
[รีวิวฉบับที่ 2834] AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ใกล้ International Community School เพียง 500 เมตร โดยอยู่บนทำเลบางนาตอนต้นที่ถือว่ามีความคึกคักและเจริญสูงสุดของบางนา งั้นจะมีความน่าสนใจยังไงบ้าง ตามอ่านต่อได้เลยค่ะ
เรามักจะเห็นโครงการบนทำเลบางนาตอนต้นเป็นคอนโดมิเนียมหรือบ้านหรูประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป เพราะแทบไม่มีที่ดินเหลือให้พัฒนาเป็นโครงการจัดสรรแล้ว ประกอบกับการเดินทางที่สะดวกสบายทั้งเข้า-ออกเมือง ความอุดมสมบูรณ์สูง อยู่ระหว่าง Central บางนา และ Mega Bangna ซึ่งเป็นห้างหลักของคนบนทำเล รวมถึงในอนาคตยังมี Bangkok Mall และ Mega City มาเพิ่มความคึกคักของทำเลอีก จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นโครงการบ้านหรูอยู่หลายแห่งในโซนนี้ค่ะ
AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่บนซอยบางนา-ตราด 37 มีจุดเด่นที่ใกล้ รร.นานาชาติ ICS และ Raffles ในระยะ 500-900 เมตร จึงเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติแบบไปรับ-ส่งได้ง่าย นอกจากนั้นตัวบ้านก็เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเป็นหลัก ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ รองรับ 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ และมีห้องนอนชั้นล่างทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องอเนกประสงค์ได้ พร้อมส่วนกลางครบครัน ในราคาเริ่มต้น 14.29 ล้านบาท*
ทางโครงการจะเปิดรอบ VVIP วันที่ 8-9 มี.ค.นี้ และเปิดรับเฉพาะคนที่ลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้านะคะ ดังนั้นถ้าอ่านรีวิวนี้จบแล้วและอยากสัมผัสบรรยากาศภายในโครงการด้วยตัวเองก็กดลงทะเบียนที่ Link นี้ เลยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
ชื่อโครงการ | AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และ คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด |
SEGMENT CLASS | HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยบางนา-ตราด 37 (เข้าซอย 1 กม.) ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ |
ที่ดิน | 15-2-34.59 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 70 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
กำหนดการเยี่ยมชมโครงการ | รอบ VVIP วันที่ 8-9 มี.ค. หรือลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้า |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2567 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2570 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 084-354-7888 |
Line | https://lin.ee/GRuwsNG |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.668333886683177, 100.65504775190527
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Highlight
- ทำเลบางนาตอนต้น สามารถเข้าเมืองได้สะดวก มีเส้นทางลัดไปยังถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 เชื่อมไปยังอุดมสุข สุขุมวิทและพัฒนาการได้
- ความอุดมสมบูรณ์สูง เป็นทำเลอยู่ระหว่าง Central บางนา และ Mega Bangna รวมถึงมี Chic Republic บางนาและ Index Living Mall อยู่ปากซอยของโครงการ
- ใกล้ International Community School 500 เมตร นอกจากนั้นยังใกล้กับ Raffles American International School เพียง 900 เมตรด้วย
- ใกล้ทางด่วน 3 สาย ได้แก่ ทางพิเศษบูรพาวิถี, วงแหวนกาญจนาภิเษกและทางพิเศษเฉลิมมหานคร
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) ตั้งอยู่บนซอยบางนา-ตราด 37 มีระยะห่างจากถนนบางนา-ตราดเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร สังเกตได้ง่ายๆว่าเป็นซอยที่อยู่ระหว่าง Chic Republic บางนาและ Index Living Mall รวมถึงยังเป็นเส้นทางลัดไปถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 เชื่อมไปยังอุดมสุข สุขุมวิทและพัฒนาการได้ด้วย ทำให้การเดินทางบนทำเลนี้ค่อนข้างสะดวกสบายไม่ว่าจะเข้าเมืองด้วยเส้นสุขุมวิทหรือออกเมืองไปทางชลบุรีค่ะ
ความน่าสนใจของโครงการคือ ที่ตั้งอยู่ในช่วงตอนต้นของถนนบางนา-ตราด คือ การหาที่ดินมาทำพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรแบบนี้แทบไม่มีแล้ว ด้วยราคาที่ดินสูงขึ้นในทุกๆปี อีกทั้งยังมีศักยภาพอื่นๆในอนาคตที่เพิ่มความคึกคักบนทำเลอีกอย่าง Bangkok Mall และ Mega City ทำให้โครงการบนทำเลบางนาตอนต้นจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรือโครงการบ้านหรูประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป แตกต่างกับบ้านในช่วงบางนา-ตราดตอนปลายที่มีโปรดักส์บ้านหลายหลายประเภทและระดับราคามากกว่า
ทำเลโครงการนี้ถือว่าตั้งอยู่ในทำเลบางนาตอนต้นที่คึกคักและเจริญที่สุดของโซนบางนาเลย เพราะอยู่ระหว่าง 2 ห้างใหญ่ทั้ง Central บางนา และ Mega Bangna จึงมีความอุดมสมบูรณ์สูงมากๆ เราจึงมาเดินจับจ่ายใช้สอยได้สะดวก รวมถึงมี Chic Republic บางนาและ Index Living Mall อยู่ตรงปากซอยมาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านได้ง่ายๆ นอกจากนั้นยังมีทางลัดผ่านปั๊มบางจากข้างๆ Index Living Mall มาโผล่ตรงกลางซอยได้ แต่จะมีเวลาเปิด-ปิดนะคะ ซึ่งภายในปั๊มนี้ก็มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่หลายร้านเลยค่ะ
นอกจากนั้นบนทำเลบางนาเองก็มีโรงพยาบาลและอาคารสำนักงานขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง รวมถึงสถานศึกษานานาชาติด้วย เช่น International Community School (ICS), Raffles American International School (RAS), Berkeley International School และ Thai – Singapore International School เป็นต้น
ทางพิเศษบูรพาวิถี
จากโครงการสามารถใช้ทางด่วนได้ 3 สายทั้งทางพิเศษบูรพาวิถี, วงแหวนกาญจนาภิเษกและทางพิเศษเฉลิมมหานคร
- ทางพิเศษบูรพาวิถี : อยู่บนถนนบางนา-ตราด โดยมีจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.4 กิโลเมตร เพื่อเดินทางออกเมืองไปทางพัทยา-ชลบุรีค่ะ
- วงแหวนกาญจนาภิเษก : ด่านบางแก้ว มีระยะห่างจากโครงการ 6.4 กิโลเมตร โดยจะอยู่ตรงด้านหน้า Mega Bangna สามารถเดินทางรอบนอกเมืองเป็นระยะทางไกลๆและไปทางพระราม 2 หรือรามอินทรา-บางปะอินได้
- ทางพิเศษเฉลิมมหานคร : ด่านบางนาอยู่ตรงบริเวณสี่แยกบางนา ห่างจากโครงการประมาณ 7.9 กิโลเมตร ใช้เพื่อเดินทางตรงเข้าเมืองได้เลย รวมถึงยังสามารถเชื่อมต่อเปลี่ยนไปใช้ทางด่วนศรีรัชได้อีกด้วย
AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) จะมีระยะห่างจากถนนบางนา-ตราดฝั่งขาออกเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร แต่มีจุดกลับรถห่างจากตัวโครงการไปประมาณ 1.7 กิโลเมตร จึงทำให้สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่ายดี นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นที่ใกล้ International Community School ที่อยู่ในซอยเดียวกันเพียง 500 เมตร และห่างจาก Raffles American International School เพียง 900 เมตร โครงการนี้จึงเหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากส่งลูกเรียนสถานศึกษานานาชาติได้สะดวกสบาย ไม่ต้องรถติดหรือน้องๆก็สามารถเดินไปเรียนได้เองเลยค่ะ
สำหรับรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น MRT สายสีเหลือง สถานีศรีเอี่ยม มีระยะห่าง 1.5 กิโลเมตร ทำให้สามารถเดินทางไปยังลาดพร้าวได้ หรือจะเชื่อมไปยัง BTS สายสีเขียวอ่อนที่สถานีสำโรง เพื่อเดินทางเข้าเมืองได้สบายๆค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนพักอาศัยและมีหมู่บ้านจัดสรรให้เห็นอยู่บ้าง อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ภายในซอยไม่ค่อยพลุกพล่านจึงมีความเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัยค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ หมู่บ้านจัดสรร
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ ติดกับ คอนโดสูง 5 ชั้นและที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยเปรมฤทัยที่เป็นถนนด้านหน้าโครงการและบ้านพักแนวราบ 2 ชั้น
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ เมื่อมองไปฝั่งขวา
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ
บริเวณด้านหน้าเยื้องๆกับตัวโครงการจะมีจุดวินมอเตอร์ไซค์ด้วย ทำให้น้องๆหรือพี่เลี้ยงมาเรียกพี่วินไปรับ-ส่งที่โรงเรียนหรือไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวกดี โดยเฉพาะเวลาที่เร่งรีบ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Index Living Mall บางนา ~ 750 ม.
- SB Design Square บางนา ~ 850 ม.
- Chic Republic บางนา ~ 1.1 กม.
- Central บางนา ~ 2.7 กม.
- Big C บางนา ~ 3 กม.
- Decathlon บางนา ~ 4.4 กม.
- Lotus’s บางนา ~ 4.6 กม.
- Makro ศรีนครินทร์ ~ 4.9 กม.
- Big C ศรีนครินทร์ ~ 5 กม.
- Bangkok Mall ~ 5.5 กม.
- IKEA, Mega บางนา ~ 5.5 กม.
- Seacon Square ศรีนครินทร์ ~ 6.3 กม.
- JAS Urban ~ 6.7 กม.
- Bitec บางนา ~ 7.6 กม.
โรงพยาบาล
- รพ.บางนา 1 : 4.2 กม.
- รพ.ศิครินทร์ : 4.6 กม.
- รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ : 6.6 กม.
- รพ.ไทยนครินทร์ : 7 กม.
- รพ.มนารมย์ : 8.4 กม.
- รพ.จุฬารัตน์ 2 : 9.8 กม.
- รพ.สินแพทย์ เทพารักษ์ : 10.3 กม.
- รพ.สำโรงการแพทย์ : 11 กม.
- รพ.เปาโลสมุทรปราการ : 11.5 กม.
สถานศึกษา
- International Community School ~ 500 ม.
- Raffles American International School ~ 900 ม.
- Berkeley International School ~ 4.9 กม.
- รร.นานาชาติ ไทย-สิงคโปร์ ~ 5.5 กม.
- รร.บางกอกพัฒนา ~ 6.5 กม.
- รร.ราชวินิตบางแก้ว ~ 6.5 กม.
- Concordian International School ~ 6.7 กม.
- รร.เซนต์โยเซฟบางนา ~ 7.9 กม.
- รร.นานาชาติ เซนต์แอนดรูว์ ~ 9.1 กม.
- รร.บางแก้วประชาสรรค์ ~ 9.3 กม.
- รร.เทพศิรินทร์ สมุทรปราการ ~ 10.7 กม.
- รร.เซนต์โยเซฟทิพวัล ~ 11.9 กม.
- รร.สารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ ~ 15 กม.
อื่นๆ
- เมืองแก้ว กอล์ฟ คอร์ส ~ 8.5 กม.
- วัดหนามแดง ~ 10 กม.
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- พื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ นอกจากจะเป็นมุมต้อนรับที่สวยงามแล้ว ยังเป็น Buffer Zone กันกลิ่นและเสียงจากถนนไม่ให้เข้าไปยังโซนบ้านพักอาศัย
- เน้นฟังก์ชันส่วนกลางแบบ Indoor ทำให้ลูกบ้านมาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
- โซนบ้าน 2 โซน ติดถนนหลักหรือเน้นความเป็นส่วนตัว โดยบ้านที่ติดถนนหลักเข้า-ออกโครงการได้ง่าย ส่วนบ้านที่อยู่ด้านในโครงการจะไม่มีรถพลุกพล่าน ได้ความสงบ
- ทุกแบบบ้านมีตำแหน่งแปลงมุมให้เลือก ทำให้แบบบ้านเริ่มต้นตำแหน่งแปลงมุมเป็นบ้านราคาดี เปิดรับวิวกว้างและได้ความเป็นส่วนตัว ติดกับเพื่อนบ้านข้างเดียว
- บ้านหันหน้าทางทิศเหนือ-ใต้ ไม่โดนแดดโดยตรงและได้ลมดี
AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวจาก The Nest Property ที่จับมือร่วมกับ Kanden Realty & Development ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น โดยโครงการนี้เป็นโครงการแนวราบโครงการที่ 4 ต่อจาก AERIE ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา, AVIAN ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา และ AERIE ศรีนครินทร์-สวนหลวงค่ะ ซึ่งแบรนด์ AERIE เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ส่วน AVIAN จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นนั่นเอง
AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 70 ยูนิต บนที่ดินกว่า 15 ไร่ ออกแบบภายใต้ Concept อย่าง A New Generation of Refined Living ผสมผสานความทันสมัยและความสะดวกสบาย เน้นโทนสีขาว-เทาเข้ม สร้างลูกเล่นการออกแบบด้วยการตัดสีด้วยสีน้ำตาลและใช้เส้นโค้ง เพิ่มความอ่อนนุ่ม
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะแยกเป็น 2 จุด ได้แก่ Clubhouse อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการเป็นมุมต้อนรับแขกที่สวยงาม ส่วนพื้นที่สวนสีเขียวจะอยู่บริเวณตรงกลางโครงการให้ลูกบ้านมานั่งปิกนิก หรือพาสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้ งั้นเราพาไปดู Master Plan ของโครงการกันเลย
- พื้นที่ส่วนกลางออกแบบแยกจากโซนบ้านพักอาศัย โดย Clubhouse อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ เป็นมุมต้อนรับที่สวยงามและทำให้โซนบ้านพักอาศัยที่อยู่ด้านในเงียบสงบ ส่วนสวนสีเขียวจะอยู่บริเวณตรงกลางเป็นวิวสีเขียวให้โซนบ้านพักอาศัย
- แบ่งโซนบ้านเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนบ้านติดถนนหลัก เข้า-ออกได้ง่าย ไม่ต้องขับรถเข้าซอย และโซนบ้านด้านในโครงการที่เป็นซอยตัน จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีรถยนต์ขับผ่านไม่เยอะ
- การจัดตำแหน่งบ้าน โดยส่วนใหญ่แบบบ้านหลังใหญ่สุดจะเป็นบ้านแปลงมุมหรือติดถนนหลัก เข้า-ออกได้ง่าย สำหรับตำแหน่งของแบบบ้านเริ่มต้นส่วนใหญ่จะอยู่ด้านในโครงการ แต่ก็มีบ้านแปลงมุมและบ้านติดถนนหลักให้เลือกอยู่หลายหลังเหมือนกันค่ะ
- ทิศของบ้าน หันขนานไปตามทิศเหนือและใต้ที่ไม่โดนแดดโดยตรง โดยบ้านที่หันไปทางทิศเหนือจะได้ร่มเงาช่วงบ่าย ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้ก็เปิดรับลมได้ดีค่ะ
ซุ้มประตูโครงการ
เรามาเริ่มกันที่บริเวณด้านหน้าโครงการกันเลย โดยซุ้มประตูทางเข้า-ออกโครงการมีขนาดใหญ่ มีหลังคาช่วยบังแดด-ฝนได้ พร้อมจัดสวนสีเขียวอยู่ด้านข้างดูสวยงาม รวมถึงมีระยะร่นจากถนนหลัก ช่วยให้รถของลูกบ้านต่อแถวเข้า-ออกโครงการและไม่ไปติดขัดการจราจรบริเวณถนนด้านหน้าโครงการค่ะ
ประตูทางเข้า-ออกโครงการเป็นรั้วเหล็กรางเลื่อนควบคู่กับรั้วกั้นไม้กระดก แบ่งใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 ช่อง โดยแบ่งช่องแยกการใช้งานระหว่างลูกบ้านและแขก ทำให้ลูกบ้านสามารถขับรถเข้าโครงการได้เลยด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ ส่วนป้อม รปภ. จะอยู่ตรงกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ และรั้วทึบรอบโครงการ เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยภายในโครงการค่ะ
Clubhouse
เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะเจอกับ Clubhouse ที่อยู่ติดกับซุ้มประตูเลยค่ะ ทำให้เป็นมุมต้อนรับแขกที่สวยงาม รวมถึงเป็นการออกแบบเพื่อแบ่งแยกโซนส่วนกลางออกจากโซนบ้านพักอาศัย ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นและทางนิติบุคคลก็ดูแลรักษา Clubhouse ให้สวยงามได้ง่ายด้วยนั่นเอง ส่วนฝั่งตรงข้ามของ Clubhouse จะเป็นพื้นที่จอดรถ เผื่อลูกบ้านที่อยู่โซนด้านในโครงการก็สามารถขับรถยนต์มาจอดตรงบริเวณนี้ได้ค่ะ
สำหรับอาคาร Clubhouse สูง 3 ชั้น ออกแบบแบ่งฟังก์ชันภายในอาคารเป็น 2 ฝั่ง โดยฝั่งขวาของอาคารจะเป็น Passive Facilities เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน ได้แก่ Lobby, Meeting Room และ Co-Working Space ส่วนฝั่งซ้ายของอาคารจะเป็น Active Facilities อย่างสระว่ายน้ำ, Fitness และ Kids Room ที่จะมีความคึกคักและเสียงดังกว่า
ทำให้หากจัดตำแหน่ง Fitness อยู่ด้านบน Lobby ก็อาจจะเกิดเสียงดังรบกวนลงมาตรง Lobby ได้ ดังนั้นพอทางโครงการจัดฟังก์ชันที่อาจเกิดเสียงดังรบกวนอยู่ฝั่งเดียวกันก็ทำให้ Passive Facilities ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากฟังก์ชันอื่นๆ ลูกบ้านจึงมาพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัว เรามองว่าเป็นไอเดียการออกแบบที่ดีเลยนะคะ
ด้วยที่ดินของโครงการเป็นแนวยาว ทำให้ออกแบบถนนหลักเป็นเส้นยาวจากด้านหน้าไปยังด้านในสุดของโครงการเลย จากนั้นจึงมีถนนแบ่งแยกไปซอยย่อยต่างๆค่ะ สำหรับถนนหลักและถนนภายในโครงการจะมีความกว้างอยู่ที่ 9 เมตร รวมฟุตบาทข้างละ 1.50 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่รถยนต์สามารถขับรถสวนกันได้พอดี
ทางขึ้น-ลงของอาคาร Clubhouse
ทางขึ้น-ลงของอาคาร Clubhouse จะมีทั้งบันไดและทางลาดที่ถือเป็นการออกแบบตามหลัก Universal Design ที่ดี เพื่อรองรับการใช้งานของคนทุกวัย ทำให้สามารถเข็นวีลแชร์ของคุณปู่ คุณย่า หรือรถเข็นเด็กมาใช้งานส่วนกลางร่วมกันได้ทั้งครอบครัวเลยค่ะ
เมื่อเข้ามาภายใน Clubhouse แล้วจะเจอกับ Lobby และ Meeting Room ที่อยู่ฝั่งขวาของอาคาร ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นสระว่ายน้ำ ส่วนตรงกลางจะเป็นบันไดขึ้นไปยังชั้น 2-3 งั้นเราพาไปดู Lobby และ Meeting Room กันก่อนนะคะ
Lobby
Lobby ของโครงการจะออกแบบเป็นพื้นที่ Double Volume แบบฝ้าเพดานสูง พร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง เปิดรับแสงธรรมชาติและวิว ประกอบกับการตกแต่งห้องด้วยโทนสีขาว-ครีมและลายไม้ จึงได้บรรยากาศที่โปร่งสบายและเป็นมิตรดี พร้อมจัดชุดโซฟาไว้หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ ส่วนบริเวณด้านหลังของ Lobby จะเป็นห้องนิติบุคคลและ Meeting Room
Meeting Room
Meeting Room จะอยู่ติดกับ Lobby เลย ทำให้ลูกบ้านที่ต้องการนั่งพักผ่อนหรือต้อนรับแขกแบบเป็นส่วนตัวก็สามารถพามานั่งพักในห้องนี้ได้เลยนั่นเอง โดยจะเป็นโซฟาและเก้าอี้พร้อมโต๊ะกลาง รวมถึงตกแต่งด้วยโทนสีเดียวกับ Lobby ค่ะ
เราพามาดูอีกฝั่งของชั้น 1 กัน จะเป็นสระว่ายน้ำ ส่วนด้านข้างของโถงทางเดินจะเป็นพื้นที่อาบน้ำล้างตัวและห้องน้ำ
สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำของโครงการจะเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 4.90×9.40 เมตร ความลึก 1.20 เมตร พร้อมสระเด็ก ขนาด 2.20×2.70 เมตร ความลึก 0.60 เมตร โดยจะเป็นสระกลางแจ้ง ทำให้เหมาะมาว่ายน้ำตอนเช้าหรือตอนเย็นที่แดดไม่แรงมาก ถึงแม้ทางโครงการจะไม่ได้ยกระดับของสระว่ายน้ำสูงจากระดับถนนเหมือนที่โครงการส่วนใหญ่มักทำกัน แต่ทางโครงการได้ออกแบบผนังด้านข้างสระว่ายน้ำกั้นบังสายตาจากถนน ทำให้ลูกบ้านที่มาใช้งานส่วนกลางก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่เหมือนกันนะ
บริเวณด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำอยู่ 1 จุด ไว้สำหรับอาบน้ำล้างตัวก่อนและหลังว่ายน้ำค่ะ
ถัดจากพื้นที่อาบน้ำล้างตัวจะมีโซนห้องน้ำที่ออกแบบแบ่งฝั่งชาย-หญิงและห้องน้ำแบบ Universal Design ด้วยนะคะ ซึ่งห้องน้ำใน Clubhouse จะมีเพียงบริเวณนี้จุดเดียวเลยนะ ทำให้คุณปู่ คุณย่าที่นั่งพักผ่อนอยู่ตรง Lobby ก็มาใช้งานได้ รวมถึงคนที่ใช้งานส่วนกลางอยู่ตรงชั้น 2 และ 3 ก็มาเข้าห้องน้ำตรงบริเวณนี้เหมือนกันค่ะ
ห้องน้ำของ Clubhouse
ภายในห้องน้ำออกแบบแบ่งเป็นห้องน้ำ 2 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้อง จึงทำให้ลูกบ้านที่ว่ายน้ำเสร็จแล้วก็สามารถมาอาบน้ำล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าได้เรียบร้อยเลย แต่สำหรับลูกบ้านที่อยู่ใกล้ Clubhouse ก็สามารถไปอาบน้ำที่บ้านได้เหมือนกัน
เมื่อเราขึ้นมาชั้น 2 จะเจอโถงทางเดินแยกเป็น 2 ฝั่ง โดยฝั่งนึงจะเป็น Fitness ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องเก็บของค่ะ เราจะพาไปดู Fitness กันต่อเลย
Fitness
Fitness ของโครงการจะมีอุปกรณ์ออกกำลังกายมาอย่างครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio โดยโซนของ Cardio จะอยู่ติดหน้าต่างที่หันไปฝั่งด้านหน้าโครงการ ทำให้มาออกกำลังกายพร้อมชมวิวเพลินๆดี ส่วนโซน Weight Training จะอยู่ด้านในห้อง พร้อมติดกระจกเงาไว้เช็กท่าทางเวลาออกกำลังกายได้ รวมถึงยังทำให้ห้องดูกว้าง นอกจากนั้นบริเวณทางเข้าห้องจะมีโซฟาให้มานั่งพักผ่อนหลังออกกำลังกายด้วย
เมื่อขึ้นมาชั้น 3 ก็ออกแบบแบ่งเป็น 2 ฝั่งเหมือนชั้น 2 เลย โดยฝั่งนึงจะเป็น Co-Working Space และห้องเก็บของ ส่วนอีกฝั่งจะเป็น Kids Room ค่ะ
Co-Working Space
ทางโครงการออกแบบ Co-Working Space มีขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมนั่งเล่น พร้อมโซฟายาว รวมถึงโต๊ะยาวและชุดโต๊ะเก้าอี้ให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ เหมาะมานั่งทำงาน อ่านหนังสือที่ไม่ต้องใช้สมาธิมากนัก รวมถึงยังรองรับแขกในบรรยากาศที่เป็นกันเองได้ด้วย
Kids Room
Kids Room จะอยู่อีกฝั่งของชั้น 3 โดยทางโครงการออกแบบเป็นห้องขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งเราไม่เคยเห็น Kids Room ที่ได้ห้องใหญ่แบบนี้เลยนะ อาจจะเป็นเพราะว่าโครงการนี้ไม่มีสนามเด็กเล่นกลางแจ้งจึงออกแบบเป็นห้องขนาดใหญ่แทนก็เป็นได้ค่ะ พอได้ห้องขนาดใหญ่จึงจัดวางชุดโต๊ะนั่งเล่นของเด็กๆและวางของเล่นได้เยอะ เด็กๆเองก็วิ่งเล่นในห้องได้ด้วย
ส่วนตัวเราชอบ Built-in โซฟาโค้งๆของห้องนี้มากๆเลย เพราะทำให้คุณพ่อ คุณแม่หรือพี่เลี้ยงมานั่งเฝ้าเด็กๆได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังออกแบบมีลิ้นชักตรงด้านล่างสำหรับเก็บของเล่นได้ด้วยค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนอกจากจะมี Clubhouse ที่อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการแล้ว ยังมีพื้นที่สวนหย่อม 1 จุด บริเวณตรงกลางโครงการ มีขนาดรวมประมาณ 238 ตร.วา โดยออกแบบเป็นสนามหญ้ากว้างๆ ทำให้เรามองเป็นพื้นที่ให้เด็กๆหรือสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่น รวมถึงมานั่งปิกนิกได้นั่นเอง
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse สูง 3 ชั้น บริเวณด้านหน้าโครงการ ประกอบไปด้วย
- Lobby
- Meeting Room
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.90×9.40 เมตร ความลึก 1.20 เมตร พร้อมสระเด็ก ขนาด 2.20×2.70 เมตร ความลึก 0.60 เมตร
- Fitness
- Kids Room
- Co-Working Space
- พื้นที่สวนหย่อมโครงการ 1 จุด บริเวณตรงกลางโครงการ ขนาดรวมประมาณ 238 ตร.วา
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและรั้วเหล็กรางเลื่อน
- ระบบในการเข้า-ออกโครงการแบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- รั้วทึบรอบโครงการ
- ถนนหลักและถนนภายในกว้าง 9 เมตร (รวมฟุตบาทข้างละ 1.50 เมตร)
- ระบบไฟฟ้าในโครงการ 3 เฟส (30/100)
แบบบ้าน
Highlight
- เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้าน โดยสร้างตัวบ้านเกือบเต็มขนาดที่ดิน
- ออกแบบช่องเปิดขนาดใหญ่และหลายจุด รวมถึงออกแบบกระจกเข้ามุมในทุกแบบบ้านด้วย ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายและมีแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้านได้เยอะ
- บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน จอดได้ 3 คัน นอกจากนั้นยังมีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว รองรับผู้สูงอายุได้
- พื้นที่ซักรีดในร่ม แตกต่างจากโครงการบ้านจัดสรรอื่นที่เป็นลานซักล้างกลางแจ้ง
AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เน้นการใช้สีขาวเป็นหลักและตัดด้วยสีเทาเข้ม โดยโมเดลบ้านของโครงการนี้จะเหมือนกับโครงการ AVIAN ตัวแรกนั่นก็คือ AVIAN ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา แต่สำหรับโครงการนี้จะมีการปรับเปลี่ยนวัสดุบางอย่างและมีเพียง 2 แบบบ้านให้เลือก โดยจัดฟังก์ชัน 4 ห้องนอน มีห้องนอนชั้นล่างและได้ที่จอดรถ 3 คันทุกหลังในราคาเริ่มต้น 14.29 ล้านบาท*
- AVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 229 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ - AVANI บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
แบบบ้านของโครงการจะเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน จึงสร้างบ้านเกือบเต็มขนาดที่ดิน รวมถึงออกแบบช่องกระจกขนาดใหญ่หลายจุดและมีกระจกเข้ามุม (วงกลมสีฟ้า) ตรง Family Area ในบ้านทุกหลัง เพื่อเปิดรับแสงและวิวได้กว้าง
โดยทั้งแบบบ้าน AVA และ AVANI จะมีการจัดฟังก์ชันคล้ายกัน แต่ AVANI จะมีจุดแตกต่างหลักที่ได้ห้องแม่บ้านเพิ่มมา 1 ห้อง และ Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ Walk-in Closet และระเบียงส่วนตัว นอกจากนั้นยังได้กระจกเข้ามุม (วงกลมสีฟ้า) ตรง Master Bedroom ด้วย
โครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน
- หลังคาบ้านทรงปั้นหยา ระบบ Smart Truss ปูกระเบื้องหลังคาคอนกรีต SCG ติดตั้งพร้อมแผ่นสะท้อนความร้อน
- โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา
- โครงสร้างที่จอดรถในร่มเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน ส่วนที่จอดรถด้านหน้ากลางแจ้งเป็น Slab on Ground พื้นคอนกรีตขัดหยาบ เซาะร่อง
- ประตูรั้วหน้าบ้าน : ประตูเหล็กรางเลื่อนทำสีดำ พร้อมเดินสายไฟรอระบบอัตโนมัติไว้ให้ (เปิดผ่านรีโมท,App ในมือถือ) จาก YKK
- พื้นชั้น 1
– พื้นที่ Common Area, ห้องครัว, ห้องซักล้าง : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 80×80 เซนติเมตร
– Terrace และพื้นที่ซักล้าง : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– ห้องนอนชั้นล่าง : พื้น SPC ลายไม้
– Powder Room และห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– ห้องแม่บ้านและห้องเก็บของ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร - พื้นชั้น 2
– ห้องนอน : พื้น SPC ลายไม้
– ห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– Balcony : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร - ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้น 1 และ 2 : 2.70 เมตร
- ผนังภายในฉาบเรียบทาสีขาว
- วัสดุบานประตูภายในบ้าน : UPVC
- สวิตช์-ปลั๊กสีขาว จาก Panasonic
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก KOHLER (เฉพาะอ่างอาบน้ำ จาก I-SPA)
- บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ประสาน ด้านข้างมีราวกันตกเหล็กและมือจับเป็นไม้ประสาน ทำสีเหมือนตัวบันได
- ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 30(100) มี Junction Box รองรับ EV Charger
- ไฟ LED แบบดาวน์ไลท์
- จัดสวนตามมาตรฐานโครงการ โดยปูสนามหญ้ามาให้
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
วันนี้เราก็ได้เก็บภาพบรรยากาศบ้านตัวอย่างทั้ง AVA และ AVANI มาให้ชมกันนะคะ ไปดูกันเลยว่าแต่ละหลังมีความน่าสนใจยังไงบ้าง
แบบบ้าน AVA
เรามาชมแบบบ้านเริ่มต้นของโครงการที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดกันก่อนเลย ได้แก่ AVA เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 229 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ โดยจอดรถได้ 3 คันตั้งแต่แบบบ้านเริ่มต้น, ห้องซักรีดเป็นสัดส่วนแตกต่างจากโครงการอื่นๆ, Family Area ขนาดใหญ่กั้นเป็นห้องได้อีกห้อง และมีห้องนอนชั้นล่างที่ออกแบบรองรับผู้สูงอายุได้ด้วยค่ะ
ถึงแม้ AVA จะเป็นแบบบ้านเริ่มต้น แต่ก็มีตำแหน่งบ้านที่น่าสนใจทั้งบ้านติดถนนหลัก เข้า-ออกโครงการได้ง่าย, บ้านแปลงมุม เปิดรับวิวมุมกว้างและบ้านใกล้พื้นที่ส่วนกลางทั้ง Clubhouse และสวนสีเขียว ลูกบ้านจึงมาใช้งานส่วนกลางได้สะดวกนั่นเอง
ชั้น 1
- ที่จอดรถ 3 คันในร่ม ด้านหลังที่จอดรถมี Junction Box รองรับ EV Charger และห้องเก็บของใต้บันไดขนาดใหญ่
- ห้องเก็บของใต้บันได เปิดได้จากที่จอดรถ ไว้เก็บอุปกรณ์รถยนต์หรือทำสวน
- มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
- โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดดและฝน และเฉลียงขนาดใหญ่ วางตู้เก็บรองเท้าและร่มได้สะดวก
- พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น Pantry และพื้นที่รับประทานอาหาร พร้อมประตูเปิดออกไปพื้นที่เฉลียงด้านข้างบ้านได้
- ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้ พร้อมก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย
- พื้นที่ซักรีด พื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้าและรีดผ้าได้สะดวก มีประตูเปิดออกไปพื้นที่เฉลียงได้
- พื้นที่ว่างตรงข้ามประตูทางเข้ารอง เหมาะทำเป็นตู้วางรองเท้าและชั้นวางของ
- Powder Room ห้องน้ำสำหรับรองรับแขก
- ห้องนอนชั้นล่าง เหมาะเป็นห้องอเนกประสงค์ พร้อมห้องน้ำในตัว และมีประตูเปิดออกไปพื้นที่เฉลียงข้างบ้านได้
ชั้น 2
- Family Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวหรือทำเป็นพื้นที่ทำงาน ออกแบบเป็นกระจกเข้ามุม พร้อมระเบียงชมวิว
- ออกแบบแยกฝั่ง Master Bedroom ฝั่งด้านหน้าบ้านห้องเดียว ส่วนห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องอยู่ฝั่งหลังบ้าน
- ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว
- Master Bedroom ขนาดใหญ่ กั้นแบ่งพื้นที่ Walk – in Closet ได้
- Master Bathroom ขนาดใหญ่ พร้อมอ่างอาบน้ำ
- ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง ออกแบบคล้ายกัน เหมาะวางเตียง 3.5-5 ฟุต มีพื้นที่ทำ Walk – in Closet ได้ พร้อมห้องน้ำในตัว
บริเวณด้านหน้าบ้าน
เราพามาดูบริเวณด้านหน้าบ้านกันเลย โดยประตูรั้วหน้าบ้านจะเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนทำสีดำจาก YKK พร้อมเดินสายไฟรอระบบอัตโนมัติไว้ให้ (เปิดผ่านรีโมท,App ในมือถือ) รวมถึงมีติดตั้งโคมไฟ กริ่ง กล่องไปรษณีย์ และถังขยะที่เปิดทิ้งได้จากด้านในที่ออกแบบช่วยพรางตาให้หน้าบ้านดูเรียบร้อยด้วย
สวนรอบบ้าน
ทางโครงการจะปูสนามหญ้ารอบตัวบ้านมาให้ตามมาตรฐานโครงการตามภาพด้านบนเลยนะคะ โดยลูกบ้านสามารถหาซื้อดอกไม้ ต้นไม้เล็ก-ใหญ่มาปลูกเพิ่ม เพื่อสร้างบรรยากาศร่มรื่นและสีสันสดใสให้ตัวบ้านได้ด้วย
พื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ 3 คัน แต่ออกแบบมีเสาคั่นตรงกลาง ทำให้แบ่งพื้นที่จอดเป็น 2.50+5.00 เมตร โดยโครงสร้างที่จอดรถในร่มจะเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน ส่วนที่จอดรถด้านหน้ากลางแจ้งเป็น Slab on Ground ทำให้เวลาพื้นทรุดตัวจะไม่สร้างรอยแตกร้าวบริเวณตัวบ้าน ส่วนวัสดุปูพื้นเป็นคอนกรีตขัดหยาบ เซาะร่อง
ประตูทางเข้ารอง
บริเวณด้านหลังของพื้นที่จอดรถจะมีประตูทางเข้ารอง ทำให้เราสามารถยกของจากท้ายรถยนต์เข้าบ้านจากทางนี้ได้เลย รวมถึงใครที่ชอบลืมกุญแจบ้านหรือต้องกลับบ้านมาตอนกลางคืนบ่อยๆ ก็สามารถหาซื้อ Digital Door Lock มาติดตั้งเพิ่มเองได้นะคะ
นอกจากนั้นยังมี Junction Box รองรับ EV Charger สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงห้องเก็บของใต้บันไดที่เปิดได้จากพื้นที่จอดรถเลย ปูพื้นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์รถยนต์หรืออุปกรณ์ทำสวนต่างๆ
บริเวณด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดด-ฝน พร้อมพื้นที่เฉลียงขนาด 1.50×5.25 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตรที่ดูแลทำความสะอาดได้ง่าย
ประตูทางเข้าหลัก
ทางโครงการจะออกแบบช่องกระจกขนาดใหญ่หลายจุด เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวได้กว้าง เพิ่มบรรยากาศโปร่งสบายภายในบ้าน ประตูทางเข้าหลักของบ้านจึงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ 3 ตอน เปิดได้เกือบเต็มความกว้างผนังเลย
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้อยากเปิดแอร์ตลอดทั้งวันหรืออยากเปิดประตูรับลมเย็นๆบ้าง ก็สามารถติดตั้งประตูมุ้งลวดซ้อนตัวประตูกระจกนี้ไว้อีกชั้น ก็ทำให้เปิดประตูกระจกรับลมพัดเข้ามาในบ้านและยังป้องกันแมลงได้ด้วยค่ะ
Common Area
เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่ Common Area ที่ออกแบบเป็น Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารและ Panrty เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 5.00×6.50 เมตร ซึ่งข้อดีของการออกแบบ Open Plan คือ ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายตั้งแต่ก้าวเข้ามาภายในบ้าน
ทางโครงการออกแบบเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเป็นหลัก จึงสร้างตัวบ้านเกือบเต็มขนาดที่ดิน ทำให้มีพื้นที่สวนบริเวณด้านหลังบ้านประมาณ 1.00 เมตรและไม่มีช่องเปิดหรือช่องหน้าต่างตามที่กฎหมายกำหนด (ถ้าต้องการเจาะช่องหน้าต่าง ต้องมีระยะห่างจากแนวเขตที่ดินเกิน 2 เมตร) ทำให้ช่องแสงบริเวณ Common Area จึงมีเฉพาะด้านหน้าบ้านและด้านข้างบ้านเท่านั้น แต่ทางโครงการก็แก้ไขเรื่องช่องแสงได้ดี โดยเลือกใช้เป็นหน้าต่างขนาดใหญ่แทนนั่นเอง
เราชอบการออกแบบนี้นะคะ เพราะส่วนใหญ่เราใช้พื้นที่สวนหลังบ้านสำหรับตากผ้าเท่านั้น พอทางโครงการออกแบบไม่ได้เน้นพื้นที่สวนรอบบ้าน ก็ทำให้เราได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้ห้องซักรีดที่เป็นสัดส่วนมาแทนลานซักล้างด้วย เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องซักรีดกันหลังจากนี้ค่ะ
สำหรับวัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 80×80 เซนติเมตร ช่วยทำให้ภายในบ้านดูกว้างและสว่าง ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.70 เมตร พร้อมติดตั้งไฟ LED แบบดาวน์ไลท์ และผนังภายในบ้านจะฉาบเรียบทาสีขาว
พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดประมาณ 3.65×5.00 เมตร สามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย ทั้งวางโซฟา พร้อมโต๊ะกลางได้สบาย อีกทั้งทำ Built-in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของได้ มีพื้นที่เดินเข้า-ออกบ้านกว้าง ส่วนระยะดูทีวีอยู่ที่ 4.70 เมตร จึงติดตั้งทีวีขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้
พื้นที่รับประทานอาหาร
พื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่น โดยสามารถวางโต๊ะ 6 ที่นั่งได้สบาย และมีมุม Pantry อยู่ด้านข้างทำเป็นพื้นที่ตั้งเครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องชงกาแฟหรือตู้เย็น เพื่อเตรียมอาหารเช้าง่ายๆได้ ส่วนด้านข้างจะอยู่ติดกับห้องครัว จึงสามารถจัดเสิร์ฟอาหารได้สะดวกและมีประตูเปิดออกไปสวนข้างบ้าน จึงทำให้เวลานั่งรับประทานอาหารก็จะได้วิวสวนสีเขียวข้างบ้านด้วย
พื้นที่เฉลียงด้านข้างบ้าน
ทางโครงการออกแบบมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เปิดเชื่อมจาก Common Area มายังพื้นที่เฉลียงด้านข้างบ้าน ทำให้เราสามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย ปลูกต้นไม้เยอะๆเพิ่มบรรยากาศร่มรื่น รวมถึงยังปรับเป็นมุมนั่งเล่นกลางแจ้งท่ามกลางสวนได้ด้วย
บริเวณห้องครัวและห้องซักรีด
สำหรับห้องครัวและห้องซักรีดจะออกแบบอยู่บริเวณเดียวกันเลยนะคะ มีขนาดอยู่ที่ 1.80×5.00 เมตร โดยทางโครงการได้กั้นผนังมาให้บางส่วนและเว้นช่องทางเดินไว้ตามภาพด้านบนรูปที่ 2 เลย แต่เราแนะนำให้ติดตั้งประตูกั้นแบ่งพื้นที่ระหว่างห้องครัวและพื้นที่ซักรีดนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันอาหารลอยไปติดบนเสื้อผ้าที่เพิ่งซักเสร็จใหม่ๆ
ห้องครัว
ทางโครงการออกแบบห้องครัวมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้นแยกจาก Common Area เพื่อป้องกันกลิ่นและควันอาหารลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ทำให้เราสามารถใช้เป็นครัวไทย ทำอาหารจริงจังได้ มีขนาดอยู่ที่ 1.80×2.90 เมตร
แต่ทางโครงการไม่ได้มีทำเคาน์เตอร์มาให้นะ เราจึงสามารถออกแบบเคาน์เตอร์และติดตั้งเครื่องใช้ในครัวได้ตามการใช้งานของเราเลย ซึ่งทางโครงการก็ตกแต่งบ้านตัวอย่างมาให้เป็นไอเดียนำไปปรับใช้กันได้ ทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L และเว้นพื้นที่วางตู้เย็นไว้ด้วย
พื้นที่ซักรีดภายในบ้าน
จากที่เราได้เกริ่นไปนิดนึงแล้วนะคะว่าทางโครงการออกแบบเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน จึงทำให้พื้นที่หลังบ้านมีความกว้างประมาณ 1.00 เมตรและไม่มีลานซักล้างกลางแจ้ง
ทางโครงการจึงออกแบบเป็นพื้นที่ซักรีดภายในบ้านแบบนี้แทน โดยอยู่บริเวณเดียวกับห้องครัวเลย มีขนาดประมาณ 1.80×1.80 เมตร เราจึงตั้งเครื่องซักผ้า มีชั้นวางของและตู้เก็บเสื้อผ้าได้ง่ายดี แต่พอเราไม่มีพื้นที่ตากผ้ากลางแจ้งแล้ว จึงแนะนำให้ใช้เป็นเครื่องอบผ้าแทนการตากผ้านะคะ จะได้ประหยัดพื้นที่และใช้งานได้สะดวกด้วย
จากพื้นที่ซักรีดจะมีประตูเปิดออกไปเจอพื้นที่เฉลียงและพื้นที่สวนด้านหลังบ้าน เราชอบที่ด้านบนของบานประตูนี้จะมีช่องกระจกช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในพื้นที่ซักรีดด้วยนะ ทำให้ได้บรรยากาศที่ดูไม่มืดทึบ
เมื่อออกจากพื้นที่ซักรีดมา จะเจอกับพื้นที่เฉลียงด้านหลังบ้านขนาด 0.95×1.90 เมตร ปูพื้นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดพื้นที่พอให้ตั้งราวตากผ้าเล็กๆได้อยู่นะคะ
ถัดจากพื้นที่ Common Area จะเป็นโถงทางเดินกว้าง 1.05 เมตร เพื่อเดินเชื่อมไปยังประตูทางเข้ารอง, ห้องนอนชั้นล่าง, Powder Room และบันไดขึ้นชั้น 2
เราชอบที่ทางโครงการออกแบบห้องนอนชั้นล่างอยู่ฝั่งด้านหลังบ้านและมีโถงทางเดินเป็นเหมือน Buffer Zone กันเสียงรบกวนจาก Common Area และพื้นที่จอดรถ จึงทำให้สามารถพักผ่อนภายในห้องนอนได้เป็นส่วนตัวดี
ทางโครงการมีเว้นเป็นพื้นที่โล่งๆตรงข้ามกับประตูทางเข้ารองนะคะ มีขนาดประมาณ 1.55×1.75 เมตร จึงเหมาะทำเป็นพื้นที่นั่งใส่รองเท้าและตู้เก็บรองเท้าเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งให้ดูได้
นอกจากนั้นด้วยโครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา จึงทุบ-ต่อเติมได้ง่าย เราก็มีไอเดียมาแนะนำว่าสามารถทุบผนังด้านข้าง เพื่อเชื่อมพื้นที่นี้เข้ากับห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ด้านข้างก็จะทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนชั้นล่างที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง
Powder Room
สำหรับ Powder Room มีขนาด 1.10×2.30 เมตร ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร โดยเป็นห้องน้ำที่มีเฉพาะอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์เท่านั้น รองรับการใช้งานบริเวณชั้น 1 โดยทางโครงการก็เลือกใช้สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก KOHLER ทั้งหมดเลย แต่ตัวเคาน์เตอร์อ่างล้างมือจะไม่มีช่องเก็บของด้านล่างนะคะ อันนี้ทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเพิ่มมาเป็นไอเดียให้ดูกันค่ะ
ทางโครงการออกแบบเป็นประตูบานเลื่อน ซึ่งเรามองว่าเป็นการออกแบบที่ช่วยให้ทุกคนใช้งานห้องน้ำได้สะดวกสบายมากขึ้น เพราะเปิด-ปิดประตูได้ง่าย ไม่ต้องใช้แรงเยอะ แต่พื้นห้องน้ำมีระดับต่ำกว่าพื้นภายในบ้าน ทำให้คุณปู่ คุณย่าที่นั่งใช้วีลแชร์ต้องไปใช้ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแทนนะคะ
ห้องนอนชั้นล่าง
ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดประมาณ 3.35×4.25 เมตร ส่วนวัสดุปูพื้นเป็นพื้น SPC ลายไม้ สำหรับเรามองว่าห้องนี้เหมาะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงานหรือห้องนอนสำหรับคุณปู่ คุณย่าที่ไม่ได้ใช้วีลแชร์ค่ะ ถึงแม้ว่าจะออกแบบพื้นห้องที่เรียบเสมอกัน แต่ความกว้างของประตูไม่มากพอที่จะเข็นวีลแชร์ผ่านได้ ทางโครงการจึงตกแต่งเป็นห้องทำงานมาเป็นไอเดียให้นำไปปรับใช้กัน
พื้นที่เฉลียงด้านข้างห้องนอนชั้นล่าง
ด้านข้างของห้องนอนชั้นล่างจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เปิดออกไปพื้นที่เฉลียงด้านข้างบ้านขนาดประมาณ 1.50×3.10 เมตร ปูพื้นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร ไว้สำหรับทำมุมนั่งเล่นแบบ Semi Outdoor เผื่อเรานั่งทำงานนานๆก็ออกมานั่งพักผ่อนในสวนได้
ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่าง
ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่างมีขนาด 1.75×2.25 เมตร ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร โดยเป็นประตูบานผลัก ออกแบบเป็นพื้นระดับเดียวกันทั้งหมด พร้อม Floor Drain บริเวณประตูห้องน้ำ ไม่ให้น้ำไหลออกไปห้องนอนด้วยค่ะ
ภายในห้องน้ำออกแบบแยกส่วนแห้ง-เปียกไว้อย่างชัดเจน เลือกใช้สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER ไม่มีตู้เก็บของด้านล่างมาให้และมีพื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 0.90 เมตร แต่ตรงพื้นที่อาบน้ำนี้จะออกแบบเป็นพื้นลดระดับนะคะ ดังนั้นเวลาผู้สูงอายุใช้งาน อาจจะต้องมีผู้ดูแลอยู่ใกล้ชิดค่ะ ส่วนฉากกั้นกระจกอาบน้ำก็จะไม่ได้มีมาให้ เราจึงหาซื้อติดตั้งเพิ่มเองได้
สำหรับโครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงและเวลาเดินก็จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้ประสาน มีความกว้างบันไดประมาณ 1.10 เมตร ด้านข้างมีราวกันตกเหล็กและมือจับเป็นไม้ประสาน ทำสีเหมือนตัวบันได มีลูกนอนกว้างประมาณ 27 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. เดินขึ้น-ลงได้สบาย ส่วนบริเวณโถงบันไดก็มีหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศภายในโถงบันไดไม่ดูมืดทึบ
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นพื้น SPC ลายไม้ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและเพิ่มบรรยากาศให้เหมาะแก่การพักผ่อนมากขึ้น ส่วนความสูงของพื้นชั้น 2 ถึงฝ้าเพดานเท่ากับชั้น 1 เลย อยู่ที่ 2.70 เมตร
การออกแบบพื้นที่ชั้น 2 จะแบ่งเป็นฝั่งด้านหน้าบ้านที่มี Family Area และ Master Bedroom ที่แยกอยู่ห้องเดียว ไม่มีการแชร์ผนังร่วมกับห้องนอนอื่น ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนฝั่งด้านหลังบ้านจะเป็นห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องค่ะ
Family Area
Family Area มีขนาดประมาณ 3.00×5.30 เมตร ออกแบบเป็นพื้นที่นั่งเล่นของคนในครอบครัวที่เป็นกันเองมากขึ้น โดยเราสามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยทั้งวางโซฟา 3 ที่นั่ง โต๊ะกลางและ Built-in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของได้สบายๆ ส่วนด้านข้างมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้
Family Area ของบ้านตัวอย่าง
อย่างที่เราได้บอกไปนะคะว่าทางโครงการเน้นเรื่องช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้นอกจากจะมีหน้าต่างบานใหญ่แล้ว ทางโครงการยังออกแบบเป็นกระจกเข้ามุมตรง Family Area ในทุกแบบบ้าน (จะเห็นได้ชัดเจนจากภาพด้านบนรูปที่ 2) เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวด้านนอกได้กว้างนั่นเอง
ระเบียงของ Family Area
ระเบียงของบ้านนี้จะมีเพียงจุดเดียว คือ บริเวณด้านข้างของ Family Area นั่นเอง มีขนาดระเบียงอยู่ที่ 1.80×2.30 เมตร ปูกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร ทำให้ทุกคนในบ้านสามารถมายืนรับลมชมวิวตรงระเบียงได้ รวมถึงทำเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Semi Outdoor หรือปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้านก็ดีเหมือนกัน ยิ่งบ้านที่ใกล้ Clubhouse หรือสวนสีเขียวก็จะได้วิวสวยๆแบบนี้เลยค่ะ
Master Bedroom ของบ้านตัวอย่าง
Master Bedroom มีขนาดประมาณ 3.65×5.40 เมตร โดยจะออกแบบเป็นห้องโล่งๆเหมือนภาพด้านบนเลยนะคะ แต่ทางบ้านตัวอย่างได้กั้นผนังแบ่งเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ด้านหลังพื้นที่เตียงนอน ทำให้ภายในห้องมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้นนั่นเอง
Master Bedroom
บริเวณพื้นที่เตียงนอนสามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้สบายๆ มีพื้นที่รอบเตียงกว้าง เดินผ่านได้ง่าย รวมถึงยังทำชั้นวางทีวีและชั้นวางของตรงบริเวณปลายเตียงเหมือนบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
บริเวณด้านข้างเตียงนอนจะมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวด้านนอกได้กว้าง อย่างบ้านตัวอย่างหลังนี้ที่อยู่ใกล้ Clubhouse ก็จะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางสวยๆแบบนี้เลย
Walk-in Closet
เนื่องจาก Master Bedroom มีขนาดใหญ่มากๆ จึงสามารถแบ่งพื้นที่ใกล้ๆกับ Master Bathroom ทำเป็น Walk-in Closet ได้ สามารถทำ Built-in โต๊ะแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว L มีพื้นที่ยืนแต่งตัวกว้างประมาณ 0.80 เมตร ซึ่งพอติดกระจกเงาอยู่ด้านข้างก็ช่วยทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้นและใช้ส่องกระจกได้ด้วย
Master Bathroom
Master Bathroom มีขนาด 2.30×3.20 เมตร ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร ภายในห้องน้ำออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้ชัดเจน โดยเลือกใช้สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก KOHLER มีพื้นที่วางของบนเคาน์เตอร์กว้าง แต่ไม่มีตู้เก็บของด้านล่างมาให้นะคะ
ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.80×0.95 เมตร ยืนหมุนตัวอาบน้ำได้ พร้อมติดตั้งฝักบัวแบบ Hand-Rain Shower มาให้เรียบร้อยและเราสามารถติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำเพิ่มได้เอง ช่วยป้องกันให้น้ำไม่กระเด็นไปเลอะบริเวณอื่น นอกจากนั้นยังมีอ่างอาบน้ำแบบฝังจาก I-SPA ความยาวประมาณ 1.60 เมตร มาให้นอนแช่น้ำผ่อนคลายได้สบายๆเลย
ห้องนอนรอง 1
สำหรับห้องนอนรอง 1 จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Family Area มีขนาด 3.45×4.50 เมตร สามารถวางเตียง 3.5-5 ฟุต พร้อมตั้งโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง และตั้งตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะอ่านหนังสือด้านข้างได้ ส่วนบริเวณปลายเตียงมีพื้นที่ทำเป็นมุมนั่งเล่นในห้อง วางโซฟาและชั้นวางทีวี หรือกั้นเป็น Walk-in Closet ให้เป็นสัดส่วนก็ได้เหมือนกัน
ห้องน้ำของห้องนอนรอง 1
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 มีขนาด 1.50×2.40 เมตร ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร ออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกและเลือกใช้สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER มีพื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.80 เมตร แต่ทางโครงการจะไม่มีช่องเก็บของตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างมือและฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ เราจึงสามารถติดตั้งเพิ่มเองได้ค่ะ
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Master Bedroom โดยออกแบบคล้ายกับห้องนอนรอง 1 เลย แต่มีขนาดห้องที่เล็กกว่า มีขนาดอยู่ที่ 3.45×4.25 เมตร ทางโครงการได้วางเป็นเตียง 3.5 ฟุต ก็ทำให้ได้พื้นที่ด้านข้างเตียงกว้างขึ้น ทำเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือได้ ส่วนตู้เสื้อผ้าก็อยู่บริเวณปลายเตียง ใกล้ๆกับห้องน้ำ ทำให้ใช้งานได้สะดวก แต่เราก็สามารถกั้นเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ได้เหมือนกัน
ห้องน้ำของห้องนอนรอง 2
ห้องน้ำของห้องนอนรอง 2 ก็มีขนาดพอๆกับห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 เลย มีขนาดอยู่ที่ 1.50×2.50 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร ออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกและติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก KOHLER มีพื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 0.85 เมตร ซึ่งเราสามารถทำช่องเก็บของตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเหมือนบ้านตัวอย่างได้ รวมถึงแนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำหรือม่านอาบน้ำเพิ่ม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่น
แบบบ้าน AVANI
บ้านตัวอย่างอีกหลังที่เราพามาดูกัน ได้แก่ AVANI บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดของโครงการ
สำหรับการจัดวางฟังก์ชันภายในบ้านจะคล้ายกับแบบบ้านเริ่มต้น AVA เลยค่ะ มีความแตกต่างกันที่พื้นที่ใช้สอยในแต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่ขึ้น, มีห้องแม่บ้าน 1 ห้อง และพื้นที่ภายในห้องนอนใหญ่ขึ้น มีพื้นที่ Walk-in Closet ได้สบาย โดยตำแหน่งของแบบบ้าน AVANI ส่วนใหญ่จะติดถนนหลัก เข้า-ออกโครงการได้ง่ายหรือเป็นบ้านแปลงมุมที่เปิดรับวิวมุมกว้างนั่นเองค่ะ
ชั้น 1
- ที่จอดรถ 3 คันในร่ม ด้านหลังที่จอดรถมี Junction Box รองรับ EV Charger และห้องเก็บของใต้บันไดขนาดใหญ่
- ห้องเก็บของใต้บันได เปิดได้จากที่จอดรถ ไว้เก็บอุปกรณ์รถยนต์หรือทำสวน
- มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
- โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดดและฝน และเฉลียงขนาดใหญ่ วางตู้เก็บรองเท้าและร่มได้สะดวก
- พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น Pantryและพื้นที่รับประทานอาหาร พร้อมประตูเปิด
- ออกไปพื้นที่เฉลียงด้านข้างบ้านได้
- ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้ พร้อมก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย
- พื้นที่ซักรีด สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและรีดผ้าได้สะดวก มีประตูเปิดออกไปพื้นที่เฉลียงได้
- Powder Room ห้องน้ำสำหรับรองรับแขก
- ห้องนอนชั้นล่าง เหมาะเป็นห้องอเนกประสงค์ พร้อมห้องน้ำในตัว และมีประตูเปิดออกไปพื้นที่เฉลียงข้างบ้านได้
- ห้องแม่บ้าน มีห้องน้ำในตัว อยู่ใกล้กับห้องซักรีดและห้องครัว สามารถใช้งานได้สะดวก
ชั้น 2
- Family Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวหรือทำเป็นพื้นที่ทำงาน ออกแบบเป็นกระจกเข้ามุม พร้อมระเบียงชมวิว
- ออกแบบแยกฝั่ง Master Bedroom ฝั่งด้านหน้าบ้านห้องเดียว ส่วนห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องอยู่ฝั่งหลังบ้าน
- ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว
- Master Bedroom ขนาดใหญ่ กั้นแบ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นและ Walk – in Closet ได้ พร้อมออกแบบเป็นกระจกเข้ามุม เปิดรับแสงและวิวได้กว้าง
- Master Bathroom ขนาดใหญ่ พร้อมอ่างล้างมือแบบ His & Her และอ่างอาบน้ำแบบฝัง
- ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง ออกแบบคล้ายกัน วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบาย มีพื้นที่ทำ Walk – in Closet ได้ พร้อมห้องน้ำในตัว
ประตูรั้วหน้าบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนทำสีดำจาก YKK พร้อมเดินสายไฟรอระบบอัตโนมัติไว้ให้ (เปิดผ่านรีโมท,App ในมือถือ) ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงติดตั้งโคมไฟ กริ่ง กล่องไปรษณีย์และถังขยะที่เปิดทิ้งได้จากด้านในที่ออกแบบช่วยพรางตาให้หน้าบ้านดูเรียบร้อย ส่วนพื้นที่สวนรอบบ้านจะปูสนามหญ้ามาให้ตามมาตรฐานโครงการ
สำหรับพื้นที่จอดรถก็สามารถจอดได้ 3 คัน โดยมีเสาคั่นตรงกลางแบ่งพื้นที่จอดเป็น 2.50+5.20 เมตร ส่วนโครงสร้างที่จอดรถในร่มจะเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้านและที่จอดรถด้านหน้ากลางแจ้งเป็น Slab on Ground จึงไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแตกร้าวบริเวณตัวบ้านจากพื้นทรุดตัวไม่เท่ากัน ส่วนพื้นของที่จอดรถเป็นคอนกรีตขัดหยาบ เซาะร่องค่ะ
ประตูทางเข้ารอง
บริเวณด้านหลังของพื้นที่จอดรถจะมีประตูทางเข้ารอง ทำให้เข้า-ออกจากบ้านมายังที่จอดรถได้ง่ายดี ไม่ต้องเดินอ้อมไปเข้า-ออกที่ประตูทางเข้าหลัก ถ้าเป็นเราจะติดตั้ง Digital Door Lock เพิ่มนะคะ จะได้หมดปัญหาการพกกุญแจและเวลากลับบ้านมาตอนกลางคืนก็ไม่ต้องรบกวนคนในบ้านมาเปิดประตูให้ด้วย
นอกจากนั้นทางโครงการยังออกแบบรองรับเทรนด์สมัยใหม่ที่คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น โดยมี Junction Box รองรับ EV Charger ให้เราไปซื้อเครื่องชาร์จมาติดตั้งเพิ่มได้เลย รวมถึงด้านข้างประตูทางเข้ารองจะมีห้องเก็บของใต้บันไดที่เปิดได้จากพื้นที่จอดรถ ปูพื้นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร สามารถเก็บอุปกรณ์รถยนต์หรืออุปกรณ์ทำสวนต่างๆได้ค่ะ
ประตูทางเข้าหลัก
ทางโครงการออกแบบมีชายคากันแดด-ฝนบริเวณด้านหน้าบ้าน ทำให้แสงแดด-ฝนไม่สาดเข้าบ้านโดยตรงและมีพื้นที่เฉลียงขนาด 1.40×4.50 เมตร ทำให้เราตั้งชั้นวางรองเท้า ที่นั่งใส่รองเท้าและที่เก็บร่มได้ ส่วนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร สามารถดูแลทำความสะอาดได้ง่าย
ประตูทางเข้าหลักก็ออกแบบเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ 3 ตอน ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้านดูสว่าง รวมถึงทำให้เวลานั่งอยู่ภายในบ้านก็ได้วิวสวนหน้าบ้านด้วยค่ะ
Common Area
เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ 5.80×6.70 เมตร โดยออกแบบเป็น Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารและ Panrty ให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกันจึงทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง
สำหรับช่องแสงบริเวณ Common Area จะมาจากทางด้านหน้าบ้านและด้านข้างบ้านเหมือนบ้านก่อนหน้านี้เลยนะคะ เพราะทางโครงการตั้งใจเน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านจึงสร้างตัวบ้านเต็มขนาดที่ดิน ทำให้พื้นที่สวนหลังบ้านมีความกว้างประมาณ 1.00 เมตร ถือว่ามีระยะไม่พอสำหรับทำช่องเปิดหรือช่องหน้าต่างตามที่กฎหมายกำหนดนั่นเองค่ะ (ถ้าต้องการเจาะช่องหน้าต่าง ต้องมีระยะห่างจากแนวเขตที่ดินเกิน 2 เมตร)
วัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 80×80 เซนติเมตร มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.70 เมตร พร้อมติดตั้งไฟ LED แบบดาวน์ไลท์ และผนังภายในบ้านจะฉาบเรียบทาสีขาว
พื้นที่นั่งเล่น
พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดประมาณ 3.80×5.80 เมตร สามารถวางโซฟายาว 3 ที่นั่งพร้อมโซฟาด้านข้างและโต๊ะกลางได้สบาย มีพื้นที่เดินเข้า-ออกบ้านกว้าง ส่วนอีกฝั่งก็ทำ Built-in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของเต็มผนังได้เลย ส่วนระยะดูทีวีอยู่ที่ 5.50 เมตร จึงติดตั้งทีวีขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้ ดูข่าว ดูหนังได้ชัดเจนดี
พื้นที่รับประทานอาหาร
ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ขนาดประมาณ 1.80×5.80 เมตร สามารถวางโต๊ะ 6 ที่นั่งและมีมุม Pantry อยู่ด้านข้างเหมือนที่บ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นไอเดียได้เลยค่ะ
พื้นที่รับประทานอาหารนี้จะมีประตูเปิดเชื่อมไปยังพื้นที่เฉลียงด้านข้างบ้านได้ด้วย จึงทำให้เวลานั่งรับประทานอาหารก็จะได้วิวสวนสีเขียว รวมถึงด้านข้างของพื้นที่รับประทานอาหารจะมีประตูเปิดไปยังห้องครัว ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี
ทางโครงการได้ออกแบบห้องครัวและห้องซักรีดอยู่บริเวณเดียวกันเหมือนบ้านก่อนหน้านี้เลยนะ มีขนาดอยู่ที่ 1.80×5.80 เมตร พร้อมกั้นผนังและเว้นช่องทางเดินไว้ให้เดินเชื่อมต่อกันเลย แต่เราแนะนำให้ติดตั้งประตูกั้นแบ่งห้องครัวและพื้นที่ซักรีดนะคะ จะได้ป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันอาหารลอยไปติดบนเสื้อผ้าตรงบริเวณพื้นที่ซักรีดนั่นเอง
ห้องครัว
ห้องครัวของบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องโล่งๆ ทำให้เราสามารถตกแต่งห้องครัวได้ตามการใช้งานเลย อย่างบ้านตัวอย่างก็ทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L และเว้นพื้นที่วางตู้เย็นไว้ให้เป็นไอเดียนำไปปรับใช้กันได้ ส่วนด้านข้างจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้นระหว่างห้องครัวและ Common Area ป้องกันกลิ่นและควันอาหารลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านนั่นเอง
พื้นที่ซักรีด
เรามักจะเห็นโครงการบ้านจัดสรรส่วนใหญ่ออกแบบพื้นที่ซักล้างเป็นลานกลางแจ้ง โดยตั้งเครื่องซักผ้าไว้ในห้องครัวหรือตรงลานกลางแจ้ง แต่ด้วยข้อจำกัดของระยะพื้นที่สวนหลังบ้านของโครงการนี้ที่มีขนาดประมาณ 1.00 เมตร ทางโครงการก็แก้ปัญหาโดยออกแบบเป็นพื้นที่ซักรีดในร่มแบบเป็นสัดส่วนแทน ขนาดห้องอยู่ที่ 1.80×1.95 เมตร มีข้อดีที่ไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าตากแดด สามารถซักผ้าและรีดผ้าได้ในบริเวณนี้เลย ไม่ต้องแบกเสื้อผ้าหนักๆไปบริเวณอื่น นอกจากนั้นเราแนะนำให้ใช้เครื่องอบผ้าหรือจะเลือกเป็นเครื่องที่มีทั้งระบบซักและอบผ้าในเครื่องเดียวกันก็ช่วยประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลยนะคะ
จากพื้นที่ซักรีดจะมีประตูเปิดเชื่อมไปยังโซนแม่บ้าน ทำให้แม่บ้านมาทำอาหารและดูแลเสื้อผ้าได้สะดวก เราชอบที่ด้านบนประตูจะมีช่องกระจกช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ทำให้ได้บรรยากาศไม่มืดทึบดี
พื้นที่เฉลียงด้านหลังบ้านเป็นรูปตัว L ขนาดประมาณ 0.75×2.15 เมตร ปูพื้นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีขนาดพื้นที่พอให้ตั้งราวตากผ้าเล็กๆได้อยู่นะคะ
ห้องแม่บ้านและห้องน้ำของแม่บ้าน
พอเปิดประตูจากพื้นที่ซักรีดมาเจอกับห้องแม่บ้านและห้องน้ำของแม่บ้านเลย โดยห้องแม่บ้านจะมีขนาดประมาณ 1.65×2.50 เมตร ปูพื้นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร ส่วนห้องน้ำที่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในห้องแม่บ้าน แต่ก็อยู่ติดกันเลย จึงใช้งานได้สะดวกดี มีขนาดห้องน้ำอยู่ที่ 1.20×1.20 เมตร พร้อมอุปกรณ์ในห้องน้ำครบครัน
เราพากลับเข้ามาภายในบ้านแล้วไปดูอีกฝั่งของบ้านกัน โดยจะเป็นโถงทางเดินกว้างประมาณ 1.00 เมตร ถัดจากพื้นที่ Common Area เพื่อเดินเชื่อมไปยังประตูทางเข้ารอง, ห้องนอนชั้นล่าง, Powder Room และบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ ทำให้พอเราเข้าบ้านมาแล้วก็สามารถเดินขึ้นไปชั้น 2 ได้เลย
นอกจากนั้นพอออกแบบห้องนอนชั้นล่างอยู่อีกฝั่งของบ้านและอยู่ฝั่งด้านหลังบ้านก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะมีโถงทางเดินเป็นเหมือน Buffer Zone กันเสียงรบกวนจาก Common Area และพื้นที่จอดรถให้แล้วค่ะ
Powder Room
Powder Room มีขนาด 1.10×2.30 เมตร ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร โดยเป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ จะมีเฉพาะอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์เท่านั้น ภายในห้องน้ำจะติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER แต่ตัวเคาน์เตอร์อ่างล้างมือจะไม่มีช่องเก็บของด้านล่างมาให้นะคะ
สำหรับประตูห้องน้ำนี้จะเป็นประตูบานเลื่อน พื้นห้องน้ำมีการลดระดับต่ำกว่าพื้นภายในบ้าน จึงทำให้คนที่ใช้วีลแชร์ต้องไปใช้ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแทนนะคะ แต่คุณปู่ คุณย่าที่ยังแข็งแรง เดินได้สบายก็มาใช้งานห้องน้ำนี้ได้สะดวก เปิด-ปิดได้ง่ายไม่ต้องใช้แรงเยอะ เพียงแค่ระมัดระวังเรื่องระดับพื้น ไม่ให้สะดุดล้มค่ะ
ห้องนอนชั้นล่าง
ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดประมาณ 3.35×4.15 เมตร ปูพื้นเป็นพื้น SPC ลายไม้ สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้สบาย มี Built-in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของตรงปลายเตียง ส่วนบริเวณด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ให้ตั้งตู้เสื้อผ้าได้
ถึงแม้ทางโครงการจะออกแบบพื้นห้องที่เรียบเสมอกัน แต่ด้วยระยะของประตูที่ไม่มากพอให้เข็นวีลแชร์ผ่านได้ รวมถึงเป็นประตูบานผลัก ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับห้องผู้สูงอายุที่ใช้วีลแชร์ แต่หากอยากได้ห้องรองรับคุณปู่ คุณย่าที่ใช้วีลแชร์จริงๆ ก็สามารถทุบผนังบ้านเพื่อขยายขนาดช่องประตูและเลือกใช้เป็นประตูบานเลื่อนได้นะคะ
พื้นที่เฉลียงด้านข้างห้องนอนชั้นล่าง
ทางโครงการมีออกแบบพื้นที่เฉลียงด้านข้างบ้านเชื่อมกับห้องนอนชั้นล่างด้วยนะคะ โดยจะมีประตูบานเลื่อน 2 ตอน เปิดออกไปพื้นที่เฉลียงขนาดประมาณ 1.40×3.20 เมตร ปูพื้นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร เผื่อเวลาคุณปู่ คุณย่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเล่นในสวนนั่นเอง
ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่าง
ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่างมีขนาด 1.80×2.05 เมตร ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร โดยออกแบบเป็นประตูบานผลัก พื้นห้องน้ำมีระดับเดียวกันทั้งหมด พร้อม Floor Drain บริเวณประตูห้องน้ำ ไม่ให้น้ำไหลออกไปห้องนอน
ภายในห้องน้ำแบ่งแยกส่วนแห้ง-เปียกไว้เป็นสัดส่วน ติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER ไม่มีตู้เก็บของด้านล่างเคาน์เตอร์มาให้นะคะ ส่วนพื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 0.80 เมตร ไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ แต่ตรงพื้นที่อาบน้ำจะเป็นพื้นลดระดับ ทำให้เวลาผู้สูงอายุใช้งาน อาจจะต้องมีผู้ดูแลอยู่ใกล้ชิดค่ะ
บันไดบ้านจะมีโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความแข็งแรงและไม่เกิดเสียงดังรบกวนเวลาขึ้น-ลงบันได ปิดผิวด้วยไม้ประสาน มีความกว้างบันไดประมาณ 1.10 เมตร ด้านข้างมีราวกันตกเหล็กและมือจับเป็นไม้ประสาน ทำสีเหมือนตัวบันได มีลูกนอนกว้างประมาณ 27 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. อีกทั้งออกแบบมีช่องหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้ได้บรรยากาศภายในโถงบันไดไม่ดูมืดทึบค่ะ
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นพื้น SPC ลายไม้ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนและเพิ่มบรรยากาศให้เหมาะแก่การพักผ่อนมากขึ้น ส่วนความสูงของพื้นชั้น 2 ถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.70 เมตร เท่ากับชั้น 1 เลยค่ะ
การออกแบบพื้นที่ชั้น 2 ของแบบบ้านนี้ก็แบ่งฝั่งด้านหน้าบ้านเป็น Family Area และ Master Bedroom ที่แยกอยู่ห้องเดียวจึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะไม่มีการแชร์ผนังร่วมกับห้องนอนอื่นเลย ส่วนห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้านค่ะ งั้นเราพาไปดูห้องที่อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้านกันก่อนเลยค่ะ
Family Area
Family Area มีขนาด 3.50×3.80 เมตร สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นของคนในครอบครัวมานั่งพักผ่อนหรือดูหนังร่วมกันได้ อาจจะปรับเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องเล่นเกมหรือห้องออกกำลังกายก็ได้ หากใครอยากให้ห้องมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้นก็สามารถติดตั้งประตูเพิ่มได้เลย
นอกจากนั้นยังคงออกแบบมีกระจกเข้ามุมตรง Family Area ในทุกยูนิต เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวด้านนอกได้กว้างนั่นเอง ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้ที่เน้นเรื่องช่องแสงขนาดใหญ่นะคะ
Master Bedroom อยู่ถัดจาก Family Area โดยจะเป็นห้องโล่งๆขนาดใหญ่ประมาณ 3.75×8.00 เมตร แต่ทางบ้านตัวอย่างได้กั้นแบ่งพื้นที่ด้านหลังหัวเตียงเป็นพื้นที่แต่งตัวค่ะ โดยภายในห้องนี้จะสามารถทำมุมนั่งเล่น พื้นที่เตียงนอนและพื้นที่แต่งตัวด้านหน้า Master Bathroom ได้สบาย พร้อมช่องหน้าต่างเกือบตลอดแนวผนังที่หันไปฝั่งด้านหน้าบ้าน เปิดรับแสงและวิวด้านนอกได้เลย
พื้นที่นั่งเล่นภายใน Master Bedroom
เราสามารถจัดพื้นที่นั่งเล่นภายใน Master Bedroom ตรงบริเวณปลายเตียงได้เลยนะ มีขนาดประมาณ 2.25×2.80 เมตร อย่างบ้านตัวอย่างได้เลือกเป็นโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมตั้งชั้นวางทีวี และมีประตูกระจกบานเลื่อนด้านข้างเปิดออกไปยังระเบียงที่หันไปฝั่งด้านหน้าบ้าน โดยพื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.70×2.25 เมตร ปูกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร เหมาะเป็นมุมปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน
พื้นที่เตียงนอนของ Master Bedroom
บริเวณพื้นที่เตียงนอนของ Master Bedroom มีขนาดประมาณ 3.20×3.75 เมตร โดยสามารถวางเตียง 6 ฟุตและโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้สบาย รวมถึงมีออกแบบเป็นกระจกเข้ามุมตรงมุมที่หันไปทางระเบียงด้วย ทำให้เวลานอนอยู่บนเตียงก็จะได้วิวด้านนอกค่ะ
Walk-in Closet ของ Master Bedroom
ทางโครงการได้มีการกั้นผนังบางส่วนแบ่งเป็นพื้นที่ Walk-in Closet พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้า เผื่อเป็นไอเดียให้ลูกบ้านนำไปตกแต่งตามได้ แต่หากใครที่อยากได้พื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น เราก็แนะนำให้ติดตั้งประตูเพิ่ม จะได้ช่วยป้องกันฝุ่นจากเสื้อผ้าและความชื้นจากห้องน้ำลอยไปภายในห้องค่ะ
Master Bathroom
Master Bathroom มีขนาดประมาณ 2.70×3.95 เมตร ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร ออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้ชัดเจน โดยติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER
สำหรับเคาน์เตอร์จะเป็นแบบ His & Her แต่ไม่มีช่องเก็บของด้านล่างมาให้นะคะ สามารถ Built-in เพิ่มเติมได้ ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.95×1.35 เมตร ยืนหมุนตัวอาบน้ำได้ พร้อมติดตั้งฝักบัวแบบ Hand-Rain Shower มาให้เรียบร้อย แต่ไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ เราจึงสามารถหาซื้อเองได้เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่น นอกจากนั้นยังมีอ่างอาบน้ำแบบฝังจาก I-SPA ความยาวประมาณ 1.60 เมตร ให้ลูกบ้านมานอนแช่น้ำผ่อนคลายค่ะ
สำหรับห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องในบ้านมาตรฐานจะได้หน้าตาเหมือนภาพด้านบนเลย โดยออกแบบคล้ายๆกัน คือ มีการกั้นผนังแบ่งพื้นที่บางส่วนบริเวณด้านหน้าห้องน้ำ เพื่อทำเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกับห้องน้ำเลย ซึ่งหากใครอยากได้พื้นที่ภายในห้องใหญ่ๆ ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องมีพื้นที่ Walk-in Closet ก็สามารถทุบผนังออกเพื่อเชื่อมเป็นพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ได้ค่ะ
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Family Area มีขนาด 3.60×4.75 เมตร สามารถวางเตียง 3.5-5 ฟุตได้ พร้อมตั้งโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนด้านข้างมีพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะอ่านหนังสือได้ อย่างห้องนี้ได้ทุบผนังที่ทางโครงการกั้นแบ่งส่วน Walk-in Closet มาให้ออก เพื่อทำเป็นมุมนั่งเล่นในห้อง วางโซฟาและชั้นวางทีวีมาเป็นไอเดียให้กับลูกบ้านนำไปตกแต่งตามกันได้
ส่วนห้องน้ำในตัวมีขนาด 1.50×2.50 เมตร ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร ออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกและติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER มีพื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.90 เมตร แต่ทางโครงการจะไม่มีช่องเก็บของตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างมือและฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ เราจึงสามารถติดตั้งเพิ่มเองได้นะคะ
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Master Bedroom มีขนาด 3.40×5.10 เมตร ซึ่งทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเป็นห้องดูหนัง เหมาะสำหรับครอบครัวที่ไม่ได้มีจำนวนสมาชิกในบ้านเยอะ พอทางโครงการได้ปรับเป็นห้องดูหนังก็วางโซฟายาว พร้อมติดตั้งทีวีและพื้นที่ตรงด้านหน้าห้องน้ำขนาดประมาณ 1.60×2.65 เมตร ก็ปรับเป็นมุม Snack Bar สำหรับเก็บขนมมื้อดึก รวมถึงยังตั้งตู้เย็นเล็กๆไว้เก็บเครื่องดื่มก็ได้เหมือนกันนะ เอาไว้สำหรับมานั่งกินเพลินๆระหว่างดูหนังได้
ห้องน้ำในตัวมีขนาด 1.50×2.65 เมตร ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร ออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้เป็นสัดส่วน พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER มีพื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 0.80 เมตร ซึ่งเราสามารถทำช่องเก็บของตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเหมือนบ้านตัวอย่างได้ รวมถึงสามารถติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำเพิ่มเองได้ค่ะ
ราคา
AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) ราคา ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
- AVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 229 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ - AVANI บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ - ราคาเริ่มต้น 14.29 ล้านบาท*
- ค่าจอง 100,000 บาท
- ค่าทำสัญญา 200,000 บาท
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
ถือว่าเดินทางได้สะดวกสบายมากทั้งเข้า-ออกเมือง ตัวโครงการตั้งอยู่บนซอยบางนา-ตราด 37 มีระยะห่างจากถนนบางนา-ตราดเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร รวมถึงยังเป็นเส้นทางลัดไปถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 เชื่อมไปยังอุดมสุข สุขุมวิทและพัฒนาการได้ ใกล้ทางด่วน 3 สายทั้งทางพิเศษบูรพาวิถี, วงแหวนกาญจนาภิเษกและทางพิเศษเฉลิมมหานคร รวมถึงยังมี MRT สายสีเหลือง สถานีศรีเอี่ยม เป็นตัวเลือกในการเดินทาง ไปได้ทั้งลาดพร้าวหรือจะเชื่อมไปยัง BTS สายสีเขียวอ่อนที่สถานีสำโรง เพื่อเดินทางเข้าเมืองได้สบายๆค่ะ
ด้วยตัวโครงการที่อยู่ในช่วงตอนต้นของถนนบางนา-ตราด ซึ่งถือว่ามีความคึกคักและเจริญที่สุดของบางนา เพราะอยู่ระหว่าง Central บางนา และ Mega Bangna ที่เป็นห้างหลักบนทำเล ทำให้มีอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการสูง นอกจากนั้นบริเวณปากซอยของโครงการก็มี Chic Republic บางนาและ Index Living Mall มาเดินซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านได้ ที่สำคัญคือบนทำเลบางนานี้มีสถานศึกษานานาชาติอยู่หลายแห่ง อย่างใกล้ๆโครงการจะมี International Community School ที่อยู่ในซอยเดียวกัน ห่างเพียง 500 เมตร และ ห่างจาก Raffles American International School เพียง 900 เมตร จึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่ต้องการส่งลูกเรียนนานาชาติ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
โครงการออกแบบเน้นความปลอดภัยภายในโครงการเป็นหลักนะคะ ส่วนตัวบ้านจะไม่ได้ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยมาให้ เนื่องจากให้ลูกบ้านไปเลือกติดตั้งตามการใช้งานและแบรนด์ที่ชื่นชอบได้เลย สำหรับทางเข้า-ออกใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ ควบคู่กับรั้วกั้นไม้กระดกและรั้วเหล็กรางเลื่อน นอกจากนั้นได้ติดตั้งระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและรั้วทึบรอบโครงการค่ะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
ออกแบบภายใต้ Concept อย่าง A New Generation of Refined Living เน้นโทนสีขาว-เทาเข้ม สร้างลูกเล่นการออกแบบด้วยการตัดสีด้วยสีน้ำตาลและใช้เส้นโค้ง สำหรับพื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็น 2 จุด ได้แก่ Clubhouse บริเวณด้านหน้าโครงการเป็นมุมต้อนรับแขกที่สวยงาม ส่วนพื้นที่สวนสีเขียวจะอยู่บริเวณตรงกลางโครงการ
ทางโครงการออกแบบเป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 70 ยูนิต บนที่ดินกว่า 15 ไร่ ก็ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยที่ดินของโครงการที่เป็นแนวยาว ทำให้ตำแหน่งบ้านส่วนใหญ่จะติดถนนหลัก เข้า-ออกได้ง่าย ส่วนบ้านที่อยู่ด้านในโครงการและอยู่ในซอยจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนั้นยังออกแบบบ้านหันหน้าทางทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ไม่โดนแดดโดยตรงและได้ลมดี รวมถึงทุกแบบบ้านมีตำแหน่งแปลงมุมให้เลือกด้วย
แบบบ้านของโครงการจะเหมือนกับ AVIAN ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านด้วยการสร้างตัวบ้านเกือบเต็มขนาดที่ดิน รวมถึงเน้นช่องแสงเยอะและมีขนาดใหญ่ พร้อมออกแบบมีกระจกเข้ามุมด้วย จึงเปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้เยอะ ส่วนตัวบ้านทุกหลังรองรับ 4 ห้องนอน มีห้องนอนชั้นล่างเหมาะเป็นห้องนั่งเล่นหรือทำงาน อีกทั้งได้ที่จอดรถ 3 คันและน่าสนใจที่มีพื้นที่ซักรีดในร่มแตกต่างจากโครงการอื่นๆที่มักทำเป็นลานซักล้างกลางแจ้ง
วัสดุ :
โครงสร้างบ้านเป็น Conventional ทุบ-ต่อเติมได้ง่าย พื้นที่จอดรถส่วนในร่มเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน ส่วนกลางแจ้งเป็น Slab on Ground พื้นคอนกรีตขัดหยาบ เซาะร่อง ส่วนพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องพอร์ซเลนและพื้นชั้น 2 เป็น SPC ลายไม้ มีความทนทานมากกว่ากระเบื้องยางทั่วไปหรือลามิเนต ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก KOHLER และ Master Bedroom จะติดตั้งอ่างอาบน้ำจาก I-SPA มาให้ทุกหลังเลย
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
พื้นที่สวนหย่อมบริเวณตรงกลางโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 238 ตร.วา โดยจะเป็นสนามหญ้ากว้างๆ ให้มานั่งปิกนิกหรือพาเด็กๆ สัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นกันได้ นอกจากนั้นมีการจัดสวนและปลูกต้นไม้ทั้งเล็ก-ใหญ่บริเวณด้านหน้าโครงการและโดยรอบ Clubhouse เพิ่มบรรยากาศร่มรื่นเวลาเข้า-ออกโครงการค่ะ
สาธารณูปโภค :
Clubhouse อยู่ด้านหน้าโครงการ พร้อมส่วนกลางครบครันทั้ง Lobby, Meeting Room, สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก, Fitness, Kids Room และ Co-Working Space เราชอบที่ออกแบบแบ่ง Passive และ Active Facilities อยู่คนละฝั่งอาคาร ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากฟังก์ชันชั้นบน แต่พออกแบบอยู่ด้านหน้าโครงการ ทำให้ลูกบ้านที่อยู่โซนบ้านด้านในจะมีระยะมาใช้งานส่วนกลางที่ไกลหน่อย จึงสามารถเดินหรือปั่นจักรยานมาได้ค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 14.29 ล้านบาท*, 25 กุมภาพันธ์ 2568
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ตั้งอยู่ในช่วงบางนาตอนต้น มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีทางด่วน 3 สาย ใกล้ห้างและโรงเรียนนานาชาติ
- ความปลอดภัย 7.5/10 – ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ ควบคู่กับรั้วกั้นไม้กระดกและรั้วเหล็กรางเลื่อน, CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ, รปภ., รั้วทึบรอบโครงการ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – เน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้าน ช่องแสงขนาดใหญ่ ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน มีห้องนอนชั้นล่างและจอดได้ 3 คัน
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ เหมาะสมกับการใช้งาน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – พื้นที่สีเขียวเป็นสนามหญ้ากว้างๆตรงกลางโครงการและมีจัดสวนตรงซุ้มประตูเพิ่มบรรยากาศร่มรื่น
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – เน้น Indoor Facilities ออกแบบสวยและน่าใช้งาน จัดฟังก์ชันมาให้ครบครัน
- 7.73 / 10.00 คะแนน
AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) เหมาะกับใคร
โครงการ AVIAN Bangna KM.5 (เอเวียน บางนา กม.5) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวในช่วงถนนบางนา-ตราดตอนต้น ชอบทำเลอุดมสมบูรณ์ ใกล้โรงเรียนนานาชาติและห้างใหญ่ เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ชอบส่วนกลางแบบ Indoor ส่วนตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเป็นหลัก โดยได้ 4 ห้องนอน มีห้องนอนชั้นล่างสำหรับรองรับผู้สูงอายุหรือปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ได้และจอดรถได้ 3 คัน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 14.29 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 85,740 บาท*
ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่