..รีวิวฉบับที่ 2770 วันนี้พามารีวิวบ้านใกล้ห้างเมกาบางนากันอีกแล้ว กับโครงการ Como Bianca II Bangna (โคโม่ เบียงก้า 2 บางนา) จาก อารียา พรอพเพอร์ตี้ โดยที่นี่จะมีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดให้เลือกครับ การออกแบบมีความน่าสนใจต่างจากเพื่อนบ้านรอบๆไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟังก์ชัน และขนาดโครงการ ปัจจุบันโซนแรกด้านหน้าๆขายหมด และมีลูกบ้านเริ่มเข้าอยู่แล้วเรียบร้อย ตอนนี้จะเป็นคิวของบ้านที่อยู่ในโซนใกล้ Clubhouse และสวนส่วนกลางที่อยู่ด้านใน ใครสนใจโครงการนี้ต้องห้ามพลาดกับจุดเด่นต่างๆดังนี้

  • ทำเลใกล้ห้างเมกาบางนาและวงแหวนกาญจนาภิเษก สามารถเดินทางได้สะดวก และเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง
  • โครงการยูนิตน้อย มีความเป็นส่วนตัวสูง
  • ออกแบบบ้านแบบ Open Plan มีความกว้างขวางและฟังก์ชันยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ และมีมุม Bay Window + Terrace ที่น่าใช้งาน
  • Master Bedroom มีขนาดใหญ่ ฝ้าสูงถึง 3 m. มาพร้อมห้องน้ำส่วนตัวและทำ Walk-in Closet จริงจังเพิ่มได้อีกด้วย

ข้อมูลโครงการ

Como Bianca II Bangna (โคโม่ เบียงก้า 2 บางนา) ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567

 ชื่อโครงการ   Como Bianca II Bangna (โคโม่ เบียงก้า 2 บางนา)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   MAIN – UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนน บางนาตราด กม.10 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
 ที่ดิน 20-1-38.9 ไร่
 จำนวนยูนิต 109 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์
    – ราคาเริ่มต้น 8.29 ล้านบาท*
  • บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 37.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 174 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์
    – ราคาเริ่มต้น 6.29 ล้านบาท*

 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ       n/a บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี พ.ศ. 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี n/a
 เว็บไซต์โครงการ  https://pg.thinkofliving.com/ComoBiancaIIBangna
 โทร   1797

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ใกล้ห้างเมกาบางนา และวงแหวนกาญจนาภิเษกเพียง 2 – 3 km.
  • ซอยที่ตั้งสามารถเชื่อมต่อและเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ทำให้เดินทางสะดวก
  • บรรยากาศซอยเงียบสงบเป็นส่วนตัวสูง

พิกัด Google Maps : 13.627622731774268, 100.68276963469899
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

วันนี้เราพามาเยือนอาณาจักรของอารียาในย่านบางนา ซึ่งเค้ามีที่ดินตรงใกล้ๆเมกาบางนามากกว่า 500 ไร่ โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นเค้ามีการพัฒนาเป็นโครงการต่างๆเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว แน่นอนว่าอนาคตเราก็คงจะได้เห็นเพิ่มกันอีกครับ ใครที่เป็นแฟนคลับอารียาหรือกำลังมองหาที่อยู่อาศัยในย่านนี้ก็รอติดตามกันได้เลย

และโครงการล่าสุดที่เราจะพามาชมกันวันนี้คือ Como Bianca II Bangna (โคโม่ เบียงก้า 2 บางนา) เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมกาบางนา โดยเข้าซอยมาประมาณ 2 – 3 km. แต่ก็สามารถเชื่อมต่อและเข้า-ออกได้ถึง 3 เส้นทางคือ ซอยหน้าคอนโดเอสเปซมีที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี ซึ่งเป็นซอยหลักที่เราสามารถไปเมกาบางนา หรือจะไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปออกถนนบางนา-ตราด ได้โดยตรงจากซอยมหาชัย และไปออกถนนกิ่งแก้วได้จากซอยหมู่บ้านบางพลีนิเวศน์ได้อีกด้วย

เรียกได้ว่าทำเลเป็นสิ่งที่ค่อนข้างโดดเด่นไม่น้อยสำหรับโครงการนี้ นอกจากนี้ยังใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดของย่าน ที่อนาคตยังจะกลายเป็นโปรเจค Mixed-Use ขนาดใหญ่ ที่มีทั้งออฟฟิศและโรงแรมเพิ่มเติมอีกด้วย รวมถึงยังใกล้ตลาด โรงเรียน สนามบินสุวรรณภูมิ และนิคมต่างๆอีกด้วยครับ อนาคตได้ข่าวมาว่าอาจมีการเวนคืนและทำซอยเชื่อมต่อกับถนนหนามแดง-บางพลี และเทพารักษ์อีกด้วย ซึ่งก็จะช่วยทำให้การเดินทางสะดวกและหลากหลายมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูในอนาคตอีกทีครับ

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :

Image 1/3
จุดที่ใกล้ที่สุดคือ วงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเราสามารถขึ้นตรงบริเวณแถวๆหน้าปากซอยคอนโดเอสเปซได้เลยครับ ระยะทางประมาณ 2.7 km. สามารถไปทางสมุทรปราการ สุขุมวิท พระราม 2

จุดที่ใกล้ที่สุดคือ วงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเราสามารถขึ้นตรงบริเวณแถวๆหน้าปากซอยคอนโดเอสเปซได้เลยครับ ระยะทางประมาณ 2.7 km. สามารถไปทางสมุทรปราการ สุขุมวิท พระราม 2

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่ว่างและโครงการจัดสรรของอารียาเองครับ ดังนั้นบรรยากาศซอยก็จะไม่ค่อยเปลี่ยวมากนัก พอจะมีรถของลูกบ้านโครงการอื่นๆขับเข้า-ออกอยู่บ้าง โดยโครงการ Como Bianca II Bangna (โคโม่ เบียงก้า 2 บางนา) จะอยู่เกือบสุดซอยเลยครับ ข้อดีก็คือค่อนข้างมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว อนาคตคิดว่าถ้าที่ดินว่างข้างเคียงมีการพัฒนาเป็นหมู่บ้านต่างๆขึ้นมาอีก ก็น่าจะทำให้ซอยมีความน่าอยู่และคึกคักมากขึ้น

  • ทิศเหนือ ติดกับ โครงการ AREN X บางนา และที่ว่าง
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบขนาดเล็ก
  • ทิศใต้ ติดกับ โครงการ NORA บางนา และที่ว่าง
  • ทิศตะวันตก เป็นทางเข้าโครงการ ติดกับ ถนนซอยและฝั่งตรงข้ามเป็นที่ว่าง

และนี่จะเป็นตัวอย่างบรรยากาศของถนนซอยที่อยู่ด้านหน้าโครงการ ซึ่งทางอารียาเองก็มีการปรับภูมิทัศน์นิดหน่อย เพื่อให้มีความสวยงามและดูเรียบร้อยมากขึ้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Mega บางนา / IKEA บางนา ∼ 3 กิโลเมตร
  • ไทวัสดุบางนา ∼ 4.4 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus บางนา-ตราด ∼ 6.2 กิโลเมตร
  • Central Plaza บางนา ∼ 11.6 กิโลเมตร
  • Big C Supercenter บางนา ∼ 11.7 กิโลเมตร
  • Paradise Park ∼ 11.9 กิโลเมตร
  • Market Village ∼ 12.1 กิโลเมตร
  • Seacon Square ∼ 12.5 กิโลเมตร
  • Central Village ∼ 16.7 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ∼ 5.7 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลศิครินทร์ ∼ 10.1 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ ∼ 11 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน ∼ 3.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ∼ 3.9 กิโลเมตร
  • ม.รามคำแหง วิทยาเขตบางนา ∼ 9.1 กิโลเมตร
  • โรงเรียนบางกอกพัฒนา ∼ 12.4 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติเซนต์ แอนดรูว์ สุขุมวิท 107 ∼ 14.1 กิโลเมตร
  • ม.หัวเฉียว ∼ 15.9 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • ยูนิตน้อย มีความเป็นส่วนตัว
  • วางส่วนกลางเอาไว้ตรงกลางโครงการ ทำให้บ้านแต่ละโซนสามารถมาใช้งานได้สะดวก

Como Bianca II Bangna (โคโม่ เบียงก้า 2 บางนา) ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 20-1-38.9 ไร่ และมีเพื่อนบ้าน 109 ยูนิต ถือเป็นโครงการที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว ลักษณะผังโครงการจะแบ่งโซนพักอาศัยออกได้เป็น 2 โซนใหญ่ๆคือ โซนแรกทางด้านหน้าจะเป็นบ้านที่อยู่ภายในซอยย่อยสั้นๆ ซึ่งนับว่าเป็นโซนที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด แต่เนื่องจากเป็นโซนแรกที่เปิดขายมาแล้วประมาณ 1 – 2 ปี ตอนนี้ได้ข่าวจากทางโครงการมาว่าขายหมดไปแล้วนะครับ

ส่วนโซนที่ 2 จะอยู่บริเวณด้านในของโครงการ จะอยู่ใกล้กับอาคาร Clubhouse และส่วนกลางมากขึ้น มีทั้งบ้านที่อยู่ติดกับถนนเส้นหลักที่จะมีความสะดวกในการเข้าถึง รวมถึงยังไม่ต้องหันหน้าบ้านชนกับใครเลยด้วย ส่วนบ้านอื่นๆจะอยู่ภายในซอยครับ ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวเพื่อนบ้านน้อยๆ ก็แนะนำเป็นซอยสั้นๆเล็กๆ แต่ถ้าเป็นซอยใหญ่ๆก็อาจมีความคึกคักมากกว่าหน่อย

สำหรับ Facilities จะอยู่บริเวณตรงกลางโครงการ ทำให้บ้านในแต่ละโซนสามารถมาใช้งานได้สะดวกพอๆกัน ประกอบด้วยอาคาร Clubhouse และพื้นที่สีเขียว ซึ่งจะอยู่คนละฝั่งโดยมีถนนหลักผ่านตรงกลาง ทำให้อาจไม่ได้ใช้งานแบบต่อเนื่องกันได้ แต่จะแยกกันเป็นสัดส่วนไปแทนนั่นเอง ของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยครับ

นี่คือบริเวณทางเข้าโครงการ จะมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง และแยกทางเข้า-ออกจากกันระหว่างลูกบ้านและ Visitor ทำให้การใช้งานจริงสะดวกมากขึ้น

เพราะลูกบ้านสามารถเข้าด้วยระบบ RFID ใช้สัญญาณ Bluetooth เหมือน Easy Pass บนทางด่วน มาพร้อมกับกล้อง CCTV แต่ถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรก่อนตามปกติครับ

บรรยากาศของถนนหลักเมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้ว บรรยากาศจะค่อนข้างมีความเงียบสงบเป็นส่วนตัวมากๆครับ เพราะบริเวณนี้จะไม่มีบ้านที่หันเข้ามายังถนน หรืออยู่ติดถนนหลักเลย โดยด้านขวามือจะทำเป็นแนวต้นไม้ตลอดทาง ทำให้มีความสดชื่นมากขึ้น

เมื่อเข้ามาจนถึงช่วงกลางๆโครงการ ด้านซ้ายมือเราจะเจอกับพื้นที่สวนขนาดประมาณ 1 ไร่ ซึ่งเราสามารถมาเดินเล่นพักผ่อนในช่วงที่แดดร่มๆกันได้ โดยภายในสวนก็จะประกอบด้วย Kid Playground, Pet Park, และ Glass House สำหรับแปลงปลูกผัก Organic

สำหรับอาคาร Clubhouse ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง (คาดว่าอีก 1 – 2 ปีน่าจะได้เห็นของจริงกันแล้ว และถ้ามีภาพอัปเดตเดี๋ยวจะมาเพิ่มให้อีกทีนะครับ) แต่ตอนนี้เท่าที่เห็นก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ค่อนข้างสวยงามตรงปกอยู่เหมือนกัน ตามภาพจำลองเลยจะเป็นอาคารสีขาวสไตล์ Modern 2 ชั้น โดดเด่นด้วยบันไดขนาดใหญ่สุดเท่ และช่องแสงที่ให้มาเยอะมากๆ

ฟังก์ชันภายในจะประกอบด้วย สระว่ายน้ำแบบกลางแจ้งบริเวณชั้น 1 ขนาด 5.15 x 16.17 m. พอจะว่ายออกกำลังกายได้อยู่ครับ พร้อมทั้งยังมีการแบ่งเป็นสระเด็ก และใต้อาคารก็จะมีห้องน้ำให้ใช้งานด้วย

ส่วนบนชั้น 2 จะมีฟังก์ชันแยกกันคนละฝั่งอาคารชัดเจน ทำให้เวลาใช้งานกิจกรรมก็จะไม่รบกวนกัน ประกอบด้วย Co-Working Space สำหรับนั่งทำงานอ่านหนังสือ หรือจะให้เด็กๆมานั่งทำการบ้านก็ได้ ส่วนอีกด้านจะเป็น Fitness สำหรับออกกำลังกาย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • Fitness
  • Co-Working Space
  • Meeting Room
  • Swimming Pool และ Jacuzzi ระบบเกลือ ขนาด 5.15 x 16.17 เมตร
  • สระเด็ก ขนาด 5.10 x 5.4 เมตร
  • สวนสาธารณะ ขนาดประมาณ 1 ไร่ ประกอบด้วย Kid Playground, Pet Park, และ Glass House สำหรับแปลงปลูกผัก Organic
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.4 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 8 เมตร
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • เข้า-ออกด้วยระบบสัญญาณ Bluetooth ระยะไกล
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และเหล็กเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน

แบบบ้าน

Highlight :

  • จัดบ้านชั้น 1 แบบ Open Plan ทำให้พื้นที่ใช้สอยเชื่อมต่อกัน โปร่งโล่งกว้างขวางมากขึ้น รวมถึงยังทำให้พื้นที่มีความ Flexible สามารถกั้นห้องเพิ่มฟังก์ชันเองได้ตามต้องการ
  • มี Bay Window ตรงบริเวณ Living Area ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้าน และเป็นมุมที่ดูสวยงามน่าใช้งานมากๆ
  • Master Bedroom มีขนาดใหญ่และสามารถจัด Walk-in Closet แบบจริงจังเพิ่มได้สบายๆ อีกทั้งยังได้ฝ้าเพดานสูงเพิ่มขึ้นไป 3 m. อีกด้วย
  • บ้านเดี่ยวจะมีพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างขวาง เพราะใช้แบบแปลนจากบ้านแฝดมาลงในพื้นที่ดิน 50 ตร.วา เหมาะกับคนชอบปลูกต้นไม้ทำสวนมากๆ แถมเรายังมี Terrace น่าใช้งานข้างบ้านเพิ่มอีกด้วย

‘Como Bianca’ หนึ่งในแบรนด์บ้านในกลุ่ม ‘Minimal Series’ จากอารียา พรอพเพอร์ตี้ (AREN, COMO Bianca และ NORA) เป็นบ้าน 3 สไตล์ที่ออกแบบมาด้วยความเข้าใจอินไซต์กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ที่ชื่นชอบวิถีของความมินิมอล

สำหรับโครงการ Como Bianca II Bangna (โคโม่ เบียงก้า 2 บางนา) เป็นจะเป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ที่มีรูปร่างหน้าตาและฟังก์ชันที่เหมือนกันเลย เพียงแต่จะต่างกันที่ขนาดที่ดินของบ้านตาม Property Type กันเท่านั้น ดีไซน์เป็นสไตล์ Minimal Eco-Living ภายนอกเน้นเป็นโทนสีขาวสะอาดตา ตัดด้วยผนังแนว Earth tone สีน้ำตาลที่ให้อารมณ์เหมือนเป็นวัสดุที่ทำจากไม้ ทำให้มีความอบอุ่นสวยงามมากขึ้น ประกอบด้วย

  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์
    – ราคาเริ่มต้น 8.29 ล้านบาท*
  • บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 37.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 174 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์
    – ราคาเริ่มต้น 6.29 ล้านบาท*

ส่วนความเป็น Eco-Living ทางโครงการได้ให้ข้อมูลมาว่า จะมีการปลูกฝังให้ลูกบ้านมีใจรักสิ่งแวดล้อม ด้วยการจูงใจในการแยกขยะรีไซเคิลเปลี่ยนขยะเป็นเงินได้ ซึ่งจะมีรถมาเก็บตามตารางเวลา จัดการได้ด้วยตัวเองผ่านแอป “Recycle Time” ส่วนขยะอินทรีย์ หรือเรียกง่ายๆว่าเศษอาหารที่เราทานเหลือ ก็สามารถนำใส่เครื่อง Food Waste Decomposer Machine ที่ทางโครงการมอบให้ ซึ่งเครื่องจะอบขยะอินทรีย์ให้เป็นปุ๋ย สามารถนำมาใส่ต้นไม้ที่สวนหน้าบ้านของตัวเองได้นั่นเอง ซึ่งถ้าใครสนใจก็สามารถลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางโครงการได้นะครับ

โครงสร้างและวัสดุหลักภายในบ้าน :

  • โครงสร้างบ้าน : ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) มีความแข็งแรงและสามารถกันเสียงได้ดีที่สุดในบรรดาวัสดุผนังทุกชนิด แต่มีข้อจำกัดคือ จะไม่สามารถทุบ/เจาะ/ต่อเติมได้ เพราะตัวผนังทำหน้าที่เป็นโครงสร้างไปด้วยในตัว เราจึงไม่เห็นเสาภายในบ้านเลย ทำให้จัดเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายมากๆ
  • พื้นที่จอดรถ : ลงเสาเข็มสั้นแบบตัด Joint แยกโครงสร้างออกจากตัวบ้าน พร้อมปูพื้นด้วยคอนกรีตแบบปกติ
  • บันได : โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ประกอบ
  • ประตู-หน้าต่าง : กรอบอลูมิเนียมสีดำ พร้อมกระจกเขียวตัดแสง
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : American Standard และ HAFELE
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องลายหินสีขาวขนาด 60 x 60 cm.
  • พื้นชั้น 2 : ลามิเนตลายไม้
  • หลังคา : Flat Slab ใช้โครงสร้างเหล็กเคลือบสี Alu-Zincalum พร้อมฉนวนกันความร้อน PU Foam

  • บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 37.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 174 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์

จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือ การจัดฟังก์ชันชั้น 1 แบบ Open Plan ซึ่งจะเชื่อมต่อทุกฟังก์ชันเข้ากับ Common Area ทำให้มีบรรยากาศโปร่งโล่งและกว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่อเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน เราสามารถเลือกจัดฟังก์ชันได้ตามต้องการ เช่น จะทำเป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบเดิมก็ได้ หรือจะกั้นเป็นห้องส่วนตัวไปเลยก็ดี รวมถึงถ้าทำเป็นห้องนอนชั้นล่างก็จะมีส่วนอาบน้ำอยู่ที่ห้องน้ำด้านล่างให้ใช้งานด้วย จึงทำให้มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับครอบครัวที่อาจมีผู้สูงอายุอยู่ชั้นล่างได้ด้วยครับ

จุดเด่นอีกอย่างที่คิดว่าหลายๆคนน่าจะชอบก็คือ Bay Window ที่อยู่บริเวณ Living Area ซึ่งเป็นพื้นที่กระจกเข้ามุมยื่นออกไปด้านข้างบ้าน ทำให้นอกจากจะมีบรรยากาศที่สว่างโปร่งโล่งมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน และเพิ่มมุมน่าใช้งานให้มากขึ้นด้วยนะครับ

แปลนชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้อง โดยที่ห้องนอนเล็กอาจต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็จะได้ใช้งานเป็นส่วนตัวไปเลย และอีกห้องหนึ่งก็สามารถทำเป็นห้องพระ หรือห้องทำงานอื่นๆไปได้ครับ จุดเด่นจริงๆของบ้านชั้น 2 ก็คือ Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ สามารถเพิ่ม Walk-in Closet ได้สบายๆ พร้อมมีระเบียงและห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานด้วย

เริ่มกันจากหน้าบ้านจะมีประตูรั้วเหล็กรางเลื่อนแบบ 2 ตอน ที่สามารถใช้งานได้สะดวก ที่จอดรถกว้าง 4.8 m. สามารถจอดรถ 2 คันได้พอดีๆ

พื้นปูด้วยคอนกรีตและตัด Joint แยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้านแบบทั้งผืน เพื่อที่ในอนาคตหากเกิดการทรุดตัวก็จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักนั่นเอง

นอกจากนี้ด้านหน้าบ้านยังมีประตูทางเข้าคนเดินแยกออกมาให้ใช้งานด้วย และอีกด้านหนึ่งจะเป็นถังขยะที่เปิดใช้งานได้สะดวกทั้ง 2 ด้าน (คนในบ้านก็ทิ้งขยะได้ พนักงานก็เปิดเก็บสะดวก)

ประตูทางเข้าบ้านหลักจะเป็นไม้บานทึบ ซึ่งจะมีการยกพื้นบ้านต่างระดับขึ้นมาขั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าบ้านได้ง่าย รวมถึงยังใช้เป็นที่ถอด-ใส่รองเท้าได้ด้วยครับ

ภายในบ้านเราจะเจอกับ Common Area ที่มีบรรยากาศกว้างขวางโปร่งโล่งดีเลยทีเดียว โดยจะเชื่อมต่อฟังก์ชันทั้งหมดตั้งแต่หน้าบ้าน-หลังบ้าน ทำให้คนในบ้านมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินสีขาวขนาดใหญ่ 60 x 60 cm. ยิ่งช่วยทำให้ดูสะอาดตาและกว้างขวาง ส่วนฝ้าเพดานจะสูงอยู่ที่ 2.7 m.

ฟังก์ชันแรกที่อยู่ด้านหน้าสุดจะเป็น Living Area ที่เราสามารถจัดเป็นชุดโซฟานั่งเล่นดูทีวีขนาดใหญ่ได้สบายๆ รวมถึงยังสามารถใช้เป็นพื้นที่รับแขกได้อีกด้วย

แต่จุดเด่นจริงๆของฟังก์ชันนี้ (หรือจะบอกว่าของชั้นนี้เลยก็ได้) ก็คือช่องแสงแบบ Bay Window ที่อยู่ด้านข้างของ Living Area นั่นเองครับ

โดยจะเป็นพื้นที่ส่วนที่ยื่นออกไปด้านข้างนอกตัวบ้าน ทำให้เรามีพื้นที่ใช้สอยภายในที่มากขึ้น และจัดเป็นมุมนั่งเล่นสวยๆแบบนี้ได้เลย (ขนาดประมาณ 2 x 0.65 m.) ซึ่งตัวหน้าต่างด้านหนึ่งจะเป็นกระจกแบบเข้ามุมที่มาต่อกัน ทำให้ช่วยเพิ่มมุมมองให้กว้างขวางมากขึ้นได้

ส่วนพื้นที่ข้างบ้านด้านนอกในส่วนนี้จะเหลือกว้างประมาณ 1.5 m. ซึ่งเป็นขั้นต่ำตามกฎหมายสำหรับผนังที่ไม่ใช่ช่องเปิดแบบนี้ครับ (อันนี้เป็นกระจกบ้าน Fixed ทั้งหมด ไม่สามารถเปิดได้)

สำหรับบ้านตัวอย่างได้วางเป็น Sofa Bed มาให้ดูเป็นไอเดีย ทำให้กลายเป็นมุมน่าใช้งานสำหรับมานั่งเล่นโทรศัพท์ หรืออ่านหนังสือชิลๆ ไปพร้อมๆกับชมสวนข้างบ้านไปด้วยสบายๆ

อีกด้านของ Living Area จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่อยู่แยกออกไป แต่ยังคงเปิดเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับ Common Area แบบ Open Plan ทำให้มีความกว้างขวางและโปร่งโล่ง

แต่ถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น หรืออยากทำเป็นห้องแยกแบบจริงจัง ก็สามารถกั้นผนังปิดไปเลยก็ได้ครับ ซึ่งนี่ก็เป็นความ Flexible ของฟังก์ชันที่เราสามารถปรับให้ตรงกับ Lifestyle ของเราได้นั่นเอง

ภายในจะมีขนาดกว้าง 3 x 2.8 m. สามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ทำงาน หรือจะกั้นทำเป็นห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ ซึ่งขนาดก็เพียงพอที่จะวางเตียงและตู้เสื้อผ้าได้พอดีๆครับ

จุดเด่นที่น่าสนใจของฟังก์ชันนี้ก็คือ จะมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่เปิดเชื่อมต่อกับสวนหน้าบ้านได้ด้วย ทำให้มีวิวสวยๆให้ชมและได้ใกล้ชิดธรรมชาติดีเลยทีเดียวครับ

(สวนของจริงเราจะได้เป็นไม้ยืนต้น 1 และปูหญ้าให้เป็นมาตรฐาน สามารถดูได้จาก Gallery ในตอนท้ายของพาร์ทนี้นะครับ)

สำหรับใครที่ต้องรับแขกที่บ้านบ่อยๆ ผมคิดว่าเราสามารถทำเป็นพื้นรับแขกได้นะครับ เพราะประตูทางเข้าก็อยู่ด้านหน้าเหมือนกัน และจากมุมมองนี้เราจะไม่ค่อยเห็นฟังก์ชันส่วนอื่นในบ้านเลย จึงทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัวมากนักนั่นเอง

โซนหลังบ้านต่อจาก Living Area จะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งสามารถใช้โต๊ะตัวใหญ่ๆ 6 – 8 ที่นั่งได้สบายๆเลยครับ หรือใครจะเพิ่ม Island Table แบบบ้านตัวอย่างไว้เตรียมอาหาร/เครื่องดื่มก็ได้

จุดเด่นของฟังก์ชันนี้คือ จะอยู่ติดกับประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่กว้างถึง 3 ตอน ทำให้มีมุมมองเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนข้างบ้านได้ดี และในบ้านก็ยังสว่างโปร่งโล่งเพิ่มขึ้นด้วย

โดยถ้าเป็นบ้านแปลงมาตรฐานจะมีพื้นที่ข้างบ้านกว้าง 2 m. ตามกฎหมาย แต่ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมหรือตำแหน่งบ้านที่ได้ที่ดินใหญ่พิเศษ ก็อาจมีพื้นที่สวนกว้างขวางมากขึ้น จนอาจทำเป็นสวนสวยๆ หรือเพิ่มเรือนรับรองได้แบบบ้านตัวอย่างหลังนี้เลยก็ได้ครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นห้องครัวครับ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับโต๊ะทานอาหารเลย ทำให้สะดวกต่อการยกอาหารมาเสิร์ฟมากๆ โดยครัวจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 2 ตอน เพื่อป้องกันกลิ่น/ควันจากการประกอบอาหารไม่ให้เข้ามารบกวนในบ้าน แต่เรายังคงได้ความสว่างโปร่งโล่งอยู่นั่นเอง

ภายในครัวมีขนาดกว้าง 1.9 x 3 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ โดยของจริงเราจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ อาจต้องเผื่องบในการทำเคาน์เตอร์ครัวต่างๆเพิ่มเติมด้วยนะครับ

ส่วนประตูหลังบ้านจะสามารถเปิดออกมายังพื้นที่ซักล้าง และเดินเชื่อมต่อมายังสวนข้างบ้านได้เลย โดยของจริงจะเป็นพื้นปูนแบบ On Ground ไม่ได้ลงเสาเข็ม พร้อมกับปูหญ้าให้เหมือนบ้านมาตรฐานในรูปเลยครับ

จะว่าไปแล้วทุกคนเห็นขอบบัวที่อยู่ตรงผนังและรอบประตูมั้ยครับ ส่วนนี้เค้าไม่ได้ทำออกมาเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ประโยชน์จริงๆคือ จะช่วยป้องกันน้ำฝนไม่ให้ไหลเข้าตามกรอบประตู-หน้าต่างของบ้านได้ง่ายนั่นเอง

กลับเข้ามาภายในบ้านอีกครั้ง บริเวณตรงกลางจะเป็นห้องน้ำและบันไดครับ

ภายในห้องน้ำจะมีฟังก์ชันอาบน้ำเตรียมเอาไว้ด้วย เผื่อใครทำห้องนอนชั้นล่างเพิ่มก็จะสามารถมาใช้งานที่ห้องนี้ได้สะดวกเลย พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1 x 1.2 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ แต่อาจต้องติดม่านหรือฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเอง ส่วนสุขภัณฑ์จะได้เป็นของ American Standard และ HAFELE ตามบ้านตัวอย่างเลยครับ

ติดกันจะเป็นบันไดและมีห้องเก็บของอยู่ด้านล่าง ซึ่งมุมนี้ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งเว้าเข้าไป ด้านในมีประตูห้องเก็บของใต้บันไดเล็กๆอยู่ด้วย

โดยบ้านตัวอย่างได้มีไอเดียทำผนังเป็นบ้านของน้องสัตว์เลี้ยงดูน่ารักและเนียนตาดีเลยทีเดียว เผื่อใครจะเอาไปใช้แต่งบ้านบ้างก็จัดไปเลยครับ

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ประกอบและมีราวจับเพื่อความปลอดภัยตลอดทาง โดยบริเวณชานพักบันไดตรงกลางอาจต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งานสักนิดนึง เพราะเค้าทำเป็นบันไดขั้นสามเหลี่ยมไม่กว้างเท่ากับขั้นอื่นๆนั่นเองครับ

โถงบันไดบนชั้น 2 มีขนาดใช้งานสบายๆ วัสดุปูพื้นเปลี่ยนมาเป็นไม้ลามิเนต และฝ้าเพดานก็จะสูง 2.7 m. เท่าเดิม

มาเริ่มกันที่ Master Bedroom จะอยู่โซนด้านหน้าของบ้าน ความพิเศษอย่างแรกก็คือ ฝ้าเพดานจะสูงขึ้นกว่าห้องอื่นๆอยู่ที่ 3 m. จึงทำให้รู้สึกโปร่งโล่งมากขึ้น อีกทั้งยังมีระเบียงส่วนตัวที่ให้แสงสว่างและออกไปใช้งานได้ด้วยครับ

ระเบียงภายนอกกว้างประมาณ 3.3 x 0.5 m. สามารถออกมายืนสูดอากาศชมวิวได้แบบพอดีๆ มีการทำท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย พร้อมราวกันตกกระจก Laminate ที่ดูทันสมัยสวยงาม และในตอนที่ผมกำลังเดินดูบ้านอยู่นั้น ก็มีการสะดุดตากับความสูงของราวระเบียง ซึ่งวัดมาได้อยู่ที่ 90 cm.

จุดเด่นของห้อง Master Bedroom อีกอย่างคือ ขนาดพื้นที่ใช้สอยที่กว้างเท่ากับตัวบ้านอยู่ที่ 3.9 x 6.3 m. ซึ่งเราสามารถแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กลายเป็น Walk-in Closet จริงจังแบบนี้ได้สบายๆ แถมด้วยความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 3 m. ก็ทำให้เราสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยแนวตั้งให้เก็บของมากขึ้นได้อีกด้วยครับ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่จะมีขนาดใหญ่และกว้างขวางกว่าห้องอื่นๆในบ้าน ภายในแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนใช้งานได้สบายๆ

โดยในส่วนของพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1 x 1 m. และติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบครึ่งบานมาให้แบบนี้เลย ซึ่งก็ช่วยป้องกันน้ำกระเด็นได้ส่วนหนึ่ง หรือใครอยากจะไปติดเพิ่มเองก็ได้

ถัดมาจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่โซนหลังบ้านครับ โดยจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก และอย่างที่บอกว่าโครงสร้างบ้านนี้เป็น Precast ซึ่งผนังตรงกลางเราจะไม่สามารถทุบเชื่อมกันเป็นห้องใหญ่ห้องเดียวได้นะครับ ดังนั้นบ้านหลังนี้ก็จะ Fixed ว่าเราจะได้ห้องนอนเล็ก 2 ห้องแบบนี้เลย สามารถรองรับครอบครัวที่มีลูก 2 คนได้ครับ

เริ่มกันที่ห้องแรกทางขวามือภายในกว้าง 3.1 x 2.6 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตและยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เว้าข้างเตียงเพิ่มขึ้นมา ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าอีกห้องหนึ่ง และสามารถทำเป็นมุมตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติมได้สบายๆครับ

ติดกันจะเป็นห้องขนาด 3.1 x 2.6 m. เหมือนกัน แต่จะไม่ได้มีพื้นที่ส่วนเว้าเหมือนห้องก่อนหน้านี้แล้วนะครับ ซึ่งถ้าจะจัดเป็นห้องนอนก็ทำได้อยู่ หรือใครมีลูกคนเดียวก็อาจทำเป็นห้องพระและห้องทำงานแทนก็ได้

สุดท้ายจะเป็นห้องน้ำที่ภายในมีฟังก์ชันครบ พื้นที่อาบน้ำกว้าง 1 x 1 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ แต่อาจต้องติดฉากกั้นหรือผ่านพลาสติกเพิ่มเติมเองถ้าต้องการ

  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์

สำหรับบ้านเดี่ยวจะมีฟังก์ชันที่เหมือนกับบ้านแฝดเลยครับ เพียงแต่จะเพิ่มพื้นที่ Terrace ด้านข้างเข้ามา ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการที่นำแปลนบ้านแฝดมาลงในที่ดินของบ้านเดี่ยวที่ใหญ่ขึ้นเป็น 50 ตร.วาแบบนี้ ก็เลยทำให้เรามีพื้นที่สวนรอบๆตัวบ้านกว้างขวางมากขึ้น ทำให้เหมาะกับคนที่ชอบปลูกต้นไม้จัดสวนเองอยู่แล้ว และต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะจะไม่มีผนังส่วนใดของบ้านเลยที่ติดกับเพื่อนบ้านนั่นเองครับ

และนี่ก็เป็น Terrace ข้างบ้านที่เพิ่มเข้ามาครับ ซึ่งของจริงก็จะเป็นแบบในรูปเลย โครงสร้างจะเป็น On Beam ยื่นออกมาจากโครงสร้างหลักของบ้าน กว้างประมาณ 2.8 m. พร้อมปูกระเบื้องและทำหลังคาให้ด้วย จึงทำให้เรามีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นเกือบ 10 ตร.ม. สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor ชิลๆได้สบายๆ

ส่วนภาพบ้านมาตรฐานของจริงที่จะได้เป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ได้เลยครับ

Image 1/8

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า

ราคา

Como Bianca II Bangna (โคโม่ เบียงก้า 2 บางนา) ราคา ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567

  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์
    – ราคาเริ่มต้น 8.29 ล้านบาท*
  • บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 37.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 174 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์
    – ราคาเริ่มต้น 6.29 ล้านบาท*
  • ค่าจอง 20,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 30,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า n/a ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • Promotion ราคายูนิตพิเศษ 6.29 ล้านบาท* (ระยะเวลาภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2567)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ Como Bianca II ตั้งอยู่ในใกล้ห้างเมกาบางนา โดยจะเข้ามาภายในซอยลึกประมาณ 2 – 3 km. แต่ก็สามารถเชื่อมต่อและลัดเลาะออกถนนเส้นหลักอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นถนนบางนา-ตราด ถนนกิ่งแก้ว และมีทางลัดไปขึ้นวงแหวนกาญจนาฯได้สะดวกสุดๆ เหมาะกับคนที่เน้นใช้ชีวิตอยู่คู่กับตัวห้างเมกาบางนาและวงแหวนกาญจนาฯเป็นอย่างมากครับ

ความอุดมสมบูรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะตรงจุดนี้ถือเป็นจุดที่คึกคักมากที่สุดของบางนา-ตราดแล้ว อีกทั้งยังมีทางด่วนบูรพาวิถีเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกไม่แพ้กัน สิ่งที่แลกมาคืออาจต้องเข้าซอยมาลึกหน่อย เพราะทำเลตรงแถวๆต้นซอยมีโครงการเกิดขึ้นกันเพียบแล้ว แต่ก็จะได้ในเรื่องความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาแทนครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ด้านหน้ามี รปภ. และไม้กั้นกระดกระบบ RFID โดยใช้สัญญาณ Bluetooth สำหรับ Visitor รวมถึงมีกล้อง CCTV คอยดูแล 24 ชม. ด้วยครับ ถือว่าให้มาเป็นมาตรฐานของบ้านแนวราบทั่วไป ส่วนภายในบ้านจะไม่ได้ติดตั้งอะไรมาให้ (อาจมีเป็นโปรโมชั่นหรือของแถมในบางช่วง) ซึ่งถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็อาจต้องติดตั้งเพิ่มเติมเองครับ

การออกแบบโครงการ : มีเพื่อนบ้านเพียง 109 ยูนิต หากเทียบกับโครงการส่วนใหญ่ในพื้นที่แล้ว ก็เรียกได้มีค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว ไม่ค่อยวุ่นวาย ซึ่งการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางก็จะไม่ค่อยหนาแน่นและไม่ทรุดโทรมเร็วเหมือนโครงการใหญ่ๆด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีการแบ่งบ้านออกเป็นซอยแยกย่อย ซึ่งยิ่งทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกับบ้านที่อยู่ในซอยเล็กๆ รวมถึงมีการวาง Facilities ต่างๆเอาไว้ที่บริเวณกลางโครงการ ทำให้บ้านในแต่ละโซนสามารถมาใช้งานได้สะดวกพอๆกันนั่นเอง

การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : หน้าตาบ้านจะเป็นสไตล์ Minimal Eco-Living ไม่เหมือนใครในย่าน และมีบ้าน 2 Property Type ให้เลือกครับ คือบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว แต่จะเป็นแบบแปลนเดียวกันเลยนะ ฟังก์ชันเหมาะกับครอบครัวขนาด 3 – 4 คน อาจเป็นคนที่มีลูก 1 หรือ 2 คนก็ได้ หรือถ้ามีผู้สูงอายุที่ขึ้นชั้น 2 ไม่ไหวก็ยังมีตัวเลือกปรับพื้นที่เพิ่มห้องนอนชั้นล่างได้ด้วยนั่นเอง

สำหรับบ้านแฝดจะมีการเชื่อมต่อกันที่ส่วนครัวหลังบ้าน ส่วนฟังก์ชันอื่นๆจะไม่ติดกับหลังข้างๆเลย ทำให้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวดีทีเดียว จุดเด่นคือ การจัดพื้นที่ชั้น 1 แบบ Open Plan ทำให้มีความกว้างขวางโปร่งโล่ง นอกจากนี้ยังมีมุม Bay Window ที่สวยงามและน่าใช้งานสุดๆ ส่วนบนชั้น 2 จะเด่นที่ Master Bedroom ที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ สามารถทำ Walk-in Closet ได้สบาย มีห้องน้ำในตัว และยังได้ฝ้าเพดานสูงถึง 3 m.

สำหรับบ้านเดี่ยวจุดเด่นคือ เราจะมีพื้นที่สวนรอบบ้านที่ใหญ่และกว้างขวางกว่าบ้านเดี่ยวปกติ เพราะเหมือนเป็นการนำแบบของบ้านแฝด มาลงในพื้นที่ดินของบ้านเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่กว่านั่นเอง จึงเหมาะกับคนที่ชอบปลูกต้นไม้จัดสวนมากๆ รวมถึงเราจะได้พื้นที่ Terrace ข้างบ้านที่น่าใช้งานเพิ่มขึ้นด้วยครับ แต่ในจุดที่ต้องระวังตอนใช้งานก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน อย่างตรงชานพักบันไดที่เป็นขั้นสามเหลี่ยม และราวระเบียงที่มีความสูงเพียง 80 cm. เป็นต้น

วัสดุ : โครงสร้างหลักของบ้านจะเป็น Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป มีความแข็งแรงทนทาน รวมถึงมีความสามารถป้องกันเสียงได้ดี จึงเหมาะกับบ้านที่มีผนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านติดกันแบบนี้มากๆ เพราะจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีเลยครับ เพียงแต่เราจะไม่สามารถทุบ/เจาะ/ต่อเติมได้ เช่น ไม่สามารถทุบห้องนอนเล็กชั้นบนรวมกันได้นั่นเอง

สำหรับพื้นที่จอดรถจะใช้เข็มสั้นแยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้าน ประตูหน้าต่างเป็นกรอบอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสงทั้งหมด วัสดุปูพื้นให้มาเป็นมาตรฐาน ชอบตรงช่องแสงที่ให้มาใหญ่และโปร่งโล่งดี สุขภัณฑ์เป็นของ American Sandard และ HAFELE แต่อาจต้องเผื่องบในการติดฉากกั้นอาบน้ำและทำครัวเพิ่มเติมเองด้วยนะครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : มีสวนขนาดประมาณ 1 ไร่ให้ใช้งาน และบริเวณริมถนนหลักก็จะมีการปลูกต้นไม้ประดับเอาไว้ตลอดทาง เพียงแต่จะเน้นใช้เป็นต้นขนาดกลาง จึงได้ในเรื่องความสดชื่นมากกว่าความร่มรื่นครับ นอกจากนี้ภายในบ้านแต่ละหลังก็จะมีการปลูกต้นไม้ และจัดสวนมาให้เป็นมาตรฐานด้วย ในส่วนนี้ผมดูแล้วค่อนข้างดีเลย เพราะเค้าให้มาทั้งไม้ยืนต้น ปูหญ้า และมีต้นไทรเกาหลีรอบรั้วบ้านเลยครับ

สาธารณูปโภค : ปัจจุบันอาคาร Clubhouse จะยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นผมจะขอพูดเท่าที่เห็นจากในภาพก่อนนะครับ (ในอนาคตถ้าใครได้เห็นของจริงแล้ว ก็ลองพิจารณาด้วยตัวเองได้ตามความเหมาะสมเลย) ซึ่งภายนอกของอาคารถือว่าออกแบบมาได้ดูสวยงามและโดดเด่นไม่น้อย ฟังก์ชันภายในถือว่าให้มาครบทั้ง Indoor และ Outdoor แต่จุดเด่นจริงๆก็คือ มีเพื่อนบ้านมาแชร์การใช้งานร่วมกันน้อย จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวดีทีเดียว

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 6.29 – 8.29 ล้านบาท, 30 ตุลาคม 2567

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ใกล้เมกาบางนาและวงแหวนกาญจนาภิเษกเพียง 2 – 3 km. แต่อาจต้องเข้าซอยลึกหน่อย
  • ความปลอดภัย 7/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.และกล้อง CCTV 24 ชม. แต่ในบ้านไม่มีอะไรให้นะ ต้องทำเพิ่มเอง
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว จัดบ้านแบบ Open Plan มีความยืดหยุ่น บ้านเดี่ยวได้พื้นที่ดินรอบบ้านเยอะ
  • วัสดุ 7.5/10 – โครงสร้าง Precast ให้ช่องแสงมาเยอะดี ต้องเผื่องบทำครัวเองเพิ่ม
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – มีพื้นที่สวนขนาดประมาณ 1 ไร่ให้ใช้งาน และจัดสวนในบ้านมาให้เป็นมาตรฐาน
  • สาธารณูปโภค 8/10 – มีฟังก์ชันให้ใช้งานครบ มีความเป็นส่วนตัว ดูจากภาพแล้วน่าจะสวยดี ต้องรอดูของจริงอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
  • 7.7 / 10.00 คะแนนอย่าลืมคิด

Como Bianca II Bangna เหมาะกับใคร

โครงการ Como Bianca II Bangna (โคโม่ เบียงก้า 2 บางนา) เหมาะกับคนที่หาบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ Minimal Eco-Living ใกล้ห้างเมกาบางนา และสามารถไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ง่ายมากๆ ชื่นชอบความเงียบสงบเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นทำเลและขนาดโครงการที่เพื่อนบ้านไม่เยอะ มีความเป็นส่วนตัว ชอบบ้านแบบ Open Plan ที่กว้างขวางและยืดหยุ่น มีมุมบ้านที่น่าสนใจให้ใช้งานหลากหลายดี โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวจะมีที่ดินรอบบ้านเยอะ ฟังก์ชันรองรับครอบครัวขนาด 3 – 4 คน หรือคนที่อาจมีผู้สูงอายุก็ได้ มาพร้อมกับฟังก์ชันส่วนกลางให้ใช้งานครบ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 6.29 – 8.29 ล้านบาท*


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่