รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.166 – รีวิวบ้าน Nirvana Beyond ศรีนครินทร์

25 ตุลาคม 2015

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 908 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Beyond ศรีนครินทร์ ตั้งบนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 อยู่ใกล้กับสวนหลวง ร.9 สามารถเข้าถึงโครงการได้จากถนนศรีนครินทร์ และถนนสุขุมวิท 77 โดยตัวโครงการมีเพียง 58 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 4 แบบ บนที่ดินมาตรฐาน 50 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาท ตามไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ

Fact @ 1 September 2015

  • Beyond Srinakarin (บียอนด์ ศรีนครินทร์)
  • บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ประเวศ
  • เนื้อที่โครงการ 12-2-69 ไร่ จำนวน 58 ยูนิต
  • Keen – ที่ดิน 52 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาท
  • Niche – ที่ดิน 50 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 317 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท
  • Live – ที่ดิน 62 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 357 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท
  • Most – ที่ดิน 67 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 418 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 21 ล้านบาท
  • ราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาทหรือ 301,900 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง เดือนมีนาคม 2557
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี 2559
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1787

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.683391, 100.666210

แผนที่จากทางโครงการค่ะ ที่ตั้งของโครงการ Beyond ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ขาออกที่เชื่อมระหว่างถนนศรีนครินทร์ และถนนอ่อนนุช สามารถเข้าถึงโครงการได้จาก 3 ทางหลักๆคือ ถนนศรีนครินทร์, ถนนอ่อนนุช หรือสุขุมวิท 77 และ จากถนนบางนา – ตราด

ทำเลของโครงการ Beyond ศรีนครินทร์ เป็นโครงการฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ เกือบจะถึงจังหวัดสมุทรปราการ ในบริเวณย่านนี้ส่วนใหญ่บนถนนศรีนครินทร์จะมีโรงงานขนาดใหญ่, เต็นท์รถ, อาคารพาณิชย์ตึกแถวตามริมถนน และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง ซีคอนสแควร์ พาราไดซ์ พาร์ค หรือเซ็นทรัล บางนา ที่อยู่บนถนนบางนา – ตราด สำหรับสถานพยาบาลที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ ก็จะมีโรงพยาบาลไทยนครินทร์

ภายในซอยศรีนครินทร์ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยขนาดเล็กและใหญ่ ทั้งจัดสรรและไม่จัดสรร อาศัยอยู่กันค่อนข้างเยอะ จึงมีร้านอาหารเปิดขึ้นตามแหล่งที่พักอาศัย ทำให้บริเวณแถบนี้ค่อนข้างอุดมสบูรณ์ทีเดียว

ในส่วนของการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวนั้นค่อนข้างสะดวก เนื่องด้วยโครงการตั้งอยู่บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เป็นถนน 4 เลนสวนทางกัน ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนศรีนครินทร์และถนนสุขุมวิท 77 ทำให้สามารถเข้าถึงโครงการได้จากหลากหลายเส้นทางด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นจากถนนศรีนครินทร์, ถนนสุขุมวิท 77 และจากทางพิเศษอย่าง ถนนกาญจนาภิเษก และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา – ตราด)

และสำหรับคนที่เดินทางมาจากถนนพัฒนาการนั้นในอนาคตจะเดินทางได้สะดวกมากขึ้น เพราะมีถนนตัดใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง (ที่เป็นเส้นประ) ซึ่งตัดขยายต่อจากถนนพัฒนาการ เชื่อมเข้ากับถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 จะช่วยย่นระยะการเดินทางจากถนนพัฒนาการ โดยไม่ต้องวิ่งผ่านถนนสุขุมวิท 77 ค่ะ

จุดเด่นของโครงการนี้คือเป็นทำเลที่ใกล้ สวนหลวง ร.9 หรือจะเรียกว่าอยู่ด้านหลังสวนเลยก็ว่าได้ค่ะ สวนนี้เป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ ด้วยเนื้อที่ขนาดประมาณ 500 ไร่ ซึ่งเป็นสวนที่มีความสำคัญกับคนในย่านนี้เป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้เพราะเป็นพื้นที่สีเขียวที่เอาไว้ให้ผู้คนมาออกกำลังกาย และทำกิจกรรมต่างๆ การเดินทางจากโครงการนั้นสามารถเข้าประตูด้านหลังของสวนได้เลยโดยไม่ต้องวิ่งไปเข้าจากด้านหน้า

ในส่วนของการเดินทางแบบสาธารณะนั้น มีสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีอุดมสุข โดยอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 7.2 เมตร ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้อยู่ในระยะเดินเลย ต้องต่อรถแท็กซี่ ไม่ก็สองแถวเข้าโครงการ ซึ่งมีขับผ่านอยู่เรื่อยๆ ให้ได้เรียกใช้บริการกัน และสำหรับรถประจำทางที่วิ่งบนถนนศรีนครินทร์นั้นก็มีทั้ง รถเมล์ รถตู้ และรถสองแถว ที่วิ่งให้เห็นกันอยู่ตลอด แต่ถ้าจะนั่งเข้าไปถึงโครงการนั้น เห็นจะมีวิ่งกันเยอะๆก็จะเป็นรถสองแถว ซีคอน – เสรี – คลองปักหลัก ที่จะวิ่งบนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ค่ะ

ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 นั้นมีซอยเล็กซอยน้อยค่อนข้างเยอะ ภายในซอยเล็กๆนี้มีทางลัดจากถนนใหญ่ สามารถช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางในชั่วโมงเร่งด้วยได้ดี โดยจะมีซอยหลักๆที่สามารถทะลุผ่านเพื่อไปขึ้นทางพิเศษได้ทั้ง 3 ทาง คือ ทาง A ที่เข้าจากซอยวัดทุ่งลานนา หรือซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 28 ที่อยู่เหนือโครงการไปหน่อย แล้วเข้าซอย จรรยาวรรธ ซึ่งสามารถทะลุออกที่ทางคู่ขนานบางนา – ตราด ได้ค่ะ ในส่วนของ ทาง B ก็เข้าจากซอยวัดทุ่งล้านนาเช่นกัน ซึ่งจะผ่านมหาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา และสวนนกรามคำแหง โดยทางนี้สามารถทะลุออกทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก และวิ่งเข้าถนนกาญจนาภิเษกได้ และทาง C ซึ่งเข้าจากซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 30 ซึ่งสามารถทะลุออกทางคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษกได้เช่นกัน

สำหรับการเดินทางในวันนี้จะเริ่มต้นบนถนนศรีนครินทร์ตรงมาตัดถนนอุดมสุขตรงแยกศรีอุดม แล้วจึงเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แล้วมุ่งหน้าตรงมาประมาณ 5.2 กิโลเมตร จะเห็นโครงการอยู่ทางขวาค่ะ ขออธิบายเพิ่มหน่อยว่าถนนศรีนครินทร์เป็นถนนสายที่ยาวมากเริ่มต้นจากถนนลาดพร้าวแล้วไปสุดที่ถนนสุขุมวิทจังหวัดสมุทรปราการ เป็นถนนใหญ่ที่มี 6 – 8 เลน ช่วยให้การเดินทางบนถนนเส้นนี้ค่อนข้างคล่องตัวดี แต่รถก็ใช้กันเยอะช่วงเวลาเร่งด่วนนี่ติดกระจายเหมือนกันค่ะ เพื่อนๆคนไหนบ้านอยู่แถวนี้อาจจะชินแล้วก็ได้นะคะ ^_^

เริ่มต้นจากบนถนนศรีนครินทร์ จากแยกศรีนุชบรรยากาศ 2 ข้างทางจะเป็นโรงงาน และเต็นท์ขาย / เช่ารถ ค่อนข้างมากในแถบนี้ มีอาคารสำนักงานมากประปราย

มุ่งหน้าตรงขึ้นมาจะเห็นห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ เป็นแหล่งช็อปปิ้ง ดูหนัง หลักๆของคนในย่านนี้ก็ว่าได้ค่ะ

เลยซีคอนสแควร์มาอีกหน่อยจะเป็นตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ที่อยู่ในซอยศรีนครินทร์ 51  เป็นแหล่งช็อปปิ้ง Fashion Street ซึ่งจะเปิดเฉพาะในวันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ แต่ในช่วงวันศุกร์ – อาทิตย์จะมีร้านมาเปิดมากกว่าค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยจะเห็น HaHa Mall ด้านซ้าย เป็นศูนย์ที่เรียนพิเศษในย่านนี้ที่พึ่งจะเปิดเมื่อปลายปี 57

ถัดมาจะเป็นซอยศรีนครินทร์ 55 เป็นทางเข้าสวนหลวง ร.9 ภายในซอยมีตลาดนัดตอนเช้าขนาดใหญ่ ซึ่งจะเปิดในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ โดยต้นซอยจะติดกับห้างพาราไดซ์ พาร์ค นั่นเองค่ะ

Niche-Beyond-Srinakarin071-copy2

ขับตรงมาจนถึงแยกศรีอุดม โดยเราจะเลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 กันค่ะ ซึ่งหากเลี้ยวซ้ายจะเป็นถนนอุดมสุข

บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เป็นถนนวิ่งสวนกัน 4 เลน และเป็นถนนที่อยู่ใกล้กับสวนหลวง ร.9 ซึ่งถือเป็นเขตการดูแลพิเศษ จึงทำให้ถนนเส้นนี้ไม่ให้มีรถเมล์วิ่งผ่าน แต่ก็จะมีเป็นรถสองแถวแทน ที่เห็นวิ่งผ่านอยู่ตลอดๆ ก็คือสาย ซีคอน – เสรี – คลองปักหลักนั่นเองค่ะ

บรรยากาศสองข้างทางบนถนนเส้นนี้จะมีตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านอาหาร และร้านค้าตลอดสองข้างทางเลย ดังนั้นแหล่งอาหารการกินหาได้ไม่ยากเลยนะคะแต่ต้องขับรถมาหน่อยเท่านั้นเอง

เราตรงกันมาเรื่อยๆ จากแยกศรีอุดมประมาณ 5.2 กิโลเมตร จะเห็นซุ้มหน้าโครงการทางขวาแล้วค่ะ อย่าลืมชะลอรถและรอรถด้านขวาก่อนจะเลี้ยวเข้านะคะ ^^

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

มาดูบริบทโดยรอบโครงการกันบ้างนะคะ ตัวโครงการอยู่บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินว่าง และสวนหลวง ร. 9 ทิศเหนือจะติดกับที่ดินว่างข้างเคียง และถัดขึ้นไปจะเป็นซอยวัดทุ่งล้านนาซึ่งเป็นซอยใหญ่ที่มีคนอยู่อาศัยภายในซอยนั้นค่อนข้างเยอะ ซอยนี้สามารถทะลุออกถนนกาญจนาภิเษกและคู่ขนานบางนา – ตราดได้ ถัดมาที่ทิศตะวันออกหรือด้านหลังที่ดินโครงการจะติดกับหมู่บ้านเก่าข้างเคียง ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่เลยของย่านนี้ ในส่วนของทิศใต้ติดกับร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านก๋วยเตี๋ยว รวมทั้งที่ดินว่างด้วยค่ะ เนื่องจากพื้นที่รอบๆสวนหลวงเป็นพื้นที่สีเหลือง หรือประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย ทำให้เราจะเห็นโครงการแถวนี้เป็นแนวราบเกือบทั้งหมดค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C Supermarket สวนหลวง ~ 550 เมตร
  • โรงพยาบาลสัตว์สวนหลวง ~ 1 กิโลเมตร
  • Tops Market Place อุดมสุข ~ 2 กิโลเมตร
  • สวนหลวง ร.9 ~ 2.2 กิโลเมตร
  • Paradise Park ~ 3.7 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 5.1 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา ~ 5.2 กิโลเมตร
  • HaHa Mall ~ 6.4 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดรถไฟ ~ 6.9 กิโลเมตร
  • ซีคอน สแควร์ ~ 6.9 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยดุสิตธานี ~ 7.2 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Beyond ศรีนครินทร์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น รวมจำนวนทั้งหมด 58 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการทั้งหมดประมาณ 12 ไร่ ถือว่ามีความหนาแน่นที่กำลังดี มีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะจำนวนยูนิตน้อย ตัวโครงการส่วนใหญ่นั้นกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง

ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการให้มาครบครันทีเดียว ด้วยประตูทางเข้าโครงการเป็นประตูเลื่อนเหล็กอัตโนมัติ ใช้ระบบ Key Card Access ระยะใกล้ พร้อมกล้องวงจรปิดทั้งหมด 16 จุด บริเวณหน้าโครงการและถนนหลักของโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและต่อรั้วโปร่งไปอีก 3 เมตร ค่ะ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะที่อยู่บริเวณด้านหน้าของโครงการ ภายในมีสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ระบบเกลือ ด้วยขนาดของสระ กว้าง 7.5 x 21 เมตร ลึก 1.2 เมตร ส่วนภายในอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ด้านล่างจะเป็น Lobby โดยลูกบ้านสามารถมานั่งเล่น ทำกิจกรรมได้ แต่ในปัจจุบันเปิดเป็น Sale Office และในชั้น 2 เป็นพื้นที่ของห้องฟิตเนสค่ะ

การวางผังโครงการ จะวางถนนหลักอยู่ตรงกลาง มีความกว้าง 10 เมตร โดยมีบ้านอยู่ล้อมรอบ บ้านในโซนด้านหน้าที่ใกล้กับ Club House และสระว่ายน้ำจะค่อนข้างเสียเปรียบในด้านความเป็นส่วนตัว แต่ก็ได้เปรียบด้านความสะดวกสบายในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง ถัดมาในโซนด้านใน มีขนาดความกว้างของถนน 9 เมตร จะสังเกตเห็นว่าไม่มีซอยย่อยเล็กๆเลย เนื่องจากโครงการเป็นโครงการขนาดเล็ก ดังนั้นในโซนด้านซ้ายที่มีจำนวนบ้านที่น้อยกว่าจึงได้เปรียบในเรื่องความเป็นส่วนตัวและความหนาแน่นที่น้อยกว่าโซนทางด้านขวา

การจัดวางตัวบ้านส่วนใหญ่ของโครงการจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งข้อดีของการวางทิศทางบ้านในทิศตะวันออกเฉียงใต้นั้นคือ ตัวบ้านไม่อมแดดช่วงบ่ายมากนัก แต่ก็จะมีบ้านในโซนด้านหน้าโครงการที่หันหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศทางลมเข้าพอดิบพอดีเลยค่ะ ซึ่งต่างก็อยู่ในทิศทางที่เหมาะสม จึงขึ้นอยู่กับว่าอยากเลือกให้หน้าบ้านหันไปทางไหน และประกอบกับแบบบ้านด้วยค่ะ

หน้าทางเข้าโครงการมีฟุตบาทขนาดใหญ่สามารถเดินได้สะดวก

ประตูทางเข้าเป็นแบบบานเลื่อนอัตโนมัติ ดังนั้นเวลาเข้า – ออกก็ต้องรอนิดนึงนะคะ ส่วนของระบบรักษาความปลอดภัยทางเข้าโครงการจะมีกล้อง CCTV ส่องทั้งหน้าผู้ขับขี่และป้ายทะเบียน การเข้า – ออกโครงการนี้จะใช้ระบบ Key Card เป็นแบบระยะใกล้ ซึ่งดีที่ซุ้มทางเข้ามีหลังคาคลุมมาให้เวลาฝนตกก็ไม่ต้องเปียกมากนักเวลาเปิดหน้าต่างมาแตะบัตร โครงการยังติดตั้งรั้วกั้นไม่เสร็จเลยมีแค่ประตูเลื่อน

ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 10 เมตร เป็นถนน 2 เลนสวนกัน บรรยากาศภายในค่อนข้างร่มรื่นด้วนการจัดสวนแบบไม้ยืนต้นและไม้พุ่มรอบๆ การเดินสายไฟจะเป็นแบบใต้ดิน เพื่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามไม่ถูกบดบัง ตอนนี้ตัวโครงการเพิ่งเริ่มสร้างเสร็จไปแค่ส่วนของบ้านตัวอย่างเท่านั้น เลยยังไม่มีรูปสภาพโครงการที่เหลือมาให้ดูนะคะ

หันไปทางด้านขวาจะเห็นบันไดทางขึ้นไปยังพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งก็คือ Club House และสระว่ายน้ำค่ะ

ตัวอาคาร Clubhouse เป็นอาคาร 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็น Lobby ส่วนชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนส การขึ้นชั้น 2 นั้นต้องเดินขึ้นจากบันได Outdoor ซึ่งไม่ค่อยสะดวกในการขึ้น – ลงนักเวลาฝนตก

เข้ามาที่ชั้นล่างที่เป็นพื้นที่ Lobby ซึ่งในปัจจุบันยังเป็นสำนักงานขาย การตกแต่งสไตล์ Modern แต่เน้นวัสดุไม้ให้ความอบอุ่นเหมือนบ้าน

ขึ้นมาที่ห้องฟิตเนส ชั้น 2 ขนาดห้องไม่ได้ให้มาใหญ่มากนัก เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็ก ภายในมีเครื่องออกกำลังกายอยู่ประมาณ 6 เครื่อง และมีโซนเวทอยู่ด้านขวาวิวที่ได้ก็จะเป็นถนนหน้าโครงการนี่แหละค่ะ

พื้นของตัวสระถูกยกสูงขึ้นมา ขนาดสระประมาณ 7.5 x 21 เมตร ระบบเกลือแบ่งเป็นสระเด็กใกล้กับพื้นที่นั่ง Outdoor และสระผู้ใหญ่ ซึ่งขนาดของสระว่ายน้ำนั้นก็ใหญ่พอสมควรที่สามารถใช้ออกกำลังกายได้สบายๆเลยค่ะ

มีพื้นที่มุมพักผ่อนให้นั่งเล่นอยู่ด้านข้างสระ

บริเวณสระเด็กมีน้ำวนด้านข้างด้วย

พื้นที่รอบสระปูกระเบื้องแกรนิตโต้ดำ พร้อมโรยหินแม่น้ำไว้ด้านข้าง ทำให้ด้านนี้ของสระไม่สะดวกในการขึ้น – ลงนัก เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุลื่นได้ แนะนำว่าใช้บันไดจะดีกว่านะคะ

ถัดมาเป็นพื้นที่ Shower ล้างตัวด้านนอก โรยหินแม่น้ำอยู่ด้านล่าง ซึ่งอาจจะเจ็บเท้านิดหน่อยสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยในเวลาที่จะเข้าไปล้างตัว

มี Deck ด้านข้างอีกฝั่งไว้นั่งเล่นพักผ่อนได้เช่นกัน ซึ่งเชื่อมกับพื้นที่เด็กเล่นด้านหลังได้ด้วยค่ะ

ถัดมาเป็นพื้นที่เด็กเล่นขนาดไม่ค่อยใหญ่นัก มีเครื่องเล่นวางอยู่ 1 ตัว ปูพื้นด้วยหญ้าเหมาะสำหรับให้เด็กๆวิ่งเล่น

มองจากด้านบนจะเห็นว่าบริเวณพื้นที่ส่วนกลางมีที่จอดรถได้ 3 คันอยู่ด้านข้าง สำหรับลูกบ้านที่อยู่ในโซนด้านในลึกๆขับรถออกมาใช้งานได้ จะเห็นว่ามีการลงต้นไม้ใหญ่ไว้เยอะพอสมควรทำให้บรรยากาศในส่วนกลางค่อนข้างร่มรื่น และการที่ยกตัวสระว่ายน้ำขึ้นมาจากพื้นช่วยให้การใช้งานมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7.5 x 21 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
  • สวนสาธารณะ / สนามเด็กเล่น 1 จุด
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 16 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 3 เมตร
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง
  • ถนนหลักกว้าง 10 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.

 


Product Walkthrough

บ้านเดี่ยวของโครงการมีทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งเราจะพาไปดูบ้านตัวอย่างแบบ Niche กันนะคะ โดยแบบ Niche นี้มีที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวาเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอย 317 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องคนรับใช้ และ 2 ที่จอดรถ ด้วยราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท แบบบ้านของที่นี่ค่อนข้างแตกต่างจากบ้านทั่วไปที่เน้นการใช้งานของพื้นที่บ้านเป็น 3 ชั้น มีคอร์ทตรงกลางเพื่อให้ห้องทุกห้องได้แสงธรรมชาติมากที่สุด และทุกห้องมีผนังไม่ติดกันมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเสียงไม่รบกวนกัน ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว

จากชั้น 1 บ้านจะมีทางเข้าหลักอยู่ 3 ทางคือจากหน้าบ้านที่เชื่อมกับที่จอดรถ ลานด้านนอก และห้องครัว มีคอร์ท หรือลาน ตรงกลางบ้านซึ่งทำให้บ้านชั้น 1 สามารถรับแสง ชมวิวและใช้งานพื้นที่สวนได้ เข้าภายในบ้านชั้น 1 จะเจอกับพื้นที่ลดระดับเดียวกันกับพื้นที่หน้าบ้าน เป็นพื้นที่สำหรับวางรองเท้า ใส่รองเท้า แบ่งเป็นโซนพื้นที่ครัวด้านซ้ายและห้องเอนกประสงค์ด้านขวาซึ่งสามารถทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุก็ได้เช่นกันค่ะ สำหรับในส่วนของห้องนอนแม่บ้านนั้นจะอยู่ภายนอกบ้านเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้านและความปลอดภัยเมื่อเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านมากขึ้นด้วยค่ะ

ในส่วนของชั้น 2 จะเจอกับห้องนั่งเล่นที่มีฝ้าเพดานสูงถึง 5 เมตร ด้วยความที่มีฝ้าเพดานที่สูง จึงทำให้ห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่ไม่ได้กว้างมากนักดูโอ่โถ่งมากขึ้น ถัดไปจะเป็นพื้นที่ทำงานโดยมีฝ้าเพดานประมาณ 3 เมตร มีระเบียงด้านนอกเล็กน้อย ในชั้นนี้มีทางเดินเชื่อมบริเวณด้านบนคอร์ทหรือลานไปทางห้องนอนใหญ่ ด้วยความที่มีคอร์ทอยู่ชั้นล่าง พื้นที่ชั้นบนจึงออกแบบให้เว้นพื้นที่ตรงกลางคอร์ทไว้เพื่อให้ห้องนอนชั้นบนมีผนังที่สามารถทำเป็นช่องเปิดสู่ภายนอกได้ ข้อดีคือมีช่องระบายอากาศได้ และมีแสงสว่างส่องถึงทุกด้าน ภายในห้องนอนใหญ่ประกอบไปด้วยห้องน้ำพร้อม Walk in Closet ในตัว การจัดพื้นที่ห้องนอนใหญ่ให้อยู่ชั้น 2 นั้นช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใหญ่ในบ้านเดินขึ้น – ลงบันไดเยอะ

สำหรับ ชั้น 3 จะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง ด้วยจำนวนห้องน้ำที่ให้มาก ทำให้ไม่ต้องแชร์ห้องน้ำกัน และตำแหน่งบันไดที่อยู่ตรงกลางเป็นตัวแบ่งห้องสองฝั่งแยกจากกันทำให้เสียงไม่รบกวนกัน

รูปแบบการขายของโครงการจะไม่เหมือนกับโครงการบ้านจัดสรรทั่วๆไปนะคะ แต่จะคล้ายๆกับบ้านสั่งสร้างคือ จองก่อน แล้วหลังจากนั้นอีก 7 วัน เซ็นสัญญา แล้วนัดโอนเงินดาวน์อีกที จะแบ่งการชำระได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆชำระค่าที่ดินก่อน แล้วค่อยชำระค่าก่อสร้าง (แบ่งเป็น10 งวด) ซึ่งเมื่อชำระแปลงที่ดินเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของตัวบ้าน ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มลดรายละเอียดของวัสดุที่แตกต่างจากวัสดุมาตรฐานของโครงการเองได้ เช่นหากลูกบ้านไม่ชอบกระเบื้องตามแบบวัสดุมาตรฐานที่โครงการจัดไว้ให้ ก็สามารถเลือกแบบเองได้ โดยค่าใช้จ่ายงานเพิ่ม – ลดนั้นจะชำระแยกจากค่าก่อสร้างอีกที ที่โครงการใช้วิธีนี้เพราะไม่อยากให้ลูกบ้านต้องเสียเงินเสียเวลามารื้อของเก่าอีกถ้าไม่ชอบใจก็เปลี่ยนแต่แรกเลยดีกว่า

ซึ่งลักษณะการขายแบบซื้อที่ดินแล้วค่อยๆก่อสร้างนั้นลูกค้าจะต้องอยู่ในสถานะที่รอได้ ไม่เร่งรีบ และมีทุนทรัพย์เพียงพอ โดยข้อดีของการขายแบบนี้คือลูกบ้านสามารถเลือกวัสดุตามความชอบของตนเองได้เหมือนปลูกบ้านเอง ชอบตรงไหนไม่ชอบตรงไหนก็ปรับได้และยังได้เชคการก่อสร้างตามงวดที่จ่ายไปด้วย

ลักษณะภายนอกของตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern ที่เน้นสีขาว – เทา และยังคงเก็บรายละเอียดความเป็นบ้านด้วยการกรุกระเบื้องผนังลายไม้ภายนอก มีชายคาทรงสี่เหลี่ยมออกมาด้านนอกเพื่อช่วยกันแดดได้บางส่วน ตัวบ้านเน้นความโปร่งด้วยการใช้กระจกค่อนข้างเยอะ ดังนั้นการเลือกทิศทางบ้านและปริมาณของแดดในแต่ละทิศก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วยนะคะ เพราะความโปร่งนั้นถึงจะมีข้อดีที่มีแสงสว่างเข้าถึงแล้ว แต่ก็ยังนำพาความร้อนมาด้วยเช่นกันค่ะ

พื้นที่หน้าบ้านมีพื้นที่บริเวณฟุตบาทพร้อมปลูกไม้พุ้มรอบรั้ว มีการตกแต่งบริเวณรั้วทางเข้าประตูด้วยการกรุกระเบื้องแกรนิตโต้ดูสวยงาม จะสังเกตว่าบริเวณที่ดินในบ้านจะถูกยกระดับให้สูงจากพื้นถนนขึ้นมาประมาณ 20 เซนติเมตร

ด้านล่างเป็นตู้จดหมายมีบานเป็นอลูมิเนียมช่วยกันน้ำได้ ยกเปิดขึ้นแบบนี้ค่ะ

จากด้านในบ้านเราสามารถเปิดช่องจดหมายได้แบบนี้ โดยไม่ต้องเดินออกไปหยิบจดหมายหน้าบ้านเลย

ด้วยโครงการยังไม่ได้ติดรั้ว แต่มีการติดตั้งรางไว้เรียบร้อยแล้ว รั้วที่ทางโครงการให้นั้นเป็นรั้วรีโมทบานเลื่อนค่ะ

ทางโครงการลงต้นไม้ใหญ่ให้บริเวณหน้าบ้าน

ริมรั้วด้านนึง ติดตั้งที่ทิ้งถังขยะภายในให้ โดยไม่ต้องเดินไปทิ้งหน้าบ้าน

บริเวณที่จอดรถที่มีความกว้าง 5.2 เมตร และความยาว 5.90 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันแบบพอดีๆ มีพื้นที่เหลือด้านข้างให้เดินได้นิดหน่อย พื้นที่จอดรถเป็นพื้นซีเมนต์ผิวทรายล้างสลับกระเบื้องเพื่อให้เกิดลวดลายสวยงาม ซึ่งอาจจะลื่นได้ในบริเวณที่ปูพื้นกระเบื้องนะคะ ลึกเข้าไปหน่อยจะเห็นกระถางปลูกต้นไม้พุ่มที่โครงการให้มา สามารถช่วยบังสายตาจากหน้าบ้านได้ดีเลยค่ะ

ด้านข้างเป็นทางขึ้นบ้านยกระดับสูงขึ้นประมาณ 20 เซนติเมตร ปูกระเบื้องเซรามิกลายไม้มาให้

ด้านในเป็นคอร์ท หรือลาน โดยบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นพื้นที่นั่ง Outdoor แต่ในบ้านจริงจะปูพื้นหญ้าให้มานะคะ พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ในบ้านและพื้นที่นอกบ้านได้ดีทีเดียวค่ะ เพราะนอกจากด้านในจะได้เห็นบรรยากาศบริเวณคอร์ท และรับแสงจากด้านนอกแล้ว พื้นที่คอร์ทนี้ ยังทำหน้าที่เหมือนเป็นส่วนต่อขยายแบบ Outdoor ของพื้นที่ภายในบ้านด้วย

ทางโครงการได้ให้ลำโพงเครื่องเสียงและระบบจาก Sonos ติดตั้งบริเวณพื้นที่คอร์ท เพื่อเพิ่มบรรยากาศของคอร์ทด้วยค่ะ

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่คอร์ท หรือลานที่อยู่กลางบ้าน จากที่สอบถามกับโครงการมานั้นทางโครงการจะปูเป็นพื้นหญ้าให้ เพื่อให้ลูกบ้านจัดบริเวณคอร์ทนี้เป็นพื้นที่ Outdoor ก็ได้หรือสำหรับลูกบ้านคนไหนที่ชอบต้นไม้ ก็สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่กลางคอร์ทเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้านก็ดีทีเดียวค่ะ  ^^ เดี๋ยวเราจะพาเดินไปดูรอบบ้านก่อนจะเข้าตัวบ้านกันนะคะ

บริเวณพื้นที่หลังบ้านจะเป็นบริเวณพื้นที่ซักล้างซึ่งเชื่อมต่อกับห้องครัวด้านใน

บริเวณลานซักล้างจะแบ่งพื้นที่เป็น 2 สเต็ป โดยพื้นที่ติดกับประตูครัวจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ส่วนด้านนอกเป็นทรายล้างไม่ลื่น ด้านบนประตูมีดวงไฟฟลูออเรสเซนต์ให้แสงสว่างบนลานซักล้าง ด้านข้างมีปลั๊กไฟกันน้ำ พร้อมก็อกสนามและการต่อท่อน้ำไว้เรียบร้อยสำหรับวางเครื่องซักผ้า โดยมีพื้นชั้น 2 ที่ยื่นออกมาเป็นหลังคาให้เล็กน้อย

รั้วที่กั้นระหว่างที่ดินอื่นนั้นจะเป็นรั้วทึบสูง 3 เมตร และรั้วโปร่งอีก 3 เมตร ซึ่งจากภาพนั้นถูกไม้พุ่มบังรั้วทึบอยู่ รั้วสูงแบบนี้ดูปลอดภัยดีนะคะ ^^

ด้านข้างบ้านด้านนี้จะเป็นส่วนของห้องคนรับใช้ ซึ่งจะเข้า – ออกได้จากด้านนอก(ตัวประตูอยู่ตรงลานปูกระเบื้อง) เพื่อความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้าน ห้องแม่บ้านของที่นี่จะมีขนาดเล็กหน่อยนะคะเพราะทางโครงการมีแนวคิดว่าสมัยนี้หลายๆคนนิยมจ้างแม่บ้านในรูปแบบชั่วคราวมากกว่าคือมาทำความสะอาดแค่วันหรือสองวันไม่ได้จ้างแบบอยู่ประจำ

จากรูปด้านบนเราเดินมาที่ลานจะเจอประตูเข้าบ้าน เวลาจะปิดบ้านไปเที่ยวหลายวันสามารถปิดประตูนี้ได้นะคะเพราะแม่บ้านเข้าส่วนครัวได้โดยประตูที่ติดกับห้องครัว แต่มีข้อเสียหน่อยตรงที่ห้องครัวเองก็ได้มีประตูกั้นมาให้ แปลว่าแม่บ้านสามารถเข้าถึงตัวบ้านได้หมด ไม่ได้เข้าเฉพาะห้องครัวเท่านั้น

เดินมาสุดทางหน้าบ้านฝั่งนี้ด้านข้างจะเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ของห้องในแต่ละชั้น

หันหลังกลับไปถ่ายมาให้ดูว่ามีห้องเก็บของใต้บันไดอยู่นะคะ สามารถเก็บเครื่องมือทำสวนได้ค่ะ

กลับมาที่ประตูทางเข้าบ้านหลักนะคะ ประตูทางเข้าบ้านนั้นไม่ได้เน้นให้มีขนาดใหญ่โตอลังการแต่เน้นที่ใช้งานสะดวกมากกว่า ทีนี้ถ้าหลายคนสงสัยว่าแล้วจะขนเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆยังไง ก็ใช้ประตูตรงห้องครัวได้ค่ะเป็นบานเลื่อนคู่เลย

บริเวณนี้ทางเข้ามีดวงโคม และมีระบบสัญญาณกันขโมย โดยก่อนออกจากบ้านก็เปิดระบบให้สัญญาณกันขโมยเริ่มทำงานได้

มือจับประตูสแตนเลสแบบก้านโยก แข็งแรงพอดีมือ

ภายในตัวบ้านยกระดับพื้นสูงขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกลายไม้เหมือนกับระเบียงภายนอก

เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับโถงทางเข้าที่มีระดับต่ำกว่าพื้นบ้านชั้น 1 ซึ่งปูกระเบื้องเหมือนกันกับระเบียงภายนอกเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกเข้าด้วยกัน

ออกแบบให้มีพื้นที่วางรองเท้าแบบคนญี่ปุ่น ซึ่งค่อนข้างโดดเด่นมากในบ้านแบบญี่ปุ่นจะเรียกว่า genkan ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับถอดและเก็บรองเท้า โดยจะมีเป็นขั้นที่ต่ำลงมากว่าพื้นบ้าน  และเวลาคนญี่ปุ่นถอดรองเท้าเก็บก็จะหันรองเท้าออกนอกบ้านด้วย เพื่อจะได้สวมใส่ได้สะดวกขึ้นเมื่อต้องออกจากบ้านอีกครั้ง เมื่อเข้าบ้านอาจจะต้องสวมใส่รองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้านอีกครั้ง

บริเวณนี้จะจัดให้เป็นตู้เก็บรองเท้า ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบไว้สำหรับการวางและเก็บรองเท้าในบ้าน ไม่ต้องถอดทิ้งไว้นอกบ้าน

บริเวณโถงทางเข้านี้ก็มีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เชื่อมต่อไปยังเฉลียงภายนอก

ตัวกรอบบานเป็นอลูมิเนียมพ่นสีดำ มีตัวล็อกก้นหอยเพิ่มการล็อกอีกชั้นนึง

สวิตช์ไฟมีลักษณะเป็นแบบนี้ โดยเราสามารถเลือกและเปลี่ยนหน้าตาของกรอบสวิตช์ไฟได้ค่ะ

เข้ามาที่บริเวณพื้นที่ครัวที่มีลักษณะเป็นครัวเปิด ฝั่งซ้ายจะเป็น Pantry สำหรับทำอาหาร และด้านขวาเป็นบริเวณพื้นที่รับประทานอาหาร มองขึ้นไปด้านบนจะเห็น Heat Detector 1 ตัว เป็นตัวจับความร้อนเพื่อป้องกันไฟไหม้ที่ทางโครงการให้มา และหากใครที่ชอบทำกับข้าวหรืออาหารหนักๆนั้น แนะนำว่าควรทำฉากกั้นกระจกบริเวณครัวด้วยนะคะ เพื่อกันกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน

เฟอร์นิเจอร์ภายในครัวที่ทางโครงการให้ในบ้านมาตรฐานจะเป็นในส่วนของ Pantry วัสดุ Top เป็นหินสังเคราะห์ และ Hob & Hood

Pantry รูปตัว L ท็อปเป็น Particle บานเปิด – ปิด แบบ Soft Close มือจับเป็นสแตนเลส

อ่างล้างจานสแตนเลส หลุมเดี่ยว ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ถ้าล้างจานจำนวนเยอะๆอาจจะลำบากหน่อยค่ะ

Hob & Hood จาก Teka เป็นหัวเตาไฟฟ้าเซรามิก 2 หัว ผนังด้านหลังกรุกระเบื้องเซรามิกลายไม้ไว้ง่ายต่อการทำความสะอาดจากการทำอาหาร 

บริเวณพื้นที่รับประทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนกระจกทั้ง 2 ทาง ให้ความรู้สึกโปร่งและเปิดรับลมได้ดี

ด้านหลังจะเป็นประตูครัวที่ออกไปที่ลานซักล้าง มีหน้าต่างบานเลื่อนด้านหลังช่วยระบายอากาศภายในครัว

บานประตูครัวใช้วัสดุ WPC Wood ชนิดกันน้ำ มีมือจับก้านโยกสแตนเลสพร้อมตัวล็อกแบบบิด

อีกด้านนึงของบ้าน มีห้องน้ำชั้นล่าง ห้องเอนกประสงค์อีก 1 ห้อง และบันไดทางขึ้นไปชั้น 2

ภายในห้องน้ำชั้น 1 ได้พื้นที่อาบน้ำมาด้วย เหมาะสำหรับเป็นห้องอาบน้ำให้ผู้สูงวัยที่นอนอยู่ที่ชั้นล่าง บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีหน้าต่างบานกระทุ้งด้านบนช่วยระบายอากาศและมีแสงส่องถึง

พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 5 เซนติเมตรจากพื้นชั้น 1 และปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

โถสุขภัณฑ์จากยี่ห้อ Kohler ส่วนสายฉีดชำระ และที่แขวนทิชชู่จาก Grohe

อ่างล้างหน้าจาก Kohler ก็อกน้ำโครเมียมทรงสูง ก้านโยก Englefield ใช้งานง่าย พร้อมติดตั้งกระจกเงาส่องหน้า

ด้านล่างมีตู้เก็บของบานเปิดแบบ Soft Close เก็บของได้เล็กน้อย ใช้งานได้สะดวก

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1 x 1 เมตร ถือว่าอาบได้แบบพอดีๆ ไม่ติดอะไรแต่แนะนำให้ติดประตูฉากกั้นจะดีกว่าเพราะเวลาใช้งานจะได้ไม่เลอะเทอะส่วนอื่นๆ ภายในห้องผนังยื่นออกมาเล็กน้อย ด้านข้างทำเป็นเคาน์เตอร์สำหรับวางแชมพู ครีมอาบน้ำได้เล็กน้อย  

พื้นที่บริเวณอาบน้ำจะลดระดับลงมาประมาณ 5 เซนติเมตร

ฝักบัวสายอ่อนจาก Grohe ขนาดพอดีมือ ใช้งานสะดวก

ภายในห้องเอนกประสงค์มีขนาดประมาณ 3.0 x 3.6 เมตร ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องเล่นดนตรีไว้ ซึ่งจริงๆแล้วจะจัดเป็นห้องทำงาน ห้องสมุด หรือถ้าครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุก็ทำเป็นห้องนอนอีกห้องนึงได้นะคะจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลงให้ลำบาก

ด้านในมีหน้าต่างบานเลื่อน 2 ด้าน ช่วยให้อากาศภายในห้องถ่ายเทสะดวกและมีแสงสว่างส่องทั่วถึง

บันไดทางขึ้นชั้น 2 ความกว้างพื้นที่บันได 1.30 เมตร ค่อนข้างกว้างเดินได้สะดวก แต่ไม่มีราวจับให้นะคะ

พื้นลูกนอนใช้วัสดุเป็นไม้ประสานผิววีเนียร์ และพื้นชานพักบันไดใช้วัสดุพื้นเป็นปาร์เก้ไม้สัก มีสีเทียบเคียงแล้วกลมกลืนกันได้ดีค่ะ

บริเวณชานพักมีช่องแสงขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นกระจกบาน Fixed ส่วนด้านล่างเป็นบานกระทุ้งช่วยให้อากาศถ่ายเทได้เล็กน้อย ตำแหน่งของช่องแสงจะอยู่ที่ด้านข้างมีข้อดีคือเพิ่มความเป็นส่วนตัวเพราะไม่ต้องกังวลว่าบ้านตรงข้ามจะเห็นภายในบ้านเรา

บริเวณทางเดินชั้น 2 ด้านข้างเป็นหน้าต่างบานเลื่อนมองออกไปยังคอร์ทด้านล่างได้

พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีฝ้าเพดานสูงถึง 5 เมตร และหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 ด้าน ทำให้บริเวณห้องนั่งเล่นนี้ดูโอ่โถง ปร่งโล่ง ส่วนแอร์ในห้องนี้จะได้เป็นแอร์ฝั่งฝ้าเพดาน 4 ทิศทาง ส่วนพื้นของบ้านหลังนี้นอกจากชั้นหนึ่งแล้วชั้นสองกับสามจะได้เป็นพื้นปาร์เก้ไม้สักทั้งหมด ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นวัสดุแบบนี้ในโครงการจัดสรรเท่าไหร่นะคะ

พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ทำงานที่อยู่ด้านขวา

ภายในห้องนั่งเล่นนี้จะได้ลำโพง 2 ตัว พร้อมเครื่องเสียงจาก Sonos สำหรับฟังเพลงชิลๆ

ถัดมาที่พื้นที่ทำงานขนาดประมาณ 3.0 x 3.6 เมตร มีความสูงฝ้าประมาณ 3 เมตร ด้านบนติดสัญญาณกันขโมยแบบ Motion Sensor ตรวจจับการเคลื่อนไหว

มีประตูบานเลื่อนทางซ้ายที่ออกไปยังระเบียง และหน้าต่างบานเลื่อนทางด้านขวา

พื้นระเบียงลดระดับลงมาประมาณ 5 เซนติเมตร

ปูกระเบื้องด้วยพื้นเซรามิก มีความกว้างระเบียงประมาณ 90 เซนติเมตร ไม่กว้างนัก ไม่สามารถเอาเก้าอี้ออกมานั่งเล่นได้ ส่วนรั้วระเบียงเป็นกระจก Tempered ยึดด้วยอลูมิเนียม ช่วยให้สามารถมองวิวจากห้องทำงานได้ โดยไม่มีรั้วมาบดบังวิวค่ะ

ด้านบนมีระแนงอลูมิเนียมติดกับผนัง 2 ด้าน สามารถห้อยกระถางต้นไม้ หรือจะปลูกไม้เลื้อยก็ดูร่มรื่นตาดีค่ะ ในส่วนของฝ้าเพดานด้านบนติดดวงโคมแบบดาวน์ไลท์ และสัญญาณไฟกันขโมย

และมีเชื่อมกับสะพานเชื่อมไปยังห้องนอนใหญ่

สะพานเชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่ ด้านข้างเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ช่วยระบายอากาศภายในบ้านได้ดี พื้นบริเวณทางเชื่อมเป็นพื้นแบบ Outdoor

หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ มีความสูงจากพื้นถึงหน้าต่างประมาณ 60 เซนติเมตร อาจจะต้องระมัดระวังเด็กๆในบ้าน เพราะด้วยระยะความสูงเท่านี้ค่อนข้างเสี่ยงที่จะเกิดพลัดตกลงไปด้านล่างได้นะคะ

มองลงไปด้านล่างจากสะพานเชื่อม จะเห็นคอร์ทอยู่ตรงกลางแบบนี้ค่ะ

พื้นชั้น 2 จะอยู่ระดับสูงกว่าพื้นสะพานเชื่อมอยู่ประมาณ 5 เซนติเมตร

ภายในห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมชุดโซฟา 3 ที่นั่ง

อีกด้านนึงเป็นพื้นที่ในมุม โดยบ้านตัวอย่างจัดไว้สำหรับวางโต๊ะทำงานเล็ก มีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่ทั้ง 2 ด้านของห้อง

ด้านนี้ จัดไว้สำหรับชั้นวางทีวี อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเตียงนอน มีบานกระจก Fixed อยู่ด้านซ้ายเพื่อรับแสงสว่างเข้าสู่ภายในห้องนอน ซึ่งจะเห็นว่าห้องนี้ได้รับแสงเกือบทุกด้านเลยเป็นผลจากการที่ออกแบบให้มีคอร์ทตรงกลาง

ประตูห้องน้ำที่ได้มาเป็นบานเลื่อนกระจก เลื่อนได้บานเดียว ซึ่งออกจะ Sexy อยู่เหมือนกันถ้าใครไม่คุ้นชินก็สามารถหาฟิล์มฝ้ามาติดก็ได้ค่ะ

ที่จับเป็นอลูมิเนียมพ่นสีดำ ค่อนข้างแข็งแรงดีค่ะ

ภายในห้องน้ำด้านซ้ายมือมีโซน Walk in Closet ในตัว จัดเป็นสัดส่วนใช้งานสะดวก เมื่ออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวได้เลย ด้านบนมีการติดตั้งลำโพงไว้ให้ด้วยค่ะ ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องด้วย

มีพื้นยกระดับขึ้นมาประมาณ​ 5 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร

บริเวณพื้นที่ Walk in Closet สามารถจัดให้มีในส่วนของ โต๊ะเครื่องแป้ง ที่แขวนเสื้อผ้า พร้อมกับชั้นวางกระเป๋า

ด้านในของพื้นที่แขวนเสื้อผ้า แบ่งได้ 2 ตู้แขวนชาย – หญิง

สำหรับอ่างล้างมือจะฝั่งอยู่กับเคาน์เตอร์ท็อปเป็นหินแกรนิต มีความกว้างพอสมควร สามารถวางของด้านข้างได้เยอะ ด้านข้างเคาน์เตอร์ติดตั้งปลั๊กไฟกันน้ำไว้ให้ สำหรับสาวๆไดร์ผมได้ ด้านล่างมีการติดตั้งท่อทำน้ำร้อนไว้เดินสายไปยังก็อกน้ำต่างๆ

อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมฝั่งเคาน์เตอร์ ก็อกน้ำเปิดได้ทั้งน้ำร้อน – น้ำเย็น

สำหรับด้านขวามือของห้องเป็นบริเวณพื้นที่อาบน้ำมีทั้ง อ่างอาบน้ำ และพื้นที่อาบน้ำแบบฝักบัว ด้านบนมีลำโพงอีกตัว สามารถอาบน้ำไปร้องเพลงไป ก็เพลินดีนะคะ^^

อ่างอาบน้ำที่ได้เป็นทรงสีเหลี่ยม ด้านข้างก่อเป็นเคาน์เตอร์สามารถวางครีมอาบน้ำ แชมพูได้

พื้นที่อาบน้ำแบบฝักบัว มีฉากกั้นประตูกระจก Tempered บาน Swing

มือจับด้านนอกสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย

พื้นที่อาบน้ำลดระดับลงมานิดหน่อย

ภายในจะมีเคาน์เตอร์ที่ก่อขึ้นมาจากบริเวณอ่างอาบน้ำสามารถนั่งอาบน้ำได้ แต่มุมกระเบื้องคมไปนิดนะ

ฝักบัวแบ่งออกเป็น 2 แบบคือแบบสายอ่อนและ Rain Shower ด้านข้างมีพื้นที่วางของให้เล็กน้อย

บริเวณด้านในตรงข้ามกับที่อาบน้ำเป็นพื้นที่สำหรับทำธุระ ^^ มีโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนทิชชู่ ด้านหลังก่อเคาน์เตอร์เล็กน้อยไว้สำหรับวางของได้นิดหน่อย มีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่ด้านบนสำหรับระบายอากาศ และมีแสงส่องถึงภายใน

กลับมาที่โถงบันไดทางขึ้นชั้น 3 กัน

บริเวณชานพักมีห้องงานระบบต่างๆ

บริเวณโถงบันไดมีหน้าต่างบานกระทุ้งและกระจกบาน Fixed อยู่ด้านข้างช่วยให้โถงสว่างและมีอากาศถ่ายเทได้เล็กน้อย ถ้าอยากให้มุมนี้สวยๆก็หาโคมไฟเก๋ๆมาติดนะคะ ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีเลยค่ะ

เดินขึ้นมาบริเวณโถงก็มีหน้าต่างบานเลื่อนใหญ่ ทำให้โถงดูสว่างมากขึ้น

เมื่อเปิดหน้าต่างออกไปดู จะเห็นทั้งสะพานเชื่อมชั้น 2 และคอร์ทที่อยู่ด้านล่างแบบนี้ค่ะ

เข้ามาที่ห้องนอนขนาดกลางด้านซ้ายกันก่อนนะคะ

ภายในห้องนอนสามารถจัดพื้นที่ด้านซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน ด้านในเป็นในส่วนของห้องน้ำ มีหน้าต่างบานเลื่อนใหญ่อยู่ด้านหลัง

 

ภายในห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง

โถสุขภัณฑ์จะมีขนาดเล็กลงมาหน่อย ยี่ห้อ Kolher

พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยกระจก Tempered บานสวิง ภายในพื้นที่ห้องน้ำมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้แสงเข้าถึงและระบายอากาศภายใน ลายกระเบื้องได้ตามนี้เลยค่ะ

ฝักบัวสายอ่อน พร้อมเดินงานระบบเครื่องทำน้ำอุ่นเรียบร้อย ด้านข้างเซตผนังด้านในลึกเข้าไปสำหรับวางครีมอาบน้ำ แชมพูได้

ขนาดฝักบัวพอดีมือค่ะ

ถัดมาในส่วนของห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ ฝ้าเพดานห้องนอนตีตามความชันของหลังคา ทำให้มีช่องแสงมากขึ้นในด้านบนและรู้สึกโปร่งโล่ง เนื่องจากมีความสูงฝ้ามากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับความร้อนที่ไม่มีช่องของฝ้าเพดานไว้กันความร้อนหรือระบายอากาศค่ะ ด้านในมีพื้นที่เล็กๆสามารถจัดเป็นโซฟา 2 ที่นั่ง Built ชั้นวางของได้ ส่วนฝั่งทางด้านขวาเป็นประตูบานเลื่อนออกสู่ระเบียง

หันกลับมาด้านตรงข้างเตียงมีช่องแสงด้านบนเล็กน้อย รวมๆแล้วจะมีช่องแสงทั้งหมด 3 ทาง ซึ่งให้มาค่อนข้างเยอะ

พื้นระเบียงลดระดับลงมาประมาณ 5 เซนติเมตร

ขนาดของพื้นระเบียงให้มาไม่มากนัก ปูด้วยพื้นกระเบี้ยงเซรามิก ด้านในมีท่อระบายน้ำครอบด้วยฝาตะแกรงอลูมิเนียม

เรามาดูห้องนอนเล็กอีกฝั่งกันต่อนะคะ โซนหน้าห้องจะเป็นตู้เสื้อผ้าด้านซ้าย และทางเข้าห้องน้ำด้านขวา

ภายในห้องนอนขนาดประมาณ 5.2 x 3.6 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุดได้ ด้านข้างมีหน้าต่างบานเลื่อน และบานกระจกด้านบน ให้มาค่อนข้างเยอะ ทำให้ดูโปร่งโล่ง แสงธรรมชาติส่องทั่วถึงทั้งห้องในตอนกลางวัน ซึ่งความร้อนก็เข้ามาเยอะมากๆเช่นเดียวกันค่ะ

อีกมุมนึง ด้านซ้ายเป็นพื้นที่สำหรับวางชั้นทีวี และด้านขวาสามารถจัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ค่ะ ด้านบนมีช่องแสงเล็กๆยาวไปตลอดผนัง

เข้ามาที่ห้องน้ำส่วนตัวของห้องนอนเล็กมีสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องนอนขนาดกลาง พร้อมบานกระจกขนาดใหญ่ยาวไปสุดผนัง

ขนาดพื้นที่อาบน้ำจะเล็กกว่าพื้นที่อาบน้ำห้องนอนกลาง กั้นด้วยบานกระจก ฝักบัวเป็นแบบสายอ่อน ไม่มีช่องสำหรับวางของและไม่มีที่วางสบู่ด้วย ต้องซื้อมาติดตั้งเอง ส่วนด้านข้างมีช่องแสงและบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศ

และภาพสุดท้ายเป็นบ้านแบบ Keen ที่เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นเช่นเดียวกัน แต่เป็นแบบไม่มีคอร์ท เน้นระเบียงขนาดใหญ่ด้านบนค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 1 September 2015

  • แบบ Keen ยูนิตที่ 21 พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. ที่ดิน 55.1 ตร.วา ราคา 16.4 ล้านบาทหรือ 297,900 บาท/ตร.วา
  • แบบ Niche ยูนิตที่ 30 พื้นที่ใช้สอย 317 ตร.ม. ที่ดิน 50.7 ตร.วา ราคา 17 ล้านบาทหรือ 335,500 บาท/ตร.วา
  • แบบ Live ยูนิตที่ 36 พื้นที่ใช้สอย 357 ตร.ม. ที่ดิน 85.5 ตร.วา ราคา 21.7 ล้านบาทหรือ 235,800 บาท/ตร.วา
  • แบบ Most ยูนิตที่ 17 พื้นที่ใช้สอย 418 ตร.ม. ที่ดิน 67.1 ตร.วา ราคา 21.6 ล้านบาทหรือ 322,100 บาท/ตร.วา

  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา

  • Keen 400,000 บาท
  • Niche 450,000 บาท
  • Live, Most 500,000 บาท

  • ดาวน์ 20%
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 120,000 – 150,000 บาท
  • ค่ากองทุนส่วนกลาง 30,000 บาท (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ (ผู้ซื้อและผู้ขายชำระคนละครึ่ง)
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา (ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
  • **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    Beyond ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ที่อยู่ทางตะวันออกของกรุเทพ พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยแนวราบ เนื่องจากติดข้อกำหนดเขตการดูแลพิเศษของสวนหลวง ร.9 ที่ไม่สามารถสร้างตึกสูง และคอนโดมิเนียมได้ ด้วยเหตุนี้สภาพแวดล้อมจึงค่อนข้างสงบ ไม่พลุกพล่านมากนัก ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์โดยรอบบริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 จะมีร้านรวงเล็กๆ ขายอาหารอยู่ตลอด 2 ฝั่งถนน รวมทั้งมีห้างสรรพสินค้าเล็กๆอย่าง Big C Market สวนหลวง และ Tops Market Place อุดมสุข หากจะช็อปปิ้งในย่านนี้ส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนศรีนครินทร์ทั้ง ซีคอน สแควร์, พาราไดซ์ พาร์ค และตลาดใหญ่ๆเลยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อย่าง ตลาดนัดรถไฟ

    ถึงแม้ว่าถนนเฉลิมพระเกียรติจะไม่ใช่ถนนเส้นหลักในการเดินทาง แต่ก็เชื่อมถนนเส้นหลักๆหลายเส้น เช่นถนนศรีนครินทร์, ถนนสุขุมวิท 77 (ถนนอ่อนนุช) และถนนบางนา – ตราด รวมทั้งในซอยเล็กซอยน้อยทะลุออกได้หลายทางทั้ง ถนนบางนา – ตราด วิ่งขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีได้ และถนนกาญจนาภิเษกอีกด้วยค่ะ ในปัจจุบันยังมีการก่อสร้างสะพานเชื่อมถนนพัฒนาการและถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หากสร้างเสร็จก็จะยิ่งสะดวกสบายในการเดินทางเข้า – ออกเมืองมากขึ้น เพราะสามารถวิ่งจากเพชรบุรีตรงมายาวๆได้เลยไม่ต้องเข้าไปติดบนเส้นอ่อนนุชอีกต่อไป ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ

    สำหรับการเดินทางโดยใช้รถสาธารณะนั้น ถ้าพูดถึงรถไฟฟ้าจะมีรถไฟฟ้าสถานีอุดมสุขที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ระยะห่างก็ประมาณ 7.2 กิโลเมตร ไม่จัดอยู่ในระยะเดินได้ต้องนั่งรถแท็กซี่ หรือสองแถวเข้ามา หากเดินทางมาจากถนนศรีนครินทร์นั้นก็จะสะดวกขึ้นมาอีกหน่อยเพราะมีทั้งรถเมล์ รถตู้ และสองแถววิ่งให้เห็นตลอด แต่ในถนนเฉลิมพระเกียรตินั้นจะมีไม่รถประจำทางประเภทอื่นๆเข้ามา ยกเว้นรถสองแถว เนื่องจากติดเขตการดูแลพิเศษนั่นเองค่ะ ทำให้การเดินทางแบบสาธารณะนั้นอาจจะลำบากไปสักหน่อยเพราะต้องต่อรถหลายต่ออยู่

    การออกแบบโครงการทำออกมาได้โอเค ด้วยจำนวนยูนิตในโครงการเพียง 58 ยูนิต ทำให้บรรยากาศสบายๆไม่หนาแน่นเน้นความสงบและไม่พลุกพล่าน แต่เนื่องจากถนนโครงการมีแต่ถนนหลัก ทำให้ความเป็นส่วนตัวน้อยลงไปหน่อย ถนนหลักกว้าง 10 และ 9 เมตร สภาพโครงการตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้างค่อนข้างเยอะเลยยังบอกสภาพที่แท้จริงทั้งหมดไม่ได้ ระบบการรักษาความปลอดภัยเป็นแบบประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ รถลูกบ้านสามารถเข้า – ออกด้วยระบบ Key Card Access ระยะใกล้ มี CCTV 16 จุด ติดอยู่บริเวณหน้าโครงการและถนนหลัก บ้านทุกหลังได้ระบบกันขโมยแบบ Magnetic ที่ชั้น 1 แและ 2 ทุกบานเปิดทั้งหน้าต่างและประตู Motion Sensor เฉพาะห้องนั่งเล่นชั้น 2 รั้วรอบโครงการมีความสูง 3 + 3 เมตร รั้วบ้านเป็นกำแพงสูง 2 เมตร ในส่วนของประตูหน้าบ้านได้เป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ

    บ้านเป็นสไตล์ Natural Modern แบบบ้านของที่นี่ทั้งหมดจะเป็นบ้าน 3 ชั้น เน้นการใช้สอยของพื้นที่ในบ้านเป็นหลัก ไม่เน้นพื้นที่สวนรอบๆบ้านหรือจะบอกว่าสร้างบ้านเต็มพื้นที่เลยก็ว่าได้ แนวคิดหลักในการออกแบบอีกอย่างคือต้องการให้ห้องทุกห้องมีช่องแสงเข้าทั้ง 4 ด้าน แบบบ้านส่วนใหญ่เลยออกแบบให้มีคอร์ท(พื้นที่เปิดโล่ง)ตรงกลางบ้านและสะพานเชื่อมโอบล้อมไว้ ฟังก์ชั่นเด่นๆ เช่น พื้นที่วางรองเท้าแบบญี่ปุ่น, หรือผนังห้องที่ไม่ติดกันใช้งานแต่ละห้องได้ดีขึ้นจะดูหนังฟังเพลงเสียงก็ไม่ไปรบกวนอีกห้อง ในส่วนของห้องนอนกลางและเล็ก ออกแบบให้มีห้องน้ำส่วนตัวไม่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน อีกปัจจัยนึงที่โครงการคำนึงถึงคือการเพิ่มบรรยากาศด้วยระบบเสียง จึงได้ให้ระบบเครื่องเสียง Sonos พร้อมติดตั้งลำโพงมาให้ 3 จุดคือบริเวณ คอร์ทกลางบ้านที่ชั้นหนึ่ง 2 ตัว, ห้องนั่งเล่น 2 ตัว และส่วนห้องน้ำของห้องนอนใหญ่อีก 2 ตัว

    โครงสร้างของบ้านเป็นแบบ Conventional ผนังเป็นอิฐมวลเบา วัสดุพื้นชั้นล่างเป็นพระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ชั้นบนที่ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นพื้นปาร์เก้ไม้สัก พื้นระเบียงและพื้น-ผนังภายในห้องน้ำจะได้กระเบื้องเซรามิกลายไม้ หน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ ชุดสุขภัณฑ์จาก Kohler และอุปกรณ์ในห้องน้ำจาก Grohe ไฟในบ้านใช้ดวงโคมแบบดาวน์ไลท์ ห้องครัวได้เคาน์เตอร์มาด้วย Top เป็น หินเทียม ผนังปูกระเบื้องให้ตรงส่วนที่ทำครัว พร้อม Hob & Hood

    สาธารณูปโภคของโครงการนี้มีมาให้ครบครันถึงแม้จะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะคือ มีทั้งสวนสาธารณะ/สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และห้อง Fitness แต่ข้อเสียจะมีหน่อยก็ตรงที่ Facilities ตั้งอยู่ที่ด้านหน้า ทำให้คนที่อยู่หลังโครงการต้องเดินไกล และขนาดของสนามเด็กเล่นที่ไม่ได้ใหญ่มากนักสำหรับวิ่งเล่นได้เต็มที่ แต่ในส่วนของสระว่ายน้ำออกแบบมาเพื่อใช้งานได้ดีจะว่ายน้ำเล่นหรือใช้ออกกำลังกายก็ได้อยู่ค่ะ ด้วยขนาด 7.50 x 21 เมตร เป็นระบบเกลือ

     

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 15 – 30 ล้านบาท, 1 September 2015

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – อยู่หลังสวนหลวงใกล้ห้าง ติดถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เข้าออกได้หลายทาง
    • ความปลอดภัย 7.75/10 – ประตูรั้วบ้านแบบอัตโนมัติ/รปภ.หน้าหมู่บ้าน/CCTV 16 จุด/ระบบกันขโมยแบบ/รั้วรอบโครงการสูง 3+3 เมตร 
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9.0/10 – แบบสวย มีคอร์ท สะพานเชื่อม แบ่งฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วน ผนังห้องนอนมีช่องแสงครบทุกด้าน
    • วัสดุ 8.0/10 – พื้นแกรนิตโต้ พื้นปาร์เก้ไม้สัก สุขภัณฑ์จาก Kohler และอุปกรณ์ห้องน้ำจาก Grohe
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – โครงการเล็ก พื้นที่สีเขียวไม่มากนัก
    • สาธารณูปโภค 7.75/10 – สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสนามเด็กเล่น
    • 7.91 / 10.00

    BOTTOM LINE

    Beyond ศรีนครินทร์ ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวเน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านเป็นหลัก เพราะสร้างบ้านเต็มพื้นที่ ไม่เน้นพื้นที่สวนรอบบ้านจำนวนยูนิตน้อย มีความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายครอบครัวหรือเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านไม่เน้นใกล้เมือง แต่อยากได้ติดสวนสาธารณะขนาดใหญ่เดินทางไปห้างได้ใกล้ๆไม่ลำบากสำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 16 – 21 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 115,000 – 174,000 บาท

    ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )