รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.430 – รีวิวบ้านเดี่ยว Blue Lagoon 2 บางนา-วงแหวน
28 ตุลาคม 2018
รีวิวฉบับที่ 935 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Blue Lagoon 2 บางนา – วงแหวน โครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พร้อมสระว่ายน้ำ ตั้งอยู่ในเขตประเวศ ทางเข้าอยู่บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอกมุ่งหน้าอ่อนนุช ไม่ไกลจากทางขึ้นลงทางด่วนบางนา-ชลบุรีและสนามบินสุวรรณภูมิ มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ ที่ดินเริ่มต้น 51 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาท ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าที่นี่เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหน ลุยย
Fact @ 28 September 2015
- Blue Lagoon 2 (บลูลากูน 2)
- บริษัท นัทเบอร์วัน เฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ประเวศ
- เนื้อที่โครงการ 47-1-89.9 ไร่ จำนวน 151 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- Blue Turquoise ขนาดที่ดิน 51-62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.93 ล้านบาท
- Blue Sapphire ขนาดที่ดิน 60-100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 9.67 ล้านบาท
- Blue Diamond ขนาดที่ดิน 85-226 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 390 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 14.61 ล้านบาท
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 51 ตร.วา
- ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาทหรือ 70,000 บาท/ตร.วา
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2558
- คาดว่าแล้วเสร็จ(บางส่วน)ปี 2560
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-136-1331,095-559-3111
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.684209, 100.698851
แผนที่โครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งที่มุ่งหน้าไปตัดกับถนนอ่อนนุช ระหว่างซอยร่วมสามัคคีและซอยกาญจนาภิเษก 46
โครงการอยู่ในเขตประเวศ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเทพ ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิและถนนใหญ่บางนา-ตราด ที่อยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ เป็นทำเลที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ในย่านชานเมือง เกาะอยู่กับถนนวงแหวนรอบนอกที่จะวิ่งรอบกรุงเทพและปริมณฑลเป็นวงกว้างๆ โดยถนนวงแหวนรอบนอกเองจะมีถนนที่ขนานทั้งสองฝั่ง เรียกว่าถนนเลียบวงแหวนรอบนอกไว้สำหรับเข้าซอยต่างๆบนถนนเส้นนี้
ทางเข้าโครงการจะอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังถนนอ่อนนุช ระหว่างซอยร่วมสามัคคีและซอยกาญจนาภิเษก 46 การเข้าโครงการถ้ามาจากเส้นบางนาให้ชิดช่องซ้ายสุดไว้ตรงมาเรื่อยๆก็ถึงโครงการแล้วแต่ถ้ามาจากอ่อนนุชให้เลี้ยวขวาตรงแยกประเวศเข้าถ.เฉลิมพระเกียรติร.9 จากนั้นเข้าซอย 72 ที่เป็นซอยทะลุเข้าถนนเลียบวงแหวนได้ ถ้ามาจากเส้นพระราม9มอเตอร์เวย์จะมีทางโค้งมาลงถนนเลียบวงแหวนฝั่งมุ่งหน้าเส้นบางนา-ตราด เลี้ยว เข้าถนนสุขาภิบาล 2 แล้ว U-turn ลอดใต้ถนนมายังอีกฝั่ง
แม้ว่าภายในถนนเลียบวงแหวนรอบนอกทั้งสองฝั่งจะมีหมู่บ้านหลายต่อหลายโครงการแต่ความอุดมสมบูรณ์ภายในระยะเดินได้ไม่มีเลย ดังนั้นต้องอาศัยรถส่วนตัวล้วนๆในการเดินทางหาของกินของใช้ เนื่องจากถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกเป็นถนนที่ติดกับทางด่วนสภาพแวดล้อมเลยค่อนข้างแห้งแล้ง จะมีห้างใหญ่หน่อยก็ต้องไปตรง Mega บางนา และเซ็นทรัล หรือไม่ก็ไปบนเส้นศรีนครินทร์จะมี Seacon Square กับ Paradise park และสวนหลวง ร.9 อยู่ใกล้ๆกัน ถ้าไม่อยากไปห้างใหญ่ๆจะมีแหล่งตลาดร้านอาหารอยู่บริเวณม.รามคำแหง วิทยาเขตบางนา แถวๆนั้นจะคึกคักมากเพราะมีนักศึกษาอยู่กันเยอะ มีทั้งตลาดนัมเบอร์ราม 2 ที่เป็นตลาดสด, ราม2 ไนท์บาซาร์ที่เป็นตลาดนัดด้านข้างและนัมเบอร์วันบาซาร์ยาวไปจนถึงหน้าสวนดอกไม้ กรุงเทพ – ราม2
ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างแท๊กซี่ พี่วิน จะหาได้ยากหน่อย แต่ที่พบเจอจะเป็นรถสองแถวที่วิ่งทางตรงบนถนนเลียบวงแหวนซะมากกว่า ส่วนรถไฟฟ้า BTS สถานีใกล้เคียงที่สุดคือสถานีอุดมสุขและสถานีอ่อนนุช แต่ถ้าเป็นเส้น ARL ก็จะเป็นสถานีบ้านทับช้าง
เส้นทางที่เราจะพาไปในวันนี้ จะเริ่มจากเซ็นทรัลบางนาขับตรงไปบนทางคู่ขนานถนนบางนา-ตราด ตรงไปเรื่อยๆเข้าถนนเลียบวงแหวนรอบนอก ตรงไปเรื่อยๆเห็นโรงเรียนคลองปักหลักแล้วชิดซ้ายตรงไปอีกนิดถึงโครงการค่ะ
เริ่มจากหน้าห้างเซ็นทรัลบางนา วิ่งไปบนทางคู่ขนานถนนบางนา-ตราด ขับมาอีกนิดจะเจอ Big C ติดๆกันเลย
ขับมาอีกนิดจะเจอโรงพยาบาลไทยนครินทร์
และ SB Design Square สาขาบางนา
ถึงจุดตัดถนนศรีนครินทร์ให้ตรงไป
ขับตรงมาเรื่อยๆจะเห็นแหล่งช็อปปิ้ง Chic Repeblic, Index Living Mall ใครสนใจแวะเดินเล่นซื้อของก็ชิดซ้ายเลี้ยวเข้าไปเดินได้ค่ะ
เรากำลังจะไปถนนเลียบวงแหวนรอบนอกเพราะฉะนั้นขับตามป้ายถนนกาญจนาภิเษกไปเลยค่ะ
จะเจอสะพานกลับรถไปทางคู่ขนานบางนา-ตราด ที่มุ่งหน้าถนนสรรพาวุธและสุขุมวิท
ขับมาเรื่อยๆซ้ายมือจะเป็นซอยจรรยวรรธเป็นทางลัดสามารถไปออกรามคำแหง 2 และแหล่งช็อปปิ้งในเครือ Number One คือ ราม2 ไนท์บาซาร์ และตลาดนัดนัมเบอร์วันค่ะ
ก่อนถึงทางแยกที่ตัดกับ ถนนกาญจนาภิเษก จะเจอ Tesco Lotus อยู่ซ้ายมือส่วนทางขวาเป็นสะพานกลับรถและทางเชื่อมต่อเข้า Mega bangna ได้โดยตรงค่ะ
ตรงไปเรื่อยๆ เห็นป้ายไปถนนกาญจนาภิเษกและอ่อนนุชแล้วเตรียมชิดซ้ายไว้เลยนะคะ
ถึงทางแยกตรงนี้เราจะออกซ้ายไปถนนเลียบวงแหวน มุ่งหน้าอ่อนนุชกันค่ะ
เข้ามาบนถนนเลียบวงแหวนแล้วสภาพแวดล้อมก็จะเริ่มเป็นโครงการหมู่บ้านต่างๆ แล้วค่ะ
วิ่งตรงมาเรื่อยๆจะเห็นจุดกลับรถทางขวามือ ตรงนี้สามารถจะกลับรถไปเส้นเลียบวงแหวนกลับไปทางเส้นขนานถนนบางนา-ตราดมุ่งหน้าสมุทรปราการได้ค่ะ
ละแวกนี้จะมีโครงการเพื่อนบ้านหลายโครงการเลยค่ะ ทั้ง Lake View Park, คาซ่า วิลล์, เดอะแกรนด์, Nara Home รวมไปถึงโครงการรุ่นพี่ Blue Lagoon
ตรงมาเรื่อยๆจะเริ่มเห็นป้ายบอกทางไปโครงการบ้างแล้วค่ะ ตรงนี้ซ้ายมือสามารถไปตลาดนัมเบอร์วันราม 2 และ ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ ได้ ซึ่งเดี๋ยวตอนท้ายจะมีเก็บตกแวะไปดูกันนะคะ
เห็นโรงเรียนคลองปักหลักแล้วให้เตรียมชิดซ้ายไว้เลยนะคะ
ตรงมาอีกหน่อยก็จะเริ่มเห็นป้ายโครงการแล้วค่า
ถึงแล้ววว เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่า
ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเจาะลึกตัวโครงการ จะแว้บพาไปเที่ยวตลาดนัมเบอร์วันราม 2 และราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ ที่พัฒนาโดย Number One Housing Development เจ้าของโครงการ Blue Lagoon2 กันก่อนนะคะ ออกจากโครงการเลี้ยวขวาค่ะ
ซ้ายมือเป็นจุดกลับรถไปถนนเลียบวงแหวนอีกฝั่งนึงค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นป้ายตลาดนัมเบอร์วันราม 2 และราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ทางซ้ายมือ เราก็เตรียมเลี้ยวขวาเข้าซอยเลยค่ะ
เลี้ยวขวาเข้ามาบนถนนนัมเบอร์วัน-ราม 2 บนถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการโฮมออฟฟิศที่พัฒนาโดย Number One ค่ะ
ขับตามถนนมาเรื่อยๆจะมาออกบริเวณด้านข้างมหาวิทยาลัยรามคำแหง บริเวณรอบๆส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ส่วนบุคคลค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยก็จะมาออกถนนรามคำแหง 2 เลี้ยวขวาค่ะ
ขับมาไม่นานก็จะเห็นม.รามคำแหงทางด้านขวา และนัมเบอร์วัน พลาซ่า ทางด้านซ้าย
นอกจากตัวห้างแล้ว ถนนด้านข้างตัวอาคารนัมเบอร์วันบาร์ซาร์ยังมีตลาดนัดมาวางขายกันช่วงเย็นอีกด้วยค่ะ
บริเวณใกล้เคียงกันยังมีตลาดสดนัมเบอร์วัน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่มาจากตัวโครงการได้สะดวกเลยทีเดียวค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- สำนักงานเขตประเวศ 4.9 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา 3.9 กิโลเมตร
- ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ 4.3 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสิรินธร 5.9 กิโลเมตร
- Pan-asia International School 4.2 กิโลเมตร
- สวนหลวง ร.๙ 8.9 กิโลเมตร
- Central city บางนา 11.4 กิโลเมตร
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ 13.9 กิโลเมตร
- Paradise Park 11.3 กิโลเมตร
- โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส 12.3 กิโลเมตร
- Seacon Square 12 กิโลเมตร
- โรงเรียนราชวินิต บางแก้ว 10.3 กิโลเมตร
- สนามบินสุวรรณภูมิ 15.7 กิโลเมตร
- IKEA บางนา 7 กิโลเมตร
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง 10.6 กิโลเมตร
มาดูที่ดินของโครงการในระยะใกล้ๆกันบ้าง บริบทโดยรอบโครงการ ทิศเหนือจะติดกับหมู่บ้านข้างเคียงที่กำลังพัฒนาของ Life Bangkok Boulervard ทิศตะวันออก เป็นทางเข้าโครงการติดกับคลองปักหลักและถนนเลียบวงแหวนรอบนอกซึ่งรถแถวนี้ค่อนข้างวิ่งเร็ว มีรถใหญ่วิ่งทั้งวันเพราะฉะนั้นเวลาเข้าออกโครงการจึงต้องใช้ความระมัดระวังด้วยค่ะ ทิศตะวันตก ติดกับที่พักอาศัยส่วนบุคคล ส่วนทางทิศใต้จะติดกับที่ดินเปล่าที่เป็นแปลงที่ดินที่รอการพัฒนาค่ะ
โครงการนี้มีขนาดประมาณ 47 ไร่ จำนวนบ้านทั้งโครงการ 151 ยูนิต จาก Master Plan จะเห็นว่า ลักษณะการวางผังคือวางเส้นถนนแจกเข้าตัวบ้านแต่ละซอยไปยังที่ดินแต่ละแปลงโดยไม่มีถนนหลักคอยเชื่อม ส่วนทางเข้าออกจะมีเพียงทางเดียวคือจากทางหน้าโครงการติดถนนเลียบวงแหวนรอบนอก มีสวนสาธารณะ 1 จุด ขนาด 7 ไร่ อยู่ตรงช่วงเกือบท้ายโครงการ ซึ่งเป็นบริเวณแนวเสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งที่ตรงนี้ไม่สามารถสร้างอะไรได้อยู่แล้วตามกฎหมายค่ะ ไม่มี Club House นะคะ ถนนตรงประตูทางเข้าหลักกว้างประมาณ 17 เมตร เมื่อเข้าโครงการไปแล้วจะเจอพื้นที่นิติบุคคลทางซ้าย และรูปปั้นสัญลักษณ์โครงการตรงกลางทางเข้า ถนนภายในโครงการจะกว้าง 9 เมตร ยกเว้นถนนในซอยของแบบบ้าน Blue Diamond ส่วนแปลงที่โครงการเปิดขายตอนนี้จะมีแค่บางส่วนเท่านั้นค่ะ ที่เหลือยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาเป็นเฟสต่อไป
มาดูหน้าตาของจริงกัน ซุ้มประตูหน้าโครงการออกแบบมาแบบเรียบร้อยธรรมดาๆค่ะ มีน้ำพุตกแต่งบริเวณป้ายทางเข้า โทนสีที่ใช้เป็นสีขาว เทา ตัวซุ้มมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีหลังคาคลุมยาวตลอดทั้งทางเข้าและออก
Security ของโครงการนี้จะมี รปภ. 24 ชั่วโมง Access Card ระบบ Bluetooth คือไม่ต้องแตะบัตรก็สามารถเปิดประตูไม้กระดกได้เลยค่ะ มี CCTV ที่ป้อมยาม 2 จุด และ 39 จุดทั่วทั้งโครงการ
เข้ามาจะเจอสะพานข้ามคลองปักหลักแยกเป็นทางเดินรถเข้าและออกโครงการ ความกว้างรวม 17 เมตร
หน้าตาคลองปักหลัก ไม่เน่า ไม่มีกลิ่นเหม็นรบกวนนะ
เข้ามาในตัวโครงการจะเจอกับรูปปั้นสัญลักษณ์โครงการคือ Infinity ที่ให้ความหมายว่าความสุขไม่มีวันสิ้นสุดค่ะ
ทางซ้ายจะเป็นซอยของแบบบ้าน Blue Diamond ถนนกว้าง 12 เมตร
ส่วนด้านขวาจะเป็นซอยแยกไปแบบบ้าน Blue Sapphire และ Blue Turqoise ถนนกว้าง 9 เมตรค่ะ
ตัวอย่างบรรยากาศซอยเมื่อบ้านสร้างเสร็จเรียบร้อย แต่ต้นไม้ใหญ่ริมถนนน้อยไปหน่อยคงต้องรอต้นไม้ในบ้านแต่ละบ้านโตขึ้นหน่อยประมาณ 3-5 ปี น่าจะร่มรื่นขึ้นอีกเยอะค่ะ
เนื่องจากสวนสาธารณะยังสร้างไม่เสร็จ เลยเอาภาพบรรยากาศจำลองมาให้ชมกันก่อนค่ะ
อีกมุมหนึ่ง เนื่องจากสวนค่อนข้างใหญ่เลยมีพื้นที่พอสำหรับการวิ่งออกกำลังกายค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะ 7 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวม 39 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
- Key Card Access ระยะไกลระบบ Bluetooth
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง
- ถนนกว้าง 12 ม. และ 9 ม.
ตัวบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ
- Blue Turquoise ขนาดที่ดิน 51-62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.93 ล้านบาท
- Blue Sapphire ขนาดที่ดิน 60-100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 9.67 ล้านบาท
- Blue Diamond ขนาดที่ดิน 85-226 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 390 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 14.61 ล้านบาท
โดยตัวบ้านที่เราจะพาไปเจาะลึกวันนี้คือแบบบ้าน Blue Diamond เป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดของโครงการ ซึ่งนอกจากจะมีพื้นที่ใช้สอยและจำนวนห้องที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มเข้าอีกมาคือ สระว่ายน้ำในบ้านนั่นเองค่ะ ส่วนแบบ Blue Sapphire และBlue Turquoise ตอนนี้บ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐานก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมเข้าชมแล้วนะคะ ใครสนใจสามารถเข้าไปชมในโครงการได้เลยค่ะ
จากผังตัวบ้านจะสร้างอยู่เกือบเต็มพื้นที่แต่ถ้าใครอยากได้พื้นที่รอบๆบ้านก็เลือกแปลงที่มีเนื้อที่เยอะได้นะคะ อย่างบ้านตัวอย่างที่จะพาไปดูก็เป็นแปลงที่มีเนื้อที่เหลือพอให้ทำสวนลงต้นไม้ใหญ่ได้สบายๆเลย เมื่อผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถพร้อมตู้เก็บของ ที่จอดรถสามารถจอดรถได้ 3 คันแต่จะแน่นๆหน่อยนะคะ จากที่จอดรถสามารถเข้าไปส่วนลานซักล้างและสามารถเข้าถึงห้องแม่บ้าน ห้องครัวและห้องเก็บของใต้บันไดได้ ส่วนนี้ถ้ากังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวก็สามารถกั้นระแนงทางระหว่างที่จอดรถกับพื้นที่ข้างบ้านได้นะคะ จะเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้โดยไม่ทำให้หน้าบ้านดูทึบตัน
ทางเข้าตัวบ้านจะถูกยกระดับโดยเดินเข้าบ้านจากที่จอดรถได้เลยแถมเวลาฝนตกก็ไม่ต้องกังวลด้วยเพราะทางเดินมีหลังคาคลุมหมด เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอส่วนรับแขกทางด้านขวาเชื่อมต่อไปยังโถงรับแขกบริเวณกลางบ้าน จากตัวโถงรับแขกสามารถไปยังห้องอเนกประสงค์ทางด้านขวา ห้องน้ำสำหรับแขก และส่วนทานอาหารทางด้านซ้าย โดยพื้นที่ส่วนทานอาหารจะถูกแบ่งเป็นส่วนเตรียมอาหารด้วย Counter Bar หลังส่วนเตรียมอาหารจะเป็นครัวปิด จากครัวสามารถออกไปลานซักล้างนอกตัวบ้าน และห้องแม่บ้านที่สามารถเข้าได้จากนอกบ้านเท่านั้นค่ะ ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่บริเวณหลังบ้านเค้าพยายามออกแบบมาให้หลายๆห้องในบ้านสามารถเห็นบรรยากาศของสระว่ายน้ำได้โดยออกแบบให้สามารถเข้าถึงได้จากส่วนทานอาหาร โถงรับแขก และห้องอเนกประสงค์ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงบันไดที่เชื่อมไปยังโถงพักผ่อนที่มีระเบียงในตัวทางขวามือ ห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวส่วนระเบียงจะมีให้แค่ 2 ห้องคือห้องนอนใหญ่กับห้องนอน 2 สำหรับห้องนอนใหญ่จะมีพื้นที่เยอะมากค่ะ ลองดูได้จากผังจะสามารถทำ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้เลย ห้องนอน 3 จะเป็นห้องเดียวที่ไม่มีระเบียงมาให้ ส่วนตำแหน่งของที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกจัดไว้ให้ที่ด้านนอกตัวบ้านฝั่งห้องนอนใหญ่และห้องนอน 3 ค่ะ
มาดูของจริงกันค่ะ โดยรวมการออกแบบของตัวบ้านค่อนข้างเรียบๆ ธรรมดา ใช้สีโทนสุภาพขาว เทา มีน้ำตาลแซมบ้างนิดหน่อย ใช้กรอบบานหน้าต่างและประตูเป็นสีดำทำให้โดยรวมของบ้านดูไม่โล้นจนเกินไป จุดเด่นภายนอกจริงๆของบ้านโครงการนี้ก็ดูจะเป็นตัวหลังคา ที่ถูกออกแบบมาไล่ Slope 2 ระดับ เห็นแล้วนึกถึงหมวกเลย เก๋ดีค่ะ 🙂
ประตูรั้วเฉพาะแบบ Blue Diamond เป็นระบบไฟฟ้าควบคุมด้วยรีโมตเป็นแบบรางเดียวไปซ้อนกับกำแพงบ้าน มีประตูเล็กสำหรับวันไหนไม่ได้เอารถเข้าออกก็เปิดแค่ประตูเล็กได้ค่ะ ส่วนด้านข้างรั้วมีไฟติดผนัง, กริ่งหน้าบ้าน และที่ทิ้งขยะ เวลามีรถมาเก็บขยะของบ้านแต่ละหลังก็จะมาเปิดเอาจากตรงนี้ ช่วยให้สภาพแวดล้อมโครงการสะอาดเป็นระเบียบดีค่ะ
ช่องทิ้งขยะด้านหลังรั้ว เป็นคอนกรีตก่อด้านในทึบ ต้องดูแลความสะอาดอยู่เสมอนะคะ ไม่งั้นอาจมีกลิ่นเหม็นได้ค่ะ
โรงจอดรถพื้นเป็นคสล. จอดรถได้ 3 คัน ไฟลานจอดรถทุกแบบจะได้เป็นระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ หน้าต่างที่เห็นเป็นหน้าต่างของห้องน้ำแม่บ้าน และห้องน้ำแขก
มีช่องเก็บของ 2 ช่อง มีประตูให้เป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ
เดี๋ยวจะพาเดินดูรอบๆตัวบ้านกันก่อนนะคะ เริ่มจากขวามือ เหลือพื้นที่ระหว่างตัวบ้านกับรั้วไม่เยอะ พอลงไม้พุ่มได้นิดหน่อย
ด้านข้างของบ้านตัวอย่างหลังนี้มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งพื้นที่ที่เหลือตรงนี้จะแตกต่างกันไปตามขนาดของแปลงที่ดินนะคะ ถ้าใครอยากได้ที่ข้างบ้านเหลือเยอะๆไว้จัดเป็นสวนหรือเผื่อต่อเติมในอนาคตก็สามารถเข้ามาถามกับทางโครงการได้เลยค่ะ
สำหรับบ้านตัวอย่างจัดมาค่อนข้างร่มรื่น มีทางเดินและที่นั่งพัก แถมน้ำพุเล็กๆอีก 1 จุด ซึ่งถ้าใครชอบต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นที่มากกว่านี้ก็สามารถเอาไม้ยืนต้นมาลง จัดสวนเพิ่มอีกนิดหน่อยก็สามารถเป็นพื้นที่สำหรับนั่งชิลล์หรือออกมาทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆในสวนได้ ซึ่งพื้นที่สวนรอบๆบ้านนี้ โครงการมีการจัดสวนให้ตามมาตรฐานของโครงการ ส่วนใหญ่ก็จะปูสนามหญ้าและมีต้นไม้ให้เป็นบางจุด
จากบริเวณนำพุเล็กๆมองมาที่ตัวบ้าน หน้าต่างฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนของห้องรับแขก ส่วนหน้าต่างบานยาวอีก 3 บานทางด้านขวาจะเป็นของห้องอเนกประสงค์ สำหรับพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์บนชั้น 2 ก็สามารถติดตั้งระแนงไว้บังสายตาได้นะคะ ถ้าคิดว่าเปิดโชว์คอมเพรสเซอร์แล้วจะทำให้ดูไม่สวย
เดินมาด้านหลังบ้าน จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ ระยะขอบสระถึงรั้วบ้าน เหลือพอประมาณ สามารถลงต้นไม้ให้มีความร่มรื่นได้ แต่ให้หลีกเลี่ยงไม้ที่มีใบเล็กและผลัดใบบ่อยๆนะคะ เพราะใบไม้จะลงไปในสระบ่อย ทำให้ดูแลยากขึ้นค่ะ
สระว่ายน้ำขนาด 8.35 x 2.95 เมตร ขนาดกลางๆสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ พอจะขยับแข้งขยับขาได้แต่ไม่ได้กว้างขนาดเล่นออกกำลังกายแบบจริงจังนะคะ จากตรงนี้สามารถเห็น Space ที่เชื่อมกันของ ห้องอเนกประสงค์, โถงรับแขก และห้องทานอาหาร กับสระว่ายน้ำได้ชัดเจน เดี๋ยวเราจะวนไปที่หน้าบ้านอีกทีนะคะเพราะจากสระว่ายน้ำไม่สามารถเดินทะลุไปอีกฝั่งของบ้านได้ค่ะ
กลับมาดูฝั่งขวาของตัวบ้านกันบ้างค่ะ ตรงนี้จะมีช่องทางเดินให้จากโรงจอดรถ
เข้ามาจะเป็นส่วนของลานซักล้าง จะเรียกว่าเป็น Service Area ของบ้านเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะห้องแม่บ้าน, ห้องน้ำแม่บ้าน และห้องเก็บของสามารถเข้าถึงได้จากบริเวณนี้เท่านั้น รวมไปถึงประตูที่ออกมาจากห้องครัวด้วยค่ะ
ห้องเก็บของจะใช้พื้นที่ใต้บันไดค่ะ
อีกด้านของหลังบ้านเป็นกำแพงไม้พุ่มที่ช่วยแบ่งพื้นที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับสระว่ายน้ำซึ่งจะมีมาให้ในบ้านมาตรฐานด้วยค่ะ
กลับมาที่ทางเข้าบ้าน จากโรงจอดรถจะเจอเฉลียงยกระดับขึ้นมา 2 ขั้น พื้นเฉลียงเป็นกระเบื้อง Cotto สีเทาขนาด 30 x 60 เซนติเมตร
ประตูทางเข้าเป็นประตูไม้ทึบ มีสัญญาณกันขโมยติดไว้บริเวณกลอนประตูด้านบน ซึ่งจะมีแถมมาให้ทุกหลังนะคะ บานประตูค่อนข้างใหญ่ เมื่อเปิดแล้วจะมีความกว้างประมาณ 1.90 เมตร ข้อดีของประตูทางเข้าบานทึบคือจะมีความปลอดภัยมากกว่าประตูแบบบานเลื่อนกระจกที่นิยมใช้กันในสมัยนี้ค่ะ
ลูกบิดประตูด้านใน และมือจับด้านนอก จับถนัดมือและมีความแข็งแรงดีค่ะ
พื้นในตัวบ้านยกระดับจากเฉลียงขึ้นมาประมาณ 12 เซนติเมตร วัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้อง Cotto ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
สวิทช์ไฟข้างประตูทางเข้า หน้าตามาตรฐาน
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับโถงรับแขกที่มีประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่เห็นวิวสระว่ายน้ำทำให้บ้านมีความโปร่ง ส่วนด้านขวามือแบ่งเป็นห้องรับแขกและทางเข้าห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้าง ถ้าใครชอบกับการเข้ามาเจอ พื้นที่โล่งๆก็ตกแต่งตามโครงสร้างเดิมได้เลย แต่ถ้าใครอยากแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนหน่อยจะกั้นห้องก็ได้ค่ะ แต่แนะนำว่าไม่ควรกั้นเป็นผนังทึบนะ อาจจะใช้เป็นไม้ระแนงหรือผนังกระจกบางส่วน จะช่วยให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้นโดยไม่เสียความโปร่งของตัวบ้านไปค่ะ
ห้องอเนกประสงค์และห้องรับแขกจะถูกแบ่งออกจากกันโดยผนังลอยตัว
ห้องรับแขกจะอยู่ส่วนหน้าสุดของบ้าน มีขนาดประมาณ 4.0×4.50 เมตร สามารถวางชุดโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะเตี้ยได้สบายๆ มีช่องแสงเกือบเต็มผนังทั้ง 2 ด้าน ช่วยให้ห้องนี้ได้รับแสงจากธรรมชาติและโปร่งมากขึ้นค่ะ แต่แนะนำให้ติดม่านหรือมู่ลี่ไว้เพื่อควบคุมปริมาณแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัวนะคะ เพราะห้องนี้อยู่หน้าบ้าน ใครผ่านไปมามองเข้ามาเห็นในบ้านเราแน่นอนค่ะ
อีกด้านของห้องรับแขกสามารถจัดเป็นตู้โชว์ของหรือชั้นวางทีวีก็ได้ค่ะ เมื่อวางโซฟาแล้วระยะดูทีวีก็จะเหลือประมาณ 3 เมตร สามารถวางทีวีได้ถึง 70″ เลยค่ะ
ห้องอเนกประสงค์ขนาดประมาณ 4.0×3.70 เมตร สำหรับวอลล์เปเปอร์จะมีแถมมาให้ทั้งหลังนะคะ ห้องนี้สามารถออกไปยังสระว่ายน้ำได้ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก เหมาะสำหรับเป็นห้องพักผ่อน สามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะเตี้ย ระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร ขนาดทีวีได้ถึง 70″ กำลังดีค่ะ เวลามีจัดปาร์ตี้ก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นพื้นที่แฮงเอ้าท์ได้ หรือถ้าใครมีสมาชิกในบ้านเป็นผู้สูงอายุก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องนอนได้เช่นกันค่ะ
ประตูบานเลื่อนมีติดสัญญาณกันขโมยมาให้ทุกบานในบ้านค่ะ
กรอบอลูมิเนียมค่อนข้างหนาดูแข็งแรง ปลอดภัยค่ะ ประตูบานเลื่อนนี้จะล็อกจากด้านในเท่านั้น ส่วนมือจับด้านในเป็นแบบตามภาพ ขนาดจับพอดีมือค่ะ
รางเลื่อนถูกติดตั้งบนพื้นเดินเข้าออกห้องก็ระวังสะดุดกันด้วยนะคะ
อีกด้านนึงนอกจากวางทีวีแล้วจะทำเป็นชั้นวางของเพิ่มก็ยังได้นะ ห้องนี้มีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ ถ้าจะปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นเป็นห้องนอนก็สามารถทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้นเลย
ประตูของห้องน้ำทั้งหลังจะใช้เหมือนกันเป็นบานประตูสำเร็จรูป วงกบไม้เนื้อแข็ง ด้วยความที่วัสดุเป็นไม้ อาจจะมีปัญหาเรื่องความชื้นบ้างนะคะ ส่วนมือจับเป็นแบบเขาควาย
ภายในห้องน้ำพื้นจะถูกลดระดับลงมาประมาณ 6 เซนติเมตร วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้อง Cotto 30 x 30 เซนติเมตร ตัวห้องจะแยกเป็นส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ของที่ได้ในบ้านมาตรฐานจะเหมือนบ้านตัวอย่างเลยนะคะ ยกเว้นเคาน์เตอร์ด้านล่างอ่างล้างมือจะไม่มีแถมมาให้ค่ะ
อ่างล้างมือและก๊อกน้ำ American Standard วางบนท็อปหินแกรนิตมีพื้นที่วางของนิดหน่อย
อ่างล้างมือขนาดเล็กไปหน่อยค่ะ
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ส่วนตำแหน่งและระยะการติดตั้งสายชำระและที่วางทิชชู่ถูกต้องตามมาตรฐาน ด้านหลังมีบ่าวางของเพิ่มได้อีกนิดหน่อยค่ะ
สำหรับส่วนอาบน้ำพื้นจะลดระดับลงมาอีกประมาณ 4 เซนติเมตร มีฉากกั้นกระจกมาให้ ตัวบานประตูเป็นบานเปิดเข้าในห้องอาบน้ำ มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บานเพื่อรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ
ลักษณะมือจับด้านนอกจะเป็นราวจับ ส่วนด้านในเป็นปุ่มยื่นออกมา จับค่อนข้างลำบากค่ะ
ในส่วนอาบน้ำมีที่นั่งมาให้ด้วย ถ้าไม่นั่งจะใช้เป็นที่วางของก็ได้แต่แนะนำเป็นชั้นวางแบบตะแกรงเคลื่อนที่ได้นะคะ เพราะตรงนี้จะเปียกตลอดเวลาถ้าเป็นชั้นวางแบบทึบน้ำจะขังอยู่ด้านใน ต้องคอยทำความสะอาดบ่อยๆค่ะ
บนผนังข้างฝักบัวก็มีช่องวางของมาให้ด้วย วางของได้นิดหน่อย ส่วนฝักบัวของ American Standard ขนาดค่อนข้างใหญ่ค่ะ
กลับออกมาที่โถงรับแขก ฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนของห้องน้ำชั้นล่าง บันไดขึ้นไปชั้น 2 ห้องทานอาหารที่เชื่อมต่อไปยังครัว และประตูบานเลื่อนออกไปยังพื้นที่ระเบียงสระว่ายน้ำ
สำหรับทางออกไประเบียงบริเวณสระว่ายน้ำจากโถงรับแขก ประตูเป็นบานเลื่อนเดี่ยวกรอบอลูมิเนียมสีดำ พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 2.80×4.80 เมตร สามารถวางชุดโต๊ะโต๊ะกลมขนาด 3 ที่นั่งได้ตามบ้านตัวอย่างโดยต้องไม่ลืมว่า ชุดโต๊ะเก้าอี้นี้จะต้องวางตากแดดตากฝนอยู่ด้านนอกเพราะฉะนั้นก็ควรเลือกวัสดุให้เหมาะสมนะคะ
ห้องทานอาหารค่อนข้างกว้างสามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด 8 ที่นั่งได้ หรืออาจจะได้ถึง 10 ที่นั่งถ้าเปลี่ยนเป็นโต๊ะกลมนะคะ นอกจากนั้นยังสามารถแบ่งพื้นที่ด้านหน้าครัวทำเป็น Pantryใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารเบาๆ ไม่ต้องเข้าครัวใหญ่ หรือเป็น Breakfast Bar ทานอาหารเล็กๆน้อยๆ แล้วออกไปทำงาน ในชั่วโมงเร่งด่วนจะมีประโยชน์มากค่ะ
จากห้องทานอาหารสามารถออกไปยังสระว่ายน้ำได้เช่นกันค่ะ จากบ้านตัวอย่างจะเห็นว่าผนังด้านในถูกตกแต่งด้วยกระจกเงาสีชา ซึ่งจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น สามารถเก็บไปเป็นไอเดียแต่งบ้านได้ค่ะ
พื้นที่ส่วน Pantry มีการเดินท่อมาให้เรียบร้อย สามารถเลือกต่อเติมตัว Counter แบบที่ชอบได้เลยค่ะ
ห้องครัวมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ระยะระหว่างเคาน์เตอร์ครัวทั้ง 2 ด้านยังเหลือพอให้สามารถเข้ามาทำครัวพร้อมกัน 2-3 คนได้ มีช่องแสงให้ 1 จุดบริเวณอ่างล้างจาน แต่ห้องครัวนี้ไม่ได้เผื่อพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าให้ อาจจะต้องติดตั้งไว้ด้านนอกตัวบ้านนะ ส่วนอุปกรณ์ติดตั้งจะได้ตามแบบเลยค่ะ ซ้ายมือคือประตูที่ออกไปยังลานซักล้าง
เคาน์เตอร์และตู้ลอยที่แถมมาให้มีช่องเก็บของค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวนะ ตัวบานเป็นแบบ Soft Close ปิดเปิดไม่ต้องกังวลเสียงดัง มือจับก็จับได้สะดวกดีค่ะ
ตัวอ่างล้างจานเป็นแบบ 2 หลุม มีที่พักข้าง ส่วนใต้อ่างล้างจานก็มีพื้นที่ไว้ให้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดค่ะ
ตู้แบบลิ้นชักเป็น Soft Close เหมือนกันค่ะ
อีกด้านเป็นเคาน์เตอร์พร้อมเตา และเครื่องดูดควัน พื้นที่ด้านข้างเหลือให้วางตู้เย็นค่อนข้างเยอะวางตู้เย็นแบบ 2 ประตูขนาดกลางๆได้ค่ะ
ใต้เตาก็มีพื้นที่สำหรับเก็บของ ด้านซ้ายเป็นช่องไว้วางถังแก๊ซค่ะ
ห้องน้ำรับแขกที่ชั้น 1 ไม่มีส่วนอาบน้ำนะ มีช่องแสงบานยาวมาให้ 1 จุด พร้อมบานกระทุ้งด้านบน
ตำแหน่งติดตั้งโถสุขภัณฑ์, สายชำระ และที่วางกระดาษทิชชู่ถูกต้องตามมาตรฐาน และมีระยะเหมาะสม ด้านหลังมีบ่าวางของได้เล็กน้อยค่ะ
บันไดเป็น คลส. ลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้มะค่า(ไม้เนื้อแข็ง)ซึ่งแตกต่างจากโครงการทั่วๆไปที่ให้เป็นไม้ยางพาราประสานที่เป็นไม้เนื้ออ่อน ตัวลูกนอนกว้างประมาณ 25 – 30 เซนติเมตร ถือว่าให้มากว้างกว่าบันไดทั่วไป เดินสบายเลย ส่วนขอบบันไดแต่ละขั้นเก็บงานด้วยบัวสำเร็จรูปสีเข้ากันกับตัวบันไดค่ะ
ราวจับแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงครึ่งแรกจะเป็นราวจับแบบเกาะผนัง ช่วงครึ่งบนจะเป็นราวจับพร้อมราวกันตกแสตนเลส ส่วนผิวสัมผัสตัวราวจับตรงเหลี่ยมมุมต่างๆค่อนข้างคมไปนิดนึงค่ะ จะแล้วไม่ค่อยสบายมือ แต่ไม่มีปัญหาในการใช้งาน
ชานพักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่มียกระดับ เดินได้สบายและปลอดภัยค่ะ
พื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้มะค่าสำเร็จรูปสีเข้ากันกับตัวบันไดดีค่ะ
ด้านขวาเป็นโถงพักผ่อนขนาดประมาณ 3 x 5.30 เมตร ตรงนี้สามารถทำเป็นโซนอ่านหนังสือหรือ Family Area ให้เด็กๆและพ่อแม่นั่งทำกิจกรรมด้านบนได้สบายๆ
พื้นที่ตรงนี้หน้ากว้างไม่เยอะเท่าไหร่ สามารถวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้พอดีๆค่ะ
อีกด้านอาจจะทำเป็นชั้นวางของหรือชั้นหนังสือแบบโปร่งก็จะทำให้ดูสบายตากว่าการวางตู้ทึบขนาดใหญ่แบบในบ้านตัวอย่างนะคะ
มีประตูบานเลื่อนกระจกเป็นช่องแสงขนาดใหญ่กลางวันอาจจะร้อนได้ แนะนำให้ติดม่านหรือมู่ลี่นะคะ
เปิดออกไปเป็นระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร สามารถวางเก้าอี้ออกมานั่งทอดอารมณ์ได้ซัก 1 – 2 ตัว หรือจะเอาไม้กระถางมาปลูกเพิ่มความร่มรื่นก็ดีนะคะ
ที่โถงบันไดอีกด้านจะเป็นโซนของห้องนอนแล้วค่ะ พื้นที่โถงไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ เหมาะเป็นทางเดินอย่างเดียวไม่ควรเอาอะไรมาติดตั้ง จะเกะกะทำให้เดินไม่สะดวกค่ะ
เข้ามาในห้องนอนใหญ่ขนาดประมาณ 9 x 4 เมตร เรียกได้ว่าเหลือเฟือค่ะ สามารถกั้นผนังต่อเติมเป็น Walk-in Closet ได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน สำหรับช่องแสงมีมาให้พอประมาณ ไม่มากเกินไปซึ่งก็เหมาะสมกับห้องนอนซึ่งต้องการความสงบที่สุดในบ้านค่ะ
จากรูปทรงของห้องนี้ทำให้เราเลือกตำแหน่งการวางเตียงได้ไม่มากนักซึ่งตำแหน่งที่เหมาะสมก็จะเป็นในแบบบ้านตัวอย่างที่สามารถวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์พร้อม Bed Bench แล้วยังเหลือที่ระยะรอบๆเตียงให้วางโต๊ะเล็กหรือโคมไฟได้ ส่วนระยะปลายเตียงก็สามารถวางตู้ หรือโต๊ะวางทีวี แล้วยังเหลือระยะเดินได้สบายๆค่ะ
หันกลับมาพื้นที่ตรงประตูทางเข้าห้องนอนก็มีที่เหลือค่อนข้างเยอะนะคะ ในบ้านตัวอย่างติดตั้งเป็นตู้หนังสือ หรือถ้าไม่อยากได้ตู้จะวางเป็นชุดโต๊ะทานกาแฟเล็กๆ ไว้นั่งดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนก็ได้ค่ะ
ในบ้านตัวอย่างจะกั้นผนังขึ้นมาสำหรับ Walk-in Closet ซึ่งในบ้านมาตรฐานจะไม่ได้กั้นมาให้ ถ้าใครอยากได้ความเป็นสัดเป็นส่วนที่ชัดเจน จะกั้นตามแบบบ้านตัวอย่างก็ดูลงตัวดีนะคะ
ด้านใน Walk-in Closet หลังจากกั้นห้องขึ้นมาแล้ว จะรวบเอาพื้นที่ห้องน้ำไว้ด้วยนะคะ สำหรับบ้านตัวอย่างจะใช้ประโยชน์จากผนังที่กั้นขึ้นมาโดยการติดกระจกขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง เก็บเป็นไอเดียได้เลย แบบนี้คงถูกใจสาวๆไม่น้อยเลยใช่มั้ยคะ 🙂
ส่วนตู้เสื้อผ้าจะติดตั้งเป็นรูปตัว U เหลือพื้นที่ตรงกลางไว้สำหรับแต่งตัว
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่งานตกแต่งผนังทำออกมาได้ดี แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ได้อ่างล้างมือ 2 อ่างวางบนท็อปหินแกรนิตเชื่อมกันแบบในรูป มีพื้นที่วางของบนเคาน์เตอร์มีมาให้เยอะเลยถ้าใครอยากได้ที่เก็บของเพิ่มก็ต้องติดตั้งเคาน์เตอร์ใต้อ่างล้างมือกันเองนะคะ
อ่างล้างมือและก๊อกน้ำของ American Standard ขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่
โถสุขภัณฑ์ของห้องนอนใหญ่จะพิเศษกว่าห้องอื่นๆโดยจะเป็นระบบควบคุมด้วยไฟฟ้า ด้านข้างมีเต้าเสียบที่มีฝาครอบพลาสติกมาให้ด้วยค่ะ
ประตูฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบบานเปิดออกด้านนอก เวลาอาบน้ำเสร็จน้ำจะหยดจากประตูลงมาเลอะด้านนอกได้นะคะ
ฝักบัวของ American Standard ขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถปรับน้ำร้อน-เย็นได้
กลับออกมาที่ระเบียงของห้องนอนใหญ่ บานประตูที่จะเปิดออกไปยังระเบียงเป็นบานประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ มือจับเขาควายสีเข้ากันกับบานกรอบประตู อาจจะขาดความเป็นส่วนตัวไปสักหน่อยเพราะเป็นกระจกใสทั้งบาน แนะนำให้ติดสติ๊กเกอร์ติดกระจกแบบขุ่นนะคะ
เปิดออกมาด้านนอกมีตัวกันชนให้ด้วยค่ะ
พื้นระเบียงลดระดับลงมาประมาณ 5 เซนติเมตรรวมกรอบประตู
ระเบียงค่อนข้างกว้าง สามารถวางชุดโต๊ะทานกาแฟเล็กๆขนาดประมาณ 2 ที่นั่งได้ ส่วนพื้นที่ ที่เหลือก็สามารถเอาไม้กระถางมาปลูกได้เช่นกัน ส่วนด้านข้างระเบียงจะมี Facade เป็นระแนงเหล็กค่อนข้างใหญ่ ช่วยบังแดดได้บ้างนิดหน่อยค่ะ
เดินมาสุดระเบียงจะเห็นพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งจะอยู่ติดกับผนังของห้องนอนใหญ่และห้องนอน 2 นะคะ ตรงนี้ถ้าใครคิดว่าดูไม่สวยไม่เป็นระเบียบจะติดกริลบังสายตาเพิ่มก็ได้นะคะ
มาที่ห้องนอน 2 ขนาดประมาณ 3.70 x 4.50 เมตร สามารถวางเตียงควีนไซส์ได้สบายๆ หรือจะอัพเป็นคิงส์ไซส์ก็ยังไหวแต่อาจจะดูแน่นไปนิดค่ะ ส่วนช่องแสงให้มาค่อนข้างน้อยแต่ยังดีที่มีระเบียงในตัว ห้องนี้บ้านตัวอย่างจัดออกมาได้เป็น Lady มากๆ สาวหวานคนไหนเห็นแล้วปิ๊งจัดเก็บไว้เป็นไอเดียด่วนค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงเหลือพอให้ติดตั้งตู้เสื้อผ้า, ชั้นหนังสือ หรืออาจจะเป็นชั้นวางทีวีได้ ส่วนผนังที่ติดกับประตูทางเข้าก็ยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะทำการบ้านหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ค่ะ
พื้นที่เหลือระหว่างเตียงกับประตูออกไประเบียงเมื่อวางเตียงขนาควีนไซส์แล้ว สามารถวางชั้นวางของเตี้ยๆเก็บของกระจุกกระจิกได้นะ
ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนคู่กรอบอลูมิเนียมสีดำ เปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ
พื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้าง รูปร่างเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส สามารถจัดวางชุดโต๊ะเล็กๆไว้นั่งเล่นก็ได้ นั่งชมวิวก็ดี เพราะระเบียงของห้องนี้สามารถเห็นสระว่ายน้ำได้ด้วยค่ะ
มุมมองจากระเบียงห้องนอน 2 ค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอน 2 จะแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นกระจกแถมให้เหมือนห้องอื่นๆค่ะ
ฝักบัวของ American Standard ขนาดมาตรฐาน ปรับอุณหภูมิน้ำได้ค่ะ
กลับมาที่โถงทางเดิน สุดทางเดินจะมีพื้นที่นิดหน่อย สามารถวางตู้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้ตามบ้านตัวอย่าง เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูห้องนอน 3 ทางซ้ายมือกันค่ะ
ห้องนอน 3 มีขนาดประมาณ 4.80 x 4.20 เมตร สังเกตว่าเพดานจะมีความลาดเอียงนิดหน่อยตรงนี้เป็นผลมาจาก Slope ของหลังคานะคะ ห้องนี้มีช่องแสงให้มา 2 จุดที่ผนังทั้ง 2 ด้าน ตำแหน่งการติดตั้งหน้าต่างของห้องนี้มีข้อดีตรงที่ วันไหนอากาศไม่ร้อนมากสามารถเปิดพร้อมกันเพื่อให้อากาศถ่ายเท มีลมพัดผ่านเย็นสบายไม่ต้องเปิดแอร์เลยค่ะ ส่วนพื้นที่สำหรับวางเตียงสามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้ หรือถ้าเป็นเด็กๆ ก็ใช้เตียงขนาด 3.5 ฟุต จะเหลือพื้นที่ในห้องเพิ่มขึ้นอีกค่ะ
อีกด้านนึงสามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำการบ้านได้นะ
ฝั่งปลายเตียงก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ติดตั้งชั้นวางของและตู้วางทีวีอีกด้วยค่ะ
ห้องน้ำในตัวของห้องนอน 2 รายละเอียดเหมือนกับห้องอื่นๆค่ะ
แบบ Sapphire เป็นบ้านขนาดกลาง มีพื้นที่ใช้สอย 240 ตารางเมตร บนพื้นที่ 60 – 100 ตารางวา มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ข้อแตกต่างของแบบ Blue Sapphire กับ Blue Diamond นอกจากจะมีพื้นที่ใช้สอยลดลงแล้ว ฟังก์ชั่นพิเศษอย่างสระว่ายน้ำและห้องแม่บ้านจะถูกตัดออกไป ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆยังคงอยู่รวมถึงห้องนอนทุกห้องยังคงมีห้องน้ำในตัวอยู่ด้วยค่ะ
แบบ Blue Turquoise เป็นแบบที่เล็กที่สุดในบรรดาแบบบ้านทั้ง 3 มีพื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเมตร บนพื้นที่ 51 – 62 ตารางวา มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านนี้เหมาะกับครอบครัวที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อยค่ะ ฟังก์ชั่นอย่างห้องอเนกประสงค์จะถูกตัดออกเหลือแค่ฟังก์ชั่นที่จำเป็น ห้องนอนจะเหลือห้องที่มีห้องน้ำในตัวแค่ห้องนอนใหญ่เท่านั้น ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันค่ะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 September 2015
- Blue Turquoise พื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเมตร ที่ดิน 51.60 ตารางวา ราคา 7.93 ล้านบาท หรือ 153,682 บาท/ตร.วา
- Blue Sapphire พื้นที่ใช้สอย 240 ตารางเมตร ที่ดิน 60.20 ตารางวา ราคา 9.67 ล้านบาท หรือ 160,631 บาท/ตร.วา
- Blue Diamond พื้นที่ใช้สอย 390 ตารางเมตร ที่ดิน 89.80 ตารางวา ราคา 16.12 ล้านบาท หรือ 179,510 บาท/ตร.วา
- โปรโมชั่น ณ วันที่ 2 October 2015
- มีแถม แอร์ เฟอร์นิเจอร์ ในแบบบ้าน Blue Diamond และ Blue Sapphire
- จองและทำสัญญา 50,000-100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับราคาของบ้าน)
- ดาวน์ ขึ้นอยู่กับราคาของบ้าน
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 70,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 28 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
Blue Lagoon2 บางนา-วงแหวน ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอกหรือวงแหวนกาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุช พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยแนวราบขนาดใหญ่หลายๆขนาดและระดับราคา และพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่รอการพัฒนา ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มีต้องใช้รถเป็นหลัก แหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่สะดวกที่สุดจะเป็นตลาดนัมเบอร์วันราม 2 และราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ ถัดออกไปอีกหน่อยเป็นบนเส้นบางนา – ตราดจะเป็น Mega Bangna ส่วนเส้นศรีนครินทร์จะมี Community Mall อย่าง Max Value, Seacon Square และ Paradise park หรือถ้าจะขึ้นไปเส้นอ่อนนุชที่เป็นเขตชุมชนหน่อย จะมีทั้งตลาดและอาคารพาณิชย์ขายของค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ ถึงแม้จะอยู่บนเส้นเลียบทางด่วนกาญจนาภิเษกแต่ถนนหน้าโครงการสามารถวิ่งสวนกันได้เลยไม่ต้องขับรถอ้อมไกลๆ การที่วิ่งสวนกันได้ช่วยให้การเดินทางมาจากในเมืองสะดวกขึ้นเยอะเพราะสามารถเลี้ยวเข้าถ.เฉลิมพระเกียรติร. 9 ตรงแยกประเวศแล้วเข้าถนนหน้าโครงการได้ หรือถ้าใครอยากจะมาจากเส้นศรีนครินทร์ก็มาเข้าถ.เฉลิมพระเกียรติร. 9 แล้วออกซอย 62 หรือ 72 ก็ได้สามารถทะลุมาถนนหน้าโครงการได้เหมือนกัน สำหรับการไป Meaga บางนามีทางลัดโดยวิ่งไปทะลุบริเวณม.รามคำแหงวิทยาเขตบางนามาออกตรงสะพานกลับรถบนเส้นบางนาพอดี สะพานกลับรถตรงนี้จะมีทางวกเข้าตัวห้างโดยตรงเลย ส่วนใครจะใช้ทางด่วนเส้นพระราม 9-มอเตอร์เวย์ ก็ลงถนนเลียบทางด่วนเข้าถ.สุขาภิบาล 2 แล้วมีทางกลับรถลอดใต้ถ.กาญจนาภิเษก
การเดินทางโดยไม่ใช้รถอาจจะทำได้ลำบากหน่อยเพราะเป็นเส้นเลียบวงแหวนรอบนอก ที่ไม่ค่อยมีพี่วินหรือแท็กซี่มาคอยให้บริการเพราะคนส่วนใหญ่ที่ผ่านในเส้นทางนี้ก็จะเป็นคนที่มีรถส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่คนที่สามารถซื้อบ้านราคานี้ในย่านนี้ส่วนใหญ่คงใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ถ้าวันไหนเร่งรีบต้องเข้าเมืองก็สามารถขับรถมาจอดบริเวณสถานี BTS อุดมสุขและสถานีอ่อนนุช หรือ ALR บ้านทับช้างและใช้บริการสาธารณะไปได้ค่ะ
วัสดุอุปกรณ์ถือว่าให้มาค่อนข้างดีพื้นบ้านชั้นล่างเป็นกระเบื้อแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร, พื้นห้องน้ำใช้เป็นกระเบื้อง Cotto ขนาด 30 x 30 ซม, พื้นเฉลียงและลานซักล้างเป็นกระเบื้อง Cotto ตัวบันไดเป็นไม้มะค่าเนื้อแข็ง พื้นชั้นบนเป็นพื้นไม้สำเร็จรูปผิวไม้มะค่า ห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard ครบชุด พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ ส่วนห้องครัวได้ชุด Built-in เคาน์เตอร์ครัวครบชุดพร้อม Hob Hood ส่วนแบบบ้านหลังใหญ่สุด Blue Diamond จะพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่ได้ส่วนสระว่ายน้ำและประตูรั้วบ้านแบบอัตโนมัติมาให้
เรื่องความปลอดภัยของโครงการนี้ถือว่าให้มาอยู่ในมาตรฐาน มีรั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน ส่วน Access Card จะเป็นระบบ Bluetooth คล้ายๆกับที่ใช้บนทางด่วนเลยค่ะเวลาขับรถมาไม่ต้องยื่นบัตรออกไปแต่แค่ขับรถมาจอดรั้วก็เปิดให้เลยเวลาฝนตกไม่ต้องเปียกเลย CCTV ที่ด้านหน้าและทั่วทั้งโครงการ 39 จุดถือว่าครอบคลุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ส่วนรั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตรตรงนี้ให้มาเตี้ยไปหน่อยแต่ยังติดรั้วโปร่งเพิ่มได้ไม่ยากลูกบ้านอาจต้องลองคุยกับโครงการดูนะคะ ตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยทุกหลังมีทั้งระบบ Motion Sensor และ Magnetic ติดตั้งทุกช่องเปิดในบ้าน
การออกแบบผังโครงการโดยไม่มีถนนหลักแต่แจกเป็นซอยย่อยตั้งแต่หน้าโครงการยาวไปจนถึงท้ายซอยจะทำให้แต่ละซอยมีรถมาใช้งานในปริมาณที่เท่าๆกัน แต่ข้อเสียคือถ้ามีพื้นที่สีเขียวตามถนนน้อยจะทำให้รู้สึกไม่ค่อยร่มรื่นเท่าไหร่ค่ะ ความหนาแน่นของโครงการก็กำลังดีมีจำนวนยูนิตแค่ร้อยกว่าๆไม่อึดอัดเกินไปสำหรับตัวบ้านพื้นที่ใช้สอยในและรอบๆบ้านโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดี พื้นที่ใช้สอยลงตัว ให้ช่องแสงมาเยอะทำให้บ้านดูโปร่งสบาย มีความใส่ใจในการเลือกกระเบื้องห้องน้ำแต่ละห้องเลือกสีมาเข้ากันได้ดี แบบบ้านหลังเล็กสุด(Turquoise)สามารถจัดฟังก์ชั่นให้ครบถ้วนและกระชับ แบบบ้านหลังใหญ่ที่มีจุดเด่นคือสระว่ายน้ำก็สามารถเน้นให้สามารถเข้ามาใช้และมองเห็นได้จากหลายห้อง ส่วนการออกแบบภายนอกจุดเด่นคือหลังคา ไล่ระดับลาดเอียง ส่วนรูปร่างหน้าตาบ้านถือว่ากลางๆไม่หวือหวา ออกแนวเรียบง่าย
สาธารณูปโภคของที่นี่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้พื้นที่ถึง 7 ไร่ แต่เป็นบริเวณแนวเสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งถ้ามองข้ามเรื่องแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงไป ก็ถือว่าได้สวนสาธารณะมาเพียงพอสำหรับลูกบ้านแต่ใครอยากจะใช้งานหรือไม่ก็แล้วแต่คนค่ะ อีกเรื่องที่น่าเสียดายคือไม่มี Club House มาให้สำหรับบ้านแบบใหญ่สุดคงไม่มีปัญหาเพราะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่แล้วแต่บ้านแบบอื่นๆจะไม่มีส่วนกลางให้ใช้งาน ถ้ามองในแง่ดีค่าส่วนกลางในอนาคตก็จะปรับตัวไม่สูงนักเพราะไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแล Clubhouse
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 7.9-15 ล้านบาท, 28 September 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนใหญ่เข้าออกสะดวก มีทางลัดไป Mega ได้ไม่ต้องอ้อมไกล
- ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน รั้วรอบโครงการ 2.5 เมตร ตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยทุกหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – แบบภายนอกธรรมดา แต่การจัดพื้นที่ใช้สอยทำออกมาได้ดี
- วัสดุ 8.25/10 – ให้วัสดุมาค่อนข้างดี ให้วอลล์เปเปอร์ ครัวให้อุปกรณ์ครบชุด บันไดและพื้นชั้นบนได้ไม้จริง
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.0/10 – มีสวนขนาดใหญ่ 7 ไร่บริเวณเสาไฟฟ้ามาให้
- สาธารณูปโภค 6.75/10 – มีแค่สวนสาธารณะ ไม่มี Club House
- 7.56 / 10.00
BOTTOM LINE
Blue Lagoon2 บางนา-วงแหวน เหมาะสำหรับคนต้องการขยับขยายครอบครัวหรือเป็นครอบครัวขนาดกลาง ทำงานในแถบถนนบางนา-ตราดอยู่แล้วเน้นการเดินทางโดยใช้รถยนต์เป็นหลักไม่เน้นการใช้พื้นที่ส่วนกลาง คนที่อยากได้สระว่ายน้ำส่วนตัวให้เลือกหลังใหญ่สุดไปเลยนะคะถ้ามีกำลังทรัพย์เพียงพอ ใครที่สนใจโครงการนี้ควรมีงบประมาณ 7.9-15 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 55,000-120,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )