Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 โครงการบ้านเดี่ยวสุด Private เพียง 38 หลัง ในซอยบ้านไทรม้า ใกล้สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2416]

Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 ณ วันที่ 1 August 2022

พิกัด Google Maps : 13.8562856 , 100.4700169
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 ตั้งอยู่ในซอยไทรม้า 18 ซึ่งเป็นซอยเดียวกับวัดไทรม้าค่ะ สภาพแวดล้อมภายในซอยจะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยเป็นหลัก โดยจะมีความเจริญอยู่ที่ 2 ฝั่งถนน คือ ถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งเป็นถนนใหญ่ที่มีรถไฟฟ้าผ่าน ส่วนทางฝั่งถนนราชพฤกษ์–นนทบุรี ก็มีสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ที่เปิดใช้งานใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้การเดินทางของคนในโซนนี้สะดวกมากขึ้น 

โครงการนี้จะสามารถเข้า–ออกได้จากถนนทั้ง 2 เส้นทาง โดยทาง AP ได้ทำช่องทางพิเศษ (เรียกว่า Fast Track) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านของ AP ที่อยู่ในโซนนี้ ให้สามารถเข้า-ออกมายังฝั่งสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ได้ง่ายค่ะ

โดยโซนนี้นั้น ปัจจุบันจะมีโครงการจากทาง AP อยู่ทั้งหมด 4 โครงการ เป็นแบรนด์ The City 1 โครงการ และ Centro อีก 3 โครงการค่ะ ถ้าดูจากแผนที่ทางด้านบนจะเห็นว่าตัวโครงการสามารถเข้าออกจากฝั่งสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ได้สะดวกกว่าทางฝั่งรัตนาธิเบศร์อีกค่ะ แต่ว่าถ้าเราเสิร์ชจาก Google Maps จะไม่ขึ้นเส้นทางนี้นะ เนื่องจากเป็นถนนส่วนบุคคลนั่นเอง

แบรนด์ Centro เป็นแบรนด์ที่เหมาะสำหรับครอบครัว ดังนั้นสมาชิกภายในครอบครัวไม่ได้มีแต่คนทำงานค่ะ ยังมีลูกที่เรียนอยู่ด้วย ดังนั้นการเดินทางของเหล่านักเรียนก็อาจจะต้องพึ่งพารถไฟฟ้า โดยทำเลนี้ถือว่าใกล้กับรถไฟฟ้าค่ะ สามารถไปใช้งานรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ ทั้งสถานีไทรม้า หรือว่าสถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที

ส่วนใครที่ต้องการเรียกรถสาธารณะอื่นๆ เรามองว่าทำเลนี้จะไม่ได้มีรถสาธารณะผ่านหน้าหมู่บ้านนะคะ อาจจะต้องเรียกใช้บริการผ่านทาง Application เอาแทน

ในส่วนความอุดมสมบูรณ์นั้น ภายในซอยไทรม้าก็ถือว่ามีร้านค้า ร้านอาหารอยู่นะคะ โดยมีร้านอาหารริมแม่น้ำอยู่หลายร้านเลย แต่ถ้าใครอยากไปห้าง ก็สามารถไปได้ 2 โซนหลัง คือบริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ จะมีเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ และตลาดนกฮูกอยู่ หรือจะขับไปทางฝั่งราชพฤกษ์ ก็ไปได้ง่ายเช่นกันค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 จะอยู่ใกล้กันกับโครงการที่ 2 ค่ะ แต่ว่าจะเข้าซอยมาอีกนิดหน่อย  โดยสภาพแวดล้อมรอบๆ จะเป็นบ้านพักอาศัยและที่ดินเปล่าเป็นส่วนใหญ่ บรรยากาศเลยดูสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ เหมือนอยู่บ้านสวนค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ไทรม้า พาร์คอเวนิว ~ 4.4 km.
• Central รัตนาธิเบศร์ ~ 6.2 km.
• ตลาดนกฮูก ~ 6.3 km.
• โลตัส นครอินทร์ ~ 6.5 km.
• โลตัส นครอินทร์ ~ 6.5 km.
• The Walk ราชพฤกษ์ ~ 6.8 km.
• ตลาดเจ้าพระยา บางใหญ่ ~ 7 km.
• Big C Extra แคราย ~7.4 km.
• Esplanade แคราย ~ 7.7 km.
• Home Pro ราชพฤกษ์ ~ 12 km.

โรงพยาบาล

• รพ.พระนั่งเกล้า ~ 3.2 km.
• รพ.บางกรวย 2 ~ 8.6 km.
• รพ.ศูนย์การแพทย์นนทบุรี ~ 6.7 km.
• รพ.เกษมราช รัตนาธิเบศร์ ~ 10 km.

โรงเรียน

• รร.นนทบุรีคริสเตียนวิทยา ~ 3.8 km.
• รร.เตรียมอุดม นนทบุรี ~ 4.9 km.
• รร.นานาชาติ ร่วมฤดี ~ 5.4 km.
• รร.สตรีนนทบุรี ~ 8 km.
• รร.เด่นหล้า พระราม 5 ~ 9.4 km.

สถานที่ราชการ

• ศูนย์ราชการนนทบุรี ~ 6.1 km.

Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีจำนวนยูนิตน้อยมาก อยู่ที่ 38 หลัง ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 10 ไร่ ซึ่งจำนวนบ้านที่มีน้อยนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเด่นหนึ่งของ Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 ก็ว่าได้ค่ะ

โดยทั่วไปโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก มักจะเป็นโครงการในระดับ Super Luxury ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง หรือว่าโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่มีที่ดินไม่เยอะ ส่วนใหญ่จึงไม่เน้นเรื่องขนาดพื้นที่ส่วนกลางมาก แต่สำหรับ Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 นับว่าเป็นโครงการที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และมีพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ (เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตค่ะ)

เริ่มต้นตั้งแต่ตำแหน่งของโครงการที่อยู่ลึกเข้ามาในซอยย่อยอีกที จุดนี้ส่วนตัวแล้วเรามองว่าโครงการนี้ถูกซ่อนตัวอยู่ ดูแล้วเป็นส่วนตัว เหมาะกับคนที่ชอบความสงบนะคะ

ตรงเข้ามาสุดซอยถนนจะเปิดกว้างขึ้น กลายเป็นซุ้มประตูทางเข้าและอาคาร Clubhouse สูง 2 ชั้น ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้ก็จะช่วยเน้นให้ทางเข้าดูเด่นขึ้นมาด้วยค่ะ

โดยพื้นที่ส่วนกลางจะมีทั้งพื้นที่ในร่ม (ภายใน Clubhouse) และพื้นที่สวนที่อยู่กลางแจ้งเลย

ทางเข้าโครงการจะแยกเป็น 2 ฝั่งค่ะ โดยมีรปภ.อยู่ตรงกลาง ประตูรั้วเข้า-ออกโครงการก็จะได้เป็นรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติเลย โดยจะมีทางเดินคนแยกออกมาเพิ่มเติมจากทางเดินรถ เข้า-ออกได้ปลอดภัยค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการนี้จะมีรปภ.คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีประตูเลื่อนอัตโนมัติ (ปลอดภัยและรัดกุมกว่าแบบที่เป็นไม้กั้นกระดก) และมี CCTV ที่ทางเข้าออกและภายในโครงการค่ะ

นอกจากนี้ก็จะมีระบบ KATSAN ที่ทาง AP พัฒนาขึ้นมา โดยประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีผ่านทาง Application เช่น ลูกบ้านสามารถแจ้งทะเบียนรถผู้มาติดต่อล่วงหน้าได้, มีการใช้ E-Stamp แทนการประทับตราใส่กระดาษ, หรือจะแจ้งทะเบียนรถผู้ที่ไม่อยากให้ติดต่อก็ได้เช่นกัน (เผื่อใครทะเลาะกับแฟนแล้วไม่อยากคุยตอนนี้ก็แจ้งไว้ก่อนได้), กล้องที่ติดไว้บริเวณทางเข้าจะจดจำว่าทะเบียนรถคันนี้ มาติดต่อบ้านหลังไหน ในกรณีที่มีรถมาจอดขวางหน้าบ้าน ก็สามารถแจ้งไปทางรปภ.ให้ช่วยประสานกับทางบ้านหลังนั้นให้มาช่วยเลื่อนรถได้ เป็นต้นค่ะ

เราลองมาดูที่ Clubhouse กันก่อนนะคะ ตัวอาคารจะเป็นอาคารสูง 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็น Lobby และสระว่ายน้ำ ส่วนชั้นบนจะมี Fitness, Kids Room และ Co-working space

เมื่อขึ้นมาที่อาคาร Clubhouse ห้องแรกที่เจอ(ซ้ายมือ)จะเป็น Lobby ค่ะ

Lobby ที่ชั้นล่างนี้มีจัดโซฟาพักผ่อนไว้หลายชุด ห้องนี้มีฝ้าเพดานสูงโปร่ง สามารถมาใช้ต้อนรับแขกได้ค่ะ เผื่อวันไหนที่บ้านไม่สะดวกต้อนรับ ก็เชิญแขกมานั่งพักผ่อน คุยธุระได้ ซึ่งตรงนี้ก็จะมี Wifi ให้ใช้งานด้วยนะ

เราชอบดีไซน์ของชุดโซฟาที่เอามาลงมากค่ะ มีลักษณะเหมือนเกลียว ในขณะเดียวกันก็สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับแต่ละมุมอีกด้วย

เดินเข้ามาทางด้านในจะเจอกับการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นใต้บันได

เป็นมุมน่ารักๆ ที่ชวนให้ยิ้ม ให้สงบภายในอาคาร Clubhouse นี้นะคะ

ทางฝั่งตรงข้ามสวนจะเป็นห้องน้ำค่ะ โดยจะมีการแยกห้องน้ำชาย-หญิงออกจากกัน ทั้งอาคารจะรวมกันที่จุดเดียวนี้

ด้านในนอกจากอ่างล้างมือ ห้องสุขา ก็จะมีห้องอาบน้ำรองรับคนที่มาออกกำลังกายหรือว่ายน้ำแล้วอยากชำระล้างร่างกายก่อนกลับค่ะ

ออกมาจากโซนห้องน้ำก็จะมีจุดล้างตัวสำหรับคนที่มาใช้งานสระว่ายน้ำ ดูเข้ามุมเป็นสัดส่วนนะคะ คนที่เดินเข้า-ออก Lobby หรือขึ้น-ลงชั้นบนจะไม่เห็นส่วนนี้ค่ะ

สุดทางจะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ โดยที่นี่จะได้สระว่ายน้ำระบบเกลือ ตัวสระขนาดกะทัดรัด 4.75×8.5 เมตร

นอกจากนี้ก็จะมีสระเด็กอยู่ในร่มข้างๆ ขนาด 2.8×3 เมตร

ตำแหน่งการวางสระนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนตัวดีเลยค่ะ มองไม่เห็นจากส่วนอื่นๆ ของโครงการ และมีแนวต้นไม้ล้อมรอบ ดูร่มรื่น น่าใช้งาน แต่อาจจะไม่ได้เหมาะกับการว่ายน้ำออกกำลังกายเพราะสระขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะกับการมาแช่น้ำ ดับร้อน เล่นกันกับลูกๆ มากกว่าค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้นบนกันต่อ ตรงนี้จะเป็น Fitness ค่ะ ตัวห้องฟิตเนสจะมีผังเป็นรูปตัว L ค่ะ เมื่อเข้ามาจะเจอกับโซน weight training ยกน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อกันก่อน

ส่วนอีกโซนจะเป็นเครื่องเล่นแนว Cardio วิ่งลู่วิ่งต่างๆค่ะ

โดยโซนนี้ก็จะมีกระจกล้อมรอบ 2 ด้าน มองออกไปด้านนอกโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านพักและสวน บรรยากาศเขียวชอุ่มเหมือนอยู่บ้านสวนเลยนะคะ

ขี้นมาที่ด้านบนเราจะเจอกับลานโล่งแบบ Semi-outdoor ตรงนี้อาจจะมีการจัดชุดโซฟาพักผ่อนเพิ่มนะ ส่วนฟังก์ชันที่อยู่ในห้องจะมี Kids room (ทางซ้าย) และ Co-working space (ทางขวา)

Kids room

Co-working space

บริเวณผนังของ Kids Room และ Co-working Space ถูกออกแบบให้เป็นผนังกระจก ตรงนี้ก็จะช่วยให้ทั้งสองห้องเชื่อมต่อกันได้ ลูกๆ เล่นอยู่ที่ห้องเด็ก พ่อแม่ก็นั่งทำงานไปด้วยได้โดยมีเด็กๆ อยู่ในสายตาค่ะ

สวนสาธารณะ

มาอีกฝั่งหนึ่งของซุ้มประตูทางเข้ากันค่ะ ตรงนี้จะเป็นสวนเล็กๆ ยาวขนานกับถนนหน้า Sale Gallery และบ้านตัวอย่าง

โดยค่าส่วนกลางของ Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 จะจัดเก็บอยู่ที่ 71 บาท/ตร.วา/เดือน หรือประมาณ 3,700 – 5,000 บาท/หลัง/เดือนค่ะ เป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับ Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 1 ที่มีจำนวนยูนิตน้อยเหมือนกันนะคะ ถือว่าเป็นโครงการที่เป็นส่วนตัว ส่วนกลางต่างๆที่เห็นก็ใช้ร่วมกันแค่ 38 ครอบครัวค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse
• Lobby
• Fitness
• Kids Room
• Co-Working Space
• Swimming Pool ขนาด 4.75 x 8.5 เมตร
• Kids Pool ขนาด 2.8 x 3 เมตร
• Playground
• Jogging Track
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ ขนาด 127.1 ตร.วา
• ถนนหลักและถนนรองกว้าง 9 เมตร

ระบบรักษาความปลอดภัย

• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• รั้วรอบโครงการ
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ระบบ KATSAN สำหรับเข้า-ออกโครงการ
• ระบบสัญญาณกันขโมยภายในบ้าน Magnetic ทุกหลัง
• IP camera  1 จุดบริเวณที่จอดรถ
• Digital Door Lock

แบบบ้านใน Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 จะมีให้เลือกถึง 6 แบบเลยค่ะ เป็นแบบที่มีฟังก์ชัน 3-4 ห้องนอน 2-3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 154 – 274 ตร.ม. รายละเอียดแต่ละแบบมีดังนี้ค่ะ

• ALEXIA ที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
  ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
• BRAVO-B ที่ดินเริ่มต้น 53.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
  ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
• ASHER ที่ดินเริ่มต้น 54.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม.
  ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
• BEATRIX ที่ดินเริ่มต้น 54.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม.
  ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
• CHARA ที่ดินเริ่มต้น 60.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม.
  ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องครัว / 3 ที่จอดรถ
• DOUBLE BLISS ที่ดินเริ่มต้น 65.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม.
  ฟังก์ชัน  4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องครัว / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน

โดยแบบบ้านที่มีจำนวนเยอะที่สุดจะเป็น 2 แบบใหญ่ ซึ่งก็คือ CHARA และ DOUBLE BLISS ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้จะมีจำนวนมากกว่าครึ่งในโครงการเลย (แบบละประมาณ 10 หลัง) แบบที่มีจำนวนเยอะรองลงมาคือ BRAVO-B ส่วนแบบที่เหลือ ALEXIA, ASHER และ BEATRIX จะมีจำนวนแบบละ 3-4 หลังเท่านั้นค่ะ แปลว่าถ้าใครเล็งบ้านแบบไหนไว้ก็อาจจะต้องรีบจับจองกันสักหน่อยนะ

ปัจจุบันที่สำนักงานขายได้จัดบ้านตัวอย่างให้ดูไว้ 1 แบบ เป็นบ้านแบบใหญ่สุด ซึ่งก็คือ DOUBLE BLISS ค่ะ เดี๋ยวเราจะไปรีวิวบ้านหลังนี้กันแบบละเอียดๆ เลยนะ ส่วนบ้านแบบที่เหลือนั้นเรามีแนบแปลน หน้าตาบ้าน และบทวิเคราะห์ผังบ้านไว้ต่อท้าย เลื่อนลงไปอ่านกันได้ค่ะ

รายการวัสดุภายในบ้าน

• โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน
• ประตูไม้เต็ง บริเวณที่จอดรถ (เฉพาะแบบบ้านใหญ่สุด Double Bliss)
• พื้นบ้าน กระเบื้องแกรนิตโต้ที่ชั้น 1 และพื้นลามิเนตลายไม้ที่ชั้น 2
• ผนังติดวอลล์เปเปอร์
• ภายในครัวก่อเคาน์เตอร์ให้ พร้อมอ่างล้างจาน
• Top เคาน์เตอร์ครัวได้หินแกรนิต
• สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ของ Cotto
• เครื่องปรับอากาศ
• Home Automation
• Digital Door Lock
• Magnetic sensor ที่ประตูหน้าต่าง ชั้น 1 และ 2 ในบ้าน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

DOUBLE BLISS

แบบบ้านที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ เป็นบ้านหน้ากว้าง หลังใหญ่ จอดรถได้ 3 คันพร้อมห้องแม่บ้าน โดยพื้นที่ชั้นล่างจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่จอดรถจะเป็นห้องนอนชั้นล่างที่ได้ห้องน้ำในตัวรองรับการใช้งานของผู้สูงวัยได้ หรือถ้าครอบครัวไหนไม่ต้องการใช้เป็นห้องนอน ก็สามารถปรับการใช้งานมาเป็นห้องทำงานหรือห้องออกกำลังกายได้ค่ะ ส่วนพื้นที่อีกฝั่งของบ้านจะเป็น Common Area ที่ถูกออกแบบให้เป็นที่โล่งแบบ open plan เชื่อมฟังก์ชันรับแขกและกินข้าวเข้าด้วยกัน โดยมีห้องครัวอยู่ทางฝั่งด้านหลังบ้าน สำหรับแขก หรือ ใครที่ใช้งานพื้นที่ตรงนี้ก็สามารถไปใช้ห้องน้ำที่ใต้บันไดได้ ตรงนี้จะเป็นห้องน้ำแบบ powder room ค่ะ ส่วนห้องแม่บ้านนั้นจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้านเช่นกันค่ะ

ที่ชั้น 2 จะเป็นโซนพักผ่อนโดยจะมีห้องนอนใหญ่กินพื้นที่เกือบครึ่งของชั้นนี้เลย ซึ่งภายในก็มีขนาดใหญ่ จัด Walk-in closet ได้ มีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำในตัว ส่วนห้องนอนรองก็ถือว่ามีขนาดใหญ่เช่นกันค่ะ มีห้องน้ำในตัวด้วย ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ทางฝั่งด้านหลังบ้าน โดยตรงกลางบ้านนั้นจะมี Family area อยู่ จัดเป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อนของครอบครัวได้นะ

DOUBLE BLISS ถือว่าเป็นบ้านหน้ากว้าง สามารถแบ่งตัวบ้านออกเป็น 2 ฝั่งได้ ทางขวาจะเป็นประตูทางเข้าและที่จอดรถ ส่วนทางฝั่งซ้ายจะเป็น Common area ซึ่งจะมีรั้วบ้านและการจัดสวนต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยค่ะ

รอบๆ ตัวบ้าน

ที่จอดรถ

ที่จอดรถของบ้านแบบนี้สามารถจอดได้ 3 คันค่ะ พื้นที่มีขนาด 7.45 ลึก 4 เมตร (เฉพาะส่วนที่มีหลังคาคลุม) ตัวพื้นจะเป็นคอนกรีตนะคะ ขนาดเหมาะที่จะจอดรถสเกล Eco-car 1-2 คัน และรถใหญ่ 1 คัน เพื่อให้มีระยะในการเปิด-ปิดประตูค่ะ

จากที่จอดรถจะมีทางเข้าบ้านอยู่ ตรงนี้จะได้ประตูไม้เต็ง (เฉพาะบ้านแบบนี้) โดยกลอนประตูจะติดตั้ง Digital Door Lock ให้มาด้วยค่ะ

นอกจากนี้บริเวณที่จอดรถก็จะมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำให้มาด้วย และก็มี IP Camera ติดตั้งไว้ 1 จุดค่ะ สามารถภาพจากกล้องผ่านทาง Application ได้นะ

ทางเข้าบ้าน

ทางเข้าบ้านหลักจะอยู่อีกฝั่งค่ะ เป็นประตูบานเลื่อนกระจก 4 ตอน มีชานพักขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า และมีกันสาดเล็กๆ อยู่ บังแดดบังฝนได้บ้าง (แต่ถ้าฝนสาดรองเท้าที่วางไว้อาจจะเปียกนะคะ) บริเวณนี้เราอาจจะจัดชุดที่นั่งแบบ outdoor หรือม้านั่งเล็กๆ ไว้ 1 จุด

Living Area

เข้ามาภายในบ้านจะเป็นพื้นที่ Common Area ซึ่งประกอบไปด้วยห้องรับแขกและกินข้าวยาวต่อเนื่องกันค่ะ โดยหน้ากว้างของพื้นที่ตรงนี้มากกว่า 5 เมตร และลึกประมาณ 7 เมตรเลย วัสดุพื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังบ้านติดวอลล์เปเปอร์มาให้ ฝ้าเพดานจะฉาบเรียบนะคะ ไฟเป็นดาวน์ไลท์​

ส่วนห้องรับแขกจะมีขนาดประมาณ 5×3.5 เมตร บรรยากาศจะค่อนข้างโปร่ง โล่งเลย รอบๆเป็นกระจกใส และได้ฝ้าเพดานสูงถึง 2.6 เมตร ด้วยระยะขนาดนี้เรามองว่าสามารถติดตั้ง Projector ได้นะ เผื่อชวนเพื่อนมาดูบอลหรือดูหนังกัน ก็สามารถใช้พื้นที่บริเวณนี้จัด Party ย่อมๆ ได้ค่ะ

Dining Area

ถัดเข้ามาภายในบ้านจะเป็นพื้นที่กินข้าวค่ะ ในบ้านตัวอย่างจะจัดชุดโต๊ะกินข้าวให้ดูเป็นแบบ 8 ที่นั่ง ซึ่งเราก็สามารถรองรับได้ถึง 10 ที่นั่งเลยทีเดียว จัดงานเลี้ยง ชวนญาติมิตรมากินข้าวด้วยสบายๆ

โดยพื้นที่กินข้าวตรงนี้ก็จะอยู่ติดกับครัวที่อยู่ด้านใน ส่วนทางด้านข้างก็มีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดเชื่อมไปยังสวนที่อยู่ด้านข้างได้ด้วย

ข้างบ้านมีชานเล็กๆ เป็นมุมที่เราสามารถวางเตาบาร์บีคิวได้นะ หรือถ้าเรากินสุกี้ หมาล่าภายในบ้านก็เปิดประตูตรงนี้ระบายกลิ่นและอากาศได้เลยค่ะ (แต่แนะนำให้ติดมุ้งลวดเพิ่มนะคะ เพื่อป้องกันแมลงต่างๆ)

ห้องครัว

มาดูภายในครัวกันบ้างค่ะ ห้องครัวถือว่ามีขนาดใหญ่อยู่นะ ขนาดประมาณ 2.2 x 3.5 เมตร โดยเราจะได้เคาน์เตอร์ก่อเข้ามุมมาให้เป็นรูปตัว L โดย Top เคาน์เตอร์นั้นจะเป็นหินแกรนิตซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อแรงขีดข่วนและสารเคมีดีค่ะ

ส่วนซักล้างจะมีพื้นที่ Semi-outdoor ที่มีหลังคาปกคลุม สามารถตั้งเครื่องซักผ้าตรงนี้ได้ และมีพื้นคอนกรีตส่วน outdoor เอาไว้ตากเสื้อผ้าค่ะ

มาดูพื้นที่อีกฝั่งกันนะคะ ตรงนี้จะเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งพื้นที่ใต้บันไดก็จะเป็นส่วนของห้องน้ำ และห้องที่อยู่ชิดกับบันไดจะเป็นห้องนอนชั้นล่างค่ะ

ห้องน้ำชั้น 1

ห้องน้ำตรงนี้จะเป็น powder room คือเป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ (มีแต่พื้นที่ส่วนแห้ง) โดยภายในจะมีหน้าต่างเล็กๆ ระบายอากาศ ความชื้นภายในห้องน้ำ และเป็นช่องแสงให้ความสว่างในเวลากลางวันค่ะ

พื้นที่โถงหน้าบันได จะตรงกับประตูทางเข้าที่จอดรถพอดีค่ะ เวลาที่เรากลับบ้านมาแล้วมีสมาชิกในครอบครัวคุยธุระกับแขกอยู่ที่ห้องนั่งเล่นก็ใช้ประตูนี้เดินขึ้นบ้านได้เลย สะดวกดีนะ

ห้องนอนชั้นล่าง + ห้องน้ำในตัว

ในส่วนของห้องนอนชั้นล่างจะเป็นห้องที่อยู่หัวมุม วัสดุพื้นก็จะเปลี่ยนจากกระเบื้องเป็นลามิเนตลายไม้ ทำให้บรรยากาศของห้องนอนดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น

โดยห้องนอนนี้ก็จะมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ ภายในห้องน้ำแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ แต่จะไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำมานะ ตรงนี้เราต้องไปติดเพิ่มเอาเอง

บันได

ตัวบันไดบ้านกว้างประมาณ 1 เมตร เป็นระยะที่ใช้งานได้สบายเลยนะคะ จุดที่น่าสนใจคือชานพักบันไดที่ค่อนข้างกว้าง เราลองวัดระยะดูมีขนาด 1.45×2.3 เมตร สามารถเอาม้านั่งมาวาง หรือจัดเป็นมุมเหมือน Bay Window เอาไว้นั่งอ่านหนังสือเล่นมือถือได้เลย โดยไม่รบกวนระยะทางเดินด้วยค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่กว้างเลยนะ ทางขวามือจะเป็นฝั่งของห้องนอนรอง(หน้าบ้าน) และ ห้องนอนเล็ก (หลังบ้าน) ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนใหญ่ค่ะ

โถงหน้าห้องนอนรอง

ระหว่างห้องนอนรองและห้องนอนเล็กก็มีพื้นที่กว้างเช่นกัน เราจัดเป็นชั้นวางของ หรือว่าโซฟาเล็กๆ เพิ่มตรงนี้ได้อีกนะ

เป็นมุมสำหรับวางข้าวของเครื่องใช้ที่เหล่าพี่น้องแชร์ร่วมกันได้เลย หรือจะ Built-in เป็นพื้นที่เก็บของสะสมก็ได้ค่ะ

ห้องนอนเล็ก

ห้องนอนแรกนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กสุด อยู่ทางฝั่งหลังบ้านค่ะ พื้นที่ภายในห้องมีขนาด 2.9 x 4.5 เมตร ซึ่งก็ถือว่าใหญ่อยู่นะคะ สามารถวางเตียง Queen size ได้เลย แต่ถ้าใครอยู่คนเดียวเลือกเป็นเตียง 3.5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่จัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือว่าโต๊ะทำงานส่วนตัวภายในห้องด้วยก็ได้นะ

ห้องนอนนี้ก็จะได้ห้องน้ำในตัวเช่นกัน มีหน้าต่างอยู่ภายในด้วย โดยฟังก์ชันภายในห้องน้ำก็จะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้ สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto เหมือนกับห้องอื่นๆ จุดที่แตกต่างกันจะเป็นลวดลายของกระเบื้องค่ะ

ห้องนอนรอง

ห้องนอนต่อมาจะอยู่ฝั่งทางหน้าบ้านค่ะ

ห้องนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่พอสมควรเลยนะ เป็น mini master bedroom ก็ว่าได้ อยู่กัน 2 คนสบายเลยค่ะ

โดยห้องนอนนี้ก็จะมีห้องน้ำในตัวเช่นกัน คล้ายๆ กันกับห้องที่ผ่านมานะ แต่ห้องนี้จะมีความกว้างมากกว่าเล็กน้อยค่ะ โดยจะแยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งให้มา แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำนะ

Family Area

ก่อนจะไปถึง Master Bedroom พื้นที่ด้านหน้าจะมี Family Area อยู่ค่ะ ตรงนี้ถือว่าเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ส่วนตัวมากขึ้น เราอาจจะกั้นเป็นห้องได้นะ โดยพื้นที่ตรงนี้จะมีขนาดอยู่ประมาณ 2.55×3.4 เมตรค่ะ

ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นโซฟาพักผ่อน โดยพื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ติดกับระเบียงเปิดประตูเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอกได้นะ

Master Bedroom

มาที่ห้องสุดท้ายกันดีกว่าค่ะ Master Bedroom ที่กินพื้นที่เกือบครึ่งของชั้น 2 นี้

ภายในห้องเราจะได้เป็นพื้นที่โล่งเลยค่ะ ซึ่งเราสามารถออกแบบ จัดฟังก์ชันต่างๆ ได้ตามใจนะ โดยพื้นที่ห้องจากประตูระเบียงไปยังผนังหน้าห้องน้ำจะมีความลึกถึง 7 เมตร ส่วนตัวห้องก็มีหน้ากว้างประมาณ 3.85 เมตร ด้วยระยะแล้วจัดได้ง่ายค่ะ

โซน Walk-in closet ที่แบ่งไว้ถือว่ามีขนาดใหญ่เลยค่ะ สามารถกั้นแบ่งได้ตามใจเลย โดยจะอยู่ที่หน้าห้องน้ำนะ

และนี่ก็เป็นบ้านแบบใหญ่ที่สุดภายในโครงการ Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 ซึ่งเป็นบ้านที่สามารถรองรับการใช้งานได้ถึง 3 Generation ฟังก์ชันครบ ในราคาเริ่มต้น 12.x ล้านบาท

นอกจาก Double Bliss ซึ่งเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการที่เราพาไปรีวิวกันแล้ว ใน Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 ยังมีบ้านอีกหลายแบบให้เลือกค่ะ ซึ่งเรามีหน้าตาบ้าน และ แปลนบ้านมาให้ชมกัน ใครที่อยากได้ฟังก์ชันแบบไหนเป็นพิเศษ ลองไปดูกันนะ

• แบบบ้านที่ได้ที่จอดรถ 3 คัน – CHARA และ DOUBLE BLISS
• แบบบ้านที่มีห้องนอนชั้นล่าง – BRAVO-B , BEATRIX , CHARA และ DOUBLE BLISS
• แบบบ้านที่ทุกห้องนอนได้ห้องน้ำในตัว – BEATRIX , CHARA และ DOUBLE BLISS

ALEXIA

บ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้คือ ALEXIA ค่ะ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 8.59 ล้านบาท เป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.วาค่ะ ถ้าดูจากภาพหน้าบ้านหลายคนอาจจะคิดว่าบ้านดูเหมือนหลังเล็ก แต่อันที่จริงแล้ว บ้านนี้เป็นแบบที่เหมาะกับที่ดินที่มีขนาดลึก ตัวบ้านก็จะถูกว่าให้ลึกเข้าไปด้านในเช่นกัน เราไปดูแปลนบ้านกันค่ะ

เมื่อรูปร่างที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ลึกเข้าไป ทำให้ฟังก์ชันภายในบ้านถูกแบ่งเป็นสามตอนทั้งชั้นบนและชั้นล่างค่ะ ที่ชั้นล่างด้านหน้าจะเป็นพื้นที่รับแขก ตรงกลางเป็นบันได ห้องน้ำ โถงอเนกประสงค์ ส่วนฟังก์ชันที่อยู่ฝั่งด้านหลังบ้านจะเป็นห้องครัวและพื้นที่กินข้าว ส่วนที่ชั้นสองฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้องนอนใหญ่กว้างเต็มความกว้างหน้าบ้านเลย ส่วนทางด้านหลังจะเป็นห้องนอนรองและห้องนอนเล็ก โดยตำแหน่งกลางบ้านจะเป็นห้องน้ำและบันไดค่ะ

ผังบ้านแบบนี้จะสร้างความประทับใจเวลาเข้ามาภายในตัวบ้าน เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยที่ดูใหญ่กว่าหน้าบ้านที่เราเห็นนั่นเองค่ะ แต่ก็มีจุดที่ควรคำนึงถึงเวลาซื้ออยู่ด้วย เช่น ที่จอดรถ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าแบบบ้าน ALEXIA นี้ สามารถจอดรถภายในตัวบ้านได้เพียงแค่คันเดียวค่ะ ดังนั้นก็อาจจะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่มีรถ 1-2 คันนะคะ

นอกจากนี้อีกจุดที่เราว่าน่าสนใจคือเราสามารถกั้นพื้นที่กินข้าวที่ชั้นล่าง ให้กลายเป็นห้องอเนกประสงค์เพิ่มได้นะ (โครงสร้างของที่นี่เป็นโครงสร้างก่ออิฐ ที่สามารถต่อเติมบ้านได้ง่าย) โดยห้องอเนกประสงค์นี้ก็สามารถปรับใช้เป็นห้องทำงาน / ห้องเรียนออนไลน์ที่ต้องการใช้สมาธิได้ หรืออาจจะปรับใช้เป็นห้องนอนเพิ่มเติมก็ทำได้ค่ะ (แต่ห้องน้ำชั้นล่างนี้อาจจะไม่มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำนะ ทางแก้คือเพิ่มฝักบัวอาบน้ำหรือจะขึ้นไปใช้งานที่ชั้นสองก็ได้ค่ะ)

BRAVO-B

แบบต่อมาคือ BRAVO-B แบบบ้านนี้ถือว่าเป็นการอัปเกรดมาจาก ALEXIA ก็ว่าได้ค่ะ คือเป็นแบบบ้านตอนลึกเช่นกัน พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นเป็น 173 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 53.1 ตร.วา ราคาบ้านแบบนี้จะเริ่มต้นอยู่ที่ 9 ล้านกว่าบาทค่ะ

แบบ BRAVO-B สำหรับเราเป็นแบบบ้านที่ค่อนข้างลงตัวเลยค่ะ ที่จอดรถ 2 คันก็สามารถจอดได้ภายในร่ม ที่ชั้นล่างก็กั้นห้องไว้ให้ 1 ห้อง เป็นห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ได้ โดยมีการออกแบบห้องน้ำชั้นล่างให้มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำเอาไว้พร้อมใช้งาน

ส่วนที่ชั้นสองการจัดวาง Layout จะเหมือนกับบ้านแบบ ALEXIA คือห้องนอนใหญ่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนรองและห้องนอนเล็กอยู่ทางด้านหลัง แต่ว่าบ้านแบบนี้ห้องนอนทุกห้องที่ชั้นสองก็จะได้ห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ ถือว่าสะดวกใช้งานดีเลยนะ ใครที่หาบ้าน 3-4 ห้องนอน งบไม่ถึง 10 ล้านบาท แบบบ้านนี้ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ

ASHER

แบบบ้านต่อมาคือ ASHER ซึ่งเป็นแบบบ้านที่ดีไซน์หน้ากว้างขึ้นค่ะ พื้นที่ใช้สอยของแบบนี้จะอยู่ที่ 193 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 54.7 ตร.วา ราคาจะอยู่ที่สิบล้านต้นๆ นะ

รูปร่างที่ดินของแบบ ASHER จะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยบ้านแบบนี้จะมีจุดเด่นที่ ฟังก์ชันไม่ต้องเยอะ แต่พื้นที่ใช้สอยเยอะ ดูได้จากผังบ้านค่ะ ในชั้นที่ 1 จะเห็นว่าพื้นที่ภายในบ้านเป็น open plan ที่พื้นที่กินข้าวมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่จนสามารถออกแบบ Pantry หรือเคาน์เตอร์ Island หน้าห้องครัวได้เลย ส่วนที่ชั้น 2 พื้นที่ห้องนอนใหญ่และห้องนอนรองมีขนาดกว้างมาก จัดโซฟาพักผ่อน หรือว่าโต๊ะทำงานส่วนตัวไว้ภายในห้องนอนได้สบายค่ะ

จุดที่ควรคำนึงสำหรับบ้านแบบนี้คือ ชั้นล่างไม่เหมาะกับการกั้นห้องนอนเพิ่มนะคะ และห้องน้ำที่ชั้นนี้ก็จะเป็นแค่ Powder room ไม่มีส่วนอาบน้ำเตรียมไว้ให้ ส่วนที่ชั้น 2 ห้องนอนรองและห้องนอนเล็กจะไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องมาใช้ร่วมกันด้านหน้าแทนค่ะ

BEATRIX

BEATRIX เป็นแบบบ้านหน้ากว้างที่ถือว่ามีการออกแบบฟังก์ชันได้ครบครัน ในพื้นที่ 210 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 54.5 ตร.วา บ้านนี้เรามองว่ารองรับการใช้งานของครอบครัวขนาดใหญ่หรือครอบครัว 3 Generation ได้ ทุกคนอยู่สบาย ในช่วงราคา 10 ล้านบาทกลางๆ ค่ะ

ที่ชั้นล่าง จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งขวาคือ Common are ที่รวมเอาพื้นที่รับแขก+กินข้าวไว้ เป็นพื้นที่โล่งแบบ open plan โดยมีห้องครัวอยู่ด้านหลัง ตรงกลางบ้านจะเป็นบันได ส่วนอีกฝั่งของบ้านจะเป็นห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำในตัว เหมาะสำหรับผู้สูงวัยที่ไม่ต้องการเดินขึ้นลงบันไดเยอะ

ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยทั้ง 3 ห้องนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่ วางเตียง 5 ฟุตได้ และมีห้องน้ำในตัวค่ะ

CHARA

CHARA เป็นบ้านหน้ากว้างที่ได้ที่จอดรถ 3 คัน ตัวปริมาณฟังก์ชันจะใกล้เคียงกับ Double Bliss (บ้านตัวอย่าง) แต่จะไม่มีห้องแม่บ้านค่ะ โดยบ้านนี้จะมีพื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 60.1 ตร.วา ราคา 11 ล้านปลายๆ นะ

ตัวบ้านแบบนี้จะเป็นบ้านหน้ากว้าง ที่ชั้น 1 ฝั่งที่จอดรถ(ซ้ายมือ) จะถูกจัดให้เป็นโซน Service มีห้องน้ำ บันได ห้องครัวที่สามารถเดินถึงของเลาะไปด้านข้างบ้านเข้าครัวจากประตูทางด้านหลังได้เลย ส่วนอีกฝั่ง (ขวามือ) จะเป็น common & living area ซึ่งมีพื้นที่รับแขก พื้นที่กินข้าวที่กว้างมาก จัด Pantry เพิ่มเติมหน้าห้องครัวได้ และมีห้องนอน 1 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว โดยห้องตรงนี้ก็สามารถมองเห็นวิวสวนได้ด้วยค่ะ

ที่ชั้น 2 จะเป็นห้องนอน 3 ห้อง ขนาดใหญ่อยู่สบาย ได้ห้องน้ำในตัว และที่น่าสนใจคือมี Family area อยู่ตรงกลางบ้าน จัดเป็นมุมพักผ่อนสุด private สำหรับครอบครัวได้ค่ะ

Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 ณ วันที่ 1 August 2022

• แบบ ALEXIA พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท*
• แบบ BRAVO-B พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.59 ล้านบาท*
• แบบ ASHER พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10.09 ล้านบาท*
• แบบ BEATRIX พื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10.59 ล้านบาท*
• แบบ CHARA พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 11.69 ล้านบาท*
• แบบ DOUBLE BLISS พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท*
• ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 120,000 บาท
• จอง 20,000 บาท
• ทำสัญญา 30,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 71 บาท/ตร.วา/เดือน
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 อยู่ในซอยไทรม้า 18 ซึ่งสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจาก ถนนรัตนาธิเบศร์(ฝั่งที่มีรถไฟฟ้า) และถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 (ฝั่งสะพานมหาเจษฎาบดินทร์) ดังนั้นในแง่การเดินทางก็จะมีตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย เหมาะกับทุกๆ สมาชิกในครอบครัว เช่น ลูกที่ใช้รถไฟฟ้าไปเรียนก็ออกทางฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์ ส่วนพ่อแม่ที่ไปทำงานก็ไปยังฝั่งสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งทางฝั่งนี้จะขับรถสะดวกค่ะ

ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากทำเลนี้เป็นชุมชน เป็นวัดชื่อดัง ดังนั้นภายในซอยก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารให้เห็น ยิ่งในซอยบ้านไทรม้าก็จะมีร้านอาหารริมแม่น้ำบรรยากาศดีเพียบค่ะ แต่ถ้าใครอยากไปห้างก็จะมี 2 โซนที่น่าสนใจ ทางฝั่งรัตนาธิเบศร์ก็จะมีเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ตลาดนกฮูก หรือจะไปยังโซนราชพฤกษ์ที่มี The Walk ราชพฤกษ์ ก็นับว่าสะดวกเช่นกันนะคะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ที่นี่เรามองว่ามีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวค่อนข้างดีเลย อันดับแรกคือตัวโครงการอยู่ในซอยย่อยที่ค่อนข้าง Private มีจำนวนยูนิตน้อย เพียง 38 หลังเท่านั้น ภายในโครงการก็จะมีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งตัวโครงการและภายในตัวบ้าน ในส่วนตัวโครงการก็จะมีระบบ KATSAN ที่พัฒนาโดย AP มาผสมกับระบบมาตรฐานอย่าง รปภ. 24 ชั่วโมง, รั้วเลื่อนอัตโนมัติ, CCTV, มีการจำเลขทะเบียนรถผู้มาติดต่อ โดยลูกบ้านสามารถกำหนดได้ว่าอยากเจอ/ไม่อยากเจอใคร เป็นตันค่ะ ส่วนตัวบ้านก็จะมี Ip Camera ติดไว้ให้บริเวณที่จอดรถ ที่ประตูหน้าต่างก็จะติด Magnetic Sensor ไว้ ถ้าเกิดเหตุสัญญาณเตือนภัยจะส่งเสียงดัง และ รปภ.ที่ดูแลก็จะมาตรวจตราให้ค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
โครงการนี้เป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดเล็กที่ได้พื้นที่ส่วนกลางหลากหลายฟังก์ชันให้ใช้งานครบครัน โดยจะนำเอาพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดไว้ที่บริเวณทางเข้าโครงการ เป็นหน้าตาให้กับผู้อยู่อาศัยได้ และเมื่อลูกบ้านขับรถกลับมาก็จะผ่านสวนสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายค่ะ

ส่วนตัวบ้านมีให้เลือกเยอะถึง 6 แบบ เป็นตัวเลือกให้กับคนที่อยากได้บ้านเดี่ยวในโซนนี้นะคะ แต่จะเน้นไปที่แบบบ้านขนาดใหญ่ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ซึ่งทั้งฟังก์ชันที่ได้ และขนาดของแต่ละห้องก็ถือว่าออกแบบมาได้ใหญ่ ทุกคนในครอบครัวสามารถอยู่ได้สบาย

วัสดุ :
วัสดุที่เลือกใช้เรามองว่าได้แบบมาตรฐานของ AP นะ พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้และลามิเนตลายไม้ ผนังติดวอลล์เปเปอร์ให้ ในครัวก่อเคาน์เตอร์มาให้ Top เป็นหินแกรนิต และมีอ่างล้างจาน (เหลือติดหน้าบานและทำตู้เก็บของเพิ่ม) ส่วนภายในห้องน้ำจะได้ COTTO ค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
ภายในโครงการจะมีสวนที่เป็นส่วนกลางตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้า-ออกโครงการ ส่วนตัวบ้านก็จะมีสนามหญ้าและต้นไม้ลงไว้ให้บ้าง จุดที่เราชอบคือบรรยากาศรอบๆ โครงการค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นสวนของเพื่อนบ้าน ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูเงียบสงบ เหมือนอยู่บ้านสวนเลย

สาธารณูปโภค :
ส่วนกลางของที่นี่เราจะได้ Clubhouse สูง 2 ชั้น มี Lobby, Fitness, Kids Room และ Co-working space รวมถึงสระว่ายน้ำซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่โอบล้อมด้วยกำแพงต้นไม้ได้ความเป็นส่วนตัว และสวนสาธารณะขนาดย่อมให้ใช้งาน ถ้าเทียบกับจำนวนบ้านที่มีอยู่ 38 หลังแล้วถือว่าได้ค่อนข้างดีเลยนะคะ มีคนใช้งานด้วยกันน้อยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 8 – 13 ล้านบาท, 1 August 2022

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – อยู่ในซอยที่เชื่อมต่อถนนหลักได้สองเส้นทาง
• ความปลอดภัย 7.75/10 – ระบบ KATSAN และมี Magnetic Sensor พร้อม ip camera ในตัวบ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – เป็นส่วนตัว เน้นบ้านหลังใหญ่อยู่สบาย
• วัสดุ 7.25/10 – ได้ของเกรดมาตรฐาน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีสวนเล็กๆ ใกล้ทางเข้าออก
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาครบ เทียบกับจำนวนยูนิตแล้วถือว่าเยอะค่ะ
• 7.71 / 10.00 

Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 เหมาะกับใคร?

โครงการ Centro สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวทำเลสะดวก แต่บรรยากาศสงบในโซนรัตนาธิเบศร์ – นนทบุรี อยากได้บ้านอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ 3 Generation จอดรถได้ 2-3 คัน มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งาน ความเป็นส่วนตัวสูง โดยมีงบประมาณ 9 – 13 ล้าน หรือมีกำลังผ่อน 63,000 – 91,000 บาท/เดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc