รีวิวโครงการ

Boom Tharis | บ้านในเมืองของแทร่! | เบลวีเดียร์ พระราม3

20 กันยายน 2024

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวโครงการ BELVEDERE RAMA 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดที่ออกแบบมาแตกต่างจากเพื่อนบ้านโดยรอบ เปิดตัวมาที่ราคา 45-59 ล้านบาท แต่เราได้บ้านถึง 6 ชั้น และได้พื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่าด้วยเช่นกัน เบื้องต้นเราสรุป Highlights ที่น่าสนใจ ดังนี้ค่ะ

  • ทำเลใจกลางพระราม 3 : โครงการอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 34 แยก 11 ห่างจากถนนรัชดาภิเษกประมาณ 1 km. เข้า – ออกโซน CBD อย่างสีลม สาทรได้ง่าย อยู่ใกล้ทางด่วนถึง 2 สาย จึงมีตัวช่วยในการเดินทาง และยังใกล้ Central พระราม 3 และโรงเรียนนานาชาติ King’s College ด้วยค่ะ
  • บ้านสูง 6 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเยอะ : เทียบกับโครงการโดยรอบแล้วบ้านส่วนใหญ่จะสูงเพียง 3-4 ชั้น แต่ที่นี่ออกแบบบ้านสูงถึง 6 ชั้น ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่กว่าโครงการในละแวกเดียวกัน 100-200 ตร.ม. เชียวค่ะ แต่พื้นที่ส่วนหนึ่งถูกออกแบบเป็นบันไดหนีไฟตามกฎหมายนะคะ
  • ห้องนอนทุกห้องได้พื้นที่ขนาดใหญ่แบบเต็มชั้น : จากที่เล่าไปว่าพื้นที่ใช้สอยมีขนาดใหญ่ ทำให้ทุกห้องนอนได้พื้นที่แบบเต็มชั้น จัดฟังก์ชันได้ครบครันทั้งห้องน้ำในตัว, Walk-in Closet, พื้นที่นั่งเล่นดูทีวี, มุมทำงานอ่านหนังสือ โดยเฉพาะ Master Bedroom ในบ้านแฝดจะได้เป็นห้อง Duplex ออกแบบชั้นล่างให้เป็น Walk-in Closet ได้เต็มชั้นเลยค่ะ
  • ได้วิวเมืองมุมสูง : ความสูงของบ้านที่นี่จะสูงกว่าอาคารรอบๆ ส่วนใหญ่ เปิดให้เห็นวิวตึกมหานครและวิวทั้ง 2 สะพาน คือฝั่งสะพานภูมิพล 1 และสะพานพระราม 9 ซึ่งได้วิวพระอาทิตย์ตกด้วย
  • Timeless Living : รองรับการอยู่อาศัยในระยะยาว ทั้งดีไซน์ Modern Classic ที่จะดูไม่เก่าไปตามเวลา, ฟังก์ชันยืดหยุดรองรับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามอายุที่โตขึ้นหรือการใช้งานที่เปลี่ยนไป, วัสดุเลือกที่มีความสวยงาม คงทน เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยและ ที่เราประทับใจคือระบบงานก่อสร้างที่ทำให้ดูแลรักษาง่ายในอนาคต

รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ตามไปชมกันค่ะ

BELVEDERE RAMA 3 ขอเชิญร่วมงาน Open House with Privilege Offer ในวันที่ 𝟕-𝟖 กันยายนนี้ ถือเป็นการเปิดบ้านครั้งแรกเพื่อต้อนรับลูกค้าคนพิเศษ และรับ Special Offers ภายในงาน

ลงทะเบียนเพื่อนัดหมายร่วมงาน >> Line: @wynn.estate (https://lin.ee/DpkPxtB) หรือ Tel: 093 002 4888

ข้อมูลโครงการ

Belvedere Rama 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2567

 ชื่อโครงการ   Belvedere Rama 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3)
 ชื่อผู้ประกอบการ   WYNN ESTATE
 SEGMENT CLASS  LUXURY-SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ซอยสาธุประดิษฐ์ 34 แยก 11 เขตยานนาวา
 ที่ดิน 2-2-56 ไร่
 จำนวนยูนิต 16 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Belvedere บ้านเดี่ยว 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 648 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 59 ล้านบาท
  • Braintree บ้านแฝด 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 38.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 553 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า  Belvedere สูง 2.75 – 3 เมตร และ Braintree สูง 2.6 – 4.1 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      450,000 บาท
 เว็บไซต์โครงการ   คลิกที่นี่
 โทร   093-002-4888
 Line   @wynn.estate

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.686769710335833, 100.52869829732266
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

โครงการ Belvedere Rama 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) ตั้งอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 34 แยก 11 ห่างจากถนนรัชดาภิเษกและถนนพระราม 3 ประมาณ 1.1 กม. จุดเด่นของโครงการนี้เลยก็คือ การเดินทางที่สะดวกสบาย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กๆ เรียนอยู่ที่ King’s College จะอยู่ใกล้โครงการเพียง 1-2 กม. ผู้ปกครองสามารถมารับ – ส่งน้องๆได้ ใช้เวลาแค่ 5 – 10 นาทีเท่านั้น โดยใช้ทางลัดภายในซอย ไม่ต้องขับออกถนนใหญ่เลยค่ะ

สำหรับการเดินทางถือว่าเหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก โดยถนนที่ใช้เข้า – ออกโครงการคือถนนรัชดาภิเษก ถนนสาธุประดิษฐ์และถนนนราธิวาสฯ วิ่งเชื่อมต่อเข้าโซน CBD อย่างสีลม – สาทรได้ง่ายในระยะประมาณ 5 – 6 กม. เท่านั้น นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้ทางด่วนถึง 2 สายคือ ทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัช ทำให้สามารถวิ่งเข้า – ออกเมืองไปยังโซนอื่นๆได้อย่างสะดวกค่ะ

ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ โครงการ Belvedere Rama 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) จัดว่าอยู่ในย่านชุมชนเดิมที่มีความคึกคักอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินเลย ขับรถออกมาบนถนนเส้นหลักก็จะเจอกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Central พระราม 3 และ Terminal 21 ที่เปิดให้บริการแล้วในช่วงปีที่ผ่านมา หรือขยับไปทางเจริญกรุงก็จะมีแหล่งช้อปปิ้งชิคๆคูลๆที่อยู่ติดริมแม่น้ำให้ได้เปลี่ยนบรรยากาศกันด้วย

ส่วนรอบโครงการเองก็มีทั้ง Community Mall , Hyper Market และตลาดสดขนาดใหญ่อย่างตลาดรุ่งเจริญ รองรับบรรดาแม่บ้านที่ออกมาจับจ่ายซื้อของกันในชีวิตประจำวันด้วย ทั้งยังอยู่ใกล้โรงเรียนชื่อดังในย่านและโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง จัดว่าเป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใช้ชีวิตได้ครบจบในที่เดียวเลย

เนื่องจากซอยสาธุประดิษฐ์ 34 เป็นซอยที่เชื่อมต่อได้ทั้งถนนสาธุประดิษฐ์, ถนนพระราม 3 ถนนรัชดาภิเษกและถนนยานนาวา จึงทำให้เราสามารถใช้เข้า-ออกได้หลากหลาย ซึ่งหลักๆเราแบ่งออกเป็น 4 เส้นทางคือ

1. จากถนนพระราม 3 : จะมีทางเข้าได้หลายซอยมาก เราสามารถเลือกใช้งานได้ตามสะดวก จากถนนเส้นนี้จะเดินทางไปโซนเจริญกรุง, เจริญนคร, ท่าพระ, วงเวียนใหญ่ ได้สะดวกเลยค่ะ

2. จากถนนรัชดาภิเษก : เป็นถนนหลักที่มีทั้ง Central พระราม 3 และ King’s College อีกทั้งยังเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนในการเข้าออกเมือง หรือจะเดินทางไปโซนสาทรก็ใช้เส้นทางนี้ได้สะดวก

3. จากถนนสาธุประดิษฐ์ : เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตอิงไปทางเจริญราษฎร์-สาทร ซึ่งจะใช้เส้นทางของซอยสาธุประดิษฐ์ 34 ได้เลย อีกทั้งยังเป็นทางที่มาขึ้นทางด่วนตรงถนนรัชดาภิเษกได้ใกล้ที่สุดอีกด้วย

4. จากถนนยานนาวา : เป็นเส้นทางหลักที่เราอาจได้ใช้บ่อยอีกหนึ่งเส้นทาง โดยเฉพาะคนที่ใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร หรือถนนกาญจนาภิเษกในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งจากถนนพระราม 3 เส้นหลัก เราก็สามารถเลี้ยวเข้ามายังถนนยานนาวาได้เลย อีกทั้งถนนช่วงนี้ยังมีร้านอาหารดีๆเยอะมาก สามารถแวะหาอะไรทานหรือซื้อกลับบ้านได้สบายๆเลยค่ะ

อีกจุดเด่นหนึ่งของโครงการที่น่าสนใจคือ ใกล้โรงเรียนนานาชาติ King’s College จากโครงการสามารถเลือกขับไปได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรกจะสะดวกมากเพราะลัดเลาะในซอยไปได้ไม่ต้องติดแยกไฟแดงเลย ในระยะประมาณ 1.2 กม. แต่ถนนจะไม่กว้างมากนะคะ ส่วนเส้นทางที่ 2 จะใช้เส้นทางหลักผ่านถนนรัชดาภิเษก ซึ่งรถจะเยอะหน่อยต้องติดไฟแดงค่ะ

บรรยากาศบริเวณหน้าโรงเรียนนานาชาติ King’s College International School Bangkok จัดเป็นสาขาที่ 3 จากอังกฤษ เพิ่งเปิดรับนักเรียนครั้งแรกในปี 2563 ตั้งแต่ระดับ Pre-Nursery ไปจนถึง Year 10 และจะเปิดเพิ่มต่อในปีถัดไปจนถึง Year 13 เลยค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณหน้าโครงการ

บรรยากาศบริเวณหน้าโครงการ

บรรยากาศภายในซอยเป็นย่านพักอาศัย ส่วนใหญ่เป็นบ้าน 2-4 ชั้น แต่ก็จะมีอาคารรอบๆ บางส่วนที่เป็นอพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น บริเวณหน้าโครงการจะมีรถราผ่านไปมาอยู่ตลอด เพราะซอยนี้เป็นทางลัดไปออกถนนสาธุประดิษฐ์ได้ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โครงการ Belvedere Rama 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) ตั้งอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 34 แยก 11 ซึ่งจัดเป็นแหล่งชุมชนดั้งเดิมที่มีความคึกคักมากในย่านพระราม 3 สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มที่พักอาศัย สรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ ถนนซอยสาธุประดิษฐ์ 34 แยก 11 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย 4 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย 2-4 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  •  ตลาดรุ่งเจริญ ~ 1.3 km.
  • Central พระราม 3 ~ 1.7 km.
  • Lotus พระราม 3 ~ 2.1 km.
  • The Up พระราม 3 ~ 2.4 km.
  • ตลาดนางลิ้นจี่ ~ 3.2 km.
  • Int Intersect ~ 3.4 km.
  • Makro สาทร ~ 3.4 km.
  • Terminal 21 พระราม 3 ~ 3.5 km.
  • Tree On 3 ~ 5.3 km.
  • Asiatique ~ 5.4 km.
  • Icon Siam ~ 8 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ~ 4.4 km.
  • โรงพยาบาล BNH ~ 5.7 km.
  • โรงพยาบาลเลิดสิน ~ 6.5 km.
  • โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ~ 6.5 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนพระแม่มารีสาธุประดิษฐ์ ~ 1 km.
  • โรงเรียนสารสาสน์พิทยา ~ 1.6 km.
  • โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ ~ 2 km.
  • โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา ~ 2.3 km.
  • โรงเรียนนานาชาติเรนทรี ~ 3.2 km.
  • โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม ~ 3.8 km.
  • โรงเรียนนานาชาติสาทรใหม่ ~ 4.3 km.
  • โรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา ~ 4.7 km.
  • โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ~ 4.8 km.
  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ~ 5.4 km.
  • โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ~ 5.8 km.

การเดินทาง

  • ทางด่วนเฉลิมมหานคร ~ 1.3 km.
  • BTS ช่องนนทรี ~ 4.8 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Belvedere Rama 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่มีความสูงถึง 6 ชั้น ซึ่งแตกต่างจากโครงการอื่นในโซนนี้ที่มักจะสร้างสูง 3-4 ชั้นเท่านั้น ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเยอะกว่าโครงการอื่น 100-200 ตร.ม. เชียวค่ะ เทียบให้เห็นภาพคือประมาณครึ่งหนึ่งของสนามบาสเกตบอลได้เลย แลกมากับราคาที่สูงกว่าโครงการอื่นเช่นกัน แต่การสร้างบ้าน 6 ชั้นนั้นมีข้อจำกัดทางกฎหมายควบคุมอาคารและการใช้งานที่มากกว่าบ้านทั่วไป เราอธิบายให้ฟังอย่างนี้ค่ะ

  • ในแง่กฎหมายควบคุมอาคารแล้ว บ้านที่สูงเกิน 3-4 ชั้นจะต้องมีบันไดหนีไฟเป็นกิจจะลักษณะ ใช้เป็นบันไดลิงไม่ได้ บ้านของโครงการนี้จึงต้องแบ่งพื้นที่พักอาศัยส่วนหนึ่งไปทำเป็นบันไดหนีไฟให้ถูกต้องตามขนาดที่กฎหมายกำหนด ลักษณะเหมือนทางหนีไฟในอาคารสูง ทำให้โครงการส่วนใหญ่ไม่อยากทำบ้านที่สูงเกิน 3-4 ชั้นที่ต้องเพิ่มต้นทุนในส่วนนี้ เราจึงไม่ค่อยได้เห็นบ้าน 6 ชั้นให้ซื้อหากันมากนัก แต่ในแง่ของการอยู่อาศัย เราว่าดีนะ เพราะทางหนีไฟเดินลงง่ายดีค่ะ
  • ในแง่ของงานก่อสร้างบ้าน 6 ชั้นยังต้องเตรียมงานระบบน้ำ, ไฟ, อินเตอร์เน็ต ให้ใช้งานได้อย่างดีทุกชั้น มีช่องชาร์ปทุกชั้นเพื่อให้ Maintenance ง่าย เป็นต้น

ซึ่งทำให้บ้าน Belvedere Rama 3 จะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าโครงการอื่นๆ ทุกห้องนอนมีขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว แบบที่เรียกว่าแบ่งกันคนละชั้นได้เลยค่ะ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวบนชั้นดาดฟ้าที่สูงกว่าเพื่อนบ้านรอบๆ ได้ด้วย ก่อนไปชมบ้านเราจะพาไปชมรายละเอียดของโครงการกันก่อน

โครงการ Belvedere Rama 3 จัดเป็นโครงการขนาดเล็ก 16 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณเกือบ 3 ไร่ ออกแบบมาให้มีรั้วรอบขอบชิด มีประตูโครงการที่เข้าออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน และมีระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง CCTV และ พี่รปภ. คอยดูแล 24 ชั่วโมง

จาก Masterplan จะเห็นได้ว่ามีถนนหลักอยู่บริเวณกลางโครงการ แบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่งซ้ายขวา จึงมีบ้านให้เลือก 2 ทิศคือ ตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งบ้านทิศตะวันออกเฉียงใต้จะได้หน้าบ้านที่ร่มในช่วงเช้า ห้องน้ำที่อยู่ทางด้านหลังบ้านจะได้แสงในช่วงบ่าย ช่วยให้ห้องน้ำแห้งได้ดี ส่วนบ้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้หน้าบ้านที่ร่มในช่วงเช้า เหมาะกับคนที่ชอบนอนดึก ทำงานดึก แล้วตื่นสายหน่อยค่ะ

ประตูเข้าออกโครงการเป็นประตูเหล็กบานเลื่อน ซึ่งประตูจะเปิดอัตโนมัติด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนจึงใช้งานได้สะดวก ส่วน Visitor ใช้เป็นระบบ Just-ID Visitor ที่จะบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อจากบัตรประชาชน, ใบขับขี่ และสามารถปริ้นออกมาเป็นสลิปได้ รวมถึงลูกบ้านก็สามารถยืนยันการเข้าพบผ่านระบบออนไลน์แบบ E-Stamp ได้ด้วยค่ะ

ถนนหลักกว้าง 8 เมตร (รวมฟุตบาธข้างละ 1 เมตร) ปูผิวถนนด้วยคอนกรีตแสตมป์ และเดินสายไฟลงดินทั้งหมด ทำให้บรรยากาศดูเรียบร้อยเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเหล็กรางเลื่อน
  • เข้าออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน
  • รั้วรอบโครงการสูง 3.2 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 8 เมตร (รวมฟุตบาธข้างละ 1 เมตร) เป็นคอนกรีตแสตมป์
  • ถนนหน้าโครงการปูด้วย Cobble Stone
  • เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

แบบบ้าน

โครงการ Belvedere Rama 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านโซนยุโรป ให้บรรยากาศที่ดูหรูหราและเรียบโก้ในทุกยุคทุกสมัย ดูไม่เชยเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งนอกจากดีไซน์ที่ดู Timeless แล้ว ในส่วนของ Function, Material, Engineering ก็ออกแบบมาเพื่อเป็น Timeless Living เช่นกัน รายละเอียดดังนี้ค่ะ

  • Function : ตอบโจทย์การใช้งานของผู้อยู่อาศัยที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนตามอายุที่โตขึ้น หรือ การใช้งานที่เปลี่ยนไป
  • Material : เลือกใช้วัสดุที่สวยงาม แต่ก็คงทน เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทย เช่น เลี่ยงการใช้ไม้จริง เพื่อเลี่ยงปัญหาการโก่งจากความชื้น หรือ การแตกของไม้ธรรมชาติในระยะยาว เลือกใช้หินเทียม (หิน Quartz เทียม) แทนการใช้หินจริงเนื่องจากมีความทนทาน, พื้นผิวไม่เป็นรอยง่าย มีการทดลองความแกร่งของการขูดขีดต่างๆ
  • Engineering : เน้นออกแบบและก่อสร้างงานระบบเพื่ออนาคต ให้เจ้าของบ้านสามารถดูแลรักษาหรือซ่อมแซมได้ง่าย งานระบบน้ำและไฟฟ้า จะอยู่ในแนวเดียวกัน โดยท่อน้ำต่างๆจะอยู่ที่บริเวณด้านนอกบ้าน เพื่อให้ไม่เป็นภาระกับเจ้าของหลังเข้าอยู่ ซึ่งการซ่อมท่อหรือทุบช่องชาฟท์จะเป็นภาระอย่างมาก

โดยมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ดังนี้

  • Belvedere บ้านเดี่ยว 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 648 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 59 ล้านบาท
  • Braintree บ้านแฝด 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 38.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 553 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท

แบบบ้านทั้ง 2 แบบรองรับครอบครัวใหญ่สมาชิก 4-5 คน แม้ไม่มีห้องนอนชั้นล่างแต่ก็มีลิฟต์ให้ขึ้นลงได้สะดวก จึงอยู่กันได้หลาย Generation เลยค่ะ ห้องนอนแต่ละห้องจะได้พื้นที่เต็มชั้นเลย พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง

ความแตกต่างของฟังก์ชันบ้าน จะมีในส่วนของห้องนอน ซึ่งแบบบ้านเดี่ยวจะจัดให้มี 4 ห้องในขณะที่บ้านแฝดมีทั้งหมด 3 ห้องนอน เพราะ Master Bedroom ออกแบบมาให้เป็นแบบ Duplex ทำให้สามารถแยก Walk-in Closet ไว้ชั้นล่างแบบเต็มชั้น หรือถ้าใครต้องการ Master Bedroom แบบ Duplex ในบ้านเดี่ยวก็สามารถไปเพิ่มบันไดเชื่อมชั้นบน-ล่าง (เหมือนในบ้านตัวอย่าง) เพิ่มเติมได้นะคะ อีกประเด็นคือ เฉพาะบ้านเดี่ยวที่จะมีสระว่ายน้ำ ในส่วนของที่จอดรถบ้านเดี่ยวรองรับได้ 4 คัน ส่วนบ้านแฝดจะรองรับได้ 3 คันค่ะ


บ้านตัวอย่าง : บ้านเดี่ยว Belvedere

ตัวบ้านมีขนาดใหญ่ทีเดียว เป็นบ้านที่สูงถึง 6 ชั้นเพิ่มความโดดเด่นด้วยช่องหน้าต่างที่เรียงกันเป็นระเบียบ ซึ่งทางโครงการตั้งใจออกแบบให้มีขนาดไม่ใหญ่มากแต่มีให้หลายบาน เพื่อความยืดหยุ่นในการตกแต่งภายใน เผื่อต้องการจะทำเป็นผนังทึบส่วนไหนก็สามารถปรับตกแต่งได้สะดวก ซึ่งโครงสร้างของตัวบ้านเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูนด้วยอิฐมวลเบา ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในได้ ในส่วนของผนังหน้าบ้านที่รับแสงจะก่อผนัง 2 ชั้น เพื่อช่วยลดความร้อนเข้ามาในตัวบ้าน

ฟังก์ชันมีความน่าสนใจ ดังนี้

  • บ้านเดี่ยวสูง 6 ชั้น พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวและสวน
  • พื้นที่ใช้สอยเยอะทีเดียวถึง 648 ตร.ม. เยอะกว่าโครงการอื่นในโซนนี้เลยค่ะ
  • มีลิฟท์ส่วนตัว ขนาดรองรับวีลแชร์ได้
  • ภายใน Master Bedroom ออกแบบเป็น Double Volume เพดานสูง โปร่งโล่ง และสามารถต่อเติมเป็นห้อง Duplex ได้ (ตามแบบในห้องตัวอย่าง)
  • All Penthouse Bedroom ทุกห้องนอนได้พื้นที่เต็มชั้น ห้องกว้างขวางพร้อมห้องน้ำในตัว รองรับทุกช่วงวัย
  • วิว 360 องศา บน Rooftop เห็นวิวตึกมหานคร สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา

โครงสร้างและงานระบบสำหรับอาคารสูงที่น่าสนใจ

  • บันไดหนีไฟโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ประตูเหล็กทนไฟ ตามกฎหมายความปลอดภัย ประตูหนีไฟเปิดจากภายในบ้านได้เท่านั้น แต่สามารถตั้งให้เปิดเข้าบ้านจากบันไดหนีไฟได้
  • เดินระบบท่อน้ำออกนอกอาคารเพื่อให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา
  • ท่อระบายน้ำฝน 2 ชุด ทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน (บ้านแฝด)
  • มีประตู Service ช่องชาร์ปทุกชั้น (ยกเว้นชั้น6)

ในส่วนของวัสดุต่างๆ ก็เลือกใช้แบรนด์ Top คุณภาพดี

  • โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐมวลเบา ก่อผนัง 2 ชั้น บริเวณด้านหน้าบ้านที่รับแสงแดด เพื่อช่วยลดความร้อนเข้ามาในตัวบ้าน
  • พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กแบบเทในที่เพื่อความแข็งแรง
  • ดาดฟ้าพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำกันซึม PU ง่ายต่อการดูแลในระยะยาว
  • ประตูทางเข้าหน้าบ้าน บาน HMR (High Moisture Resistance) ทำสีพ่น PU คุณภาพสูงจากโรงงาน มือจับ และ ล็อค แบรนด์ Baldwin
  • ประตูหลังบ้าน ประตูพร้อมบานเปิดระบายอากาศ แบรนด์ YKK มีโช้คป้องกันลมตีกระแทก
  • ผนังภายใน ฉาบเรียบ ทำ Skim Coat ทาสีขาวทั้งหลัง
  • ผนังตกแต่งภายนอก ใช้หิน Mocca Cream และ ฉาบเรียบทาสี
  • ที่จอดรถแบบ On Ground ปูกระเบื้องลายคอนกรีตแสตมป์
  • สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาด 2 x 7.4 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอร์ซเลน
  • พื้นชั้น 2 : กระเบื้องพอร์ซเลน และกระเบื้องลายไม้
  • พื้นชั้น 3,4,5,6 : ไม้ Compound solid structure แบรนด์ Champaca ใช้ไม้สักทั้งไม้ด้านล่างและด้านบน ไม้ท็อปหนา 3 mm. สามารถซ่อมสีได้ และกระเบื้องพอร์ซเลน
  • พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องพอร์ซเลน
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก แผ่นบันไดหินควอทซ์เทียมสีขาว
  • ลิฟต์ Kone จาก Finland รองรับรถเข็น และ ผู้ติดตาม (รับน้ำหนัก 400kg / ผู้โดยสาร 5คน)
  • สุขภัณฑ์ TOTO เป็นหลัก, Master Bathroom ใช้สุขภัณฑ์​ TOTO แบบอัตโนมัติ รุ่น Neorest , ห้อง Maid ใช้ American Standard
  • Master Bathroom ให้อ่างอาบน้ำ TOTO อ่างล้างหน้า His and Her มีกระจกกั้นอาบน้ำ
  • เครื่องทำน้ำร้อน Stiebel Eltron ขนาด 150 L
  • ระบบไฟ 3 เฟส 50(150)
  • มี Junction รองรับการติดตั้งเครื่อง EV Charger 1 เครื่อง และเตรียมสายไฟรองรับได้อีก 1 เครื่อง
  • เดินสายไฟรองรับการติดตั้ง Solar Cell สามารถติดตั้งได้ทั้งหมด 13 แผ่น กำลังติดตั้งรวม 8.645 kWp (ขออนุญาตติดตั้งให้แล้ว แต่โครงสร้างเพื่อติดแผงลูกค้าต้องทำเอง)
  • Emergency Light เป็น Downlight ที่ให้มาชั้นละ 1 จุด บริเวณหน้าโถงลิฟต์
    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ชั้น 1

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บ้านของโครงการออกแบบให้เป็นบ้านหน้ากว้าง ตัวบ้านไม่ลึกมากเปิดรับแสงธรรมชาติและลมให้พัดผ่านตัวบ้านได้ดี โครงการวางบ้านชิดฝั่งซ้ายของแปลงที่ดินเพื่อแบ่งพื้นที่ด้านข้างเป็นพื้นที่จอดรถ จัดเป็นที่จอดรถแบบซ้อนกันได้ 4 คัน และมีสระว่ายน้ำอยู่บริเวณหน้าบ้าน ส่วนพื้นที่รอบบ้านจะเว้นระยะถอยร่นตามกฎหมายเป็นพื้นที่สำหรับวางงานระบบและปลูกต้นไม้ได้นิดหน่อยในโซนหลังบ้านค่ะ

พื้นที่ภายในบ้านจัดฟังก์ชันหลักไว้เป็น Living Area ซึ่งจะมี Pantry ให้เตรียมน้ำเตรียมขนมได้นิดหน่อย สำหรับใครที่อยากได้ครัวไทยเป็นกิจจะลักษณะ แนะนำให้ต่อเติมเพิ่มนะคะ สำหรับห้องน้ำจะเป็นแบบ Powder Room ไว้รองรับแขกโดยเฉพาะ ในส่วนของแม่บ้านก็จะมีห้องนอนและห้องน้ำแยกไว้ต่างหาก เข้าถึงได้จากภายนอกบ้านแยกส่วนจากตัวบ้านชัดเจนค่ะ

ที่จอดรถข้างบ้านกว้างประมาณ 6 เมตร ลึกประมาณ 10.8 เมตร จึงสามารถจอดรถ 4 คันแบบจอดซ้อนกันได้สบาย รองรับรถที่มีความยาวพิเศษอย่าง Alphard ได้ แต่รถที่จอดซ้อนด้านหน้าก็แนะนำเป็นรถที่ไม่ยาวมากอย่าง Mini Cooper ก็จอดซ้อนคันกันได้ค่ะ

ส่วนที่เป็นเส้นประสีแดงจะเป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งในบ้านตัวอย่างจะมีการต่อเติมห้องขึ้นมาเพิ่ม แต่ในบ้านมาตรฐานจะเป็นที่จอดรถโล่งๆ พร้อม Junction รองรับการติดตั้งเครื่อง EV Charger 1 เครื่อง และเตรียมสายไฟรองรับได้อีก 1 เครื่องค่ะ

พื้นจะปูกระเบื้องลายคอนกรีตแสตมป์ไว้ให้ ในส่วนนี้ทางโครงการจะเทพื้นแบบ Slab On Ground (ทางโครงการบอกมาว่าเนื่องจากที่ดินแถวนี้เป็นที่อยู่อาศัยเดิม ดินค่อนข้างแน่นอยู่แล้ว ทรุดตัวน้อยค่ะ) ซึ่งโครงการจะตัด Joint แยกที่จอดรถกับตัวบ้านไว้ให้ เผื่อมีการทรุดตัวจะไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างบ้านค่ะ

บริเวณประตูหน้าบ้านออกแบบเป็น Canopy คือมีหลังคายื่นออกมาเพื่อบังแดดบังฝน และดูเก๋เหมือนบ้านในยุโรป พื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับที่จอดรถและสระว่ายน้ำ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าบ้านทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

สระว่ายน้ำ

Image 1/3
สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ

เฉพาะบ้านเดี่ยวที่มีสระว่ายน้ำติดตั้งมาให้เลยนะคะ เป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาด 2 x 7.4 เมตร ลึก 1.2 เมตร หากต้องการใช้ว่ายออกกำลังกายแบบจริงจังก็สามารถติดตั้งเครื่องว่ายทวนกระแสน้ำเพิ่มได้ ซึ่งจากบริเวณพื้นที่นั่งเล่นจะมองออกมาได้วิวสระพอดี

หากใครกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวในการว่ายน้ำ ทางโครงการจะมีการเว้นพื้นที่ริมรั้วให้สามารถปลูกไม้พุ่มเพื่อช่วยบังสายตาเพิ่มขึ้นได้อีกชั้นหนึ่งนะคะ

ประตูบ้านเป็นบาน HMR (High Moisture Resistant Board) พ่นสีคุณภาพสูงจากโรงงาน ซึ่งวัสดุชนิดนี้สามารถทนความชื้นได้สูง มีความทนทานสวยงาม และบานประตูก็มีโช้คช่วยป้องกันลมตีกระแทกได้ และประตูเปิดได้กว้าง 2 ฝั่งจึงสามารถยกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ เข้าได้สบาย

เมื่อเข้าบ้านมาส่วนแรกเป็น Foyer หรือพื้นที่ต้อนรับส่วนแรก ก่อนจะเข้าไปยังห้องรับแขก เราว่าเป็นโซนที่เหมาะสำหรับจัดเป็นพื้นที่โชว์ของสะสม งานศิลปะ หรือ Art Toy สวยๆ ที่แสดงตัวตนของผู้อยู่อาศัย และยังเหมาะจะกั้นเป็นห้องเก็บรองเท้าและมุมนั่งใส่รองเท้า เพื่อให้สะดวกในการใช้งานด้วยค่ะ

Image 1/3
Living Area และ Pantry

Living Area และ Pantry

Living Area เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เปิดโล่งเชื่อมถึงกันทั้งชั้น อีกทั้งฝ้าเพดานสูงถึง 3 เมตร ทำให้ตัวบ้านดูโปร่ง พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 cm. ซึ่งมีข้อดีในเรื่องความสวยงามทนทาน ดูแลรักษาง่าย

ภายในห้องนี้มีขนาดเพียงพอที่จะวางโซฟา 5-6 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ เหมาะจะใช้เป็นพื้นที่รับแขกเพราะอยู่ชั้นล่างสุด มี Pantry ครัวขนาดย่อมสำหรับเตรียมขนมหรืออุ่นอาหารได้นิดหน่อย และจากห้องนี้จะมองเห็นวิวสระบริเวณหน้าบ้านได้พอดีค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room คือมีเฉพาะพื้นที่ส่วนแห้ง ใช้รองรับแขก จึงไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำ เพราะทุกห้องนอนในบ้านจะมีห้องน้ำในตัวอยู่แล้ว ภายในมีสุขภัณฑ์ติดตั้งมาครบใช้ยี่ห้อ TOTO เป็นหลัก ส่วนที่ชอบคือกระจกบานใหญ่ที่ให้มาเต็มผนังทำให้บรรยากาศในห้องดูกว้างขึ้น

ประตูหลังบ้านเป็นประตูที่ออกแบบให้เปิดระบายอากาศได้ โครงการเลือกใช้ยี่ห้อ YKK เปิดปิดง่ายตามมาตรฐานญี่ปุ่น และมีโช้คป้องกันลมตีกระแทกด้วยค่ะ

พื้นที่หลังบ้านมีระยะกว้าง 2 เมตร หากใครต้องการห้องครัวไทยแบบเป็นกิจจะลักษณะในชั้น 1 คงต้องต่อเติมหลังบ้านเพิ่มเติม ซึ่งในพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านไว้ให้เพื่อรองรับการต่อเติม อย่างไรก็ตามเราแนะนำให้ปรึกษาวิศวกรเรื่องโครงสร้างและกฎหมายการต่อเติมด้วยนะคะ

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ในส่วนของพื้นที่รอบบ้านก็จะมีห้องแม่บ้านแยกไว้ให้ต่างหาก พร้อมห้องน้ำในตัว ซึ่งการแยกห้องนอนแม่บ้านให้เข้าจากนอกตัวบ้าน ทำให้เวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ก็สามารถปิดล็อคตัวบ้านได้โดยไม่กระทบต่อการอยู่อาศัยของแม่บ้านค่ะ

กลับมาต่อกันที่โถงบันไดมีความกว้างเกือบ 1 เมตร บันไดจะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทางโครงการเค้ามองถึงการอยู่อาศัยในระยะยาว จึงพยามเลือกวัสดุที่ทนทาน ดูแลรักษาง่าย ตัวบันไดปิดผิวด้วยหินควอทซ์เทียมสีขาว ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อน้ำหนักและสารเคมี แถมยังเป็นหินที่มีรูพรุนน้อยมาก ไม่สะสมสิ่งสกปรก ทำความสะอาดได้ง่ายและจัดเป็นหินที่มีราคาสูงในท้องตลาด

ลักษณะบันไดเป็นตัว U มาพร้อมราวจับ ซึ่งโครงการจะใช้เป็นไม้ทำสี แต่จะไม่มีไฟใต้ราวบันไดมาให้นะคะ

นอกจากบันไดแล้วยังมีลิฟต์ติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ ยี่ห้อ KONE ของประเทศ Finland รุ่น Mono Space DX ขนาดประมาณ 0.9×1 เมตร กว้างพอที่จะเข้าได้ทั้งคนและวีลแชร์ เป็นลิฟต์ระบบรอก รุ่นที่ไม่มีห้องเครื่อง ทำให้เสียงการทำงานค่อนข้างเบา และประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง เราว่าลิฟต์ที่นี่ทำงานได้รวดเร็วดีนะคะ ตัวลิฟต์มีการรับประกันและมี KONE Customer Care Center ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ชั้น 2

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

จัดเป็นชั้นที่รวมฟังก์ชันของการพักอาศัยร่วมกันในครอบครัว ทั้ง Living Area + Dining Area + Pantry ครัว ซึ่งเปิดโล่งเชื่อมถึงกันทำให้พื้นที่ดูกว้างขวาง และมีห้องน้ำแบบ Powder Room บนชั้นนี้อีก 1 ห้อง

บ้านตัวอย่างจะกั้นผนังเพิ่มเพื่อกั้นห้องนั่งเล่นให้เป็นสัดส่วน ซึ่งการกั้นห้องลักษณะนี้ก็ช่วยแอร์ให้ทำงานลดลงด้วยค่ะ เมื่อขึ้นบันไดมาเราจึงเจอกับโถงลิฟต์เป็นลำดับแรก ซึ่งบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติจากภายนอกผ่านหน้าต่างบานใหญ่

พื้นบ้านจะเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนทั้งชั้น จึงสวยงามทนทานและดูแลรักษาง่าย แต่บ้านตัวอย่างจะมีการเปลี่ยนพื้นบางส่วนเป็นพื้นไม้ ส่วนฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด

อย่างที่เกริ่นไปว่าห้องนี้จะรวมไว้ทั้ง Living Area + Dining Area + Pantry ครัว จึงเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่เต็มชั้น น่าจะเป็นห้องโปรดของสมาชิกในครอบครัวที่มาทานอาหาร นั่งดูทีวีร่วมกัน ซึ่งพื้นที่โต๊ะอาหารจะอยู่ติดกับ Pantry ครัว จึงใช้งานได้ต่อเนื่อง

พื้นที่ทานอาหารเพียงพอสำหรับวางโต๊ะขนาด 8-10 ที่นั่งได้เลย รองรับทั้งครอบครัวขนาดใหญ่และการจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในครอบครัว เราชอบที่ตำแหน่งของโต๊ะอยู่ตรงกับตำแหน่งของหน้าต่างพอดี จึงมองเห็นวิวภายนอกได้ด้วยค่ะ

Image 1/2
Pantry ครัว

Pantry ครัว

พื้นที่ของ Pantry ครัวมีขนาดใหญ่พอที่จะ Built-in ชุดครัวขนาดใหญ่ได้เลย ซึ่งโครงการจะเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและซิงค์ล้างจานต่างๆ ไว้ให้ แต่ก็เหมาะจะทำอาหารที่ไม่ได้มีกลิ่นควันฉุนมากนัก หรือจัดเป็นบาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มก็ดูจะเหมาะสำหรับมุมนี้นะคะ

Image 1/2
Living Area

Living Area

สำหรับ Living Area จัดเป็นพื้นที่เข้ามุมติดหน้าต่าง 2 ฝั่ง มองออกไปเห็นยอดต้นไม้สีเขียว จึงเป็นมุมที่ดู Homey น่าพักผ่อนมากเลย เหมาะกับวันที่ไม่ได้มีแขกมาหา สมาชิกในครอบครัวก็สามารถดูหนัง ทานข้าว อย่างใกล้ชิดกันที่ห้องนี้ได้ พื้นที่มีขนาดใหญ่แบบที่วางชุดโซฟา 5-6 ที่นั่ง พร้อมทีวีขนาดใหญ่แบบ 100 นิ้วขึ้นไปได้เลยนะคะ

หน้าต่างบนชั้นนี้ออกแบบให้เป็นบานใหญ่ที่เปิดรับลมได้แบบกว้างๆ เกือบถึงพื้นจรดฝ้า ทางโครงการจึงติดตั้งราวกันตกมาให้ วัสดุเป็น Wrought Iron เป็นเหล็กชนิดที่มีความแข็งแรงที่สุด และไม่เป็นสนิม ทำลวดลายโค้งได้กลิ่นอายแบบยุโรป

ปิดท้ายชั้นนี้ด้วยห้องน้ำแบบ Powder Room อยู่โซนด้านหน้าติดกับ Pantry ครัว

Image 1/4
Powder Room

Powder Room

ภายใน Powder Room จะมีเฉพาะพื้นที่ส่วนแห้ง เพราะทุกห้องนอนในบ้านจะมีห้องน้ำในตัวอยู่แล้ว มาพร้อมสุขภัณฑ์ครบถ้วนใช้ยี่ห้อ TOTO เป็นหลัก พร้อมเคาน์เตอร์ห้องน้ำที่กรุด้วยหินสังเคราะห์ ส่วนที่ชอบคือกระจกบานใหญ่ที่ให้มาเต็มผนังทำให้บรรยากาศในห้องดูกว้างขึ้น และมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้ด้วยค่ะ

ชั้น 3 และชั้น 4

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

พื้นที่บนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom แบบเต็มชั้น ภายในมีห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่เลยค่ะ จุดที่น่าสังเกตคือมีพื้นที่แบบ Double Volume ให้บรรยากาศที่โปร่งโล่ง เชื่อมกับชั้น 4 ได้เลย

ในบ้านตัวอย่างจะมีการเชื่อมพื้นที่ 2 ชั้นเข้าด้วยกัน เป็น Master Bedroom แบบ Duplex จัดชั้น 3 เป็น Walk-in Closet แบบเต็มชั้น เอาใจสาย Fashionista และจัดชั้น 4 เป็นห้องนอน ซึ่งบนชั้น 4 ก็จะมีห้องน้ำในตัวอีกห้องหนึ่งด้วย หากครอบครัวไหนที่มีลูกๆ หลายคนก็อาจจะแยกห้องนอนบนชั้น 4 ให้คุณลูกไปได้

Image 1/7
Walk-in Closet

Walk-in Closet

Walk-in Closet เป็นห้องทรงผืนผ้ายาวๆ ที่เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ 2 ฝั่ง พื้นที่ใหญ่จนสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งแยกชายหญิงได้เลย โซนนี้จะได้ช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาช่วยให้ห้องดูสว่าง และโซนด้านในก็เป็นห้องกว้างจึงสามารถวางเคาน์เตอร์เก็บของแบบ Island ได้ ใครที่ชอบห้องแต่งตัวใหญ่ๆ การจัดฟังก์ชันบ้านตามแบบในห้องตัวอย่างนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

Image 1/5
Master Bathroom

Master Bathroom

Master Bathroom ให้อ่างล้างหน้าแบบ His&Her กรุด้วยหินอ่อน มีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนต่อความชื้นได้ดีและดูสวยงามหรูหรา โครงการเดินระบบน้ำมาให้รองรับท่อน้ำร้อน/น้ำเย็น ซึ่งเราไม่ต้องมาติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนทีละห้องนะคะ ทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน Stiebel Eltron ขนาดใหญ่ 150 L ซึ่งจะส่งน้ำไปยังห้องน้ำต่างๆ ได้ทั้งอาคารค่ะ

ด้านข้างอ่างล้างหน้าจะมีประตูบานเลื่อนสำหรับเปิดระบายอากาศด้วย เป็นกระจกฝ้าเพื่อให้แสงส่องผ่านเข้ามาได้ แต่มองไม่เห็นภายในห้องน้ำค่ะ

ห้องอาบน้ำมีขนาดใหญ่ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะมีฉากกั้นกระจกแบรนด์ Critina มาให้ แต่ในบ้านตัวอย่างยังไม่ได้ติดตั้งไว้นะคะ มาพร้อมชุดสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำจาก TOTO ซึ่งถือเป็นแบรนด์ระดับ Top ที่มีนวัตกรรมการผลิตแบบใหม่ๆ เช่นการเคลือบสาร CEFIONTECT ที่ช่วยให้พื้นผิวสุขภัณฑ์เรียบลื่น สิ่งสกปรกเกาะติดได้ยากขึ้น ช่วยยืดระยะเวลาใช้งานของสุขภัณฑ์

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.2 x 1.2 เมตร มี Rain Shower ติดตั้งมาให้ด้วย เราชอบตำแหน่งอาบน้ำที่อยู่ติดหน้าต่างนะ เพราะสามารถเปิดระบายความชื้นได้ง่าย ห้องน้ำแห้งไวดีค่ะ

สุขภัณฑ์จะได้เป็นแบบอัตโนมัติยี่ห้อ TOTO

Image 1/2
อ่างอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำจะวางเข้ามุมไว้เป็นสัดส่วน อ่างมีขนาด 0.6 x 1.5 เมตร เลือกใช้เป็นอ่างลอยจึงสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และดูโมเดิร์นหรูหรา

พื้นห้องน้ำลดระดับลงจากส่วนอื่นของห้องเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนไปส่วนอื่น

Image 1/2
บันไดเชื่อมพื้นที่ชั้น 4

บันไดเชื่อมพื้นที่ชั้น 4

ด้านในสุดของห้อง…ทางบ้านตัวอย่างได้ต่อเติมบันไดเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมกับชั้น 4 ทำให้ Master Bedroom ในบ้านตัวอย่างเป็นห้องแบบ Duplex แต่ถ้าไม่ต่อเติมพื้นที่ส่วนนี้จะเป็น Double Volume ได้ฝ้าเพดานสูงโปร่งพิเศษแทนค่ะ

Image 1/3
พื้นที่อเนกประสงค์

พื้นที่อเนกประสงค์

นอกจากจะต่อเติมบันไดเพิ่มแล้ว ภายในบ้านตัวอย่างยังต่อเติมพื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มด้วย หากใช้เป็นห้องทำงานก็ได้ความเป็นส่วนตัวดี แยกออกจากห้องนอนอย่างเป็นสัดส่วน ช่วยลดเสียงรบกวนจากทีวีได้ด้วยค่ะ

พื้นที่ส่วนนี้กว้างประมาณ 3.8 x 2.8 เมตร เพียงพอสำหรับวางโต๊ะทำงาน, ชั้นวางของและชุดโซฟาได้ครบถ้วน

เข้ามาด้านในห้องนอนเจอกับห้องน้ำเป็นส่วนแรก หากต้องการเข้าห้องน้ำเวลากลางคืนก็สามารถใช้งานได้สะดวกไม่ต้องเดินลงไปชั้นล่าง

Image 1/3
ห้องน้ำในห้องนอน

ห้องน้ำในห้องนอน

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ชัดเจน พร้อมหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้ ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.2 x 1.2 เมตร ถือว่ากว้างเลย มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำให้ใช้งานได้สะดวก

Image 1/2
ห้องนอนบนชั้น 4

ห้องนอนบนชั้น 4

ถัดเข้ามาเป็นส่วนพักผ่อน มีพื้นที่กว้างทีเดียว เพียงพอสำหรับวางเตียงนอน 5-6 ฟุต พร้อมชุดโซฟาสำหรับนั่งเล่น พื้นที่ข้างเตียงฝั่งหนึ่งสามารถทำเป็นชั้นวางของได้และอีกฝั่งหนึ่งเป็นกระจกบานใหญ่รับแสงและวิวได้เต็มที่

Image 1/2
พื้นที่อเนกประสงค์ในห้องนอน

พื้นที่อเนกประสงค์ในห้องนอน

พื้นที่อเนกประสงค์ในห้องนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่าง 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งจะมองออกไปเห็นวิวด้านนอก และฝั่งหนึ่งจะมองออกมาเห็นพื้นที่ชั้น 3 ผ่าน Double Volume

ชั้น 5

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

พื้นที่ชั้น 5 จัดเป็นห้องนอนรองห้องแรกแบบเต็มชั้นเลยนะคะ จึงได้พื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับวางเตียงนอน, พื้นที่นั่งเล่นดูทีวี, พื้นที่แต่งตัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำ พร้อมระเบียงแบบ Outdoor ขนาดใหญ่เลยค่ะ

Image 1/2
โถงลิฟต์หน้าห้องนอน

โถงลิฟต์หน้าห้องนอน

บริเวณหน้าห้องนอนจะมีโถงลิฟต์และทางเดินกว้างให้ใช้งานได้สะดวก และยังมีพื้นที่สำหรับวางของสะสม, ของตกแต่งที่แสดงถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้เลย

อีกจุดหนึ่งที่อยากพาทุกคนมาชมคือ งานระบบของอาคารจะมีประตู Service ช่องชาร์ปทุกชั้น (ยกเว้นแค่ชั้น 6) เพื่อให้ง่ายต่อการต่อเติมและซ่อมแซมอาคารในระยะยาวค่ะ

Image 1/4
ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1

เข้ามาในห้องนอนรอง 1 จะเห็นว่าพื้นที่มีขนาดใหญ่พอที่จะแบ่งโซนออกเป็นพื้นที่วางเตียงนอนและพื้นที่อเนกประสงค์ได้เลย ใครจะจัดเป็นมุมอ่านหนังสือ, ทำงาน หรือเป็นพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเลยค่ะ

ถ้าเทียบกับโครงการโดยรอบแล้ว ถือว่าห้องนอนรองของโครงการนี้มีขนาดใหญ่มากเลย บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง จากแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่

ประตูระเบียงเป็นบานสวิงเปิดออกได้กว้างทีเดียว ห้องนี้เป็นห้องเดียวที่มีระบียงในตัว เหมาะกับคนที่ชอบใกล้ชิดธรรมชาติ มีพื้นที่ Outdoor ให้ปลูกต้นไม้และออกไปสูดอากาศได้

Image 1/5
ระเบียงในห้องนอนรอง 1

ระเบียงในห้องนอนรอง 1

ระเบียงของห้องนอนรอง 1 มีพื้นที่ขนาดประมาณ 3.8 x 3.2 เมตร พื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมทา Roof Shield เพื่อป้องกันน้ำซึมทับไว้อีกชั้น หรือใครจะปูพื้นไม้, ทำหลังคาเพิ่มเติมแบบในบ้านตัวอย่างก็สามารถเก็บภาพไว้เป็นไอเดียได้นะคะ ในส่วนของราวกันตกจะใช้เป็นกระจก จึงดูโปร่งๆ ไม่เกะกะสายตาดี

Image 1/3
Walk-in Closet ในห้องนอนรอง 1

Walk-in Closet ในห้องนอนรอง 1

Walk-in Closet ในห้องนอนรอง 1 จะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก โดยพื้นที่บริเวณนี้จะสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ฝั่ง และโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกลางได้อีก 1 โต๊ะ หากทำตามแบบในบ้านตัวอย่างจะมีขนาดทางเดินกว้างประมาณ 1 เมตร ให้เดินเข้าออกได้พอดีๆ

Image 1/4
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1

ด้านในสุดของ Walk-in Closet จะเชื่อมกับห้องน้ำ ซึ่งภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ชัดเจน ด้านในสุดจะมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดระบายอากาศได้ ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.1 x 1.8 เมตร กว้างมากๆ เลยค่ะ ใช้งานได้สะดวกแน่นอน และจะมีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ด้วย สุขภัณฑ์ต่างๆ ก็จะใช้ของ TOTO เป็นหลักเช่นกัน

ชั้น 6

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

แปลนชั้น 6 จะคล้ายกับชั้น 5 เลยค่ะ ได้พื้นที่เต็มชั้น มีขนาดใหญ่พอๆ กัน และมีห้องน้ำในตัว ต่างกันที่ห้องนี้จะไม่ได้มีระเบียงมาให้

Image 1/8
ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2

ภายในห้องนอนรอง 2 มีพื้นที่กว้างจนสามารถแบ่งพื้นที่หน้าห้องเป็นมุมอ่านหนังสือได้อย่างจริงจัง หรือถ้าเจ้าของห้องอยู่ในเป็นวัยทำงานก็ตอบโจทย์การ Work From Home เลย บริเวณหน้าห้องน้ำก็จะมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Colset เช่นเดียวกับห้องนอนรอง 1 ส่วนของบรรยากาศภายในห้องก็ดูโปร่งโล่งไม่แพ้กัน เพราะมีหน้าต่างบานใหญ่ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะทีเดียว

สำหรับทางขึ้นชั้นดาดฟ้าจะต้องใช้บันไดหนีไฟในการขึ้นไปนะคะ ซึ่งบันไดหนีไฟนั้นเป็นไปตามกฎหมายความปลอดภัยของอาคารที่สูงเกิน 3-4 ชั้น ทำให้บันไดหนีไฟของโครงการนี้เป็นกิจจะลักษณะ ใช้งานง่ายต่างจากโครงการอื่นๆ บานประตูเป็นเหล็กทนไฟ ซึ่งออกแบบให้เปิดออกจากอาคารได้เท่านั้น ไม่สามารถเปิดเข้าได้ (ยกเว้นแต่จะใช้กุญแจเท่านั้นนะคะ)

ตัวบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขัดเรียบ มีความกว้างตามมาตรฐาน พร้อมราวจับบันไดตามมาตรฐาน

Image 1/4
Rooftop

Rooftop

ชั้นดาดฟ้าออกแบบมาให้มีผนังกันตก ทำให้ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้งานได้และเป็นพื้นที่วางระบบ Service อีกทั้งทางโครงการยังเดินระบบไฟไว้รองรับการติดตั้ง Solar Cell ด้วยค่ะ ซึ่งสามารถติดตั้งได้ทั้งหมด 13 แผ่น กำลังติดตั้งรวม 8.645 kWp (ขออนุญาตติดตั้งให้แล้ว แต่โครงสร้างเพื่อติดแผงลูกค้าต้องทำเองนะคะ)

ในส่วนของหลังคาจะเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมปิดทับด้วย PU เพื่อกันซึมอีกชั้นหนึ่ง ทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายในระยะยาว และอีกดีเทลหนึ่งที่ออกแบบให้น้ำบนดาดฟ้าระบายได้ดีคือมีท่อระบายน้ำทั้งฝั่งด้านหน้าและหลังบ้านค่ะ

Image 1/4
วิวจาก Rooftop ทางฝั่งสะพานพระราม 9

วิวจาก Rooftop ทางฝั่งสะพานพระราม 9

จาก Rooftop เราสามารถมองออกไปเห็นสะพานข้ามแม่น้ำทั้ง 2 สะพานเลยนะคะ ทั้งสะพานภูมิพล 1 และสะพานพระราม 9 ใครชอบชมพระอาทิตย์ตกแนะนำให้เลือกบ้านที่หันหน้าออกทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และยังมองเข้าเมืองไปเห็นตึกมหานครด้วยค่ะ

ปิดท้ายด้วยระบบท่อน้ำ ซึ่งทางโครงการตั้งใจเดินระบบไว้ด้านนอกอาคาร เพื่อให้ Maintenance ได้สะดวกในอนาคต


บ้านตัวอย่าง : บ้านแฝด Braintree

ถัดมาที่แบบบ้าน Briantree เป็นบ้านแฝดที่มีความสูงถึง 6 ชั้น สไตล์ Modern Classic หน้าตาคล้ายบ้านเดี่ยวเลยค่ะ ถึงแม้จะเป็นบ้านแฝดแต่ทางโครงการก็ก่อผนัง 2 ชั้นบริเวณผนังระหว่างบ้านแฝด เพื่อลดเสียงรบกวนของเพื่อนบ้าน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้บริเวณหน้าบ้านที่รับแสงก็จะก่อผนัง 2 ชั้นเช่นกัน เพื่อช่วยลดความร้อนเข้ามาในตัวบ้าน

สำหรับแบบบ้านนี้เราอยากพาทุกคนไปชมบรรยากาศและฟังก์ชันต่างๆ ในตัวบ้านเป็นหลัก ในเรื่องของวัสดุจะไม่แตกต่างจากแบบบ้านเดี่ยวมากนัก เลือกใช้แบรนด์ Top คุณภาพดีเหมือนกัน ซึ่งเราสรุปไว้ให้ ดังนี้ค่ะ

  • โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐมวลเบา ก่อผนัง 2 ชั้น บริเวณด้านหน้าบ้านที่รับแสงแดดและบริเวณผนังระหว่างบ้านแฝด
  • พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กแบบเทในที่เพื่อความแข็งแรง
  • ดาดฟ้าพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำกันซึม PU และหลังคา Skylight บริเวณโถงบันไดหลักชั้นบนสุด
  • ประตูทางเข้าหน้าบ้าน บาน HMR (High Moisture Resistance) ทำสีพ่น PU คุณภาพสูงจากโรงงาน มือจับ และ ล็อค แบรนด์ Baldwin
  • ประตูหลังบ้าน ประตูพร้อมบานเปิดระบายอากาศ แบรนด์ YKK มีโช้คป้องกันลมตีกระแทก
  • ผนังภายใน ฉาบเรียบ ทำ Skim Coat ทาสีขาวทั้งหลัง
  • ผนังตกแต่งภายนอก ใช้หิน Mocca Cream และฉาบเรียบทาสี
  • ที่จอดรถแบบ On Ground ปูกระเบื้องลายคอนกรีตแสตมป์
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอร์ซเลน
  • พื้นชั้น 2 : กระเบื้องพอร์ซเลน และกระเบื้องลายไม้
  • พื้นชั้น 3,4,5,6 : ไม้ Compound solid structure แบรนด์ Champaca และ กระเบื้องพอร์ซเลน
  • พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องพอร์ซเลน
  • โครงบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก  แผ่นบันไดหินควอทซ์เทียมสีขาว
  • ลิฟต์ Kone จาก Finland รองรับรถเข็น และ ผู้ติดตาม (รับน้ำหนัก 400kg / ผู้โดยสาร 5คน)
  • สุขภัณฑ์ TOTO เป็นหลัก, Master Bedroom ให้สุขภัณฑ์​ TOTO แบบอัตโนมัติ รุ่น Neorest , ห้อง Maid ใช้ American Standard
  • Master Bathroom ให้อ่างอาบน้ำ TOTO อ่างล้างหน้า His and Her มีกระจกกั้นอาบน้ำ
  • เครื่องทำน้ำร้อน Stiebel Eltron ขนาด 150 L
  • ระบบไฟ 3 เฟส 30(100)
  • มี Junction รองรับการติดตั้งเครื่อง EV Charger 1 เครื่อง และเตรียมสายไฟรองรับได้อีก 1 เครื่อง
  • เดินสายไฟรองรับการติดตั้ง Solar Cell สามารถติดตั้งได้ทั้งหมด 14 แผ่น กำลังติดตั้งรวม 9.31 kWp (ขออนุญาตติดตั้งให้แล้ว แต่โครงสร้างเพื่อติดแผงลูกค้าต้องทำเอง)
  • Emergency Light เป็น Downlight ที่ให้มาชั้นละ 1 จุด บริเวณหน้าโถงลิฟต์
    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ชั้น 1

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บ้านแฝดจะเป็นบ้านหน้ากว้าง ตัวบ้านไม่ลึกมากเช่นเดียวกับบ้านเดี่ยว ทำให้แสงและลมธรรมชาติสามารถพัดผ่านตัวบ้านได้สะดวก เนื่องจากเป็นบ้านแฝดทำให้มีพื้นที่รอบบ้านเพียง 3 ฝั่ง และมีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้ได้นิดหน่อยทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน สำหรับข้างบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถได้ 3 คัน แบบซ้อนคัน

พื้นที่ภายในบ้านจัดฟังก์ชันหลักไว้เป็น Living&Dining Area และจะมี Pantry ครัวเปิดแบบฝรั่งให้เตรียมน้ำเตรียมอาหารได้นิดหน่อย สำหรับใครที่อยากได้ครัวไทยเป็นกิจจะลักษณะ แนะนำให้ต่อเติมเพิ่มนะคะ สำหรับห้องน้ำจะเป็นแบบ Powder Room ไว้รองรับแขกโดยเฉพาะ ในส่วนของแม่บ้านก็จะมีห้องนอนและห้องน้ำแยกไว้ต่างหาก

Image 1/3
ที่จอดรถหน้าบ้าน

ที่จอดรถหน้าบ้าน

ที่จอดรถข้างบ้านกว้างประมาณ 5.8 เมตร ลึกประมาณ 10 เมตร สามารถจอดรถได้ 3 คันแบบจอดซ้อนกันได้ บริเวณนี้จะมี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger 1 เครื่อง และเตรียมสายไฟรองรับได้อีก 1 เครื่อง ซึ่งงานระบบจะถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อยในตู้ที่ดูเรียบเนียนไปกับผนังค่ะ

ด้านหน้าบ้านจะมีพื้นที่เฉลียงให้จัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้สนามสำหรับนั่งเล่นในสวนได้ ซึ่งบริเวณนี้สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงาได้นะคะ

ซุ้มประตูหน้าบ้านถูกออกแบบให้เป็น Canopy มีหลังคายื่นออกมาเพื่อบังแดดบังฝน บรรยากาศเหมือนบ้านในยุโรปเลย

Image 1/2
Foyer

Foyer

เข้ามาด้านในบ้านจะเจอกับ Foyer เป็นลำดับแรก พื้นที่ส่วนนี้ใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับ-พักคอย, เก็บรองเท้า ก่อนที่จะเข้าถึงส่วนพักผ่อนอื่นๆ ในบ้าน ซึ่งบ้านมาตรฐานจะไม่ได้กั้นเป็น Foyer แบบนี้แต่จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมถึงกันทั้งชั้น เราจึงจัดฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวได้ค่ะ

Image 1/3
Pantry ครัวและพื้นที่ทานอาหาร

Pantry ครัวและพื้นที่ทานอาหาร

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็น Common Area กว้างๆ ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดฟังก์ชันเป็น Pantry ครัวขนาดใหญ่และพื้นที่ทานอาหาร หากต้องการต่อเติมพื้นที่หลังบ้านทางโครงการได้ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านไว้ให้เพื่อรองรับการต่อเติมแล้ว อย่างไรก็ตามเราแนะนำให้ปรึกษาวิศวกรเรื่องโครงสร้างและกฎหมายการต่อเติมด้วยนะคะ

ติดกับลิฟต์จะมีห้องน้ำแบบ Powder Room ที่เตรียมไว้สำหรับรับแขกค่ะ

Image 1/2
Powder Room

Powder Room

ภายในมีสุขภัณฑ์ติดตั้งมาครบใช้ยี่ห้อ TOTO เป็นหลัก ส่วนที่ชอบคือกระจกบานใหญ่ที่ให้มาเต็มผนังทำให้บรรยากาศในห้องดูกว้างขึ้น

เราสามารถขึ้นชั้นบนได้ทั้งทางลิฟต์และบันได สเปคของลิฟต์และบันไดจะเหมือนกับบ้านเดี่ยวเช่นกัน

ชั้น 2

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

พื้นที่บนชั้น 2 จัดเป็นพื้นที่พักผ่อนหลักของบ้านอีก 1 ชั้น ทำให้ได้พื้นที่กว้างแบบเต็มชั้น สามารถจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่ และ Pantry สำหรับเตรียมน้ำเตรียมขนมได้ในชั้นนี้ และมีห้องน้ำรองรับไว้ครบครัน

Image 1/5
Living Area บนชั้น 2

Living Area บนชั้น 2

บ้านตัวอย่างตกแต่งพื้นที่ชั้น 2 ให้ได้บรรยากาศแบบ Modern Classic ดูขาวสะอาดตา ตัดกับประตูกั้นห้องที่ใช้วงกบสีดำ ซึ่งในส่วนนี้ทางโครงการตกแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และยังช่วยควบคุมอุณหภูมิของแอร์ภายในห้องได้ง่ายขึ้น

ภายในมีพื้นที่กว้างมากเลยค่ะ สามารถวางชุดโซฟาขนาด 5-6 ที่นั่งได้สบาย และติดทีวีขนาดใหญ่แบบ 100 นิ้วได้เลย ด้านข้างจะเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว เวลาดูหนังเพลินๆ ก็สามารถเดินไปหยิบน้ำ, ขนมได้สะดวก

ชั้น 3

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ห้องนอนห้องแรกจะอยู่บนชั้น 3 จัดเป็นห้องนอนรองแบบเต็มชั้นเลยนะคะ จึงได้พื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับวางเตียงนอน, พื้นที่นั่งเล่นดูทีวี, พื้นที่แต่งตัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำ

Image 1/6
ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1

พื้นที่ภายในห้องสามารถจัดแบ่งแต่ละฟังก์ชันออกเป็นสัดส่วนได้ อย่างพื้นที่แต่งตัวก็กว้างพอให้กั้นประตูปิดได้เลย ในส่วนของเตียงนอนก็สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายและยังเหลือพื้นที่สำหรับเป็นมุมทำงานหรือดูทีวีในห้องได้ด้วย

Image 1/4
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1

ห้องน้ำในห้องนอนรองจะแยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ชัดเจน พื้นที่อาบน้ำมีขนาดให้หมุนตัวอาบน้ำได้สบายๆ โดยบ้านมาตรฐานจะมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วยนะคะ ติดกับพื้นที่อาบน้ำจะมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดระบายอากาศได้

ชั้น 4

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

จัดเป็นห้องนอนรองเช่นเดียวกับชั้น 3 จึงได้พื้นที่ขนาดใหญ่เต็มชั้น อยู่อาศัยได้สบายๆ เช่นกันค่ะ

Image 1/6
ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2

ในบ้านตัวอย่างจะตกแต่งห้องนอนรอง 2 ไว้ต่างจากห้องแรกเล็กน้อย คือเค้าจะกั้นพื้นที่บางส่วนออกเป็นห้องอเนกประสงค์ แต่ภาพรวมของบรรยากาศในห้องก็ยังกว้างและแบ่งฟังก์ชันออกเป็นสัดส่วนได้ลงตัวอยู่ดีนะคะ

Image 1/2
ห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์

ในส่วนของห้องอเนกประสงค์สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำงานอดิเรก หรือในจัดเป็นห้องออกกกำลังกาย, Home Theater เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวได้ค่ะ

ชั้น 5 และชั้น 6

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ชั้น 5 และชั้น 6 จะทะลุเชื่อมต่อกัน เพราะโครงการออกแบบมาให้เป็น Master Bedroom แบบ Duplex แต่ลิฟต์จะขึ้นถึงชั้น 5 เท่านั้น และจะมีบันไดเชื่อมขึ้นไปชั้น 6 ค่ะ ทำให้พื้นที่ใช้สอยมีขนาดใหญ่มากจนสามารถแบ่งพื้นที่ชั้น 5 เป็น Walk-in Closet และห้องน้ำแบบเต็มชั้นได้เลย ในส่วนของชั้น 6 ก็จัดเป็นพื้นที่พักผ่อน และมุมทำงานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งจะมีห้องน้ำที่ชั้น 6 อีก 1 ห้องด้วย เผื่อต้องการเข้าห้องน้ำในช่วงกลางคืนก็ไม่ต้องเดินลงมาชั้นล่างนะคะ

Image 1/3
Walk-in Closet ใน Master Bedroom

Walk-in Closet ใน Master Bedroom

Walk-in Closet มีขนาดใหญ่มาก สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังได้ทั้ง 3 ฝั่ง อีกฝั่งหนึ่งเป็นหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด และยังสามารถทำเคาน์เตอร์ Island ขนาดใหญ่ ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับการแยกนาฬิกา, เข็มขัด, แว่นตา ไว้คนละชั้นได้เลย น่าจะเหมาะกับ Perfectionist ที่ชอบเก็บของให้เป็นหมวดหมู่ ดูเป็นระเบียบดีนะคะ

Image 1/4
Master Bathroom

Master Bathroom

ในส่วนของ Master Bathroom ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ ให้อ่างล้างหน้าแบบ His&Her สามารถใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน อ่างอาบน้ำจะเป็นแบบอ่างฝัง วางไว้ติดหน้าต่าง จึงเปิดระบายอากาศ ช่วยถ่ายเทความชื้นได้ดี วันไหนที่อยากอาบฝักบัวตามปกติก็จะมีพื้นที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้น แยกโซนเปียกไว้เป็นสัดส่วน และเป็นห้องเดียวที่ได้สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติค่ะ

บันไดทางขึ้นชั้น 6 จะมีความเก๋ตรงที่หลังคาด้านบนเป็น Skylight เปิดให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้ พื้นที่โซนนี้จึงดูสว่าง ไม่ทึบตัน โครงบันไดเฉพาะชั้นนี้จะเป็นโครงสร้างเหล็ก ปิดผิวบันไดด้วยหินควอทซ์เทียมสีขาว ทำให้บรรยากาศดูหรูหรา

Image 1/3
มุมทำงานใน Master Bedroom

มุมทำงานใน Master Bedroom

โซนแรกบนชั้น 6 มุมนี้ค่อนข้างสงบเลยทีเดียว สามารถจัดเป็นมุมทำงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งเหมาะกับในยุค Work From Home แบบนี้เลยค่ะ

เพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยทางโครงการจึงออกแบบประตูกั้นไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อแยกพื้นที่ในห้องนอนกับห้องทำงานไม่ให้รบกวนกัน ซึ่งในบ้านมาตรฐาน…พื้นที่บนชั้นนี้จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งทั้งชั้น เราสามารถเลือกได้ว่าจะกั้นโซนไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์เราค่ะ

Image 1/4
Master Bedroom

Master Bedroom

เข้ามาใน Master Bedroom พื้นที่กว้างมาก เพียงพอที่จะวางเตียงขนาดใหญ่ 6 -7 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงสำหรับวางชุดโซฟา ให้นั่งเล่นดูทีวีได้แบบเป็นส่วนตัวไม่ต้องแชร์กับสมาชิกคนอื่นในบ้าน ซึ่งในห้องนี้จะมีหน้าต่างรอบด้านเลยนะคะ รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะทำให้ห้องดูโปร่งมากค่ะ

Image 1/2
Bathroom

Bathroom

ปิดท้ายกันด้วยห้องน้ำบนชั้น 6 ซึ่งหากต้องการเข้าห้องน้ำเวลากลางคืนก็สามารถใช้งานได้สะดวกไม่ต้องเดินลงไปชั้นล่าง หรือช่วงทำธุระส่วนตัวในยามเช้าก็สามารถแบ่งกันใช้งานคนละห้องได้สะดวก และออกแบบมาให้มีพื้นที่อาบน้ำด้วยนะคะ

ราคา

Belvedere Rama 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2567

  • Belvedere บ้านเดี่ยว 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 648 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 59 ล้านบาท
  • Braintree บ้านแฝด 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 38.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 553 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท
  • จอง 500,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา บ้านแฝด 1,750,000 บาทและบ้านเดี่ยว 2,450,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 450,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทางBelvedere Rama 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) ตั้งอยู่ในโซนพระราม 3 ส่วนตัวเรามองว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัยดั้งเดิม ที่มีความต้องการขยับขยายครบครัวอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากคนในพื้นที่จะชินทำเลเดิมแล้ว โซนนี้ยังเดินทางเข้า –  ออกเมืองได้สะดวก ใกล้ทางด่วนถึง 2 สาย เดินทางไปแหล่งงานที่สำคัญอย่างโซนสีลม – สาทรได้ง่าย และอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน อย่าง Central พระราม 3 ก็อยู่ห่างจากโครงการเพียง 2 กิโลเมตร อีกทั้งรอบๆยังมีโรงเรียนให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยม อย่างโรงเรียนนานาชาติ King’s College และมีโรงพยาบาลให้เลือกใช้บริการอยู่หลายแห่งค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ออกแบบมาให้มีรั้วรอบขอบชิด มีประตูโครงการที่เข้าออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน, CCTV และ พี่รปภ. คอยดูแล 24 ชั่วโมง ภายในบ้านเองก็มีการรักษาความปลอดภัยเช่นกัน แต่รายละเอียดคงต้องรอสรุปจากทางโครงการค่ะ

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการจัดสรรที่มีความเป็นส่วนตัวเพียง 16 ยูนิต มีถนนหลักอยู่บริเวณกลางโครงการ แบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่งถนนซ้ายขวา จึงมีบ้านให้เลือก 2 ทิศคือ ตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งบ้านทิศตะวันออกเฉียงใต้จะได้หน้าบ้านที่ร่มในช่วงเช้า ห้องน้ำที่อยู่ทางด้านหลังบ้านจะได้แสงในช่วงบ่าย ช่วยให้ห้องน้ำแห้งได้ดี ส่วนบ้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้หน้าบ้านที่ร่มในช่วงเช้า เหมาะกับคนที่ชอบนอนดึก ทำงานดึก แล้วตื่นสายหน่อยค่ะ

การออกแบบบ้าน : บ้านของโครงการนี้มีความสูงถึง 6 ชั้นแตกต่างจากโครงการอื่นเลย ทำให้พื้นที่ใช้สอยมีขนาดใหญ่ถึง 553-648 ตร.ม. มีให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด มาพร้อมลิฟต์ส่วนตัวที่มีขนาดรองรับวีลแชร์ได้ ทุกห้องนอนจะได้พื้นที่เต็มชั้น ห้องกว้างขวางพร้อมห้องน้ำในตัว รองรับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะ Master Bedroom ในบ้านแฝดออกแบบเป็นห้อง Duplex ได้พื้นที่ 2 ชั้นจึงสามารถจัด Walk-in Closet แบบเต็มชั้นเลยได้ นอกจากนี้ยังได้วิวแบบ 360 องศาบน Rooftop เห็นวิวตึกมหานครและสะพานข้ามแม้น้ำเจ้าพระยาค่ะ

ภาพรวมของบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านโซนยุโรปที่ดู Timeless ไม่เก่าไปตามกาลเวลา ในส่วนของ Function, Material, Engineering ก็ออกแบบมาเพื่อเป็น Timeless Living เช่นกัน เช่น ตอบโจทย์การใช้งานของผู้อยู่อาศัยที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนตามอายุที่โตขึ้น หรือ การใช้งานที่เปลี่ยนไป
เลือกใช้วัสดุที่สวยงามแต่ก็คงทน เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทย เน้นออกแบบและก่อสร้างงานระบบเผื่ออนาคต ให้เจ้าของบ้านสามารถดูแลรักษาหรือซ่อมแซมได้ง่าย

วัสดุ : ทางโครงการเลือกแบรนด์ Top คุณภาพดี เช่น โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐมวลเบา ก่อผนัง 2 ชั้น บริเวณด้านหน้าบ้านที่รับแสงแดด เพื่อช่วยลดความร้อนเข้ามาในตัวบ้าน และบริเวณผนังระหว่างบ้านแฝด เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน,  ประตูทางเข้าหน้าบ้านเป็นบาน HMR,  มือจับและตัวล็อคของแบรนด์ Baldwin, ผนังตกแต่งภายนอกใช้หิน Mocca Cream, พื้นชั้นบนใช้ไม้ Compound solid structure แบรนด์ Champaca  ใช้ไม้สักทั้งไม้ด้านล่างและด้านบน ไม้ท็อปหนา 3 mm. ที่สามารถซ่อมสีได้, แผ่นบันไดหินควอทซ์เทียมสีขาว, ลิฟต์ Kone จาก Finlandและสุขภัณฑ์แบรนด์ TOTO เป็นต้น

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศภายในโครงการดูเรียบร้อยมาก เพราะเดินสายไฟลงดินทั้งหมด พื้นถนนเป็นคอนกรีตแสตมป์ดูสวยงาม มีไม้พุ่มและทางเท้าตามแนวถนนทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นขึ้น และจากดีไซน์ของอาคารทำให้เหมือนอยู่ในหมู่บ้านยุโรปเลยนะคะ

สาธารณูปโภค : เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กจึงไม่ได้มีอาคาร Clubhouse ให้ใช้งาน ค่าส่วนกลางจึงใช้ในการดูแลบริเวณถนนส่วนกลางและซุ้มประตูเป็นหลัก กับราคาค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.ว./เดือน ตกประมาณเดือนละ 3,820-5700 บาทค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 45-59 ล้านบาท, 21 กรกฎาคม 2567

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ใกล้ทางด่วน, King’s College และสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – มีรั้วรอบโครงการ รปภ. ดูแล 24 ชั่วโมง มีระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ทุกห้องนอนได้พื้นที่เต็มชั้น
  • วัสดุ 8/10 – วัสดุดีสมราคา เลือกใช้แบรนด์ Top
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – เสาไฟลงดินทั้งหมด มีฟุตบาทและไม้พุ่ม 2 ฝั่ง
  • สาธารณูปโภค 7/10 – โครงการขนาดเล็กไม่มีส่วนกลาง แต่ภาพรวมดูเรียบร้อย น่าใช้งาน
  • 7.88 / 10.00

BELVEDERE RAMA 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) เหมาะกับใคร

BELVEDERE RAMA 3 (เบลวีเดียร์ พระราม 3) เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการขยับขยายบ้านในทำเลโซนพระราม 3 ใกล้ King’s College แบบที่มีทางลัดไปทางด้านหลังโรงเรียนได้ เดินทางง่ายใกล้ทางด่วนและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในระยะ 1-2 กิโลเมตร

ต้องการบ้านที่มีพื้นใช้สอยขนาดใหญ่ รองรับการอยู่อาศัยการดูแลรักษาได้ง่ายในระยะยาว มีบันไดหนีไฟเป็นกิจจะลักษณะ ไม่เน้นใช้งานส่วนกลาง ในราคาเริ่มต้น 45-59 ล้านบาท (ยังไม่รวมงบในการตกแต่ง)


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่