พุ่มได้
อ้อมมาจนถึงด้านข้างบ้านอีกฝั่งหนึ่งเป็นโซนของแม่บ้าน , ครัว และลานซักล้าง ซึ่งถือว่าเป็นส่วน Service ของบ้านหน้าบ้านมีลงต้นไม้ใหญ่มาให้
เดินมาจนถึงหน้าบ้าน ประตูทางเข้าบ้านเป็นบานเปิดคู่ประตูไม้ ลูกฟักกระจก Stain Glass เปิดออกมาจะเจอกับโถงพักคอย บ้านในโครงการนี้จะมีระบบ Magnetic คือระบบป้องกันการงัดแงะโดยระบบจะระบุตำแหน่งประตูที่เปิดอยู่ กับระบบ Shock Sensor ตรวจจับการสั่นสะเทือนของกระจก โดยจะมีตัวรับสัญญาณติดอยู่ที่ประตูหน้าต่างทุกบาน
มือจับประตูทองแดงรมดำ ข้างหนึ่งมีตัวล็อคอีกข้างทำหลอกให้ทั้ง 2 ข้างสมมาตรกัน รูปทรงดูค่อนข้างแข็งแรง
พอเข้าตัวบ้านมาจะขอแยกอธิบายเป็นส่วนๆนะคะ โดยส่วนแรกจะเป็นส่วนห้องโถง ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร และ ส่วนเตรียมอาหาร
เข้ามาในบ้านจะเจอกับโถงก่อน ซึ่งโถงนี้จะแจกไปส่วนต่างๆของตัวบ้าน เทียบกับบ้านมาตรฐานฝ้าเพดานจะเป็นฝ้าเรียบสูง 3 เมตร ไม่มี Drop ฝ้าซ่อนไฟเหมือนบ้านตัวอย่าง ทางฝั่งขวาเป็นทางไปห้องรับแขก ถ้าตรงไปจะเป็นห้องอาหาร ครัวฝรั่ง และ ห้องนั่งเล่น พื้นชั้นล่างจะเป็นพื้นหิน Verona ขนาด 60 x 60 cm. ผนังจะมีแถม Wallpaper ให้แบบในบ้านตัวอย่าง
จากห้องโถงหันมาทางขวาจะเจอกับห้องรับแขกก่อน ซึ่งพื้นที่ตรงที่เป็น Double Space ฝ้าเพดานสูง
พื้นที่ตรงส่วนนี้นอกจากฝ้าเพดานที่สูงแล้วยังมีช่องแสงจากหน้าต่าง ทำให้ห้องดูโปร่งและโล่งอีกด้วย
เทียบให้เห็นบ้านตัวอย่างฝ้าเพดานจะมีการตกแต่งเล่นระดับ ซ่อนไฟ ส่วนฝ้าเพดานของบ้านมาตรฐานจะเป็นฝ้าเรียบ ฝ้าเพดานสูงโปร่ง มีหน้าต่างรอบด้าน บานด้านล่างเป็นบ้านเลื่อนเปิดรับลมได้ ส่วนด้านบนเป็นบาน Fix
ชั้นบนฝั่งห้องนอนใหญ่จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดออกมาเห็นพื้นที่บริเวณห้องรับแขกนี้ได้ค่ะ
เทียบอีกมุมหนึ่งจะเห็นว่าทางด้านซ้าย บ้านมาตรฐานจะไม่มีผนังกระจกกั้นนะคะ จะเป็นพื้นที่ต่อโล่งต่อเนื่องกันไปเลย หน้าต่างบริเวณส่วนนี้ค่อนข้างเยอะทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาทำให้บ้านดูโปร่ง แต่ในเวลากลางวันอาจจะร้อนหน่อยต้องหาม่านหรือมู่ลี่สวยๆอย่างบ้านตัวอย่างมาติดก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ตัวบ้านและกันแดดได้ด้วยค่ะ
ฝั่งที่หันไปทางประตูทางเข้า บ้านตัวอย่างกั้นผนังเพิ่มเติม ทำให้ห้องมีความเป็นส่วนตัวขึ้นและBuilt – in เป็นชั้นหนังสือเพิ่มเติม เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย
เดินถัดจากโถงมาจะเจอกับห้องรับประทานอาหาร และ ครัวฝรั่งซึ่งพื้นที่บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น
ด้านหลังโต๊ะกินข้าวมีมุมนั่งอ่านหนังสือ วางชุดที่นั่งเล็กๆได้ประมาณ 2 ชุด ด้านหลังเป็นหน้าต่างบานกระจกมองไปเห็นสวนหลังบ้านค่ะ
เทียบกับบ้านมาตรฐาน
ห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับสวนข้างบ้านมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปใช้พื้นที่สวนได้
พื้นที่ข้างบ้าน บ้านตัวอย่างจัดพื้นที่เป็นสระว่ายน้ำค่ะ
บรรยากาศอีกมุมหนึ่ง
มุมมองย้อนกลับจากสวนข้างบ้าน ไปที่ห้องอาหารค่ะ จะเห็นว่าพื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันเลย เนื่องจากได้รับแสงจากหน้าต่างรอบๆบ้านและบ้านมีระยะไม่ลึกมาก ภายในจึงไม่มืด
พื้นที่ครัวฝรั่งสามารถจัดเป็นเคาน์เตอร์ตัว L มี Island ตรงกลาง ได้เหมือนในภาพเลย เทียบกับบ้านมาตรฐานเป็นห้องโล่งๆแต่มีเดินงานระบบเผื่อเอาไว้ให้
ส่วนต่อมาเป็นส่วนพักผ่อนที่ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอย่างห้อง Home Theater และ ห้องนอนผู้สูงอายุ ถัดเข้าไปจะเป็นส่วน Back of the house ของบ้านคือ ห้องครัว ห้องแม่บ้าน และ ลานซักล้าง
ฝั่งตรงข้ามครัวฝรั่ง เป็นห้อง Home Theater กั้นด้วยประตูบานเลื่อน โดยห้องนี้อาจจะปรับเปลี่ยนจัดพื้นที่ใช้สอยเป็นห้องอ่านหนังสือก็ได้หรือห้องนอนอีกห้องก็ได้ค่ะ
พื้นห้อง Home Theater เป็นพื้นไม้ ปูชิดกับพื้นหินเก็บงานค่อนข้างดีค่ะ
ห้องนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ถ้าจัดเป็นห้องนั่งเล่นดูทีวีก็สามารถวางโซฟาตัวยาวได้ 1 ชุด มีหน้าต่างบ้านเลื่อน 1 บาน ขนาดบานค่อนข้างใหญ่ ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบ
ถัดจากห้องอเนกประสงค์เข้ามาจะเจอกับโถงซึ่ง เป็นส่วนที่เชื่อมไปยังห้องต่างๆ ทางด้านซ้ายมี ห้องนอนผู้สูงอายุ ส่วนทางด้านขวาข้างหน้าเป็น ห้องน้ำ บันไดทางขึ้นชั้น 2 และห้องครัวตามลำดับค่ะ ข้างห้องผู้สูงอายุจะมีแผงควบคุมสัญญาณกันขโมยติดตั้งอยู่
หน้าตาแผงควบคุมสัญญาณกันขโมยค่ะ
ภายในห้องน้ำแขกพื้นและผนังปูด้วยหินอ่อน ห้องนี้จะมีเพียงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ไม่มีพื้นที่อาบน้ำค่ะ
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้องโถงเล็กน้อย
อ่างล้างหน้ายี่ห้อ COTTO ด้านล่างเป็นตู้เปิดออกมาเก็บของได้ Top เคาน์เตอร์เป็นหินอ่อน
โถสุขภัณฑ์ของ COTTO เช่นกันค่ะ
ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ห้องนี้จะพิเศษหน่อยตรงที่ ทางโครงการดีไซน์รายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ห้องนี้เป็นห้องแนวยาวสามารถวางเตียงและโซฟาประมาณ 2 ที่นั่งได้ พื้นเป็น Soft Floor ลดแรงกระแทกที่เวลาเดินแล้วจะได้สัมผัสนุ่มเท้า ทางด้านขวาใกล้ๆกับประตูบานเลื่อนเป็นทางไปห้องน้ำ และ Walk in Closet ด้านในมีประตูบานเลื่อนออกไปหน้าบ้านได้
ห้องนี้บริเวณระเบียงจะมีทางลาดลง เอาไว้ใช้สำหรับรถเข็นผู้สูงอายุ
ระหว่างพื้นระเบียงกับพื้นห้องเป็นระดับเดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุจะได้เดินไม่สะดุด และ สามารถเลื่อนรถเข็นออกได้โดยง่าย
ฝั่งตรงข้ามเตียงเป็น Walk in Closet
Walk in Closet จัดพื้นที่เป็นตู้เข้ามุมทรงตัวแอลตามภาพ
ถัดจาก Walk in Closet เป็นทางไปห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำบรรยากาศโดยรวมดูสว่าง ใช้กระเบื้องแกรนิตโตแบบกันลื่น ห้องนี้จะไม่มีการลดระดับแต่พื้นจะเป็น Slope ลงไปเรื่อยๆ และมีการติดตั้งอุปกรณ์ราวจับสำหรับผู้สูงอายุมาให้
พื้นเป็นไม่มีลดระดับเพื่อให้ผู้สูงอายุเข็นรถเข็นเข้ามาได้ แต่พื้นจะเป็น Slope ลาดเอียงลงไปเรื่อย ช่องระบายน้ำจะเป็นเส้นยาวๆที่เป็นเส้นสแตนเลสตามในภาพ เวลามีน้ำมาก็จะถูกระบายลงไปในช่องนี้ค่ะ
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ายี่ห้อ COTTO แบบเดียวกับห้องน้ำแขก
ด้านข้างเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีช่องเอาไว้เก็บของ ด้านข้างอ่างล้างหน้ามีติดราวจับซึ่งสามารถพับขึ้นลงได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ
สุขภัณฑ์ของห้องน้ำห้องนี้เป็นแบบอัตโนมัติ
บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีราวจับและที่นั่งแบบพับมาติดตั้งมาสำหรับผู้สูงอายุ ฝักบัวเป็นของGrohe
ที่นั่งเวลาอาบน้ำก็สามารถพับลงมานั่งอาบได้
ออกจากห้องนอนมา ทางฝั่งขวาเป็นห้องครัว ประตูสุดทางเดินเป็นทางออกไปประตูที่จอดรถ
ก่อนถึงห้องครัวจะมีตู้เก็บของมาให้ สามารถเก็บรองเท้าหรือของใช้เล็กๆน้อยๆได้
ห้องครัวเป็นครัวปิดสามารถทำอาหารต้ม ผัด แกง ทอดได้เต็มที่ มีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศ ในบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องโล่งๆเผื่องานระบบไว้ให้ค่ะ
พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต ขนาด 60 x 60 cm.ส่วนพื้นห้องโถงเป็นหินอ่อน บริเวณรอยต่อปูชิดกันแบบนี้เก็บงานค่อนข้างเรียบร้อย
ในห้องครัว ข้างๆเคาน์เตอร์มีประตูออกไปทางหลังบ้าน
เปิดออกไปจะเจอกับส่วนของห้องพักแม่บ้าน
ห้องแม่บ้านมีมาให้ 2 ห้อง มีหน้าต่างภายในห้องทุกห้อง
ฝั่งตรงข้ามห้องแม่บ้านจะเป็นห้องน้ำ
บานประตูเป็นบาน HDF สีขาว ภายในห้องน้ำมีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก
ถัดจากพื้นที่ห้องพักแม่บ้านเป็นลานซักล้าง มีเดินงานระบบเผื่อไว้ให้
เราดูชั้น 1 มาครบแล้วต่อไปเราจะพาไปดูที่ชั้น 2 นะคะ โดยบันไดจะอยู่ระหว่างห้องน้ำกับห้องครัว บ้านหลังนี้จะไม่เน้นโถงบันไดใหญ่ๆแต่เน้นการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้ลงตัว ด้านล่างของบันไดทำเป็นห้องเก็บของ
บันไดทั้งลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้มะค่าทำสีธรรมชาติ บันไดขั้นแรกมีลบมุมเพื่อกันกระแทก
เดินตรงขึ้นไป บริเวณชานพักมีช่องแสง ทำให้บริเวณบันไดไม่มืด ราวบันไดเป็นราวเหล็กสีดำ Worght iron โถงบันไดกว้าง 1.20 เมตร
ขึ้นมาจะเจอชานพักเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได
ขึ้นมาพื้นชั้นบนจะเป็นพื้นไม้ปาร์เก้มะค่า
มุมมองย้อนกลับลงไปจะเห็นว่า บริเวณโถงจะมีหน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสง ทำให้พื้นที่ตรงนี้ไม่มืด
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับส่วนโถงก่อน ห้องพักจะแบ่งออกเป็น 2 ปีก ซ้ายและขวา เราไปดูทางฝั่งปีกซ้ายกันก่อนนะคะ
ขึ้นมาจะเจอกับห้องนั่งเล่นอีกห้องหนึ่งก่อน เอาไว้นั่งเล่นพบปะพูดคุยกันเฉพาะคนในบ้าน บ้านตัวอย่างกั้นพื้นที่ไว้ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พื้นของชั้น 2 จะเป็นพื้นปาร์เก้ ไม้มะค่าทั้งชั้น ฝ้าเพดานสูง 3.00 เมตรค่ะ
ภายในห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟายาว 3 ที่นั่งได้ โดยห้องนี้จะมีระเบียงด้วย ถ้าเราไม่ใช้พื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นก็สามารถกั้นเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งได้
ฝั่งตรงข้ามบ้านตัวอย่าง Built – in ผนังเป็นชั้นวางของและชั้นวางทีวี
ระเบียงของห้องนี้ค่อนข้างกว้าง วัสดุเป็นกระเบื้องเซรามิคผิวด้าน มีพื้นที่สำหรับออกมานั่งสูดอากาศ สามารถวางชุดที่นั่งเล็กๆได้
ถัดจากห้องนั้งเล่นมาจะเป็นทางไปห้องนอน ฝั่งที่เราจะพาไปดูเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง
ห้องแรกเข้ามา ทางฝั่งขวาจะเป็น Walk in Closet และ ห้องน้ำ
Walk in Closet วางตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่งซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่โครงการกั้นเพิ่มมา ซึ่งบ้านมาตรฐานจะไม่มีกั้นมาให้ ถัดไปเป็นห้องน้ำ
ห้องน้ำบรรยากาศและการใช้วัสดุคล้ายๆกับห้องอื่นๆ แบ่งเป็นส่วนแห้งกับส่วนเปียกชัดเจน พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 95 x 197 cm. ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ซึ่งเราสามารถหามาติดเพิ่มเองได้ค่ะ
สุขภัณฑ์เป็นของ COTTO รูปแบบเดียวกับห้องข้างล่าง
ส่วนอาบน้ำฝักบัวเป็นของ Grohe มีชั้นวางสบู่แถมมาให้ด้วย
พื้นที่อาบน้ำมีลดระดับลงมาเล็กน้อยพอกันน้ำไม่ให้ไหลไปโดนส่วนแห้งได้
เดินเข้ามาจะเจอกับส่วนของห้องนอนค่ะ สามารถวางเตียง 5 ฟุตแล้วมีพื้นที่เหลือพอสมควรสามารถวางตู้ปลายเตียงได้ ห้องนี้ไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างอยู่หลายบานสามารถเปิดระบายอากาศได้
มุมมองกลับไปทางประตูจะเห็นว่าปลายเตียงมีระยะเหลือพอสมควร
ห้องถัดไปอีกห้องก็เป็นห้องนอน ห้องนี้จะมีหน้าต่างเยอะหน่อยแต่จะไม่มีระเบียงเช่นกัน ห้องนี้พื้นที่ Walk in Closet จะอยู่บริเวณปลายเตียง
ภายในบ้านตัวอย่างจัดบรรยากาศมาให้ดูเป็นแบบนี้ค่ะ
ถัดจาก Walk in Closet ไปจะเป็นห้องน้ำ
บรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ ห้องนี้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้มีช่องแสงระบายอากาศอยู่ด้านบน โถสุขภัณฑ์ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้
มีแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งเช่นกันแต่จะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ พื้นที่อาบน้ำขนาด 90 x 185 cm.
ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องนอนเล็กอีกห้อง และ ห้องนอนใหญ่ค่ะ
เรามาดูอีกฝั่งหนึ่งต่อนะคะ ฝั่งนี้ก็มีห้องนอน 2 ห้องเช่นกัน ประกอบด้วย ห้องนอนเล็ก 1 ห้อง และ ห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง
ห้องนี้ขนาดพอๆกับ 2 ห้องทางที่ผ่านมา ห้องค่อนข้างกว้าง วางเตียง 5 ฟุตแล้วมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโซฟา และ ตู้เก็บของปลายเตียง
ฝั่งตรงข้ามเตียงที่เห็นกั้นด้วยประตูบานเลื่อนจะเป็น Walk in Closet และ ห้องน้ำ
ภายในห้อง Walk in Closet จัดเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องเก็บของ
ถัดเข้ามาจะเป็นห้องน้ำค่ะ แยกเป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียกมาให้ แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำ
สุขภัณฑ์ของ COTTO รูปแบบเดียวกันกับห้องที่ผ่านมา
ห้องนี้พื้นที่อาบน้ำมีปูกระเบื้อง ซึ่งลายกระเบื้องจะเป็นแบบนี้มาให้เลยค่ะ ได้อารมณ์แบบไทยๆตามแนวความคิดโครงการ
ห้องนอนห้องสุดท้ายคือ ห้องนอนใหญ่ ห้องนี้ค่อนข้างกว้าง ไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างเปิดออกมาสูดอากาศได้
มีติดตั้งแผงควบคุมสัญญาณกันขโมยติดตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆหน้าต่าง ถ้ามีบานประตูหรือหน้าต่างบานไหนเปิดอยู่สัญญาณก็จะโชว์ที่ป้ายนี้ค่ะ
ปลายเตียง บ้านตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน โดยวางโซฟา 2 ที่นั่งและโต๊ะกลาง
ฝั่งด้านข้างเตียง มีทางไป Walk in Closet ค่ะ
ประตูห้อง Walk in Closet เป็นประตูบานเลื่อนกระจกกรอบอะลูมิเนียมสีขาวค่ะ
สำหรับห้องน้ำของห้องนี้ มีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนดี มีกั้นผนังกระจกแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้ง สุขภัณฑ์จะอัพเกรดกว่าห้องอื่นๆ มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นเคาน์เตอร์ใหญ่ 2 อ่าง พื้นห้องน้ำห้องนี้เป็นหินอ่อน
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าขนาดค่อนข้างใหญ่ มีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ
Top เคาน์เตอร์เป็นหินอ่อนวางอยู่ด้านบนอ่างล้างหน้า
ด้านข้างเคาน์เตอร์มีปลั๊กติดหน้ากากกันน้ำอยู่
พื้นที่อาบน้ำมีกั้นกระจกนิรภัยมาให้ ส่วนโถสุขภัณฑ์อยู่ข้างๆกัน
พื้นที่อาบน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่ มีกั้นกระจกนิรภัยมาให้
โถสุขภัณฑ์ของ COTTO
ฝักบัวเป็นของ Grohe ด้านข้างฝักบัวมีทำเป็นชั้นวางของเล็กๆน้อยๆจำพวกแชมพู
ฝั่งตรงข้ามเป็นอ่างอาบน้ำ
ฝักบัวตรงอ่างอาบน้ำสามารถดึงยืดออกมาได้แบบนี้ค่ะ
ปิดท้ายด้วย หน้าตาสวิทซ์และปลั๊กของ siemens ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 May 2016
- บ้านกัลปพฤกษ์ แปลง 8 พื้นที่ใช้สอย 484 ตร.ม. ที่ดิน 120 ตร.วา ราคา 33.9 ล้านบาท หรือ 282,500 บาท/ตร.วา
- บ้านกัลปพฤกษ์ แปลง 5 พื้นที่ใช้สอย 484 ตร.ม. ที่ดิน 124.5 ตร.วา ราคา 32.9 ล้านบาท หรือ 264,257 บาท/ตร.วา
- บ้านราชพฤกษ์ แปลง 3 พื้นที่ใช้สอย 588 ตร.ม. ที่ดิน 145.5 ตร.วา ราคา 34.9 ล้านบาท หรือ 239,862 บาท/ตร.วา
- บ้านราชพฤกษ์ แปลง 12 พื้นที่ใช้สอย 588 ตร.ม. ที่ดิน 170 ตร.วา ราคา 45.5 ล้านบาท หรือ 267,647 บาท/ตร.วา
- เงินจอง 300,000 บาท
- เงินดาวน์ 20%
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
- ค่าส่วนกลาง 44 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ตั้งอยู่บนถนน พรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 หรือที่มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ถนนพระเทพฯตัดใหม่ ถนนที่เชื่อมถนน จรัญสนิทวงศ์ เข้ากับ ถนนราชพฤกษ์ และ ถนนกาญจนาภิเษก จุดประสงค์เพื่อช่วยระบายการจราจรจากถนนจรัญสนิทวงศ์ที่เป็นถนนสายยาว ไม่มีแยกและไม่มีทางด่วน ถนนสายนี้ในปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างยังไม่ได้เปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการเนื่องจากช่วงปลายสาย บริเวณแยกไฟฉายยังมีการขุดอุโมงค์ทางลอดกันอยู่ แต่ก็มีรถมาใช้วิ่งบ้างแล้ว ถ้าเสร็จแล้วคาดว่าน่าจะเป็นเส้นที่มีความเจริญและโครงการน้อยใหญ่เข้ามาก่อสร้างมากพอสมควร โดยการพัฒนาของถนนเส้นนี้น่าจะคล้ายๆกับถนน ราชพฤกษ์ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นย่านของบ้านระดับ High End ที่มีโครงการมาพัฒนาจนเกือบเต็มพื้นที่ เช่น Q Twelve , ลดาวัลย์ , เศรษฐสิริ เป็นต้น และราคาที่ดินบริเวณนี้ก็ปรับตัวสูงขึ้นจากแต่ก่อนจน ตอนนี้แตะตารางวาละมากกว่าแสนไปแล้ว
ความเจริญบนถนนเส้นนี้ก็อาจจะต้องรออีกซักพัก เหมือนกับถนนราชพฤกษ์ในตอนแรกๆที่อาจจะเงียบเหงาหน่อย พอมีคนมาอยู่เยอะขึ้นก็จะมีความเจริญโดยรอบพื้นที่ตามมาเอง โดยตอนนี้ถนนตัดใหม่นั้นตอนนี้เริ่มมีผู้ประกอบการรายใหญ่มาพัฒนาโครงการแล้ว เช่น The Palazzo จรัญฯ – ราชพฤกษ์ ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว นอกนั้นพื้นที่ในย่านนี้ยังมีที่ดินเปล่าเหลืออยู่ค่อนข้างเยอะซึ่งในอนาคตน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องค่ะ ที่ตั้งของโครงการอยู่ค่อนมาทางถนน ราชพฤกษ์มากกว่าถนนจรัญฯ พื้นที่รอบๆโครงการไม่มีตึกสูงมาบดบังทัศนียภาพเนื่องจากตามผังเมืองไม่สามารถสร้างอาคารสูงได้ โดยถนนราชพฤกษ์เป็นเส้นที่มีความเจริญ และ ความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านอาหารทั้งเล็กใหญ่อย่างร้านกุ้งเต้น , ปลาอยู่เย็น ร้านอาหารที่มี Concept ตกแต่งน่ารักๆมาเปิด เช่น โครงการ The Bloc ที่มีร้านเค้กรูปหมี อย่าง Think cafe และ Villa de Bear ร้านอาหารในสไตล์ฮอนแลนด์ที่มี Mascot เป็น หมี Villy อยู่หน้าร้าน หรือจะเป็น Community mall คู่ใจคนย่านนี้อย่าง The Circle
การเดินทางโดยใช้รถ ถ้าถนนพระเทพฯตัดใหม่เปิดให้ใช้บริการ จะทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวกเพราะถนนเส้นนี้ตัดกับถนนายสำคัญหลายสาย เช่น ถนน จรัญสนิทวงศ์ , ถนน ราชพฤกษ์ , ถนน พุทธมณฑล สาย 1 และ ถนน กาญจนาภิเษก ซึ่งถนนกาญจนาภิเษกใช้เชื่อมออกไปทางถนนพระราม 2 และ ถนน รัตนาธิเบศร์ ได้อีกด้วย สำหรับซอยลัดในตอนนี้ก็จะมีซอย จรัญสนิทวงศ์ 35 และ ซอย จรัญสนิทวงศ์ 13 ใช้เชื่อมออกไปถนน จรัญสนิทวงศ์ได้ แต่บริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ – ราชพฤกษ์นั้นไม่มีทางด่วนในบริเวณใกล้เคียง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการจราจรที่ติดขัดจะต้องไปขึ้นที่ทางด่วนบริเวณสะพานตากสิน หรือ ทางด่วนยมราช แต่ในอนาคตจะมีโครงการทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีการสร้างทางด่วนบริเวณใกล้กับโครงการ โดยทางขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางขึ้น-ลง ราชพฤกษ์ อยู่บริเวณจุดตัดของถนนบรมราชชนนีกับถนนราชพฤกษ์ โดยมีกำหนดจะเปิดใช้บริการในปี 2559 การมาของทางด่วนจะทำให้การเดินทางของคนละแวกนี้สะดวกขึ้นมาก
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เนื่องจากที่ตั้งโครงการตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่ซึ่งรถโดยสารสาธารณะยังไม่มีวิ่งผ่านมากนัก จะมีก็แต่รถประจำทางสาย 89 ที่วิ่งผ่านถนน ราชพฤกษ์ และ วินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ที่บริเวณจุดตัดระหว่างถนน บรมราชชนนีกับถนนราชพฤกษ์ โครงการอยู่ติดถนนใหญ่จึงสามารถเรียก มอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ได้ง่าย ในอนาคตถ้าถนนเปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการน่าจะมีรถโดยสารสาธารณะผ่านมากขึ้น สำหรับโครงการรถไฟฟ้าโดย บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ตอนนี้กำลังมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ–ท่าพระ ซึ่งในตอนนี้ก่อสร้างไปได้เยอะความเหมือนกันคาดว่าอีกไม่กี่ปีคงได้เปิดใช้กัน
วัสดุที่ทางโครงการให้ ให้ตามมาตรฐานโครงการระดับหรู เช่น พื้นไม้ปาร์เก้ไม้มะค่า สุขภัณฑ์ที่ให้เกรดค่อนข้างดีหน่อย ส่วนโถงจะเป็นพื้นหินอ่อน ห้องน้ำให้เป็น กระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน และ พื้นหินอ่อน บานประตูหน้าบ้านให้เป็น บานประตูไม้สักค่อนข้างแข็งแรง ส่วนบานประตูทั่วๆไปเป็น บานประตู H.D.F และ UPVC
การออกแบบบ้านได้รับแรงบันดาลใจมาจากย่านวังหลังที่มีสถาปัตยกรรมเก่าๆ สไตล์ Colonial การวางผัง ค่อนข้างดี มีการแบ่งตัวบ้านออกเป็นบล็อคแต่ละบล็อคจำนวนไม่มากทำให้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว มีซุ้มประตู 2 ซุ้ม ซึ่งความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเป็นจุดเด่นของโครงการในระดับนี้ การวางผังโครงการเข้ามาจะเจอกับ Club House ก่อน ด้านในจึงจะเป็นส่วนบ้านพักอาศัย การวางผังตัวบ้านส่วนใหญ่จะวางตัวในแนวเหนือ – ใต้ ช่วยให้ตัวบ้านไม่ต้องรับแดดบ่าย ทำให้บ้านไม่ร้อน แบบบ้านมีให้เลือก 2 แบบคือ ราชพฤกษ์ และ กัลปพฤกษ์ซึ่งมีการจัดพื้นที่ใช้สอยในบ้านคล้ายๆกันแต่บ้าน ราชพฤกษ์จะมีขนาดใหญ่ และจำนวนห้องที่เยอะกว่า การจัดพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างดีเเบ่งห้องได้ลงตัว มี Space ที่เชื่อมต่อกัน ห้องนอนจัดให้มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง และมีห้องผู้สูงอายุซึ่งทางโครงการค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียดมีการทำทางลาด การติดตั้งราวจับ และการไม่ทำพื้นยกระดับ ซึ่งในเชิงปฎิบัติผู้สูงอายุสามารถอยู่ได้จริง และค่อนข้างจะตอบโจทย์ ถือว่าทำออกมาได้ดี
สาธารณูปโภค มี คลับเฮ้าส์ ที่มีฟรี Wi-Fi , สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 13 เมตร , ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง , พื้นที่นั่งพักผ่อน , สวนหย่อม , พื้นที่ส่วนกลางถ้าเทียบกับขนาดโครงการอาจจะดูเล็กไปนิด แต่ก็จะทำให้เวลาแบ่งผังตัวบ้านได้ที่ดินมากขึ้น พื้นที่สีเขียวมีกระจายอยู่โดยรอบโครงการ บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างร่มรื่น ส่วนระบบความปลอดภัยก็ให้มาดี มีพี่ยามดูแลความปลอดภัยให้ มีซุ้มประตู 2 ซุ้ม ด้านหน้า 1 ช่วงกลางโครงการอีก 1 ซุ้ม และมี ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 54 จุด , Key Card Access ระยะใกล้ , สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
Judgement
Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ที่มีราคาขายระดับ 30 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการลักษณะนี้ค่ะ
BOTTOM LINE
Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ ระดับหรู มีจำนวนยูนิตน้อย ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณในการซื้อบ้าน 30 ล้านขึ้นไป มองหาหมู่บ้านที่มีความ Private สูง มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด อยู่ในทำเลที่ไกลเมืองหน่อยแต่เดินทางสะดวก ร้านอาหารเยอะ เน้นความชอบและงานออกแบบที่ถูกใจตัวเอง ไม่เน้น Facility
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )