รีวิวฉบับที่ 529 … โครงการ Atoll Waikiki Shore Rama 9 – Krungthep Kritha (เอโทล ไวกีกิ ชอร์ พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้นอีกหนึ่งใน Series Atoll จากอนันนดา ถึงแม้โครงการนี้จะใช้ชื่อว่า พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา แต่ที่ตั้งจะอยู่ใกล้ ถนนร่มเกล้า มากกว่าและการเดินทางจากเส้น พระราม 9 – มอเตอร์เวย์ ก็จะใช้ทางออกร่มเกล้าด้วยเช่นกัน เราไปดูรายละเอียดโครงการพร้อมๆกันเลยครับ ヾ(＾-＾)ノ⌣♪
Fact @ 12 February 2014
- Atoll Waikiki Shore Rama 9 – Krungthep Kritha (เอโทล ไวกีกิ ชอร์ พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา)
- Ananda Development Public Company Limited.
- Segment : MAIN CLASS
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ลาดกระบัง
- เนื้อที่โครงการ 38ไร่
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 177 ยูนิต (กำลังก่อสร้าง 95 ยูนิต)
- SH170 พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- SH220 พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 50-55 ตารางวาขึ้นไป
- ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาทหรือ 93,800 บาท/ตร.วา
- ราคาเฉลี่ย/ตร.วา 99,500 บาท
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2557
- http://www.ananda.co.th/atoll/Waikiki/index.php
- Tel : 02-316-2222
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.737444,100.731462
แผนที่จากทางโครงการครับ
โครงการ Atoll Waikiki Shore เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยย่อยที่ชื่อว่าพัฒนาชนบท อาจฟังดูไม่คุ้นหูเท่าไหร่ซอยนี้เป็นซอยที่เป็นแนวขนานกับ ถนนพระราม 9 – มอเตอร์เวย์ และทางเข้าซอยนี้จะเข้าจาก ถนนร่มเกล้า เป็นหลัก ทางเข้าโครงการนี้จากเส้นมอเตอร์เวย์ถือว่ายังโชคดีอยู่เพราะมีระยะห่างจาก ทางออกร่มเกล้าไม่ไกลมาก ประมาณ 1.9 กม.ซึ่งใช้งานสะดวกทั้งขาเข้าและขาออกเลย แต่ขาเข้าเมืองจะต้องวนรถตรงสะพานข้ามแยกหน่อย
ทีนี้มาพูดถึงถนนหลักอย่างถนนร่มเกล้ากันบ้างถนนนี้เป็นถนนที่เริ่มต้นจากถนนเสรีไทยและลาดพร้าวยาวลงมาจนตัดกับถนน เจ้าคุณทหารซึ่งเป็นเส้นทางไปนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ถัดมาจะตัดถนนมอเตอร์เวย์และลาดกระบัง สุดทางจะเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิและไปถนนกิ่งแก้วได้ ซึ่งในอนาคตจะมีการตัดถนนกรุงเทพกรีฑาใหม่ โดยเริ่มจากบริเวณกรุงเทพกรีฑาสปอร์ตคลับ ยาวมาจนถึงการเคหะร่มเกล้า ถ้าซอยของโครงการสามารถทำทางเชื่อมต่อไปได้ก็จะช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นอีกมาก
การใช้ทางออกร่มเกล้าจาก มอเตอร์เวย์ จะมี 3 แยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ซอยพัฒนาชนบท
ในทางกลับกันถ้าออกจากโครงการแล้วต้องการเข้าสู่เส้นมอเตอร์เวย์ให้ใช้วิ่งมาออกถนนร่มเกล้าก่อนแล้วชิดซ้ายเพื่อขึ้นสะพานต่างระดับมาลงด้านข้างสถานีรถไฟฟ้า ARL ลาดกระบังแล้วลอดใต้สะพานข้ามแยกมาก็จะเข้าสู่มอเตอร์เวย์
การใช้เส้นทางเพื่อเข้าโครงการในครั้งนี้ไปแบบง่ายๆเลยครับ เริ่มต้นจากทางด่วนพระราม 9 – มอเตอร์เวย์ ตรงยาวไปอย่างเดียวจนถึงทางออกร่มเกล้าแค่นั้นเอง (ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Google Map)
เมื่อเจอทางออก ถนนร่มเกล้า ให้ชิดซ้ายและอยู่เลนซ้ายไว้
เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วจะเจอทางแยกอีกก็ให้ชิดซ้ายต่อไป เพราะถ้าเลี้ยวขวาจะไปถนนกิ่งแก้วและคลังสินค้าสนามบิน
เมื่อขับมาสุดทางจะเจอกับ 3 แยกให้เลี้ยวซ้าย ถ้าเลี้ยวขวาจะไปออกถนนร่มเกล้า
เลี้ยวซ้ายมาได้ไม่ไกลก็จะเจอทางแยก(อีกแล้ว) แต่คราวนี้เป็นทางแยกที่เข้าสู่ซอยพัฒนาชนบทมีจุดสังเกตุคือหลุ่มอาคารโฮมออฟฟิศ Arcadia ด้านขวามือ ให้ชิดขวาแล้วตรงไปตามลูกศรครับ
ซอยนี้มีขนาด 2 เลนวิ่งสวนกันมีความพลุกพล่านไม่มากช่วงต้นซอยจะเป็นทาวน์เฮาส์ซะเป็นส่วนมาก
เมื่อข้ามคลองสองต้นนุ่นมาแล้วจะเจอกับ Nipon Express อยู่ด้านขวามือและ RK BiZ Center ทาวเฮาส์ 4 ชั้นด้านซ้ายมือจะเห็นสีเหลืองเด่นมาแต่ไกลเลยครับ
เลยกลุ่มอาคารทาวเฮาส์มาได้ไม่ไกล จะมีซอยอยู่ด้านขวามือเป็นซอย พัฒนาชนบท4 ให้เลี้ยวขวาต้ามผ้ายโครงการได้เลย
สภาพแวดล้อมภายในซอยนี้ส่วนใหญ่ยงคงเป็นที่ว่างเปล่า มีโรงงานและอู่รถอยู่บ้างประปราย ช่วงกลางซอยจะมีโรงเรียนพาณิชยาการเอเชียตั้งอยู่ ในช่วงกลางวันพื้นที่บริเวณยังดูไม่เปลี่ยวเท่าไหร่แต่ตอนกลางคืนคงจะเปลี่ยวพอสมควร
เข้ามาจากปากซอยย่อยประมาณ 700 เมตรก็เจอทางเข้าโครงการ Atoll Waikiki Shore แต่ผมจะขับเลยไปอีกหน่อยเพื่อให้เห็นว่าภายในซอยมีอะไรอยู่บ้าง
ถัดจากโครงการ Atoll Waikiki Shore เข้าไปอีก 800 เมตรจะเจอกับโครงการ Atoll Similan Reef
และที่ดินที่อยู่ติดกับโครงการนี้(ด้านขวามือในภาพ) เป็นการขยายพื้นที่ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า ส่วนด้านซ้ายมือเป็น Hoda R&D Southeast Asia
สุดซอยนี้จะมีหมู่บ้านประเภทบ้านเดี่ยวที่กำลังก่อสร้างอยู่ ถนนที่รถสามารถวิ่งได้จะสุดอยู่แค่ตรงนี้ และห่างจากถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ประมาณ 550 เมตร (ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะตัดถนนออกไปทะลุได้)
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- The Paseo Mall 5.4 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ 5.1 กม.
เจาะลึกโครงการ
รูปร่างของตัวโครงการมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ โดยเฟสแรกที่มีลูกบ้านอยู่อาศัยแล้วจะเป็นโซนสีเทา ส่วนโซนสีส้มกับสีฟ้าคือโซนที่กำลังก่อสร้าง ทางเข้าออกมีทางเดียวคือด้านหน้าโครงการและมีถนนหลักกับถนนรองวิ่งยาวตลอดแนวโครงการ
ที่ดินรอบข้างยังคงเป็นที่ดินว่างเปล่าเป็นส่วนมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ ระยะห่างจากปากทางเข้าโครงการถึงบ้านแปลงสุดท้ายมีระยะประมาณ 740 เมตร ด้านหลังของโครงการจะเป็นคลองสองต้นนุ่น ซึ่งมีคนพื้นที่ใช้โดยสารบ้างแต่ก็ไม่บ่อยนัก
ทางเข้าโครงการจะมีระบบ Keycard Access และ กล้อง CCTV ที่บริเวณป้อมยามตามมาตรฐานทั่วไป การตกแต่งก็เป็นสไตล์รีสอร์ทตั้งแต่ประตูทางเข้าเลย
ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 10 เมตร และถนนรองจะกว้าง 8 เมตร
ตัว Club House จะอยู่ตรงกลางของโครงการและเข้าได้ทั้งจากถนนหลักและถนนรอง การตกแต่งเป็นสไตล์รีสอร์ทอย่างที่เห็น โดยจะมีอาคาร 2 ชั้นตั้งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ
ส่วนที่เห็นอยู่นี้คือศาลาพักผ่อนกลางน้ำ (ไม่ใช่สระว่ายน้ำนะครับ)
มีทั้งหมด 4 ศาลาซึ่งตั้งอยู่กลางน้ำทั้งหมด ช่วงเย็นๆสามารถมานั่งเล่นได้สบายๆเพราะบรรยากาศบริเวณจะค่อยข้างเงีบบและเป็นส่วนตัว มีการปลูกต้นไม้อย่างหนาแน่น
เดินมาตรงกลางของสวนจะเจอสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าขนาด 4 x 15 เมตรเป็นระบบคลอรีน
ปลายด้านนึงของสระจะมีซุ่มประตูที่ทำเป็นน้ำตกไว้ด้วย ทำให้พื้นที่นี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
ตลอดระยะของสระว่ายน้ำจะมีการปลูกต้นไม้ไว้หนาแน่นและการดูแลถือว่าทำได้ดีต้นไม้ดูอุดมสมบูรณ์
ตัวอาคารจะยกสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร โดย step แรกจะเป็นเฉลียงไว้นั่งอาบแดด
และเป็นทางเดินไปศาลากลางน้ำอีก 3 สระ
ด้านใต้อาคารจะตกแต่งโดยเน้นโทนสีขาวเป็นหลัก และพื้นเป็นหินขัดได้อารมณ์บ้านพักตากอากาศมากขึ้น พัดลมที่เห็นของจริงไม่ได้ช่วยให้หายร้อนได้เท่าไหร่นะครับ คิดซะว่าเอาไว้ตกแต่งสวยๆหละกัน
เฉลียงที่ติดกับทางเดินจะมีเก้าอี้วางไว้ให้ผู้ปกครองดูแลเด็กๆเล่นน้ำได้อย่างใกล้ชิด
ภายในห้องน้ำถูกตกแต่งด้วยโทนสีที่ค่อนข้างฉูดฉากมาก ถ้าเทียบกับด้านนอก คือเดินเข้ามาแล้วเหมือนอยู่กันคนละที่เลย
ในห้องน้ำจะมี Locker มาให้นิดหน่อย
ถัดจากสระว่ายน้ำจะมีสนามเด็กเล่นอยู่อีกด้าน
และมีสนามหญ้าขนาดใหญ่ให้เด็กได้วิ่งเล่นเต็มที่เลย
รอบๆ Club House จะมีการปูหินบล๊อคไว้เป็นทางเดินรอบๆ
มาดูชั้น 2 กันบ้างเมื่อขึ้นมาแล้วจะมีโซฟาให้นั่งอยู่หลายชุดและด้านในสุดที่ติดกับสระน้ำจะเป็นห้อง Fitness
ภายในห้องจะมีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่องและกำแพงรอบๆด้านจะเป็นกระจกทั้งหมด
วิวที่เห็นก็ประมาณนี้ครับ
หันมาดูอีกด้าน จะเห็นว่ายังมีที่ว่างให้นั่งเล่นได้อีกเยอะเลย สภาพรวมๆของ Club House ที่นี่จะดูไม่อึดอัดเตรียมพื้นที่มาให้กว้างดีในแต่ละ ฟังก์ชั่น
จากที่นั่งเมื่อกี้จะเห็นวิวแบบนี้ครับ
หันไปดูบรรยากาศยูนิตรอบๆข้างบ้าง โซนที่อยู่ติดกับสวนราคาจะสูงกว่ายูนิตทั่วๆไปอยู่หน่อยนะครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะ และสนามเด็กเล่น
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 4 x 15 เมตร
- ศาลาพักผ่อนกลางสระน้ำ (ไม่ใช่สระว่ายน้ำ)
- Fitness วางเครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
- Club House 2 ชั้นสไตล์รีสอร์ท
- รั้วโครงการสูง 2.5 เมตร
- Key Card Access
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง 2 จุดบริเวณทางเข้าโครงการและตรงกลางโครงการ
Product Walkthrough
แบบบ้านของโครงการนี้มีอยู่แค่ 2 แบบเท่านั้นคือแบบ SH170 และ SH220 ซึ่งการวางผังภายในเกือบจะเหมือนกันเลย จะแตกต่างกันที่รายละเอียดนิดหน่อยแบบ SH220 จะมีห้องนอนเพิ่มขึ้นมา 1 ห้องและมีพื้นที่ห้องครัวใหญ่กว่า เป็นสัดส่วนมากกว่า
ผังบ้านชั้นล่าง ตัวบ้านออกแบบมาให้มีเหลี่ยมมุมยึกยักอยู่นิดหน่อย บริเวณห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร ควรคำนวนขนาดของโซฟาให้ดีเพราะถ้าใหญ่มากอาจจับใส่ช่องที่เค้าเตรียมมาให้ไม่ได้ ส่วนห้องทานอาหารก็จะมีช่องเว้าเอ้าไว้ทำตู้ Built-in เก็บของนิดๆหน่อยได้ ครัวที่ได้เป็นครัวเปิดถ้าใครอยากได้แบบปิดก็กั้นห้องเพิ่มได้ครับแต่จะวางเคาน์เตอร์แบบ Island เพิ่มไม่ได้เพราะพื้นที่จะเหลือไม่พอ
ผังชั้นบน จะมี 3 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พื้นที่ห้องนอนจะมีระเบียงรอบๆห้องและมีขนาดใหญ่มากด้วย ใครอยากปลูกต้นไม้ไว้รอบๆก็ทำได้เยอะเลยครับ ห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องมีขนาดไม่ใหญ่มากเหมาะกับการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตมากกว่า 5 ฟุต
มาดูบ้านตัวอย่างกันดีกว่าครับ รั้วรอบๆบ้านสูงประมาณ 1.5 เมตร วัสดุรั้วจะทำเป็นหินที่มี Texture ขรุขระ ประตูเป็นแบบบานเลื่อน และมีประตูบานเล็กกับช่องเก็บบนะมาให้ตามปรกติ
พื้นที่จอดรถสามารถได้ 2 คันกำลังดี เปิดประตูเบียดๆกันนิดหน่อย มีห้องเก็บของมาให้ด้วยขนาดใหญ่หำลังดี
รอบๆโรงจอดรถจะมีการโรยหินแม่น้ำตามร่องระบายน้ำมาให้ด้วย
ตัวลานซักล้างจะมีทั้งด้านข้างและด้านหลังของตัวบ้าน ปูกระเบื้องมาให้ด้วย
สวนที่เห็นของจริงจะมีให้มาน้อยกว่านี้พอสมควร อันนี้เป็นบ้านตัวอย่างเลยจัดเต็มเป็นธรรมดานะครับ
เดินวนกลับมาถึงหน้าบ้านเหงือออกนิดๆ เพราะวันที่ไปเยี่ยมชมโครงการนี่แดดแรงจริงๆครับ ไม่เชื่อลองดูเงาซิครับคมกริบเลย
ประตูเข้าบ้านเป็นไม้เนื้อแข็งทำสีคล้ายไม้มะค่า ซึ่งของจริงสีจะไม่เหมือนกับในรูปซะทีเดียว สีจะอ่อนกว่านิดหน่อยบริเวณกรอบประตู
กลอนเป็นแบบ มือจับก้านโยก รุ่นธรรมดามาตรฐานทั่วๆไป
โซนแรกที่เจอเป็นโซนห้องนั่งเล่นซึ่งสามารถวางโซฟาได้ใหญ่พอตัว ประมาณ 6 ที่นั่งได้
หันกลับมาดูทางเข้าบ้าง จะเห็นว่าระยะดูทีวีเหลือเฟือเลยเพราะกำแพงบ้านบริเวณนี้ถูกยื่นออกไปหน่อย และกำแพงสีฟ้าครามที่เห็นของจริงก็ไม่ได้ทามาให้นะครับ
ข้อดีของบ้านโครงการนี้อีกข้อนึงก็คือ หน้าต่างมีขนาดใหญ่มาก และประตูก็จัดมาเกือบเต็มความสูงฝ้าเพดานเลยช่วยให้บานดูโปร่งและกว้างมากขึ้น
ส่วนพื้นที่วางทีวีนั้นมีเหลือเฟือครับ ถ้าใครอยากแต่งให้พื้นที่บริเวณนี้ดูโล่งๆหน่อยก็ติดทีวีแบบแขวนก็ได้ครับ
ตำแหน่งของบันไดจะถูกวางอยู่ช่วงตรงกลางของตัวบ้านเลย ช่วงแรกของบันไดจะไม่มีราวจับมาให้ บ้านใครมีผู้สูงอายุควรระมัดระวังเวลาเดินขึ้นลง หรือถ้ามีงบอีกหน่อยก็เลือกบ้านแบบ SH220 จะดีกว่าเพราะมีห้องนอนอยู่ที่ชั้นล่างมาให้เลย
เข้ามาดูด้านโซนห้องทานอาหารบ้าง มีพื้นที่เหลือพอจะวางโต๊ะทานอารหารได้ถึง 8 ที่นั่งแต่วางแค่ 6 ที่นั่งจะดูสวยและลงตัวกว่า ตู้เก็บของที่เห็นด้านในสุดนั่นแหละครับคือตู้ที่ผมบอกว่าเค้าทำช่องมาเพื่อ Built-in โดยเฉพาะ แนะนำว่าตรงจุดนี้ทำแบบบ้านตัวอย่างจะดูเรียบร้อยและใช้งานง่าย
มาดูส่วนครัวกันบ้าง ส่วนครัวจะขายแบบไม่มีอะไรมาให้เลยยกเว้นงานระบบต่างๆ ดังนั้น Pantry ครัวที่เห็นอยู่นี้ของจริงไม่มีเลยนะครับ ส่วนประตูด้านซ้ายมือคือประตูที่ออกไปยังลานซักล้าง พื้นที่ครัวในบ้านตัวอย่างนั้นมีไม่มากแต่ถ้าใครชอบทำครัวแล้วอยากได้พื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มแนะนำให้ทำเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island เพิ่มได้ครับ ยังมีพื้นที่เหลือ แต่ถ้าทำแล้วการกั้นห้องครัวให้เป็นแบบครัวปิดจะทำไม่ได้เพราะเหลี่ยมมุมของกำแพงบ้านจะไม่ลงตัว
ตัวพื้นบ้านอยู่สูงกว่าลานซักล้างประมาณ 15 ซม. ฝนตกลมแรงน้ำไม่เข้าแน่นอน
กลับมาดูห้องน้ำกันต่อ ตัวห้องน้ำจะมีโซน Shower มาให้ด้วย
กระเบื้องที่เห็นของจริงก็ไม่ใช่แบบนี้เลยนะครับ จะเป็นกระเบื้องสีขาวธรรมดา แถมสุขภัณฑ์ก็ไม่ใช่แบบนี้ด้วย
ฝ้าเพดานเหนือโถสุขภัณฑ์จะถูกท้องบันไดทางขึ้นชั้นบนปูดออกมาพอสมควร
โซนอาบน้ำลดระดับพื้นมาให้ก็จริงแต่ระยะห่างยังถือว่าแคบไปหน่อยแถมไม่มี ฉากกระจกกั้นมาให้อีกเวลาอาบน้ำทีมีเปียกเลอะเทอะรอบๆแน่นอน
ตัวอ่างล่างหน้า ของจริงก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้ครับ ตู้ใต้อ่างจะเล็กกว่านี้และกระจกไม่มีการซ่อนไฟมาให้ แต่จะเป็นบางกระจกธรรมดา
ก่อนขึ้นชั้นบนขอรูปหันไปด้านหน้าอีกสักรูปครับ วัสดุพื้นชั้นล่างของจริงเป็นแกรนิตโต้นะครับไม่ใช่ Engineer Wood อย่างที่เห็น
บันไดของที่นี่ใช้ไม้ยางพาราประสานทำสีไม้ธรรมชาติ
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอโถงบันไดที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องน้ำอีก 1 ห้อง วัสดุพื้นชั้น 2 ทั้งหมดเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
ชานพักบันได้จะถูกทำเป็นบันไดไปในตัว แต่ยังดีที่ไม่ได้เป็นชานพัก 3 เหลี่ยม
ห้องนอนใหญ่จะประตูบานใหญ่มาให้ถึง 2 บานสำหรับรับแสงธรรมชาติและออกไปยังระเบียงด้านนอกได้
เตียงที่เห็นเป็นขนาด 6 ฟุตและยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือแบบสบายๆไม่อึดอัด
พื้นที่ด้านข้างเหลืออีกอื้อเลย ใครอยากได้ตู้เสื้อผ้าแล้วไปลดขนาดเตียงก็พอทำได้นะครับแต่พื้นที่ข้างเตียงจะเหลือน้อยหน่อย
หันมาดูด้านในสุดที่ทำเป็นตู้ Built-in จะเห็นว่าทำแบบ Built-in จะใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามากกว่า ส่วนชั้นวางทีวีก็วางได้ถึงขนาด 50″ เลย
อันนีถ่ายรูปโต๊ะเครื่องแป้งอบบพับได้มาให้ดูเป็น idea ในเรื่องการประหยัดพื้นที่
ระเบียงด้านนอกจะมีระดับพื้นที่ต่อกว่าประมาณ 10 ซม.และปูกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 ซม.
ตัวราวระเบียงเป็นปูนสลับกับเหล็กทาสีโทนน้ำตาล
พื้นที่ระเบียงอีกด้านของห้องนอน (ด้านหัวเตียง) จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือมากมาย ใครชอบปลูกต้นไม้คงชอบเพราะจัดได้อีกเยอะเลย
จากตรงนี้จะเห็นบ้านรอบๆกำลังสร้างอยู่พอดี
กลับเข้ามาดูห้องน้ำให้ห้องนอนใหญ่กันต่อนะครับ ตัวกระเบื้องยังคงเหมือนเดิมคือ ของจริงไม่ได้เป็นแบบนี้ ชุดสุขภัณฑ์จะเป็นของ Cotto ไม่ใช่ American Standard รุ่นที่เห็นอยู่นี้
แ แต่ที่นั่งตรงโซน Shower ยังคงมีมาให้ครับ
ห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องที่เหลือถูกตกแต่งเป็นห้องทำงานและห้องนั่งเล่น ห้องที่เห็นนี้ถูกตกแต่งแบบห้องทำงาน ย้ำอีกครั้งว่ากำแพงที่เห็นเป็นสีน้ำเงินเข้มของจริงก็ไม่มีให้เช่นกัน
ห้องนี้เป็นห้องที่ตรงกับห้องนอนใหญ่พอดี
ห้องนอนเล็กอีกห้องถูกจัดเป็นนั่งเล่นเอาไว้มาเฮฮากันในครอบครัวได้
ห้องนี้จัดที่นั่งเป็นแบบ Day Bed สามารถนั่งๆนอนๆได้สบายๆ
หน้าต่างเป็นบานเลื่อนเดี่ยวล๊อคกลางและไม่ได้เป็นบานเต็มความสูงแบบชั้นล่าง
สุดท้ายคือห้องน้ำตรงกลาง จะมีบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศมาให้ 1 บาน
ห้องนี้จะมีพื้นที่อาบน้ำเล็กกว่าห้องนอนใหญ่พอสมควร
พื้นจะลดระดับลงมาประมาณ 4 ซม.สำหรับโซนแห้งและลดระดับอีก 4 ซม. บริเวณโซนเปียก
บ้านแบบ SH220 จะมีห้องนอนเพิ่มขึ้นมา 1 ห้องและมีพื้นที่ด้านกว้างของตัวบ้านเพิ่มขึ้นมาก
การวางผังแบบนี้จะไม่ต่างกับแบบ SH170 มากแค่มีพื้นที่ห้องครัวเพิ่มขึ้นและห้องนอนเล็กอยู่ที่ชั้นล่าง แต่ที่จอดรถยังคงจอดได้แค่ 2 คัน
ผังชั้นบนห้องนอนเล็กมีพื้นที่เพิ่มขึ้นทั้ง 2 ห้องและห้องที่อยู่ด้านหน้าของตัวบ้านจะได้ระเบียงเพิ่มขึ้นมาด้วย
Price vs Performance
- SH170 พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ 50 ตร.วา ราคา 4.69 ล้านบาท
- SH170 พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ 50 ตร.วา ราคา 4.69 ล้านบาท
- SH170 พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ 50 ตร.วา ราคา 4.69 ล้านบาท
- SH220 พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ 55 ตร.วา ราคา 5.89 ล้านบาท
- SH220 พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ 55 ตร.วา ราคา 5.49 ล้านบาท
- SH220 พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ 55 ตร.วา ราคา 5.99 ล้านบาท
- SH220 พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ 55 ตร.วา ราคา 6,19 ล้านบาท
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 25,000 บาท (ชำระหลังจากวันจอง 15 วัน)
- ค่าส่วนกลาง 20 บาท/ตารางวา/เดือน (จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี)
- Promotion (ระยะเวลาโปรดสอบถามทางโครงการโดยตรง)
- Cash Back 30,000 บาท
- ฟรีค่าส่วนกลางล่วงหน้า 2 ปี
- ฟรีค่าประกันมิเตอร์น้ำและไฟฟ้า
- ฟรีจัดสวนแบบมาตรฐาน
- ฟรีถังสำรองน้ำและปั๊มน้ำ
เจาะลึกรวบยอด
โครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างแปลกสักหน่อย คือตั้งอยู่บนถนนพัฒนาชนบท ที่วิ่งคู่ขนานไปกับเส้นมอเตอร์เวย์และการเข้าออกหลักจะใช้ ถนนลาดกระบัง เป็นหลัก ซึ่งสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่ว่างซะเป็นส่วนมาก ภายในซอยนี้จะเป็นโรงงานและอู่รถบัสกระจายตัวกันอยู่และมีหมู่บ้านอยู่เล็กน้อย ใกล้ๆโครงการก็จะมี Honda R&D Southeast Asia และ โรงเรียนพาณิชยาการเอเชียตั้งอยู่ สุดซอยนี้จะเป็นทางตันแต่ก็เหลือระยะห่างที่จะไปทะลุ ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ อีกไม่มากประมาณ 500 เมตร แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะตัดถนนเรียบร้อย บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาก
เรื่องอาหารการกินในระยะใกล้ต้องบอกว่าค่อนข้างลำบากพอสมควร สำหรับคนที่ต้องการหาของกินนอกบ้านในระยะใกล้ต้องขอบอกว่ามีตัวเลือกน้อยมากๆ ถ้าจะเทียบกับบ้านที่อยู่บนเส้นลาดกระบังแล้วค่อนข้างแตกต่างกันมาก ความคึกคักมีน้อยกว่าทำให้ร้านค้าต่างๆก็น้อยตามไปด้วย ร้านอาหารที่พอจะพึ่งพิงได้ก็มีอยู่ไม่กี่ร้านประมาณ 3 ร้านเท่านั้น ส่วนใหญ่คงต้องเน้นทำอาหารเอง แหล่งอาหารการกินที่มีให้เลือกเยอะหน่อยคงต้องไปพึ่งพิงเส้นลาดกระบังเป็นหลัก ที่มีร้านค้าน้อยใหญ่มากมายและมี Community Mall ชื่อ The Paseo Mall ตั้งอยู่ด้วย แต่คาดว่าอนาคตพื้นที่นี้คงมีการพัฒนาไปอีกพอสมควรเพราะเริ่มมีการก่อสร้าง โรงงาน, หมู่บ้าน, และทาวน์เฮาส์ อยู่หลายโครงการ
การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าทำได้ไม่ลำบากมากถึงแม้ทำเลที่ตั้งจะอยู่ค่อนข้างลึกและการเข้า-ออกจะแปลกๆหน่อย ถ้าใครใช้ถนน พระราม 9 – มอเตอร์เวย์เป็นหลักจะสบายหน่อย เพราะจุดทางออกจากมอเตอร์เวย์มาถึงโครงการมีระยะประมาณ 1.9 กม. การเข้าเมืองก็ต้องใช้เส้นมอเตอร์เวย์เป็นหลักเพราะใกล้กว่าเส้นทางอื่นๆและทำความเร็วได้ดี หรือถ้าจะไปบางนาก็วิ่งออก ร่มเกล้า มาเข้าลาดกระบังแล้วเข้าเส้นวงแหวนกาญจนภิเษกอีกที ส่วนสภาพถนนภายในซอยไม่ค่อยจะดีนักในช่วงนี้เพราะมีการก่อสร้างเยอะทำให้ถนนเป็นหลุมบ่อเกือบตลอดทาง ถ้าการก่อสร้างเสร็จแล้วมีการทำถนนใหม่ก็ถือว่าสะดวกขึ้นเยอะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นะครับ
แบบบ้านที่นี่มีให้เลือก 2 แบบคือแบบ SH170 และ SH 220 ตัวเลขของชื่อแบบก็คือ ขนาดของพื้นที่ใช้สอย ซึ่งการวางผังห้องและการออกแบบรูปร่างหน้าตาบ้านนั้นมีความคล้ายคลึงกันมาก ฟังก์ชั่นการใช้สอยมีมาให้ครบถ้วน สำหรับแบบ SH170 พื้นที่ห้องครัวจะมีขนาดเล็กแต่ก็่ยังพอมีพื้นที่ว่างระหว่างห้องครัวกับโต๊ะทานอาหารให้ทำเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island เพิ่มขึ้นมาได้ ถ้าใครชอบทำครัวและมีงบเพิ่มอีกสักหน่อยเลือกแบบ SH220 หลังใหญ่จะดีกว่าครับ เพราะจะได้ครัวแบบปิดด้วยช่วยลดเรื่องกลิ่นได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่ชอบปลูกต้นไม้บนระเบียงชั้น 2 คงชอบแบบของที่นี่เพราะจัดพื้นที่ระเบียงมาให้ใหญ่มากๆ แถมแบบ SH220 ทำพื้นระเบียงให้อยู่คนละระดับกับห้องนอนด้วย ส่วนถ้าใครไม่ชอบปลูกต้นไม้ก็อาจไม่ได้ใช้งานส่วนนี้มากนัก
วัสดุของโครงการนี้ให้มาแบบกลางๆ ได้วงกลบอลูมิเนียมสีขาว กระจกจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่เกือบเต็มความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลย พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องแผ่นเล็ก และน่าจะใส่ลูกเล่นกับกระเบื้องบ้าง ห้องน้ำจะได้ไม่ดูเรียบเกินไป โคมไฟแบบซาลาเปา บันไดไม้ยางพาราประสานทำสีธรรมชาติ สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto
สาธารณูปโภคของที่นี่ถือว่าเป็นจุดเด่นสุดแล้วสำหรับโครงการเพราะทำออกมาได้ดูน่าใช้งานและมีต้นไม้หนาแน่น (ส่วนนึงเป็นเพราะโครงการนี้สร้างมาหลายปีแล้วต้นไม้เลยโตกำลังดี) ได้บรรยากาศสไตล์รีสอร์ทไว้พักผ่อนสบายๆในวันหยุดได้ดี มีสนามหญ้าและสนามเด็กเล่นใหญ่พอประมาณ ถ้าใครมีลูกกำลังซนของชอบมากครับ ตัวอาคารมี 2 ชั้นโดยชั้นบนจะเป็น Fitness และมีโต๊ะพร้อมเก้าอี้ไว้นั่งพักผ่อน ด้านนึงของ Club House ถูกแปลงเป็นสระน้ำตื้นๆที่มีศาลายื่นเข้าไปในน้ำ เอาไว้นอนเล่นได้ ตรงจุดนี้ออกแบบมาสวยดีครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 4.7 – 6.2 ล้านบาท, 12 February 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – อยู่บนถนนร่มเกล้าและอยู่ในซอยย่อย เดินทางด้วยมอเตอร์เวย์ค่อนข้างสะดวก
- ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ. 2 จุดที่ด้านหน้าทางเข้าและตรงกลางของโครงการ, CCTV หน้าหมู่บ้าน
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.25/10 – แบบบ้านจัดวางได้ลงตัวดี และมีบางมุมที่ควรทำเฟอร์นิเจอร์ Built-in จะลงตัวกว่า
- วัสดุ 7.0/10 – มาตรฐานของราคาระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.0/10 – พื้นที่สีเขียวมีมาให้ไม่เยอะ มีแค่บริเวณ Club House ให้เท่านั้นแต่ความหนาแน่นกำลังดีไม่สูงมาก
- สาธารณูปโภค 8.0/10 – มี Club House 2 ชั้นขนาดใหญ่ตกแต่ง สไตล์รีสอร์ท พร้อมสระว่ายน้ำและที่นั่งพักผ่อน Fitness ที่ชั้น 2
- 7.21 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการนี้เหมาะสำหรับคนที่หาบ้านเดี่ยวบริเวณลาดกระบัง-สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องการความสงบไม่ชอบความพลุกพล่านและชอบโครงการที่จำนวนยูนิตไม่เยอะ มีสมาชิกในครอบครัว 4-5 คนและมีงบประมาณ 4.69 – 6.2 ล้านบาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
(ﾉ´ヮ´)ﾉ*:･ﾟ✧
