วันนี้มีโอกาสไปรีวิวโครงการพูลวิลล่าหรูแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 ค่ะ ตั้งอยู่บนทำเลใกล้ Mega Bangna อิงถนนเลียบวงแหวนฯ และถนนสุขาภิบาล 2 ซึ่งบ้านหรูโซนนี้มีราคาอยู่ในช่วง 20 ล้านบาท++ ไปจนถึง 60 ล้านบาท 30–45 ล้านบาท (update 9/3/2023) เลยก็มี แต่จุดเด่นที่สร้างความแตกต่างให้สำหรับโครงการนี้เห็นจะมีอยู่ 3 เรื่องหลักๆ ดังนี้

  • ทำเล : มีทางเลือกในการเข้าออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง คือ ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก และถนนสุขาภิบาล 2
  • ความเป็นส่วนตัว : จำนวน 65 ยูนิต และโครงการวางผังให้บ้านเกือบทั้งหมด ไม่อยู่ติดกับรั้วโครงการโดยตรง มีถนนและลำรางกั้นระหว่างตัวโครงการและแปลงที่ดินข้างเคียง
  • การออกแบบ : Pool Villa สไตล์ Modern British เน้นใช้ผนังกระจกแทบจะทุกห้องของบ้าน เหมาะกับคนที่ชอบแสงธรรมชาติ ชอบให้มีสวนในบ้าน

image
ลงทะเบียนนัดหมายเข้าชมโครงการเพื่อรับสิทธิพิเศษ
หากคุณสนใจโครงการนี้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาลงทะเบียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ข้อมูลโครงการ

Belgravia Exclusive Pool Villa Bangna-Rama9 ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2564

 ชื่อโครงการ   Belgravia Exclusive Pool Villa Bangna-Rama9 (เบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ พูลวิลล่า บางนา-พระราม9)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท บริทาเนีย จำกัด
 SEGMENT CLASS   LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนสุขาภิบาล 2 เขตประเวศ
 ที่ดิน  23-3-97 ไร่
 จำนวนยูนิต  65 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • ELLIS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
  • WILTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
  • CHAPEL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   3 – 6.7 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      160,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2563
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2565
 เว็บไซต์โครงการ  https://www.britania.co.th/project/belgravia-exclusive-poolvilla-bangna-rama9/
 โทร   062-415-7888
 Call Center   02-030-0000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.710713, 100.700720
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 ที่มีจุดเด่นคือ สามารถเข้า-ออกถนนหลักได้ทั้ง 2 ฝั่งคือถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก และถนนสุขาภิบาล 2

ทำเลของโครงการเรียกได้ว่าเป็นทำเลโซนลาดกระบัง อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งก็จะตอบโจทย์สำหรับคนที่เดินทาง (ด้วยเครื่องบิน) บ่อยๆ หรือทำงานภายในสนามบิน รวมถึงเจ้าของกิจการ โรงงาน ในย่านบางนา, ชลบุรี, สมุทรปราการ ที่ยังต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ตัวเมืองกรุงเทพฯ โดยข้อดีหลักๆ ของโครงการนี้คือติดถนนหลัก 2 สาย เป็นทางเลือกในการเดินทาง ดังนี้

ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก : มีความพิเศษคือคนส่วนใหญ่จะใช้เป็นเส้นทางเพื่อข้ามไปมาระหว่างบางนา-ตราด และลาดกระบังได้โดยไม่ต้องเสียค่าทางด่วนและรถยังไม่ติดอีกด้วยค่ะ

บนถนนเส้นนี้จะมีทางลัดเลาะต่างๆ เชื่อมต่อกันได้เยอะ อย่างเช่นสามารถลัดไปออกบางนา-ตราด ช่วงก่อนถึงสะพานกลับรถเพื่อข้ามไป Mega Bangna ได้ทันที หรือจะใช้ลัดเพื่อไปออกถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 เพื่อเชื่อมต่อไปยังถนนศรีนครินทร์หรือถนนพัฒนาการก็ได้ หรือจะใช้ลัดเข้าไปถนนกิ่งแก้วได้

ถนนสุขาภิบาล 2 : เป็นถนนที่เชื่อมต่อถนนอ่อนนุช – ลาดกระบังกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราจะเห็นว่าถนนเส้นนี้มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ๆ ก็นิยมมาเปิดตัวบนถนนเส้นนี้กันจำนวนไม่น้อย ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ ร้านอาหารรวมถึง Community Mall มาเปิดให้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้แล้ว ในทำเลนี้ยังมีตัวเลือกในการเดินทางด้วยทางพิเศษ (ทางด่วน) 2 สายสำคัญอย่าง ทางพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์ หรือกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่) และ ทางพิเศษบูรพาวิถี อีกด้วย จากทั้งหมดที่กล่าวมาจึงทำให้ทำเลนี้มีความสะดวกในการเดินทางด้วยรถยนต์มากทีเดียว

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะปัจจุบัน จะอยู่ห่างจาก Airport Rail Link (เส้นสีแดงทึบ) สถานีลาดกระบัง ประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถใช้เป็นตัวเลือกในการเดินทางได้ เนื่องจากจะไปเชื่อมต่อกับ BTS สายสีเขียว สถานีพญาไท และ MRT สายสีน้ำเงิน ที่สถานีมักกะสัน หรือไปสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย

นอกจากนั้นยังมีรถไฟฟ้าสายที่กำลังก่อสร้างคือเส้นประสีเหลือง บนถนนศรีนครินทร์ และในอนาคตยังมีแผนก่อสร้าง Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ อีกด้วย

พูดถึงเรื่องความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการกันต่อค่ะ อย่างที่บอกไปว่าถนนสุขาภิบาล 2 นี้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์เปิดใหม่กันอย่างต่อเนื่อง เอาแบบเบสิกง่ายๆ พวกร้านสะดวกซื้ออย่าง Tesco Lotus, 7-Eleven ก็มีตลอดทั้งเส้น หรือสไตล์ Community Mall ก็มีนะคะคือ K Space Mini Mall ภายในมีทั้งร้าน Buffet, ร้านอาหารญี่ปุ่น ฯลฯ

แต่ถ้าพูดถึงภาพรวมเป็นย่านใหญ่ถือว่ามีให้เลือกค่อนข้างเยอะ มีแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลากหลายให้ช้อปปิ้งกันได้ไม่เบื่อเลย แต่จะต้องใช้รถขับไปสักหน่อย โดยจะแบ่งเป็นทำเลใหญ่ๆ ดังนี้

ถนนบางนา-ตราด : มี Mega Bangna ที่ภายในนอกจากจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์แล้ว ก็ยังมี IKEA ศูนย์รวมเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านด้วย หรือบนถนนเส้นบางนา-ตราดเองก็จะมี Market Village, Makro บางพลี และ Central บางนา นอกจากนี้ยังมีห้างขายอุปกรณ์และของตกแต่งบ้านมาเปิดกันอีกหลายแบรนด์ทั้ง SB, Chic Republic, Index Living mall, ไทวัสดุ

ถนนศรีนครินทร์ : มีห้างใหญ่อย่าง Seacon Square, ตลาดนัดสวนรถไฟ มีคาเฟ่ให้เลือกนั่งพักผ่อน และ Paradise Park นอกจากนั้นยังใกล้กับสวนหลวง ร. 9 อีกด้วย

ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง : มี Community Mall อย่าง Paseo ลาดกระบัง ถัดมาอีกไม่ไกล ก็มีห้างสรรพสินค้าสร้างใหม่อย่าง Robinson ลาดกระบัง ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ (ประมาณ 5 กิโลเมตร) และมีโรงภาพยนตร์ให้ใช้บริการ

นอกจากแหล่งจับจ่ายใช้สอยแล้ว ในทำเลนี้ยังมีครบทั้งโรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ สวนสาธารณะ โรงพยาบาล สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึง Gemopolis Industrial Estate โรงงานชื่อดังในย่านนี้ด้วย

เส้นทางที่เราจะเดินทางในวันนี้ เริ่มต้นบนถนนกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ (มอเตอร์เวย์) จากนั้นจึงพาเข้าถนนสุขาภิบาล 2 เพื่อเข้าถึงโครงการ Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 ระยะทางรวมประมาณ 4.2 km.

Image 1/5
เริ่มต้นเดินทางจากถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งมุ่งหน้าไปลาดกระบัง แต่ก่อนถึงลาดกระบังนั้นให้มองหาทางออกบางนาค่ะ

เริ่มต้นเดินทางจากถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งมุ่งหน้าไปลาดกระบัง แต่ก่อนถึงลาดกระบังนั้นให้มองหาทางออกบางนาค่ะ

บรรยากาศในการเดินทางไปโครงการ Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9

จากที่เกริ่นไปว่าโครงการตั้งอยู่ติดถนนหลักทั้ง 2 ฝั่ง สำหรับวันนี้เราจะพามาชมฝั่งถนนสุขาภิบาล 2 กันก่อน เป็นถนนใหญ่ 4 เลน ที่รถรายังไม่เยอะนัก

พื้นที่ด้านข้างฝั่งหนึ่งจะมีลำรางสาธารณะประโยชน์กั้นอยู่ตลอดแนว เป็น Buffer Zone ให้กับโครงการ ถัดไปจึงเป็นแปลงที่ดินข้างเคียงที่เปิดเป็นร้านอาหารริมทาง

อีกฝั่งหนึ่งของโครงการติดกับบริษัท เอ็มทีอี ที่เป็นอาคารออฟฟิศตึกสีส้มๆ สูงประมาณ 4 ชั้น

ฝั่งตรงข้ามเป็นร้าน Pets’ Ville ที่เปิดเป็นสระว่ายน้ำสุนัข ซึ่งเป็นกิจการยอดนิยมอย่างหนึ่งในโซนบางนาเลยค่ะ บ้านไหนที่อยากพาน้องมาออกกำลังกายก็แค่ข้ามถนนมาเท่านั้นเอง

ปิดท้ายด้วยซุ้มประตูโครงการที่เข้า – ออกผ่านทางถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งตอนนี้เห็นเป็นรูปร่างแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการนะคะ แต่ก็การันตีได้ว่าโครงการนี้จะมีจุดแข็งเป็นทางเข้าออกถนนใหญ่ถึง 2 ทางนั่นเอง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมของโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า จึงไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ส่งผลต่อการพักอาศัย อีกทั้งโครงการยังมี Buffer Zone รอบด้านเป็นถนนในโครงการ+ลำรางสาธารณะด้วย เพื่อการันตีว่าบ้านหรูที่นี่จะยังไม่ความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง แม้ว่าอนาคตพื้นที่ข้างเคียงจะถูกพัฒนาไปค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า

  • Mega & Ikea บางนา ~ 10.5 km.
  • Robinson Lifestyle ลาดกระบัง ~ 4.6 km.
  • The Paseo Mall ลาดกระบัง ~ 4 km.
  • Paradise Park ~ 10.9 km.
  • Central บางนา ~ 16 km.
  • Seacon Square ~ 9.7 km.
  • ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ~ 10.9 km.
  • Central Village ~ 17 km.

โรงเรียน

  • รร.นานาชาติชาร์เตอร์ ~ 2.6 km.
  • รร.สาธิตรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ~ 14.2 km.
  • รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน ~ 12.2 km.
  • รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 8.7 km.
  • Verso International School ~ 13.6 km.
  • มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ~ 30.2 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.สิรินธร ~ 1.4 km.
  • รพ.จุฬารัตน์ 9 ~ 6.1 km.
  • รพ.ไทยนครินทร์ ~ 18.4 km.
  • รพ.ศิครินทร์ ~ 16.3 km.

สถานที่อื่น ๆ

  • ถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ~ 1.8 km.
  • วงแหวนกาญจนาภิเษก ~ 1.8 km.
  • Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง ~ 6.8 km.
  • Gemopolis Industrial Estate ~ 2.8 km.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 11.4 km.

รายละเอียดโครงการ

มาดูที่ตัวโครงการ Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้นจำนวน 65 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการเกือบ 24 ไร่ โครงการวางตำแหน่งของ Clubhouse และสวนสาธารณะไว้ด้านในโครงการเลย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานนะคะ

ถนนหลักกว้าง 12 – 17.5 เมตร ส่วนถนนซอยกว้าง 9 เมตรตามมาตรฐาน ไม่มีซอยตัน จึงขับรถวนได้รอบ ทำให้ใช้งานง่าย แต่ซอยลักษณะนี้ก็จะมีคนขับรถผ่านเสมอ ส่วนที่ต้องขอชมเลยคือ โครงการวางทิศของบ้านทุกหลังไปทางทิศเหนือและใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่า

แบบบ้านของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบค่ะ

จุดเด่นของการวางผังที่โครงการนี้ เราคิดว่าเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย เรื่องแรก ก็คือ  Buffer Area ที่เค้าวางผังบ้านไม่ให้ติดกับพื้นที่รอบข้างเลยจะมีถนนและลำรางสาธารณะกั้นทั้งหมดค่ะ เรื่องที่ 2 ก็คือการวางผังอาคารแบบ Repeat Plan ทำให้ช่องเปิดของแต่ละบ้านมองไม่เห็นกัน

โครงการ Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 มีทางเข้า 2 ทางนะคะ โดยซุ้มประตูนี้อยู่ทางฝั่งถนนสุขาภิบาล 2 ส่วนทางเข้าฝั่งถนนกาญจนาภิเษกกำลังก่อสร้างอยู่นะคะใกล้เสร็จแล้ว

ชื่อโครงการ Belgravia (เบลกราเวีย) มาจากชื่อย่านในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นย่านที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากๆ เพราะมีทั้งพระราชวัง Buckingham, หอนาฬิกา Big Ben เป็นต้น ทำให้งานดีไซน์ต่างๆ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในประเทศอังกฤษ ซึ่งเค้าเรียกสไตล์ของที่นี่ว่า Modern British ค่ะ

ดีเทลของประตูจะมีการใช้ซุ้มทรงโค้ง และห้อยระฆังให้ได้บรรยากาศแบบยุโรป

ซุ้มโครงการมีหลังคาคลุมไว้ให้หลบฝนหลบแดดได้ เผื่อในวันที่ฝนตกแล้วแขกของลูกบ้านต้องมาติดต่อก็จะได้ไม่เปียก หรือวันที่แดดร้อนก็มีพื้นที่ร่มๆ ให้หลบแดดได้ โครงการวางป้อมรปภ.ไว้ตรงกลาง เพื่อแยกทางเข้า – ออกรถ 2 ฝั่งไว้ชัดเจน พื้นบริเวณทางเข้าปูด้วยคอนกรีตแสตมป์จึงดูแลทำความสะอาดง่าย

โครงการเข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass แบบทางด่วน ซึ่งถ้าเป็นรถลูกบ้าน เจ้าประตูเหล็กเลื่อนก็เปิดออกให้อัตโนมัติ จะเปิดช้ากว่าไม้กั้นกระดกหน่อย แต่สวยงามและแข็งแรงปลอดภัยมากกว่า

ช่วงต้นของโครงการจะเป็นถนนหลักกว้าง 12 เมตรที่มีบ้านเพียงฝั่งเดียว เรามองว่าบ้านโซนนี้อยู่ใกล้ซุ้มประตู เข้าออกโครงการได้สะดวก ได้ความเป็นส่วนตัวเพราะไม่มีบ้านฝั่งตรงข้าม ได้เป็นวิวต้นไม้เป็นแนวยาวๆ ไปเลย แต่ก็อาจถูกรบกวนโดยเพื่อนบ้านที่ขับรถผ่านหน้าบ้านบ่อยกว่าบ้านที่อยู่ด้านในนะคะ สำหรับโซนบ้านพักอาศัยหลักๆ จะถัดเข้าไปด้านในจึงได้ความสงบในการอยู่อาศัยมากขึ้น

เข้ามาด้านในไม่ไกลจะเจอกับ Clubhouse ที่ตั้งตระหง่านต้อนรับพอดิบพอดี ทำให้ดูโอ่อ่า คอนเซปต์การออกแบบของโครงการที่นำสไตล์ยุโรปเข้ามาตกแต่งให้ดูโมเดิร์นขึ้น มีการใช้กระจกในการออกแบบร่วมด้วย

Clubhouse และสวนส่วนกลาง มีขนาดประมาณ 1 ไร่ ใหญ่ทีเดียวถ้านับว่าแชร์ลูกบ้าน 65 ยูนิต ที่ไม่ได้เยอะเหมือนโครงการส่วนใหญ่ในละแวกนี้ ภายในจัดมาให้ใช้งานได้หลายฟังก์ชันดีค่ะ

ทางเข้า Clubhouse จะมีทางลาดให้สามารถใช้รถเข็นต่อเชื่อมมายังสวนได้สะดวก ตามหลักการของ Universal Design เพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้านทุกเพศวัย

Reception Area ใน Clubhouse ดูค่อนข้างหรูหราทีเดียว เห็นจากการใช้โทนสี เฟอร์นิเจอร์  ซึ่งเรามองว่านอกจากเราจะเพลิดเพลินเวลามาใช้งานเองแล้ว ก็สามารถใช้รับรองแขกที่มาหาได้ด้วย ดูสวยงามเป็นหน้าเป็นตา ไม่จำเป็นต้องไปรับแขกที่บ้าน

โครงการจัดชุดโซฟาไว้หลายมุมเป็นโซฟาตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย รองรับการใช้งานกลุ่มใหญ่แบบ 5-6 คนได้หลายกลุ่มเลยนะคะ

ใกล้ๆ จะมีห้องน้ำ ซึ่งแบ่งห้องน้ำหญิง/ชายไว้ครบถ้วน

ภายในตกแต่งไว้ดูหรูหราด้วยดีเทลสีทอง

อีกโซนหนึ่งของ Reception Area จะจัดไว้เป็นชุดโซฟาอีกเช่นกัน เราสามารถใช้พื้นที่โซนนี้สำหรับนั่งคุยงาน พักผ่อนได้

โดยพื้นที่นั่งเล่นใน Clubhouse นี้มีจุดเด่นที่สามารถมองเห็นสวนด้านนอกได้ทุกมุมของอาคาร

ถัดมาที่ Fitness ภายในวางเครื่องออกกำลังกายไว้ประมาณ 10 เครื่อง เป็นจำนวนที่โอเคอยู่นะเมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้านที่ไม่ได้เยอะเหมือนหลายๆ โครงการในละแวกนี้

โครงการวางเครื่องออกกำลังกายส่วนใหญ่ให้อยู่ติดหน้าต่าง หันหน้าออกรับวิวสวน โดยเป็นฟิตเนสในห้องแอร์นะคะ

โครงการจัดไว้ทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training ให้มาเลือกใช้งานกันได้

ถัดมาที่ห้อง Private Meeting จะจัดชุดโซฟาไว้คล้ายกับ Reception Area เลยนะคะ ต่างกันที่ห้องนี้เป็นห้องปิดที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จะใช้เป็นพื้นที่พักคอยก็ได้ เพราะด้านในสุดจะมี Spa อีก 2 ห้องค่ะ

หรือจะใช้ห้องนี้เป็นพื้นที่พักคอยก็ได้ เพราะด้านในสุดจะมี Spa อีก 2 ห้องค่ะ

ห้อง Spa ของที่นี่จะมี 2 ห้อง โดยห้องหนึ่งจัดเตียงไว้สำหรับการใช้งาน Massage ส่วนตัว

และอีกห้องหนึ่งจัดเป็นเก้าอี้ไว้สำหรับงานสปาเท้า ทำเล็บได้ หรือวันไหนมีงานสำคัญ ต้องจ้างช่างแต่งหน้าส่วนตัวก็สามารถใช้ห้องนี้ได้สะดวก เพราะมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ

เราสามารถอาบน้ำได้ในห้องสปาเลยนะคะ เพราะภายในมี Shower Area ด้วย

ออกจากอาคาร Clubhouse มาที่สวนของโครงการกันบ้าง โซนแรกในสวนจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นกว้างๆ ริมบ่อน้ำ

สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตคือ การออกแบบกำแพงด้านหลังเป็นช่องกว้างๆ ทำให้มีพื้นที่นั่งเล่นบริเวณนี้มีลมพัดผ่านได้

และเนื่องจากโครงการนี้เป็นบ้านแบบพูลวิลล่าทั้งหมด ทำให้เค้าไม่ได้มีสระว่ายน้ำที่ Clubhouse ให้นะคะ จะมีเฉพาะสวนส่วนกลางค่ะ

สวนส่วนกลางจัดบรรยากาศไว้ร่มรื่นทีเดียวด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม

สังเกตอย่างนึงว่าสวนส่วนกลางตามแนวถนน Main จะมีไม้พุ่มกั้นตลอดแนว เราคิดว่ามีข้อดีที่ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ในสวน เผลอวิ่งออกมาบนถนนได้ง่ายๆ นะคะ

ปลายสุดของสวนจะมี Pavillion ที่ตั้งอยู่บนเนินดิน ทำให้ตัวอาคารมีระดับที่สูงขึ้น เป็นส่วนกลางอีกจุดหนึ่งที่ได้วิวสวนมุมกว้างเลยค่ะ

เจ้า Pavillion นี้เหมาะกับการใช้จัด Private Party ได้นะคะ มีทั้งพื้นที่ Indoor และ Outdoor ที่ใช้งานได้เป็นส่วนตัวทีเดียว

นอกจากนี้ในสวนยังมีพื้นที่สำหรับวิ่งเล่นของเด็กๆ ซึ่งพื้นบริเวณที่เป็นสีๆ นี้ เป็นพื้นยางที่ช่วยลดแรงกระแทกเวลาเด็กๆ วิ่งเล่นได้ค่ะ

ส่วนของซอยพักอาศัยอื่นๆ จะมีความกว้าง 9 – 12 เมตร กว้างพอสมควรเลยค่ะ ถ้ามีการจอดรถหน้าบ้านก็ยังสามารถขับรถผ่านเข้าออกได้ และยังมีฟุตบาทพร้อมไม้พุ่มอยู่ตลอดทางจึงดูกว้างและร่มรื่นด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย

  • Fitness
  • Lobby
  • Private Meeting
  • 2 Spa Rooms

  • Outdoor Lounge Party Area
  • พื้นที่สวนหย่อมหลักในโครงการ 276.8 ตร.วา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 – 17.5 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
  • สายไฟลงใต้ดิน
  • Key Card Access ระยะไกล
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและเลื่อนไฟฟ้า
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง
  • แบบบ้าน

    เมื่อเทียบความน่าสนใจของโครงการ Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 กับโครงการหรูอื่นๆ ในย่านเดียวกัน เรามองว่าจุดเด่นของที่นี่จะเป็นแบบบ้านพูลวิลล่านี่แหละค่ะ โดยตัวบ้านและสระว่ายน้ำจะสร้างแบบเต็มพื้นที่ดิน แปลว่าตัวบ้านจะถูกวางลงบนที่ดินอย่างพอเหมาะพอดี เว้นระยะรอบๆบ้านไว้ไม่มาก ถามว่ามีพื้นที่ให้จัดเก้าอี้นั่งเล่นในสวนมั้ย ก็มีพื้นที่หลังบ้านให้ใช้งานได้ แต่หากอยากมีพื้นที่ไว้สร้างบ้านหลังเล็กๆ เพิ่มอีกสักหน่อย ขนาดที่ดินของที่นี่จะไม่ได้ตอบโจทย์ขนาดนั้นนะคะ

    . ฟังก์ชันการใช้งานเน้นครอบครัวใหญ่ มีห้องนอนผู้สูงอายุ (ห้องนอนชั้นล่าง) ทุกแบบบ้าน รวมไปถึงที่จอดรถ 3 – 4 ที่จอด เพื่อให้เพียงพอกับการใช้งานจริงมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่กลุ่มคนซื้อระดับนี้มักจะมีรถยนต์ส่วนตัวของแต่ละคนนะคะ แบบบ้านทั้ง 3 แบบมีรายละเอียด ดังนี้

    • ELLIS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
    • WILTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
    • CHAPEL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ
      – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท

    ระบบเทคโนโลยีภายในบ้าน

    • ติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic Sensor ทั้งหลัง
    • ติดตั้งระบบ Nasket ช่วยอำนวยความสะดวกในการช้อปปิ้ง, ติดต่อโรงพยาบาล, เสริมความงาม เป็นต้น
    • ติดตั้ง Digital Door Lock ของ Samsung

    โครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

    • โครงสร้างแบบ Conventional
    • ลงเสาเข็มทั้งตัวบ้าน ที่จอดรถ ลานซักล้าง และสระว่ายน้ำ
    • ประตู/หน้าต่าง – กระจก Tempered Glass 10 mm. มือจับ Colt วงกบ WPC. ทำสี
    • ประตูภายในบ้าน – บานไม้กรุผิวลามิเนต
    • พื้นชั้นล่าง – กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 cm.
    • พื้นชั้นบน – พื้นไม้ Hybrid Engineering หนา 8 mm.
    • พื้นบันได – ไม้ยางพาราอัดประสาน ปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก
    • ภายในห้องน้ำ – สุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler , อ่างอาบน้ำของ Trusol, มีฉากกั้นอาบน้ำและอ่างอาบน้ำให้ในห้องน้ำ 2 ห้อง ,อ่างล้างหน้าแบบ His&Her

    ดูข้อมูลโครงการกันไปแล้ว เชิญชมบ้านตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากบ้านใหญ่ที่สุดก่อนนะคะ

    แบบ Chapel : พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ เป็นแบบบ้านที่รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่อาศัยกันแบบ 3 Generations เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 6 คน รองรับผู้สูงอายุ

    สำหรับการออกแบบบ้านของที่นี่สังเกตว่าลักษณะจะเป็นบ้านทรงกล่อง ที่มีการเจาะช่องเปิดให้แสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้ในทุกๆ ส่วนของตัวบ้าน โดยเฉพาะชั้น 2 เราจะเห็นว่ามีพื้นที่สวนแทรกเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย อีกอย่างคือการจัดวางฟังก์ชันภายในก็ลงตัวมากขึ้นด้วย เราสามารถแบ่ง zoning การใช้งานได้ดีมากขึ้น หากลองสังเกตที่ผังชั้น 1 ของทุกแบบบ้าน จะเห็นว่า Maid Zone จะเป็นสัดส่วนชัดเจนแยกออกจากบริเวณพื้นที่ใช้งานของสมาชิกในบ้านแบบอยู่คนละโซนเลยนะคะ

    ชั้น 1 จะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันระหว่าง Living & Dining Area และ สระว่ายน้ำจึงเป็นพื้นที่พักผ่อนหลักๆ ของครอบครัว ซึ่งชั้นนี้จะมีห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวอยู่ 1 ห้อง ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุก็สามารถจัดห้องนอนชั้นล่างให้ท่านได้

    บ้าน Type นี้สามารถจอดรถในร่มได้ 4 คัน โดยตำแหน่งของที่จอดรถจะอยู่ใกล้กับห้องครัว + Maid Zone เวลาไปช้อปปิ้งซื้อของมาทำอาหาร ก็สามารถเดินไปเก็บได้ง่าย ซึ่งส่วนแม่บ้านจะแยกทางเข้า-ออกจากส่วนอื่นๆของบ้าน ในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ก็สามารถปิดบ้านส่วนครัวเอาไว้ได้ แม่บ้านก็อยู่พื้นที่ของตัวเองไม่สามารถเข้ามาส่วนบ้านใหญ่ได้ อีกเรื่องหนึ่งที่เราว่าน่าสนใจคือ ประตูด้านหลังที่จอดรถตรงนี้จะอยู่ใกล้กับบันไดทางขึ้นชั้น 2 เลย ในกรณีที่มีแขกของคุณพ่ออยู่ที่โซนรับแขกหน้าบ้าน ลูกกลับมาก็เข้าประตูนี้ได้เลยไม่รบกวนกันค่ะ

    ชั้น 2 จะมี Multi-Purpose Area เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เชื่อมห้องนอนทั้งหมดบนชั้นนี้ ฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้องนอนลูกๆ 3 ห้องและฝั่งหลังบ้านจะเป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆ มีสวนในห้องนอน มีอ่างล้างหน้าแบบ His&Her มีอ่างอาบน้ำ สุขภัณฑ์ต่างๆก็จะอัพเกรดเป็นรุ่นที่ดีขึ้นกว่าห้องอื่นๆค่ะ

    หน้าตาของตัวบ้านแบบ Modern British มีจุดเด่นเรื่องของการออกแบบ้านที่เป็นพูลวิลล่าทุกหลัง และการออกแบบที่ใช้ผนังกระจกเยอะมาก ทำให้ตัวบ้านได้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาเยอะเลย ซึ่งแน่นอนว่าการดูแลผนังกระจกก็คงต้องทำความสะอาดกันบ่อยกว่าผนังปกตินะคะ

    ตัวบ้านจอดรถได้ 4 คัน เป็นที่จอดรถในร่มทั้งหมด ซึ่งเค้าออกแบบเป็น Long Span ช่วงเสายาว เปิดโล่งตลอดแนว ทำให้จอดรถเข้าจอดได้สะดวก

    ด้านหลังที่จอดรถจะมีทางลาดเป็น Universal Design เผื่อกรณีเข็น Wheel Chair ก็ง่าย หรือจริงๆ ไม่มีผู้สูงอายุ เราก็ใช้เวลาซื้อของขนาดใหญ่ ใช้รถเข็นลากเอาก็สะดวกดี หรือพวกกระเป๋าเดินทางก็ลากขึ้น-ลงได้เลย ไม่ต้องมายกให้หนักค่ะ

    ส่วนผนังด้านหลังที่จอดรถมีการเดินระบบปลั๊กไฟมาให้ โดยไฟที่นี่เป็นไฟ 3 เฟสที่รองรับการติดตั้งแท่นชาร์ต EV Charger ไว้ให้ด้วย ตามเทรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคตที่คงมีการใช้แพร่หลายขึ้น

    ประตูเข้าบ้านทางด้านหน้าจะมีด้วยกัน 2 ทาง คือประตูทางเข้าจากที่จอดรถ ก็คือบานไม้สีน้ำตาลบานนี้ และประตูหลักที่ตรงกับพื้นที่รับแขก ซึ่งเจ้าประตูตำแน่งนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับบันไดขึ้นชั้น 2 เลย ถ้าวันไหนกลับบ้านดึกก็เข้าประตูนี้ ขึ้นไปพักผ่อนชั้นบนได้สะดวกกว่าใช้ประตูหลักค่ะ

    พาเดินดูรอบๆตัวบ้านไปแล้ว เดี๋ยวเราจะเข้าไปในบ้านกันนะคะ ทางเข้าหลักจากหน้าบ้านจะออกแบบให้เป็นประตูกระจกบานใหญ่ที่มีความสูงมากกว่าปกติ เป็นการเน้นทางเข้าให้ดูโออ่ามากขึ้นรับกับพื้นที่รับแขกของบ้านที่มีฝ้าเพดานสูง 6.7 เมตร

    เนื่องจากโครงการใช้กระจก Tempered Glass ที่มีความหนา 10 mm. ทำให้กรอบประตูต้องมีความหนามากหน่อย รองรับน้ำหนักของกระจก ส่วนมือจับใช้และตัวล็อกใช้ของ Colt ค่ะ

    ดีเทลหน้าประตูจะมีการย่อมุมที่ซุ้มประตูไว้ ส่วนนี้ทำให้เรารู้สึกว่าดูเรียบแต่หรู และมีไฟกริ่งสไตล์โมเดิร์นติดไว้ให้ข้างประตูทั้ง 2 ฝั่ง สวยงามดีค่ะ

    เข้ามาด้านในจะเป็นห้องรับแขก/นั่งเล่นเลย ซึ่งจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำด้านข้างพอดีทำให้ได้วิวสระ สำหรับโครงการนี้ภายในบ้านที่ให้มาจะเป็นพื้นที่โล่งๆเสียส่วนใหญ่ เนื่องมาจากกลุ่มครอบครัวที่ซื้อบ้านราคานี้มักจะมี Interior designer มาช่วยตกแต่งภายในบ้านค่ะ เพื่อให้ดีไซน์หรือ Mood&Tone บ้านไปในทิศทางเดียวกัน

    เราสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 6 ที่นั่งใน Grand Living Area ได้ สิ่งที่อยากให้สังเกตคือการใช้ผนังกระจกบานใหญ่ตลอดแนว ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาแบบเต็มที่ บ้านสไตล์นี้จึงดูโปร่ง โล่ง มากเลย

    โดยที่หน้าต่างด้านหลังโซฟาสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้นะคะ

    ถัดเข้ามาจะมีมุมนั่งเล่นเก๋ๆ ที่เราเชื่อว่าจะเป็นมุมโปรดของหลายๆ คนในบ้าน เพราะเค้าจัดไว้เป็น Bay Window พอดีและเป็นกระจกบานใหญ่แบบ Full Frame ไม่มีขอบวงกบมาบังสายตาด้วยค่ะ

    ถัดเข้าไปบริเวณกลางบ้านจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และ Pantry ครัว เปิดเป็นพื้นที่โล่งเชื่อมต่อกันทำให้ดูกว้าง ส่วนรับประทานอาหารมีตำแหน่งที่ตรงกับประตูทางเข้าจากที่จอดรถเลยค่ะ

    เป็นประตูเล็กที่ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งเวลาที่คุณพ่อมีแขก สมาชิกคนอื่นก็เลี่ยงมาเข้าประตูนี้ได้ ไม่ไปรบกวนการรับแขกด้านหน้าบ้านด้วยนะ โดยที่ด้านหน้าประตูเราสามารถจัดพื้นที่สำหรับตู้เก็บรองเท้าได้ เพราะเรามองว่าเวลาใช้งานจริงเจ้าของบ้านมักจะใช้ทางเข้านี้เป็นหลัก ดังนั้นการมีชั้นวางรองเท้าตรงนี้ก็จะสะดวกสำหรับใช้งานมากกว่าตำแหน่งอื่น

    อย่างที่เค้าตกแต่งไว้ให้ดูในบ้านตัวอย่างก็มีพื้นที่พอให้ Built-in ตู้เก็บรองเท้าพร้อมที่นั่งใส่รองเท้าค่ะ

    ติดกับประตูทางเข้าจะมี Keypad ที่ควบคุมระบบกันขโมยที่ให้มา จะติดไว้ข้างประตูทางเข้าจากที่จอดรถนี่แหละ เป็นตำแหน่งที่อยู่กลางบ้านจึงเข้าถึงได้ง่ายดี และยังมีระบบ Nasket ที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านค้า Tops, Lotus, 7-11, บริการทำความสะอาด, ช่างซ่อม, สปา เป็นต้น และมี Video Door Bell ที่เราสามารถพูดคุยเห็นหน้าคนที่มากดกริ่งหน้าบ้านเราได้อีกด้วย

    จะสังเกตได้ว่าห้องทานอาหารและ Pantry ครัว จะเป็นมุมที่มองเห็นสระว่ายน้ำชัดเจนที่สุด เหมาะกับการจัดปาร์ตี้ เวลาเพื่อนๆมาบ้านเลยนะคะ

    โซน Pantry ครัวมีขนาดใหญ่ทีเดียว จะทำเป็นเคาน์เตอร์ Island ตามแบบในบ้านตัวอย่างก็มีพื้นที่พอ ซึ่งบ้าน Standard จะได้มาเป็นแบบโล่งๆ แต่เตรียมงานระบบต่างๆไว้ให้พร้อมค่ะ

    สระว่ายน้ำที่ได้ภายในบ้านจะเป็นระบบเกลือ มีขนาดอยู่ที่ 3 x 12.5 เมตร ซึ่งหากใครชอบออกกำลังกายแบบจริงจังก็สามารถติดเครื่องว่ายทวนกระแสน้ำเพิ่มได้นะคะ

    สำหรับการดูแลสระว่ายน้ำทางโครงการแจ้งว่าจะมี Package ดูแลสระแถมให้ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วราคาค่าดูสระต่อเดือนก็ตกเพียง 2-3 พันบาทเท่านั้น

    ตำแหน่งของสระว่ายน้ำจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เราจึงสามารถว่ายน้ำแบบแดดไม่จัดมาก ได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เลย หรือหากต้องการสระว่ายน้ำในร่ม ก็สามารถทำหลังคาเพิ่มเติมได้ค่ะ

    งานระบบสระว่ายน้ำจะอยู่ปลายสุดของสระ และทำประตูปิดไว้เรียบร้อย สะดวกต่อการดูแล ซ่อมแซม

    จากริมสระว่ายน้ำเราสามารถเดินเชื่อมมายังสวนด้านหลังได้เลยนะคะ ซึ่งมีพื้นที่กว้างพอสมควรให้จัดเป็นมุมนั่งเล่น ปลูกต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มได้

    หรือใครจะทำโต๊ะน้ำตกตามแบบในบ้านตัวอย่าง ก็จะได้ยินเสียงน้ำที่ช่วยสร้างบรรยากาศในการพักผ่อนได้อีกด้วย

    ส่วนตัวเราชอบการวางตำแหน่งของห้องนอนที่ชั้น 1 นะคะ เพราะถูกวางไว้ฝั่งหลังบ้าน จึงได้ความเป็นส่วนตัว ลดเสียงจอแจลงได้ และจะออกไปเปลี่ยนบรรยากาศที่สวนหลังบ้านก็สะดวกดีค่ะ

    สำหรับห้องนอนในชั้นล่างออกแบบมาให้สามารถจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ มีห้องน้ำในตัวเลย ส่วนพื้นของห้องนี้จะแตกต่างจากห้องนอนอื่นๆ คือให้กรุด้วยกระเบื้องยาง Soft Floor โดยจะมีความนุ่มกว่าพื้นทั่วๆไป เพื่อลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุหกล้มต่างๆ

    ขนาดพื้นที่ใช้สอยในห้องเพียงพอให้วางเตียงขนาดใหญ่ พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้ครบถ้วน

    ข้างเตียงมีประตูกระจกเชื่อมออกไปสวนหลังบ้านได้ค่ะ แต่เนื่องจากประตูเป็นบานกระจกสูงทำให้มีน้ำหนักเยอะหน่อย การเปิดปิดจะต้องใช้แรงมากกว่าปกติค่ะ

    ห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนชั้นล่าง จะเป็นห้องน้ำมาตรฐานเหมือนห้องอื่นๆ ไม่ได้รองรับการใช้รถเข็นสำหรับผู้สูงอายุนะคะ ภายในจัดฟังก์ชันครบและแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้จึงใช้งานได้สะดวกดี

    สุขภัณฑ์หลักๆ แล้วจะได้อ่างล้างหน้าของ Kohler และมีตู้เก็บของด้านใต้ดูเรียบร้อยสวยงาม

    ส่วนโถสุขภัณฑ์ห้องนี้จะได้ของ Kohler เช่นกัน

    โครงการจะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย ภายในมีช่องวางของเอาไว้ให้วางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ พร้อมฝักบัวของ Kohler ด้วยเช่นกัน

    มาดูโซน Service กันบ้าง สำหรับห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้น 1 จะเป็น Powder Room คือห้องน้ำแขก ที่ไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำมาให้นะคะ แบบนี้เด็กๆ ที่ว่ายน้ำ ก็จะต้องขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องส่วนตัวของแต่ละคนแทนนะ และด้านในสุดจะเป็นห้องครัวไทยที่จะเชื่อมต่อกับห้องนอนของพี่ๆ แม่บ้านอีกทีค่ะ

    Powder Room มีขนาดให้ใช้งานได้สบายๆ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ของ Kohler

    บ้านหลังนี้มีห้องเก็บของ 2 ตำแหน่งนะคะ คือนอกจากห้องเก็บของใต้บันไดที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว จะมีตู้เก็บของที่เป็นกิจจะลักษณะอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย

    ภายในตู้เก็บของสามารถแบ่งเป็นช่องเก็บย่อยๆ ได้เยอะเลย

    ถัดมาที่ห้องครัวมีขนาดใหญ่สามารถ Built-in ชุดครัวได้เต็มพื้นที่ เพราะเค้าออกแบบมาให้ช่องหน้าไม่เยอะ แต่ไปรับแสงธรรมชาติผ่านประตูกระจกแทน ซึ่งบ้านที่ได้เป็นพื้นที่โล่ง เดินงานระบบไฟ – ระบบน้ำรองรับการต่อเติม

    ภายในครัวมีช่องหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศมาด้วย ถ้าจะ Built-in ชุดครัวก็แนะนำให้วางตำแหน่งซิงค์ล้างจานไว้ตรงกับหน้าต่าง จะช่วยลดความชื้นในห้องครัวได้

    ติดกับครัวไทยจะมีห้อง Laundry ที่กั้นไว้เป็นห้องปิดสำหรับวางเครื่องซักผ้า หรือจะเพิ่มชั้นวางของเพิ่มด้านบนก็สามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดอื่นๆ เพิ่มได้อีก

    โซน Service ของแม่บ้านแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนไว้เรียบร้อย บ้านนี้มีห้องนอนแม่บ้านมาให้ 2 ห้อง และแยกห้องน้ำแม่บ้านไว้ต่างหาก ข้อดีคือช่วงกลางคืนหรือช่วงเวลาที่ครอบครัวเดินทางไปพักผ่อนก็สามารถล็อกบ้านได้ ในขณะที่แม่บ้านก็ยังอยู่อาศัยได้ตามปกติ

    ห้องนอนแม่บ้านจะมีอยู่ 2 ห้อง ขนาดพอดีห้องละ 1 คนอาศัย มีหน้าต่างระบายอากาศถูกสุขลักษณะ ส่วนห้องน้ำแม่บ้าน ภายในถึงจะกะทัดรัดหน่อย แต่มีฟังก์ชันครบ

    ต่อไปเราจะพาขึ้นไปชมชั้น 2 กันนะคะ โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กวัสดุเป็นไม้ยางพาราอัดประสาน ปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค โดยที่บันไดจะได้แสงธรรมชาติผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาพอดี

    มุมเก๋ๆ อีกส่วนหนึ่งคือตรงชานพักบันไดที่ทำออกมาเป็นกิจจะลักษณะ กว้างพอให้ทำที่นั่งเล่นได้ สิ่งที่โครงการเค้าออกแบบมาให้คือหน้าต่างบานใหญ่ที่จะเป็นช่องแสงให้กับโถงชั้น 2

    แต่เพื่อไม่ให้เสียความเป็นส่วนตัวจากสายตาของเพื่อนบ้าน จึงได้ออกแบบพื้นสำหรับวางกระถางต้นไม้มาให้ ในกรอบเส้นประสีเหลืองค่ะ

    จากตัวบันไดจะเป็นทางเดินช่วงหนึ่งก่อนที่จะถึงพื้นที่พักผ่อนของชั้น 2 ทำให้เรารู้สึกได้ว่าห้องนอนต่างๆ บนชั้นนี้จะได้ความสงบ และความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นนะคะ

    โถงตรงกลางของชั้น 2 เป็น Multi Purpose Area สำหรับจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น ทำงาน ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของครอบครัวได้เลย

    พื้นที่ตรงนี้มีขนาด 1.95 x 3.9 m. หากจัดเป็น Family Area ก็สามารถติดทีวีได้นะคะ

    ข้างๆ Multi Purpose Area จะมีระเบียงกว้างให้ออกไปนั่งเล่นได้ และเมื่อมีประตูระเบียงอยู่ข้างๆ ก็ทำให้เราสามารถเปิดระบายอากาศได้ ไม่ต้องเปิดแอร์ทั้งวัน เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ระเบียงส่วนนี้เป็นระเบียงในร่มก็เพราะติดกับหน้าต่างของห้องนอน 1 (ภาพขวา) ทำให้ห้องนอน 1 มีหน้าต่างหลายด้านเปิดระบายอากาศได้ดีค่ะ

    ห้องนอนของลูกๆ ในบ้านนี้จะมีทั้งหมด 3 ห้อง โดยห้องที่ดูเก๋หน่อยจะเป็นห้องนอน 1 ที่ยกระดับขึ้นไปกว่าห้องอื่นๆ

    ภายในห้องหากจัดเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงใหญ่ได้ หรือหากจัดเป็นห้องนั่งเล่นแบบในบ้านตัวอย่างก็สามารถวางโซฟาได้ถึง 5 – 6 ที่นั่ง

    ระยะดูทีวีของห้องนี้กว้างถึง 4.6 เมตร จึงสามารถติดทีวีขนาดใหญ่ได้

    ภายในห้องนอน 1 ก็จะมีห้องน้ำในตัวที่จัดฟังก์ชันมาครบ แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งไว้เรียบร้อย พร้อมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จาก Kohler

    สิ่งที่น่าสังเกตคือ มีหน้าต่างบานยาวที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ เปิดระบายอากาศได้

    สำหรับห้องนอน 2 และ 3 จัดแปลนมาคล้ายๆ กันเลย เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถใช้งานได้สบายตั้งแต่เด็กจนโต โดยสามารถวางเตียงใหญ่ได้ถึง 6 ฟุตเลย และมีพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet ในตัวด้วย

    สิ่งที่เราชอบในห้องนี้ก็คือหน้าต่างบานใหญ่จากพื้นถึงฝ้า ทำให้สามารถจัดมุมนั่งเล่นชมวิวได้แบบกว้างๆ เลย

    การจัดตกแต่งภายในห้องก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยนะคะ อันนี้เราเก็บภาพมาเป็นไอเดียให้ดูกันค่ะ

    สำหรับห้องน้ำจะได้ฟังก์ชัน วัสดุ และขนาดพอๆ กับในห้องนอนแรก เราชอบที่เค้าให้หน้าต่างบานยาวมาในทุกห้องน้ำเลยนะคะ

    ต่อไปเราจะพามาชม Master Bedroom ส่วนที่เราคิดว่าเก๋ที่สุดคือ เจ้า Pocket Garden ภายในห้องนอนใหญ่ที่โอบล้อมด้วยผนังกระจก ห้องจึงดูโปร่งขึ้น เป็นต้น

    Master Bedroom เป็นห้องที่มีพื้นที่ภายในขนาดกว้าง มีระเบียงในตัว เราสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนนั่งเล่น และ ส่วนพักผ่อนได้หลายรูปแบบ ตำแหน่งวางเตียงนอนสามารถวางเตียง King Size แล้วยังมีพื้นที่หัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง

    ที่เราชอบอย่างหนึ่งคือ เค้าออกแบบมาให้เป็นบานกระจกขนาบ 2 ฝั่งของเตียงนอน เปิดวิวกันแบบเต็มที่ ฝั่งหนึ่งเป็นกระจกของ Pocket Garden ที่อยู่ในห้องนอนเราเองจึงยังได้ความเป็นส่วนตัว กับอีกฝั่งหนึ่งเป็นกระจกด้านข้างบ้าน จะตรงกับส่วนที่ติดตั้ง Condensing Unit ของบ้านข้างๆ พอดี ทั้งนี้ทั้งนั้นหากอยากได้ความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดม่านเพิ่มเติมค่ะ

    ผนังกระจกได้แบบ Full Frame ไม่มีวงกบมาเกะกะสายตา ซึ่งระเบียงตรงนี้เราสามารถเปิดออกไปใช้งานได้นะคะ แต่ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าเอาไว้วางกระถางต้นไม้เพื่อเป็นวิวสีเขียวให้กับห้องนอนจะเหมาะกว่า เพราะวิวที่มองออกไปก็จะเป็นกำแพงของบ้านข้างๆ

    หากอยากนั่งเล่นบนพื้นที่ระเบียง เราคิดว่าเจ้า Pocket Garden ดูน่าใช้งานดีนะคะ

    ลองเอาร่มคันใหญ่สวยๆ มาตั้ง วางชุดโต๊ะ เก้าอี้สนาม ทำสวนแนวตั้งแล้วติดสปริงเกอร์เพื่อช่วยลดความร้อน มุมนี้คงกลายเป็นพื้นที่สวนส่วนตัวๆ ที่น่าใช้งานทีเดียว

    อีกโซนหนึ่งที่อยู่ติดกับ Pocket Garden เป็นมุมที่เหมาะกับการวางโต๊ะทำงานมากเลย เพราะได้แสงธรรมชาติอยู่ตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นพื้นที่ยาวๆ สามารถแบ่งโต๊ะทำงานกัน 2 คนก็ยังไหว ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำค่ะ

    Walk-in Closet ของห้องนี้จะมีผนังกระจกอยู่ด้านหนึ่ง ส่วนด้านอื่นเป็นผนังทึบทั้งหมดให้ทำ Built-in ได้ทั้ง 3 ด้าน และมีพื้นที่พอสำหรับทำ Island ตรงกลางได้ด้วยค่ะ

    ส่วนที่คุณผู้หญิงน่าจะชอบเลยก็คือผนังกระจก Full Frame เพราะหากเราวางโต๊ะเครื่องแป้งไว้ใกล้กระจกแบบนี้ จะทำให้สามารถใช้แสงธรรมชาติในการแต่งหน้าได้ หน้าไม่ลอยดีค่ะ ><

    วิธีการใช้ผนังกระจกของที่นี่เค้ามีชั้นเชิงนะ คือจะมีพื้นที่ด้านนอกอีกนิดหนึ่งไว้ให้สามารถปลูกต้นไม้ หรือทำผนังต้นไม้บังสายตาจากบ้านข้างเคียงได้ เป็นเทคนิคที่ทำให้ได้แสงและยังรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ได้

    ภายใน Master Bathroom จัดพื้นที่ไว้กว้างมากๆ ภายในมีช่องแสงบานใหญ่ที่เปิดระบายอากาศได้

    ฟังก์ชันภายในห้องจัดมาให้ใช้งานพร้อมกัน 2 คน ให้อ่างล่างหน้าแบบ His&Her และกั้นห้องอาบน้ำแยกออกจากห้องน้ำอย่างเป็นสัดส่วน

    ส่วนฟังก์ชันที่มีฉากกระจกกั้นไว้นั้นจะเป็นห้องอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ที่ได้เป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัติ อีกฝั่งหนึ่งที่ติดกับหน้าต่างเป็นตำแหน่งของอ่างอาบน้ำ

    อ่างอาบน้ำให้เป็นอ่างลอยของ Trusol ขนาด 1.5 x0.75 เมตร พร้อมติดตั้งก๊อกผสมแบบตั้งพื้นมาให้ ซึ่งอ่างลอยลักษณะนี้จะมีราคาสูงกว่าอ่างแบบฝังติดผนัง ส่วนในความคิดเรารู้สึกว่าอ่างลอยสวยกว่าด้วยค่ะ

    เจ้าผนังกระจกด้านหลังก็จะมีประตูสำหรับเปิดออกไปรดน้ำต้นไม้ และ Mantenance Condensing Unit ได้ค่ะ


    WILTON

    บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท

    แบบบ้านนี้คล้ายกับแบบแรกเลยค่ะ แตกต่างกันตรงที่ห้องนอนของลูกๆ ที่มี 2 ห้อง โดยลดห้องนอนที่มีตำแหน่งตรงกับ Living Room ออกไป ทำให้ Living Room ของบ้านนี้เป็น Double Volume โดยแท้จริง เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 5 คน รองรับผู้สูงอายุด้วยค่ะ

    Image 1/11
    บรรยากาศในแบบบ้าน WILTON

    บรรยากาศในแบบบ้าน WILTON

    บรรยากาศภายในบ้านแบบ WILTON


    ELLIS

    บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท

    แบบบ้านนี้จะเป็น Type เริ่มต้นของโครงการ จะมีที่จอดรถ 3 คัน ส่วนฟังก์ชันอื่นๆ ไม่แตกต่างจากแบบ Wilton แค่ขนาดพื้นที่อาจจะลดทอนลงมาหน่อย จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 5 คน รองรับผู้สูงอายุด้วยค่ะ

    Image 1/14
    บรรยากาศในแบบบ้าน ELLIS

    บรรยากาศในแบบบ้าน ELLIS

    บรรยากาศภายในบ้านแบบ ELLIS

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 ราคา ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2564

    • ELLIS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท 30 ล้านบาท (update 9/3/2023)
    • WILTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท Sold out (update 9/3/2023)
    • CHAPEL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำ
      – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท 40 ล้านบาท (update 9/3/2023)
    • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.วา/เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    image
    ลงทะเบียนนัดหมายเข้าชมโครงการเพื่อรับสิทธิพิเศษ
    หากคุณสนใจโครงการนี้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาลงทะเบียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

    บทสรุป

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

    จุดเด่นของทำเลโครงการคือ ติดถนนหลัก 2 สายทั้งถนนเลียบกาญจนาภิเษก และถนนสุขาภิบาล 2 จึงมีทางเลือกในการเดินทาง หลบเลี่ยงได้ในช่วงเวลารถติด รวมถึงมีทางลัดเยอะ ส่วนตัวเรามองว่าโครงการนี้จะเดินทางได้สะดวกสบายมากกว่ากลุ่มบ้านเดี่ยวที่อยู่ติดถนนเลียบกาญจนาภิเษกเท่านั้น เพราะทางเข้าออกอีกฝั่งหนึ่งอยู่ติดกับถนนสุขาภิบาล 2 ที่มีร้านรวง และนับวันจะเริ่มคึกคัก เต็มไปด้วยร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์มากขึ้นเรื่อยๆ จึงอุดมสมบูรณ์มากกว่า แต่หากเทียบทำเลกับโครงการที่อยู่บนเส้นสุขาภิบาล 2 อยู่แล้วนั้น เรากลับรู้สึกว่าไม่แตกต่าง เพราะหากต้องการเข้าถนนวงแหวนฯ ก็ต้องวนมาใช้ทางเข้าที่แยกหน้าโรงพยาบาลสิรินธรเช่นเดียวกัน

    ภาพรวมแล้วทำเลของโครงการเรียกได้ว่าเป็นทำเลโซนลาดกระบัง อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งก็จะตอบโจทย์สำหรับคนที่เดินทาง (ด้วยเครื่องบิน) บ่อยๆ หรือทำงานภายในสนามบิน รวมถึงเจ้าของกิจการ โรงงาน ในย่านบางนา, ชลบุรี, สมุทรปราการ ที่ยังต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ตัวเมืองกรุงเทพฯ และอยากอยู่ใกล้ศูนย์การค้าใหญ่อของย่านอย่าง Mega Bangna ค่ะ

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

    โครงการออกแบบมาให้มีทั้งไม้กั้นกระดก และประตูเลื่อนไฟฟ้า เข้าออกด้วย Easy Pass ดูเป็นกิจจะลักษณะที่ดีในเรื่องความปลอดภัย นอกจากนั้นจะมี CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ ส่วนในตัวบ้านก็จะมีระบบ Magnetic Sensor ทั้งหลัง และมี Video Door Bell หนึ่งในฟังก์ชันของระบบ Nasket ที่ทำให้เราสามารถพูดคุยเห็นหน้าคนที่มากดกริ่งหน้าบ้านเราได้อีกด้วย

    การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

    ผังโครงการ : จุดเด่นของที่นี่เราคิดว่าเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย เรื่องแรก ก็คือ  Buffer Area ที่เค้าวางผังบ้านไม่ให้ติดกับพื้นที่รอบข้างเลยจะมีถนนและลำรางสาธารณะกั้นทั้งหมดค่ะ เรื่องที่ 2 ก็คือการวางผังอาคารแบบ Repeat Plan ทำให้ช่องเปิดของแต่ละบ้านมองไม่เห็นกัน ตัวบ้านหันทิศเหนือใต้ทั้งหมด ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมในการอยู่อาศัยค่ะ

    ตัวบ้าน : เมื่อเทียบความน่าสนใจของโครงการ Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 กับโครงการหรูอื่นๆ ในย่านเดียวกัน เรามองว่าจุดเด่นของที่นี่จะเป็นแบบบ้านพูลวิลล่านี่แหละค่ะ โดยตัวบ้านและสระว่ายน้ำจะสร้างแบบเต็มพื้นที่ดิน ไม่ได้เป็นบ้านที่มีที่ดินรอบด้านกว้างขวาง เพราะเค้าให้ความสำคัญในส่วนพื้นที่ใช้สอย “ด้านใน” ที่เป็นพื้นที่ที่เรามักใช้เวลาอยู่มากกว่า หากใครชอบบ้านแบบพูลวิลล่าที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยในบ้านด้วย ไม่ได้แคร์ว่าจะต้องมีพื้นที่สวนรอบบ้านมากนัก แค่พอมีให้ปลูกต้นไม้ได้เล็กน้อย โครงการนี้เราว่าก็น่าสนใจเช่นกันค่ะ

    ส่วนงานดีไซน์โครงการและหน้าตาบ้านแบบ Modern British เป็นบ้านทรงกล่องที่มีการเจาะส่องแสงให้กับตัวบ้านเยอะมาก มีดีเทล ลวดลายที่ดูเนี้ยบแบบยุโรป แต่ด้วยความ Modern จึงมีการใช้ผนังกระจกเยอะมาก เป็นกระจกบานใหญ่แบบ Full Frame เกือบทั้งหมด  สำหรับฟังก์ชันของบ้านที่นี่จะตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของครอบครัวใหญ่แบบ 3 Generations ค่ะ

    วัสดุ :

    ภายในบ้านจะขายบ้านเปล่าที่มีห้องน้ำมาให้ครบ แต่ครัวจะไม่ได้ทำมาให้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของบ้านระดับราคานี้ที่ต้องการความสะดวกในการออกแบบต่อเติมให้เหมาะสมกับความชอบของแต่ละครอบครัวภายหลัง ส่วนวัสดุมาตรฐานให้มาเหมาะสมกับระดับราคา  มีการใช้ผนังกระจกบานใหญ่แทบทั้งหลังซึ่งมีราคาแพงกว่าผนังทึบแบบบ้านทั่วไป อย่างไรก็ตามการดูแลรักษาก็ยากขึ้นด้วยเช่นกัน

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

    ภายในโครงการเน้นพื้นที่สีเขียวมาก บริเวณทางเข้าจะปลูกต้นไม้เอาไว้ตลอดแนวถนนหลัก ทำให้ดูร่มรื่นสวยงาม และนำสายไฟทั้งหมดในโครงการลงดิน ทำให้ทัศนียภาพด้านในสวยงาม

    สาธารณูปโภค :

    พื้นที่ส่วนกลางหลักจะอยู่ที่ Clubhouse ขนาดใหญ่ สูง 2 ชั้น รวมพื้นที่อาคาร+สวนส่วนกลางประมาณ 1 ไร่ เรามองว่าแชร์กันใช้กับลูกบ้าน 65 ยูนิตได้สบายๆ โดยที่นี่จะมีมุมนั่งเล่นมาให้หลายจุด โซฟาชุดใหญ่ทั้งนั้น สำหรับฟิตเนสออกแบบมาให้มีฉากกั้นเป็นส่วนตัว และมีห้อง Spa อีก 2  ห้อง ใช้จองใช้เป็นส่วนตัวได้ แต่ที่นี่จะไม่ได้มีสระว่ายน้ำส่วนกลางมาให้  เราจึงมองว่าค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.วา/เดือน ของที่นี่ดูจะสูงไปสักหน่อยค่ะ

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 25 – 40 ล้านบาท, 12 มิถุนายน 2564

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – เข้าออกถนนหลักได้ 2 เส้นทาง เดินทางไปเส้นอ่อนนุชสะดวก มีทางลัดในการเดินทางไปบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ รอบๆ มีความอุดมสมบูรณ์ให้พึ่งพิงได้ ไม่ไกล Mega Bangna
    • ความปลอดภัย 8/10 – ไม้กระดกกั้น, ประตูเลื่อนไฟฟ้า, Key Card Access, รปภ.24 ชั่วโมง, CCTV ทั่วโครงการ, รั้ว 3 m., Magnetic Sensor
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – แบบสวยเน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมีการเจาะช่องแสงธรรมชาติ ใช้ผนังกระจกเยอะ
    • วัสดุ 7.75/10 – ดีที่ให้ผนังกระจกบานใหญ่เยอะ วัสดุอื่นๆ ปานกลาง
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – เอาสายไฟลงดิน มีแนวต้นไม้ใหญ่เยอะ บรรยากาศดี
    • สาธารณูปโภค 8/10 – มีทั้ง Clubhouse สวน และ Pavilion แบ่งกันใช้งานสบายๆ กับเพื่อนบ้าน 65 ยูนิต
    • 8.05 / 10.00

    Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 เหมาะกับใคร

    โครงการ Belgravia Exclusive Pool Villa บางนา-พระราม 9 เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่สมาชิก 5-6 คนที่มองหาพูลวิลล่า (บ้านพร้อมสระว่ายน้ำ) พร้อมห้องชั้นล่างสำหรับรองรับผู้สูงอายุ ชอบทำเลที่มีทางเลือกในการเดินทางได้หลากหลาย เข้าออกได้ 2 ทาง ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ที่มีความสงบ มีงบประมาณอยู่ที่ 25 – 40 ล้านบาท


    ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
    ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc