Atoll Maldives Palms บางนา-วงแหวน บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดใกล้ Mega บางนา จาก อนันดาฯ [รีวิวฉบับที่ 454]

รีวิวฉบับที่ 454 … Atoll Maldives Palms (เอโทล มัลดีฟส์ ปาล์ม) บางนา-วงแหวนรอบนอก(ตะวันออก) เป็น 1 ใน 7 ของ Atoll Series ที่เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จากค่ายอนันดาฯที่ทำมาหลายปีแล้วและในช่วงปี 2013 นี้ก็ได้ทำการ Rebranding จากชื่อ Maldives Palm เฉยๆมาเป็น Atoll Maldives Palm โครงการนี้เป็นโครงการที่ที่มีจุดเด่นเรื่องทำเลที่อยู่ริมวงแหวน ใกล้ถนนบางนา-ตราด และ Mega บางนา โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ ヾ(＾-＾)ノ~♪

Fact @ 18 October 2013

• Atoll Maldives Palms (เอโทล มัลดีฟส์ ปาล์ม) บางนา-วงแหวนรอบนอก(ตะวันออก)
• Ananda Development Public Company Limited.
• Segment การตลาด 3.00-5.19 ล้านบาท
• เนื้อที่โครงการประมาณ 81 ไร่
• บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น 493 ยูนิต
• 3 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 1-2 ที่จอดรถ
• พื้นที่ใช้สอย 126 – 195 ตารางเมตร
• ที่ดินแปลงมาตรฐาน 35 – 60 ตารางวา
• ราคาเริ่มต้น 3.00 ล้านบาท
• http://www.ananda.co.th/atoll/Maldives_Palms/
• โทร : 02-316-2222

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.653848, 100.692753

แผนที่จากโครงการ (คลิ๊กที่นี่เพื่อดูแผนที่จาก Website โครงการ)

เส้นทางหลักๆของโครงการจะใช้ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนบางนาตราด, พระราม 9 -มอเตอร์เวย์, และ อ่อนนุช เนื่องจากเส้นทางบริเวณรอบๆโครงการเป็นถนนใหญ่เพราะฉะนั้นใช้เส้นทางบริเวณนี้จะกลับรถทีต้องขับไกลหน่อยและรถบรรทุกที่ใช้เส้นทางนี้มีปริมาณหนาแน่นทีเดียว ทางเข้าโครงการจะอยู่บนถนนกาญจนาภิเษก ผมจะรีวิวเส้นทางหลัก 2 เส้นทางนะครับคือ  1.พระราม 9 – มอเตอร์เวย์ และ 2.บางนาตราด เรามาเริ่มกันที่ถนนพระราม9-มอเตอร์เวย์กันดีกว่า ที่ผมเลือกเส้นทางนี้เพราะต้องการชี้จุดทางออกที่ต้องระวังให้เห็นกันครับ

เริ่มต้นที่วิ่งมาสุดเส้น พระราม9 จะเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ให้ขับตรงต่อไปครับ

ขนาดถนนหลักมี 4 เลนและถนนคู่ขนานมี 2 เลนวิ่งสวนกัน รวมแล้วฝั่งนึงมี 6 เลนผิวการจราจรค่อนข้างดีครับไม่มีหลุมบ่อให้ต้องคอยหลบ

ขับมาเรื่อยๆจนเจอป้ายทางแยกไปบางนาให้ชิดซ้ายไว้ครับ

เมื่อเจอทางแยกด้านซ้ายมือให้ออกจากทางหลักแล้วชิดขวาไว้

ให้วิ่งตามป้ายบอกทางไปบางนา

เมื่อขึ้นสะพานข้ามแยกแล้วให้ชิดซ้ายใช้ทางออกไป ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง

ถึงทางแยกตรงนี้ต้องระวังนะครับถ้าออกไม่ทันต้องวิ่งไปกลับรถไกลมาก

เมื่อลงมาจากสะพานแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสุขาภิบาล 2 ก่อนเลี้ยวที่ทางแยกนี้ต้องระวังรถบนเส้นทางหลักเพราะ 3 แยกนี้ไม่มีสัญญาณไฟจราจร

บนถนนเส้นนี้กำลังมีการปรับปรุงพื้นผิวจราจรให้เป็นถนนคอนกรีต 4 เลน ถ้าทำเสร็จแล้วก็วิ่งกันสบายเลยส่วนใหญ่จะทำเสร็จไปแล้ว 2 เลนครับ

สุดถนนสุขาภิบาล 2 ให้เลี้ยวซ้าย

จุดกลับรถแรกจะเป็นการกลับรถเพื่อกลับไปถนนมอเตอร์เวย์ และ ถนนสุขุมวิท 77

ก่อนถึงโครงการ Atoll Maldives Palms จะเป็นโครงการAtoll Maldives Lanta

ถัดจากโครงการ Maldives Lanta จะเห็นที่กลับรถสำหรับเวลามาจากถนนบางนาตราด ลองสังเกตดูความเปียกของน้ำบนถนนจะเห็นได้ว่าค่อนข้างเปียกทีเดียว ย้ำอีกครั้งว่าห้ามรถสูงเกิน 1.8 เมตรที่กลับรถนี้นะครับเพราะระยะจะพอดีมาก

และแล้วเราก็มาถึงปากซอยหน้าโครงการ จากตรงนี้สามารถมองเห็นป้าย IKEA Mega Bangna ได้เลยครับ

เส้นทางที่ 2คือเส้นทางบางนาตราดผมขอใช้ข้อมูลจากโครงการAtoll Maldives Beach ที่คุณฝนได้ทำรีวิวไปแล้วนะครับ

เริ่มต้นจากหน้าเซ็นทรัลบางนา

ถัดมาอีกนิดจะเจอ BigC ครับ

เลยโรงพยาบาลไทยนครินทร์มาจะเจอทางแยกไปถนนศรีนครินทร์

SB design square บางนา

เมื่อเจอ Index living mallแล้วให้ชิดซ้ายเพื่อออกจากถนนหลัก

Tesco Lotus Extra จะอยู่ก่อนแยกไปถนนกาญจนาภิเษก

เมื่อเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางไป ถนน อ่อนนุช

ขับมาไม่ไกลจากแยกจะเจอทางกลับรถด้านขวาให้กลับรถเพื่อไปยังโครงการครับ

ก่อนที่เราจะเข้าไปในโครงการผมขอพูดถึงเส้นทางการไป Mega Bangnaสักเล็กน้อยนะครับ เริ่มจากหน้าโครงการให้เลี้ยวซ้ายจากหน้าโครงการจะเป็นจุดเริ่มต้นรถวิ่งทางเดียว(One Way)เพื่อเข้าสู่ถนนบางนาตราด

เมื่อเจอทางโค้งซ้ายแยกแล้วจะเห็นได้ว่ามีทางแยกด้านขวา เป็นเส้นทางสำหรับเข้าสู่ถนนบางนาตราดโดยไม่ต้องไปกลับรถ แต่เราไม่สามารถวิ่งข้ามเลนไปได้เนื่องจากเส้นแบ่งช่องจราจรเป็นขาวทึบ และการจะข้ามเลนไปด้านขวาสุดค่อนข้างอันตรายมาก เพราะรถที่วิ่งบนเส้นนี้ใช้ความเร็วค่อนข้างสูง

สถานที่ใกล้เคียง

• เซ็นทรัลบางนา
• Big C บางนา
• SB design square บางนา
• Index living mall
• Tesco Lotus Extra
• Mega Bangna
• Home Pro
• ไทวัสดุ

 

เจาะลึกโครงการ

จากผังของโครงการจะเห็นว่าเราต้องเขาซอยก่อนถึงจะเจอปากทางเข้าโครงการจริงๆที่มีป้อมยาม  ระยะทางจากปากซอยถึงทางเข้าโครงการประมาณ 250 เมตร พื้นที่โครงการมีทั้งหมดประมาณ 81 ไร่ 493 ยูนิตที่ดินด้านหน้าและหลังของโครงการถูขนาบด้วยคลองขนาดเล็ก

ผังแสดงพื้นที่ข้างเคียงครับ

ผังจากโครงการจะโชว์พื้นที่ขายเฟสใหม่นะครับเป็นสีเขียวแต่ตอนนี้เหลือแค่ประมาณ 60 ยูนิตนะครับ

ในซอยทางเข้าโครงการมีการปลูกต้นปาล์มหางกระรอกและไม้พุ่มดูสวยงามสบายตาดีครับ

ป้อมยามบริเวณทางเข้าโครงการมี CCTV และ Key card (มีเฉพาะ Maldives Palms) รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร

เข้าโครงการมาจะเจอสะพานข้ามคลองต้นตาลก่อนเลยครับ

ถนนทางเข้าโครงการกว้าง 18 เมตร ด้านซ้ายและขวาเป็นการก่อสร้างเฟสสุดท้ายของโครงการครับ

สุดทางตรงจะเป็นวงเวียนที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่ ถนนบริเวณนี้จะกว้าง 16 เมตร

เลี้ยวซ้ายมาจะเจอ Club House อยู่ด้านขวามือเลยครับปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่นมาก ระยะทางจากป้อมยามถึง Club House ประมาณ 240 เมตร

ลักษณะของ Club House และสระว่ายน้ำ จะเป็นการจำลองบรรยากาศให้เหมือนอยู่ทะเลมัลดีฟกันเลย โดยจุดเด่นของ Maldives ที่นำมาใช้คือลักษณะของหาดทรายมีความตื้นเป็นบริเวณกว้างและมีทางเดินไม้เชื่อมถึงกันในแต่ละศาลา ผมจะเริ่มพาชมจากปากทางเข้า Club House กันก่อนนะครับ วัสดุที่มักใช้ใน Club House จะเป็นวัสดุที่เห็นได้ตามสถานที่พักผ่อนที่เป็นทะเลเช่น กำแพงที่มีลักษณะขรุขระไม่เรียบ หรือ หลังคาแฝกเทียม

ถ้าเข้าจากด้านหน้า Club House เดินขึ้นบันไดมาจะเห็นสระว่ายน้ำเลยส่วนสำนักงานขายอยู่ด้านขวามือ รูปนี้ถ่ายจากด้านสระว่ายน้ำหันออกนะครับ

ด้านหน้าสำนักงานถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ประตูทางเข้าสำนักงานเป็นประตูกระจกกรอบไม้ขนาดใหญ่โตมโหฬาร

การตกแต่งบริเวณโถงทางเข้า

มีที่นั่งพักผ่อนอีกด้านของสำนักงานติดกับสระน้ำ

ลักษณะเก้าอี้และโต๊ะสำหรับนั่งพักผ่อน

สระว่ายน้ำจะแบ่งเป็น 2 ส่วนส่วนแรกจะเป็นสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่ ลึก 1.1 เมตร และสระเด็กซึ่งมีความสูงประมาณ 50 เซนติเมตร

บริเวณสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่จะมีศาลาที่ทำเป็น Day Bed ให้นอนเล่นได้

อีกฝั่งของสระลักษณะจะเป็นเหมือนที่นอนอาบแดด

ด้านขวาจะมีการลงทรายจริงไว้ให้เด็กเล่น

ทางเดินที่ใช้ขอนไม้มาทำเป็นทางเดินฝังไปบนทราย

ทางเดินตรงกลางนำไปสู่ศาลากลางสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก

ศาลาตรงกลางจะมี 5 ศาลาด้วยกัน มีศาลาใหญ่อยู่ปลายสุด ตรงกลางเป็นแท่นหินน้ำพุ

เก้าอี้ในศาลาจะมี 2 แบบแบบแรกเป็น 3 ที่นั่ง 1 ตัว

มาดูเก้าอี้ใกล้ๆอีกนิด เฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาสวยงามเข้ากับบรรยากาศดี

แบบที่ 2 เป็น 1 ที่นั่ง 3 ตัวมีโต๊กลาง

ศาลาใหญ่สุดจะมีโต๊ะขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยทรายและเปลือกหอยตรงกลางศาลา

ทุกศาลาจะอยู่เหนือน้ำเอาไว้ให้นั่งที่พื้นแล้วขาแช่น้ำได้สบายๆ

ทางลงสระเด็กใช้ทรายล้างทำเป็นทางลาดให้เหมือนหาดทราย

ทางเดินรอบๆสระจะเป็นพื้นคอนกรีตขนาดไม่ใหญ่มากมีต้นไม้ปลูกตลอดทางเดิน บริเวณรอบๆสระจะปลูกต้นไม้ไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว

มีสนามเด็กเล่นอยู่ข้างๆสระเด็ก

ทางขึ้นชั้น 2 ของ Club House ซึ่งชั้น2จะเป็น Fitness และที่นั่งพักผ่อน

ห้องน้ำจะอยู่ติดกับทางขึ้นชั้น 2 ทางเข้าห้อน้ำตกแต่งด้วยแจกันทรงสูง

ทางเข้าห้องน้ำก็มีการออกแบบให้มีลักษณะเหมือนอยู่ชายทะเล

มีการตกแต่งด้วยโคมไฟที่มีลวดลายและลักษณะเหมือนปะการัง

เดินขึ้นมาจะเจอวิวจากชั้น 2 ไปยังสระน้ำ (เป็นรูป Panorama ครับ)

มุมสวยๆอีกสักรูปที่มองจากชั้น 2 มายังทางเดินไปสระน้ำ

ทางเดินบนชั้น2หน้าห้อง Fitness

ภายในห้อง Fitness อุปกรณ์อาจจะดูเก่าไปสักหน่อยแต่ทางโครงการกำลังจะเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชุดให้ทันสมัยมากขึ้น

เมื่อเดินขึ้นมาแล้วที่นั่งพักผ่อนจะอยู่ซ้ายมือมี 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นโซฟาสำหรับ 5 คน

ส่วนที่ 2 จะเป็นโซฟาสำหรับนั่ง 2 คน

หลังคาประดับด้วยโคมไฟและวัสดุทำหลังคาคือหลังคาแฝกเทียม

ก่อนเข้าไปดูบ้านตัวอย่างขอพาชมรอบๆโครงการก่อนนะครับ

ที่นี่มีรปภ.คอยขี่จักรยานดูแลรักษาความเรียบร้อย

เนื่องจากโครงการนี้เปิดตัวมานานแล้วทำให้ต้นไม้ที่นี่มีความหนาแน่นและอุดมสมบูรณ์ดี และลูกบ้านส่วนใหญ่ชอบต้นไม้เลยทำให้สภาพภายในโครงการน่าอยู่มากขึ้น มองไปทางไหนก็เห็นสีเขียวไปหมด

ถนนบริเวณบ้านพักกว้าง 8-9 เมตร

เฟสใหม่ที่อยู่ตรงข้าม Club House กำลังก่อสร้าง

สิ่งอำนวยความสะดวก

• สวนสาธารณะประมาณ 2 ไร่ หรือ 2.47% ของพื้นที่โครงการทั้งหมด
• Club House สไตล์รีสอร์ท
• สระว่ายน้ำเด็กแบบชายหาด
• สระว่ายน้ำผู้ใหญ่พร้อมศาลาพักผ่อน
• Fitness
• รั้วสูง 3 เมตร
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate
• ระบบ Key Card ที่ Main Gate

 

Product Walkthrough

แบบบ้านทั้งหมดมี 4 แบบแบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 แบบและบ้านแฝด 1

• แบบ D130 พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
• แบบ S140 พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
• แบบ S165 พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
• แบบ FaFuu พื้นที่ใช้สอย 195 ตร.ม. 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน

แบบบ้านตัวอย่างที่เราจะไปดูกันคือแบบ S140 และ S165 ที่เป็นบ้านเปล่านะครับ ในรูปจะมีตอนฝนตกแทรกมาบ้างนะครับเป็นรีวิวแบบชุ่มช่ำเลย เรามาเริ่มกันที่แบบ S165ก่อน

แปลนชั้นล่าง

แปลนชั้นบน

ทางเข้าบ้านจะมี 3 ทางคือเข้าทางหน้าบ้านกับเข้าทางที่จอดรถส่วนทางเข้าอีกทางจะเป็นทางเข้าจากสวนข้างบ้าน ตอนฝนตกเข้าทางหน้าบ้านอาจจะเปียกนิดหน่อยเข้าทางที่จอดรถจะสะดวกกว่า

ส่วนแรกของบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับทำห้องนั่งเล่นวัสดุเป็นพื้นประเบื้อง Campana ขนาด 16″ x 16″

ถัดมาโซนนี้จะเป็นห้องทานอาหารซึ่งจะติดกับครัว

หน้าต่างและประตูของโครงการนี้จะมีขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นพื้นที่รอบๆบ้าน ประตูสำหรับออกไปยังสวนข้างบ้านมีขนาด 2.2 เมตรสูง 2.1 เมตรเป็นบานกระจกเลื่อนสลับกรอบอลูมีเนียม ถ้าใครชอบปลูกต้นไม้รับรองได้ว่าชื่นใจแน่นอนครับ

กลอนหน้าต่างจะเป็นแบบในรูปเลยครับ ล็อคจากตรงกลาง

 

กลอนประตูจะเป็นคนละแบบ

ประตูทางเข้าห้องครัวเป็นบานเลื่อนกระจกกรอบอลูมีเนียม

กลอนจะเป็นอีกแบบ

ห้องครัวจะดูเล็กไปหน่อยสำหรับใช้งานจริง รูปนี้ถ่ายจากลานซักล้าง

ประตูออกจากห้องครัวจะเจอลานซักล้างขนาด 1.7 x 2.4 เมตร

ถ้าใช้ทางเข้าจากที่จอดรถจะเจอบันได้ทางขึ้นชั้น 2

และมีห้องน้ำอยู่ขวามือซึ่งมีฝักบัวสำหรับอาบน้ำแต่ไม่มีกระจกแบ่งโซนเปียก-แห้งให้

มีที่วางสบู่ให้ 1 อัน ชุดฝักบัวใช้ของ PREMA

ชุดสุขภัณฑ์ใช้ของ COTTO

ชุดอ่างล้างหน้าใช้ของ COTTO เช่นกัน มีกระจกให้ 1 บานขนาดพอเหมาะและมีตู้เก็บของใต้อ่างให้ 1 ช่องแบบไม่มีบานประตู

ตัวก๊อกใช้ของ PREMA

ช่องแสงสำหรับระบายอากาศ และไม่มีพัดลมดูดอากาศ

พื้นห้องน้ำวัสดุเป็นของ Campana สีเทาขนาด 8′ x 8″

บันไดทางขึ้นชั้น 2 วัสดุลูกนอนของบันไดจะเป็นไม้เต็งทำสีให้เข้ากับพื้นไม้ลามิเนตชั้น2 ลูกตั้งจะเป็นปูนฉาบเรียบทาสี มีชานพัก 1 ช่วง

มีสวิทช์ไฟ 2 ทางอยู่ตรงบันได สวิทช์ไฟทั้งหลังจะใช้ของ Bticino

ราวจับจะเป็นไม้เต็งทำสีกับโครงเหล็กทาสีขาว

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอโถงบันไดสามารถทำเป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงานก็ได้

จะมีหน้าต่างที่ชานพักบันได พื้นชั้น 2 ทั้งหมดจะเป็น พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.พร้อมบัวสำเร็จรูปสีเดียวกับพื้น

พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคของ Campana ขนาด 8″ x 8″ สีเทาราวระเบียงเป็นเหล็กทาสีน้ำตาลโกโก้ (ในรูปนี้สีราวบันไดจะเพี้ยนหน่อยนะครับ)

พื้นที่ระเบียงส่วนหนึ่งเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์มีประตูเหล็กสีขาวกั้น ใช้แม่เหล็กเป็นตัวยึดติดบานประตู

พื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 จะเชื่อมต่อกับห้องนอนอีก 3 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง

มาดูห้องนอนใหญ่กันดีกว่าครับห้องนอนใหญ่จะมีหน้าต่างแบบขนาดใหญ่มาให้เป็นบานเลื่อนบางส่วนและหน้าต่างอีกบานจะอยู่ตรงตะแกรงไว้ตกแต่งภายนอกของบ้านพอดี

อีกด้านของห้องนอนจะมีบานกระทุ้ง 2 บานหากจะวางเตียงตำแหน่งของหัวเตียงติดกับกำแพงนี้จะดูลงตัวพอดี

เต้าเสียบปลั๊กไฟ, ปลั๊กโทรทัศน์ และ ปลั๊กโทรศัพท์ ทั้งหมดจะอยู่ติดๆกัน ตำแหน่งอยู่ด้านกำแพงทึบของห้อง

โคมไฟในห้องมีให้ 2 ดวงอาจจะน้อยไปนิด

ห้องนอนใหญ่จะมีการกั้นพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet มาให้เลย

มีการทำไฟ Down Light มาให้พร้อม

ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวและจะมีแบ่งโซนเปียก-แห้งมาให้

โซนที่ไว้อาบน้ำจะมีแนวกำแพงกั้นให้นิดหน่อยและมีการลดระดับพื้นลงไปอีก

อีกฝั่งของห้องน้ำจะเป็นที่ว่างของขนาดใหญ่ทำด้วยหินแกรนิตสามารถนั่งได้เลย

โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto

ชุดอ่างล้างหน้าจะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล้างวัสดุเดียวกันเป๊ะ

ห้องนอนเล็กห้องแรกจะมีหน้าต่างบานเลื่อน 2 บานและบานกระทุ้งอีก 1 บาน

กระจกบานเลื่อนจะมีขนาดใหญ่กว่า บานกระทุ้ง

ห้องนอนอีกห้องจะมีหน้าต่าง 3 บานเป็นบานเลื่อน 1 บานและบานกระทุ้ง 2 บาน

ประตูที่เป็นบานเปิดในบ้านนี้จะมีลักษณะแบบเดียวกันหมด

รวมถึงกันชนประตูด้วย

ห้องน้ำส่วนกลางของชั้น 2 มีขนาดเท่าๆกันกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

สุขภัณฑ์ใช้แบบเดียวกันหมด

พื้นจะมีการลดระดับลงมา 2 ครั้งโซนแห้ง 1 ครั้งโซนเปียก 1 ครั้ง

ก่อนไปบ้านแบบ S140 แถมรูปลักษณะภายนอกจากด้านข้างให้นะครับ

บ้านแบบ S140 จะมีลักษณะคล้ายกันกับ S165 เลยต่างกันแค่พื้นที่ใช้สอยและการแบ่งห้อง

แปลนชั้นล่าง

แปลนชั้นบน

บ้านแบบนี้จะไม่มีทางเข้าจากที่จอดรถทะให้เวลาฝนตกก็จะเปียกพอควร

มุมทางเข้าหน้าบ้าน

ที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน

ห้องเก็บของภายในโรงจอดรถ

ทางเดินไปยังบริเวณหลังบ้าน

ด้านหน้าสามารถตกแต่งให้เป็นห้องรับแขกได้

และด้านหลังของบ้านเป็นโซนทานอาหาร

ห้องครัวจะอยู่หลังสุดของบ้าน เวลาซื้อของมาทำกับข้าวจะต้องเดินผ่านหน้าบ้านเข้ามา หรือถ้าจะเข้าประตูหลังก็ได้แต่คงไม่สะดวกนัก

ทางออกไปยังลานซักล้าง

บริเวณด้านหลังของบ้าน

ห้องน้ำชั้นล่างจะมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วย

ชุดโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าจะเหมือนกับบ้านแบบ S165 เลย

บันไดทางขึ้นชั้น 2 มีขนาดเล็กมากประมาณ 80 เซนติเมตรการเฟอร์นิเจอร์ของชิ้นใหญ่อาจจะลำบากสักหน่อย

บันไดจะไม่มีชานพักเหมือน แบบ S165 แต่มีหน้าต่างให้เหมือนกัน

 

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอทางแยกไปห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง

ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจะมีหน้าต่างและขนาดห้องเหมือนกันเพียงแต่ตำแหน่งจะอยู่คนละด้านของบ้านเท่านั้น

 

มีหน้าต่างทั้งหมด 3 บานแบบเลื่อน 1 บาทซึ่งไม่ใหญ่เหมือนแบบ S165 ที่ยาวมาถึงพื้นและมีบานกระทุ้ง 2 บาน

มุมจากในห้องไปยังโถงบันได

 

ทางเข้าห้องน้ำชั้นบนจะเข้าได้ 2 ทางคือเข้าจากห้องนอนใหญ่และโถงกลางชั้น 2

 

ห้องน้ำชั้น 2 จะมีแนวกำแพงแบ่งโซนเปียก-แห้งไว้ให้ (รูปนี้จะดูเลอะเทอะนิดหน่อยเพราะช่างยังทำไม่เสร็จครับ)

โถสุขภัณฑ์ก็ใช้แบบเดียวกันของ Cotto

ชุดอ่างล้างหน้าก็เช่นกัน

 

ห้องนอนใหญ่จะมีพื้นที่ห้องส่วนนึงยื่นออกไปทำให้ห้องมีรูปทรงเป็นตัว L

 

มุมหน้าต่างบานใหญ่ด้านที่ติดระเบียงจะเป็นกระจกเชื่อมต่อกันทำให้มุมนี้ดูไม่แคบ

ระเบียงแบบนี้จะไม่มีโครงเหล็กกนสำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์มาให้

พื้นระเบียงจะมีการลดระดับลงจากห้องนอนประมาณ 10 เซนติเมตร

สรุปว่าบ้านแบบ S140 นั้นเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กเพราะพื้นที่ใช้สอยอาจไม่เพียงพอต่อจำนวนสมาชิกที่มีมากกว่า 4 คน

Price vs Performance

• แบบ Atoll D130 พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร 35 ตารางวา ราคาเฉลี่ย 3,490,000 บาท
• แบบ Atoll S140 พื้นที่ใช้สอย 140 ตารางเมตร 50 ตารางวา ราคาเฉลี่ย 4,390,000 บาท
• แบบ Atoll S165 พื้นที่ใช้สอย 165 ตารางเมตร 60 ตารางวา ราคาเฉลี่ย 4,990,000 บาท
• แบบ Atoll Faafu พื้นที่ใช้สอย 195 ตารางเมตร 60 ตารางวา ราคาเฉลี่ย 5,190,000 บาท

• จอง 20,000 บาท
• ที่ดินเพิ่ม-ลด ราคาตารางวาละ 42,000 บาท
• แปลงในทำเล พิเศษ คิดเพิ่ม 100,000-200,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 20 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี

เจาะลึกรวบยอด

Atoll Maldives Palms เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนวงแหวนรอบนอก(ตะวันออก)หรือจะเรียกว่า ถนนกาญจนาภิเษก ก็ได้และตำแหน่งที่ตั้งนั้นอยู่ใกล้กับถนนบางนา-ตราดมาก ทำให้การเดินทางที่ต้องผ่านเส้นบางนา-ตราดทำได้สะดวก หรือจะไปถนนมอเตอร์เวย์ ก็ทำได้แต่ต้องขับรถไกลซักหน่อย ความอุดมสมบูรณ์เรียกได้ว่าสะดวกสบายหากคุณเป็นคนชอบเดินห้างสรรพสินค้า เพราะบริเวณนี้เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าหรือ Community Mall ประเภทต่างๆไม่ว่าจะเป็น Mega Bangna, เซ็นทรัลบางนา, Big C, Tesco Lotus, Home Pro และอื่นๆ จะติดก็เรื่องที่ต้องกลับรถไกลและขากลับจากเส้นบางนาต้องไปกลับรถใต้สะพานข้ามคลอง บนถนนกาญจนาภิเษกก็จะลำบากนิดหน่อย ถ้าหน้าฝนบริเวณใต้สะพานที่ต้องกลับรถน้ำจะท่วมสูงประมาณ15ซม.คนใช้รถยนต์ขนาดเล็กก็จะมีเรื่องให้ตื่นเต้นมากขึ้นเวลากลับรถ อีกเรื่องนึงที่ลืมไม่ได้เลยคือถ้าคุณเป็นคนที่จำเป็นต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆโครงการนี้จะ เหมาะสำหรับคุณมากเพราะเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ10-15นาทีเท่านั้นเอง เรื่องเสียงเครื่องบินก็อยู่นอกแนว NEF30 พอดีๆและจากการเข้าเยี่ยมชมโครงการก็ไม่ได้ยินเสียงเครื่องบินแต่อย่างใด สงบร่มรื่นดี

แต่ในมุมกลับกันบนถนนเลียบวงแหวนนี้กลับไม่มีร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อใดๆ ไม่มีที่ให้จับจ่ายใช้สอยหาของกินของใช้ในระยะเดินเท้า ถ้าจะไปไหนมาไหนก็ต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนบุคคลเสมอนะครับ ซึ่งการเดินทางโดยใช้รถยนต์น่าจะเป็นทางเลือกแรกและเป็นทางเลือกหลักสำหรับผู้อาศัยโครงการนี้เลยก็ว่าได้ เพราะบริเวณหน้าโครงการไม่มีทั้งพี่วินหรือระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆให้เลือก นอกจากรถ Taxi ที่พอจะวิ่งผ่านมาบ้าง เน้นการใช้งานแบบโทรไปเรียกมารับมากกว่า

เส้นทางที่จะเข้ากรุงเทพชั้นในก็มีให้เลือกหลายทาง แต่ถ้าใช้เส้นพระราม 9 – มอเตอร์เวย์เพื่อเข้าโครงการควรระวังเรื่องเส้นทางการขับรถด้วย เพราะเมื่อออกจากมอเตอร์เวย์แล้วจะต้องชิดซ้ายใช้ทางออกถนนอ่อนนุช ถ้าออกไม่ทันนี้อ้อมไกลเลยครับ การจราจรบนถนนรอบๆโครงการจะเต็มไปด้วยรถสำหรับการขนส่งทั้งหลาย เช่นพวกรถสิบล้อ หกล้อ รถใหญ่จะวิ่งเยอะ เพราะถนนวงแหวนเป็นถนนสายหลักที่ใช้ในอุตสาหกรรม Logistics

คุณภาพวัสดุอยู่ในระดับใช้ได้แต่ให้มาน้อยไปนิด บ้านที่ให้เป็นบ้านเปล่าไม่มีทั้งเฟอร์นิเจอร์และ Built-in มาให้ งานปูนผู้รับเหมาทำได้เรียบร้อยดีแต่งานไม้ไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่ ซึ่งความเรียบร้อยดังกล่าวเราก็ต้องว่ากันเป็นหลังๆไป จะเหมารวมทุกอย่างก็คงจะไม่ได้ เพราะช่างและผู้รับเหมาในแต่ละหลังก็ไม่ได้ใช้ชุดเดียวกัน แม้ว่าจะมี QC แล้ว เราก็ควรที่จะตรวจสอบโดยละเอียดอีกทีหนึ่ง

การออกแบบบ้านในโครงการนี้จะเน้นไปที่ครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง สมาชิก 3-4 คนสำหรับบ้านแบบ 3 ห้องนอน และ 5-6 คนสำหรับ บ้านแบบ 5 ห้องนอน รูปลักษณ์ภายนอกนั้นเน้น Style บ้านพักต่างอากาศผสมแนว Modern นิดหน่อย เน้นหน้าต่างที่ใหญ่เพื่อให้เห็นธรรมชาตินอกบ้านได้ดีขึ้น เพราะฉะนั้นควรปลูกต้นไม้ให้หนาแน่นพอควร แต่ก็มีรายละเอียดบางจุดยังไม่ดีพอเช่น บันไดทางขึ้นชั้น 2 ค่อนข้างแคบ, แบบบ้าน S140 เห็นท้องบันไดจากในห้องน้ำชั้นล่าง, ห้องครัวอาจเล็กไปเมื่อใช้งานจริง, บ้านแบบD130 และ S140 ถ้าฝนตกจะมีปัญหาเปียกฝนเวลาเข้าบ้าน

สาธารณูปโภคน่าจะเป็นจุดขายสำหรับโครงการนี้เพราะลงทุนสร้างบรรยากาศของพื้นที่และอาคารส่วนกลางให้เหมือนได้พักผ่อนอยู่ตามชายทะเล มีการทำพื้นที่ที่ใช้ทรายจริงและสร้างศาลาอยู่กลางสระเด็กไว้ให้นั่งเล่นเพลินๆ หรือจะนอนที่ศาลาข้างสระว่ายน้ำที่ออกแบบมาให้บรรยากาศเป็นแนว Spa เลยก็ได้ ถนนภายในโครงการกว้างกำลังดีขับรถสวนกันได้สบายๆ ด้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดดีมีการตรวจท้ายรถทั้งเข้าและออกจากโครงการ

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 3 – 5 ล้านบาท, 18 October 2013

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ห้างหลายแห่ง แต่การเข้า-ออกบางเส้นทางต้องขับรถไกลไปหน่อย
• ความปลอดภัย 7.0/10 – Key card, CCTV, รั้วกั้นไม้กระดก และ รปภ.หน้าหมู่บ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 6.75/10 – แบบธรรมดา รายละเอียดยังไม่ดีพอ
• วัสดุ 7.0/10 – มาตรฐานของระดับนี้แต่ให้น้อยไปหน่อย
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.0/10 – โครงการใหญ่ มีพื้นที่สีเขียวพอสมควร
• สาธารณูปโภค 9/10 – บริเวณสระว่ายน้ำสายงามและตัวอาคารมีรายละเอียดที่ดีเหมือนได้ไปเที่ยวทะเลจริงๆ
• 7.76 / 10.00

BOTTOM LINE

Atoll Maldives Palms เป็นโครงการสำหรับคนที่ทำงานอยู่บริเวณบางนาหรือบนเส้นบางนาตราดแล้วต้องการพักผ่อนอยู่กับบ้านเป็นหลักชอบปลูกต้นไม้ เริ่มต้นสร้างครอบครัวหรือเป็นครอบครัวขนาดกลางมีสมาชิก 5-8 คน ก็สามารถเลือกบ้านหลังใหญ่ได้

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

(ﾉ´ヮ´)ﾉ*:･ﾟ✧