รีวิวฉบับที่ 2070 …  วันนี้ผมจะพาทุกคนมาชม Centro สาทร-กัลปพฤกษ์ โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น ที่มีทำเลเดียวกันกับแบรนด์รุ่นพี่อย่าง The City ตั้งอยู่บนถนนบางแค เชื่อมต่อกับถนนรอบๆได้ง่าย เข้าเมืองได้สะดวก ที่สำคัญมีระยะห่างจาก MRT บางแคเพียงแค่ประมาณ 1.7 กม. เป็นตัวเลือกในการเดินทางที่ดีทีเดียว มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ พร้อมอาคาร Clubhouse ที่มี Facilities แบบจัดเต็มครบครัน ในราคาเริ่มต้นที่ 7.99 ล้านบาท

ข้อมูลโครงการ

21 April 2020

  • เซนโทร สาทร – กัลปพฤกษ์ (Centro Sathorn-Kallapapruek )
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนบางแค เขตภาษีเจริญ
  • เนื้อที่โครงการ 37 ไร่ จำนวน 174 ยูนิต
  • Gemini บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 43.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
  • Starry บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 51.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • Magnitude บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 56.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • Legent บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 63.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.75 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 100,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี พ.ค. 2563
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ธ.ค. 2564
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.696842,100.421542
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ

เพชรเกษม-บางแค เป็นทำเลที่อยู่ระหว่างทางเข้าเมืองกรุงเทพชั้นในกับจังหวัดนครปฐมเป็นทำเลของที่อยู่อาศัยแนวราบ อาคารพาณิชย์ และชุมชนดั้งเดิม จุดเปลี่ยนที่สำคัญของทำเลนี้คือการมาของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่ส่งผลให้เริ่มมีการสร้างคอนโดเกาะตามแนวรถไฟฟ้าทั้ง Low Rise และ High Rise มีการพัฒนาโดยรอบพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเจริญก็ถูกกระจายออกไปยังถนนรอบข้างอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ถนนบางแคเองที่เป็นถนนเชื่อมระหว่างถนนเพชรเกษมและถนนกัลปพฤกษ์ก็ได้รับผลดีจากการพัฒนานี้ไปด้วยเช่นกัน

Centro สาทร-กัลปพฤกษ์ เป็นโครงการในแบรนด์ Centro มีราคาเริ่มต้นสูงที่สุดที่ AP เคยทำมา โดยแลกมากับการอยู่ในทำเลเดียวกันกับแบรนด์รุ่นพี่อย่าง The City สาทร-กัลปพฤกษ์ จึงทำให้ทำเลของเราถือเป็นจุดเด่นหลักของโครงการนี้เลยครับ เพราะตั้งอยู่บนถนนใหญ่อย่างถนนบางแค ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนกัลปพฤกษ์และถนนเพชรเกษม ที่เป็นถนนที่มีความเจริญค่อนข้างสูงทั้งคู่ โดยเฉพาะถนนเพชรเกษมที่มีรถไฟฟ้า MRT วิ่งบนเส้นนี้ด้วย แถมนอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนเทอดไทและถนนเอกชัยที่อยู่รอบๆได้ด้วย ทำให้สามารถเข้าเมืองได้หลากหลายช่องทาง มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย หรือจะออกเมืองก็มีวงแหวนกาญจนาฯ ในระยะไม่ไกล ทำให้เรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวทำได้ค่อนข้างสะดวกเลยครับ

หรือถ้าจะเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ง่ายเช่นกัน เพราะมีระยะห่างจาก MRT บางแค ประมาณ 1.7 กิโลเมตร ซึ่งก็เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทางได้ดีทีเดียว เพราะหน้าโครงการเองก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้บริการเลย ตลอดทั้งเส้นบางแคเองก็มีรถสาธารณะให้บริการด้วย โดยทั่วไปแล้วถ้าพูดถึงบ้านและที่พักอาศัยแนวราบจะไม่ค่อยได้พูดถึงการเดินทางสาธารณะเท่าไหร่นัก แต่โครงการนี้เป็นบ้านใกล้รถไฟฟ้า ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้ ผมขอเริ่มจากรอบๆตัวโครงการกันก่อนเลย หน้าโครงการเองจะมีร้านค้าร้านอาหารให้ค่อนข้างเยอะทั้งแบบแผงลอยและแบบร้านนั่งทาน ไปจนถึงบุฟเฟ่ต์ โดยใกล้โครงการฝั่งทางถนนเพชรเกษมจะมีปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่มี 7-Eleven ภายใน ด้านหน้าก็มีร้านอาหารแผงลอยค่อนข้างเยอะ ส่วนอีกฝั่งทางถนนกัลปพฤกษ์จะมี Tesco Lotus Express และเวิ้งร้านอาหารแผงลอย ไปจนถึงร้านอาหารที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมของคนในย่านนี้ในระยะเดินจากหน้าโครงการได้ และถนนบางแคเองก็มีของกินให้เลือกเกือบจะทั้งเส้นเลย

ส่วนถ้าจะเป็นความเจริญในแง่ของห้างสรรพสินค้าก็มีให้เลือกแทบจะรอบทิศเลย เริ่มต้นแต่บนถนนเพชรเกษมจะมี ตลาดบางแค, Tesco Lotus, Seacon บางแค บนถนนกัลปพฤกษ์ก็มี Home Pro, The Lake, City Connect, Makro, Big C Supercenter, Indy Market, ตลาดน้ำสำเพ็ง 2 หรือถ้าออกไปทางฝั่งกาญจนาภิเษกก็จะมี The Express Mall และ The Mall บางแค เรียกว่าจะเข้าออกทางไหนก็แวะซื้อของกินของใช้หรือหาของกินกันได้ทุกทิศทางเลยครับ

สำหรับการเดินทางไปโครงการในวันนี้ ผมจะใช้เส้นทางที่ค่อนข้างมาตรฐาน และเป็นเส้นทางเดียวกันกับการใช้งานรถไฟฟ้าด้วย คือการเริ่มต้นมาจากถนนเพชรเกษม เลี้ยวเข้าถนนบางแค (บริเวณหน้าปากซอยนี้จะมีจุดขึ้นลงรถไฟฟ้า MRT สถานีบางแคอยู่ด้วย) จากนั้นไม่ต้องคิดอะไรมากเลยครับ แค่ขับตรงต่อไปประมาณ 1.7 กิโลเมตร ก็จะเจอป้ายโครงการอันใหญ่สะดุดตาอยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปเลย จากนั้นจะมีทางที่ได้รับการดูแลจากทางโครงการตรงยาวเข้าไป ให้ตรงผ่าน 4 แยกแรกไปนะครับ จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่ 4 แยกที่สอง และตามด้วยเลี้ยวขวาตามทาง ก็จะเจอโครงการอยู่ทางขวามือครับ (ฝั่งซ้ายมือจะเป็น The City สาทร-กัลปพฤกษ์) ลองไปดูภาพจริงกันเลยครับ

Image 1/6
เริ่มต้นการเดินทางวันนี้กันที่ต้นถนนบางแค ฝั่งเลี้ยวมาจากถนนเพชรเกษม จากนั้นตรงต่อเข้าไปเรื่อยๆประมาณ 1.7 กิโลเมตร

เริ่มต้นการเดินทางวันนี้กันที่ต้นถนนบางแค ฝั่งเลี้ยวมาจากถนนเพชรเกษม จากนั้นตรงต่อเข้าไปเรื่อยๆประมาณ 1.7 กิโลเมตร

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

มาถึงโครงการกันแล้ว ก็มาดูพื้นที่รอบๆโครงการกันต่อเลย ตัวโครงการมีขนาดประมาณ 37 ไร่กว่าๆ มีทางเข้าออกทางเดียวทางฝั่งถนนบางแค ตำแหน่งของโครงการจริงๆจะอยู่ภายในซอยย่อยเล็กน้อย โดยจะมีระยะเข้ามาประมาณ 150 เมตร โดยทางเข้าออกโครงการจะใช้ร่วมกันกับโครงการ The City สาทร-กัลปพฤกษ์ ซึ่งก็มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ ไม่ต้องกังวลว่าจะวุ่นวายเลย พื้นที่ส่วนใหญ่โดยรอบจะเป็นพื้นที่พักอาศัยล้อมรอบเกือบจะทุกฝั่ง ซึ่งข้อดีคือไม่วุ่นวายและไม่มีเสียงจากถนนบางแครบกวน แถมภายในซอยย่อยถนนก็ค่อนข้างแคบทำให้บังคับให้รถขับเร็วมากไม่ได้ จึงไม่น่าจะมีเสียงรถรบกวนนัก รวมไปถึงปลอดภัยกว่าถนนใหญ่ด้วยเช่นกัน จะมีเพียงฝั่งทิศตะวันออกเท่านั้นที่ติดกับคลองราชมนตรี ซึ่งเป็นพื้นที่ในอนาคตของโครงการ โดยแต่ละฝั่งของโครงการจะประกอบไปด้วย

ทิศเหนือ – โครงการ The City สาทร-กัลปพฤกษ์  เป็นอีกหนึ่งโครงการของ AP เช่นกัน โดยจะมีจำนวนยูนิตเพียง 121 ยูนิตเท่านั้น ใช้ทางเข้าออกร่วมกันก็จริงแต่ไม่วุ่นวายนัก

ทิศตะวันออก – คลองราชมนตรี เป็นฝั่งเดียวที่ไม่ติดกับบ้านพักอาศัย จะได้ความเงียบสงบเพิ่มมากขึ้นกว่าฝั่งอื่นๆ

ทิศใต้ – พื้นที่พักอาศัยแนวราบ ติดกับชุมชนดั้งเดิมของพื้นที่ ซึ่งจะเป็นบ้าน 1-2 ชั้นทั้งหมด ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก

ทิศตะวันตก –  ฝั่งนี้จะเป็นทางเข้าออกโครงการและพื้นที่พักอาศัยแนวราบล้อมรอบ ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าเป็นซอยค่อนข้างแคบและประกอบไปด้วยบ้าน 1-2 ชั้น ตลอดทั้งแนวรอบๆโครงการ

ดูพื้นที่รอบโครงการกันไปแล้ว มาดูพื้นที่ใกล้เคียงโครงการบนถนนบางแคกันบ้างครับ ลองเดินไปฝั่งมุ่งหน้าไปถนนกัลปพฤกษ์ก่อนเลย อีกหนึ่งจุดที่ผมชอบมากของทำเลโครงการนี้ นอกจากจะใกล้รถไฟฟ้าแล้ว (ประมาณ 1.7 กิโลเมตร) หน้าโครงการยังมีจุดประจำของพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้อีกด้วย ดังนั้นการใช้งานรถสาธารณะจึงทำได้ค่อนข้างสะดวกใครที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำก็จัดว่าสะดวกเลย แนะนำว่าให้ขอเบอร์ติดต่อพี่วินไว้เลย ให้เขาเข้าไปรับที่บ้านเลยก็จะยิ่งสะดวกขึ้นไปอีกนะครับ

เดินถัดมาจะมีร้านค้าขายผลไม้ และขนมต่างๆอยู่ ฝั่งตรงข้ามเป็นอู่ซ่อมรถครับ

ถัดมาอีกจะเป็นอู่แท็กซี่ที่มีแท็กซี่จอดค่อนข้างเยอะ มีรถเข้าออกอยู่เกือบจะตลอด

ฝั่งตรงข้ามจะมีโรงเรียนอนุบาลอยู่ครับ เช้าและเย็นช่วงเข้าเรียนและกลับบ้านรถก็จะหนาแน่นหน่อย

ถัดมาอีกจะมีร้านกาแฟให้ด้วย ใครที่คอกาแฟก็เดินมาซื้อได้สบายๆเลย

เลยมาอีกหน่อยจะเป็น Tesco Lotus Express ครับ พร้อมร้านอาหารแบบแผงลอยด้านหน้า ข้างๆจะมีของกินค่อนข้างเยอะ เป็นจุดที่มาฝากท้องได้ง่ายๆครับ

ฝั่งตรงข้ามเองก็มีร้านค้าร้านอาหารอีกเยอะเหมือนกัน สังเกตจากพวกรถรับส่งอาหารที่เรียงรายกันอยู่ จะเห็นว่าจุดนี้จัดเป็นที่นิยมของคนในละแวกนี้เลยล่ะครับ

ย้อนกลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตึกแถวเก่าๆดั้งเดิมของคนในพื้นที่ สูงประมาณ 3 ชั้น ซึ่งจะเปิดเป็นร้านค้าด้านล่าง ส่วนด้านบนเป็นพื้นที่พักอาศัยครับ

ลองเดินไปฝั่งถนนเพชรเกษมกันบ้างดีกว่า

ด้านข้างทางเข้าออกโครงการจะเป็นอาคารที่กำลังก่อสร้าง มีทั้งหมด 4 ห้อง สูง 3 ชั้นครับ ต้องมารอดูกันว่าในอนาคตจะเปิดเป็นอะไร

เลยมาอีกก็จะมีร้านจิ้มจุ่มสไตล์อีสานแบบห้องแอร์ ใครที่ชื่นชอบก็มาฝากท้องกันได้ง่ายๆเลยครับ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ที่หน้าบ้านเปิดเป็นร้านค้าเล็กๆ

ต่อมาจะมีเวิ้งร้านอาหารให้จุดทางฝั่งนี้ (ช่วง Covid-19 ก็จะปิดกันเยอะหน่อยนะครับ) ภายในมีร้านอาหารประมาณ 3-4 ร้านครับ จำพวกข้าวหน้าเป็ด อาหารอีสาน

เดินต่อมาอีกหน่อยจะเป็นแนวร้านค้าเรียงราย ส่วนด้านหลังจะมีปั๊มน้ำมัน PTT ที่มีให้เติมแก๊สด้วย ภายในมี 7-eleven ให้บริการ ข้อดีคือก่อนเข้าบ้าน หรือออกจากบ้านก็แวะเติมน้ำมันได้ง่ายเลย แถมใช้เป็นจุดกลับรถได้ด้วย

ฝั่งตรงข้ามปั๊มน้ำมันจะเป็นแนวตึกแถวเก่าสูง 3 ชั้น เปิดเป็นร้านค้าต่างๆ เช่นร้านเสริมสวย ตัดผม ขายของ รวมไปถึงร้านอาหารด้วยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

สถานศึกษา

  • มหาวิทยาลัยสยาม ~ 6.6 กม.
  • โรงเรียนเลิศหล้า ~ 8.6 กม.
  • โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ~ 9.6 กม.
  • โรงเรียนนานาชาติ Shrewbury ~ 13 กม.
  • 13 กม. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ~ 13 กม.
  • โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ~ 13.3 กม.
  • โรงเรียนเซนโยเซฟ คอนแวนต์ ~ 14.6 กม.

 ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า

  • Big C กัลปพฤกษ์ ~ 2.1 กม.
  • HomePro กัลปพฤกษ์ ~ 2.6 กม.
  • Tesco บางแค ~ 3.0 กม.
  • Metro west town ~ 4.2 กม.
  • Central พลาซา พระราม 2 ~ 6.1 กม.
  • Seacon บางแค ~ 6.3 กม.
  • The Mall บางแค ~ 7.9 กม.
  • The Mall ท่าพระ ~ 8.3 กม.
  • Makro กัลปพฤกษ์ ~ 8.3 กม.
  • Tesco กัลปพฤกษ์ ~ 8.3 กม.

สถานพยาบาล

  • รพ. เกษมราษฎร์ บางแค ~ 4.2 กม.
  • รพ. บางไผ่ ~ 7.4 กม.
  • รพ. พญาไท3 ~ 7.3 กม.
  • รพ. บางมด ~ 8.9 กม.

 เส้นทางคมนาคม

  • ถ.กัลปพฤกษ์ ~ 1.2 กม.
  • ถ.เพชรเกษม ~ 1.7 กม.
  • MRT สถานีบางแค ~ 1.7 กม.
  • MRT สถานีหลักสอง ~ 2.9 กม.
  • วงแหวนกาญจนา ~ 3.4 กม.
  • ถ.ราชพฤกษ์ ~ 6.3 กม.
  • BTS วุฒากาศ ~ 7.4 กม.
  • ทางด่วนศรีรัช (สาทร) ~ 12.7 กม.

รายละเอียดโครงการ

เข้ามาดูกันต่อที่ภายในโครงการกันเลย ตัวโครงการเป็นพื้นที่ลักษณะตัว U ขนาด 37  ไร่กว่าๆ มีตัว Clubhouse อยู่ที่ด้านหน้าโครงการ ข้อดีคือเป็นหน้าเป็นตาของโครงการ และแวะรับหรือส่งผู้ใช้งานได้สะดวก ส่วนด้านในก็จะมีสวนให้อีกจุดสำหรับลูกบ้านที่อยู่ภายในใช้งานได้ง่ายด้วย ส่วนพื้นที่ขายตอนนี้จะขายช่วงด้านหน้าของโครงการก่อน ซึ่งจะมีข้อดีที่ใกล้ทางเข้าออก ใกล้ตัว Clubhouse ใช้งานง่าย แต่ไม่เป็นซอยย่อยก็อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง และอาจจะต้องมีรถผ่านหน้าบ้านเยอะหน่อยสำหรับหลังที่อยู่บนถนนหลัก  โดยทั้งโครงการจะมีแบบบ้านทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดรวมทั้งหมดหมด 4 แบบ ตั้งรับแนวทิศเหนือใต้เป็นหลัก ซึ่งจะมีข้อดีที่ไม่โดนแดดส่องเข้าบ้านโดยตรงในช่วงบ่าย ยกเว้นส่วนบ้านบนถนนหลักช่วงใกล้ทางเข้าออกจะหันรับทิศตะวันออกและตก

ส่วนการเข้าถึงโครงการจะมีทางเข้าออกทางเดียวที่ใช่ร่วมกันกับโครงการ  The City สาทร-กัลปพฤกษ์ ที่ซุ้มประตูมีทางเข้าออกแยกกันชัดเจน ด้วยรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติและประตูเลื่อนอัตโนมัติ ระบบ Keycard Access แบบ Easy Pass พร้อม CCTV เป็นโครงการที่ดูแลด้วยระบบ KATSAN ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยของทาง AP เมื่อเข้ามาจะมีถนนหลักที่กว้าง 12 เมตร และถนนซอยกว้าง 9 เมตร

เมื่อเข้ามาถึงตัวโครงการ จะเป็นทางเข้าออกที่ใช้ร่วมกันสองโครงการอย่างที่บอกไป มีน้ำพุและต้นไม้ใหญ่ให้ตรงกลางคอยสร้างบรรยากาศ

ฝั่งซ้ายมือจะเป็นโครงการ The City สาทร-กัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวในของ AP เช่นกัน ออกแบบมาภายใต้แนวคิด Living Under The Moon จะเน้นที่สีโทนเย็น มีดีไซน์ที่ดูสุขุม เรียบง่ายแต่ดูมีระดับ

ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นโครงการของเรา Centro สาทร-กัลปพฤกษ์ ที่ออกแบบมาภายใต้แนวคิด Living Under The Sun ซึ่งจะเน้นไปที่สีโทนร้อนดู Active และมีพลังงาน มีความเป็นวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น โดยที่นี่จะเป็นมีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่อยู่ที่เดียวกันกับโครงการรุ่นพี่อย่าง The City สาทร-กัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นโครงการบ้านราคาสูงกว่า แต่เราได้ทำเลระดับนั้นก็ถือว่าเป็นจุดเด่นไม่น้อยเลยครับ

การเข้าออกของที่นี่จะเป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติระบบ Easy Pass โดยจะมี รปภ.ที่เป็นทีม KATSAN คอยดูแล ซึ่งเป็น Application ของทาง AP Thailand จะเป็นระบบจัดการความปลอดภัยในหมู่บ้าน ช่วยในเรื่องของการ Verified คนที่จะเข้ามาหาลูกบ้าน สามารถเลือกไม่ให้เข้าพบก็ได้ในกรณีต้องการความเป็นส่วนตัว หรือการจัดการรถภายในโครงการทั้งหมดที่เข้ามาในหมู่บ้าน จะช่วยให้เราทราบว่าเป็นรถของใครเพื่อสามารถติดต่อได้ในกรณีที่มาจอดขวางหน้าบ้าน รวมไปถึงการรับส่งของผ่าน PIN Code ชั่วคราว และการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอื่นๆ

ส่วนแรกที่เข้ามาก็จะเจอกับตัว Clubhouse บนป้อม รปภ. แบบที่คุ้นตากันในแบบฉบับของ Centro เช่นเดิม โดยตัว Clubhouse ที่โครงการให้มานี้ก็มีดีไซน์ที่ค่อนข้างโดดเด่นนะ ไม่เหมือนที่อื่นๆของ Centro เช่นกัน มาด้วยพื้นที่ส่วนกลางอัดแน่นภายในพร้อม Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์ ภายในประกอบไปด้วย

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็ก
  • Fitness พร้อม Yoga room
  • Kid’s club
  • Co-working space

โดยจะมีเวลาเปิดปิดอยู่ที่ 8.30 – 18.30 น. ข้อเสียคือไม่มีที่จอดรถให้สำหรับการใช้งาน Clubhouse ทำให้ลูกบ้านที่อยู่ด้านในของหมู่บ้านที่ขับรถออกมาจะมาใช้งานยากหน่อย

เราเข้าไปดูภายในกันเลยดีกว่า ตัว Clubhouse จะมีทางเข้าออก 1 จุด ยกระดับสูงขึ้นจากพื้นประมาณ 1.2 เมตร เพราะต้องเป็นระยะของสระว่ายน้ำที่ตั้งบนพื้นครับ

เมื่อเราเดินขึ้นมาที่ตัวอาคารจะมี Lobby สำหรับเป็นพื้นที่รับรองการใช้งานของอาคาร ลองเข้าไปดูกันก่อนเลย

เข้ามาภายในจะเป็นพื้นที่แบบยกฝ้าเพดานสูง ให้ความโปร่งโล่งสบายตา

ที่ชอบคือแนวกระจกสูงทางฝั่งหันออกหน้าอาคาร เห็นความเคลื่อนไหวของรถที่ผ่านไปมาได้ ส่วนด้านฝั่งซ้ายมือในภาพจะเป็นประตูที่เชื่อมต่อไปยังส่วนของสระว่ายน้ำ ซึ่งทำให้พื้นที่นี้สามารถใช้งานได้ง่ายจากทุกส่วนของอาคาร

เดินกลับออกมากันก่อน อีกฝั่งของทางเข้าอาคารจะมีทางให้เลือกขึ้นไปชั้น 2 สำหรับคนที่ต้องการมาใช้งานในส่วนของห้องออกกำลังกาย ห้องทำงานและห้องสำหรับเด็ก หรือจะเดินอ้อมไปด้านหลังสำหรับการใช้งานห้องน้ำสำหรับแต่งตัว เปลี่ยนชุดเพื่อใช้งานสระว่ายน้ำก็ได้ครับ เราลองเดินอ้อมไปด้านหลังกันก่อนเลยนะ

เดินเข้ามาจะมีห้องแม่บ้าน และห้องน้ำแยกชายหญิง

ภายในห้องน้ำก็จัดมาให้สำหรับใช้งานได้พร้อมกันหลายๆคน ขนาดไม่ใหญ่นัก เพราะจำนวนยูนิตทั้งโครงการไม่เยอะ

มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำมาให้อย่างละห้อง แต่ไม่ต้องห่วงนะ สำหรับล้างตัวข้างนอกก็มีให้อีก

ออกจากห้องน้ำมาจะมีแนวทางเดินยาวไปยังสระว่ายน้ำ เดินอ้อมด้านหลังจะช่วยให้ไม่ต้องเดินฝั่งด้านหน้าที่มีรถผ่านไปมา ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

ระหว่างทางเดินด้านหลังนี้จะมีช่องสำหรับเป็นจุดล้างตัวให้ด้วย เตรียมไว้ให้สำหรับใช้งานได้ 2 คนพร้อมกัน

เดินมาสุดแนวทางเดินจะเจอกับโถงก่อนถึงสระว่ายน้ำ สำหรับเป็นพื้นที่พักคอย นั่งเล่นสำหรับผู้ติดตามได้

สระว่ายน้ำของโครงการนี้เป็นระบบเกลือขนาด 19.5 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร ภายในสระจะมีสระเด็กแยกให้ด้วย

สระเด็กจะมี Bubble Jet ใต้น้ำให้ด้วย

เดินต่อมาด้านข้างจะมีพื้นที่สำหรับวางเตียง Sun Bed นอนเล่นอาบแดด หรือเป็นพื้นที่สำหรับผู้ติดตามได้พักคอย

ภายในสระอีกจุดจะมีพื้นที่นั่งและ Jet นวดหลังให้เช่นกัน

ขึ้นมาต่อกันที่ชั้น 2 เลยครับ เมื่อขึ้นบันไดมาจะมีทางแยกให้เดินไป 2 ทาง เราไปดูทางฝั่งของสระว่ายน้ำกันก่อนนะ

เมื่อเดินตรงมาสุดแนวทางเดินจะเจอกับห้องที่เป็น Co-Working Space สำหรับนั่งอ่านหนังสือทำงานได้ มี Free-Wifi ให้ใช้งาน พร้อมมุมนั่งเล่นที่หลากหลาย

ด้านในจะมีโต๊ะยาวสำหรับทำงานกลุ่ม หรือต้องการคุยงานกันหลายคนก็สะดวกเลย แยกออกเป็นพื้นที่ด้านใน ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ด้านในสุดจะมีประตูที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกด้วย ไปดูกัน

เป็นระเบียงที่มองเห็นสระว่ายน้ำ สำหรับสมาชิกลูกบ้านที่มาว่ายน้ำ ก็อาจจะขึ้นมาอ่านหนังสือหรือทำงานรอที่นี่ได้ ยังเชื่อมต่อกันสระว่ายน้ำได้สบายๆ

ลองดูไปอีกฝั่งของชั้น 2 กันต่อเลยครับ จะมีพื้นที่ 2 ส่วนให้ใช้งาน ยกระดับขึ้นสูงอีกหน่อย เพื่อเป็นพื้นที่ด้านบนชั้น 2 ของป้อมรปภ.

ส่วนแรกที่เห็นจะเป็น Kid’s Club พื้นที่สำหรับเด็กๆ และห้องออกกำลังกายภายใน

พื้นที่สำหรับเด็กนี้ก็จัดมาให้ค่อนข้างครบครันนะครับ ทั้งมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือ บ้านเด็ก และพื้นสนามหญ้า ที่ชอบคือเขาปูพื้นไว้ให้สำหรับกันบาดเจ็บจากการหกล้มด้วย

พื้นที่สำหรับการเรียนรู้มีโต๊ะและชั้นหนังสือและของเล่นมาให้

ส่วนสุดท้ายคือห้องออกกำลังกายครับ เป็นห้องที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลย เปิดแนวหน้าต่างรับหน้าโครงการและอีกฝั่งเป็นผนังกระจกเงา ทำให้ห้องนี้ดูโล่งยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนของ Cardio จะหันหน้าออกหน้าโครงการครับ

เห็นพื้นที่หน้าโครงการและ ป้อม รปภ. พร้อมพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ The City สาทร-กัลปพฤกษ์ ที่มี 2 ชั้นบนป้อม รปภ. เช่นเดียวกันกับโครงการของเราครับ

ส่วนด้านในอีกส่วนจะเป็นส่วนของ Weight Training ซึ่งจะมีแนวผนังกระจกเงามาให้ เช่นเดียวกันที่ใช้กันใน Fitness ที่ได้มาตรฐานทั่วไป

ด้านในจะแยกห้องพิเศษไว้ สำหรับเป็น Yoga Room หรือจะมาจัด Class ออกกำลังกายที่ได้ความเป็นส่วนตัวกันมากยิ่งขึ้น จุดเด่นที่ชอบคือรับวิวกว้าง ทำให้ห้องดูโล่ง และได้บรรยากาศดีๆในการออกกำลังกายครับ

กลับลงมากันที่ข้างล่างกันบ้าง ถนนภายในโครงการจะกว้าง 12 เมตร นะครับ ก็จัดว่ากว้างขับสวนกันสบายๆ มีต้นไม้สร้างบรรยากาศริมทางเยอะ

ส่วนของสำนักงานขายก็อยู่ที่บ้านหลังแรกทางฝั่งซ้ายมือนี้เลย

ส่วนฝั่งขวามือปัจจุบันจะเป็นสวนกว้างๆโล่งๆ เป็นบรรยากาศที่ดีที่เดียว แต่ในอนาคตพื้นที่นี้จะเปลี่ยนเป็นบ้านสำหรับขายนะครับ

ส่วนถนนภายในซอยจะกว้าง 9 เมตร ตามมาตรฐานทั่วไปครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก 

  • อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการ ประกอบไปด้วย
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 19.5 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมสระเด็ก
  • ห้องออกกำลังกาย ขนาด 55.42 ตร.ม.
  • ห้องน้ำแยกชายหญิง
  • Co-Working Space
  • Kid’s room
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 521.7 ตร.วา
  • สนามเด็กเล่น
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
  • รั้วรอบตัวบ้านสูง 1.5 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic ทุกหลัง

แบบบ้าน

ที่นี่จะมีทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว โดยจะมีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

  • Gemini บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 43.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม.- ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Starry บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 51.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.- ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Magnitude บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 56.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.- ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Legent บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 63.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.- ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

บ้านตัวอย่างของเราวันนี้จะมีหลังเดียว ซึ่งเป็นหลังที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 56.55 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ความโดดเด่นของบ้านหลังนี้คือเป็นบ้านหน้ากว้าง ทำให้สามารถรับช่องแสงและวิวฝั่งหน้าบ้านได้เยอะ ได้ครัวปิด รวมถึงยังมีห้องนอนที่ชั้น 1 สำหรับรองรับครอบครัว 3 Generations และที่พิเศษที่สุดคือทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด

พื้นที่จอดรถของที่นี่จะเป็น 2 คัน ได้จอดในร่ม มีประตูเข้าออกทางฝั่งด้านหน้า 2 จุด คือที่โรงจอดรถ และห้องรับแขก ถ้าเราเข้าจากห้องรับแขกมาจะเจอกับพื้นที่ Common Area ของบ้าน ประกอบไปด้วยห้องรับแขกด้านหน้า ด้านในจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อไปยังสวนด้านข้างบ้านได้ ถัดมาจะเป็นแนวทางเดินยาวเข้าไปในตัวบ้าน ด้านข้างจะมีบันไดเชื่อมต่อไปยังชั้น 2 และห้องครัวที่กั้นสัดส่วนไว้ให้ชัดเจน เชื่อมต่อไปยังลานซักล้างหลังบ้าน ส่วนทางเดินด้านในจะมีประตูทางเข้าจากโรงจอดรถ ห้องน้ำ และห้องนอนที่ชั้น 1 เหมาะสำหรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ เลี้ยงเด็ก หรือเป็นห้องนอนรับรองแขก เพราะไม่ต้องขึ้นลงบันได เข้าตัวบ้านได้ง่าย

ส่วนชั้น 2 ขึ้นมาจะมีพื้นที่ Family Area ตรงกลาง ซึ่งพื้นที่นี้จะเป็นตัวแบ่งพื้นที่ชั้น 2 ออกเป็นซ้ายและขวา ฝั่งขวาจะเป็นฝั่งที่ติดกับสวนของบ้านคือจะเป็นห้อง Master Bedroom ซึ่งจะมีห้องน้ำและระเบียงภายในตัว ส่วนอีกฝั่งของชั้น 2 จะมีห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำ ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นห้องนอนที่ได้วิวหน้าบ้านด้วย ขนาดใหญ่พอๆกับห้อง Master Bedroom เลย

 

บ้านที่เราเห็นนี้คือบ้านเปล่าของแบบบ้าน Legent ซึ่งเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุด หน้าบ้านจะมีต้นไม้ใหญ่มาให้ 1 ต้น พร้อมสวนเล็กๆ ที่เป็นแนวทางเดิน ส่วนตัวบ้านจะมีรั้วสูง 1.5 เมตร และประตูรั้วเลื่อน

มีประตูเข้าออกทางฝั่งด้านหน้า 2 จุด คือที่โรงจอดรถ และห้องรับแขก แบ่งการใช้งานกันได้หลายอย่าง เช่น ถ้าซื้อของสดหรืออาหารมาจากตลาด ก็สามารถจอดรถแล้วเข้าห้องครัวประตูทางโรงจอดรถได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านห้องรับแขกของบ้านให้ส่งกลิ่นรบกวนตัวบ้านภายใน

ด้านในจะมีถังขยะมาให้ที่เชื่อมต่อกับหน้าบ้าน พร้อมแนวสนามหญ้ายาวรอบตัวบ้าน

พื้นที่จอดรถกันบ้าง เป็นพื้นที่จอดรถสำหรับ 2 คัน จอดในร่มได้ ตรงนี้ไม่ได้ลงเสาเข็มให้เหมือนกันนะครับ เป็น Slab On Ground ที่ผมชอบคือหน้าต่างตรงโรงจอดรถจะมีให้ 2 จุด ทำให้ได้รับแสงในตัวบ้านมากยิ่งขึ้น

ด้านข้างบ้านมีปูสนามหญ้าให้ยาวรอบตัวบ้าน

ด้านหลังจะมีพื้นที่ให้ประมาณนี้ ถ้าใครอยากใช้งานเพิ่มก็ต่อเติมเป็นพื้นที่ด้านหลังได้ เช่นครัวไทย ห้องซักล้างตากผ้า หรือห้องอื่นๆตามลักษณะการใช้งาน (เสาที่มีในภาพคือเขาเอาไว้ค้ำรั้วโครงการนะครับ บ้านจริงจะไม่มี)

ด้านหลังตรงกลางบ้านจะมีประตูที่เชื่อมออกมาจากห้องครัวเป็นลานซักล้างของตัวบ้าน ตรงนี้ไม่ได้ลงเสาเข็มให้นะครับ

ด้านข้างจะมีสวนให้เล็กน้อย มีระดับที่ค่อนข้างสูง สูงจากพื้นภายนอกประมาณ 40 ซม. ซึ่งถ้าเดินก็อาจจะต้องระวังหน่อย หรือจะต่อเติมเป็นชานข้างบ้านก็ได้ครับ

ทางเข้าบ้านฝั่งห้องรับแขกจะมีชานหน้าบ้าน มีระยะประมาณ 5.85 เมตร มาพร้อมไฟกิ่งให้ 2 ดวง ประตูทางเข้าจะเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน กรอบบานอลูมิเนียมกระจกเขียวใสตัดแสง มีชานหน้าบ้านสำหรับนั่งใส่รองเท้าได้ด้วย วางตู้รองเท้าไว้ส่วนนี้ได้นะครับ แต่แนะนำว่าให้ใช้เป็นวัสดุที่ทนแดดและฝนหน่อยนะ ด้านบนให้ระแนงกันแสงแดดส่องเข้าตัวบ้านมาให้ยาวตลอดแนว

เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะมีขนาดความสูงจากพื้นถึงฝ้าที่ 2.6 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ให้มาเป็นไฟ Downlight ทั้งบ้าน ที่ชั้นหนึ่งและชั้นสองจะมี Magnetic Sensor ให้ด้วยนะครับ

ภายในหน้าต่างและประตูของบ้านนี้จะมี Double Lock ให้ด้วย

ทางเข้าจะมีช่องแสงสองฝั่งคือประตูและหน้าต่างด้านข้าง ซึ่งเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่ รับลมได้เยอะเลย แต่ถ้าใช้งานบ่อยแนะนำให้ติดเป็นมุ้งลวดเพิ่มนะครับ

บริเวณหน้าบ้านนี้จะมีไฟ Downlight ให้ 4 ดวงครับ

ด้านในของพื้นที่ช่วงแรกนี้จะเป็นส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร มีครัวแยกให้ชัดเจนเหมาะสำหรับคนที่ชอบประกอบอาหารเป็นประจำ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันจะไปรบกวนพื้นที่ส่วนอื่นของตัวบ้าน

ตรงนี้จะได้ช่องแสงใหญ่ๆ 2 จุด เป็นหน้าต่างแบบห้องรับแขก และประตูที่เชื่อมต่อกับสวนด้านข้าง

พื้นที่ส่วนรับประทานอาหารนี้จะมีไฟ Downlight มาให้ 5 ดวงครับ

เข้ามาดูในครัวกันต่อเลย จะได้เคาน์เตอร์เป็นท็อปหินสังเคราะห์มาให้ พร้อมอ่างล้างจานสเตนเลส ด้านในมีประตูและช่องแสงให้ระบายอากาศ ติดตั้งพัดลมระบายอากาศมาให้เรียบร้อยเลย สามารถทำครัวจริงจังในนี้ได้ ไม่ต้องกังวลแดดและฝน

พื้นที่ภายในห้องครัวประมาณ 2 x 2.7 เมตร สามารถใช้งานได้หลายคนพร้อมๆกัน

จะเห็นว่าในบ้านตัวอย่างเขาทำเคาน์เตอร์ครัวฝรั่งไว้ สำหรับวางเครื่องดื่มและอาหารทานเล่นง่ายๆ ซึ่งเราก็มีพื้นที่ และทางโครงการเองก็เตรียมท่อไว้ให้สำหรับต่อเติมในส่วนนี้ด้วย หรือจะเปิดโล่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่วางโต๊ะขนาดใหญ่ ก็จัดได้หลากหลายเลย

เดินเลยบันไดเข้าไปดูด้านในกันก่อน จะมีประตู 3 ฝั่ง ซ้ายมือคือทางเข้าออกแบบที่เชื่อมต่อกับโรงจอดรถ ฝั่งขวาคือห้องน้ำ ส่วนตรงกลางคือห้องนอนของชั้น 1 ส่วนทางเดินนี้จะมีขนาดประมาณ 1.3 เมตร ใช้รถเข็นได้สบายๆ ลองไปดูห้องน้ำทางฝั่งขวามือกันก่อนเลย

เป็นห้องน้ำหนึ่งเดียวของชั้นนี้ มีส่วนอาบน้ำให้พร้อมสำหรับรองรับห้องนอนข้างๆ ภายในขนาดกำลังดี ตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาวและครีมช่วยให้ห้องดูสว่างขึ้น ได้สุขภัณฑ์จาก Cotto หรือเทียบเท่า

ขนาดภายในห้องน้ำใช้งานได้สบายๆ แต่ไม่รองรับรถเข็นนะครับ

สุขภัณฑ์ที่จะได้คืออ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์ชำระล้าง ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน ด้านหลังมีผนัง Low Wall สำหรับวางของมาให้ด้วย

ส่วนอาบน้ำไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ แต่สามารถติดตั้งเองได้ พื้นส่วนอาบน้ำจะลดระดับลงเล็กน้อยเพื่อแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียก มีขนาดประมาณ 1.25 x 0.9 เมตร ยืนอาบร้องเพลง เต้นได้สบายใจ ที่ผมชอบคือที่ผนังเขาทำชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ด้วย ไม่ต้องมาตั้งหรือแขวนเอง ส่วนอาบน้ำจะได้เป็น Hand Shower มาพร้อม Junction Box ที่ให้เราติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้

มาต่อกันที่ห้องนอนชั้น 1 ของบ้านหลังนี้เลย เป็นห้องนอนหนึ่งเดียวของชั้นนี้ อย่างที่บอกไปว่าเหมาะกับการเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ เพราะเข้าออกง่ายและไม่ต้องขึ้นบันได หรือถ้าบ้านไม่ไหนไม่มีผู้สูงอายุ อาจจะทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องดูหนังฟังเพลงก็ได้นะ ภายในมีช่องแสงมาให้ 2 จุด ขนาดค่อนข้างกว้าง วางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ด้วย พื้นจะถูกเปลี่ยนเป็นลามิเนตขนาด 8 มม. พื้นไม้จะเหมาะกับการพักผ่อนมากกว่า เพราะกระเบื้องจะเก็บความเย็น และไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นกับผู้อยู่อาศัยมากกว่า

ส่วนตัวผมชอบห้องนี้เพราะมีช่องแสงหลายฝั่ง ทั้ง 3 ด้านเลย ทำให้ห้องแทบจะไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน แถมถ้าเป็นผู้สูงอายุอยู่ก็ช่วยทำให้คนภายนอกหรือสังเกตเห็นได้ง่าย ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ถ้าใช้เป็นอย่างอื่นก็ติดม่านได้ ได้ความเป็นส่วนตัวเหมือนเดิม

ภายในห้องจะได้ไฟ Downlight มาให้ 4 ดวงครับ

กลับมาดูที่บันไดกัน ใต้บันไดมีห้องเก็บของมาให้ ซึ่งจะมีพื้นที่หน้าห้องเก็บของเล็กน้อย สำหรับทำมุมเก็บของที่อาจจะใช้งานบ่อยได้ เช่นตู้วางรองเท้า วางอุปกรณ์ที่เอาขึ้นลงรถบ่อยๆ เช่น อุปกรณ์ออกกำลังกาย เก็บจักรยาน เป็นต้น

ห้องเก็บของมีขนาดกำลังดี มีไฟส่องสว่างภายในให้ด้วย

ตัวบันไดจะจะเป็นบันไดโครงเหล็กสำเร็จรูป ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสานรูปทรงเป็นตัว U มีราวจับให้ตลอดแนวเลย ขนาดกว้างเดินสบาย ชานพักจะมีระดับด้วย 1 ขั้น อาจจะต้องระวังหน่อยนะครับ

ผนังตรงนี้จะได้ช่องแสงที่รับจากหน้าบ้าน มีไฟกิ่ง 2 ดวงให้แสงสว่างตอนกลางคืน ถ้าใครชอบความสว่างและสวยงามก็อาจจะติดเป็นโคมไฟตรงกลางเพิ่มก็ได้นะครับ สำหรับตกแต่งและสร้างบรรยากาศ มีพื้นที่ไว้ให้

ขึ้นมาจะเจอกับ Family Area ตรงกลาง พื้นของชึ้น 2 จะเปลี่ยนเป็นลามิเนต หนา 8 มม. พื้นที่ตรงนี้เป็นเหมือนห้องนั่งเล่นของชั้น 2 ในกรณีที่พ่อแม่มีแขกอยู่ด้านล่าง แต่ลูกๆ อยากนั่งดูทีวีก็เป็นมุมนี้นี่แหละครับที่จะรองรับความต้องการแบบนั้น จากขนาดพื้นที่แล้วสามารถจัดได้หลากหลายเลย จะทำเป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่ทำงาน พื้นที่ออกกำลังกาย หรือจะกั้นแบ่งห้องเป็นห้องดูหนังฟังเพลงก็ยังได้ ด้านในมีช่องแสงสำหรับเปิดรับลมระบายอากาศได้ให้มาด้วย นอกจากนั้นพื้นที่ตรงนี่จะเป็นตัวแบ่งสัดส่วนของชั้น 2 ซึ่งด้วยความที่เป็นบ้านลักษณะหน้ากว้างจึงจะแยกออกเป็นซ้ายและขวา ไป ช่วยแบ่งความเป็นส่วนตัวและดูแลจัดการได้ง่ายขึ้น

ฝ้าเพดานจะให้ไฟ Downlight มา 3 ดวงครับ สำหรับส่วนนี้

ไปดูฝั่งขวากันก่อนนะครับ จะเป็นห้อง Master Bedroom ของบ้านหลังนี้

ห้อง Master Bedroom ค่อนข้างกว้างเลยล่ะครับ เพราะกินพื้นที่ไปครึ่งนึงของชั้น 2 มีช่องแสงให้ 3 ฝั่ง พร้อมห้องน้ำในตัวและระเบียงด้านหน้าบ้าน

วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆเลย เดินรอบได้ทั้งเตียง มีทางเชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านข้าง และด้านในตัวห้องก็ทำ walk-in closet ได้

ปลายเตียงมีพื้นที่ทำชั้นวางทีวี หรือถ้าจะติดแบบแขวนก็จะมีพื้นที่วางของได้มากยิ่งขึ้น

ส่วนด้านข้างจะเชื่อมต่อไปยังระเบียงได้ เป็นประตูกระจกบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมกระจกเขียวใสตัดแสงเหมือนด้านล่างครับ

เป็นระเบียงขนาดไม่ใหญ่นัก ออกไปยืนสูดอากาศยามเช้าได้ ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ได้แนวราวกันตกเป็นกระจกทำให้ดูโปร่งมากยิ่งขึ้น ด้านนอกนี้จะมีไฟกิ่งมาให้ทั้งสองฝั่งเลย ฝั่งละดวงครับ

กลับเข้ามาภายในห้องนอน ด้านในห้องของนอนบริเวณหน้าห้องน้ำจะมีมุมที่สามารถจัดเป็น Walk-in Closet หรือพื้นที่โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงาน ได้

ตรงนี้จะได้ช่องแสง 2 จุด ทำให้ตัวห้องรับแสงถึง 3 ฝั่ง ช่วยให้ภายในสว่างมากยิ่งขึ้น

ภายในห้องนี้จะได้ไฟ Downlight ทั้งหมด 6 ดวงครับ

ห้องน้ำของห้องนี้จะพิเศษหน่อย เพราะเป็น Master Bathroom จึงจะได้ส่วนของอ่างอาบน้ำมาด้วย ส่วนพื้นที่ภายในก็จัดมาให้ค่อนข้างกว้าง ใช้งานสะดวก

ส่วนแรกคือฝั่งโถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำ ปกติจะไม่ให้ฉากกั้นมาให้ แต่ติดตั้งเองได้ไม่ยากได้สุขภัณฑ์จาก Cotto หรือเทียบเท่า

ส่วนอาบน้ำแบบ Hand Shower จะได้มาให้เป็นฝักบัวที่แตกต่างจากห้องอื่นๆ แต่สไตล์การตกแต่งจะเหมือนเดิม มาพร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำด้านข้างให้

ไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาก็จริง แต่พื้นที่อาบน้ำเขาจะลดระดับไว้ให้ ส่วนพื้นที่ใช้งานภายในผมว่าค่อนข้างแคบไปหน่อยนะสำหรับห้อง Master Bathroom เพราะมีขนาดไม่ถึง 1 ตร.ม.

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นส่วนอาบน้ำแบบอ่างซึ่งจะมาพร้อม Hand Shower อีกตัว และมีช่องแสงที่เปิดรับลมระบายอากาศภายในห้องน้ำนี้ด้วย

จะมาอาบฝั่งนี้ก็คงจะสบายใจกว่า เพราะมีพื้นที่กว้างมากขึ้นและมาพร้อมอ่างอาบน้ำยี่ห้อ Cotto เลย

ลองเดินไปดูอีกฝั่งของตัวบ้านกันบ้างครับ จะเป็นแนวทางเดินเหมือนกับด้านล่างเลยจะมีประตูทั้งหมด 3 ตัว เป็นห้องนอนรองอีก 2 ห้อง ที่มีห้องน้ำในตัวทั้งหมด จึงไม่จำเป็นต้องมีห้องน้ำส่วนกลางสำหรับบนชั้น 2 นี้ ที่ด้านข้างตรงนี้จะมีตัวรับสัญญาณของ Magnetic Sensor ติดตั้งอยู่ด้วย

สัญญาณกันขโมยของตัวบ้าน จะให้เป็นระบบ Magnetic Sensor สัญญาณอยู่ตามประตูหน้าต่างทั้งชั้นบนและชั้นล่าง โดยตัวรับสัญญาณแจ้งเตือนจะอยู่ด้านบนตรงนี้ครับ ใกล้กับโถงบันได เวลา alarm ดังตรงโถงชั้น 2 และระเบียงห้อง Master bedroom ครับ

ลองเข้าไปดูห้องนอนทางฝั่งซ้ายมือกันก่อนนะ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา

เป็นห้องนอนรองที่ได้วิวหน้าบ้าน และมีขนาดค่อนข้างกว้าง วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆเลย มีช่องแสงให้เยอะถึง 2 ฝั่ง ด้วยเช่นกัน จะวางเตียงแนวยาวหรือแนวขวางก็ได้

วางเตียงแบบในบ้านตัวอย่างจะเหลือพื้นที่ปลายเตียงเยอะเลย ภายในห้องเองก็มีพื้นที่สำหรับทำเป็น Walk-in closet หรือพื้นที่ทำงานได้สบายๆ

ไฮไลท์ของห้องนี้ผมยกให้แนวกระจกหน้าบ้านที่ได้บานค่อนข้างกว้างนี่แหละครับ รับแสงให้สว่างได้ทั้งห้อง ในเวลากลางวันก็แทบจะไม่ต้องเปิดไฟเลย

อย่างที่บอกไปว่าด้านในมีพื้นที่ให้สำหรับ Walk-in closet หรือทำพื้นที่ทำงานได้อีกด้วย ทางฝั่งหน้าทางเข้าห้องน้ำ

ห้องนี้จะได้ไฟ downlight ทั้งหมด 5 ดวง

ห้องน้ำห้องนี้จะมีอุปกรณ์และตำแหน่งและภายในเหมือนกันกับห้องด้านล่างเลยครับ ปิดผิวด้วยกระเบื้องเซรามิคแผ่นเล็ก สุขภัณฑ์ Cotto หรือเทียบเท่ารุ่นเดียวกัน ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ downlight 2 ดวง และหน้าต่างระบายอากาศ

มาดูห้องนอนห้องสุดท้ายกัน เป็นห้องนอนด้านในที่สุด ซึ่งจะมีขนาดและตำแหน่งเหมือนกับห้องนอนด้านล่าง สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆเลย มีช่องแสงให้ 2 ฝั่ง สำหรับเปิดรับลมระบายอากาศ

ภายในห้องจะให้ไฟ downlight มา 4 ดวง

จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำภายในตัวครับ

ลักษณะโดยรวมของห้องน้ำจะเหมือนกับห้องอื่นๆเลยครับ ปิดผิวด้วยกระเบื้องเซรามิคแผ่นเล็ก สุขภัณฑ์ Cotto หรือเทียบเท่ารุ่นเดียวกัน ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ downlight 2 ดวง ที่ต่างคือมีแนวหน้าต่างระบายอากาศให้ 2 ชั้น รับแสงได้มากยิ่งขึ้น

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

21 April 2020

  • ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนครับว่า ณ วันที่ ThinkofLiving เข้ามาถ่ายรีวิวนี้ เป็นวันก่อน Presale จึงยังไม่มีราคา ณ ปัจจุบัน แต่จากสื่อโฆษณาต่างๆของทาง AP ได้เผยแพร่ออกมามีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7.99 – 12 ล้านบาท (ไม่ระบุ Type บ้าน) และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ซึ่งถ้าใครที่มีโอกาสเข้าไปชมโครงการหรือสนใจโครงการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับโครงการได้ครับ
  • ลงทะเบียน Centro สาทร-กัลปพฤกษ์ คลิกเลย
  • จอง 20,000 บาท
  • สัญญา 30,000 บาท
  • ดาวน์ 12% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 100,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 32 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

Promotion

  • ฟรี ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์
  • ฟรี ค่าประกันมิเตอร์น้ำ
  • ฟรี ค่าประกันมิเตอร์ไฟ
  • ฟรี ค่าบริการสาธารณะ 2 ปี
  • ฟรี ค่าอากรแสตมป์และค่าพยานในส่วนของผู้ซื้อ
  • Home Automation (Digital Door Lock, CCTV, ตัวควบคุมเปิดปิดไฟ-แอร์)
  • Wallpaper ทั้งหลัง สีและแบบตามมาตรฐานโครงการ
  • ปั๊มน้ำและแทงค์น้ำตามมาตรฐานโครงการ
  • จัดสวนพร้อมต้นไม้ใหญ่ และปูหญ้ารอบบ้านมาตรฐานโครงการ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ถือเป็นจุดเด่นหลักของโครงการนี้เลย เพราะโครงการ Centro ตั้งอยู่บนทำเลเดียวกันกับแบรนด์รุ่นพี่อย่าง The City สาทร-กัลปพฤกษ์ โดยมีทางเข้าออกบนถนนหลักอย่างถนนบางแคเหมือนกัน แถมยังใกล้ถนนเพชรเกษมและรถไฟฟ้า MRT บางแค เพียงประมาณ 1.7 กิโลเมตร ที่สำคัญคือเชื่อมต่อกับถนนหลักที่สามารถเข้าเมืองได้หลายสายทั้ง ถนนเพชรเกษม ถนนเทอดไท ถนนกัลปพฤกษ์ ถนนเอกชัย หรือจะออกเมืองรอบนอกก็มีวงแหวนกาญจนาฯในระยะไม่ไกล

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็เริ่มตั้งแต่หน้าโครงการมีปั๊มน้ำมัน, 7-Eleven, Tesco Lotus และวินมอเตอร์ไซค์ รวมไปถึงร้านค้าของกินในระยะเดินให้ใช้บริการได้ง่ายๆ เลย ถนนบางแคเองก็มีของกินร้านค้ากระจายอยู่ตลอดทั้งเส้น ส่วนถ้าจะเป็นความเจริญในแง่ของห้างสรรพสินค้าก็มีให้เลือกแทบจะรอบทิศเลย เริ่มต้นแต่บนถนนเพชรเกษมจะมี ตลาดบางแค, Tesco Lotus, Seacon บางแค บนถนนกัลปพฤกษ์ก็มี Home Pro, The Lake, City Connect, Makro, Big C Supercenter, Indy Market, ตลาดน้ำสำเพ็ง 2 หรือถ้าออกไปทางฝั่งกาญจนาภิเษกก็จะมี The Express Mall และ The Mall บางแค เรียกว่าจะเข้าออกทางไหนก็แวะซื้อของกินของใช้หรือหาของกินกันได้ทุกทิศทางเลยครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : เริ่มต้นที่ระบบ KATSON ของ AP เลยครับ ที่เป็น Application ของทาง AP Thailand จะเป็นระบบจัดการความปลอดภัยในหมู่บ้านครับ ทางเข้าออกก็แยกกันอย่างชัดเจน มีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลาง รั้วโครงการสูง 2.5 เมตร

ส่วนถ้าเป็นภายในบ้านรั้วบ้านจะสูง 1.5 เมตร ภายในตัวบ้านก็จะมี ประตูและหน้าต่างจะเป็นแบบ Double Lock ป้องกันได้ 2 ชั้น และ Magnetic Sensor ทั้งชั้น 1 และ 2 เลยด้วย

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : ตัวโครงการจะมีจำนวนยูนิตเพียง 175 ยูนิต เท่านั้น ตัว Clubhouse ของโครงการจะตกแต่งด้วยสไตล์ Modern เป็นสีโทนร้อน ทำให้ดู Active และมีความวัยรุ่น ทันสมัย เลือกวางตำแหน่ง Clubhouse อยู่หน้าโครงการช่วยให้เข้าถึงได้ง่าย เป็นจุดที่ทุกคนต้องผ่าน มองเห็นบรรยากาศ และช่วยเป็นหน้าเป็นตาของโครงการ แต่ไม่มีพื้นที่จอดรถรองรับการใช้งานทำให้บ้านที่อยู่ภายในโครงการลึกๆ จะออกมาใช้งานได้ค่อนข้างลำบากหน่อย ภายในอาคารยกสระว่ายน้ำขึ้นสูงจากพื้น และมีแนวต้นไม้มาช่วยบังสายตาจากถนนหลัก พื้นที่ภายใน Clubhouse ก็จัดฟังก์ชันการใช้งานออกมาให้ค่อนข้างเยอะ แถมยังออกแบบให้มีการเชื่อมต่อกันในแต่ละส่วนได้ดี ภายในโครงการมีแยกสวนให้อีกจุด ช่วยทำให้แบ่งการใช้งานออกเป็นหลายจุด กระจายจำนวนผู้ใช้ และมีบ้านที่ได้วิวสวนให้เลือกด้วย

โครงการนี้มีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบรวมทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ซึ่งก็จัดว่ามีให้เลือกเยอะเหมือนกันนะครับ มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ทั้งบ้านหน้าแคบและหน้ากว้าง ภายในก็มี Function บ้านให้เลือกหลากหลาย ทั้งห้องนอนที่ชั้น 1 การกั้นครัวปิดให้สำหรับทำครัวไทยในบ้านได้ ประกอบอาหารได้อย่างเต็มที่เลย หรือพื้นที่ Family Area ที่ชั้น 2 ที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นของคนในบ้าน ให้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

วัสดุ : โดยรวมแล้วจะเหมือนกับโครงการ Centro ที่เห็นๆกันมา โดยภายในบ้านจะเป็นพื้นแกรนิตโต้ที่ชั้น 1 ส่วนชั้น 2 จะได้พื้น Laminate หนา 8 มม. ครัวจะได้เคาน์เตอร์มาพร้อมเลยเป็น Top หินแกรนิตสีดำจีน ส่วนห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆของ Cotto หรือเทียบเท่า พร้อมเคาน์เตอร์ด้านล่างและอ่างอาบน้ำในห้อง Master Bathroom มาพร้อมแนวกระจกเงา ส่วนอาบน้ำจะเป็น Hand Shower ที่ด้านข้างจะมาพร้อมช่องเก็บอุปกรณ์อาบน้ำมาให้พร้อม แต่ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำนะ ไฟภายในบ้านจะเป็น Downlight ทั้งหมด ประตูหน้าต่างจะได้กระจกเขียวตัดแสง สะท้อนความร้อน กรอบบานอลูมิเนียม มี Double Lock 2 ชั้น ได้ Magnetic Sensor ทั้งสองชั้น ส่วนพื้นที่จอดรถและลานซักล้างด้านหลังบ้านไม่ได้ลงเสาเข็มให้นะครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ปัจจุบันโครงการเปิดแค่เฟสแรก ซึ่งยังไม่เห็นภาพรวมทั้งหมดของพื้นที่ แต่ที่เริ่มต้นก็มีตั้งแต่หน้าป้อม รปภ. ได้ต้นไม้ใหญ่มาพร้อมน้ำพุ ส่วนถ้าเข้ามาภายในก็ได้ Clubhouse ที่รายล้อมด้วยต้นไม้ ด้านในมีสวนขนาดใหญ่กลางโครงการให้อีกจุด ส่วนหน้าบ้านจะมีสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่ให้ ภายในบ้านก็ปลูกหญ้าเต็มพื้นที่สวนและรอบตัวบ้าน ให้ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น ทำให้ได้ความเขียวทั้งภายในโครงการและภายในรั้วบ้านด้วยเช่นกัน

สาธารณูปโภค :  เริ่มที่ซุ้มประตูที่มีการแยกทางเข้าออกชัดเจน โดยจะมีป้อม รปภ.อยู่ตรงกลาง จัดการดูแลรักษาความปลอดภัยด้วยระบบ KATSON ภายในจะให้ถนนหลักมาที่ 12 เมตร และถนนรองซอย 9 เมตร ส่วน Facilities หลัก จะรวมมาไว้ที่ Clubhouse บนป้อม รปภ. เหมือนโครงการ Centro อื่นๆที่เคยเห็นกันมา แต่ด้วยการวางไว้ตำแหน่งด้านหน้าสุด ก็อาจทำให้ยูนิตที่อยู่ลึก ๆ มาใช้งานได้ยากหน่อย เพราะไม่ได้มีพื้นที่จอดรถรองรับไว้ให้ ภายใน Clubhouse เค้าก็มีฟังก์ชันหลักๆที่จำเป็นครบครับ ทั้งล็อบบี้ สระว่ายน้ำ ห้องน้ำแยกชายหญิง ห้องสำหรับเด็ก ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกายและห้องโยคะ พร้อม Free-Wifi ทั้งอาคาร ส่วนภายในโครงการยังให้สวนสาธารณะขนาดใหญ่และสนามเด็กเล่นมาอีกจุด ช่วยให้แบ่งการใช้งานออกจากกัน ลดจำนวนผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่ ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

Judgement

เนื่องจากโครงการนี้ยังไม่ทราบราคาที่แน่นอน และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต โดยเฉพาะราคาของบ้านตัวอย่างที่ได้พาไปชมกันมา ดังนั้นทาง ThinkofLiving จึงยังไม่สามารถสรุปคะแนนและความคุ้มค่าได้นะครับ แต่ทั้งนี้หากโครงการ เซนโทร – CENTRO สาทร-กัลปพฤกษ์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และมีราคาที่แน่ชัดออกมาแล้ว ผมอาจจะมาอัพเดทให้ได้ทราบกันอีกทีนะครับ ^^

BOTTOM LINE

Centro สาทร-กัลปพฤกษ์ ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดขนาดกลาง ที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ เป็นโครงการติดถนนใหญ่ ที่สามารถเข้าออกเมืองได้ง่าย และมีรถไฟฟ้าให้เป็นตัวเลือกในการเดินทางได้ พื้นที่ส่วนกลางจัดมาให้ครบและสวยงามน่าใช้งาน มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ 4 ขนาด สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 8-12 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 45,000 – 72,000 บาท


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving