รีวิวฉบับที่ 1803   สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปดูโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดใกล้สุวรรณภูมิกันนะคะ โครงการ CENTRO อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ  นี้มีแบบบ้านหลากหลายให้เลือก ทั้งบ้านแฝดขนาด 137 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้น 173 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6.35 ล้านบาท โครงการนี้อยู่ที่ไหน บรรยากาศภายในโครงการ พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ใช้สอยของบ้านแบบต่างๆจะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ

Fact @ 6 Feb 2019

  • CENTRO ON NUT – SUVARNABHUMI (เซนโทร อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • UPPER  CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซ. กิ่งแก้ว 37 ตำบลราชาเทวะ อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • เนื้อที่โครงการ 60-0-92.40 ไร่ จำนวน 288 ยูนิต

  • บ้านแฝด SOL 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 35.53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว BRAVO 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.35 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว SHINE 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.15 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว RADIANT 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 50.75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.85 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว GLORIOUS 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 54.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.5 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว LUMINANCE 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ที่ดินมาตรฐาน 57.63 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย  255 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.15 ล้านบาท

  • ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง กุมภาพันธ์ 2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ กุมภาพันธ์ 2564
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1623
  • เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.693955 , 100.713617

    ที่ตั้งโครงการ CENTRO อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 37 ใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำเลนี้สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนลาดกระบัง, ถนนบางนา-ตราด, ถนนมอเตอร์เวย์ และไปยังเส้นวงเเหวนรอบนอกฝั่งตะวันตกได้ ความอุดมสมบูรณ์ในละแวกนี้อาจจะต้องเดินทางออกมายังเส้นบางนา-ตราด บริเวณบางพลี ซึ่งจะมีแมคโคร, market village ตั้งอยู่ หรือจะขับออกมาหน่อยเป็น Mega Bangna ก็จะเป็นห้างใหญ่ครบครัน จากโครงการก็สามารถขับรถมาได้สะดวกค่ะ

    ทำเลโครงการ CENTRO อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ  นี้ตั้งอยู่ในซอยกิ่งเเก้ว 37 เข้าจากถนนกิ่งแก้วไปประมาณ 2 กม.จะถึงทางเข้าโครงการ  โดยถนนกิ่งแก้วนี้เป็นที่ถนนเชื่อมระหว่างลาดกระบัง บางนา-ตราด และเทพารักษ์ ต่อไปยังสมุทรปราการได้ เป็นถนนขนาด 4-8 ช่องทางจราจร ส่วนโครงการพักอาศัยจะเป็นแนวราบเป็นหลักทั้งบ้าน, ทาวน์โฮม, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ และจะคึกคักหน่อยบริเวณตลาดบางพลีใหญ่(กิ่งแก้ว) ซึ่งจะอยู่ตรงแยกติดกับถนนบางนา-ตราด และจะคึกคักอีกที่ตรงแถวรพ.จุฬารัตน์ 9 ซึ่งจะติดกับซอยกิ่งแก้ว 25/1 ที่เป็นซอยลัดไปออกถนนเลียบวงแหวนกาญจนาได้  นอกจากนี้บนถนนเส้นนี้ก็จะมีพวก Hypermarket สาขาย่อยอย่าง Lotus Express ซึ่งก็ทำให้มีร้านกาแฟ ร้านอาหารเปิดตามมาในบริเวณนั้นอีกเป็นต้นค่ะ ในส่วนของบรรยากาศซอยกิ่งแก้ว 37 ช่วงต้นซอยจะเป็นบริษัทขนส่งสินค้าและอพาร์ทเม้นท์ มีร้านค้า ร้านอาหารเล็กๆให้เราหาอะไรทานใกล้บ้านได้ค่ะ

    การเดินทางเหมาะสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก จากซอยกิ่งแก้ว 37 สามารถเข้าเมืองได้หลายเส้นทาง ทั้งทางถนนมอเตอร์เวย์ สามารถวิ่งตรงไปจนถึงพระราม 9 ได้ หรือใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีฝั่งถนนบางนา-ตราดก็สามารถเข้าเมืองฝั่งพระราม 3, พระราม 4 ได้ ส่วนถ้าจะออกเมืองก็ใช้เส้นลาดกระบังวิ่งไปถึงฉะเชิงเทราได้ และสามารถใช้ถนนบางนา-ตราดออกไปชลบุรีได้ค่ะ

    ส่วนการเดินทางโดยระบบรถสาธารณะที่ผ่านหน้าโครงการไม่มีนะคะ ที่ใกล้สุดจะมีบนถนนกิ่งแก้ว โครงการจึงเหมาะกับคนใช้รถมากกว่า แต่ถ้าต้องการเดินทางโดยไม่ใช้รถก็สามารถเรียกพี่วินได้ จะมีวินที่อยู่หน้าปากซอยกิ่งแก้ว จากหน้าปากซอยก็จะมีรถสองแถว ให้เลือกใช้บริการทั้งที่วิ่งไปทางลาดกระบังและที่วิ่งไปตลาดบางพลีใหญ่(กิ่งแก้ว)ค่ะ หรือถ้าจะใช้ระบบรางที่ใกล้สุดคือ Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง ใครที่จะเดินทางเข้าเมืองก็สามารถขับรถออกจากโครงการไปจอดแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ถึงพญาไทเลยค่ะ

    CENTRO อ่อนนุช-สุวรรณภูมิเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิจึงเหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวในทำเลนี้ สำหรับความอุดมสมบูรณ์นั้นส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนลาดกระบัง ถนนกิ่งแก้ว และถนนบางนา-ตราดที่มีตั้งแต่ห้างเล็กไปจนถึงห้างใหญ่, ศูนย์รวมวัสดุต่างๆ ,สถานศึกษาและโรงพยาบาล อย่างถนนลาดกระบังจะมีคอมมูนิตี้มอลล์ที่ใกล้สุดคือ The Paseo ภายในมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่หลายร้าน สามารถขับรถไปหาอะไรทานได้ แต่ถ้าอยากไปเดินห้างจะต้องไป Mega Bangna ห้างใหญ่ที่ใกล้ที่สุด ที่มีความครบครันทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ต่างๆให้เราจับจ่ายใช้สอยกัน

    ส่วนใครอยากจะหาซื้อของสดของแห้งเอาไว้ทำกับข้าว บนถนนกิ่งแก้วซึ่งมีตลาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุดคือบางพลีใหญ่(กิ่งแก้ว) ซึ่งอยู่ตรงแยกถนนกิ่งแก้วตัดบางนา-ตราด ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 10 กม. นอกจากนี้ก็ยังมีตลาดย่อยๆอย่างตลาดสดหน้าหมู่บ้านกฤษณา แถวบริเวณซอยกิ่งแก้ว 14/1 ให้มาจับจ่ายหาของไปทำอาหารกันในครอบครัว นอกจากนี้ก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหารอีกพอสมควร

    การเดินทางด้วยระบบขนส่งรูปแบบรถไฟฟ้าที่ใกล้สุดก็จะเป็น Airport Rail Link ที่เป็นช่วยในการเดินทางเข้าเมืองในเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็นได้ สถานีใกล้สุดจะเป็นสถานีลาดกระบัง ถ้าใครขับรถส่วนตัวก็จะมีที่จอดรถอยู่โดยรอบสถานี สามารถจอดแล้วขึ้น ARL เข้าเมืองไปได้ การเดินทางก็ใช้ถนนเส้นกิ่งแก้ววิ่งไปทางถนนลาดกระบัง ผ่านแยกลาดกระบังแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนร่มเกล้า ตรงไปอีกนิดเดียวก็ถึงสถานีแล้วค่ะ

    นอกจากนี้สำหรับใครที่วิ่งเข้าเมืองก็จะมีตัวช่วยอย่างมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่ โดยทางเข้ามอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้าเมืองมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 7 กม. เป็นอีกทางเลือกไว้เลี่ยงรถติดบนเส้นอ่อนนุช สามารถวิ่งเข้าเมืองไปพระราม 9 ได้สะดวก

    ส่วนทางเข้ามอเตอร์เวย์ฝั่งขาออกไปชลบุรี มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 8.3 กม. โดยเลี้ยวขวาที่แยกลาดกระบังเข้าถนนร่มเกล้า ตรงไปจะมีทางเข้ามอเตอร์เวย์ค่ะ ขากลับก็ย้อนทางเดิมได้เลยค่ะ

    ในกรณีที่เดินทางมาจากถนนบางนา-ตราด เส้นทางนี้จะเชื่อมต่อกับ Mega Bangna ศูนย์การค้าที่ครบครันที่สุดในย่านนี้ วิ่งเข้าถนนกิ่งแก้ว จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกิ่งแก้ว 37 ตรงเข้าซอยไปประมาณ 2 กม. ก็จะถึงโครงการค่ะ

    เส้นทางการเดินทาง

    ตัวอย่างเส้นทางการเดินทางในวันนี้เราจะมาจากมอเตอร์เวย์เข้ามายังถนนกิ่งเเก้วนะคะ เราขับรถตรงมาเรื่อยๆ ให้กลับรถตรงจุดกลับรถที่ 2 เเล้วจึงเลี้ยวเข้าซอยกิ่งแก้ว 37 ค่ะ เข้ามาในซอยตามทางจะเจอกับป้ายทางเข้าโครงการ จากป้ายทางเข้าต้องขับต่อเข้าไปอีก เราลองไปดูบรรยากาศการเดินทางกันเลย

    วันนี้เราจะเริ่มต้นจากถนนกิ่งเเก้วนะคะ มากจากฝั่งลาดกระบังมุ่งหน้าไปยังบางนา-ตราด บรรยากาศถนนเส้นกิ่งเเก้วนี้ถือว่าเป็นถนนใหญ่พอสมควร ทั้งสองฝั่งมีเกาะกลางชัดเจน ดังนั้นถ้าเราจะกลับรถจะต้องไปกลับรถ ณ จุดกลับรถเท่านั้น

    ถนนกิ่งเเก้วนี้จะมี Supermarket หรือ Convenience Store ตั้งอยู่ให้เห็นเรื่อยๆตามข้างทางหรือปั๊มน้ำมันแทน อย่างตอนที่เราขับผ่านก็จะเจอกับปั๊มน้ำมันบางจาก ที่ด้านในมี Big-C mini อยู่ข้างใน

    ในกรณีที่เรามาจากฝั่งลาดกระบังเราจะเจอกับโรงเรียนพรหมพิกุลทองทางซ้ายมือ

    ข้างทางก็จะมีร้านอาหารอยู่เป็นระยะ มีทั้งร้านตามอาคารพาณิชย์ริมถนนใหญ่ และร้านที่เป็นเพิง เป็นรถเข็น สามารถจอดรถริมฟุตบาทแวะทานได้ค่ะ

    จุดสังเกตสำหรับคนที่มาจากฝั่งลาดกระบังก็คือ ให้เรากลับรถที่จุดกลับรถที่ 2

    กลับรถมาจะเจอกับปั๊ม Shell ติดๆกันจะมี Community mall เล็กๆอยู่

    ขับผ่านปั๊ม Caltex ไปก่อน ข้างทางฝั่งนี้จะมี Tesco Lotus Express สำหรับใครที่อยากหาของกินก่อนเข้าบ้านก็เเวะตรงนี้ได้ ด้านหน้ามีร้านอาหารตามสั่งเปิดให้บริการอยู่ด้วย

    โครงการ Centro อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ จะตั้งอยู่ภายในซอยกิ่งเเก้ว 37 ปากซอยจะมี 7-eleven ตั้งอยู่นะคะ ถือว่าเป็นร้านสะดวกซื้อที่ใกล้โครงการเราที่สุดเเล้ว(ไม่นับร้านขายของชำภายในซอย) เลี้ยวเข้าไปในซอยข้างๆตึกมีที่จอดรถชั่วคราว สามารถจอดรถเเวะซื้อขนม นม เนย ได้ค่ะ

    เราเลี้ยวซ้ายเข้ามาที่ซอยกิ่งเเก้ว 37 เลยค่ะ บริเวณปากซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่  สำหรับใครที่ต้องพึ่งพาการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ บนถนนกิ่งเเก้วจะมีรถแดงขับให้บริการอยู่ จากรถเเดงก็สามารถต่อมอเตอร์ไซค์เข้าไปยังหมู่บ้านได้ค่ะ

    เลี้ยวเข้ามาในซอยกิ่งเเก้ว 37 ช่วงต้นซอยส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยทั้งบ้านเดี่ยว และ Apartment เราจะตรงเข้าไปเรื่อยๆค่ะ

    ตรงเข้ามาเราจะเจอกับเส้นทางหน้าตาเเบบนี้ จากตรงนี้ให้เราเบี่ยงซ้าย จะเป็นทางเข้าโครงการของ AP ค่ะ

    พอเลี้ยวเข้ามาจะเป็นทางเข้าของโครงการ ซึ่งมีการปรับทัศนียภาพให้ดูเรียบร้อย มีการปลูกต้นไม้ให้ตลอดทางค่ะ

    ขับมาตามทางเรื่อยๆ สุดทางจะเจอกับโครงการ Centro อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ ค่ะ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    Centro อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ จะตั้งอยู่ข้างๆพื้นที่ของพฤกษาที่เป็นที่ตั้งของโครงการจัดสรรหลายๆโครงการที่ถูกพัฒนาเเละมีผู้มาอยู่อาศัยกันค่อนข้างมาก ส่วนพื้นที่ของ AP เองตัวทางเข้าจะเเยกออกมาอีกทางนึงทำให้พื้นที่จากทางเข้าโครงการส่วนมากยังเป็นที่ดินเปล่าที่รอการพัฒนาในอนาคต ส่วนโครงการของ Centro เองจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน ซึ่งพื้นที่รอบๆส่วนมากจะเป็นที่ดินเปล่าค่ะ มีพื้นที่ทางทิศเหนือที่จะติดกับโครงการทาวน์โฮมของ AP ที่มีชื่อว่า พลีโน่ บางนา-อ่อนนุชค่ะ

    • ทิศเหนือ – ติดกับโครงการ พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช
    • ทิศใต้ – ติดกับที่ดินเปล่า
    • ทิศตะวันออก – ติดกับที่ดินเปล่า
    • ทิศตะวันตก – ติดกับที่ดินเปล่า

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

    • Lotus กิ่งแก้ว ~ 6.1 km.
    • The Paseo Mall ~ 7 km.
    • Airport Link สถานีลาดกระบัง ~ 10.3 km.
    • ตลาดบางพลีใหญ่ ~ 10.5 km.
    • Makro บางพลี ~ 10.8 km.
    • สุวรรณภูมิ ปาร์ค ~ 11.1 km.
    • Market Village สุวรรณภูมิ ~ 12.6 km.
    • โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 ~ 12.7 km.
    • Mega Bangna ~ 16.7 km.
    • Central บางนา ~ 24 km.


    เจาะลึกตัวโครงการ

    Centro อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ เป็นโครงการจัดสรรแนวราบ ตั้งอยู่ภายในซอยกิ่งแก้ว 37 บนพื้นที่ประมาณ 60 ไร่  รวมทั้งสิ้น 288 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวทั้งหมด 6 แบบ ทั้งหมดใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ตัวโครงการแบ่งออกเป็น 2 เฟส คือเฟสเเรกที่กำลังจะเปิดขายในช่วงปลายเดือนนี้  และ เฟสที่ 2 ซึ่งอยู่ลึกเข้าไป  ทางเข้า-ออกโครงการจะรวมอยู่ตำแหน่งเดียวที่หน้าโครงการ ซึ่งจะต้องใช้ Bluetooth Card ในการเข้า-ออก ถนนหลักของโครงการจะกว้าง 16 เมตร ส่วนถนนรองจะกว้าง 9 เมตร การวางตำแหน่งบ้านส่วนมากหน้าบ้านจะหันเข้าไปที่ถนนรอง แต่จะมีบ้านในเฟสแรกบางส่วนที่ติดกับถนนหลักของโครงการ ซึ่งก็จะมีข้อดีตรงที่เข้า-ออกสะดวก ส่วนบ้านที่อยู่ถนนรองก็อาจจะขับเข้าออกลึกหน่อย แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นแทน โดยบ้านขนาดใหญ่สุดอย่าง LUMINANCE จะเป็นแบบบ้านที่ส่วนมากจะอยู่ตำแหน่งใกล้ถนนหลักเเละสวน ส่วนแบบอื่นๆนั้นจะถูกจัดวางสลับๆกันไป

    พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการหลักๆจะมี Clubhouse ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าโครงการ และสวนส่วนกลางขนาดประมาณ 2 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางบริเวณเฟส 2 ของ ลูกบ้านที่อยู่เฟสแรกจะมีข้อดีตรงที่สามารถมาใช้งาน Clubhouse ได้ค่อนข้างสะดวกและใกล้กับทางเข้า-ออกโครงการ ส่วนเฟสที่ 2 จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใกล้กับ Clubhouse ก็จะได้ข้อดีตรงที่มีสวนขนาดใหญ่ 2 จุด แทน สามารถเดินมาใช้งานได้ค่อนข้างสะดวก

    มาดูบรรยากาศจริงของที่นี่กันบ้าง ขอเริ่มต้นที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการกันก่อนเลย การออกแบบจะเป็นเเนวโมเดิร์น เเละเป็นการออกแบบที่ใช้โครงสร้างเดียวกันกับ Clubhouse เลยค่ะ ทำให้ตัวซุ้มประตูทางเข้าจะมีความสูง 2 ชั้น พอมีการเเปะชื่อโครงการก็ทำให้ดูทางเข้าโดดเด่นเห็นแต่ไกลเลย เเละยังทำให้พื้นที่ด้านใต้ที่รถขับผ่านเข้า-ออก หรือเเลกบัตรก็จะได้ร่มเงาของอาคารไปได้ด้วยค่ะ โดยทางเข้าจะอยู่ฝั่งซ้าย ทางออกอยู่ฝั่งขวา

    แต่ละฝั่งก็จะมี 2 เลน รถสามารถเข้า-ออกได้โดยใช้ Bluetooth Card คล้ายกับระบบ Easy pass ของทางด่วนค่ะ ส่วนผู้มาติดต่อก็จะต้องเเลกบัตรกับคุณพี่รปภ.ที่อยู่ตรงกลาง (ตำแหน่งนี้ก็จะดูแลทั้ง 2 ฝั่งได้สะดวก)

    ทางเข้า-ออกจะมีทั้งไม้กั้นกระดก และประตูบานเลื่อนอัตโนมัติค่ะ โดยประตูบานเลื่อนอัตโนมัตินี้จะปิดไว้ช่วงเวลากลางคืน

    ด้านข้างยังมีทางเดินเท้าไว้ให้ และมีประตูเปิด-ปิดมิดชิด กันคนนอกเข้ามาภายในโครงการได้ค่ะ ตรงนี้จะมีพี่รปภ.ที่จะเปิดปิดให้นะคะ นอกจากนี้ก็จะมีกล้องวงจรปิด ติดตั้งไว้ที่ทางเข้าให้ด้วย

    เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะเจอกับถนนหลักกว้าง 16 เมตร ทางขวามือจะเป็น Clubhouse ของโครงการ ส่วนด้านหน้าจะเริ่มเป็นยูนิตพักอาศัย ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นซอย 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Sale Gallery และบ้านตัวอย่างค่ะ

    เริ่มกันที่ Clubhouse ของโครงการกันก่อน อย่างที่บอกไปตัวอาคารจะเป็นรูปตัว L เเละเป็นส่วนหนึ่งกับซุ้มประตูทางเข้า มีทั้งหมด 2 ชั้น ออกแบบด้วยสไตล์ Modern เน้นโทนสีน้ำตาลและใช้วัสดุ Aluminium Composite สีน้ำตาลและทองเเดงเป็นหลัก

    ทางเข้าจะอยู่ด้านข้างค่ะ ไม่แน่ใจว่าถ้าขับรถออกมาจะสามารถจอดรถตรงไหนได้นะคะ

    จากทางเข้าเราจะเห็นห้อง Lobby ของ Clubhouse อยู่ตรงกลาง มีสระว่ายน้ำอยู่ทางซ้ายมือ พื้นที่ Clubhouse จะมี WIFI ให้ใช้บริการฟรีด้วยค่ะ

    เข้ามาดูภายใน Lobby กันก่อน พื้นที่ตรงนี้เป็นห้องที่มีความสูงเเบบ Double Space ได้บรรยากาศหรูหราและโอ่งโถงเลย ด้านในจะมีโซฟานั่งเล่นจัดไว้เป็นรูปตัว U ใหญ่ๆ

    ตรงนี้เหมือนเป็นหน้าตาของโครงการเลย เวลามีแขกมาเยี่ยมหรือเพื่อนมาบ้านก็พามานั่งเล่น ต้อนรับ หรือเล่นเกมส์กันตรงนี้ก็ได้ หรือถ้าวันไหนนั่งอยู่บ้านเบื่อๆก็สามารถมานั่งเล่นอ่านหนังสือหรือเปลี่ยนบรรยากาศทำงานตรงนี้ได้เช่นกันค่ะ

    ออกมาข้างๆห้องจะเจอกับสระว่ายน้ำที่จะอยู่ Outdoor มีร่มเงาของอาคารเเละต้นไม้คอยบังเเดดได้บ้างบางส่วน

    สระว่ายน้ำของที่นี่จะให้มาเป็นระบบน้ำเกลือ มีขนาด 17×6 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 5×4.5 เมตร ลึก 0.60 เมตร และมีจากุชชี่ขนาด 6×3 เมตร ลึก 1.2 เมตรอยู่ด้านข้าง ตำแหน่งสระว่ายน้ำนี้จะอยู่ติดกับถนนหลักหน้าโครงการเลย โดยจะมีต้นไม้ใหญ่ และพุ่มไม้กั้นระหว่างพื้นที่ 2 ส่วนนี้ ขับรถผ่านไปมาสามารถทักทายครอบครัวที่เล่นน้ำอยู่ได้

    ข้างสระจะมีที่นั่งพักผ่อนริมสระอยู่ เป็นพื้นที่ที่อยู่ใต้อาคารพอดีเลยทำให้ไม่ค่อยร้อน วันไหนอยากนั่งชิลล์ริมสระ แต่ไม่อยากว่ายน้ำก็มานั่งเล่นพักผ่อนได้ ส่วนด้านหลัง Lobby ก็จะมีทางเดินไปยังห้องน้ำและพื้นที่สำหรับล้างตัวก่อนและหลังลงสระ

    ตำแหน่งของพื้นที่ล้างตัวจะเดินเข้ามาลึกหน่อย ซึ่งก็จะได้ความเป็นส่วนตัวดี

    ตรงเข้ามาสุดทางจะเป็นห้องน้ำค่ะ โดยพื้นที่ Clubhouse ทั้งหมดจะมีห้องน้ำให้บริการอยู่จุดเดียวตรงนี้ เป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง

    ภายในห้องน้ำก็จะตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีครีมน้ำตาลดูเรียบๆ แต่ก็มีฟังก์ชันการใช้งานให้มาครบ ทั้งอ่างล้างมือ ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ ใครที่เล่นฟิตเนสด้านบนแล้วอยากอาบน้ำก็ลงมาใช้ห้องน้ำตรงนี้ได้

    ภายในห้องน้ำชายก็ให้มาครบเช่นกันค่ะ

    เดินขึ้นมาชั้น 2 นะคะ มองออกไปด้านหลังโครงการเราจะเห็นโครงการข้างเคียงของ AP อย่าง Pleno ซึ่งตรงนี้จะตรงกับตำแหน่งสวนของ Pleno พอดีเลย

    ที่ชั้น 2 จะเป็น Kids Room ค่ะ ด้านในจะมีของเล่น และมุมนั่งเล่นให้เด็กๆได้มาเล่นตรงนี้ได้ มีการตกแต่งด้วยสีสันสดใส และปูพื้นด้วยวัสดุที่เป็นโฟม หยุ่นหน่อยๆ ทำให้เวลาวิ่งเล่น หกล้ม น้องๆก็จะไม่เกิดอันตรายค่ะ

    ห้อง Kids Room จะมีระเบียงอยู่ซึ่งสามารถมองลงมาเห็นสระว่ายน้ำที่ชั้นล่างได้

    เดินขึ้นมาอีกครึ่งชั้นตำแหน่งเหนือซุ้มประตูทางเข้า โซนนี้จะเป็นโซนสำหรับทำกิจกรรมที่ค่อนข้าง Active หน่อยอย่างฟิตเนส

    ตรงนี้จะมีห้องนึงเป็นห้องที่เหมาะกับการนั่งพักผ่อนก่อนหรือหลังเล่นกีฬา

    ห้องฟิตเนตมีเครื่องเล่นให้เลือกค่อนข้างเยอะนะคะ ทั้งลู่วิ่ง ดัมเบล เครื่องปั่นจักรยาน เป็นต้น ภายในสามารถมองวิวได้ 2 ฝั่ง ทั้งทางด้านหน้าโครงการเเละในโครงการ พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างสูง เเละเป็นห้องที่มีกระจกขนาบสองฝั่งตามเเนวยาว ได้เเสงสว่างเข้ามาเต็มที่

    เลยห้องฟิตเนสเข้ามาในสุดจะเป็นห้องโยคะ จะเป็นพื้นที่โล่งๆ มีเสื่อโยคะให้ใช้งาน เราก็จะมาเปิดคลิปเล่นโยคะตามหรือจ้างครูมาสอนที่โครงการเองเลยก็ได้ค่ะ

    วิวจากห้องฟิตเนสมองเข้ามาภายในโครงการ บ้าน Luminance ที่อยู่ตรงนี้ก็จะได้ประโยชน์ที่ใกล้ทางเข้า-ออก ใกล้ Clubhouse

    ตรงข้ามกับ Clubhouse จะเป็นซอย 1 ซึ่งเป็นตำแหน่ง Sale Gallery ของโครงการ Centro อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ

    ถนนรองกว้าง 9 เมตร ในซอย 1 นี้เป็นบ้านตัวอย่างแบบต่างๆ ซึ่งตำแหน่งนี้จะได้ข้อดีคือใกล้ Clubhouse แล้วก็มีแนวต้นไม้เป็นวิวให้กับบ้าน

    บรรยากาศภายใน Sale Gallery ของ Centro อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ ตกแต่งน่ารักดีค่ะ เลยนำภาพมาฝากกัน

    ถนนหลักของโครงการกว้าง 16 เมตร ฝั่งนึงจะเป็นบ้านที่หันหน้าเข้าถนนใหญ่เลย ซึ่งด้านหน้าบ้านก็จะมีต้นใม้ใหญ่ที่โครงการปลูกให้และมีพุ่มไม้เป็นระยะ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นซอยย่อยของโครงการ ฝั่งนี้ทางเข้าบ้านจะเข้าจากทางซอยย่อย ทำให้ด้านข้างบ้านจะติดกับถนนหลัก โครงการก็มีการปลูกต้นไม้และพื้นที่สีเขียวตลอดเส้นทาง สร้างทัศนียภาพเเละพื้นที่สีเขียวให้ภายในโครงการ และยังช่วยพรางตากับเสาไฟด้านข้างบ้านให้อีกด้วย ซึ่งในอนาคตถ้าต้นไม้โตเต็มที่ก็จะดูร่มรื่นมากกว่านี้ค่ะ

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 17×6 เมตร ลึก 1.2 เมตร สระเด็ก ขนาด 5×4.5 เมตร ลึก 0.60 เมตร จากุชชี่ 6×3 เมตร ลึก 1.2 เมตร
    • สวนขนาด 2-0-71.73 ไร่
    • Fitness
    • Clubhouse
    • Co-working Space
    • Yoga Room
    • Lobby
    • Kids Room
    • ระบบ CCTV 4 จุด
    • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
    • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
    • Key Card Access แบบ Bluetooth
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และประตูเลื่อน
    • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง
    • ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.


    Product Walkthrough

    โครงการ Centro อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ เป็นโครงการบ้านเเฝดและบ้านเดี่ยวรวมทั้งสิ้น 288 ยูนิต โดยจะมีแบบบ้านทั้งหมดให้เลือก 6 แบบดังนี้

    ในรีวิวนี้มีบ้านตัวอย่างให้ดูกัน 1 แบบคือแบบที่มีชื่อว่า Glorious นะคะ ส่วนบ้านแบบอื่นๆนั้น เราจะมาวิเคราะห์แปลนบ้าน และมีหน้าตาบ้านและบรรยากาศภายในบ้านมาตรฐานคร่าวๆมาให้ดูกัน

    วัสดุและการก่อสร้าง – โครงการนี้มีการก่อสร้างแบบใช้อิฐมวลเบา ส่วนที่จอดรถเเละพื้นที่ซักล้างจะเป็นโครงสร้าง Slab on Ground พื้นจะให้มาเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ส่วนห้องนอนจะได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังจะเป็นฉาบเรียบทาสี แต่จะมีบ้านสามแบบที่ใหญ่สุดอย่าง Radiant, Glorious และ Luminance ที่จะให้ Wallpaper มาด้วย ไฟภายในบ้านจะได้เป็น LED Down light ภายในครัวมีการก่อเคาน์เตอร์ให้ ตัวบันไดจะเป็นโครงสร้างเหล็ก พื้นบันไดและมือจับจะเป็นไม้ยางพาราประสาน ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ประตูภายในใช้เป็น HDF ส่วนประตูภายนอกได้เป็น UPVC มีแบบบ้านใหญ่สุด Luminance ที่ทางเข้าบ้านจากที่จอดรถจะได้ประตูไม้เต็งเป็นบานเลื่อนเพิ่มเข้ามา ส่วนประตูหน้าต่างที่เป็นชุดกระจกจะได้บานกรอบ UPVC สีเทาเข้มและกระจกเขียวตัวเเสง 6 มม. สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำจะเป็นของ COTTO และ PREMA ภายในบ้านทุกหลังจะมีระบบ Megnetic Censor ไว้ให้กันขโมยค่ะ

    Glorious

    บ้านแบบที่เราจะพาไปชมนั้นมีชื่อว่า GLORIOUS เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ตั้งอยู่บนที่ดินมาตรฐานขนาด 54.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม. บ้านแบบนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7.5 ล้านบาทค่ะ

    เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้าบ้านกันเลย บ้านนี้สามารถจอดรถทั้งหมด 3 คัน เป็นการจอดในร่มนะคะ มีทางเข้าบ้านหลักๆอยู่ 3 ทางคือ เข้าจากหน้าบ้าน, เข้าจากที่จอดรถ และเข้าจากครัวค่ะ เนื่องจากแบบบ้านนี้จะเป็นแบบบ้านที่รูปร่างไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสหรือผืนผ้าตรงๆ มีการหักมุมเล็กน้อย ทำให้เกิดพื้นที่สวนที่ดูเป็นชิ้นเป็นอันอยู่ 2 จุด คือหน้าบ้านฝั่งข้างๆพื้นที่นั่งเล่น มุมนี้สามารถจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนในสวนได้ จากภายในห้องนั่งเล่นก็จะสามารถมองออกไปเห็นสวนตรงนี้เช่นกัน ส่วนพื้นที่สวนอีกจุดนึงจะเป็นส่วนที่อยู่หลังที่จอดรถ หรือทางที่เดินออกมาจากครัว ทำให้ตรงนี้อาจจะปรับเป็นพื้นที่ซักล้างได้

    พื้นที่ชั้น 1 เมื่อเข้ามาในบ้านเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น/รับเเขกก่อนเลยที่เป็น Space เปิดโล่งเชื่อมต่อไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร ทางซ้ายมือจะเป็นตำแหน่งของบันไดขึ้นชั้น 2 ของบ้าน มีห้องน้ำแบบ Powder room อยู่ใต้บันได (จากทางเข้าที่จอดรถเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่ส่วนนี้ก่อน) ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นพื้นที่โล่งสามารถจัดเป็น Pantry ได้ ก่อนที่จะเข้าไปในครัวที่อยู่ติดกัน ครัวเป็นห้องแยกออกไป มีประตูเปิด-ปิดกั้น ส่วนฝั่งขวาของตัวบ้านจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง ที่มีห้องน้ำในตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย หรือถ้าใครอยากปรับพื้นที่ตรงนี้เป็นห้องทำงานหรือห้องดูหนังก็ได้เช่นกันค่ะ

    ขั้นมายังชั้น 2 เราจะเจอกับพื้นที่ Family Area เป็นโถงตรงกลาง มีผนังด้านหนึ่งติดกับด้านข้างของตัวบ้าน ทำให้เเสงสว่างสามารถเข้ามาตรงนี้ได้ โดยฝั่งขวามือซึ่งเป็นพื้นที่ทางหน้าบ้านจะเป็นตำแหน่งของ Master Bedroom ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ทุกห้องนอนของบ้านนี้จะได้ห้องน้ำในตัวหมดเลยค่ะ การออกแบบห้องนอนเล็ก เนื่องจากพื้นที่ Common Area หรือ Family Area ที่ชั้น 2 อยู่ในสุด เพื่อที่คนเดินเข้า-ออกห้องไม่รบกวนคนที่ทำกิจกรรมบริเวณนี้ เลยทำให้ประตูเข้าห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องถูกวางในตำแหน่งที่ใกล้บันไดที่สุด ทำให้มุมของบ้านกลายเป็นตำแหน่งของห้องน้ำไป ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจึงเป็นห้องที่มีผนังอยู่ด้านเดียว ส่วนห้องนอนใหญ่ที่อยู่หน้าบ้านนั้นก็จะได้พื้นที่ที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วนและมีระเบียงส่วนตัว มีพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet วางอยู่ตำแหน่งหน้าห้องน้ำพอดี ในเเง่การใช้งานนับว่าสะดวก

    มาเริ่มกันที่หน้าบ้านเลยค่ะ ตัวบ้านเป็นบ้านหน้ากว้าง สามารถจอดรถได้ 3 คัน ด้านหน้ามีรั้วโปร่งให้ ทางเข้าออกที่จอดรถใช้เป็นประตูบานเลื่อนเหล็กโปร่ง ด้านหน้าบ้านจะมีลงไม้พุ่มให้สูงระดับรั้ว และมีต้นไม้ลงไว้ให้ 1 ต้นนะคะ

    ด้านหน้ามีกริ่งให้ มีไฟหน้าบ้าน ตู้จดหมายที่ออกแบบเป็นชิ้นเดียวกับบ้านเลขที่(บุรุษไปรษณีย์ไม่ส่งผิดบ้านเเน่นอน) และมีที่ทิ้งขยะไว้ให้ หน้าบ้านจะได้ไม่ดูรกตาจากถังขยะหลากสีสันของบ้านต่างๆ

    ที่จอดรถเป็นแบบในร่มอยู่แล้ว สามารถจอดได้ 3 คัน พื้นที่ตรงนี้จะเป็นโครงสร้างแบบ Slab on ground แยกจากโครงสร้างบ้านออกมา (ทำให้ไม่เกิดรอยร้าวระหว่างตัวบ้านกับที่จอดรถ) มีขนาดอยู่ที่กว้าง 7.25 ลึก 4.5 เมตรโดยประมาณ มีรถไม่ใหญ่มากก็ขับจอดสบายเลยค่ะ

    พื้นที่รอบๆจะปูหญ้าเอาไว้ให้  มีให้แท๊งก์น้ำเเละปั๊มน้ำให้มา บริเวณทางเข้าครัวจะมีลานซักล้างเล็กๆพร้อมก๊อกน้ำซักล้างเอาไว้ให้ โครงสร้างพื้นที่ตรงนี้ก็จะเป็น Slab on ground

    มาที่อีกฝั่งนึงของบ้านจะมีพื้นที่สวน ปลูกต้นไม้ จัดสวนเล็กๆตรงนี้ได้ เป็นตำแหน่งที่มองออกมาจากห้องนั่งเล่น และห้องนอนชั้นล่างพอดี เป็นการสร้างวิว และพื้นที่สีเขียวจากภายในบ้าน

    ทางเข้าบ้านจากด้านหน้าจะมีอยู่ 2 จุดคือ เข้าจากที่จอดรถ จะไปเจอกับพื้นที่ด้านข้างบันไดและห้องน้ำชั้นล่าง ผนังตรงนี้จะมีกระจกบาน Fixed อยู่ช่วยเป็นช่องเเสงให้กับพื้นที่ภายในบ้าน อย่างหน้าบันได ทำให้ตอนกลางวันที่เราใช้งานไม่ต้องเปิดไฟก็ได้ ส่วนทางเข้าหลักจะอยู่ทางขวามือค่ะ

    ทางเข้าบ้านจะมีชานพักด้านหน้า ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค พื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 4×1 เมตร เต็มความกว้างของห้องนั่งเล่นเลย หน้าบ้านมีไฟผนังติดไว้ให้ บริเวณสามารถตกแต่งพวกต้นไม้ไว้ข้างๆได้ค่ะ

    บานประตูเป็นเเบบบานเลื่อน 2 ตอน เปิดได้ฝั่งเดียวเเบบในภาพ ด้านข้างทั้ง 2 ข้างจะเป็นกระจกบาน Fixed กรอบบานเป็น UPVC สีเทาเข้ม กระจกเขียวตัดเเสง ซึ่งกันความร้อนได้ดี

    ประตูมี Double lock ให้มาด้วยค่ะ

    เมื่อเข้ามาจะเป็นพื้นที่ Common Area โล่งๆ สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นห้องรับรองเเขกได้ และต่อเนื่องไปยังพื้นที่รับประทานอาหารที่อยู่ข้างใน สำหรับใครที่อยากกั้นพื้นที่สองส่วนนี้ก็สามารถติดตั้งประตูกั้นพื้นที่นั่งเล่นเลยก็ได้นะคะ เผื่อเวลาที่เปิดเเอร์จะได้ไม่เปลืองไฟมากนัก

    พื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นห้องรับรองเเขกนี้จะมีขนาดประมาณ 3×4 เมตร ถือว่ากว้างพอสมควร มีหน้าต่างอยู่ด้านนึงและประตูด้านนึงเปิดระบายอากาศเเละรับลมได้ดีอยู่ ฝ้าเพดานจะสูงอยู่ที่ 2.6 เมตร สามารถจัดวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้สบาย หรือจะเลือกที่เป็นชุดโซฟารูปตัว L ก็ได้ มีพื้นที่ทางเดินหน้าทีวีเเละหน้าโซฟาค่อนข้างกว้างค่ะ อีกจุดที่ดีของการออกแบบคือผนังฝั่งประตูทางเข้าจะมีผนังทึบอยู่ทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวา ทำให้เวลาเราจะทำ Built-in หรือจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็จะดูเรียบร้อย มองเข้ามาก็จะไม่เห็นสันหรือด้านข้างของตู้อะไรเเบบนี้

    ห้องตัวอย่างจัดโซฟาที่นั่งได้ถึง 4 ที่นั่งเลย เเต่เราอาจจะเลือกชุดที่เล็กลงมาเป็น 3 ที่นั่งเเล้วเอาพวกโต๊ะกลมข้างโซฟามาวางหรือโคมไฟมาตกแต่งเพิ่มเติมได้ ใครที่ชอบนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานบริเวณนี้ก็จะได้มีความสว่างที่เพิ่มมากขึ้นในการทำกิจกรรมนั้นๆ

    ถัดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ ก่อนถึงที่รับประทานอาหารทางซ้ายมือจะเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง พื้นที่ใต้ชานพักบันไดจะเป็นห้องน้ำแขก ส่วนทางขวามือจะเป็นประตูทางเข้าไปยังห้องนอนชั้นล่างค่ะ

    พื้นที่รับประทานอาหารจะมีขนาดประมาณ 3.2×3.35 เมตร สามารถวางโต๊ะทานอาหารไว้ตรงกลางขนาดประมาณ 6-8 ที่นั่งได้สบายๆเเละมีทางเดินได้โดยรอบ

    ข้างกันจะมีพื้นที่ก่อนเข้าไปในห้องครัวอยู่ขนาดประมาณ 1.5×2.8 เมตร สามารถจัดเป็น Pantry เล็กๆ วางไมโครเวฟตู้เย็นได้

    เข้าไปในห้องครัว พื้นที่ในนี้จะลดระดับลงเล็กน้อย และสามารถเปิดออกไปยังพื้นที่ซักล้างที่อยู่ข้างบ้านได้ ครัวจะมีขนาดประมาณ 2.4×3 เมตร แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง มีการก่อเคาน์เตอร์ให้มาด้วย Top เคาน์เตอร์เป็นหินจีน สีดำ

    เคาน์เตอร์บ้านมาตรฐานก็จะก่อไว้ให้แบบนี้นะคะ ทางซ้ายมือจะเป็นรูปตัว L สำหรับวางเตา และมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ส่วนทางขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์กว้างเต็มความกว้างห้อง

    ฝั่งนี้จะเป็นตำแหน่งของอ่างล้างจาน อยู่ติดกับหน้าต่าง สามารถเปิดระบายความชื้นได้ง่าย แสงส่องถึง

    ในบ้านตัวอย่างก็จะมีการต่อเติมชั้นวางของด้านบนเเละหน้าบานเคาน์เตอร์ให้มาเป็น Idea

    จากครัวเปิดออกไปก็จะเป็นลานซักล้างข้างบ้าน พื้นที่ซักล้างจะเเยกโครงสร้างกับตัวบ้านออกไปกันการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันเเละรอยร้าวที่อาจเกิดขึ้น รอยต่อระหว่างบ้านกับพื้นที่ซักล้างก็จะมีโรยหินล้างไว้ให้ค่ะ

    จบจากพื้นที่ส่วน Service ของบ้านเเล้ว เราลองไปดูห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ตรงกันข้ามกับครัวกันเลยดีกว่า

    ภายในห้องนอนจะเปลี่ยนวัสดุพื้นจากกระเบื้องแกรนิตโต้เป็นพื้นไม้ลามิเนตเเทนค่ะ มีการใช้ไม้ลามิเนตเก็บงานบริเวณรอยต่อวัสดุ ดูเรียบร้อยสวยงาม ระดับพื้นด้านในด้านนอกยังอยู่ระดับเดียวกันค่ะ

    ห้องนี้จะมีหน้าต่างอยู่ฝั่งเดียวคือทางฝั่งหน้าบ้าน ภายในห้องจะมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาด 2.8×3.75 เมตร สามารถวางเตียง 5.5 ฟุตได้ (วางไว้ตำแหน่งโซฟาในบ้านตัวอย่าง)

    ในกรณีที่เราวางเตียงไว้แทนที่โซฟาในบ้านตัวอย่างจะทำให้เราเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 60-80 ซม. สามารถเดินใช้งานสะดวก ใครที่อยากติดตั้งทีวีแบบเเขวนผนังก็ทำได้เพราะปลายเตียงจะเป็นผนังทึบพอดี หรือจะเดินออกไปใช้งานที่ห้องนั่งเล่นก็ถือว่าไม่ไกลเลย ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวค่ะ

    ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุดของบ้าน มีหน้าต่างระบายอากาศให้เรียบร้อย

    ตัวพื้นจะลดระดับลงไปเล็กน้อย และใช้กระเบื้องเซรามิคเป็นวัสดุทั้งพื้นและผนังของห้อง

    มีอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาติดตั้งเอาไว้ให้

    ตัวอ่างล้างหน้าจะเป็นแบบเเขวนผนังของ Cotto

    โถสุขภัณฑ์ก็จะเป็นของ Cotto เช่นกัน ติดตั้งพร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายฉีดชำระ ตำแหน่งวางอยู่ข้างประตูทางเข้าห้องน้ำพอดี ใช้งานสะดวก

    พื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งจะเเยกออกจากกัน มีการลดระดับส่วนเปียกลงไปเล็กน้อย ในบ้านมาตรฐานจะไม่มีฉากกั้นกระจกติดตั้งมาให้แบบในบ้านตัวอย่างนะคะ

    แต่จะมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำหน้าตาเเบบนี้ติดตั้งมาให้ที่ผนังแทน

    ฝักบัวจับถนัดมือของ PREMA

    ก่อนจะขึ้นไปที่ชั้น 2 เราจะเดินไปดูห้องน้ำใต้บันไดกันก่อนนะคะ ทางเดินตรงนี้จะมีหน้าต่างบาน Fixed ที่เป็นกระจกอยู่ด้านข้างทางเดิน ทำให้มีเเสงสว่างเข้ามาได้ด้วย พื้นที่บ้านตรงกลางก็จะไม่ค่อยมืดเท่าไหร่

    ห้องน้ำใต้บันไดจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำค่ะ ตรงนี้จะติดกับผนังภายนอกทำให้มีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้ระบายอากาศได้ด้วย ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆก็ยังคงเป็นของ Cotto ค่ะ

    ห้องน้ำตรงนี้จะมีขนาด 2.265×1.4 เมตร ถือว่ากว้างและใช้งานสะดวกอยู่นะคะ

    ขึ้นไปชั้น 2 กันต่อ บันไดจะเป็นรูปตัว U ที่ชานพักจะมีหน้าต่างขนาดใหญ่ เป็นช่องเเสงให้โถงบันไดสว่าง ใช้งานได้โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน และมีพื้นที่สำหรับติดตั้งโคมไฟได้

    ตัวบันไดจะเป็นโครงสร้างเหล็ก พื้นบันไดและมือจับจะเป็นไม้ยางพาราประสาน

    ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Common Area ของบ้านก่อนค่ะ ตรงนี้บ้านตัวอย่างจะมีการเปลี่ยนประตูทางเข้าห้องนอนเล็กทางซ้ายมือให้อยู่เข้าไปด้านใน แต่ในบ้านมาตรฐานจะเหมือนกันรูปล่าง ในเเง่การใช้งานเเล้วตามบ้านมาตรฐานที่ให้มาจะสะดวกกับการใช้งานมากกว่าเพราะจะไม่มีใครเดินผ่านหน้าขณะใช้งานค่ะ พื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 2.2×4 เมตร จัดเป็นมุมทำงานหรือที่นั่งดูทีวีเล็กๆได้ หรือจะจัดเป็นห้องพระก็ได้นะคะ

    ที่ชั้น 2 จะมีแผงควบคุมระบบในบ้านไว้ให้ เช่น Censor ที่ติดไว้รอบบ้าน กริ่งคนเข้า-ออก เมื่อมีคนเข้าออกก็จะส่งเสียงเเจ้งจากแผงนี้ค่ะ

    ตัวอย่างการจัดพื้นที่ Family Area ที่ขั้น 2 นี้ โครงการจัดมาเป็น 2 ส่วนคือที่นั่งเข้ามุมตรง Bay Window และพื้นที่นั่งเล่นเเบบ Bean bag ให้บรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการล้อมวงเล่นเกมส์กับพื้นนะคะ

    เราขอเข้าไปดูที่ห้องนอนเล็กห้องเเรกใกล้บันไดที่สุดก่อน เนื่องจากทางเข้าห้องจะอยู่ด้านในอาคาร ทำให้การวางห้องน้ำจะไปอยู่ที่ตำแหน่งมุมของอาคารเเทน ดังนั้นภายในห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจึงจะเป็นห้องที่มีหน้าต่างอยู่ฝั่งเดียวของผนัง ตรงนี้ก็อาจจะระบายอากาศยากหน่อย แต่ก็จะได้ข้อดีตรงที่มีผนังให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย เเละห้องไม่สว่างจ้ามาก เหมาะกับการพักผ่อน ห้องนี้จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 3×3.55 เมตร สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ มีทางเดินโดยรอบ หันปลายเตียงไปฝั่งห้องน้ำ

    ในห้องตัวอย่างก็จะจัดมุมตู้เสื้อผ้าอยู่ทางซ้ายมือจากประตูทางเข้าห้อง เเละผนังปลายเตียงเป็นตำแหน่งเข้าห้องน้ำ การจัดวางเเบบนี้ก็จะได้ข้อดีตรงที่เราสามารถเดินใช้งานได้สะดวก จากตู้เสื้อผ้า ไปยังห้องน้ำ

    ส่วนผนังที่อยู่ปลายเตียงก็ยังมีพื้นที่สามารถทำ Built-in ชั้นวางของหรือชั้นวางทีวีได้

    ในห้องตัวอย่างจะวางเตียง 3.5 ฟุตไว้ ค่อนข้างเกือบชิดผนังฝั่งหน้าต่าง ทำให้ทางเดินกว้างขึ้น

    ปลายเตียงก็กว้างเดินเข้า-ออกห้องน้ำสบาย

    ภายในห้องน้ำจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยระบายอากาศเเละนำเเสงสว่างเข้ามาในห้องน้ำค่ะ การจัดวางก็จะเเยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกัน นี่ห้องสุขภัณฑ์เป็นของ Cotto เหมือนเดิม

    โทนสีห้องนี้จะเป็นกระเบื้องเซรามิคโทนชาว ชมพูตุ่นๆ และสีเทาเข้มค่ะ ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ แต่ติดตั้งเองได้ ห้องนี้จะมีหน้ากว้าง 1.47 เมตรโดยประมาณ พื้นที่อาบน้ำอยู่ที่ 1.35×0.90 ใช้งานหมุนตัวสะดวกค่ะ

    ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้อง จัดเป็นไอเดียห้องนอนเด็ก มีหน้าต่างอยู่ด้านเดียวของห้องเช่นเดิม ห้องนี้จะมีขนาดประมาณ 3×3.4 เมตร

    ในห้องตัวอย่างนี้จะวางเตียงชิดผนังฝั่งนึงไปเลย ทำให้ห้องมีพื้นที่ทางเดินกว้างขวางขึ้น

    ทั้งขนาดห้อง หน้าตาของหน้าต่าง และตำเเหน่งห้องน้ำก็ Mirror ห้องเมื่อสักครู่มาเลยค่ะ

    แต่ภายในห้องน้ำจะมีความแตกต่างตรงที่สีกระเบื้องที่ตกแต่งจะเป็นสีครีมขาว มีแทรกสีดำเข้าไปแทน

    มาดูที่ห้อง Master Bedroom กันบ้างค่ะ ห้องนี้จะตั้งอยู่ตำแหน่งหน้าบ้านเต็มความกว้างของหน้าบ้านเลย มีระเบียงภายในห้องด้วย เมื่อเข้ามาจะเจอกับทางออกไปยังระเบียงอยู่ด้านหน้า ทางขวามือจะเป็นตำแหน่งวางเตียงนอน ปลายเตียงจะเป็นผนังทึบพอดี ทำให้เราสามารถติดตั้งทีวีหรือชั้นวางของได้ด้วย พื้นที่ตรงนี้จะมีขนาดประมาณ 3.3×4.5 เมตร

    สามารถวางเตียงแบบ King Sizeได้เลย

    ขนาดห้องที่ใหญ่ทำให้มีทางเดินรอบด้านเดินใช้งานสะดวก

    ประตูไปยังระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนกระจกเขียวตัดเเสง

    มีธรณีประตูที่ค่อนข้างสูงเลยค่ะ ก่อขึ้นมาไม่ได้ลดระดับระเบียงลงไป ตรงนี้ช่วยให้น้ำฝนหรือฝุ่นไม่ปลิวเข้ามาภายในห้องเมื่อเปิด-ปิดใช้งานระเบียง

    ราวระเบียงจะเป็นกระจก มีโครงและมือจับเป็น UPVC เหมือนกันกับกรอบบานประตู สีเทาเข้ม

    ระเบียงก็จะกว้างเต็มความกว้างหน้าห้องเช่นกันมีขนาดประมาณ 4.45×0.90 เมตร

    เราลองไปดูอีกฝั่งนึงของห้องกันค่ะ

    พื้นที่ตรงนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับทำเป็น Walk-in  Closet  มีขนาด 1.5×3.5 เมตร สามารถวางตู้เสื้อผ้าแนวยาวได้เลย แต่อย่าลืมเว้นช่องสำหรับหน้าต่างไว้นะคะ อย่างในห้องตัวอย่างก็จะเว้นบริเวณหน้าต่างเป็นชั้นวางของพอดี ทำให้ยังพอมีเเสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาได้ ไม่มืดมาก

    จะจัดวางโต๊ะเครื่องเเป้งก็ได้ ขณะเเต่งหน้าก็จะได้แสงธรรมชาติด้วย หน้าไม่ลอย รองพื้นไม่ผิดเบอร์

    มาดูที่ห้องน้ำของ master bedroom กันค่ะ พื้นที่จะใหญ่ขึ้น แยกส่วนเปียกส่วนเเห้งจากกัน

    เมื่อเข้ามาในห้องฝั่งซ้ายมือจะเป็นชุดอ่างล้างหน้าให้มาพร้อมกับกระจกเงา ในกรณีห้อง Master Bedroom ของบ้านทุก Type จะมี Built-in ชั้นวางของเพิ่มมาให้

    ตัวอ่างล้างหน้าจะเป็นแบบฝังเข้าไปในเคาน์เตอร์ ตู้เปิดสวิง เก็บของได้ ส่วนยี่ห้อยังเป็นของ Cotto ค่ะ ห้องน้ำนี้จะมีความกว้างอยู่ที่ 1.5 เมตรโดยประมาณ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีขนาดประมาณ 57×70 ซม. มีพื้นที่วางอุปกรณ์ล้างหน้าแปรงฟันบนเคาน์เตอร์ได้

    โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำจะอยู่อีกฝั่งนึงค่ะ ห้องนี้ยังเป็นห้องที่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ด้วย

    โถสุขภัณฑ์จะเป็นของ Cotto เช่นกันแต่ตัวรุ่นก็จะ Upgrade ให้

    ส่วนภายในส่วนอาบน้ำจะได้เหมือนเดิมค่ะ มี Junction Box สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้มา

    Luminance

    ต่อมาเราจะมาดูบ้านมาตรฐานของแบบ Luminance กันนะคะ มาเริ่มกันที่ผังบ้านกันก่อนเลย แบบนี้จะเป็นแบบที่ใหญ่ที่สุดในโครงการเป็นบ้านหน้ากว้าง มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ตั้งอยู่บนที่ดินมาตรฐาน 57.63 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย  255 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.15 ล้านบาท จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือจะเป็นแบบเดียวที่มีห้องแม่บ้านให้มาด้วยอยู่ทางด้านหลังใกล้กับพื้นที่ซักล้างเเละเข้าออกครัวได้สะดวก การจัดวางจะวางตำแหน่งบันไดไว้กลางบ้าน ปีกขวาตรงกับทางเข้าจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นเเละห้องรับประทานอาหารต่อเนื่องกัน เเขกไปใครมาจะสามารถใช้ห้องน้ำที่อยู่ใต้บันไดตรงกลางบ้านได้ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอน 1 ห้อง มีห้องน้ำในตัว พื้นที่ห้องตรงนี้จะมีขนาดใหญ่ สามารถวางเตียง King Size ได้สบายๆ มีพื้นที่เหลือทำเป็นตู้เสื้อผ้าเเละพื้นที่ทำงานส่วนตัวภายในห้อง โดยที่ทางเข้าห้องนั้นจะถูกบิดเล็กน้อย ทำให้ไม่เห็นพื้นที่ภายในห้องทั้งหมดตรงๆ เพิ่มความเป็นส่วนตัวของเจ้าของห้องได้ด้วย

    ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่ Family Area ก่อนอยู่ตรงกลางมีระเบียงที่สามารถเชื่อมไปยังห้องนอนใหญ่ได้ โดยห้องนอนใหญ่จะกินพื้นที่ปีกซ้ายของบ้านทั้งหมด โดยจะวางตำแหน่งห้องน้ำไว้หลังบ้าน ห้องน้ำของ Master Bedroom นี้จะมีความพิเศษตรงที่จะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ ส่วนพื้นที่ตรงกลางห้องสามารถทำเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้เลย และพื้นที่สำหรับวางเตียงนอนจะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน ถือว่าจัดฟังก์ชันการใช้งานได้ค่อนข้างง่าย ส่วนปีกขวาของห้องจะเป็นห้องนอนเล็ก ห้องนึงจะอยู่ทางหน้าบ้าน ได้วิวที่เปิดโล่งหน่อย อีกห้องจะอยู่ทางด้านหลังบ้าน ขนาดห้องทั้งสองเท่าๆกัน มีห้องน้ำในตัว และมีหน้าต่างสองด้านผนังทำให้สามารถระบายอากาศได้ดีค่ะ

    หน้าตาบ้านจะเห็นว่ามีการตกแต่งด้วยโทนสีขาว เทา และมีการนำไม้มาตกแต่งเพิ่มเติมทำให้บ้านดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น บ้านจะเป็นหน้ากว้าง ส่วนที่เป็นกระจกที่ชั้น 1 ก็จะมีเเนวรั้วโปร่งและเเนวต้นไม้ที่ปลูกช่วยพรางตา ทำให้คนที่เดินผ่านไปมามองเข้าไปภายในบ้านไม่ชัดจนเกินไป

    ทางเข้า-ออกบ้านจะมีจุดเดียวคือประตูรั้วเลื่อนบริเวณที่จอดรถค่ะ บ้านมาตรฐานทุกยูนิตก็จะให้ไฟหน้าบ้าน กริ่ง ตู้จดหมาย และที่ทิ้งขยะเหมือนกัน

    บ้านแบบนี้จะมีความพิเศษหน่อยตรงที่ประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถจะเป็นประตูบานเลื่อน วัสดุประตูเป็นไม้เต็งค่ะ

    พื้นที่รอบๆบ้านก็จะมีปลูกหญ้าไว้ให้ มีก๊อกน้ำซักล้างใกล้ๆที่จอดรถ วันไหนอยากทำความสะอาดรถหรือรถน้ำต้นไม้ก็จะได้สะดวกมากขึ้น ด้านหลังจะมีพื้นที่ซักล้างที่มีการเดินท่อน้ำและปลั๊กไฟไว้ให้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า

    ด้านข้างบ้านมีพื้นที่สนามเล็กๆสามารถปลูกสวนได้ และเป็นวิวพักสายตาให้กับพื้นที่ภายในบ้านอีกด้วย

    บรรยากาศภายในบ้านมาตรฐานค่ะ หน้าต่างภายในบ้านจะเป็นบานเลื่อนเปิดคู่ และผนัง Low wall ส่วนภายในห้องครัวก็จะมีก่อเคาน์เตอร์มาให้เป็นตัว U ตามภาพ

    บันไดบ้านจะอยู่ตรงกลางพอดี จากที่จอดรถสามารถเดินขึ้นบ้านได้เลย ส่วนห้องน้ำรับแขกก็จะอยู่ใต้ชานพักบันได เเบ่งพื้นที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วน แขกหรือเพื่อนที่มาหาก็จะไม่วุ่นวายไปกับพื้นที่ส่วนพักผ่อนอื่นๆภายในบ้านค่ะ

    ขึ้นมาชั้น 2 ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ Family Area ทางขวามือจะเป็นห้อง Master Bedroom ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ ถ้าเราจำกันได้บ้านแบบ Glorious จะวางห้อง Master Bedroom ไว้หน้าบ้าน ทำให้วิวหน้าบ้านจะมีแต่ห้องนอนใหญ่ที่ได้ไป แต่บ้านเเบบนี้จะมีทั้งห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็ก และ Family Area ที่สามารถมองวิวหน้าบ้านได้

    ห้องนอนใหญ่ก็จะมีขนาดค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่ติดกับระเบียงหน้าบ้านค่ะ

    ห้องน้ำก็จะมีอ่างอาบน้ำมาให้ และมี Built-in ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามาให้ด้วย

    ส่วนห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจะมีหน้าต่างอยู่ 2 ด้านค่ะ ถ่ายเทอากาศได้ดีเลย เเล้วบ้านเเบบนี้จะมี Wallpaper แถมมาให้ด้วยค่ะ

    Radiant

    บ้านเดี่ยว RADIANT จะเป็นบ้านที่มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ตั้งอยู่บนที่ดินมาตรฐาน 50.75 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.85 ล้านบาท จัดว่าเป็นบ้านที่ย่อส่วนลงมาจากแบบ Luminance นะคะ คือจำนวนที่จอดรถจะลดลง 1 คัน พื้นที่ Family Area ที่ชั้น 2 และห้องแม่บ้านจะไม่มี ส่วนฟังก์ชันอื่นๆยังอยู่ครบ คือสามารถอยู่อาศัยกัน 5-8 คนได้สบายๆ แบบนี้จะมีความพิเศษอยู่ที่จากห้องรับประทานอาหารจะมีประตูที่เปิดเชื่อมต่อไปยังสวนข้างๆบ้านได้ค่ะ

    ตัวบ้านจะยังคงเป็นบ้านหน้ากว้างอยู่ แต่จอดรถได้ 2 คัน

    บรรยากาศภายในบ้านมาตรฐานก็จะมีขนาดกะทัดรัดขึ้น แต่ถือว่าฟังก์ชันใช้งานให้มาครบครัน

    ชั้นล่างจะมีห้องนอนอยู่ 1 ห้อง มีห้องน้ำในตัวเหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ส่วนห้องน้ำชั้นล่างสำหรับเเขก บ้านนี้จะต้องเดินลงไปนิดนึงนะคะ

    บรรยากาศภายใน Master Bedroom ค่ะ เป็นห้องที่มีระเบียง สามารถวางเตียงนอนไว้ทางหน้าบ้านได้ ตรงกลางห้องก่อนเข้าไปห้องน้ำก็สามารถจัดเป็นมุมทำงาน และ Walk-in Closet ได้สบายๆ

    SHINE

    SHINE จะเป็นบ้านที่เล็กลงมา มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.15 ล้านบาท

    บ้านนี้พื้นที่ชั้น 1 กับชั้น 2 จะถูกแบ่งฟังก์ชันการใช้งานค่อนข้างชัดเจน คือพื้นที่ Common Area ของบ้านจะอยู่ที่ชั้น 1 เป็นพื้นที่รับแขกและเหล่าสมาชิกภายในบ้านมาใช้งานและทำกิจกรรมร่วมกันเช่น ดูทีวี รับประทานอาหาร โดยพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารจะสามารถเชื่อมต่อไปยังสวนด้านข้างบ้านได้ และมีห้องน้ำที่เป็น Powder room อยู่ชั้นล่างไว้ใช้งาน ส่วนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่สำหรับพักอาศัย มีห้อง Master Bedroom อยู่ทางหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องวางอยู่ด้านหลัง โดนห้องนอนเล็กจะต้องออกมาใช้ห้องน้ำร่วมกันด้านหน้าห้องแทนค่ะ

    บ้านแบบนี้ตัวบ้านจะยังคงดีไซน์คล้ายๆกันไปทั้งโครงการนะคะ เน้นสีขาวครีม และมีการนำไม้มาเป็นวัสดุตกแต่งหน้าบ้าน

    บรรยากาศรอบๆตัวบ้านจะประมาณนี้ มีพื้นที่สวนด้านข้างที่ใหญ่พอสมควร สามารถเดินออกมาจากพื้นที่รับประทานอาหารได้ด้วย บ้านเเบบนี้ทางเข้าหลักจะมีอยู่ทางเดียวคือเข้าจากห้องนั่งเล่นค่ะ ส่วนทางเข้า Service จะเข้าได้จากครัว

    บ้านเเบบนี้จะไม่มี Wallpaper มาให้นะคะ แต่ยังคงมีระบบ Megnetic Censor ให้มาภายในบ้าน

    SOL

    เรามาดูบ้านแฝดแบบเดียวของโครงการนี้กันค่ะ แบบนี้จะมีชื่อว่า SOL เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 1 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 35.53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท ตัวบ้านแฝดนี้ส่วนที่ติดกันจะเป็นพื้นที่ครัวและห้องน้ำที่ชั้น 1 เท่านั้นค่ะ ส่วนชั้น 2 จะไม่มีผนังติดกันเลย แต่ก็ไม่ได้เปิดช่องเปิดไว้ตรงนี้นะคะ ซึ่งก็จะดีตรงที่ได้ความเป็นส่วนตัว บ้านทั้ง 2 หลังไม่สามารถมองเห็นกันได้ ในขณะที่ใช้ผนังแยกกัน ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงดังรบกวนค่ะ ตัวบ้านจะเป็นบ้านเเนวลึก

    ชั้น 1 จะประกอบด้วยที่จอดรถในร่ม 1 คัน ตัวบ้านจะเป็นแนวลึก มีทางเข้าออกทั้งจากห้องนั่งเล่นและที่จอดรถ พื้นที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆมีพื้นที่ดูทีวีนั่งเล่นพักผ่อน และพื้นที่รับประทานอาหาร มีครัวปิดเเยกออกไปอีกฝั่ง เเละมีห้องน้ำที่สามารถอาบน้ำได้ที่ชั้น 1 นี้ด้วย ส่วนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนโดยเฉพาะ เเบ่งเป็นห้องนอนใหญ่ทางด้านหน้าบ้านเเละห้องนอนเล็ก 2 ห้องทางด้านหลังที่จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน

    ตัวอย่างหน้าบ้านของบ้านแฝด SOL จะเห็นได้ว่าพื้นที่ที่อยู่ติดกันจะอยู่ที่ชั้น 1 ส่วนที่เป็นครัวเเละห้องน้ำเท่านั้น ส่วนชั้น 2 จะไม่มีผนังด้านไหนที่ชิดกันเลย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

    Bravo

    แบบสุดท้ายของโครงการจะมีชื่อว่า Bravo ค่ะ ถือว่าเป็นแบบบ้านเดี่ยวเริ่มต้นของโครงการนี้เลย พื้นที่ใช้สอยจัดว่ามีฟังก์ชันให้มาเยอะ คือมี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 51 ตร.วา รวมพื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.35 ล้านบาท จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือที่ชั้นล่างจะมีห้องนอนเพิ่มมาให้ 1 ห้อง แต่ห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวนะคะ จะต้องใช้งานร่วมกับเเขกที่ห้องน้ำข้างๆบันไดแทน ซึ่งเราอาจจะปรับห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ เช่นเป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง เป็นต้น ส่วนพื้นที่ชั้น 2 จะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยที่ทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำภายในตัวหมดเลยค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6 FEB 2019

    • บ้านแฝด SOL 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 35.53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว BRAVO 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.35 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว SHINE 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.15 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว RADIANT 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 50.75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.85 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว GLORIOUS 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ที่ดินมาตรฐาน 54.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.5 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว LUMINANCE 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ที่ดินมาตรฐาน 57.63 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย  255 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.15 ล้านบาท

    • จองและทำสัญญา n/a บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
    • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล –  CENTRO อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ เป็นทำเลย่านชานเมืองกรุงเทพฝั่งตะวันออกใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ในซอยกิ่งแก้ว 37 ซึ่งเป็นซอยตัน สภาพแวดล้อมรอบโครงการจะอยู่ในโซนที่มีโครงการจัดสรรทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมอยู่มาก แต่จะเเยกทางเข้าออกมาอีกทางนึง ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น และด้วยตัวทำเลอยู่ในซอยประมาณ 2 กม. อีกทั้งบรรยากาศในซอยเป็นโกดัง และบริษัทขนส่งเป็นส่วนใหญ่ ทำให้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ใกล้ในระยะเดินนั้นไม่มี ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-eleven ที่ใกล้สุดจะอยู่ที่ปากซอย 37 ส่วนร้านอาหารส่วนมากจะอยู่อิงถนนกิ่งแก้ว กระจายตัวกันไปตามอาคารพาณิชย์ข้างทาง ส่วนตลาดใหญ่ก็จะมีตลาดบางพลีใหญ่(กิ่งแก้ว) ที่มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 10 กม. ส่วนคอมมูนิตี้มอลล์ที่ใกล้สุดคือ The Paseo และ Homepro Village ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ต้องอาศัยรถยนต์ไปนะคะ

    การเดินทางโดยใช้รถ – โครงการนี้เหมาะกับการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ด้วยแบบบ้านที่มีที่จอดรถมากถึง 3 คันด้วย จากซอยกิ่งแก้ว 37 สามารถเข้า-ออกเมืองได้หลายเส้นทาง ทั้งทางถนนมอเตอร์เวย์ สามารถวิ่งตรงไปจนถึงพระราม 9 ได้ หรือใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีฝั่งถนนบางนา-ตราดก็สามารถเข้าเมืองฝั่งพระราม 3, พระราม 4 ได้ ส่วนถ้าจะออกเมืองก็ใช้เส้นลาดกระบังวิ่งไปถึงฉะเชิงเทราได้ และสามารถใช้ถนนบางนา-ตราดออกไปชลบุรีได้ค่ะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – เนื่องจากที่ตั้งโครงการต้องเข้าซอยกิ่งแก้ว 37 อีก 2 กม. ทำให้ในกรณีที่ไม่มีรถและต้องเดินทางออกจากโครงการอาจจะลำบากเล็กน้อย ที่ใกล้สุดจะมีรถสองเเถวและวินมอเตอร์ไซค์อยู่ที่หน้าปากซอย รถสองแถวสามารถเลือกใช้บริการทั้งที่วิ่งไปทางลาดกระบังและที่วิ่งไปตลาดบางพลีใหญ่(กื่งแก้ว)ได้ หรือถ้าจะใช้ระบบรางที่ใกล้สุดคือ Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปยังพญาไทได้เลยค่ะ

    วัสดุ – โครงการนี้มีการก่อสร้างแบบใช้อิฐมวลเบา ส่วนที่จอดรถเเละพื้นที่ซักล้างจะเป็นโครงสร้าง Slab on Ground พื้นจะให้มาเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ส่วนห้องนอนจะได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังจะเป็นฉาบเรียบทาสี แต่จะมีบ้านสามแบบที่ใหญ่สุดอย่าง Radiant, Glorious และ Luminance ที่จะให้ Wallpaper มาด้วย ไฟภายในบ้านจะได้เป็น LED Down light ภายในครัวมีการก่อเคาน์เตอร์ให้ ตัวบันไดจะเป็นโครงสร้างเหล็ก พื้นบันไดและมือจับจะเป็นไม้ยางพาราประสาน ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ประตูภายในใช้เป็น HDF ส่วนประตูภายนอกได้เป็น UPVC มีแบบบ้านใหญ่สุด Luminance ที่ทางเข้าบ้านจากที่จอดรถจะได้ประตูไม้เต็งเป็นบานเลื่อนเพิ่มเข้ามา ส่วนประตูหน้าต่างที่เป็นชุดกระจกจะได้บานกรอบ UPVC สีเทาเข้มและกระจกเขียวตัวเเสง 6 มม. สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำจะเป็นของ COTTO และ PREMA ภายในบ้านทุกหลังจะมีระบบ Megnetic Censor ไว้ให้กันขโมยค่ะ

    การออกแบบ – ถือว่าเป็นโครงการจัดสรรขนาดกลาง 288 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 60 ไร่ ประกอบไปด้วยบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก โครงการจะมีแบบบ้านให้เลือกค่อนข้างมากถึง 6 แบบ ตั้งแต่บ้านแฝด 137 ตร.ม. จอดรถได้ 1 คันไปจนบ้านเดี่ยว 255 ตร.ม.จอดรถได้ถึง 3 คัน ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอย ทุกแบบมีฟังก์ชันให้มาครบครัน และพื้นที่แต่ละส่วนจัดว่ามีขนาดพอเหมาะกับการอยู่อาศัย ไม่คับเเคบจนเกินไป หน้าตาบ้านมีการออกแบบโดยใช้ไม้มาเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบหน้าบ้าน ทำให้ได้บรรยากาศธรรมชาติและดูอบอุ่นมากขึ้น

    สาธารณูปโภค – โครงการมี Clubhouse ที่ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ , Lobby , Kids room , Co-working Space , Fitness , Yoga room และสวนสาธารณะขนาดรวมเเล้วประมาณ 2 ไร่ โดยเฟส 1 จะมีข้อดีที่มาใช้งานพื้นที่ Clubhouse ที่อยู่หน้าโครงการได้สะดวก ในขณะที่เฟส 2 จะอยู่ใกล้กับสวนมากกว่า

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 4.5 – 8 ล้านบาท, 6 February 2019

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 – เข้าไปในซอยกิ่งแก้ว 37 อีกประมาณ 2 กม. ภายในซอยไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์เท่าไหร่นัก
    • ความปลอดภัย 8/10 – ทางเข้าโครงการมีทั้งรั้วไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ ตัวบ้านมีการติดตั้ง megnetic Censor ให้มา
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยที่เยอะ มีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน
    • วัสดุ 7.75/10 – ได้ตามมาตรฐานของราคานี้
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – ถนนกว้าง มีการปลูกต้นไม้ตลอดข้างทางถนนหลัก หน้าบ้าน และริมรั้ว
    • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครัน ขนาดเหมาะสมกับจำนวนยูนิต
    • 7.61 / 10.00 

    BOTTOM LINE

    CENTRO อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ เป็นโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ย่านกิ่งเเก้ว สุวรรณภูมิ เหมาะกับคนที่ทำงานในสุวรรณภูมิหรือครอบครัวขยายที่เดิมทีอาศัยอยู่บริเวณนั้น ต้องการหาบ้านฟังก์ชันครบ พื้นที่ใช้สอยมาก มีความเป็นส่วนตัว และมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งาน มีงบประมาณ 5-10 ล้าน (รวมค่าตกแต่ง) หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 35,000-70,000 บาท