CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) Pool Villa และบ้านเดี่ยว ที่ดินใหญ่ 100 ตร.ว. ขึ้นไป ใกล้หาดพัทยาและหาดจอมเทียน จาก PATTA

CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา)  ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2567

พิกัด Google Maps : 12.893567805633685, 100.92359446757307
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากโครงการ CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) ตั้งอยู่บนถนนทุ่งกลม-ตาลหมัน อำเภอบางละมุง ชลบุรี ไม่ไกลจากหาดพัทยาและหาดจอมเทียน ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ออกกำลังกาย ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยใกล้ตัวเมืองและการพักผ่อนตากอากาศในวันหยุด

ทำเลของ CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) จะออกมาจากตัวเมืองสักหน่อย แต่ไม่ไกลมาก อย่าง Central Festival Pattaya ก็ห่างแค่ประมาณ 9 km. เท่านั้น แต่จุดเด่นของทำเลโซนนี้คือ ความสงบร่มรื่น กายภาพเป็นเนินเขา จึงได้วิวอ่างเก็บน้ำด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังใกล้สนามกอล์ฟ, สนามขี่ม้า, Sport Club ขนาดใหญ่ และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง จึงเหมาะกับทั้งครอบครัวที่ใช้อยู่อาศัยประจำหรือใช้เป็นบ้านพักตากอากาศที่มาพักผ่อนกันในช่วงวันหยุดก็ได้ค่ะ

การเดินทางมายังโครงการถือว่าค่อนข้างสะดวก เข้าออกได้หลายเส้นทาง หากมาจากกรุงเทพฯ ก็สามารถเข้าจากมอเตอร์เวย์ได้เลยโดยไม่ต้องเข้าไปถึงถนนสุขุมวิท เรียกได้ว่าไม่ต้องเข้าไปติดในเมืองเลยนะคะ และยังมีถนนพัทยา-มาบตาพุดเป็นตัวช่วยในการเดินทางเข้ากรุงเทพหรือออกไปสัตหีบ-ระยองได้สะดวก

แหล่งความอุดมสมบูรณ์ใกล้โครงการที่สุดคงหนีไม่พ้นตัวเมืองพัทยา ซึ่งจะมีทั้งร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไว้รองรับ เช่น Central Festival Pattaya, Terminal 21, มิโมซ่าพัทยา, ตลาดน้ำสี่ภาค, สวนนงนุช, สวนน้ำ, ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ในระยะขับรถจากโครงการไม่เกิน 15-20 นาที

แถมยังไม่ไกลจากสนามกอล์ฟ, ท่าจอดเรือยอชท์ ซึ่งหากต้องการเข้าเมืองพัทยาไปโซนเลียบหาดก็ใช้ถนนสุขุมวิทและถนนเลียบทางรถไฟเป็นหลักได้ แต่รถจะติดหน่อยนะคะ ถ้าอยากเลี่ยงรถติดก็อาจจะออกมาเที่ยวโซนหาดจอมเทียนใกล้ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารริมหาดเช่นกัน

อย่างที่เกริ่นไว้ว่าทำเลของ CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) อยู่ในโซนที่สงบเหมาะกับการอยู่อาศัย เราจึงเห็นว่าพื้นที่โดยรอบเป็นหมู่บ้านพักอาศัยซะเป็นส่วนใหญ่ และบางส่วนยังเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนา

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ที่ดินด้านข้างทางทิศตะวันตกเป็นโครงการก่อสร้างสนามกีฬาชัยพฤกษ์ ของศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ซึ่งหากแล้วเสร็จพื้นที่โซนนี้น่าจะคึกคักและมีความเจริญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่สนามกีฬาจัดงานนะคะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนทุ่งกลม-ตาลหมัน ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศใต้ ติดกับ ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก
• ทิศตะวันตก ติดกับ สนามกีฬาชัยพฤกษ์และศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Index Living Mall Pattaya ~ 8 km.
• Central Festival Pattaya ~ 9 km.
• Little Walk Pattaya ~ 9 km.
• Central Marina ~ 10 km.
• Terminal 21 Pattaya ~ 11 km.

โรงพยาบาล

• Jomtien Hospital ~ 6 km.
• Pattaya International Hospital ~ 9 km.
• Pattaya Memorial Hospital ~ 9 km.
• Bangkok Hospital Pattaya ~ 10 km.

โรงเรียน

• Tara Pattana International School Thailand ~ 2 km.
• Mooltripakdee International School ~ 8 km.
• Regents International School Pattaya ~ 14 km.
• Rugby School Thailand  ~ 18 km.

สถานที่เล่นกีฬา

• Chaiyaphruek Pattaya Stadium  ~ 1 km.
• Pattaya Badminton & Tennis Inter Club  ~ 3 km.
• Green Way Golf Driving Range  ~ 3 km.
• Siam Country Club Rolling Hills  ~ 8 km.
• Thai Polo & Equestrian Club  ~ 11 km.
• Siam Country Club Old Course  ~ 12 km.

สถานที่ทำกิจกรรมอื่นๆ

• Huaichaknok Reservoir ~ 2 km.
• Jomtien Beach ~ 6 km.
• Mabprachan Reservoir ~ 10 km.

CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) โครงการบ้านเดี่ยวหรูจาก ภัททา ดีเวลลอปเม้นท์ Developer เจ้าถิ่นในโซนพัทยาที่มีโครงการออกมาให้จับจองกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2004 ร่วม 14 โครงการได้แล้วนะคะ

สำหรับโครงการบ้านหรู CASCADE นี้ ทางภัททาได้เลือกบริษัทออกแบบชื่อดังของวงการ อย่าง TECTONIX ที่มีผลงานออกแบบ Landscapeใน Four Seasons Hotel Bangkok, Vala Huahin, Grand Mercure Khaolak เป็นต้น

ในส่วนของงานสถาปัตยกรรม ก็ได้ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบสไตล์ Contemporary อย่าง makeAscene ที่มีผลงานเช่น Best Western Bluphere, Wyndham Atlas Pattaya, RAMADA Mira Pattaya เป็นต้น

สำหรับงาน Sculpture ที่สร้างความโดดเด่นตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ ก็ออกแบบโดยคุณโด่ง ประติมากรและเจ้าของบริษัท Dong Sculpture ซึ่งมีผลงานเยอะมาก เช่น Sculpture ของโครงการ Park Silom, Courtyard by Marriott, คอนโด Anil Sathorn 12 เป็นต้น

ดูจากรายชื่อผู้ออกแบบแล้วการันตีได้เลยว่า โครงการนี้สวยทั้งตัวบ้านและส่วนกลางอย่างแน่นอน ตามเราไปชมกันค่ะ

โครงการ CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 115 ยูนิตบนที่ดินกว่า 67 ไร่ครึ่ง หากดูจาก Master Plan ประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันค่ะ ประเด็นแรก คือ “Clubhouse และสวนส่วนกลางแยกออกเป็น 2 จุด” จุดแรกจะมองเห็นอาคาร Clubhouse ตั้งแต่ผ่านซุ้มประตูเข้ามาเลย อาคารมีขนาดใหญ่จึงดูแกรนด์มากๆ ล้อมรอบด้วยสวนส่วนกลางน่าใช้งาน ส่วนจุดที่ 2 จะมีเฉพาะสวนและค่อนไปทางด้านหลังโครงการ ทำให้ลูกบ้านโซนด้านหลังมีพื้นที่ส่วนกลางใกล้ๆ ให้มาใช้ได้ง่ายด้วยเช่นกัน

ประเด็นที่ 2 คือ “มีทางเข้า-ออก 2 ทาง” นอกจากทางเข้าจากถนนทุ่งกลม-ตาลหมันแล้ว ก็ยังมีทางเข้าออกด้านข้างโครงการที่เชื่อมกับถนนซอยข้างๆ ด้วย โซนบ้านด้านหลังจึงสามารถใช้ทางเข้าจุดที่ 2 ได้ใกล้กว่าหากมาจากถนนชัยพฤกษ์ 2 ค่ะ

ประเด็นที่ 3 คือ “ทิศของบ้าน” หันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือและใต้เป็นหลัก ซึ่งเป็นทิศยอดฮิตที่ได้รับลมดีทั้งคู่ บ้านทิศเหนือฝั่งหน้าบ้านจะโดนแดดในช่วงเช้าและร่มในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศใต้จะสลับกัน ซึ่งการเลือกบ้านว่าหันทิศไหนดีจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น หากเป็นคนชอบตื่นสายก็ควรเลือกบ้านที่มีตำแหน่งเตียงนอนอยู่ทางทิศใต้ เพื่อให้แสงไม่ส่องเข้าบ้านในช่วงเช้า และการวางแปลนบ้านทิศเหนือ-ใต้ จะสอดคล้องกับลมประจำฤดูของไทยมากที่สุด ช่วยให้ลมไหลเวียนเข้าบ้านได้ดี

หากใครชอบความเป็นส่วนตัว เราแนะนำบ้านในโซนกรอบสีส้ม เพราะเพื่อนบ้านในซอยไม่เยอะเพียง 4 หลัง ซึ่งแปลว่าทุกหลังจะเป็นแปลงมุมทั้งหมดนะคะ

ซุ้มประตูโครงการออกแบบได้โอ่อ่า แยกทางเข้า-ออกอย่างชัดเจนเพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน

Sculpture ที่ออกแบบคุณโด่งจะอยู่บริเวณหน้าโครงการเลยค่ะ ได้ Inspirations มาจากคลื่นน้ำทะเล และล้อไปกับชื่อโครงการที่ขึ้นต้นด้วยตัว C นะคะ

ประตูโครงการจะมี 2 ชั้น …ชั้นแรกเป็นไม้กั้นกระดกที่อยู่ติดกับป้อม รปภ. ซึ่งตอนนี้ยังไม่ให้ชมนะคะ ทางโครงการแจ้งว่าจะมีการติดตั้งในอนาคต และอีกชั้นหนึ่งเป็นประตูเหล็กบานเลื่อนสี Copper ที่ติดตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งการเข้าออกจะเป็นระบบเปิดอัตโนมัติด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบายให้กับลูกบ้าน

เข้ามาด้านในโครงการจะเห็นว่ามีแนวต้นไม้ใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งในอนาคตเมื่อต้นไม้เริ่มแผ่กิ่งก้านสาขาแล้ว มุมทางเข้านี้ก็น่าจะดูร่มรื่นดีเลยค่ะ

แค่ผ่านประตูโครงการเข้ามาก็จะเห็น Clubhouse ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า เพิ่มบรรยากาศที่ดีตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศในโครงการดูสวยงามสะอาดตาก็คือ เค้านำสายไฟลงดินทั้งโครงการเลยค่ะ

แม้ว่า Clubhouse จะตั้งอยู่ติดถนนหลักแต่โครงการก็ออกแบบ Landscape ให้พื้นที่สวนรอบๆ ให้ช่วยบังสายตา และจัดวางพื้นที่พักผ่อนไว้ด้านในจึงได้ความเป็นส่วนตัวดีเลย  ทางขึ้นอาคารก็จะมีทั้งบันไดขนาดใหญ่และทางลาดรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุให้สามารถเข็นวีลแชร์ขึ้นลงได้สะดวก

ทางเข้า Clubhouse ออกแบบมาให้ได้บรรยากาศแบบโรงแรมเลยนะคะ ประตูถูกแบ่งเป็น 3 ช่อง หากต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นก็สามารถปิดบางส่วนได้

เข้ามาด้านในโซนแรกจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น, พักคอย แบบ Semi-Outdoor ซึ่งวันที่เราไปเยี่ยมชมคือช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ได้สัมผัสลมเย็นๆ ของฤดูหนาวแล้วนะคะ บอกเลยว่าลมดีน่านั่งชิลล์สุดๆ

วิวจากมุมพักผ่อนจะได้วิวสระว่ายน้ำแบบเต็มตา ด้วยหลังคาที่ค่อนข้างกว้าง แดดจึงส่องมาไม่ถึงพื้นที่นั่งเล่น

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำสวยมาก อย่างที่เกริ่นไปว่าทีมผู้ออกแบบเค้ามีผลงานด้านโรงแรมมาด้วย เราจึงรู้สึกว่าที่นี่มีกลิ่นอายของความหรูหราแบบโรงแรมชัดเจนอยู่นะ

เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือ ความยาวเท่า Half Olympic 25 เมตร จึงใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง แต่ก็เหมาะกับการใช้งานในช่วงเย็นที่แดดร่มสักหน่อย แถมมี Jacuzzi ให้นั่งแช่เพื่อผ่อนคลายกันด้วย

สระว่ายน้ำค่อนข้างเป็นส่วนตัวเลยค่ะ เพราะโครงการวางสวนขนาดใหญ่ไว้ติดกับถนน แล้วขยับสระว่ายน้ำไปไว้ด้านใน

หากใครไม่ได้ชอบว่ายน้ำแต่อยากมานั่งชมบรรยากาศริมสระ ก็มานั่งเล่นข้างสระมุมนี้ได้ มีหลังคาบังแดดไว้ให้ค่ะ

ห้องน้ำจะอยู่ด้านในอาคาร จึงได้ความสงบเป็นส่วนตัว เหมาะกับการใช้งาน

ห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำจะแยกห้องชาย, หญิงและผู้สุงอายุไว้ ภายในมีห้องสุขา, ห้องอาบน้ำ และตู้ล็อคเกอร์ ครบครัน โดยห้องน้ำจะมีให้ทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ของ Clubhouse เลย แต่ห้องน้ำของผู้สูงอายุจะมีเฉพาะชั้นล่างค่ะ

ด้านข้างมุมนั่งเล่นพักผ่อนจะมีบันไดสำหรับขึ้นไป Fitness และ Yoga Studio ที่อยู่บนชั้น 2

แม้ภาพรวมของการออกแบบจะเป็น Modern Comtemporary แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของความหรูหราด้วยการใช้ดีเทลสีทองซ่อนอยู่ในหลายๆ จุด เช่นราวกันตก, ไฟเส้นตามแนวบันได เป็นต้น

ขึ้นมาชั้นบนแล้วบอกเลยว่าชอบมาก เป็น Mood&Tone ครีมๆ ดูนุ่มนวล ตัดกับดีเทลของกรอบหน้าต่างสีดำที่มีระแนงเป็นเส้นๆ ได้เงาที่สวยเหมือนอยู่ Museum เลยแหละ แล้วฝ้าเพดานที่ออกแบบเป็นชั้นๆ ก็ดูเก๋มาก นี่แค่โถงทางเดินนะ เดี๋ยวเราพาไปดูภายใน Fitness กันค่ะ

Fitness

บรรยากาศภายในห้อง Fitness มองเห็นวิวได้รอบด้าน เพราะได้ผนังกระจกถึง 3 ฝั่ง โครงการวางเครื่องออกกำลังกายไว้ติดหน้าต่าง เพื่อให้มองเห็นสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง บรรยากาศในห้องจึงดูโปร่ง ไม่อึดอัด

พื้นปูด้วยกระเบื้องยางเพื่อช่วยลดแรงกระแทกจากการออกกำลังกาย ซึ่งเจ้ากระเบื้องยางนี้ออกแบบป็นลายผ้าจึงดูหรูหราไม่เหมือนใคร ภายใน Fitness มีอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าครบครัน รองรับทั้งการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training

Yoga Studio ดูโปร่งโล่งไม่แพ้กันเพราะผนังเป็นกระจกบานใหญ่ถึง 3 ด้าน อีกด้านหนึ่งเป็นกระจกบานใหญ่ ใช้เช็คท่าทางให้ถูกต้อง ซึ่งทางโครงการจะมีการเตรียมอุปกรณ์สำหรับเล่นโยคะไว้ให้ด้วยนะคะ

นอกจากนี้ Facility ส่วนกลางบริเวณ Clubhouse ก็จะมี Park A ด้วย ซึ่งในสวนจะมี Stepped Garden, Multi-Sport Court, Jogging Track ยาว 250 เมตร และ Bicycle Lane ให้ได้มาออกกำลังกันด้วย แต่ยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดีจึงไม่ได้มีภาพมาฝากกันนะคะ

ในส่วนของ Park B ยังอยู่ในขั้นตอนก่อนสร้างอยู่เช่นกัน แต่เรามีภาพ Perspective มาฝาก ซึ่งโซนนี้เค้าออกแบบมาให้มีทั้งสนามเด็กเล่น, บ้านต้นไม้, Pet Park สำหรับน้องหมา และในส่วนของ Jogging Track ของ Park B จะมีความยาว 285 เมตร

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse

• สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด Half Olympic
• Jacuzzi
• Fitness
• Yoga Studio

บ้านของโครงการ CASCADE by PATTA ออกแบบมาในสไตล์ Modern Contemporary ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย จะใช้เป็นบ้านพักตากอากาศสำหรับพักผ่อนกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือใช้อยู่อาศัยประจำก็ได้ เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกภายในบ้าน 4 คนขึ้นไป พื้นที่ใช้สอยในบ้านกว้างขวางและมีพื้นที่ดิน 100 ตร.ว. ขึ้นไปทุกแบบ มีแบบบ้านให้เลือกทั้ง 1 ชั้นและแบบบ้าน 2 ชั้น ดังนี้

• ARBOR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 112.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – เริ่ม 17.7 ล้านบาท
• FOREST บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 116.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 402 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – เริ่ม 19.2 ล้านบาท
• WOODLAND บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 179.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 559 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / สระว่ายน้ำ
  – เริ่ม 24.5 ล้านบาท

สรุปโครงสร้างและวัสดุของตัวบ้าน

• หลังคาปูกระเบื้องแผ่นเรียบจาก SCG พร้อมฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา
• โครงสร้างบ้านก่อสร้างด้วยระบบ Conventional ด้วยอิฐมวลเบา มีความแข็งแรงทนทาน และระบายความร้อนได้ดี
• ที่จอดรถลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
• รั้วบ้านเป็นบานเหล็กรางเลื่อน เดิน Junction ไฟไว้รองรับการติดตั้งระบบอัตโนมัติ
• ประตูหลักหน้าบ้านจาก Tostem วัสดุเป็นอลูมิเนียม ตกแต่งลายไม้ จึงมีน้ำหนักเบา
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 80×80 cm.
• พื้นชั้น 2 : SPC หนา 5 mm.
• พื้นและผนังห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
• วัสดุในห้องน้ำจาก American Standard และ Kohler เป็นหลัก
• ฉากกั้นอาบน้ำทุกห้อง (ยกเว้นห้องน้ำแม่บ้าน)
• อ่างล้างมือ Kohler ฝังในเคาน์เตอร์ พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง
• ประตูหลังบ้านจาก Hafele รุ่นที่มีทั้งมุ้งลวดและกระจก เปิดระบายอากาศได้
• มือจับประตู จาก Hafele
• ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
• โครงสร้างบันไดของแต่ละแบบบ้านจะแตกต่างกัน ดังนี้

• แบบบ้าน ARBOR – บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วย SPC
• แบบบ้าน FOREST – บันไดเหล็ก ปิดผิวด้วย SPC
• แบบบ้าน WOODLAND – บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยกระเบื้อง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่างแบบ FOREST

FOREST แบบบ้านไซส์กลางของโครงการและมีจำนวนเยอะที่สุด จึงมีตำแหน่งแปลงให้เลือกหลากหลาย เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 116.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 402 ตร.ม. 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน เหมาะกับคนที่เน้นอยู่อาศัยเอง มีแม่บ้านประจำ ชอบโถง Double Volume เพิ่มความโปร่งสบาย

โครงการออกแบบเป็นบ้านหน้ากว้างจึงมีจุดที่มองเห็นสวนรอบบ้านได้เต็มที่ ขนาดที่ดินของบ้านมีขนาดใหญ่ 100 ตร.ว. ขึ้นไป ซึ่งโครงการวางตำแหน่งบ้านอิงไปทางด้านหลังจึงเหลือพื้นที่โซนหน้าบ้านให้ใช้งานได้เยอะ มีที่จอดรถถึง 3 คัน เหลือพื้นที่ให้จัดสวนกว้างๆ หรือจะทำสระว่ายน้ำเพิ่มเองก็ได้นะคะ

ชั้น 1 – เข้ามาโซนแรกจะเจอกับ Living Area แบบ Double Volume สูง 7 เมตร เป็นพื้นที่ต้อนรับ เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหารและ Pantry ครัว บ้าน Type นี้จะมีห้องนอนที่ชั้นล่าง พร้อมห้องน้ำในตัว ได้วิวสวนหน้าบ้าน มีครัวปิดขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับห้องแม่บ้าน แต่บ้านตัวอย่างจะไม่ได้มีห้องแม่บ้านมาให้ชมกันนะคะ เพราะเค้าทำห้องครัวให้มีขนาดใหญ่ขึ้นแทน

ชั้น 2 – แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ห้องนอน Master Bedroom 1 ห้อง และห้องนอนรองอีก 2 ห้อง ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ติดกับ Double Volume จึงได้ความโปร่งโล่งเป็นพิเศษ พื้นที่กว้างใช้งานได้หลากหลาย

**ก่อนพาไปชมต้องออกตัวก่อนว่าบ้านตัวอย่างมีการตกแต่งในหลายจุดที่ไม่ตรงกับในแปลนบ้าน Standard นะคะ มีบางฟังก์ชันที่ถูกปรับเปลี่ยน เราจะค่อยๆ อธิบายกันไปทีละจุดค่ะ

ที่จอดรถหน้าบ้าน

พื้นที่จอดรถจะมีหลังคาบังแดดมาให้พร้อมใช้งานเลย โดยมีความกว้าง 6.6 เมตร ลึก 6 เมตร จอดรถเรียงกันได้ 3 คัน ซึ่งในส่วนนี้ทางโครงการจะลงเสาเข็มความยาวเท่าตัวบ้านไว้ให้เลย จึงไม่ต้องกลัวพื้นทรุดแยกออกจากตัวบ้าน ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้จึงทำความสะอาดง่าย หากใครรักรถมากๆ ก็สามารถติดตั้ง Automatic Garage เพิ่มเติมได้นะคะ

ด้านหลังที่จอดรถมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ อย่างพวกจักรยานพับ หรือถุงกอล์ฟก็ใส่ได้สบายเลย ประตูห้องเก็บของออกแบบให้เป็นบานเลื่อนจึงเปิดออกได้กว้าง และมีช่องระบายอากาศให้ลมพัดผ่านได้สะดวก

ข้างๆ กันมี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger อาจได้ถึง 22kW. เลยค่ะ เพราะระบบไฟเป็นแบบ 3 เฟส (30/100) แต่ต้องคำนวณร่วมกับจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ในบ้านด้วยนะคะ

ประตูทางเข้าหลักจะอยู่ติดกับที่จอดรถเลยจึงเดินเชื่อมต่อมาได้โดยมีหลังคาบังแดดบังฝน ซึ่งทางเข้าหลักนี้เป็นซุ้มประตูทรงสูงที่เพิ่มความสง่าให้กับตัวบ้าน

โครงการเลือกใช้บานประตูยี่ห้อ Tostem นวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น วัสดุเป็นบานอลูมิเนียมจึงมีน้ำหนักไม่มากแต่ปิดผิวด้วยลายไม้เข้ากับสไตล์ Modern Contemporary โช้คประตูของยี่ห้อนี้ดีทีเดียว ทำให้เปิดปิดได้ง่าย ไม่ต้องใช้แรงมากเลยค่ะ แถมด้านข้างประตูทั้ง 2 ฝั่งยังมีหน้าต่างบาน Fixed เปิดรับแสงธรรมชาติและทำให้เรามองลอดออกมาเห็นบริเวณหน้าประตูได้

สวนหน้าบ้าน

สวนหน้าบ้านมีความลึกมากนะคะ ประมาณ 7 เมตรเลย จึงใช้งานได้หลากหลายจะจัดเป็นสวนช่วยบังสายตา, Water Feature ตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ หรือหากใครอยากได้สระว่ายน้ำส่วนตัวก็สามารถทำเพิ่มได้ที่บริเวณนี้

ก่อนจะเข้าบ้านเราอยากพาไปดู Corridor แบบ Semi-Outdoor กว้างประมาณ 2 เมตร ซึ่งเหมาะมากกับการใช้นั่งรับลมชมวิว ในช่วงที่อากาศเย็นสบายคงเป็นพื้นที่โปรดของสมาชิกในบ้าน

เราสามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกได้กว้างๆ เพื่อเชื่อม Living Area กับ Corridor ได้ ทำให้ทั้ง 2 พื้นที่ไม่ถูกตัดขาดออกจากกัน หากเรายืนปิ้งบาร์บีคิวอยู่ด้านนอกบ้าน ก็ยังสามารถพูดคุยมีปฎิสัมพันธ์กับสมาชิกที่อยู่ในบ้านได้

Living Area

พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่บริเวณกลางบ้านเลย จึงได้วิวสวนทั้งฝั่งหน้า-หลังบ้าน ให้บรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติ สำหรับพื้นที่นั่งเล่นจะรองรับชุดโซฟาขนาดใหญ่ 5-7 ที่นั่งได้สบาย รองรับการติดตั้งทีวีขนาดใหญ่แบบ 100″ ได้เลย พื้นบนชั้นนี้จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 80×80 cm. แผ่นใหญ่ดูสบายตาดีค่ะ

บริเวณ Living Area นี้จะเป็นพื้นที่แบบ Double Volume สูง 7 เมตร ล้อมรอบด้วยกระจกบานใหญ่ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง

เราสามารถติดแชนเดอร์เลียยาวๆ ห้อยระย้าลงมาได้เต็มที่เลย

Dining Area

ติดกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร จึงสามารถดูทีวีจากโต๊ะทานอาหารได้ด้วย และจากมุมนี้จะได้วิวสวนหลังบ้านอย่างชัดเจนผ่านจะกระจกบานใหญ่ ซึ่งพื้นที่ทานอาหารจะรองรับโต๊ะขนาด 8-10 ที่นั่งได้พอดีๆ

ติดกับโต๊ะทานอาหารเป็นทางเข้าฝั่งประตูหลัก ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ก็จะมีพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งสำหรับ Built-in ตู้เก็บรองเท้า หรือจัดเป็นมุมนั่งพักคอยก็ใช้งานได้สะดวกเลย

หากใช้โต๊ะขนาด 8 ที่นั่งจะยังมีพื้นที่ด้านข้างให้ทำเป็น Pantry ครัวได้แบบในบ้านตัวอย่าง หากใครที่ชอบทำขนม, ทำอาหารเป็นงานอดิเรกก็เหมาะกับมุมนี้เลย หรือจะใช้เป็นบาร์เครื่องดื่มก็เหมาะกับครอบครัวที่ชอบจัดปาร์ตี้สังสรรค์นะคะ

Powder Room

ด้านข้าง Pantry ครัวเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room

ภายในห้องน้ำมีความกว้างให้ใช้งานได้สะดวก ตกแต่งสวยด้วยโทนสีขาว,เทา,ดำ เพิ่มความหรูหราด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน สุขภัณฑ์ที่ได้จะเป็นแบบครบชุดเหมือนในบ้านตัวอย่าง ใช้แบรนด์ American Standard และ Kohler เป็นหลัก

จุดที่เราชอบคือเคาน์เตอร์อ่างล้างมือใหญ่มากมีพื้นที่ให้วางของใช้และของตกแต่งได้เยอะทีเดียว แถมยังมีตู้เก็บของด้านล่างมาให้ด้วย ภายในห้องมีหน้าต่างมาให้ จุดที่ดูเก๋เลยคือ เค้าใช้กระจกลอน ช่วยพลางสายตา แต่ก็ยังได้รับแสงธรรมชาติ ซึ่งบานหน้าต่างจะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ถ้าไม่สะดวกเปิดระบายอากาศก็ยังมีพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้ค่ะ

ข้าง Pantry ครัวอีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องควบคุมระบบไฟฟ้าของบ้าน ซึ่งถ้าดูตามในแปลนบ้าน Standard จะเป็นห้องนอนของแม่บ้านนะคะ

ประตูเข้าห้องครัวเป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียม เป็นแบบบานเลื่อนแขวนด้านบน จึงไม่มีรางที่พื้นให้กลัวสะดุดเลยค่ะ

ห้องครัวไทย

ครัวไทยที่ให้มาเป็นครัวปิดจึงสามารถทำอาหารที่มีกลิ่นและควันฉุนๆ ได้จริงจัง และมีหน้าต่างให้เปิดระบายกลิ่นควันได้สะดวก เราชอบที่เค้าออกแบบหน้าต่างเป็นบานเลื่อนยาวๆ แต่ไม่สูงถึงฝ้าเพดานไว้ให้ เพราะนอกจากจะได้แสงธรรมชาติมาช่วยให้จานชามแห้งแล้ว ยังเหลือพื้นที่ด้านบนไว้สำหรับ Built-in ตู้ลอยได้อีก

พื้นที่ในครัวกว้างมากทีเดียว เพียงพอที่จะวางเคาน์เตอร์แบบ Island ตรงกลางได้ ซึ่งบ้านมาตรฐานจะให้มาเป็นห้องเปล่าๆ พร้อมเดินงานระบบไว้ให้ เราจึงสามารถออกแบบเคาน์เตอร์ได้ตามชอบเลย

ประตูด้านหลังบ้านจาก Tostem อีกเช่นกัน รุ่นนี้มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถเปิด-ปิด ให้ลมพัดผ่านหรือไม่ก็ได้ ซึ่งเค้าจะมีมุ้งลวดติดตั้งมาให้ในตัวเลย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องยุงหรือแมลงนะคะ

Laundry Area

พื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าเป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมบังแดดบังฝน แม่บ้านจึงทำงานได้สะดวก แต่ในบ้าน Standard มุมนี้จะมีทางเข้าห้องนอนแม่บ้านและห้องน้ำอยู่ 2 ฝั่งซ้ายขวาด้วยนะคะ แต่ห้องครัวก็จะเล็กกว่าในบ้านตัวอย่างนิดนึงค่ะ

มาต่อกันที่อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้าน เป็นพื้นที่ของห้องนอนชั้นล่าง สังเกตทางฝั่งซ้ายจะมีห้องเก็บของอยู่ค่ะ

ห้องเก็บของมีประตูปิดทึบได้ความเป็นส่วนตัว ภายในมีขนาดใหญ่ใช้เก็บของชิ้นใหญ่ได้เยอะทีเดียว

ห้องนอนชั้นล่าง

สำหรับห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องที่มีประตูเปิดเชื่อมกับสวนหน้าบ้านได้ด้วย ซึ่งเป็นประตูกระจกจึงรับแสงและวิวได้เต็มที่ พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 80×80 cm. เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ภายในห้องมีขนาดกว้างพอจะวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ หรือใครจะจัดเป็นห้องออกกำลังกายตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้นะคะ

สำหรับประตูห้องน้ำจะให้เป็นประตูบานเลื่อนให้เปิดใช้งานได้สะดวก ระดับพื้นห้องน้ำจะลดลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อย ภายในมีหน้าต่างบานใหญ่ใช้รับแสงธรรมชาติ และเปิดให้อากาศถ่ายเทได้ โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.8 × 1 เมตร ถือว่ากว้างเลย มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ, ช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำที่ฝังมาในผนังและมีฝักบัวอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งาน

บันไดและลานซักล้างหลังบ้าน

จากชานพักบันไดจะมีประตูเปิดไปสวนหลังบ้านได้ เราชอบที่ประตูหรือหน้าต่างของบ้านจะให้เป็นบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้าเกือบทั้งหมดเลยนะ ทำให้บ้านดูโปร่งและหรูหรามาก

พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านเป็นพื้นที่กว้าง ใช้งานได้หลากหลาย ทางโครงการจะให้เป็นพื้นที่แบบ On Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มนะคะ หากใครต้องการต่อเติมก็แนะนำให้ปรึกษาทางวิศวกรก่อนค่ะ

มาถึงส่วนที่เราชอบที่สุดของตัวบ้านก็คือบริเวณบันได เราชอบที่บันไดดู Modern มากๆ การใช้ราวกันตกกระจกทำให้สามารถมองลอดออกไปเห็นสวนหลังบ้าน ได้วิวที่ดูร่มรื่น

โครงสร้างเป็นโครงเหล็กปิดผิวด้วย SPC จึงสามารถออกแบบให้ไม่ต้องมีลูกตั้งปิดทึบเต็มทั้งหมด สามารถมองลอดพื้นบันไดจึงยิ่งช่วยเพิ่มความโปร่งขึ้นไปอีก แถมพื้นที่ใต้บันไดยังสามารถจัดเป็นพื้นที่วาง Art Work สวยๆ หรือจะปล่อยโล่งไว้ก็นับว่าเป็น Space ที่สวยด้วยเช่นกัน

บันไดออกแบบให้ตรงยาวถึงชั้นบน แต่ก็มีชานพักอยู่ตรงกลางเผื่อพักเหนื่อยด้วยนะคะ

ก่อนจะแยกเข้าห้องนอนกัน เราจะพาไปชม Family Area กันก่อนค่ะ เผื่อวันไหนคุณพ่อคุณแม่รับแขกอยู่ชั้นล่าง ลูกๆ ก็ยังพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวที่ชั้นบนได้

Family area มีขนาดประมาณ 3×3 เมตร สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนของครอบครัวอีกจุดหนึ่งได้หรือจะจัดเป็นมุมเล่นเกมส์, ทำการบ้านร่วมกันของเด็กๆ ก่อนที่จะแยกย้ายเข้านอนก็ได้

แม้ว่ามุมนี้จะอยู่ติดหน้าต่างหน้าบ้านแต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวด้วยฉากบังสายตา ที่ติดตั้งไว้บริเวณหน้าบ้าน

Family area จะอยู่ติดกับ Double Volume เลย เราสามารถมองลงไปดูว่ามีแขกไปใครมาบ้าง แถมยังทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูโปร่งโล่งขึ้นด้วยนะคะ

ทางเข้าห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะอยู่ติดกับ Family Area ซึ่งทั้ง 2 ห้องมีขนาดและการจัดแปลนที่เหมือนกันเลย ต่างกันเพียงห้องฝั่งซ้ายจะได้วิวสวนหน้าบ้าน และห้องฝั่งขวาจะได้วิวสวนหลังบ้าน

ห้องนอนรอง  1

เรามาดูห้องทางฝั่งหลังบ้านกันก่อนนะคะ ภายในห้องมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะกั้นโซนแยกระหว่างเตียงนอนกับพื้นที่แต่งตัวได้เลย

โซนพักผ่อนสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงสองข้าง ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอสำหรับชั้นวางทีวีและโต๊ะเขียนหนังสือ เรียกได้ว่าเก็บของได้เยอะอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เด็กยันโตเลยค่ะ แถมภายในห้องยังมีหน้าต่าง 2 ฝั่งรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่

โซนหน้าห้องสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังฝั่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำเลย จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 1.6 เมตร พร้อมสุขภัณฑ์ครบถ้วนเหมือนในบ้านตัวอย่าง ส่วนที่ชอบคือเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ากว้างมาก มาพร้อมตู้เก็บของด้านล่างด้วย

ในพื้นที่อาบน้ำก็จะมีชั้นวางของฝังกำแพงไว้ให้ ดูเรียบร้อยสวยงามดีเลยนะคะ

ห้องนอนรอง 2

ในส่วนของห้องนอนรอง 2 จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน มีพื้นที่เท่ากับห้องนอนรองก่อนหน้า จัดฟังก์ชันได้ลงตัวเหมือนกันค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของชั้น 2 เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom วางตำแหน่งแยกไว้อีกฝั่งหนึ่งจึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง

Master Bedroom

โซนแรกเมื่อเข้ามาใน Master Bedroom จะเจอกับ Walk-in Closet ก่อน ถัดเข้าไปจึงเป็นห้องน้ำ เมื่อเปิดประตูเข้ามาจึงไม่ได้มองเห็นเตียงในทันที เป็นดีไซน์ที่ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

แต่การจัดแปลนจะต่างกับบ้าน Standard อยู่เล็กน้อย คือบ้าน Standard จะวาง Walk-in Closet ไว้ติดกับประตูเลย แล้วห้องน้ำจะขยับบมาติดกับเตียงนอนแทน ในขณะที่บ้านตัวอย่างจะวาง Walk-in Closet กั้นระหว่างห้องน้ำกับเตียงนอนไว้ แล้วกั้นด้วยผนังกระจก จึงดูโปร่งโล่งขึ้น

Walk-in Closet ของบ้านตัวอย่างจะกั้นเป็นห้องกระจกไว้เป็นสัดส่วน ภายใน Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ 2 ฝั่งแบบสูงจากพื้นจรดฝ้า และยังทำโต๊ะเครื่องแป้งไว้ในบริเวณนี้ได้ด้วย โดยพื้นที่นี้มีขนาดประมาณ 2.8×2.3 เมตร

Master Bathroom ของบ้านตัวอย่างและบ้าน Standard จะมีขนาดเท่าๆ กัน กว้างมากนะคะ น่าจะใช้งานพร้อมกัน 2 คน ได้สะดวกเลย สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard และ Kohler เป็นหลักอีกเช่นกัน

อ่างล้างหน้ามาแบบ His&Her ขนาดค่อนข้างกว้างเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง

กระจกบานใหญ่พร้อมไฟล้อมกรอบที่เลือกใช้งานได้ถึง 3 สี

สำหรับ Shower Box ก็มีผนังกระจกกั้นไว้เป็นสัดส่วน

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.6 x 1.7 เมตร สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก ภายในติดตั้งฝักบัวให้ทั้งแบบ Hand shower และ Rain shower รวมถึงเดินระบบน้ำร้อนแบบในโรงแรมไว้ให้พร้อม โดยทางโครงการจะติดตั้งหม้อต้มน้ำร้อนของ Ariston มาให้พร้อมใช้งานได้เลย ซึ่งห้องน้ำทุกห้องในบ้านก็จะใช้ระบบน้ำร้อนเหมือนกันหมดนะคะ

อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวของยี่ห้อ TRUSOL โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบคลาสสิค ที่นิยมใช้กันตามโรงแรมและรีสอร์ท

ปิดท้ายบ้านตัวอย่างหลังแรกกันด้วยพื้นที่วางเตียงนอน เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้เลย แถมอยู่ด้านในติดกับระเบียงจึงได้ความสงบเป็นส่วนตัว เหมาะแก่การพักผ่อน

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ให้ทำชั้นวางทีวีหรือจะวางม้านั่งยาวที่ปลายเตียงก็ได้ ส่วนด้านข้างเตียงมีประตูบานเลื่อนกระจกให้เปิดออกไปรับลมที่ระเบียงได้ โดยพื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.2×4 เมตร แม้ไม่กว้างมากแต่ก็พอสำหรับวางต้นไม้กระถาง ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูร่มรื่น ผ่อนคลาย น่าพักผ่อนขึ้นไปอีกนะคะ

บ้านตัวอย่างแบบ WOODLAND

ต่อไปเราจะพาไปชมแบบบ้านชั้นเดียวกันบ้างค่ะ ที่ดินของบ้านนี้จะใหญ่กว่า Type อื่นๆ เลยเริ่มต้น 179.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยก็ใหญ่สุดอีกเช่นกัน 559 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 สระว่ายน้ำ

เรามองว่าบ้าน Type นี้เหมาะกับคนที่ชอบบ้านพักสไตล์ตากอากาศ ไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันไดสูงๆ พื้นที่ภายในเชื่อมต่อกันโดยแยกความเป็นส่วนตัวชัดเจน แถมบ้านนี้ยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวมาให้เลย ไม่ต้องไปก่อสร้างเพิ่มแล้วค่ะ

โดยเค้าจะวาง Common Area ไว้ตรงกลางตัวบ้าน เชื่อมต่อพื้นที่ Dining+Living Area ให้ติดกับ Pantry ครัวและครัวไทย ส่วนของห้องนอนจะแยกเป็นฝั่งซ้าย 3 ห้องเรียงกันอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ อีก 1 ห้องนอนจะอยู่ทางฝั่งขวา จะใช้เป็นห้องนอนแขก หรือห้องจัดปาร์ตี้ก็ได้ โดยห้องนี้จะได้วิวสวน ต่างจากห้องนอนอื่นๆ

สระว่ายน้ำส่วนตัว

พามาชม Highlight ของบ้านกันก่อน เป็นแบบบ้านเดียวของโครงการที่มีสระว่ายน้ำมาให้พร้อมใช้งานเลย เป็นสระระบบเกลือ ขนาด 6×13 เมตร ยาวพอให้ว่ายออกกำลังกายได้ และมีความลึก 1.2 เมตรค่ะ

พื้นที่จอดรถจะมีหลังคาบังแดดมาให้โดยมีความกว้าง 8.8 เมตร ลึก 7.5 เมตร จอดรถเรียงกันได้ 3 คัน ซึ่งในส่วนนี้ทางโครงการจะลงเสาเข็มความยาวเท่าตัวบ้านไว้ให้ จึงไม่ต้องกลัวพื้นทรุดแยกออกจากตัวบ้าน

บริเวณที่จอดรถจะมีจุดสำหรับติดตั้ง EV Charger ระบบไฟ 1 เฟส (30/100) รองรับการติดตั้ง EV Charger สูงสุด 22 kW. แต่ต้องคำนวณกำลังไฟรวมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในบ้านด้วยนะคะ

จากที่จอดรถจะมีประตูเชื่อมกับ Service Zone ด้านหลังบ้านได้เลย และยังสามารถทำทางเดินเชื่อมไปที่ประตูหลักของบ้านได้สะดวก

ไอเดียของบ้านตัวอย่างก็น่าสนใจนะคะ เค้าออกแบบเป็นทางลาดยาวเชื่อมจากลานจอดรถไปถึงโซนสระว่ายน้ำ เข้าสู่ห้องพักที่ติดกับสระได้เลย ครอบครัวไหนที่มีผู้สูงอายุก็สามารถเข็นวีลแชร์เข้าห้องพักได้โดยไม่ต้องเดินผ่านตัวบ้าน

ประตูหลักบริเวณหน้าบ้าน เป็นประตูยี่ห้อ Tostem เช่นเดียวกับบ้านตัวอย่างหลังแรก ต่างกันแค่บ้าน Type นี้ประตูจะกว้างกว่า เปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง ดูหรูหรามากขึ้น

เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมพื้นที่ Dining+Living+Pantry ครัว เข้าไว้ด้วยกัน เป็นพื้นที่กว้างๆ ที่น่าจะตอบโจทย์ครอบครัวที่ชอบจัดปาร์ตี้ สังสรรค์กับเพื่อนๆ ได้ดีเลยค่ะ

โซนแรกที่ติดกับประตูจัดเป็น Powder Room เมื่อถึงบ้านก็สามารถเดินเข้าห้องน้ำได้สะดวก ไม่ต้องเดินไปไกล

ติดกับห้องน้ำจะเป็นตู้เก็บของ ซึ่งเราสามารถออกแบบให้เป็นตู้เก็บรองเท้าก็ได้นะคะ แต่หากครอบครัวไหนที่ชอบสะสมรองเท้าก็จะมีห้องเก็บรองเท้าเตรียมไว้ให้อีกจุดหนึ่งด้วยค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางเป็นแบบ Powder Room ตกแต่งสวย เป็นหน้าเป็นตาใช้รับแขกได้ดี มาพร้อมสุขภัณฑ์ครบครัน

จุดที่เราชอบก็คือ เค้าใช้การฝังท่อระบายน้ำไว้บนพื้นหน้าห้อง ลดระดับพื้นห้องน้ำกับพื้นบ้านส่วนอื่นไม่ให้ต่างกันมาก สังเกตเลยว่าระดับพื้นห้องน้ำจะไม่ต่างจากพื้นบ้านส่วนอื่นๆ มากนัก เพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ

Dining Area

พื้นที่รับประทานอาหารรองรับโต๊ะขนาด 8-10 ที่นั่งกำลังพอดี และยังเหลือพื้นที่สำหรับตกแต่งผนังได้ด้วย

ถัดจากโต๊ะทานอาหารเข้ามาด้านในจึงเป็น Living Area

พื้นที่นั่งเล่นจะมองเห็นสวนได้บรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติ สำหรับพื้นที่นั่งเล่นจะรองรับชุดโซฟาขนาดใหญ่ 6-7 ที่นั่งได้สบาย และรองรับการติดตั้งทีวีขนาดใหญ่แบบ 100″ ได้เลย

ติดกันเป็น Pantry ครัว ซึ่งเราสามารถจัดเป็นบาร์เครื่องดื่ม หรือพื้นที่เตรียมอาหาร, อบขนม ที่กลิ่นควันไม่ฉุนได้ หากต้องการใช้ครัวไทยก็จะอยู่ด้านในถัดจาก Pantry เข้าไปด้านในอีกทีค่ะ

ด้านขวาของ Pantry ครัวจะเจอกับทางเข้าจากฝั่งที่จอดรถ ซึ่งโครงการออกแบบห้องเก็บรองเท้าไว้ติดกับประตูฝั่งนี้นะคะ

บ้านตัวอย่างทำชั้นวางรองเท้าไว้ให้ดูเป็นไอเดีย จะเห็นว่าสามารถเก็บรองเท้าเต็มผนังทั้ง 3 ฝั่งได้เลย หรือจะทำม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้าเข้ามาในห้องนี้ด้วยก็ยังไหว

มาต่อกันที่ Pantry ครัว มีขนาดที่กว้างมาก ผนังทั้ง 2 ฝั่งก็สามารถ Built-in ตู้หรืออุปกรณ์ทำอาหารฝั่งผนังได้เต็มที่ และมีประตูเปิดให้เชื่อมต่อกับโซนครัวไทยด้านในได้

หรือหากเราทำอาหารที่มีกลิ่นฉุนก็สามารถกั้นประตูปิด เพื่อกันกลิ่นและควันเข้ามารบกวนพื้นที่ส่วนอื่นในบ้านได้เช่นกัน

ครัวไทย

พื้นที่ในครัวกว้างมากทีเดียวเพียงพอที่จะวางเคาน์เตอร์แบบ Island ตรงกลางได้ และมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดระบายกลิ่นควันได้สะดวก ซึ่งโซนครัวทั้งหมดทางโครงการจะเดินงานระบบน้ำ/ไฟไว้ให้ เราก็สามารถตกแต่งได้แบบที่เราชอบเลยค่ะ

แต่โซนครัวยังไม่หมดเท่านี้นะคะ สำหรับบ้าน Type นี้ยังมีครัวด้านนอกตัวบ้านอีก 1 จุด

ออกมาจากครัวไทยก็ยังมีพื้นที่ที่เตรียมไว้ให้วางชุดครัวได้อีก 1 จุด กรณีที่ต้องทำอาหารในเวลารวดเร็วก็สามารถแบ่งมาทำที่ครัวด้านนอกได้อีก หรือใครที่ไม่ชอบทอดปลา, ย่างเนื้อในบ้าน โซนครัวด้านนอกตรงนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ค่ะ

บริเวณใกล้ๆ กันจะมี Laundry Area เป็นโถงแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมบังแดดบังฝน จึงสามารถตั้งวางเครื่องอบผ้า-ซักผ้าได้สะดวก

ห้องนอนรอง 1 (ติดสวน)

อย่างที่เกรินไปว่าห้องนอนของบ้านนี้จะมีทั้งหมด 4 ห้องแต่เป็นห้องนอนติดสระ 3 ห้อง และมีห้องนอนนี้ที่เป็นแบบติดสวน เราจึงคิดว่านอกจากจะเป็นห้องนอนได้แล้วห้องนี้ยังใช้เป็นห้องอเนกประสงค์สำหรับจัดปาร์ตี้ร้องคาราโอเกะ เล่นบอร์ดเกทส์กันก็ได้ เพราะตำแหน่งที่ติดสวนจะอยู่ตรงข้ามกับ Living Area พอดี หากใช้จัดปาร์ตี้ก็สามารถเปิดเชื่อมถึงกันได้สะดวก

ภายในห้องมีขนาด 3.7×3.6 เมตร วางเตียง 5 ฟุตได้เพียงพอ และมีห้องน้ำในตัวครบครัน หรือถ้าจัดเป็นห้องนั่งเล่นดูทีวีแบบในบ้านตัวอย่างก็มีข้อดีที่เราสามารถแยกพื้นที่รับแขกออกจากตัวบ้านหลักได้เลย

มาต่อกันที่ห้องนอนอีก 3 ห้อง จะมีทางเดินยาวๆ เชื่อมไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง เราชอบที่เค้าออกแบบให้มีการยกระดับขึ้น เหมือนบันไดเป็นพื้นที่เปลี่ยนผ่านไปสู่โซนที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นและคอยเตือนว่าจะเข้าสู่โซนห้องนอนแล้วนะ

ทางเดินเข้าห้องนอนจะได้แสงธรรมชาติผ่านประตูกระจกบานใหญ่ที่ใช้เปิดเชื่อมกับพื้นที่หลังบ้านได้ อย่างบ้านตัวอย่างเค้าจะออกแบบไว้เป็นระเบียงกว้างๆ ยิ่งช่วงอากาศเริ่มเย็นแบบนี้ ยิ่งน่าไปนั่งเล่น หรือเป็นมุมทำงานอดิเรกก็น่าสนใจ แถมได้ความเป็นส่วนตัวสูงเลยเพราะอยู่ด้านหลังบ้าน

ห้องนอนรอง 2 (ติดสระ)

ห้องนอนรอง 2 มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนติดสวน จึงมีพื้นที่เพียงพอที่จะกั้นโซนแยกระหว่างเตียงนอนกับพื้นที่อาบน้ำ-แต่งตัวได้เป็นสัดส่วน เราสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงสองข้าง ภายในห้องน้ำก็แยกโซนเปียกโซนแห้งไว้ชัดเจน ด้วยฉากกั้นอาบน้ำ

Highlights ของห้องนี้คือ สระว่ายน้ำที่อยู่ติดกับตัวห้องเลย จะนั่งชมสระเพลินๆ หรือลงไปว่ายน้ำก็สะดวก สมกับที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การพักตากอากาศจริงๆ

ขอ Remarks ไว้อีกว่าบ้าน Standard จะมีขนาดห้องที่กว้างกว่าบ้านตัวอย่างอีกนิดนึงด้วยนะคะ 🙂

ห้องนอนรอง 3 (ติดสระ)

ห้องนอนรอง 3 จะอยู่ติดกับห้องนอนรอง 2 เลยค่ะ มีขนาดพอๆ กันและจัดฟังก์ชันมาเหมือนกันเป๊ะเลยค่ะ ใครที่มีลูก 2 คนก็แบ่งกันคนละห้องได้เลย

Master Bedroom

เป็นห้องติดสระอีกเช่นเดียวกันและมีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆ เลยค่ะ โซนวางเตียงนอนจะสามารถวางเตียงขนาด 6-7 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ให้เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ จากเตียงสามารถมองผ่านระเบียงออกไปเห็นสระว่ายน้ำด้านนอกได้

อีกฝั่งหนึ่งมีพื้นที่สำหรับจัดเป็น Walk-in closet ขนาดใหญ่แบบที่สามารถวางเคาน์เตอร์ Island ไว้กลางห้องได้ด้วย ซึ่งจะอยู่ตำแหน่งหน้าห้องน้ำพอดี ใช้งานเชื่อมต่อกันสะดวก

Master Bathroom มีขนาดใหญ่ได้ฟังก์ชันครบ ทั้งอ่างล้างหน้าแบบ His&Her ใช้งานได้พร้อมกันทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย ขนาดค่อนข้างกว้างเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง

ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.7×1.3 เมตร ให้อาบน้ำหมุนตัวได้สะดวก และยังมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ

บ้านตัวอย่างแบบ ARBOR

แบบบ้าน ARBOR เป็นบ้านไซส์เริ่มต้นของโครงการ มาในรูปแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 112.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. ฟังก์ชันยังครบถ้วน 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ ไม่แพ้แบบอื่น ดูจากแปลนจะคล้ายแบบ Forest แต่จะไม่มีห้องแม่บ้านมาให้นะคะ

ภาพรวมยังคงเป็นบ้านหน้ากว้าง เน้นความโปร่งสบายภายใน มองเห็นวิวสวน 2 ฝั่งทั้งด้านหน้า-หลังบ้าน

CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) ราคา ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2567

• ARBOR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 112.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – เริ่ม 17.7 ล้านบาท
• FOREST บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 116.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 402 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – เริ่ม 19.2 ล้านบาท
• WOODLAND บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 179.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 559 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / สระว่ายน้ำ
  – เริ่ม 24.5 ล้านบาท
• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ว./เดือน
• ค่าจองและทำสัญญา สอบถามจากทางโครงการอีกครั้ง
• โปรโมชั่นพิเศษ

• แบบบ้าน ARBOR และ FOREST รับส่วนลด 600,000 บาท
• แบบบ้าน WOODLAND รับส่วนลด 800,000 บาท
• ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี
• ฟรีค่ามิเตอร์น้ำ/ไฟ
• ฟรีค่าโอน
• ฟรีแอร์ทั้งหลัง

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) อยู่ในโซนสงบร่มรื่น ได้วิวอ่างเก็บน้ำ แต่ไม่ไกลจากตัวเมืองพัทยา อย่างเช่น Central Festival Pattaya ก็ห่างแค่ประมาณ 9 km. เท่านั้น การเดินทางมายังโครงการถือว่าค่อนข้างสะดวก เข้าออกได้หลายเส้นทาง แถมยังใกล้โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง รวมถึงสนามกอล์ฟและสนามขี่ม้าด้วยค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : มีครบทั้งส่วนกลางและตัวบ้าน การเข้า – ออกโครงการควบคุมด้วยการอ่านป้ายทะเบียนรถ ประตูโครงการค่อนข้างแน่นหนามีทั้งไม้กั้นกระดกและประตูเหล็กรางเลื่อน พร้อม CCTV ในโครงการและ รปภ.ดูแล 24 ชั่วโมง ส่วนตัวบ้านจะติดตั้ง Digital Door Lock ไว้ให้ค่ะ

การออกแบบโครงการ : วางผังโครงการให้ดูแกรนด์โอ่อ่า ด้วยการวาง Clubhouse ไว้ให้เห็นตั้งแต่ผ่านซุ้มประตูโครงการเข้ามาเลย ในส่วนของสวนก็แยกไว้ 2 จุด เพื่อกระจายให้ลูกบ้านทั้งหมดมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย อีกประเด็นคือโครงการมีทางเข้า-ออก 2 ทาง สำหรับลูกบ้านที่อยู่โซนด้านใน สามารถใช้ทางเข้าจุดที่ 2 ได้ใกล้กว่าหากมาจากถนนชัยพฤกษ์ 2 ประเด็นสุดท้ายที่ชอบคือทิศทางของบ้านที่หันทางเหนือ-ใต้ทั้งหมด  ซึ่งเป็นทิศยอดฮิตที่ได้รับลมดีทั้งคู่

การออกแบบตัวบ้าน : ออกแบบในสไตล์ Modern Contemporary ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายแต่ก็มีดีเทลของความคลาสสิค จะใช้เป็นบ้านพักตากอากาศสำหรับพักผ่อนกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือใช้อยู่อาศัยประจำก็ได้ เหมาะกับครอบครัวขยับขยายที่มีสมาชิกภายในบ้าน 4 คนขึ้นไป มีแบบบ้านให้เลือกทั้งมีสระว่ายน้ำและไม่มีสระว่ายน้ำ แบบบ้านชั้นเดียวและ 2 ชั้น

ซึ่งแบบบ้าน 2 ชั้นจะเป็นแบบไม่มีสระ น่าจะตอบโจทย์ทั้งครอบครัวที่ใช้อยู่อาศัยเป็นประจำและครอบครัวที่ไม่ได้อยากดูแลสระเอง ใช้สระว่ายน้ำส่วนกลางได้ สำหรับแบบบ้านชั้นเดียวจะมาพร้อมสระว่ายน้ำในตัวเลย แบบบ้านนี้ฟังก์ชันจะเหมาะกับการพักตากอากาศ จัดปาร์ตี้พักผ่อนริมสระ

วัสดุ :  ให้มาตามมาตรฐานของบ้านระดับนี้เป็นของมีแบรนด์คุณภาพดี รองรับการติดตั้ง EV Charger สูงสุด 22 kW. เสียดายนิดหน่อยที่เทคโนโลยีในบ้านมีเฉพาะ Digital Door Lock แต่ถ้าต้องการความสะดวกเพิ่มเติมทางโครงการก็ทิ้งสาย Neutron ไว้ทุกจุดสำหรับเปลี่ยนเป็น Smart Switch ไว้ให้นะคะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศดีมากทั้งงานสถาปัตยกรรมและ Landscape พร้อมสายไฟลงดินทั้งโครงการ ทำให้หน้าบ้าน, ถนนหนทางต่างๆ ดูคลีน สะอาดตา

สาธารณูปโภค : ครบครันไม่แพ้ใคร มีอาคาร Clubhouse พร้อมฟังก์ชันภายในมีทั้ง Lobby, Fitness, Yoga Studio, สระว่ายน้ำยาวแบบ Half Olympic, แยกสนามเด็กเล่น และ Pet Park ไว้เป็นสัดส่วน สมน้ำสมเนื้อกับค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ว./เดือนนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจเริ่มต้น 17.7-24.5 ล้านบาท, 17 ธันวาคม 2567

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – อยู่ในโซนเงียบสงบ ไม่ไกลจากตัวเมืองพัทยา เข้าออกได้หลายเส้นทาง
• ความปลอดภัย 7.5/10 – ไม้กั้นกระดกและประตูเหล็กบานเลื่อน, รปภ. 24 ชั่วโมง, CCTV, Digital Door Lock
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – สไตล์ Modern Contemporary ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย แต่ก็ยังดูคลาสสิค รองรับทั้งการอยู่อาศัยประจำและพักตากอากาศ
• วัสดุ 7.75/10 – ให้มาตามมาตรฐานของบ้านระดับนี้เป็นของมีแบรนด์คุณภาพดี
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – วาง Clubhouse ไว้ต้อนรับตั้งแต่หน้าโครงการ, นำสายไฟลงดินทั้งโครงการดูสะอาดตา
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – ครบครันไม่แพ้ใคร ค่าส่วนกลางสมน้ำสมเนื้อ
• 7.85 / 10.00

CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) เหมาะกับใคร

CASCADE by PATTA (แคสเคด บาย ภัททา) เหมาะกับครอบครัวที่ตามหาบ้านเดี่ยวสำหรับอยู่ประจำหรือบ้านพักตากอากาศ จะอยากได้บ้านที่มีสระว่ายในตัวหรือไม่มีสระก็ตอบโจทย์ทั้งคู่ ชอบทำเลที่ร่มรื่นเงียบสงบใกล้อ่างเก็บน้ำ, สนามกอล์ฟ, Sport Club แต่ต้องขับรถออกมาจากตัวเมืองสักหน่อย

รองรับครอบครัวใหญ่สมาชิก 5-8 คน รวมถึงครอบครัวที่มีผู้สูงอายุได้ ชอบโครงการจัดสรรที่มีรั้วรอบขอบชิด มีระบบรักษาความปลอดภัย มีนิติบุคคลคอยดูแล และมี Facility ส่วนกลางครบครัน ชอบโครงการที่ตกแต่งสไตล์ Modern Contemporary ดูผ่อนคลายแต่ก็ยังคลาสสิค เหมือนอยู่โรงแรมชื่อดัง ในงบประมาณเริ่มต้น 17.7-24.5 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มต้นประมาณ 120,000 บาท/เดือน ยังไม่รวมงบในการตกแต่งบ้านนะคะ

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่