Centro พหลฯ-วิภาวดี 3 บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น ใกล้ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เข้าออกถนนใหญ่ได้ 2 ทาง จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2424]

Centro พหลฯ – วิภาวดี 3 ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2565

พิกัด Google Maps : 14.000464, 100.619494
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Centro พหลฯ – วิภาวดี 3 มีทางเข้า-ออกหลักอยู่ติดถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า (ฝั่งเดียวกับฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต) เป็นทำเลที่เหมาะกับครอบครัวที่มองหาบ้านโซนรังสิต ใกล้ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เน้นวิ่งเข้าเมืองเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี-รังสิต

Centro พหลฯ – วิภาวดี 3 โครงการบ้านเดี่ยวโซนรังสิต ฝั่งเดียวกับฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซึ่งโซนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแนวราบ เนื่องจากเป็นทำเลที่ขยับออกมาจากตัวเมืองมาหน่อย แต่ได้บ้านเดี่ยวราคาไม่สูงมากนัก โดยถนนพหลโยธินจะวิ่งเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี-รังสิตเข้าตัวเมือง หรือเดินทางออกนอกเมืองไปอยุธยาก็ได้ค่ะ ซึ่งบนถนนเส้นนี้ก็ใช้เดินทางไปยังมหาลัยชื่อดังโซนนี้ เช่น ม.รังสิต, ม.กรุงเทพ รังสิต, ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เป็นต้น

ความอุดมสมบูรณ์เกาะกลุ่มบริเวณห้างฟิวเจอร์ รังสิต ที่มีทั้งเมเจอร์ โลตัส บิ๊กซี และในอนาคตคาดว่ากำลังจะมีห้าง Central มาเปิดอีกด้วยนะ โดยบริเวณนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง รวมถึงมีตลาดสดกระจายตัวอยู่ เนื่องจากเป็นทำเลที่มีชุมชนคนอยู่อาศัยกันเยอะ เรียกได้ว่าหายห่วงเรื่องกินได้เลยนะคะ

ในเรื่องของการเดินทาง นอกจากที่เราจะใช้ถนนพหลโยธินเข้า-ออกเมืองแล้ว ยังมีทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์ ที่สามารถใช้หลีกเลี่ยงรถติดในชั่วโมงเร่งด่วนได้ แต่มีค่าบริการค่อนข้างสูง และอีกตัวเลือกหนึ่งคือการเลือกใช้ถนนรังสิต-นครนายก ที่วิ่งไปฝั่งนครนายกเพื่อไปใช้วงแหวนกาญจนาฯก็ได้ หรือวิ่งกลับไปถนนรังสิต-ปทุมธานีเพื่อเข้าตัวเมืองปทุม เรียกว่าอยู่ใกล้แยกที่เดินทางได้หลากหลายดีทีเดียวค่ะ

นอกจากนั้นโครงการนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจคือ มีเส้นทางเข้าโครงการ 2 ทาง ได้แก่

• ทางเข้าหลักของโครงการ เป็นถนนส่วนบุคคลของทาง AP เข้าได้จาก ถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้าเมือง ซึ่งถนนตรงนี้จะมีป้อมรปภ.ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมต้นไม้ริมทาง และเกาะกลาง บรรยากาศร่มรื่นดี
• ทางเข้ารองจากถนนรังสิต-นครนายก เรามองว่าเป็นข้อดีของโครงการนะคะ เวลาที่เราไปเดินห้าง Future Park รังสิต เสร็จแล้ว เราสามารถวนรถกลับไปโครงการได้เลย(ดูจากแผนที่ด้านบน) ไม่ต้องเสียเวลากลับรถ ถ้าสั่งอาหารเดลิเวอรี่ก็ไม่น่าจะรอนานนะ

เส้นทางจากถนนส่วนบุคคลของ AP ถึงโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

มาดูสภาพแวดล้อมของโครงการ Centro พหลฯ-วิภาวดี 3 เราจะเห็นว่าพื้นที่โดยรอบเกือบทั้งหมดเป็นที่ดินเปล่า มีเพียงโรงงาน Thai Bridgestone อยู่เยื้องๆ กับโครงการแต่มีคลอง 1 กั้นอยู่ ก็ดูไม่น่าไม่มีประเด็นอะไรที่ส่งต่อการอยู่อาศัยนะคะ สามารถสรุปได้ ดังนี้

• ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนทางเข้าโครงการ(ถนนสาธารณะ) ฝั่งตรงข้ามเป็นอพาร์ทเม้นต์ 7 ชั้น, บ้านพักอาศัย และที่ดินเปล่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• โลตัส รังสิต ~ 3.3 km.
• ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต / สเปล ~ 3.5 km.
• ตลาดรังสิต ~ 4.4 km.
• บุญถาวร รังสิต ~ 6.8 km.
• Market Village รังสิต ~ 8.8 km.
• ตลาดสี่มุมเมือง ~ 9.9 km.
• Makro รังสิต ~ 11 km.
• ไทวัสดุ ~ 14.7 km.
• ตลาดไท ~ 16.1 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเปาโลรังสิต ~ 4.5 km.
• โรงพยาบาลราชวิถี 2 ~ 5 km.
• โรงพยาบาลปทุมเวช ~ 5.4 km.
• โรงพยาบาลบางปะกอกรังสิต 2 ~ 5.4 km.
• โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ~ 11.9 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนสายปัญญา รังสิต ~ 6.7 km.
• โรงเรียนโชคชัย รังสิต ~ 7.3 km.
• โรงเรียนสาธิต ม.รังสิต ~ 7.9 km.
• โรงเรียนนานาชาติ สยาม ~ 8 km.
• มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 8.1 km.
• มหาวิทยาลัยรังสิต ~ 8.8 km.
• มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ~ 11.6 km.
• โรงเรียนสวนกุหลาบ รังสิต ~ 13.1 km.

ก่อนอื่นเราขอเล่าเกี่ยวกับแบรนด์บ้าน ‘Centro’ ให้เพื่อนๆ เห็นภาพรวมกันก่อน ถือว่าเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวจาก AP ที่ทำออกมาให้เหมาะกับการเริ่มต้นครอบครัวใหม่ไปจนถึงครอบครัวใหญ่ที่ต้องการขยับขยายมาอยู่บ้านเดี่ยว มีงบประมาณราวๆ 5-12 ล้านบาท จึงจัดเป็นโครงการระดับกลาง หยิบจับได้ไม่ยากนัก มีเงินเดือนทั้งครอบครัวประมาณ 80,000-200,000 บาทก็ผ่อนได้สบายๆ

ซึ่งในช่วงปี 64 ทาง AP มีการปรับโฉมบ้านใหม่ เป็นแบบ Modern จ๋าๆ ไม่ได้มีหลังคาทรงจั่วเหมือนที่แทบทุกโครงการใช้กัน ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความทันสมัยแต่เรียบง่าย ทำให้หน้าตาบ้านของแบรนด์ Centro ในตอนนี้ มีเอกลักษณ์ แตกต่างจากโครงการอื่นๆ นะคะ ส่วนฟังก์ชันในตัวบ้านก็มีการปรับให้เหมาะกับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น โดยแต่ละโครงการจะมีแบบบ้านให้เลือกเยอะมาก เพื่อให้ตอบโจทย์ไฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันนะคะ

Centro พหลฯ – วิภาวดี 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ทำราคาออกมาในช่วง 6-9 ล้านบาท ลักษณะที่ดินของโครงการจะเป็นแนวยาวเข้าไปข้างใน สิ่งที่เราชอบในผังโครงการนี้มีอยู่ 2 เรื่องด้วยกันนะคะ

อย่างแรกคือ “ตำแหน่งส่วนกลาง” ซึ่งเค้าก็จัดมาให้อยู่ทางด้านหน้าสุด มีดีไซน์เป็นส่วนหนึ่งกับซุ้มประตูทางเข้าตามแบบฉบับของ AP โดยจะช่วยทำหน้าที่เป็นโซนต้อนรับ ทำให้ซุ้มประตูดูอลังการมากยิ่งขึ้น แขกไปใครมาก็รองรับการใช้งานบริเวณนี้ได้เลย

อีกเรื่องคือ “ทิศของบ้าน” โดยทุกหลังจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่รับลมได้ค่อนข้างดี แดดก็ไม่ร้อนจนเกินไป

โดยโซนที่เราคิดว่าได้ Value พิเศษคือกลุ่มบ้านที่อยู่รอบสวนส่วนกลาง ซึ่งสวนของที่นี่เป็นแนวยาว ทำให้มีบ้านวิวสวนให้เลือก 10 กว่าหลังนะคะ

ซุ้มประตูโครงการดูใหญ่โอ่อ่า เพราะโครงการดีไซน์ให้ส่วนหนึ่งของอาคาร Clubhouse อยู่ด้านบนซุ้มประตูโครงการ ซึ่งนอกจากช่วยให้ดูหรูหราขึ้นแล้ว ยังช่วยเป็นหลังคาบังแดดบังฝนให้บริเวณซุ้มประตูด้วยค่ะ

ประตูทางเข้า-ออกเป็นประตูเหล็กเลื่อนไฟฟ้าแยกใช้งาน 2 ฝั่ง โดยกั้นด้วยป้อมรปภ.ตรงกลาง ที่อำนวยความสะดวกให้ทั้งลูกบ้านและผู้มาติดต่อได้ง่าย

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยใช้ระบบ KATSAN ที่มีทั้งกล้อง CCTV และระบบสแกนทะเบียนรถ ดูปลอดภัย และใช้งานได้ง่าย เนื่องจากเราไม่ต้องเสียเวลาเปิดกระจกออกมาแตะบัตรค่ะ

โดยโครงการนี้ก็จะใช้ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN ที่เป็นมาตรฐานของ AP ทุกๆโครงการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ค่อนข้างดี เช่น เข้าออกด้วยการสแกนทะเบียนรถ กำหนดรถเข้าออกได้ล่วงหน้า หรือกรณีที่เราไม่สะดวกรับแขก ก็สามารถกดปฏิเสธผ่าน Application ได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้ามาในหมู่บ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวนะคะ

เข้ามาโซนแรกเราจะเจอกับอาคาร Clubhouse ที่ตั้งตระหง่านเป็นหน้าเป็นตาให้กับโครงการ โดยดีไซน์มาเป็นอาคาร 2 ชั้น ภายในจัดฟังก์ชันต่างๆ ไว้ทั้งที่เป็น Indoor และ Outdoor

ทางโครงการเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่ง Facade แบบซุ้มโค้ง ดูโมเดิร์นทีเดียวค่ะ

ในส่วนของทางขึ้น – ลงอาคารที่นอกจากจะเป็นบันไดแล้ว บริเวณด้านข้างยังมีทางลาดไว้สำหรับผู้สูงอายุ และผู้พิการอีกด้วย ถือเป็นการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่คำนึงถึงผู้ใช้งานที่หลากหลาย ตามหลัก Universal Design ที่ดีค่ะ

ในส่วนของ Outdoor ก็จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 18.7 x 5.8 เมตร ลึก 1.2 เมตร ซึ่งแยกสระเด็กไว้เป็นสัดส่วน

ด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีทางเดิน Semi Outdoor ที่เชื่อมไปยังห้องน้ำห้องน้ำแยกชาย/หญิง/ผู้สูงอายุ และพื้นที่อาบน้ำก่อนลงสระ

ห้องน้ำผู้สูงอายุมีขนาดห้องจะกว้างกว่าทั่วไป ดูจากขนาดแล้วน่าสามารถเข็นรถเข้าไปได้อย่างสะดวกค่ะ

ถัดมาในส่วนของห้องน้ำหญิง ภายในมีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยระบายอากาศ และแยกส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำไว้ให้ใช้งานได้อย่างสะดวกค่ะ

เข้ามาในพื้นที่ Indoor ชั้น 1 จัดฟังก์ชันไว้เป็น Lobby ไว้ใช้รับแขกในกรณีที่ไม่สะดวกจะพาเข้าบ้าน หรือจะใช้เป็นมุมนั่งเล่นระหว่างรอลูกๆ ว่ายน้ำก็ได้ค่ะ

ขึ้นมาชั้นบนจะเป็นทางเดินแบบ Single Corridor จึงเปิดรับวิว, รับลมได้ฝั่งหนึ่งนะคะ ซึ่งบนชั้น 2 จะประกอบไปด้วย Kid’s Room, Co-Working Space, Fitness และ Yoga room

ภายใน Kid’s Room จัดเฟอร์นิเจอร์มาให้เหมาะกับเด็กๆ มีสีสันสดใส มีบ่อบอลให้เล่น จึงเป็นพื้นที่ที่สามารถพาเด็กๆ มาสนุกกันได้

Co-Working Space รองรับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ที่ Work From Home มากขึ้น เผื่อใครอยากเปลี่ยนสถานที่นั่งทำงานก็ Move จากบ้านมาที่ Clubhouse ได้ ภายในจัดเป็นมุมโซฟาและโต๊ะทำงานไว้หลากหลายจุด

ในส่วนของ Fitness ดูโปร่งโล่งเพราะเป็นผนังกระจกเปิดรับวิวทั้ง 2 ฝั่ง ภายในมีทั้งเครื่องออกกำลังกายสำหรับ Weight Training และ Cadio ครบถ้วน ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของ Yoga Room ซึ่งจะมีประตูแยกห้องไว้เป็นสัดส่วน

ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร ทั้ง 2 ฝั่งมีทั้งไม้พุ่มและต้นไม้ขนาดใหญ่ ช่วยทำให้บรรยากาศร่มรื่นค่ะ ส่วนถนนในซอยกว้าง 9 เมตรรถสวนกันได้ตามมาตรฐาน / สวนส่วนกลางจะอยู่บนถนนหลัก ในโซนหน้าโครงการเช่นเดียวกันนะคะ

ทางเข้าสวนเป็นทางลาดเพื่อรองรับการใช้งานรถเข็นผู้สูงอายุด้วยนะ เราจึงสามารถพาคุณปู่คุณย่ามาเปลี่ยนบรรยากาศในสวนได้ / ด้านข้างมีแนวไม้พุ่มขนาดเล็ก กั้นระหว่างสวนกับถนน เป็น Buffer Zone เพื่อความปลอดภัย

ภายในสวนหย่อมจะมาพร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่นสำหรับเด็ก มีสนามบาสเก็ตบอลให้ยืดเส้นยืดสายกันด้วยนะคะ

สำหรับค่าส่วนกลางของที่นี่จะอยู่ที่ 29 บาท/ตารางวา/เดือน คำนวณคร่าวๆ สำหรับบ้านเดี่ยว 50 ตร.วาจะอยู่ที่ราวๆ 1,500 บาท/เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินด้วยนะคะ ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็จะเป็นค่าดูแลความปลอดภัย ความสะอาดเรียบร้อยของโครงการโดยรอบบ้าน และค่าใช้งาน Facility ที่ให้มาค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse ของโครงการประกอบไปด้วย

• Lobby
• สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 18.7 x 5.8 เมตร
• แยกพื้นที่ว่ายน้ำสำหรับเด็ก ขนาด 2 x 2.3 เมตร
• Kid’s Room
• Co-Working Space
• Fitness
• Yoga Room

โครงการ Centro พหลฯ-วิภาวดี 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์ Modern จ๋าๆ ที่มีแบบให้เลือกด้วยกันถึง 6 แบบ พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 164-289 ตร.ม. ในช่วงราคา 6-9 ล้านบาทก็นับว่าให้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะทีเดียว เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในโซนนี้ เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางที่มี พ่อ แม่ ลูก ไปจนถึงครอบครัวขยายที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ซึ่งรายละเอียดต่างๆจะมีดังต่อไปนี้ค่ะ

• ZERA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 164 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• PHOENIX บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 53.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• ABLE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• INIZIO บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 209 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• LUKE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 54.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
• ZOTICUS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 61.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 289 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน

สรุปโครงสร้างและวัสดุหลัก

• โครงสร้างแบบ Conventional ก่ออิฐฉาบปูน รองรับการทุบเชื่อมต่อเติมได้ จึงมีฟังก์ชันที่ยืดหยุ่นกว่าโครงสร้างแบบ Precast
• หลังคาเป็นรูปทรง Flat Slab แต่มีการติดตั้งเมทัลชีทไว้ด้านบน พร้อมฉนวนกันความร้อน ช่วยให้ลูกบ้านช่วยลดความกังวลเรื่องการระบายน้ำและความร้อนของบ้านได้พอสมควรค่ะ
• ลานจอดรถเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ ไม่ได้ลงเสาเข็ม
• พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
• ห้องนอนชั้นล่างปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต
• พื้นชั้นบนปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต
• สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำใช้ของ American Standard
• Home Automation ของ Life Smart
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor
• Digital Door Lock
• เคาน์เตอร์ครัวไทย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่าง Type ZOTICUS

บ้านตัวอย่างที่พามาชมในวันนี้เป็นบ้าน Type ใหญ่สุดของโครงการเลยนะคะ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 289 ตร.ม. ฟังก์ชันภายใน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน 2 พื้นที่พักผ่อนและ 1 ห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำแม่บ้านแยกไว้เป็นสัดส่วน

ประเด็นที่น่าสนใจ

• พื้นที่นั่งเล่น : ออกแบบให้มีถึง 2 จุด ที่ค่อนข้างยืดหยุ่นปรับการใช้งานได้ง่าย หน้าบ้านเป็นห้องรับแขก ถัดไปชั้นบนเป็น Family area สำหรับนั่งดูทีวีร่วมกันก่อนนอนหรือเวลาที่ชั้นล่างมีแขก สมาชิกอื่นๆ ก็ยังนั่งเล่นที่ชั้นบนได้
• ห้องนอน : ห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว จึงใช้งานได้สะดวกมากขึ้น แต่ละห้องมีขนาดให้สามารถวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ด้วยนะคะ
• ราคา : สำหรับแบบบ้าน ZOTICUS ทำราคาเริ่มต้นที่ 8.79 ล้านบาท คุ้มค่าในเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชัน โดยเฉพาะจำนวนที่จอดรถที่รองรับถึง 3 คัน และห้องน้ำ 5 ห้องที่มีให้เป็นส่วนตัวในทุกห้องนอนเลย

จากที่เกริ่นไปว่าทาง AP ได้มีการปรับหน้าตาบ้านในแบรนด์ Centro เมื่อปีที่แล้ว ทำให้โครงการที่เปิดใหม่ในช่วงนี้ดูจะ Modern มากขึ้น สลัดหลังคาจั่วทิ้งไปเป็นรูปทรง Flat Slab แต่มีการติดตั้งเมทัลชีทไว้ด้านบน พร้อมฉนวนกันความร้อนอยู่นะคะ

พื้นที่สวนข้างบ้าน ฝั่งหนึ่งจะเป็นสวนที่ติดกับห้องนอน หากผู้สูงอายุพักอยู่ห้องนี้ก็สามารถต่อเติมมุมให้ออกมานั่งเล่นชมสวนได้สะดวก และด้วยความที่บ้านเป็นรูปทรงแบบสไตล์ Modern ทำให้ด้านบนไม่มีชายคายื่นออกมาบังแดดและฝน แต่ส่วนด้านบนช่องเปิดได้มีการทำขอบปูนยื่นออกมา ซึ่งนอกจากจะช่วยปกปิดรอยต่อวัสดุ เพื่อเพิ่มความสวยงามแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำไหลย้อนในอนาคตค่ะ

พื้นที่จอดรถเป็นที่จอดรถในร่ม มีขนาด 7.6 x 4.4 เมตร จอดได้ 3 คัน ถ้ารถที่ใช้เป็นพวก Eco Car หรือ Mini SUV อย่าง CH-R, HR-V, Juke ก็จะได้ร่มทั้งคัน ไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม แต่ถ้าอยากให้หลังคาคลุมรถที่มีความยาวขึ้นมาอย่างพวก C-Segment เช่น Civic, Mazda 3 คงต้องต่อเติมเพิ่ม ซึ่งพื้นลานจอดรถจะเป็นคอนกรีตฉาบเรียบที่ไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ให้ หากมีการต่อเติมหลังคาที่จอดรถก็แนะนำให้ลงเสาเข็มเพิ่มในส่วนนี้เพิ่มด้วยนะ

เนื่องจากพื้นที่จอดรถไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้ โครงการจึงได้แยกส่วนโครงสร้างระหว่างตัวบ้านกับตัวพื้นออกจากกัน กรณีที่เกิดการทรุดตัวในภายหลังก็จะไม่กระทบกับโครงสร้างบ้านค่ะ

ประตูด้านหลังที่จอดรถจะมีการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ ยี่ห้อ Life Smart เป็นอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยที่สามารถปลดล็อคได้ถึง 4 แบบ ทั้งแบบลายนิ้วมือ, ใส่รหัส, แตะ NFC และปลดล็อกจาก APP (VDO Call) ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย

สำหรับประตูหลักของบ้านเป็นประตูบานเลื่อนกระจก และมีการติดตั้งระบบ Magnetic Sensor ที่ติดตั้งไว้ทั้งประตู-หน้าต่างบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งก็เหมาะสมกับระดับราคาของบ้านนะคะ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในตัวบ้านก็จะเจอกับพื้นที่รับแขกเป็นส่วนแรก สามารถวางโซฟา 5-6 ที่นั่งและโต๊ะกลางได้อย่างสบายๆ โดยระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีอยู่ที่ 5.7 เมตร วัสดุปูพื้นที่ชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 0.60×0.60 เมตร ความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.6 เมตร

ด้านหลังชุดโซฟาเป็นหน้าต่างบานเลื่อน สามารถเปิดรับแสงและระบายอากาศได้ มีความเก๋ที่เป็นหน้าต่างบานคู่ ช่วยทำให้พื้นที่ในห้องสมมาตร ดูหรูหราขึ้น

ติดกับพื้นที่รับแขกจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งบ้านจริงจะได้มาเฉพาะประตูบานเลื่อนนะคะ ที่บ้านตัวอย่างจะตกแต่งผนังกระจกมาเพิ่ม ซึ่งเก็บไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งเพิ่มเองได้

สำหรับห้องนอนชั้นล่างในบ้านตัวอย่างนำเสนอฟังก์ชันการใช้งานมาในรูปแบบห้องทำงาน ซึ่งจะใช้เป็นฟังก์ชันไหนก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์เลยค่ะ

หรือใครอยากจัดให้เป็นห้องนอนของผู้สูงอายุก็ถือว่าเหมาะสมทีเดียว เพราะว่ามีห้องน้ำอยู่ภายในตัว และด้วยขนาดของห้องก็สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ บรรยากาศในห้องจะดูโปร่งมากเพราะผนังฝั่งหนึ่งเป็นผนังกระจก ซึ่งสามารถเปิดเชื่อมไปยังสวนข้างบ้านได้สะดวก

ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก/แห้งออกเป็นสัดส่วน ระดับพื้นในห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากในตัวบ้านเล็กน้อย และมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดระบายอากาศได้ ช่วยลดความชื้นในห้องน้ำได้ดี

สุขภัณฑ์และของใช้ในห้องน้ำใช้ของยี่ห้อ American Standard เป็นหลัก ด้านหลังอ่างล้างหน้ามีผนัง Low Wall สามารถเป็นพื้นที่วางของใช้เล็กๆได้ค่ะ / ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะลดระดับลงจากพื้นที่ส่วนแห้งอีกที เพื่อไม่ให้น้ำไหลไปยังพื้นที่ส่วนอื่น หากต้องการความเป็นสัดส่วนมากขึ้นก็สามารถติดตั้งฉากกั้นเพิ่มได้นะคะ โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90×1.30 เมตร

บริเวณใจกลางของตัวบ้านเป็นตำแหน่งของพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งสามารถเชื่อมกับพื้นที่ทุกส่วนของตัวบ้านเลย เข้ากับลักษณะนิสัยของคนไทยที่ว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ อิอิ แขกไปใครมาก็มีพื้นที่ทานอาหารกว้างๆ ไว้ต้อนรับ ซึ่งพื้นที่โซนนี้นอกจากจะวางโต๊ะทานอาหารได้แล้ว ยังมีพื้นที่ให้ทำ Pantry ครัวกว้างๆได้ด้วย

จากขนาดของพื้นที่สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่ง โดยจะติดโคมไฟแขวนเก๋ๆ แบบในบ้านตัวอย่างก็ดูสวยดีนะคะ

ถัดจากโต๊ะอาหารเข้าไปด้านในสามารถจัดเป็น Pantry ครัวกว้างๆ วางเคาน์เตอร์ Island ได้ ซึ่งจะไว้ใช้เตรียมอาหาร ปิ้งขนมปังยามเช้าที่ไม่กลิ่นฉุนนัก หรือทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์สำหรับชงเครื่องดื่มก็เหมาะ หรือหากใครชอบทำขนมก็คงจะชอบมุมนี้แน่ๆ

ติดกับ Pantry จะเป็นห้องครัวไทยที่ออกแบบมาให้เป็นครัวปิด เปิดเข้า-ออกใช้งานด้วยประตูบานทึบ ส่วนประตูไม้นี้ทำมาเพื่อตกแต่งเท่านั้น ซึ่งหากใครอยากแต่งบ้านสไตล์ Homey ไม้ๆ ก็เก็บไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้ค่ะ

พื้นห้องครัวจะลดระดับลงมาจากตัวบ้าน เพื่อให้สะดวกในการทำความสะอาด ส่วนเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นแบบก่อสำเร็จ ลักษณะวางเข้ามุม ท็อปด้านบนด้วยหินแกรนิต ซึ่งทางโครงการจะติดตั้งมาให้พร้อมอ่างล้างจานและก็อกน้ำครบชุด ส่วนพื้นที่อีกฝั่งสามารถวางตู้เย็น เครื่องซักผ้า หรือชั้นวางของก็ได้ และจะติดตั้งพัดลมระบายอากาศมาให้เหนือประตูที่เปิดออกไปเชื่อมต่อกับลานซักล้างหลังบ้านค่ะ

ลานซักล้างเป็นพื้นคอนกรีตและไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้ จึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการซักล้างหรือตากผ้าเท่านั้น ซึ่งในห้องครัวเองก็ได้มีการเตรียมพื้นที่ไว้ให้เครื่องซักผ้าภายในบ้านอยู่แล้ว จึงไม่น่าเป็นปัญหาอะไรค่ะ และในส่วนของห้องแม่บ้านจะอยู่ที่บริเวณด้านหลัง ใกล้กับห้องครัว สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก

โถงบันไดจะอยู่ใกล้กับประตูโรงจอดรถเลย หากเวลากลับบ้านดึกๆ ก็สามารถเดินขึ้นไปพักชั้นบนได้สะดวก หรือหากคุณพ่อคุณแม่รับแขกอยู่หน้าบ้าน ก็สามารถใช้ประตูโรงจอดรถเพื่อเดินขึ้นชั้นบนได้แบบไม่รบกวนกันค่ะ ส่วนที่ติดกับบันไดคือห้องน้ำส่วนกลาง

โดยห้องน้ำออกแบบมาเป็น Powder Room เพราะห้องนอนชั้นล่างมีห้องน้ำในตัวมาให้แล้วการใช้งานส่วนใหญ่จึงใช้รับแขกเป็นสำคัญ โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่ เป็นของยี่ห้อ American Standard เช่นเดียวกันค่ะ

บันไดใช้โครงเหล็กและปูพื้นด้วยไม้ยางประสาน แอบเสียดายนิดนึงที่น่าจะให้เป็นโครงคอนกรีตเสริมเหล็ก เพราะจะช่วยให้บันไดไม่มีเสียงก๊องๆ เวลาเดินขึ้นลง แต่การใช้บันไดโครงเหล็กก็มีข้อดีตรงที่ยังใช้พื้นที่ใต้บันไดได้อีกนะคะ

ตัวบันไดจะมีราวกันตกและมือจับยาวไปตลอดทาง ส่วนชานพักบันไดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ทีเดียว ประมาณ 2×2 เมตรเลยนะคะ จึงสามารถจัดเป็นมุมโชว์ของตกแต่ง หรือทำเป็นม้านั่งติดหน้าต่าง เป็นมุมนั่งเล่นเก๋ๆ ได้อีกมุม ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีกระจกบาน fix ขนาดใหญ่ พร้อมหน้าต่างมาให้ 1 จุด สามารถเปิดรับลมหรือระบายอากาศได้

ชั้นบนจะแยกพื้นที่ออกเป็นห้องนอนต่างๆ จำนวน 3 ห้อง และมีพื้นที่นั่งเล่นชั้นบนรองรับการใช้งานร่วมกันของสมาชิกในบ้านได้อีกจุดหนึ่ง

ห้องนอนรองห้องแรกเป็นห้องนอนของลูกๆ โดยห้องตัวอย่างจัดไว้เป็นห้องนอนเด็กเล็ก สามารถวางเปล และตู้เก็บของได้ครบถ้วน ซึ่งดูจากขนาดห้องแล้วก็สามารถใช้งานได้จนโต เพราะสามารถวางเตียง 3.5-5 ฟุตได้เลยนะคะ พร้อมมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ครบถ้วน

ภายในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่มาให้ 1 บานและหน้าต่างที่หัวเตียงอีก 2 บาน จึงเปิดระบายอากาศได้ดีเลย

ภายในห้องนอนรองจะมีห้องน้ำอยู่ภายใน ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวก และมีความเป็นส่วนตัว ซึ่งภายในห้องน้ำแยกพื้นที่ใช้งานโซนเปียก/แห้งไว้อย่างชัดเจน ยังคงมีผนัง Low Wall ด้านหลังอ่างล้างหน้าและ หลังสุขภัณฑ์ให้ใช้วางของได้ ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 0.8×1.4 เมตร พอให้ใช้งานได้ไม่อึดอัดนัก

ติดกับห้องนอนรองจะมีพื้นที่นั่งเล่นอีกจุดหนึ่งของบ้าน ซึ่งสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานอดิเรกของสมาชิกในบ้านก็ได้นะคะ โดยด้านนสุดจะมีประตูบานเลื่อนกระจกที่สามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงที่อยู่ภายนอกได้ และแสงจากธรรมชาติก็ทำให้บรรยากาศดูปลอดโปร่ง น่าสบายด้วยค่ะ

ระเบียงที่ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมกันแดด ให้ออกมาใช้งานในเวลากลางวันได้ มีขนาดประมาณ 0.45×2.9 เมตร จะวางชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งชมวิวก็ได้

โดยระเบียงพื้นที่นั่งเล่นจะเชื่อมไปกับระเบียงห้องนอนด้วยนะคะ แต่ระเบียงห้องนอนจะมีพื้นที่ไม่กว้างมากเน้นเป็นแนวยาว เหมาะกับการวางกระถางต้นไม้เพื่อให้เป็นวิวให้กับห้องนอน อีกทั้งเจ้าแนวต้นไม้ยังช่วยบังสายตาจากบ้านตรงข้าม ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับการอยู่อาศัยในบ้านด้วยนะคะ

ห้องนอนอีก 2 ห้อง จะอยู่ถัดออกมาจากโถงบันไดเล็กน้อย ซึ่งบริเวณหน้าห้องก็ยังมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เก็บของ หรือวางของตกแต่งได้อีกนะคะ

บริเวณหน้าห้องนอนใหญ่จะมีแผงควบคุมระบบ Magnetic Sensor ติดตั้งไว้ให้ เพื่อให้เจ้าของบ้านควบคุมได้สะดวก

ภายในห้องนอนใหญ่มีพื้นที่กว้างมากสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้วางชุดโซฟาสำหรับนั่งดูทีวีได้ด้วย ข้างเตียงมีประตูบานเลื่อนกระจกที่เปิดออกสู่ระเบียงด้านนอก ให้ออกมารับลมชมวิวเปลี่ยนบรรยากาศ ส่วนฝั่งหัวเตียงทั้ง 2 ข้าง ก็มีหน้าต่างไว้ให้เปิดระบายอากาศได้

อีกฝั่งหนึ่งของห้องมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งาน เป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่จึงสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองเลยค่ะ อย่างในห้องตัวอย่างก็จัดเป็นมุมนั่งวาดรูป เหมาะสำหรับคนที่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวไว้ทำงานอดิเรกภายในห้องได้นะคะ

ถัดจากพื้นที่อเนกประสงค์เข้ามาจะเป็นพื้นที่หน้าห้องน้ำ จึงเหมาะกับการจัดฟังก์ชันเป็น Walk-in Closet มีพื้นที่พอให้วางตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังทั้ง 2 ฝั่ง แนะนำให้ทำเป็นตู้ Built-in ไปเลย เพื่อให้ใช้งานห้องได้เต็มพื้นที่นะคะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างกว้าง โครงการจึงติดตั้งอ่างล้างหน้าแบบ His&Her มาให้ใช้งานพร้อมกันได้ อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ ด้านล่างมีช่องสำหรับไว้เก็บของใช้และอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย ภายในมีการแบ่งโซนเปียก/แห้งไว้เป็นสัดส่วน

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower มาให้ 2 จุด โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.8x 2 เมตร ซึ่งโครงการยกขอบธรณีกั้นพื้นที่โซนเปียกแห้งไว้ชัดเจนแต่หากกลัวน้ำกระเด็นก็สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้นะคะ ส่วนที่เป็น Highlight ของห้องคือ อ่างอาบน้ำแบบฝัง ขนาด 1.5×0.6 เมตร วางไว้ชิดผนัง และมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้

ปิดท้ายด้วยห้องนอนรองอีกห้องหนึ่งที่ตกแต่งมาด้วยธีมสีสันสดใส ห้องนี้จัดเป็นห้องนอนสำหรับลูกคนโปรดได้เพราะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนรองห้องแรก จึงสามารถวางเตียง 3-5 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเขียนหนังสือ, ตู้เสื้อผ้าได้ครบ ห้องนอนนี้ก็มีห้องน้ำส่วนตัวอยู่ในห้องนอนเช่นเดียวกับห้องอื่นๆค่ะ บริเวณพื้นลดระดับแยกส่วนเปียกและส่วนแห้ง เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

Centro พหลฯ – วิภาวดี 3 ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2565

• ZERA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 164 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 5.19 บาท
• PHOENIX บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 53.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 5.89 บาท
• ABLE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.19 บาท
• INIZIO บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 209 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.59 บาท
• LUKE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 54.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 7.99 บาท
• ZOTICUS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 61.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 289 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 8.79 บาท

• จอง 10,000 บาท
• ทำสัญญา 20,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 60,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 29 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ Centro พหลฯ-วิภาวดี 3 ตั้งอยู่ในโซนรังสิต เข้าออกถนนใหญ่ได้ 2 ทาง คือทางถนนพหลโยธินและถนนรังสิต-นครนายก ทำให้ทำเลนี้มีจุดน่าสนใจอยู่ 2 เรื่องคือ 1. สามารถไปใช้งานทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ง่าย ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก 2. ใกล้กับฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ที่ถือว่าเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของคนที่อาศัยอยู่ทำเลนี้ ซึ่งเวลาเราไปฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เสร็จแล้ว เราสามารถวนรถกลับไปโครงการได้เลย ไม่ต้องเสียเวลากลับรถอีกด้วย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

เรื่องความปลอดภัยภายในโครงการก็จะตามมาตรฐานทั่วไป ให้มาทั้งในส่วนของโครงการและตัวบ้าน หน้าโครงการมีป้อมรปภ.รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ระบบที่ใช้ในการเข้า-ออกเป็นระบบ KATSAN จดจำป้ายทะเบียนรถ ถือว่าปลอดภัยและสะดวกสำหรับการใช้งานของลูกบ้าน พร้อมกล้อง CCTV และรปภ. ดูแล 24 ชั่วโมง ส่วนในตัวบ้านก็ติดตั้ง Magnetic Sensor มาให้ที่ประตู-หน้าต่างทั้งบริเวณชั้น 1 และ 2 ที่โรงจอดรถมีกล้อง CCTV  1 จุด และมีระบบ Home Automation ภายในตัวบ้าน

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

แบรนด์บ้าน ‘Centro’ จัดเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวจาก AP ที่ทำแบรนด์ออกมาให้เหมาะกับการเริ่มต้นครอบครัวใหม่ไปจนถึงครอบครัวใหญ่ที่ต้องการขยับขยายมาอยู่บ้านเดี่ยว เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความทันสมัยแต่เรียบง่าย ซึ่งโครงการ Centro พหลฯ-วิภาวดี 3 ทำราคาออกมาอยู่ในช่วง 6-9 ล้านบาท จุดคุ้มค่าที่สุดเรายกให้กับเรื่องพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน ที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ จัดฟังก์ชันออกมาเยอะ มากสุดถึง 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน เหมาะกับครอบครัวที่การให้ความสำคัญกับตัวบ้าน ไม่เน้นการสร้างบรรยากาศส่วนกลางให้หรูหรามากนัก แต่ยังคงมี Facility ให้ใช้งานได้ครบครัน

โครงการดีไซน์ Clubhouse ไว้เป็นส่วนหนึ่งกับซุ้มประตูทางเข้าตามแบบฉบับของ AP โดยจะช่วยทำหน้าที่เป็นโซนต้อนรับ ทำให้ซุ้มประตูดูอลังการมากยิ่งขึ้น แขกไปใครมาก็รองรับการใช้งานบริเวณนี้ได้เลย สิ่งที่เราชอบอีกอย่างคือ การวางทิศของบ้าน โดยทุกหลังจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่รับลมได้ค่อนข้างดี แดดก็ไม่ร้อนจนเกินไป

วัสดุ :

วัสดุส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ แต่ก็มีที่โดดเด่นคือโครงสร้างแบบ Conventional จึงสามารถต่อเติมภายหลังได้ ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ใช้เป็น Precast จะไม่สามารถทุบผนังได้ค่ะ และตัวบ้านยังเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้อง CCTV และ Magnetic Sensor พร้อมระบบ Home Automation ช่วยอำนวยความสะดวก โดยจุดที่น่าเสียดายอยู่ที่พื้นในห้องนอนซึ่งปูด้วยลามิเนต ถ้ามีการอัพเกรดเป็น Engineering Wood หรือพื้น SPC ที่ทนทานมากกว่า ก็จะดูเหมาะสมกับราคามากขึ้น

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

พื้นที่สีเขียวในโครงการจัดให้มาบริเวณด้านหน้าใกล้โซนคลับเฮาส์ ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นตั้งแต่หน้าโครงการ เราชอบบรรยากาศช่วงหน้าโครงการบริเวณ ซุ้มประตูโครงการ+คลับเฮ้าส์ เพราะโครงการออกแบบมาได้อลังการ ดูโมเดิร์น มีดีเทล Facade แบบซุ้มโค้งเข้ากับวงเวียนหน้าโครงการ ดูสวยงามเป็นหน้าเป็นตาให้กับลูกบ้านใช้รับแขกได้ดี ส่วนพื้นที่ด้านในยังอยู่ในช่วงก่อสร้างนะคะ จึงยังไม่ได้เห็นบรรยากาศจริง

สาธารณูปโภค :

Facility ส่วนกลางจัดฟังก์ชันมาครบครัน สระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ช่วยบังตาได้ ติดๆกันมี Lobby ห้องแอร์ให้ผู้ปกครองมานั่งรอเด็กๆ แทนที่ต้องมานั่งร้อนตรง Day Bed ข้างสระ นอกจากนี้ชั้นบนยังมี Kid’s Room และ Co-working Space มาให้ใช้งานเพิ่มเติม ส่วนห้องออกกำลังกายและห้องโยคะจะอยู่ชั้นบนเช่นกัน เราจึงสามารถชมวิวมุมสูงของโครงการได้นะคะ เทียบกับค่าส่วนกลาง 29 บาท/ตร.ว./เดือนก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ตกเดือนละประมาณ 1,500-1,600 ต่อหลังเท่านั้นค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 6-9 ล้านบาท, 28 สิงหาคม 2565

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.25/10 – เข้าโครงการจากถนนหลักได้ 2 ทาง ใกล้ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
• ความปลอดภัย 7.75/10 – ตั้งอยู่ในเวิ้ง AP ทำให้มีรปภ. ช่วยดูแลบริเวณถนนส่วนบุคคลของลูกบ้าน AP อีกจุดหนึ่ง ส่วนตัวโครงการมีประตูเลื่อน รปภ. CCTV พร้อมระบบ KATSAN
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – บ้านสไตล์โมเดิร์นจ๋าๆ คุ้มค่าเรื่องพื้นที่ใช้สอยในบ้าน และจัดฟังก์ชันเยอะ
• วัสดุ 7.75/10 – ก่อสร้างแบบ Conventional ต่อเติมได้ วัสดุอื่นๆ ตามมาตรฐาน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – ดูโออ่าด้วยซุ้มประตูโครงการที่รวมกับ Clubhouse
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – ครบครัน และดูน่าใช้งาน
• 8.06 / 10.00

Centro พหลฯ – วิภาวดี 3 เหมาะกับใคร

Centro พหลฯ-วิภาวดี 3 เป็นโครงการที่เหมาะกับคนมองหาบ้านเดี่ยว ที่เข้า-ออกจากถนนพหลโยธินหรือถนนรังสิต-นครนายกได้ เน้นความสะดวกสบาย ใกล้ห้าง ใกล้ทางด่วน ในงบประมาณ 6-9 ล้านบาท  ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของขนาดพื้นที่ใช้สอย และต้องการบ้านที่ทุบต่อเติมได้ในอนาคต อยู่กันเป็นครอบครัวขนาดกลาง 2-3 Generations มีกำลังผ่อนอยู่ 42,000 – 63,000 บาทต่อเดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc