รีวิวฉบับที่ 1112… สวัสดีค่ะ นานวันพื้นที่ในเมืองก็ยิ่งหายากขึ้นทุกวัน เราจึงมักจะเห็นโครงการบ้านเดี่ยวเขยิบออกไปอยู่ชานเมืองกันซะเป็นส่วนใหญ่ วันนี้เราขอสวนกระแสพาไปดูบ้านเดี่ยวในเมือง ที่มีแนวคิดน่าสนใจในการนำห้อง Duplex ยกมาไว้ในบ้าน พร้อมฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร กับโครงการ Charm รัชดา 42 จาก Charm property โดยโครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 42 ที่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากถนนรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน ถนนประเสริฐมนูกิจ และถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 3 ชั้นครึ่งที่มีจำนวน 8 ยูนิตเท่านั้น
โดยโครงการจะเปิดตัวในวันที่ 9 ก.ค. 2559 นี้แต่เราจะมีให้ดูที่นี่ก่อนใคร หน้าตาของโครงการจะเป็นอย่างไรไปดูพร้อมกันเลยค่าา ^^
Fact @ 23 June 2016
- Charm Ratchada 42 (ชาร์ม รัชดา 42)
- บริษัท ชาร์มพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
- HIGH-LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยรัชดาภิเษก 42 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
- เนื้อที่โครงการประมาณ 337 ตารางวา จำนวน 8 ยูนิต
- บ้านแฝด สูง 3 ชั้นครึ่ง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องเอนกประสงค์ ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 2-3 คัน ราคา 14-18 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว สูง 3 ชั้นครึ่ง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องเอนกประสงค์ ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 2-3 คัน ราคา 20-22 ล้านบาท
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 33-52 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 240-270 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท
- เปิดขาย : มิถุนายน 2559
- เริ่มก่อสร้าง : พฤศจิกายน 2558
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 085-235-6664
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.825775, 100.577626
โครงการ Charm รัชดาภิเษก 42 อยู่ในซอยรัชดาภิเษก 42 โดยซอยนี้จะเชื่อมต่อระหว่างถนนรัชดาภิเษกและถนนลาดพร้าววังหิน ห่างจาก MRT ลาดพร้าวประมาณ 3 กิโลเมตร
ทำเลของโครงการนั้นอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 42 ช่วงต้นซอยจะมีร้านกาแฟเล็กๆสามารถไปนั่งพักผ่อนหรือทำงานได้ ส่วนภายในซอยรัชดา 42 จะมีซอยแยกย่อยออกไปเป็นเหมือนใยแมงมุม ทั้งซอยหลักและซอยย่อยเหล่านี้จะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีสาธารณูปโภคใกล้ๆในระยะเดิน โดยโครงการจะอยู่ใกล้กับย่าน “เสือใหญ่” ซึ่งเป็นชื่อเรียกถนนรัชดาภิเษก 36 ที่อยู่หลัง ม.ราชภัฎจันทรเกษม จากโครงการจะมีถนนเชื่อมต่อกับซอยเสือใหญ่เพื่อไปทะลุถนนลาดพร้าววังหินได้ สภาพแวดล้อมในซอยเสือใหญ่เป็นซอยเล็กๆที่มีครบทั้ง ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารหอพัก ที่รองรับนักศึกษา
การเดินทางถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวถือว่าค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียวค่ะ เพราะภายในซอยมีเส้นทางลัดเลาะได้หลายทาง ทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และ ถนนประเสริฐมนูกิจ นอกจากนั้นภายในซอยยังมีซอยเล็กซอยน้อยให้ลัดเลาะได้อีกหลายเส้นทางเอาไว้หนีรถติด ถ้าเส้นนี้รถติดก็เลี่ยงไปอีกเส้นทาง แต่หลักๆจะใช้เส้นถนนรัชดาภิเษก เข้าซอยรัชดาภิเษก 42 หรือจะเข้าทางซอยรัชดาภิเษก 32 หรือซอยรัชดาภิเษก 36 ก็ได้เหมือนกัน ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะอยู่บริเวณถนน ประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนน เลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก เพราะด้านหน้าโครงการไม่มีรถเมล์ผ่าน ไม่ค่อยมีพี่วิน ส่วนแท๊กซี่ก็มีวิ่งผ่านมาบ้างเรื่อยๆ โครงการนี้จะเหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์มากกว่าค่ะ เชื่อว่าคนที่ซื้อบ้านราคา 14 ล้านขึ้นไปก็น่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัวกันเป็นส่วนใหญ่นะ สำหรับรถไฟฟ้าตอนนี้สถานีที่ใกล้ทีสุดคือสถานีลาดพร้าว ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร หรือในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่จะเปิดใช้ในปี 2563 ค่ะ
การเข้าถึงโครงการ สามารถเข้าถึงได้หลายเส้นทางดังนี้
- เส้นทางที่ 1 : เข้าจากทางถนนรัชดาภิเษก โดยเส้นทางหลักคือเข้าทางซอยรัชดาภิเษก 42 นอกจากนี้ยังสามารถเข้าจากทางซอย รัชดาภิเษก 32 หรือ ซอยรัชดาภิเษก 36 ก็ได้ ซึ่งซอยรัชดาภิเษก 36 นี้จะสามารถทะลุเข้าซอยรัชดาภิเษก 42 ได้ค่ะ
- เส้นทางที่ 2 : เข้าจากทางถนนลาดพร้าวโดยสามารถเข้าจากทางซอยลาดพร้าว 41 (ซอยภาวนา) หรือ จากถนนโชคชัย 4 ก็ได้ จากนั้นตรงเข้ามาเข้าถนนลาดพร้าววังหิน เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 36 และเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยรัชดาภิเษก 42 ตรงไปเรื่อยๆก็จะถึงโครงการค่ะ
- เส้นทางที่ 3 : เข้าจากทางถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าถนนเสนานิคม ตรงเข้ามาเลี้ยวเข้าถนนลาดพร้าววังหิน เลี้ยวขวาเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 แล้วเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 36 แล้วเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยรัชดาภิเษก 42 เพื่อไปยังโครงการ
- เส้นทางที่ 4 : เข้าจากทางถนนประเสริฐมนูกิจ ตรงผ่านถนนลาดปลาเค้า ผ่านแยกวังหิน ตรงมาเข้าถนนลาดพร้าววังหิน เลี้ยวขวาเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 แล้วเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 36 แล้วเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยรัชดาภิเษก 42 เพื่อไปยังโครงการ
- เส้นทางที่ 5 : เข้าจากทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือ เลียบทางด่วนรามอินทรา เลี้ยวเข้าถนนสังคมสงเคราะห์ มาเข้าถนนโชคชัย 4 และ ถนนลาดพร้าววังหิน เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 ตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 36แล้วเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยรัชดาภิเษก 42 เพื่อไปยังโครงการ
เส้นทางที่เราจะพาไปในวันนี้ จะสตาร์ทกันที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ตรงไปเรื่อยๆดูทำเลบนถนนรัชดาภิเษกแล้วไปกลับรถใต้สะพานข้ามแยกแยกรัชโยธิน ขับตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 42 เจอแยกแรกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปดูบรรยากาศทั้งสองข้างทาง แล้วตรงไปเรื่อยๆจนถึงช่วงซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 6 ก็จะถึงโครงการค่ะ
เริ่มจากแยกรัชดา-ลาดพร้าว เป็นแยกที่ตัดกันระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับถนนลาดพร้าว หากเลี้ยวซ้ายสามารถไปห้าแยกลาดพร้าว , เซ็นทรัลลาดพร้าว หรือยูเนี่ยนมอลได้ หากเลี้ยวขวาจะไปบางกะปิได้ ซึ่งเราจะตรงไปหาทางยูเทิร์นเพื่อเข้าโครงการในซอยรัชดาภิเษก 42 กัน ซึ่งแยกรัชดา-ลาดพร้าวนี้รถติดค่อนข้างโหด โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นเวลาคนเลิกงาน
ขับผ่านแยกมา เราจะเห็นอาคารจอดแล้วจร ซึ่งเป็นอาคารจอดรถ 9 ชั้นของ รฟม. ด้านหน้าเป็นอาคาร The Connection ซึ่งเป็นอาคารสำหรับจัดประชุมสัมมนา โดยตรงนี้จะเป็น MRT สถานีลาดพร้าวที่ห่างจากโครงการมาประมาณ 3 กิโลเมตร
ใกล้ๆกันจะมีพี่วินอยู่ หากลง MRT แล้วจะไปที่โครงการก็สามารถใช้บริการได้ ค่าบริการประมาณ 30 บาทค่ะ ข้างๆกันเป็นจุดกลับรถ
แต่หากใช้บริการพี่วินบางคนจะพาเราไปทางลัด โดยพี่วินเค้าจะใช้เส้นทางยูเทิร์นที่จุดใกล้ๆ แล้วเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 23 ก็จะสามารถลัดเลาะไปทางซอยรัชดาภิเษก 32 แล้วเข้าซอยรัชดาภิเษก 36 ก็จะสามารถไปทะลุซอยรัชดาภิเษก 42 เพื่อไปยังโครงการได้เหมือนกัน
บนถนนเส้นนี้จะเป็นที่ตั้งของสำนักงานราชการซะเป็นส่วนใหญ่ อย่างทางซ้ายมือนี้ก็เป็นศาลแขวงพระนครเหนือ ส่วนทางขวามือฝั่งตรงข้ามกันก็เป็นกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่มักจะมีสินค้าส่งออกลดราคามาเซลล์กันอยู่บ่อยๆ
ถัดมาเป็นศาลอาญา ส่วนฝั่งตรงข้ามกันเป็นสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ)
ถัดมาเป็นสำนักงานอัยการสูงสุด
ปั๊มแก๊สก็มีให้บริการนะ
แถวๆนี้ก็จะมีเต้นท์รถทั้งมือหนึ่งและมือสองค่อนข้างหลากหลายเหมือนกัน มองตรงไปเป็นป้ายบอกทาง หากตรงไปจะสามารถไปยังถนนพหลโยธิน, ห้าแยกลาดพร้าว หรือจะไปถนนวิภาวดีรังสิตก็ได้
หากต้องการไปถนนวิภาวดีรังสิต ให้ชิดขวาแล้วข้ามสะพานข้ามแยกรัชโยธินไปจะเร็วกว่า เพราะถ้าชิดขวาตรงไปนี่จะไปแยกรัชโยธินซึ่งรถติดมากมาย ซึ่งทางไปแยกรัชโยธินนี้จะมีจุดให้เรายูเทิร์นใต้สะพานได้ค่ะ
เตรียมเลี้ยวขวาเพื่อยูเทิร์นกันได้เลยยย
เมื่อยูเทิร์นกลับมาแล้วจะเห็นว่าถนนฝั่งนี้กำลังมีการก่อสร้างกันอยู่ เลนทางซ้ายมือจึงถูกเบียดเข้ามานิดนึง
เราขับมาอีกนิดให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเตรียมเข้าซอยรัชดาภิเษก 42 เพื่อไปยังโครงการค่ะ
เลี้ยวซ้ายตามพี่แท๊กซี่คันหน้าเข้าไปเลย จุดสังเกตคือหน้าซอยรัชดาภิเษก 42 จะมีเบนซ์อมรและ Rocket Sound เก่าอยู่หน้าซอย
เมื่อเข้าซอยรัชดาภิเษก 42 มาแล้ว สภาพแวดล้อมสองข้างทางจะเป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน 5-6 ชั้น
ขับไปเรื่อยๆหากตรงไปจะไปทะลุถนนใหญ่รัชดาภิเษกที่เราผ่านมาเมื่อสักครู่ได้ แต่ตอนนี้ให้ชิดซ้ายและเลี้ยวเข้าซอยแรกเพื่อไปยังโครงการกันนะคะ
ขับเข้ามาภายในซอยรัชดาภิเษก 42 ซอยหลัก สองข้างทางจะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่
ขับผ่านซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 4
ขับตรงมาอีกนิดช่วงซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 6 ก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 3 ส่วนถ้าเราตรงไปจะสามารถไปยังซอยรัชดาภิเษก 36 และลาดพร้าววังหินได้
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการเป็นโซนของบ้านพักอาศัยที่ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่มักจะเป็นตึกแถวและบ้านพักอาศัยตามซอยเล็กซอยน้อย ที่แตกย่อยออกไปจากซอยรัชดาภิเษก 42 ตัวโครงการเป็นที่หัวมุมหัวมุม ทำให้มีถนนล้อมรอบโครงการถึง 3 ฝั่ง โดย
- ทิศเหนือ ติดกับซอยรัชดาภิเษก 42 ซึ่งเป็นถนนหลักสำหรับคนที่จะเข้ามาโครงการ ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นฝั่งเดียวของโครงการที่ไม่ได้ติดถนน
- ทิศใต้ ติดกับซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 6 ซึ่งเป็นซอยที่เงียบสงบ ฝั่งตรงข้ามและสิ่งปลูกสร้างรอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 6 เช่นกันแต่เป็นช่วงต้นซอยเชื่อมต่อกับซอยหลักรัชดาภิเษก 42 ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตึกแถว 3 ชั้นและบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
ทางทิศเหนือ ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น และซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 3
บรรยากาศภายในซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 3 จะเป็นซอยเล็กๆบรรยากาศ 2 ข้างทางจะเป็นที่ดินว่างเปล่าและบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
ทางทิศตะวันตก จะติดกับซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 6
ภายในซอยนี้เป็นซอยเล็กๆที่ค่อนข้างเงียบสงบ เพราะสิ่งปลูกสร้างรอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ทางขวามือมีทางแยกซึ่งเป็นซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 4-1
ภายในซอย 42 แยก 4-1 เป็นซอยเล็กที่สามารถทะลุไปยังซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 4 ได้
เราเดินไปตามทางจะเป็นทางเลี้ยวมาด้านหลังซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของโครงการ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นอีกเช่นกัน
ส่วนทางทิศตะวันออกของโครงการ จะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ซึ่งจะอยู่ติดกับโครงการ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Tesco Lotus Express ในซอยรัชดาภิเษก 36 ~ 1.1 กิโลเมตร
- เมเจอร์รัชโยธิน ~1.6 กิโลเมตร
- ม.ราชภัฎจันทรเกษม ~ 1.6 กิโลเมตร
- Box space ~1.8 กิโลเมตร
- Green Plaza ~ 2 กิโลเมตร
- The JAS ~2 กิโลเมตร
- เซ็นทรัลลาดพร้าว ~ 2.6 กิโลเมตร
- ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ~ 2.6 กิโลเมตร
- Plaza Lagoon ~ 2.6 กิโลเมตร
- สวนลุมไนท์พลาซ่ารัชดา ~3.1 กิโลเมตร
- ตลาดลาดพร้าวสะพาน 2 ~ 4.2 กิโลเมตร
- ตลาดโชคชัย 4 ~ 5.4 กิโลเมตร
โครงการ Charm รัชดา 42 ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ยูนิตและบ้านแฝด 6 ยูนิต รวมเป็น 8 ยูนิต อยู่ภายในซอยรัชดา 42 โดยลักษณะของโครงการเป็นวิลล่าหรือหมู่บ้านขนาดเล็กที่มีการจัดสรรพื้นที่ให้สร้างขายในนามบุคคลเป็นหลังๆไป ภายในหมู่บ้านจีงไม่มีพื้นที่ส่วนกลางหรือนิติบุคคล ไม่มีสาธารณูปโภคอย่างสระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ Fitness หรือ รปภ. อย่างที่เราเห็นโครงการหมู่บ้านราคาสิบกว่าล้านส่วนใหญ่เค้าทำกัน เนื่องจากพื้นที่ที่จำกัดและทำเลที่อยู่ในเมือง แต่อย่าลืมว่าเมื่อไม่มีส่วนกลางแล้ว ค่าส่วนกลางจึงไม่ต้องเสียเหมือนกับซื้อบ้านเดี่ยวในซอยทั่วไป ก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกนะคะ
มาดู Master Plan ของโครงการกันบ้าง โครงการมีทั้งหมด 8 ยูนิต โดยแบ่งให้แปลงที่ 1, 8 ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเป็นบ้านเดี่ยว ส่วนแปลง 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 เป็นบ้านแฝด ด้วยบริบทของโครงการที่เป็นที่ดินแปลงมุมมีถนนอยู่ล้อมรอบ โดยมีทิศตะวันออกเพียงทิศเดียวที่ติดกับบ้านพักอาศัย นอกนั้นจะติดกับถนนทั้งหมด ทำให้โครงการมีทางเข้าออกได้ถึง 3 ทาง คือ
ทางซอยรัชดา 42 แยก 6 (ทิศใต้) : แปลง 1 (บ้านเดี่ยว), แปลง 2 (บ้านแฝด), แปลง 3 (บ้านแฝด)
ทางซอยรัชดา 42 แยก 6 (ทิศตะวันตก) : แปลง 4 (บ้านแฝด), แปลง 5 (บ้านแฝด)
ทางซอยรัชดา 42 : แปลง 6 (บ้านแฝด), แปลง 7 (บ้านแฝด), แปลง 8(บ้านเดี่ยว)
โดยตัวโครงการเองไม่มีสวนหรือพื้นที่ส่วนกลางใดๆ แต่จะมีการจัดสรรพื้นที่ และจัด Landscape ไว้ให้เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ และศาลานั่งเล่นหลังบ้าน
ภาพจำลอง สระว่ายน้ำระบบเกลือ หากเป็นบ้านเดี่ยวจะยาว 14 เมตร ส่วนบ้านแฝดยาว 7 เมตร พร้อมสวนหย่อมและศาลาหลังบ้านสำหรับคนที่อยากมีสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัว ซึ่งตรงนี้ไม่ถือเป็นพื้นที่ส่วนกลางแต่รวมอยู่ในพื้นที่บ้านค่ะ
ภาพบรรยากาศด้านหน้าโครงการในวันที่ 23 มิถุนายน 2559 ซึ่งโครงการยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ จึงมีบ้านเดี่ยวเพียงยูนิตเดียวที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนอื่นๆในโครงการจะยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ หากใครอยากเห็นหน้าตาบ้านจริงจะเป็นอย่างไร สามารถไปเยี่ยมชมกันได้ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2559 ซึ่งเป็นวัน Grand opening ค่ะ
หน้าตาบ้านเดี่ยวที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในปัจจุบันเป็นทั้ง Sales Gallery และบ้านตัวอย่าง
ส่วนพื้นที่ข้างๆกันกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างทั้งหมด
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ไม่มีทรัพย์ส่วนกลาง
อุปกรณ์มาตรฐาน
- สัญญาณกันขโมย
- แอร์ทั้งหลัง
- เครื่องทำน้ำร้อน
โครงการ Charm รัชดา 42 เป็นวิลล่าขนาดเล็กประกอบด้วยบ้าน 3 ชั้นครึ่ง มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ คือ
- บ้านแฝด สูง 3 ชั้นครึ่ง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องเอนกประสงค์ ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 2-3 คัน จำนวน 6 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว สูง 3 ชั้นครึ่ง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องเอนกประสงค์ ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 2-3 คัน ที่จอดรถ 2-3 คัน จำนวน 2 ยูนิต
โดยบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปดูกันในวันนี้เป็นบ้านเดี่ยว แปลงที่ 8 ซึ่งบ้านตัวอย่างนี้โครงการจะขายแบบ Fully Furnished คือให้ทั้งเฟอร์นิเจอร์และ Built-in แบบนี้ทั้งหลังเพียงหลังเดียว ส่วนบ้านแบบอื่นๆจะขายเฉพาะตัวบ้านไม่ได้ให้ Built-in และเฟอร์นิเจอร์นะคะ
นำ Section ของอาคารมาให้ดู จะเห็น Concept Function ของบ้านได้ชัดเจนค่ะ โดยเมื่อเข้าไปในบ้านจะเจอพื้นที่
- ชั้น 1 เป็น Double Volume มี Floor to celing สูงประมาณ 4.8 เมตร ด้านบนมีชั้นลอย สามารถจัดให้เป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องอเนกประสงค์ที่มีความต่อเนื่องกับพื้นที่ด้านล่างได้
- ชั้น 2 จะเป็น Master Bedroom ทั้งชั้น + ห้องน้ำในตัว
- ส่วนพื้นที่ชั้น 3 จะมีห้องที่มีลักษณะเหมือน Duplex จำนวน 2 ห้อง คือมี Living area ด้านล่าง+ ห้องนำ้ในตัว ส่วนชั้นลอยจะเป็นห้องนอน Floor to celing ของห้องนี้ประมาณ 4.5 เมตรค่ะ ฟังก์ชั่นหลักๆทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดของโครงการจะมีลักษณะแบบนี้เหมือนกันทั้งหมด แตกต่างกันเพียงขนาดที่ดิน พื้นที่ใช้สอย และ Landscape ด้านนอกเท่านั้น
มาดูที่ผังของโครงการกันบ้างค่ะ Type A บ้านเดี่ยว 3 ชั้นครึ่ง ขนาดที่ดิน 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 259 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องเอนกประสงค์ และห้องแม่บ้าน ตัวบ้านมีหน้ากว้าง 5.3 เมตร และหน้ากว้างของที่ดินประมาณ 7.3 เมตร สามารถจอดรถได้ 2-3 คัน
เมื่อเข้าบ้านมาจะเจอ Living area และส่วนรับประทานอาหาร ที่มี Floor to celing 4.8 เมตร ที่เชื่อมต่อกับครัวปิดที่มีห้องน้ำรวมอยู่ด้านใน จากห้องครัวสามารถเปิดออกไปยังหลังบ้านได้ ข้างๆกันเป็นห้องแม่บ้าน+ ห้องน้ำ ที่มีทางเข้าทางเดียวคือทางหลังบ้าน จาก Living area ชั้น 1 สามารถเดินขึ้นบันไดขึ้นไปยังชั้นลอยที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นหรือที่ทำงานก็ได้ โดยจากตรงนี้สามารถมองลงมาเห็นคนที่อยู่ด้านล่าง ช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนที่อยู่ชั้นล่างและชั้นลอยได้ดี
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็น Master Bedroom ทั้งชั้น ขนาดห้องนอนค่อนข้างกว้างมีระเบียงและห้องน้ำในตัว และยังมีพื้นที่ให้ Built-in walk-in closet หน้าห้องน้ำได้
ส่วนชั้น 4 จะแบ่งเป็นห้อง Duplex ที่มี Floor to celing 4.5 เมตร จำนวน 2 ห้องที่มีห้องน้ำในตัว โดยทั้ง 2 ห้องนี้จะมีบันไดให้ขึ้นไปยังชั้นลอยที่สามารถจัดพื้นที่ให้เป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงานได้ตามใจชอบ
ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern Contemporary มีการใช้สีเทา-ดำ-ขาว-น้ำตาล เป็นหลัก หน้าบ้านจะเป็นผนังกระจก กรอบอลูมิเนียมสีดำ ทางซ้ายมือเป็นประตูทางเข้าบ้านหลัก โดยฝ้าเพดานจะยกสูง 4.8 เมตร เท่ากับภายในตัวบ้าน ทำให้ตัวบ้านด้านหน้าดูโปร่งและสูงชะลูด
พื้นหน้าบ้านเป็นพื้นคอนกรีตแสตมป์ มีความลาดเอียงและยกสูงจากถนนขึ้นมาเล็กน้อย สามารถจอดรถยนต์ได้ 2-3 คัน
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานเป็นยิปซัมบอร์ด ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยมมาให้ 3 ดวง
พื้นที่ข้างบ้านกว้างประมาณ 2 เมตร โดยด้านหน้าจะปูพื้นแกรนิตสีดำแบบหยาบให้เป็นชาน เนื่องจากตรงนี้จะมีประตูทางออกไปสู่สระว่ายน้ำ แต่ออกมาหน้าบ้านไม่ได้ เพราะตัวบ้านมาตรฐานของจริงจะมีพุ่มไม้กั้นพื้นที่ระหว่างลานจอดรถกับสระว่ายน้ำให้
โดยสระว่ายน้ำที่โครงการจะติดตั้งให้เป็นระบบเกลือ หากเป็นของบ้านตัวอย่างที่เป็นบ้านเดี่ยวจะมีขนาด 14 x 2 เมตร แต่หากเป็นบ้านแฝดจะมีขนาด 7 x 2 เมตร โดยมีการทำบันไดทางลงให้จากหน้าบ้านแบบนี้ค่ะ
โดยสระว่ายน้ำจะมีการทำแท่นน้ำตกแบบนี้ให้ด้วย ส่วนพื้นที่หลังบ้านจะเป็นสวนหย่อมพร้อมศาลา
ทางหลังบ้านจะมีประตูเข้าออกสองทาง ทางซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องครัว ส่วนทางขวามือเป็นทางเข้าห้องแม่บ้าน โดยหน้าต่างที่อยู่ตรงกลางเป็นหน้าต่างของห้องน้ำรวมและหน้าต่างของห้องน้ำในห้องแม่บ้าน
ทางเดินหลังบ้านนี้จะเป็น Circulation (ทางสัญจร) หลักของแม่บ้าน ที่ผนังมีการติดตั้งเต้ารับแบบมีฝาครอบกันน้ำให้เผื่อเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า และมีก็อกน้ำให้เผื่อซักล้าง พื้นทางเดินเป็นทรายล้างผิวขรุขระกันลื่น สลับกับหินค่ะ
พื้นห้องแม่บ้านมีการยกระดับกว่าพื้นลานซักล้างเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
เขามาในห้องแม่บ้าน ขนาดประมาณ 2.3 x 2.85 เมตร เป็นห้องเปล่าโล่งๆที่ผนังทาสีขาว ฝ้าเพานติดไฟดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยมมาให้ 2 ดวง ข้างๆกันทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ
ห้องน้ำแม่บ้านมีขนาดประมาณ 1.5 x 1.5 เมตร ขนาดห้องไม่ใหญ่มากแต่มีฟังชั่นครบ คืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และมีพื้นที่อาบน้ำเล็กๆให้
ผนังตรงข้ามกันจะติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำมาให้ โดยพื้นที่อาบน้ำตรงนี้ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ และไม่มีการลดระดับแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้ด้วย ก็แสดงว่า เวลาเราอาบน้ำก็จะกระเด็นเปียกโถส้วม และอาจจะกระเด็นเปียกกระดาษทิชชู่ที่แขวนอยู่ด้วย ถ้าใครไม่คิดมากก็โอเค
เรากลับมาที่ประตูทางเข้าบ้าน จะเป็นประตูโครงไม้อัดสักปิดผิวไม้จริงเซาะร่อง โดยมีการปิดผิวผนังเป็นวัสดุเดียวกับประตูดูเป็นพื้นผิวเดียวกัน ประตูทางเข้าจึงดูสูงโปร่งดีค่ะ
มือจับและกลอนประตูเป็นสแตนเลสลักษณะนี้ของ Hafele หรือเทียบเท่า
ตรงหน้าบานมีชานยื่นออกมา 2 ระดับ ปูพื้นด้วยหินแกรนิตสีเทาชนิดหยาบ
ส่วนตรงประตูเข้าบ้านมีการยกระดับขึ้นมาจากพื้นชานบ้านเล็กน้อย ปูพื้นด้วยกระเบื้องหินอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ของ Artifact หรือเทียบเท่า
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเป็นโถงเล็กๆ เราสามารถ Built-in ตู้วางรองเท้า ตู้เก็บของ หรือติดตั้งบานกระจก เพื่อให้เป็นส่วนเตรียมตัวก่อนเข้า-ออกบ้านได้
เข้ามาภายในบ้านจะเจอโถง Double Valume ที่มี Floor to celing สูง 4.8 เมตร ตัวห้องมีขนาด 5.3 x 6.95 เมตร สามารถจัดฟังก์ชั่นเป็นห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารได้ โดยห้องนี้จะมีพื้นที่ต่อเนื่องกับห้องครัวและชั้นลอย สำหรับบ้านตัวอย่างโครงการจะให้เฟอร์นิเจอร์และมีการตกแต่งให้แบบนี้เลย แต่สำหรับบ้านหลังอื่นๆจะขายบ้านเปล่าอย่างเดียวนะคะ
หันกลับไปทางหน้าบ้านบรรยากาศจะค่อนข้างโปร่งเนื่องจากมีการใช้ผนังกระจกเข้ามุม ความสูงถึงฝ้าเพดาน 4.8 เมตร ทำให้แสงสว่างเข้าได้ดีมาก โครงการจึงเลือกใช้กระจกสี light gray 8 มิลลิเมตร เพื่อช่วยกรองแสงแดดไม่ให้เข้าบ้านมากเกินไป ผนังบ้านเปล่ามาตรฐานหลังอื่นๆจะเป็นฉาบเรียบทาสีทั้งหมดไม่มีการปูกระเบื้องที่ผนังให้นะคะ
ที่มุมห้องจะติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบ Motion censor ของ SECOM ให้ โดยภายในบ้านจะมีให้ 2 จุด คือตรง Livind area และห้องครัว
ที่ผนังข้างบ้านจะเป็นผนังกระจกทั้งหมด หากเราจัดสวนหรือทำสระว่ายน้ำก็จะสามารถมองวิวได้จากตรงนี้ค่ะ ทางซ้ายมือจะมีประตูเล็กเป็นทางเข้าบ้านอีก 1 จุด เป็นประตูกระจกบานเปิดเดี่ยว
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานจะติดตั้งแอร์แบบฝังฝ้าให้ 2 ตัวและไฟดาวน์ไลท์มาให้ทั้งทั้งหมด 7 ดวง เนื่องจากห้องนี้มีผนังกระจกเข้ามุมทำให้แสงธรรมชาติเข้าได้ดีในตอนกลางวัน แต่ตอนกลางคืนแสงสว่างอาจไม่เพียงพอเนื่องจากฝ้าเพดานที่สูง แนะนำให้หาโคมไฟหรือแชนเดอเลียสวยๆมาติดตั้งแบบบ้านตัวอย่าง เพื่อเพิ่มแสงสว่างและยังช่วยให้บรรยากาศของห้องดีขึ้นด้วยค่ะ
ถัดไปเป็นห้องครัว ที่โครงการติดตั้งประตูบานเลื่อนมาให้แบบนี้ ข้อดีของการทำฉากกั้นเป็นครัวปิดให้คือ เวลาที่เราประกอบอาหารจะช่วยลดกลิ่นและควันที่อาจลอยฟุ้งเข้ามาถึงส่วนอื่นๆในบ้าน พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องหินอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ของ Artifact หรือเทียบเท่า เหมือนกับ Living area และไม่มีการลดระดับพื้น
ห้องครัวมีขนาด 1.7 x 2.85 เมตร ขนาดไม่กว้างมาก ทางขวามือโครงการ Built-in ครัวแบบนี้มาให้เฉพาะบ้านตัวอย่างแต่บ้านมาตรฐานหลังอื่นๆไม่มีให้นะคะ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ มองตรงไปเป็นประตูทางออกไปยังหลังบ้าน โดยที่เหนือประตูจะมีระบบกันขโมยให้
โดยระบบกันขโมยเป็นแบบ Motion censor ของ SECOM เหมือนกับหน้าบ้านค่ะ
เคาท์เตอร์ครัว Built-in เต็มผนังที่ให้เฉพาะบ้านตัวอย่าง ส่วนใครที่ซื้อบ้านเปล่าไปก็สามารถใช้เป็นไอเดียได้ค่ะ สามารถเก็บของได้เยอะดี
Top เคาท์เตอร์เป็นหินเทียมสีขาว มีอ่างล้างหน้า เตา แต่ไม่มีที่ดูดควันให้ ภายในห้องครัวจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 บาน ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าตอนกลางวันและเปิดระบายอากาศระหว่างทำกับข้าวได้ดีค่ะ ที่ผนังเคาท์เตอร์ครัวปูกระเบื้องไว้ให้เรียบร้อย ช่วยให้เช็ดทำความสะอาดคราบเปื้อนได้ง่ายดี
ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำรวม ใช้ประตูไม้เนื้อแข็งกรุลามิเนต พร้อมอุปกรณ์ Hafele หรือเทียบเท่า
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับจากพื้นครัวเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สีเทาอ่อน
ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 1.5 x 1.5 เมตร ขนาดห้องไม่ใหญ่นัก มีการจัดฟังก์ชั่นให้เป็นห้องสุขาอย่างเดียว โดยมีการใช้งาน 2 ส่วน คืออ่างล้างหน้าและพื้นที่ติดตั้งโถสุขภัณฑ์ โดยสุขภัณฑ์ที่ใช้เป็นของ KASCH หรือเทียบเท่า
อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัว ก็อกน้ำสแตนเลสทรงโค้ง และติดตั้งกระจกเงาทรงกลมมาให้
ตัวอ่างล้างหน้าเป็นทรงกลมขนาดปานกลาง ส่วนก็อกน้ำทรงโค้งสามารถเปิดปิดน้ำโดยหมุนที่หัวก็อกน้ำได้เลย
ข้างๆกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ที่มีการติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้ทางขวามือ(เมื่อหันหน้าออกจากโถส้วม) ซึ่งการติดตั้งที่จุดเดียวกันแบบนี้จะใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ถ้าปรับเปลี่ยนได้ก็แนะนำให้ติดตั้งสายชำระทางขวามือเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนที่แขวนกระดาษทิชชู่ไปติดไว้ทางซ้ายมือ จะเป็นสัดส่วนและสะดวกกว่ากัน แต่ถ้าใครสบายๆไม่คิดมากก็โอเคค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโถสุขภัณฑ์จะมีก็อกน้ำและที่แขวนผ้าติดตั้งไว้ให้
ถัดไปเราจะพาไปดูที่ชั้น 2 กัน โดยบันไดจะเป็น L shapeโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ราวแสตนเลสพร้อมแผงกันกระจก ลูกตั้งและลูกนอน เป็นพื้นไม้จริง ความกว้างบันไดก่อนถึงชานพักประมาณ 0.9 เมตร และจากชานพักขึ้นไปประมาณ 1.3 เมตร
มองกลับลงไปจะเห็นว่าพื้นห้องชั้น 2 เป็นพื้นไม้ Engineering wood ความหนา 14 มิลลิเมตร สีใกล้เคียงกับบันไดค่ะ และด้วยราวบันไดที่เป็นกระจกทำให้พื้นที่บันไดดูโปร่งมาก
ขึ้นมาที่ชั้นลอย จะเจอเป็นพื้นที่ที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงานได้ โดยตู้กระจกด้านหน้านี้เป็นห้องเก็บของ สำหรับบ้านเปล่ามาตรฐานแล้วจะเป็นหน้าบานสำเร็จรูปสีขาวธรรมดาไม่มีกระจกเงาติดให้นะคะ
ห้องนี้มีขนาด 4.55 x 3 เมตร โดยบ้านตัวอย่างจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนั่งเล่น บรรยากาศของห้องค่อนข้างโปร่งและแสงธรรมชาติเข้าดีเนื่องจากมีกระจกรอบด้านและยังได้รับแสงจากทางหน้าบ้านด้วย
เมื่อมองไปจะเห็นพื้นที่สวนหลังบ้านได้ด้วย ถ้าจัดสวนหลังบ้านสวยๆมุมนี้จะเป็นที่พักผ่อนที่ชิวมาก
มองกลับไปที่หน้าบ้าน ตรงราวกันตกของชั้นลอยจะใช้ราวแสตนเลสพร้อมแผงกันกระจก ทำให้พื้นที่ตรงนี้รู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัด
และจากชั้นลอยก็สามารถมองลงไปเห็นโถงกลางบ้าน ช่วยให้เกิดปฎิสัมพันธ์กันระหว่างคนที่ใช้งานพื้นที่ชั้นบนกับชั้นลอยได้ดีค่ะ
ถัดไปเราจะพาไปดูชั้น 2 กันต่อ โดยบันไดนี้จะใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กเช่นกัน แต่ราวบันไดจะเป็นเหล็กโปร่งสีดำ มองขึ้นไปจะเห็นชานพักและผนังตรงชานพักเป็นผนังกระจกเต็มบานทำให้โถงบันไดสว่างมาก
มองกลับไปที่โถงบันได จะเห็นว่าผนังกระจกตรงชานพักมีหน้าต่างสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย ช่วยให้โถงบันไดสว่างและไม่อับ พื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้ Engineering wood ความหนา 14 มิลลิเมตร
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็น Master bedroom เต็มชั้น ประตูห้องเป็นไม้เนื้อแข็งกรุลามิเนต พร้อมอุปกรณ์ Hafele หรือเทียบเท่า
เข้ามาใน Master Bedroom ขนาดประมาณ 6.5 x 5.3 เมตร ห้องกว้างมากและโปร่งมาก สามารถวางเตียง King Size ขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ และยังจัดพื้นที่รอบเตียงเป็นโซฟานั่งเล่น โต๊ะหัวเตียง หรือตู้วางทีวีได้ครบ ที่ผนังหัวเตียงของบ้านตัวอย่างจะตกแต่งไฟซ่อนและทำผนังสีน้ำตาลแบบนี้ให้ แต่บ้านมาตรฐานของจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวทั้งหมดนะคะ โดยโครงการเว้นพื้นที่ผนังว่างเปล่าตรงกลางไว้ให้วางเตียงพอดี และมีหน้าต่างบานกระทุ้งขนาบอยู่ 2 ข้าง ช่วยให้แสงธรรมชาติและลมเข้าโดยที่ไม่ต้องรบกวนการนอน ส่วนข้างเตียงจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงได้
โดยประตูกระจกนี้มีความสูงถึงฝ้าเพดาน ทางขวามือเป็นกระจกบาน Fix ส่วนทางซ้ายมือเป็นกระจกเข้ามุม ห้องนี้จึงดูโปร่งมาก
พื้นระเบียงมีการลดระดับลงเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทาผิวขรุขระกันลื่นและมีท่อระบายน้ำให้เรียบร้อย ในวันที่เราไปเก็บข้อมูลฝนตกและโครงการยังอยู่ในระหว่างดำเนินการบางส่วนจึงยังเปรอะเปื้อนอยู่บ้างเป็นบางจุดนะคะ
ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.75 x 3.80 เมตร ราวกันตกเป็นราวแสตนเลสพร้อมแผงกันกระจกแบบนี้
ส่วนระเบียงอีกด้านจะติดกับผนังปูน ถ้าสังเกตดีๆเราจะเห็นว่าระเบียงของบ้านไม่มี Compressor แอร์มากวนใจเลย เนื่องจากโครงการยก Compressor แอร์ไปไว้หลังบ้านทั้งหมด เพื่อไม่ให้ลดความสวยงามของหน้าบ้านค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ เราสามารถ Built-in โต๊ะเขียนหนังสือและวางทีวีเต็มผนังแบบนี้ได้
มองกลับไปที่ทางเข้าห้อง ทางซ้ายมือจะเป็นประตูห้อง ส่วนทางขวามือจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ โดยบ้านมาตรฐานของจริงจะเป็นห้องว่างเปล่าไม่มีประตูให้นะคะ
เราสามารถติดตั้งประตูบานเลื่อนคู่ซ่อนผนังแบบบ้านตัวอย่างก็เป็นไอเดียที่ดี จะได้แยกสัดส่วนห้องนอนกับพื้นที่แต่งตัวให้เป็นสัดส่วนไปเลย
ภายใน Walk-in Closet มีขนาดประมาณ 5 x 3 เมตร สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าติดผนังซ้ายขวาแบบนี้ได้ มองตรงไปจะเป็นประตูห้องน้ำ ซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนคู่กระจก light gray ซึ่งเดี๋ยวโครงการจะเปลี่ยนเป็นกระจกฝ้าให้นะคะ ลดความเซ็กซี่ลงหน่อย 🙂
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับเล็กน้อย ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน ของ WDC
ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 2.8 x 3 เมตร ผนังห้องน้ำเป็นลายหินอ่อนเหมือนกับพื้นแต่เป็นผิวมัน มีการจัดฟังก์ชั่นใช้งานครบ ทั้งส่วนล้างหน้า สุขา ส่วนอาบน้ำที่มีทั้งห้องอาบน้ำส่วนเปียกและอ่างอาบน้ำ โดยมีหน้าต่างกระจกฝ้าช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าได้ดีแบบที่ไม่โป๊
อ่างล้างหน้าเป็นหินเทียมสีขาวขนาดใหญ่ ด้านล่างมีลิ้นชักใส่ของได้ค่อนข้างเยอะ พร้อมกระจกเงาที่ฝังไฟให้ที่ด้านหลังเพิ่มบรรยากาศ ข้างๆอ่างล้างหน้ามีเต้ารับแบบกันน้ำเผื่ออยากเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผม
ก็อกน้ำสแตนเลสแบบติดผนัง มีลูกบิดแยกน้ำร้อนน้ำเย็นให้
โดยโครงการติดเครื่องทำน้ำร้อนน้ำเย็นไว้ให้ที่ด้านล่างเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าซ่อนงานระบบให้เรียบร้อยดี
ข้างๆกันเป็นอ่างอาบน้ำ ที่มีพื้นที่ติดกับห้องอาบน้ำ อ่างล้างหน้า และยังติดผนังอีก แม้ว่าพื้นที่โดยรอบจะค่อนข้างแคบ แต่ตำแหน่งของอ่างที่อยู่ตรงหน้าต่างพอดี ทำให้โดยรวมแล้วสามารถนอนแช่น้ำได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัดนัก
อ่างอาบน้ำมีก็อกน้ำที่สามารถปรับน้ำร้อนน้ำเย็นได้ มีฝักบัวอาบน้ำ และภายในอ่างมีระบบจากุซซี่ให้ค่ะ
ติดกันเป็นห้องอาบน้ำกั้นด้วยฉากกระจกบานเปลื่อย มือจับสแตนเลสขนาดใหญ่
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงเล็กน้อย ใช้วัสดุปูพื้นเหมือนกับส่วนแห้ง
ภายในห้องอาบน้ำมีการติดตั้งฝักบัวพร้อม Rain Shower ให้ และ Drop ผนังเข้าไปเพื่อให้วางสบู่ หรือผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำค่ะ
ตรงข้ามห้องอาบน้ำเป็นพื้นที่สุขา ที่ติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบ Automatic แบบญี่ปุ่นคือ ตรงโถส้วมจะมีปุ่มควบคุมและมีรีโมท ซึ่งในบ้านตัวอย่างไม่ได้วางรีโมทไว้ให้ แต่บ้านจริงจะติดตั้งที่วางรีโมทไว้ให้ข้างๆที่แขวนกระดาษทิชชู่ค่ะ ด้านหลังโถสุขภัณฑ์จะมี Low wall ไว้ให้วางของเล็กๆน้อยๆได้และมีเต้ารับแบบกันน้ำไว้ให้เผื่อเสียบโทรศัพท์ชาร์ทแบทในระว่างทำธุระส่วนตัว หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆค่ะ
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน จะมีพัดลมดูดอากาศและไฟดาวน์ไลท์ไว้ให้ 4 ดวง ให้แสงสว่างที่พอดีไม่มืดไม่สว่างจนเกินไป
เมื่อเดินมาที่ชานพักจะมีราวกันตก ด้านหลังราวกันตกเป็นพื้นที่ว่างที่มองลงไปจะเห็นถึงชั้น 2 ผนังด้านหลังเป็นผนังกระจกที่ต่อเนื่องมาจากโถงบันไดชั้น 2 เป็นการออกแบบโถงบันไดที่ค่อนข้างแปลก แต่ก็มีข้อดีคือพื้นที่ของโถงบันไดมีความต่อเนื่องกันและแสงธรรมชาติเข้าบ้านได้ดี
มองกลับไปที่โถงบันไดชั้น 3 จะมีช่องแสงแค่ครึ่งเดียว โถงบันไดชั้นนี้จึงมืดกว่าโถงชั้น 2 แนะนำให้หาโคมไฟมาติดเพิ่มจะช่วยให้โถงนี้ดูสว่างขึ้นค่ะ พื้นชั้น 3 เป็นพื้นไม้ Engineering wood ความหนา 14 มิลลิเมตร สีใกล้เคียงกับลูกนอนบันได
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเจอกับประตูทางเข้าห้อง Duplex ทั้งสองห้องเดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องที่อยู่ทางซ้ายมือที่เป็นห้องฝั่งหลังบ้านกันก่อนและตามด้วยห้องที่อยู่ทางหน้าบ้านนะคะ
เข้ามาในห้อง Duplex ขนาด 3 x 6.5 เมตร ห้องขนาดปานกลางรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เป็น Double Volume มี Floor to celing สูง 4.5 เมตร ด้วยขนาดของห้องเทียบกับความสูงทำให้ห้องนี้ดูสูงชะลูดทีเดียว พื้นที่ตรงนี้สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัว โดยวางทีวีแบบในบ้านตัวอย่างได้ มองตรงไปจะเห็นผนังกระจกสูงจากพื้นถึงฟ้าเพดาน ตรงกลางเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าและระบายอากาศได้ดี แต่เมื่อมีกระจกก็ตามมาด้วยความร้อนนะคะ แนะนำให้หาผ้าม่านสองชั้นแบบในบ้านตัวอย่างมาติดจะช่วยได้เยอะเลย
เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างจะมีชานปูนยื่นออกไปเล็กน้อย โดยพื้นที่ข้างๆที่เป็นผนังทึบสามารถวาง Compressor แอร์ได้ ไม่บังวิว
วิวจากบ้านหลังนี้เมื่อมองออกไปจะเห็นพื้นที่ของโครงการที่กำลังก่อสร้าง โดยหลังที่ตรงกับบ้านนี้จะเป็นบ้านเดี่ยว ส่วนทางขวามือจะเป็นบ้านแฝดค่ะ ทัศนียภาพรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมดเลย
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นชั้นลอยด้านบน ส่วนด้านล่างจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ข้างๆประตูทางเข้า
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ของ WDC
ในห้องน้ำที่มีการจัดฟังก์ชั่นค่อนข้างครบ ทั้งส่วนล้างหน้า สุขา และส่วนอาบน้ำที่มีฉากกั้น แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย
ที่ผนังห้องน้ำมีการติดกระจกเงาให้ใหญ่ดี พร้อมทำแท่นเล็กๆให้วางของได้ อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวมีลิ้นชักให้ใส่ของได้
โดยด้านล่างอ่างล้างหน้ามีการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนน้ำเย็นให้ ซ่อนงานระบบได้เรียบร้อยดี ข้างๆอ่างล้างหน้าติดตั้งเต้ารับแบบกันน้ำไว้ให้เผื่อเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมขนาดปานกลาง พร้อมก็อกน้ำสแตนเลสทรงโค้ง สามารถหมุนเปิด-ปิดน้ำได้ตรงหัวก็อก
ข้างๆกันเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระที่และแขวนกระดาษทิชชู่เรียบร้อย
ถัดไปเป็นส่วนอาบน้ำที่มีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยให้เรียบร้อย
พื้นส่วนอาบน้ำมีการลดระดับเล็กน้อยเพื่อให้น้ำไม่ไหลมากเปียกส่วนแห้ง
ที่ผนังทางซ้ายมือมีช่องแสงยาวเป็นหน้าต่างบาน Fix และหน้าต่างบานกระทุ้ง ข้างบนเป็นพัดลมดูดอากาศซึ่งยังอยู่ในระหว่างเก็บหน้างานจึงยังไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ ข้างๆกันมีการ Drop ผนังเข้าไปเป็นที่วางสบู่และผลิตภัณฑ์อาบน้ำให้ ส่วนชุดฝักบัวอาบน้ำจะมี Rain Shower และฝักบัว พร้อมที่วางสบู่ให้
ฝักบัวอาบน้ำหน้าตาแบบนี้ค่ะ ขนาดพอดีมือ
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ให้ 3 ดวง พร้อมแสงสว่างที่เข้าจากหน้าต่างก็ทำให้ห้องนี้มีแสงสว่างที่พอดี
ถัดไปเป็นบันไดขึ้นชั้นลอย เป็นลักษณะ I Shape ตัวบันไดเป็นโครงสร้างเหล็กน้ำหนักเบา ลูกตั้งและลูกนอน พื้นไม้จริง ราวกันตกเป็นราวแสตนเลสพร้อมแผงกันกระจก
ขึ้นมาที่ชั้นลอยสามารถจัดพื้นที่เป็นห้องนอน หรือห้องอเนกประสงค์ตามต้องการค่ะ โดยห้องนี้โครงการจะติดแอร์แบบ Split type ให้ 1 ตัว พร้อมไฟดาวน์ไลท์ที่ฝ้าเพดาน 4 ตัว
ส่วนถ้ามองกลับไปอีกด้านจะเห็นทางขึ้นบันได ที่โครงการทำราวกันตกเป็นสแตนเลสพร้อมแผงกระจก ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น
จากห้องนอนนี้สามารถมองลงไปเห็นพื้นที่ด้านล่างได้ทั้งหมดค่ะ
ถัดไปเป็นห้อง Duplex ฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดประมาณ 6.9 x 5.3 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าห้องแรก เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอโถงเล็กๆ ทางขวามือสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบนี้ได้ ส่วนทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำค่ะ
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะมีลักษณะแบบนี้ โดยพื้นที่ข้างประตูทั้งสองด้านสามารถ Built-in ตู้ หรือชั้นวางของได้สบายๆ
เข้ามาดูภายในห้องน้ำมีการจัดวางฟังก์ชั่นเหมือนกับห้องน้ำใน Duplex ห้องแรก คือมีทั้งส่วนล้างหน้า สุขา และส่วนอาบน้ำที่มีฉากกั้น แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย
พื้นที่ด้านหน้าเป็น Living area ที่มีขนาดประมาณ 2.4 x 5.3 เมตร ด้วยความที่พื้นที่หน้ากว้างอยู่ทางหน้าบ้านทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้เต็มๆ ห้องนี้จึงดูโปร่งกว่าห้องแรกเล็กน้อย สามารถจัดฟังก์ชั่นให้เป็นส่วนทำงานและพื้นที่นั่งเล่น ที่ผนังด้านหน้าเป็นกระจกเต็มบาน มีการตกแต่ง Facade ด้านนอกด้วยระแนงไม้ที่ติดตั้งออกมาคล้ายหน้าต่าง
เมื่อมองจากข้างนอกจะมีลักษณะแบบนี้ค่ะ ดีไซน์ได้สวยดีทั้งด้านนอกด้านใน
ห้องนี้จะมีบันไดขึ้นชั้นลอยเหมือนกับห้องแรก ตัวบันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก มีลักษณะ I Shape ลูกตั้งและลูกนอนเป็นพื้นไม้จริง ราวกันตกเป็นราวแสตนเลสพร้อมแผงกันกระจก
ตัวพื้นห้องชั้นลอยจะเป็นพื้นไม้ Engineering wood ความหนา 14 มิลลิเมตร สีใกล้เคียงกับบันได
เมื่อขึ้นมาที่ชั้นลอยจะเจอห้องขนาดประมาณ 4.4 x 2.5 เมตร สามารถจัดพื้นที่เป็นห้องนอนเล็ก+พื้นที่ทำงาน เป็นห้องนั่งเล่น หรือห้องอเนกประสงค์ได้ตามใจชอบ ตามบ้านมาตรฐานของจริงผนังห้องนี้จะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีทั้งหมด ติดตั้งแอร์แบบ Split type พร้อมไฟดาวน์ไลท์ที่ฝ้าเพดานให้ 4 ดวง
มองกลับไปพื้นที่ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะเขียนหนังสือแบบนี้ได้ มองออกไปจะเห็นโถงและหน้าต่างของห้อง Duplex ห้องนี้จึงได้แสงธรรมชาติจากทางนี้ด้วย ราวกันตกเป็นสแตนเลสพร้อมแผงกระจกช่วยให้ดูโปร่งขึ้น
จากชั้นลอยมองลงไปจะเห็นพื้นที่ชั้นล่างทั้งหมดค่ะ
หยิบผังของบ้านแฝดมาให้ดูกัน โดยบ้านแฝดนี้เป็นแบบ 3 ชั้นครึ่ง มีการแบ่งฟังก์ชั่นแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องเอนกประสงค์ ที่จอดรถ 2-3 คัน เหมือนกับบ้านเดี่ยว รวมทั้งวางผังเหมือนกันทุกประการจะต่างกันก็เพียงขนาดของที่ดิน และพื้นที่ใช้สอยที่ลดลงมาเท่านั้นค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 23 June 2016
- Type A บ้านแฝด ขนาดที่ดิน 33-46 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 242-285 ตร.ม. ราคา 14-18 ล้านบาท (424,242 – 391,304 บาท/ตร.วา หรือ 57,851 – 63,157 บาท/ตร.ม.)
- Type B บ้านเดี่ยว แปลงที่ 1 ขนาดที่ดิน 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 259 ตร.ม. ราคา 20 ล้านบาท (384,615 บาท/ตร.วา หรือ 77,220บาท/ตร.ม.)
- Type B บ้านเดี่ยว(Fully Furnished) แปลงที่ 8 ขนาดที่ดิน 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 259 ตร.ม. ราคา 22 ล้านบาท ( 433,925 บาท/ตร.วา หรือ 84,942บาท/ตร.ม.)
- จอง 200,000 บาท และทำสัญญา 400,000, 500,000 บาท
- ดาวน์ 20 % ผ่อนดาวน์ 12 งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/aบาท
- ค่าส่วนกลาง ไม่มี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ส่วนลดลงทะเบียน ผ่าน website 50,000 บาท, แอร์ทั้งหลัง 9 ตัว (ตามบ้านตัวอย่าง), ปั๊มน้ำ, แท๊งค์น้ำ, ถังดับเพลิง 4 ถัง
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของโครงการ Charm รัชดา 42 อยู่ในซอยรัชดาภิเษก 42 ที่เป็นโซนบ้านพักอาศัย สภาพแวดล้อมค่อนข้างเงียบสงบ ตัวทำเลไม่มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดิน แต่อยู่ใกล้ๆกับย่านเสือใหญ่หรือช่วงซอยรัชดาภิเษก 36 ซึ่งเป็นถนนที่อยู่หลัง ม.ราชภัฏจันทรเกษม ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์สูงเพราะเป็นย่านมหาวิทยาลัย จากโครงการสามารถลัดเลาะไปลาดพร้าววังหินที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารน้อยใหญ่ ตั้งแต่รถเข็น ร้านตึกแถว ยันร้านอาหารติดแอร์ ส่วนตลาดก็มีตลาดวังหิน ตลาดสะพาน 2 และ ตลาดโชคชัย 4 ให้เลือกซื้อของสดของแห้งกัน หรือจะไปบนเส้นรัชดาภิเษกก็มี Box space และสวนลุมไนท์พลาซ่า หรือจะไปบนเส้นลาดพร้าวก็มีของกินและความอุดมสมบูรณ์หลากหลาย
การเดินทางโดยใช้รถ ถือว่าค่อนข้างสะดวกมีเส้นทางลัดเลาะไปออกถนนสำคัญๆหลายเส้น คือ ถนนรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และ ถนนประเสริฐมนูกิจ ใช้เป็นทางลัดเลี่ยงรถติดหรือไปหาของกินก็ง่าย โดยซอยรัชดาภิเษก 42 เองการจราจรจะไม่ค่อยติดขัดมากแม้จะเป็นทางลัดไปลาดพร้าววังหินได้ เพราะส่วนใหญ่คนจะชอบไปใช้เส้นรัชดาภิเษก 36 หรือซอยเสือใหญ่กันซะมากกว่า ส่วนทางด่วนจะอยู่บนถนนเลียบด่วนรามอินทรา ซึ่งไม่ไกลมากจากที่ตั้งโครงการ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก เพราะด้านหน้าโครงการไม่มีรถเมล์ผ่าน ไม่ค่อยมีพี่วิน ส่วนแท๊กซี่ก็มีวิ่งผ่านมาบ้างเรื่อยๆ โครงการนี้จะเหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์มากกว่าค่ะ สำหรับรถไฟฟ้าตอนนี้สถานีที่ใกล้ทีสุดคือสถานีลาดพร้าว ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร หรือรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่จะเปิดใช้ในปี 2563
ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูนะคะ เพราะตัวโครงการเป็นบ้านที่ขายขาดแบบเป็นหลังๆ ไม่ได้มีการจัดการพื้นที่ส่วนกลาง ไม่มี รปภ. ดูแลเหมือนโครงการจัดสรรทั่วๆไป พูดง่ายๆคือโครงการนี้ก็เหมือนเราซื้อบ้านในซอยตามปกตินั่นเอง ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยที่มีให้ก็มีเพียง Motion sensor ของ SECOM ที่ติดตั้งมาให้ที่ชั้น 1 เท่านั้น นอกนั้นก็ต้องดูแลรักษาความปลอดภัยกันเอง
เรื่องของการออกแบบทำออกมาได้ดีมากตั้งแต่การจัดสรรพื้นที่ 337 ตร.วา ให้สามารถวางบ้าน 8 ยูนิตลงไปได้อย่างลงตัว ด้วยความ ได้เปรียบของพื้นที่ที่อยู่หัวมุม มีถนนล้อมรอบสามด้านทำให้สามารถทำทางเข้า-ออก บ้านได้สามด้านด้วยเช่นกัน รูปแบบของโครงการจึงเป็นลักษณะหันหลังให้กันและหันหน้าออกถนน ตัวบ้านแบ่งเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสูง 3 ชั้นครึ่งหน้ากว้าง 5.3 เมตร ส่วนหน้ากว้างที่ดิน 7.3 เมตร ตามความจำกัดของที่ดิน
การออกแบบตัวบ้านทำออกมาได้สวย ดีไซน์ทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการบ้านดีไซน์หวือหวา ใช้โทนสีขาว-เทา-ดำ-น้ำตาล ตามสไตล์ Modern Contemporary ฟังก์ชั่นภายในออกแบบได้ครบ มีการแบ่งพื้นที่ชัดเจน โดยให้พื้นที่ชั้น 1 เป็นส่วน Living area ที่เป็น Double Volume สูง 4.8 เมตร มีชั้นลอยเป็นพื้นที่อเนกประสงค์, ชั้น 2 ทั้งชั้นเป็น Master Bedroom ทั้งชั้น ส่วนชั้น 3 เป็นห้อง Double Volume สูง 4.5 เมตร มีชั้นลอยเป็นพื้นที่อเนกประสงค์จัดเป็นอะไรก็ได้ตามใจชอบ ข้อดีของบ้านหลังนี้คือดีไซน์สวย ทันสมัย ฝ้าเพดานสูง บ้านดูโปร่ง และแสงธรรมชาติเข้าได้ทุกทาง ส่วนข้อเสียคือไม่เหมาะกับบ้านที่มีผู้สูงอายุเนื่องจากการใช้งานพื้นที่ต้องผ่านบันไดค่อนข้างเยอะและไม่มีห้องนอนชั้น 1
วัสดุในบ้านค่อนข้างมี Detail ที่มองเรื่องความสวยงามและความปลอดภัย อย่างประตูทางเข้าหน้าบ้านใช้ประตูโครงไม้อัดสัก ปิดผิวไม้จริงเซาะร่อง รวมทั้งผนังด้านบนก็ใช้วัสดุเดียวกันสูงถึงฝ้าเพดาน เพื่อให้มีดีไซน์ที่ดูเป็นพื้นผิวเดียวกัน ตัวบ้านใช้กระจกเยอะส่วนใหญ่จะสูงตั้งแต่พื้นจรดฝ้าเพดาน จึงเลือกใช้กระจกใส สี light gray ขนาด 8 มิลลิเมตร ที่ช่วยให้แสงสว่างเข้าและกรองแสงได้ดีกว่ากระจกใสเขียวตัดแสง รวมทั้งโทนสีของกระจกจะเข้ากับดีไซน์ของบ้านมากกว่า พื้นบ้านชั้นล่างใช้กระเบื้องลายหินอ่อน ส่วนพื้นบ้านและห้องนอนตั้งแต่พื้นที่ชั้นลอย ในชั้น 1 เป็นต้นไปใช้พื้นไม้ Engineering wood ความหนา 14 มิลลิเมตร ส่วนพื้นและผนังห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ใช้กระเบื้องลายหินอ่อนทั้งหมด รวมกันแล้วออกมาค่อนข้างสวยเลย สุขภัณฑ์ใช้ของ KASCH หรือเทียบเท่า
สาธารณูปโภคในโครงการไม่มีเนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กที่ไม่มีส่วนกลาง แต่ถ้าใครติดตั้งสระว่ายน้ำหรือสวนก็จะมีค่าดูแลรักษาเพิ่มเองต่อเดือน เช่น ค่าคนสวน ค่าแม่บ้าน ค่าล้างสระ เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็แลกมาด้วยบ้านที่สวย สะอาด และวิวที่น่ามองก็คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนะคะ ส่วนสภาพโครงการโดยรวมจะขึ้นอยู่กับผู้อยู่อาศัยทั้ง 8 หลังว่าจะจัดการดูแลบ้านตัวเองอย่างไร
โดยถ้าเปรียบเทียบกับโครงการลักษณะเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่อยู่ในทำเลเดียวกันนี้ ก็จะมีโครงการ บ้านเย็นสบายดี ในซอยรัชดาภิเษก 30 ใกล้กับคอนโดรัชดาพาวิลเลี่ยน เป็นโครงการบ้านเดี่ยวเล็กๆจำนวน 8 ยูนิต ในช่วงราคาพอๆกัน ไม่มีส่วนกลางเหมือนกัน แต่ของบ้านเย็นสบายดีจะเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมดนะไม่มีบ้านแฝด ในแง่ของดีไซน์ Charm รัชดา 42 จะมีหน้าตาหล่อกว่า รวมทั้งการจัดฟังก์ชั่นที่หวือหวากว่า แต่สำหรับบ้านเย็นสบายดีจะมีดีไซน์เรียบๆ พื้นที่ใช้สอยเยอะและได้เปรียบตรงทำเลที่ดีกว่า ใกล้ MRT ลาดพร้าวมากกว่า ส่วนบรรยากาศภายในซอยรอบๆโครงการก็จะคล้ายๆกันคือค่อนข้างเงียบสงบ อยู่ในซอยย่อยต้องออกมาหาความอุดมสมบูรณ์ที่ซอยใหญ่ ก็ต้องไปเลือกดูกันนะคะว่าชอบแบบบ้านและทำเลแบบไหนมากกว่ากัน
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%
เทียบกับแพคเกจ 14-22 ล้านบาท, 23 June, 2016
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 –ทำเลอยู่ในเมือง แต่รอบๆโครงการเป็นบ้านพักอาศัยสงบๆไม่มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดิน ห่างจาก MRT ลาดพร้าวประมาณ 3 กิโลเมตร
- ความปลอดภัย 7/10 – ไม่มีส่วนกลาง ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน ไม่มี รปภ. ต้องดูแลกันเอง มีแค่ระบบ Motion sensor ให้ในบ้านชั้นล่าง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – แบบสวย จัดฟังก์ชั่นแปลกแหวกแนว น่าใช้งาน
- วัสดุ 8.5/10 – ให้วัสดุดีและเหมาะสมกับดีไซน์ ให้แอร์ 9 ตัวแถมคิดเรื่องการติดตั้งไม่ให้ลดความงามของบ้านด้วย
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – ไม่นำมาพิจารณา เนื่องจากไม่มีส่วนกลางและสภาพโครงการขึ้นอยู่กับการดูแลของผู้อยู่อาศัยเอง
- สาธารณูปโภค – ไม่มี ไม่นำมาพิจารณา เนื่องจากไม่มีส่วนกลางและสาธารณูปโภคใดๆ
- 7.94/ 10.00
BOTTOM LINE
Charm รัชดา 42 เหมาะกับคนที่มองหาบ้านที่อยู่ในเมืองย่านรัชดา-ลาดพร้าว มีทางลัดเลาะออกได้หลายเส้นทาง ชอบบ้านที่มีดีไซน์ล้ำสมัย เหมาะกับคนยุคใหม่ที่ชอบใช้ฟังก์ชั่นที่หวือหวาและปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่าย ไม่ได้เจาะจงหาโครงการที่อยู่ในหมู่บ้าน ไม่ได้ต้องการใช้ Facilities หรือส่วนกลางใดๆ มีงบประมาณ 14-22 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 98,000 -154,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )