Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) บ้านเดี่ยวแบบใหม่สไตล์ Tropical Modern ใกล้ Mega Bangna จาก ชาญ อิสสระ [รีวิวฉบับที่ 2654]

Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.653458, 100.688462
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ

โครงการ Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) ตั้งอยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ใกล้กับถนนบางนา-ตราด กม. 8 ซึ่งจัดเป็นย่านศูนย์กลางของโซนบางนา-ตราดก็ว่าได้ เพราะโซนนี้มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง MEGA Bangna ตั้งอยู่ ภายในประกอบด้วยร้านค้าแบรนด์ดังมากมายรวมไปถึง Ikea สินค้าเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังอยู่ด้วย นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงโดยรอบจัดว่ามีความอุดมสมบูรณ์ในระยะขับรถไปได้สะดวก มี Hyper Market อย่าง Tesco Lotus Extra บางนาที่สามารถใช้ทางลัดเลี้ยวเข้าด้านหลัง Tesco Lotus ได้เลย หรือขยับไปอีกหน่อยช่วงบริเวณตัดกับถนนกิ่งแก้วก็มี Makro บางพลี และ Market Village ที่ด้านหลังมี Tesco Lotus อีกจุด ส่วนโรงพยาบาลใกล้ๆ จะมีโรงพยาบาลปิยะมินทร์ และ โรงพยาบาลศิครินทร์

สำหรับการเดินทางของทำเลนี้ตอบโจทย์มากสำหรับครอบครัวที่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือโรงงานบนช่วงถนนบางนา-ตราด หรือใช้ถนนบางนา-ตราดเป็นหลัก ตรงไปทางสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ยังรวมไปถึงคนที่มักเดินทางไปต่างประเทศทำการค้าหรือธุรกิจบ่อยๆ เพราะตัวโครงการอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เส้นบางนา-ตราด วิ่งเข้าถนนสุวรรณภูมิ 3 หรือกิ่งแก้วไปยังสนามบินได้สะดวก

สำหรับการเดินทางเข้าเมืองก็ค่อนข้างง่าย ด้วยความที่ตัวโครงการแม้จะไม่ได้อยู่บนถนนบางนา-ตราดโดยตรง แต่สามารถใช้ซอยลัดมาออกถนนบางนา-ตราดได้ และกลับรถได้ง่ายด้วยเพราะออกมาจะเจอกับจุดกลับรถเลย ไม่ต้องไปกลับรถไกลทำให้วิ่งเข้าไปยังเส้นสุขุมวิทหรือแยกบางนาได้เร็วมากขึ้น หรือจะใช้การเดินทางสาธารณะก็มีตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองเพราะมีรถไฟฟ้สายสีเหลืองเปิดให้ใช้บริการ สถานที่ใกล้ที่สุดที่ สถานีศรีเอี่ยม ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลายมากขึ้น

พูดถึงซอยลัดกันอีกหน่อย สำหรับถนนเลียบมอเตอร์เวย์นี้จะมีซอยลัดด้านหลังที่สามารถวิ่งออกไปทะลุได้ทั้งบางนา-ตราดและถนนเฉลิมพระเกียรติร. 9 ด้านหลังสวนหลวงร.9  ซึ่งใครที่ชอบวิ่งออกกำลังกายที่สวนหรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินห้าง Paradise Park ที่คนไม่พลุกพล่านเท่า Mega Bangna ก็สะดวกเช่นกัน

หากเดินทางจากเส้นสุขุมวิทวิ่งมาจากใจกลางเมือง สามารถเลี้ยวเข้าถนนบางนา-ตราดวิ่งตรงมาประมาณ 9 กม. ผ่านห้างและ Hyper Market ต่างๆ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าเลียบมอเตอร์เวย์อีกหน่อยก็เข้าโครงการได้ง่าย หากรถไม่ติดมากนักจากบริเวณอุดมสุข วิ่งมาโครงการใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีก็ถึงโครงการ

สำหรับการเดินทางจากโครงการไปยัง MEGA Bangna ศูนย์การค้าที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด สามารถเดินทางได้ง่ายเช่นกัน แม้ที่ตั้งโครงการจะไม่ได้ติดถนนบางนา-ตราด แต่มีซอยลัดชื่อ ถนนนัมเบอร์วัน 2 สามารถวิ่งไปทะลุออกบางนา-ตราดได้และสามารถวิ่งขึ้นเข้า Mega Bangna ได้เลย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บรรยากาศโดยรอบโครงการ Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าล้อมรอบโครงการ เลยไปอีกหน่อยจะเป็นโซนหมู่บ้านขนาดใหญ่เรียงไปตามถนนเลียบมอเตอร์เวย์ โดยโครงการนี้จัดว่าเป็นโครงการที่อยู่ใกล้กับถนนบางนา-ตราดมากที่สุด สภาพแวดล้อมโครงการค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับเป็นที่พักอาศัยและต้องการความเป็นส่วนตัว บริเวณหน้าโครงการที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ ซึ่งทางโครงการก็มีการออกแบบโดยใช้ระยะ Set Back จัดให้เป็นสวน เพื่อเป็น Buffer ช่วยกันมลภาวะจากถนนต่างๆ เช่น เสียง ฝุ่นควัน ได้พอสมควร แบ่งตามทิศต่างๆโดยรอบประกอบด้วย

• ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่าง อาคารสูง 1-2 ชั้น และลานจอดรถ
• ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่าง
• ทิศตะวันออก : ติดกับ ถนนเลียบมอเตอร์เวย์
• ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่าง และบ้านพักอาศัย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ศูนย์การค้า โลตัสบางนา 4.8 km.
• ศูนย์การค้า เมกา บางนา 6 km.
• ศูนย์การค้า IKEA บางนา  6 km.
• พาราไดซ์พาร์ค ศรีนครินทร์  10 km.
• ซีคอน สแควร์ 11 km.
• อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ 11 km.
• ศูนย์การค้า เซ็นทรัล บางนา 13 km.
• ศูนย์การค้า บิ๊กซี บางนา 13 km.
• เอสบี เฟอร์นิเจอร์ 13.9 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลศิครินทร์ 11.2 km.
• โรงพยาบาลไทยนครินทร์ 13.4 km.

โรงเรียน

• โรงเรียน ราชวินิต บางแก้ว 6.9 km.
• โรงเรียนนานาชาติ คองคาเดียล 7.2 km.
• โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ศรีนครินทร์  11.9 km.
• โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา  14.3 km.
• มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา (รามคำแหง 2)  2.9 km.
• มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ  10.7 km.
• มหาวิทยาลัยนานาชาติ สแตมฟอร์ต  15.6 km.
• มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค)  20 km.

สถานที่อื่นๆ

• สนามบินสุวรรณภูมิ  18.9 km.

โครงการ Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) ตั้งอยู่บนเนื้อที่ดิน 24 ไร่กว่า โดยมีจำนวนยูนิตที่ 43 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการที่ยูนิตน้อยจึงได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย มีการจัดวางผังโครงการที่น่าสนใจ เริ่มจากหน้าโครงการเข้ามาจะอยู่ติดกับ Club House ฝั่งขวามือเลย ซึ่งตัว Club House นี้นอกจากเป็นพื้นที่ส่วนกลางของลูกบ้านในโครงการแล้ว ด้วยตำแหน่งที่อยู่ด้านหน้าโครงการ เปรียบเสมือนมุมต้อนรับทางด้านหน้าให้กับโครงการ สามารถจัดให้เป็นพื้นที่นัดพบกับแขกที่มาเยี่ยมได้ โดยไม่ต้องเชิญเข้าบ้าน หากลูกบ้านต้องการความเป็นส่วนตัว

การจัดผังเน้นถนนใหญ่ทั้งหมด เสาไฟฟ้าลงใต้ดินเรียบร้อย ปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบได้ความร่มรื่นน่าอยู่อาศัย ไม่มีซอยย่อยหรือซอยตันสามารถขับรถวนออกได้ทุกซอย เพื่อให้ลูกบ้านเดินทางเข้า-ออกได้สะดวกมากขึ้น รวมทั้งการวางทิศทางของหน้าบ้านให้หันเฉพาะทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เหมาะสมในการอยู่อาศัย มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทิศเหนือเด่นในเรื่องหน้าบ้านไม่โดนแดดช่วงบ่าย ทิศใต้ ได้ลมพัดผ่านเข้าหน้าบ้านได้ดี

เริ่มต้นจากบริเวณถนนหน้าโครงการเลี้ยวเข้ามามีพื้นที่ถนนโครงการเข้าไปอีกหน่อยก่อนจะถึงซุ้มโครงการ เพื่อให้มีระยะ Set Back ที่เหมาะสม เป็น Buffer ระหว่างภายในโครงการและถนนติดโครงการ บริเวณนี้เราจะเห็นซุ้มประตูทางเข้าฝั่งซ้ายมือ และอาคารด้านข้างนั้นคือ Clubhouse โครงการ

อาคารด้านข้างนั้นคือ Clubhouse โครงการ

ทางเข้า-ออกโครงการแบ่งถนนเป็น 2 เลน คั่นกลางด้วยสระน้ำพุ ซุ้มโครงการตกแต่งเรียบง่ายตามแนวดีไซน์ Tropical Modern แบ่งการเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่ง เพื่อการเดินทางสัญจรของรถสะดวกมากขึ้น

บริเวณทางเข้าแยกย่อยอีก 2 ฝั่ง คือฝั่ง Residence และ Visitor สำหรับลูกบ้านโครงการสามารถเข้า-ออกได้โดยใช้ Keycard Access แบบ RFID รูปแบบการใช้งานลักษณะเหมือน Easypass ทางด่วน ส่วน Visitor จำเป็นต้องแลกบัตรทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย ละมีกล้อง CCTV คอยบันทึกไว้

มีประตูคนเดินทางด้านข้างให้เลือกใช้งานได้

ถนนภายในโครงการกว้าง 12 ม. โดยช่วงด้านหน้าโครงการปูพื้นด้วย Concrete Stamp บรรยากาศโดยรวมร่มรื่นได้ ร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวถนน ถนนในโครงการจะวางระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมด เพื่อให้บรรยากาศโครงการสวยงาม

บริเวณด้านหน้าของ Clubhouse สูง 2 ชั้น สไตล์ Modern เข้ากับบรรยากาศและตัวบ้านในโครงการ โดยเน้นการออกแบบเรียบง่ายผสานกับธรรมชาติได้ดี รวมไปถึงรายล้อมด้วยต้นไม้สีเขียว ดันให้ตัว Clubhouse เด่นขึ้น

ทางขึ้นส่วน Clubhouse ปกติเวลาเราใช้งาน Clubhouse ที่มี 2 ชั้นทั่วไปมักจะขึ้นจากชั้น 1 ไปยังชั้น 2  แต่ที่นี่เน้นฟังก์ชันชั้น 2 เป็นหลัก เลยออกแบบให้เราเดินขึ้นก่อนเลย ความรู้สึกเวลาเดินขึ้นจากการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบนี้ทำให้รู้สึกโอ่โถงมากยิ่งขึ้น ด้านข้างมีทางลาดเอียงไว้เรียบร้อยสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการ ขึ้นมาใช้งานได้เช่นกัน

เมื่อขึ้นมาจะเจอกับพื้นที่ Semi-Outdoor ขนาดใหญ่ ที่ได้ฝ้าเพดานสูงมาก บริเวณนี้เป็นช่องลมได้ดีมาก ฝั่งซ้ายมือจะเห็นต้นไม้ตรงกลาง เสมือนเป็นสวนในอาคาร แต่เปิดหลังคาโล่งเพื่อรับแสงแดดได้ดี ส่วนฝั่งขวานั้นคือสระว่ายน้ำ ตรงกลางจึงเห็น Day Bed วางเรียงกันไปหันไปทางสระว่ายน้ำ พื้นที่ Day Bed สามารถมาใช้งานได้ตลอดเพราะช่วยกันแดดกันฝนได้ด้วย

Clubhouse สไตล์ Modern ที่โดเด่นคือการออกแบบ เสาที่เลียนแบบไม้ แต่ไม่ใช่ไม้จริงแต่ เป็นการนำอลูมิเนียมมาตกแต่งเสา โดยใช้ลายไม้และ Texture ไม้ ให้ความสวยงาม และตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ดีกว่าไม้ เพราะสามารถทนแดดทนฝนได้ดี

สระว่ายน้ำได้เป็นสระเกลือ ยกสระอยู่บนชั้น 2 เพิ่มความ Private มากขึ้น ขนาดสระอยู่ที่ 7 x 30 ม. เป็นความยาวที่เกิน Half Olympic ใช้เป็นสระออกกำลังกายได้เต็มที่ ด้านข้างจะเป็นโซนจากุชชี่ ให้เลือกมานั่งแช่ตัวได้

ด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่สำหรับล้างตัวก่อนลงสระเตรียมไว้ให้

พื้นที่ทางด้านข้างสระว่ายน้ำทำเป็นแนวทางเดินเชื่อมต่อไปใช้งานส่วนต่างๆใน Clubhouse โดยออกแบบเป็นทางลาดให้ผู้ที่ใช้รถเข็นสามารถไปใช้งานได้สะดวก

บรรยากาศภายใน Clubhouse จะเน้นความโปร่งโล่ง และความร่มรื่นมีต้นไม้ขนาดใหญ่ตรงกลาง เราสามารถมานั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำได้

ถัดมาฝั่งตรงข้ามของสระเป็นส่วนภายในอาคาร Clubhouse แล้วนะคะ โดยแบ่งเป็น Fitness และ Amphitheater

ขึ้นมาที่ชั้นบน ของ Clubhouse จะเป็นห้องออกกำลังกายภายในจัดวางเครื่องออกกำลังกายไว้หลากหลายแบบ สามารถกระจายๆกันเล่นได้ โดยมุมมองจากห้องออกกำลังกายจะมองเห็นต้นไม้โดยรอบและสระว่ายน้ำของโครงการได้

บรรยากาศภายในเน้นความโปร่งโล่ง สามารถเลือกใช้งานนั่งพักผ่อนได้หลากหลาย หรือใช้เป็นที่รับรองแขก คุยงานต่างๆก็ได้เช่นกัน

ถัดจาก Fitness เป็นส่วนพื้นที่ Amphitheater ขนาดใหญ่ จัดพื้นที่นั่งเป็นลำดับขั้นให้นั่งได้สบาย รอบข้างทั้ง 3 ข้างได้ชุดกระจกบานใหญ่สูงถึงฝ้าเพดานเช่นเดียวกัน และเมื่อมีการใช้งานจะมีม่านปิดพร้อม Projector ฉายได้

ลงมาที่ชั้นล่างของ Clubhouse จัดเป็น Kid’s Room ให้เด็กๆมาใช้งานกันได้

บริเวณชั้นล่างของ Clubhouse จะมีห้องน้ำ-อาบน้ำส่วนกลาง โดยแบ่งการใช้งานชาย-หญิง มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า Steam และ Locker สำหรับผู้มาใช้ส่วนกลาง พื้นที่ภายในห้องน้ำพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวก

ติดกับ Kid’s Room ทางด้านข้างจะเป็นสนามเด็กเล่น แบบเปิดโล่ง เด็กๆสามารถมาใช้งานได้ต่อเนื่องกัน มีการแบ่งโซนแยกไว้เพื่อความปลอดภัย

ติดกับ Clubhouse จะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะของโครงการ แยกโซนไว้บริเวณด้านหน้า ภายในจะมีแนวทางเดิน และพื้นที่นั่งพักผ่อน ให้มาเดินออกกำลังกายพักผ่อนได้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการ
• สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 7×30 เมตร พร้อมโซนจากุชชี่
• ห้องออกกำลังกาย
• Amphitheater
• Kid’s Room
• Multi-purpose Area
• ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ แยกชายหญิง
• Steam
• สวนสาธารณะ
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 ม.
• Key Card Access ระยะใกล้
• สายไฟฟ้าลงใต้ดิน
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และประตูเหล็กบานเปิด

โครงการ Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) จัดเป็นโครงการบ้านหรูที่มีสไตล์การออกแบบน่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในรูปแบบบ้านสไตล์ “Tropical Modern House” ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกชื่อดังของไทยที่มีทั้งงานที่ไทยและเทศอย่าง บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) โดยเน้นการออกแบบให้ตัวบ้านมี Ventilation สูงสุด ทั้งการออกแบบชานหน้าบ้าน (ระเบียงขนาดใหญ่) ผนวกกับช่องเปิดที่ได้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ซึ่งทำให้ลมพัดผ่านได้ดี ช่วยให้ตัวบ้านไม่ร้อน ระเบียงขนาดใหญ่มีส่วนช่วยมากๆ ในเรื่องการกันแดด กันฝนได้ ไม่เข้าตัวบ้านโดยตรง ประกอบกับเรื่องของหน้าบ้านที่เน้นวางทิศเหนือ-ใต้ ก็จะตอบโจทย์บ้านหน้ากว้างได้ดีมากขึ้น

สำหรับบ้านที่มารีวิวในวันนี้ แบบบ้าน ABELLIA++ นั้นจะมีเพียงหลังเดียวในโครงการ โดยมาจากการพัฒนารูปแบบบ้าน ABELLIA ให้สามารถตอบโจทย์ในเรื่องฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ยังคงแนวคิดการออกแบบผังบ้านด้วยรูปแบบบ้านหน้ากว้างกว่า 30 เมตร ที่เน้นการจัดฟังก์ชันภายในแบ่งได้เป็นสัดส่วน เพิ่มพื้นที่พักผ่อนหลากหลายทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ให้เลือกใช้งานได้ การเพิ่มส่วน Glass Pantry มี Sunroom เพื่อเพิ่มช่องแสงธรรมชาติให้กับตัวบ้าน การปรับส่วน Living และ Dinning โดยได้ Inspiration มาจากแนวคิด We never day, We remember moment ทำให้บ้านมี Moment ที่แตกต่างในแต่ละชั้น

นอกจากนี้ทางโครงการมีออกแบบพิเศษเพื่อตอบโจทย์ลูกบ้านในเรื่องความสะดวกสบาย โดยบ้าน  ABELLIA++ จะออกแบบและตกแต่งให้ครบ เป็นบ้านพร้อมอยู่ Fully Furnished ที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง ยกตัวอย่าง Sofa Brand Minotti จาก Italy ที่มีดีไซน์และขนาดใหญ่พิเศษ , ชั้นวางทีวี วัสดุเป็นหินอ่อนสีขาว Arabesgato และ Stainless Champaign Gold มาตกแต่ง และโต๊ะกลาง Top หินสีดำ เป็นหินอ่อน Spanish Portoro Gold รวมถึงชุดครัวที่มีมาให้พร้อมทั้ง Hob&Hood , Sink , Microwave และ Oven จาก Bosch เป็นต้น

สรุปโครงสร้างและวัสดุของตัวบ้าน

• ระบบการก่อสร้าง Conventional อิฐมวลเบา
• โครงสร้างที่จอดรถ –Slab on Beam
• ประตูรั้วบ้านระบบไฟฟ้า เปิด-ปิดด้วยรีโมท
• ระบบไฟบ้านรองรับ EV Charger บริเวณที่จอดรถ
• กรอบบานประตูหน้าต่างอลูมิเนียม
• โครงสร้างบันได : โครงเหล็กยึดผนัง ราวระเบียงกระจก ขั้นบันไดไม้เนื้อแข็ง
• พื้นชั้น 1 – กระเบื้อง Porcelain
• พื้นชั้น 2 , 3 – Engineering Wood สีโอ๊ค
• สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ TOTO , Grohe
• อ่างอาบน้ำ Kasch
• ระบบ AIR VRV
• ถังขยะ ช่องพัสดุและจดหมาย แบบฝังกำแพง

ระบบรักษาการปลอดภัย และเทคโนโลยีในตัวบ้าน

• ประตูหน้าบ้านติดระบบ Digital Door Lock ของ Samsung
• CCTV รอบตัวบ้าน 3 ตำแหน่ง
• Home Automation เปิด-ปิด แอร์ / ไฟส่องสว่าง
• กริ่งสัญญาณเตือนแจ้งป้อม รปภ.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ABELLIA++ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 170 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 800 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์ภายในบ้าน

ชั้น 1 ลักษณะเป็นบ้านหน้ากว้าง มีข้อดีคือสามารถแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วน สามารถเปิดรับวิวและได้มุมมองแบบมุมกว้าง เริ่มจากด้านหน้าของตัวบ้านจะมีพื้นที่จอดรถ 5 คัน เมื่อเข้ามาในบริเวณบ้านโดยรอบทางโครงการจะมีจัดสวนไว้ให้ มีพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนในสวน มีห้องน้ำแยกส่วนการใช้งานไว้ให้ มีห้องเก็บของที่โรงจอดรถ มีประตูทางเข้าหลัก และเพิ่มทางลาดทางด้านข้างเพื่อเข้าสู่ตัวบ้านได้สะดวกสำหรับผู้ใช้รถเข็น เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอโถงเพื่อแยกเส้นทางไปส่วนอื่นๆของตัวบ้าน บ้านชั้น 1 จัดพื้นที่ไว้กว้างขวางที่เน้นความโปร่งโล่งด้วยกระจก 2 ฝั่ง สามารถจัดเป็นห้องห้องนั่งเล่นพักผ่อน และส่วนทานอาหารได้

พร้อมจุดเด่นที่เพิ่มมาใหม่กับ Glass Pantry สวยๆได้แสงธรรมชาติ สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำที่อยู่ทางด้านหลังได้เต็มที่ ส่วนครัวแยกครัวไทย ครัวฝรั่งไว้เป็นสัดส่วน และมีลิฟต์โดยสารเพื่อใช้ไปชั้นอื่นๆของบ้านได้สะดวก ส่วนแม่บ้านจะแบ่งโซนอยู่ในชั้นนี้เช่นกันโดยอยู่อีกฝั่งของตัวบ้านไม่รบกวนกับโซนของเจ้าของบ้าน

ชั้น 2 แบ่งเป็นพื้นที่ห้องนอนฝั่งซ้ายมือ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน และฝั่งขวามือจากลิฟต์/บันไดนั้นเป็นพื้นที่นั่งเล่น Family Room ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นจากชั้นล่าง หากว่าชั้นล่างต้องต้อนรับแขก สมาชิกในบ้านคนอื่นสามารถใช้พื้นที่นั่งเล่นชั้นบนได้ นอกจากเป็นพื้นที่นั่งเล่นแล้ว ยังจัดให้มีบริเวณ Pantry และ Powder Room ด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกลูกบ้านมากขึ้น ไม่ต้องลงไปจัดเครื่องดื่มในชั้นล่าง หรือเดินออกไปเข้าห้องน้ำในห้องอื่นๆ Highlight หลักในชั้นนี้คือ ระเบียง Balcony ที่ล้อมตัวบ้าน บริเวณที่ติดระเบียงจะได้ประตูบานเลื่อนกระจกทั้งหมด ทำให้สามารถเปิดประตูได้เต็มที่ รับลมและรับวิวได้ดี ระเบียงเองสามารถออกมาใช้งานได้จริง

สำหรับพื้นที่ห้องนอนนั้นแบ่งเป็น 3 ห้อง มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง พื้นที่ออกแบบมานอกจากจะรองรับครอบครัวใหญ่แล้ว ยังตั้งใจออกแบบมาสำหรับครอบครัวขยาย เช่น ลูกมีครอบครัว มีหลาน ก็สามารถกั้นพื้นที่นอนชั้นนี้เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวขนาดเล็กได้ และห้อง Junior Master Bedroom ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่และห้องน้ำใหญ่ มีอ่างอาบน้ำ เสมือนกับห้อง Master Bedroom อีกห้อง

ชั้น 3 เป็นชั้นพักอาศัยหลักทั้งหมด แบ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่น Family Room ที่เชื่อมต่อกับ Study Room ห้องทำงานให้ใช้งานแบบส่วนตัวในชั้นนี้ อีกฝั่งของบ้านจะเป็นห้องนอนใหญ่ Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่เมื่อวางเตียงนอนแล้ว ยังสามารถจัดมุมนั่งเล่นพักผ่อนในห้องได้อีกด้วย มาพร้อมห้องน้ำในตัวมี Bath tub และ Walk-in Closet แบ่งโซนไว้ให้ 2 ตำแหน่ง สำหรับ Highlight ของชั้นนี้ที่โดดเด่นกว่าแบบบ้านทั่วๆไปคือ พื้นที่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จัดมาให้ขนาดใหญ่มาก หากดูจากผังจะเห็นว่าห้องน้ำใหญ่กว่าพื้นที่เตียงนอนเสียอีก

เริ่มต้นที่บริเวณที่จอดรถมีความกว้าง 12.85 เมตร จอถรถได้ 5 คัน พื้นบริเวณนี้ใช้โครงสร้างแบบ Slab on Beam หรือพื้นที่มีเสาเข็มรองรับ ส่วนพื้นปูด้วย Concrete Stamp เรียบร้อยสุดทางมีช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆได้ และทางโครงการจะเตรียมตำแหน่งปลั๊กเพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger ที่บริเวณที่จอดรถไว้ให้

หน้าบ้านแต่ละหลังมีประตูบานเปิดสำหรับคนเดินเข้า-ออก และประตูรั้วที่ให้มาเป็นแบบบานเลื่อนเปิดออกชิดไปทางด้านข้าง เป็นประตูรั้วบ้านระบบไฟฟ้า ควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมท ด้านข้างมีถังขยะสำหรับทิ้งขยะจากด้านในของตัวบ้าน ช่วยเพิ่มความสะดวก ไม่ต้องออกมาทิ้งขยะนอกตัวบ้าน และช่วยป้องกันกลิ่นต่างๆ รวมไปถึงทำให้ไม่ต้องตั้งถังขยะหน้าบ้านช่วยให้ภาพรวมบรรยากาศภายในโครงการและการใช้งานดูเรียบร้อย

จากที่จอดรถสามารถเลือกการเข้าบ้านได้ 2 ฝั่ง จากประตูหลักของตัวบ้าน และจากทางด้านข้างของจอดรถจะมีทางลาดเชื่อมเข้าตัวบ้านได้ สำหรับเข็นรถ หรือต้องการยกสัมภาระของต่างๆ เข้าบ้านได้สะดวก

จากที่จอดรถทางเข้าบ้านจะมีหลังคาเชื่อมถึงกันตลอดแนวจึงไม่ต้องกังวลเรื่องฝนตก จากที่จอดจะมีบันไดยกระดับแยกส่วนเพื่อเดินเข้าตัวบ้านได้

ทางเข้าบ้านจะยกระดับพื้นขึ้นมาเพื่อแยกโซนทางเข้าบ้าน เป็นประตูไม้ขนาดใหญ่ สามารถเปิดใช้งานบานคู่ข้างๆได้ ช่วยให้ประตูกว้างขึ้นใช้งานได้สะดวก พร้อมติดอุปกรณ์ Digital door lock มาให้พร้อมใช้งาน พื้นที่ด้านข้างแบ่งมีไว้สำหรับนั่งใส่-ถอดรองเท้า ก่อนเข้าไปในตัวบ้านได้สะดวก

พื้นที่โดยรอบตัวบ้านจะมีระยะให้ทำเป็นแนวทางเดินเชื่อมต่อไปทางด้านข้างของตัวบ้าน เราสามารถจัดเป็นสวนแบบส่วนตัวได้

สำหรับบ้านหลังนี้พื้นที่ทางด้านข้างจะจัดเป็นสวน ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ร่มเงา ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมร่มรื่น พร้อมทำที่นั่งพักผ่อนแบบ Semi outdoor ไว้ให้มานั่งเล่นกันได้

พื้นที่นั่งเล่นริมสระจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำของตัวบ้านพอดี สามารถจัดปาร์ตี้ริมสระ ทำเป็นมุมพักผ่อนแบบส่วนตัวได้

ทางด้านข้างจะมีจุดให้ล้างตัวก่อนลงสระ เตรียมไว้ให้ 1 ตำแหน่ง

มาที่สระว่ายน้ำจะอยู่ทางด้านหลังของตัวบ้าน เป็นสระแบบกลางแจ้ง ตำแหน่งจะอยู่ติดกับส่วนรับแขก นั่งเล่นของตัวบ้านพอดี ทำให้สามารถมองวิวสระว่ายน้ำจากด้านในตัวบ้านได้

บริเวณชั้น 1 ของบ้าน ติดกับฝั่งสวนจะทำเป็น Glass Pantry มีประตูเดินเชื่อมต่อมาใช้สระว่ายน้ำ หรือมานั่งพักผ่อนในบริเวณสวนได้

ทางด้านในสุดของบริเวณสวนจะมีห้องน้ำแบบ Powder room เตรียมไว้ให้ใช้งาน 1 ห้อง เวลามาใช้สระว่ายน้ำ หรือปาร์ตี้ริมสระแล้วจะเข้าห้องน้ำก็สามารถมาใช้ห้องนี้ได้สะดวก ไม่ต้องเดินเข้าไปใช้ในตัวบ้าน

มาที่ทางเข้าบ้านเป็นประตูไม้ขนาดใหญ่ สามารถเปิดใช้งานบานคู่ข้างๆได้ ช่วยให้ประตูกว้างขึ้นใช้งานได้สะดวก พร้อมติดอุปกรณ์ Digital door lock มาให้พร้อมใช้งาน

เข้ามาส่วนแรกจะเป็น Foyer จัดเป็นโถงต้องรับของตัวบ้าน เพื่อเชื่อมต่อไปส่วนอื่นๆภายในบ้าน

บริเวณ Foyer จะมีบันได และลิฟต์โดยสารให้เลือกใช้งาน การมีลิฟต์ภายในบ้านแบบนี้จะช่วยให้ผู้สูงอายุ เด็ก หรือผู้ที่ต้องใช้รถเข็นสามารถขึ้นไปใช้งานพื้นที่อื่นๆของตัวบ้านได้สะดวก

มาที่ส่วนแรกของบ้านชั้น 1 จัดไว้เป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ทางฝั่งด้านหน้าของตัวบ้าน ออกแบบความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดานสูง 3.2 เมตร ทำให้ได้ความโปร่งโล่ง มีบานเลื่อนกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าทั้งหมดโดยรอบทั้ง 3 ด้าน ทำให้มุมนี้ของตัวบ้านดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ห้องนั่งเล่นได้วิวและแสงธรรมชาติเต็มที่

จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร ได้ความโปร่งโล่ง กว้างขวาง ทำให้เราสามารถจัดพื้นที่แบ่งโซนการใช้งานได้ง่ายไม่อึดอัด มีระยะระหว่างทีวี และชุดโซฟาได้เต็มที่สามารถติดทีวีขนาดใหญ่ได้เลย

ถัดมาเป็นส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารขนาด 8-10 ที่นั่งได้สบายๆไม่อึดอัด มีพื้นเหลือโดยรอบใช้งานได้สะดวก

ถัดมาเป็นพื้นที่ Pantry ออกแบบให้เป็น Glass Pantry ได้แสงสว่างตลอดวัน โดยโครงการจะติดตั้งเคาน์เตอร์และชุดครัวให้เหมือนในบ้านตัวอย่าง แบบพร้อมใช้งานทั้ง Wine Cellar , Minibar , Sink ล้างจาน และ Power Socket จากส่วน Glass Pantry จะมีประตูเดินเชื่อมต่อมาใช้สระว่ายน้ำ หรือมานั่งพักผ่อนในบริเวณสวนได้

อีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นส่วน Service มีห้องครัว ห้องเก็บของ และประตูเชื่อมต่อไปบริเวณที่จอดรถ และส่วนของแม่บ้าน

ส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องเก็บของ หรือเลือกใช้งานได้หลากหลาย ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นชั้นเก็บรองเท้าและพื้นที่สำหรับเก็บของใช้ต่างๆ สามารถทำชั้นรองเท้าได้ตลอดแนวผนังทั้ง 2 ฝั่ง

ชั้น 1 โซนจะมีห้องน้ำแยกส่วนให้ใช้งานในบริเวณนี้ โดยจะเป็นแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้ามาให้ครบ ภายในห้องน้ำในส่วนของพื้นและผนังจะเป็นกระเบื้องทั้งหมด

ติดกับกับส่วนครัวในบ้านจะมีประตูเชื่อมต่อไปส่วนที่จอดรถได้ กรณีจอดรถและขนของเข้าบ้าน ก็สามารถใช้ประตูผ่านเส้นทางนี้ตรงไปที่ครัวได้เลย ออกแบบเป็นทางลาดจากทางหน้าบ้าน กรณีมีผู้ต้องใช้รถเข็น ผู้สูงอายุที่ขึ้นบันไดหน้าบ้านไม่สะดวกก็สามารถเข็นรถผ่านเส้นทางนี้เข้าสู่ตัวบ้านได้สะดวกปลอดภัย

มาที่ส่วนครัวส่วนแรก จะเป็นครัวฝรั่ง มีพื้นที่ให้วางโต๊ะทานอาหารได้ กรณีต้องการพื้นที่แบบส่วนตัวในการทานอาหารก็สามารถมาเลือกใช้งานในโซนนี้ได้ สามารถมองเห็นวิของสระว่ายน้ำได้ อีกทั้งยังอยู่ติดกับส่วนครัวทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกัน

มาที่ส่วนครัวฝรั่งที่อยู่ด้านในตัวบ้าน พื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานสามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย กรณีจัดชุดครัวชิดผนังแบบบ้านตัวอย่าง และมีเคาน์เตอร์ตรงกลางไว้สำหรับจัดเตรียมอาหาร สามารถใช้งานได้สะดวก มีหน้าต่างที่บริเวณครัวสามารถเปิด-ปิดระบายอากาศ และความชื้นจากการทำอาหารและล้างจานในบริเวณส่วนครัวได้ โดยโครงการจะติดตั้งชุดครัวและอุปกรณ์ต่างๆมาให้พร้อมใช้งานของ Bosch และ Smeg

ถัดมาจะเป็นครัวไทย ที่เชื่อมต่อจากครัวฝรั่งที่อยู่ด้านในบ้าน ออกแบบเป็นครัวปิดมีประตูกั้นแบ่งโซนการใช้งานเป็นสัดส่วน โครงการติดตั้งชุดครัวและอุปกรณ์ต่างๆมาให้ของ Bosch และ Smeg มาให้พร้อมใช้งานเช่นกัน มีประตูที่เปิดออกไปทางด้านข้างของตัวบ้าน ไปส่วนของแม่บ้านได้ สามารถเปิดระบายอากาศและกลิ่นจากการทำอาหาร และได้แสงธรรมชาติเข้ามาด้านในอีกด้วย

ขึ้นสู่ชั้น 2 สามารถขึ้นได้ทั้งจากบันไดและลิฟต์ สำหรับตัวบันไดออกแบบโดยเน้นความโปร่งโล่ง โชว์ความสวยของโครงสร้างและวัสดุ สามารถมองเห็นวิวของสระว่ายน้ำขณะใช้งานได้  ลักษณะจะเป็นบันไดโปร่งตัวโครงสร้างบันไดเป็นเหล็กที่ยึดกับผนังและพื้น ราวกันตกใช้เป็นกระจก กรอบอลูมิเนียม พื้นใช้เป็นพื้นไม้เนื้อแข็งสีโอ๊ค เพิ่มเติมคือมีไฟบริเวณด้านข้างทางเดินขึ้นบันได และกระจกบานสูงทั้ง 2 ฝั่งด้านข้างของบันได

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่โถงของชั้นนี้ เพื่อแยกไปส่วนต่างๆ บริเวณนี้จะมีหน้าต่างได้แสงธรรมชาติจากภายนอกจากบริเวณโถงบันได ช่วยเพิ่มความความโปร่งโล่ง

เริ่มที่ห้องนั่งเล่นในชั้น 2 พื้นที่การใช้งานเป็นของอเนกประสงค์ สามารถปรับการใช้งานได้หลากหลาย ในบ้านตัวอย่างจัดเป็น Family room จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น กรณีมีแขกมาบ้าน คนในบ้านก็สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้นั่งเล่นพักผ่อนแทนได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ก็ได้ตามความต้องการ

โดยห้องนี้จะมีประตูบานเลื่อนกระจกทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้สามารถเปิดรับวิวและรับลมได้แบบเต็มที่ ล้อมด้วยแนวระเบียงแนวยาวเชื่อมต่อทั้ง 2 ฝั่งให้ออกมาใช้งานได้

ถัดเข้าไปด้านในจัดเป็นส่วน Pantry เตรียมไว้ให้ เราสามารถจัดเตรียมของกิน และเครื่องดื่มใช้งานต่อเนื่องกับส่วน Family room โดยไม่ต้องลงไปที่ส่วนครัวด้านล่าง

มีห้องน้ำแยกส่วนให้ใช้งานในบริเวณนี้ โดยจะเป็นแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้ามาให้ครบ

มาที่ห้องนอนในชั้นนี้ ห้องแรกจะเป็นห้องนอนรอง ถือว่าให้พื้นที่ใช้งานมาค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว สามารถตั้งเตียงขนาด 5 ฟุต และมีพื้นที่เหลือโดยรอบให้ใช้งานอื่นๆในห้องได้สะดวก ตำแหน่งอยู่ทางฝั่งด้านในตัวบ้านแต่ก็มีหน้าต่าง ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งได้แสงธรรมชาติเต็มที่

พื้นที่ระยะด้านข้างเตียงค่อนข้างกว้างเช่นกัน สามารถวางชุดโต๊ะทำงานหรือทำเป็นที่นั่งพักผ่อนในห้องได้

ภายในห้องมีประตูบานเลื่อนกระจกและระเบียง ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งได้แสงธรรมชาติเต็มที่ เปิดรับลมได้

อีกฝั่งของตัวห้องจัดเป็น Walk-in closet โดยตำแหน่งจะอยู่บริเวณทางเข้าห้องน้ำพอดี ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง ออกจากห้องน้ำมาก็มายืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้เลย

ห้องน้ำภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบ พื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 1 x 1.84 m. พร้อมฉากกั้นอาบน้ำมาให้เป็นสัดส่วน มีหน้าต่างให้เปิดเพื่อระบายอากาศ ความชื้นภายในห้องน้ำ แสงธรรมชาติเข้าถึง

มาที่ห้องนอนรองถัดมา ให้พื้นที่ใช้งานมาค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว สามารถตั้งเตียงขนาดใหญ่และมีพื้นที่เหลือโดยรอบให้ใช้งานอื่นๆในห้องได้สะดวก และอยู่ตำแหน่งด้านในตัวบ้านแต่ก็มีหน้าต่างให้ 2 ตำแหน่ง ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งได้แสงธรรมชาติเต็มที่

พื้นที่ระยะด้านข้างเตียงค่อนข้างกว้างเช่นกัน สามารถวางชุดโต๊ะทำงานหรือทำเป็นที่นั่งพักผ่อนแบบส่วนตัวภายในห้องนอนได้

อีกฝั่งของห้องจัดเป็น Walk-in closet โดยตำแหน่งจะอยู่บริเวณทางเข้าห้องน้ำพอดี ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน

ห้องน้ำภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาและให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบ ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 1.2 x 01.4 m. พร้อมฉากกั้นอาบน้ำและอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower ส่วนผนังด้านข้างทำเป็นชั้นวางของใช้ต่างๆได้

มาที่ห้องนอนห้องสุดท้ายในชั้น 2 จะมีขนาดพื้นที่แตกต่างจาก 2 ห้องที่ผ่านมา เรียกว่าเป็น Junior Master Bedroom ก็ว่าได้ด้วยขนาดพื้นที่และฟังค์ชันภายในที่ให้มาครบ

ภายในห้องนอนสามารถวางชุดโซฟาพักผ่อนภายในห้องได้สบายๆ โดยตำแหน่งห้องจะอยู่ทางด้านหน้าของตัวบ้าน มีระเบียงที่เปิดไปทางด้านหน้าของตัวบ้านได้

พื้นที่ใช้งานมาค่อนข้างกว้างขวางเช่นกัน สามารถตั้งเตียงขนาดใหญ่และมีพื้นที่เหลือโดยรอบให้ใช้งานในห้องได้สะดวก

ภายในห้องมีประตูบานเลื่อนกระจกและระเบียง ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งได้แสงธรรมชาติเต็มที่ เปิดรับลมได้ มุมมองที่ได้จากห้องนอนจะมองเห็น Clubhouse ของโครงการพอดี

ถัดมาอีกฝั่งของห้องจะเป็นส่วน Walk in closet มีพื้นที่สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง และมีพื้นที่สำหรับทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง และอยู่บริเวณทางเข้าห้องน้ำพอดีช่วยให้ใช้งานได้สะดวกต่อเนื่องกัน

ห้องน้ำในห้องนอนจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง สามารถใช้งาน 2 คนพร้อมกันได้สบายๆ จัดอุปกรณ์และสุขภัณฑ์ต่างๆมาให้ครบพร้อมใช้งาน ในส่วนของวัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องทั้งหมด ออกแบบให้มี 2 อ่างล้างหน้า แบบ His & Her เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ อ่างอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบ พื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 1.4 x 1.7 m. มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้  ความพิเศษอยู่ที่บริเวณพื้นที่อาบน้ำเป็นห้องเดียวที่ได้ชุดประตูบานเลื่อนกระจกใส ได้แสงเข้าได้ดีมากๆ แต่ไม่เสียความเป็นส่วนตัว เพราะบริเวณรอบข้างติดกับกำแพง ไม่สามารถมองเห็นพื้นที่อาบน้ำจากภายนอกได้ด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเจอกับพื้นที่โถงของชั้นนี้ เพื่อแยกไปส่วนต่างๆ บริเวณนี้จะมีหน้าต่างได้แสงธรรมชาติจากบริเวณโถงบันไดเช่นกัน ช่วยเพิ่มความความโปร่งโล่ง

เริ่มที่ห้องนั่งเล่นในชั้น 3 พื้นที่การใช้งานเป็นของอเนกประสงค์ สามารถปรับการใช้งานได้หลากหลาย ใช้พื้นที่ตรงนี้นั่งเล่นพักผ่อนได้ตามความต้องการ

ห้องนี้จะมีประตูบานเลื่อนกระจกเปิดไประเบียงทางด้านหน้าของตัวบ้านสามารถเปิดรับวิวและรับลมได้แบบเต็มที่ และช่วยให้ห้องได้แสงธรรมชาติได้ความโปร่งโล่ง

มีห้องน้ำแยกส่วนให้ใช้งานในบริเวณนี้ โดยจะเป็นแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้ามาให้ครบ

ถัดเข้ามาจะเป็นโซนสำหรับนั่งทำงานแบบส่วนตัว เลยถัดไปจะเป็น ส่วน Pantry เตรียมไว้ให้ เราสามารถจัดเตรียมของกิน และเครื่องดื่มใช้งานต่อเนื่องกับส่วน Family room โดยไม่ต้องลงไปที่ส่วนครัวด้านล่าง

มาที่บริเวณโถงทางด้านหน้าห้อง Master Bedroom จะมีหน้าต่างได้แสงธรรมชาติจากภายนอกเช่นกัน ช่วยเพิ่มความความโปร่งโล่งให้กับพื้นที่โถงชั้น 3

ห้องนอนใหญ่จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่มีพื้นที่เหลือใช้งานได้สะดวก ตำแหน่งของห้องอยู่ด้านในของตัวบ้านเพื่อการใช้งานที่เป็นส่วนตัว มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.9 m. ตัวห้องจึงได้ความโปร่งโล่งเป็นพิเศษ

พื้นที่ระยะระหว่างเตียงถึงผนังทางด้านข้างโดยรอบของค่อนข้างกว้าง สามารถทำชุด Built in เป็นชั้นวางของต่างๆ หรือจะวางชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนภายในห้องก็ได้

ภายในห้องจะมีระเบียงและหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติและเปิดรับลมระบายอากาศได้เต็มที่

ส่วน Walk in closet ถือเป็นจุดเด่นของห้องนี้ เพราะให้มาถึง 2 ห้องให้เลือกใช้งาน คุณผู้ชาย – คุณผู้หญิง สามารถแบ่งโซนแต่งตัว มีพื้นที่ให้เก็บเสื้อผ้าได้แบบเต็มที่

มาที่ส่วน Walk in closet อีกฝั่งของตัวห้อง ภายในจัดเป็นห้องแต่งตัวของคุณผู้หญิง มีพื้นที่สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้ากับแนวผนังโดยรอบให้เก็บเสื้อผ้ากันได้เต็มที่ มีมุมหน้ากระจกให้ยืนแต่งตัว ด้านบนเจาะช่องให้ได้แสงธรรมชาติ เหมือนอยู่ในร้านเสื้อผ้า พื้นที่ค่อนข้างกว้าง และอยู่บริเวณทางเข้าห้องน้ำพอดีช่วยให้ใช้งานได้สะดวกต่อเนื่องกัน

ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่ทีเดียว โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนหลักๆ คือ พื้นที่อ่างล้างมือแบบ His & Her โถสุขภัณฑ์ และลดระดับพื้นห้องน้ำบริเวณโซนเปียกชัดเจนตรงอ่างอาบน้ำและพื้นที่อาบน้ำ บรรยากาศในห้องน้ำที่ดูโปร่งโล่งและโอ่อ่า มีอ่างอาบน้ำทรงกลมขนาดใหญ่ แช่ 2 คนได้สบาย จาก KASCH พื้นที่อาบน้ำที่เด่นมากคือ Rain Shower แบบฝังติดฝ้าเพดาน จาก Grohe สำหรับห้องน้ำ Master Bedroom จะได้โถสุขภัณฑ์รุ่นพิเศษแตกต่างจากห้องน้ำในห้องอื่นๆ โดยจะได้ยี่ห้อ TOTO ที่มีฝาเปิดอัตโนมัติพร้อมรีโมทด้านข้างให้ และมีหน้าต่างให้เปิดเพื่อระบายอากาศ ความชื้นภายในห้องน้ำ แสงธรรมชาติเข้าถึงได้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) ราคา ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2566

• ABELLIA บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 132-238 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 700-800 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน / 8 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์ภายในบ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 178 ล้านบาท
• BELLIS บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 112-170 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 550-560 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์ภายในบ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท
• CALLA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 100-154 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 460-490 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 55 ล้านบาท
• DAVIDIA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 100-129 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 49.9 ล้านบาท
• จอง 1,000,000 บาท (แบบบ้าน ABELLIA++)
• ทำสัญญา 34,710,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 120 บาท/ตร.วา จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• เงินกองทุนสำรอง 2,500 บาท/ตร.ว. ชำระครั้งเดียว
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ช่วงใกล้บางนา-ตราดกม. 8 ซึ่งจัดเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงในย่านบางนา-ตราด เพราะเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าใหญ่อย่าง Mega Bangna รวมไปถึง Hyper Market อย่าง Tesco Lotus Makro Market Village ในระยะที่ขับรถได้ง่าย นอกจากนี้แม้ที่ตั้งโครงการไม่ได้ติดถนนบางนา-ตราด แต่มีข้อได้เปรียบเพิ่มคือมีทางลัดที่นอกจากจะทะลุออกบางนา-ตราดได้แล้ว ยังสามารถทะลุออกด้านหลังสวนหลวงร. 9 ถนนเฉลิมพระเกียรติร. 9 ได้ ทำให้การวิ่งไปโซนศรีนครินทร์อย่าง สวนหลวงร. 9 Paradise Park ค่อนข้างสะดวก มีตัวเลือกในการเดินทางทั้งทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองให้เลือกใช้งานได้

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ประตูหน้าโครงการเข้า-ออกเป็นประตูรั้วขนาดใหญ่ ทางเข้า-ออกด้านหน้าใช้ระบบ Key Card Access ระยะใกล้ พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV ในโครงการ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ส่วนที่ตัวบ้านประตูหน้าบ้านติดระบบ Digital Door Lock จากที่จอดรถ , กล้อง CCTV รอบตัวบ้าน 3 ตำแหน่ง กริ่งสัญญาณเตือนแจ้งป้อม รปภ.ได้

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการบ้านเดี่ยว บนเนื้อที่ดิน 24 ไร่กว่า โดยมีจำนวนยูนิตที่ 43 ยูนิตเท่านั้น และบ้านแต่ละแปลงจึงมีขนาดประมาณ 100-230 ตร.วา มีพื้นที่รอบตัวบ้านทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย บ้านทุกหลังอยู่ติดถนนหลักใช้งานง่าย หมู่บ้านนี้จึงไม่มีซอยตันไม่ซับซ้อน ตำแหน่งบ้านวางในทิศเหนือ-ใต้ซึ่งเป็นทิศที่นิยมในการอยู่อาศัยเพราะไม่ต้องปะทะแดดโดยตรง ใครเน้นใช้งานส่วนกลางบ่อยๆควรเลือกโซนทางด้านหน้า

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : จัดเป็น Highlight ของโครงการ ด้วยแบบบ้านสไตล์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ Modern Tropical โดยได้สถาปนิกชื่อดัง อย่าง A49 เป็นผู้ออกแบบ ตัวบ้านเน้นการออกแบบในรูปแบบ บ้านล้อมธรรมชาติ ต้องการให้บ้านเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ โดยเข้าถึงธรรมชาติมากที่สุด สำหรับแบบบ้าน ABELLIA++ นั้นจะมีเพียงหลังเดียวในโครงการ โดยมาจากการพัฒนารูปแบบบ้าน ABELLIA ให้สามารถตอบโจทย์ในเรื่องฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น การปรับส่วน Living และ Dinning เพิ่มพื้นที่พักผ่อนหลากหลายทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ให้เลือกใช้งานได้ การเพิ่มส่วน Glass Pantry มี Sunroom เพื่อเพิ่มช่องแสงธรรมชาติให้กับตัวบ้าน และยังคงเน้น ชานบ้านขนาดใหญ่และกว้าง เพื่อเปิดช่องแสงจากหน้าต่างให้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานทั้งหมด สามารถรับลมและวิวได้เต็มที่

นอกจากนี้ตัวบ้านออกแบบมาให้สำหรับการอยู่อาศัยได้ทั้งครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ ออกแบบให้บ้าน 3 ชั้น มีส่วนพักผ่อน Family Room แบบส่วนตัวในทุกชั้น มีห้องนอนแยกส่วนกันพร้อมห้องน้ำในตัว มีการเพิ่มฟังก์ชันอย่าง Junior Master Bedroom ที่เหมือนเป็นห้องนอน Master Bedroom แบบย่อส่วนลงมา และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องติดกัน ห้องนอน Master Bedroom โดดเด่นกว่าแบบบ้านทั่วไปห้องนอนขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำและ Walk in closet ที่ออกแบบมาน่าใช้งานมากๆ

วัสดุ : วัสดุโครงการจัดมาให้เหมาะสมกับระดับราคาของตัวบ้าน เป็นบ้านพร้อมอยู่ Fully Furnished ที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง เลือกวัสดุดี ดีไซน์สวย และขนาดใหญ่พิเศษ มีระบบ Home Automation, Air Source Heat Pump  ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ปลอดภัย ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆ ใช้เกรดดีจาก TOTO และ Grohe รวมถึงชุดครัวที่มีมาให้พร้อมทั้ง Hob&Hood , Sink , Microwave และ Oven จาก Bosch เป็นต้น

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศโดยรวมของโครงการดูร่มรื่นด้วยแนวต้นไม้บนถนนหลัก สายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมดช่วยให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น บริเวณสวนส่วนกลางเป็นสนามหญ้า มีต้นไม้ใหญ่และจัดให้มีที่นั่งริมสวนได้ มีแนวต้นไม้ทุกซอยของโครงการช่วยให้บรรยากาศในแต่ละซอยดูร่มรื่นน่าอาศัย

สาธารณูปโภค : ที่สะดุดตาโดนเด่นคืออาคาร Clubhouse ดีไซน์สไตล์ Modern อาคารขนาดใหญ่เป็นจุดเด่นของโครงการ อยู่ทางด้านหน้าเหมือนเป็นส่วนต้อนรับก่อนเข้าไปพื้นที่ด้านในโครงการที่เป็นโซนพักอาศัย มาพร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้งและโซนพักผ่อนด้านในอาคาร และพื้นที่สวนสาธารณะ ที่สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายดี มีการออกแบบมาให้เหมาะกับทุกช่วงวัยให้สามารถมาใช้งานร่วมกันได้ มีทางลาด Slope ให้สำหรับรถเข็นขึ้น-ลงใช้งานข้าถึงได้ง่าย ถือว่าให้ Facilities หลักๆมาครบตามน่าใช้งาน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 50 – 170 ล้านบาท, 12 ธันวาคม 2566 

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนเลียบมอเตอร์เวย์ โซนบางนาใกล้ห้าง ความอุดมสมบูรณ์สูง
• ความปลอดภัย 8/10 – เข้า-ออกระบบ Key Card Access ระยะใกล้ , CCTV ที่โครงการ , บ้านติด Digital Door Lock , กล้อง CCTV 3 ตำแหน่ง
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9.5/10 – ออกแบบสวย มีเอกลักษณ์น่าอยู่ จัดฟังก์ชันได้ดี
• วัสดุ 9/10 – บ้านพร้อมอยู่ Fully Furnished ใช้วัสดุดีเหมาะกับการใช้งาน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ใช้งานเข้าถึงง่าย บรรยากาศโดยรวมร่มรื่น
• สาธารณูปโภค 9/10 – Clubhouse ดีไซน์สวยน่าใช้งาน มีให้ครบ รองรับการใช้งานในทุกช่วงวัย
• 8.43 / 10.00 

Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) เหมาะกับใคร

โครงการ Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ตกแต่งให้พร้อมเข้าอยู่ ทำเลย่านบางนาติดถนนหลักเดินทางสะดวก ไปใช้ทางด่วนได้ง่าย ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว บ้านดีไซน์ปรับใหม่ เน้นพื้นที่ใช้สอยฟังก์ชันครบ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวในบ้าน มีลิฟต์ในบ้านรองรับผู้สูงอายุได้ ส่วนกลางครบบรรยากาศดีร่มรื่น ในราคาเริ่มต้นที่ 50-178 ล้านบาท ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ